อู้ครับ
เทรนด์เสื้อแฟน
ผมหรี่ตาจ้องไอ้ประโยคสั้นๆ มาได้เกือบนาทีกว่าแล้วครับ ตอนแรกก็งงนะ แค่ใส่เสื้อแฟนจะมาทำให้เป็นเทรนด์ไปเพื่ออะไรวะวัยรุ่น พอคลิกเข้าไปดูก็เป็นรูปคู่รักชาวเกาหลีชายหญิงที่แต่งตัวเข้าคู่กัน แต่ผู้หญิงดูจะใส่เสื้อโอเวอร์ไซซ์ไปนิดหน่อย
...โอเค ไม่นิดหน่อย คือดูก็รู้ว่าเอาเสื้อไอ้ผู้ชายมาใส่
แต่แล้วไงวะ มันน่าเป็นเทรนด์ตรงไหน ทีเพื่อนพวกเพื่อนผู้หญิงผมเป็นคนแต่ยังเอาเสื้อหมาตัวเล็กๆมาใส่ได้เลย
“พี่หมอไปสยามกัน อยากกินชาไข่มุกที่มันดังๆอ่ะ” ผมย้ายสายตาจากมือถือไปที่ไอ้ลูกหมาที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ มันใส่บอกเซอร์ตัวจิ๋วเดินไปมา เห็นขาน้อยๆมันเดินไปเดินมาแล้วก็ได้แต่ผิวปาก เล็กจนมันน่าจับวางบนไหล่จังวะ
“เอาดิ”
เอาดิ เอา เอาดิ เอา!!!
...ครับ
ไม่ได้หมายถึงชาไข่มุกอะไรนั่นหรอก
ผมลุกขึ้นนั่งพร้อมกับจ้องสะโพกเล็ก ซึ่งไอ้อู้ก็ไม่รู้ตัวหรอกครับ มันมัวแต่วุ่นอยู่กับการเซทผมตัวเองหน้ากระจก ขอบอกนะครับ ว่าก้นไอ้อู้เนี่ยโคตรน่ารัก ตัวมันถึงจะเล็กแต่สิ่งที่แน่นมีอยู่สองที่คือแก้มหน้ากับแก้มก้น ว่าแล้วก็ยกมือขึ้นเตรียมบีบเหยื่อตรงหน้า
“พี่ว่าไง...” ตูดกลมหันหนีกลายเป็นไอ้อู้หันหน้ามา มันก้มมองมือผมก่อนจะขมวดคิ้ว “...ทำมืออะไรของพี่วะ”
“เปล่า กูบริหารมือ”
“เนี่ย แก่แล้วก็งี้” แก่กว่ามึงแค่สองปีไอ้เวร ไอ้ตัวดีหันหัวกลับไปจับๆผมตัวเอง ไม่รู้จะพยายามหล่อไปเพื่ออะไร คิดแล้วก็หงุดหงิดงุ่นงาน หึงโว้ยหึง จินตนาการถึงใครมามองหน้ามันก็หึงแล้ว พนักงานก็หึง หึงคนทั้งโลกแล้วเนี่ย เหนื่อยจะตายห่าแล้วไอ้ลูกหมา
“ไอ้อู้”
“หือ?”
“อยากบีบตูดมึงว่ะ”
“พี่หมอ อย่าเหี้ย” ไม่มาแค่คำด่าแต่หันมาชูนิ้วกลางใส่ด้วย ผมมองตูดกลมดุ๊กดิ๊กสุดท้ายก็ได้แต่ถอนหายใจ
แล้วพุ่งมือไปบีบสุดแรง!!!!
ป้าป!!
“สัดดดดด ไอ้เหี้ยพี่” มือเล็กฟาดมาบนหัวผมสุดแรงจนหัวโยกแต่แล้วไง คุ้มค่ากับการบีบตูด ไอ้ก้อนนุ่มๆที่แม่งบีบเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอจริงๆ บรรลุการจับตูดผมก็ยืดตัวขึ้น
“ไปสยามทีไรพยายามทำตัวหล่อตลอดเลยนะมึงเนี่ย”
“เอ้า ก็ต้องหล่อนิดนึงป่ะวะ”
ผมยกคิ้วจ้องหน้าไอ้อู้ผ่านกระจก ไอ้หน้าแป้นของอู้เปลี่ยนไปเยอะมากจากตอนปีหนึ่งที่เจอกัน จากเด็กกะโปโลปปากหมาสู่การเป็นไอ้ตัวน่ารัก ไอ่ห่า หลงแฟนกว่าใครก็กูเนี่ยแหล่ะ หลงจนเพื่อนแซว แต่ถึงมันจะดูน่ารักขึ้นขนาดไหนแต่สกิลปากหมาคือเท่าเดิม กวนตีนเหมือนเดิมแล้วก็ดื้อเหมือนเดิม ปากเล็กๆที่ผมชอบบี้นักบี้หนานี่ชวนทะเลาะเก่งชิบหายจนอยากจะให้รางวัล
“หล่อไปให้ใครมอง” ผมยกมือขึ้นกอดมัน ทั้งๆที่มันยังคงวุ่นอยู่กับการตัดสินใจว่าจะปาดเอาหน้าม้าขึ้นหรือปล่อยตกเหมือนเดิม ผมไล้จมูกไปกับไหล่อู้ที่เลื้อยไปได้แค่นิดเดียวก็สุดทางเพราะระยะไหล่มันเล็กมากแบบต่ำกว่ามาตราฐานชายไปเยอะ
“หล่อเฉยๆไม่ได้หรอวะพี่”
“ไม่ได้”
“อย่าบีบนม ผมฟาดด้วยไดร์เป่าผมนะพี่” ไอ้ห่า รู้ดีฉิบหาย เลยต้องลดมือที่กำลังเลื่อนไปเนียนๆลงไปลูบเอวมันตามเดิม อาบน้ำเสร็จใหม่ๆนี่ผิวนุ่มเด้งมือจัง กลิ่นสบู่ตรานกแก้วธรรมดาทำไมอยู่บนตัวไอ้ลูกหมาแล้วมันหอมจังวะ
โอ๊ย!!!
ไม่ไปแม่งแล้วสยาม!!!
“อู้ครับ”
“ไม่”
“ไรวะ ยังไม่ทันพูดห่าไรเลย”
“พูดครับแบบนี้ทีไร ลามกตลอด ไม่เอา แก่แล้วหื่นกามจังวะพี่เนี่ย” มันยกมือขึ้นดันหัวผมออกจากไหล่ ผมเลยครางฮื่อฮ่าบ่งบอกว่าไม่ไป กูจะซุกอยู่แบบนี้จนกว่าจะลากมึงขึ้นเตียงได้สำเร็จ
“วันหยุดทั้งทีนะ”
“ไม่วันหยุดพี่ก็ลากผมขึ้นเตียงตลอด อย่ามาทำพูด ปล่อยเลยโว้ย”
“น้าอู้น้าาาาาาาาา” เพื่อความกระหาย งานอ้อนก็ต้องมา ผมมุดหัวถูไหล่มันไป ดูกระแดะมากๆแบบที่เพื่อนมาเห็นคงอ้วกแตก แต่แล้วไง!!! เพื่อตูดเมีย!!!
“ไม่คือไม่”
“อู้คร้าบบ”
“ไม่”
“อู้ววว”
“ไม่”
หางตกเลยกู...
ผมได้แต่นั่งคอตกอยู่ริมเตียง ไอ้เหี้ย โคตรเศร้า ทำไมชีวิตกูต้องมาอดอยากเพื่อให้ไอ้ลูกหมาได้กินชาไข่มุกด้วยวะ งงใจ เป็นพวกยอมแฟนไปตั้งแต่ก่อนไหนวะ ไม่เห็นรู้ตัวเลย ไอ้อู้เดินไปหยิบกางเกงขึ้นใส่พรางเปิดตู้หาเสื้อ จังหวะนั้นผมก็นึกถึงไอ้บทความในเฟสที่ไอ้โยแชร์เมื่อตอนเช้า
เทรนด์เสื้อแฟน
เชี่ย!!
“อู้ กูมีเรื่องจะต่อรอง”
“ว่า?”
“หนึ่ง กูจะลากมึงขึ้นเตียงตอนนี้แล้วผูกแขนมึงด้วยเนคไทด์กับหัวเตียง”
“...” มันรีบตั้งการ์ดใส่ผมทันที โถๆ มือสองข้างเท่าขากูข้างเดียวยังมีหน้ามาตั้งการ์ดสู้
“สอง ให้กูเลือกเสื้อให้มึงใส่”
“ห๊ะ?”
“เลือก”
.
.
.
เคๆ เกาหลี กูเข้าใจมึงแล้วก็ได้ กูยอมรับในความคิดมึงแล้ว
ผมได้แต่เดินยิ้มแป้นปากแทบแตะติ่งหูด้วยความอิ่มเอม มองไอ้ลูกหมาของผมใส่เสื้อยืดสกรีนว่าวิศวะกรรมเครื่องกลตัวใหญ่ แขนเสื้อที่ปกติผมใส่มันจะอยู่บริเวณต้นแขน พออู้ใส่แม่งตกไปยันศอก ไอ้ลูกหมาเดินฟึ่ดฟั่ดหน้างอ แบบที่มองมาจากยอดดอยยังรู้ว่าหงุดหงิด แต่แล้วไงโว้ย พอใส่เสื้อหลวมขนาดนี้ หน้าหล่อแค่ไหนมึงก็อย่าหวังเลยว่าสาวไหนจะมองมึง อ่ะๆ ยกเว้นสาวน้อยคนนั้นที่ถือปกนิยายชายรักชายในมือ
“พี่แม่งเหี้ย”
“ยังไม่ทันทำอะไรเลย” ผมเดินไปประชิดตัวไอ้หมาอารมณ์ไม่ดี
“แม่งงงงงง” ผมยิ้มใส่ไอ้หน้ามู่ทู่นั่นแล้วหนีบคอเสื้อที่ตกเกินไปขึ้น ข้อเสียอย่างหนึ่งของเสื้อตัวใหญ่คือเหมือนมันจะเห็นแนวคอเยอะขึ้นครับ แม่งก็น่ารักอยู่หรอกนะ แต่หวงว่ะ
อากาศที่แสนร้อนระอุทำอะไรไอ้คนที่อยากแดกชานมไข่มุกร้านดังขึ้นสมงไม่ได้ ไอ้อู้ก้าวฉับๆไปยังร้านที่หาโลเคชั่นมาอย่างมั่นใจ ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็พบกับ
“อ้าว อู้”
“อ้าว พี่โย”
กูว่าแล้วว่าทำไมหน้าร้านมีกลิ่นขี้หมา ผมได้แต่ทำหน้าเหม็นตีนใส่ไอ้คนตรงหน้า เวรเอ๊ย ควรบอกให้พนักงานเอาเกลือมาโรยหน้าร้านหน่อยแล้ว ทำไมปล่อยให้ไอ้เวรแบบนี้เข้าร้านมาได้
“พี่โย อันนี้ของพี่.. อ้าว!! อู้” เสียงเล็กดังขึ้นจากด้านหลังของไอ้ก้อนขี้ ปรากฏเป็นไอ้เด็กควายที่มันมีซัมธิงด้วยมาตั้งแต่ช่วงมหาลัย ผมหรี่ตามองเมื่อค้นพบความผิดปกติบนร่างกายไอ้เด็กนี่ อย่างแรกเลยไอ้เสื้อวิศวกรรมโลจิสติกส์ตัวใหญ่แบบที่ไม่ใช่เสื้อไอ้เด็กนี่แน่ๆ รู้เลยนะไอ้ห่า เอฟซีเกาหลีมาแบบกูเลย
“จำไม่เห็นได้ว่าไอ้เด็กนี่เรียนวิศวะ”
“จำไม่เห็นได้เหมือนกันว่าอู้เรียนเครื่องกล”
ผมจ้องตากับไอ้โย เหม็นขี้หน้าตั้งแต่ปีหนึ่งยันจบมหาลัย แสดงว่าหน้ามึงเหม็นกว่าขี้ควายแน่ๆ เตรียมจะได้แซะกันต่ออีกซักยก แต่ทันใดนั้นเสียงพนักงานชายก็ดังขึ้น
“คุณลูกค้าไม่เหมือนเรียนวิศวะกันเลยนะครับเนี่ย ดูหน้าตาน่ารักทั้งคู่เลย”
เหมือนเสียงกระดิ่งบนเวทีมวยดัง เป็นอันรู้ว่าพักยกตีกันเอง ตอนนี้ข้าศึกบุกมาจากทางอื่น ผมกับไอ้โยหันขวับกลับไปที่เคาท์เตอร์ทันที พร้อมกับหนีบคอเสื้อพวกมันทั้งคู่ขึ้นหลังจากที่คอเสื้อร่นกันทั้งคู่แล้วรีบส่งสายตาอาฆาตใส่ไอ้น้องพนักงาน เดี๋ยวเถอะมึง อ้อล้อเด็กกูเรอะ แล้วไอ้ตัวดีนี่ก็ไม่สนหินสนแดดอะไรเลยนอกไข่มุก เสื้อร่นจนตกไหล่แล้วโว้ย
อารมณ์ของไอ้อู้หายบูดไปได้ทันทีหลังกินชาไข่มุก มันเคี้ยวไข่มุกแก้มตุ่ยแล้วรีบบรรยายความหนึบให้ผมฟังแบบตื่นเต้น เห็นหน้ามันอารมณ์ดีผมก็อารมณ์ดีตาม แบบลืมไปเลยว่าเคยเหม็นขี้จากหน้าไอ้โยในร้าน ดูท่าทางมันจะประทับใจมากถึงขนาดที่ดูดไปยิ้มไปตลอดทางขับรถกลับคอนโด
พอถึงห้องมันก็ยังคงอารมณ์ดีฮัมเพลงพลางถอดกางเกงยีนส์ออกให้เหลือแค่บอกเซอร์แต่เพราะความใหญ่ของเสื้อผมมันเลยบังไปทั้งหมดจนเหลือแต่ขาขาวๆ
“ทำไมสายชาร์จมันชาร์จไม่ติดอีกแล้วอ่ะ” มันบ่นงุบงิบแล้วก้มลงขยับปลั๊กไฟ ส่งผลให้ตูดกลมงัดขึ้น เสื้อผมก็ย่นลงไปเปิดเห็นหลังขาวและเอวคอดเล็กๆ
อะฮึ่ม...
เครื่องติดมันเอาง่ายๆ!!!
ผมทิ้งกระเป๋าลงพื้นแบบไม่สนใจว่ะไรจะแตกจะพังแล้วรีบก้าวฉับๆไปประชิดก้นเล็กๆ ที่เจ้าของก้นก็ยังไม่ได้สนใจ มัวแต่ขยับปลั๊กไปมา มันมาสะดุ้งรู้ตัวก็ตอนที่ผมแนบเป้าเข้ากับก้นมันนั่นแหล่ะ ไอ้หน้าบูดถึงรีบหันกลับมาจ้องผม แต่ไอ้จากมุมที่ดีขนาดนี้ มึงอย่าหวังเลยว่าจะรอดไปจากเงื้อมือกูได้ หึหึหึหึหึหึหึหึ
“อู้ครับ”
-------------
เป็นซีรี่ส์ตัดเข้าโคมไฟอันที่สาม(และน่าจะยังมีต่ออีกเรื่อยๆ) 55555555555555555555
จริงๆถ้ามีโอกาสได้ออกเป็นเล่มน่าจะมีเนื้อหาต่อในทุกโคมไฟหรือหน้าต่างค่ะ แต่แค่เวอร์ชั่นนี้เป็นเวอร์ชั่นใสๆ หัวใจสี่ดวงงงงง ไร้มลทินนนนน มีแค่ความจังของพี่หมอ เป็นตอนพิเศษแบบเพิ่งคิดได้ก็เขียนขึ้นมาเฉยๆ
หวังว่าจะพอให้หายคิดถึงพี่หมอกับน้องอู้ได้นะคะ ไว้คราวหน้าจะเขียนแบบมีเดอะแก็งมาด้วยยยยยย