ข่ม ขืน ฝืน รัก
ตอนที่4
มินนั่งรอคุณหมอที่อ่านผลการตรวจของมินอย่างละเอียด มินขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นคุณหมออ่านนานเกินไป
“เอ่อ คุณหมอมีอะไรหรือเปล่าครับ” มินถามขึ้น
คุณหมอหันมาสบตากับมินพร้อมยิ้มน้อยๆ
“หลังจากการตรวจอย่าละเอียดอย่างที่พี่ชายของคุณบอกมา คุณแค่เป็นไข้หวัดธรรมดา ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง”
หมอพูดจบมินถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มนิดๆ เขาคิดว่าจะเป็นอะไรร้ายแรงซะอีก
“แต่ผลยังบอกอีกว่า คุณกำลังท้องได้เดือนกว่าๆแล้วครับ”
หมอพูดจบมินอ้าปากค้าง มินพยายามควบคุมเสียงตัวเองไม่ให้สั่น
“คุณหมอว่าไงนะครับ คุณหมอไม่ได้ตรวจผิดใช่ไหม”
“หมอตรวจดีแล้วครับ คุณกำลังท้องได้เดือนกว่าๆ” หมอยังยืนยันคำเดิม
มินเม้มริมฝีปากแน่น กำมือตัวเองที่หน้าตักอย่างครุ่นคิด มินหันไปมองที่ประตูห้องตรวจ ด้านนอกพี่มัตถ์กำลังรอเขาอยู่ ถ้าพี่มัตถ์รู้เรื่องพ่อก็ต้องรู้ เขาไม่มีวันจะให้พ่อรู้เด็ดขาดว่าเขาท้องอย่างที่พ่อเคยปรามาสไว้
“คนไข้จะให้ผมเชิญพี่ชายคุณ..”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมบอกเขาเอง ยังไงคุณหมอก็ไม่ต้องพูดอะไร เดี๋ยวผมพูดเองทุกอย่าง” มินรีบขัดทันที มินมองหน้าคุณหมอพร้อมยิ้มให้เบาๆ
“เรื่องน่ายินดีแบบนี้ผมอยากจะบอกเขาเองมากกว่า” มินพูดจบแล้วหลุบมองต่ำอย่างครุ่นคิดกำหมัดแน่น
“หมอว่าไงบ้างมิน” มัตถ์ถามน้องชายตัวเองขึ้นขณะที่ทั้งคู่กำลังรอยาที่ห้องรับยา
“หมอบอกว่ามินแค่เป็นหวัดธรรมดาครับ ไม่มีอะไร” มินตอบพร้อมยิ้มให้พี่ชายน้อยๆ แล้วทั้งสองคนก็เงียบไป
ไม่นานนักมินได้ยินเสียงเรียกชื่อตนเอง มินรีบเดินไปรับยาเพียงคนเดียว รับยามามินก็รีบเก็บยาในกระเป๋ากางเกงทันที
“มินได้ยาอะไรมาบ้าง ขอพี่ดูหน่อยสิ”
มัตถ์ถามขึ้นขณะที่ทั้งคู่นั่งบนรถกำลังจะเตรียมกลับบ้าน
“ไม่มีอะไรครับพี่มัตถ์ยาทั่วไปทั้งนั้น” มินตอบแล้วแกล้งปิดตาพักผ่อน
มัตถ์เห็นท่าทีของน้องชายก็ไม่ได้ซักอะไรต่อเพราะเขาคิดว่าน้องชายคงจะเหนื่อย
มินหรี่ตามองพี่ชายตนเองที่ขับรถออกจากโรงพยาบาลแล้วปิดตาเหมือนเดิม
เขาจะทำยังไงดี
เขาท้อง !! ท้องกับใคร!!
ก
ลับมาถึงบ้านมินรีบตรงขึ้นไปบนห้องไม่พูดคุยกับใคร มัตถ์ก็ไม่อยากจะซักอะไรต่อ ขับรถไปทำงานทันที เมื่อมินมาถึงห้อง เขานั่งบนเตียงขมวดคิ้วแล้วคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา
เขาโดนผู้ชายพวกนั้นข่มขืน ถ้านับจากเวลาตั้งครรภ์ต้องเป็นลูกของพวกมันหนึ่งในนั้นแน่ เพราะก่อนหน้าที่เขาจะมีอะไรกับคู่ขาคนไหนก็ป้องกันตัวเองตลอด
“ฉันควรทำไงดี” มินพูดกับตัวเองเบาๆแล้วมองไปด้านหน้าเห็นรูปแม่ของตัวเองกำลังยิ้มให้เขาอยู่
“มินควรทำยังไงดีครับแม่”
มินพูดจบแล้วรู้สึกร้อนที่กระบอกตา เขาฟุบหน้าลงไปกับหมอนแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเงียบๆ
ในเย็นของวันนั้นมินเลี่ยงที่จะมาทานอาหารเย็นกับคุณพ่อในด้านล่างโดยเขาอ้างว่าเขาอยากจะพักผ่อน แต่จริงๆแล้วเพราะเขายังไม่พร้อมจะเจอหน้าพ่อ พ่อที่คอยพูดว่าระวังท้องไม่มีพ่อ แล้วตอนนี้เขาก็ท้องโดยไม่รู้ว่าใครคือพ่อของเด็กจริงๆ
“ก็อกๆ”
มินชะงักปล่อยตัวเองออกจากความคิดแล้วลุกขึ้นไปเปิดประตู
“คุณพ่อ” มินอุทานออกมาเบาๆ
“ใช่ฉันเอง ขอเข้าไปหน่อยสิ”
มิ่งภพพูดจบมินเดินออกมานั่งที่โซฟา ไม่นานนักมิ่งภพก็ตามมานั่งข้างๆ
“หมอบอกว่ามินเป็นไงบ้าง” มิ่งภพพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงแต่ยังเข้มตามนิสัยคนพูด
“หมอบอกว่ามินไม่สบายธรรมดาครับ” มินพูดแล้วสบตากับพ่อ
มิ่งภพยกมือจะมาอังหน้าผากลูกชายแต่ลูกชายกลับผงะออกห่าง
“พ่อของจับดูหน่อยได้ไหมลูกว่าดีขึ้นหรือยัง”
พ่อพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงจนมินรู้สึกได้ ดวงตาของพ่อแม้จะดุแต่กลับมามีแววตาอ่อนโยนเหมือนเมื่อก่อน เหมือนตอนที่เขาเด็กๆ
“พ่อ..” มินครางออกมาแผ่วเบา เขารู้สึกภาพพ่อด้านหน้าเลือนรางไปเรื่อยๆเพราะม่านน้ำตา
“ร้องไห้ทำไม บอกพ่อสิ” มิ่งภพปาดน้ำตาที่ไหลมาให้ลูกเบาๆ เขารู้ว่าเขาเคยละเลยลูกชายคนเล็กไปในช่วงที่บริษัทเขากำลังมีปัญหา แต่เขาก็ไม่คิดว่าบาดแผลจะใหญ่ขึ้นขนาดนี้
“....”
มินยังไม่ตอบอะไรมิ่งภพเลยเข้าไปกอดลูกชายคนเล็กของเขาอย่างอ่อนโยน
“มินร้องทำไม บอกพ่อสิ”
มินไม่ตอบแต่กลับร้องไห้หนักยิ่งกว่าเดิม เขาปรารถนาสิ่งนี้มาตลอด อ้อมกอดจากพ่อเขา อ้อมกอดที่อบอุ่นพร้อมจะปกป้องเขาเสมอเหมือนที่ตอนที่เขายังเด็กๆ
มิ่งภพยินมองภาพตรงหน้า เขาเกลี่ยผมบนในหน้าผากลูกชายเบาๆ มินร้องไห้จนหลับไป ทำให้เขารู้สึกกระวนกระวายใจไม่น้อย มินเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมลูกไม่บอกเขา เขานั่งมองลูกชายคนเล็กที่เขาหวงนักหวงหนา ค่อยเฝ้าประคบประหงมตั้งแต่เด็ก ตอนนี้โตเป็นผู้ใหญ่แล้วแต่ในสายตาของเขาก็ยังเด็กเสมอ ยิ่งโตยิ่งหน้าเหมือนแม่ เขากลัว กลัวเหลือเกินว่าความลับของตระกูลเขาจะตกที่มิน และที่สำคัญคำทำนายของตระกูลเขากับอีกตระกูลนั้นจะเป็นจริงอย่างที่เคยทำนายในอดีตหรือเปล่า
“มึงจะไปไหนต่อมีน” นพถามมีนขึ้นมาขณะเลิกเรียน
“กูว่าจะไปทำธุระสักหน่อย ขอตัวนะ” มินพูดแค่นั้นแล้วรีบเดินผละไปทันที
ทำให้เพื่อนๆอีกสามคนงงๆกับท่าทีของมินไม่น้อย
มินเข้ามาในรถเปิดโทรศัพท์ตัวเองดูข้อมูลที่เขาหาไว้ในโทรศัพท์
“คลีนิกทำแท้ง”
มินขับรถมาตามจีพีเอสที่บอกเส้นทางมาเรื่อยๆ ระหว่างทางเขากำพวงมาลัยแน่น
มินรู้ว่าทำแท้งมันบาป แต่ตอนนี้เขาไม่พร้อมที่จะมีลูก ถ้าเขาพ่อจะรู้ว่าพ่อของเด็กในท้องเป็นใครก็ดีแต่นี่ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อของเด็ก อีกอย่างเขาไม่มีทางให้ใครต่อใครมาตราหน้าเขาได้ว่าท้องไม่มีพ่อ
มินจอดนิ่งหน้าคลินิกทำแท้ง มินรวบรวมแรงใจก่อนจะฮึดเปิดประตูออกไป เขาไม่ลืมจะใส่แว่นตาดำกันคนรู้จักมาเห็นแม้ว่าคลินิกทำแท้งแห่งนี้จะค่อนข้างอยู่นอกเมืองก็ตาม
“จองคิวไว้หรือเปล่าคะ” พนักงานที่เคาเตอร์ถามมินขึ้นมินพนักหน้าแล้วบอกชื่อไป
“นั่งรอตรงนี้สักครู่นะคะ”
มินพนักหน้ารับแล้วเดินมานั่งรอตรงที่นั่ง ระหว่างนั้นเขาได้ยินเสียงร้องออกมาจากด้านใน
“โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย !!!!!!!!!!!”
มินสะดุ้งทันทีที่ได้ยินเสียง เขากุมหน้าท้องตัวเองทันที มินรู้สึกเวียนหัวอย่างบอกไม่ถูก พยายามหันหาป้ายห้องน้ำ เขาเจอป้ายแล้วรีบเดินไปทันที
มินถอดแว่นตาแล้วล้างหน้ามองตัวเองในกระจก เขารู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก เขารู้กิตติศัพท์เรื่อวงทำแท้งมาบ้าง แม้ว่าเขาจะทำใจมาแล้วแต่พอมาเจอจริงๆกลับอดกลัวไม่ได้ มินลูบหน้าท้องตัวเองแล้วพูดกับเด็กในท้องเบาๆ
“แม่ขอโทษ”
มินพูดจบตัดสินใจเปิดประตูห้องน้ำออกไป เจอกับห้องตรงข้ามที่กำลังทำแท้งอยู่ลืมปิดประตู
ภาพที่เขาเห็นคือผู้หญิงคนหนึ่งกำลังอ้าขากว้างมีคุณหมอใส่ผ้าปิดจมูกไว้กำลังคีบเด็กอ่อนออกมาจากช่องคลอด ภาพบนเตียงแดงซ่านไปด้วยเลือดและสีหน้าของผู้หญิงคนนั้นซีดไม่ต่างจากศพ
ผู้หญิงคนนั้นหันมาสบตากับเขาและเบิกตาพร้อมเอื้อมมืออย่างขอความช่วยเหลือ มินตาโตมองภาพตรงหน้าถอยหลังไปชนประตูห้องน้ำ เขาตัวสั่นไปด้วยความกลัวและรู้สึกเหม็นกลิ่นคาวเลือดไปหมดชวนอ้วก
“ออกไปคะ เชิญไปนั่งที่ของคุณ” นางพยาบาลในชุดมิดชิดเดินมาไล่เขาไปนั่งที่เดิมพร้อมปิดประตู
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด !!!!”
เสียงกรี๊ดจากด้านในดังขึ้นอีกครั้งทำเอามินส่ายหน้าด้วยความกลัว เขารู้สึกเหงือเต็มหน้าไปหมด กลิ่นคาวเลือดยังติดที่จมูก มินตัดสินใจวิ่งออกจากคลินิกทำแท้งทันที
“อ๊วกกกกก”
มินอ้วกที่พุ่มไม้หน้าคลินิก เขานั่งลงไปกับพื้นอย่างหมดแรง ภาพเมื่อกี้ยังติดตาหาย
เขากลัว
มินกลัวจนตัวสั่นร้องไห้ออกมา
“อึก อึก ฮือออ”
มินเม้มปากพยายามไม่ให้มีเสียง เขาตัดสินใจลุกขึ้นยืนแล้วพยายามพยุงตัวเองไปนั่งบนรถ
มิบฟุบลงไปกับพวงมาลัย สายตามินเลือนลอยไปข้างหน้า เขาคิดถึงแม่ คิดถึงป้าแสง คิดถึงพี่ๆ คิดถึงพ่อ
“มินควรทำไงต่อดี”
มินขับรถกลับมาถึงบ้านในตอนค่ำ มินนั่งรวบรวมสมาธิก่อนที่จะเดินเข้าบ้านไป ระหว่างนั้นเขาเหลือบไปเห็นที่ห้งอรับแขก มีพ่อและพี่ชายของเขานั่งกันอยู่
“มินเข้ามานี้สิ” เสียงพ่อของเขาดังขึ้นมาทำให้มินเดินตามเข้าไป
เดินเข้าไปเขาเห็นผู้ชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อเขาแต่ยังดูดีอยู่มากพร้อมกับผู้ชายสองคนที่นั่งข้างกัน
“คิม คราม !!!”
_____________________________________________________________________________
มาต่อให้แล้วครับ ปั่นมาแบบด่วนจี๋
เนื้อเรื่องอาจจะไม่ง่ายอย่างที่คิดก็ได้นะครับ (สปอยด์ไรของคนเขียนเนี่ย)
มีไรติชมกันได้นะครับ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านลแะคอมเม้นต์นะคร้าบผม