Stay gold: 3
โชคชะตาช่างตลกนัก
เด็กชายไม่รู้ว่าหากวันนั้นไม่ตอบรับมารดาไป จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต
ทุกๆ การตัดสินใจ ไม่ว่าเล็กน้อยเพียงใด อาจมีผลกระทบเพียงเบาบางราวระลอกคลื่นกระทบชายฝั่งหรือกลายเป็นพายุใหญ่ เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง
การตัดสินใจเพียงเล็กน้อยของน้ำแกงในวันนั้น ก็ส่งผลให้เขานั่งอยู่บนรถกับมารดาในวันนี้
หลังจากตอบตกลงมารดา น้ำแกงก็เกือบลืมเรื่องไป'เรียนพิเศษ'ไปเลย เพราะฟงอวิ๋นต้องใช้เวลาพักฟื้นอีกหลายเดือน กว่าจะจำได้อีกครั้ง คุณนาถลดาก็เป็นคนเตือนให้เขารีดเสื้อเชิร์ตสำหรับไปเรียนพิเศษแล้ว
ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่บ้านสกุลเอ็งจะเห็นลูกชายคนสวยของคุณครู
น้ำแกงปิดเทอมแล้ว ควรจะคิดเรื่องเรียนต่อได้แล้ว เพราะฤดูร้อนหน้า เด็กชายก็จะต้องเรียนต่อชั้นมัธยมปลาย ซึ่งมารดาไม่ค่อยเป็นห่วงนัก เพราะโรงเรียนที่น้ำแกงอยู่มีชั้นมัธยมปลาย หรือถ้าลูกชายต้องการเรียนต่อโรงเรียนดังก็คงไม่ลำบากเท่าใด ทั้งบิดาและมารดาให้อิสระในการตัดสินใจเต็มที่
น้ำแกงยังลังเลอยู่ระหว่างจะเรียนต่อที่เดิมหรืออีกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ในระดับสูงกว่า แต่เพราะบุพการีทั้งสองไม่ได้เร่งเร้าอะไร ซ้ำยังบอกให้ค่อยๆ คิด เขาจึงไม่ได้เครียดนัก
บ้านของ 'พี่ฟงอวิ๋น' ใหญ่โตมาก มารดาพาเขาไปพบกับมารดาของลูกศิษย์ หลังจากแนะนำตัวและทักทายกันแล้ว น้ำแกงจึงสังเกตร่างอ้วนท้วนสูงใหญ่อย่างคนโหงวเฮ้งดีอย่างคุณนายจู ใบหน้าของนางกลมป้อม โหนกแก้มสูง ดวงตาเล็กหยี หน้าผากกว้าง จมูกกว้าง ท่าทางมีราศี 'คนรวย'
"อาน้ำแกงสวยกว่าในรูปอีกนะ" คุณนายยิ้มให้ ยิ่งทำให้ตาแคบลงไปอีก น้ำแกงสะดุ้ง ยิ้มรับแหยๆ คุณนายจึงชวนคุย
"มานี่สิลูก ตัวเล็กจังเลย... บ้านนี้ตัวใหญ่กันหมดทุกคนนะ ทางอาป๊าแกมีเชื้อสายพวกมองโกล"
น้ำแกงยืนเหนียมๆ ให้คุณนายดูตั้งแต่หัวจรดเท้า คล้ายแม่ผัวสังเกตลูกสะใภ้ชอบกล
"น้ำแกงแกตัวเล็กตั้งแต่เกิดแล้วน่ะค่ะ" คุณแม่ตอบแทน
คุณนายจูจุ๊ปาก "สวยจริงๆ นะคะเหล่าซือ หน้าก็คม จมูกก็โด่ง ตาก็ไม่เหมือนคนไทยเลย"
คุณแม่แค่ยิ้มๆ "แล้วนี่จะเริ่มเรียนกันกี่โมงคะ ?"
"อ้อ ใช่ๆ" คุณนายตบมือฉาด แล้วจับจูงมือน้ำแกงอย่างสนิทสนม "ติวเตอร์มาแล้วล่ะค่ะ แกมาตั้งแต่เก้าโมงครึ่ง... ไม่ต้องห่วงนะคะอาเหล่าซือ มื้อเที่ยงก็ให้อาน้ำแกงกินที่นี่ก็แล้วกัน ตอนเย็นทางนี้จะไปส่งค่ะ"
"เอ่อ ได้ค่ะ ต้องรบกวนคุณนายแล้วนะคะ"
"ทางนี้ต่างหากค่ะ" นางฉีกยิ้มอวดฟันปลอมขาวสะอาด แล้วผงกศีรษะให้คุณครู "ขอบคุณนะคะที่พาอาน้ำแกงมา"
แม่กลับไปแล้ว น้ำแกงถูกจับจูงไปยังชั้นสองของบ้าน ด้านปีกตะวันตก คุณนายเป็นคนคุยเก่ง ยิ่งเจอเด็กน้อยหน้าตาน่ารักสะสวยแบบนี้ ยิ่งถูกใจเข้าไปใหญ่
"อาน้ำแกงไม่ต้องห่วงนะ เฮียฟงเค้าอาการดีขึ้นแล้ว"
"เอ่อ..." ตลอดทางมา คุณนายผูกขาดบทสนทนาคนเดียวเลย น้ำแกงที่เด็กกว่าและถูกสอนมาอย่างดีจึงหาจังหวะแทรกไม่ได้
"แต่ม๊าจะให้เปิดประตูทิ้งไว้ มีคนรับใช้เฝ้าด้วย เผื่อว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น..."
"เอ้อ... แล้วอาน้ำแกงนี่ได้ใครมา ? ได้คุณพ่อมาเยอะเหรอ ? ไม่ค่อยคล้ายแม่เลยนะ"
"ดูสิ... โหงวเฮ้งดี เป็นนักปราชญ์ ผู้มีปัญญา ตาก็คม ผิวก็สวย ท่าทางก็ฉลาด"
"จริงสิลูก เที่ยงนี้กินอะไรดี ? อาฟงแกชอบอาหารจีน น้ำแกงกินได้ไหม ? หม่ายนา... ม๊าจะเตรียมอาหารไว้สองชุดนะลูก เผื่อแกงไม่ชอบอาหารจีน"
"เอ่อ... ขอบคุณครับ... คุณป้า" กว่าจะเว้นวรรคได้ น้ำแกงยกมือไหว้ขอบคุณ คุณนายโบกไม้โบกมือ
"เรียกอาม๊าเหมือนฟงเถอะ" ยิ่งดูยิ่งถูกชะตา... ท่าทางนอบน้อม สง่างามเหมือนลูกผู้ดีทุกระเบียบนิ้ว ทั้งวิธีการพูดการจา น้ำเสียงก็อ่อนโยน หน้าตาก็ยิ่งสวย ผิวก็เป็นสีน้ำผึ้งนวลเนียน ไม่มีอะไรให้ขัดตาแม้แต่น้อย
"ครับ อาม๊า" เป็นเด็กดีอีกด้วย ไม่เหมือนพวกเด็กสมัยนี้ที่ถูกตามใจจนเหลิง เออ จะว่าไปก็ลูกหล่อนเองนี่นา
คุณนายหัวเราะอย่างพึงพอใจ นัยน์ตาหรี่ลงเล็กน้อย... จะดีกว่านี้ถ้าเป็นผู้หญิง จะได้จับคู่ให้กับอาฟงเสียเลย... คุณนายผ่านโลกมามาก ทำไมจะไม่เห็นแววตาระริกระรี้ของลูกชายยามพูดถึงลูกชายคนงามของอาเหล่าซือเล่า
ถึงน้ำแกงจะเป็นเด็กผู้ชาย แต่ก็ดูไม่ออกเท่าใดนัก เหมือนเด็กหญิงที่สวยเฉียบคนหนึ่งมากกว่า
อาฟงคงจะติดใจความงามนี้ไม่น้อย
"ไม่เป็นไรลูก มีอะไรก็เรียกพี่ๆ เค้าได้นะ" คุณนายชี้ไปยังคนรับใช้สองสามคนที่ยืนด้านหน้าห้อง มีชายฉกรรจ์สองคน และสาวใช้อีกคน
"ครับ"
"ตั้งใจเรียนนะลูก"
"ครับ"
"แหม... น่ารักจริงเชียว มาเป็นลูกสะใภ้บ้านนี้ไหม ?"
"คะ... อ๊ะ..." เกือบตอบรับด้วยความเคยชินเสียแล้ว น้ำแกงเงยหน้ามองหญิงสูงวัยอย่างฉงน คุณนายจูยิ่งเอ็นดู
ถ้าบ้านนี้ได้น้ำแกงมาเป็นสะใภ้ คงจะดีกับฟงอวิ๋นไม่น้อยทีเดียว... คุณนายคิดเช่นนั้น
แต่ถึงอย่างไร น้ำแกงก็เป็นผู้ชาย... และรักของวัยรุ่นมักจะจบอย่างรวดเร็วเสมอ หากในอนาคต ทั้งสองได้เป็นเพื่อนกันต่อไป ก็ยังนับเป็นเรื่องดี
น้ำแกงคงจะเป็นมิตรสหายที่ดีและช่วยเกื้อหนุนลูกชายนางไม่น้อย
ฟงอวิ๋นตื่นแต่เช้า ทั้งคืนแทบนอนไม่หลับ แต่ตื่นขึ้นมาก็กระปรี้กระเปร่า ร่าเริงสดใส อะไรๆ ก็ดูดีไปเสียหมด หลังจากไปวิ่งรอบสวน กินข้าวเช้ากับครอบครัวแล้ว เขาก็หอบสมุดหนังสือเครื่องเขียนมาเตรียมไว้รอท่า ท่าทางเหมือนเด็กไปโรงเรียนวันแรก
ลูกชายคนเล็กของบ้านเป็นคนดูออกง่าย ทั้งบ้านมองหน้ากัน พี่ชายทั้งสองทำท่าเหมือนไม่รู้อะไร แต่พี่สาวขยับปากจะพูด แต่แล้วก็เงียบ...
...ฟงเอ๊ย... เค้ารู้กันทั้งบ้านแล้วว่าตัวเองน่ะ... แอบชอบลูกชายครูนาถลดาขนาดไหน!
นับเป็นเรื่องแปลก ที่ทั้งอากงอาม่า พี่ๆ และบุพการีไม่ได้เอ่ยปากอะไร พวกเขาแค่มองหน้ากันแล้วยิ้มนิดๆ เท่านั้น
บ้านนี้ไม่ได้รังเกียจรักร่วมเพศ กระทั่งคุณนายจูเองก็มีเพื่อนหลายคนที่เป็นเกย์ และอาม่าอากงก็เห็นเป็นเรื่องธรรมดา
ถ้าหากตี๋เล็กจะเป็นเกย์จริงๆ... พวกเขาก็ขอให้... อีกฝ่ายเป็นคนผิวนวลๆ หน้าตาสะสวย ท่าทางสง่างาม.... เอาแบบลูกครูนาถลดาก็แล้วกัน!
รอน้องน้ำแกงมาครึ่งชั่วโมงแล้ว ช่วยไม่ได้ที่เขาตื่นเช้าเกินไป แต่ฟงอวิ๋นก็ไม่ได้หงุดหงิดแม้แต่น้อย ทั้งยังรอด้วยความอดทน พอติวเตอร์เข้ามา เขาก็ทักทายอย่างดี
รออีกราวยี่สิบนาที เด็กน้อยที่อยู่ในความฝันมาตลอดก็ก้าวเข้าห้องมาพร้อมกับมารดา
น้ำแกงดูไม่เปลี่ยนไปเลย... มีแค่สวยขึ้นเท่านั้น
ใบหน้าที่เห็นเพียงครั้งเดียวแต่ไม่สามารถลืมเลือนได้นั้นเข้ามาใกล้ เด็กชายยกมือไหว้คุณครูก่อน หลังจากอาม๊าแนะนำตัวน้ำแกงกับติวเตอร์แล้ว น้ำแกงก็ยกมือไหว้ฟงอวิ๋น เสียงใสๆ จากริมฝีปากสวยๆ เอ่ยอย่างไพเราะ
"สวัสดีครับ พี่ฟงอวิ๋น"
อิ่มอกอิ่มใจเหลือเกิน... ภายในอกพองฟู ฟงอวิ๋นยิ้มรับแก้มแทบแตก ใบหน้าคมซึ้งหันไปคุยกับมารดาเล็กน้อยแล้วจึงนั่งลง... นั่งที่เก้าอี้ข้างๆ เขา
กลิ่นเด็กน้อยหอมหวาน ฟงอวิ๋นสมาธิกระเจิง ไม่สามารถละสายตาจากใบหน้าสะสวยนั้นได้เลย
น้ำแกงรู้สึกแปลกๆ ปนไม่มั่นใจ ฟงอวิ๋นจ้องเขาเขม็ง... เหมือนมีอะไรแปลกไป
มีอะไรติดหน้าหรือเปล่านะ... เด็กน้อยนิ่งคิด แต่แล้วก็ส่ายหน้า พยายามควบคุมสีหน้าให้สงบนิ่ง
มือเรียววางสมุดดินสอบนโต๊ะ วิชาแรกเป็นวิชาคณิตศาสตร์ ติวเตอร์เป็นครูสอนพิเศษที่มีชื่อในขณะนี้ คุณนายจูจ้างมาด้วยราคาสูงลิบลิ่ว
ร่างอ้วนกลมของครูสอนพิเศษวัยกลางคนกระแอมเบาๆ เรียกความสนใจจากลูกศิษย์ทั้งสอง "ครูชื่ออ้วนนะคะ มาแนะนำตัวกันก่อนเนอะ เริ่มจากพี่ใหญ่นะคะ"
ฟงอวิ๋นไม่อยากถอนสายตาจากใบหน้างดงามนั้นเลย เขาเก็บความหงุดหงิดไว้ในใจ "ฟงอวิ๋นครับ มอสี่"
"แล้วน้องล่ะคะ ?"
"น้ำแกงครับ" น้ำแกงตอบเบาๆ สุภาพเรียบเรียบร้อย "มอสาม"
"สวัสดีค่ะน้องฟงอวิ๋น น้องน้ำแกง วันนี้ครูอ้วนจะเริ่มสอนคณิตศาสตร์นะคะ เรามาเริ่มทบทวนกันก่อน จะได้รู้พื้นฐานของแต่ละคน"
ครูอ้วนเริ่มตั้งแต่บทที่ 1 ของชั้นมอ 1 น้ำแกงเรียนอย่างกระตือรือร้น เพราะรู้ดีว่าติวเตอร์คนนี้คิวทอง สอนเก่งและราคาแพงมาก นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่ได้มาเรียน
สองชั่วโมงผ่านไป... ครูอ้วนเก็บหนังสือแล้วยิ้มให้ลูกศิษย์ทั้งสอง "เก่งมากค่ะน้องน้ำแกง น้องฟงอวิ๋นก็สู้ๆ นะคะ อย่าลืมทำการบ้านด้วยนะคะทั้งสองคน"
"ครับ" เด็กนักเรียนทั้งสองตอบรับพร้อมกัน
วันแรกค่อนข้างง่าย เพราะเป็นการปูพื้นฐาน แต่แค่เลขคณิตมอหนึ่งฟงอวิ๋นก็แทบเอาตัวไม่รอด น้ำแกงสงสัยเหลือเกินว่าฟงอวิ๋นสอบผ่านจนมาถึงมอสี่ได้อย่างไร
สาวใช้หน้าห้องเดินเข้ามาเรียกให้ไปพัก ตอนนี้เที่ยงกว่าแล้ว ได้เวลากินข้าวเที่ยงพอดี น้ำแกงตอบรับสาวใช้อย่างสุภาพ พร้อมจัดแจงเก็บสมุดหนังสือใส่กระเป๋า
ตอนนี้เหลือกันอยู่สองคนแล้ว เด็กชายไม่รู้เลยว่าฟงอวิ๋นตื่นเต้นขนาดไหน ฝ่ามือหนาชื้นเหงื่อไปหมด
อา... ต้องพูดอะไรสักอย่าง ฟงอวิ๋นรู้สึกแบบนั้น
ต้องชวนคุย...
"อะ... ของ..."
"ครับ ?" น้ำแกงหันกลับมา เรือนผมที่เริ่มยาวสะบัดนิดๆ ยิ่งพากลิ่นหอมหวานเข้าจมูก
ฟงอวิ๋นกระแอม หน้าแดงแจ๋ "ของน่ะ เอาไว้ตรงนี้ก็ได้นะ"
"อ้อ... ขอบคุณครับ" ยามยิ้มรับคำช่างสดใส.... เด็กหนุ่มมองคนอ่อนกว่าอย่างเคลิบเคลิ้ม
สวย... ช่างต่างจากใบหน้างอๆ และไว้ตัวเมื่อคราวที่แล้วเหลือเกิน เด็กทั้งคู่เงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนคนแก่กว่าจะพูดเบาๆ
"เอ่อ... ปะ... ไปกินข้าวกันเถอะ"
"ครับ" น้ำแกงชักจะหน้าแดงตามเสียแล้ว คนอะไร... สติดีอยู่หรือเปล่า... ถึงจะเคยติดยามาก็เถอะ แต่มารดาเขาและคุณนายจู เอ้อ อาม๊าก็บอกแล้วว่าฟงอวิ๋นตอนนี้หายดีเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว แต่คนปกติจะหน้าแดงแจ๋ขนาดนี้หรือ ?
"พี่... ครับ" น้ำแกงลองเรียกดู คนแก่กว่าหันมามอง ท่าทางดีอกดีใจอย่างเห็นได้ชัด น้ำแกงก็สังเกตเหมือนกัน ฟงอวิ๋นดูเปลี่ยนไปมากจากที่พบกันคราวที่แล้ว เจ้าตัวตัวสูงอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งไม่ได้ผอมแห้ง ร่างกายหนาขึ้นมาก กล้ามเนื้อเป็นลอนเรียงสวย ผมเผ้าตัดเรียบร้อย ผมคล้ำขึ้น ท่าทางสดใสร่าเริง ไม่ต่างจากเด็กหนุ่มวัยเดียวกัน
"ว่าไงครับ ?" ยังขัดเขินอยู่บ้าง ฟงอวิ๋นพาน้ำแกงไปที่ห้องทานอาหารหรูหรา
"เอ่อ สุขภาพดีขึ้นมากเลยนะครับ แล้วก็... ขอบคุณมากนะครับที่ชวนมาติว"
มือหนาเกาศีรษะอย่างเขินๆ "มะ... ไม่เป็นไร เราคุยกันตามปกติเถอะ เรียกพี่แล้วไม่ค่อยชิน"
"ถ้าอย่างนั้น ให้น้ำแกงเรียกพี่ว่าอะไรดีครับ ?" ใบหน้าสะสวยเงยขึ้น เพราะส่วนสูงที่ต่างกันมาก ฟงอวิ๋นจึงต้องก้มลงคุยกับเขา
ในใจของคนตัวโตเต้นถี่ เสียงร้องบ้าคลั่งดังซ้ำๆ ว่า
น่าร้ากกก น่ารักเหลือเกินนนนนนนนนนนน!!!จะดีแค่ไหนนะ ถ้า... "เรียกชื่อก็ได้"
"ฟงอวิ๋น" เสียงจากริมฝีปากสวยก็ไม่ได้ต่างจากคนอื่นๆ แต่มันชวนให้ชุ่มชื่นหัวใจเหลือเกิน
ตัวก็เล็ก เอวก็บาง ฟงอวิ๋นอยากลองโอบเอวนั่นดูสักครั้ง...
...แต่ตอนนี้... ยังไม่ได้ ต้องทำความสนิทสนมให้มากกว่านี้ก่อน
"เรียกชื่อเฉยๆ ก็ได้ งะ...งั้นพี่... เอ๊ย ฟงจะเรียกว่าน้ำแกงนะ"
"ครับ เอ้อ... ได้สิ"
ได้รับอนุญาตให้เรียกชื่อแล้ว ช่างน่ายินดีจริงๆ ในใจเรียกชื่อนั้นไม่ได้ขาด
น้ำแกง... น้ำแกงของฟง... น้ำแกงตัวน้อย น้ำแกงน่ารัก...."ฟง..." นิ้วเรียวสะกิดเบาๆ ปลุกเขาจากฝันกลางวัน "พี่เค้าเรียกน่ะ"
เด็กน้อยหมายถึงสาวใช้ที่ขัดจังหวะ "คุณฟงอวิ๋นจะรับกลางวันที่ไหนคะ ? คุณนายสั่งไว้สองชุดค่ะ"
"อ้อ ที่สวนก็ได้ ตอนนี้ร้อนมากไหม ?" ฟงอวิ๋นสวมบทคุณหนูอย่างน่าชื่นชม แต่เห็นคิ้วเรียวสวยของคนข้างๆ ขมวดน้อยๆ จึงอดถามไม่ได้ "มีอะไรเหรอน้ำแกง ?"
"เปล่าครับ" ตอบเบาๆ แล้วเขย่งตัวกระซิบ ฟงอวิ๋นต้องย่อตัวลง ยิ่งริมฝีปากใกล้หูเขายิ่งจะระเบิด "เอ่อ ฟงพูดไม่สุภาพกับพี่เค้าจะดีเหรอ..."
เสียงใสชิดใกล้ ส่งตรงสู่สมอง... เขาจินตนาการไปไกลว่าตอนนี้น้ำแกงกำลังกระซิบรักอย่างเขินอาย...
"พี่เค้าดูแก่กว่าพวกเรานะ"
ฟงอวิ๋นฟังแล้วกระแอมอีกครั้ง "ถ้าอย่างนั้น..." ยืดตัวขึ้นเล็กน้อย น้ำแกงถอยหนีไปแล้ว น่าเสียดาย...
"ที่สวนล่ะครับ ?"
สาวใช้กระพริบตาปริบๆ ปกติคนบ้านนี้พูดจาไม่มีหางเสียงเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ใช่เพราะเย่อหยิ่งหรือดูถูกคนรับใช้อย่างในละคร แต่เป็นเพราะความคุ้นเคยมากกว่า พวกหล่อนจึงไม่มีใครติดใจอะไร
"นั่งริมสวนก็ได้ค่ะ น่าจะร่มอยู่"
"ถ้าอย่างนั้นที่สวนก็ได้.... ครับ"
น้ำแกงเป็นเด็กดีเหลือเกิน เข้ากับคนง่าย พอคุ้นเคยแล้วก็พูดคุยกับเขาอย่างไม่เก้อเขิน เป็นเด็กน่ารัก ร่าเริงมาก ฟงอวิ๋นเองก็ผ่อนคลายขึ้น มื้อเที่ยงธรรมดาๆ จึงกลายเป็นมื้อแสนพิเศษ
"แล้วคุณป้า... เอ้อ ม๊าไม่มาทานด้วยกันเหรอ ?" น้ำแกงเด็กดี ขนาดกับแม่ของฟงอวิ๋นที่เจอกันครั้งเดียวยังเป็นห่วงเป็นใย
"ไปทำงานน่ะ" ฟงอวิ๋นตอบสบายๆ ในใจยิ้มแย้ม ฝึกไว้นะแกง... ต่อไปจะต้องได้เรียกแน่ๆ
น้ำแกงพยักหน้าแล้วชวนคุยเรื่องอื่น "แล้วการบำบัดเป็นยังไงบ้าง ?"
ฟงอวิ๋นเคี้ยวข้าวพลางตอบ "ดีขึ้นมากแล้วล่ะ น่าจะกลับไปเรียนได้เทอมหน้า"
"ฟง... ตอนพูดอย่าเคี้ยวข้าวสิ" คนตัวเล็กทำหน้ามุ่ย ทั้งๆ ที่ถูกเด็กดุ แต่ฟงอวิ๋นกลับยิ้มหวานเหมือนกลับไปเมากัญชา ตอบรับซื่อๆ
"ครับ"
"อ๊ะ ไม่สิ ต้องขอโทษด้วย แกงเด็กกว่าแต่กลับพูดจาไม่สุภาพ ขอโทษนะครับ" เสียงหวานร้อนรน แต่ฟงอวิ๋นกลับส่ายหน้า
อา... ช่างเป็นเด็กดีอะไรขนาดนี้นะ
"ไม่เป็นไรๆ" เขาโบกมือตอบ "บ้านนี้อยู่กันสบายๆ น่ะ อาจจะไม่เคร่งมารยาทเท่าไหร่ ขอโทษด้วยนะ"
"ถึงเป็นอย่างนั้นแต่ถ้าไปข้างนอกต้องเคี้ยวข้าวก่อนนะ แล้วค่อยพูด" ใบหน้าเล็กเยาว์วัยขึงขัง ฟงอวิ๋นอมยิ้ม
"นั่นสินะ ขอบคุณน้ำแกงที่เตือน"
เด็กน้อยแม้กระทั่งนั่งกินข้าวก็ยังนั่งหลังตรง ท่าทางสง่างามเลย ฟงอวิ๋นหัวเราะเบาๆ
"แล้ว... ฟงจะกลับไปเรียนที่เดิมเหรอ ?"
"อืม... ต้องคิดดูก่อนน่ะ ไม่อยากกลับไปสังคมเดิมๆ"
"พ่อแกงก็บอกอย่างนั้นเหมือนกัน"
"อาจจะได้ซ้ำชั้นก็ได้ ช่างเถอะ น้ำแกงลองกินนี่ดูสิ" ร่างสูงยักไหล่แล้วตักติ่มซำในเข่งให้เด็กชายชิม น้ำแกงทำหน้านิ่ว บ่นเล็กน้อย
"ฟงอ่ะ... ตักให้แกงกินจนเต็มจานแล้ว ฟงก็กินบ้างนะ แม่บอกว่าตอนพักฟื้นต้องกินอาหารดีๆ มีประโยชน์" ท่าทางเหมือนผู้หญ่กำลังดุเด็ก ฟงอวิ๋นยิ่งขำ รับคำอย่างซื่อๆ เช่นเคย
"ครับ"
"แล้วก็... ถ้าซ้ำชั้น.... ก็อยู่ชั้นเดียวกับแกงน่ะสิ"
คนฟังโคลงศีรษะ "คงใช่"
"อืม แต่บ้านฟงรวย จะเข้าเรียนที่ไหนก็ได้ แต่ตอนนี้ต้องตั้งใจเรียนก่อนนะ!"
"ครับ..." ตอบคำเดิม... โถ... เด็กน้อย แค่รู้จักกันไม่กี่ชั่วโมง น้ำแกง 'สั่งสอน' เขาตั้งกี่เรื่องแล้ว ในบ้านนี้ ไม่สิ ในโลกนี้แทบไม่มีใครสั่งสอนเขาได้ แต่ฟงอวิ๋นที่เอาแต่ใจ ร้ายกาจ ไม่เชื่อฟังใครกลับตอบครับๆ เดินตามเด็กน้อยตัวเล็กๆ ต้อยๆ
ไม่ถงไม่เถียงสักคำ!
ในภาคบ่ายเป็นวิชาสังคม เริ่มจากมอหนึ่งเช่นเคย และได้ติวเตอร์อีกคนหนึ่งที่ขึ้นชื่อในวิชาสังคม เช่นเดียวกับติวเตอร์คนอื่นๆ ติวเตอร์คนนี้คิวทอง จองเรียนยาก ราคาแพงและสอนเก่งมาก เด็กทั้งสองคืบหน้าไปไม่น้อย
ตกเย็น คุณนายจูกลับมาจากออฟฟิศ สอบถามความคืบหน้าของลูกชายอย่างกระตือรือร้น พอได้ยินติวเตอร์รายงานก็ยิ้มยินดี
ตามคาด... ฟงอวิ๋นใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่ เล่นมีคนสวยที่แอบชอบมานั่งข้างๆ ตลอดทั้งวัน คงไม่มีเด็กหนุ่มคนไหนตั้งใจเรียนได้
คุณนายไม่โทษน้ำแกง กลับขอบคุณเสียอีก หากไม่มีเด็กน้อยหน้าคมหวานคนนี้ ลูกชายคนเล็กคงไม่สามารถนั่งเรียนได้ทั้งวันแน่นอน
"แน่ใจละลูก ว่าจะไม่กินข้าวด้วยกัน ?" คุณนายถามซ้ำ มีลูกชายลุ้นจนตัวโก่งอยู่ด้านหลัง แต่เด็กน้อยส่ายหน้าตอบอย่างสุภาพ
"ขอบคุณครับ แต่ที่บ้านทำกับข้าวไว้แล้ว"
คุณนายระบายลมหายใจพรู "ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยไม่ได้... ไว้วันหลังจะชวนพ่อแม่น้ำแกงไปทานข้าวนะ"
"ครับ"
"ดีจริงๆ เอาล่ะ เดี๋ยวม๊าโทรบอกที่บ้านให้นะลูกว่าแกงจะกลับบ้านแล้ว"
"ขอบคุณครับ" น้ำแกงยืนเก้ๆ กังๆ อยู่ชั่วอึดใจหนึ่ง ฟงอวิ๋นก็พูดขึ้น
"ถ้าอย่างนั้น ฟงไปส่งแกงได้ไหม... ครับ" คำลงท้ายเล่นเอาคุณนายแทบทำโทรศัพท์ตกพื้น
เจ้าพระคุณรุนช่อง ลูกชายคุณนายพูดจามีหางเสียงไพเราะเพราะพริ้ง เป็นไปได้อย่างไร!? ถึงที่บ้านจะเป็นคนจีน ไม่ได้เคร่งครัดเรื่องมารยาท และในธรรมเนียมจีน ก็ไม่มีการพูดหางเสียงหรือยกมือไหว้เหมือนคนไทย แต่เธอก็เคยปากเปียกปากแฉะสอนตี๋น้อยให้เข้ากับธรรมเนียมคนไทย ซึ่งถ้าฟงอวิ๋นไม่เถียง ก็ฟังหูซ้ายทะลุหูขวา...
...แต่นี่อะไรกัน แค่วันเดียวเท่านั้น เกิดอะไรขึ้น!?
"ดะ... ได้สิลูก ม๊าก็จะไปเหมือนกัน นี่ตาจั่นไปวนรถแล้ว น้ำแกงไปกับพี่เค้านะลูก"
"ครับ" น้ำแกงรับคำ ท่าทางสุภาพแบบนี้... ลูกชายนางคงจะเลียนแบบมาไม่ใช่น้อย
คุณนายจูกลอกตา ขณะใช้ความคิด
อืม... ถ้าน้ำแกงเป็นเด็กมีความอดทนพอที่จะสอนฟงอวิ๋นได้ หวังว่าฟงอวิ๋นคงไม่ดีแตกไปก่อนหรอกนะ...
ฟงอวิ๋นและคุณนายจูทักทายคุณพ่อคุณแม่น้ำแกงเสร็จ คุณนาถลดาก็ชวนคุณนายกินข้าวเย็นตามมารยาท ฟงอวิ๋นขยับปากจะตอบตกลงอย่างกระตือรือร้น คุณนายรีบหยิกลูกชายแทบไม่ทัน
บางทีฟงอวิ๋นก็ซื่อเกินไป
ก่อนจะขึ้นรถกลับบ้าน น้ำแกงแสนน่ารักยังบอกฟงอวิ๋นด้วยว่า "ฟง อย่าลืมทำการบ้านด้วยนะ"
คนฟังยิ้มแต้ มารดาอย่างคุณจูก็แอบอมยิ้มด้วย น้ำแกงเป็นเด็กดีจริงๆ
"อืม ไม่ลืมหรอก เอ่อ... แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ"
"อื้ม เจอกัน อ๊ะ สวัสดีครับม๊า เดินทางปลอดภัยนะครับ" ลูกชายของคุณครูยกมือไหว้ผู้สูงวัยอย่างมีมารยาท
"จ้า พรุ่งนี้ม๊าจะเตรียมกับข้าวอร่อยๆ ให้นะลูก"
"ขอบคุณครับ" น้ำแกงยิ้มหวานตอบ โบกมือโบกไม้ให้ฟงอวิ๋น ซึ่งคนที่นั่งในรถนอกจากจะโบกมือตอบแล้ว ยังชะเง้อคอจนสุด กระทั่งเห็นแค่หลังคาบ้านลิบๆ ก็ยังไม่ยอมหยุด
อาม๊าละม้ายคล้ายจะเห็นหางเป็นพุ่มฟูๆ พองๆ เหมือนหางหมาสะบัดพั่บๆ ชอบกล พอรถขับมาไกลแล้ว หางก็ค่อยๆ ตกลง
"อาฟง"
"หือ ?" ปากตอบ แต่ยังเกาะกระจกดูยอดต้นมะม่วงของบ้านน้ำแกงอยู่
"กลัวเค้าไม่รู้รึไงว่าชอบลูกชายเค้าน่ะ ?" ม๊าอดเขม่นไม่ได้ ตีแขนลูกชายไปทีหนึ่ง "แล้วนี่ยังไง เค้าชวนกินข้าวตามมารยาทนะ อย่าทำเป็นไม่รู้"
"ก็... รู้มั้ง... เฮ้ยยย แล้วม๊ารู้ได้ไงว่าฟงชอบแกง"
โถ... พ่อหนุ่ม คุณนายพ่นลมหายใจอย่างอ่อนใจ ดูหน้าแดงๆ กับท่าทางเขินอายเป็นสาวน้อยแล้วหมั่นไส้เหลือเกิน
"กระดิกหางขนาดนี้แล้วไม่รู้ก็โง่เต็มทีล่ะ"
"อ๊ะ ม๊า แล้วม๊าไม่ว่าอะไรเหรอ ?" เด็กหนุ่มถามเสียงค่อย ไม่กล้าสบตามารดา
คุณนายหัวเราะ มือลูบศีรษะลูกชาย "จะไปว่าอะไรได้ ฟงชอบม๊าก็ชอบด้วย อีกอย่างอาแกงแกเป็นเด็กดี ม๊าห่วงอย่างเดียวว่าฟงจะจีบติดหรือเปล่าก็เท่านั้น..."
"ม๊าอ่ะ..." ทำท่าสะบัดสะบิ้งใส่แม่จนน่าถีบ คุณนายส่ายศีรษะให้ลูกชายอย่างอ่อนเพลีย
........
// หมาฟงมาแล้วค่าา น้ำแกงน่าร๊าากกกกก อ๊ายยย ไม่รู้ทำไมยิ่งโตยิ่งดุหว่า
เช่นเคยนะคะ รายสะดวกค่ะ 555 เจอกันปีทีปีหน้า (?)
ว๊ายย ไม่ใช่ค่ะ นานไป เอาเป็นว่าน่าจะเดือนหน้าโน่นนนนนนนนนนนนว์อ่ะค่ะ
ชอบคุณที่ติดตามนะคะ (ไม่ได้พิมพ์ผิด ชอบคุณจริงๆ
)
ส่วนพี่เสือต่ายน้อย ตอนนี้ทาง Hermit รับต้นฉบับไปจัดการแล้วค่าาา ติดตามที่เพจสนพ หรือเพจเราก็ได้นะคะ
ขอบคุณค่า