Lion 12
นี่ก็ผ่านมาได้หนึ่งสัปดาห์แล้วหลังจากที่ไลออนและคิสไปเดทกันเพราะคนหนึ่งก็งานเยอะและอีกคนก็งานหนักทำให้หนึ่ง
สัปดาห์ที่ผ่านมาทั้งคู่ไม่ได้เจอกันเลย มีเพียงแค่โทรหาและคุยกันผ่านแชทเท่านั้น
“พรุ่งนี้ผมไม่มีงานใช่มั้ยพี่เจสซี่” คิสถามขึ้นหลังจากที่ถ่ายแบบเซตสุดท้ายเสร็จและเตรียมตัวกลับคอนโด
“อืมใช่ ทำไม” เจสซี่ถามกลับ
“งั้นคืนนี้ผมไม่อยู่ห้องนะ” คิสว่าหน้าระรื่น
“เดี๋ยวๆ ไม่อยู่ห้องแล้วแกจะไปไหน” เจสซี่ขมวดคิ้ว
“ก็ไปค้างห้องว่าที่แฟนผมไง” คิสตอบ
“ต๊ายตาย เด็กในสังกัดฉันกลายเป็นเด็กสาวใจแตกตั้งแต่เมื่อไหร่กันยะ” เจสซี่แขวะอย่างไม่จริงจังนัก
“ก็ไม่เจอกันตั้งอาทิตย์นึงนี่หน่า”...คิสที่ตั้งใจจะมาค้างที่ห้องของไลออนคืนนี้ก็เตรียมเสื้อผ้าและข้าวของมาหาร่างสูงที่คอน
โดตอนกลางคืนทันทีโยที่เขาเองก็ไม่ได้บอกร่างสูงหรอก ถ้าโดนไล่กลับงั้นเหรอ? ลองไล่กลับสิ เขาไม่กลับสักอย่างก็ทำอะไร
เขาไม่ได้หรอก
ออดดดดดด
เสียงกดออดจากหน้าห้องทำให้ไลออนที่พึ่งอาบน้ำเสร็จต้องขมวดคิ้ว ร่างสูงมองไปที่นาฬิกาก็พบว่าสี่ทุ่มกว่าแล้ว ใครกันนะที่มา
แอดดดดด
“เซอร์ไพ...” ร่างบางที่ตั้งใจจะพูดเซอร์ไพรส์อีกคนเป็นอันต้องชะงักเมื่อเห็นร่างสูงในสภาพผ้าเช็ดตัวพันเอวผืนเดียว หยด
น้ำที่ยังเกาะอยู่ที่แผงอกและกล้ามหน้าท้องทำให้รู้ว่าอีกคนพึ่งอาบน้ำเสร็จ
“เอ่อ...” คิสเกาท้ายทอยอย่างเขินๆ
“เข้ามาสิ” ไลออนเปิดประตูให้อีกคนเข้ามา คิสเดินมานั่งที่โซฟากลางห้องของอีกคน
“ไปแต่งตัวให้เรียบร้อยสิ” คิสว่า
“ทำไม?” ไลออนเลิกคิ้วแสร้งถามแม้ว่าสังเกตเห็นแก้มใสๆของอีกคนที่ขึ้นสีระเรื่อก็เถอะ
“ก็...ก็มันไม่เรียบร้อยนี่ บ้านนายสอนให้แต่งตัวแบบนี้รับแขกหรือไง” คิสทำบ่น
“อืม ชุดนี้แหละ โดยเฉพาะแขกที่มาหาตอนดึกๆ” ไลออนว่าหน้านิ่งแต่กลับยื่นหน้าเข้ามาหาอีกคนจนคิสต้องขยับหนีจนชิด
พนักโซฟา ใบหน้าสวยขึ้นสีแดงจัด หัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะราวกับเด็กอ่อนหัดในเรื่องความรัก ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นแผงอก
หรือกล้ามหน้าท้องของคนอื่น งานถ่ายแบบของเขาก็ถ่ายคู่กับนายแบบฮอตๆมากมายแต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรแต่กลับผู้ชายตรง
หน้ามัน...
“ขยับออกไปนะ” คิสว่าแต่ไม่มองหน้าอีกคน ไลออนหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนจะขยับออกไปก่อนจะเข้าห้องไปแต่งตัวทำ
ให้คิสหายใจหายคอได้โล่งขึ้นมาหน่อย
“จะมาทำไมไม่โทรมาบอก” ไลออนถามขึ้น
“ก็จะมาเซอร์ไพรส์นี่” คิสว่า
“เซอร์ไพรส์?”
“ใช่ คืนนี้ฉันจะนอนนี่” คิสว่าก่อนจะลุกขึ้นเอากระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองเข้าไปในห้องนอนของร่างสูงทันที
“นอน?”
“ทำไม? ไม่ได้งั้นเหรอ?” คิสหน้างอทันที
“ไม่เหมาะเท่าไหร่” ไลออนว่าเสียงเรียบซึ่งนั่นก็ทำให้คิสหน้างอหนักกว่าเดิม
“ไม่เหมาะยังไง เราดูๆกันอยู่นะ ไม่ได้เจอกันตั้งอาทิตย์นึง ไม่คิดถึงฉันบ้างหรือไงแค่มานอนด้วยแค่นี้ไม่ได้เลยงั้นเหรอ”
คิสว่าอย่างน้อยอกน้อยใจ แหงแหละ...เขาตั้งใจมาหาแท้ๆเพราะคิดถึงที่ไม่ได้เจอกันเป็นอาทิตย์แต่ดูอีกคนพูดสิ
“ไม่ได้หมายความแบบนั้น” ไลออนว่า
“ไม่ได้หมายความแบบนั้นแล้วแบบไหน” คิสถามต่อ ไลออนกระตุกยิ้มก่อนจะสาวเท้าเข้ามาใกล้ๆอีกคน
“ก็หมายความว่า...กลัวอดใจไม่ไหวต่างหาก” คิสหน้าแดงทันทีกับคำพูดของอีกคน
“อะ...ไอ้บ้า” คิสผลักอีกคนออกก่อนจะวิ่งหนีเข้าไปในห้องน้ำทันที บ้าๆๆ ไอ้หมอบ้า พูดเรื่องแบบนี้ด้วยหน้านิ่งๆแบบนั้น
ได้ยังไง บ้าบอที่สุด!...คิสจัดการอาบน้ำแต่งตัวเตรียมนอนแต่ก็พบว่าอีกคนยังไม่เข้านอนยังคงนั่งดูทีทัศน์อยู่ข้างนอก
“สารคดีอะไรน่าปวดหัวจะตายดูหนังดีกว่า” คิสว่าก่อนจะหยิบรีโมตมากดเปลี่ยนช่อง
“ผมดูอยู่นะ” ไลออนว่าก่อนจะหยิบรีโมตมาเปลี่ยนกลับช่องเดิม
“แต่ฉันไม่ดูสารคดีนี่” คิสเถียงพร้อมกับหยิบรีโมตมาเปลี่ยนกลับ
“ผมก็ไม่ดูหนังเหมือนกัน” ไลออนว่าและก็หยิบรีโมตมาเปลี่ยนกลับช่องสารคดีแถมยังถือรีโมตเอาไว้กันคิสแย่งรีโมตอีก
ด้วย คิสหน้าหงิกหน้างออีกครั้งก่อนที่มุมปากบางจะกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์
ตุบ
“มานั่งอะไรตรงนี้” ไลออนถามเสียงเรียบเมื่ออีกคนทิ้งตัวลงที่หน้าตักของเขา
“เอาสิ ถ้านายไม่ให้รีโมตฉัน ฉันก็จะนั่งบังนายอย่างนี้แหละ นายก็จะไม่ได้ดูสารคดีของนาย” คิสว่าอย่างมีชัย ไลออนขมวด
คิ้วก่อนจะขยับหน้าเพื่อจะดูโทรทัศน์ แต่คิสก็ขยับตัวมาบังอีกคนต่อ ร่างบางยกยิ้มอย่างภาคภูมิใจในแผนการที่พึ่งคิดได้
“ผมจะดูโทรทัศน์” ไลออนพูดออกมา
“ไม่ให้ดู ถ้าฉันไม่ได้ดูนายก็ไม่ได้ดู” คิสว่าพร้อมขยับยุกยิกไปมาบนตักกว้างเพื่อก่อกวนคนตัวสูง
“หยุดขยับนะ”
“ไม่ ฉันไม่หยุด ฮ่ะๆ” คิสว่าพลางหัวเราะเพราะความสะใจที่ได้แกล้งอีกคนโดยหารู้ไม่ว่าอะไรๆกำลังขยายตัวขึ้นผ่านได้
กางเกงนอนตัวบาง
“ผมบอกให้หยุดไง” ไลออนพูดออกมาด้วยความยากลำบากเพราะกำลังระงับอารมณ์ เพียงแค่อีกคนมาใกล้ชิด ร่างกาย
หอมๆที่พึ่งอาบน้ำเสร็จมาอยู่ใกล้ๆเขาก็รู้สึกปั่นป่วนพอแล้วยิ่งเจ้าตัวมานั่งอยู่บนหน้าตักขยับยุกยิกไปมาสิ่งที่สงบอยู่ก็ตื่นขึ้นอย่าง
ง่ายดาย
“ทำไมฉันต้อง...อ๊ะ” คิสทำท่าจะเถียงแต่กลับรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ดุนดันขึ้นมาเสียก่อน ใบหน้าสวยขึ้นสีทันที
“เอ่อ...ลุกก็ได้ อ๊ะ” คิสจะลุกขึ้นแต่กลับถูกมือหนาคว้าเอวไว้เสียก่อน
“จะทำอะไร...ปล่อยนะ” คิสถามเสียงสั่น
“รับผิดชอบกันหน่อยสิคุณ” ไลออนกระซิบข้างหูบางด้วยน้ำเสียงแหบพร่าจนคิสหัวใจเต้นตึกๆตักๆ
“รับผิดชอบอะไร อ๊ะ” ตากลมเบิกว้างทันทีที่มือหนาจับมือเขาให้ไปสัมผัสกับแก่นกายใหญ่ที่กำลังขยายตัวผ่านกางเกง
นอนตัวบาง
“ช่วยหน่อย” ไลออนว่า คิสกัดปากอย่างขวยเขิน ใบหน้าสวยหันไปมองหน้าอีกคนและก็พบว่าอีกคนกำลังมีความต้องการที่
จะปลดปล่อย
“คะ...แค่มือนะ” คิสว่าไลออนพยักหน้า ร่างบางลุกออกจากตักกว้างก่อนจะเปลี่ยนท่าทางเป็นนั่งคร่อมตักที่เปลือยเปล่า
ของอีกคนแทน ไลออนกระตุกยิ้มมุมปาก
“ทำไมต้องถอดของฉันล่ะ!” คิสถามตาโตเมื่ออีกคนดึงกางเกงของเขาลง
“ช่วยกันไง” ไลออนว่าเสียงเรียบแต่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ คิสหน้าเห่อร้อนด้วยความอายอีกครั้ง มือบางจับเข้าที่แก่น
กายใหญ่เหมือนกับมือหนาที่จับเข้าที่แก่นกายขนาดพอดีมือ
“อื้อ...อ๊ะ...อ๊า...อื้อ...อ๊า...ซี๊ดดด...อ๊า...” เสียงหวานครางออกมาเมื่ออีกคนขยับมือ ทั้งๆที่ไม่ได้มีอารมณ์มาก่อนหน้า
แท้ๆแต่พออีกคนสัมผัสก็เกิดอารมณ์ขึ้นมาอย่างง่ายดาย
“อื้มมมม” ไลออนเองก็อดที่จะครางในลำคอด้วยความเสียวไม่ได้ ทั้งคู่ช่วยกันทำจนในที่สุดก็ปลดปล่อยออกมาทั้งคู่
“แฮ่กๆๆ” คิสฟุบลงที่ไหล่หนาพร้อมหอบหนัก ไลออนยกยิ้มก่อนจะอุ้มอีกคนออกจากหน้าตัก
“ทำความสะอาดตัวเองแล้วเข้านอนซะ” ไลออนว่าด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนที่น้อยครั้งนักที่คิสจะได้เห็นมัน...ตอนเช้า...คิสตื่น
นอนในตอนสายๆเพราะแดดส่องหน้าทำให้นอนต่อไม่ได้ ร่างบางมองหาร่างสูงที่นอนข้างๆก็ไม่พบแต่เพราะกลิ่นหอมของข้าวต้ม
ที่ลอยเข้ามาในจมูกทำให้เดาได้ว่าอีกคนน่าจะอยู่ที่ครัว
“ว้าว น่ากินอ่ะ” คิสว่าพร้อมชะโงกมองหม้อข้าวต้มกุ้งที่อีกคนกำลังทำ
“ไปล้างหน้าแล้วค่อยมากิน” ไลออนว่า
“รู้แล้วน่า” คิสย่นจมูกใส่อีกคนก่อนจะไปจัดการตัวเองแล้วกลับมานั่งกินข้าวต้มฝีมืออีกคนที่โต๊ะอาหาร
ออดดดดด
เสียงออดที่ดังขึ้นทำให้ทั้งคิสและไลออนชะงัก ไลออนเดินไปเปิดประตูก็พบว่าเป็นผ้าแพร
“เรามารบกวนไลออนหรือเปล่า พอดีว่าแม่เราพึ่งกลับมาจากต่างประเทศน่ะ ท่านซื้อของฝากมาให้ไลออนด้วยเราเลยเอา
มาให้” ผ้าแพรว่าพร้อมกับยื่นถุงบางอย่างให้ร่างสูง
“อืม ขอบใจนะ ฝากขอบคุณคุณแม่ด้วย”
“จ้า ว่าแต่กลิ่นหอมๆนี่อะไรเหรอ ไลออนทำอาหารกินเองเหรอ” ผ้าแพรถามโดยที่หญิงสาวยังคงไม่รู้ว่ามีอีกคนกำลังยืน
มองด้วยความไม่พอใจ ทำไมยัยบ้านี่ต้องมาจัดจังหวะตลอด บ้าชะมัด!
“ใช่ครับ ไลออนเขาทำข้าวต้มให้ผมกินน่ะครับ” ว่าแล้วคิสก็เดินเข้าไปกอดแขนร่างสูงทันที ผ้าแพรชะงักทันทีที่เห็นอีกคน
“อ้าวคุณคิส อรุณสวัสดิ์ค่ะ ไม่คิดว่าคุณคิสจะอยู่ด้วย” ผ้าแพรแสร้งยิ้มทักทาย
“พอดีผมอยู่กับไลออนตั้งแต่เมื่อแล้วล่ะครับ” คิสว่าพร้อมเน้นเสียงคำว่าเมื่อคืนอย่างชัดเจน ผ้าแพรกำมือแน่นแต่ปากก็ยัง
คงยิ้ม
“งั้นเหรอคะ เอ่อ...ไลออน เรายังไม่ได้กินอะไรมาเลย ขอฝากท้องหน่อยได้มั้ย” ผ้าแพรว่า คิสอยากจะค้านแต่เพราะเห็น
ท่าทางนิ่งๆของไลออนแล้วก็ไม่กล้า เขาไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยทะเลาะกับอีกคนเพราะเรื่องของผู้หญิงคนนี้
หรอก...ขณะที่กำลังกินข้าวไลออนก็ได้รับโทรศัพท์จากน้องชายที่อยู่ห้องใกล้ๆว่าให้ไปเอาเอกสารที่ห้อง ร่างสูงเลยต้องเดินออก
จากห้องไปโดยปล่อยให้คิสอยู่กับผ้าแพร
“มาทำไมกันแน่” คิสถามขึ้นเสียงแข็ง
“อยากมา” ผ้าแพรตอบหน้าตาย
“หน้าด้าน” คิสว่า
“ถ้าฉันหน้าด้าน นายมันก็หน้าด้านไม่แพ้กันหรอก มีฐานะแค่ดูๆกันแต่กลับมาถวายตัวให้เขาถึงห้อง” ผ้าแพรว่าพร้อม
เหยียดยิ้ม คิสกำมือแน่นพยายามระงับอารมณ์
“ก็ยังดีกว่าพวกไม่มีฐานะอะไรเลยแต่กลับมาเสนอหน้าหาเขา พยายามจะถวายตัวให้เขาแต่เขาไม่เอาก็แล้วกัน” คิสตอก
กลับอย่างไม่ยอมแพ้ ผ้าแพรลุกขึ้นมองหน้าคิสด้วยความโมโห คิสเหยียดยิ้มกลับอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะก้มหน้ากินข้าวต้มต่อ
เคร้ง!
“โอ๊ย ทำบ้าอะไรของเธอฮะ” คิสว่าเมื่ออีกคนกระชากแขนเขาจนช้อนข้าวต้มหล่น
“ถามจริงนายแบบไร้การศึกษาอย่างนายนี่ผ่านมาแล้วกี่คน ฉันเองก็ไม่ได้สนใจข่าวบันเทิงเท่าไหร่แต่ที่ผ่านๆหูมานายก็มี
ข่าวกับผู้ชายอื่นนับไม่ถ้วนเลยนี่ รูคงจะพรุนไม่เหลือชิ้นดีแล้วสินะถึงได้ใจกล้าหน้าด้านแบบนี้” ผ้าแพรว่า
“เธอ!” คิสทำท่าจะง้างมือตบแต่ก็ชะงักเอาไว้เพราะเขาไม่อยากดิ้นตามแผนของผู้หญิงร้ายกาจคนนี้
“เอาสิ ตบสิ เอาให้เป็นรอยนิ้วห้านิ้วชัดๆเลยนะ” ผ้าแพรลอยหน้าลอยตาพูด คิสเอามือลง พยายามนับหนึ่งถึงสิบในใจ
“ไม่แน่จริงนื่ ก็นะ...ถ้านายแตะต้องฉันละก็ไลออนต้องเข้าข้างฉันแน่ๆ ทีนี้ก็น่าจะรู้นะว่าใครมันภาษีดีกว่ากัน คนที่รู้จักแค่
เดือนอย่างนายจะมาสู้คนที่รู้จักห้าหกปีอย่างฉันได้ยังไง” ผ้าแพรว่าพร้อมกับผลักคิสอย่างแรงจนสะโพกบางกระแทกเข้ากับโต๊ะ
กินข้าว
“โอ๊ย มันจะมากไปแล้วนะ!” สิ้นเสียงหวานมือบางก็หยิบชามข้าวต้มสาดใส่อีกคนทันที
“กรี๊ดดดดดดด”
“คิส!!!”
นางร้ายละครไทยยังต้องอายชะนีนางนี้ 555555 อาจจะน้ำเน่าเหมือนละครหลังข่าวไปหน่อยนะคะอย่าพึ่งเบื่อกันล่ะ คงเดาได้
เนอะว่าเสียงสุดท้ายเสียงใคร ฝากติดตามด้วยเน้อ จุ๊บๆ >3<
___จางบิวตี้___