บทที่ 4
ชีวิตของหนูที่อยู่ในกรุงเทพทั้งหมด 4 เดือนทำให้หนูได้เรียนรู้อะไรมากมาย
หนูขาวแล้ว หน้าอกใหญ่หุ่นเริ่มเป๊ะ หน้าตาก็นะหนูว่ายงไม่เห็นเปลี่ยนเท่าไหร่
แต่เพื่อนๆทักว่าสี่เดือนมานี้หนูสวยขึ้นจากเดิมมาก อาจจะเป็นผลมาจากฮอร์โมน
ที่หนูขยันประโคมกินประโคมฉีดและการจดฟันแต่หนูว่ายังธรรมดามากยังสวยได้อีก
ทุกวันนี้หนูก็ยังคอยแอบตามปกรณ์ของหนูอยู่ห่างแต่ปกรณ์ของหนูเนี่ยซิไม่เหมือนเดิม
เค้าเป็นเดือนมหาลัยไปแล้วทำให้จากเดิมที่ฮอตอยู่แล้วยิ่งทวีความฮอตยิ่งกว่าเดิม
ปกรณ์คบกับดาวคณะนิเทศ ซึ่งสวยมากสวยกว่าหนู
หนูก็คงต้องรอซักวันที่เค้าจะหันมามองหนูเต็มๆตา ผมหนูยาวประมานไหล่แล้วค่ะ
แต่ยังแต่งชายอยู่เพราะหอในซึ่งเป็นหอชายของมหาลัยหนูห้ามแต่งหญิงค่ะกลัวจะเป็นอันตราย
หนูไปเรียนก็รวบผมแต่งชายธรรมดา ช่วงนี้วันพุธไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรแล้ว
หนูจึงว่างทั้งวัน อีโอ๋พาหนูไปแนะนำกับพี่ติ๋วช่างแต่งหน้ามือทองซึ่งรับแต่งหน้าให้ดาราคนดังมากมาย
ให้หนูไปอยู่ช่วยพี่ติ๋ว เรียนแต่งหน้ากับแก วันเวลาผ่านไปตอนนี้หนูเริมเก่งแล้ว
พี่ติ๋วแกเลยให้หนูทดลองแต่งหน้าให้ลูกค้าได้ ลูกค้าก็พอใจในผีมือเด็กใหม่อย่างหนูมาก
หลังๆมานี่พี่แกก็ให้ค่าจ้างหนูด้วยแต่หนูก็ปฏิเสธ แต่พี่เค้าก็คะยั้นคะยอให้หนูรับจนได้
ช่วงนี้ถือเป็นช่วงรบทรัพย์ของหนูเลยทีเดียว หนูเขียนจดหมายเล่าให้แม่ฟังว่าหนูทำอะไรบ้าง
แม้แต่เรื่องปกรณ์หนูก็เล่า หนูส่งเงินให้พ่อกับแม่ใช้ แต่แม่กลับเขียนจดหมายตอบกลับมาว่าไม่ต้อง
เพราะพ่อกับแม่ไม่ได้เดือดร้อนอยู่บ้านนอกไม่จำเป็นต้องใช้เงินใช้ทอง
ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรมากมาย ให้หนูเก็บเงินไว้ใช้ทำในสิ่งที่หนูรักเถอะ
หนูรักพ่อกับแม่มากถึงแม้หนูจะเกิดมาเป็นอย่างนี้พ่อกับแม่ก็ไม่เคยว่าอะไรหนูเลย
คงเพราะพ่อกับแม่รู้ว่าหนูเป็นเด็กดี “หนูรักพ่อกับแม่จัง”
บ่ายวันหนึ่งน้อยหน่ากับจั๊ะจ๋าลากหนูไปลงชื่อเข้าค่ายอาสาพัฒนาชนบทโดยมีคณะวิศวะเป็นหัวเรือใหญ่
“แกไปลงชื่อกัน” น้อยหน่าพูดอย่างตื่นเต้น
“ทำไมแกถึงอยากไปขนาดนั้น มีอะไรรึเปล่า”
หนูถามอย่างสงสัย ทำไมน้อยหน่าถึงได้ออกอาการอยากไปนักหนา
“แหม แกไม่รู้อะไร มีแต่คนหล่อๆมาสมัคปกรณ์วิศวะก็ไปนะแก ฉันเลยอยากให้แกสองคนไป โดยเฉพาะอีฟ้า”
ปกรณ์ไปด้วยเหรอเนี่ย
“ทำไมถึงอยากให้ฉันไปล่ะ”งงนะ
“แหมคิดว่าชั้นกับอีจ๋าไม่รู้รึไงว่าแกแอบชอบนายปกรณ์เดือนมหาลัยสุดหล่อน่ะ”ห๋า รู้ได้ไง
“เปล่านะ” ตอบโยไม่สบสายตา
“อย่ามาสตอเบอแหลอีฟ้า มึงงะแอบมองเค้าแทบทุกวัน บางวันถึงกับมองตาเยิ้มมองไปยิ้มไป คิดว่าพวกชั้นไม่รู้เหรอ”
บ้าเหรอ นี่หนูแสดงออกขนาดนั้นเชียว
“เราแสดงออกขนาดนั้นเลยเหรอ”
“เออ”น้อยหน่าตอบพลางกลอกตาไปมา
“นี่ฟ้า ถ้าฟ้าชอบเค้าจริงก็ไปบอกเค้าเลย มัวกลัวอะไรอยู่ เราสนับสนุนเต็มที่”จ๋าบอก
“แต่เราไม่สวย”ใช่ เราไม่สวยเค้าจะชอบเราเหรอ
“ปกรณ์เค้าดูเป็นคนดีออก เค้าคงไม่คบคนที่หน้าตาหรอก”
หนูยิ้มแหยๆไม่ตอบ เหอะเหอะ ไม่ชอบคนที่หน้าตาเหรอ แต่ละคนระดับดาวมหาลัยทั้งนั้นนะที่ชั้นเห็นเค้าควงน่ะ
“ไปเถอะ”น้อยหน่าพูด
“โอเค เราไปเข้าค่ายกับพวกเธอก็ได้”
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
หลังจากที่หนูตัดสินใจลงชื่อเข้าค่ายอาสาพัฒนาชนบทของคณะวิศวะกรรมศาสตร์แล้ว
หนูก็ขอลางานในวันที่หนูจะไปไว้สี่วัน กลับมาถึงหอก็ทำกับข้าวกิน
หนูชอบทำอาหารมากเพราะอยู่บ้านนอกหนูก็ทำให้พ่อกับแม่กินเป็นประจำ
แต่อยู่ที่นี่ต้องหลบๆซ่อนๆแอบทำเพราะหอที่นี่มีกฏห้ามทำอาหารในห้อง
ใครฝ่ากฎแล้วพี่หอจับได้ก็เจอดีกันไป นานๆครั้งถึงจะได้ทำทีหนึ่ง
ทำแต่อาหารง่าย ในกระทะไฟฟ้า ในหม้อหุงข้าว
แต่ส่วนมากหนูจะหุงข้าวแล้วซื้อกับข้าวมากินที่ห้องประหยัดดี อิ่มด้วย
เตรียมอาหารรออีโอ๋กลับมา ซักพัก มันก็กลับมา พร้อมครีมต่างๆนาๆที่สรรหามาให้หนู
โอ๋บอกว่าถ้าหนูสวยจะพาหนูไปเดินแบบออกงาน โอ๋จะคอยเป็นผู้จักการให้หนูเอง
เหอะเหอะ(จะดีเหรอเราว่ามันเว่อไปนะ หนูคิดในใจ) กินข้าวเสร็จอีโอ๋ก็เอาครีมอะไรไม่รู้สีดำๆมาทาหน้าให้หนู หนูรู้สึกว่าหน้าตึงๆ
“อิโอ๋ หน้ากูตึงๆว่ะ”หนูพูด
“เออน่า พอกไว้ก่อนสักครู่ค่อยล้างออก”โอ๋บอก
หลังจากล้างหน้าแล้ว โอ๋ก็เตีอนหนูให้ทานฮอร์โมน ทานยาคุม วิตามินต่างๆแล้วก็เข้านอนกัน
ก่อนนอนหนูก็บอกให้อีโอ๋ไปลงชื่อเข้าค่ายอาสาพัฒนาชนบทด้วย
ไปกันเยอะๆจะได้สนุกดี โอ๋ก็ตกลงทันที แล้วก็คุยอะไรกันอีกนิดนึง แล้วก็เผลอหลับไป
เช้าวันเสาร์หนูออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืด เนื่องจากวันนี้พี่ติ๋มมีงานแต่งหน้านางแบบ
พี่ติ๋มเอ็นดูหนูมาก ให้หนูมาช่วยแต่งหน้านางแบบเลยต้องมากันตั้งแต่เช้ามืด
นางแบบมีประมาณสามสิบคน เยอะมาก แต่ละคนก็แต่งหน้าต่างสไตล์กันไปตามแต่คอนเซ็ปที่เค้าให้มา
เสร็จแล้วต้องรอจนกว่างานจะเลิกซึ่งก็ประมาณสี่โมงเย็น
เหนื่อยมากแต่พอได้ค่าแรงนี่หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ
ได้ตั้งหมื่นนึงแนะ ค่าจ้างแต่งหน้าเหรอเนี่ย โหถ้าหนูมาช่วยพี่ติ๋วอีกละก็หนูรวยแน่ๆเลย
พรุ่งนี้ก็ไปแต่เช้ามืดอีก โหสองวัน สองหมื่น อ๊ายอยากกรีดร้อง
หนูชอบมากเลยจะได้เก็บเงินเยอะๆพ่อกับแม่จะได้สบาย หนูเองก็จะได้สวยๆ
ต้องขอบคุนอิโอ๋มากตั้งแต่รู้จักกับโอ๋มาชีวิตหนูก็เจอแต่เรื่องดีๆแต่สิ่งดีๆมาตลอด ขอบคุนนะโอ๋เพื่อนรัก
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
วันนี้เป็นวันเดินทางไปออกค่าย เมื่อคืนก็เก็บเสื้อผ้าเตรียมตัวออกแรดกันเต็มที่
แต่ก่อนขึ้นรถขอแวะเข้าห้องน้ำซะหน่อย
“อ้าว”เข้ามาก็เห็นปกรณ์ยืนฉี่อยู่ที่โถ ตึกตักตึกตัก หัวใจหนูเต้นแรงจัง
“เธอไปเข้าค่ายด้วยเหรอ” ปกรณ์ถาม
“อืม”หนูตอบเพียงเท่านี้ แล้วเดินเข้าห้องน้ำปิดประตูลงกลอนด้วยหัวใจที่เต้นโครมคราม
พอทำธุระเสร็จ ออกมาก็เจอปกรณ์ยืนท้าวแขนอยู่ตรงหน้าประตูทางออกของห้องน้ำ
เอ๊ะ ยังไม่ไปอีกเหรอ
“เอ่อ…..ขอทางเราด้วย” หนูพูด ทำไมต้องเสียงสั่นด้วยเนี่ย
“เดี๋ยว”เค้าจับแขนหนูแล้วหมุนให้หนูหันไปหาเค้า
“อะไรเหรอ” หนูถาม
“ไปทะอะไรมาทำไมขาวขึ้น” หุย นี่ปกรณ์บอกว่าหนูขาวขึ้นเหรอเนี่ย ดีใจจัง
“เอ่อ……คือ เรากินพวกวิตามินกับพวกกลูต้าอะ” ตอบอย่างกล้าๆกลัวๆ
จริงๆแล้วก็มีฉีดฮอร์โมนด้วยแหละ แต่ไม่บอก บอกไปก็ไม่เข้าใจอยู่ดี
“เหรอ….. มิน่าจำแทบไม่ได้ หน้าก็เปลี่ยน ถ้าไม่เดินกับโอ๋เนี่ยเราจำเธอไม่ได้น่ะเนี่ย”
เหรอ เปลี่ยนแล้วเหรอ เปลี่ยนไปยังไงอะ
“เปลี่ยน……เปลี่ยนยังไงเหรอ เราว่าหน้าเราก็เหมือนเดิมน่ะ”ส่งสายตาตั้งคำถาม
“เอ่อ……………คือ……แบบสวยขึ้นมั๊ง”
อะไรน่ะ ปกรณ์บอกว่าเราสวยสวยขึ้น อุ๊ยเขินอะ
“เหรอ………อืม ขอบใจนะที่ชม”
“เดี๋ยว” เตรียมจะหันหลังกลับออกไปก็โดนกระชากกลับไปอีกแล้ว
จังหวะที่หันกลับไปนั้นหนูตั้งตัวไม่ทันทำให้เสียหลักล้มลงชนกับปกรณ์
ตอนนี้เราสองคนล้มอยู่ที่พื้นห้องน้ำ ปกรณ์อยู่ข้างล่างส่วนหนูอยู่ข้างบน
โดยที่มือทั้งสองข้างของปกรณ์ยันที่อกหนูไว้เลยไม่กระแทกกัน
แต่เดี๋ยวนะ เอ๊ะ มือปกรณ์ยันหน้าอกหนูก็แปลว่า
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
กรีดร้องอย่างสุดเสียง
“เฮ๊ย” เหมือนปกรณ์จะรู้ตัวว่ากำลังจับอะไรของหนูอยู่ ก็เลยอุทานอย่างตกใจ
เราสองคนรีบผละออกจากกัน หนูรีบยืนขึ้นเอามือกุมหน้าอกอย่างอายๆ
“มีด้วยเหรอ” ปกรณ์ถาม ถาอะไรอย่างนั้นว่ะ หนูเสหน้าหลบสายตาที่มองมา หนูว่าหน้าปกรณ์แดงๆนะ
“ถ้ามีแล้วอาย จะมีไปทำไม” หัวเราะแล้วมองหนูขำๆ ขำมากนักเหรอคนบ้า
“ไม่ได้อายที่มี แต่อายที่มีแล้วมันเล็กต่างหาก” ตาบ้า
“ก็ไม่เล็กน่ะ เต็มมือดี” พูดพร้อมยกมือทังสองข้างขึ้นมาประกอบ
“ทะลึ่ง” หลังจากพูดจบหนูก็รีบวิ่งออกมาทันที โดยมีนายปกรณ์ยืนขำอยู่ที่เดิม
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
กลับมาถึงที่รอรถ รถก็มาซะแล้ว ดีที่โอ๋จองที่ไว้ให้ หน่ากับจ๋านั่งอีกั่งด้วยกัน
หลังจากนั้น ปกรณ์ก็ตามขึ้นมา รถมีตั้งหลายคันทำไมต้องนั่งคันนี้ด้วยเนี่ย
ยังอายอยู่เลยอ่า ใช่ซิลืมสังเกตไปเพื่อนเค้าขึ้นมานั่งจองก่อนนี่นานั่งท้ายรถกันเต็มเลย
ตลอดการเดินทางก็เป็นไปด้วยดี เปิเพลงซะลั่นรถเลย
กลุ่มวิศวะและพวกนายปกรณ์ก็ลุกขึ้ร้องรำทำเพลงกันอย่างสนุกสนานครื้นเครง
แซวคนนู้นทีคนนี้ที แต่กลุ่มที่โดนบ่อยสุดก็คงไม่พ้นกลุ่มของหนู
เพราะมีแตคนสวยๆรวมหนูด้วยรึเปล่าหนูก็โดนกับเค้าด้วยนา
น้อยหน่านี่ฮอตสุด จ๋ากับโอ๋นี่เพื่อนๆปกรณ์เดินมาขอเบอร์ถึงที่
แต่จ๋าก็ปฏิเสธเพราะมีหวานใจนายพี่แสงอยู่แล้ว ส่วนโอ๋ก็มีแล้วมั้งไม่แน่ใจที่ให้ไปคงไม่ใช่เบอร์ตัวเองชัวร์
ตลอดส้นทางหนูนั่งคิดแต่เรื่องในห้องน้ำ ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คิดแล้วเวทนาตัวเอง ไม้กระดานแท้ๆเลยเรา ยิ่งคิดก็ยิ่งอาย
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
เรามาถึงค่ายกันประมาณบ่ายสองโมง สถานที่มาเป็นโรงเรียนในชนบทแห่งหนึ่ง ของจังหวัดทางภาคอิสาน
หลังจากที่แยกย้ายกันเอากระเป๋าไปเก็บไว้ในห้องกันแล้ว (ห้องเรียนนั่นแหละแต่พวกเราใช้สำหรับนอน)
พี่เค้าก็นัดทุกคนมารวมตัว บอกกิจกรรมว่าพรุ่งนี้มีอะไรบ้าง บลาๆๆๆๆๆ
แล้วก็ปล่อยให้พวกเราพักผ่อนตามอัธยาศัย ตอนเย็นถึงจะเรียกรวมกันกินข้าวอีกที
หนูก็แยกตัวกันเพื่อนเดินมาดูไร่ดูนาหลังโรงเรียนคนเดียว
เห็นไร่นาแบบนี้แล้ว คิดถึงบ้านนอกคอกนาของหนูจัง พ่อกับแม่จะเป็นยังไงบ้างน่ะทำอะไรกันอยู่
“มาทำอะไรตรงนี้คนเดียว”
“เฮ๊ย” ตกใจ เหตูการณ์เดิมเกิดขึ้นอีกครั้ง หนูล้วทับเค้าโดยมีปกรณ์อยู่ใต้ร่างหนู
แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือ มือของหนูค้ำอยู่ที่เป้าของปกรณ์พอดี
เต็มมือหนูเลย อ๊ายยยยยยยย หูยไม่ต่างจากที่คิดใหญ่ เว่อร์ๆ
“เฮ๊ย” หนูและปกรณ์ผละตัวออกพร้อมกันอย่างตกใจ
เราทั้งสองคนลุกขึ้นบัดใบไม่ใบหญ้าที่ติดอยู่ตามตัวออก
“นี่เธอ คิดจะเอาคืนชั้นใช่มั๊ยที่จับหน้าอกเธอ” ปกรณ์พูดมองหน้าหนูอย่างเดือดดาล
“ป่าวน่ะ” หนูส่ายหน้า อย่างรัว
“ถ้าอยากจับก็บอกเราดีๆก็ได้”
หมับบบบ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด”
หนูสะบัดมือสองสามทีกว่าจะหลุดแล้ววิ่งหนีออกมา
ก็จะอะไรซะอีก นายปกรณ์สุดหล่อของหนูหน่ะสิ ดึงมือหนูไปจับไอ้นั่นเค้า
แถมไม่ให้หนูจับแบบธรรมดๆ เค้าจับมือหนูล้วงเข้าไปข้างในกางเกงเลยน่ะสิ แถมมันก็แข็งขึ้นมาแล้วด้วย
สัมผัสเมื่อกี้กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด มันอุ่นๆแถมโดนน้ำอะไรเหนียวๆด้วยอะ
แล้วไอ้นั่นของปกรณ์มันก็ใหญ่มากๆด้วย เท่าแขนหนูเลย
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
หนูวิ่งเข้ามาหลบในห้องน้ำด้วยใจที่เต้นรัว นี่เมื่อกี้นี้เราจับ
จับ
จับ
จับ
จับมังกรยักษ์ของปกรณ์เหรอเนี่ย ขอตั้งชื่อมังกรยักษ์ของปกรณ์ว่า “มังปกรณ์”
ว่าแล้วก็ยกมือขึ้นดมซะหน่อย กลิ่นอับๆอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของผู้ชายยังติดมือหนูมาอยู่เลย
วุ๊ย อีฟ้า อิหื่น นั่งอยู่ในห้องน้ำซักพักก็ออกมานั่งรวมตัวกับเพื่อนๆ
“นี่อีฟ้า ไปไหนมาเหรอ” จ๋าถาม
“เอ่อ……..คือ เดินเล่นแถวนี้แหละแก เห็นทุ่งนาแล้วคิดถึงบ้านอะ”หนูตอบ
“อือ ใช่ คิดถึงบ้านจัง” จ๋าพูดหลังจากนั้นเราก็นั่งคุยกันไปเรื่อยเปื่อย เล่าเรื่องทะลึ่งๆกันบ้าง
เช่น โอ๋ถามจ๋าว่าตอนเอากับพี่แสงครั้งแรกเป็นไงเจ็บมั๊ย และอีกบลาๆๆๆ
หนูก็ได้แต่นั่งฟังไม่ค่อยได้มีส่วนร่วมเท่าไหร่ยังตะลึงกับ “มังปกรณ์”ไม่หาย
ถ้าโดนมังปกรณ์เข้าไปล่ะก็ไม่รู่จะเดินได้ไหม
อุ๊ย!!!!!!!!! อีฟ้าพอๆเลิกคิดๆ
………………………………………………………………………………………………
ตอนนี้ก็เป็นเวลาหนึ่งทุ่ม พวกพี่ๆก็เรียกรวมตัวกันทานอาหารผ่านทางโทรโข่ง
พวกเราจึงมุ่งหน้ากันไปที่โรงอาหาร มีแม่ครัวของโรงเรียนมาทำอาหารให้เรากินทางโรงเรียนต้อนรับเราดีมาก
โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน อาหารก็มี แกงจืดวุ้นเส้น ส้มตำ ผัดหมี่ และขนมจีน
ผู้ชายบางกลุ่มก็แยกกันนำไปกินกันที่แคมป์ของตัวเอง ก่อกองไฟนอนกันในเต้นท์
(มีห้องดีๆให้นอนไม่นอนนะพวกแก) นั่งเคาะขวดร้องรำทำเพลง มีดื่มกันบ้างตามประสาผู้ชาย
หนึ่งในนั้นก็มีปกรณ์ของหนูรวมอยู่ด้วย
พี่ปีสองที่รู้จักกันกับโอ๋ก็ชวนมันให้ไปร่วมวงด้วยอั๋นก็เลยลากหนูไปเป็นเพื่อน
ส่วนน้อยหน่ากับจ๋าขอบายจะรีบไปอาบน้ำแล้วไปนั่งเล่นไพ่กับกลุ่มเพื่อนผู้หญิงในห้อง พวกหนูสองคนอานน้ำกันแล้ว
ตอนนี้เราสองคนนั่งอยู่หน้ากองไฟกันแล้วพร้องๆกับพี่ๆคณะวิศวะและคณะอื่นๆอีกสองสามคน
พี่เค้าก็ชวนหนูคุยบ้างดื่มบ้างตามมารยาท อีโอ๋นี่โดนคะยั้นคะยอให้ดื่มอยุ่บ่อยๆมันก็นะใครให้มาก็ดื่มหมด
จริงๆหนูก็ไม่เคยดื่มหรอกนี่เป็นครั้งแรก
นั่งคุยไปดื่มไปก็รู้สึกว่าสายตาของมังปกรณ์ เอ๊ย!! ปกรณ์จะจ้องมองมาที่หนู
สายตาแผ่รังสีน่ากลัวๆยังไงก็ไม่รู้บอกไม่ถูก
สักพักหนูก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ พอออกมาเท่านั้นแหละก็เจอนายปกรณ์ยืนอยู่หน้าห้องน้ำอีกแล้ว
“มีเรื่องจะคุยด้วย” แล้วเค้าก็ลากหนูไปที่หลังโรงเรียน อ๊ายยยยยปล่อยนะจะทำอะไรน่ะ ไม่น้า
ม่านฟ้ายังไม่อยากเสียตัว อิอิ
นนนี่ ชะนีป่า
มาต่อแล้วน่ะยาวขึ้นกว่าเดิม ตอนนี้คนเขียนเริ่มหื่นๆแล้ว อ่านแล้วคอมเม้นด้วยน้าาา