ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 +++++++++++++
คือว่าเพิ่งลงเป็นครั้งแรก หลังจากติดตามอ่านของคนอื่นมานาน
ฝากติดตามด้วยนะคะ เอ่อ เป็นเรื่องของเพื่อนรักเราสองคนค่า เห็นน่ารักดีเลยขอแอบมาลงนิดนึง
ไอ้พวกปากแข็ง แต่ชอบเก็กหลุดเนี่ย เราว่ามันน่ารักดี ขอแทนตัวเองว่าไวท์แล้วกันนะคะ ฝากด้วยค่า
มาแก้ประเภทแล้วนะคะ ตามที่พี่ (เจ๊สอง) ได้แนะนำไว้ เรื่องจริงที่เอามาเสริมแต่ง หรือ เรื่องแต่งที่อิงมาจากความจริง ไวท์ก็เลยตัดปัญหาโดยการเปลี่ยนเป็นประเภทนิยายอ่าค่ะ เพราะไม่รู้ว่าจัดไว้หมวดไหนดี แต่ไหนๆ ก็ไม่ใช่เรื่องที่มาจากประสบการณ์ของไวท์ ไวท์ก็เลยไม่อยากเรียกว่าเรื่องเล่า เอาเป็นว่า เป็นนิยายเป็นแล้วกัน เพื่อความปลอดภัย ฮ่าๆขอบคุณพี่ๆ ทุกคนที่ให้คำกำลังใจน้องใหม่นะคะ ^^ รักเล้า
บทที่ 1 เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ (ชื่อตอนเอ้าท์จริงๆ เลยกรู)
....อยากให้ช่วยมาจีบ มาจีบ มาจีบฉันที มาจีบ มาจีบฉันที.... ชะเง้อรอนานแล้ว จีบ มาจีบ มาจีบฉันที มาจีบ มาจีบ มาจีบฉันสักที... ฉันทอดสะพานให้แล้ว...
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของผมดังขึ้นขัดจังหวะการนอนฝันหวานของผม แต่มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดรำคาญแต่อย่างใด ในเมื่อไอ้คนที่โทรมาน่ะคือคนที่ผมลุ้นให้มันมาจีบผมอยู่ทุกวัน ฮ่าๆ แต่แน่นอนครับ ถ้าวันไหนมันลุกมาจีบผมขึ้นมาจริงๆ วันนั้นพวกเราคงย้ายไปอยู่บนดาวอังคารกันเรียบร้อยแล้วล่ะ
“ว่าไงวะ” ผมส่งเสียงหล่อๆแฝงแววเบื่อหน่าย(ที่แกล้งทำ)เอาไว้นิดๆ
“อะไรของมึงวะ กูอุตส่าห์จะพาไปเที่ยว มึงเสือกทำเสียงเบื่อกูงี้หรอวะ” เสียงทุ้มนุ่มหูตอบกลับมาทางสายโทรศัพท์ งอแงเหมือนเด็กเอาแต่ใจไม่มีผิด
“อรุณสวัสดิ์คร้าบบ คุณชาย อยากให้ผมไปไหนเป็นเพื่อนครับ” ผมก็หยอดมันกลับไปบ้าง ปลายทางหัวเราะเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับมาว่า
“เอาน่า ไปอาบน้ำป่ะ อีกครึ่งชั่วโมงเจอกัน”
ผมลุกจากเตียงเพื่อเตรียมตัวสำหรับวันใหม่ที่คาดว่าจะเป็นวันดีๆของผม เพราะไอ้คุณชายมันอุตส่าห์โทรมาปลุกตั้งแต่ยังไม่สิบโมง ทั้งๆที่ปกติแล้วตัวมันเองไม่เคยตื่นก่อนเที่ยงด้วยซ้ำในวันหยุดอย่างนี้ ผมมองดูตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่ในห้องน้ำ ใบหน้าคมคายติดจะหวานเมื่อเผยรอยยิ้มร่าเริงจนเห็นเขี้ยวเล็กๆทั้งสองข้าง และรอยบุ๋มที่แก้มข้างขวา ผมสีน้ำตาลอ่อนซอยรับกับรูปหน้าไล่มาถึงต้นคอ ดวงตากลมโตสีดำสนิทที่จ้องกลับมายังคงสะลึมสะลืออยู่ไม่น้อย แต่มันก็แฝงรอยตื่นเต้นไว้จางๆ จมูกโด่งและริมฝีปากบางชมพูดูเป็นธรรมชาติ อืม!! หล่อไม่ใช่เล่นนี่หว่าเรา ฮ่าๆ
“แม่คร้าบ มีอะไรกินมั่ง” ผมพาร่างในชุดเสื้อยืดบางๆกับกางเกงยีนส์สีซีดตัวเก่งมาถึงห้องครัว ก่อนจะกอดร่างของคนที่ผมรักยิ่งกว่าชีวิตไว้ในอ้อมแขน แล้วหอมที่แก้มนวลนั้นอย่างเอาใจ
“อารมณ์ดีอะไรแต่เช้าหึ ตาเวย์” แม่..ผู้หญิงที่ผมรักที่สุดในโลกหันมาถามด้วยรอยยิ้มอบอุ่น ฮ่าๆ แต่เรื่องที่แม่ถามผมคงจะตอบไม่ได้หรอกนะครับ ว่าลูกชายแม่น่ะกำลังจะออกไปเที่ยวกับเพื่อนผู้ชายที่มันแอบชอบมาตั้งสามปี
ใช่ครับ ผมแอบชอบเพื่อนสนิทมาสามปีแล้ว แถมมันก็ยังเป็นผู้ชายเหมือนผมซะด้วย คิดๆ แล้วก็อดสมเพชตัวเองไม่ได้ อยู่ใกล้แต่เหมือนไกลจริงๆ แม่งง เน่าตัวเองโว้ยย ทำไมผู้ชายหล่อๆ อย่างผมต้องมาชอบผู้ชายด้วยกันวะเนี่ย หรือว่าคนบนฟ้าเกิดนึกอิจฉาผมที่เกิดมาหล่อเกินไป ถึงได้ทำให้ผมไปตาบอดหลงรักไอ้เวรนั่น หมดกัน ชีวิตหนุ่มหล่อของผม
“เป็นอะไรไปลูก ทำหน้าเศร้าเชียว มาๆ มากินข้าวกับแม่” ใบหน้าใจดีส่งรอยยิ้มอบอุ่นมาให้ ถึงแม่จะไม่ใช่แม่แท้ๆของผม แต่ผมก็รักแม่นะครับ
“ไม่ล่ะครับ เดี๋ยวต้องออกไปกับไอ้ไนท์” เหอๆ ไอ้เอี้ยไนท์เนี่ยล่ะครับ จำชื่อมันไว้ มันคือไอ้เลวที่มาทำลายชีวิตหนุ่มโสดอย่างผม เหอๆ โทษทีว่ะ เพื่อน พอดีกูชอบโยนขี้ให้ห่างตัวว่ะ
“แหม ที่แท้อารมณ์ดีที่ได้ออกไปเที่ยวนี่เอง หึหึ” อ้าว รู้ทันอีกนะครับแม่ ว่าแต่นี่มันก็เลยครึ่งชั่วโมงมานานแล้วนะ ทำไมไอ้ไนท์ยังไม่โผล่หัวมาซะทีวะ แม่ง มึงนะมึง โทรมาปลุกกูเสือกมาสายซะเอง เดี๋ยวมาเมื่อไรพ่อจะด่าไม่เลี้ยงเลย เหอๆ บ่นไปงั้นเองแหล่ะครับ ถ้าด่ามันแล้วมันไม่ชวนมาอีก ผมก็ซวยดิ เหอๆ เรื่องอะไรจะทำลายโอกาสตัวเองล่ะครับ ( สามปีแล้วยังไม่เลิกหวังอีกนะกู)
‘ปิ้นๆ’ เสียงแตรรถดังขึ้นหน้าบ้านทำให้ผมลุกขึ้นจากโซฟาในห้องนั่งเล่นด้วยความกระตือรือร้น ไม่อาจเก็บซ่อนอาการยิ้มกว้างไว้ได้
“แม่ ไอ้ไนท์มาแล้ว ผมไปนะครับ” ผมตะโกนบอกแม่ด้วยเสียงร่าเริงก่อนจะรีบรุดไปหน้าบ้าน สิ่งแรกที่ผมเห็นคือใบหน้าหล่อเหลาแฝงแววกวนทีนอยู่เสมอ จมูกโด่ง ริมฝีบางบางอมยิ้มน้อยๆ และเส้นผมดำสนิทที่ยาวระต้นคอ
“โทษทีว่ะ พอดีรถติด” แหม ข้อแก้ตัวยอดฮิตสำหรับคนมาสายเลยนะมึง
“ไม่ใช่มาสายเพราะผู้หญิงหรอวะ” ผมก็แซวมันเล่นครับ เรื่องปกติของมันที่จะต้องควงผู้หญิงสวยๆ ไม่ซ้ำหน้า เหอๆ แล้วไอ้เรื่องผู้หญิงของมันนี่ก็ทำให้ผมปวดหัวพอๆ กับปวดใจ
“อ้าว เฮ้ย มึงรู้ได้ไงเนี่ย ไอ้เวย์ แม่ง มึงโคตรแม่นเลยวะ” อ้าว สรุปเรื่องผู้หญิงจริงๆ ด้วยใช่ไหมวะเนี่ย แม่งง กูล่ะไม่น่าหาเรื่องถามมันให้เจ็บใจตัวเองเล้ย
“อ่ะ อะไรของมึงวะ”
“ก็น้อง....” ไอ้ไนท์มันกำลังจะอธิบายอะไรสักอย่างด้วยสีหน้าเซ็งๆ ทว่ากลับมีเสียงหนึ่งขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน
“พี่ไนท์คะ? จะไปได้รึยัง” โอ้! ชัดเลยครับว่าอะไร น้องแนน แฟนคนล่าสุดของไอ้ไนท์มัน ผมสีน้ำตาลดัดเป็นลอน ใบหน้างามถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางอ่อนๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงใจเต้นตาลอยไปกับความสวยของเจ้าหล่อน แต่ว่าไม่ใช่ตอนนี้ ในเมื่อน้องเขาเป็นศัตรูหัวใจผมนี่ครับ แม่ง ไอ้เวย์มึง ยังงี้เขาไม่เรียกศัตรูเว้ย เพราะน้องเขาชนะน็อกมึงไปแล้ว
“อ่ะครับ เฮ้ย! เป็นไรวะมึง หน้าซีดๆ ไม่สบายป่าววะ?” เสียงไอ้ไนท์ปลุกผมจากห้วงความคิด กูจะเป็นอะไรล่ะไอ้เอี้ย แม่งมาหลอกให้กูดีใจ มึงจะไปเดทกันแล้วจะชวนกูทำไมวะ
“ป่าว” ผมตอบมันไปด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ สะกดกลั้นความรู้สึกแย่ๆที่ควรจะชินได้แล้วของตัวเองเอาไว้
“แน่ใจนะ?” ไอ้ไนท์ถามย้ำอีกครั้งด้วยสีหน้าเป็นห่วง เฮ้อ! เอาวะกู ตายเป็นตาย ไหนๆก็แต่งตัวมาซะหล่อแล้ว ไปก็ไปวะ
“เออ จะไปรึยังวะ น้องเขารอแล้ว” ผมพูดจบก็เดินผ่านหน้ามันไปขึ้นรถสปอร์ตของมันทันที แน่นอนว่าผมต้องนั่งข้างหลัง เหอๆ รถสปอร์ตมันก็ต้องเอามาเอาใจหญิงอยู่แล้วสิวะ แถมมีสาวมาด้วยอย่างนี้ ได้นั่งข้างหลังก็ดีถมเถไปแล้ว ไอ้เวย์ เมื่อไรมึงจะเลิกเป็นแบบนี้ซะทีวะ มีผู้หญิงตั้งเยอะแยะรอมึงอยู่ ทำไมมึงไม่สนใจ ไอ้โง่เอ๊ย
“ไอ้เวย์ ใครบอกให้มึงไปนั่งข้างหลัง” เสียงเข้มดังขึ้นข้างหูผม เมื่อลืมตามองก็ต้องตกใจที่ไอ้ไนท์มันเปิดประตูยื่นหน้าเข้ามาในระยะเผาขน ไอ้สาด นี่ถ้ากูเป็นศูนย์หน้านะมึง ระยะแค่นี้กูยิงเข้าไปแล้ว เฮ้ย ไม่เกี่ยวกันเว้ย สงสัยผมจะตกใจจนเบลอแฮะ
“พูดอะไรของมึง?” ผมถามมันด้วยน้ำเสียงอ่อนอกอ่อนใจ ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ แต่เป็นใจผมเองเนี่ยแหละ ที่ตัดมันไม่ได้ซะที
“ไปนั่งข้างหน้ากับกู” มันพูดด้วยสีหน้าจริงจัง เวรแท้เนอะมึง ไอ้นี่มันบ้าหรือเปล่าวะ หรือวันนี้อากาศมันร้อน ไอ้ไนท์มันถึงทำตัวไร้สาระอย่างนี้ มีอย่างที่ไหนมากับแฟน เสือกจะให้เพื่อนไปนั่งข้างหน้า ไอ้เท่าที่ไปเดทแล้วลากผมไปนี่มันก็แย่พออยู่แล้ว ไอ้เวรไนท์มึงจะแกล้งกูหรือไงวะ น้องแนนของมึงเขาจะกินหัวกูเข้าไปอยู่แล้ว
“มึงจะบ้าหรือไง มึงก็นั่งข้างหน้ากับน้องเขาสิวะ ไปเลยไป กูจะนอน” ว่าแล้วผมก็ล้มตัวลงนอนที่เบาะหลังแสนนุ่มสบายของมันทันที ก่อนที่มันจะทันได้เถียงอะไร เรื่องอะไรจะเอาชีวิตไปเสี่ยงล่ะครับ รู้ๆ กันอยู่ครับว่าความหึงหวงของผู้หญิงน่ะ มันน่ากลัวขนาดไหน ถึงเธอจะไม่รู้ว่าผมคิดจะแทงข้างหลังเพื่อนสนิทก็เหอะ ผมได้ยินมันถอนหายใจฮึดฮัดอย่างไม่พอใจ แต่ก็ยอมขับรถออกไปโดยดี
ผมขยับตัวลุกขึ้นนั่งทันทีที่รถจอด ผมไม่ได้หลับหรอกครับ รู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลานั่นแหละ แต่ที่ต้องทำเป็นนอนหลับน่ะ ก็เพราะไม่อยากเห็นภาพบาดตาบาดใจที่น้องแนนเขาจะป้อนน้ำป้อนขนมเอาใจแฟนเขา แต่ถึงปิดตา หูผมก็ไม่ได้หนวก ยิ่งคุณเธอพูดดังซะขนาดนั้น ใครไม่ได้ยินก็บ้าแล้ว
เบื้องหน้าผมคือสวนสนุก!! สถานที่สุดท้ายที่ผมคิดว่าไอ้เวรไนท์จะมา เหอๆ ดูท่าน้องคนนี้คงสำคัญกับมันมากเลยล่ะครับ มันถึงได้ตามใจกันขนาดนี้ ขนาดผมเคยชวนมันนะ มันยังไม่ยอมมาเลย โอ๊ย เจ็บโว้ยย แสลงใจว่ะแม่ง
“เป็นไงมั่งวะ” เสียงไอ้ไนท์ดังขึ้นข้างตัวผม ทำให้ผมละสายตาจากบรรดาเครื่องเล่นและผู้คนไปมองหน้ามัน ผมไม่รู้หรอกนะว่าตอนนั้นผมทำหน้าแบบไหน รู้แต่ว่าไอ้ไนท์มันทำหน้าเครียดขึ้นทันทีที่มันเห็นหน้าผม
“กูไม่ได้เป็นอะไร ไปๆ เข้าไปเล่นกันได้แล้ว” ผมรีบจัดแจงดันหลังตัวมันและน้องแนนให้เดินไปข้างหน้า แล้วรีบหันหลังจะชิ่งหนีไปนั่งจิบกาแฟในร้านใกล้ๆทางออก เผื่อบางทีผมอาจจะชิ่งกลับบ้านเลยก็ได้ ที่จริงกูก็อยากไปเล่นกับมึงนะแต่ตอนนี้ขอกูไปทำใจก่อนนะเพื่อน ถึงกูจะรู้ว่ามึงเจ้าชู้ เปลี่ยนแฟนไปเรื่อยๆ แต่พอรู้ว่าน้องแนนเขาสำคัญกว่าแฟนคนก่อนๆ ของมึง ไม่รู้ทำไมใจกูมันแปล๊บๆ พิกล
“นั่นมึงจะไปไหน” มันถามเสียงเข้ม สะบัดมือออกจากน้องแนน แล้วเดินเข้ามาหาผม เหอๆ ไม่ต้องสนกูก็ได้ กูยังไม่อยากเห็นหน้ามึงโว้ย
“กูจะไปนั่งแดกกาแฟรอมึงที่ร้านโน้นอ่ะ เล่นเสร็จแล้วค่อยมาตามกูแล้วกัน” ผมบอกมันอย่างหน่ายๆ ไปซะทีสิวะ แม่งง
“ทำไมวะ ไหนวันนั้นมึงบอกกูว่าอยากมาเล่น พอกูพามามึงเสือกไม่อยากเล่นขึ้นมาอีก” มันพูดเสียงดังขึ้น เหมือนคนโมโห ไม่พอใจอะไรสักอย่าง อะไรของมันวะ คนอุตส่าห์เปิดทางให้อยู่ด้วยกัน ยังมาโมโหกูอีก เฮ้อ เหนื่อยเว้ย แต่เดี๋ยว!! มันบอกว่าพาผมมาเล่น?
“มึงจำได้?” ผมถามอย่างไม่ค่อยมั่นใจเท่าไร มันเนี่ยนะจะพาผมมาเล่นที่นี่ ตอนนั้นมันยังบอกว่าผมปัญญาอ่อน เรียนอยู่ตั้งปีสามแล้ว ยังอยากมาสวนสนุกอยู่อีก
“เออ ทุกเรื่องของมึงน่ะ กูจำได้หมดแหล่ะ” ประโยคที่มันพูดออกมาทำให้หัวใจผมพองโต ผมเกือบจะยิ้มออกมาอยู่แล้ว ถ้ามันไม่พูดต่อไปว่า
“...ก็มึงเป็นเพื่อนสนิทกูนี่” เท่านั้นล่ะครับ หัวใจผมแฟ่บลงทันที เหมือนลูกโป่งถูกปล่อยลม เหอๆ โทษทีว่ะ กูก็ลืมตัวไป เสือกมาสำคัญตัวเองผิดอีก
------------------------------------------
พอใช้ได้รึเปล่าก็ไม่รู้ แต่จะพยายามเขียนให้ดีขึ้นค่ะ
***เิข้ามาแก้หัวเรื่องเฉยคะ***