:. t h u g ♡ ตัวร้าย -แจ้งข่าวหนังสือและE-book- update 11/11/2018 P.34 end
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -แจ้งข่าวหนังสือและE-book- update 11/11/2018 P.34 end  (อ่าน 414341 ครั้ง)

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -09- update 14/03/2017
«ตอบ #60 เมื่อ14-03-2017 10:54:20 »

โผล่มาตัดอารมณ์มากเลยค่ะ :hao3:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -09- update 14/03/2017
«ตอบ #61 เมื่อ14-03-2017 13:17:45 »

เฮอะ.....ซันกำลังอารมณ์ดีๆ เปลี่ยนเลย
เมื่อไหร่ๆ พี่อิน ก็จะพุ่งเข้ามา "คุณคนเล็ก"
ทั้งที่ซัน บอกแล้วว่าอยู่คนเดียวได้
ก็พี่อิน ยังอยากกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของซันเหมือนเดิม
ทั้งที่แก้ไขปัญหาของตัวเองไม่ได้
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ knxiiviii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 90
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -09- update 14/03/2017
«ตอบ #62 เมื่อ14-03-2017 19:27:40 »

อ้าวค้าง555 มีความละมุนละไม คนกำลังอารมณ์ดีๆพี่อินมาทำไมคะ ไม่ใช่ซันนะนักอ่านอย่างเรานี่แหละเหอะๆ ฟีลกู้ดปลิวหายหมด

ออฟไลน์ _mysecretlove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-2
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -10- update 16/03/2017
«ตอบ #63 เมื่อ16-03-2017 00:48:55 »

ตัวร้าย
10






 “คนรู้จักหรือ”



ยูก้มมากระซิบให้ได้ยินกันสองคน เขาคงเห็นผมนิ่งเงียบไปตอนที่อินเรียกและเดินเข้ามาหา ผมถอนหายใจแล้วพยักหน้า



“สวัสดีครับ”



ผมกล่าวเสียงเรียบแล้วถอยหลังให้ตัวเองยืนอยู่ข้างยู เขาเลิกคิ้วก่อนจะขมวดเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าผมไม่ได้อยู่คนเดียวและยูก็เป็นคนที่เขาไม่คุ้นหน้า



“มาทำอะไรแถวนี้ครับ”



เขาเก็บความสงสัยไว้ใต้สีหน้ายิ้มแย้มได้อย่างมิดชิด ผมกลอกตาเบื่อหน่ายทำให้ยูที่ยืนอยู่ข้างกันมีท่าทีสงสัย



“ธุระครับ”



ผมตอบแบบไม่เต็มใจนัก คนตรงหน้ายังคงรอยยิ้มการค้าได้ดีเช่นเดิมแต่เหมือนเขาจะรู้ว่าผมคงไม่พูดอะไรไปมากกว่านี้เป้าหมายจึงเปลี่ยนเป็นคนข้างกายของผมแทน



“เพื่อนน้องซันหรือครับ”



ผมเกือบหลุดเบะปากกับคำเรียกของเขา ยูหันมามองผมอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันไปยิ้มคุณชายให้อินแต่ผมรู้สึกว่าในรอยยิ้มนั้นมันดูต่างจากที่ยูเคยยิ้ม



“เพื่อน...หรือเปล่ายังไม่ค่อยแน่ใจครับแต่เรามาด้วยกัน”



ยูตอบอีกคนเหมือนจะสุภาพแต่ผม ไม่สิอินเองก็คงจะสัมผัสได้ว่าน้ำเสียงของยูดูท้าทายชอบกล เห...ผมแปลกใจนะเนี่ยที่เห็นคุณชายใจเย็นแบบยูมีโมเม้นอย่างนี้ด้วย ยูหันมามองผมแล้วยิ้มมุมปากให้เล็กน้อยขยับเข้ามาใกล้จนไหล่ชนกัน



อินมองเราทั้งคู่นิ่งรอยยิ้มที่เคยมีเริ่มเลือนหายกลายเป็นเฉยชา ดวงตาของเขาฉายแววไม่พอใจออกมา



“หมายความว่าอย่างไรครับคุณคนเล็ก”



ผมไม่ได้ตอบเขาในทันที ผมเข้าใจสิ่งที่ยูต้องการจะสื่อจึงตามน้ำไป ผมยักไหล่แล้วตอบเขา



“ก็อย่างนั้นล่ะครับ ไปกันเถอะคิวเราแล้ว”



ท้ายประโยคผมบอกกับยูซึ่งเขาก็พยักหน้ารับรู้เขาแตะหลังผมเบา ๆ ให้เดินก่อน เราทั้งคู่ก้มหัวลาให้อินที่ยืนนิ่งอยู่ ยูรับของแทบจะทั้งหมดไปถือ ผมได้ถือแค่ขนมหนึ่งถุงเท่านั้น



“โคตรจะแมน”



ผมเอ่ยจิกกัดเขาด้วยรอยยิ้ม เขายิ้มตอบเป็นรอยยิ้มคุณชายเช่นเดิม



“แน่นอน เปิดประตูให้ผมเลยครับคุณ”



ใครจะรู้ว่าผู้ชายคนนี้เห็นนิ่ง ๆ แต่ร้ายไม่เบา เขาพูดในโทนเสียงทุ้มนุ่มที่ค่อนข้างดังจากปกติ ผมอมยิ้มขำแต่ก็เล่นไปกับเขา เดินนำหน้าไปก่อนเปิดประตูรอให้เขาเดินตามมาออกไปก่อนและเดินตามออกไปโดยไร้การล่ำลากับคนที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่ร้านกาแฟ



ผมหุบยิ้มทันทีที่เราเดินออกมาในระยะไกลพอยูเองก็เช่นกันเขาเดินอยู่ข้างผมเงียบ ๆ ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกมา



“จะไม่ถามอะไรหน่อยหรือ”



ผมเอ่ยขึ้นมาลอย ๆ แต่คนข้างกายรู้ดีว่าผมหมายถึงเรื่องอะไร



“ขอหนึ่งคำถาม”



“เอาสิ”



ผมตอบ ยูยิ้มแล้วหยุดเดินร่างสูงโปร่งกว่าผมเล็กน้อยหันหน้าเข้ามาหา ผมสูดหายใจลึกเตรียมฟังคำถามของเขา ก็คงไม่แคล้วถามว่าอินเป็นใคร เป็นแฟนเก่าหรือเปล่าอะไรเทือกนั้น



คู่แข่งเพื่อนกูหรือเปล่า



ผมเลิกคิ้วมองอยู่อย่างงงงวย สีหน้าเขายังคงยิ้มแย้มเช่นเดิมแต่แววตากลับกดดันจนน่าขนลุก ผมนิ่งอยู่สักครู่ก่อนมุมปากจะแย้มยิ้มจนกว้างแล้วส่ายหัว



“ไม่ใช่ ไม่เลยผู้ชายคนนั้นเทียบกับบีสท์ไม่ได้สักนิด



ยูยิ้มพอใจกับคำตอบของผม



“ดีมาก ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีอะไรจะถามแล้ว อ้ออย่าลืมบอกมันด้วยล่ะว่าเจอใคร ถึงเขาจะไม่ใช่คู่แข่งอะไรของเพื่อนกูแต่ดูก็รู้ว่าค่อนข้างมีความสำคัญใช่ไหมล่ะ อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่ต้องพูดก็ได้ ไอ้เรื่องเล็ก ๆ นี่ล่ะที่สะสมจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ เข้าใจใช่ไหม”



ผมร้องว้าวเบา ๆ เพราะไม่เคยได้ยินยูพูดประโยคที่ยาวมากขนาดนี้ เขารู้ถึงความกวนตีนของผมเลยยิ้มขำส่ายหน้าเพราะว่ามือทั้งสองข้างของเขาถือของเต็มเขาจึงใช้ขาเตะมาเบา ๆ ที่น่องของผม



“ถามว่าเข้าใจไหม ไม่ใช่ให้มากวนตีนกู”



“ครับ ๆ เข้าใจครับคุณพ่อ”



ผมยิ้มแกล้งพูดล้อเลียนเขา ยูขมวดคิ้วแล้วโคลงหัว



“เติมคำว่าผัวไปท้ายประโยคน่าจะเหมาะกว่า”



“ไอ้!!!!”



ผมได้แต่ถลึงตาใส่ยูที่หัวเราะหึหึแล้วเดินผิวปากนำผมไป ไอ้บ้าเอ๊ย พ่อผัวอะไรกันเล่า! ผมเดินกระฟัดกระเฟียดตามหลังเขาไปติด ๆ ปากก็ขมุบขมิบว่าเขาแต่มุมปากของตัวเองกลับกลั้นยิ้มไว้จนปวดแก้ม



โดยที่ผมไม่รู้เลยว่าในมุมหนึ่งไกลออกไป ร่างสูงของคนหนึ่งที่อยู่ในบทสนทนาจะยืนมองผมทั้งคู่ด้วยสายตานิ่งงัน



“นานมากนึกว่าไปซื้อกันที่ชาติหน้า”



พอมาถึงรถเมก็บ่นเราสองคนทันที ยูก้มหัวขอโทษเพื่อนของเขางก ๆ ดูก็รู้ว่าจงใจกวนเมเล่น



“ขอโทษครับคุณผู้หญิงพอดีไทม์แมชชีนติดขัดนิดหน่อยเลยได้กลับไปชาติที่แล้วมาก่อนถึงกลับมาปัจจุบันได้”



“สัด  ซันดูมันกวนตีนเมดิ ชักเอาใหญ่แล้วนะยูอยู่กับไอ้กายไอ้มาร์คมากไปแน่ ๆ”



เมบ่นเพื่อนตัวเองแล้วหันมาฟ้องผมมีเจนพยักหน้าเห็นด้วย ผมสังเกตได้อีกอย่างว่าเวลายูกวนอะไรพวกเธอ นอกจากจะบ่นไม่จริงจังแล้วยังพาดพิงไปถึงจอมกวนของกลุ่มอย่างเช่น สกาย เปา หรือไม่ก็มาร์ค นึกแล้วก็ขำ ถ้าพวกนั้นได้ยินต้องงอแงแล้วบ่นว่าพวกเธอสองมาตรฐานแน่



“จะขับเองหรือ”



ยูถามเมื่อเห็นเมเปิ้ลนั่งประจำที่คนขับ เธอพยักหน้าเขาจึงเดินมานั่งข้างหลังกับผม



“รู้สึกแปลก ๆ แฮะให้ผู้หญิงขับรถให้”



ผมบอกพวกเขากำลังจะอาสาขับให้แต่ยูยกมือห้ามเสียก่อน



“ปกติน่ะแล้วบอกไว้ก่อนนะเห็นอย่างนี้เมมันขับรถเก่งกว่าไอ้มาร์คเยอะ”



“เรื่องจริง?”



“ช่าย เมมันดริฟได้ด้วยนะ”



เจนหันมายิ้มแฉ่งบอกผม ผมทำหน้าเหวอแล้วหันไปมองคนขับที่ยิ้มจนตาหาย



“ลองไหมซันเดี๋ยวดริฟโชว์”



ผมรีบส่ายหัวยกมือปฏิเสธพลางยิ้มแห้งส่งให้เธอ



“คราวหน้าแล้วกันนะเม เดี๋ยวกาแฟหก”



เมทำหน้าเสียดายแล้วสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าคราวหน้าจะพาผมไปดริฟรถเล่น ผมว่าไม่ใช่ความคิดที่ดีเสียเท่าไหร่แต่ก็ได้แต่พยักหน้ายิ้มแห้งให้เธอไปโดยมีอีกสองคนยิ้มขำปนให้กำลังใจผมไปด้วย อีกราว ๆ ยี่สิบนาทีถัดมาพวกเราก็กลับมาถึงบ้านด้วยความปลอดภัย เมเปิ้ลเปิดกระจกรถตรงป้อมยามเห็นชายสูทดำหน้าตาเกรงขามคนหนึ่งเดินเข้ามาหา



“ครับคุณหนู”



เขาโน้มตัวเข้ามาถามเมด้วยน้ำเสียงสุภาพ เมเปิ้ลหันมาขอถุงกาแฟจากยูไปถุงหนึ่ง ยูก้มหาอยู่สักครู่ก็ยื่นส่งไปให้เธอ เมเปิ้ลรับไว้แล้วส่งกาแฟเจ้าดังไปให้เขา



“ออกไปซื้อของกันมาค่ะ ขากลับผ่านร้านกาแฟเลยซื้อกลับมาฝากวันนี้อยู่กันสี่คนใช่ไหมคะพี่ฉาย”



“ครับคุณหนู ขอบคุณครับ”



เขารับถุงกาแฟไปแล้วค้อมศีรษะให้อย่างนอบน้อบแต่ก่อนที่เมจะปิดกระจกเจนก็ท้วงไว้ หญิงสาวยื่นขนมถุงใหญ่ไปให้ชายที่ชื่อฉายอีกรอบ”



“ขนมค่ะ แล้วก็ขอบคุณที่เหนื่อยดูแลพวกเรามาตลอดนะคะพี่ฉาย”



พี่ฉาย...ผมเรียกตามพวกเขายิ้มขอบคุณแล้วรับถุงขนมไป



“ขอบคุณครับ”



“พี่ฉายเป็นคนดูแลของพวกเราน่ะ จะบอกว่าไงดีเหมือนพี่เลี้ยงอ่ะจริง ๆ มีอีกสองคนแต่พวกเขาสลับ ๆ กันมา”



เจนช่วยไขความสงสัยของผม ผมคิดตามจะพูดว่าอย่างไรดีดูแล้วไม่เหมือนกับพี่เลี้ยงสักนิดเหมือนบอดี้การ์ดเสียมากกว่า



“เหมือนบอดี้การ์ด”



“จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ผิดแต่พวกเราไม่อยากเรียกพวกพี่เขาอย่างนั้น พวกเขาเหมือนกับญาติผู้ใหญ่ของพวกเราคอยช่วยคอยทำอะไรให้ตั้งหลายอย่าง”



เจนบอก เธอหันมายิ้มให้ผมพอดีกับที่เมเปิ้ลถอยรถจอดเรียบร้อย พวกเราทั้งสี่คนช่วยกันขนของลงจากรถกันเห็นบีสท์กับแพรวเดินออกมารับ



“หิวไส้จะขาด”



แพรวบ่นเดินมาช่วยเมถือของ



“รอนิดรอหน่อยไม่ได้เดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยว”



“ใครบอกกูรอไม่ได้ บ่นเฉย ๆ เว่ย ไป ๆ วันนี้กินบ้านนั้นนะ”



แพรวบอกแล้วบุ้ยปากที่ทางบ้านผู้ชาย



“ให้ไอ้เปากับไอ้เชนล้าง”



“ทำดี”



สาว ๆ แปะมือกันแล้วเดินกอดคอร้องเพลงเข้าบ้าน ยูยิ้มส่ายหัวแล้วเดินตามเข้าไปเหลือผมกับบีสท์ยืนกันอยู่สองคนที่โรงรถ



“มีอะไรหรือเปล่า”



คำถามของบีสท์ทำผมเลิกคิ้วงง เขาถอนหายใจแล้วยกมือข้างที่ว่างมาจิ้มหน้าผากผม



“สีหน้ามึงดูไม่ค่อยสบายใจ”



“เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วจะเล่าให้ฟังนะ จริง ๆ ก็ไม่ได้สำคัญอะไรหรอกแต่ก็อยากบอกมึงทุกเรื่องอ่ะ”



เขายิ้มมือใหญ่โคลงหัวผมเบา ๆ



“จะเรื่องเล็กหรือใหญ่แต่ถ้าเป็นเรื่องของมึงสำหรับกูมันสำคัญหมดแหละ



ผมยิ้มจนเต็มแก้มความรู้สึกหม่น ๆ จากที่เจอกับอินปลิวหายไปเป็นปลิดทิ้งเมื่ออยู่ตรงหน้าคน ๆ นี้ สีหน้าและท่าทางของบีสท์ซื่อตรงและจริงใจเสมอมันทำให้ผมรู้สึกอยากเข้าใกล้ ๆ คน ๆ ยิ่งไปอีก



“เฮ้!!! จะจีบกันอีกนานไหมวะพวกกูหิวเว้ย”



เสียงตะโกนมาจากหน้าบ้าน เชนป้องปากตะโกนเรียกพวกผมแล้วทำหน้าเหม็นเบื่อ บีสท์ชูนิ้วกลางส่งไปให้แล้วดันหลังผมให้เดินเร็ว ๆ เข้าบ้าน เชนยืนพิงกรอบประตูทำหน้ากวนส่งมาให้



“จะแดกข้าวหรือตีนกู”



“ใช่ซี่ ฉันมันก็แค่ค๊นโทรผิด บอกเค๊าฉั๊นโทร่ผิด”



“หึหึ ไอ้ห่า”



บีสท์หัวเราะขำเพื่อนตัวเองที่แหกปากร้องเพลงผิดคีย์แล้วกอดคอกันเดินเข้าบ้าน บอกว่ากอดคอคงไม่ถูกนักเพราะบีสท์รัดคอเชนแน่นจนอีกฝ่ายดิ้นเร่า



“มา ๆ อย่ามัวแต่เล่นกัน มากินข้าว”



แจมกวักมือเรียกทุกคนไปรวมตัวในห้องนั่งเล่นที่ตอนนี้โต๊ะกระจกถูกย้ายไปข้าง ๆ แทนที่ด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ปู ส้มตำและอาหารมากมายวางอยู่ตรงหน้า พวกผู้หญิงยูกับเปานั่งรอกันอยู่ก่อนหน้าแล้วพวกผมจึงเดินเข้าไป ผมยื่นถุงไก่ย่างหมูย่างที่ตัวเองเป็นคนถือส่งให้นาฟแกะใส่จานจากนั้นก็ลงมือจ้วงกันไร้เสียงพูดจา



“เอ้อลืมเล่า ป้าแม่งฮามากคิดว่าซันเป็นผู้หญิงแถมยังเป็นเมียยูด้วย”



เจนเริ่มเล่าเหตุการณ์ที่ผมถูกป้าเข้าใจผิด เมื่อทุกคนได้ฟังก็หัวเราะกันท้องคัดท้องแข็งแล้วบอกว่าก็ไม่แปลกที่ป้าจะเข้าใจผิด บีสท์เองยังขำผมเลยเราใช้เวลากินเข้ากลางวันที่ค่อนมาทางบ่ายแก่ ๆ กันไม่ถึงชั่วโมงเพราะทุกคนต่างหิวโซ หน้าที่เก็บล้างเป็นของเชนและเปาที่ไม่บ่นสักแอะ พวกผู้หญิงกลับไปนอนเล่นที่บ้านของพวกเธอ ยูกลับไปอ่านหนังสือที่ห้องกระจกเหลือผมกับบีสท์เพียงสองคนในห้องนั่งเล่น



“ไปนั่งเล่นหลังบ้านกันไหม”



“เอาสิ”



ผมเดินตามคนเอ่ยชวนมาหลังบ้านเราสองคนนั่งแกว่งขาในสระน้ำมองแดดจ้าด้านนอกแล้วหยีตา



“ไหนมีอะไรเล่ามาซิ”



ผมสูดหายใจเอนตัวไปด้านหลังยันมือไว้กับพื้นเงยหน้ามองฟ้า



“เจออินที่ร้านกาแฟ”



“...”



“กูอยู่กับยู เขาเดินเข้ามาหา ถามว่ามาทำอะไรที่นี่แล้วถามว่ายูเป็นใคร หมอนั่นเหมือนจะรู้ว่ากูไม่ค่อยอยากคุยกับอินเท่าไหร่เลยช่วยไว้ ไม่ตอบว่าเป็นอะไรกันแต่ก็มาด้วยกัน”



ผมหันไปมองบีสท์ เขาเองก็มองผมอยู่ เขาฟังแล้วก็เลิกคิ้วยิ้มบาง



“งานถนัดยูมันล่ะ”



“หืม?”



“เรื่องไม้กันหมาเรียกใช้ยูมันได้”



บีสท์พูดน้ำเสียงสบาย เอนหลังเงยหน้าท่าเดียวกับผม



“แล้วรู้สึกอย่างไรบ้างที่เจอกับเขา”



ผมส่ายหน้า



“ไม่รู้สิ แต่ไม่ชอบเลยกูกลัวว่าเขาจะมาดึงกูออกจากฝันดีตรงนี้ โอ๊ะ! เจ็บนะดีดทำไม”



ผมทำหน้ามุ่ย ก็บีสท์น่ะสิดีดหน้าผากผมดังเป๊าะ เจ็บนะ



“เจ็บก็ดีจะได้รู้ว่านี่คือความจริง”



“...”



ผมเงียบและฟังเขาพูดต่อ



“กูที่อยู่ข้างมึงตรงนี้ ไอ้พวกนั้นที่อยู่ในบ้าน รักยม พวกพี่ฉายที่อยู่หน้าบ้าน พวกเรามีตัวตนกันทุกคน...ซันมึงไม่ได้ฝันไปหรอก”



ผมก้มหน้าเม้มปากแน่นรู้สึกขอบตาร้อนผ่าวจนรู้สึกถึงสัมผัสอบอุ่นที่ผ่ามือ



กูอยู่ตรงนี้นะ



“อื้อ”



“ร้องไห้อีกแล้ว บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าร้องกูใจไม่ดี”



เขาบอกผมเสียงนุ่มอีกมือที่ไม่ได้กุมมือผมถูกส่งขึ้นมาเช็ดน้ำตาของผมแผ่วเบา



“ก็มันดีใจ อยากอยู่ตรงนี้ตลอดไปเลย ไม่อยากออกไปข้างนอก ไม่อยากเจอใคร ไม่อยากเจอคนพวกนั้น..”



ผมสะอื้นเล็กน้อยบอกเขาเสียงติดขัด บีสท์เลิกเช็ดน้ำตาให้แต่เขาขยับเข้ามาใกล้ปล่อยมือที่กุมกันแล้วเปลี่ยนมาโอบไหล่จับหัวผมให้ซบไหล่เขาแทน ยิ่งมือใหญ่ลูบหัวผมด้วยความอบอุ่นมากเท่าไหร่น้ำตาของผมก็ยิ่งไหลไม่หยุด



“ชู่ว..ไม่เอาไม่พูดแบบนั้น อย่างที่กูบอกว่าบ้านนี้ต้อนรับมึงเสมออยากมาเมื่อไหร่ก็ได้แล้วกูเองก็จะอยู่ข้าง ๆ มึงเท่าที่มึงต้องการแต่อย่าทำให้การมีอยู่ของกูกับพวกเพื่อนทำให้มึงเปลี่ยนไปหันหลังให้กับทุกคน แบบนั้นมันไม่ดีเลยรู้ไหมซัน”



“แต่...”



“ฟังก่อน กูไม่รู้หรอกว่าพวกนั้นของมึงหมายถึงใคร แต่อย่างน้อยมึงก็ยังมีคนที่หวังดีกับมึงอยู่ข้างนอกนั่นไม่ใช่หรือ”



“อื้อ”



“เห็นไหมว่าข้างนอกนั่นก็ไม่ได้เลวร้ายไปเสียหมดหรอก ยังมีสิ่งดี ๆ รอมึงอยู่อีกอย่างถึงมึงจะออกไปข้างนอกนั่นกูก็จะออกไปกับมึงโอเคไหม”



“ไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเสียหน่อย”



ผมพูดอย่างเอาแต่ใจขยับตัวเข้าใกล้บีสท์อีก ได้ยินเสียงเขาหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ สัมผัสอ่อนโยนที่ศีรษะ มันทำให้ผมสบายใจจนไม่อยากผละไปไหน



“ให้เราชัดเจนกันกว่านี้ก่อนแล้วกูจะตามมึงเป็นเงาตามตัวเลยดีไหม”



ผมพยักหน้าสักครู่ก็ส่ายหน้า



“แบบนี้ก็ดี แต่มีมึงอยู่ตลอดเวลาก็ดี”



“เอาแต่ใจ”



บีสท์บอกด้วยน้ำเสียงเย้าแหย่ ผมพยักหน้า



“มากเลย”



“อ้อลืมถาม แล้วพ่อพระเอกเขาว่าไงมั่งล่ะที่ยูมันตอบกวนตีนเขาไปแบบนั้น”



“พ่อพระเอก?”



ผมทวนทำพูดบีสท์ด้วยความฉงน เขาหัวเราะแล้วกล่าวขอโทษที่พูดอะไรที่ผมไม่เข้าใจ



“พี่อินน่ะ ติดปากแพรวชอบเรียกว่าพ่อพระเอก”



“เขาไม่ใช่พระเอกเสียหน่อย”



ผมเถียง บีสท์โคลงหัว



“แพรวบอกว่าหมอนั่นนิสัยพระเอก ดูเพอร์เฟ็ค อบอุ่นแฟมิลี่แมน”



ผมนิ่งแล้วคิดตาม ก็ไม่ผิดจากที่แพรวพูด นั่นน่ะนิสัยของอินเลย



“อือ ถ้าอินเป็นพ่อพระเอกแล้วมึงเป็นใครล่ะ”



บีสท์หัวเราะแล้วลูบหัวผมที่ยังซบอยู่ตรงไหล่เขาเบา ๆ แม้ว่าตอนนี้ผมจะหยุดร้องไห้แล้วแต่ก็ไม่ได้ผละออก ผมชอบอยู่แบบนี้ ชอบอยู่ใกล้ ๆ เขา



“เป็นตัวร้ายล่ะมั้ง คนอื่นก็คงมองกูแบบนั้น”



ผมส่ายหน้ารัว



“ไม่จริงสักหน่อย มึงไม่ใช่ตัวร้าย”



“กล้าพูดไหมว่าเห็นกูตอนแรกแล้วไม่กลัว”



“...”



ผมเงียบเพราะที่บีสท์พูดมามันจริง ตอนที่เจอเขาครั้งแรกผมค่อนข้างเกรงและกลัวเขา



“นั่นมันก่อนรู้จักกันนี่ แต่ตอนนี้รู้แล้วว่ามึงไม่ใช่อย่างที่เขาพูดกัน”



ผมเถียง เขาหัวเราะเหมือนจะไม่ใส่ใจเสียเท่าไหร่



“แต่คนอื่นก็มองกูแบบนั้น มึงจะรับได้ไหมถ้าเดินข้างกูแล้วจะต้องถูกคนอื่นพูดถึงในทางเสียหาย คนที่เคยเข้าใกล้กูคนก่อน ๆ ก็ไม่มีใครทนได้เลยนะ”



“ทำไมกูต้องแคร์คนอื่น มึงเคยบอกเองไม่ใช่หรือว่าพวกนั้นไม่ได้มีส่วนได้เสียอะไรกับชีวิตเราแล้วทำไมกูต้องแคร์...”



“แต่คนพวกนั้นมีคนในชีวิตมึงอยู่ด้วยไงซัน”



บีสท์พูดดักคอผม เสียงทุ้มไม่ได้แข็งกร้าวแต่ในน้ำเสียงนั้นกลับถักทอไปด้วยความห่วงใยส่งมาจนผมรู้สึกได้ เขาไม่ได้กลัวสายตาคนอื่น แต่ที่บีสท์กลัวคือเสียงตอบรับจากคนรอบตัวผมต่างหาก



“กูไม่ใช่คนดีนักหรอกนะ”



“มึงดี! อย่างน้อยก็สำหรับกู”



ผมเถียงคอเป็นเอ็น ไม่ชอบเลยที่เขาพูดเหมือนตัวเองไม่ดี ถ้าเขาไม่ดีจริงป่านนี้เราคงไม่ได้รู้จักกันหรอก และหลาย ๆ อย่างที่ได้รู้เกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีตรงไหนที่เรียกว่าไม่ดีเลยสักนิด คนที่ไม่ดีคือผมเองต่างหาก ผมเองที่ไม่คู่ควรกับเขา



“เชื่อสิว่าทุกคนจะคิดว่ากูล้างสมองมึง”



เขาพูดขำแต่ผมรู้ว่าเขากังวล ผมส่ายหัว



“กูไม่แคร์ กูจะทำให้พวกเขารู้ว่ามึงไม่ใช่แบบนั้น”



“ยากนะ”



“ยากแค่ไหนกูก็จะทำ”



“ผิดแล้ว”



“อะไร”



ผมเงยหน้าถามเขาด้วยความไม่เข้าใจ บีสท์ก้มหน้ามายิ้มอ่อนโยนก่อนจะบอกกับผมเสียงนุ่มและอบอุ่นไปทั้งใจ



เราต่างหาก เราจะผ่านมันไปด้วยกัน”



ผมยิ้มเต็มแก้ม เขาหน้าเหวอสักครู่แก้มบีสท์ก็ขึ้นสีแดงเรื่อ เขาเสมองไปทางอื่น



“ยิ้มให้กูใกล้ขนาดนี้กูก็เขินเป็นนะ”



พอเขาพูดแบบนี้ผมก็เริ่มรู้สึกเขินขึ้นมานิดหน่อย ผมก้มหน้าลงกลับไปซบไหล่เขาเช่นเดิม



“พูดทำไมเล่า กูเขินด้วยเลยเนี่ย”



เขาหัวเราะแล้วลูบหัวผมเล่น ผมหลับตาซึมซับความอบอุ่นและอ่อนโยนที่บีสท์มอบให้ ยิ่งอยู่ด้วยกันผมก็ยิ่งมั่นใจว่าผมเลือกไม่ผิดที่เดินตามเขามาในวันนั้น ถึงใคร ๆ จะพากันบอกว่าเขาเป็นเหมือนตัวร้ายในละครผมก็ไม่สนหรอก



เพราะสำหรับผม



เขาเป็นพระเอก



ของผมคนเดียว




จะอยู่ตรงนี้ถ้าเธอต้องการ ถ้าเผื่อทางนั้นทำเธอหมองหม่น
เห็นเธอเสียความรู้สึก ฉันที่รักเธอกว่าทุกคน...ก็เสียใจ
หากคำว่ารักมันร้ายกับเธอมากไป
บอกมาได้ไหม ให้ฉันช่วยซับน้ำตา
ส่งใจช้ำๆ ของเธอมา ฉันจะรักษามันด้วยรักจริง
ฉันอยู่ตรงนี้  - Black Head



Tbc






talk. เอ่าขอเสียงทีมพี่บีสท์หน่อยเร๊วววววว ฮิ้ววววววว ฉันรักเขาาาาซัน...เราขอได้ไหมผชคนนี้ อิจจริง ๆ ต่อไปจะหวานกว่านี้กันอีกค่ะคุณขา

ปล.ซันก็เหมือนเด็กขาดความอบอุ่นที่พอมีที่พักพิงทางใจก็อยากจะยึดเอาไว้ เราอยากให้ทุกคนเข้าใจน้อง

ปล1. แล้วเรามาดูกันว่าตัวร้ายจริง ๆ น่ะใคร :z6:

ปล2. ความกวนตีนพี่ยูเขาก็ไม่แพ้เพื่อน ๆ เขาหรอกแค่ไม่ค่อยได้แสดงออก หิหิ

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -10- update 16/03/2017
«ตอบ #64 เมื่อ16-03-2017 06:46:21 »

ปล่อยเค้าสวีทหหวานกันไป

ส่วนเค้าจองพี่ยูนะ 5555555555

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -10- update 16/03/2017
«ตอบ #65 เมื่อ16-03-2017 07:10:48 »

พูดกันขนาดนี้ก็เป็นแฟนกันไปเลยเถอะค่ะ

ออฟไลน์ Zetnezz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -10- update 16/03/2017
«ตอบ #66 เมื่อ16-03-2017 07:28:50 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ maekkun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -10- update 16/03/2017
«ตอบ #67 เมื่อ16-03-2017 11:17:02 »

หวานมาก :o8:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -10- update 16/03/2017
«ตอบ #68 เมื่อ16-03-2017 11:21:39 »

อินน่ะซิตัวร้าย อีกหน่อยคงเป่าหูบรรดาเพื่อนซันให้มองบีสท์ในแง่ร้ายแน่เลย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -10- update 16/03/2017
«ตอบ #69 เมื่อ16-03-2017 17:56:32 »

 :L2: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -10- update 16/03/2017
« ตอบ #69 เมื่อ: 16-03-2017 17:56:32 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ knxiiviii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 90
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -10- update 16/03/2017
«ตอบ #70 เมื่อ16-03-2017 18:37:15 »

 :-[ ละมุนไปหมดเลย เราชอบที่ยูพูดนะ เรื่องที่เราคิดว่าเล็กน้อย อาจจะไม่ใช่ในความคิดของอีกคนที่แคร์เรา เราไม่ควรและไม่มีสิทธิจะไปตัดสินใจแทนใคร

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -10- update 16/03/2017
«ตอบ #71 เมื่อ16-03-2017 22:07:57 »

นี่เจอกันแค่3-4วันนะคะคุ๊ณณณณณณ
โคตรหวาน จีบกันได้ละมุนนีสุดๆ น่ารักมาก
พี่บีสท์ช่วยกำจัดนังพี่อินออกไปทีค่ะ ทำตัวโรคจิตดีจริงๆ เหมือนคนเห็นแก่ตัวอ่ะ จึ๊ๆๆๆ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -10- update 16/03/2017
«ตอบ #72 เมื่อ16-03-2017 22:29:18 »

ยู ทั้งหล่อนิสัยดี ทั้งเป็นไม้กันหมาที่เท่โคตร
ปกป้องว่าที่แฟนเพื่อนเต็มที่
บีสท์ อบอุ่นมาก ปลอบซันได้น่ารักมาก
“ให้เราชัดเจนกันกว่านี้ก่อนแล้วกูจะตามมึงเป็นเงาตามตัวเลยดีไหม”
โอ้.....บีสท์ เป็นแฟนที่สุดยอดดดดด
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -10- update 16/03/2017
«ตอบ #73 เมื่อ16-03-2017 22:41:45 »

พี่ยูคนแมนนนนน
ปล่อย2คนเขาจีบกันไปเนอะ
ส่งพี่ยูมาให้เรา  :impress2:

ออฟไลน์ _mysecretlove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-2
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -11- update 19/03/2017
«ตอบ #74 เมื่อ19-03-2017 13:24:58 »

ตัวร้าย
11





หลังจากนั่งคุยกันอยู่ริมสระน้ำจนตะวันบ่ายคล้อย ผมสองคนก็กลับขึ้นไปบนห้อง บีสท์ทำงานต่อส่วนผมนอนมองเขาทำงานบนโซฟาจนผล็อยหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ตื่นมาอีกทีเพราะได้ยินเสียงน้ำไหลตกกระทบพื้นจากห้องน้ำ ผมกระพริบตาปรับโฟกัสอยู่สักครู่ก็ยันตัวลุกขึ้นนั่ง ผ้าห่มร่วงจากอกไปกองอยู่ตรงตักก่อนนอนยังไม่มีเลยนี่นา มองไปทางประตูห้องน้ำแล้วก็อมยิ้มคงไม่แคล้วคนที่นั่งทำงานเอามาห่มให้นั่นแหละ



“ตื่นพอดี ตอนแรกอาบน้ำเสร็จแล้วว่าจะปลุก”



“กี่โมงแล้ว”



“ห้าโมงจะครึ่งแล้ว จะอาบน้ำไหม”



เขาถาม ผมส่ายหัวแล้วมองแผ่นหลังกว้างเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า แอบใจสั่นนิดหน่อยก็บีสท์ตอนเพิ่งอาบน้ำเสร็จมีหยดน้ำเกาะพราวทั่วแผ่นหลังกล้ามเนื้อเป็นลอนสวยผมเปียกลู่รับกับดวงหน้าคมเข้ม โอ่ยมีร้อยให้ล้านใครไม่หวั่นไหวผมกราบเลย



“เดี๋ยวก็เหงื่อออก”



ผมบอกแล้วลุกขึ้นเดินไปหาบีสท์พิงตู้เสื้อผ้าอีกฝั่ง เขาเลิกคิ้วมองผม



“มีอะไรหรือเปล่า”



“ยืมเสื้อหน่อย”



“อ้อ เลือกไปสิหรือจะเอาเสื้อไอ้กาย”



“เสื้อมึงก็ได้”



ผมว่าแล้วก็หยิบเสื้อบาสเขามาหนึ่งตัว ถอดเสื้อของสกายออกแล้วใส่เสื้อบาสของบีสท์เข้าไปแทนเจ้าของห้องยืนตัวแข็งเป็นหินหน้าแดง พอผมเลิกคิ้วถามเขาก็ส่ายหัวอ่อนใจเกาท้ายทอย



“มึงมันขี้อ่อย”



คราวนี้ผมเลิกคิ้วถามกลับ



“กูอ่อยตรงไหน”



“ตรงเนียะ”



เขาจิ้มหน้าผากผมจนหงายหลังแล้วสวมเสื้อของตัวเองบ้าง ผมกุมหัวแล้วบ่นเขางุบงิบ



“มึงอ่อยกว่ากูอีก”



“กูทำอะไร”



“มึงเดินแก้ผ้าออกมาจากห้องน้ำ”



“มึงมองไม่เห็นผ้าเช็ดตัวตรงเอวกูหรือ?”



“แต่มึงไม่ใส่เสื้อ”



ผมเถียงหน้าแดงเพราะบีสท์อมยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วขยับเข้ามาใกล้กางมือคร่อมตัวผมไว้



“อะ...ไร”



“มึงเลยอ่อยกูคืนอย่างนั้นสิ”



“ไม่ใช่นะ!”



ผมหลับตาปี๋เมื่อบีสท์โน้มหน้าเข้ามาจนปลายจมูกเราสัมผัสกัน ผมใจเต้นแรงมากจนกลัวว่ามันจะทะลุออกมา



“หึหึ ไปล้างหน้าไป”



บีสท์ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น เขาหัวเราะในลำคอแล้วขยี้ผมของผมเบา ๆ



“อะ...อือ นี่...ยืมกางเกงด้วยได้ไหม”



“เอาสิสรุปจะเล่นใช่ไหม”



เขาถามมือก็รื้อหากางเกงบาสให้ผม



“ก็สกายพูดขนาดนั้นแล้วก็ต้องเล่นไหมล่ะ”



“ใส่รองเท้าเบอร์อะไร”



“41”



“เท้าเล็กจัง น่าจะใส่ของมาร์คได้”



บีสท์บอกพร้อมกับส่งกางเกงมาให้ผม รับมาขอบคุณเขาแล้วเดินเข้ามาเปลี่ยนในห้องน้ำล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นขึ้น มองตัวเองในกระจกแล้วตบแก้มตัวเองเบา ๆ เรียกสติ เมื่อสักครู่ผมคิดว่าเขาจะ...เอ่อ..จูบ



ส่ายหัวแรง ๆ อีกทีผมชักจะบ้าไปกันใหญ่แล้วเกลียดตัวเองจริง ๆ ที่รู้สึกเสียดาย เม้มปากแน่น ตบหน้าผากตัวเองอีกที ทำไมกูหื่นและขี้อ่อยแบบนี้วะเนี่ย เดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากดึงสติตัวเองกลับมาแล้ว เห็นบีสท์นั่งรออยู่ตรงโซฟาจึงเดินเข้าไปหา



“เสร็จยัง พวกมันไปเล่นรอกันแล้ว”



“เสร็จแล้ว ป่ะ”



ผมเรียกให้บีสท์ยืนขึ้นเขาเดินเอาผ้าเช็ดตัวไปพาดแล้วเดินกลับมาหาผม เราสองคนเดินออกมาจากบ้านพร้อมกัน รองเท้าบาสของมาร์คผมใส่ได้พอดีพอถามหาพวกผู้หญิงก็ได้รับคำตอบว่าเล่นแบดกันอยู่ในโรงยิม บ้านนี้เขาขยันออกกำลังกายกันดีจังถึงว่าไม่มีใครอ้วนสักคน



“ปกติถ้าอยู่กันครบก็เป็นแบบนี้หรือ”



ผมถามขณะที่เราสองคนเดินไปยังสนามบาสบีสท์หันมามอง มองจ้องเลยแล้วก็ขมวดคิ้วหยุดเดิน



“มีอะไร”



ผมถามด้วยความไม่เข้าใจและบีสท์ก็ไม่ได้ไขความกระจ่างให้สักนิด



“กูว่ากลับไปเปลี่ยนเสื้อกัน”



เขาว่าพลางดึงแขนผมเดินกลับไปที่บ้านแต่ผมขืนตัวไว้



“ทำไม”



“เสื้อมันเว้าลึกไป”



“มึงยังใส่เลย”



“แต่ก็ไม่ลึกเท่ามึงนี่ ดูสิลึกไปถึงไส้แล้วมั้ง”



เขาบอกพร้อมกับล้วงมือเข้ามาทางช่องเว้าตรงแขนจนผมสะดุ้งโหยงกระโดดหนี



“เล่นอะไรเนี่ย ตกใจหมด”



“ไม่เล่น กลับไปเปลี่ยนเสื้อกัน”



“บีสท์มันร้อนนะ”



ผมโอดครวญแต่เขาไม่ฟังยังคงลากผมเดินกลับบ้าน



กูหวง



จบข่าว ผมยอมเดินเงียบ ๆ ตามเขากลับขึ้นห้องหูแดงหน้าแดงเขาเองก็เช่นกัน บีสท์พยายามหาเสื้อแขนสั้นของตัวเองตัวที่น่าจะใส่สบายที่สุดส่งมาให้ผมรับไปเปลี่ยนอย่างว่าง่าย พอเปลี่ยนเสร็จสีหน้าเขาก็ดูพอใจมากขึ้น



“โอเคไหม”



ผมขยับเสื้อบนตัวแล้วถามความเห็นเขา ไหล่ตกลงมาเกือบคืบแหนะ ผู้ชายอะไรตัวใหญ่ชะมัด เขาพยักหน้าแล้วเดินนำผมออกจากห้อง



“ตัวใหญ่ไปหน่อยแต่ก็ดีกว่าให้ใส่ตัวเมื่อกี้”



“อะ...อื้อ”



พอเขาพูดผมก็รู้สึกขัดเขินขึ้นมาอีกรอบจึงได้แต่เดินก้มหน้าเขินเงียบ ๆ ตามหลังเขามา



“กว่าจะเสด็จมาได้นะพวกมึง อ่าวแล้วนั่นใส่เสื้อผัวรึไงไหล่ตกขนาดนั้น”



สกาย ไอ้ฟายเอ๊ย! จะพูดให้เขินไปใหญ่ทำไมเนี่ยและพอสกายพูดเท่านั้นแหละที่เหลือก็เป่าปากแซวกันกระจาย บีสท์เลยให้นิ้วกลางกันไปถ้วนหน้าแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร พอแซวจนหอมปากหอมคอพวกเราก็แบ่งทีมกันเป็นสองทีม ทีมละสามคนรอบนี้เปาเป็นกรรมการ ทีมผมมี บีสท์ ผม ยู ส่วนอีกทีมแน่นอนมี สกาย เชน มาร์ค ยืนเต๊ะท่าหล่อข่มพวกเราอยู่



พอเปาเป่านกหวีดเริ่ม เกมส์การแข่งขันก็เริ่มขึ้นด้วยความสนุกสนานบอกได้เลยว่าทักษะของทุกคนเข้าขั้นนักกีฬากันทั้งนั้น ขนาดมาร์คเห็นตัวเล็ก ๆ แบบนั้นปราดเปรียวใช่เล่น ผมนี่วิ่งตามจนหอบลิ้นห้อยเป็นรักยมพวกเขายังไม่มีทีท่าจะเหนื่อยสักนิด



“ไหวป่าวเบเบ้”



เชนวิ่งเหยาะถอยหลังมาร้องถามผม ผมเท้ามือกับเข่าหอบหายใจพยักหน้าให้เขา เชนหัวเราะขำแล้ววิ่งฉิวไปฝั่งตัวเอง ตอนนี้คะแนนสูสีกันมาก 11:10 ทีมผมนำอยู่หนึ่งแต้มแต่บอกได้เลยว่าคะแนนทั้งหมดจากฝั่งผมนั้นมาจากบีสท์และยูทั้งนั้น ผมแค่รับและส่งลูกดีไม่ดีโดนมาร์ควิ่งตัดหน้าแย่งไปด้วย โดนสกายด่าว่ายืนทำหน้าโง่ให้มาร์คแย่งอยู่ได้



หมอนั่นวิ่งเร็วอย่างกับลิงใครจะไปสังเกตเห็นเล่า พอผมหน้ามุ่ยพวกเขาก็หัวเราะขำ บีสท์เดินเข้ามาขยี้ผมแล้วบอกว่าไม่ต้องคิดมากเล่นกันขำ ๆ ครับขำมากพวกมึงเล่นกันอย่างกับจะไปโอลิมปิกมีรีบาวน์ชู้ตสามแต้มดังค์กันจนผมนึกว่าเล่นอยู่กับนักบาสเอ็นบีเอ ขำมาก!!!!



“หน้ามุ่ยเลย ๆ”



มาร์คลอยหน้าลอยตาล้อผม



“ไหนบอกว่าขำ ๆ”



“ก็นี่ขำพวกกู”



“สัด”



“ว้าว พัฒนา ๆ ด่ากูแล้ว”



สกายทำหน้าตาชื่นชม เปาเชนมาร์คยกนิ้วโป้งมาให้ ยูยิ้มขำไม่ต่างจากบีสท์ เล่นต่ออีกไม่เท่าไหร่เปาก็เป่านกหวีดหมดเวลาผลก็คือเสมอกันที่ 22:22 พวกเขาเดินกันสบาย ๆ ออกมานั่งยืดเส้นยืดสายข้างสนามต่างกับผมที่แทบจะคลานออกมา



“ขอบคุณ”



ผมกล่าวขอบคุณรับน้ำจากบีสท์มาดื่มจนหมดขวดเลยถูกบีสท์ดุ



“ค่อย ๆ กินเดี๋ยวก็สำลัก”



“ก็มันเหนื่อย”



“ยังจะเถียง”



“หัวหลักหัวตอสินะพวกกูเนี่ย”



สกายเอ่ยขึ้นลอย ๆ แล้วยักคิ้วกวนใส่ ผมเหนื่อยจนไม่รู้จะด่ามันยังไง กวนตีนดีจริง ๆ ไอ้หมอบ้านี่



“ส่วนเกินก็อย่างนี้”



“คนไม่จำเป็น”



“น่าเศร้าจริง ๆ”



ประโยคแรกเป็นของเชนตามมาด้วยมาร์คและปิดท้ายอย่างสวยงามที่เปาเห็นแล้วเส้นเอ็นที่เท้ากระตุกยิกแต่ไม่มีแรงยก บีสท์ส่ายหัวอ่อนใจยูยังคงยิ้มขำไม่พูดอะไรอีกเช่นเคย



“เหนื่อยมากเลยหรือ”



พอยูเอ่ยถามผมก็พยักหน้าแรง ๆ



“เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว”



“ไม่ค่อยออกกำลังกายน่ะสิ”



พอถูกบีสท์ว่าผมก็หน้ามุ่ยใส่ เขาเลิกคิ้วแล้วทำหน้าประมาณว่าก็มันจริงไหม เออเพราะจริงไงผมถึงไม่ตอบโต้



“ต้องพาออกกำลังกายบ่อย ๆ ออกกำลังกายในร่มก็ดีนะเบิร์นดีเหมือนกัน”



สกายพูดจาสองแง่สามง่ามพวกที่เหลือหัวเราะเออออกันไปใหญ่มีแต่ผมกับบีสท์ที่นั่งเขินกันอยู่



“เออดีจริงกูคอนเฟิร์ม”



มาร์คชูนิ้วโป้งบอกเลยถูกเชนตบหัวเข้าให้



“มึงนอนเฉย ๆ ให้ผัวทำแล้วจะเหนื่อยอะไร”



“ไอ้สัดกูก็ออนท็อปเป็นไหม”



“อู้ววว แรว๊งมากน้องมาร์ค มึงมันแรดจริง ๆ”



สกายแสร้งทำหน้ารับไม่ได้แบบตอแหลขั้นสุดเลยถูกมาร์คปาผ้าขนหนูใส่หน้า



“ห่ากายทำเป็นพูดวันไหนมึงโดนเสียบกูจะเลี้ยงฉลองสามวันสามคืนเลยสัด”



มาร์คพูดด้วยความหมั่นไส้ส่วนคนถูกแช่งยักไหล่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ



“ไม่มีทางน้องเอ๋ย”



“จุ๊ ๆ อย่าพูดแบบนั้นสกาย อนาคตไม่มีอะไรแน่นอน”



เปาจุ๊ปากบอกเสียงเนิบ ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย



“ไอ้เปาทำไมมึงเปลี่ยนข้างฮะ!”



สกายหันไปแหวใส่คู่หูคู่เกรียนของตัวเองแต่พอเปาชูแบงค์ร้อยขึ้นทุกคนก็ร้องอ๋อ ไอ้พวกนี้ซื้อได้ด้วยเงินจริง ๆ ให้ตาย ผมยิ้มขำรู้สึกถึงแรงสะกิดเบา ๆ ตรงแขนจึงหันมามองบีสท์



“เล่นอีกไหวไหม”



พอผมส่ายหัวเขาก็ไม่ได้บังคับอะไร ผมนั่งคลายกล้ามเนื้อมองพวกเขาหกคนเล่นบาสอยู่ข้างสนามแรก ๆ ก็จริงจังกันนั่นแหละหลัง ๆ เริ่มแกล้งกันไปมาเดี๋ยวดึงเสื้อเดี๋ยวดึงกางเกงวิ่งเตะกันให้วุ่น ผมยิ้มมองพวกเขาหัวเราะด้วยกันอย่างมีความสุข รู้สึกขอบคุณที่พวกเขายอมให้ผมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในบ้านหลังนี้



“วันนี้นอนที่นี่อีกไหม”



บีสท์ถามขึ้น ตอนนี้พวกเขาเลิกเล่นกันแล้วตะวันตกดินเป็นที่เรียบร้อย ผมนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหน้าพรุ่งนี้ผมมีเรียนเสริมตอนเช้าส่วนบีสท์ว่างไม่อยากรบกวนเขาเสียเท่าไหร่เพราะถ้าบอกร้อยทั้งร้อยเขาต้องตื่นไปส่งผมแน่ ๆ อีกอย่างก็อย่างที่เขาบอก ผมจะอยู่แค่ที่นี่ไม่ได้ถึงผมจะอยากอยู่แค่ที่นี่ก็เถอะแต่ก็ต้องยอมรับว่าข้างนอกนั่นก็เป็นที่ ๆ ผมต้องใช้ชีวิตอยู่เช่นกัน



“ถ้าอย่างนั้นอยู่กินข้าวกันก่อนเดี๋ยวขับรถไปส่ง”



ผมพยักหน้าตอบรับ มื้อเย็นของพวกเราเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเช่นเคยพวกเขาทำกับข้าวกินกันเองและก็เช่นเดิมผมกินได้เยอะจนยูเอ่ยแซวว่ากระเพาะครากหรือเปล่ากินไม่อิ่มเสียที



“รีบเข้านอนล่ะพรุ่งนี้เรียนเช้านี่”



ผมชะงักมือที่กำลังเปิดประตูรถ บีสท์ขับมาส่งผมที่หน้าคอนโดหันมองเขาอย่างแปลกใจ ผมว่าผมก็ไม่ได้บอกเขานะว่าพรุ่งนี้ตัวเองมีเรียนเสริม เขาเหมือนจะรู้จึงเอ่ยต่อ



“ก็บอกแพรวไว้ไม่ใช่หรือไง”



“อ้อ อืมขี้เกียจมาก”



“เรียนเสร็จกี่โมง”



“เที่ยง”



“ไปไหนต่อไหม”



“ยังไม่ได้คิดเลยแต่น่าจะกลับมานอน”



บีสท์พยักหน้าก่อนจะกระแอมไอเกาแก้มเขิน



“มาที่บ้านไหมล่ะ เอ่อ..จะมานอนด้วยก็ได้นะ”



คราวนี้ไม่ใช่แค่เขาแล้วล่ะที่เขิน ผมเองก็รู้สึกมือไม้เกะกะไม่รู้จะวางตรงไหนสุดท้ายก็จบลงที่ตักของตัวเองกัดริมฝีปากอย่างใช้ความคิดก่อนจะถามเขากลับเสียงเบาอย่างไม่มั่นใจ



“ไปนอน หลาย ๆ วันเลยได้ไหม”



แต่งเข้าบ้านกูก่อนสิ



“ไอ้บ้า! กูไปเล่า!”



ผมเปิดประตูรถออกก้าวออกมาได้ยินเสียงบีสท์หัวเราะแล้วเสียงทุ้มก็เอ่ยตามหลังมา



“อยู่ก่อนแต่งก็ได้ไม่ถือ เดี๋ยวพรุ่งนี้พากลับมาเก็บเสื้อผ้านะ”



“เออ!!!”



ผมกระแทกเสียงตอบแล้วเดินจ้ำอ้าวเข้ามาในตัวอาคาร ร้อนหน้าไปหมดจะด่าผมใจง่ายก็ด่ามาเลยยอมแต่ผมไม่รู้ว่าจะรั้งรอเวลาไปเพื่ออะไร ในเมื่อเขาหยิบยื่นโอกาสที่จะอยู่ด้วยกันมาให้ผมก็ควรจะคว้ามันไว้ไม่ใช่หรือดีกว่าปล่อยให้มันผ่านไปแล้วมานั่งเสียใจ



ยิ่งเรื่องของบีสท์ผมยิ่งไม่อยากรอ ถ้าความสุขมันจะผ่านเข้ามาหาผมแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ผมก็อยากจะรีบตักตวงไว้ให้มากที่สุด เพราะอย่างน้อยบีสท์และเพื่อน ๆ ของเขาก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตที่ผมได้เจอ



“ท่าจะบ้าแล้วเรา”



“ใครบ้าวะ”



ผมสะดุ้งสุดตัวค่อย ๆ หันไปทางต้นเสียงรู้สึกน้ำลายแห้งผาก ซานนั่งอยู่ตรงนั้นคนเดียวเสียงที่เปล่งออกมาของเขามันแฝงไปด้วยความกดดันอย่างเห็นได้ชัด เขาลุกขึ้นจากโซฟาใต้คอนโดอย่างเชื่องช้าสาวเท้าเข้ามาหาผม



“ไป ไหน มา”



ซานเน้นคำพูดทีละคำ ผมเม้มริมฝีปากแน่นในหัวก็กำลังครุ่นคิดว่าในตอนนั้นเขาจะทันเห็นบีสท์หรือไม่



“ซันกูถามก็ตอบ”



“ข้างนอก”



“กูรู้ว่าข้างนอกอย่ามาเฉไฉ”



ซานเอามือเสยผมดูก็รู้ว่าเขาเริ่มอารมณ์เสียแล้ว เขามองมาที่ผมด้วยแววตาดุดัน



“ขึ้นไปคุยที่ห้องเถอะ”



“นำไปสิ”



ผมเดินก้มหน้าก้มตาเดินนำเขาไปที่ลิฟท์ ครุ่นคิดหาคำแก้ตัว จากมุมที่ซานนั่งไม่น่าเห็นรถของบีสท์แต่ก็วางใจไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขานั่งอยู่ตรงนั้นมานานเท่าไหร่



“ดูร้อนรนนะ”



ผมสะดุ้งอีกครั้งแล้วทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เอาสิผมไม่ยอมรับสักอย่างดูสิว่าเขาจะว่าอะไรได้ ผมเปิดประตูห้องให้ซานเดินเข้าไปก่อนแล้วปิดประตูตามหลัง ร่างสูงของเพื่อนสนิทเดินเข้าไปนั่งที่โซฟากอดอกมองผมเขม็ง



“มีอะไรจะสารภาพไหม”



ผมแสร้งเอียงคอเลิกคิ้วถามตาแป๋ว ซานถอนหายใจก่อนจะพูดขึ้น



“พี่อินบอกกูหมดแล้ว”



ซื้อหวยทำไมไม่ถูกแบบนี้ ผมยักไหล่เอนหลังพิงโซฟา



“ฟ้องว่าอะไรล่ะ”



“ซัน”



ซานส่งเสียงปราม ผมเบะปากยกมือขึ้นกอดอกบ้าง



“เขาหวังดีกับมึงนะ เห็นว่ามึงไปกับคนที่ไม่คุ้นหน้าเลยมาถามกับกูซึ่งกูก็ไม่รู้ว่ามึงไปไหนกับใคร ถามจริง ๆ นะซันคนที่พี่อินเจอวันนี้เป็นใคร”



ถึงจะขัดใจกับสิ่งที่ซานมันพูดแต่ผมก็รับรู้ถึงความห่วงใยของมันจึงได้แต่หลับตาถอนหายใจ



“เพื่อน”



ผมตอบซานแบบกว้าง ๆ เขาถอนหายใจทอดสายตาอ่อนใจมองตรงมาที่ผมทำไมล่ะ ก็ยูเป็นเพื่อนจริง ๆ นี่ ถ้าบีสท์ก็ว่าไปอย่างแต่นี่เขาถามถึงยูผมก็ตอบแล้ว จะมาทำสายตาแบบนี้ใส่ทำไม



“มึงคิดว่าตัวเองเป็นนักเข้าสังคมรึไงซัน เพื่อนมึงก็มีแต่พวกกูเนี่ยหรือถ้าเป็นคนอื่นกูก็ควรจะรู้จักไหม”



“เพื่อนใหม่”



“ไปรู้จักกันได้ไง”



“บังเอิญ”



“เล่ามากูฟังได้”



“ซานกูไม่อยากพูด”



“ทำไม มีอะไรปิดบังหรือไง”



ซานไม่ยอมถอย ดูท่าจะต้องรู้ให้ได้ผมไม่รู้ว่าอินไปพูดอะไรมันถึงมาซักผมด้วยท่าทางจริงจังขนาดนี้



“ไม่มี แล้วทำไมมึงต้องอยากรู้ขนาดนั้น มึงอยากรู้หรือใครอยากรู้กันแน่”



คราวนี้ผมหรี่ตามองมันอย่างจับผิด และโป๊ะเช๊ะสายตามันหลุกหลิกอยู่ชั่วครู่แล้วตีสีหน้านิ่งเฉย เพียงเท่านี้ผมก็รู้แล้วว่าใครเป็นผู้บงการมันอยู่เบื้องหลัง



อินสินะ



“บังเอิญเจอกันที่ร้านหนังสือ คุยกันถูกคอก็แค่นั้น”



“แค่นั้นทำให้มึงถ่อไปไกลถึงลาดกระบังน่ะหรือซัน”



ผมยักไหล่



“สนใจ?”



“อินไม่ได้บอกหรือไง”



ผมถามกลับสุดท้ายซานมันก็ยกมือนวดขมับยอมแพ้



“เขาบอกว่ามึงกับหมอนั่นทำตัวสนิทสนมกันเกินพอดี”



ผมหลุดหัวเราะ เกินพอดี? อินเอามาตรฐานอะไรมาตัดสินกัน



“เขาเล่าว่าอะไรบ้าง”



“เขาบอกว่ามึงดูเปลี่ยนไป”



“ยังไง กูก็ยังเป็นกูคนเดิมนะ”



“...”



คราวนี้ซานไม่ตอบซึ่งผมก็ไม่คิดจะคาดคั้นอย่างที่มันทำกับผม ผมชูมือบิดขี้เกียจแล้วลุกขึ้นยืน



“มีอะไรอีกหรือเปล่า ถ้าจะมาแค่คุยเรื่องนี้ไม่มีอะไรหรอกมึงสบายใจได้ คนที่กูไปด้วยไม่ใช่คนไม่ดีอะไรเป็นหนอนหนังสือเหมือนกัน ไม่ได้พากันไปในทางไม่ดีหรอก”



ผมบอกเพื่อให้เพื่อนสบายใจ รายงานเหมือนกับลูกที่กลับจากโรงเรียนแล้วต้องคอยเล่าให้พ่อแม่ฟังว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นบ้างเพื่อนเป็นแบบไหนอย่างไรอย่างนั้น



“กูเป็นห่วงมึงนะซัน”



“กูรู้ซาน ขอบคุณมากแต่กูไม่ได้ไปทำอะไรไม่ดีจริง ๆ”



ซานถอนหายใจแล้วลุกขึ้นยืนหันมาบีบไหล่ผมเบา ๆ



“รู้ว่ามึงโตแล้ว พวกกูแค่กลัวมึงเจอกับคนไม่ดี เฮ่อ...เอาเถอะถ้ามั่นใจแล้วก็พาหมอนั่นมาให้พวกกูรู้จักด้วยล่ะ”



เหมือนซานจะเข้าใจผิดไปใหญ่ แต่ผมก็ยิ้มรับแล้วพยักหน้าให้เขา



“แน่นอนเลย”



ผมยืนโบกมือลาซานหน้าห้อง ความเข้าใจของเราผิดไปคนละทางแต่ใครจะสนผมถือว่าเพื่อนรับรู้แล้วนะว่าผมมีคนที่คุยด้วยอยู่แต่ไม่ใช่ยูอย่างที่เขาหรืออินเข้าใจ จะว่าไปเป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกันเวลาจะไปไหนกับบีสท์จะได้เอายูมาเป็นข้ออ้าง ขอโทษไว้ล่วงหน้าเลยนะยู



อืม...พอพูดถึงบีสท์



คิดถึงเสียแล้วสิ



I don’t wanna be like Snow White waiting
For a handsome prince to come and save me
On a horse of white, unless we’re riding side by side
Don’t want to depend on no-one else
I’d rather rescue myself
Cinderella - Tata Young



tbc




talk. สารภาพว่าลืมอัพ 555555555555555555 ทำโน่นทำนี่เพลินอ่า มา ๆ อ่านกันต่อเติมความหวานเข้าเส้นกัน แฟนเรายังคงความกวนอยู่ไม่เสื่อมคลายพิสกายของข้อยยยยย

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -11- update 19/03/2017
«ตอบ #75 เมื่อ19-03-2017 13:49:42 »

แล้วเพื่อนซันไม่รู้เหรอว่าพี่อินรู้สึกยังไงกับซัน แถมมีคู่หมั้นแล้ว ทำไมยังดูเป็นใจกับพี่อินเหลือเกิน

ออฟไลน์ dilokrittisak

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -11- update 19/03/2017
«ตอบ #76 เมื่อ19-03-2017 14:19:27 »

ชอบโมเม้นเวลาซันอยู่กับพวกบีสท์มากกกกกกกก
ดูอบอุ่น เป็นครอบครัว
มีความสุข o22

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -11- update 19/03/2017
«ตอบ #77 เมื่อ19-03-2017 14:24:06 »

กลัวไปเจอคนไม่ดี อิพี่อินนี่ดีมากว่างั้น เพื่อนๆดูเป็นใจกันจัง  :เฮ้อ:


ออฟไลน์ Zetnezz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -11- update 19/03/2017
«ตอบ #78 เมื่อ19-03-2017 16:01:47 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -11- update 19/03/2017
«ตอบ #79 เมื่อ19-03-2017 16:32:28 »

ซาน นี่ตลก ไม่รู้หรือว่าพี่อิน เป็นอย่างไร
โดนบทบาทแฟมิลี่แมน บดบังหมดเหรอ
พี่อินมีคู่หมั้นนี่คงไม่รู้สินะ
คู่หมั้นนี่คงรู้เฉพาะในครอบครัว
ถ้ารู้คงไม่ช่วยพี่อินขนาดนี้
เพื่อนๆคงคิดว่าซันทำตัวไม่ดีกับพี่อินเท่านั้น
บีสท์ เพิ่งมาส่ง ซันก็คิดถึงแล้ว  :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -11- update 19/03/2017
« ตอบ #79 เมื่อ: 19-03-2017 16:32:28 »





ออฟไลน์ PKT

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -11- update 19/03/2017
«ตอบ #80 เมื่อ19-03-2017 18:51:37 »

สนุกกกกอ่ะ

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -11- update 19/03/2017
«ตอบ #81 เมื่อ19-03-2017 20:28:45 »

ไม่เข้าใจเพื่อนซันทั้งหมดทั้งปวง คือรู้ว่าอินเป็นคนที่ทำให้ซันเจ็บ แล้วทำไมยังเข้าข้างมันกันจัง งงอ่ะ คือถ้าเพื่อนปฏิเสธหรือตีตัวออกห่างขนาดนี้ก็น่าจะเข้าใจได้แล้วปะ ว่าซันไม่อยากยุ่งด้วย ไม่น่าประเคนเพื่อนให้อินขนาดนั้น สำหรับเรา เราถือความสบายใจของเพื่อนคือที่สุดนะ เพื่อนไม่ชอบอะไรก็จะไม่บังคับ ไม่ดันทุรัง

ออฟไลน์ pearlypear

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -11- update 19/03/2017
«ตอบ #82 เมื่อ19-03-2017 20:52:38 »

คือ เพื่อนแบบนี้เลิกคบได้ป่ะ คือ ดูแล้วอยู่ด้วยไม่สบายใจเลย :seng2ped:
เพื่อน คือ คนที่อยู่ด้วยแล้วไม่อึดอัดป่ะวะ
ถ้าชีวิตจริงเนี่ย กูเหวียงให้เลิกคบแม่งงง
คนที่ไม่ชอบก็พาไม่ให้เจออยุ่ได้ น่ารำคาญ ลำไย :hao3: :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -11- update 19/03/2017
«ตอบ #83 เมื่อ19-03-2017 21:12:48 »

เพื่อนน่าจะเข้าใจความอึดอัดของเพื่อนนะ

ถึงเพื่อนอย่างซานจะไม่ได้เข้าใจหรือรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด

แต่ความอึดอัดของเพื่อนตัวเองที่แสดงออกเวลาเจออิน ไม่ทำให้ซานเอะใจอะไรบ้างเหรอ

แล้วแทนที่จะเข้าข้างเพื่อน เข้าข้างคนนอกอย่างอินเฉยเลย คนอ่านงงเด้ งงเด้  :mew5:

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -11- update 19/03/2017
«ตอบ #84 เมื่อ19-03-2017 22:14:01 »

เซ็ง พ่อพระเอก :hao3:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -11- update 19/03/2017
«ตอบ #85 เมื่อ19-03-2017 23:02:54 »

บางทีถ้าซันอยากได้ความสบายใจก็บอกเพื่อนเรื่องอินไปเลยว่าอินมีคู่หมั้นแล้ว


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -11- update 19/03/2017
«ตอบ #86 เมื่อ20-03-2017 00:14:35 »

 o13

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -11- update 19/03/2017
«ตอบ #87 เมื่อ22-03-2017 10:45:46 »

ชอบเพื่อนๆของบีสท์อ่ะ.

เด๋วบอกจิมมี่มาจีบแตงกวาดีกว่า อิอิ

ออฟไลน์ _mysecretlove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-2
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -12- update 23/03/2017
«ตอบ #88 เมื่อ23-03-2017 00:52:34 »

ตัวร้าย
12






“เมื่อวานซานบุกไปหาใช่ไหม”



คริษฐ์ก้มมากระซิบถามพอให้ได้ยินกันสองคน ผมพยักหน้าเบา ๆ เพราะว่าคนที่อยู่ในบทสนทนานั่งถัดจากคริษฐ์ไปดีที่มันใส่หูฟังเล่นเกมส์ในมือถืออย่างเมามันไม่สนใจเสียงชวนหลับของอาจารย์หน้าห้อง คริษฐ์ถอนหายใจ



“พี่อินมาหาพวกกูที่ร้าน”



ผมเงียบฟังคริษฐ์เริ่มเล่า ร้านที่คริษฐ์พูดถึงคือผับที่พวกเพื่อนผมมักจะไปกันประจำ ผมขมวดคิ้ว อินไม่ใช่คนเที่ยวกลางคืนอาจจะมีบ้างถ้าพวกเพื่อนเขานัด



“ไปกับใคร”



“คนเดียว มาหาพวกกูโดยเฉพาะ”



นี่อย่างไรล่ะที่ผมรู้สึกแปลก



“เรื่องกู”



“รู้อยู่แล้วยังจะถาม”



ผมถอนหายใจหน่ายจำได้ว่าเคยบอกไปแล้วว่าอย่ามายุ่งกันอีก นี่เขาไม่เคยฟังที่ผมพูดเลยใช่ไหม



“เขาคุยกับซานไปแล้วรอบนึง”



ผมบอก คริษฐ์พยักหน้ารับรู้



“ก็มาถามอีกรอบให้แน่ใจนั่นแหละ ว่าแต่มึงไปกับใคร ไม่ใช่หมอนั่นหรอกหรือ”



ผมส่ายหน้ากับคริษฐ์ไม่จำเป็นที่ผมจะมีความลับด้วย



“เพื่อนเขาน่ะ จริง ๆ ไปกันหลายคน”



“แต่เขาเจอแค่มึงกับอีกคน?”



“อือ”



คริษฐ์ทำหน้าลำบากใจอีกครั้งดูเหมือนเขาลังเลจะพูดอะไรสักอย่าง



“พี่อินน่ะ...เมื่อคืนเขาหลุดมาดมากเลยรู้ไหม”



สุดท้ายคริษฐ์ก็ตัดสินใจพูดออกมา ผมเลิกคิ้วสงสัย



“เขาบอกพวกกูว่าตอนที่เจอมึงกับผู้ชายคนนั้นมึงเหมือนกลับไปเป็นคนเดิมที่เขาเคยรู้จักมันเลยทำให้เขากลัว”



“กลัว?”



ผมทวนคำพูดคริษฐ์ เขาพยักหน้าแล้วพูดต่อ



“อืม เขากลัวว่ามึงจะไม่ใช่ของเขาอีกต่อไป



กูไม่เคยเป็นของเขา!



ผมกัดฟันพูดข่มอารมณ์ไม่พอใจไว้จนมันร้อนสุมอก สองมือกำแน่น คริษฐ์ยักไหล่โคลงหัว



“กูเข้าใจเขานะ คนมันเคยสำคัญ”



“เขาไม่ได้สำคัญกับกูนานแล้ว”



ผมเถียง



“แต่ไม่ใช่กับพี่อินนี่ มึงก็รู้ว่าเขาระ...”



“อย่าพูดเลย”



ผมบอกคริษฐ์แล้วหันหน้าหนี เพื่อนสนิทยกมือยอมแพ้ทั้งที่ยังพูดไม่จบประโยค ไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว ผมไม่ต้องการที่จะรับรู้ความรู้สึกของเขาอีกแล้วเพราะมันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น สุดท้ายแล้วผมกับเขาเราก็ต้องเดินคนละเส้นทางอยู่ดี



อยากเจอบีสท์จัง ไม่ชอบความรู้สึกปวดหน่วงในอกตอนนี้เลย



“พักสิบนาทีนะคะนิสิต”



เสียงอาจารย์จากหน้าห้องดังขึ้นเหล่านิสิตทั้งหลายต่างพากันลุกขึ้นบิดขี้เกียจเดินออกจากห้อง ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ออกไปสูดอากาศหน่อยคงดี ผมบอกพวกคริษฐ์ว่าจะเดินมาเข้าห้องน้ำพวกเขาพยักหน้ารับรู้แล้วแยกตัวไปสูบบุหรี่



Breath : ใกล้เรียนเสร็จแล้วโทรมานะ



ผมนั่งยิ้มเมื่อเห็นข้อความจากคนที่คิดถึง รีบกดเข้าโปรแกรมเพื่อตอบกลับเขาทันที



Sun : เบื่อแล้วอ่ะมารับหน่อย



Breath : เรียนไปเลยอย่างอแง เลิกแล้วเดี๋ยวพาไปกินของอร่อย



Sun : กินอะไร



Breath : ข้าวหมูกรอบเจ้าเด็ด อร่อยมาก



Sun : โม้ป่าว



Breath : ลองแล้วจะติดใจแล้วอย่ามาร้องให้พาไปอีกนะ



Sun : :p



Breath : เรียนดิอย่ามัวแต่เล่นโทรศัพท์



Sun : อาจารย์ให้พักเถอะ



Breath :  อ้อ




คุณคนเล็ก



ผมชะงักมือและรอยยิ้ม กำลังอารมณ์ดี ๆ อยู่แล้วเชียว ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเงยหน้ามองต้นเสียง อินอยู่ในชุดไปรเวทเสื้อเชิ้ตสีอ่อนกางเกงสามส่วนรองเท้าแตะแบบสวม ผมไม่ได้เซ็ต แต่กลับยังดูดีอาจเพราะคน ๆ นี้คือเขา



“พี่ซื้อขนมมาฝาก ยังไม่ได้กินอะไรเลยใช่ไหม”



เขายิ้มอ่อนโยนถือถุงเบเกอรี่ร้านดังเข้ามาหย่อนกายนั่งข้างผม ผมขยับตัวออกห่างจากเขานิดหน่อย ผมก้มลงกดโทรศัพท์ต่อเงียบ ๆ ไม่ได้สนใจเขา



Sun : มารับหน่อยสิ



Breath : เป็นอะไรหรือเปล่า?



Sun : I miss you



Breath : เอาดี ๆ เป็นไรหืม




ผมอมยิ้ม นึกหน้าและเสียงเขาออกเลยคงจะกำลังเขินเก๊กเสียงขรึมอยู่แน่ ๆ



“กินก่อนสิครับอย่ามัวแต่เล่นโทรศัพท์”



ผมหยุดมือที่กำลังพิมพ์ข้อความตอบบีสท์เงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยสายตาเย็นชา อินมองมาที่ผมเขาใช้น้ำเสียงทุ้มนุ่มติดจะดุเล็กน้อยกับผม



“ผมไม่หิวครับ”



“เดี๋ยวปวดท้อง”



“นั่นมันเรื่องของผม”



“ขอโทษครับ พี่แค่เป็นห่วง”



เสียงเขาอ่อนลงนัยย์ตาสีเข้มหลุบมองพื้น ท่าทางเขาหงอยเสียจนผมรู้สึกผิด



“แล้วนี่มาทำอะไรครับ”



ผมเปลี่ยนเรื่อง คนตรงหน้ายิ้มบางแกะขนมปังยื่นมาให้ ผมจำต้องรับไว้อย่างเสียไม่ได้



“มาหาคุณคนเล็กนั่นแหละครับ”



“มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ”



“เปล่าครับ”



ผมเลิกคิ้วสีหน้าเขาบ่งบอกชัดเจนว่าเขามีเรื่องจะคุย



“แต่ผมว่าดูเหมือนอินจะมีนะ”



“ก็ไม่เชิงครับ”



“มีอะไรก็พูดมาเถอะครับอย่าอ้อมค้อมเลยผมจะไปเรียนต่อแล้ว”



ผมบอกพร้อมกับวางขนมปังที่เขาส่งมาให้บนตักมือก็กดตอบข้อความของบีสท์ไปด้วย



Sun : เบื่อเฉย ๆ เดี๋ยวเรียนก่อนนะ ใกล้เลิกแล้วจะบอกอีกที



Breath : ok




“เดี๋ยวนี้ติดโทรศัพท์นะครับคุยกับคนเมื่อวานหรือเปล่า”



เสียงทุ้มเอ่ยถาม ผมรู้สึกถึงความกระด้างเจือจางมาในน้ำเสียงของเขา กดปิดหน้าจอแล้วหันมองเขา



“ครับ”



“ซานบอกว่าเป็นเพื่อนใหม่”



“ประมาณนั้นครับ”



“เจอกันมานานแล้วหรือยังครับ”



“สักพักแล้วครับ”



วันนี้วันที่สี่ ผมต่อบทสนทนาในใจตอบเขาเท่าที่ตอบได้แม้ว่าจะรู้สึกรำคาญนิดหน่อยก็ตามแต่เขารู้จักผมดีเกินไป เขารู้ว่าควรใช้คำพูดแบบไหนหรือทำอะไรที่ผมจะไม่แสดงอาการหงุดหงิดขึ้นมา



“สนิทกันในทางไหนครับ”



“เข้าเรื่องเถอะครับผมมีเวลาไม่มากแล้ว”



ผมพูดเสียงเรียบเมื่อเห็นพวกคริษฐ์เดินกลับมาจากสูบบุหรี่ก้มมองนาฬิกาเหลือเวลาอีกประมาณห้านาที ทำไมเยอะจัง



“เขาไม่ใช่แค่เพื่อนธรรมดาใช่ไหมครับ”



“ทำไมถึงคิดแบบนั้น”



“เพราะน้องยิ้ม”



ผมเลิกคิ้วแล้วถามกลับ



“แล้วปกติผมไม่ยิ้มตรงไหน”



คราวนี้อินส่ายหน้าช้า ๆ มุมปากกดยิ้มบางดูเศร้าสร้อย



“รอยยิ้มมันต่างกันครับ กับเขาน้องยิ้มเหมือนคนมีความสุข



เสียงของอินเศร้าจนหัวใจของผมรู้สึกปวด สายตาของเขาที่มองมาฉายแววปวดร้าวจนน่าใจหาย ลมหายใจของผมกระตุก ผมสูดลมหายใจลึกแล้วค่อย ๆ ผ่อนออกจ้องมองหน้าเขาที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องมองผมอย่างเจ็บปวดขนาดนั้น



ครับ ผมมีความสุขจริง ๆ เวลาอยู่กับเขา



“คุณคนเล็ก”



เสียงของอินที่เรียกผมกลับมาเบาหวิว ผมเองก็จ้องมองเขาอย่างไม่ลดละเช่นกัน ผมอยากให้เขาได้รู้ว่าผมพูดความจริง ผมไม่ได้โกหก ช่วงเวลาที่ผมได้ใช้มันกับบีสท์หรือเพื่อน ๆ ของเขามันคือความสุขจริง ๆ ความสุขที่หายจากผมไปแสนนาน ความสุขที่ผมอยากจะรักษาเอาไว้ไม่ให้ใครเข้ามาทำลาย



“ผมขอตัวนะครับ”



ผมก้มหัวให้เขาเป็นการบอกลาวางขนมปังที่เขาซื้อมาไว้ข้าง ๆ ลุกขึ้นเดินออกมาหาพวกคริษฐ์ที่ยืนรออยู่ตรงบันได



ซานกับคิงทำหน้าตาอยากรู้อยากเห็น คริษฐ์ยืนอยู่นิ่ง ๆ รอจนผมเดินเข้าไปหาเขาจึงพยักหน้าให้ทุกคนเดินขึ้นตึกเรียน



“พี่อินมาทำไมอ่ะ”



ซานชะโงกหน้ามาถาม ผมปรายตามองมันเล็กน้อย



“ก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่หรือไงว่าเขาจะมา”



“อะไร๊ ไม่รู๊!”



มันตอบผมเสียงสูงทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ได้โคตรจะไม่เนียน



“หลักฐานคามือขนาดนั้น”



ผมบอกมันแล้วหยุดสายตาที่ถุงขนมยี่ห้อเดียวกับที่ผมได้รับจากอิน มันสะดุ้งเอาถุงขนมหลบไว้ด้านหลังแล้วยิ้มแหย



“แหะ ๆ ก็พี่เขาน่าสงสาร”



“สงสารตัวเองก่อนเถอะมึง”



ผมเหยียบตีนมันไปเต็ม ๆ แล้วเดินเข้าห้องเรียนไม่ฟังเสียงร้องโหยหวนเหมือนหมาถูกเชือด คริษฐ์กับคิงเดินส่ายหัวยิ้มขำกันเข้ามานั่งประจำที่และเริ่มเรียนอีกครั้ง



ผมนั่งฟังอาจารย์ ฟังแบบเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาใจก็ลอยคิดโน่นนี่ไปเรื่อย ไม่เข้าใจอยู่อย่างหนึ่งคือทำไมใคร ๆ ต่างก็พากันเห็นใจอิน โดยเฉพาะไอ้ซานที่ดูจะออกนอกหน้ามาก คิงถึงจะไม่ค่อยพูดแต่ผมก็รู้ว่ามันคอยส่งข่าวบอกเรื่องผมให้เขารู้ หรือแม้กระทั่งคริษฐ์ที่ถึงมันจะดูเป็นกลางแต่ถ้าเขามาขอร้องอะไรมันก็มักจะไม่ขัด



ทั้ง ๆ ที่ทุกคนก็รู้ว่าผมเจอกับอะไรมาบ้าง ผมไม่อยากคุยไม่อยากเจอ พวกมันก็ดูเหมือนจะเข้าใจแต่พอเขาเข้ามาพูดด้วยสีหน้าและท่าทางน่าสงสารทุกคนกลับเทใจช่วยเขาไปหมดซะอย่างนั้น



ทำอะไรก็ถูกไปหมดเป็นพ่อพระเอกอย่างที่แพรวเรียกจริง ๆ



ถอนหายใจอีกครั้งคิดเรื่องของเขาก็พาลจะปวดหัวและอารมณ์เสียเปล่า ๆ มือหนึ่งหมุนปากกาเล่นอีกมือก็หมุนโทรศัพท์เล่น มองนาฬิกาที่ติดอยู่บนผนังอย่างใจจดใจจ่อ กะเวลาที่บีสท์น่าจะใช้ขับรถจากบ้านมาถึงมหาวิทยาลัยเสร็จสรรพก็ส่งข้อความบอกเขาไป ได้รับคำตอบกลับมาว่ากำลังจะออกจากบ้านผมก็อมยิ้มใส่โทรศัพท์แล้วเงยหน้าขึ้นมาเรียนอีกครั้ง



“กูเป็นพี่อินกูก็คงเศร้านะ”



จู่ ๆ คริษฐ์ก็พูดขึ้น ผมหันไปมองมันสายตาเต็มไปด้วยคำถาม มันยักไหล่ก่อนจะตอบ



“มึงดูมีความสุข”



“ก็กูมีความสุข”



“มันดีกับมึงใช่ไหม”



มากจนมึงคาดไม่ถึงเลยล่ะ



คริษฐ์มองผมกลับมานิ่ง ๆ ถอนหายใจแล้วส่ายหัว



“กูนึกภาพมันดีไม่ออกเลย”



เขาพรูลมหายใจสุดท้ายก็พูดในสิ่งที่ตัวเองคิดออกมา ผมไม่แปลกใจนักหรอกหลาย ๆ คนไม่ชอบหน้าเขายิ่งพอมีข่าวอะไรไม่มีออกไปบีสท์ก็ไม่คิดจะแก้ตัวคนเลยยิ่งใส่สีตีไข่ทำให้หลายคนมองเขาในแง่ลบ



“อย่ามองคนที่ภายนอก”



เขาพยักหน้าเกยคางลงบนโต๊ะ



“อือ ณินก็บอกแบบนั้น”



ผมเลิกคิ้วพาลนึกไปถึงแฝดสยามของคริษฐ์มัน ใช่สิณินเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับแพรวที่คณะนี่นา



“ถ้ามึงได้รู้จักเขาจริง ๆ มึงจะรู้ว่าเขาเป็นคนดี”



คริษฐ์หัวเราะหึแล้วขยี้หัวถอนหายใจ ผมมองมันอย่างขำขัน



“เอาเถอะ แค่มันทำให้มึงยิ้มได้ขนาดนี้กูก็พอจะเข้าใจแล้ว”



“ขอบใจนะมึง”



“อือ”



เสียงอาจารย์บอกเลิกคลาสดังขึ้นทุกคนลุกขึ้นกรูออกไปโดยมิได้นัดหมาย อาจารย์ประจำวิชาส่ายหัวระอาแต่ก็ได้แค่บ่น ผมสี่คนเดินรั้งท้ายออกจากห้องสโลป ซานบิดขี้เกียจหาวเสียงดัง



“ไปกินข้าวกันป่ะ”



มันชวน คิงพยักหน้า คริษฐ์ก้มมองนาฬิกาแล้วส่ายหน้า



“มีนัดว่ะ”



“คนไหนอีกล่ะไอ้สัด”



ซานเบะปากใส่พ่อเดือนคณะเนื้อหอม คริษฐ์ยิ้มมุมปากยักคิ้วกวน



“น้องน้ำ”



คริษฐ์ตอบเรียบ ๆ แต่ทำคิงกับซานตาโต



“น้องน้ำอักษรปีหนึ่งอะนะ ไอ้สัดเห็นว่ายากทำไมมึงได้”



ซานร้องเสียงหลงแล้วบ่นเพื่อนด้วยความอิจฉา คริษฐ์ยักไหล่



“พอดีกูหล่อ”



“ไอ้สัด//ไอ้สัด”



ซานกับคิงพร้อมใจกันด่า ผมหัวเราะในลำคอก้มมองจอโทรศัพท์ บีสท์ส่งข้อความมาบอกว่ารออยู่ตรงลานจอดรถของคณะแล้ว



“แล้วมึงไปกินข้าวกับพวกกูไหมซัน”



คิงหันมาถาม ผมส่ายหน้าให้เป็นคำตอบ



“จะกลับห้อง”



“นอนอีกตามเคยสินะมึงน่ะ”



ซานบ่นดีที่มันไม่สงสัยติดใจอะไร มันสองคนแยกตัวเดินไปทางโรงอาหารคณะวิทยาศาสตร์ที่เปิดขายตลอด คริษฐ์หันมาเลิกคิ้วใส่



“ไปไหน”



ไอ้คนนี้สิที่รู้ทันของจริง



“บีสท์มารับจะไปบ้านเขา”



“หืม? พวกมึงไปเร็วขนาดเข้าบ้านกันแล้ว?”



เขามองผมด้วยแววตาทึ่ง ๆ



“เออน่ะ”



ผมบอกปัดอย่างไม่ใส่ใจ คริษฐ์ยิ้มมุมปาก



“เป็นสาวเป็นนางรู้จักรักนวลสงวนตัวหน่อยนะครับคุณดารินทร์”



ไอ้ฟวย



ผมด่ามันแบบไม่มีเสียง คนถูกด่ายิ้มขำเราทั้งสองเดินมาด้วยกันจนถึงลานจอดรถ ผมกดโทรศัพท์อ่านข้อความที่บีสท์ส่งมาให้อีกรอบว่าเขาเอารถคันไหนมาเสร็จแล้วจึงมองหา อ่ะ อยู่นั่นเองข้างรถของคริษฐ์เลยบังเอิญจริง ๆ



“มันจอดรถไว้ไหน”



คริษฐ์เอ่ยถามผมเลยบุ้ยปากไปยังรถคันสวยที่จอดอยู่ข้าง ๆ มัน



“รถสวยไม่เบา”



คริษฐ์ผิวปากเอ่ยชม ผมมองแล้วก็งงไม่เข้าใจว่าสวยตรงไหนมันก็ธรรมดาเหมือนกันหมดไม่ใช่หรือไง ไม่เข้าใจตรรกะของพวกชอบแต่งรถหรอก



“ที่บ้านจอดเรียงอย่างกับโชว์รูมเลย”



คริษฐ์หันมาเลิกคิ้วมองตาเป็นประกาย



“โอ้ คนอวดผัว”



ปั่ก!!!



เต็ม ๆ ครับผมฟาดหลังมันเต็มรัก คริษฐ์ร้องอึกคำเดียวแล้วเงียบไป



“เจ็บ โอย~”



กว่าจะหาเสียงตัวเองเจอผมก็เดินไปจนถึงรถของบีสท์แล้วได้ยินเสียงเขาปลดล็อครถจึงเปิดประตูฝั่งคนขับ ก่อนจะเข้าไปนั่งไม่ลืมชูนิ้วกลางส่งให้คริษฐ์มันด้วย มันหัวเราะแล้วโบกมือลา



“คริษฐ์รู้ด้วยหรือ”



เมื่อเข้ามาในรถคาดเข็มขัดเรียบร้อยบีสท์ก็เอ่ยถาม



“อือ”



“แล้วมันว่าอะไรไหม”



ถ้าผมหูไม่ฝาดไป น้ำเสียงของบีสท์ดูจะเป็นกังวล ผมหันไปยิ้มให้เขาแล้วส่ายหน้าเป็นคำตอบ



“ไม่ว่า คริษฐ์บอกอะไรทำแล้วมีความสุขก็ทำไป แต่มีคริษฐ์รู้คนเดียว”



บีสท์พยักหน้าเข้าใจ เขาขับรถออกจากมหาวิทยาลัยขึ้นทางด่วนวันอาทิตย์แบบนี้จะว่ารถไม่ติดก็ไม่เชิงแต่ก็ถือว่ายังคงสภาพคล่องไหลไปได้เรื่อย ๆ



“จะกินที่ร้านหรือซื้อไปกินที่บ้าน”



เขาถาม ผมปรือตาลืมขึ้นหันไปถามเขา



“ใครอยู่บ้านบ้าง”



“น่าจะเหลือแค่แพรว เชน ยู”



“กลับหอกันไปหมดแล้วหรือ”



“อือ ไปมหาลัยกันด้วย ทำงานรับน้องกัน”



ผมพยักหน้าเข้าใจปิดปากหาว



“ซื้อไปกินที่บ้านก็ได้”



“เออลืมพากลับไปเก็บเสื้อผ้าเลย”



ผมตบกระเป๋าเป้ตัวเองสองสามทีแล้วยิ้มให้เขาจนตาหยี



“เตรียมมาเล่า”



“หึหึ ตัวยุ่งเอ๊ย”



บีสท์หัวเราะบังคับพวกมาลัยมือเดียว ส่วนอีกมือนั้นยื่นมาลูบหัวผมเล่น ลูบไปลูบมาชักง่วงแล้วได้ยินเสียงทุ้มบอกเบา ๆ



“นอนไปก่อนถึงบ้านแล้วเดี๋ยวปลุก”



“แล้วข้าว”



“เดี๋ยวลงไปซื้อให้นอนไปเถอะ”



เขาบีบจมูกผมเบา ๆ ผมยิ้มทั้งที่ยังหลับตาอยู่แล้วเข้าสู่ห้วงนิทราไป



ก่อนเคยเป็นที่หนึ่งที่เดียวในใจของเธอ
แต่วันนี้ฉันเองต้องเป็นที่เท่าไหร่
บอกได้ไหมต้องทำอย่างไรที่ย้อนไป
กลับไปที่เดิม ที่เธอต้องการเหมือนวันเก่า
อีกสักครั้ง...ขอเธอได้ไหม...ที่เดิมในหัวใจ
ที่เดิมในหัวใจ – TMT ft. ตู่ ภพธร




tbc




talk. รู้สึกทุกคนจะเกลียดคำว่า คุณคนเล็ก มาทีไรได้เรื่องทุ๊กกกที ฮ่าๆๆๆ

มีหลายคนถามเข้ามาว่าทำไมพวกเพื่อนซันถึงยังเชียร์พี่อินอยู่ทั้ง ๆ ที่เขาก็มีคู่หมั้นอยู่แล้ว เราเชื่อว่าในทุกสังคมต้องมีคนประเภทที่ทำอะไรก็ไม่ผิดอ่ะ แบบพอทำผิดแล้วทุกคนก็จะสงสารอย่าว่าเลย ไม่เป็นไรอะไรพวกนี้ ซึ่งพี่อินมันเป็นคนแบบนั้นเลย ทุกคนจะมองว่านางเป็นคนดี เป็นพ่อพระ และยิ่งสิ่งที่นางแสดงออกกับซันเลยทำให้ทุกคนเชียร์ว่านางดีนะ ทุกปัญหามีทางแก้ เหมาะสมกัน อะไรประมาณนี้


โดยส่วนตัวคือเกลียดคนแบบพี่อินมาก ก๊ากกกกกกกกกกกกกกก น่ามคาญ พอแล้วเพิ่งเลิกงานแล้วรีบมาลงให้ ไปนอนแว้ววว ไข้ขึ้น แงงงงง


#นิยายตัวร้าย แท็กได้ในทวิตเตอร์นะจ๊ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-03-2017 00:55:50 โดย _mysecretlove »

ออฟไลน์ saruwatari_guy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
Re: :. t h u g ♡ ตัวร้าย -12- update 23/03/2017 P.3
«ตอบ #89 เมื่อ23-03-2017 01:26:38 »

ลำไยพี่อินม้ากกกก เบื่อเหมือนที่ซันรู้สึก คือ ทุกคนรู้ว่าเรื่องเป็นยังไงแต่ก็ยังเข้าข้าง #ตัวร้าย นี่จริงๆแล้วหมายถึงอีพี่อินใช่ป่ะ เบื่อนาง กรอกตามองบนให้ทีนึง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด