**************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
-------------------------------------------------------------------
*/*/*
ทุกอย่างในเรื่องนี้เป็นเรื่องสมมุติไม่มีอะไรเป็นความจริงสักอย่าง
สามารถอ่านเรื่องนี้ได้อีกช่องทางที่ meb ในเชื่อเรื่อง "Sunrise Forest;ป่าภากร" by MyTeaMeJive */*/*
Sunrise in the forest ** เมื่อภากรขึ้นที่ป่าสีทอง **ภาคกวางทอง ความนำความเงียบสงบ และสายลมเย็นปกคลุมป่าสีทองแห่งเมืองลั่ว ป่าศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพเจ้าขุนเขาและสรรพสัตว์
ฝูงกวางเทพ และกวางแห่งป่าสีทองรวมกลุ่มพักผ่อน โดยยังมีทั้งสัตว์เทพและสัตว์ป่าผู้มีลำดับล่างลงมาพักผ่อนอยู่ใกล้เคียงกันอีกหลายตัว
นางกวางเทพตัวใหญ่ท่วงทีสง่างาม ยืดตัวเงยหน้าขึ้น เพื่อรับฟังเสียงสายลมและใบไม้ ลูกกวางตัวน้อยดวงตาสีทอง กินผลไม้เสร็จก็เดินมานอนเบียดนางกวางเทพ นางก็ลืมตาก้มลงมามองด้วยแววตาอบอุ่น จากนั้นก็เพลิดเพลินกับความสงบเงียบนี้ต่อไป
กลิ่นสาบสัตว์ที่นำมาก่อน ทำให้ผู้ที่กำลังพักผ่อนอยู่ทั้งหมดเกิดอาการเฝ้าระวัง กวางเทพเพศผู้ตัวใหญ่ลุกขึ้นยืนมองมาทางที่มาของกลิ่น จนกระทั่งเทพเสือโคร่งตัวใหญ่กว่าเสือทั่วไปก้าวพ้นแนวต้นไม้ใหญ่ออกมาแล้วหยุดยืนรอ นางกวางเทพก็ส่งเสียงในลำคอ แล้วสะบัดคอไปทางอื่น
ขณะที่สัตว์ทุกตัวต่างเฝ้าระวัง แต่กลับมีเพียงกวางน้อยตาสีทองที่ผละจากข้างกายนางกวางเทพ เดินเก้กัง ด้วยขาที่มิแข็งแรงมากนักเข้าไปหาเทพเสือโคร่ง
ด้วยวัยของกวางน้อยสมควรมีกำลังขาที่แข็งแรงกว่านี้ แต่ความที่เกิดจากสัตว์เทพที่แตกต่างเผ่าพันธุ์ จึงปรากฎลักษณะด้อยที่มิเคยพบมาก่อน
นางกวางเทพจับตามองทุกย่างก้าว จนกระทั่งเจ้ากวางน้อยเดินไปถึงเทพเสือโคร่งแล้วใช้จมูกแตะจมูก นางกวางเทพจึงหันไปทางอื่น
เจ้ากวางน้อยแนบคอเข้าหา คลอเคลียด้วยความเชื่องเชื่อ เทพเสือโคร่งตัวใหญ่หันมาเลียแก้มปล่อยให้พัวพันอยู่พักใหญ่จึงใช้จมูกแตะที่ส่วนแก้ม แนบลำคอเข้าหา แล้วหันหลังกลับไป กวางน้อยทอดสายตามองตามด้วยความอาลัย จนสัตว์เทพตัวใหญ่ลับสายตา จึงกลับมานอนหมอบเคียงข้างนางกวางเทพเช่นเดิม
กวางเทพเพศผู้ตัวใหญ่ที่จับจ้องทุกการเคลื่อนไหวโดยไม่วางตามาตั้งแต่แรก ส่งเสียงไม่พอใจอยู่ในลำคอ ขณะที่เดินสำรวจรอบฝูงต่อไปอีกพักใหญ่
บทที่หนึ่ง ปีที่ห้าสิบห้าแห่งอาณาจักรไท่ชาง ที่เมืองลั่วซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือของอาณาจักรยังคงความหนาวเย็นไว้ไม่เปลี่ยนแปร แต่กลิ่นไอของสงครามกลับล่องลอยจาง ๆ อยู่ในอากาศ เมื่อเหอชินห้าวเจ้าเมืองเหอคิดการใหญ่ ซ่องสุมผู้คนและเจรจาในทางลับเพื่อรวบรวมหัวเมืองใกล้เคียง ผนวกดินแดนและตัวมณฑลเพื่อหวังแยกตัวเป็นอิสระจากจากฮ่องเต้จางฉวน
ทั้งนี้ เขตปกครองต่าง ๆ ทางเหนือของไท่ชางมีความพิเศษที่ปกครองโดยคนจากตระกูลต่าง ๆ ขณะที่การกำหนดขอบเขตพื้นที่ของหัวเมืองมักจะยึดพื้นที่ส่วนที่เป็นตัวเมืองมีธุรกิจการค้ารุ่งเรืองว่าคือเมืองของตน แต่บางแห่งก็ประกาศพื้นที่ออกมาถึงเรือกสวน ไร่นาหากมีผลผลิตทางการเกษตรที่ดี
แต่ที่เมืองลั่ว การกำหนดเขตพื้นที่กลับครอบคลุมไปถึงเขตป่าสีทอง ที่ถูกเรียกว่าป่าสีทองแห่งเมืองลั่ว
หากคิดกำหนดขอบเขตของเมืองไว้เฉพาะส่วนที่เป็นตัวเมืองกับไร่นา เกรงว่าเมืองลั่วอาจกลายเป็นเมืองที่มีพื้นที่น้อยที่สุด แต่ทันทีที่นับเขตป่าเข้าไปด้วย ก็นับได้ว่าที่นี่มีเรื่องที่น่าสนใจอยู่บ้าง ด้วยเมืองลั่วแห่งนี้มิได้ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์การค้าและการทหาร ไม่มีแม่น้ำใหญ่ไหลผ่าน เส้นทางหลักจากเมืองหลวงไปสู่เมืองใหญ่ทางเหนือก็มิได้ผ่านที่นี่
ที่เมืองนี้ถูกผู้ฝักใฝ่อำนาจจับตามองด้วยความสนใจมาตลอด ก็เพราะป่าสีทองแห่งนั้น
พื้นที่ป่าแห่งนี้ตั้งอยู่ในหุบเขาซับซ้อนต่อเนื่องหลายลูก ยอดเขาที่สูงที่สุดนั้นสูงเสียดฟ้าจึงถูกเรียกว่าเขาเทียมฟ้า มิเคยมีผู้ใดก้าวเข้าไปถึง
ว่าที่จริงชาวเมืองลั่วส่วนใหญ่จะเพียงเดินทางผ่านปากทางของป่าเท่านั้น
ว่ากันว่าเมื่อตอนที่บรรพบุรุษของเมืองลั่วมาตั้งเมือง ก็ละเว้นพื้นที่นี้ไว้แล้ว หาได้ตั้งเมืองท่ามกลางปราการธรรมชาติที่ยอดเยี่ยมนี้ พวกเขาเลือกที่จะตั้งเมืองในพื้นที่ที่ห่างออกมา ปล่อยให้ป่าสีทองกลายเป็นสถานที่ซึ่งมีเรื่องราวลึกลับมากมาย
ชาวเมืองลั่วเชื่อว่า ป่าสีทองแห่งนี้มีเทพแห่งป่าสีทองสถิตย์อยู่ เทพเหล่านี้มิได้เรียกร้องเครื่องสังเวยอันใด เพียงแค่เมื่อเดินทางผ่านแล้วถวายสุราสักจอก ข้าวเปลือกสักกำมือก็เพียงพอแล้ว
แต่คำที่ชาวบ้านในหัวเมืองใกล้เคียงกันนำไปบอกเล่า ออกจะพิศดารกว่านั้น
ว่ากันว่า เรือกสวนไร่นาแห่งเมืองลั่วให้ผลผลิตตลอดทั้งปี ก็เพราะป่าสีทอง
ว่ากันว่า คนเมืองลั่วสุขภาพแข็งแรงดี มีกินมีใช้ตลอดปี ก็เพราะป่าสีทอง
และว่ากันว่า สภาพอากาศที่คงที่เกือบตลอดทั้งปี เป็นเพราะป่าสีทองเช่นกัน
และว่ากันว่า ภายในป่าสีทองแท้จริงแล้วหาได้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใด ๆ แต่ที่นั่นคือแหล่งทรัพยากรมีค่าอุดมสมบูรณ์ที่ชาวเมืองลั่วหวงแหนยิ่งนัก
ชาวเมืองลั่วเองก็มิได้อะไรมากมายกับเรื่องเล่าเหล่านี้ เว้นแต่ที่บอกว่าคือแหล่งทรัพยากรนั่น ผู้ใดกันที่จะวางถุงเงินไว้หน้าบ้าน ให้ผู้อื่นมาแย่งชิงไปได้โดยง่าย คนเรานี่ก็ช่างกล่าวกันไปได้!
สรุปแล้วเรื่องเล่าเกี่ยวกับป่าสีทองแห่งเมืองลั่ว จึงขึ้นอยู่กับว่า พื้นฐานในจิตใจของผู้นั้นต้องการเชื่อในสิ่งใด
ขณะที่เมืองเหอจับตามองเมืองลั่วด้วยหวังครอบครอง ฮ่องเต้แห่งไท่ชางก็มีความสนพระทัยเมืองแห่งนี้ด้วยเช่นเดียวกัน แต่ในสถานะอื่นที่ต่างออกไป เพราะความเกี่ยวพันระหว่างเมืองลั่ว เมืองเหอ กับเมืองหลวงที่ค่อนข้างซับซ้อนหลายชั้น
ในอาณาจักรไท่ชาง หัวเมืองชั้นนอกที่อยู่ห่างไกลจะส่งบุคคลในครอบครัวไปรับราชการกินตำแหน่งอยู่ในพระราชวัง เบื้องหน้าคือการยกย่อง เบื้องหลังคือการควบคุมอย่างใกล้ชิด เพื่อมิให้ก่อการเคลื่อนไหว แต่เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วกลุ่มตระกูลจากเมืองลั่วที่ถวายงานรับใช้ฮ่องเต้ยังได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยมากกว่าอีกหลายเมือง โดยเฉพาะหากนำไปเปรียบเทียบกับผู้แทนจากเมืองเหอ
แต่ในเวลาเดียวกัน เมืองลั่วกับเมืองเหอยังมีความสัมพันธ์ในแบบเครือญาติ เนื่องด้วยเหอชินรุ่ย ฮูหยินของหยางติงเจ้าเมืองลั่วคือน้องสาวของเหอชินห้าว เจ้าเมืองเหอคนปัจจุบัน
เรื่องนี้ทำให้หยางติงเจ้าเมืองลั่ว ตกอยู่ในสถานการณ์ที่มิอาจตัดสินใจได้มาโดยตลอด โดยเฉพาะการที่เหอชินรุ่ยมิใช่ฮูหยินที่พอใจกับการปกครองคนในบ้าน แต่นางยังเข้าแทรกแซงการทำงานของหยางติงในทุกวิถีทาง โดยเฉพาะการโน้มน้าวให้สามีสนับสนุนการเคลื่อนไหวของฝ่ายของพี่ชายมาตั้งแต่แรก
เรียกว่า หยางติงพอจะระแคะระคายเรื่องการเคลื่อนไหวของเมืองเหอก็จากคำกล่าวของฮูหยิน หาใช่จากผู้อื่นไม่
เหอชินรุ่ยมักนำเรื่องที่เหอชินห้าวเจ้าเมืองเหอไม่พอใจฮ่องเต้แห่งไท่ชาง มาบ่นให้สามีฟังอยู่เสมอ หลายคราคนฟังยังคิดไปว่า หรือที่นี่คือเมืองเหอ ต่อมาเมื่อเรื่องราวมีความจริงจังมากขึ้น ถึงตอนที่ฝ่ายเมืองเหอส่งคนมาเจรจาในทางลับ นางก็ทำให้การเจรจานั้นไม่เป็นความลับ ด้วยการเข้ามาร่วมการเจรจานั้น แล้วร่วมก่นประณามเพิ่มน้ำหนักให้กับความชอบธรรมของฝายเมืองเหอ
แม้เหอชินรุ่ยจะออกตัวหลายครา ว่านางรู้ดีแก่ใจว่านางมิควรแทรกแซงงานการเมืองของสามี ทุกอย่างที่ทำและพูดก็เพราะเมืองเหอคือเมืองซึ่งเป็นบ้านเกิด และเจ้าเมืองเหอก็เป็นพี่ชายแท้ ๆ จะให้นางนิ่งเฉยไม่สนับสนุนได้อย่างไร
หยางติงเจ้าเมืองลั่วต่างหากคือคนที่ต้องเก็บปากในการเจรจา ไม่ปริปากเกี่ยวกับความคิดในใจสักคำเดียว
ต่อมาคนของฝ่ายเมืองเหอมาแจ้งข่าวในทางลับ ว่าเวลานี้มีห้าหัวเมืองเพื่อนบ้านของเมืองเหอพร้อมที่จะลงนามร่วมเป็นพันธมิตรในการเคลื่อนไหวเพื่อผนวกดินแดน แต่การส่งหนังสือนี้กลับมีขึ้นในเวลาเดียวกันกับที่ฝ่ายเมืองหลวงก็ส่งหนังสือในทางลับมาสอบถามเรื่องท่าทีของเมืองลั่ว
เป็นการมาถึงในเวลาเดียวกันที่ทำให้หยางติงเจ้าเมืองลั่วแน่ใจ ว่าฮ่องเต้แห่งไท่ชางทราบดีว่าเกิดอะไรขึ้นในหัวเมืองห่างไกล ต่อให้อยู่ห่างไกลชนิดที่ต้องใช้เวลาเดินทางนานนับเดือน และต่อให้ทรงวางพระราชหฤทัยกลุ่มตระกูลจากเมืองลั่วเพียงใดก็ตาม
หนังสือสอบถามฉบับนี้ จึงเท่ากับการประกาศอย่างเป็นทางการให้หยางติงต้องเลือก!
เมื่อกล่าวถึงกลุ่มตระกูลจากเมืองลั่วที่ทำงานกินตำแหน่งอยู่ในเมืองหลวง พวกเขาคือหยางจงจิน ผู้มีศักดิ์เป็นอารอง และหยางลี่ ผู้มีศักดิ์เป็นน้องชายของหยางติง
นั่นคือเมื่อบิดาของหยางติงปกครองเมืองลั่ว หยางจงจินผู้เป็นน้องชายคนรองก็น้อมรับพระบรมราชโองการพาครอบครัวเดินทางเข้าเมืองหลวง
ต่อมาเมื่อหยางติงปกครองเมืองลั่ว หยางลี่น้องชายคนรองของหยางติงก็น้อมรับพระบรมราชโองการเข้าเมืองหลวงไปเช่นกัน แต่ทรงไม่มีพระราชานุญาตให้หยางจงจินกลับไปเมืองลั่ว
เมื่อคิดถึงพวกเขาที่ต้องเสียสละอยู่ในเมืองหลวงในเวลาที่บีบคั้นเช่นนี้ หยางติงเจ้าเมืองลั่วที่ปวดร้าวใจยิ่งนัก และทำให้สามารถตัดสินใจได้...
ตัดสินใจที่จะอยู่ฝ่ายเมืองหลวง แม้จะรู้ดีว่าการตัดสินใจในครั้งนี้ จะทำให้ฮูหยินไม่พอใจมากก็ตาม
หยางหลงบุตรชายคนโตของหยางติง เป็นผู้ที่เดินทางเข้าเมืองหลวงเพื่อยื่นหนังสือแสดงเจตนาว่ายังภักดีต่อฮ่องเต้แห่งไท่ชาง การยื่นหนังสือใช้เวลาไม่นาน ที่นานกว่าคือการเดินทางที่ใช้เวลาหลายเดือน และการรอเวลาที่ทรงอนุญาตให้เข้าพบ ประกอบกับความกังวลที่อยู่ในใจ กดดันให้หยางหลงรู้สึกเหนื่อยล้าเกินกว่าความเป็นจริง
หยางหลงเคยต้องติดต่อราชการกับเมืองหลวงมาแล้วหลายครั้ง แต่การติดต่อราชการในครั้งสุดท้ายนี้ แตกต่างออกไป เพราะต้องพบกับการถูกตรวจสอบและถูกจับตามองด้วยความไม่ไว้วางใจอยู่ตลอดเวลา
แม้ท่านหยางจงจิน และหยางลี่ทั้งสองคนจะไม่ได้เอ่ยปาก แต่บรรยากาศโดยรอบบ่งชี้ว่า ชาวเมืองลั่วทุกคนคือตัวประกันเพื่อกดดันให้หยางติงเจ้าเมืองลั่วไม่ตัดสินใจเป็นปฏิปักษ์กับฮ่องเต้
"พวกเรามิได้เสียดายชีวิตหากต้องถูกลงโทษฐานก่อกบฎ แต่ขอฝากหลานให้ช่วยย้ำเตือนท่านเจ้าเมือง ว่าชาวเมืองลั่วอยู่กันอย่างสงบมาเป็นเวลานาน ความเดือดร้อนที่คนเขานำมาบอกนั้นมีสาเหตุจากเรื่องใด อาคิดว่าท่านเจ้าเมืองจะแยกแยะได้ เพียงแต่หากถูกฝ่ายนั้นกดดันมาก ๆ เข้าก็อาจตัดสินใจนำสงครามเข้าบ้านของเราเอง" หยางลี่กล่าวอย่างคนที่รู้นิสัยของหยางติงเป็นอย่างดี
(มีต่อครับ)