┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ [ตอนพิเศษ HNY P.33]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ [ตอนพิเศษ HNY P.33]  (อ่าน 367572 ครั้ง)

ออฟไลน์ Loste

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 430
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER14 P.11 [08/01/17]
«ตอบ #330 เมื่อ09-01-2017 00:59:38 »

อ่านมาถึงตอนนี้มีแต่คนกังวลเริ่องพ่อโซ  เราแนะนำให้จ้างคนมาอุ้มบุญไปเลยคะ จะได้หมดปัญหาเรื่องทายาท555 อันนี้แค่แซวเล่นเฉยๆนะคะอย่าซีเรียส แค่เห็นบรรยากาศน่ารักของทั้งสองคนเลยไม่อยากให้มีเรื่องให้ดราม่า สงสารพี่กีล์ อ่านแล้วรู้สึกหยุดอ่านไม่ได้ ทั้งยิ้ม ทั้งฟิน ทั้งหยิกหมอน ดีต่อใจจริงๆคะ นิยายเรื่องนี้ :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ kiolkiol

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER14 P.11 [08/01/17]
«ตอบ #331 เมื่อ09-01-2017 01:02:19 »

นังหมาช่างน่ารักตะมุตะมิชอบอ่ะดำเนินเรื่องได้ดีต่อใจมากค่ะโอ้ยยยนางน่ารักจริงๆพี่กีล์โคตรเท่ชอบอิจเมจมากดูมีความค่อยเป็นค่อยไปดีค่ะ

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER14 P.11 [08/01/17]
«ตอบ #332 เมื่อ09-01-2017 02:19:16 »

มันดีต่อใจมากจริงๆค่ะ เค้าจูบกันแล้วด้วย ดีใจ
 :impress2:

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER14 P.11 [08/01/17]
«ตอบ #333 เมื่อ09-01-2017 15:52:54 »

เขาเป็นคนพิเศษกันแล้ว มีจงมีจุ๊บ
ดีต่อใจ :-[  :-[

ออฟไลน์ CHESS.

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +228/-2
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER14 P.11 [08/01/17]
«ตอบ #334 เมื่อ09-01-2017 21:32:31 »

-15-

 

ผมยกมือแตะริมฝีปากตัวเอง...ทั้งที่ผ่านมาสักพักแล้วแต่กลับรู้สึกเหมือนเพิ่งเกิดขึ้น สัมผัสอบอุ่นที่กดทับลงมายังคงติดอยู่ไม่จางหายไปไหน

เป็นเหมือนตราที่ประทับไว้และจะไม่มีวันลบเลือน…

ผมไม่รู้ว่าเขาเคยทำแบบนั้นกับใครมาแล้วกี่คน แต่…นั่นเป็นครั้งแรกของผม

ผมมองไปรอบด้าน ก่อนจะหยุดสายตาลงตรงริมสระน้ำด้านหนึ่ง ซึ่งตรงนั้นมีคนๆหนึ่งกำลังทำหน้าที่เล่นกีตาร์อยู่ในวงเหล้าของพวกดุริยางค์ โซโล่มองมาที่ผมอยู่ก่อนแล้ว และถึงมือจะยังเล่นกีตาร์อยู่ แต่รอยยิ้มมุมปากกับสายตาที่มองมามันก็ทำให้ผมหน้าร้อนได้อยู่ดี

เวร…ยังเอามือแตะปากอยู่เลย

ผมเบนสายตาออกมาจากคนที่ยังทำหน้าตาล้อเลียนไม่เลิกแล้วมองไปรอบๆ ดีที่คนอื่นๆเมากันหมดแล้วเลยไม่มีใครพูดอะไร

ตอนที่ผมกับโซโล่กลับมาก็พบว่าทุกคนนั่งกินเหล้ากันอยู่รอบสระว่ายน้ำอยู่แล้ว พอเดินเข้ามาไม่ทันไรก็มีเด็กดุริยางค์ที่น่าจะเมาอยู่เดินมาลากโซโล่ไปเล่นกีตาร์ในวงเหล้าทันที ส่วนผมที่หาพวกไอ้โนว์ไม่เจอก็ได้แต่นั่งเล่นอยู่ริมสระ

จะว่าไป…เพื่อนผมทั้งสามคนมันหายไปไหนกัน

“อ้าว…ไอ้กีล์”พูดถึงพวกมันพวกมันก็มา…แถมยังเดินเรียงแถวมาจากทางหาดอีก

แล้วนั่นเก้าไม่ใช่เหรอ

“พวกมึง…”ผมหรี่ตามองไอ้พวกที่ไม่ยอมสบตาด้วยสายตาจับผิด ปกติถ้ามีเรื่องเหล้าไอ้โนว์มันไม่มีทางพลาด แต่นี่ดูเหมือนมันยังไม่ได้แตะอะไรเลยด้วยซ้ำ

“ผมไปหาเพื่อนก่อนนะพี่!”เด็กแสบแก้ตัวแล้ววิ่งจู๊ดไปคนแรก

“กูหิวเหล้าละ”โนว์วิ่งตามไปอีกคน

“กูอยากว่ายน้ำว่ะ”ไวน์ว่าจบก็โดดลงสระทันที มันนิ่งไปสักพักก่อนจะเดินเข้าไปหาพวกที่อยู่ในสระ

เพิ่งรู้ตัวหรือไงว่ามึงว่ายน้ำไม่เป็น…

ผมหรี่ตามองคนที่เหลืออยู่และดูจะปกติที่สุด เพราะนอกจากมันจะไม่หลบสายตาแล้วมันยังจ้องหน้าผมพร้อมกับส่งยิ้มมุมปากมาให้อีกต่างหาก

“ไม่มีไรหรอก…”เบียร์มันว่าแล้วเดินมาตบไหล่ผม “แต่กูก็อยากมีคนพิเศษบ้างจังเลย…”

“ไอ้เชี้ยเบียร์!”

ผมคงประมาทพวกมันมากเกินไป จริงๆก็น่าจะเดาได้ว่าเรื่องแบบนี้พวกมันไม่น่าพลาด

“อย่าให้ถึงทีมึงบ้างนะเบียร์!”ผมได้แต่ตะโกนตามหลังมันที่วิ่งหนีไปหาโนว์

ว่าแต่ถ้ามันได้ยิน…แล้วมันเห็นหรือเปล่า

“เออกีล์!”

ผมสะดุ้งก่อนจะหันไปมองไอ้โนว์ที่ตะโกนมาจากอีกด้าน

“ว่า”

“พวกกูไม่เห็นอะไรเลยจริงจริ๊งงง”

ไอ้เพื่อนเลว!

ที่ยิ่งกว่าเพื่อนล้อคือคนเล่นกีตาร์ที่มือก็ไม่ได้หยุดเล่นหรอก…แต่มองหน้าผมแล้วแอบหัวเราะนี่หมายความว่ายังไง

บางทีคืนนี้ผมน่าจะลองถีบหมาฮัสกี้ตกเตียงดูสักที…

พวกดุริยางค์นี่ก็สมกับเรียนดุริยางค์ดี นอกจากโซโล่ที่เล่นกีตาร์แล้วพวกนั้นก็ร้องเพลงไปดื่มไปไม่ได้หยุดพักเลย ที่สลบไปก็มีเป็นส่วนน้อย ไม่เหมือนฝั่งผมที่ดื่มหนักจนสลบไปหลายราย ไม่ได้สนใจเก็บบรรยากาศอะไรกับเขาเลยสักนิด ผมน่าจะเป็นคนสุดท้ายของวิศวะที่ไม่ได้แตะเหล้าเลยแม้แต่นิดเดียว

“กีตาร์ไม่ดื่มกับเพื่อนเหรอ”โซโล่เดินเข้ามาหาแล้วนั่งหย่อนเท้าลงไปในสระน้ำข้างๆผม ก่อนจะเอากีตาร์ที่ถือมาด้วยมาเล่นต่อ

“พี่ไม่ค่อยชอบดื่มครับ แต่ถ้าตามมารยาทก็พอได้”

ผมเคยดื่มหนักแค่ครั้งเดียวคือตอนเฉลยสายตั้งแต่ปีหนึ่ง ตอนนั้นคือโดนสายรหัสบังคับให้ดื่ม ดีที่ผมเป็นพวกเมาแล้วแค่เดินเซกับปวดหัวแต่รู้สึกตัวตลอดเวลาว่าทำอะไรพูดอะไร พวกพี่ๆยังบอกเลยว่าผมดูไม่เหมือนคนดื่มเหล้าเป็นครั้งแรก แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังไม่ชอบดื่มอยู่ดี

“ดีแล้ว”

“แล้วโซล่ะ…ไม่ดื่มเหรอ”ผมหันไปถามบ้าง ดูจากลักษณะท่าทางแล้วเจ้าหมานี่ไม่น่าจะพลาดเรื่องเหล้าแน่นอน

“ไม่ดีกว่า…อยู่เป็นเพื่อนกีตาร์”

ผมหัวเราะหึหึโดยไม่พูดอะไร บอกว่าไม่ดีกว่าแสดงว่าก็คงอยากอยู่เหมือนกันแต่ต้องห้ามตัวเองไว้ ถ้าคิดว่าผมจะเชียร์ให้ไปดื่มเพราะพูดแบบนี้ก็คิดผิดแล้ว

“ครับ อยู่เป็นเพื่อนพี่ดีแล้ว…ดื่มมากไม่ดีหรอก”ผมแอบเหลือบมองคนข้างๆเมื่ออยู่ๆเสียงกีตาร์ก็เงียบไป แล้วก็พบว่าเจ้าฮัสกี้กำลังทำหน้าเหมือนเด็กโดนขัดใจ กีตาร์ในมือก็วางลงข้างตัวแล้วเรียบร้อย

“อืม…ไม่ดื่มหรอก”

ผมทำเป็นมองไม่เห็นคนที่ปากบอกไม่ดื่มแต่ขยับตัวเข้ามาใกล้

“ดีแล้ว”

“ผมไม่ดื่มแน่นอน…ถ้ากีตาร์ไม่อนุญาต”คนบอกไม่ดื่มว่าเสียงอ้อนแล้วเขี่ยนิ้วผมที่วางอยู่ข้างตัวเบาๆ

“ครับ…เก่งมากเลยเจ้าหมา”ผมหันไปจ้องหน้าโซโล่แล้วแกล้งทำหน้าจริงจัง มือก็ยกลูบหัวเขาเหมือนให้รางวัล แต่กลายเป็นคนโดนชมพยักหน้าหงอยๆแล้วช้อนตาอ้อนใส่

“อืม…”

“โซจะดื่มสักหน่อยก็ได้นะ”

“ไม่ดื่มหรอก”ปฏิเสธทันทีแต่ไอ้หน้าหงอยๆเมื่อสิบวิก่อนหายไปแล้ว

“ดื่มเถอะ”

“ไม่เป็นไรจริงๆ”ไม่เป็นไรเลยแต่หูกับหางนี่กระดิกรัวๆ

“เก้า…เหล้าจะหมดแล้วเหรอครับ!”ผมมองเลยไปด้านหลังโซโล่ซึ่งเป็นทางที่เก้ากำลังนั่งสุมหัวกับเพื่อนผมอยู่ เจ้าของชื่อหันมามองงงๆแล้วส่ายหน้าเป็นเชิงบอกว่ายังไม่หมด แต่คนที่หันหลังให้เก้าอย่างโซโล่ย่อมมองไม่เห็น

“เก้า!กูบอกให้มึงเก็บไว้ให้!…”

ผมเลิกคิ้วมองคนที่หันไปตะโกนใส่เพื่อนแล้วยิ้มให้ โซโล่กระพริบตาปริบๆแล้วหันมาทำหน้าอ้อนใส่ผมเหมือนเดิม

“ไปสิครับ”

“เดี๋ยวมานะกีตาร์…”เจ้าฮัสกี้ว่าเสียงอ้อนแล้วลุกขึ้นยืน ก่อนไปไม่วายยื่นมือมาบีบมือผมเหมือนกลัวโดนโกรธอีกที

นี่แหละนะคนบอกไม่ดื่ม…

ว่าแต่เก้ากับเพื่อนผมมันไปสนิทกันตอนไหน…

ผมเดินเข้าไปหาพวกเพื่อนที่นั่งดื่มกันอยู่ที่โต๊ะหินก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างโซโล่ซึ่งเป็นที่ว่างที่เดียว ท่าทางพวกมันน่าจะเริ่มเมากันแล้ว เพราะขนาดผมเดินเข้ามานั่งพวกมันยังไม่หันมาแซวตามที่ปกติมักจะทำเลย

ครืด ครืด

โทรศัพท์เครื่องหรูที่วางอยู่บนโต๊ะสั่นไม่หยุด ผมหันไปมองเจ้าของมันแล้วก็พบว่าเขากำลังนั่งดื่มแบบไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ไม่รู้ว่าคิดไปเองไหม แต่ผมรู้สึกเหมือนท่าทางของโซโล่ดูแปลกไปตั้งแต่ที่เขาเดินแยกไปคุยโทรศัพท์ตอนระหว่างทางเดินกลับมาที่รีสอร์ท

ท่าทางของเขาตอนนั้นดูเหมือนคนหงุดหงิด ถึงตอนหันกลับมาคุยกับผมจะทำหน้าอ้อนสักแค่ไหนก็เถอะ แต่ผมก็รับรู้ได้ว่ามันไม่เหมือนเดิม จะว่าไปแล้วหลังจากที่คุยโทรศัพท์ พอเดินกลับมาหาผมอยู่ๆเขาก็พูดเรื่องนั้นขึ้นมา…

 

‘กีตาร์…ถ้าต้องการจะไปตอนไหนก็บอกผมตรงๆนะ ขอแค่บอกว่าไม่ได้รู้สึกอะไรแล้วก็พอ’

“…”

‘คบหรือไม่คบต่างกันที่ถ้ายังเป็นแบบนี้ผมยังปล่อยกีตาร์ไปได้ แต่ถ้าคบกันผมจะไม่หยุดความรู้สึกไว้แค่นี้…’

“…”

‘และผมจะไม่มีวันปล่อยกีตาร์ไปอีก…ต่อให้กีตาร์ไม่ต้องการผมแล้วก็ตาม’

 

คำพูดของโซโล่ยังวนเวียนอยู่ในหัวผมไม่จางหาย พอผมตั้งใจจะพูดอะไรไปเขาก็ห้ามไว้แล้วยิ้มจางๆมาให้ ผมไม่รู้ว่าอะไรทำให้เขาคิดแบบนั้น ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงกลัวว่าผมจะหยุดความรู้สึกไว้ที่คำว่าชอบมากนัก ทั้งที่ผมมั่นใจว่าอีกไม่นานมันต้องเป็นความรักแน่ๆ

ถึงจะเข้าใจเรื่องที่ยังไม่อยากเล่าอะไร แต่ผมไม่อยากให้เขาคิดอะไรเศร้าๆแบบนั้น

จะทิ้งไปได้ยังไง…แค่เห็นใบหน้าหมองๆนั่นผมก็รู้สึกเศร้าตามแล้ว

แต่ในเมื่อเขามั่นใจว่าจะเอาแบบนั้น…

 

‘รอพี่นะครับโซ พี่จะต้องบอกความหมายของคำคำนั้นกับโซได้แน่นอน’

 

“โซครับ”ผมหันไปสะกิดแล้วชี้ไปที่โทรศัพท์ของเขา ตอนแรกเขาก็หันมาส่งสายตาอ้อนให้ แต่ทันทีที่หันไปมองตามที่ผมชี้ก็เหมือนกลายเป็นคนละคนแทบจะทันที

“อะไรนักหนาวะ!”โซโล่สบถก่อนจะหยิบโทรศัพท์ลุกเดินออกไปทางหาด

ผมไม่ได้พูดอะไรเพราะรู้ดีว่าเจ้าตัวคงกำลังโมโห ถึงจะไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไรแต่ตอนนี้ผมรู้สึกเป็นห่วงมากกว่า โซโล่ไม่เคยแสดงอาการแบบนั้นมาก่อน แล้วยิ่งเป็นต่อหน้าผมเขายิ่งดูเหมือนหมาฮัสกี้ที่ไม่มีพิษมีภัยกับใครเข้าไปใหญ่

“พี่ไปดูมันหน่อยเถอะ”เก้าส่งยิ้มให้ผมแล้วพูดด้วยน้ำเสียงขอร้องหน่อยๆ “ทำให้มันใจเย็นทีนะ ผมกับเจไดไม่เคยเอามันอยู่เสียที”

“เคยเกิดเรื่องแบบนี้แล้วเหรอครับ”ผมหันไปถามเก้า

“สองสามทีแล้วพี่ ระหว่างเรียนอยู่ก็มี”

ผมพยักหน้าแล้วลุกขึ้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเด็กนี่ก็ห่วงเพื่อนไม่แพ้กัน ผมดีใจที่อย่างน้อยโซโล่ก็มีเพื่อนสนิทที่เป็นห่วงเขา ไม่ต้องพูดถึงนิสัยเลย…เอาแค่บุคลิกภายนอกของเจ้าหมานั่นนอกจากเก้ากับเจไดแล้วผมก็ไม่รู้ว่าจะมีใครเข้ากับเขาได้อีกหรือเปล่าด้วยซ้ำ

“พี่ไปดูโซก่อนนะครับ”

“พี่กีล์…”

“ครับ”ผมหันกลับไปตามเสียงเรียก เก้าสะบัดหัวสองสามทีเหมือนกำลังตั้งสติแล้วเปลี่ยนสีหน้าให้ดูจริงจังมากขึ้น

“โซมันไม่ใช่คนใจเย็น…ยิ่งเป็นเรื่องนี้มันยิ่งใจร้อน คนที่เอาอยู่คงมีแค่พี่คนเดียว ฝากดูแลมันด้วยนะครับ”

ไม่ใช่คนใจเย็นเหรอ…อันที่จริงก็พอเดาได้ตั้งแต่ตั้งท่าจะเข้าไปต่อยเบียร์เมื่อเช้าแล้ว แต่ที่ผมอยากรู้คือเรื่องนี้ที่ว่าคือเรื่องไหนกันแน่

“พี่จะดูแลให้ครับ”ทันทีที่ผมพูดจบเก้าก็ส่งยิ้มมาให้แล้วฟุบลงไปกับโต๊ะเหมือนไม่ต้องการรับรู้อะไรอีก

“พี่จะดูแลให้ครับ”

“พี่จะดูแลให้ครับ”

“พี่จะดูแลให้ครับ”

คิดว่าพวกมันจะหลับไปแล้ว…ไอ้พวกเนียนพวกนี้มันน่าถีบจริงๆ

ผมเดินหนีเสียงแซวของเพื่อนสามตัวมาตามทางที่เห็นโซโล่เดินมา แต่เดินมาสักพักแล้วก็ไม่เห็นแม้แต่เงา ไม่รู้ว่าเดินไปถึงไหนแล้ว ยิ่งฟ้ามืดแถมลมแรงแบบนี้ยิ่งน่าเป็นห่วง

ถ้าป่วยอีกคงต้องลองไม่คุยด้วยดูสักวัน จะได้รู้จักห่วงตัวเอง

“ไม่”เสียงเย็นเยียบแต่คุ้นเคยดังมาจากใต้ต้นมะพร้าวไม่ไกลนัก

ผมเดินเข้าไปหาร่างคุ้นตานั่น แต่ดูเหมือนโซโล่จะไม่เห็นว่าผมเดินเข้ามาใกล้เขาขนาดนี้แล้ว

“ก็บอกว่าไม่ไงวะ!”โซโล่ตวาดก้องด้วยน้ำเสียงเย็นชาและโมโหสุดขีด ผมสะดุ้ง ได้แต่กระพริบตามองวัตถุบางอย่างลอยออกจากมือเจ้าหมาไปแบบคนทำอะไรไม่ถูก

ปาโทรศัพท์ลงทะเลไปแล้ว…

“กีตาร์…”น้ำเสียงเหนื่อยอ่อนที่ดังขึ้นมาทำให้ผมรู้สึกตัว แต่ดูเหมือนโซโล่จะเรียกออกมาทั้งที่ไม่เห็นว่าผมยืนอยู่ ร่างสูงโปร่งทิ้งตัวพิงต้นมะพร้าวเหมือนคนอ่อนแรงจนผมรู้สึกหน่วงๆในใจ

ทำไมถึงเป็นขนาดนี้…

“ครับ”ผมยิ้มเมื่อคนที่ยืนพิงต้นมะพร้าวหันหน้ามามองอย่างตกใจ “เรียกพี่พี่ก็มา เจ๋งปะ”

ผมไม่ใช่คนตลกที่สามารถทำให้ใครๆอารมณ์ดีได้ แต่ก็อยากจะพยายามทำให้เจ้าหมานี่กลับมากระดิกหูกระดิกหางได้เหมือนเดิม ถึงจะไม่รู้ว่าแบบนั้นเขาเรียกว่าตลกหรือเปล่าก็เถอะ…

สงสัยจะไม่…

ผมได้แต่ยิ้มแห้งเมื่อเจ้าฮัสกี้เอาแต่จ้องหน้าผมเงียบๆโดยไม่พูดอะไร แต่เมื่อผ่านไปสักพักเขาก็ค่อยๆส่งยิ้มฝืนๆมาให้

ถ้าจะยิ้มแบบนั้นอย่ายิ้มเลยดีกว่า…

หมับ!

ผมเดินเข้าไปกอดคนที่สูงกว่าเอาไว้ ใช้มือข้างหนึ่งกดหัวเขาให้ซุกลงมาตรงไหล่ ส่วนมืออีกข้างก็ใช้ลูบหัวให้เหมือนที่ชอบทำมาตลอด โซโล่ตัวแข็งอยู่ครู่เดียวก็ผ่อนแรงลงแล้วกอดกลับแน่น

“พี่อาจจะทำให้โซกลับมาอารมณ์ดีไม่ได้…แต่พี่กอดโซแบบนี้ได้เสมอนะครับ”ผมหัวเราะเบาๆเมื่อเจ้าหมาซุกหน้าเข้ามามากกว่าเดิมจนรู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆและสัมผัสเบาๆของปลายจมูกโด่งที่ทำให้จั้กจี้ แขนที่กอดเอวผมไว้กระชับแน่นขึ้นเหมือนกลัวว่าผมจะหายไป

“อยู่แบบนี้ก่อนนะ”

“โซ…”

“อย่าเพิ่งถามเลยนะ…”โซโล่พูดเสียงอู้อี้แต่กลับอ่อนล้าจนผมรู้สึกได้

“ครับ…พี่จะไม่ถาม”

“ผมสัญญาว่าถ้าพร้อมแล้วจะเล่าให้กีตาร์ฟัง”

ผมยิ้มรับคำพูดนั้นโดยไม่ตอบอะไร เชื่อว่าถ้าพร้อมแล้วเขาจะเล่าให้ผมฟังเองตามที่พูด

ไม่รู้ว่าเรากอดกันนานแค่ไหน…แต่ผมกลับรู้สึกชอบบรรยากาศแบบนี้ เพราะมันเหมือนโซโล่กำลังระบายความอัดอั้นออกมาโดยไม่ต้องพูด…แค่นี้ก็ดีมากแล้ว ถึงแม้ว่าถ้าพูดออกมามันอาจจะดีกว่าก็ตาม

“ไม่อยากกลับเลย”

เสียงงอแงทำให้ผมเริ่มใจชื้นขึ้น อย่างน้อยเขาก็ไม่โมโหหรือทำเสียงเศร้าแบบนั้นแล้ว

“ต้องกลับไปเรียนนะ…”

“เวลาเรียนแทบไม่ได้เจอกีตาร์เลย”

นั่นสิ ผมเรียนหนักโซโล่ก็ภาคปฏิบัติเยอะ เวลาอยู่มหา’ลัยเราแทบไม่ได้เจอกันระหว่างวันเลยด้วยซ้ำ มีเวลาเจอกันคุยกันก็แค่ช่วงก่อนนอน วันไหนที่ผมไม่ได้ทำงานก็ต้องลุยทำโปรเจคนั่นนี่เยอะแยะไปหมด เขาเองก็ต้องซ้อมดนตรีหรือออกเวทีไปแสดงเหมือนกัน

“ต้องทนนะครับ”

ผมเองก็ต้องทนเหมือนกัน

“แล้วถ้ากีตาร์ไปฝึกงาน…”โซโล่ส่งเสียงไม่พอใจทั้งที่ยังซุกหน้าอยู่ที่ไหล่ผม จนผมต้องยกมือลูบหัวเขาอีกทีเป็นการปลอบ

ผมเคยบอกเรื่องฝึกงานไปแล้วและมันก็ใกล้เข้ามาทุกที ตอนแรกเจ้าหมานี่ก็เคยงอแงอยู่เหมือนกัน แต่พอผมให้กินนมก็เลย…

เดี๋ยวนะ

ผมผละออกมาช้าๆก่อนจะหรี่ตามองคนที่กำลังทำหน้าเหมือนหมางง

“ที่นี่ไม่มีนมอุ่น…”ผมเกริ่นแล้วลอบมองท่าทีอีกฝ่าย

“ก็ไม่มีไง”

“แล้วเราหลับได้หรือไง”

คนฟังเบิกตาน้อยๆวูบเดียวแล้วก็เปลี่ยนมาหาวอย่างรวดเร็วจนน่าหมั่นไส้

“เมื่อคืนก็นอนไม่ค่อยหลับ…”

“ครับ…”

“วันนี้ก็เลยต้องกินเหล้าเยอะๆจะได้ง่วงไง”

ผมมองคนที่ยืนฉีกยิ้มกว้างส่งมาให้แล้วก็พยักหน้ารับ แต่แอบหยิกมือเจ้าหมาขี้อ้างไปทีจนเจ้าตัวร้องออกมาเบาๆ

อย่างน้อยเขาก็กลับมายิ้มได้แล้ว…จะทำเป็นไม่รู้เรื่องสักวันแล้วกัน

“กินเยอะๆเลยนะครับจะได้นอนหลับ”ผมพูดด้วยเสียงอ่อนโยน โซโล่ยิ้มแล้วพยักหน้าหงึกหงัก หางกับหูนี่กระดิกแรงจนผมอยากจะหยิกอีกสองสามที

ผมเดินจูงมือหมาที่แลดูอารมณ์ดีแตกต่างจากตอนคุยโทรศัพท์อย่างกับคนละคนกลับไปตามทางเดิมที่เดินมา พอเรามาหยุดอยู่หน้ารีสอร์ทแล้วผมก็หยุดเท้ากะทันหันจนโซโล่หันมามองงงๆ

“โซ”ผมส่งยิ้มไปให้แล้วบีบมือเขาเบาๆ

“ครับ”

“วันนี้พี่ไปนอนห้องเพื่อนนะครับ”

ถึงจะบอกว่าจะทำเป็นไม่รู้เรื่อง…แต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่ทำโทษเจ้าหมาขี้โกหกนี่หรอกนะ

-------------------------------------

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-03-2017 21:44:15 โดย CHESS. »

ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER15 P.12 [09/01/17]
«ตอบ #335 เมื่อ09-01-2017 22:04:19 »

 :laugh: :laugh:โซโดนทำโทษ

 :katai5: :katai5:

 :pig4:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER15 P.12 [09/01/17]
«ตอบ #336 เมื่อ09-01-2017 22:13:46 »

ทำร้ายน้องแบบนั้นได้ไง ฮ่าๆ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER15 P.12 [09/01/17]
«ตอบ #337 เมื่อ09-01-2017 23:28:47 »

ไม่วายโดนลงโทษ

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER15 P.12 [09/01/17]
«ตอบ #338 เมื่อ09-01-2017 23:54:16 »

เจ้าหมาจะทนได้มั้ย

ออฟไลน์ Peung002

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER15 P.12 [09/01/17]
«ตอบ #339 เมื่อ09-01-2017 23:57:32 »

ชูสองแขน ขอเดาค่ะ

เราขอเดาว่าฮัสกี้น้อยคุยกะป๊ะป๋า เลยอารมณ์เสีย

ปล.ถ้าจะมีมาม่า ขอชามเล็กๆนะคะ ไม่เอาซองจัมโบ้นะคะ  :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER15 P.12 [09/01/17]
« ตอบ #339 เมื่อ: 09-01-2017 23:57:32 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER15 P.12 [09/01/17]
«ตอบ #340 เมื่อ10-01-2017 00:15:28 »

หมาโซโดนทำโทษ นางต้องงอแงแน่ๆ 55555555

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER15 P.12 [09/01/17]
«ตอบ #341 เมื่อ10-01-2017 00:33:35 »

 :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ mirage

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER15 P.12 [09/01/17]
«ตอบ #342 เมื่อ10-01-2017 07:31:43 »

ใครโทรมานะ คุณพ่อหรือเปล่า  :katai1:
หมาน้อยโดนทำโทษซะแล้ว จะอาละวาดไหมเนี่ย

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER15 P.12 [09/01/17]
«ตอบ #343 เมื่อ10-01-2017 11:57:09 »

ลูกฮัสกี้แปลงร่างง

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER15 P.12 [09/01/17]
«ตอบ #344 เมื่อ10-01-2017 12:13:47 »

น้องโซเด็กไม่ดีขี้โกหก พี่กีล์ทำโทษเยอะๆเลย

ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER15 P.12 [09/01/17]
«ตอบ #345 เมื่อ10-01-2017 13:54:42 »

ลงโทษเบาๆ โซคุยกับพ่อแหงม

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER15 P.12 [09/01/17]
«ตอบ #346 เมื่อ10-01-2017 14:22:38 »

ลงโทษบ้างก็ดีพี่ีกีล์ นางชอบทำมึนกลบเกลื่อนความผิด 5555

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER15 P.12 [09/01/17]
«ตอบ #347 เมื่อ10-01-2017 14:58:18 »

หมาคงไม่อยากยอมให้พี่กีลล์ไปนอนกับเพื่อนแต่คงไม่กล้าขัดใจเจ้าของแน่ๆ :katai2-1: :katai2-1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Margarita

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER15 P.12 [09/01/17]
«ตอบ #348 เมื่อ10-01-2017 21:13:51 »

 :pig4:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER15 P.12 [09/01/17]
«ตอบ #349 เมื่อ10-01-2017 21:36:23 »

พี่กีล์ดีต่อใจจังเลยค่ะ เอาอยู่ทุกสถานการณ์  :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER15 P.12 [09/01/17]
« ตอบ #349 เมื่อ: 10-01-2017 21:36:23 »





ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER15 P.12 [09/01/17]
«ตอบ #350 เมื่อ10-01-2017 21:39:49 »

อยากจะขำดังๆ 5555555
หมาน้อยโดนลงโทษซะแล้ว
ถึงจะขัดใจแค่ไหนแต่กล้าขัดคำสั่งพี่กีล์หรออ
แน่นอนว่าไม่ 5555555
เรื่องโทรศัพท์นี่น่าจะมีกลิ่นดราม่ามาแล้วว

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER15 P.12 [09/01/17]
«ตอบ #351 เมื่อ11-01-2017 07:51:43 »

พี่กีล์ลงโทษจัดหนักไปเลยคร้าาาา ^0^
แตาก้ออยากรู้ว่าโซคุยอะไรจังเลยอ่าาาาาาา

ออฟไลน์ CHESS.

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +228/-2
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER15 P.12 [09/01/17]
«ตอบ #352 เมื่อ11-01-2017 20:21:44 »

-16-

 

สัปดาห์สอบกลางภาคมาถึงไวกว่าที่คิด อาทิตย์ก่อนเพิ่งไปเที่ยวมาแท้ๆ แต่พอกลับมาทุกคนก็ดูจะหัวหมุนกับการสอบไปหมดรวมถึงผมเองด้วย ที่แย่คือผมต้องทำงานพิเศษทำให้มีเวลาน้อยกว่าคนอื่นก็เลยต้องทุ่มเทมากกว่าใคร ส่วนโซโล่เองก็ดูจะซ้อมหนักไม่น้อย เขาบอกว่าสอบของเขาส่วนใหญ่เป็นปฏิบัติทั้งนั้น จากที่เคยมีเวลามานั่งเฝ้าผมทำงานก็กลายเป็นต้องซ้อมดึกดื่น พอเลิกแล้วค่อยมารับกลับพร้อมกัน

กิ๊ง…

ผมหันไปส่งยิ้มให้คนที่เพิ่งมาแล้วถือแก้วนมเข้าไปหาเหมือนทุกครั้ง โซโล่เหลือบมองแวบเดียวแล้วก็ยื่นมือมาหยิบแก้วไปจากมือผมโดยไม่ยอมสบตาหรือพูดอะไรสักคำ

นี่ขนาดผมทำเป็นไม่รู้เรื่องแล้วเอานมให้ทุกวันเหมือนเดิมก็ยังไม่หายงอนอีก

ผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้วที่เรากลับมาจากทะเล แต่เจ้าหมานี่ก็ยังทำหน้านิ่งไม่ยอมคุยกับผมเสียที ถามอะไรก็ตอบสั้นๆไม่ยอมมองหน้า ยิ้มให้ก็หันหน้าหนีตลอด แต่เพราะเขายังทำทุกอย่างเหมือนเดิมไม่ว่าจะไปรับไปส่งหรือรอกินนม ผมเลยมองว่ามันเป็นการงอนที่น่ารักจนไม่อยากง้อ

เหตุผลที่เจ้าหมานี่งอนก็เพราะวันนั้นที่ทะเลผมหนีไปนอนห้องเพื่อนจริงๆ อีกคนร้องเรียกเท่าไหร่ก็ไม่เปิดประตูให้ พอวันต่อมาก็ต้องมานั่งรู้สึกผิดเมื่อเห็นหน้าตาเหมือนคนไม่ได้นอนของเขา แถมตอนขึ้นรถเตรียมกลับคนที่นั่งข้างๆผมก็หันหน้าหนีไม่ยอมคุยด้วยแล้วฟุบหัวไปกับหน้าต่างอีก ผมบอกให้พิงไหล่ก็ไม่ฟังจนต้องเป็นฝ่ายดันหัวนั่นมาพิงไหล่ด้วยตัวเอง ตอนแรกเจ้าหมาก็ทำท่าจะขยับออกอยู่หรอก แต่พอโดนทำหน้าดุเข้าหน่อยก็หงอยจนหูลู่ยอมนอนแต่โดยดี

ขนาดงอนก็ยังเชื่อฟังอยู่…ผมถึงได้บอกว่าน่ารัก

โซโล่ลุกขึ้น ถือแก้วนมไปล้างที่อ่างล้างจานเหมือนทุกวันที่ผ่านมา พอล้างเสร็จก็หยิบกระเป๋าผมกับกุญแจร้านจากบนเคาน์เตอร์แล้วออกไปยืนรอข้างนอก รอจนผมเดินตามออกไปแล้วเขาก็เข้าไปไขกุญแจปิดร้าน

หมาหน้านิ่งยัดกุญแจใส่กระเป๋าผมแล้วเหลือบมองโดยไม่พูดอะไร พอผมส่งยิ้มไปให้ก็รีบหันหน้าหนีแล้วเดินนำไปที่รถเหมือนเดิม

สงสัยคงต้องพอแค่นี้…

ถึงท่าทางนั่นจะน่ารักขนาดไหน แต่ดูเหมือนถ้ายังปล่อยไปนานกว่านี้แล้วเจ้าหมานี่งอนจริงจังขึ้นมาผมคงไม่รู้ว่าจะง้อยังไง

“โซครับ”เจ้าของชื่อไม่แม้แต่จะหันมามอง ยังคงตั้งหน้าตั้งตาขับรถ ทำเหมือนไม่ได้ยินจนผมต้องยื่นมือไปสะกิดเบาๆถึงได้เหลือบตามามองสองวิ

ถือว่ายังดี

“อ่านหนังสือด้วยกันไหม”ผมอมยิ้มเมื่อเห็นว่าหน้านิ่งๆเริ่มมีปฏิกิริยา “พี่อ่านที่หอก็ร้อน…ถ้าเอาไปอ่านกับโซได้ไหมครับ”

“…”ยังเงียบแต่ตาเริ่มเป็นประกาย มุมปากยกน้อยๆ และที่สำคัญคือหูเริ่มกระดิก

“ไม่ได้เหรอครับ…”ผมแสร้งทำเสียงอ่อนแล้วถอนหายใจเบาๆ “ไม่เป็นไร พี่ไม่…”

“ใครบอกไม่ได้!”โซโล่แทรกอย่างรวดเร็ว ผมรีบเบือนหน้าไปนอกหน้าต่างเพื่อกลั้นเสียงหัวเราะ

“ก็ถ้าโซยังไม่หายโกรธพี่ไม่ไปดีกว่า…พี่ไม่อยากให้โซอึดอัด”

“หาย…”

“อะไรนะครับ”

“หายก็ได้”

“หายแน่นะ ไม่กลับมาโกรธแล้วนะ”

“ไม่โกรธแล้ว”สิ้นคำนั้นผมก็หันกลับมาหัวเราะเสียงดัง เจ้าหมามองมาอย่างงงๆก่อนใบหน้าจะเริ่มบูดบึ้งขึ้นเรื่อยๆ

“โซรับปากแล้วนะ ห้ามคืนคำ”ผมรีบย้ำ

“กีตาร์นิสัยไม่ดี”ปากก็ว่าแต่เขากลับส่งยิ้มบางๆมาให้

“ก็พี่ไม่รู้จะง้อยังไงดี”

“รับปากแล้วห้ามคืนคำนะ”เจ้าหมาหรี่ตามอง ใบหน้าจริงจังเหมือนจะบอกว่าถ้าไม่ยอมไปแต่โดยดีก็จะลากไปให้ได้

“ครับผม!”ผมพยักหน้าแข็งขันจนเกินจริง จากนั้นก็มองภาพเจ้าหมาหัวเราะด้วยรอยยิ้ม

เขารู้ตัวหรือเปล่านะว่าตัวเองแสดงอารมณ์มากขึ้น…ทั้งยิ้มทั้งหัวเราะเลย

“กีตาร์…”โซโล่ขมวดคิ้ว ทำหน้าครุ่นคิดอยู่สักพักก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่เต็มใจเท่าไหร่ “ผมเองก็ต้องซ้อม แล้วกีตาร์จะอ่านหนังสือได้เหรอ อยู่อ่านที่หอดีกว่าไหม”

ถึงจะไม่พอใจแต่ก็ยังรู้จักเป็นห่วงกันอีก เจ้าหมานี่น่าเอ็นดูจริงๆ

“ห้องโซก็ออกจะกว้าง เสียงคงไม่ได้ดังไปทั่วหรอกครับ”ผมพูดตามความจริง และทันทีที่พูดจบโซโล่ก็ยื่นมือมาจับมือผมไว้ ผมบีบมือเขากลับเบาๆก่อนจะหันไปเปิดประตู แต่กลายเป็นโดนรั้งมือไว้ไม่ยอมปล่อย

เจ้าหมานี่นะ…

ผมดึงมือออกช้าๆ ใช้เวลาอยู่สักพักถึงจะเป็นอิสระ พอลงมาแล้วโซโล่ก็เปิดประตูรถตามมาแล้วยืนพิงรถรอเหมือนทุกที

เห็นจนน่าจะชินได้แล้วแต่มองกี่ทีผมก็รู้สึกหมั่นไส้ไอ้ท่าทางดูดีทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจนั่นเหลือเกิน นี่ถ้าไม่ได้รู้จักกันผมคงมองว่าเดือนมหา’ลัยปีนี้เป็นคนสมบูรณ์แบบไปหมด ทั้งหน้าตา ท่าทาง แค่ยืนเฉยๆยังดูดีได้ แต่พอรู้จักกันแล้ว…

ไม่พูดถึงแล้วกัน…

ผมหยิบเอกสารกับหนังสือที่จะใช้อ่านแล้วก็เสื้อผ้านักศึกษากับชุดนอนอีกชุดใส่กระเป๋าก่อนจะลงมาข้างล่าง โซโล่ยังยืนอยู่ท่าเดิมเหมือนหุ่นขี้ผึ้ง หน้านิ่งๆก็ยังนิ่งเหมือนเดิมจนผมอดคิดไม่ได้ว่าถ้ามีแมลงวันเกาะหน้า เจ้าหมานี่จะปัดออกหรือจะยืนให้มันเกาะ

คิดแล้วก็ขำจนคนที่ผมกำลังนินทาในใจหันมาเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

ผมไม่ตอบอะไรแต่เดินอมยิ้มไปขึ้นรถ เวลาเห็นโซโล่ทำหน้าเป็นหมาฮัสกี้แล้วแสดงอาการออกมาทางสีหน้าทีไรรู้สึกอารมณ์ดีทุกที

 

 

ห้องกว้างที่ไม่ได้มาเหยียบเป็นอาทิตย์ยังดูสะอาดเหมือนเคย ผมวางหนังสือกองไว้ตรงโซฟากลางห้องเพราะมุมที่ผมชอบเจ้าหมาน่าจะใช้เป็นที่ซ้อม

“กีตาร์”โซโล่เรียกแล้วกวักมือให้เดินไปทางห้องนอน

“ครับ”

“ของขวัญวันเกิด”

“ของขวัญ…”ผมตาโตมองคนพูดด้วยความแปลกใจ เพราะคิดมาตลอดว่าของขวัญคือเพลงที่เขาร้องให้ฟังบนเวที “ทำไมถึงมาให้พี่วันนี้ครับ”

“มันขนไปไม่ได้”โซโล่ยิ้มน้อยๆแล้วพาผมเดินไปหน้าตู้เสื้อผ้า

“ถึงขนาดขนไม่ได้เลยเหรอ”ผมยิ้มกว้าง รู้สึกตื่นเต้นหน่อยๆเพราะไม่ได้ของขวัญอะไรมานานมากแล้ว

ว่าแต่ทำไมต้องใส่ไว้ในตู้เสื้อผ้าทั้งที่เจ้าตัวก็พามาเอง…ไม่ได้คิดจะเซอร์ไพรส์อยู่แล้วไม่ใช่หรือไง

“เปิดเลย”

ผมเปิดประตูตู้ตามคำบอกโดยตัดความสงสัยทิ้งไป หัวใจเต้นรัวเพราะลุ้นจนตัวโก่ง

“กีตาร์เหมือนเด็กเลย”โซโล่พึมพำขำๆ แต่ตอนนี้ความอยากรู้ของผมมันแลดูจะมีมากกว่าเลยไม่ได้ตอบอะไร ผมรีบสอดส่องสายตาหาของขวัญในตู้อย่างรวดเร็ว

ไม่เห็นมีอะไร…นอกจากเสื้อผ้าที่ดูเยอะขึ้น

เดี๋ยวนะ

จำได้ว่าครั้งก่อนที่มาเสื้อผ้าโซโล่ไม่ได้เต็มตู้ขนาดนี้

ผมเปิดดูทุกส่วนของตู้เสื้อผ้า นอกจากเสื้อผ้าที่แขวนอยู่แล้ว เสื้อผ้าลำลองหรือแม้แต่บ็อกเซอร์ก็มีเยอะขึ้นด้วย

อย่าบอกนะ…

ผมหันกลับไปหาคนที่กำลังยืนยิ้ม พอเห็นหน้าตาเหมือนคาดหวังนั่นแล้วก็พูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ

“โซซื้อเสื้อผ้าให้พี่เหรอครับ”

จะให้เสื้อผ้าก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก แต่ไม่เห็นต้องเยอะขนาดนี้เลย แถมยังดูมีราคาทั้งนั้น…

“ใช่”โซโล่พยักหน้าหงึกหงัก

“ไม่เห็นต้องซื้อเยอะขนาดนี้เลยครับ แค่เสื้อตัวเดียวก็พอแล้ว”

“ถ้าไม่ซื้อเยอะ…”โซโล่ขมวดคิ้วเหมือนไม่เข้าใจ “แล้วกีตาร์จะใส่อะไรอยู่ที่นี่”

“โซหมายความว่า…”

“ผมซื้อเสื้อผ้าให้กีตาร์ไว้ใช้อยู่ที่นี่ จริงๆก็ไม่ใช่แค่เสื้อผ้า ในครัวมีแก้วคู่ด้วยนะ”

ในขณะที่ผมกระพริบตาปริบๆและพยายามเรียบเรียงเรื่องในหัว โซโล่ก็ยิ้มกว้างแล้วจูงผมที่กำลังงงสุดขีดให้เดินตามไปที่ครัว

นี่ผมไปบอกตอนไหนว่าจะมาอยู่ที่นี่ ที่ซื้อของครบขนาดนี้มันหมายถึงให้มาอยู่ด้วยกันใช่ไหม

“กีตาร์…”

ผมหันไปมองเจ้าของเสียงแล้วก็หลุดขำออกมาเสียงดัง

เจ้าหมาฮัสกี้ชูแก้วน้ำสองใบไว้แนบแก้ม แต่ละใบเป็นรูปหมาหันข้างแล้วยื่นปากเหมือนจะจูบกัน พอเขาเอามาแนบแก้มแบบนี้มันเลยเหมือนหมาที่แก้วกำลังจูบแก้มเขาอยู่

น่ารักจนอยากถ่ายรูปเก็บไว้…

“โซอยู่แบบนี้ก่อนนะครับ”ผมบอกแล้วเดินไปหยิบโทรศัพท์ที่โซฟา โซโล่ทำหน้างงแต่ก็ยอมยืนนิ่งๆให้ถ่ายรูปแต่โดยดี

เอาไว้ตั้งเป็นภาพโทรเข้าก็แล้วกัน

“น่ารักไหม”

ผมพยักหน้าให้คำถามนั้น รู้ดีว่าเขาไม่ได้หมายถึงตัวเองแต่หมายถึงแก้ว แต่ที่พยักหน้าไปจริงๆผมหมายถึงเขาต่างหาก

“นี่ของผม…นี่ของกีตาร์”โซโล่ว่าแล้วยื่นแก้วที่เป็นหมาใส่ปลอกคอสีชมพูมาให้ ส่วนที่เขายังถืออยู่เป็นหมาใส่ปลอกคอสีฟ้า

ผมรับแก้วมาถือไว้ด้วยรอยยิ้ม มองใบหน้ามีความสุขของเขาแล้วก็รู้สึกดีไปด้วย

แต่ว่า…

“แล้วพี่บอกโซตอนไหนครับว่าจะมาอยู่ที่นี่”

ทันทีที่คำถามหลุดออกไปใบหน้ามีความสุขก็เปลี่ยนเป็นหน้าอมทุกข์อย่างรวดเร็วจนผมเกือบจะยกมือตบปากตัวเอง

รู้สึกผิดจนลืมสงสัยไปเลยว่าทำไมเจ้าฮัสกี้ถึงได้เปลี่ยนสีหน้าไวนักอย่างกับเตรียมไว้แล้ว

“ผม…เอากลับไปไว้ห้องกีตาร์ให้ก็ได้”โซโล่วางแก้วที่ถือไว้ลงบนโต๊ะแล้วส่งยิ้มจางมาให้ก่อนจะเดินผ่านหน้าผมไป

ผมมองแก้วหมาที่อยู่บนโต๊ะสับกับที่ตัวเองถืออยู่แล้วก็รู้สึกเหมือนหมาในแก้วกำลังทำหน้าเสียใจใส่

อยู่ๆก็ใจแป้วแถมยังตาลายมองแก้วมีชีวิต…

“คือพี่หมายถึงจะให้มาอยู่ด้วยตลอดเลยคงไม่ดีมั้งครับ…รบกวนโซด้วย”ผมพูดโดยไม่หันไปมอง รู้สึกว่าเสียงฝีเท้าด้านหลังเงียบไปแล้ว “คือเรา…ก็ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน”

“เป็น…”เสียงตอบรับดังขึ้นพร้อมกับความอบอุ่นจากแผ่นอกของคนที่เดินมากอดผมจากทางด้านหลัง

“เป็น?”

แขนที่โอบรอบเอวผมกระชับแน่นขึ้น ความอบอุ่นจากร่างกายและลมหายใจร้อนๆของคนที่วางคางไว้บนไหล่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนร่างกายร้อนไปหมด ผมไม่กล้าหันไปมองเพราะแค่นี้ก็รู้สึกเหมือนหัวใจเต้นตึกตักจนแทบจะทะลุออกมาอยู่แล้ว

“เป็นคนพิเศษของกันและกัน”

นั่นมันคำพูดผมไม่ใช่เหรอ…

รู้สึกเหมือนโดนตีกลางแสกหน้า

ทำไมตอนตัวเองพูดก็ไม่ได้รู้สึกเขินเท่าไหร่ แต่พอเจ้าหมานี่พูดแล้วมันต่างกันแบบนี้…

ผมถือแก้วไว้ด้วยสองมือที่สั่นเทาโดยไร้สาเหตุ พยายามเพ่งสมาธิไปกับการจับแก้วให้แน่นเพราะกลัวว่าถ้าเผลอไปนิดเดียวจะทำมันตกแตก

“กีตาร์ไม่ได้รบกวน…ผมอยากอยู่ใกล้ๆเพราะรู้ว่าไม่ค่อยมีเวลาเจอกัน อีกไม่นานกีตาร์ก็ต้องไปฝึกงานแล้วด้วย มาอยู่ใกล้ๆผมนะ ได้เจอตอนนอนทุกวันก็ยังดี”

ผมพยายามไม่สนใจอ้อมกอดอบอุ่นแล้วเพ่งความสนใจไปที่คำพูดของเขา

“แต่หอพี่…”แล้วเสียงจะสั่นทำไม…

เจ้าหมาได้ทีหัวเราะเบาๆแล้วขยับหน้าเข้ามาจนแนบกับแก้มผม

“ทิ้งไว้แบบนั้น…ไม่สิ ย้ายออกเลยดีกว่า”

“คือพี่ว่า…”

“นะครับ”

“…”

 

[สวัสดีค่ะ]

“นี่กีล์นะครับป้า คือผมจะย้ายออกจากหอพรุ่งนี้นะครับ”

[อ้าว…แล้วกีล์จะไปอยู่ที่ไหนล่ะลูก]

“คือผมจะไปอยู่กับเพื่อน…เอ่อ…กับคนพิเศษครับ”

[ตายแล้ว…น้องกีล์ของป้ามีคนพิเศษแล้วเหรอเนี่ย]

“…ครับ”

[งั้นก็โชคดีนะ ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกป้าได้นะลูก]

“ขอบคุณมากครับป้า”

 

ผมถอนหายใจขณะมองโทรศัพท์ที่เพิ่งวางไป ไม่รู้เลยว่าชีวิตจากนี้จะเป็นแบบไหน ผมรู้สึกเหมือนแคร์เจ้าหมานี่มากขึ้นทุกวัน ขนาดคุยโทรศัพท์แล้วจะบอกว่าเป็นเพื่อนยังต้องแก้ใหม่เพราะกลัวอีกคนจะได้ยินแล้วเก็บไปคิดมาก ทั้งที่เจ้าตัวยังไม่ได้หันมามองเลยด้วยซ้ำ

โซโล่ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอก แต่ตัวผมเองนี่ล่ะท่าทางจะเป็นเอามาก…

“กีตาร์น่ารัก”

นั่นไง…ว่าแล้วว่าต้องฟังอยู่

ผมทำทีเป็นไม่สนใจแล้วก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือต่อ ถึงจะมีเสียงกีตาร์แทรกมาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ปกติผมก็เป็นคนอ่านหนังสือไปฟังเพลงไปอยู่แล้ว แถมโซโล่ยังเล่นเบามากจนแทบไม่ได้ยินเหมือนต้องการจะให้ผมมีสมาธิด้วย ผมเลยไม่คิดจะย้ายเข้าไปอ่านในห้องนอนหรือที่อื่น

ก็อยู่ใกล้ๆมันรู้สึกดีกว่านี่นะ…

ครืด ครืด

ผมมองโทรศัพท์เครื่องใหม่ของโซโล่ที่เจ้าตัวไปซื้อหลังกลับจากทะเลด้วยสายตาไม่ไว้วางใจ ช่วงนี้เห็นโทรศัพท์เขาสั่นทีไรภาพอารมณ์แปรปรวนวันนั้นฉายเข้ามาในสมองทุกที

“โซครับ โทรศัพท์”ผมหันไปเรียกคนที่ยังนั่งดีดกีตาร์ไม่เลิก

“ใคร”โซโล่ถามโดยไม่หันกลับมามอง

“ไม่ได้เมมไว้ครับ”

“เก้ามั้ง…มันบอกจะโทรมา กีตาร์รับเลย”

“รับทราบครับคุณโซ”ผมหัวเราะแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับตามคำสั่ง

“สวัสดีครับ”

[…]

“สวัสดีครับ ได้ยินไหม”ผมย้ำ ไม่ได้ยินเสียงอะไรดังกลับมาแม้แต่นิดเดียว…หรือเพราะสัญญาณไม่ดี

[สวัสดีครับ]

ผมหันไปมองแผ่นหลังของคนที่นั่งเล่นกีตาร์ทันทีที่ได้ยินเสียงปลายสาย

ไม่ใช่เก้า…

“เอ่อ…ไม่ทราบใครโทรมาครับ ผมจะบอกโซโล่ให้”

[ไม่ต้องหรอกครับ…เดี๋ยวเขาจะขว้างโทรศัพท์ทิ้งอีก]

ผมชะงักแทบจะทันที ความรู้สึกแปลกๆเกิดขึ้นในใจ

ผมมั่นใจว่าเหตุการณ์นั้นมีแค่ผมกับโซโล่ที่รู้เรื่อง แล้วเขารู้ได้ยังไง…

หรือโซโล่จะบอก? แต่ถ้าโซโล่บอกจริงอีกคนจะกลัวโดนขว้างโทรศัพท์ทิ้งทำไม

“ถ้างั้น…”

[ไม่ทราบว่าคุณคือคุณเก้าหรือคุณเจไดครับ]

ผมเม้มปากแน่นเพื่อกลั้นอาการสั่นไหวจากภายใน ไม่รู้ทำไมเสียงเรียบนิ่งของอีกฝ่ายถึงทำให้ผมรู้สึกกังวลโดยไร้สาเหตุ

“ไม่ใช่ครับ…”

[คุณกีล์?]

เขา…รู้ได้ยังไง

“ครับ…”ผมกลั้นหายใจตอบเสียงแผ่ว รู้สึกใจสั่นแปลกๆ ความรู้สึกไม่ดีตีรวนอยู่ในอกทั้งที่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร

[แบบนี้นี่เอง…]

“…”

[รบกวนคุณช่วยบอกคุณชายทีนะครับ…]

“…ครับ”

[ถ้ายังเห็นแก่เพื่อนคนนี้บ้าง โปรดอย่าขัดคำสั่งคุณท่านอีก…]

“…”

[อะไรที่รู้ว่าไม่ควรก็หยุดตั้งแต่ตอนนี้]

“…”

[แล้วก็…]

“…”

[คุณท่านบอกว่าถ้ายังไม่ยอมติดต่อกลับไปเอง ท่านจะเดินทางไปหาคุณชายถึงที่]

“ผม…จะบอกให้ครับ”

[ขอบคุณครับ]

ผมมองโทรศัพท์ในมือนิ่งงันด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก ที่ชัดเจนที่สุดคงเป็นความกังวลแปลกๆที่อยู่ข้างในจิตใจ

คนในสายคือคนของพ่อโซโล่

ที่เขาพูดมา…มันเหมือนเขาจะบอกว่าคุณท่านคนนั้นเฝ้าดูโซโล่อยู่ตลอดเวลา

“กีตาร์…”

ผมมองมือที่สั่นเทาของตัวเอง ไม่เข้าใจว่ามันเกิดจากอะไร

กลัว?

“กีตาร์…”

ผมเงยหน้ามองเจ้าของมือที่จับมือผมไว้แน่น ใบหน้าที่มักนิ่งเฉยฉายแววเป็นห่วงเหมือนต้องการถามว่าเป็นอะไร

“ไม่สบายเหรอ”โซโล่วางมือข้างหนึ่งลงบนหน้าผากผมแล้วขมวดคิ้วกังวล ในขณะที่ผมทำได้เพียงมองหน้าเขาไม่ละสายตา

“โซ…”

“ครับ”

“ยิ้มให้พี่หน่อย”

โซโล่ทำหน้างงแต่ก็เผยรอยยิ้มบางเบาที่เต็มไปด้วยความจริงใจออกมา ผมมองมือตัวเองที่อีกคนดึงไปจูบเบาๆแล้วก็รู้สึกเหมือนหัวใจที่สั่นไหวได้รับการเยียวยา

ผมเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองไม่เคยรู้เรื่องของโซโล่เลยแม้แต่นิดเดียว…แต่ตอนนี้ผมกำลังก้าวเข้าไปในโลกของเขาทีละนิด

ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าเรื่องที่ทำให้โซโล่โมโหทุกครั้งที่รับโทรศัพท์คืออะไร

ถึงจะยังไม่รู้รายละเอียดนัก แต่มันต้องเป็นเรื่องพ่อของเขาแน่นอน และผมก็ไม่ได้โง่พอที่จะไม่รู้ว่าท่านคือสิ่งที่ทำให้โซโล่กังวลเกี่ยวกับเรื่องของเรา

ทันทีที่เห็นรอยยิ้มอ่อนโยนของเขาผมก็เข้าใจ…

ที่ใจสั่น มือสั่น หรือความรู้สึกกังวลเมื่อครู่ มันไม่ได้เกิดจากความกลัวที่จะต้องเผชิญกับอะไร

ไม่ได้เกิดจากความกลัวพ่อของเขาหรือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ไม่ได้เกิดจากความกลัวที่รู้ว่าคนๆนั้นเฝ้าดูและรู้เรื่องทุกอย่าง

แต่มันคือความกลัว…

กลัวว่าผมจะเสียเขาไป

-----------------------------------

 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-03-2017 21:45:43 โดย CHESS. »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER16 P.12 [11/01/17]
«ตอบ #353 เมื่อ11-01-2017 21:17:02 »

อย่ากลัวจนคิดปล่อยมือน้องโซนะพี่กีลล์ สงสารน้องอ่ะ
ไม่ว่าพ่อน้องจะว่าจะพูดอะไรยังไงก็ตาม

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER16 P.12 [11/01/17]
«ตอบ #354 เมื่อ11-01-2017 21:21:26 »

 :ling3:

ออฟไลน์ mirage

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER16 P.12 [11/01/17]
«ตอบ #355 เมื่อ11-01-2017 21:23:16 »

คุณพ่อทำไมทำแบบนี้คะ อ๊๊าก อยากกรีดร้อง
 :katai1: :katai1:

ติดตามค่ะ เริ่มดราม่าล่ะ  :ling3:
 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER16 P.12 [11/01/17]
«ตอบ #356 เมื่อ11-01-2017 21:24:23 »

พี่กีล์อย่ากังวลเลยนะ
มาๆ เดี๋ยวกอดปลอบ
เผชิญหน้ากับปัญหาอย่างมีสตินะ
ทั้งเจ้าหมา ทั้งพี่กีล์
แล้วทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี  :กอด1:

ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER16 P.12 [11/01/17]
«ตอบ #357 เมื่อ11-01-2017 21:28:16 »

แล้วไปเรากลัวดีาม่าเยอะอ่ะ

รอตอนต่อไป

 :katai5: :katai5:

 :pig4:

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER16 P.12 [11/01/17]
«ตอบ #358 เมื่อ11-01-2017 22:02:16 »

ทั้งสองคนจะต้องผ่านไปได้แน่นอน รอนะคะ

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
Re: ┌▼Oxygen ออกซิเจน▲┘ CHAPTER16 P.12 [11/01/17]
«ตอบ #359 เมื่อ11-01-2017 23:10:29 »

ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีค่ะ :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด