**สปอยก่อนอ่าน ตอนนี้ไม่ขำ**
ตอนที่ 39 : STALKER กับ สัญญาณประหลาด“กูคิดว่าพี่เหนือกำลังจะทิ้งกู” ระเบิดลูกใหญ่ที่ผมวาง เล่นเอาลูกชิ้นฮ่องเต้สุดหวงของส้มหล่นจากปากตกลงไปกลิ้งอยู่กับพื้น
“มึงพูดผิดพูดใหม่ได้นะ หรือมึงคิดจะอำพวกกูเล่น” ผมหันไปส่งค้อนให้เพื่อนส้ม เรื่องอย่างนี้ใครเขาเอามาล้อเล่นกัน
“กูพูดจริง”
“มึงไม่ต้องมาหลอกกูให้ยากค่ะ ทุกวันนี้กูแทบจะเพี้ยนตามพี่เหนือ เริ่มเชื่อจริงๆ แล้วว่ามึงจะเป็นคนทิ้งเขา”
“หรือจะเป็นเพราะโดนต่อย ไปให้หมอเช็คหน่อยไหมโต๊ะ” คำพูดผมไม่มีน้ำหนักเอาเสียเลยเพราะแม้แต่ข้าวเจ้ายังคิดว่าผมป่วย
“โต๊ะไม่ได้ถูกต่อยจนสมองกลับ”
“งั้นถ้ามึงไม่ได้เป็นอะไร ทำไมอยู่ๆ เพี้ยนขึ้นมา”
“คืองี้.....” ผมเริ่มลำดับความหลัง ย้อนไปเมื่อสองวันก่อน
เย็นวันถัดมาหลังจากที่ผมโดนต่อย เนื่องจากปากที่บวมเจ่อและตาเป็นเบ้าราวกับหมีแพนด้า ผมจึงคิดจะโทรสั่งอาหาร
มาทานที่ห้อง ไม่อยากเอาหน้าสยองๆ ออกไปให้ใครเห็น
ด้วยความเกียจคร้านและความเคยชิน ผมหยิบมือถือพี่เหนือที่วางไว้บนโต๊ะข้างโซฟาขึ้นมา หมายใจจะโทรสั่งอาหาร
แต่..
ผมมองมือถือพี่เหนือราวกับเห็นเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ผมไม่สามารถใช้งานมันได้ เพราะหน้าจอถูกล็อคด้วยรหัส
รหัสที่ผมพิมพ์เป็นสิบรอบก็ยังไม่ถูก ทั้งวันเดือนปีเกิดพี่เหนือ รหัสเอทีเอ็ม รหัสนักศึกษา วันเดือนปีเกิดผม วันที่พี่เหนือ
สารภาพรัก ซึ่งก็ไม่รู้จะกดไปทำไม อย่างพี่เหนือไม่มีวันเอามาตั้ง แต่ผมก็กดอยู่ดี
ยิ่งขุดทุกอย่างที่พี่แหนือเคยบอกไว้มากด แต่หน้าจอก็ยังฟ้องว่าผิดอยู่ซ้ำๆ ทำให้ผมเริ่มนอยด์แดก สาเหตุเดียวเท่านั้นที่
ผมกดไม่ผ่านคือพี่เหนือไม่อยากให้ผมเห็น
ชัดเจนมากครับ เพราะรหัสสำคัญๆ อย่างเช่นบัตรเอทีเอ็ม รหัสผ่านเมล รหัสผ่านfacebook พี่เหนือบอกผมหมด มันมี
ตัวเลขอยู่ไม่กี่ชุดที่พี่เหนือใช้เป็นประจำ
ผมวางโทรศัพท์ลงที่เดิม ไม่คิดจะเดินเข้าไปถาม นี่คือของส่วนตัวและความเป็นส่วนตัวของพี่เหนือ ผมไม่ควรเข้าไปก้าวก่าย
แต่นั่นแหละผมไม่ยุ่งก็ใช่ว่าผมไม่คิด สมองน้อยๆ เริ่มส่งสัญญาณเตือนว่ากำลังมีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น
วันถัดมาพี่เหนือออกไปตั้งแต่เช้า บอกว่าจะไปธุระกับพ่อ แต่ไม่ได้ชวนผมไปด้วยเพราะอยากให้พัก อีกอย่างหน้าผมก็ยังไม่
พร้อมรับแขก ซึ่งผมก็เห็นด้วย
ผมคงนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ห้องด้วยความสุข ถ้าน้องลันจะไม่โทรมาถามผมเรื่องซื้อกล้องตัวใหม่ และแน่นอนเมื่อ
สัญญาณแรกส่งมาสัญญาณที่สองก็จะตามมาด้วย น้องลันอยู่ร้านกล้องกับคุณพ่อผู้พร้อมจะจ่ายตังค์ซื้อกล้องใหม่ให้
ลูกสาว โดยไม่มีเงาของพี่เหนือ
สัญญาณสุดท้ายมาถึง เมื่อผมไถหน้าfacebookเล่น เพื่อระงับอาการฟุ้งซ่าน แต่ดันเจอรูปพี่เหนืออยู่กับสาวสวย ย้ำว่าสวยมาก
ถ่ายโดยแฟนคลับผู้คลั่งไคล้ เป็นแฟนเพจที่ผมได้อาศัยสูบรูปกับอัพเดทข่าวสารของพี่เหนือมาตลอด
จบข่าวและอาจจะจบกัน ผมนั่งอึ้งๆ คิดอะไรไม่ออกอยู่ครู่ใหญ่ จะให้โทรไปถามว่าอยู่กับใครผมคงไม่ทำ
รอก่อน ขอให้ผมแน่ใจในสถานการณ์อีกนิดแล้วผมจะตัดสินใจถาม
“มึงไม่ถามไปเลยวะ ปกติกูเห็นมึงมีอะไรก็ถามตรงๆ ตลอด ทีเรื่องสำคัญคอขาดบาดตายแบบนี้ มึงอมอะไรอยู่วะ”
ส้มดูฉุนเฉียว โกรธราวกับถูกนอกใจเสียเอง
“นั่นสิโต๊ะ เจ้าว่าอาจแค่เข้าใจผิดกันก็ได้นะ ธุระที่ว่าอาจไม่ต้องไปแล้ว หรือไปแล้วเสร็จแล้ว พี่เหนือเจอเพื่อนพอดีอะไรแบบนั้น”
“จริงมึง ถามก่อนเถอะ อย่าคิดมาก”
“มันไม่เหมือนกัน ทุกทีกูถามเพราะไม่อยากให้มีเรื่องเข้าใจผิดหรือโกรธกัน มันเป็นเรื่องพื้นๆ ทั่วๆ ไป แต่เรื่องนี้ถ้าถามแล้วคำตอบคือใช่
กูต้องไปเลย ดังนั้นกูต้องการตั้งหลักตั้งสติให้ได้ก่อน ขากูต้องพร้อมจะก้าว ไม่ใช่ไปแบบเดินไม่เป็น”
“แล้วทำไมต้องเลิก มึงบอกไปเลยว่ามึงรู้แล้ว แล้วถ้ามันเป็นเรื่องจริงกูตามไปตบให้เอง กูพร้อม” เดซี่รีบเสนอตัว
“ตบทำไมวะ ถ้าตบแล้วพี่เหนือไม่เลิกรักกู กูจะตบ แต่ถ้ามันเปลี่ยนอะไรไม่ได้ มึงก็แก้ปัญหาผิดจุดแล้วล่ะ”
“อย่างน้อยกูก็ได้สะใจ อีกอย่างเผื่อมันเผ่นกระเจิงไงมึง”
“กระเจิงแล้วไง คนมันเปลี่ยนแล้วยังไงก็เปลี่ยน กูอยากอยู่กับคนที่กูรัก พี่เหนือก็คงอยากอยู่กับคนที่พี่เหนือรัก
ถ้าเราไม่ได้รักกัน ถ้าคำตอบคือการฝืนอยู่ มันผิด”
“สาธุ จะบวชไหม กูจะได้ดูวัดให้”
“กูไม่ใช่คนดี กูแค่รักตัวเอง มึงอยากให้กูอยู่กับคนที่ไม่รักกูเหรอ”
“เจ้าว่าโต๊ะพูดถูก แล้วโต๊ะจะเอายังไง”
“กูกำลังอยู่ในระยะเวลาทำใจ ดูหอใหม่ ไม่เกินสองวันก็ว่าจะถาม”
“เก่งไปไหมคะมึง ทำใจได้ไวขนาดนั้น” เดซี่ส่งสายตาเคืองๆ มาให้ผม ไม่รู้ว่ามันเคืองอะไรนักหนา
“ทำใจ ไม่ได้มีขั้นตอนเดียวเว้ย ไม่ใช่สองวันกูทำใจเลิกรักพี่เหนือได้ สองวันนี่คือทำใจยอมรับความจริงได้ ว่ากูโดนทิ้งแล้ว
ถ้ากูไม่ได้ย้ายมาอยู่ด้วยกันกูคงถามเลย แต่นี่ที่พักก็ไม่มี เสื้อผ้าข้าวของก็ต้องขน กูเลยต้องรอบคอบนิดนึง”
“ยังมีเวลาคิดได้อีกนะมึง เป็นกูฉีกอกไปแล้ว”
“ปากดีตลอดค่ะคุณเดซี่ กูว่าอย่างมึงคงไปนั่งร้องไห้อยู่ในห้องน้ำมากกว่า” อันนี้ผมเห็นด้วยกับส้มครับ ในกลุ่มเรา
ข้าวเจ้าขี้กังวลที่สุด แต่ถ้าอ่อนไหวที่สุดต้องเดซี่
“อยากให้พวกกูช่วยอะไรไหม”
“ช่วยกัดกันให้กูฟังไปเรื่อยๆ มันจะช่วยกูได้มากเลย”
“เหี้ยโต๊ะ กูไม่ใช่หมา”
“ฮ่าๆๆ อย่างนี้แหละมึง ช่วยกูได้”
“ไอ้เพี้ยน” ปากว่าแต่มือส้มกลับตบลงมาบนบ่าเบาๆ
เพื่อนไม่เหมือนแฟน แต่รับประกันว่าความอบอุ่นพอจะแทนกันได้
............................................................................................
-North-
“โต๊ะวันนี้พี่ติดงานกลุ่ม กลับดึกนะ อย่าลืมหาอะไรทาน” ผมส่งข้อความผ่านแอพสีเขียวไปหา
ก่อนจะได้รับข้อความตอบกลับเพียงสั้นๆ ว่า “ครับ”
ผมเคาะมือถือกับฝ่ามือ คิดหนักเรื่องของโต๊ะ ถ้าโต๊ะรู้จะโกรธมากไหม แต่ผมห้ามใจตัวเองไม่ได้
“โรส”
“คะพี่เหนือ” เสียงปลายทางตอบรับอย่างรวดเร็ว
“เจอกันที่เดิม เดี๋ยวพี่ไปหา”
“ ได้ค่ะ โรสจะแต่งตัวสวยๆ รอ”
“ครับ พี่กำลังจะออกไป เดี๋ยวเจอกัน”
“ค่ะ”
ผมกดวางสาย เรื่องของโรสผมยังไม่ได้บอกให้ใครรู้ทั้งนั้น ผมคิดไม่ตกว่าผมควรจะสารภาพกับโต๊ะดีไหม
หรือไม่ควรบอกให้รู้ ปล่อยไปแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว
“อะไรคะ” โรสถามเมื่อผมยื่นบางสิ่งให้
“กุญแจกับคีย์การ์ดคอนโดที่พี่ซื้อไว้ พี่ให้โรสใช้ได้ตามสบาย”
“แหม พี่เหนือใจดีจัง” มือเรียวขาววางทาบทับลงบนมือของผม
“โรสขนแต่เสื้อผ้าเข้าไปได้เลย พี่เตรียมไว้ให้หมดแล้ว ของใช้ อาหาร มีทุกอย่าง”
“บริการดีแบบนี้ มีเหล้ากับ...ถุงยางด้วยไหมคะ” ริมฝีปากสีแดงสดกระซิบยั่วเย้าอยู่ริมหู
“มีทั้งหมดที่โรสต้องการ”
“ต้องอย่างนี้สิคะถึงจะเรียกว่ารักกันจริง แล้วโรสจะรอนะคะ พี่เหนือพร้อมเมื่อไหร่อย่าลืมบอกโรสนะคะ”
“เร็วๆ นี้ ขอพี่จัดการบางเรื่องให้เสร็จก่อน”
“แล้วโรสจะรอค่ะ”
“ครับ พี่รับปากว่าไม่นาน”
............................................................................................
-Table-
“เอายังไงมึง บอกมาคำเดียว งานนี้กูถวายหัวเลย” เดซี่พูดเสียงสั่นตัวสั่น จ้องมองภาพตรงหน้าตาไม่กระพริบ
“แต่เราไม่ได้ยินเสียง อย่างน้อยก็ต้องคิดห้าสิบห้าสิบว่ามันอาจจะไม่ใช่อย่างที่เห็นก็ได้นะ”
“กูว่าเกินร้อยแล้ว ห้าสิบอะไรล่ะเจ้า กุมมือแนบชิดกันขนาดนี้ อมพระมาทั้งวัดบอกว่าไม่มีอะไรกันกูยังไม่เชื่อเลย”
“โต๊ะ” เจ้าไม่โต้ตอบเดซี่ หันมามองหน้าผมเหมือนต้องการถามว่าจะทำอย่างไรต่อไป
“กลับ”
“กลับบ้าอะไรวะ มึงไม่เข้ากูเข้าเอง”
“ส้ม ใจเย็นๆ กูถ่ายรูปไว้แล้ว กลับไปกูจะคุยกับพี่เหนือเอง แต่ต้องไม่ใช่ที่นี่”
“มึงนี่มัน..”
“ไปเถอะ พี่เหนือเป็นคนฉลาด นานกว่านี้จะถูกจับได้”
“จริง กลับเถอะ” เจ้าช่วยออกเสียงข้างผม ส้มกับเดซี่ฮึดฮัดอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะยอมเดินออกมา
ผมมีลางสังหรณ์บางอย่าง ทันทีที่พี่เหนือส่งข้อความมาบอก ผมรีบขอยืมรถน้องยีนส์และขับไปจอดรอใกล้ๆ กับรถพี่เหนือ
โชคดีที่พี่เหนือยังไม่ได้ออกไปไหน และโชคดีที่รถติดฟิล์มกรองแสงค่อนข้างหนา จึงไม่มีอุปสรรคในการติดตาม
ผมไม่มีเจตนาอื่นนอกจากอยากเห็นกับตาเท่านั้น
“ทำไมยังไม่นอน” คนที่ผมรอมาค่อนคืน เดินเข้ามานั่งข้างๆ ริมฝีปากแตะลงบนแก้ม
“ยังไม่ง่วงครับ”
“เหนื่อย” ร่างสูงล้มลงนอนหนุนตัก จับมือผมไปวางบนอกเหมือนที่ชอบทำประจำ กลิ่นน้ำหอมผู้หญิงโชยมาอ่อนๆ
“งานเสร็จแล้วเหรอครับ” ผมส่งยิ้มให้ ถามเหมือนเป็นเรื่องปกติ
“อืม เสร็จแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นก็ว่างคุยกับผมแล้วใช่ไหมครับ”
“ถามแปลก ทำไมต้องว่าง โต๊ะอยากคุยกับพี่ตอนไหนก็คุยได้”
“วันก่อนน้องลันโทรมาหาผมเรื่องซื้อกล้องตัวใหม่” ผมเริ่มเรื่องที่ต้องการคุย คนนอนหนุนตักยังลูบมือผมเล่นไปมา
“อืม ได้ยินพูดๆ อยู่เหมือนกัน ซื้อแล้วหรือ”
“ครับ ไปซื้อเมื่อวานกับพ่อพี่เหนือ พี่เหนือไม่ทราบเหรอครับ”
“พี่...” พี่เหนือลุกขึ้นมานั่งทันที มือที่กุมมือผมยิ่งกุมกระชับแน่นขึ้น ผมไม่รอให้พี่เหนือตอบ ยังคงพูดต่อไปช้าๆ เรื่อยๆ
“วันนี้ผมไปที่ร้านบราซิลเลี่ยนมา เสียดายไม่ได้ทานอาหารเลยไม่รู้ว่าร้านนี้อร่อยไหม”
“โต๊ะ!!”
“ตอนนี้พี่เหนือพร้อมจะคุยกับผมหรือยังครับ”
..................................................................................
-North-
ผมรู้สึกถึงความเย็นเฉียบที่เข้าปะทะร่างกาย โต๊ะนิ่งมาก เย็นมาก น้ำเสียงไม่มีการประชดประชัน ไม่มีอารมณ์รุนแรง
มีแค่รอยยิ้มอ่อนๆ ที่ส่งมาให้
“คือพี่.....”
“ไม่เป็นไรครับ ถ้าพี่เหนือไม่รู้จะพูดอะไร บอกผมแค่ใช่หรือไม่ใช่ก็พอ ผมอยากรู้แค่นั้น พี่เหนือไม่จำเป็นต้องอธิบาย”
“โต๊ะรู้อะไรมา” ผมอยากรู้ว่าโต๊ะรู้มากแค่ไหน จะได้ตอบคำถามถูก ถ้าจำเป็นต้องโกหกก็ต้องโกหก
“ผมรู้แค่ว่าพี่เหนือไม่ได้ไปธุระกับพ่อ และพี่เหนือไม่ได้อยู่คณะในเวลาที่บอกผม และผู้หญิงคนนั้นสวยดีนะครับ ไม่ใช่สิสวยมาก
พี่เหนือตาถึง ผมรู้แค่นี้ครับ”
“เดี๋ยวนะ นี่โต๊ะคิดอะไรอยู่ คิดว่าพี่..” ผมจ้องหน้าโต๊ะด้วยความตกใจ ถึงโต๊ะจะมีรอยยิ้มแต่ก็เป็นรอยยิ้มที่เศร้ามาก
น้ำเสียงไม่ได้เรียบแต่เนือยเหมือนคนกำลังหมดแรง
ผมเคยนึกอยากให้โต๊ะหึงผมบ้าง แต่พอเห็นโต๊ะเป็นแบบนี้ ได้แต่สาบานกับตัวเองว่าผมจะไม่ทำให้โต๊ะทุกข์ใจอีกเป็นอันขาด
มันไม่ใช่ภาพแบบที่ผมอยากเห็นเลยสักนิด
“โต๊ะครับ” ผมดึงโต๊ะมากอดไว้แนบอก กดจุมพิตลงบนกระหม่อมของคนที่ผมรัก
“คิดอะไรหะเด็กเพี้ยน คิดได้ยังไงว่าพี่นอกใจ พี่รักเราจะตายอยู่แล้ว”
“อย่าสงสารผม ถ้าพี่เหนือเป็นคนดีอย่างที่ผมรักอย่าทำแบบนี้ พี่เหนือไม่จำเป็นต้องฝืน และไม่ควรให้ผมต้องทนด้วย
แค่พี่เหนือบอกผมและปล่อยผมไปก็พอ”
“โต๊ะไปกันใหญ่แล้ว ห้ามพูดแบบนี้กับพี่ ห้ามพูดห้ามคิด พี่ไม่มีวันปล่อยโต๊ะไปไหน พี่เคยบอกโต๊ะแล้วพี่ไม่ใช่คนดี
พี่ไม่เหมือนโต๊ะ ต่อให้โต๊ะอยากไปพี่ก็ไม่ปล่อย”
“ทำแบบนั้นมันเห็นแก่ตัว”
“ใช่พี่เห็นแก่ตัว ถ้ามันเกี่ยวกับโต๊ะ” ผมเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่วางไว้ก่อนยื่นส่งให้โต๊ะ
“อย่าเพิ่งคิดอะไรไปไกล ฟังพี่อธิบายก่อน”
โต๊ะมองโทรศัพท์ในมือ ไม่ทำอะไรกับมันนอกจากส่งคืนให้ผม
“มันเปิดดูไม่ได้ครับ ถ้าพี่เหนือไม่อนุญาต”
“หือ?” ผมมองโต๊ะงงๆ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองใส่รหัสล็อคเอาไว้ ผมกดรหัสสี่ตัวที่ตั้งขึ้นมาใหม่และเป็นรหัสที่ตั้งใจไม่ให้โต๊ะรู้
“ให้ผมดูอะไรครับ” โต๊ะถามเมื่อรับมือถือไปจากผมอีกครั้ง
“แกลอรี่ ไลน์”
“ครับ” โต๊ะก้มหน้า กดอะไรอยู่ชั่วครู่ สีหน้าโต๊ะดูเจ็บปวดขึ้นเรื่อยๆ ก่อนเปลี่ยนเป็นฉงน ไม่แน่ใจ และเงยหน้ามองผมด้วย
ความสงสัยในที่สุด
“นี่มัน?”
“สวยใช่ไหม”
“ครับ” โต๊ะรับคำอย่างงงๆ มือยังสไลด์ดูภาพในโทรศัพท์ผม
“เพื่อนพี่ส่งมาให้เลือกว่าชอบคนไหน โต๊ะเข้าไปอ่านในไลน์ได้ มีข้อความที่พี่คุยกับเพื่อนอยู่ หรือถ้าไม่อ่านก็ฟังพี่
พี่จะเล่าให้ฟัง”
“ครับ” โต๊ะวางโทรศัพท์ไว้กับตัก เลือกที่จะเงยหน้าขึ้น ฟังผมแทน
“พี่มีเรื่องที่ต้องใช้งานคนสวยสักคน เพื่อนพี่เลยติดต่อคนรู้จักให้หามาให้ รูปที่เห็นก็คือรูปที่ส่งมาให้เลือก
โต๊ะจะเห็นว่ามีเป็นสิบคนไม่ใช่แค่คนเดียว ส่วนคนที่โต๊เจอชื่อโรสเป็นคนที่พี่เลือกแล้ว”
“แต่ผมเห็นพี่เหนือยื่นกุญแจกับคีย์การ์ดให้เขา แล้วก็นั่งจับมือกันด้วย”
“ใช่ พี่ให้โรสย้ายเข้าไปพักคอนโดที่พี่ซื้อไว้เก็งกำไรชั่วคราว มันจำเป็นกับงานที่พี่จ้าง ส่วนเรื่องกุมมือ พี่ไม่ได้กุม
พี่ส่งกุญแจให้โรส แต่โรสทับมือลงมาเอง มันคงเป็นนิสัยของโรสที่ชอบหว่านเสน่ห์ แต่โต๊ะไม่ต้องห่วง พี่ติดต่อเรื่องงาน
เท่านั้นจบแล้วจบกัน รักเราขนาดนี้จะเหลือสายตาไว้มองใคร”
ผมซุกหน้าลงฟัดคนที่กอดอยู่ ตั้งใจว่าจะแสดงออกให้รู้เท่านั้นว่ารักมากแค่ไหน แต่พอได้กอดได้จูบก็เริ่มชักไม่อยากทำอย่างอื่น
จนโต๊ะต้องเป็นคนดันหน้าผมออก
“อื้อ..คุยกันก่อนครับพี่เหนือ”
“ไม่มีอะไรคุยแล้ว” ผมพูดชิดปากนิ่ม ก็คนมันอยากทำอย่างอื่นมากกว่า ที่เหนื่อยๆ มา พอได้กอดโต๊ะก็หายแล้ว
“แบบนี้มันไม่เคลียร์ พูดจากำกวม เรื่องอะไร งานอะไรไม่เห็นบอกเลย”
“ไม่อยากบอก แค่เชื่อพี่ไม่ได้เหรอครับว่าพี่จะไม่ทำอะไรที่ทำให้โต๊ะเสียใจแน่นอน” ผมไม่คิดว่าการบอกโต๊ะเป็นเรื่องที่ดี
ขืนบอกไปผมอาจจะโดนห้าม โต๊ะคงขอให้เลิกทำ ซึ่งผมทำไม่ได้
“ถ้าโต๊ะไม่เชื่อว่าพี่ติดต่อแค่เรื่องงาน คราวหน้าพี่จะพาไปเจอโรสด้วยตัวเองดีไหมครับ โต๊ะจะคุยจะซักแค่ไหนก็ได้
แล้วโต๊ะจะรู้ว่าพี่เป็นสามีที่ดีและรักภรรยาแค่ไหน”
“ไม่เอาไม่เรียกแบบนี้ครับ” เสียงและสีหน้าของโต๊ะดูดีขึ้น ทำให้ผมใจชื้นขึ้นมาบ้าง
“อืม พี่ก็ลืมไปต้องรอให้โต๊ะจบก่อนถึงจะแต่งได้ ถ้าอย่างนั้นตอนนี้เรียกว่าที่ภรรยาไปก่อน”
“ไม่ได้ทั้งสองชื่อครับ เอาไว้พูดเล่นๆ ตอนแซวกันได้ แต่ห้ามเอามาเรียก”
“ครับครับที่รักไม่เรียกครับ”
“พี่เหนือออออ”
“หายโกรธพี่หรือยังครับ” ผมถูแก้มกับแก้มของโต๊ะ มือกอดไว้รอบเอว
“ไม่ได้โกรธ”
“ให้โต๊ะโกรธยังดีกว่านี้ ไม่อยากเห็นหน้าโต๊ะเวลาเสียใจเลย ใจพี่หายหมด ที่เขาบอกว่าความสุขของคนที่เรารักก็คือ
ความสุขของเราท่าจะจริง พี่มีความสุขเวลาที่โต๊ะยิ้ม”
“ไม่ต้องมาปากหวานครับ ยังไม่บอกเลยว่าทำไมต้องโกหกผมด้วย บอกผมตรงๆ ก็ได้ว่าไปติดต่องาน กลัวผมหึงคนสวย
แล้วไปอาละวาดไม่เข้าท่าเหรอครับ”
“หึงอาละวาดก็ดีสิ พี่คงดีใจพิลึก”
“เขามีแต่ชอบแฟนไม่หึง พี่เหนือเพี้ยน”
“พี่เพี้ยนตั้งแต่รักเรานั่นแหละไอ้เด็กบ๊อง อะไรที่เคยเกลียดทำเองหมด ติดแฟน หึงแฟน หวงแฟน โทรตาม คิดมาก
ไปหมดแล้วภาพพจน์นายนิมมานไม่มีเหลือ”
“ยังไม่หมดครับ”
“หือ?”
“ขี้หื่นด้วย อันนี้สำคัญมากห้ามลืม”
“ฮ่าๆๆๆ ไม่ปฏิเสธ อยู่กับเด็กลามกก็ต้องหื่นเป็นธรรมดา” และตอนนี้ก็กำลังจะหื่นด้วย
“เดี๋ยว เดี๋ยว พี่เหนือ ยังคุยไม่จบ” ดูท่าโต๊ะจะจับความรู้สึกผมได้เหมือนกัน รีบร้องห้ามเสียงหลง
“งานอะไรครับ ทำไมต้องใช้ผู้หญิงสวย ทำไมถึงลึกลับ ผิดกฎหมายหรือเปล่า”
ถ้าซักเยอะๆ ตาใสวาวแบบนี้ แปลว่าหายคิดมากเป็นตุเป็นตะแล้วแน่นอนครับ กลับมาเป็นโต๊ะผู้อยากรู้อยากเห็น
ถามเพราะสงสัยอยากมีส่วนร่วมตามประสาโต๊ะ ไม่ใช่ถามเพราะคิดว่าผมมีคนอื่นเหมือนครั้งแรก
“ไม่ได้ครับ บอกไม่ได้ เอาไว้เดี๋ยวโต๊ะก็รู้เอง พี่ขอใช้สิทธิ์ความไว้ใจ ห้ามถาม”
“เหอะ ไม่เห็นจะสนุกเลย”
“จริง พี่ว่าเราไปหาอะไรสนุกๆ ทำกันดีกว่า”
“เดี๋ยววววววว พี่เหนือออออออ”
ปล่อยให้ร้องไปครับไม่ปล่อยให้ยาก โทษฐานทำผมใจหายใจคว่ำ เพิ่งรู้ว่าแฟนตัวเองน่ากลัว ผมเคยโดนผู้หญิงซักมาก็มาก
ทั้งร้องห่มร้องไห้ ทั้งตะโกน ทั้งทำท่าน้อยอกน้อยใจตีอกชกหัวตัวเอง ไม่เคยทำให้ผมสะเทือนได้มีแต่จะรำคาญมากขึ้น
แต่เจอวิธีซักแบบเอ๋อน้อยเข้าไป ขนาดผมไม่ได้ทำผิดสักนิดยังขนลุกขนพอง กลัวขึ้นมาเฉยๆ เหมือนกลับไปเป็นเด็ก
ถูกครูถามความผิดหน้าห้องเรียน
ได้แฟนมาคน เหมือนได้มาเป็นสิบ มีสารพัดบุคลิก เด็กเอ๋อมึนๆ งงๆ เด็กน้อยใสๆ ไม่ค่อยรู้เรื่อง เด็กลามก เด็กจิตใจดี
และเด็กมีความคิด ได้ครบขนาดนี้จะมองคนอื่นอีกทำไมให้โง่
“พี่เหนือ...อื้อ”
“ครับ”
“ผมกับโรส ใครสวยกว่ากัน”
“โรส”
“ถ้า..ถ้าอย่างนั้นผมเชื่อพี่เหนือครับว่าไม่มีอะไร”
“ไม่มีอะไรแน่นอนครับ เชื่อพี่เถอะ เพราะ...” ผมประกบปากลงไปแผ่วเบา ก่อนจะถอนออก
“ you are the only one ”
“แค่โต๊ะคนเดียวเท่านั้นที่มีความหมายสำหรับพี่”
“ขอบคุณครับ”
“รักครับ” ผมรักผู้ชายคนนี้ คนที่ผมกำลังกอดอยู่แนบอก คนที่ผมสัมผัสอย่างแผ่วเบา คนที่ผมจุมพิตด้วยความโหยหา
คนที่ผมจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาแตะต้องได้
ความอ่อนโยนทั้งหมดที่ผมมี เพื่อ “โต๊ะ” คนเดียวเท่านั้น
......................................................................
“เฮ้ย ไอ้อาร์ท ได้ข่าวว่า
โรส คนที่มึงพามาโชว์ตัวให้พวกกูอิจฉาเป็นกระเทยเหรอวะ ฮ่าๆๆๆ เอากับกระเทยเป็นไงบ้างวะมึง”
“ไม่อยากโดนตีนกูก็หุบปากไปไอ้พุก”
“มึงนี่ดังไม่หยุด ออกจากโรงพยาบาลมานึกว่าจะได้ดีมีแฟนสวย ที่ไหนได้ ฮ่าๆๆ ไม่ได้คลำตอดูก่อนเหรอวะ”
“เฮ้ย จะรีบไปไหนมาเล่าประสบการณ์ให้พวกกูฟังก่อนสิวะ”
“มึงอย่าไปแซวมันไอ้พุก เห็นเขาพูดกันว่าตอนอย่างว่า มันเมามากกลายเป็นคนโดนเสียบเสียเอง แถมไอ้กระเทยนั่นถ่าย
คลิปไว้ด้วย ไม่รู้จริงแค่ไหนยังไม่มีใครเห็นคลิป”
“เรื่องจริงเหรอวะ!! ข่าวใหญ่แน่มึง”
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
** edit** อ่านท่อนสุดท้ายน้า คนเขียนเฉลยไว้ให้แล้วววว ^^ตอนหน้าใครรอข้าวเจ้า+พี่สกายเจอกันค่ะ ^^
Darin ♥ FANPAGE