ปฐพีเคล้าเมฆาสวัสดีค่ะ เรื่องนี้ชื่อว่า ปฐพีเคล้าเมฆา นะคะ เป็นเรื่องที่สามของนิยายชุดดวงใจไร่รัก เป็นเรื่องสุดท้ายของนิยายชุดนี้แล้ว แอบใจหายเหมือนกันนะเนี่ย นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องของเพียงดินและเมฆานะคะ แน่นอนว่าแฟนๆนิยายชุดเรื่องนี้ต้องรู้จักเมฆามาก่อนแล้ว ก็เล่นไปป่วนมาทั้งสองเรื่อง ส่วนเพียงดินของเราโผล่มาแค่ชื่อในเรื่องแรก เรื่องที่สองก็มาแค่ตอนเดียว ฮ่าๆ เอาเป็นว่าเรื่องนี้จะได้เจอสองคนนี้เต็มๆเลยค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สดใสที่สุดของนิยายชุดนี้นะคะ เพราะเมฆาป่วนสุดๆ เพียงดินก็เพี้ยนสุดโต่ง เครียดๆเรื่องของพี่รัชมา มาอ่านเรื่องนี้กันดีกว่าเนอะๆ ฝากดินกับเมฆด้วยนะคะ
********************************************************************************************
ปฐพีเคล้าเมฆ ปฐมบท
(เพิ่มเติมสำหรับคนที่ไม่ได้อ่านเรื่องพระจันทร์ล้อนที เรื่องก่อนหน้า)
“ไอ้พี่ตะวันนะพี่ตะวัน ไหนบอกจะมารับน้องไง ตัวเองหนีไปต่างประเทศแล้วส่งไอ้พี่รัชมาแทนเนี่ยนะ เหอะ” เมฆายืนบ่นอุบอยู่สนามบิน
วันนี้เมฆาคุณหมอจบใหม่เพิ่งจะมาถึงเชียงรายเป็นวันแรกเพราะต้องมาใช้ทุนที่นี่ ซึ่งมันถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะเมฆามีญาติฝั่งพ่ออยู่ที่นี่พอดี
แต่วันนี้ตะวันพี่ชายของเขาดันไม่สะดวกมารับทั้งๆที่เขากลับมาแท้ๆ ถึงอย่างไรก็ยังส่งรัชพลเพื่อนสนิทของตะวันมารับ ซึ่งเมฆาก็รู้สึกโอเค แต่ก็ยังแอบเคืองพี่ชายตัวเองอยู่ไม่น้อย
เมฆายืนกอดอกแล้วมองไปรอบๆสนามบินสายตาก็ไปสะดุดกับใครบางคนที่กำลังเดินมาทางนี้ ชายหนุ่มร่างสูงที่เพิ่งจะมีเรื่องกับเขาบนเครื่องบินเมื่อครู่ เพราะนั่งข้างๆกันแล้วหอมนั่นดันมาดึงหูฟังออกจากหูเขาและบอกว่าเขาเสียงดัง มันเสียงดังตรงไหน ใส่หูฟังแล้วเสียงมันออกมาหรือไง
ผู้ชายคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ เมฆาเลยแกล้งเหยียดขาไปจนผู้ชายคนนั้นสะดุดล้มแล้วตวัดสายตาหันมามองขวับอย่างไม่พอใจ
“ไอ้เด็กนี่!” เพียงดินสบถพร้อมกับลุกขึ้นก่อนจะเดินมาชี้หน้าเมฆา
“อะไร ทำไม” เมฆาทำหน้ากวนๆ
“เด็กมารยาทเสีย พ่อแม่ไม่สั่งไม่สอนรึไง บนเครื่องบินก็รอบหนึ่งแล้วนะ” เพียงดินหัวเสีย
เด็กนี่เสียงดังโวยวายเครื่องบิน เพราะเล่นเกมแล้วตะโกนลั่นตอนก่อนเครื่องจะขึ้น นั่นมันทำให้เพียงดินที่นั่งข้างๆไม่พอใจ การเดินทางครั้งนี้เลยครุกรุ่นไปด้วยอารมณ์ที่อยากตบหัวเด็กซักทีสองที
“นี่ อย่าลามปามนะ” เมฆาเริ่มจะเสียอารมณ์บ้างแล้ว
“ไอ้เมฆ” ก่อนจะมีเรื่องไปมากกว่านี้เมฆาก็ได้ยินเสียงรัชพลตะโกนเรียกเสียก่อน
เมื่อมองไปก็เจอรัชพลที่มากับสิตางศุ์ นั่นทำให้เมฆายิ้มออกมาเพราะรอนานแล้ว เมฆาไม่สนใจคนตรงหน้าแต่กลับวิ่งไปหารัชพลอย่างรวดเร็ว
“พี่รัช~” เมฆาตะโกนลั่นจนคนบริเวณนั้นหันมามอง คุณหมอพุ่งเข้ากอดรัชพลอย่างจัง รัชพลหัวเราะปนระอาก่อนจะยีหัวเมฆาแล้วดันลิงจอมซนนั้นออก
“ปล่อยก่อนสิวะ เกาะหนึบเป็นปลิงเลย” รัชพลดันหัวเมฆาออกนั่นทำให้เมฆามองค้อน
“สวัสดีครับคุณรัช คุณสิตางศุ์” เสียงที่ดังมาจากข้างหลังเมฆานั้นทำให้รัชพลต้องหันไปมอง
“อ้าว คุณดิน มาอยู่นี่ได้ยังไงครับ” รัชพลถามอย่างแปลกใจ ทำไมเพียงดินมาอยู่ที่นี่ได้
“พอดีเพิ่งกลับจากกรุงเทพฯน่ะครับ คุณรัชมารับเด็กคนนี้เหรอครับ” เพียงดินชี้ไปที่เมฆา เมฆานั้นทำหน้าไม่สบอารมณ์ไปเรียบร้อย
“ใช่ครับ พอดีเป็นน้องชายเพื่อน ว่าแต่คุณดินกลับยังไง กลับด้วยกันก็ได้นะครับ” รัชพลอาสา
เมฆาถลึงตาใส่รัชพล เขาพยายามสื่อสารด้วยสายตาและกระซิบกระซาบกับรัชพลเป็นเชิงว่าไม่ควรชวนเพียงดินไปด้วย
“เป็นอะไรเนี่ยได้เมฆา มาทำหน้าทำตา” รัชพลยังไม่เข้าใจ
“ดีเลยครับคุณรัช คนที่ไร่ไม่ว่างพอดี ถ้าไม่รบกวนมากไปผมขอกลับด้วยเลยแล้วกัน” ไม่พูดเปล่า เพียงดินยังเดินมายืนตรงหน้ารัชพลแล้วแอบเบียดเมฆาให้ถอยออกไป
“ยินดีครับ” รัชพลตอบรับอย่างเต็มใจ
“แล้วเราเอาไงไอ้เมฆ แบกของอะไรมาเยอะแยะ” รัชพลหันมาหาเมฆาที่ยืนหน้าบึ้งอยู่แล้วจึงไปช่วยยกของ เมฆาคงอยู่นี่อีกนานพอสมควรถึงได้หอบมาซะขนาดนี้
“เดี๋ยวผมช่วยถือขอฝากก็แล้วกันครับ” สิตางศุ์ที่ยืนเงียบอยู่นานอาสาเข้ามาช่วย เขารับถุงกระดาษมาไว้ในมือมากมาย เมฆาถือกระเป๋าใบเล็กหนึ่งใบเพราะใบใหญ่นั้นรัชพลแบกนำลิ่วไปนู่น
“ขอบคุณครับ นี่คงเป็นพี่สิตางศุ์แฟนพี่รัชใช่มั้ย” เป็นครั้งแรกที่เมฆาเจอสิตางศุ์ เขาได้แต่ฟังเรื่องราวเจ้าของหัวใจตาแก่แช่โรงบ่มคนนี้ผ่านทางภุมรินและรัชพล ดูท่าทางแล้วสิตางศุ์ไม่น่าจะมาใช้ชีวิตอยู่ในไร่ได้ แต่ก็ทนอยู่กับไอ้พี่รัชมาตั้งเกือบปีนึงแล้ว
“ใช่ครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับน้องหมอเมฆ” สิตางศุ์ยิ้มหวาน เมฆาจึงยิ้มกลับ เขารู้สึกถูกชะตากับสิตางศุ์พิกล คนอะไรทำไมมารยาทดีได้ขนาดนี้
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” รัชพลจะยื่นมือไปจับ แต่สิตางศุ์ได้แต่ยิ้มแห้งให้เพราะของฝากของเมฆานั้นก็เต็มมือของเขาไม่น้อย เมฆาได้แต่ยิ้มเจื่อนๆรู้สึกผิดที่ใช้งานคนเพิ่งรู้จักแบบนี้
“ให้ผมช่วยถือมั้ยครับคุณสิตางศุ์ ของเต็มมือขนาดนั้น” เพียงดินที่ถาม เขามีแค่กระเป๋าเป้ใบเดียวเท่านั้น ไม่ได้หนักและเยอะเหมือนคุณหมอกางเกงเหลืองนี่หรอก
“ก็ดีครับ” สิตางศุ์ไม่ปฏิเสธเพราะเขาเองก็เริ่มรู้สึกไม่ไหว
เพียงดินเข้าไปช่วยถือ สิตางศุ์ยิ้มขอบคุณก่อนจะเดินตามรัชพลไป เมฆาหันมาตวัดสายตาใส่เพียงดิน ไอ้คนที่เพิ่งรู้จักกันบนเครื่องบินเมื่อกี้นี้มันชักยังไงแปลกๆซะแล้ว ทำไมไปทำสายตากรุ้มกริ่มใส่สิตางศุ์อย่างนั้น
“นี่นาย ห้ามคิดไม่ซื่อกับพี่สิตางศุ์นะ นั่นแฟนพี่รัช!” เมฆาชี้หน้า นายเพียงดินอะไรนี่แอบชอบพี่สิตางศุ์รึเปล่า
ไม่ได้... ไม่ได้เด็ดขาด!
กว่ารัชพลจะยอมมีแฟน จะยอมคบใครจริงจังมันยากแค่ไหนรู้มั้ย กว่าจะได้พี่สิตางศุ์มาเป็นแฟนต้องฝ่าด่านนรกแค่ไหน แล้วจะให้คนอื่นมาเป็นมือที่สามแบบนี้ไม่ได้ เมฆาไม่ยอมแน่
“เป็นถึงหมอคิดได้แค่นี้เหรอ นายนั่นแหละคิดอะไรกับคุณรัชรึเปล่า วิ่งเข้าไปกอดแฟนเค้าขนาดนั้น” เพียงดินตอกกลับ คนรู้จักกันต่อให้สนิทแค่ไหนก็คงไม่พุ่งเข้าไปกอดต่อหน้าแฟนเค้าที่ยืนทำหน้าไม่พอใจอยู่อย่างนั้นหรอก ไอ้หมอกางเกงเหลืองนี่คิดไม่ซื่อกับรัชพลแน่ๆ
“ทำไมถึงไอ้มีความคิดอัปรีย์ขนาดนี้นะ ฉันไม่ได้คิดอย่างนั้นกับพี่รัช! และบอกไว้ตรงนี้เลยนะถ้านายคิดจะจีบพี่สิตางศุ์ล่ะก็ไม่มีทางซะหรอก”
เมฆาอยากจะชกหน้าอีกคนเสียจริง แต่ก็ทำได้เพียงแค่เดินตามรัชพลกับสิตางศุ์ไป แค่เรื่องบนเครื่องบินยังไม่เคลียร์ แล้วยังจะมีประเด็นใหม่มาอีก เห็นทีงานนี้เมฆาต้องไปลับฝีปากเพื่อช่วยกันท่าเพียงดินคนนี้ออกจากสิตางศุ์เสียแล้ว
เพียงดินทำหน้าระอาให้กับเมฆา นี่น่ะนะหมอ หมอบ้าอะไรเพี้ยนขนาดนี้ แค่เรื่องบนเครื่องบินก็ทำให้เขาปวดหัวจะแย่ ยังมาว่าเขาคิดไม่ซื่อกับคุณสิตางศุ์อีก ตัวเองนั่นแหละชอบคุณสิไม่ว่า
เห็นทีคราวนี้เขาคงต้องเป็นพระเอกคอยจัดการหมอเมฆอะไรนี่ไม่ให้เข้าใกล้รัชพลเกินงามเสียแล้ว ดูจากสีหน้าสิตางศุ์เมื่อกี้ก็รู้ว่าไม่สบายใจแค่ไหน กว่าสองคนนี้จะลงเอยกันต้องเจอปัญหาร้อยแปด อยู่ๆหมอเมฆที่เพิ่งมาจะมาทำลายความสัมพันธ์ของเค้าสองคนดื้อๆแบบนี้ไม่ได้ คิดได้ดังนั้นเพียงดินก็เดินตามทั้งสามคนไป
ยกที่หนึ่ง เริ่ม!
บทที่ 1
“เอามอเตอร์ไซค์ไปเหรอเมฆ มันไกลนะ” เสียงทักท้วงดังขึ้นเมื่อเมฆากำลังจะสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์คันเล็ก
“ก็ใช่น่ะสิพี่ตะวัน จะอะไรนักหนาเนี่ย” คนตัวเล็กบอกปัดก่อนจะสตาร์ทรถเตรียมออกไปข้างนอก
“แต่มันอันตราย พรุ่งนี้ก่อนค่อยไปก็ได้ พี่จะเข้าไปอยู่พอดี” ตะวันยังคงเถียงต่อ
“เมฆไม่เอารถพี่ไปล้มแถวนี้หรอกน่า ไม่ต้องเป็นห่วง นี่ใคร นี่หมอเมฆนะเว้ยไอ้พี่ชาย ไปละ” พูดจบก็ออกรถ ทิ้งให้ตะวันยืนทำหน้าบึ้งอยู่หน้าบ้าน
“อย่ากลับค่ำนะไอ้เมฆ มันอันตราย” ตะวันตะโกนตามหลังน้องชาย แต่เมฆาคงไม่ได้ยิน เขาได้แต่ส่ายหัวก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้านอย่างเหนื่อยใจ ห้ามอะไรมันเคยได้ซะที่ไหน
ทางด้านเมฆาที่ขี่มอเตอร์ไซค์ออกมาก็ยิ้มกริ่ม เมฆา ประสิทธานนท์ หรือเมฆ หลานชายคุณภูผา ประสิทธานนท์เจ้าของตลาดส่งขนาดใหญ่ใจกลางเมือง ที่ตอนนี้ส่งต่อกิจการให้ลูกชายอย่างตะวัน ประสิทธานนท์ดูแลกิจการที่เชียงรายต่อ
เมฆาต้องมาใช้ทุนที่เชียงรายหลังจากเรียนจบ ประจวบเหมาะกับการที่มีญาติฝั่งพ่ออยู่ที่นี่เขาเลยมาอาศัยอยู่ด้วยซะเลย
ปกติเมฆาก็กลับมาที่เชียงรายเป็นประจำอยู่แล้ว และยังสนิทกับภุมรินคนรักของตะวันที่ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของตะวันได้เกือบปีแล้วเพราะทั้งสองคนนั้นเคยเล่นด้วยกันตอนเด็กๆ และเมฆาเองก็ยังไปสนิทกับรัชพลพี่ชายของภุมรินอีกทีหนึ่งด้วย
รัชพล เจ้าของไร่น้ำริน คนที่เขากำลังจะขี่มอเตอร์ไซค์ขึ้นไปหาอยู่นี่และ เขาเพิ่งมาถึงเมื่อวาน ซึ่งเป็นวันเสาร์ เขาจะถูกเรียกตัวอีกทีก็คงจะเป็นพรุ่งนี้ เมื่อวานรัชพลเป็นคนไปรับเขาที่สนามบิน วันนี้เลยถือโอกาสไปหาที่ไร่น้ำรินซะเลย
เมฆาตื่นเต้นกับสิตางศุ์มาก สิตางศุ์คือคนรักของรัชพล ทำไมถึงตื่นเต้นน่ะเหรอ ก็ตาแก่แช่โรงบ่มอย่างรัชพลยอมมีฟงมีแฟนกับเค้าทั้งทีมันก็ต้องเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ปกติรัชพลสนใจใครที่ไหน ยายจุ๋มจิ๋มที่ภุมรินบอกว่าให้ท่าแล้วให้ท่าอีกรัชพลก็ไม่มีทีท่าจะสนใจ สุดท้ายก็ดันไปหลงรักหลานมาเฟียจนเป็นเรื่องเป็นราวไปเมื่อปีก่อน เสียดาย
ตอนนั้นเมฆาไม่ได้อยู่ด้วย วันนี้เลยอยากถือโอกาสไปคุยเล่นกับสิตางศุ์ดูหน่อย แฟนไอ้พี่รัชคนนี้น่ารักอย่าบอกใครเชียว
มอเตอร์ไซค์สีน้ำเงินเข้มของตะวันโดยมีเมฆาเป็นคนขับค่อยๆไต่เขาขึ้นมา อากาศเช้าๆบนเขามันดีซะจริง เมฆาพยายามประคับประคองมอเตอร์ไซค์คันเล็กให้ลงไปกลางหุบเขาอย่างระมัดระวัง เอารถคันเล็กขึ้นเขามาอย่างนี้แน่นอนว่าลำบากอยู่แล้ว ก็ทำไงได้ล่ะ เขาไม่อยากเอารถยนต์ขึ้นมานิ มอเตอร์ไซค์นี่ได้รับลมเย็นๆตอนเช้า ดีจะตายไป
แล้วเมฆาก็ขับมอเตอร์ไซค์มาถึงที่ไร่น้ำรินจนได้ คุณหมอตัวเล็กขับเข้าไปในไร่ ไร่น้ำรินตอนเช้าๆเป็นช่วงที่คนงานกำลังเข้าไร่เพื่อทำงานเหมือนทุกวัน เขามาเที่ยวเล่นที่นี่บ่อยครั้งพร้อมกับตะวัน จนทำให้สนิทกับรัชพลและภุมริน
รถคันเล็กจอดอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าบ้าน เมฆาถือถุงขนมถุงใหญ่ที่เอามาจากกรุงเทพฯติดมือมาด้วย เขาเจอนพกำลังจะไปส่งองุ่นเหมือนทุกวัน ทักทายกันเล็กน้อยก่อนที่เมฆาจะเดินยิ้มแฉ่งเข้าบ้านรักษ์นทีไป
“อรุณสวัสดิ์ครับพี่สิตางศุ์” เมฆาตะโกนลั่นบ้านพร้อมกับรีบเข้าไปใกล้สิตางศุ์ที่กำลังจัดมือเช้าอยู่กับป้าจัน
“อ้าว น้องหมอเมฆ ทำไมมาแต่เช้าเลยล่ะครับ” สิตางศุ์งงเล็กน้อยแต่ก็ยิ้มตอบให้แขกผู้มาใหม่
“มาสายกว่านี้ก็ร้อนน่ะสิพี่สิตางศุ์ อ่ะ นี่ของฝาก เมื่อวานลืมเอาให้ แล้วไอ้พี่รัชไปไหนล่ะเนี่ย” เมฆาถือวิสาสะนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งเป็นเก้าอีกของโต๊ะอาหาร สิตางศุ์เห็นดังนั้นเลยบอกให้ป้าจันไปเอาจานมาอีกใบ
“ออกไปโรงบ่มตั้งแต่เช้ามืดน่ะ เดี๋ยวคงมา น้องหมอเมฆทานข้าวเช้าด้วยกันมั้ย” สิตางศุ์ยิ้มพร้อมกับตักข้าวให้เมฆาเสร็จสรรพโดยที่เมฆายังไม่ได้ตอบอะไรด้วยซ้ำ
“โหย ตักให้ขนาดนี้เมฆคงปฏิเสธไม่ได้แล้วล่ะ” เมฆาพูด ทำให้สิตางศุ์หัวเราะเล็กน้อย
“อะไรไอ้เมฆ มาทานข้าวบ้านคนอื่นแต่เช้าเลย” เสียงของรัชพลดังขึ้นข้างหลังก่อนที่ร่างแกร่งนั้นจะเดินมาแล้วเอาแขนรัดคอเมฆานั่น จนเมฆาร้องโวยวายไปทั่วบ้าน
“ไอ้พี่รัช มันเจ็บนะโว้ย เสื้อก็มีแต่เหงื่อ” เมฆาหันไปแว้ดโดยที่รัชพลยังไม่หยุดแกล้ง
“ก็มันน่ามั้ยล่ะ มาอ้อนอะไรสิตางศุ์แต่เช้าไอ้ป่วน” รัชพลหัวเราะร่วนเมื่อได้แกล้งเมฆา
“เลิกแกล้งน้องเถอะน่าพี่รัช มาทานข้าวเช้าดีกว่าครับ” สิตางศุ์ต้องเป็นคนสงบศึกนั้น แต่แอบเห็นหน้าเมฆาแดงๆแล้วก็แอบขำอยู่เล็กน้อย เลยโดนคุณหมอตัวเล็กค้อนให้หนึ่งทีทั้งรัชพลและสิตางศุ์
“ครับ เมียครับ แล้วเช้านี้มีอะไรกิน” รัชพลยอมปล่อยเมฆาก่อนจะเดินไปหอมแก้มสิตางศุ์หนึ่งฟอดใหญ่ จนสิตางศุ์หน้าแดงขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมฆาก็อยู่ด้วย
“มาทำอะไรอย่างนี้ น้องหมอเมฆก็อยู่ ตัวก็มีแต่เหงื่อ” สิตางศุ์เอ็ดไปหนึ่งยกก่อนจะฟาดเข้าที่ต้นแขนของรัชพลไม่แรงนักเป็นเชิงตำหนิ
“ไปสนใจอะไรมันไอ้เมฆ คิดซะว่ามันไม่มีตัวตนก็ยังได้เลย” รัชพลพูดก่อนจะหอมแก้มสิตางศุ์อีกรอบแล้วนั่งลงเพื่อทานข้าว
“โหย ทีเมื่อก่อนไม่เห็นพูดอย่างนี้เลย มีแฟนแล้วเป็นงี้เหรอไอ้พี่รัช เมื่อก่อนน้องเมฆอย่างนั้นอย่างนี้” เมฆาเบ้ปากใส่รัชพลแล้วลงมือทานข้าวโดยไม่รอเจ้าของบ้าน
ปกติเมฆาไม่ใช่คนเสียมารยาทอย่างนี้ แต่กับบ้านรักษ์นทีนั้นเขารู้สึกคุ้นชินจนทำกริยาแบบนี้โดยไม่กระดากอายไปเสียแล้ว รัชพลกับภุมรินก็ไม่เคยว่าอะไร
“พูดมากนะมึงน่ะ กินเข้าไปเลย จะได้เงียบๆ อย่าไปฟังมันนะสิตางศุ์ ไอ้เมฆมันก็ปากอย่างนี้แหละ” ประโยคหลังหันมาพูดกับสิตางศุ์ที่หัวเราะอยู่
“ทานข้าวกันเถอะครับ ว่าแต่น้องเมฆเถอะ จะไปไหนมั้ย ตรงท้ายไร่พี่รัชเค้าปลูกกล้วยเพิ่มด้วยนะ” สิตางศุ์ลงมือทานข้าวบ้างก่อนจะถามเมฆาที่นั่งโซ้ยแหลกโดยไม่เกรงใจเจ้าของบ้าน
“อื้อๆ ไอๆ” เมฆาตอบทั้งที่ข้าวยังเต็มไป
“กินก่อนค่อยพูดก็ได้ ไม่มีใครว่าหรอก” รัชพลเอ็ดเล็กน้อย
“เมฆกะจะมาอยู่กับพี่สิตางศุ์ทั้งวันเลยวันนี้ มีเรื่องอยากถามเยอะแยะเลย พี่สิตางศุ์พาเมฆไปไหนไปหมด” เมฆากลืนข้าวลงคอก่อนจะหันไปพูดกับสิตางศุ์อีกรอบ
“ดีเลย ท้ายไร่เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ เห็นพี่รัชบอกว่าเมฆาชอบ เดี๋ยวพี่พาไป”
“เยี่ยม” เมฆายกนิ้วขึ้นแล้วกินข้าวต่อ
“แหม ไอ้เมฆ เจอพี่สิตางศุ์แล้วลืมไอ้พี่รัชเลยนะ” รัชพลแอบเหน็บแนมนั่นสร้างเสียงหัวเราะให้สิตางศุ์อีกระรอก
“พี่รัชน่าจดจำตายแหละ”
แล้ววันนั้นเมฆาก็ตามติดสิตางศุ์แจ สิตางศุ์พาเมฆาไปที่ท้ายไร่ ตอนนี้มีสวนกล้วยที่รัชพลเพิ่งเอามาลงได้ไม่นาน และน้ำตกที่ถูกถางหญ้าออกทำให้ดูไม่รกหูรกตาเหมือนเมื่อก่อน มีชิงช้าเล็กๆสองอันห้อยลงมากับต้นไม้ใหญ่ด้วย
สิตางศุ์บอกว่าทำให้ลูกคนงานแถวนี้เล่น กว่าเมฆาจะกลับก็บ่ายแก่ๆได้ ได้ผลไม้กลับไปอีกถุงใหญ่จนเกือบจะหอบกลับไม่ไหว
สิตางศุ์ดูเหมือนจะชอบน้องหมอเมฆาเข้าแล้ว นอกจากหมอชาญแล้วก็มีแต่เมฆานี่แหละที่พอจะคุยแล้วทำให้หัวเราะได้ ทั้งสองคนเป็นคนกรุงเหมือนกับเขา เวลาคุยกันสิตางศุ์เลยรู้สึกเหมือนได้คุยกับคนบ้านเดียวกัน เมฆาเลยบอกว่าถ้าว่างๆจะมาหาบ่อยๆ สิตางศุ์เองก็บอกว่าถ้าได้เข้าตัวอำเภอก็จะแวะไปหาเมฆาที่โรงพยาบาลเหมือนกัน
เมฆาขับมอเตอร์ไซค์ออกมาจากไร่น้ำรินพร้อมกับของฝากที่ป้าจันยัดใส่ตะกร้าหน้ารถมาให้ แดดร้อนๆของบ่ายแก่ๆไม่ได้ร้อนมาก อาจจะเป็นเพราะวันนี้อากาศค่อนข้างจะดีด้วย ทำให้เมฆาอารมณ์ดีไปด้วย
“เฮ้ยๆ ไอ้เม้ง ระวัง!”
เอี๊ยด!
“เฮ้ย!”
เมฆาตะโกนลั่นก่อนจะหักเลี้ยวลดไปอีกทางเมื่อออกมาถึงหน้าไร่น้ำรินแล้วเจอมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งกำลังพุ่งมาด้วยความเร็วแล้วเบรกกะทันหัน เมฆาเกือบหน้าคะมำดีที่ประคองรถไว้ได้ แต่ก็ตกใจไม่น้อยเลยทีเดียว
“ขอโทษครับคุณ เป็นอะไรมากมั้ยครั้บ” ผู้ชายตัวดำคร้ามแดดและตัวหนากว่าเมฆามาเดินมาหาพร้อมทำหน้าตกใจ
“ไม่เป็นไรครับ พี่จะรีบไปไหนเนี่ย รถผมเกือบล้ม” เมฆาตั้งหลักได้ก็หันมาว่าคู่กรณีที่ยืนทำหน้าตกใจไม่แพ้กัน
“ขอโทษจริงๆครับ พอดีพวกผมรีบ น้องแตงไทยกำลังจะคลอด ว่าจะไปตามหมอ เลยรีบไปหน่อย” ชายคนนั้นละล่ำละลักพูดอย่างเร็ว
“ห๊ะ มีคนกำลังจะคลอดลูกเหรอครับ มีอะไรให้ผมช่วยมั้ย ผมเป็นหมอ” เมฆารีบบอก ด้วยจรรยาบรรณของแพทย์จบใหม่แล้ว การช่วยคนไข้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แม้ว่าไม่ได้อยู่ในเวลางานก็ตามที
“หมอเหรอครับ ดีเลยๆ ไร่อยู่ข้างๆไร่น้ำรินนี่เลย พ่อเลี้ยงกำลังรออยู่เลย” เหมือนชายคนนั้นดูจะดีใจไม่น้อยที่เมฆาบอกว่าตัวเองเป็นหมอ
“ถ้าอย่างนั้นนำทางผมไปเลยครับ” เมฆาบอก ชายคนนั้นพยักหน้าก่อนจะขับมอเตอร์ไซค์นำไป
เมฆาขับตามรถคันนั้นจนมาถึงหน้าทางเข้า ป้ายขนาดใหญ่ที่เขียนว่า ‘ไร่เพียงระพี’ ตั้งเด่นหราอยู่
มอเตอร์ไซค์สองคันขับเข้ามาในไร่เพียงระพีก่อนที่รถคันหน้าจะพาเมฆาเลี้ยวลดไปเรื่อยๆ จนทะลุมาถึงลานกว้างที่มีคอกวัว คอกม้ารวมไปถึงแพะและแกะจำนวนมากอีกด้วย
นั่นทำให้เมฆางงเล็กน้อย คนอะไรจะมาปวดท้องคลอดที่นี่ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ คุณหมอตัวเล็กก็ยังขับตามไปเรื่อยๆ จนมาหยุดที่หน้าคอกวัวซึ่งมีคนงานพากันมุงอยู่
“หลีกทางหน่อยโว้ย หมอมาแล้วๆ” เสียงของเม้งตะโกนลั่น คนงานที่มุงอยู่เลยลีกทางให้
เมฆารีบเดินตามเพราะเป็นห่วงคนไข้ แต่เมื่อเดินเข้าไปก็ไม่เจอใคร มีแต่แม่วัวที่ท้องกำลังช่วยเลียลูกวัวตัวเล็กที่พยายามจะพยุงตัวเองลุก และมีใครซักคนกำลังยืนดูอยู่ไม่ห่าง
“หมอมาแล้วครับพ่อเลี้ยง” ชายผิวเข้มบอกคนที่กำลังคนที่ยืนดูแม่วัวอยู่ เมฆาเดาว่าคงเป็นเจ้านาย แต่เมฆาเริ่มคิดว่ามันแปลกๆ
เดี๋ยวนะ... น้องแตงไทยที่ว่านี่อย่าบอกว่าแม่วัวตัวนี้!
“ไม่มาพรุ่งนี้เลยล่ะไอ้สัสงอก กูทำคลอดเองแล้วเนี่ย” เสียงเข้มตะโกนด่า คนชื่องอกทำหน้าจ๋อยลง
“เดี๋ยวนะๆ ไอ้ที่บอกว่ามีคนกำลังจะคลอดนี่ อย่าบอกนะว่าแม่วัวตัวนี้” เมฆาที่ยืนงงอยู่นานถามขึ้นพร้อมกับชี้ไปที่แม่วัวสีขาวตัวนั้น
“นี่แหละครับน้องแตงไทย ทำไมเหรอครับหมอ” งอกหันมาคุยกับเมฆาหลังจากโดนเจ้านายดุไป เมฆาเมื่อได้ยินดังนั้นก็ยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองอย่างเหนื่อยใจ
“ผมเป็นหมอคนครับ ไม่ใช่สัตวแพทย์ ทำไมไม่บอกก่อนว่าที่จะให้ทำคลอดเป็นวัว ไม่ใช่คน” เมฆาทำละเหี่ยใจ จะบ้าตาย นี่มันอะไรกันเนี่ย
“อ้าว หมอคนเหรอครับ” งอกทำหน้างงๆ แต่ก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อโดนฝ่ามือพาดลงบนหัวดังเพี๊ยะ
“ไอ้สัส กูบอกให้ไปตามหมอธัน นี่มึงไปเอาหมออะไรมา มาก็ช้าจนกูทำคลอดเองแล้วเนี่ย ไอ้ห่านี่ใช้ไม่เคยจะได้เรื่อง ไปๆ รกหูรกตากู” เสียงด่านั้นดังไปทั่วพร้อมกับงอกที่โดนเตะไปหนึ่งที
คนงานอื่นๆพร้อมกับงอกและเม้งแยกย้ายกันไปทำงานโดยทิ้งให้เมฆายืนงงอยู่ตรงนั้นคนเดียว
“เฮ้ยๆ เดี๋ยว แล้วผมล่ะ” เมฆาโวยลั่น แต่บริเวณนั้นก็ไม่มีคนอยู่แล้ว ร่างเล็กจึงวิ่งเข้าไปยืนตัดหน้าคนที่งอกเรียกว่าพ่อเลี้ยง
อะไรกัน พาเขามาแล้วทิ้งไว้เฉยๆเนี่ยนะ ทางเข้ามาก็เลี้ยวลดยังกับเขาวงกต จะออกไปยังได้ล่ะ
“อะไรอีกวะ... เฮ้ย!” เพียงดินตะโกนลั่นเมื่อเจอผู้ชายร่างเล็กมายืนตรงหน้าและพบว่าคนคนนั้นคือคนที่เจอกันเมื่อวานนี้
“ไอ้...” เมฆาเมื่อเห็นหน้าพ่อเลี้ยงอะไรนี่ชัดๆก็ยกมือขึ้นชี้หน้าอย่างลืมตัว
“เหอะ” เพียงดินถอดเสื้อคลุมออกก่อนจะโยนไปพาดที่คอกวัวแล้วเดินมาใกล้เมฆาที่ยืนชี้หน้าเขาอยู่
“ว่าแล้ว ทำไมถึงยอมตามไอ้งอกมาง่ายๆ คนแถวนี้เค้ารู้กันทั้งนั้นว่าน้องแตงไทยเป็นวัว ที่แท้ก็หมอใหม่นี่เอง” เพียงดินยืนกอดอกแล้วมองเมฆาตั้งแต่หัวจรดเท้า นั่นทำให้เมฆาไม่พอใจอย่างมาก
“ถ้าฉันรู้ว่าไอ้น้องแตงไทยอะไรของนายเนี่ยเป็นวัวก็ไม่มาหรอกโว้ย เสียเวลา” เมฆาฮึดฮัดอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อโดนเพียงดินว่าอย่างนั้น
“เสียเวลาแล้วตามมาทำไม แต่เดี๋ยวนะ โรงพยาบาลมันอยู่ในตัวอำเภอไม่ใช่เหรอ แล้วหมอมาทำอะไรบนดอย หรือว่า... มาอ่อยคุณรัชอีกล่ะสิ” เพียงดินว่า
ปกติพวกหมออะไรอยู่ข้างล่างนู่น ไอ้หมอเพื่อนเขาเองก็ยังขึ้นมาบนนี้ไม่บ่อยเลย แล้วไอ้หมอใหม่นี่อยู่ๆจะมานี่ได้ไง ถ้าไม่มาอ่อยคุณรัช
เมื่อวานนี้เป็นวันที่เพียงดินเพิ่งกลับจากการไปคุยธุรกิจที่กรุงเทพฯ บังเอิญนั่งข้างๆไอ้หมอเตี้ยนี้กลับมา ทะเลาะกันบนเครื่องนิดหน่อย แล้วดันมาเจอกันตอนจะกลับด้วย เห็นไอ้หมอนี่กำลังอ่อยคุณรัชพล เจ้าของไร่ข้างๆทั้งๆที่แฟนเค้าก็ยืนอยู่ข้างๆแท้ๆ แล้ววันนี้ก็ยังลงทุนขึ้นมาถึงนี่อีก เขานับถือความพยายามจริงๆ
รู้ทั้งรู้ว่ารัชพลมีคนรักอยู่แล้ว ยังจะตื้อไม่เลิก เขาไม่ยอมแน่หากใครจะมาทำให้คุณรัชพลกับคุณสิตางศุ์ต้องทะเลาะกัน กว่าสองคนนั้นจะรักกันได้แทบตาย เขาเองยังเคยช่วยทั้งสองคนตอนไร่น้ำรินเกิดเรื่องอยู่เลย
อยู่ๆไอ้หมอใหม่นี่จะมาสร้างความร้าวฉานให้ทั้งคู่ มันไม่ถูกต้อง!
***********************************************************************************
จ๊ะเอ๋! เรื่องใหม่มาแล้ว เรื่องที่สามและเรื่องสุดท้ายของนิยายชุดนี้ น้องเมฆและเพียงดินมาแล้วจ้า ตอนแรกมาก็ได้เรื่องกันแล้ว เรื่องนี้ค่อนข้างจะแฮปปี้ ดราม่าหนักๆอย่างสองเรื่องก่อนไม่น่าจะมี(นั่นเรียกว่าดราม่าหนักเหรอ) หมอเมฆตัวป่วนเจอเพียงดินแล้ว คิกๆ
เรื่องนี้ตัวละครเป็นเจ้าของไร่และมีฟาร์มอยู่ข้างในด้วย เราไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับฟาร์มหรือไร่มากเท่าไหร่ แต่ก็จะพยายามหาข้อมูลอย่างเต็มที่ รวมทั้งอาชีพหมอของหมอเมฆด้วยนะคะ เราไม่เองก็ไม่ค่อยแม่นแต่ก็จะพยายามศึกษาเช่นเดียวกัน ใครมีอะไรอยากเพิ่มเติมข้อมูลหรือติติงเนื้อเรื่องที่บางทีมันอาจจะแปลกๆไปสามารถบอกเราได้นะ เราเองก็อยากจะให้นิยายออกมาสมบูรณ์ที่สุด
เรื่องนี้ช่วงแรกๆอาจจะไม่ได้อัพบ่อยหรืออัพทุกวันเหมือนสองเรื่องแรกนะคะ
ใครยังไม่ได้อ่านสองเรื่องแรกสามารถไปอ่านได้นะคะ เรื่องภมรอ้อนตะวัน ของพี่ตะวันกับน้องริน เรื่องพระจันทร์ล้อนที ของรัชพลกับสิตางศุ์ สองเรื่องนี้จบแล้วค่ะ อยากอ่านตอนเจอกันครั้งแรกของเพียงดินกับเมฆาสามารถไปอ่านได้ที่ตอนพิเศษของเรื่องพระจันทร์ล้อนทีนะคะ สามเรื่องนี้จะต่อกันหมดเลย
เอาล่ะ บ่นมาเยอะละเนอะ ไปดีกว่า ขอบคุณคนอ่านคนเก่าๆที่ยังรอเรื่องของน้องเมฆนะคะ ตอนนี้มาแล้ว และยินดีต้อนรับคนอ่านหน้าใหม่ๆค่ะ ถ้าเผลอกดแวะเข้ามาในนิยายเรื่องนี้แล้วก็ขอฝากน้องเมฆด้วยนะคะ น้องอาจป่วนไปหน่อย แต่น้องก็น่ารัก
หากใครอยากติดตามการอัพเดตนิยายและข้อมูลข่าวสารของเราทั้งหมด สามารถเข้าไปกดไลค์แฟนเพจของเราได้ค่ะ จะแจ้งเรื่องอัพเดตนิยายและเรื่องหนังสือของเรา เพจอาจจะร้างหน่อยนะคะ แต่อัพตลอดหากเราอัพนิยายค่ะ คนเขียนเล่นเฟสไม่เก่ง(?) ฮ่าๆ ไม่รู้จะอัพอะไร ว่างๆแวะมาทักทายและพูดคุยได้นะคะ
นี่แฟนเพจเราเองค่ะ
https://www.facebook.com/Speirmint28-213061652381782/ไปจริงๆแล้ว ทำไมเราบ่นเยอะ
SPEIRMINT28.