ตอนที่ 3 ♥ 1 : แมวกับหมา“นี่ครับกาแฟกับแซนวิช” ผมส่งของตามออเดอร์ให้กับคุณชายหมอในเช้าวันรุ่งขึ้นตามที่นัดกันไว้
“อย่าลืมหักเงิน”
“พูดว่าขอบคุณแทนดีไหมครับหรือไม่ก็ขอบใจก็ได้” ผมทวงคำที่ควรจะได้ยิน ไอ้เรื่องหักเงินไม่จำเป็นต้องบอก
เพราะผมหักแน่ๆ อยู่แล้ว
“............”
“ขอบใจ”
“งั้นผมกลับก่อนครับ” ผมลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นคุณชายหมอเริ่มแกะแซนวิชทาน
“เดี๋ยว นั่งลง” ผมนึกว่าคุณชายหมอมีอะไรอยากคุยกับผมเพิ่มจึงลงนั่งอีกครั้ง อยู่นานอีกนิดก็ดี ผมจะได้มองหน้า
คุณชายหมอให้นานขึ้นอีกสักหน่อย
“..............”
ผมนั่งเกือบห้านาทีแล้วยังไม่เห็นคุณชายพูดอะไร เอาแต่ทานแซนวิชในมือกับอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเล่มโตไปเงียบๆ
“หมอวินครับ”
“อะไร” คุณชายหมอถามโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามองผม
“เหงาเหรอครับ”
มือที่กำลังเปิดหนังสืออ่านชะงัก นัยน์ตาสีดำขลับเงยขึ้นมาจ้องตาผม
“วันนี้เลิกเรียนกี่โมง” คุณชายหมอไม่ยอมตอบคำถามผม แต่เปลื่อนเป็นผู้ถามเสียเอง
“บ่ายสามครับ”
“ต้องรีบกลับวัดหรือเปล่า”
“อืม วันนี้ไม่มีอะไรครับ ไม่กลับทันทีก็ได้ อ๊ะ..” พอพูดถึงวัดผมเพิ่งนึกอะไรได้เกือบลืมซะแล้ว
ผมรีบเปิดกระเป๋าหยิบสิ่งที่เตรียมไว้ออกมายื่นให้กับคุณชายหมอ
“นี่ครับ”
“อะไร” คุณชายหมอมองซองจดหมายที่อยู่ในมือ ดูท่าทางจะงงไม่น้อยว่าผมยื่นให้ทำไม
“ค่าแซนวิชไงครับ ปกติหมอวินทานแบบนิ้ชิ้นละเท่าไหร่ครับ” ผมถามถึงราคาของแซนวิชที่อยู่ในมือหมอวิน
“สัก 40-80 มั้ง ซื้อมาเท่าไหร่” หมอวินถามผมกลับ แต่ผมยังไม่หมดคำถาม
“เอาเป๊ะๆ ได้ไหมครับ ว่ารสชาติประมาณนี้ ปริมาณเท่านี้เคยซื้อเท่าไหร่”
“จะอะไรนักหนา ถูกแพงช่างมัน ซื้อตรงไหนสะดวกก็เอาเถอะ ไม่ต้องเทียบราคา”
“ตอบผมเถอะนะครับ นะครับ” ผมทำเสียงอ้อนสุดชีวิตแบบที่ผู้ชายหน้าตาบ้านๆ อย่างผมจะทำได้
“50”
“โอเค” ผมเปิดกระเป๋าตังค์ โชคดีที่มีแบงค์ห้าสิบอยู่พอดี ผมหยิบซองที่อยู่ในมือหมอวินคืน ก่อนใส่เงินลงไป
“สาธุด้วยครับ”
“หือ?”
“ก็เอาขึ้นจรดหัวแล้วพูดว่าสาธุ แบบนี้ครับ” ผมยกซองขึ้นแตะหน้าผากก่อนพูดคำว่าสาธุออกมาดังๆ
“ทำไมต้องทำ”
“ก็แซนวิชที่หมอวินทานผมเอามาจากที่วัดครับ ตอนเช้าคุณป้าคนหนึ่งชอบทำมาถวาย ผมเห็นหมอวินอยากทาน
เลยแบ่งมาให้ แต่คิดว่าทำบุญสักหน่อยก็คงดี ได้ทั้งบุญได้ทิ้งอิ่ม”
แค่ก แค่ก แค่ก เสียงหมอวินสำลัก จนผมต้องรีบเข้าไปช่วยตบหลังให้ เป็นหมออะไรไม่ดูแลตัวเลยวุ้ย กินยังไงให้สำลัก
“ของถวายพระ” คุณหมอแค่สำลักนิดเดียวทำไมหน้าเขียวก็ไม่รู้
“ครับ แต่หมอวินไม่ต้องตกใจนะครับ ไม่บาป” ผมเพิ่งคิดได้ว่าสงสัยหมอวินจะกลัวบาปที่แย่งของพระกิน
“ผมขอหลวงลุงแล้วท่านแบ่งให้ครับ ท่านฉันไม่หมดหรอก คุณป้าทำมาถวายเยอะ”
“หมานิว!!”
“สาธุ” ผมรีบยกซองจรดหัวให้เสียเอง ท่าทางคุณชายหมอจะอารมณ์ไม่ค่อยดี
“เรียบร้อย” ผมเก็บซองเข้ากระเป๋า เดี๋ยวกลับวัดต้องรีบเอาไปหยอดกล่องบริจาค
“ตกลงหมอวินจะให้ผมทำอะไรครับ เห็นถามเรื่องเลิกเรียน”
หมอวินไม่ตอบคำถามผมทันที โยนแซนวิชทิ้งลงไปในถุงก่อนหยิบกาแฟขึ้นมาดื่ม
“วันนี้ฉันต้องอ่านหนังสือยาว ไปทำอาหารให้หน่อย”
“............”
ผมไม่ได้จะปฏิเสธแต่กำลังคิดว่าจากคอนโดหมอวินผมจะกลับยังไงเพราะคราวที่แล้วพี่ลมไปส่ง
“ได้ไหม?” ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเองว่าหมอวินจะถามผมก่อน เสียงที่เคยเรียบเย็นอ่อนโยนลงเล็กน้อย
“ได้ครับ” ผมเล่นตัวกับใครเขาไม่เป็นหรอก ว่างไปอยากไปก็บอกไปตรงๆ
“งั้นผมกลับไปเรียนก่อน เลิกแล้วผมโทรหาครับ” ผมหยิบกระเป๋าขึ้นสะพาย โบกมือให้คุณชายหมอหนึ่งที ก่อนเริ่มออกเดิน
ในหัวเริ่มประมวลผลภาพของในตู้เย็นของคุณชายหมอว่าจะทำอะไรให้ทานได้บ้าง
“ขอบใจ” แม้จะเบามาก แต่ผมก็ได้ยิน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ไงมึงคุณชายหมอของหมาวันนี้อารมณ์ดีไหม” คุณพู่ทักผมได้สุภาพเหมือนทุกวันที่ผ่านมา
“ผมว่าดีนะครับ” ก็ประโยคเพราะๆ ที่ผมได้ยิน ต้องถือว่าดีสิใช่ไหม
“กูไปคิดๆ ดูแล้วนะมหา มึงไม่ต้องทำเพื่อกูหรอก หมอมันใช้อะไรก็ไม่ต้องไปทำ บอกป๊าก็บอกช่างแม่งเถอะ
กูไม่อยากเอาเปรียบมึง” คุณพู่คงไม่สบายใจถึงกลับมาบอกผมแบบนี้
“ไม่เป็นไรครับคุณพู่ ผมชอบอยู่กับคุณชายหมอ”
“ชอบเหรอ!! แต่คุณชายหมอไม่ใช่อย่างที่มึงคิดเลยนะ”
“ครับไม่เหมือน ผมว่าแบบนี้น่ารักดีออก”
“น่ารัก!! ใช้คำอะไรของมึงมหา คุณชายหมอเนี่ยนะน่ารัก มึงจะชมว่าหล่อ ว่าเท่ห์ว่าเลวก็ได้ แต่ชมว่าน่ารักกูขอ”
คุณพู่ทำราวกับผมพูดเรื่องสยองขวัญอยู่ ดูขนคอลุกชัน
“ผมพูดจริงนะครับคุณพู่หมอวินน่ารัก เหมือนแมวเลย ไม่เชื่อใจใครง่ายๆ เข้าใกล้ก็ตะปบ พอไม่เล่นด้วยก็เข้ามาคลอแคลีย”
“มหามึงไม่สบายหรือเปล่า” คุณพู่วางมือลงบนหน้าผากของผมพยายามจะวัดอุณหภูมิว่าผมไม่สบายหรือเพี้ยนไปแล้ว
“อย่าเผลอไปพูดแบบนี้ให้หมอวินหรือกลุ่มองครักษ์พิทักษ์คุณชายหรือคุณชายFC ได้ยินเข้านะมึง เละยิ่งกว่าโจ๊ก
เอาของสูงมาพูดซะดูไม่ได้”
“ฮ่าๆ ผมพูดกับคุณพู่คนเดียว”
“เฮ้อ ตามใจแล้วกัน มีความสุขก็ทำไป ได้ยินอย่างนี้แล้วก็โล่งอกหน่อย ขออย่างเดียวระวังดีๆ เกิดแมวของมึงกลายเป็น
เสือขึ้นมา กระดูกก็จะไม่เหลือ”
“กระดูกผมไม่อร่อยหรอกครับคุณพู่ เนื้อก็คงไม่อร่อยเหมือนกันผอมขนาดนี้”
“หึหึ ดูกันไปเดี๋ยวก็รู้”
“แต่ที่แน่ๆ เย็นนี้คุณชายหมอจะทานผัดพริกสดกุ้งกับต้มจืดเต้าหู้หมูสับครับ ไม่ใช่กระดูกหมาแน่นอน”
“ย่ะ พ่อมหา พ่อครัวเอก พ่อลูกหมาของคุณชายหมอ” คุณพู่สะบัดเสียงใส่ผมด้วยความหมั่นไส้
ผมเข้าใจที่คุณพู่เป็นห่วงครับ แต่ก็มั่นใจว่าถ้าคุณชายหมอเป็นเสือคงไม่เลือกขย้ำผม โธ่ดีๆ กว่าผมมีตั้งเยอะ
จะมากินกุ้งแห้งให้เสียเวลาทำไม ในเมื่อเนื้อนมไข่มีให้เลือกอยู่เต็มฟาร์ม
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
**พรุ่งนี้มาต่อครึ่งหลังให้นะคะ วันนี้อารมณ์คนเขียนไม่ได้จริงๆ ขออภัยด้วยค่ะ^^
**เรื่องนี้ไม่ใช่พัฒนาการของมหาแต่เป็นเรืองพัฒนาการของคุณชายหมอค่ะ (โดยเฉพาะนิสัยและอารมณ์)
**ขอบคุณคุณ ❣☾月亮☽❣“นะคะ ผู้เปรียบเทียบคุณชายหมอเป็นแมว ขโมยไอเดียวกันซึ่งๆ หน้าเลย^^ ขอบคุณค่า
Darin ♥ FANPAGE