ตอนที่ 38 [ปั้น ♥ ริว 5]-กำปั้น-
ผมกำลังคิดว่ารถจะชนไหม
ก็ไอ้ตัวดีมันไม่เป็นอันขับรถ เดี๋ยวมองถนนเดี๋ยวหันมามองผม ตาก็แดงไปหมด ผมบอกจะขับเองก็ไม่ยอม
บอกว่าไม่เป็นไรก็เอาแต่จะร้องไห้ แผลแค่นี้สำหรับผมถือว่าสบายๆ เจ็บนิดหน่อยแต่ทนไหว
“ริว ขับดีๆ”
“หมีเจ็บเหรอ เจ็บตรงไหน” ทีนี้เลยไปกันใหญ่ มือเอื้อมมาจับแขนผม พอรถขึ้นลูกระนาดก็ยื่นแขนมาบัง
ทำอย่างกับผมเป็นเด็กสิบขวบ ขำมันก็ขำ แต่ข้างในมันก็ปนไปด้วยความรู้สึกอื่นที่ผมบอกไม่ถูกเหมือนกัน
“ร้องไห้ทำไมแผลแค่นี้ใครเขาตายกัน”
“ห้ามพูดคำว่าตาย” ไอ้ตัวดีตวาดแว้ด
“แรดใจเย็นๆ นี่มันไกลหัวใจ กระสุนแค่ถากๆ เหมือนแผลโดนกิ่งไม้เกี่ยวเข้าใจไหม”
“ไม่ต้องมาหลอก เลือดออกขนาดนั้นไม่เป็นไรได้ไง” ดูมันเถียง หลับหูหลับตาเถียงไม่มองสักนิดว่าผมนั่งสบายๆ
แผลปุ่นก็พันผ้ามาให้อย่างดี ป่านนี้เลือดหยุดแล้วด้วยมั้ง
“ถามจริง กลัวอะไรนักหนา” ผมหันไปมองหน้ามัน คำถามไม่เชิงจริงจังแต่ก็อยากรู้
“ไม่รู้ก็ช่าง” มาอีกแล้วคำตอบแบบนี้ ตกลงมันจะให้ผมถามเอง คิดเอง ตอบเองหมดเลยหรือไง
ถ้ารู้ใครจะถามวะ ไม่เข้าใจมันเลย
เจ้าหน้าที่พาผมเข้าห้องฉุกเฉิน แพทย์มาดูแผลให้ เสร็จแล้วก็เรียกพยาบาลมาทำแผล เรียบร้อยก็ฉีดยาให้หนึ่งเข็ม
เป็นอันจบ
“เชิญที่เคาน์เตอร์รับยาด้านนอกได้เลยค่ะ”
“ครับ” ผมตอบพยาบาลก่อนลุกขึ้นจากเตียง
“ไม่ได้นะ” เสียงไอ้ตัวดีหวีดจนพยาบาลสะดุ้งโหยง
“ทำไมไม่ให้แอดมิท ถ้าคืนนี้หมีเป็นอะไรใครจะรับผิดชอบ จับๆ อย่างกับเสียไม่ได้เอ็กซเรย์สักนิดก็ไม่ทำ
ทำไมโรงพยาบาลชุ่ย..”
ผมตะครุบปากมันไว้แทบไม่ทัน ไอ้ตัวดีดิ้นกุกกัก พยายามเอามือง้างมือผมออก
“ขอโทษนะครับ เด็กกำลังตกใจ” ผมรีบขอโทษพยาบาลที่ยืนอยู่
“ไม่เป็นไรค่ะ คงเป็นห่วงพี่ชายมาก”
“ไม่ใช่พี่..อุ๊บ..” ผมรีบปิดปากซ้ำ ปล่อยไม่ได้เลย
“ผมออกไปเลยนะครับ” ผมก้มหัวให้พยาบาลนิดนึงก่อนลากริวติดมือออกมา
“ไหนว่าจะเป็นเด็กดี”
“ริวไม่ดีตรงไหนก็ที่นี่มันห่วย”
“ริว โตแล้วนะ พูดอะไรก็ต้องคิด ไม่ใช่นึกอยากจะพูดอะไรก็พูด คำพูดมีตั้งมากมายริวต้องรู้จักเลือกใช้สิ
อยากได้อะไรก็ต้องพูดกับคนอื่นดีๆ ไม่ต้องแอดมิทหรือครับ ทำไมไม่ต้องแอดมิทครับ แบบนี้พูดเป็นไหม”
ริวก้มหน้าไม่ยอมเงยขึ้นมาสบตาผม
“ริว”
“ขอโทษ”
ผมเผลอยิ้มออกมา เดี๋ยวนี้รู้จักขอโทษเองแล้ว ไม่ต้องให้บอกให้บังคับ
“ไม่เป็นไร” ผมยกมือข้างที่แขนไม่เจ็บขึ้นลูบผมริวเบาๆ เอ็นดูมัน
“ขอบใจนะ”
“หือ?” ริวเงยหน้าขึ้นมองผมเหมือนอยากถามว่าผมขอบใจอะไร
“ขอบใจที่เป็นห่วงพี่”
หน้าเรียวเล็กค่อยๆ ขึ้นสีจนแก้มแดงเรื่อ ริวหลบสายตาผม เด็กอวดดีหายไปเลย
“เขาเรียกแล้ว” ผมจะลุกขึ้นแต่ริวรีบห้ามเอาไว้ ก่อนเดินไปจัดการให้ผมจนเรียบร้อย
“กลับกัน” ริวก้มลงมาช่วยพยุงผมให้ยืนขึ้น เอามือข้างที่ไม่เจ็บพาดบ่าเล็ก ประคองผมเดิน
ผมอยากจะบอกว่าผมปวดต้นแขน ไม่ได้ปวดขา และไม่ได้เป็นมากถึงกับต้องมีคนช่วยพยุงเดิน
แต่เห็นความพยายามมันแล้วไม่อยากห้าม เลยยอมให้มันทำแต่โดยดี
ผมแกล้งทิ้งน้ำหนักลงไปยังร่างเล็ก ริวเซเล็กน้อย แต่ไม่บ่น กลับกระชับมือที่เอวผมมากขึ้น
พยายามออกแรงช่วยผมเต็มที่ มันเป็นเด็กนิสัยเสียที่โครตน่ารัก
“ริวเรียกแท็กซี่ให้พี่ก็พอ ไม่ต้องไปส่ง ดึกแล้วขับรถคนเดียวอันตราย” เป็นผู้ชายคนอื่นผมคงไม่ห่วง
แต่เห็นหุ่นกับหน้าตามันแล้วนึกกลัวขึ้นมา
“ไม่เอา ริวจะไปส่ง จะดูหมีกินยาก่อน”
“ทำไมดื้อแบบนี้หะ เชื่อไม่ได้เลย บอกจะไม่ดื้อยังไม่ครบวันดื้อไปกี่ครั้งแล้ว”
“ขออีกครั้งเดียว ให้ไปส่งนะ นะหมี”
“ตามใจ” แล้วผมก็แพ้มันอีกจนได้
“หมี นอนพักก่อนเสียเลือดตั้งเยอะ เดี๋ยวถึงแล้วจะปลุก” ริวเอื้อมมากดเบาะผมให้เอนลง
ตัวจุ้นมันจุ้นไปหมดวันนี้ นิดๆ หน่อยๆ ก็ไม่เว้น
“ขับดีๆ ล่ะ ห้ามเร็ว ห้ามชน”
“รู้แล้วน่า”
“แล้วทำไมเอาแต่เรียก หมีๆ หะ บอกว่าให้เรียกพี่ปั้น ไอ้เด็กสอนไม่รู้จักจำ”
“ไม่ชอบ ริวก็ไม่ได้เรียกหมียักษ์นี่ เรียกดีๆตามที่บอกแล้ว หมีเฉยๆ นี่แหล่ะเหมาะ”
“หมีของเขา” ไอ้ตัวดีพูดเองหน้าแดงเอง รีบกลบเกลื่อนหันไปสตาร์ทรถ
เวลามันทำตัวน่ารักแบบนี้ ก็อดเอ็นดูมันไม่ได้ เหมือนมีแมวมาคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ
“แรด” ผมเรียกมันออกไป
“บอกว่าไม่เอาแรด” พอโมโหหน้าเปลี่ยนทันทีจากเขินๆ แก้มแดง เป็นหน้าบูดปากยื่น อยากเอามือไปดึงให้มันยืดออกมาจริงๆ
“นี่ก็เหมาะแล้ว เหมาะมาก” ผมพูดยานคาง ลากเสียงยาวล้อมัน
“ไอ้หมียักษ์”
หึๆ ดีได้แป๊บเดียวสิน่า แต่อย่างนี้สิมีสีสันดี เปรี้ยวสมกับเป็นมัน
แรดของผม
“หมีตื่นถึงแล้ว” มือที่เขย่าแขนเบาๆ ทำให้ผมผงกหัวขึ้น บิดขี้เกียจนิดหน่อยแก้อาการปวดเมื่อย
“หือ?” ผมมองไปรอบๆ ตัว มันเป็นลานจอดรถ มีรถจอดอยู่เต็มไปหมด
“ที่ไหน” ผมหันไปมองไอ้ตัวดี มันเอามือม้วนๆ เสื้อตัวเอง ไม่ยอมสบตา
“คอนโดริวกับพี่เรย์ พ่อซื้อให้เอาไว้วันไหนเรียนเยอะไม่สะดวกกลับบ้าน”
“แล้วมาทำไม” ผมจ้องหน้ามันเขม็ง
“ก็หมีหลับ เราไปบ้านหมีไม่ถูกนี่”
ผมถอนใจยาว แค่นี้ทำไมผมจะไม่รู้ทันความคิดมัน
“หลับก็ปลุกได้ พี่ไม่ใช่คนขี้เซาแค่เรียกก็ตื่นแล้ว”
“ไม่กลับบ้านพ่อแม่จะว่าไง”
“เมื่อกี้ริวโทรบอกพี่เรย์แล้วว่าจะค้างที่คอนโด”
“ริว”
“ริวอยากดูแลกลัวคืนนี้เกิดหมีเป็นไข้จะทำยังไง”
“บ้านพี่มีแม่บ้าน สนิมก็อยู่”
“....”
“รู้แล้ว ริวกลับไปส่งเดี๋ยวนี้แหล่ะ” ตาแดงอีกแล้ว ให้มันได้อย่างนี้สิน่า
ผมถอดเข็มขัดเปิดประตูออกไป
“ไม่ลงเหรอ หรือจะนอนในรถ” ไอ้เด็กร้อยอารมณ์กระดี๊กระด๊าทันที หน้ามันเปลี่ยนทุกห้านาทีไม่มีซ้ำ
เฮ้อ ผมจะแก่เกินรับมือกับมันไหม
“แรด พอแล้วมานอนนี่” ผมตบลงข้างตัว ริววุ่นวายสารพัดตั้งแต่ผมขึ้นมาถึง
อาบน้ำให้ ระวังไม่ให้แผลโดนน้ำ มันอายจนมือสั่นแต่ก็ทำให้ผมจนเสร็จ
เอาเสื้อผ้าผมลงเครื่อง ซึ่งผมไม่คิดว่ามันเคยทำมาก่อน ดูจากท่าทางลังเลในการใส่ผงซักฟอกของมัน
เอาน้ำผลไม้มาให้ดื่ม เอายามาให้ทาน จัดผ้าห่ม ปรับแอร์ มันทำอะไรของมันเยอะแยะไปหมด ทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรต้องทำสักนิด
“แป๊บนึง”
“ไม่ต้องแล้วมานี่เร็ว”
ริวกำลังรื้อตู้เสื้อผ้าเพื่อหาอะไรที่ผมพอใส่ได้ แต่ผมคิดว่าคงไม่มี นอนเปลือยๆ แบบนี้สำหรับผมไม่ใช่ปัญหาสักนิด
“ไม่เอา เดี๋ยวดึกๆ หนาว หมีจะเป็นไข้”
“กล้วก็มานอนกอดจะได้หายหนาว”
“ตุ๊บ” อะไรสักอย่างหล่นจากมือริวร่วงลงสู่พื้น
“มาเร็ว” ผมเร่งคนตัวเล็ก ที่ค่อยๆ ปิดตู้ เดินอย่างกับภาพสโลว์ ทีอย่างนี้ทำเป็นเขิน ลักพาตัวผู้ชายมาบ้านยังทำได้เลย
ผมดึงคนที่เดินช้าจนขัดใจขึ้นมาบนเตียง ก่อนจัดท่านอนให้เข้าที่
“อุ่นไหม”
“อืม” ริวพยักหน้าชิดอกผม
“ริว”
“.....”
“เรียกแล้วทำไมไม่พูด”
“ริวชอบผู้ชายใช่ไหม” ไอ้ตัวดีรีบเงยหน้าขึ้นมามองผม ตามันลุกโต
“ถาม..ถามทำไม”
“ตอบมาเถอะ” ผมลูบไหล่มันเบาๆ ริวดูผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย
“อืม”
“รู้ตัวนานหรือยัง”
“นานแล้ว ตั้งแต่เด็กๆ”
“ที่บ้านรู้ไหม”
“รู้”
“งั้นหรือ” ผมขมวดคิ้ว คิดบางอย่างอยู่ในหัว
“ริวชอบพี่ใช่ไหม”
“ตอบได้เหรอ” ริวย้อนถามผมเหมือนไม่แน่ใจ ไม่ใช่ไม่แน่ใจในตัวเอง แต่คงไม่แน่ใจผมมากกว่า
“ได้สิ”
“ชอบ ชอบหมี รักเลยแหล่ะ”
“ริวเพิ่ง19เองนะ ยังเจอใครอีกเยอะ รู้หรือเปล่าว่าพี่อายุเท่าไหร่”
“รู้”
“อีกนิดพี่ก็เป็นพ่อเราได้แล้ว อยู่กับพี่มันไม่สนุกเหมือนอยู่กับเพื่อนกับคนรุ่นเดียวกัน
อีกหน่อยริวจะคิดได้แล้วเบื่อไปเอง”
“ทำไมเอาแต่ไล่เพราะหมีไม่ชอบเราใช่ไหม ทำยังไงถึงจะชอบ เราต้องเกิดใหม่เป็นผู้หญิงเหรอ”
“ไปกันใหญ่แล้วริว ใจเย็นๆ คุยกันดีๆ” ผมกดริวเอาไว้กับอกไม่ให้ขยับไปไหน
“พี่ไม่ได้บอกว่าไม่ชอบ แต่พี่ต้องคิดหลายอย่าง หนึ่งอายุเราต่างกันมาก สองริวถูกเลี้ยงมาอย่างลูกคุณหนู
แต่บ้านพี่ไม่ใช่ สามฐานะพี่เทียบบ้านริวไม่ได้เลย สี่พ่อพี่จะคิดยังไงปุ่นก็คนนึงแล้ว”
ผมตัดสินใจพูดในสิ่งที่คิดอยู่ในหัวออกไปทั้งหมด ให้ริวได้รับรู้
“หมายความว่าหมีจะทิ้งเขาเหรอ”
ริวปากสั่น น้ำตาหยดลงมาอย่างรวดเร็ว ผมต้องรีบยกมือขึ้นเช็ดออกให้
“อย่าร้อง พี่ไม่ได้บอกว่าจะทิ้งริวเลยนะ ไม่มีทางทิ้ง นอกเสียจากริวจะไปเอง
พี่แค่ต้องคิดทุกอย่างให้รอบคอบ พี่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะมาเอาเปรียบริวไม่ได้”
“ไม่ทิ้งจริงๆ นะ”
“ไม่ทิ้ง” ผมกดปากลงบนกระหม่อมของเด็กน้อยหลงทาง อยากให้มันเชื่อว่าผมจะไม่ไปไหน
“ริว”
“ครับ” ผมจูบลงไปบนแก้มหอมๆ ให้รางวัลที่มันพูดเพราะ
“จนกว่าริวจะจบ ใช้เวลาตรงนี้ทำความเข้าใจตัวเองว่าริวรักพี่จริงหรือเปล่า อยากอยู่กับพี่จริงหรือเปล่า
ถ้าถึงตอนนั้น ริวยังไม่เปลี่ยนใจ เรา...”
“เรามาคบกัน”
ผมไม่คิดว่าคำพูดประโยคสุดท้ายมันจะเข้ามาในหัว แต่มันก็มาและผมก็พูดออกไปแล้ว
ออกจากใจจริงๆ ไม่ใช่แค่พูดเอาใจริว
“ไม่เอา อีกตั้งหลายปี เดี๋ยวใครมาแย่งหมีไป”
“เด็กน้อย ไม่เข้าใจเลยสินะ” ผมอยากอธิบายต่อแต่ปากยื่นๆ เอาแต่ใจก็ล่อหูล่อตาเหลือเกิน
จนต้องจัดการลงไปสักนิดก่อนจะพูดต่อ
“พี่ไม่ได้บอกว่าตอนนี้ต้องเป็นพี่น้องกันเสียหน่อย เรียกว่าช่วงเวลาดูใจดีไหม พี่เองก็คงต้องปรับหลายอย่าง
ต้องทำตัวให้เคยชินกับอะไรที่ไม่เคยคิดมาก่อน เราจะศึกษาเรียนรู้ไปด้วยกัน ระหว่างนี้พี่สัญญาว่าจะไม่มีใคร
ไม่มองใครนอกจากริว โอเคไหม”
“มีริวคนเดียวจริงๆ นะ”
“ครับ”
“งั้นก็ได้ หมีก็ดูของหมีไป ริวดูเสร็จแล้ว” พูดจบมันก็ขโมยหอมแก้มผมซ้ายขวา เอื้อมมือไปปิดไฟ
ก่อนกลับมาซุกเข้าอกผมนอน ท่าทางสบายใจราวกับได้สิ่งที่ต้องการแล้ว
ดูไอ้ตัวดีมันครับ พูดตั้งนานนึกว่ามันจะรู้เรื่อง สุดท้ายก็จบแบบเดิม เอาแต่ใจจริงๆ
ก็คงมีแต่ผมล่ะมั้ง ถึงจะเอามันอยู่
เรย์เคยถามยกมันให้ผมแล้วนี่ กลับไปตอบรับตอนนี้จะทันไหม
“เอา พี่เลี้ยงเอง”
...........................................................................................
ในขณะเดียวกัน...
“ปุ่น” คุณวีร์มองผมตาค้าง
ผมชิงอาบน้ำก่อนทันทีที่ถึงบ้าน พอคุณวีร์อาบบ้างผมก็ใช้เวลาช่วงนี้ไปรื้อค้นในห้องแต่งตัวคุณวีร์จนได้สิ่งนี้มา
มันคือเสื้อเชิ้ตสีขาวเนื้อบาง (รื้อทั้งตู้แล้วตัวนี้ถือว่าบางสุด)
ผมเห็นในการ์ตูนกับในหนังเขาชอบทำกัน นางเอกใส่เสื้อเชิ้ตของพระเอกตัวเดียวไม่ใส่อย่างอื่น
ผมทำตามทุกอย่าง ปลดกระดุมสองเม็ดบนออกด้วย รับรองว่าเร้าใจสุดๆ
คุณวีร์ยืนนิ่งมองผมไม่ยอมก้าวเข้ามา ผมเลยคุกเข่าคลานไปหาทางปลายเตียง ค่อยๆ ขยับซ้ายขวา
แกว่งก้นไปมา นี่เบียร์สองกระป๋องบอกเลย
“ปุ่น”
“ครับ” ผมหยุด ช้อนตาขึ้นมอง แอ่นตัวไปข้างหน้า แบบนี้เลยผมจำได้ถึงจะได้ศึกษาแค่แป๊บๆ วันนั้นก็เถอะ
“ปุ่น”
“ครับ” ผมเปลี่ยนมานั่งลงกับเตียง ชันแขนกันล้ม ตัวเอนไปข้างๆ ทำตาปรือๆ
“หึๆ...."
"ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“หมูทำอะไร”
หมู!!”
“ไอ้คุณรองประธานเรียกพี่ปุ่นสุดเซ็กซี่ว่า หมู!!
หน้า(ที่พยายาม)ยั่ว เปลี่ยนเป็นหน้าตึง ก่อนปากผมจะค่อยๆ ยื่นออกมาแทน
อายนะเว้ยไม่ใช่ว่าไม่อาย นี่พลีชีพขั้นสุดแล้วนะ แล้วดูผลตอบรับที่ได้
คุณรองประธานท่านหัวเราะจนผ้าเช็ดผมหล่นไปอยู่ที่พื้น มือก็แตะท้องเอาไว้เพราะหัวเราะจนเกร็ง
“คุณวีร์” ผมปาหมอนเข้าใส่ ถ้ามีอะไรหนักๆ กว่านี้อยู่ใกล้มือก็คงปาไปแล้ว
“โอ๊ยปุ่น ทำอะไรเนี่ย พี่ปวดท้องไม่ไหวแล้ว” ดูนะครับหัวเราะอย่างเดียวไม่พอต้องพูดเย้ยหยันกันด้วย
ผมโมโหไม่รู้จะทำยังไง ล้มตัวลงนอนหันหลังให้ อย่ามายุ่งกับพี่ปุ่นนะเว้ย โดนเตะก้านคอสลบแน่คอยดู
เสียงหัวเราะเงียบไปแล้ว ผมได้ยินเสียงคุณวีร์เดินไปเดินมา สักพักไฟกลางห้องก็ปิดลงเหลือแต่โคมไฟหัวเตียง
“ปุ่น” มือเย็นๆ ที่เพิ่งผ่านการอาบน้ำเอื้อมมาแตะที่แขน ผมสะบัดออก แถมเตะเท้าไปข้างหลังสองสามที
กางกั้นอาณาเขตไว้ไม่ให้เข้าใกล้
“อืมมม” เสียงครางเบาๆ ในลำคอ ทำเอาผมอยากหันกลับไปมองว่าคุณรองประธานกำลังทำอะไรอยู่
“ยั่วพี่เหรอครับ” เสียงกระเส่าที่กระซิบอยู่ข้างหู ทำให้ผมสับสนเล็กน้อย หือ!! ทำไมมันเพิ่งมาได้ผลฟระ
พอมือเย็นๆ แตะลงมากลางหลังเท่านั้นแหล่ะพี่ปุ่นรู้เลย ตรูดิ้นมากไป เสื้อมันเลิกขึ้นมาแน่ๆ เพราะตอนนี้เนื้อสัมผัสกับเนื้อล้วนๆ
“คุณวีร์”
ริมฝีปากหนาไล้ลงมาทั่วแผ่นหลังผม ทั้งดูดดุนทั้งไล้เลียจนผมเผลอครางออกมา
“อ่า..”
“พี่ขอนะครับ”
ผมพยักหน้าอายๆ ให้กับหมอน เพราะคุณรองประธานอยู่ด้านหลังไม่ใช่ด้านหน้า
แหม ถ้ารู้แบบนี้พี่ปุ่นอาบน้ำเสร็จขึ้นเตียงเลยก็ดีหรอก ไม่ต้องเสียเวลาไปคุ้ยเสื้อให้เหนื่อย
ชอบง่ายๆ แค่นี้ก็ไม่บอก
..................................................TBC................................................................
เรื่องนี้ปิดที่ 42 ตอนนะคะ อีก 4 ตอนจบแล้ววว ^^
Darin ♥ FANPAGE