ตอนที่ 18 : ธาม&มีน 4 -ธาม-ผมกำลังเรียนวิชาสำคัญของเอกผม วอกแวกไม่ได้ อาจารย์ทั้งโหดทั้งหิน ข้อสอบมีแค่ในเลคเชอร์ ไม่มีในตำรา ไม่สามารถไป
หาอ่านจากที่ไหนได้ ต้องฟังอย่างเดียวเท่านั้น แต่คินโทรมาหาผมสามครั้งแล้ว ผมไม่ได้รับคิดว่าเดี๋ยวคินคงรู้ว่าผมไม่สะดวก
คินหยุดโทรส่งข้อความเข้ามาแทน บอกให้ผมโทรกลับตอนนี้เลย ผมส่งกลับไปว่าผมติดวิชาสำคัญอยู่ คินเงียบไปสักพักก่อนส่ง
กลับมาว่า“เดี๋ยวนี้” ผมเริ่มเอะใจ ตัดสินใจลุกออกจากห้องไปโทรกลับหาคินทันที
“มีอะไรวะ เร็วๆ วิชานี้กูโดดไม่ได้”
“ธาม” คินเรียกผมแล้วเงียบ ผมได้ยินเสียงคนพูดวุ่นวายไปหมดแต่จับใจความไม่ได้ คินคงเอามือปิดไว้
“มีนโดนดักตี”
“หะ!! มึงว่าไงนะ” ผมไม่แน่ใจว่าตัวเองได้ยินถูกต้องไหม
“มีนโดนดักตี กูเพิ่งพามาถึงโรงพยาบาล”
“โรงพยาบาลอะไร!! มึงบอกกูมาเร็ว!”
“ไอ้คิน!! เร็วๆ” ผมตะคอกใส่โทรศัพท์ ได้ยินเสียงคินบอกชื่อโรงพยาบาล ผมตัดสายทิ้งรีบเดินไปที่รถ มันเป็นอะไรมากหรือ
เปล่าวะ เชี่ยเอ๊ย! ทำไมผมลืมถาม ผมกำลังจะกดกลับไปหาคินแต่ยิ่งมองโทรศัพท์ยิ่งเดินช้าลง ผมตัดสินใจออกวิ่ง ขึ้นรถได้ผม
เหยียบมิด ลืมกฎเรื่องจำกัดความเร็วในมหาลัยไปสนิท
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
ผมไปถึงโรงพยาบาล เห็นมีนนอนหลับอยู่บนเตียงมีผ้าพันแผลที่หัว หน้ามันช้ำ ตัวมันเล็กนิดเดียว เห็นแล้วใจหาย
“หมอว่าไงบ้าง” ผมกลั้นใจฟังคำตอบ
“เอ็กซเรย์แล้ว นอกจากแผลที่หัวก็ไม่มีอะไร แต่คงเจ็บเอาเรื่อง มีนโดนไม้ฟาดที่หัวกับโดนต่อยอย่างที่มึงเห็น ” คินดูเหมือนไม่
อยากพูดเท่าไหร่ ผมได้ยินเสียงปีสะอื้นเบาๆ
“เกิดอะไรขึ้นไอ้สัตว์ตัวไหนทำมัน” คินส่ายหน้า
“ยังไม่รู้”
“มึงไม่รู้ได้ไงวะ” ผมเสียงดังลั่นห้อง
“ธามมึงใจเย็นๆ ก่อน ไม่งั้นกูส่งไปสงบสติอารมณ์กับไอ้ธีร์อีกคน”
“ปีเกิดอะไรขึ้น” ผมหันไปหาปีแทน ปีนั่งหน้าซีดน้ำตาคลออยู่กับรัชตะตรงเก้าอี้มุมห้อง
“ผมไม่รู้ มีคนวิ่งมาบอกว่าไอ้มีนโดนตีอยู่หลังตึก คนบอกได้ยินเสียงร้องเลยไปแอบดู เห็นเป็นไอ้มีนถึงรีบวิ่งมาตามพวกผม ไป
ถึงผมไม่เจอพวกมันแล้ว เจอแต่ไอ้มีนกับคนที่วิ่งไปช่วยก่อนหน้า”
“คนที่เห็นไม่รู้เหรอว่าใคร”
“ถามแล้วไม่รู้จักครับ บอกได้แค่ลักษณะ ว่าตัวใหญ่ๆ ผิวออกแทน แต่ไม่เห็นหน้าเพราะหันหลังให้”
“ส่วนคนที่ไปช่วย พอวิ่งไปถึงพวกนั้นได้ยินเสียงก็วิ่งหนีไป ไม่ทันได้เห็นหน้า”
“มีนมีเรื่องกับใครอยู่หรือเปล่า”
“โธ่พี่ธาม ไอ้มีนจะมีเรื่องกับใคร ปากมันเสียก็จริงแต่ไม่มีใครเกลียดมันหรอก เขารู้กันทั้งนั้นว่ามันนิสัยดี” ผมพยักหน้า ก่อนเดิน
ไปนั่งลงข้างเตียง จับมือมีนมากุมเอาไว้
“ไม่มีเลือดคลั่งใช่ไหม”
“หมอบอกว่าไม่มี แต่ยังอยู่ในระยะเฝ้าระวัง พรุ่งนี้ถ้าไม่มีอะไรถึงจะกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้”
“จะบอกที่บ้านมีนไหม” ผมหันไปถามปีอีกครั้ง
“คงไม่หรอกพี่ ไม่อยากให้ตกใจกัน หมอบอกแล้วว่ามันไม่เป็นอันตรายอะไร”
“อืม..คืนนี้ใครเฝ้า”
“ผมครับ” ปียกมือบอกผม
“เดี๋ยวพี่เฝ้าให้ดีกว่า” ผมเห็นปีทำท่าเหมือนจะค้าน จึงหันไปคุยกับคินแทน
“กลุ่มปีมีแต่ตัวเล็กๆ กูอยู่น่าจะสะดวกกว่า อย่างน้อยยังพออุ้มได้ไม่ต้องประคอง” คินฟังแล้วพยักหน้าเห็นด้วย
“ก็ดีกูเห็นด้วย ปีให้ธามมันเฝ้าเถอะ เวลเเข้าห้องน้ำหรือขยับไปไหนน่าจะดีกับมีนมากกว่า”
“ผมอยู่ด้วยครับ”
“อย่าเลยปี โซฟานอนได้แค่คนเดียว สองคนจะลำบากเปล่าๆ” ผมปฏิเสธปี
“เอาตามนี้ กูจะกลับไปมหาลัย เมื่อกี้รีบมายังไม่ได้ถามอะไรมาก กูจะลองสืบดูเผื่อจะพอหาคนทำได้”
“ ปีกับรัชตะจะอยู่หรือไปกับพี่”
“ปีจะอยู่รอมีนมันฟื้นก่อน”
“งั้นเดี๋ยวพี่กลับมารับ จะได้มาดูมีนมันด้วย”
“คิน กูฝากไปเอาของที่ห้องมาให้ด้วย” ผมโยนกุญแจห้องให้คิน
“มึงเก็บๆ มาเถอะ”
“เออ เดี๋ยวกูจัดการให้”
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“เป็นยังไงบ้างวะ” คินเดินเข้ามาพร้อมกับคนอื่นๆ
“ฟื้นแล้วแต่หมอให้ยานอนหลับ อยากให้มีนพักเยอะๆ เพิ่งหลับไปอีก” ผมเป็นคนตอบคิน
“แล้วที่เหลือล่ะปี” คินถามถึงเพื่อนคนอื่นๆ ของปี
“ ให้กลับไปแล้วครับ ได้คุยกับไอ้มีนกันคำสองคำ เอาให้สบายใจแล้วก็กลับ ไม่งั้นเต็มห้อง พี่กวางพี่อ้อก็มาแล้ว กลับไปแล้วครับ”
“ได้เรื่องไหม” ผมถามแต่คินส่ายหน้า
“ไม่มีใครรู้จักน่าจะอยู่ต่างคณะ ดีว่ามีคนเห็นเร็วมีนมันเลยยังโดนไม่เยอะ”
“แล้วมึงได้ถามมีนไหมว่ารู้หรือเปล่าว่าใครทำ”
“ยังตื่นไม่เต็มตา ได้คุยคำสองคำแล้วหลับไป พวกมึงกลับเถอะยังไม่ตื่นง่ายๆ หรอกพรุ่งนี้ค่อยมา” ผมไล่คินกับปีให้กลับไปพัก
ผ่อน วันนี้เครียดกันมาทั้งวัน
“พรุ่งนี้ผมจะมาแต่เช้า ถ้ามีนตื่นฝากบอกด้วยนะครับ”
“อืม กลับเถอะ”
ผมรอจนประตูห้องปิด เห็นตัวแสบยังไม่ตื่นเลยเข้าไปอาบน้ำให้เรียบร้อย ออกมามีนยังหลับอยู่ ผมดึงเก้าอี้เข้ามานั่งข้างเตียง
ปกติมีนดูตัวเล็กอยู่แล้ว พอนอนเจ็บแบบนี้ยิ่งรู้สึกว่าตัวเล็กเข้าไปใหญ่ สงสารมัน มันคงเจ็บมาก
“อือ” เสียงมีนครางเบาๆ ผมรีบก้มลงไปมองใกล้ๆ ต้องเรียกพยาบาลไหมวะ มันปวดอยู่หรือเปล่า ผมลังเลไม่แน่ใจ แค่มีนขยับ
ตัวผมก็ทำอะไรไม่ถูกแล้ว มีนกระพริบตาอยู่สองสามทีก่อนจะลืมตาขึ้นมา
“พี่ธาม?” น้ำเสียงมีนเหมือนไม่แน่ใจ
“ครับพี่เอง” ผมกุมมือมีนไว้ บีบเบาๆ
“เกิดอะไรขึ้น” มีนคงเบลอ ก่อนหน้านี้มีนตื่นมาถามประโยคนี้ทีหนึ่งแล้วแต่คงจำไม่ได้
“มีนโดนตีแต่ไม่เป็นอะไรมาก ไม่ต้องตกใจนะ” มีนมองหน้าผมก่อนยกแขนข้างที่มีผ้าพันไว้ขึ้นดู
“มีนจำได้ไหม” ผมถามมันเบาๆ มีนนิ่วหน้า ทำท่าคิดอยู่สักพัก
“จำได้”
“ปวดหัวไหม จะพักก่อนหรือเปล่าเดี๋ยวพี่เรียกพยาบาลให้ เอาไว้ค่อยคุยเรื่องนี้ทีหลังก็ได้”
“ไม่เป็นไรปวดแต่ไหว”
“ถ้าไม่ไหวบอกพี่นะ” มีนพยักหน้ารับรู้
“มีนรู้ไหมว่าใครทำ”
“ไม่รู้ มันคุ้นๆ คุ้นเสียงแต่นึกไม่ออก”
“เล่าให้พี่ฟังหน่อยครับ”
“พยุงขึ้นนั่งก่อน อยากนั่ง” ผมประคองมีนขึ้นมา หยิบหมอนพิงพนักหัวเตียง แล้วค่อยผ่อนตัวมีนลงไป ผมขยับขึ้นไปนั่งที่ขอบ
เตียง มีนจะได้ไม่ต้องพูดเสียงดังผมไม่อยากให้มันเจ็บแผล
“ผมกำลังจะไปทันตะฯ เดินอยู่เหมือนมีอะไรมาฟาดจากข้างหลัง” มีนเงียบไปแป๊บนึงคงพยายามนึกอยู่
“จำได้ว่ผมล้มลง ตอนนั้นมันกึ่งรู้ตัวกับไม่รู้ตัว แต่ตาลืมไม่ขึ้น ผมถูกกระชากขึ้นมาแล้วโดนต่อยหน้ากับท้อง หลังจากนั้นผมจำ
อะไรไม่ได้แล้ว” ผมรู้สึกเหมือนตัวกำลังสั่น อยากจะชกอะไรสักอย่าง ถ้าไม่ใช่โรงพยาบาลผมอาจชกกำแพงไปแล้ว เห็นคนต่อย
กันมาก็มาก ต่อยเองก็เยอะ ผู้ชายกับเรื่องพวกนี้มันธรรมดา แต่พอตัวแสบเล่าทำไมผมรู้สึกทนฟังไม่ได้ ถ้าเห็นภาพจะขนาดไหน
“ที่บอกว่าคุ้น มีนคุ้นยังไง” ผมพยายามระงับความโกรธ ไม่อยากให้ตัวแสบยิ่งตกใจ
“ตอนนั้นผมรู้สึกลอยๆ ได้ยินเสียงคนคุยกัน น่าจะสองคนผมไม่แน่ใจ เสียงคนที่ชกผมฟังคุ้นๆ คิดว่าคุ้นมาก แต่มันเบลอนึกไม่ออก”
“ให้นึกตอนนี้มีนจะจำได้ไหมครับ”
“ขอผมลองดูก่อน ตอนนี้มีสติอาจพอจำได้” มีนหลับตา พยายามนึกให้ออก
“คนที่ไปเจอบอกว่าเป็นผู้ชายตัวใหญ่ ผิวออกแทนแต่ไม่มาก” ผมให้ข้อมูลมีนเพิ่มจากที่รู้มา
“ไอ้กาย!! เสียงไอ้กายครับ ผมจำได้แล้ว” มีนเบิกตาโพลง พูดเสียงละล่ำละลัก
“ไอ้สัตว์” ทำไมผมไม่เอะใจ ถ้าใครจะแค้นมีนก็คงมีแต่ไอ้บัดซบนี่แหละ
“เจ็บใจชะมัด แม่งไม่เล่นต่อหน้า แน่จริงมาต่อยกันตัวต่อตัวสิวะ” ไอ้ตัวแสบพอรู้ว่าศัตรูเป็นใครก็เริ่มโวยวายครับ ผมมองหุ่นมัน
แล้วอดขำไม่ได้ ที่กำลังเครียดอยู่หายเลย
“จะสู้ไหวเหรอเรา ดูหุ่นตัวเองเสียก่อนเล็กเท่ามด”
“อย่ามาดูถูก ถ้าหายจะเตะโชว์ให้ดู อยากลองไหมละ” พอมีนเริ่มมีสติพูดได้ก็เริ่มแล้วครับ หาเรื่องจะเตะผมเสียอย่างนั้น ผมควร
จะเรียกพยาบาลมาให้ยานอนหลับมันหรือเปล่า ตอนมันเบลอๆ พูดโคตรเพราะ
“พี่ไม่สู้กับเรา สงสารเด็ก” มีนทำหน้าง้ำไม่พอใจที่ผมเห็นเป็นเด็ก
“ส่วนเรื่องไอ้กายพี่จัดการให้ มีนจะไม่เจ็บตัวฟรี” ผมเปลี่ยนมาพูดจริงจัง
“ไม่ต้อง ผมหายแล้วผมจัดการเอง” ไอ้ตัวแสบยังเถียงครับ
“มีน” ผมเอามือจับบ่ามีน น้ำเสียงและสีหน้าจริงจัง
“อย่ายุ่งกับเรื่องนี้พี่ไม่อยากให้มีนเจ็บตัวอีก ปล่อยให้เป็นธุระพี่ พี่จะจัดการให้”
“แต่นี่มันเรื่องของผมโดยตรง” มีนยังพยายามเถียง
“นี่ก็เรื่องของพี่โดยตรง พี่ขอเถอะมีนอย่าเถียงพี่”ผมพูดจบก็เปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากให้มันมาเกี่ยวข้องด้วย
“มีนอยากเข้าห้องน้ำไหมเดี๋ยวพี่พาไป” มีนก็พยักหน้า เลื่อนผ้าห่มออก พยายามเลื่อนตัวมาที่ขอบเตียง แต่ผมช้อนมันขึ้นอุ้มเสีย
ก่อน ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่า ผมว่ามีนกำลังหน้าแดง
......................................................
-มีน-ผมตกใจมากครับ นึกว่าพี่ธามจะช่วยประคองผมเดินไปเข้าห้องน้ำแต่พี่ธามกลับอุ้มผมขึ้น ตัวผมปลิวติดมือพี่มันขึ้นมา (ผมก็ว่า
ผมก็หนักอยู่นะ) ผมไม่รู้ตัวว่าหน้ากำลังแดงอยู่ ได้ยินแต่เสียงพี่ธามหัวเราะเบาๆ มันขำอะไรวะ
พี่ธามวางผมลงหน้าโถปัสสาวะ แต่กลับไม่ยอมขยับไปไหน
“พี่ธามจะไปไหนก็ไป ผมจะฉี่” ผมออกปากไล่แต่พี่ธามหันมายิ้มทำหน้าตาย
“ฉี่ไปสิ พี่กลัวเราล้ม”
“จะฉี่ได้ไงเล่า ไปเลย” ผมเอามือผลัก แต่แรงแทบไม่มียกแขนขึ้นยังลำบาก
“ทำไม กลัวอะไรผู้ชายเหมือนกัน หรืออายเพราะของมีนเล็ก”
“ไอ้...” ไม่รู้จะด่าอะไรถึงจะสาสมครับ หนาเหลือเกินด่าอะไรก็ไม่สะเทือน จะด่าว่าของพี่ธามเล็ก ดูๆแล้วคงไม่ใช่ อ๊ะ! ผมไม่
เคยแอบดูนะครับ เดาจากรูปร่างต่างหาก
“เอาน่าฉี่ไปเถอะ พี่หันหน้าไปทางอื่นให้” หันหน้าไปทางอื่นมีประโยชน์อะไรครับ ที่ทำผมใจเต้นอยู่นี่เพราะไอ้พี่ธามยืนชิดหลัง
ผมอยู่ แม่งจะยืนใกล้อะไรนักหนา ผมไม่ล้มง่ายๆ หรอก
“ขยับออกไปสิ”
“เรื่องมากจริง” มาว่าผมอีก แต่อย่างน้อยก็โล่งอกที่พี่ธามยอมถอยให้ ถึงจะถอยไปไม่ไกลก็เถอะ
“มีแรงหรือเปล่าถ้าไม่มีพี่ช่วยจับให้ได้นะ” ผมหันขวับ ไอ้พี่บ้าเสือกมองมายิ้มๆ ทำหน้าเจ้าเล่ห์โคตร
“ไม่ฉี่แม่งแล้ว” ผมโมโห
“ฮ่าๆ หันไปทางอื่นให้แล้ว เสร็จแล้วบอก” พี่ธามเบี่ยงตัวหันไปทางอื่น ผมดูจนแน่ใจรีบหันมาจัดการธุระของตัวเอง ฉี่ไปก็ต้อง
คอยหันไปมอง หน้าก็เจ็บ โอ๊ย! ไอ้พี่ธามมาช่วยหรือมาทำให้ผมลำบากวะ
“เสร็จแล้ว” ผมบอกเสียงห้วน พี่ธามอุ้มผมไปวางหน้าอ่างล้างมือ พอเงยหน้าเห็นตัวเองในกระจก ผมแทบเป็นลม
“เชี่ย” ผมหลุดออกมาแค่คำเดียว หน้าผมทั้งบวมทั้งม่วงคล้ำ ถ้าผมขวัญอ่อนคงช็อคตาตั้งไปแล้ว พี่ธามเอามือมาจับบ่าผมทั้ง
สองข้าง บีบเบาๆ
“เดี๋ยวก็หายครับแป๊บเดียว มีนทนหน่อย” ปลอบผมเหมือนเด็กสิบขวบ ผมตกใจเพราะยังไม่เคยเห็นเท่านั้น โดนต่อยมันก็ต้อง
เจ็บแบบนี้อยู่แล้ว ถึงชาตินี้ผมจะยังไม่เคยโดนต่อยเต็มๆ มาก่อนก็เถอะ
“ผมแค่ตกใจไม่ได้คิดมาก” ผมล้างมือ และปล่อยให้พี่ธามอุ้มผมกลับมาที่เตียง ตอนเดินออกมาจากห้องน้ำผมแอบเงยหน้าขึ้น
มอง พี่ธามหน้าตาดีรูปร่างก็ดี อุ้มผมเหมือนไม่ได้อุ้ม ไมมีท่าทีว่าจะหนัก ดูสบายๆ ตัวก็ออกจะใหญ่แต่ทำอะไรกลับเบามือ
ตอนวางผมลงผมไม่เจ็บสักนิด
“ปีไปไหนพวกที่เหลือด้วย” ผมเพิ่งนึกได้ครับสมองมันทำงานช้า
“เพิ่งนึกได้หรือเรา” พี่ธามหยิบผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้ผมก่อนขยับหมอนให้เข้าที่
“กลับไปกันหมดแล้ว มีนยังได้คุยด้วยนิดนึงแต่จำไม่ได้ใช่ไหม” ผมพยักหน้า
“นี่ไม่มีใครอาสาเฝ้าผมเลยเหรอ ใจดำฉิบ” ผมคิดในใจเดี๋ยวเจอหน้าต้องด่าเสียหน่อย
“มีจนไล่ไม่ไหว” ผมหันไปมองหน้า อ้าวพี่ธามไม่ได้โดนภาคบังคับหรอกเหรอ
“ให้พวกนั้นเฝ้าก็ได้”
อย่าเลยพี่ไม่ไว้ใจ แล้วนี่มีนหิวไหมหมดแรงน้ำเกลือหรือยัง” ผมส่ายหน้า
“เอาพวกนมหรือโจ๊กอุ่นๆ รองท้องสักนิดนะเดี๋ยวพี่ออกไปซื้อให้” พี่ธามลุกขึ้นยืนโดยไม่รอให้ผมตอบ ผมรีบดึงชายเสื้อเอาไว้
“ไม่หิว อยู่ก่อนเถอะ”
“พี่ไปแป๊บเดียว มีนนอนพักก่อนหรือจะเปิดทีวีดู”
“ผมไม่อยากอยู่คนเดียว” พี่ธามมองมือผมที่จับเสื้อก่อนเงยหน้าขึ้นมาสบตา พี่ธามลงนั่งบนขอบเตียงดึงผมไปกอด จับหัวผมซบ
ลงกับอก
“ไม่ต้องกลัวพี่อยู่ทั้งคน ไม่มีใครทำอะไรมีนได้อีกแล้ว” จู่ๆ น้ำตาผมก็ไหล ความจริงผมคงทั้งกลัวทั้งตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พอพี่ธามกอดผมถึงห้ามตัวเองไม่ได้
“ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไรแล้ว” พี่ธามเอามือมาเช็ดน้ำตาให้ผม ก่อนโยกตัวเบาๆ
“หลับซะนะคนดี พรุ่งนี้จะได้รู้สึกดีขึ้น ไม่ต้องกังวลพี่จะอยู่เป็นเพื่อนมีนเอง” ผมไม่ตอบ ได้แต่พยักหน้าลงกับอกพี่ธาม เวลามี
ใครสักคนคอยปกป้องเรา มันรู้สึกดีแบบนี้นี่เอง
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪ตอนที่ 19 : เพื่อนรัก“พวกมึงไม่ต้องกูคนเดียวพอ” เสียงพี่ธามบอกคนอื่นๆ พวกเรากำลังสุมหัวกันอยู่ใต้ตึกคณะ เว้นแค่ไอ้มีน มันนอนพักอยู่ที่หอยัง
มาเรียนไม่ไหว
“ทำไมต้องมึง มีนมันน้องกูเหมือนกัน” พี่ธีร์มันไม่ยอมครับ ตอนเกิดเรื่องพี่ธีร์โกรธมาก เป็นคนเดียวในกลุ่มที่ระงับอารมณ์ไม่อยู่
เห็นอย่างนี้เพิ่งรู้ว่าพี่ธีร์รักพวกผมมาก ช่วงนี้ถ้าพี่คินไม่ว่างพี่ธีร์จะมาเฝ้าพวกผมแทน หรือไม่ก็พี่โจ เพราะกลัวว่าไอ้กายจะเล่น
งานผมอีกคน
“เพราะกูอยู่ในเหตุการณ์ที่ผับวันนั้น กูบอกมันแล้วว่ามีนเป็นแฟนกู ในเมื่อมันยังกล้าแปลว่ามันไม่เห็นหัวกู” เหตุผลพี่ธามฟังขึ้นครับ
คนอื่นๆ จึงเริ่มเห็นด้วย
“งั้นพวกกูไปด้วยเผื่อมันเล่นหมาหมู่ ขนาดมีนตัวนิดเดียวมันยังเล่นข้างหลัง” พี่โจตัดสินใจ
“กูว่ามันกลัวมีนเห็นหน้ามากกว่า ถึงต้องฟาดจากข้างหลังให้สลบก่อน มันคงกลัวมึงรู้นั่นแหละธาม” พี่คินวิเคราะห์ซึ่งผมก็เห็นด้วย
“กูว่าดักรอมันนอกมหาลัยดีกว่าจะได้ไม่เป็นปัญหา ตัดเรื่องหมาหมู่ออกได้ด้วย” พี่ภัทรเสนอแนะ
“เอาเป็นลานจอดรถหลังมอไหมกูเคยเจอมันที่นั่น จำได้ว่ามันบอกมันจอดที่นั่นประจำ เดี๋ยวกูวนไปดูให้ว่าวันนี้มันจอดหรือเปล่า
กูจำรถมันได้” พี่โจออกความคิดเห็นและได้รับความเห็นชอบจากคนอื่นๆ
สาเหตุที่พวกผมเพิ่งมาจัดการเรื่องนี้ เพราะพี่ธามอยากดูแลไอ้มีนก่อน และพี่มันอยากให้ไอ้กายตายใจครับ บอกว่าสอยตอนมัน
คิดว่ามันรอดแล้ว สะใจกว่า ซึ่งความจริงก็แค่สี่วันหลังไอ้มีนโดนตี
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“ไงไอ้กาย” พี่ธามทักไอ้หมากาย มันเดินมากับผู้หญิงคนหนึ่งผมไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ไอ้หมากายชะงัก แต่มันคงคิดว่าพี่ธาม
ไม่รู้เรื่องชั่วที่มันทำ มันเลยทักตอบ
“อ้าวไอ้ธามมึงก็จอดรถที่นี่เหรอ”
“เปล่า กูมารอคน”
“เปลี่ยนคู่เดทอีกแล้วสิมึง หญิงหรือชายวะ” ไอ้หมากายยังไม่รู้ตัวครับ ชะล่าใจเห็นว่าหลายวันแล้ว
“ผู้ชาย” พี่ธามตอบเสียงเรียบ
“น้องลูกหว้าอย่าตกใจครับเพื่อนพี่มันเป็นไบ มันได้หมด” ไอ้หมากายหันไปบอกคนที่มาด้วย
“วันนี้กูไม่ได้มาเดทว่ะกูมีนัดสำคัญกว่านั้น” ไอ้หมากายเหมือนจับรังสีอำมหิตได้ครับ มันเริ่มลุกลี้ลุกลน
“งั้นมึงรอไปเถอะกูไปก่อน” พูดจบก็รีบชิ่งหนีเดินไปขึ้นรถ
“มึงจะรีบไปไหน มึงไม่ถามกูเหรอว่ากูรอใคร” เสียงพี่ธามเหี้ยมมากครับ พวกผมซ่อนอยู่ในรถยังได้ยินชัดเจน
“กู.. กูไม่แส่เรื่องของมึง”
“ไม่ทันแล้วไอ้กายมึงแส่เข้ามาแล้ว” ผมว่าไอ้หมากายคงเริ่มเดาได้ หน้ามันซีดลงทันที หน้าตาตื่นกลัว ไอ้ลูกหมาเอ๊ย
“วันนี้กูรีบว่ะ มึงมีอะไรเดี๋ยวค่อยคุยกันวันหลัง ไปครับน้องลูกหว้า” ไอ้หมากายรีบดันหลังสาวที่พามาด้วยให้ออกเดิน
“โจ” พี่โจเปิดประตูรถลงไปตามเสียงเรียกของพี่ธาม
“มึงพาน้องคนนี้ไปส่งที พี่มีธุระกับไอ้กายขอตัวมันไว้ก่อน” พี่ธามหันไปพูดกับลูกหว้า อีกฝ่ายรีบพยักหน้ารับทันทีคงเห็นแล้วว่า
สถานการณ์ไม่น่าไว้ใจ
“เฮ้ย!น้องเขามากับกู” ไอ้หมากายพยายามยึดที่พึ่งสุดท้ายเอาไว้ แต่ผมว่าลูกหว้าพอเดาเรื่องได้ครับ รีบเดินจ้ำตามพี่โจไปแบบ
ไม่เหลียวหลังกลับ
ไอ้กายมองรถที่พวกผมนั่งอยู่ ตอนมันเห็นพี่โจมันคงรู้แล้วว่าพี่ธามไม่ได้มาคนเดียว
“ไม่ต้องกลัวไอ้กาย กูไม่รุมกระทืบมึงกูไม่ทำมึงข้างหลังด้วย กูไม่ใช่หมาอย่างมึง”
“ธาม มึงเข้าใจอะไรกูผิดหรือเปล่า คุยกันก่อน กู...กูไม่ได้ทำอะไรเลย” ไอ้หมากายยกมือขึ้นห้ามพี่ธาม ทำอย่างกับว่ามือแค่นั้น
จะหยุดพี่ธามได้
“ทำไมต้องคุย วันนั้นมึงให้โอกาสมีนคุยเหรอวันนี้มึงถึงมาขอกู”
“มีนไหน กู... กูไม่รู้จัก” ไอ้หมากายยังพยายามเอาตัวรอด
“มึงจะบอกว่ามึงจำแฟนกูไม่ได้”
“มะ..ไม่ได้ กูเคยเจอครั้งเดียวกูจะจำได้ยังไง มึงหาเรื่องผิดตัวแล้ว ไม่ใช่กู”
“มึงจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร มึงคิดเสียว่ากูกำลังอารมณ์ไม่ดีเลยนึกอยากเตะหมาแก้เบื่อ แล้วฝากบอกแพรวเมียมึงด้วย ถ้าขืนยังยุ่ง
กับแฟนกูหรือแฟนไอ้คินไม่เลิก ว่างๆ กูจะไปเตะผู้หญิงเล่นที่คณะมัน”
พี่ธามพูดจบก็พุ่งเข้าชาร์จ ชกเข้าที่ท้องไอ้กายทันที มันถึงกับตัวงอ พี่คินเล่าให้ผมฟังว่าพี่ธามเคยขึ้นเวทีต่อยมวยงานกีฬา
มหาลัยกับไอ้หมากายมาแล้ว มันถูกชกเสียน่วม มันถึงได้กลัวพี่ธาม
ปกติผมไม่ชอบดูคนชกกัน แต่วันนี้ผมจ้องตาไม่กระพริบ ทุกครั้งที่หมัดพี่ธามต่อยโดนไอ้หมากาย ทุกครั้งที่เห็นเลือดมันออก ผม
พูดได้ไม่อายว่าผมสะใจ ผมอยากให้มันโดนอีก
ไอ้หมากายสะบักสะบอมไปทั้งตัว ใกล้ร่วงเต็มที แต่พี่ธามยังไม่ยอมหยุด พี่มันต่อยเหมือนเก็บกดมาจากไหน ถลุงเอาๆ ผมหัน
ไปมองพี่ธีร์กับพี่ภัทร สองคนนั้นไปยืนดูต้นทางอยู่ด้านหน้าเผื่อมีใครเข้ามา มีพี่คินคุมเชิงอยู่ในรถ เผื่อไอ้กายมีเครื่องทุ่นแรง
ผมตัดสินใจเปิดประตูรถลงไป ได้ยินเสียงพี่คินตะโกนห้ามแต่ผมไม่ฟัง ผมเดินเข้าไปหาทั้งคู่
“พี่ธาม” พี่ธามหยุดต่อยหันมามองผม ไอ้กายทรุดลงกับพื้น มันจะสลบมิสลบแหล่ ตาบวมจวนจะปิด เลือดไหลกลบปาก
ผมเดินไปถึงกระชากเสื้อมันขึ้นมา ไม่รู้เอาแรงมาจากไหน มันตัวใหญ่กว่าผมเยอะ ไอ้หมากายอยู่ในท่าคุกเข่า ผมซัดมันไปเต็มๆ
หน้าสามสี่หมัด
“วันนั้นมึงซัดเพื่อนกู มึงซัดมันทั้งๆที่มันไม่มีแรงสู้มึงแล้ว อย่างนี้ใช่ไหมที่มึงทำ” ผมเตะมันเข้าที่ท้อง
“มึงได้ยินเสียงกูไหม จำเสียงกูให้ดี กูไอ้ปวีร์เพื่อนรักไอ้มีน มึงจำใส่กะโหลกมึงไว้” ผมปล่อยมันลงไปกองกับพื้น เตะมันซ้ำๆ
เตะอยู่อย่างนั้นจนพี่คินต้องมาดึงผมออกไป
“พอแล้วตัวเล็ก พอแล้วครับ” พี่คินดึงผมเข้าไปกอด ลูบหัวให้เบาๆ ผมหอบจนตัวโยน เรี่ยวแรงที่มีหายไปเกลี้ยง
พี่ธีร์กับพี่ภัทรเดินตามมาสบทบ ช่วยกันลากไอ้หมากายไปใส่ในรถของมันเอง ก่อนกดโทรศัพท์ตามให้เพื่อนมันมาเก็บศพ ผม
มองตามไอ้หมากายไปยังรู้สึกเหมือนตัวเองไม่หายแค้น
“ปีมองพี่ครับ” พี่คินใช้มือประคองหน้าผมเงยขึ้นสบตา
“มีนเจ็บตัวเพราะไอ้กาย และมันได้รับผลจากสิ่งที่มันทำแล้ว พี่มั่นใจว่ามีนไม่มีทางคิดว่าเป็นความผิดของปี ดังนั้นปีต้องเลิก
โทษตัวเอง เลิกโกรธตัวเองเสียที ” พอพี่คินพูดจบผมถึงคิดได้ว่าที่ผมไม่รู้สึกดีขึ้นเลย ถึงแม้ไอ้หมากายจะหมดสภาพไปแล้ว
เพราะผมคิดว่าอีกคนที่ควรจะโดนด้วยคือผมเอง มันต้องมาเจ็บตัวเพราะเรื่องของผม
“เชื่อพี่นะปี มีนมันคงเสียใจมากถ้ารู้ว่าปีคิดแบบนี้” ผมพยักหน้าให้พี่คิน
“ไปกันเถอะ”
พี่คินพาผมกลับมาที่รถ ไอ้บาส คุณรัชตะ น้องนายพากันโอดควรญว่าพี่คินสั่งห้ามไม่ให้พวกมันตามผมลงไป มันเลยอดกระทืบ
ไอ้หมากาย ผมไม่ตอบอะไรเพื่อน รู้สึกตัวเองหมดแรง มองไปที่พี่ธามเห็นพี่ธีร์เอาน้ำมาให้ล้างเลือดออกจากหน้า
“พี่ธามเป็นอะไรไหมครับ” ผมถามพี่คิน
“ก็โดนบ้างแต่ไม่เป็นไร มันสบายดี”
“พี่คินไปส่งปีที่หอหน่อยครับ อยากกลับไปหาไอ้มีน มีอะไรอยากเล่าให้มันฟังเยอะเลย”
“เดี๋ยวพี่ไปส่งแต่ปีทานน้ำก่อน” พี่คินส่งน้ำให้ผม เอาผ้าขนหนูที่มีติดรถมาเช็ดมือให้ผมก่อนพันเอาไว้ มือผมแดง มีเลือดซึม
ออกมานิดหน่อยแต่ผมไม่รู้สึกเจ็บ
“พวกผมไปด้วยครับ” เสียงไอ้บาสดังมาจากข้างหลัง
“กูถ่ายตอนมึงต่อยไว้ให้ไอ้มีนดูด้วย มันต้องชอบใจแน่” น้องนายครับ เรื่องพวกนี้มันไม่พลาด
“ ดูเสร็จลบทิ้งกันด้วยนะ” พี่คินส่งเสียงเตือน
“คร้าบบ” เสียงขานรับดังขึ้นพร้อมกัน ก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะดังลั่น หลังจากที่ยิ้มไม่ได้มาหลายวัน นี่จะเป็นครั้งแรกที่
พวกผมหัวเราะได้เต็มเสียงเสียที
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin