14
#Secretlove
โปรดเตรียมใจก่อนอ่าน... “หมอ นี่อะไรคะ”
หลังจากที่เราทั้งหมดเข้ามายัดอยู่ในรถ โดยมีเขานั่งข้างหน้ากับหมอ ส่วนพวกแองเจิลนั้นไปเบียดกันอยู่ข้างหลังหมด โดยที่หมอไม่สามารถมีปากเสียเอ่ยคัดค้านใดๆได้ เพราะพื้นเพเป็นคนเฟรนด์ลี่ อย่างไอ้การจะมาออกปากไล่เพื่อนเขานี่ อย่าได้ยินจากปากหมอ
นดที่อยู่ไม่สุขมาตั้งแต่รถเริ่มเคลื่อนที่ จู่ๆนางก็โผล่มาแทรกกลางระหว่างเขากับหมอตรงช่องระหว่างเบาะหน้า แล้วเอามือขึ้นไปจับกระจกมองหลัง มิวเหล่ตา นางจะเล่นอะไรอีก
เด็กประถมยังรู้เลยว่ามันคืออะไร
“กระจกมองหลังครับ”
เออะ แต่หมอก็ยังอุตส่าห์ตอบนะ
นดล่าถอยกลับไป
“จ๊ะเอ๋ ขิมเองค่ะ แกกูว่าร้องเพลง ร้องเพลงกัน”
ขิมเปิดประเด็นใหม่ด้วยการชวนร้องเพลงในรถ เหล่าแองเจิลทุกคนเริ่มประสานเสียงกัน ดังกัมปนาทก้องรถ เมื่อราชรถขับผ่านไปทางใด ผู้คนข้างนอกคงจะนึกว่ารถคันนี้บรรทุกควายอยู่ก็มิปาน หรือสามารถพรรณนาให้คำดูงดงามได้ว่า
เสียงควายออกลูก นั่นเอง
มิวยกมือปิดหู
พวกมึงเล่นอะไรกัน เช็คหมอด้วย
มันไม่ใช่อยู่กับพวกมึงมาจนรู้ไส้รู้พุงแบบเขานะ มันไม่ชินแน่ๆ
แต่หันไปดู หมอนี่เตรียมพร้อมนะ ยกหูฟังขึ้นมาเสียบแล้วจ้า
ความปลอดภัยของรถอยู่ไหน ตอบ
ข้างหลังนั่นก็ควายร้องเพลง
ข้างหน้านี่ก็เสียบหูฟังไม่สนโลกใดๆ
“พอๆ กูหูจะแตกแล้ว”
จนเขาต้องห้ามปรามนั่นล่ะ พวกมันสี่คนมองแรงกลับมา แล้วสะบัดหน้าพร้อมกัน
โบธ… มึงแต๋วแตกไปแล้ว
“หมอ เอาหูฟังออกก่อน”
“…”
“หมอ”
ถือวิสาสะดึงออกไม่ขออนุญาตละ
“ฟังเพลงอยู่”
“เดี๋ยวค่อยฟัง”
มันเอามือมาโคลงหัวเขาไปมา แล้วยิ้ม เขินเลย
“อ้วก”
ลืมไปเลยว่ามีแองเจิลที่ทำตัวเยี่ยงสัมภเวสีอยู่ข้างหลัง = =
“อี่นีเอาถุงมาให้กูที”
“มึงเป็นไรอี่นด”
“กูจะอ้วก”
“พอๆ สมจริงมาก”
“อี่นี กูจะอ้วกจริงๆ ค่ะ กูเมารถ”
และแล้วความชุลมุนก็เกิดขึ้น เมื่อเหล่าแองเจิลก้มไปใต้เบาะ เสาะหาอะไรก็ได้ที่สามารถมารองรับอ้วกของนดที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า มิวปาดเหงื่อหันไปมองหมอที่มองตอบกลับมา
“นด กลั้นไว้”
“อี่มิว อี่เลว เพื่อนเมารถนะคะ ไม่ได้ท้องเสีย จะกลั้นอ้วกได้เหมือนกลั้นขี้”
“ท้องเสียมึงเคยกลั้นได้ด้วย”
“อี่ขิม อย่าสาระแน”
“งั้นจอดรถเหอะ หมอ ช่วยจอดรถที”
เขาบอกหมอ
“หาที่จอดแป๊บนะ”
“โอ้ยยยยยย หายแล้ว จู่ๆก็รู้สึกโล่ง”
มิวเบะปาก จิกกัดนดผ่านกระจกมองหลัง
“แหะๆ”
มันยิ้มแห้งตอบกลับมา
รถยังแล่นต่อไปเรื่อยๆ ทำไมระยะทางไปห้องหมอนี่มันดูไกลเหมือนไปต่างจังหวัดยังไงชอบกล แอบปาดเหงื่อลอบมองสีหน้าหมอ เขากลัวเพื่อนเขาสร้างความรำคาญให้หมอจริงๆ เพราะเขาเจอจนชินและเขารับได้กับพวกนี้ แต่หมอนี่เขาไม่แน่ใจ
สักพักเสียงโทรศัพท์ใครบางคนก็ดังขึ้น
“ฮัลโหลวววววว ว่า”
ของนีนั่นเอง
“พ่องมึงตาย”
คือคุยให้ได้ยินกันทั้งรถ
“ฮะ ก็บอกไปหาแม่มึง ไปหาแม่สิ”
“…”
“จะไปหาได้ไง ก็พ่อมึงตายไง”
“…”
“ขับไปๆ ขับไป ขับไปปปปป”
มิวปาดเหงื่ออีกเม็ด เสียงคือจะดังไปไหน แอบเห็นหมอสะดุ้งตอนนีบอกว่าขับไป ตอนนี้เขาไม่กล้ามองหมอจริง กลัวหมอจอดรถ
กลัวมาก กลัวมันถีบเขาและเพื่อนลงจากรถนี่แหละ
“นี เบาๆ”
เป็นอีกรอบที่เขาต้องปราม
“อุ่ย ขอโทษค่ะ”
แล้วเสียงมันก็เงียบหายไป
เรื่องมีทีท่าว่าจะจบลงแล้ว แต่ยัง
“กรี๊ด แป้งพับ”
พรึบ
แป้งพับที่ลอยมาจากไหนไม่รู้กระเด็นตกแหมะเต็มไหล่หมอ ฝุ่นของแป้คละคลุ้งในรถเต็มไปหมด
“หมอ ปิดแอร์”
เขารีบค้นหาทิชชู่มาเช็ดไหล่ให้ร่างสูง เวลานี้ไม่สามารถเดาอารมณ์หมอได้จริงๆ หมอไม่พูดอะไร เอาแต่ขับรถต่อไปโดยไม่สนฝุ่นแป้งพับที่เลอะเต็มไหล่ มิวจ้องตาเหล่าแองเจิลผ่านกระจกมองหลัง คราวนี้ถ้ามีเรื่องอีก ถือว่าไม่มีการเตือน ได้ลงจากรถจริงๆแน่
ทำเจ้าของรถเดือดร้อนไม่พอ
มาทำรถเขาเลอะอีก
หมอไม่โกรธก็ตลกร้ายแล้ว
กึก
รถจอดสนิทในโรงจอดรถ มีความเงียบเกิดขึ้นในรถตลอดทางที่เหลือ เหล่าแองเจิลค่อยๆก้าวลงรถมาด้วยความสงบเสงื่อม
“ถึงแล้วครับ”
แต่พอหมอบอกแล้วแจกยิ้มเท่านั้นล่ะ
“กรี๊ด หรูเริ่ดคะ ทำบุญด้วยอะไรถึงได้ผู้ชายรวยขนาดนี้” นดนำทีม
“ระดับพรีเมี่ยม อยากเห็นห้องเร็วๆ” ตามด้วยขิม
“จิกกัดอี่มิว” นี
“โหดสัส” และโบธ
มิวส่ายหัวไปมา
หมอทำให้พวกมันได้ใจจริงๆ
เขาแอบลอบมองหมอ ก็พบว่าหมอกำลังมองเขาอยู่เช่นกัน
หมอยิ้ม
เขาโล่งใจ
ขอบคุณที่ไม่โกรธพวกมัน
“อี่โบธ ยกของ” นดหันไปสั่ง
“เดี๋ยวช่วยครับ” หมอตรงเข้าไปช่วยโบธยก
แล้วหมอกับโบธ สองคนนั้นก็ช่วยกันยกกระเป๋าขึ้นห้องไป
ตามท้ายด้วย มิว นด ขิม และนี
“สรุปเป็นยังไงคะคุณแม่”
“ก็ดีเลิศ เกินเกรดไปมากโข”
นดตอบนี มิวงงว่าทั้งคู่พูดอะไรกัน หันไปหาขิมนี่คือ กำลังชื่นชมกับความหรูของโรงรถอยู่ใช่มั้ย สายตาเป็นประกายเชียว
“คือเป็นคนดีจริงๆ” นีย้ำ
“ก็ผ่านคุณแม่อ่ะว่างั้นเหอะ” นดพูด
เขาพอจับทางได้ละ หลังจากนึกปะติดปะต่อเรื่องราวในใจเงียบๆ
“หมอสอบผ่านค่ะ”
“…”
“ในสโลแกน รักมิว”
“…”
“ก็ต้องรับเพื่อนอี่มิวได้ค่ะ”
ว่าแล้ว ทะแม่งมาตั้งแต่ถามว่ากระกมองหลังคืออะไรละ
แม่ง
รักพวกมึงว่ะ
น้ำตาจะไหล ซึ้งจนอยากกอดรัด รัดให้แน่น แน่นจนตายอ่ะ แล้วทุ่มพื้น ประเคนตีนรัวๆ ตบหน้าสองสามที จิกผมให้หมดหัว
เหี้ยจริงจังไม่มีใครเกิน “อี่มิว” “…”
“จับผู้ชายคนนี้ไว้ให้แน่น” “…”
“กูจะช่วยเอง” ลางร้ายมาเยือน
“โว้ย โรงจอดรถว่าสุดๆแล้ว ข้างในนี่สุดยอด มิว กูขออยู่ด้วยได้ป่ะวะ”
นดโพล่งขึ้นทันทีเมื่อย่างเท้าก้าวเข้ามาในห้องหมอ ถามเจ้าของดีกว่ามั้ย
“กูรักประวัติศาสตร์ นั่นรูปป๋าโซ่ ป๋ามองแตด ป๋าจอห์น กล้วยลอก กรี๊ด ป๋าดาวินชี อี่โมนาลิซ่าที่รัก”
ขอทรานเสลตเป็นภาษาที่สวยงาม เหมาะแก่การเข้าถึงของผู้ชมที่มีอายุไม่เกินสิบสองปีและการทำความเข้าใจ
ป๋าโซ่ นามที่แท้จริง ชอง ฌาร์ค รุซโซ่
ป๋ามองแตด คือชื่อนี้เหี้ยสุด จริงๆควรเป็น มองเตสกิเออ
ป๋าจอห์น กล้วยลอก นดมันเคยบอกว่าจริงๆคืออยากจะให้เป็น ค ควาย นำหน้านะ ผันมาจาก จอห์น ล็อก
เขานี่คือฟังออก
แต่มองไปหาหมอนี่แทบรับไม่ได้ สีหน้าบ่งบอกว่าเพิ่งเคยได้ยินแบบนี้… เป็นครั้งแรก 555
เป็นไงล่ะมึง ตีแผ่ ความจัญไรของเด็กอักษร เอกประวัติศาสตร์
ท่องจำที่หนึ่ง จำจนลืม เลยต้องคิดค้นคีย์เวิร์ดช่วยจำ
“นั่น ป๋า…”
“พอเถอะอี่นด ไว้เราค่อยไปชมในพิพิธภัณฑ์ด้วยกันนะ T^T”
ขนาดนียังอายอ่ะ คิดดู
“คิดว่ากูจะไป คราวที่แล้วนี่กูแค่พร่ำเพ้อพรรณนาชื่อรูป นี่คนคือมองกูกันใหญ่ เบื่อความสวยค่ะ ไม่อยากตกเป็นเป้าใคร”
คือเขาตกใจแรงรึเปล่านด
“แล้วตกลงมากันทำไม”
มาถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของพวกมันสี่คนอยู่ดี
“อย่ารีบค่ะ”
“…”
“ความสนุกมันเพิ่งจะเริ่ม”
แต่เขานี่สิ เตรียมปาดเหงื่อรอแล้ว…
เรื่องฉิบหายวายป่วงอันใดที่จะเกิดต่อจากนี้ ขอให้มันผ่านไปด้วยดีเถอะ “มึง พวกกูอยู่ถึงดึกนะ ได้มั้ยคะหมอ”
“เฮ้ย เกรงใจเขาหน่อยดิ” มิวต้องปรามเพื่อน
“มองแรง ทีมึงมาค้างกับเขาทุกอาทิตย์นี่คือเกรงใจ” นดเหน็บ
“ก็… เขาชวน”
“กรี๊ด ประเด็นมันคือตรงนี้”
“…”
“หมอคะ ชวนมันมาทำไม ทำไมต้องชวน คิดอะไรกับเพื่อนนดรึเปล่าคะ”
“…”
“…”
“…”
“…”
“ก็ คิดอยู่ครับ” พูดไม่พอ แล้วยังสายตาที่จ้องตอบเขาอย่างลึกซึ้งนี่คืออะไร หันไปคุยกับคนถามโน่น
“อะไรยังไง”
“…”
“…”
“…”
“…”
กริ๊ง
“แป๊บนะครับ” หมอลุกไปรับโทรศัพท์
“ฮ่วย ตลอด ใครมาขัดแม่ง รู้นะแม่จะเตะกลิ้ง” นดฮึดฮัด
“ครับแม่…”
“อุ่ย ของสูงนะคะ” นีปิดปาก นดหน้าถอดสีไปแล้ว
“ลูกขออภัยค่ะ” นางยกมือขึ้นทาบอก
“ทุกคนครับ อยู่กันไปก่อนนะ มิว ฝากห้องด้วย กูไปหาแม่แป๊บ” ท้ายประโยคหันมาบอกเขา เขาพยักหน้ารับรู้ แล้วร่างสูงก็รีบออกไป
“พวกมึงจะอยู่นานแค่ไหน”
เขาหันมาถามเพื่อน
“จนหมอมาอ่ะ”
“งั้นที่เตรียมมาก็ไม่ได้ใช้ดิ หึ”
พวกมันสี่คนหัวเราะร้าย เรื่องนี้ไม่มีนางร้าย แต่มีตัวป่วนมากมายบานเบอะ เพลีย
เพราะงั้นตลอดเวลานับจากนี้ เขาจึงต้องปวดหัวกับเหล่าแองเจิลทั้งสี่คน นำทีมโดยนดที่มิวต้องคอยห้ามเมื่อเธอทำทีจะขอเข้าห้องน้ำ แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงคือตามไปค้นกองผ้าหางกางเกงในหมอ จัญไรมาก นี่บอกเลย ส่วนขิม มิวต้องคอยกันเธอออกจากผนังห้องที่แขวนรูปไว้ ไม่… เธอไม่ได้ต้องการรูป เธอต้องการแกะสีเทาที่ฉาบผนังไว้แล้วกัดกิน เธอคือปลวก… นี เธอคอยเลื้อยอยู่ใต้โซฟาราวกับพยายามจะหาอะไรซักอย่าง หลังจากสอบถามได้ความว่าต้องการจับผิดว่าหมอเคยพาใครมาที่ห้องบ้าง เธอบอกว่าทุกคนชอบซ่อนของของคนอื่นไว้ใต้โซฟา ตรรกะอะไรของเธอ ส่วนโบธ อยู่เฉยๆแชทกับสาว ลดความเหนื่อยของเขาไปบ้างแต่
“ได้เวลาแล้ว”
นดที่ก้มดูนาฬิกาข้อมือตะโกนลั่นห้อง
“เหล่าแองเจิล เปิดหีบ”
หีบที่ว่าก็คือกระเป๋าทั้งสี่ใบที่พวกมันแบกมานั่นล่ะ
ผ่าง
“หีบแรก หีบอาหาร”
คืออึ้งมาก เอากระเป๋าเดินทางไปใส่อาหาร ไม่ใช่อาหารแห้ง อาหารสุก แต่อย่างใด แต่คือเนื้อดิบๆ ผักสดๆ ถึงว่าแอบเห็นโบธปาดเหงื่อตอนแบกมา คือส่วนประกอบในการทำอาหารมันเยอะมากจริงๆ
“เราตั้งใจว่าถ้าหมอไม่โยนเราออกจากรถ หีบนี้คงได้ใช้ เราจะมาทำอาหารขอโทษหมอกันค่ะ”
นดนำทีม เดินตรงไปข้างหน้า
“อี่มิว ห้องครัวอยู่ไหน” ให้มันได้อย่างนี้สิ
แล้วหีบที่เหลือจะมีอะไรซ่อนไว้อีกนะ
เขาไม่อยากให้เปิดมันเลยจริงๆ
“กลับมาแล้วครับ”
“…”
หมออึ้ง เมื่อเห็นเหล่าแองเจิลทั้งสี่คนยังนั่งหน้าสลอนเรียงรายกันอยู่ที่โซฟา ส่งยิ้มแป้นมาให้หมอ
มิวปาดเหงื่อ
ขอโทษนะหมอ ไล่แม่งแล้ว แต่พวกมันไม่ไป T^T “เย้ หมอกลับมาแล้ว”
นดลุกขึ้นแล้วลูกทีมก็ลุกขึ้นตาม คำว่าทำงานกันเป็นทีมมันคือดีงาม
“อะไรกันครับ”
หมองง
“เราอยากจะขอโทษหมอค่ะ เรื่องเมื่อกลางวัน”
นดเดินนำไปทางห้องครัว คือ นี่ห้องใคร?
หมออึ้ง และเงียบไป มิวกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ
“…”
“…”
“…”
“…”
“…”
“ดีเลยครับ นี่ยังไม่ได้กินอะไรมาเลย”
ถอนหายใจอย่างโล่งอกมากมาย
สรุปคือทั้งเขา หมอ และผองเพื่อนจึงอยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันโดยปริยาย แอบบ่นว่าแกงจืดคือไม่จืด แต่เค็มจัดมาก ไม่ต้องถามว่าฝีมือใคร ให้ทาย… นดเพื่อนรักนั่นเอง ส่วนอันอื่นอร่อยหมดนะ ทุกคนหัวเราะตอนที่หมอถึงกับสำลักแกงจืดเมื่อตักเข้าปากรอบแรก ถือว่าเป็นมื้ออาหารที่ดูอบอุ่นมาก และมิวก็อุ่นใจ
หมอเข้ากับเพื่อนเขาได้…
อย่างนี้เรียกอะไรๆก็เป็นใจรึเปล่านะ
แต่เขาลืมใครไปรึเปล่า
‘ที่ห้องหมอค่ะ อุกรี๊ด’
E’Nod ได้อยู่กับ
หมอ หล่อ Thanakorn’X โบธ โบธ Kim Hee และ
Neeranach แล้วหมอผู้ที่หวงห้องอย่างกับอะไรดีคนนี้น่ะเหรอ
ใครจะเชื่อว่าจะยอมให้คนอื่นรุกล้ำเข้าไปง่ายๆ
ขนาดใครที่เรียกได้ว่าน้องนุ่งแล้ว ยังไม่เคยมีโอกาสได้สัมผัสประตูห้องเลย
ทั่วโลกโซเชี่ยลต่างงงงัน
พวกคนในรูปเป็นใครกัน
นอกจากมิวที่ว่าสำคัญกับหมอแล้ว สี่คนนั้นล่ะ มีความสัมพันธ์ยังไง
‘
#รักมิวต้องรักเพื่อนของมิวค่ะ’
Neeranach ได้โพสต์ตอบโจทย์ด้วยแฮชแท็กใต้รูป
‘กรี๊ด คือมิวสำคัญจริงอะไรจริง’
‘นี่ขนาดว่าเราเป็นเพื่อนนังบอย
#พี่รหัสหมอ ยังไม่ขนาดนี้นะ’
‘เป็นเพื่อนนิว
#ลุงรหัสหมอปี่สี่ ยังไม่เคยได้เหยียบห้อง’
‘น้องโชคดีมากค่ะ’
‘มิวขอป้ะ เลยให้เข้าไปได้ คือแบบคนสำคัญของมิวอะไรงี้ กรี๊ดค่า’
‘#ทีมมิว #ทีมหมอขี้อ่อย #ทีมมิวเขินแรง #ทีมเพื่อนมิว #ทีมแอดมินเพจคิ้วท์บอย #ทีมเจ๊บอย
#ทีมหมอมิว’
Por Pae ได้แสดงความคิดเห็นในรูปที่มีคุณ
‘ลืมกูมั้ย ตอบ’
ลืมไปเลย จริงๆ…
“ทุกคนคะ เปิดหีบ”
พอทานเสร็จ ทุกคนก็มารวมตัวกันที่ห้องกลาง กลายเป็นห้องนั่งเล่นกลายๆไปแล้ว
ประเป๋าใบที่สอง สาม และสี่ถูกเปิดตามมา
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ
เหล้าเบียร์ครบครัน
ยืนยันว่าทุกหีบ
“มันต้องมีนี่ค่ะ มาสนุกกัน” นดปรบมือ
“กูอยากกินแล้ว เปรี้ยวปาก” นีแลบลิ้นเลียริมฝีปาก
“เอามาเหอะ” แม้แต่ขิม เธอก็แทบจะคุกเข่าร้องขอสุรา
“เคลียร์ห้อง”
แล้วพวกนางก็ไม่ถงไม่ถามเจ้าของห้อง ช่วยกันดันโซฟาไปติดผนัง เคลียร์พื้นห้องจนโล่ง แล้วทรุดนั่งลง นดหันไปหยิบขวดแรกออกมา
“วอดก้า”
นี่คือวันว่างของเด็กอักษร = =
หมอเองก็ทรุดนั่ง พร้อมแก้วมากมายที่หายไปเอาจากครัว น้ำแข็งพร้อมเสร็จสับ วงเหล้าก็มา
“เราจะไม่กระดกกันแบบอึกๆๆๆธรรมดานะคะ มันต้องมีเกมส์”
นดว่า เน้นเสียง ส เสือ ชัดมาก
“เกมง่ายๆค่ะ เป่ายิงฉุบ ใครชนะ ชี้ได้ว่าจะให้ใครกินค่ะ”
พวกเราเริ่มเกมส์กันอย่างรวดเร็ว
มือทั้งหกยื่นออกมาเป่ายิงฉุบ
“กูค่ะ กูชนะ” นดโพล่งออกมาอย่างดีใจ
“วอดก้าเพียวๆแก้วนี้ เชิญเพื่อนมิวค่ะ”
เขากลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่
“ดื่ม ดื่ม ดื่ม”
เสียงโห่ร้องของเหล่าแองเจิล แม้แต่หมอก็เอาด้วย ปรบมือ ป้องปากโห่ร้องกันใหญ่ เขากระดกเข้าปากอย่างรวดเร็ว โอ้ย แสบคอ
เกมส์ได้เริ่มต้นอีกครั้ง…
“ยิงงงงงงงงงงงงงง ฉุบ!”
“กู กรี๊ด” นีตะโกนดีใจ
“อี่มิว ดื่ม”
เขากระดกแก้วที่สอง
เขากระดกแก้วที่สาม
เขากระดกแก้วที่สี
เขา…แก้วห้า
เขา…แก้วหก
เขา…แก้วเจ็ด
และ
ก็ยังเป็นเขาที่กระดกแก้วที่แปด
แล้วอะไรคือความอยากกินเหล้าของเหล่าแองเจิล เอาจริงๆตอนนี้ไม่มีใครได้แตะวอดก้า… ยกเว้นเขา
นี่มันรุมมอมเหล้าชัดๆ
…นี่มันอะไร
ความรู้สึกเคว้งคว้างนี่คืออะไร พื้นห้องหมอเอียงไปนะ
“มิวตอนนี้แหละ ดึงความกล้าออกมาค่ะเพื่อน”
ความกล้าเหี้ยไร แล้วใครกระซิบที่หู “บอกหมอตอนนี้”
“บอกเหี้ยรายยยยยยยยยยยย”
“มึงชอบหมอป่ะ”
“กูร๊ากมาน”
“งั้นบอกให้มันฟัง มันนั่งอยู่ตรงหน้ามึงนิ”
“อึ๊ กูม่ายกล้าบอก กูกลัววววววว”
“งั้นกูถามมึง มึงตอบดังๆนะ” “…”
“มึงชอบหมอมั้ย” …
“อืม กูชอบหมอ ชอบมาก ชอบเหี้ยๆ แอบชอบมาปีกว่า แอบมองตลอด” “…”
“แต่แม่ง ไม่เคยเห็นหัวกู มึงจำไม่ได้เหรอวะ ตอนรับน้อง กูนี่…กูเป็นคนบอกทางไปคณะวิศวะให้มึง”
“…”
“ละตอนลงทะเบียนเรียน ใคร… ไม่ใช่กูเหรอที่คอยบอกว่ากรอกตรงไหนบ้าง”
“…”
“มึงมันหล่อ มึงโคตรหล่อ โคตรๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หล่อเลย”
“…”
“ใครๆก็ชอบมึง มึงแม่งดังตั้งแต่ปีหนึ่ง อย่างนี้กูจะกล้าทักมึงมั้ย แต่เอาจริงๆ มึงเสือกจำกูไม่ได้”
“…”
“กูเสียใจมาก วันนั้นกูฉีกหนังสือประวัติศาสตร์เล่มแรกเลยนะ ไม่มีใครทำให้กูฟิวขาดขนาดถึงกับฉีกหนังสือที่กูรักขนาดนี้ เพราะมึงเลย กูต้องมานั่งแปะหน้าหนังสือที่ฉีกใหม่”
“…”
“กูไม่รู้ว่ากูเป็นเหี้ยอะไร วันๆกูคอยตามแต่มึง เล่นเฟสรอมึงอัพตัส”
“…”
“ไม่รู้แม้กระทั่งว่ากูแอบมองมึงนานแค่ไหน”
“…”
“แต่รู้อีกที กูก็คอยมองหามึงตลอด มึงเป็นคนเฟรนด์ลี่ เป็นคนดี ดีมาก ดีมากมาย ดีเหี้ยๆ ดีไปหมด”
“…”
“กูตามไปทุกที่ที่มึงไป ใช่…กูไม่ชอบเล่นเฟส มึงก็บังคับให้กูสมัครกลายๆจนได้เพราะมึงชอบเล่น เพราะอยากรู้ทุกความเคลื่อนไหวของมึง มึงไปเตะบอล ถามกูนี่ กูต้องเลิกดึกดื่นกลับหอทุกวัน บางวันต้องปีนขึ้นห้อง เพราะมึงเสือกเลิกช้า แต่กูไม่เคยชิงกลับก่อนเพราะกูอยากอยู่กับมึงนานๆ”
“…”
“ตอนปีหนึ่งกูโคตรบ้ามึง”
“…”
“แต่แล้วมันก็เหมือนฝัน”
“…”
“มึงกับกูกลายมาเป็นว่าสนิทกันโคตรเร็วซะงั้น มันโคตรเหมือนฝันเลย”
“…”
“กูแอบตื่นก่อนมึงทุกเช้า เพราะกูอยากเห็นหน้ามึง วันแรกที่มาค้างด้วยกัน กูแอบถ่ายรูปมึงตอนนอนไว้ด้วย ฮะๆ กูเหมือนพวกโรคจิตเลยนะ”
เขาเงียบอยู่นานมากเมื่อสิ้นประโยคข้างบน… มาถึงแล้ว การตัดสินใจ สิ่งต่อจากนี้ไป คือต้องเตรียมใจรับมัน
“…”
“แต่มีบางอย่างอยากให้มึงฟัง” “…”
“ตอนนี้กูพร้อมแล้ว ตั้งใจฟังนะ” เขาสูดลมเข้าปอด
เพราะฤทธิ์สุราหรืออะไรไม่ทราบ ที่ทำให้เขามีความกล้าขนาดนี้
ตอนนี้เขากำลังจะพูดมันออกมาแล้ว
คำๆนั้น ที่เก็บเอาไว้แสนนาน
“กูรัก…”
ตึง! “เหี้ย”
“มึง ปลุกหมอมาฟังก๊อนนนนนนนน”
เกิดความชุลมุนวุ่นวาย เมื่อร่างของหมอล้มตึงไปต่อหน้าต่อตา
…
หมอแม่ง หลับเฉย “ใครจะไปรู้วะ แม่งแตะวอดก้าแก้วเดียว คออ่อนเหี้ยๆ”
โบธพูดขณะตัวเองก็เขย่าร่างหมอไป
T^T
“อี่มิว อย่าช็อค”
“อี่มิว อย่าร้อง”
ว่าแล้ว…
เขาว่าแล้ว
ไม่น่าหลงไว้ใจแผนการเหี้ยๆนี่เลย
เอาคำพูดเขากลับคืนมา
สรุปคือ…
พัง พัง และพังTo Be Continue
********************************************************************************************
15
◤แอบรัก◢
มามุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้ง งุงิ ที่นี่...
MewSN