คาบเรียนที่ 3 ยังไง 1 ก็แพ้ 2
"............."
ผมนิ่งเงียบไปครู่นึง เมื่อได้ยินแบงค์ตอบมาเช่นนั้น ผมพยายามใช้สมองอันน้อยนิดประมวลผล
"เฮ้ย ได้ไงน่ะ ก็......เมื่อวานยังเห็นยิ้มดีใจอยู่เลยไม่ใช่เหรอ แล้วไหง...?"
ผมถามแบงค์ด้วยสีหน้าสงสัย โดยไม่ได้บอกไปด้วยว่าผมเองได้แอบตามไปดูจนถึงหน้าประตูโรงเรียน (จะบอกได้ไงล่ะ) แต่แบงค์ไม่ตอบอะไรออกมา ได้แต่ยิ้มอย่างเดียว
.
ยิ้มที่ดูเหงา และเศร้ายังไงไม่รู้
.
มันเป็นเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับผมเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ผมก็รู้สึกอยากจะช่วยจริงๆ
แม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี และทันทีที่ผมคิดเช่นนั้น
"ป่ะ"
ผมเก็บสัมภาระทั้งหมดใส่กระเป๋า แบงค์เงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยความสงสัย
"ไปไหนครับ ?"
"ไปหาที่พักผ่อนหย่อนใจกัน"
ผมพูดพร้อมกับหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพาย แบงค์ยังคงทำหน้างุนงง แต่ผมก็ยังคงทำหน้าหน้ายิ้มคะยั้นคะยอ จนในที่สุดแบงค์ก็ลุกขึ้นตามผมมา
ผมเดินนำหน้าแบงค์ไปยังมอเตอร์ไซต์ของผมที่จุดจอดรถ ทันทีที่เดินไปถึง ผมก็หยิบกุญแจยื่นให้แบงค์ แบงค์มองผมด้วยสีหน้าสงสัย
"ไปมอไซต์เรานี่ล่ะ แต่นายขี่"
"เอ้า ทำไมงั้นล่ะครับ ?"
แบงค์ถามผม
"เราถือคติไม่ขี่ให้ใครซ้อนท้ายด้วยน่ะ อีกอย่างนายตัวใหญ่ด้วย เราทรงตัวลำบาก แห่ะๆ เออน่ะ นายขี่อ่ะดีแล้ว เดี๋ยวเราบอกทางเอง"
ผมตอบกลับไปพร้อมกับยิ้มแห่ะๆ ให้ ก่อนที่จะเขย่ากุญแจในมือ แบงค์ยิ้มหัวเราะ หร้อมกับส่ายหัวเบาๆ ก่อนที่จะหยิบกุญแจรถจากผมไป
ผมขึ้นซ้อนท้ายทันทีที่แบงค์สตาร์ทรถ พร้อมกับบอกเส้นทางให้แบงค์ ซึ่งก็ใช้เวลาไม่นานนักก้ถึงที่หมาย
.
"ที่นี่ที่ไหนน่ะครับ ?"
แบงค์เอ่ยถามผมทันทีที่หาที่จอดรถได้ ผมหันไปมองแบงค์ด้วยสีหน้าตกตะลึง
"เฮ้ย ไม่รู้จักอ่างแก้วเหรอเนี่ย ?"
แบงค์หันไปมองรอบๆ ก่อนที่จะหันมามองผม
"อ๋อ เคยได้ยินชื่ออยู่เหมือนกัน แต่ไม่เคยมาเลยน่ะครับ"
.
อ่างแก้ว เป็นอ่างกักเก็บน้ำที่ตั้งอยู่ใน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรือที่รู้จักกันในชื่อ มช. มีชื่อมาจากน้ำห้วยแก้วที่ไหลลงมาจากดอยสุเทพ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อแห่งนึงของเชียงใหม่ โดยเฉพาะในช่วงเวลายามเย็นเช่นนี้ จะมีผู้คนมากมายต่างกันมาที่นี่
ผมเองก็เป็น 1 ในนั้น บ่อยครั้งหากผมไม่รู้จะไปไหน หรือรู้สึกไม่สบายใจ ผมก็จะมาที่นี่
.
"ว่าแต่พาผมมาที่นี่ทำไมเหรอครับ ?"
แบงค์หันมาถามผมที่ตอนนี้กำลังอ้าแขนรับลมยามเย็นอยู่ ผมเองเมื่อได้ยินแบงค์ถามเช่นนั้น ก็หันไปยิ้มให้แบงค์
"ก็......ไม่มีอะไรมาก ก็แค่อยากเปลี่ยนบรยากาศเฉยๆ น่ะ อีกอย่างดูนายไม่ค่อยสดชื่นเลย ก็เลยคิดว่าน่าจะช่วยอะไรได้บ้าง หรือนายคิดว่าเรายุ่งอะไรไม่เข้าเรื่องหรือเปล่าน่ะ ?"
ผมทำหน้าหงอยทันทีที่พูดออกไป แบงค์เองเมื่อเห็นสีหน้าเช่นนั้นของผมก็อมยิ้มพร้อมกับหัวเราะเบาๆ ในลำคอ ก่อนที่จะเอามือมาขยี้หัวผมเบาๆ แล้วจึงเดินนำหน้าผมไป
แบงค์เดินไปตามทางเรื่อยๆ โดยที่มีผมเดินตามหลัง แบงค์หยุดนิ่งครู่นึง ก่อนที่จะก้มหยิบก้อนหินก้อนนึงขึ้นมา แล้วจึงเดินไปยังม้านั่งที่อยู่ข้างทางเดิน
แบงค์วางมันลงตรงมุมของม้านั่ง ด่อนที่จะนั่งยองๆ ลงข้างม้านั่งนั้นโดยที่สายตายังคงจดจ่ออยู่กับก้อนหินนั้น ในขณะที่ผมได้แต่ยืนสงสัยว่าแบงค์เขาจะทำอะไรของเขากันน่ะ
ไม่นานนัก แบงค์ก็ล้วงหยิบมือถือของตัวเองออกมาปลดล็อคหน้าจอ แล้วจึงกดถ่ายรูปหินก้อนนั้น
อ๋อ อย่างนี้นี่เอง
.
ผมยังคงไม่พูดอะไร ปล่อยให้แบงค์ถ่ายรูปต่อไปเรื่อยๆ จากก้อนหินไปยังดอกไม้ จากดอกไม้ไปยังต้นหญ้า จากต้นหญ้าไปโคมไฟ และอื่นๆ อีกมากมาย ก่อนที่จะนั่งลงข้างทางเดินริมอ่างแก้ว
แบงค์มองทอดยาวออกไปยังดอยสุเทพซึ่งอยู่อีกฝั่งนึงของอ่างแก้ว ก่อนที่จะยิ้มเล็กๆ ออกมา แล้วจึงหันมามองหน้าผม ที่ตอนนี้กำลังนั่งลงอยู่ข้างๆ แบงค์
"ขอบคุณนะครับ ที่พามา"
แบงค์เอ่ยขอบคุณพร้อมกับก้มหัวให้ผมเบาๆ ผมรีบก้มหัวตอบรับทันทีด้วยความเกรงใจ ก่อนที่จะหันไปมองยังดอยสุเทพเช่นเดียวกับแบงค์
.
"ทำไมไม่ไปง้อดูล่ะ ?"
ผมเอ่ยถามขึ้น ก่อนที่จะหันไปมองแบงค์ที่ตอนนี้ยังคงมองไปยังดอยสุเทพอยู่
"ช่างเถอะครับ"
แบงค์พูดพร้อมกับหยิบก้อนหินข้างตัวขว้างออกไปข้างหน้า
"เคยลองแล้วครับ แต่ไม่ได้ผล เมื่อวานที่นันท์เห็นผมยิ้ม เพราะผมคิดว่าเธอจะกลับมาน่ะครับ แต่ความจริงแล้ว ก็คงมีแต่ผมที่คิดไปเอง"
ผมได้แต่นิ่งเงียบ เมื่อได้ยินแบงค์พูดออกมาเช่นนั้น จึงได้แต่ก้มหน้าลงไม่พูดอะไรออกมา
"เป็นอะไรเหรอครับ ?"
คราวนี้แบงค์เป็นฝ่ายถามผมบ้าง ผมเงยหน้าขึ้นมามองแบงค์ด้วยสีหน้างงๆ ก่อนที่สมองอันน้อยนิดของผมจะประมวลผลได้
"อ๋อ เปล่าๆ ไม่ได้เป็นอะไร พอดีแค่กำลังสงสัยอะไรบางอย่าง"
"อะไรเหรอครับ ?"
แบงค์ถามผมอีกครั้ง ผมทำท่าเหยียดแขนบิดขี้เกียจ ก่อนที่จะยืดขาออก นั่งทำท่าห่อไหล่ พร้อมกับมองออกไปข้างหน้า
"ก็เรื่องความรักน่ะสิ บางทีก็สงสัยนะว่าทำไมคนเราต้องเศร้า ต้องร้องไห้เสียน้ำตาให้กับความรักด้วย"
"นันท์ไม่เคยมีแฟนเหรอครับ"
แบงค์หันมาถามผมด้วยสีหน้าสงสัย ช่างเป็นคำถามที่กรีดใจผมจริงๆ ผมส่ายหัวเป็นคำตอบ
"ไม่รู้สิ เราไม่เคยมีแฟน ไม่สิ ไม่เคยสนใจมากกว่า อาจจะเพราะเรายังรู้สึกสนุกอยู่กับเพื่อนๆ มากกว่าก็เป็นได้ จนบางทีเราก็ยังคิดสงสัยเลยนะ ว่าชีวิตนี้เราจะสามารถรักใครได้จริงๆ หรือเปล่า ?"
ทันทีที่ผมพูดจบ ผมก็เป็นฝ่ายหยิบก้อนหินขึ้นมาขว้างบ้าง
.
"ได้สิ"
แบงค์พูดขึ้นมา ผมหันไปมองแบงค์
.
"เพียงแต่นันท์ยังไม่เจอคนๆ นั้นที หรืออาจจะเจอแล้ว แต่ยังไม่รู้ตัวทีก็เป็นไปได้นะ"
แบงค์บอกกับผม ทำเอาผมถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ
เดี๋ยวนะๆ ตอนนี้ใครเป็นฝ่ายปลอบใจใครกันแน่วะ ???
.
"พูดซะหล่อเลยนะ ว่าแต่นายเหอะ มีแฟนมาแล้วกี่คนเนี่ย ?"
ผมถามแซวกลับไป แบงค์ทำท่าครุ่นคิดอยู่ครู่นึง ก่อนที่จะหันมามองผม
"4 ครับ"
"!!!!!!!"
ผมถึงกับตะลึงทันทีที่ได้ยินคำตอบนั้น
"แต่ก็โดนบอกเลิกหมดทั้ง 4 คนเลยครับ"
ผมทำตาโตตะลึงหนักกว่าเดิมอีก
"ไหงงั้นล่ะ ?"
ผมถามด้วยความสงสัยอย่างรุนแรง เพราะคิดๆ ดูแล้ว แบงค์ก็ออกจะดูเพียบพร้อมในระดับนึงอยู่นะ
.
"ก็ไม่รู้สิครับ เท่าที่จำได้ คนแรกบอกว่า ผมดีเกินไป"
หือ ???
"คนที่สองบอกว่า ผมไม่เร้าใจพอ"
หา ??????
"คนที่สามบอกว่า ผมไม่เข้าใจเธอ"
เห ?????????
"คนล่าสุดเมื่อกี้คนที่ 4 นี่ก็บอกว่าผม น่าเบื่อเกินไป"
.
".........."
".........................................."
อ่า อืม.....เอ่อ.......จะว่ายังไงดีล่ะ พอลองฟังเหตุผลของสาวๆ ทั้ง 4 แล้วมาลองคิดทบทวนดูอีกที
มันก็อาจจะจริงตามนั้นก็ได้นะ
.
"แล้วเป็นไงล่ะ อกหักมาถึง 4 ครั้ง เข็ดขยาดมั่งรึเปล่าเนี่ย ?"
ผมยิ้มแซวพร้อมกับเอาศอกแตะไหล่แบงค์เบาๆ
.
.
"ไม่รู้สิครับ จริงๆ ที่ผ่านมาทั้ง 4 คนนั้น ก็เป็นฝ่ายมาขอคบกับผมก่อนทั้งนั้น"
ครับ ไอหล่อเลือกได้ น่าหมั่นไส้แต๊ๆ
"อาจจะมีนอยด์ๆ ไปบ้าง แต่อีกสักพักก็คงหาย มุมมองอาจจะเปลี่ยนไป แต่อย่างไร ความรักมันก็ยังสวยงามเสมอ แค่เราอาจจะยังไม่เจอความรักที่ใช่สำหรับเรา ก็แค่นั้นล่ะ"
แบงค์พูดพร้อมกับมองออกไปข้างหน้า ผมนิ่งเงียบไปครู่นึง
.
- ความรักที่ใช่ - อย่างนั้นเหรอ ???
.
"เออใช่ เมื่อกี้เห็นถ่ายรูปนี่ ชอบถ่ายรูปเหรอ ?"
ผมหันไปถามแบงค์ทันทีที่นึกขึ้นได้ แบงค์หันมาพยักหน้าให้ผมแทนคำตอบ
ซึ่งจะว่าไป ผมก็เพิ่งจะฉุกใจคิดได้ว่า ที่กระเป๋านักเรียนของแบงค์นั้น มีพวงกุญแจที่ทำมาจากกลักฟิล์มห้อยอยู่ด้วย
ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากในยุคนี้ที่นิยมใช้ เมมโมรี่กันแล้ว
"ขอดูหน่อยได้ป่ะ"
ผมถามพร้อมฉีกยิ้มให้แบงค์ แบงค์หยิบมือถือของตัวเองออกมาปลดล็อคหน้าจอ ก่อนที่จะเปิดแกลลอรี่รูป แล้วจึงยื่นมาให้ผม
ผมสไลด์ดูรูปไปเรื่อยๆ
"มีแต่รูปสิ่งของกับธรรมชาติทั้งนั้นเลยนี่ ?"
ผมหันไปถามแบงค์ ก่อนที่จะก้มดูรูปต่อ
"ครับ"
แบงค์ตอบกลับมาแค่นั้น รูปทั้งหมดที่แบงค์ถ่ายไว้มีแต่รูปสิ่งของ ธรรมชาติ ไม่ก็สถานที่ต่างๆ แต่ไม่มีรูปคนแม้แต่รูปเดียว
.
"ทำไมไม่ถ่ายรูปคนมั่งล่ะ ?"
ผมถามแบงค์อีกรอบ แบงค์นิ่งเงียบไปครู่นึง ก่อนที่จะใช้นิ้วชี้ยกขึ้นมาเกาจมูกตัวเองเบาๆ
"จะว่ายังไงดีล่ะครับ เรียก สไตล์ ก็คงได้ล่ะมั้งครับ ผมชอบถ่ายรูปแนวนี้มากกว่าน่ะครับ รูปคนในมุมมองผมมันดูชัดเจนเกินไป ต่างจากรูปพวกนี้ อีกอย่างรูปบางรูป บางทีมันก็สื่อความหมายในสิ่งที่เราไม่สามารถพูดออกมาได้"
"อย่างรูปนี้น่ะเหรอ ?"
ผมถามพร้อมกับเปิดรูปก้อนหินบนม้านั่งที่แบงค์เพิ่งถ่ายเมื่อกี้
"ครับ ดูแล้วคิดยังไงครับ ?"
แบงค์ถามผมกลับ
.
ผมมองดูรูปนั้นอีกรอบพร้อมกับพยายามตีความหมายของมัน
"ดูเหงาๆ ยังไงไม่รู้แฮะ
"อย่างงั้นเหรอครับ"
แบงค์หันมามองผม พร้อมกับยิ้มให้ผม
.
"ก็อาจจะเป็นอย่างงั้นก็ได้มั้งครับ"
แบงค์พูดก่อนที่จะหันไปหยิบหินขึ้นมาขว้างออกไปอีกรอบ ผมเองก้พอจะสังเกตได้ว่า ถึงแม้แบงค์จะไม่ถึงขั้นร้องไห้ฟูมฟายอะไรขนาดนั้น แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าเขาเองก็คงรู้สึกเหงาอยู่ไม่ใช่น้อย
.
มีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้บ้างนะ
อ๊ะ จริงสิ
ทันทีที่ผมคิดได้เช่นนั้น ผมก็ลุกขึ้นพร้อมกับหยิบมือถือของแบงค์มาด้วย แบงค์หันมามองผมด้วยความสงสัย แต่ก็ยังไม่ได้ลุกตามมา
ผมเดินไปยังม้านั่งตัวที่แบงค์ถ่ายเมื่อกี้ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลมาก ผมพยายามหาก้อนหินขนาดใกล้เคียงกับที่แบงค์ถ่าย แล้วจึงหยิบมันขึ้นมาวางลงบนม้านั่ง ก่อนที่จะหาโฟกัสให้คล้ายกับที่แบงค์ถ่ายให้ได้มากที่สุด
.
"ทำอะไรเหรอครับ ?"
แบงค์ถาม ผมหันกลับไปก่อนที่จะลุกขึ้นพร้อมกับยิ้มแห่ะๆ ให้กับแบงค์ แล้วจึงยื่นมือถือส่งคืนให้แบงค์
"ดูสิ"
ผมบอกแบงค์ให้ดูรูปที่ผมถ่าย แบงค์มองผมด้วยสีหน้างุนงงเล็กน้อย ก่อนที่จะหยิบมือถือขึ้นมาดู
แบงค์นิ่งเงียบไปครู่นึง ก่อนที่จะอมยิ้มหร้อมกับหัวเราะเบาๆ ออกมา
"อะไรครับเนี่ย ?"
แบงค์เงยหน้าขึ้นมาถามผม ผมเดินไปยืนข้างๆ แบงค์
.
"ก็รูปที่นายถ่ายน่ะ มันมีก้อนหินแค่ก้อนเดียวใช่ป่ะ ?"
แบงค์พยักหน้าให้กับคำถามของผม
"ก็นั่นล่ะ มันก็เลยดูเหงาๆ เหมือนนายยังไงล่ะ ทีนี้เราก็เลยถ่ายใหม่ โดยเพิ่มหินเข้าไปอีก 1 ก้อน เป็น 2 ก้อน ยังไงล่ะ"
ผมพูดพร้อมกับชี้ไปยังก้อนหิน 2 ก้อนที่วางอยู่บนม้านั่ง แบงค์หันไปมองครู่นึงก่อนที่จะหันกลับมาดูรูปอีกครั้ง
.
"ถ้าหินก้อนแรกเป็นผม แล้วหินก้อนที่ 2 นี่ล่ะครับ เป็นใคร ?"
แบงค์ถามผมก่อนที่จะชี้ไปยังหินบนม้านั่ง
"ก็เราไง"
ผมตอบออกไปพร้อมกับใช้นิ้วโป้งชี้มาที่ตัวผมเอง
"อะไรนะครับ ?"
แบงค์ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
"ก็....แค่อยากให้นายรู้ไว้น่ะ ว่านายยังมีเราอยู่ข้างๆ นะ เวลาที่รู้สึกเหงาน่ะ"
.
ผมพูดพร้อมกับยิ้มให้แบงค์ แบงค์นิ่งเงียบไปครู่นึง ก่อนที่ผมจะฉุกใจคิดอะไรได้บางอย่าง
"เฮ้ยๆ อย่าเข้าใจผิดนะ ไม่ได้หมายความอะไรอย่างอื่นนะ หมายถึงว่านายยังมีเราอยู่เป็นเพื่อนอยู่ข้างๆ น่ะ"
ผมรีบพูดออกตัวทันทีที่คิดได้ แบงค์เองเมื่อได้ยินเช่นนั้น ก็มองดูรูปอีกรอบ
.
"ขอบคุณนะครับ"
แบงค์พูดพร้อมกับอมยิ้ม ซึ่งมันก็ทำให้ผมรู้สึกดีตามไปด้วย
.
"เอาล่ะ คราวนี้นายลองถ่ายรูปเราให้หน่อย พอดีเราจะทำรูปโปรไฟล์ใหม่น่ะ"
ผมพูดพร้อมกับหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋าเกงเกง แล้วจึงยื่นให้แบงค์ แบงค์ทำหน้างงเล้กน้อย ทันทีที่แบงค์รับมือถือผมไป ผมก็ถอยห่างทิ้งระยะออกมา ก่อนที่จะตั้งท่าให้แบงค์ถ่าย
แบงค์ยืนนิ่งอยู่ครู่นึง ก่อนที่จะหยิบมือถือขึ้นมาตั้งท่าจะถ่ายรูป
.
"เอ่อ ผมว่า นันท์ยืนตัวตรงดีกว่านะครับ"
"อ่าว ไมง่ะ เฮ้ย ท่านี้เราว่าเด็ดแล้วนะ"
ผมถามกลับไป ในขณะที่ยังคงตั้งท่าค้างไว้อยู่
"เอาเถอะครับ เชื่อผม"
แบงค์ยังคงยืนยันคำเดิม ผมจึงต้องทำตาม อ่ะๆ ยืนตัวตรงก็ได้วะ
หลังจากที่ผมยืนตัวตรงตามที่แบงค์บอก แบงค์ก็เดินเข้ามาหาผม
"อ้าว ทำไรน่ะ ?"
ผมถามด้วยความสงสัย ในขณะที่แบงค์เดินเข้ามาหยุดตรงหน้าผม ใกล้ชนิดที่ผมต้องเงยหน้ามองหน้าแบงค์ (เกิดมาเตี้ยก็แบบนี้ล่ะ - -*)
"หลับตาลงครับ"
"ห๊ะ อะไรนะ ?"
ผมขมวดคิ้วด้วยความสงสัยทันที
"เอาเถอะครับ เชื่อผม"
แบงค์ยังคงยืนยันคำเดิม ผมจึงหลับตาตามที่แบงค์สั่ง เอาวะ อย่าเถียงตากล้อง
.
"หลับตาไว้นะครับ ห้ามลืมตาจนกว่าผมจะบอกนะ"
แบงค์บอกกับผม ผมพยักหน้ากลับไปเป็นคำตอบ
.
.
"......."
.
.
"............................"
.
.
แชะ..!!!!
.
"ลืมตาได้แล้วครับ"
ทันทีที่แบงค์พูดจบ ผมก็รีบลืมตาทันที แบงค์ยื่นมือถือให้ผม ก่อนที่จะหันหลังเดินออกไป ผมหยิบมือถือขึ้นมาดูทันที
.
"เฮ้ย อะไรเนี่ย ????"
ผมตะโกนด้วยความแปลกใจ ทันทีที่เห็นรูปซึ่งเป็นรูปรองเท้าของผม ย้ำครับ ว่า "รองเท้า" ผมรีบเดินตามหลังแบงค์ไปทันที
"ก็ผมไม่ถ่ายรูปคนนี่ครับ"
แบงค์หันกลับมายิ้มให้ผมก่อนที่จะหันหลังกลับไป แล้วเดินนำหน้าไปต่อ
"แต่เฮ้ย มันก็น่าจะมีข้อยกเว้นกันมั่งดิ"
"ไปกันเถอะครับ เดี๋ยวจะมืดเสียก่อน"
แบงค์พยายามเฉไฉไปเรื่องอื่น ในขณะที่ผมยังเดินตามหลังพร้อมกับบ่นไปด้วย
.
.
ท่ามกลางสายลมยามเย็นที่กำลังพัดผ่านอยู่นั้นเอง
อาจจะมีบางสิ่งบางอย่างกำลังเริ่มก่อตัวโดยที่เราไม่รู้ตัว หรือไม่ทันสังเกต
.
.
ก็เป็นได้..............................
.
.
จบคาบเรียนที่ 3