“‘sea of love’ is… someone be loved. ‘flower of love’ is… someone love”
ติดแฮชแท็ก #พี่ควอตซ์น้องเหนือ ในทวิตเตอร์ บท 29สายลมเย็นพัดเข้ามากระทบผิวกายให้รู้สึกสบายจนอยากจะกางสองแขนออกเพื่อรับลมนั้นเต็มๆ อาจจะเป็นเพราะตอนนี้เป็นเวลาเย็นย่ำแล้วก็เป็นได้ แสงแดดที่เคยสาดส่องไปทั่วก็ลดแสงลง กลิ่นไอของทะเลลอยมาพร้อมๆ กับเสียงของคลื่นที่ซัดสาดเข้าชายหาด
น้ำเหนือก้าวเท้าเดินในจังหวะที่สม่ำเสมอปล่อยให้ทรายดูดกลืนฝ่าเท้าของเขาไปเรื่อยๆ โดยมีสาลี่เดินตามอยู่ใกล้ๆ
วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่พวกเขาจะอยู่ที่หัวหินเพราะงานของควอตซ์เสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว ตอนนี้ชายหนุ่มก็ไปตรวจเช็คงานเขาจึงขอมาเดินเล่นที่ริมทะเลอีกครั้งก่อนที่จะนั่งรถกลับ
“คุณหนูใหญ่คะสาลี่ว่าเรากลับไปรอคุณควอตซ์ที่ห้องกันดีกว่าค่ะ” สาลี่เอ่ยเรียกคนที่เดินอยู่ตรงหน้า “อีกอย่างก็ออกมานานแล้ว ตากลมมากๆ เดี๋ยวจะไม่สบายไปนะคะ แล้วถ้าไม่สบายละก็โดนห้ามออกไปไหนแน่นอนค่ะ ดีไม่ดีจะโดนคุณควอตซ์ดุด้วยนะคะ”
น้ำเหนือนิ่งไปนิดแต่ก็ยอมพยักหน้ารับแต่โดยดีเพราะคิดว่าทุกอย่างคงเป็นไปอย่างที่สาลี่พูดแน่ๆ ถ้าหากเขาดื้อจะเดินเล่นต่อ แล้วไม่สบายขึ้นมานอกจากจะโดนใครบางคนดุแล้วยังต้องโดนห้ามออกไปไหนมาไหนอีกแน่
“อย่างนั้นก็กลับกันเถอะครับ” น้ำเหนือพูดก่อนจะหันเดินไปอีกทางเพื่อตรงกลับไปยังห้องพัก
พลั่ก!
“คุณหนูใหญ่เป็นอะไรไหมคะ” สาลี่ร้องถามพร้อมกับปรี่เข้ามาดูคุณหนูใหญ่ทันทีด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นคุณหนูของตนเดินชนกับคนอื่นเข้า
เป็นห่วงทั้งตัวคุณหนูใหญ่แล้วก็คุณหนูทั้งสองในท้อง
“ไม่เป็นอะไรอะไรครับพี่สาลี่ ขอโทษด้วยครับผมไม่ทันมอง...” น้ำเหนือตอบสาลี่ก่อนจะหันไปขอโทษคนที่เดินชน เสียงท้ายประโยคเงียบหายไปเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเป็นใคร “ขอโทษครับคุณแอนนี่ เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ”
หญิงสาวตรงหน้าไม่ได้ตอบคำถามของน้ำเหนือเพียงแค่มองตรงมาที่เขาตรงๆ น้ำเหนือได้แต่เสมองไปมาเพราะรู้สึกอึดอัดกับสายตาของแอนนี่ ทั้งสองคนไม่มีใครพูดอะไรออกมา สาลี่เองก็ไม่กล้าพูดอะไรได้แต่ยืนมองคนทั้งสองเท่านั้น
แอนนี่มองน้ำเหนือนิ่งๆ ดวงตาของหญิงสาวมองสบเข้าที่ดวงตากลมโตของน้ำเหนือ ซึ่งเขาเองก็บอกไม่ถูกว่าสายตานั้นหมายถึงอะไร เป็นสายตาที่น้ำเหนืออ่านไม่ออก
ขาของน้ำเหนือก้าวถอยหลังเมื่ออีกฝ่ายขยับตัว แอนนี่นั่งลงก่อนจะเก็บซองยาที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นทรายขึ้นก่อนจะส่งมันให้กับน้ำเหนือ เพราะที่ชนกันแบบไม่ตั้งตัวเมื่อครู่ถุงยาที่น้ำเหนือถือเอาไว้ก็หล่นลงเพราะไม่ได้ถือดีๆ จนซองยามากมายกระเด็นออกจากถุงผ้า
“ขอบคุณครับ...” น้ำเหนือรับถุงผ้ามาถือและเอ่ยขอบคุณเบาๆ อย่างน้อยเขาก็ควรขอบคุณที่อีกฝ่ายเก็บของให้ ในขณะที่เขายังเอาแต่ยืนนิ่งอย่างทำอะไรไม่ถูก
แอนนี่ก็ยังคงไม่พูดอะไรนอกจากกวาดสายตามองไปทั่วตัวน้ำเหนือ ก่อนจะหันกลับเดินไปอีกทาง
“ระวังตัวเอาไว้ด้วย”นั่นคือสิ่งที่น้ำเหนือได้ยินก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินจากไป เขาได้แต่มองตามหญิงสาวไปจนกระทั่งอีกฝ่ายเดินเข้าไปในโรงแรมแล้ว ไม่เข้าใจในสิ่งที่แอนนี่พูดเลยสักนิด
“คุณหนูใหญ่คะ มีอะไรหรือเปล่า” สาลี่ร้องถามเมื่อเห็นน้ำเหนือนิ่งเงียบไปนาน “คุณแอนนี่เธอพูดอะไรไม่ดีหรือเปล่าคะ คุณหนูใหญ่อย่าไปสนใจอะไรเธอเลยค่ะ”
“เปล่าหรอกครับ ไม่มีอะไร ผมว่าเรากลับกันเถอะคุณแอนนี่มาเดินเล่นแบบนี้แสดงว่าคงคุยเรื่องงานกันจบแล้ว ถ้าผมกลับไปห้องช้าเดี๋ยวจะโดนพี่ควอตซ์ดุเอา” น้ำเหนือว่าก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องพัก และเลือกที่จะไม่พูดเรื่องของแอนนี่ขึ้นมาอีก
กว่าจะได้เดินทางกลับฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสีดำสนิท น้ำเหนือหลับตั้งแต่รถเพิ่งออกจากที่พักได้ไม่นานโดยที่นั่งหลับ ซบอกของควอตซ์ไว้
“สาลี่หยิบผ้ามาให้หน่อย” ควอตซ์เอ่ยบอกกับสาลี่เสียงเบาเพราะไม่อยากจะรบกวนคนหลับ
สาลี่รับคำก่อนจะหยิบผ้าห่มที่เอาติดมาด้วยมาส่งให้กับควอตซ์ที่รับไปคลี่ออกแล้วใช้มันคลุมตัวน้ำเหนือให้เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะหนาว ตามกำหนดการเดิมพวกเขาควรจะเดินทางกลับกันตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้วแต่เพราะมีงานบางส่วนที่จะต้องถ่ายซ่อมใหม่เลยกว่าจะได้ออกจากโรงแรมก็หลังจากมื้อเย็นจบลงแล้วในตอนหัวค่ำ
อีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงบ้านควอตซ์จึงให้ว่าที่คุณแม่ที่ทานข้าวทานยาเรียบร้อยแล้วนอนพักไปก่อน แม้ตอนแรกอีกฝ่ายจะดื้อดึงและเอ่ยปากว่าไม่ง่วง แต่รถออกจากโรงแรมได้ไม่นานคนที่บอกว่าไม่ง่วงก็ขยับมาซบอกเขาแล้วหลับไป
“โทรบอกที่บ้านหรือยังสาลี่ว่าเรากำลังจะกลับ”
“เรียบร้อยแล้วค่ะคุณควอตซ์ ป้ายุพินเล่าให้ฟังว่าคุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายพากันไปซื้อของเตรียมรับขวัญหลานกันแล้วหล่ะค่ะ”
คำบอกเล่าที่ทำให้ควอตซ์หัวเราะขำ ยิ่งใกล้กำหนดคลอดมากเท่าไหร่ทุกคนในบ้านก็ยิ่งตื่นเต้นมากเท่านั้น แน่นอนว่ารวมไปถึงตัวเขาด้วยเช่นกัน ควอตซ์แทบจะนับวันรอที่จะได้เห็นหน้าฝาแฝดตัวน้อยๆ เลยทีเดียว
ควอตซ์ก้มลงมองคนที่ขยับตัวซุกหาเขามากขึ้นก่อนจะระบายยิ้มออกมา ยกมือโอบว่าที่คุณแม่เข้าหาตัวเองมากขึ้น แนบจมูกลงกับกลุ่มผมนุ่มๆ นั้นอย่างแผ่วเบา ก่อนจะนั่งกอดน้ำเหนือไปตลอดทางตั้งแต่หัวหินจนกระทั่งถึงบ้านตระกูลบริสตัน
เขาไม่ได้ปลุกน้ำเหนือให้ตื่น เพียงแต่หันไปสั่งให้สาลี่และคนขับรถยกกระเป๋าของเขาไปเก็บแล้วให้แยกย้ายกันไปพักผ่อนเพราะว่าดึกมากแล้ว ส่วนตัวเขาก็จัดการอุ้มคนหลับขึ้นในอ้อมแขนแล้วพาเดินเข้าไปในบ้าน แวะทักทายลาพิสที่ยังไม่นอนแล้วเดินออกมาต้อนรับเพียงนิดหน่อยก่อนจะพาน้ำเหนือขึ้นไปบนห้อง
ว่าที่คุณพ่อจัดการเช็ดตัวแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับน้ำเหนือ เป็นชุดนอนที่เนื้อผ้านุ่มและใส่สบายกว่า ก่อนที่ตัวเขาเองจะเดินเข้าไปอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวนอนพักบ้าง หลังจากที่วันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน
ควอตซ์ขยับขึ้นไปบนเตียงจัดท่าทางของคนท้องให้เข้าที่เข้าทาง หยิบรีโมทมากดปิดไฟภายในห้องก้มลงหอมขมับคนหลับเบาๆ กระซิบบอกฝันดีทั้งว่าที่คุณแม่และลูกน้อยทั้งสอง ก่อนจะขยับตัวลงนอนแล้วสวมกอดคนท้องจากทางด้านหลัง รั้งน้ำเหนือเข้ามาใกล้จนหลังของน้ำเหนือแนบชิดไปกับอกของเขา
งานเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ของคิวเอ็นถูกจัดขึ้นในอีกหนึ่งสัปดาห์ถัดมาหลังจากที่กลับจากการถ่ายทำซีรี่ส์โฆษณาที่หัวหิน ในงานนั้นเชิญทั้งสื่อมวลชนแทบจะทุกสำนัก และแขกผู้มีเกียรติอีกหลายคน รวมไปถึงเหล่าเซเลป ไฮโซ และดาราดังๆ ที่ทุกคนต่างก็ล้วนเป็นลูกค้าของจิลเวล บริสตันด้วยกันทั้งนั้น
งานนั้นถูกจัดในห้องบอลรูมของโรงแรมหรูระดับห้าดาว ภายในงานอบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความอบอุ่น และกลิ่นหอมของดอกไม้นานาชนิดที่ประดับตกแต่งอยู่ทั่วภายในห้องจัดงาน ตั้งแต่ประตูทางเข้าที่มีแจกันวางอยู่บนเสาแบบโรมันที่มีช่อดอกไฮยาซินท์สีชมพูผสมกับดอกลิลลี่สีขาว
ส่วนด้านในงานนั้นประดับด้วยดอกไม้นานาชนิดแต่ทุกชนิดล้วนเป็นดอกไม้สีฟ้าหรือไม่ก็สีน้ำเงินทั้งสิ้น มีผสมด้วยสีขาวในบางจุดเพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปของงานคือ “sea of love” ตามชื่อคอนเซ็ปของเครื่องประดับที่น้ำเหนือเป็นคนออกแบบ
ริมผนังทั้งสามด้านมีเสาโรมันแบบที่ตั้งอยู่ทางเข้าและแจกันดอกไม้ทรงสูงที่มีช่อดอกไม้ตกแต่งเอาไว้วางตั้งเป็นจุดๆ ที่เสาก็มีไม้ระย้าห้อยลงมาจนเกือบจะถึงพื้น โต๊ะเครื่องดื่มและขนมหวานแบบบุฟเฟ่ที่ตั้งเอาไว้ทั้งสองฝั่งถูกตกแต่งด้วยดอกไม้ในกาน้ำชา ดอกไม้ในถ้วยกาแฟ และแจกันแบบใส แม้กระทั่งถาดวางขนมก็ยังมีดอกไม้ช่อเล็กตกแต่งอยู่
แขกที่ทยอยเข้ามาในงานต่างใส่ชุดโทนสีขาว ฟ้า น้ำเงินเพื่อให้เข้ากับธีมงานในวันนี้ เสียงดนตรีดังคลอไปทั่วทั้งห้องจัดงาน
“ใครเป็นคนคิดธีมงานวันนี้เหรอคะ” นักข่าวที่มาทำข่าวในงานต่างเข้าไปห้อมล้อมคนในตระกูลบริสตัน
“พี่ควอตซ์เป็นคนคิดค่ะ แต่ก็ได้น้องน้ำเหนือช่วยเสนอไอเดียด้วย เรียกว่า… ทั้งสองคนนี้ช่วยกันคิดธีมงานนี้ออกมาจะดีกว่า” คุณหญิงมรกตเป็นคนเอ่ยตอบคำถามของนักข่าว
“ได้ข่าวว่าคอนเซ็ปของคอลเลคชั่นนี้คุณน้ำเหนือเป็นคนคิดแล้วก็ออกแบบ ไม่ทราบว่าได้แรงบันดาลใจมาจากไหนเหรอครับ” นักข่าวอีกคนร้องถามทันทีที่คุณหญิงตอบคำถามก่อนหน้านี้เสร็จ
คราวนี้ทุกคนต่างหันไปมองคนถูกถามคำถามทันที
น้ำเหนือที่ยืนอยู่ข้างๆ ควอตซ์ชะงักไปนิดและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่ากับการที่มีนักข่างมารุมล้อมแบบนี้ จึงเผลอยกมือจับแขนของควอตซ์เอาไว้แน่นอย่างหาที่พึ่ง แต่ก็ยอมตอบคำถามของนักข่าวด้วยตัวเอง
“ผมได้แรงบันดาลใจจากการที่ผมไปทะเลมาเมื่อคราวก่อนครับ เพราะผมได้… เอ่อ… ความรักกลับมาจากการไปทะเลในครั้งนั้น ผมก็เลยคิดถึงคอนเซ็ปนี้ขึ้นมาครับ”
“ความรักในที่นี้หมายถึงคุณควอตซ์หรือเปล่าคะ” นักข่าวอีกคนถาม
คราวนี้น้ำเหนือได้แต่ทำตาโต แก้มขาวขึ้นสีระเรื่อพลางหันมองคนข้างๆ อย่างขอความคิดเห็น ถึงแม้ว่าที่มาของคอนเซ็ปในครั้งนี้ส่วนหนึ่งจะมาจากการที่น้ำเหนือได้เจอกับพ่อ แต่อีกส่วนหนึ่ง… ก็เพราะคนที่สวมแหวนให้ที่ริมทะเลเหมือนกัน
“เอ่อ… ก็… ส่วนหนึ่งครับ” น้ำเหนือตอบเสียงเบาเมื่อคนข้างๆ ไม่ยอมช่วยอะไร อีกทั้งยังเจอสายตาเหมือนจะกดดันของนักข่าว เขาเลยต้องอ้อมแอ้มตอบคำถามนั้นไป
สิ้นคำตอบของน้ำเหนือเหล่าบรรดานักข่าวก็ส่งเสียงแซวกันทันทีจนแก้มที่ขึ้นสีระเรื่ออยู่แล้วนั้นแดงก่ำไปหมด แล้วขยับตัวไปหลบอยู่หลังควอตซ์แทน
พวกเขาให้สัมภาษณ์นักข่าวต่ออีกเล็กน้อยก่อนจะขอตัวเพื่อไปต้อนรับแขกคนอื่นๆ ในงาน ควอตซ์พาน้ำเหนือไปนั่งที่โต๊ะบริเวณหน้าเวทีโดยให้ลาพิสนั่งเป็นเพื่อนคุยเพราะตัวเขาเองก็ต้องไปทักทายแขกคนอื่นๆ แม้ใจจริงจะอยากพาน้ำเหนือไปแนะนำตัวแต่ก็กลัวว่าน้ำเหนือจะเหนื่อยเกินไป
งานเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ในวันนี้จะมีการเปิดเผยซีรี่ส์โฆษณาเป็นครั้งแรก รวมถึงมีแฟชั่นโชว์ด้วย พิธีกรขึ้นไปดำเนินงานโดยไล่เรียงจากการเปิดโฆษณา ก่อนจะเป็นการเดินแฟชั่นโชว์ซึ่งได้นางแบบชั้นนำของประเทศมาร่วมเดินแฟชั่นโชว์ด้วย ตามด้วยการเชิญสองนักแสดงที่อยู่ในโฆษณาขึ้นมาพูดคุยถึงความประทับใจ แล้วก็คอนเซ็ปของงาน คอนเซ็ปของเครื่องประดับ แล้วจึงปิดท้ายด้วยการเชิญควอตซ์ขึ้นไปพูดถึงคอนเซ็ปของคอลเลคชั่นนี้ รวมไปถึงกล่าวขอบคุณแขกทุกคนที่มาร่วมงาน ซึ่งจริงๆ ในช่วงนี้น้ำเหนือจะต้องขึ้นไปด้วยในฐานะดีไซเนอร์แต่เจ้าตัวกลับไม่ยอมขึ้น ควอตซ์เลยต้องขึ้นไปคนเดียว
“พี่น้ำเหนือทำไมไม่ยอมขึ้นไปละคะ ดูสิ… คุณแอนนี่เลยได้เกาะติดพี่ควอตซ์เลย” ลาพิสกระซิบกับพี่สะใภ้พร้อมกับพยักหน้าไปบนเวที
ตอนนี้ควอตซ์ และพระเอกนางเอกโฆษณากำลังถ่ายรูปด้วยกันอยู่ น้ำเหนือหันไปมองตาม “ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่ถ่ายรูปเท่านั้นเอง”
“พี่น้ำเหนือละก็!”
“แม่นั่นไม่กล้าทำอะไรประเจิดประเจ้อหรอกน้องพิส ใครๆ เขาก็รู้กันอยู่ว่าพี่ควอตซ์มากับใคร ถ้าแม่นั่นกล้าทำอะไรน่าเกลียดก็โดนประนามแน่นอน” คุณหญิงมรกตว่าทั้งๆ ที่สายตายังคงจับจ้องไปที่นางแบบบนเวทีที่กำลังยืนข้างๆ ลูกชายของตน
หลังจากที่ทุกคนลงจากวิธี พนักงานผู้ชายหลายคนในชุดสูทสีดำก็เดินออกมาพร้อมกับช่วยกันยกแท่นออกมาวางกระจัดกระจายอยู่ทั่วห้อง ก่อนที่พนักงานผู้หญิงจะเดินถือเครื่องประดับที่เพิ่งเปิดตัวไปออกมาวางเอาไว้บนแท่นนั้นเพื่อให้แขกทุกคนสามารถเลือกซื้อกันได้ นอกจากจะมีเครื่องประดับที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ของคิวเอ็นไปแล้ว ก็ยังมีคอลเลคชั่นเก่าๆ รวมไปถึงเครื่องประดับของจิลเวล บริสตันด้วย
แต่แล้วในขณะที่ทุกคนกำลังสนใจกับเครื่องประดับนั้น ไฟในห้องจัดงานก็ดับลงพร้อมกับเสียงดนตรีที่เงียบลง ก่อนที่เสียงดนตรีในท่วงทำนองใหม่จะดังขึ้นแทน บนเวทีมีจอโปรเจคเตอร์เลื่อนลงมาและมีภาพปรากฎอยู่บนนั้น
ภาพที่น้ำเหนือได้แต่นิ่งและพูดอะไรไม่ออก เพราะบนจอนั้นฉายภาพของเขาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นภาพด้านหลังในช่วงเวลาที่ไปเที่ยวทะเล หรือว่าภาพที่น้ำเหนือกำลังนั่งออกแบบเครื่องประดับอยู่ เจ้าตัวหันไปมองลาพิส รวมไปถึงคุณหญิงมรกตและคุณโทมัสอย่างขอคำตอบกับสิ่งที่ฉายอยู่บนนั้น
“รอดูต่อไปสิ” คุณโทมัสว่าแค่นั้นพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ และไม่ขยายความอะไรออกมาอีก
“ภาพพวกนี้ที่พี่ควอตซ์ถ่ายเอาไว้นี่คะ เมื่อวันก่อนนู้นพิสเห็นพี่ควอตซ์เลือกรูปอยู่จะว่าไปพี่ควอตซ์นี่ก็ถ่ายรูปสวยนะคะ แล้วดูสิ… เลือกมุมแบบที่มองไม่ออกเลยว่าพี่น้ำเหนือกำลังท้องอยู่” ลาพิสขยับเข้ามาพูดใกล้ๆ พลางมองภาพสไลด์ที่ฉายอยู่ไปด้วย
“แต่นี่… มันอะไรกัน”
ลาพิสส่ายหน้าไปมาก่อนจะตอบ “พิสก็ไม่รู้ค่ะพี่น้ำเหนือ วันนั้นพิสถามพี่ควอตซ์ก็ไม่ได้บอกอะไรเลย”
ภาพบนจอนั้นหายไปแล้ว ก่อนจะตามด้วยนางแบบที่เดินออกมาจากหลังเวที เครื่องประดับที่ก่อนหน้านี้เป็นคอลเลคชั่นที่น้ำเหนือออกแบบนั้นหายไปแล้ว และแทนที่ด้วยเครื่องประดับชิ้นใหม่ที่น้ำเหนือจะว่าคุ้นก็คุ้น จะว่าไม่คุ้นก็ไม่คุ้น
สายตาของทุกคนในงานหันกลับมาสนใจบนเวทีอีกครั้ง จอโปรเจคเตอร์ทางด้านหลังฉายเป็นภาพเครื่องประดับที่เหล่านางแบบกำลังสวมใส่และเดินอวดโฉมกันอยู่
นางแบบคนสุดท้ายเดินวนอีกรอบก่อนที่นางแบบคนอื่นๆ จะเดินวนอีกคนละรอบแล้วเดินไปหยุดยืนเรียงแถวบนเวทีด้านใน
ใครบางคนที่น้ำเหนือมองหาเดินออกมาจากด้านหลังเวทีและมาหยุดอยู่หน้าบรรดานางแบบ พิธีกรเดินขึ้นไปบนเวทีอีกครั้งพร้อมกับสัมภาษณ์ “หลายคนคงจะสงสัยกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ ยังไงรบกวนคุณควอตซ์ช่วยอธิบายให้สักนิดได้ไหมครับ”
“อย่างที่ทุกคนทราบว่าวันนี้คิวเอ็นจะเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่คือ sea of love ซึ่งความหมายของคอนเซ็ปนี้คือการที่เราได้รับความรักจากคนที่รัก แต่สิ่งที่ทุกคนได้เห็นไปเมื่อครู่… เป็นอีกหนึ่งคอลเลคชั่นของคิวเอ็น
‘flower of love’ ครับ”
ภาพบนจอโปรเจคเตอร์ปรากฏขึ้นอีกรอบแต่คราวนี้ไม่ใช่ภาพของน้ำเหนือ แต่เป็นภาพของเครื่องประดับที่น้ำเหนือรู้สึกคุ้นอย่างบอกไม่ถูก
นักข่าวที่พากันออไปอยู่ด้านหน้าเวทีต่างก็ส่งเสียงถามคำถามกันไม่หยุด “แล้วคอลเลคชั่นนี้ใครเป็นคนออกแบบเหรอครับ แล้วมีความหมายอะไรหรือเปล่า”
“นั่นสิคะ ตอนแรกว่ามีแค่คอลเลคชั่นเดียวที่จะเปิดตัวนี่คะ”
“หรือว่านี่จะเป็นเซอร์ไพรส์อะไรหรือเปล่าคะ”
“ก็... ส่วนหนึ่งละมั้งครับ” ควอตซ์ตอบคำถามนั้น “ชื่อคอลเลคชั่นนี้จริงๆ คือ
‘ดอกรัก’ ครับ ดอกรัก... ที่เป็นดอกไม้ของไทยนั่นแหละครับ”
“แล้วคุณน้ำเหนือมีส่วนช่วยในการออกแบบคอลเลคชั่นนี้หรือเปล่าครับ”
น้ำเหนือนึกออกแล้ว... ไม่แปลกที่เขาจะคุ้นกับเครื่องประดับชุดนี้นั่นก็เพราะว่าเขาได้ออกแบบมันออกมาเองกับมือ แต่รู้สึกว่ามันยังไม่สวยและยังไม่ดีพอเขาจึงเก็บภาพชุดนี้เอาไว้ แต่เครื่องประดับที่เอามาโชว์นั้นได้รับการปรับเปลี่ยน ขัดเกลาจนมันสวยงามขึ้นมากทีเดียว
ภาพของเครื่องประดับหลายชิ้นที่มีจุดเด่นอยู่ที่ดอกรักที่มีการดีไซน์ จับเอกลักษณ์ของดอกไม้ชนิดนี้ออกมาจนมีความสวยงาม และดูนุ่มนวล
ควอตซ์หันมามองคนรักที่นั่งอยู่หน้าเวทีก่อนจะยิ้มออกมา “จริงๆ แล้วคอลเลคชั่นนี้น้ำเหนือเป็นคนออกแบบครับ แต่ว่ายังไม่ได้ทำออกมาเพราะเจ้าตัวบอกกับผมว่าแบบมันยังไม่ถูกใจ แต่ผมชอบคอลเลคชั่นนี้ ไม่ว่าจะด้วยความหมายของดอกรัก รูปทรงที่ออกแบบมาหรืออะไรก็ตาม ผมก็เลยเอาคอลเลคชั่นชุดนี้มาทำการปรับบางจุด และเพิ่มบางส่วนเพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์แบบที่สุดครับ”
“แล้วความพิเศษของคอลเลคชั่นนี้คืออะไรเหรอคะ”
“ความพิเศษอย่างนั้นเหรอครับ...”
ทุกคนต่างตั้งใจฟังคำตอบของคำถามนี้เป็นอย่างมาก อดที่จะรู้สึกไม่ได้ว่าความพิเศษ ความหมายอันลึกซึ้งของคอลเลคชั่นชุดดอกรักนี้จะมีอะไรมากกว่าที่พวกเขาคิดกันเอาไว้ในใจ
“อย่างแรก... คอลเลคชั่นนี้จะผลิตเพียงแค่หนึ่งร้อยชุดเท่านั้นครับ” เสียงฮือฮาเกิดขึ้นทันทีที่ได้ยินควอตซ์พูด หนึ่งร้อยชุดเทียบกันแล้วเป็นจำนวนชุดที่น้อยมากทีเดียว “ส่วนความพิเศษอีกอย่างที่สำคัญก็คือ...”
“‘sea of love’ is… someone be loved. ‘flower of love’ is… someone love”
“ถ้าหาก sea of love คือการที่ใครสักคนที่ได้รับความรัก ดอกรัก... ก็คือคนคนนั้น คนที่ให้ความรักครับ”************************************************
มาแล้วคร่าาาาาา ขอโทษด้วยค่ะที่หายไปนาน คือจริงๆ แล้วเรื่องนี้ควรมาตั้งแต่วันพุธหรือไม่ก็วันพฤหัส แต่พอดีพี่สาวฟางใช้คอมทำงานค่ะ ก็เลยไม่ได้มาอัพเลย เพิ่งจะมีโอกาสได้อัพนี่แหละค่ะ ต้องขอโทษที่ปล่อยให้รอนะคะ
คือแบบ... เซอร์ไพรส์ที่พี่ควอตซ์เคยบอกนักข่าวออกมาแล้วค่ะ นี่แหละเซอร์ไพรส์ใครว่าขอแต่งงาน ไม่ใช่ค่ะไม่ใช่ แม้จะจัดงานอย่างกับงานแต่งงานก็ตาม คือนี่แค่งานเปิดตัวคอลเลคชั่น of love นะคะ บรรยากาศแบบ งานแต่งงานหรือเปล่าจ้ะ ดอกไม้มาเต็มจ้า ฮ่ะๆๆ แต่ก็เนอะ บริสตันจัดทั้งทีจะเป็นงานธรรมดาๆ ได้ยังไงละคะจริงไหม ^^
ปล. มีคำผิด บอกได้ค่า
อาจจะมาช้าหน่อยแต่ก็จะไม่ทิ้งไปไหนแน่นอนค่ะ หวังว่าจะเข้าใจกันนะคะ เป็นกำลังใจให้ฟางด้วยค่ะ ^^
ถ้าชอบถูกใจก็คอมเมนต์กันเนอะ ขอเลยค่าขอคอมเมนต์เลย ขอกันแบบนี้นี่แหละ แฮ่...
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
ฝากอุ้มรักด้วยนะคะ อย่าลืม กดเมนต์ กดโหวด คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณทุกคะแนนบวกเป็ด คะแนนชื่นชมในตัวฟางนะคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ