ผมบอกพี่พ่ายว่าจะลงมาทำธุระที่กรุงเทพสองวัน เขาอนุญาตโดยไม่ถามอะไร บอกแค่ว่าให้ระวังตัวและมาส่งผมที่สนามบิน ผมจับมือเขาไว้แน่นระหว่างนั้นก็จูบเขาให้นานเท่าที่จะทำได้เพื่อชดเชยเวลาสองวันที่จะไม่ได้เจอกัน
“อย่าไปหานังน้องเดียร์นะ รอผมกลับนะพี่”
“อืม”
“สัญญานะ”
“ครับๆ” พี่พ่ายตอบอย่างขอไปที ก่อนจะผลักหน้าผากผมและดึงเข้าไปจูบอีกครั้ง แล้วก็ผลักออกอีก “ลงไปได้ละ เดี๋ยวก็ตกเครื่อง”
“อื้อ งั้นไปน้า ขอบคุณสำหรับบัตรนี่ด้วยครับ จะซื้อของให้พี่พ่ายล้มละลายไปเลย” ผมชูบัตรเครดิตเพียงใบเดียวที่พี่พ่ายมีและตอนนี้เขาให้ผมพกไปกรุงเทพด้วย เพราะกลางเดือนอย่างนี้ผมไม่ค่อยมีตังค์ เขาก็เลยจ่ายทุกอย่างให้ ฮ่าๆ
“อยากได้อะไรก็ซื้อ แต่อย่าเกินจำเป็น”
“ครับๆ แล้วมารับผมตอนกลับด้วยนะ”
“เออๆ สั่งมากจริง รีบๆ ไป กูรำคาญ”
“อารมณ์เสียซะละ ไปก็ได้”
อีกสองวันคงได้เจอกัน...ถ้าผมไม่เดี้ยงไปซะก่อนนะครับ
ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงมาที่สนามบินดอนเมือง คุณภัทร นักสืบที่ทำงานให้พ่อพี่กิ๊ฟมารอผมอยู่แล้ว
“สวัสดีครับคุณภัทร” ผมเข้าไปทักเขาก่อน เพราะคิดว่าเขาคงไม่รู้จักผมแน่นอน ส่วนผมนั้นจำหน้าเขาได้จากรูปถ่ายที่พี่กิ๊ฟส่งมาให้และก็เจอเขาบางครั้งที่ไปกินข้าวที่บ้านพี่กิ๊ฟด้วย
“สวัสดีครับ เอ่อ...น้องเพี้ยนใช่ไหม”
“ใช่ครับ”
“งั้นไปกันเลยนะ”
“ครับ”
ผมมาที่นี่ทำไม...มีธุระกับใครในเมื่อพี่กิ๊ฟก็ไม่ได้อยู่ที่นี่น่ะเหรอ ก็อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าเธอพาพ่อและลูกๆ ของพี่พ่ายไปพักร้อนต่างประเทศ เพราะฉะนั้น...ที่ผมมาจึงมีแค่เรื่องของไอ้มาวินเท่านั้น
ถ้าไอ้มาวินมันกัดไม่ปล่อยแล้ว...ผมยิ่งกว่ามันหลายเท่า...
ผมกับคุณภัทรมาถึงโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี พี่กิ๊ฟบอกผมเมื่อสามวันก่อนว่าไอ้มาวินลงมากรุงเทพ ตามที่คุณภัทรได้สืบมามันมักจะมาที่โรงพยาบาลทุกเย็นเพื่อเยี่ยมใครบางคน และใครบางคนนั้น...ถ้าผมเดาไม่ผิดก็คงเป็น...น้องสาวของมัน ผมเลยถือโอกาสมาพบไอ้มาวินและบอกคำขอโทษกับผู้หญิงคนนั้นด้วย
ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยพิเศษที่มีผู้หญิงรูปร่างผอมบางนอนแน่นิ่งอยู่ ใบหน้านั้นแตกต่างจากในรูปที่ผมเห็นจากกระเป๋าตังค์ของพี่พ่ายเล็กน้อย แต่ก็ยังคงความดูดี แม้จะซีดเผือดก็ตาม ข้างเตียงนั้นมีไอ้มาวินคอยบีบนวดมือและแขนขาให้
“ไง”
“มึง! มึงมาที่นี่ได้ยังไง!” มันทำหน้าตกใจได้โอเว่อแอคติ้งมากจริง
“กูก็ขับรถมา”
ไม่ทันที่มันจะได้ชักปืนออกมา ผมก็ชักปืนออกมาก่อน
“มึงต้องการอะไร”
“กูแค่มาทักทาย เห็นเงียบหาย ไม่โผล่หัวไปเล่นด้วยก็เลยคิดถึง อืม...มาดูน้องสาวที่นอนเป็นผักของมึงเองเหรอ ในฐานะมนุษย์แล้วมึงก็ยังมีส่วนดีอยู่นะ กูควรจะชื่นชมมึงให้มากกว่านี้ดีไหม”
“ออกไป!”
“ความจริงก็เสียดายนะที่ไม่ตาย...กูน่าจะชนให้แรงกว่านี้”
“ไอ้เหี้ย! มึงมันสัตว์นรก! น้องสาวกูไปทำอะไรให้มึง”
ผมเกลียดคำถามแบบนี้ที่สุด...เกลียดใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยของมัน ผมว่าไอ้มาวินมันเป็นแค่ไอ้โง่ที่ไม่ได้เข้าใจเลยว่า...กลไกของการคืนสนองในผลที่กระทำมันเป็นยังไง...
อุบัติเหตุนี้ผมอาจจะไม่ได้ตั้งใจ แต่ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้อย่างที่พี่กิ๊ฟคิด ผมรู้แต่ผมไม่ใช่คนดีถึงขนาดจะออกหน้ารับว่าผมเป็นคนทำ ผมคอยหลบอยู่ข้างหลังให้คนที่พร้อมจะปกป้องผมจัดการเรื่องให้ เพราะผมยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกมากมาย จะจบสิ้นแค่เพราะขับรถชนคนไม่ได้หรอก
ผมไม่ได้ไว้ใจให้ใครมารู้ความคิดผมไปซะหมด ต่อให้เป็นคนที่ทำเพื่อผมทุกอย่างอย่างพี่กิ๊ฟหรือไอ้ยิว ก็ไม่ได้รับสิทธิ์นั้น เพราะผมแน่ใจว่าไม่มีใครจะมาเข้าใจความรู้สึกของผมได้มากไปกว่าตัวผมอีกแล้ว ผมไม่อยากให้ใครมาคอยชี้ว่าสิ่งไหนถูกสิ่งไหนผิด เพราะผมไม่ต้องการความลังเล แม้แต่นิดเดียวก็ไม่ต้องการ
“แล้วพี่สาวกูไปทำอะไรให้มึง!”
ความตายของพี่...ไม่ใช่แค่ผมที่สูญเสีย แต่มันมากกว่านั้น เพราะครอบครัวของผมไม่ได้เป็นครอบครัวเหมือนอย่างเก่า แม่เสียใจที่มีลูกแย่ๆ อย่างผม พ่อเลี้ยงก็ไม่ได้รู้สึกกับแม่เหมือนอย่างเคย นั่นเป็นเพราะพวกเขาคิดว่าผมเป็นต้นเหตุที่พี่ฆ่าตัวตายเหมือนอย่างที่ผมเคยคิดมาก่อน แต่ความจริงมันไม่ใช่...ผมเจอไอ้สัตว์นรกที่ทำให้พี่สาวและลูกของผมต้องจากไปแล้ว ผมจะไม่พูดว่ามันควรชดใช้อย่างในหนังจีนอะไรพวกนั้นหรอก ในเมื่อคนทำผิดก็ต้องได้รับโทษไปตามสมควรอยู่แล้ว อีกทั้ง...ชีวิตมันทดแทนด้วยชีวิตไม่ได้
“ช่วยไม่ได้...พี่สาวของมึงมันโง่เองไง”
ผมพร้อมจะลั่นไกปืนยิงมันซะเดี๋ยวนี้ แต่คุณภัทรก็ห้ามไว้ ที่พี่กิ๊ฟให้คุณภัทรมาด้วยคงเพราะให้มาคอยห้ามผม
“กูสาบานว่ากูจะลากมึงลงนรกไปให้ได้ ต่อให้ต้องตายก็จะลากมึงไปด้วย จะให้ไปขอโทษกับคนที่มึงทำร้าย ทั้งพี่สาวกูและลูกของกู”
“ลูก? ลูกของมึง หึ กำลังเพ้อเจ้ออะไรอยู่ไอ้เด็กเพี้ยน ลูกในท้องพี่สาวมึงน่ะ ลูกกูต่างหากไอ้โง่!”
ผมวิ่งเข้าไปใกล้มันและตบมันด้วยด้ามปืน ไอ้มาวินล้มลงไปกับพื้น เลือดสีแดงฉานไหลออกจากมุมปากของมัน
“พี่สาวมึงโดนกูเอาไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง ไม่รู้เลยรึไง มึงมันก็แค่ไอ้เด็กโง่ที่ไม่ได้รู้เลยว่าพี่สาวของมึงมันส่ำส่อนแค่ไหน เอาอยู่กับกูก็ร่ำร้องเรียกหาแต่ชื่อเจ้านายกู โดนกูแตกในใส่ไม่รู้กี่ครั้ง จะไม่ท้องกับกูได้ไงไอ้โง่!”
“ไอ้ระยำ!”
ผมเตะเข้าที่สีข้างของมัน แต่มันก็จับเท้าผมไว้ได้ คุณภัทรรีบเข้ามาช่วย ดึงตัวมันออกไป ผมยกปืนขึ้นจ่อขมับน้องสาวที่นอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวของมัน
“ขืนมึงยังพูดหมาๆ ใส่กูอีก คนแรกที่จะลงนรกก็คือน้องสาวของมึง”
“อย่าเอาน้องกูมาเกี่ยว! มึงอยากจะทำก็มาทำกับกู!” มันดิ้นรนจะเข้ามาใกล้ผม แต่คุณภัทรก็ล็อคตัวมันไว้
“ที่จริงวันนี้กูแค่อยากจะมาขอโทษน้องสาวมึงที่ทำให้ต้องมานอนง่อยแบบนี้ แต่เปลี่ยนใจ ยิงทิ้งดีไหม ยังไงก็ศัตรูหัวใจกูอยู่แล้วด้วย จะได้ไม่ต้องตื่นมาออเซาะพี่พ่ายของกูอีก หรือมึงคิดว่าไง กูควรยิงจากตรงไหนดี”
ผมไล่ปากกระบอกปืนไปที่หน้าผากขาวซีด แก้มตอบ สุดท้ายที่อกซ้าย
“มึง...” ไอ้มาวินกัดฟันแน่น ดวงตาแดงก่ำ จดจ้องมาที่ผมอย่างอาฆาต “กูน่าจะฆ่ามึงให้ตายตั้งแต่คืนนั้น จับแขวนคอไปพร้อมกับพี่สาวมึง”
“โอ๊ะโอ...คุณภัทรอัดเสียงไว้หมดแล้วใช่ไหมครับ คำสารภาพของผู้ต้องหา”
“ยังคงเหลือวิธีการน่ะครับ แต่แค่คำสารภาพนี้ก็น่าจะยื่นเรื่องต่อศาลได้แล้ว”
“ผมยังกังวลที่คดีมันถูกปิดไปหลายปีแล้วน่ะครับ เอางี้ไหมไอ้มาวิน ถ้ามึงยอมเดินเข้าคุกไปดีๆ พร้อมกับสารภาพผิดทั้งหมด รวมถึงบอกด้วยว่าเมียมึงเป็นคนบงการและมึงเป็นคนลงมืออ่ะ กูอาจจะยอมละเว้นชีวิตน้องสาวมึงก็ได้นะ”
“มึงกล้าดียังไง...กล้าดียังไงวะ!!!”
“จะแค้นจนดิ้นตายไปก็เท่านั้น กูรู้เรื่องของมึงเยอะเลยนะมาวินคุง บทรักเร่าร้อนกับพ่อเลี้ยงของมึงก็คงเอาไปประจานได้ดีเหมือนกันอ่ะ คงมีคนอยากเห็นไอ้แก่นั่นครางชิบหาย”
มีแต่เพียงสายตาที่จดจ้องผมเท่านั้นที่ไอ้มาวินมันตอบสนองอยู่ตอนนี้ ผมคิดว่ามันคงโกรธจนเส้นเลือดในสมองแตกไปแล้ว ที่จริงคงต้องขอบคุณคุณภัทรที่หาข้อมูลมาได้เยอะขนาดนี้ ไม่อย่างนั้นคงไม่เป็นต่ออย่างนี้หรอก...
“กูจะบอกอะไรให้มึงเอาบุญนะไอ้เพี้ยน ว่าพี่สาวของมึงไม่ได้ท้องกับมึง มันท้องกับกู ได้ยินไหมว่าลูกไม่ใช่ลูกมึงแต่เป็นลูกกู ไอ้เด็กกากที่โดนยาปลุกเซ็ก ชักด้วยมือไม่กี่ทีก็แตกอย่างมึง คิดว่าจะทำใครท้องได้เหรอวะ ถุย กูจะอ้วก!”
ผมมองหน้า แสยะยิ้มและยกด้ามปืนขึ้นตบมันไปอีกสองที
“ไม่ต้องเอาเรื่องที่กูรู้อยู่แล้วมาพูดหรอก กูจะอ้วก!”
ที่จริงผมไม่รู้เลยต่างหาก...ว่ามีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้น ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าวันที่ผมขืนใจพี่มันเป็นวันไหนและรู้สึกอย่างไร จำไม่ได้เลยสักนิด เว้นแต่เสียงร้องไห้ของพี่เท่านั้นที่ผมจำได้ไม่ลืม แต่ว่า...ลูกน่ะ...ต้องเป็นลูกของผมแน่นอน เพราะไม่ใช่แค่ครั้งเดียวที่ผมกับพี่มีอะไรกัน หลายต่อหลายครั้งที่ทำ...หลายต่อหลายครั้งที่ผมปลดปล่อยความต้องการใส่พี่ แต่ทำไมไอ้มาวินมันถึงมั่นใจนักว่าไม่ใช่ลูกของผม...พี่บอกมันอย่างนั้นเหรอ...เรื่องแบบนี้...ใครจะไปเชื่อกัน!
“กูให้เวลามึงคิดไอ้มาวิน ว่าจะสารภาพผิด ยอมมอบตัว หรือจะปล่อยให้น้องสาวและพ่อเลี้ยงของมึงตาย เอ๊ะ หรือกูควรเรียกว่าคู่ขาของมึงดี จะว่าไปรสนิยมมึงก็ประหลาดนะ ชอบคนแก่”
“มึงต้องไม่ได้ตายดีแน่ไอ้เพี้ยน ถ้ามึงคิดว่าคนอย่างกูจะจนมุมแค่นี้ มึงคิดผิด ไม่ต้องเอาน้องสาวกูมาขู่หรอก มึงอยากจะยิงก็ยิงทิ้งได้เลย! กูก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าไร้พ่ายจะทำยังไงกับมึง”
“ไร้พ่ายน่ะกระจอกจะตายไปมาวินคุง เจ้านายมึงมันโง่ยิ่งกว่ากูซะอีก หลงตัวเองด้วยนะ คิดว่ากูเดินตามต้อยๆ จนสุดท้ายตอนนี้ขาดกูสักวันก็แทบขาดใจอยู่แล้ว โฮะๆ” ผมคลี่ยิ้ม ยกมือปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ด เผยให้มันเห็นรอยดูดตามลำตัวท่อนบน
“เห็นรึเปล่าว่าไร้พ่ายของมึงรักกูมากแค่ไหน ตายจริง เอามาโชว์ต่อหน้าน้องสาวมึงอย่างนี้ จะกระอั่กตายรึเปล่าอ่ะ โดนผัวนอกใจซะแล้ว โถๆ สงสารจริงๆ นอนง่อยอยู่อย่างนี้ก็คงทำอะไรไม่ได้สินะคุณพี่ เดี๋ยวยังไงคุณน้องจะปรนเปรอสามีของคุณพี่ให้เองนะ ไม่ต้องห่วง คิกๆ”
ผมว่าตอนนี้ไอ้มาวินต้องตายเพราะเครียดจัด เส้นเลือดฝอยในสมองแตกไปร้อยเส้นแล้วเป็นแน่
เฮ้อ ขอโทษนะครับ ผมตั้งใจจะมาขอโทษคุณแท้ๆ แต่มาทำตัวอย่างนี้ซะได้ ยังไงก็หายไวๆ นะ กลับมาดูแลแฝดสามไปอีกนานๆ ลูกๆ ของคุณน่ารักมากเลย ถ้าผมมีโอกาสก็อยากจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่น อยากมีลูกน่ารักๆ เหมือนกัน
“มึงมันน่าไม่อาย น่าขยะแขยง”
“ไม่ต้องด่า กูรู้ตัว ยังไงก็คิดด้วยนะ เรื่องมอบตัว ถือว่าให้โอกาสแล้ว อย่าต้องถึงกับเลือดตกยางออกเลย กูก็กลัวตาย มึงก็คงไม่อยากตายด้วย พรุ่งนี้เย็น ให้คำตอบกูด้วยนะ คุณภัทรเอาปืนมันมาเก็บไว้ด้วยครับ เกิดแม่งลั่นไกเปรี้ยงปร้างขึ้นมา ผมจะตายเอา”
คุณภัทรปล่อยไอ้มาวินที่ถูกล็อคด้วยกุญแจมือแล้วเดินตามผมออกมาจากห้อง ไม่รู้ว่าพกมาด้วย แต่ก็ถือว่าเขารอบคอบมาก ไม่มีเขาผมก็คงไม่ทำกร่างได้ขนาดนี้
ปัง!
คุณภัทรกดหัวผมให้ก้มหลบข้างๆ รถอย่างหวุดหวิด พลาดเพียงนิดก็คงได้ไปเฝ้ายมบาลแล้ว ยังคงมีเสียงปืนดังตามมาอีกสองนัด พร้อมกับเสียงกรีดร้องของคนในโรงพยาบาลที่รีบวิ่งหนีกันให้วุ่น ผมกับคุณภัทรได้แต่หลบ ไม่ได้ยิงสวนกลับไป เพราะปืนที่ผมพกมามันมีลูกซะที่ไหน แถมมันยังไม่ใช่ของจริงด้วย ใครจะว่าผมบ้าก็เถอะ แต่การพกของอันตรายไปไหนมาไหนแบบนั้น คงได้โดนตำรวจจับตั้งแต่เจอด่านแล้วล่ะครับ
“ขึ้นรถเถอะ ยังไงไปที่บ้านของคุณกิ๊ฟก่อนดีกว่า ที่นั่นปลอดภัย”
“ครับๆ”
ชิบหาย ยางรถเสือกโดนยิงไปด้วย ถ้ามึงจะแม่นขนาดนั้น ยิงหัวกูไปเลยเป็นไง ว่าแต่มันเป็นใครกันล่ะครับนั่น
“คุณภัทรครับ โทรเรียกคนมารับได้ไหมครับ ให้ออกไปเรียกแท็กซี่คงล่อเป้าแหงๆ” ถึงมอเตอร์ไซค์ที่พาไอ้โม่งนั่นมาจะขับหนีไปแล้ว แต่ถ้าขืนออกไปยืนชิวๆ โบกแท็กซี่กลับนี่ ผมคงโดนเป่าสมองไหลแน่ๆ ยังอยากกลับไปหาพี่พ่ายอยู่นะ หาใครมาช่วยทีเถอะ
“ได้ๆ เราเข้าไปหลบในโรงพยาบาลก่อนก็แล้วกัน พี่ไม่มั่นใจว่าจะมีพวกมันมากันอีกไหม”
“ว่าแต่มันพวกไหนอ่ะครับ จะมาฆ่าผมหรือคุณภัทรอ่ะ”
ไม่แน่ใจว่าคุณภัทรเขามีศัตรูหรือเปล่า แต่ผมน่ะมีแค่ไอ้มาวินที่โดนจับล็อคกุญแจมืออยู่ข้างบนตึกผู้ป่วยนี่เท่านั้นล่ะครับ
“น่าจะเป็น...คนของพ่อคุณไร้พ่ายน่ะ”
“ไม่ใช่ว่าพี่กิ๊ฟจัดการไอ้แก่นั่นอยู่หรอกเหรอครับ!”
“ลำพังคุณกิ๊ฟทำอะไรผู้ชายคนนั้นไม่ได้หรอก เขาเป็นเพื่อนคุณพ่อของคุณกิ๊ฟด้วย”
“บอสใหญ่สินะไอ้แก่นั่น”
“แค่จับไอ้มาวินเข้าคุกได้ก็น่าจะพอแล้ว คุณกิ๊ฟเธอบอกพี่มาแค่นี้”
“ผมไม่ได้ต้องการแค่ไอ้มาวินซะหน่อย ถ้าไอ้แก่นั่นเป็นคนสั่งฆ่า ยังไงซะมันก็ต้องโดนด้วย”
“มันอาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็ได้”
ผมนิ่งมองคนตรงหน้า ก่อนจะค่อยๆ คลี่ยิ้ม “ก็อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ครับ”
แม้แต่พี่กิ๊ฟก็คงช่วยผมไม่ได้มากอย่างนั้นเหรอ...ความจริงก็ไม่ได้คาดหวังไว้มากอยู่แล้ว เอาเถอะครับ เอาเท่าที่ได้ก็พอ เพราะที่เหลือผมอยากให้พี่พ่ายเป็นคนจัดการเอง
.................................................................TBC..............................................................
ขอโทษค่ะที่หายไปนาน งานประจำนั้นเป็นอุปสรรคกับคนเล่าเรื่องเป็นงานอดิเรกอย่างเรา มันก็เลยต้องทำให้รอกันแบบนี้ ขอโทษอีกทีนะคะ ยังไงก็อ่านให้สนุกนะคะ แล้วก็ขอบคุณความคิดเห็นทุกความคิดเห็นด้วยค่ะ