ปึงๆๆ
“ไอ้เหี้ยพ่าย มึงใจเย็นๆ นะเว้ย น้องยังเด็กนะ อย่าทำอะไรรุนแรง กูขอล่ะ ออกมาคุยกัน” เสียงเคาะกับเสียงพูดไม่ได้ดังนัก คงเพราะยังเกรงใจไอ้ยิวกับพี่ทัศน์ที่คงนอนหลับสนิทไปแล้วอยู่ สองคนนี้ก็ต้องจัดเข้ารายชื่อคนถูกไฟครอกอีกสองรายครับถ้ามีไฟไหม้เกิดขึ้น
“มึงไม่ต้องเสือก” พี่พ่ายตอบกลับไป ก่อนจะดันตัวผมจนชิดผนัง มือหนึ่งจับที่หน้าผากของผมไม่ให้หันหน้าหนีไปไหน
“มึงอยากมีเรื่องกับกูใช่ไหม” พี่พ่ายถาม น้ำเสียงเย็นชากับสีหน้าพร้อมจะฆ่าคนได้นั่นทำให้ผมที่เริ่มสติคงที่แล้วรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ขึ้นมา
แม่ตั้งชื่อผมว่า มีสติ เพื่ออะไรวะ ถ้ามันจะไม่เคยทำให้ผมมีสติเลยสักครั้ง แล้วตอนนี้สิ่งที่ผมได้กระทำระหว่างเกิดการไร้สตินั้น...มันกำลังจะทำให้ผมลำบาก
“ตอบ!”
ผมสะดุ้งนิดๆ แต่ก็ยังคงรักษาฟอร์มไว้ เออ มาถึงขนาดนี้แล้วยังไงก็เป็นไงเป็นกัน ถ้าไม่แสดงจุดยืนของตัวเอง ผมจะกลายเป็นแค่ของที่เขาจะทิ้งจะขว้างเมื่อไหร่ก็ได้ เป็นหัวหลักหัวตอให้มองข้ามได้ตลอด ซึ่งถ้าผมยังไม่ก้าวหน้าไปถึงขั้นที่มีความสำคัญ...ผมจะไม่มีวันชนะเขาได้เลย
“ผมไม่ได้อยากมีเรื่อง แต่ทำไมพี่ไปที่ไหนถึงไม่บอกผมวะ ผมนอนอยู่ข้างๆ พี่ กอดพี่จนถึงเช้า แต่พี่ก็ไม่บอกสักคำว่าพี่จะไปไหน ทั้งๆ ที่วันนี้ก็อาจจะไม่กลับ แต่พี่ก็ไม่บอก ผมไลน์ไปหา โทรไปหา แต่พี่ไม่เคยตอบกลับอะไรมาสักครั้ง ผมไม่ใช่แฟนพี่ก็จริงนะเว้ย แต่ผมก็คือคนที่ชอบพี่ป่ะวะ ผมอดทนเก่งนะ แต่เรื่องนี้ผมทนไม่ได้ว่ะ แม่งมากเกินไป”
ไร้พ่ายก็ไร้พ่ายเถอะมึง เจอกูรัวไปอย่างนี้มีชะงักบ้างล่ะ...
แต่เปล่าเลยครับ ไม่ชะงัก แถมยังตบหัวผมกลับมาสามทีติดด้วย
“เหี้ยแม่ง งี่เง่า”
“โวะ เจ็บนะไอ้เหี้ย”
“มึงด่ากูเหี้ยอีกครั้ง กูจะตบให้ปากฉีก”
“เอาดิ ปกติก็ตบก็เตะกูเป็นประจำอยู่แล้วนี่”
“แล้วหลังๆ มานี้กูทำไหม โง่ไม่พอเสือกไม่ฉลาด โวยวายทำเหี้ยไร กูก็กลับมานี่แล้วไง”
เดี๋ยวๆ ไอ้โง่ไม่พอเสือกไม่ฉลาดนี่สรุปแม่งก็ด่าผมโง่ป่ะวะ ไอ้พี่พ่ายมันจะมารู้อะไร แค่มันกลับมาผมจะไม่โวยวายเหรอ? มึงคิดง่ายไป เพราะได้กูง่ายไปล่ะสิ เออ ถึงมันจะไม่ยอมใส่เข้ามาก็เถอะครับ แต่ก็เกือบได้แหละ
“กลับมาแล้วใครมาส่ง พอถามก็ไม่ตอบ”
“แท็กซี่ที่สนามบินก็มีไหมไอ้ควาย”
“ตอนแรกบอกเมีย”
“กูประชด”
“จะรู้ไหมล่ะ”
“เหี้ยนี่โง่ว่ะ แดกหญ้าเหมือนกับควายเป็นอาหารเสริมรึไง”
ตกลงผมจะเหี้ยหรือจะควาย เลือกสักเผ่าพันธุ์เถอะครับพี่พ่าย พรุ่งนี้ผมจะได้ไปทักทายเพื่อนๆ ถูก ไอ้สาดดดด
“แล้วกินข้าวอะไรมาหรือยัง” ผมถามด้วยเสียงอ่อยๆ แต่มันไม่ตอบครับ มันกวนตีนด้วยการจับหัวผมโขกกับผนังห้องน้ำสองสามที แต่ไม่แรงนะ เบาๆ ถึงอย่างนั้นก็มีเสียงตึงๆ จนผมคิดว่าถ้าพี่เอกับพี่เกมยังคงรอฟังสถานการณ์อยู่หน้าห้องน้ำคงได้โทรเรียกรถจากมูลนิธิมารับศพผมเป็นแน่
“พี่พ่าย ถามก็ตอบดิวะ”
“หน้ากูอยู่ในอารมณ์อยากตอบคำถามไหม”
“นี่ไง ก็ตอบมานี่แล้วไง”
“ไอ้สัดเพี้ยน” มันด่าแล้วก็จับหัวผมโขกไปเรื่อยๆ ครับ พอผมขืนไว้ แม่งกลับเจ็บมากขึ้นเพราะพอขืนแล้วมันปล่อย หน้าผากผมเลยมาโขกกับหน้าผากมันแทน ไอ้พี่พ่ายมันไม่เจ็บหรอก มันถึก มีแต่ผมนี่แหละที่ร้องโอดโอยออกมา
แม่ง...แว่นตาทิ่มเบ้าตากูด้วย อาวุธเยอะจริงๆ
“วันนี้มึงกวนตีนจังวะ เมนไม่มารึไง กูว่ากูปล่อยนอกนะ” โอ้โห มุกครับ มุกมัน คนอย่างมันกล้าเล่นมุก แล้วมุกหน้าตายหน้าด้านนี่แม่งก็กล้าเล่นมาได้
“จะใส่ยังไม่เคยใส่เข้ามา ยังกล้าพูดว่าปล่อยนอก ถุย”
“ก็กูปล่อยนอกไหม มีแค่บางทีที่ในปากมึง”
“เชี่ย”
“อารมณ์แปรปรวนชิบหาย”
พี่พ่ายบ่น บ่นไม่พอ มันยังทำท่าจะล็อคคอตีเข่าผมด้วย แต่ผมยกมือขึ้นบังเข่ามันไว้ ไม่งั้นถึงจะแค่เบาๆ แต่ถ้าโดนหน้าท้องนี่มีจุกแน่ครับ พอมันตีเข่าไม่ได้มันก็ทึ้งผม ดีดหู บางทีก็ดีดหน้าผาก ทำจนหน้าตาหงิกงอของมันจะกลับมาเป็นเย็นชาเหมือนเดิมนั่นแหละ มันถึงได้หยุดประทุษร้ายร่างกายผม
แล้วจากนั้นก็...เงียบแดกครับ
ไม่มีใครพูดอะไรสักคน ข้างนอกนี่ก็เงียบมาก ไม่รู้ว่ากำลังเงี่ยหูฟังหรือเข้านอนโดยไม่สนใจสวัสดิภาพชีวิตผมไปแล้วกันแน่ จนสุดท้าย ผมนี่แหละครับต้องกล่าวขอขมามัน
“ขอโทษ”
“กราบตีนกูดิ”
“ห้ะ!”
“มึงด่ากูเหี้ยไปกี่คำ ขึ้นเสียงกับกูไปกี่คำ พูดไม่สุภาพกับกูไปกี่คำ มึงกราบเท่านั้น”
“แม้ผมจะเคยคลานอยู่แทบเท้าพี่ หรือเคยกอดขาและอยากจูบเท้าพี่ยังไง แต่คนอย่างผม ไม่เคยก้มหัวกราบเท้าใครเว้ย”
มันเป็นความจริงที่ว่า ศักดิ์ศรีของผม ถูกลดได้ถึงระดับไหน ผมขีดเส้นให้มันลงต่ำสุดและขึ้นไปสูงสุดเท่าไหร่ ผมเป็นคนกำหนดมันเอง และจะไม่ยอมให้ใครมากำหนดมันแทนผมด้วย
“งั้นไอ้ที่มึงบอกจะทำทุกอย่างที่กูต้องการ มันก็เป็นแค่ลมปาก?”
“มันจะเป็นไปตามนั้น...ถ้าไม่เกินลิมิตที่ผมทำได้”
“หึ ไอ้เรื่องที่มึงยอมตายเพื่อกูนั่นก็โกหกทั้งเพ”
ผมมองสบตากับพี่พ่ายอย่างจริงจัง กระชากคอเสื้อเขาแล้วดึงเข้ามาใกล้ พี่พ่ายไม่ได้ตอบโต้อะไรมากไปกว่าการขมวดคิ้วแล้วจ้องตอบกลับมา
“เรื่องนั้นผมไม่ได้โกหก ความตายสำหรับผมมันแค่เรื่องเล็ก แต่ศักดิ์ศรีของผม เป็นเรื่องใหญ่มากกว่านั้น ถ้าพี่คิดว่าผมชอบพี่อย่างไม่ลืมหูลืมตา นั่นพี่คิดผิดนะ...เพราะบางครั้งผมก็เกลียดพี่จนอยากจะฆ่าให้ตายเหมือนกัน”
“ถ้ามึงทำได้...ก็ลองดู”
ผมหัวเราะ แล้วขยับเข้าไปจูบที่คางเขา “ผมกำลังทำอยู่นี่ไง...สิ่งที่ผมจะใช้ฆ่าพี่ ไม่ใช่มีดหรือปืน แต่เป็นความรักของผม ผมอ่อยเก่งนะ แล้วก็ เอาใจเก่งมากด้วย พี่ระวังไว้ให้ดีละกัน”
“กูควรระวังเรื่องความขี้หึงกับความงี่เง่าของมึงไหมล่ะ”
“ก็ควรนะ บอกเผื่อแผ่ผู้หญิงของพี่ด้วยละกัน เพราะผมหึงแรงมาก”
“มึงไม่ต้องบอกกูก็รู้” พี่พ่ายทำหน้าเบื่อๆ “กลับมาคิดว่าจะได้พักผ่อน กูแม่งต้องมาอารมณ์เสีย หิวข้าวเลยไอ้สัด”
“แดกป้ะ ทำให้”
“พูดให้มันดีๆ”
“พี่เคยพูดดีกับผมไหมล่ะ”
“ยอกย้อน”
“เออๆ ขอโทษครับขอโทษ จะรับประทานอาหารไหมล่ะครับคุณพี่ กระผมจะทำให้”
“ประชด”
“เรื่องมาก”
พี่พ่ายดึงแก้มผม จากนั้นก็กัดไปเต็มๆ คำ ผมนี่ร้องจ๊ากเลย กัดไม่พอ ยังดูดติดปากมันไปด้วย
“เจ็บ!”
“คนอย่างมึงพูดดีๆ ไม่ฟัง”
“เบื่อกับบทเด็กดีละ จะเลวบ้าง”
“นี่ที่ผ่านมามึงดีแล้วไง”
“เออ”
“แอ๊บสัด”
“พี่จะได้ไม่เบื่อ เป็นคนดีเดี๋ยวหาข้ออ้างว่าผมดีเกินไปมาไล่อีก ต้องเลวบ้าง ดีบ้าง สลับกัน”
“แต่ที่ผ่านมามึงเลวแบบไม่มีดีสลับ ไม่ต้องมาเถียง”
จะอ้าปากเถียงก็มาพูดสกัด คนบ้าอะไรไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น
“แล้วตกลงจะกินอะไรไหม”
“ไม่”
“ไข่ต้มมะ”
“ไม่”
“ไข่เจียว”
“ไม่”
“ไข่ดาว”
“กูบอกว่าไม่”
“ไข่...เค้า”
พี่พ่ายตบหน้าผากผมทันทีที่ผมพูดจบ ผมหัวเราะกับสีหน้าของพี่พ่ายก่อนจะยกมือขึ้นโอบรอบคอเขา
“อร่อยนะ พี่ยังไม่เคยลองชิมเลยนี่”
“มึงนี่เหี้ยรอบด้านจริงๆ นะ”
“อื้อ ยอมรับ ถึงได้อยากให้พี่มาเหี้ยด้วยกันไง ผลัดกันชิมผลัดกันดูด อร่อยจะตาย”
“หึ”
“มีหัวเราะด้วย อยากเหมือนกันเหรอครับ พ่ายอปป้า”
ผมยิ้มกริ่มมองหน้าเขา ถ้าเป็นพี่พ่ายในแบบปกติต้องตอบกลับมาด้วยวาจาเชือดเฉือนใจ แต่ตอนนี้...เห็นจะไม่ เพราะเขากระตุกยิ้มแล้วไล้มืออยู่ข้างๆ แก้มผม
“อืม มาดิ กูอยากปล่อยในตัวมึงเต็มทีแล้ว”
ผมรู้สึกว่าอุณหภูมิบริเวณผิวหน้าเพิ่มขึ้นสูง ยิ่งคิดไปถึงว่าเขากำลังโดน...
ให้ตาย...ผมกำลังขุดหลุมฝังตัวเอง ยอมลงไปนอนในหลุมง่ายๆ แถมยังกลบดินซ้ำเองด้วย ผมน่าจะคิดได้มากกว่านี้...ว่าผมคงต้านทานเสน่ห์ของเขาและความต้องการของตัวเองไว้ไม่ไหว
“ทำเหมือนง่าย แต่ได้ยากชิบหาย เล่นตัวมากๆ ระวังผมจะเสียบพี่แทนนะ” ผมพูดแก้เก้อแต่ไม่ยอมมองสบตากับเขา
“กูไม่ได้เล่นตัวแต่เพราะมึงกาก ไม่เก่งพอจะทำให้กูอยากเข้าไปในตัวมึงได้”
คำสบประมาทของพี่พ่ายทำเอาผมหัวเราะลั่น แต่ทำไงได้วะ ผมเคยแต่เป็นฝ่ายเสียบนี่หว่า ไอ้ครั้นมาเป็นฝ่ายถูกเสียบแล้วให้ยั่วยวนอีกฝ่ายนี่มันก็เกินความสามารถนะ พยายามทำหลายครั้งแล้ว แต่คงมีแค่ครั้งเดียวเท่านั้นที่พี่พ่ายอยากใส่เข้ามา ถ้าตอนนั้นมีถุงยาง ป่านนี้คงฟินไปถึงโลกหน้าแล้ว
ว่าแต่ความคิดทะลึ่งลามกนี่มันเกิดขึ้นกับคนใสๆ ไร้พิษสงอย่างผมได้ยังไงกัน
“ตอนนี้ออกไปจากห้องน้ำเถอะพี่ เริ่มร้อนแล้ว”
“อืม”
“ดีกันแล้วนะ คราวหลังอย่าทำอีกล่ะ เกือบได้เสียกันแล้ว เห็นความสำคัญกันบ้าง”
“กูต้องเห็นไหม ในเมื่อมึงเสนอเอง”
“ไม่ว่าจะเริ่มยังไง แต่ตอนจบเราก็มีความสุขไปด้วยกันไม่ใช่เหรอครับ”
“หึ พูดดี”
พี่พ่ายยิ้มครับ ยิ้มแบบใจละลายมาก ผมนี่แทบละลายไปรวมกับน้ำในชักโครก แถมยังมองมาด้วยสายตากรุ้มกริ่มอีก ไอ้เชี่ยยย พี่แม่งมีมุมแบบนี้ด้วยเหรอวะ
“เอารางวัลไหม” ทั้งยังถามเสียงละมุนมากด้วย งื้ออออออ มายอปป้า
“รางวัลหรือของขอโทษ”
“แล้วแต่จะคิดดิ”
“อือ เอาก็ได้” ไม่รู้อะไรล่ะครับ แต่เอาไว้ก่อน
“เงื่อนไขเหมือนเดิม” เขาพูดจบก็แลบลิ้นออกมา ผมมองแล้วรีบเข้าไปดูดทันที คราวนี้จะดูดให้นาน เอาให้เขาเมื่อยจนต้องหดลิ้นกลับไปแล้วนั่นแหละ จะเป็นโอกาสให้ผมตามไปสัมผัสริมฝีปากของเขา
แขนทั้งสองข้างของพี่พ่ายยันกับผนังกักตัวผมให้อยู่ในเขตกักกันของเขา ก่อนจะดันตัวผมจนชิดผนัง ขาข้างหนึ่งของเขาแทรกเข้ามาระหว่างขาทั้งสองข้างของผมที่เต็มใจอ้ามันออกเล็กน้อยเพื่อให้ส่วนกลางลำตัวเสียดสีกับขาของเขาได้ถนัด
เสียงครางในลำคออย่างพอใจของพี่พ่ายทำเอาอารมณ์ของผมยิ่งเตลิด จากที่เคยเป็นฝ่ายล่าตอนนี้กลับเป็นฝ่ายถูกต้อนแทน ผมปล่อยให้เขาเล่นกับลิ้นของผมได้เต็มที่ และไม่รู้เลยว่าตอนไหนที่ริมฝีปากของเราสัมผัสกัน ผมยกมือทั้งสองข้างขึ้นสอดเข้าไปในกลุ่มเส้นผมสีสวยของพี่พ่าย ขยำมันเล่นไปมาและปรับองศาใบหน้าตามคนที่กำลังนำเกมให้พอเหมาะพอดี เป็นจูบที่เนิ่นนานจนผมเกือบลืมไปเลยว่าเรากำลังทำอะไร เพราะมันมีแต่ความรู้สึกดีเกิดขึ้น หวาบหวิวและใจเต้นโครมคราม
จูบของเขาอาจทำให้ผมถึงตายได้...
“ชอบไหม” แค่เห็นหน้าแดงๆ ของผม ก็ไม่เห็นต้องถามเลย ในเมื่อมันบอกชัดอยู่แล้วว่าชอบมาก แต่พี่พ่ายก็ยังแกล้ง
“อื้อ”
“เข่าอ่อนเลยไงวะ ตอนที่ฝึกออนท็อปกูนี่เก่งนัก”
“ตอนนี้ไม่เหมือนกันนี่นา”
“ไม่เหมือนยังไง”
“ก็ตอนนี้ได้จูบพี่พ่าย”
“ชอบจูบกูมากเหรอ”
“อื้อ”
“งั้นเอาอีกไหม”
“อื้อ”
“ตอบเป็นอย่างเดียวหรือไง”
“อื้อ”
“สติไปหมดละ”
“อยากได้อีก”
พี่พ่ายยิ้ม จากนั้นก็ก้มลงกระซิบที่ข้างหูผมว่า “ไม่ได้ว่ะ กูหิวข้าว”
“ทุกทีอ่ะ ปั่นหัวผมทุกที มันตลกมากนักหรือไง”
เห็นคนทุรนทุรายเพราะต้องการพี่ มันตลกมากเหรอ แต่บอกเลยนะว่าผมไม่ตลกด้วย ผมจะขาดใจอยู่แล้ว ทำไมไม่ตามใจผมบ้าง
“อืม ตลก กูแม่งโคตรชอบเวลาที่มึงผิดหวัง”
“ล้อเล่นใช่ไหม”
พี่พ่ายเงียบไปเพียงครู่ ก่อนจะโน้มหน้าเข้ามาใกล้ แล้วกระซิบชิดริมฝีปากของผมว่า “อืม ล้อเล่น”
ผมเห็นความจริงจังในแววตานั้นแค่เพียงไม่กี่วินาที ก็โดนริมฝีปากของเขาจู่โจม ทำเอาลืมไปหมดเลยว่าแววตาเมื่อกี้ทำเอาผมสั่นมากแค่ไหน...เพราะพอได้เห็นแล้ว...หัวใจก็เหมือนถูกมือที่มองไม่เห็นมาบีบมันแน่นจนเจ็บ
.......................................................TBC...............................................................
ไร้พ่ายเป็นผู้ชายที่.... รู้จักเขาคนนี้มากขึ้นหรือยังคะ อิตานี่เขาไม่ได้มีความคิดแบบว่าจูบเก็บไว้เพื่อคนที่รักหรอก แต่มันชอบแกล้ง ยิ่งอะไรที่คนอื่นต้องการ มันยิ่งจะไม่ให้
เพี้ยน สู้เขานะลูก แต่ถ้าสู้ไม่ไหว ก็ดักตีหัว ลากเข้าป่าเลย เดี๋ยวตามไปฟีชเจอริ่งด้วยยย
ขอบคุณทุกๆ คนเลยค่ะ รักคนอ่านในเล้าเป็ดที่อบอุ่นแห่งนี้