ต่อตามสัญญาเน้อ ไว้พรุ่งนี้มาต่ออีก
++++++++++++++++++++++++++++++++++
เกียรติยศ กบฏหัวใจ 27 Enemy : ศัตรู [Part 3]ต้นธารานอนนิ่งๆไม่ได้เลย เข้ารับคีโมแล้วมันเหมือนกับตกนรกทั้งเป็น ป้าสมทำหน้าไม่สบายใจเลยเมื่อเห็นต้นธาราลุกขึ้นมาบ้วนเลือดใส่กระโถน ป้าสมยืนกุมมืออยู่ใกล้ๆเตียง มองใบหน้าบวม จมูกมีผ้าก๊อซอุดเอาไว้เพื่อไม่ให้เลือดออก สภาพอิดโรย
“ป้าสงสารคุณหนูเหลือเกิน”นางคอยเช็ดเลือดและน้ำลายเลอะปาก ต้นธาราทอรอยยิ้มในแววตาไร้ประกาย
“ผมไม่เป็นไร”พูดอู้อี้อยู่ในลำคอ ฟังไม่รู้บ้างในบางช่วง ป้าสมร้องไห้ น้ำตาคลอเบ้า
“เจ้าประคุณ ให้ป้าเจ็บแทนคุณหนูดีกว่า”
ต้นธาราบ้วนลือดอีกรอบ ก่อนล้มตัวนอนอย่างอ่อนแรง
“ผมนอนไม่หลับเลยครับป้า ต้องตื่นขึ้นมาบ้วนเลือดแล้วตะครั้นตะครอตัวแบบนี้”
แรงบีบบีบมือนุ่มเบาๆ ป้าสมลูบศีรษะ
“โธ่...ถ้าคุณหนูไม่เข้ารับคีโมแต่แรกก็คงดี”
รอยยิ้มเซียวๆผุดขึ้น“ได้ไงครับ มันเป็นทางเดียวที่จะรักษาผมให้หายนี่”
ดวงตาป้าสมยังเป็นกังวลอยู่ดี ต้นธาราเลยคว้าแขนผอมๆเอาไว้
“อีกอย่างคุณหมอก็ดูแลรื่องการให้คีโมผมอย่างดี ผมไม่เป็นอะไรหรอก”
ต้นธารากล่าว เขายิ้มเผล่ให้คนเฝ้าสบายใจ
“แต่...”ป้าสมจะเถียง หากต้นธาราจุ๊ปาก
“ผมก็เป็นหมอเหมือนกันน่า”
หญิงชราทรุดนั่ง ยกมือทาบอก“ก็เพราะคุณหนูเป็นหมอนี่ล่ะค่ะจะทำให้สมองจะแตกวันละหลายๆรอบ ไม่เคยเชื่องฟังคนอื่นเลย”
ต้นธาราหัวเราะแผ่วๆพร้อมกับเบือนหน้าหนี กัดริมฝีปากซีดขาว ท่าทีระโหยโรยแรง
“คุณหนูเหนื่อยแล้วหรือเจ้าคะ พักสักหน่อยนะคะ ตื่นขึ้นมาจะได้สดชื่น”
คุณหมอหนุ่มทำตาม ลับตาป้าสม ต้นธาราร้องไห้เพราะทรมานแต่ต้องเก็บเสียงเงียบๆไม่อยากรบกวนอดีตแม่นมที่เอนหลังนอนอนอยู่ไม่ห่าง น้ำตาไหลอาบหมอน ต่อให้เข้มแข็งแค่ไหนก็ต้องร้องไห้ มือกำหมอนแน่น ก่อนค่อยๆคลายออก ลมหายใจแผ่วๆ พยายามลุกขึ้นทั้งๆที่ไร้แรง แผ่นหลังพิงหมอน
‘ธาร...จำไว้ว่าผมจะไม่ทิ้งคุณเลย ถ้าไปไหนไกลผมจะตามคว้ากลับคืนมาให้ได้ ผมจะอยู่ข้างคุณจนตัวตาย’
คำพูดของภานุก้องในใจ มือขาวซีดยกขึ้นเช็ดขอบตา ปาดน้ำตาที่ไหลรินทิ้ง คนป่วยปืนลงจากเตียงอย่างเชื่องช้า เกาะขอบหน้าต่างเอาไว้แน่น มองดูท้องฟ้าสีส้ม ฟ้าแลบแปลบปลาบ ต้นธาราหรี่ตา ไม่นานสายฝนจะโปรยชุ่มฉ่ำ ยืนมอง...เสียงสายฝนกระทบหลังคา ไอละอองต้องผิวจนรู้สึกเยือกไปทั้งกาย คุณหมอซบหน้าลง ดวงตาประดับด้วยร่องรอยของความอ่อนเพลียเหม่อไป
“คุณหนูลุกมาทำอะไรเจ้าคะ!”
ดวงตางัวเงียมองเงาตะคุ่มริมหน้าต่างมองร่างที่พาดกับหน้าต่าง ป้าสมตกอกตกใจรีบลุกมาดู
“คุณหนูค่ะ ทำแบบนี้ไม่ดีเลยนะเจ้าคะ”
มือนุ่มแตะบ่ากระชากเบาๆ ดวงตาหยาดคลอด้วยน้ำตา
“ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับป้าสม ผมนอนไม่หลับ เลยมาดูดาวเท่านั้นเองแต่เสียดายฝนตก”
ป้าสมลูบแตะต้นแขน สัมผัสผิวเปียกชื้นด้วยละอองฝน
“นั่นแหละ ตากละอองน้ำฝนแบบนี้ไม่ดีเอาเสียเลย ยิ่งตอนนี้คุณหนูเป็นหวัดง่ายอยู่”ป้าสมเอ่ย ประคองต้นธารามานั่งยังเตียง กุลีกุจอหยิบผ้าขนหนูมาซับท่อนแขนที่โดนละอองฝนซ่านกระเซ็น ดวงตาไร้ประกายมองความเอาใส่ใจที่มีให้
“ป้าสมพักเถอะครับ ป้าดูแลผมมาตลอดคงเหนื่อย ผมนะไม่เป็นอะไรจริงๆ”
เสียงของต้นธาราแหบเครือ ดวงตาของอดีตแม่นมมองใบหน้าขาว
“ป้าจะพักได้ไงเจ้าคะ ป้าดูแลคุณหนูจะเจ้าค่ะ”นางบอก ดวงตาเจือด้วยรอยน้ำตารื้น ต้นธารายกแขนกอดคนที่ดูแลมาตลอด
“คุณประภาฝากฝังให้อิฉันดูแลคุณหนูแล้วจะให้อิฉันดูแลไม่ดีก็ผิดสัญญากับคุณหญิงสิเจ้าคะ”
ต้นธาราถอนใจ นึกถึงมารดาผู้เสียชีวิตไปแล้ว
“ครับ...แต่ว่าป้าต้องพักบ้าง เดี๋ยวผมจะนอนแล้วจริงๆ”ต้นธาราเอ่ย พลางล้มตัวนอน
“ป้าไปพักเถอะครับ”
ดวงตาหม่นเศร้าปิดลง ป้าสมมอง เห็นว่าคุณหนูหลับไปจริงๆจึงคลายใจ กลับไปพักผ่อนต่อ ต้นธาราหลับไปเพียงชั่วครู่ ตื่นขึ้นมาอีกครั้งด้วยอาการครั่นเนื้อครั่นตัว เขาดึงผ้าห่มคลุมศีรษะ กระสับกระส่ายจนไม่อาจหลับได้ ลุกขึ้นมาบ้วนเลือดอีกครั้ง คิดอยากตายให้พ้นๆเสียด้วยซ้ำ ศีรษะพาดอยู่กับหมอนฟังลมหายใจแผ่วๆของตัวเอง เวลาที่เคลื่อนไป ต้นธารามองดูท้องฟ้า สายฝนไม่หยุดโปรย บางส่วนสาดชะกระจกกลายเป็นหยดน้ำไหลเป็นทาง
...ที่นั่นจะฝนตกไหมหนอ...
คิดถึงบิดา คิดถึงคนที่เคยชิดใกล้ดวงตาของคุณหมอจางแสง สิ่งที่ค้างอยู่ในอก เวลา...ที่ยังให้ชีวิตเขาดำเนินอยู่ หัวใจไม่สงบเมื่อนึกถึงเรื่องของผู้กองนาคีขึ้นมาอีก ยิ่งเป็นแบบนี้ ยิ่งทำให้จำ
“ผู้กองนาคีคงจะให้เวลาผมอีกสักนิดใช่ไหม?”กระซิบถามความเงียบงัน เขารู้ตัวดีว่าคงมีโอกาสเพียงน้อยนิด โอกาสที่จะมีความสุข
------------------------------------------------
รุ่งเช้าต้นธาราตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการสะลึมสะลือ ป้าสมกระวีกระวาดมาดูคนป่วย นางแย้มยิ้มวางมือทาบบนหน้าผาก
“คุณหนูตื่นแล้วหรือเจ้าคะ อาการค่อยยังชั่วแล้วใช่ไหม วันนี้เดี๋ยวคุณหมอมาดูอาการอีกนะเจ้าคะ”ป้าสมรายงานเสียงแจ้วๆ ใบหน้าซีดขาวผละหนี
“อยู่นิ่งๆป้าจะเช็ดตัวให้”
รอยยิ้มปั้นอย่างสดใส มองใบหน้าไร้สีเลือด มันซีดเซียว อ่อนแรง ป้าสมยกอ่างน้ำมาตั้งใกล้ๆซับผิวให้อย่างนุ่มนวล มือขาวหยิบมือนุ่มออก ป้าสมขมวดคิ้ว
“คุณหนูเป็นอะไรเจ้าคะ?”
ต้นธาราลุกขึ้นหยิบผ้าขนหนูเปียกชื้นมาถือไว้
“ผมเช็ดตัวเองครับ”
มือสั่นๆใช้ผ้าซับลำคอ ป้าสมยื้อแย่งคืนมา
“ไม่ได้นะเจ้าคะคุณหนู ป้าทำเอง”
ลมหายใจอ่อนๆทอดถอนคลายหน่ายเหนื่อย
“คุณหนูยังไม่แข็งแรง เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ป้าสมทำได้คุณหนูพักผ่อนให้แข็งแรงเถอะค่ะ ท่านนายพลจะได้ไม่ห่วงด้วย”
จำต้องผงกศีรษะ ทำตัวนิ่งเหมือนคนตาย ป้าสมหยิบหวีมาหวีผมให้ บางส่วนติดแปรง สีหน้าของอดีตแม่นมไม่สบายใจเลย ชายหนุ่มเห็นแล้วละ พยายามไม่คิดอะไรมากนัก
“วันนี้คุณหนูอยากทานอะไรเจ้าคะ?”ป้าสมชวนคุยหลังจากเห็นดวงตาไร้ประกาย คนป่วยทำหน้าเบื่อๆ
“ยังไม่หิว”
ต้นธาราไม่มีความรู้สึกอยากกินอะไรทั้งนั้น อดีตแม่นมวางหวีลง จ้องดวงตามืดหม่น
“ไม่ได้นะเจ้าคะ เอาอย่างนี้ไหม ป้าสมออกไปซื้อของที่คุณหนูชอบมาให้”
คนป่วยยังส่ายหน้าอยู่ดี ป้าสมอ่อนใจ
“ผมทานอาหารที่ทางโรงพยาบาลจัดให้ก็ได้ครับ ไม่ต้องเดือดร้อนป้าสมออกไปซื้อมาให้เหนื่อย”ต้นธารากล่าวเพราะอยากตัดความกังวลใจ
“ค่ะๆเดี๋ยวป้าไปคุยกับหมอก่อนนะเจ้าคะ”
ต้นธาราล้มตัวนอน เมื่ออดีตแม่นมออกจากห้อง ดวงตาเขายังติดเหม่อๆอยู่ดี
------------------------------------------------