ห้วงรักเสน่หา + เกียรติยศ กบฏหัวใจ โดย Rain-at-Rose
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ห้วงรักเสน่หา + เกียรติยศ กบฏหัวใจ โดย Rain-at-Rose  (อ่าน 310530 ครั้ง)

Andreas

  • บุคคลทั่วไป
Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
«ตอบ #30 เมื่อ28-04-2008 08:44:57 »

ต้องแวะมาจั่วหัวไว้ก่อน เดี๋ยวคนอ่านจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่.... :oni1:

บอกสั้นๆๆ ตรงไปตรงมาว่า....

ถ้าเรื่องไหนที่ผมวิจารณ์ หมายความเรื่องนั้นมีพื้นฐานการแต่งที่ดี และคนเขียนมีศักยภาพเพียงพอที่จะปรับปรุงและแก้ไขให้งานเขียนสมบูรณ์แบบมากขึ้น

ผมไม่ชอบปั้นดินให้เป็นดาว เพราะทำไม่เป็น..... หากแต่จะช่วยให้ดาวเคราะห์ ส่องประกายสดใสจนกลายเป็นดาวฤกษ์เข้าสักวัน....

สวัสดีครับ

Andreas

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
«ตอบ #31 เมื่อ28-04-2008 11:40:43 »

ป๋ามาเอง

หายไปนายเลยนะครับ ว่าแล้วก็ทวงนิยายซะเลย ดองไว้นานแระ

เป็นกำลังใจให้คนแต่งครับ

 o13

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
«ตอบ #32 เมื่อ28-04-2008 14:45:30 »

อิอิ  ขอบคุณทุกคนที่อ่านแล้วก็คอมเม้นต์  เยี่ยมเลย  สนุกดี
ที่จริงน้องเรนอยากให้มีคนคอมเม้นต์เรื่องการเขียนไง  แล้วเรนก็แต่งได้ดีอยู่แล้วนะ  เลยบอกให้ตาจ๋อมมาลองเม้นต์ดู เผื่อจะได้เอาไปปรับปรุงงานเขียนให้ดีขึ้นไปได้อีก  จริงๆ กระทู้ที่มีการแสดงความเห็น ก็สนุกไปอีกแบบ  ลองๆดูกันไปแล้วกันจ้า  ใครมีข้อสงสัยหรืออยากถามไร เดี๋ยวเรนมาตอบ 555  (โยนให้น้อง)

ต่อกันเลยนะ  ช่วงที่กำลังจะลงนี้เป็นช่วงสุดท้ายของตอนที่ 1 เนื้อเรื่องกำลังจะเข้มข้นแล้ว
++++++++++++++++++++++++++++++++++++


รุ่งเช้า ต้นธาราสะดุ้ง เขาเห็นชายหนุ่มแต่งตัวเรียบร้อย ในมือของเขามีอีกชุดยื่นให้ ต้นธารางุนงงแต่รับมาโดยดี

"มีอะไรหรือเปล่าครับ"

เขาถามเมื่อถูกบังคับให้แต่งตัว คุณหมอหนุ่มงุนงงยอมแต่งตัวตามที่บอก ชุดหลวมไปนิด แถมมีกลิ่นอับๆติดจมูก

"มันเป็นชุดที่ฉันเคยใส่สมัยเข้ากรมฯใหม่ๆน่ะ เก็บไว้นานอาจจะเก่าไปบ้างอย่าถือสา"

"ครับ แล้วคุณให้ผมแต่งตัวอย่างนี้ทำไมครับ"

ระหว่างที่กลัดกระดุม รองเท้าเดินป่าถูกโยนลงตรงหน้าจนคนที่จะสวมใส่มัน กระโดดหนีแทบไม่ทัน

"เราจะไปลาดตะเวนกัน บังเอิญว่าแพทย์สนามที่เราจำเป็นต้องนำไปเกิดป่วยกะทันหัน คุณก็เลยเป็นผู้โชคดีนะสิ"

ภานุบอกด้วยสีหน้าเรียบเฉยยิ่งนัก ต้นธาราอ้าปากค้าง

"อะไรนะ!"

นายทหารหนุ่มจ้องหน้า เขาจับเท้าของอีกฝ่ายไว้ก่อนจะยัดเท้าเข้าไปในรองเท้าเดินป่า ผูกเชือกให้เรียบร้อยเสร็จสรรพ

"คุณไม่มีสิทธิ์บ่นนะครับ"

ชายหนุ่มห้ามเมื่อร่างบางจะกล่าวบางอย่าง

"แต่คุณไม่ต้องกลัวหรอกเพราะมีคนคอยคุมครองคุณอยู่"ชายหนุ่มปลอบขณะช่วยใส่รองเท้าให้อีกฝ่ายจนเสร็จ

"ผมไม่ได้กลัวหรอกที่จะได้ไปลาดตะเวนกับพวกคุณ แต่ผมยังไม่เตรียมอุปกรณ์เลย"

ชายหนุ่มเอ่ย นาคีเดินขึ้นมา ในมือของชายหนุ่มมีถุงย่ามประดับตราแพทย์ทหาร ต้นธารารับมันไว้

"ในนี้มีครบเลยครับ ทางโรงพยาบาลจัดเตรียมไว้ให้"

รอยยิ้มอันสดใสของนาคี ต้นธารายิ้มตอบ

"ขอบคุณครับ แล้วคุณนาคีก็ออกร่วมเดินทางกับเราหรือครับ?"

นาคีส่ายหัว

"เปล่าครับ แค่มาคุ้มครองคุณหมอเท่านั้นเองครับ คราวนี้คุณหมอก็ไม่ต้องห่วงแล้วนะครับ"

ชายหนุ่มจอมทะเล้นกล่าว ต้นธาราเอ่ยเป็นเชิงขอบคุณ ก่อนทั้งหมดจะเดินไปยังฐานใหญ่ รับคำสั่งแล้วเตรียมออกเดินทางด้วยความสงบ

------------------------------------------------

ต้นธารารออยู่ในป่า รอเวลาให้ค่ำลงกว่านี้ก่อนจะติดตามหน่วยสอดแนมเข้าไปในอาณาเขตป่า การเดินทางท่ามกลางความตึงเครียดโดยมีภานุนำหน้า ชายหนุ่มส่งสัญญาณให้หยุด ต้นธาราชะเง้อมอง เขาไม่เห็นมีอะไรเลย แค่ทางที่ถูกใบไม้ทับถม สายตาของชายหนุ่มกวาดไปรอบๆ ก่อนจะชี้ทางให้เดินอ้อม ต้นธาราขมวดคิ้ว แต่นาคีดันให้เดินตามขบวนไป เขาจึงยอมเดินอย่างเสียมิได้

"ทำไมเราต้องอ้อม"

คุณหมอหนุ่มถาม นาคีหัวเราะแผ่วๆ เขาตั้งปืนไว้

"ถ้าคุณหมออยากพรุนก็เชิญเลยครับ"

ต้นธาราไม่เข้าใจ บางอย่างกระทบที่ตรงนั้น อย่างแรงจนช่องขนาดย่อมๆเผยออก ไม้ไผ่เหลาแหลมๆเสียบไว้ถี่ จนคุณหมอตกใจ

"นี่ล่ะครับเหตุผลว่าทำไมถึงต้องอ้อม"

ต้นธาราผงกหัว เขาเริ่มเข้าใจแล้ว ภานุสั่งให้เร่งฝีเท้า ความกลัวเริ่มเกาะกุมหัวใจของคุณหมอหนุ่ม

"ตามเจ้าภานุไปรับรองรอดครับ"

นาคีบอกเสียงสดใส เขาไม่รู้ว่าจะมีกับดักต่อหรือไม่เพราะป่าทั้งป่ากลับเงียบสงบ

"มีเหตุการณ์ผิดปกติครับ"คนที่อยู่เบื้องหลังรายงานชายหนุ่ม

"อื้ม งั้นเตรียมหาที่ซุ่มยิง"

ชายหนุ่มสั่ง ทุกคนแยกย้ายประจำตามจุด คงเหลือแต่คุณหมอหนุ่มที่ยื่นนิ่งกับคนคุ้มกันเท่านั้น

"อย่าตกใจไปนะครับ เพราะในไม่ช้าเสียงปืนก็จะดังขึ้นเป็นตับเลย"

ต้นธารายกมือปิดหู เสียงปืนดังเป็นดับก็เริ่มขึ้น เขาชะเง้อมองแต่ก็ถูกกดหัวลง

"ถ้ายังไม่อยากตาย อย่าเงยหน้าขึ้น"

นาคีบอกก่อนพาร่างบางเขยิบมาใกล้ชิด ถอยออกห่างจากแนวรบ พาไปยังที่โล่งๆและแล้วคุณหมอหนุ่มก็เหลือบเห็นนิ้วที่สั่นระริก ร่างกายที่ถูกยิงนอนรอความตายใต้ต้นไม้ใหญ่ ต้นธาราลุกขึ้นแล้วชะงักไปเมื่อเห็นเป็นฝ่ายศัตรู นาคีหยิบปืนพกขึ้น มองคนบาดเจ็บเลือดท่วม คงทรมานน่าดู เขามองปากแผลจากรอยกระสุนแล้วเตรียมยิง แต่ต้นธารามาขวางไว้

"คุณหมอไม่จำเป็นต้องช่วยมันหรอก"

คุณหมอหนุ่มตีสีหน้า

"ผมเห็นคนตายไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้หรอกครับ"

ดูท่าคนป่วยจะรู้สึกตัวเบือนหน้ามา ดวงตามันวาวโรจน์ คุณหมอพยายามยิ้มอย่างอ่อนโยน

"ไม่ใช่อย่างนั้นครับ แต่เราอยู่ในแนวรบของศัตรูอยู่"

ผู้กองนาคีบอกแต่แล้วต้องถอนใจเพราะเห็นสีหน้าอ่อนโยนนั่น

"อยู่นิ่งๆนะครับ"

เขารักษาบาดแผลโดยมีนาคีมองไม่กระพริบตาเตรียมตัวยิงได้เสมอ

"ผมเป็นหมอ ผมช่วยชีวิตคนมิใช่ฆ่าคน ผมทนไม่ได้หรอกครับที่จะเห็นเขาตาย ทั้งๆมีสิทธิ์ที่จะรอด"

คนที่ถูกต้นธาราช่วยเหลือมองหน้า

"อายุก็ยังน้อยอยู่ ช่างน่าสงสารนักที่เข้าร่วมสู้รบ"

เขาออกความคิดเห็น ผู้กองนาคีมองไปรอบๆ

"ปกติครับคุณหมอ พวกนี้ต้องซ่องสุมคนไว้เยอะๆเพื่อมารุกรานเรา"

ชายหนุ่มมองการกระทำของคุณหมอ ในใจนึกชื่นชม แต่กับการช่วยศัตรูมันก็ข้อขัดแย้งในใจ เสียงปืนยิงกระหน่ำ ต้นธาราปิดบาดแผล

"เร็วเถอะครับคุณหมอ"

ผู้กองนาคีเร่งเพราะได้ยินเสียงฝีเท้า เข้ามาทางนี้ ต้นธาราละมือ...เขาช่วยได้เท่าที่ช่วยแต่สายไป เพราะเสียงปืนดังกระหน่ำ ร่างของเขากับผู้กองนาคีล้มลง ทับเขา คุณหมอรู้สึกจุกและสัมผัสถึงเลือดที่ไหลรินซึมเข้าไปในเนื้อผ้า หมวกเหล็กกระเด็นออก ภาษาแปลกๆไม่คุ้นเคยดังเข้าหู ความหวาดกลัวแผ่ซ่าน...

"อยู่นิ่งๆครับ"ต้นธาราดีใจที่ผู้กองนาคียังไม่ตาย น้ำตาจึงไหลออกมา

"อย่าให้มันรู้นะครับว่าคุณหมอไม่เป็นอะไร"

ลำแขนโอบเอวรอบขยับไม่ให้ผิดสังเกตซับน้ำตาให้

"ผู้กองบาดเจ็บ"คุณหมอกระซิบ ชายหนุ่มยิ้มให้

"เรื่องเล็กครับ ชูว์...พวกมันเข้ามาแล้ว"

ต้นธาราจึงปิดปากเงียบ พวกเขาตกอยู่ในวงล้อมของศัตรูเสียแล้ว เสียงพูดคุยกัน ฟังไม่ออก ต้นธาราแทบตัวลีบลำแขนกดไว้ไม่ให้ขยับเขยื้อน ต้นธารารับรู้ได้ถึงเงาของปืนสั้นเขาหลับตา แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันกลับเกิดขึ้นเพราะเสียงตะโกนของคนที่ถูกเขาช่วยพูดราวกับจะห้าม อยู่บนความลังเล ทหารฝ่ายของภานุก็เคลื่อนเข้ามายิงตัวคนที่ถือปืนพกของผู้กองนาคี ปืนกระเด็นเข้ามาใกล้ ผู้กองนาคีลุกขึ้นฉุดเข้าลุกตาม ยิงกราดใส่ ก่อนจะผลักเขาไปสู่อ้อมแขนของภานุ เขาเซล้มเสียก่อน เสียงปืนดังซ้อนๆกัน นึกว่าตัวเองจะตายไปเสียแล้ว แต่ก็เปล่า เพราะเมื่อลืมตาขึ้นมา ร่างของผู้กองนอนเคียงข้างเขา ตามลำตัวมีเลือดไหลไม่หยุด คุณหมอช๊อกไปชั่วขณะ ฝ่ายตรงข้ามรีบถอนตัวออกไปอย่างรวดเร็วเพราะชำนาญพื้นที่กว่า ภานุโผล่ออกมาวิ่งเข้ามาหาคุณหมอที่พยายามช่วยเหลือร่างที่ตายไปแล้วของผู้กองนาคี นายทหารที่ติดตามไปดึงออก แต่คุณหมอก็ดิ้นเร่าๆ ผ้าก๊อซและมือชุ่มไปด้วยเลือด ภานุหลับตา เขาไม่คิดฝันว่าเจ้าเพื่อนที่เคยเฮฮาหยอกล้อเมื่อเช้าไร้ลมหายใจไปเสียแล้ว

"ผมจะช่วยเขา"

ภานุเดินเข้ามาหาคุณหมอที่พยายามดิ้น ชายหนุ่มสะกดกลั้นความเศร้าเสียใจไว้ มองใบหน้าที่เปื้อนคราบเลือดและน้ำตา

"คุณไม่อาจช่วยคนตายได้หรอก พอเถอะ ผู้กองนาคีตายไปแล้ว"

พอได้ยินอย่างนี้ ต้นธาราเสียใจ น้ำตาไหลเผาะๆ

"เขาช่วยผมไว้...เขา..."ภานุลูบหัว

"เขาได้คุ้มครอง ทำหน้าที่บรรลุแล้วคุณอย่าห่วงเถอะ"

เพื่อนทหารนำศพของผู้กองนาคีกลับ ยังเหลือแต่กลิ่นคาวเลือด และร่างแข็งทื่อของต้นธารา

"เขาจากไปดีแล้ว"

ภานุปลอบพยายามฉุดให้ต้นธาราลุกขึ้น

"ผมไม่น่าไปช่วยพวกศัตรูเลย"

พอพูดอย่างนี้ ภานุชะงัก ฟังคำพร่างพรู

"ผมเป็นคนฆ่าผู้กองนาคี....ผมมัน..."

ชายหนุ่มอึ้ง ไม่อยากจะเชื่อว่าคนๆนี้จะช่วยฝ่ายตรงข้ามจนกระทั่งเพื่อนรักเขาตายไป ชายหนุ่มผลักร่างบางออก ตบใบหน้าฉาด ดวงตาวาวโรจน์...โกรธแค้น...กับคนที่ทำให้เพื่อนเขาตาย!

------------------------------------------------

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
«ตอบ #33 เมื่อ28-04-2008 17:02:30 »

  :impress: :impress: :impress:

อ่าครับเพื่อนที่ว่าก็คือ นาคีนี่เอง

เสียดายจังครับรีบจากไปหน่อย

เสียใจด้วยครับผม แล้วจะเป็นไงต่อไปอะครับ

อยากรู้จังเลย อยากรู้ว่าภานุกับหมอ ได้รักกันไหมครับ

เพราะดูท่าแล้วตอนหน้าภานุจะเกลียดหมอซะละ

 :impress: :impress: :impress:

rain-at-rose

  • บุคคลทั่วไป
Re: ห้วงรักเสน่หา $
«ตอบ #34 เมื่อ28-04-2008 19:18:52 »

เรนต้องขอบคุณคุณ Andreas ก่อนค่ะ ที่แวะมาวิจารณ์ผลงานให้ อ่านบทวิจารณ์แล้วค่ะ จะน้อมรับไปใช้ค่ะ  (ว่าแล้วเราจะได้เป็นดาวรึดินละหนอ?):o8: ชอบค่ะ คอมเมนท์แบบนี้ มันเหมือนมีกระจกเงาสะท้อนผลงานตัวเอง นานๆจะได้เจอคอมเมน์เเรงๆและตรงจนปวดใจแบบนี้ o7 ชอบค่ะ ถ้าว่างจะให้เกียรติมาวิจารณ์อีกนะคะ รอรับคำวิจารณ์เพื่อนำมาปรับปรุงค่ะ

สุดท้ายก็ต้องขอขอบคุณทั้งคุณAndreas และ คุณมู่มู่น้อยนะคะ ที่ทั้งช่วยวิจารณ์และช่วยนำนิยายมาเปิดตัวในบอร์ดนี้ :L2:

ปล.
1.ลืมบอกไปค่ะว่าเรื่องนี้มีตอนพิเศษด้วย เดี๋ยวนำส่งให้คุณมู่มู่น้อยนะคะ ในตอนพิเศษจะเป็นตอนที่บอกกล่าวบางอย่างในตอนหลักค่ะ
2.ขอน้อมรับคำวิจารณ์ไปใช้ตอนรีไรท์หลังจบเรื่องนี้นะคะ ^_^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-04-2008 19:38:59 โดย rain-at-rose »

Andreas

  • บุคคลทั่วไป
Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
«ตอบ #35 เมื่อ29-04-2008 10:38:23 »

ป๋าแวะมาอีกรอบ เพื่อมาต่อให้จบ

ไม่ใช่เพราะคนเขียนไม่หืออือ เลยใส่เอาๆ หรอกนะครับ แล้วก็ไม่ใช่พวกอยากดังด้วย อยู่เงียบๆๆมานานตั้งแต่บอร์ดเปิดใหม่ๆๆจนกระทั่งบัดนี้ก็ยังไม่คิดอยากจะเรียกร้องความสนใจ (ไม่ได้กระทบใครนะจ๊ะ ไม่ต้องร้อนตัว)

หลายคนอาจจะพากันคิดว่า ซวยเนอะ เป็นนักเขียน เขียนให้อ่านฟรียังถูกวิจารณ์ซะและ..... (ไม่และหรอก ในกรณีผมน่ะ) อยากจะบอกว่าคนวิจารณ์นี่แหละซวยกว่า โดยเฉพาะนักวิจารณ์ที่เป็นนักเขียนด้วย จะโดนเป็นสองเท่า เพราะคนอ่านและคนที่ถูกวิจารณ์ก็จะจับตามองงานเขียนของคนๆนั้น ถ้าเขียนดีก็ดีไป ถ้าเขียนไม่ดี ก็ถูกบาทาเหยียบติดติน แถมด้วยถ้อยคำที่ว่า "เขียนก็ห่วยแล้วยังมาสะเออะวิจารณ์เค้าอีก"

คนว่าก็มันปากไป ทั้งๆที่ไม่ทราบเลยว่า การวิจารณ์กับการเขียน มันใช้ทักษะคนละแบบกัน เหมือนแคลคูลัส กับ ตรีโกณมิตินั่นแหละ ....เป็นคณิตศาสตร์เหมือนกัน แต่ใช้หลักการแตกต่างกัน ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น คนวิจารณ์ได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเขียนดี ส่วนคนเขียนดีบางครั้งก็วิจารณ์ไม่เป็น

การเป็นคนวิจารณ์นี่ลำบากพอควร เพราะต้องมีทักษะที่จำเป็น (ไม่ได้อวดว่าป๋าเองมีหรอก....ไม่ต้องมาหมั่นไส้...ป๋าพูดตามเนื้อผ้า) คือ ภาษา และตรรกศาสตร์ ....ซึ่งเหมือนกับคนเขียนนั่นแหละ เพียงแต่ใช้งานต่างกัน

การวิจารณ์มีสองแบบ คือวิจารณ์การเขียน และการวิจารณ์วรรณกรรม .... ที่ผมถนัดคือวิจารณ์การเขียน ....ส่วนการวิจารณ์วรรณกรรมนั้นไม่ชอบทำ เพราะรู้ๆๆอยู่มันเป็นวรรณกรรม ไอ้ที่จะมาวิจารณ์ ทำไมตัวละครคิดอย่างนั้น ทำอย่างนี้ ทำไมพลอตเป็นแบบนั้น ความสมเหตุสมผลของการกระทำของตัวละครคืออะไร.... ทำไม่เป็นง่ะ เพราะของแบบนี้มันขึ้นอยู่กับคนเขียน จะไปคิดแทนคนเขียนได้อย่างไร (ยกเว้นไอ้พวกความคิด non-sense จริงๆๆ ก็ขอหน่อยเถอะ) ...

เหมือนคุณหญิงวิมล (ทมยันตี) เค้าชอบตอกกลับพวกมาวิจารณ์งานเขียนของเค้าว่า เขียนเองก็ไม่ได้ แล้วยังมาวิจารณ์อีก ..... อ่านๆๆดูแล้วเหมือนคุณหญิงเค้าไม่มีเหตุผล แต่ลองไปอ่านพวกที่วิจารณ์งานเขียนเค้าแต่ละคนดิ เล่นเอาพลอตไปวิจารณ์ เอาตัวละครไปว่าเสียๆๆหายๆๆ น้อยคนที่จะกล้ามาวิจารณ์ว่าภาษาคุณหญิงเค้าไม่ดี.... พูดง่ายๆๆคือ พอไม่มีจุดอ่อนที่โจมตีได้ ก็ไปดึงเรื่องอื่นมาโจมตี

แต่สำหรับผม ผมไม่เคยดึงเรื่องอื่นมาพูด เห็นอย่างไรในบันทัดที่พิมพ์มา ก็วิจารณ์ไปแบบตรงไปตรงมา เพราะผมวิจารณ์ "การเขียน" ถ้ามีจุดอ่อนจริงๆๆ ก็เป็นจุดอ่อนที่ make sense และสมควรแก่การแก้ไขในความคิดของผม (ย้ำความคิดของผม) ซึ่งนักเขียนเองก็มีสิทธิ์ในการ defend ได้ .... ผมเองยังทำบ่อยไป อะไรที่แก้ก็สมควรแก้ อะไรที่คงไว้ ก็คงไว้... แล้วแต่วิจารณญาณส่วนบุคคล

ส่วนที่ยากที่สุดของการวิจารณ์ นอกจากจะต้องละเอียดและมีนิสัยรักการอ่านแล้ว ก็คือ การเขียนออกมาอย่างไรไม่ให้คนเขียนจิตตก จนเลิกเขียน .... ซึ่งผมยอมรับว่ายังทำได้ไม่ดีนัก ขนาดว่าใช้ภาษาเพราะๆๆแล้วนา....  กลุ้ม :serius2:

เห็นหนูเรน จิตไม่ตก .... ก็แวะมาต่อให้จบๆๆ กัน เพราะป๋าจะไม่ว่างแล้ว .... งานป๋าเยอะเหลือเกิน .... อีกอย่างธูปกำลังจะหมดดอกด้วย ต้องกลับไปตำหนัก สางงานต่อ..... (หนูพูห์ยิ่งมาทวงนิยายอยู่ ขึ้นบทนำไว้หกเดือนละ ยังไม่มีเวลาต่อซักที )

ผมบอกไว้ตั้งแต่เมือวานซืนแล้ว ว่ามีสองประเด็นที่จะพูด เรื่องแรกคือ ความสมจริงของนิยาย กับเรื่องที่สอง ลักษณะภาษาที่ใช้ .... ขอเริ่มต้นเลยดีกว่า

(2) ลักษณะภาษาที่ใช้

ก่อนอื่นต้องชมหนูเรนว่า จุดแข็งของงานเขียนของหนูเรนคือ การไม่ใช้คำซ้ำซ้อน (มันมีศัพท์สำหรับคำนี้น่ะ คิดไม่ออกง่า) ซึ่งนักเขียนส่วนน้อยจะทำได้ดีเช่นนี้

แต่จุดที่ต้องปรับปรุงคือ ระดับภาษาและการใช้คำทั้งในส่วนบรรยายโวหาร และ สนทนาโวหาร .... ป๋าขอยกตัวอย่างดังนี้

เสียงระเบิดดังกึงก้องตรงแนวชายเขาสีเขียว เปลวไฟพวยพุ่งเสียงร้องโอดโอย ปนกับเสียงปืนที่ดังเป็นตับก่อนจะหยุดลงในเวลาไม่นาน ลองเปลี่ยนระดับภาษาให้มันกลมกลืน เป็น เสียงระเบิดดังสนั่นตรงบริเวณแนวชายเขา พร้อมกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ถัดมาคือเสียงร้องโอดโอย ปนกับเสียงปืนที่รัวขึ้นเป็นชุดก่อนจะหยุดลงในเวลาไม่นาน ... จะสังเกตว่าผมปรับระดับของศัพท์ลงมาให้ทุกๆๆทำอยู่ในระดับเดียวกัน เพื่อไม่ให้เกิดการแตกแยก .... ผมมองว่าพรรณาโวหารของหนูเรนมันเสียงดนตรี ซึ่งมีการใช้ระดับสูงต่ำ ซึ่งคนข้างจะ odd กับงานเขียนลักษณะ "รบ" แบบนี้

ส่วนที่ผมตัดคำว่า "เปลวไฟ" ออกไปนั้น เพราะคิดว่าระเบิดที่ใช้ในสนามรบไม่น่าจะทำให้เกิดไฟครับ แต่อานุภาพของระเบิดนั้นคือแรงอัด และชิ้นส่วนโลหะที่อัดไว้ในระเบิดนั้นมากกว่าครับ ... อีกอย่าง ถ้าบริเวณรบเป็น "เขาเขียว" จริงๆๆ คงยากที่จะทำให้ติดไฟนะครับ (ลองศึกษาจากลิงค์นี้นะครับ http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%94)

"ทางศัตรูถอยไปแล้วครับ พวกมันหนีไปทางทิศเหนือแตกรังไม่เป็นท่าเลยครับ" ลองเปลี่ยนเป็น "พวกมันถอยหนีแตกรังกันไม่เป็นท่าเลยครับ" จะดูกลมกลืนกับสถานการณ์และบุคลิกของนายทหารห่ามๆๆได้มากกว่า "ศัตรู" ว่ามั้ยครับ

"แล้วคนเจ็บและคนตายล่ะเป็นอย่างไร สิบตรีอิสระ?" ลองเปลี่ยนเป็น "แล้วพวกเราล่ะ เป็นงัยกันบ้าง" จะกลมกลืนกว่ามั้ยครับ

อีกหนึ่งตัวอย่างที่ผมว่า เหมือนเสียงดนตรี คือประโยคนี้ครับ ดวงตาแกร่งเหลียวมองลูกน้องที่หลบอยู่ในบังเกอร์ ดวงตามุ่งมั่น ฉายชัดบนสีหน้ากระเหี้ยนกระหือรือเต็มไปด้วยความอยากจะประหัตประหารข้าศึกให้เป็นจุณ มีคำศัพท์หลายคำที่ค่อนข้างจะมีระดับสูงกว่าปกติ เช่น กระเหี้ยนกระหือรือ ประหัตประหาร เป็นจุณ ..... ถ้าเป็นผม (ที่ผ่านการฝึกทหารมาก่อน) จะเขียนแบบนี้ครับ ดวงตาแกร่งเหลียวมองลูกน้องที่หลบอยู่ในบังเกอร์ สันชาติญาณความเป็นผู้ปกป้องแผ่นดินฉายชัดออกมาในแววตามุ่งมั่น ด้วยพร้อมที่จะกดดันให้ผู้บุกรุกถอยร่นกลับคืนฐานที่มั่น

อยากจะบอกให้หนูเรนเข้าใจลักษณะการรบในปัจจุบันว่า (ชายแดนพม่าตามท้องเรื่อง) มันเป็นการรบในลักษณะแย่งชิงพื้นที่ และกดดันการลุกล้ำอำนาจอธิปไตยเสียมากกว่า โดยที่การโต้ตอบนั้นจะกระทำภายใต้กฏระเบียบที่แน่ชัด .... แต่ถ้าเป็นการรบที่ภาคใต้ละก๊อ..... ตาต่อตาฟันต่อฟันครับ ไม่ต้องนึกกฏระเบียบให้ตายตัว เพราะมันคือปัญหาความมั่นคง มิใช่การลุกล้ำอำนาจอธิปไตย ..... แต่ถ้าหนูเรนจินตนาการการรบสมัยเมื่อห้าสิบปีที่แล้วล่ะก๊อ.... กระป๋มต้องขออภัยด้วย เพราะมันใช้วิธีการอย่างที่หนูว่ามาจริงๆๆ

ต่อไปลองสังเกตคำเหล่านี้นะครับ

ทหารชาญชัย = ทหาร

หัวหน้าใหญ่ = หัวหน้า

ปล้นสะดม กับ ยึดทรัพย์สิน    นี่น่าจะเหมือนกันนะครับ น่าจะเลือกใช้คำใดคำหนึ่ง

อาวุธยุทโธปกรณ์ นั้นเป็นศัพท์ที่ถูกต้อง และสมควรปรับคำว่า "หยูกยา" ให้สัมพันธ์กัน .... ซึ่งหยูกยาก็คือ เวชภัณฑ์

เฝ้าเวรยามอย่างเข้มแข็ง = เฝ้าเวรยามอย่างหนาแน่น

ยึดอำนาจ น่าจะเปลี่ยนเป็น ยึดพื้นที่ นะครับ

ลองเปลี่ยนบางคำของ ค่ายใหญ่ เป็น กองบัญชาการ หรือ กองกำกับการ น่าจะทำให้การเขียนดูมีน้ำหนักมากกว่านะครับ

พ่อหนุ่ม = ไอ้หนุ่ม (เพราะมันน่าจะเข้ากับระดับความสนิทสนมและความเป็นนายทหารมากกว่า พ่อหนุ่ม ซึ่งผมว่ามันดูพลเรือนมากไปหน่อยครับ)

ดังจ๋อมแจ๋ม = ลองปรับให้มันไม่จ๋อมแจ๋มได้มั้ยครับ

ผมคงยกตัวอย่างได้เท่านี้ครับ เพราะคิดว่าหนูเรนคงพอจะเข้าใจในสิ่งที่ผมเสนอแนะแล้ว คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับหนูเรนแหละครับว่าจะจัดการกับข้อแนะนำของผมอย่างไร

ก่อนจะจากกัน ผมอยากจะแนะนำให้หนูเรนอ่านงานเขียนของ พลตำรวจเอก วสิษฐ์ เดชกุญชร ดูนะครับ ...รับรองว่าจะได้ในสิ่งที่ผมเขียนไปทั้งหมดข้างต้นครับ...

สวัสดีครับ

Andreas

ปล. อยากบอกให้ทราบว่าบทแรกของนิยายนั้นสำคัญที่สุด ภาษาต้องมีการพิถีพิถัน และใส่ใจกับรายละเอียด เนื่องจากมันจะกำหนดภาษาของบทต่อๆๆมาจนกระทั่งจบเรื่อง ถ้าบทแรกภาษาไม่เข้าจังหวะ บทต่อๆๆไปก็จะแย่.... ยิ่งกว่านั้น บทแรกก็เหมือนกับการโฆษณาขายสินค้านั่นแหละครับ ถ้าดี คนก็อ่านต่อครับ

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
«ตอบ #36 เมื่อ29-04-2008 13:45:42 »

ขอเสริมของป๋านิดหนึ่ง

ปล้มสะดม กับยึดทรัพย์ ความหมายไม่เหมือนกันนะครับ

ปล้นสะดม หมายถึง (โบ) ก. ปล้นโดยใช้วิธีรมยาให้เจ้าของทรัพย์หลับสนิทไม่รู้สึกตัว

ยึดทรัพย์ หมายถึง (กฎ) ก. การที่เจ้าพนักงานเอาทรัพย์สินไปจากการครอบครองของบุคคล เพราะเหตุที่กระทําการฝ่าฝืนกฎหมายหรือเพื่อบังคับคดี.

สองคำนี้ความหมายต่างกันนะครับ แต่จากเนื้อเรื่องแล้ว น่าจะใช้คำว่า ปล้นทรัพย์สิน น่าจะเหมาะนะครับ

ขอบคุณครับ

 o1

rain-at-rose

  • บุคคลทั่วไป
Re: ห้วงรักเสน่หา $
«ตอบ #37 เมื่อ29-04-2008 15:49:12 »

ขอบคุณป๋า Andreas ที่สละเวลาของป๋ามาช่วยวิจารณ์ให้ ดีใจมากค้า เรื่องวิจารณ์แล้วเป็นผลเสีย-ผลดีสำหรับตัวเรนเองนั้น เตรียมใจไว้แล้วค่ะ (แต่ก็อดนึกโห...ไม่ได้ o7)แต่ก็จะพยายามสู้ๆ นำสิ่งที่แนะนำไปปรับปรุงค้า  และคุณJunrai_Hyper ที่ช่วยแนะนำมาอีกรายเจ้าค่ะ จะนำคำแนะนำไปปฏิบัติตาม :a2:

มุ่งจากดินเป็นดาว! :a1:


ปล.1ขอบคุณเรื่องแนะนำหนังสือด้วยค่ะ
ปล.2 ว่างๆช่วยแวะมาให้คำแนะนำดีๆอีกนะคะ


 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-04-2008 16:16:06 โดย rain-at-rose »

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
«ตอบ #38 เมื่อ29-04-2008 21:32:15 »

อ่ะจ้า  ขอบคุณที่มาเม้นต์ให้น้องน้า 
ที่จริงจะว่าไปภาษาที่อ่านก็ไม่ได้รู้สึกสะดุดอะไรมากมายนะ  ถ้าอ่านไปเรื่อยๆจะชอบพล๊อตนะ  ตบจูบๆ ดี 55 ชอบๆ  เป็นคนซาดิสม์  อ่านแล้วสนุกอะ 

ต่อเลยดีก่า
++++++++++++++++++++++++++++++++++

ห้วงรัก:2 Mistake/เข้าใจผิด

หลังจากนำร่างของนาคีกลับมายังฐานพร้อมกับคุณหมอผู้เศร้าโศก ภานุเอาแต่กัดฟันกรอด เขาไม่อาจโทษใครได้ตอนนี้ ร่างของเพื่อนหลับเหมือนกับหลับไป ผู้พันมีทรัพย์หลับตา สีหน้าของท่านเจ็บปวดที่เห็นผู้ใต้บังคับบัญชาการได้จากไปไม่มีวันกลับ

"เจ้านาคีมันโชคร้าย"ท่านเอ่ยแค่นั้น ทหารในกองต่างห้อมล้อมดูศพซึ่งถูกยิง

"จะมุงดูอะไรกัน ออกไป!"

ภานุตวาด เหล่าทหารที่เหลือต่างแตกฮือกระจายออก ผู้พันตบบ่าภานุราวกับจะบอกให้ใจเย็นๆ ก่อนปรายตามองคุณหมอที่ดูจะช๊อกไป

"อย่าเลยคนตายไปแล้วช่วยอะไรไม่ได้หรอก ทุกคนเขามาดูศพเพราะอยากมาเคารพ"

ท่านกล่าว ก่อนจะเลี่ยงไปสูบบุหรี่มองท้องฟ้า เขาได้เสียลูกน้องฝีมือดีไปแล้ว ภานุตวัดมองคุณหมอซึ่งนั่งหน้าซีดเซียว

"ได้ข่าวว่าคุณหมอต้นธาราเห็นตอนที่ผู้กองถูกฆ่าเต็มๆตาเลยรึ ช่างน่าสงสารนัก"

ผู้พันกล่าว ผู้กองภานุเตะโต๊ะก่อนจะรับคำเสียงห้วน

"ครับผู้พัน มัน...เอ่อ...เขาเห็นตอนผู้กองนาคีถูกยิงเลยเกิดอาการช๊อกครับ และอีกอย่างนาคีก็ตายเพื่อปกป้องคุณหมอด้วยก็เลยตกใจจนขวัญหาย"

น้ำเสียงแดกดัน ผู้พันหันมาส่ายหัวเพราะจับกระแสเสียงได้ว่ากำลังโกรธคุณหมอผู้น่าสงสาร

"ไม่เอาน่า ภานุ เอ็งก็รู้อยู่ไม่ใช่หรือว่าการตายในสงครามมันเป็นเรื่องปกติ นาคีเขาได้ปฏิบัติหน้าที่จนสำเร็จแล้วอย่าได้โทษใครเลย"

ผู้พันมีทรัพย์เอ่ย เขาก็รู้สึกโศกเศร้าที่ส่งนาคีไปตาย นายทหารหนุ่มเลือดร้อนกำหมัดแน่น

"ผมทราบดีครับผู้พันแต่...."

อะไรบางอย่างทำให้ภานุไม่กล้าพูดในสิ่งที่ตัวเองคิด...เจ้าหมอดันใจดีเกินเหตุช่วยฝ่ายศัตรูจนนาคีต้องตาย เขาอยากจะพูดแต่นั้นไม่ใช่เหตุผลที่จะเอามาอ้างได้เพราะเขายังไม่รู้ความจริง

"ทางเราติดต่อทางค่ายใหญ่ไว้แล้ว พร้อมกับครอบครัวนาคีด้วยจะลาศพหรือทำอะไรก็รีบทำซะ"

ผู้พันสูบบุหรี่ ท่านแอบเช็ดน้ำตา ภานุหลับตาน้ำตา แทบไหลเมื่อเพื่อนรักมาจากไปอย่างกะทันหันเขาก้มหน้ารับคำอย่างเงียบๆ ต้นธาราถูกพาไปยังที่พักโดยมีจ่าแม้นปลอบใจระหว่างที่พากลับบ้านพัก

"คุณหมอใจเย็นๆครับ การตายในสนามรบเป็นเรื่องปกติของทหารอย่างเราอยู่แล้ว อีกอย่างก็ไม่มีใครห้ามโชคชะตาหรือฝืนลิขิตได้ ผู้กองนาคีเขาไปดีแล้วครับ"

คำพูดยิ่งเป็นมีดกรีดเฉือน ต้นธาราเช็ดหน้าที่เปื้อนคราบน้ำตา คราบเลือดติดแก้มขาวซีด

"แต่ผู้กองเขา..."

ชายหนุ่มอยากจะบอกเหลือเกินว่าที่ผู้กองนาคีตายก็เพราะเขาแต่มันก็พูดไม่ออก หวาดกลัวต่อความโกรธเกรี้ยวที่เริ่มถาโถม

"ยิ่งคุณหมอร้องไห้ ผู้กองนาคีที่จากไปแล้วอาจจะไม่สบายใจก็ได้นะครับ ทหารหาญอย่างเราพอใจแล้วที่ได้สิ้นชีพในสมรภูมิรบ"

จ่าแม้นพูดต่อ ต้นธาราส่ายหัวเหมือนจะไม่รับฟังคำพูดใดๆ เขากลับมาถึงบ้านพักแล้วพลางทรุดนั่งเพราะเขาอ่อน ยังจำได้ติดตาตอนที่ผู้กองนาคีล้มทับตนและเลือดแดงฉานไหลออกจากร่าง เขาเห็นและอยู่กับคนตายมาเยอะ แต่สำหรับผู้กองนาคีแล้วมันน่าเจ็บปวดใจยิ่งนัก ถ้าเขาเชื่อฟังและปล่อยให้ฝ่ายศัตรูนอนตายไปและหนีไปกับผู้กองเสียก็ดีแต่เขาก็ไม่อาจย้อนเวลาหวนกลับไปได้ คุณหมอหนุ่มซบหน้าที่ติดเลือดแห้งเกรอะกรัง จ่าแม้นนำน้ำใส่อ่างมาให้

"ผมว่าคุณหมอล้างหน้าล้างตาทำใจให้สงบก่อนเถอะครับ"

ต้นธาราพยายามยิ้ม แต่รอยยิ้มนั่นดูฝืดๆเต็มทน

"ขอบคุณครับจ่าแม้น"

ชายหนุ่มแช่มือในอ่าง เลือดที่ติดมือละลายกับน้ำ คุณหมอหนุ่มมองดูแล้วใจหายยิ่งตอกย้ำความผิดพลาดของตนเอง จ่าแม้นส่งผ้าให้

"ไม่เป็นไรครับคุณหมอ ผมว่าคุณหมอนอนพักให้จิตใจสงบสักนิดจะดีไหมครับ"

จ่าออกความคิดเห็น ต้นธาราส่ายหัว เขายังไม่อยากนอน...มันดูเหมือนกับว่าเขาสบายอยู่คนเดียว ทิ้งให้คนอื่นต้องลำบาก

"คุณหมอเชื่อผมเถอะครับ เดี๋ยวผมจะมาปลุกเอง นอนพักสงบจิตใจไม่ให้ฟุ้งซ่านอย่าคิดถึงเรื่องอื่น"

ต้นธาราทำตาม เขาแกะเชือกรองเท้าวางไว้ข้างเตียง ก่อนจะถอดเสื้อนอกลายพรางออกคงเหลือแต่เสื้อยืดสีเขียวขี้ม้า จ่าแม้นเอาน้ำไปเท ถ่ายมาใหม่ คราวนี้เป็นน้ำใสสะอาดพร้อมผ้าเช็ดตัวพื้นเล็กๆ

"นี่ครับ เช็ดหน้าเช็ดตาเสียหน่อยจะได้นอนสบาย"

ต้นธาราจัดแจงตามที่บอก เขาเช็ดลำคอ เช็ดแขนเช็ดใบหน้า ก่อนจะรู้สึกถึงความโหวงเหวงและหนักอึ้ง จ้าแม้นรับผ้า ก่อนคุณหมอจะหลับลงอย่างง่ายดาย จ่าแม้นถอนใจต่อความดื้อดึงของคุณหมอ...ออกเดินทางด้วยเท้า เจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันทนมาได้ถึงขนาดนี้นับว่าประสาทแข็งเอาการ จ่าแม้นคิดก่อนจะซักผ้าที่เปื้อนคราบสกปรกตากให้ พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นใบหน้าของผู้กองภานุ

"สวัสดีครับผู้กอง"จ่าแม้นทำความเคารพ ภานุผงกหัวยกมือรับ

"คุณหมอเป็นอย่างไรบ้างจ่า"น้ำเสียงราบเรียบข่มอารมณ์โกรธ จ่าแม้นชี้ไปบนบ้าน

"กำลังให้พักผ่อนอยู่ครับ สงสารแกเหลือเกิน ออกร่วมลาดตะเวนครั้งแรกก็เจอดีเสียแล้ว เฮ้อ...ไม่น่าเลย"

จ่าแม้นบ่นพึม ภานุยิ้มหยัน เขาเดินขึ้นไปบนกระต๊อบไม้ไผ่ เห็นคุณหมอหลับสนิท ใบหน้ายังมีรอยขมวดมุ่น สำหรับภานุแล้ว เขาไม่มีความสงสารหรือความเมตตาใดๆ เขามองใบหน้าที่หลับสนิทอย่างชิงชัง อยากจะรู้นักว่าเจ้านี้จะพอใจไหมที่เพื่อนรักเขาตายเพราะผลงานของตัวเอง ภานุคิด เขารู้ว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นอาจเป็นความคิดฝ่ายเดียว เขาเพียงโมโหจนไม่ยอมมองความจริง ผู้กองหนุ่มอยากจะบีบคอขาวๆของคนที่นอนหลับใหล แต่เขาคิดว่าไม่ควรที่จะกระทำ คุณหมอต้นธาราขยับตัว เสียงเดินขึ้นกระท่อมไม้ ชายหนุ่มหันมองคุณมองมาริสานั้นเอง เธอมีสีหน้ากังวล หญิงสาวเดินมากับเด็กๆชาวเขา

"ฉันมาเยี่ยมคุณหมอธารค่ะ"

หญิงสาวว่า พลางต้อนเด็กๆขึ้นบ้าน ภานุขยับตัว ให้หญิงสาวนั่งลงเคียงข้าง

"คุณหมอธารเป็นอย่างไรบ้างคะ ฉันได้ข่าวจากคนในค่ายบอกว่าคุณหมอได้รับบาดเจ็บ"

เธอเอ่ยอย่างกังวลใจต่อเพื่อนร่วมงาน ภานุทำหน้าเฉยเมย

"คุณหมอไม่เป็นอะไรมากหรอกครับคุณหมอมาริสา แค่ช๊อกนิดหน่อยให้พักสักนิดก็ดีขึ้นแล้วครับ"

คำตอบทำเอาหญิงสาวทำหน้าเจื่อนเพราะน้ำเสียงของนายทหารหนุ่มเย็นชายิ่งนัก

"ค่ะ...คือฉันเสียใจด้วยนะคะกับเรื่องผู้กองนาคี"

เธอเอ่ยอึกๆอักๆ ก่อนจะจ้องในแววตาแกร่ง

"คือฉันเพิ่งไปเคารพศพน่ะค่ะ รู้สึกเป็นห่วงคุณหมอก็เลยมาดู "

ชายหนุ่มผงกหัวรับทราบเรื่องที่หญิงสาวบอก

"คุณหมอจะไปไหนหรือครับ"

ภานุกล่าว มาริสายิ้มเธอโอบกอดเด็กๆ

"วันนี้อากาศดี ก็เลยคิดจะไปเดินเล่น"

คุณหมอสาวตอบเสียงแผ่ว ผู้กองหนุ่มหันมองใบหน้าของต้นธารา

"แต่เจอเรื่องไม่ดีก่อนใช่ไหมครับ"

ชายหนุ่มกล่าวต่อ มาริสาโบกมือวุ่น

"ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ ฉันไม่ได้คิดจะว่าเช่นนั้นเลย"

เธอตอบทันควัน ภานุหัวเราะเสียงทุ้มในลำคอ

"ครับ ผมแค่หยอกเล่น"

ชายหนุ่มกุมขมับ มาริสายิ้มให้ เด็กๆชาวเขาลงไปคอยข้างล่าง วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน

"ค่ะ ฉันทราบ ดูเหมือนผู้กองจะเหนื่อยมากนะคะ โปรดพักสักหน่อยดีไหมคะ"

ภานุขอบคุณในความห่วงใยของหญิงสาว แต่เขาปฏิเสธไปว่าไม่ต้องการพัก

"ตายแล้ว นี่มันเลยเวลาเข้าเวรของดิฉันแล้วต้องขอตัวก่อนนะคะ"

หญิงสาวลุกขึ้น ภานุไปส่งเธอ ก่อนจะกลับหญิงสาวเอาผักกาดที่อยู่ในตะกร้ามีเชือกสะพายส่งให้

"ฉันฝากให้คุณหมอธารด้วยนะคะ คนป่วยที่คุณหมอธารเคยรักษาฝากขอบคุณมาค่ะ"

เธอโบกมืออำลาเด็กๆเดินตามหลังเธอ ภานุหอบตะกร้าผักกาดขึ้นกระท่อม...ชายหนุ่มผู้เป็นที่รักใครต่อใคร ภานุบีบตะกร้าแน่น สำหรับเขามันยิ่งกว่าหนอนเสียอีก นายทหารหนุ่มทรุดนั่ง ความไม่พอใจเอ่อล้นเต็มอก เหมือนกับลาวาที่ใกล้ปะทุออกจากปากปล่อง ภานุรู้ดีว่าไม่อาจทานทนได้เมื่อมองใบหน้าของคุณหมอ ชายหนุ่มลุกขึ้น จะกลับไปยังค่าย แต่ก็ได้ยินเสียงบ่นพึมออกจากปากของต้นธารา

"ผู้กองนาคี ผมขอโทษ"

ภานุชะงัก เขาหันมองใบหน้าที่มีหยาดน้ำตาใสๆเอ่อล้น เหมือนมีอะไรมาจุกอก ชายหนุ่มทรุดนั่งอยากจะรู้ว่าร่างที่นอนอยู่นี่ต้องการอะไร ดวงตาแกร่งจ้องมองใบหน้าที่ดูอ่อนโยน มือที่กำแน่นกลับคลายออก ต้นธาราลุกขึ้นตกใจเล็กน้อยเมื่อเจอผู้กองภานุนั่งเฝ้าเขา

"คุณ..."

คุณหมอไอแค่กๆทันที ภานุลุกขึ้นตักน้ำฝนมาให้ ต้นธาราเอื้อมรับ เขาดื่มอย่างกระหาย ภานุนั่งขัดสมาธิอยู่มุมห้อง มองนิ้วเรียวบรรจงวางขันไว้ตรงโต๊ะ

"เป็นอย่างไรบ้าง"

น้ำเสียงถามห้วนๆ ต้นธาราก้มหน้า เขาไม่กล้าปริปากพูดอะไรออกไปเลย กลัวทำให้ผู้กองไม่พอใจ

"เป็นใบ้กระทันหันรึไง"

คำพูดที่แดกดัน เสียดแทง คุณหมอกระพริบตา

"ดีขึ้นแล้วครับ"

คำตอบสั้นๆรอคอยให้อีกฝ่ายพูดตอบแต่ภานุกลับนิ่ง

"แล้วคุณล่ะครับ"

เมื่อฝ่ายชายหนุ่มไม่ตอบ ต้นธาราก็เป็นฝ่ายถามเอง ภานุเหลือบตามองราวกับเขาเป็นแมงหวี่ที่น่ารำคาญ

"ผมไม่ตายหรอกครับ"

คำตอบเรียบง่ายหากแต่แทงลึก ต้นธาราหน้าหม่นลง เขารู้ตัวดีว่าภานุไม่พอใจ ยิ่งชายหนุ่มเอ่ยอย่างนี้ก็ยิ่งเสริมให้เป็นจริง ต้นธารากำมือของตัวเองแน่น เขาอยากจะกล่าวอะไรอีกสักเล็กน้อยแต่มันช่างดูรางเลือน ต้นธาราดูเหมือนกับคนหมดสิ้นหนทาง เขาอยู่ใกล้ผู้กองภานุมากขนาดนี้แต่ดูเหมือนมันห่างหลายหมื่นโยชน์

"ถ้าคุณไม่เป็นอะไรแล้ว ผมขอตัว อ้อ...ผักกาดชาวบ้านแถวนี้เขานำมาให้คุณเป็นการตอบแทน"

ชายหนุ่มชี้นิ้วไปยังไม้ไผ่สาน ภายในบรรจุผักกาดอัดแน่น

"เอ่อ..ครับ..."

ต้นธารารับรู้ เขามองดูผู้กองหนุ่มลงจากบ้าน นิ่งอยู่สักพักก่อนจะลุกขึ้น

"แบ่งไปได้ไหมครับ ผมทานไม่หมดหรอกครับ"

เขาเรียก แกะตอกที่มัดปากตะกร้าสานออกหยิบผักกาดสีเขียวออกมา ภานุนิ่ง เขาเดินกลับมารับไม่กล่าวขอบคุณแม้แต่น้อย ยามที่ร่างสูงหันหลังกลับ ต้นธาราถอนใจ เขากุมหน้าอกของตัวเอง รู้สึกปวดใจ ชายหนุ่มหันหลังเดินขึ้นบ้าน เวลาทำไมมันช่างผ่านไปช้านัก คุณหมอหนุ่มซบหน้า ภาพรอยยิ้มของผู้กองนาคีแตกสลาย ทุกอย่างเปลี่ยนไปช้าๆ ต้นธารานั่งอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งเย็นเขาลุกขึ้น ชายหนุ่มผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า เขาเข้าไปในค่ายถามหาศพของผู้กองนาคี ผู้พันมีทรัพย์เดินมาหา ท่านถอดหมวกเบเรตออก

"สวัสดีครับผู้พัน ศพของผู้กองนาคีไปไหนครับ"

ชายหนุ่มถาม เขาดูกระสับกระส่าย

"ส่งกลับค่ายใหญ่แล้วครับคุณหมอ"

ชายหนุ่มทำหน้าเสียดาย เขาจะมาเคารพศพและขอบคุณที่ช่วยปกป้องเขา ดวงตาสีน้ำตาลเศร้าหมอง

"คุณหมอมาเคารพศพหรือครับ"

ต้นธาราผงกหัว ผู้พันพาคุณหมอหนุ่มไปนั่ง ท่านชงกาแฟให้ทรุดนั่งลงด้วย

"ศพของผู้กองถูกส่งกลับไปนานยังครับ"ต้นธาราเอ่ยถาม ผู้พันจิบกาแฟร้อนๆ

"นานแล้วครับ"

ท่านตอบและมองควันกาแฟลอยม้วนตัวสู่อากาศ

"มันเป็นการตัดสินใจผิดพลาดของผมเองครับ"

ผู้พันวางถ้วยกาแฟลง ต้นธารารับฟังเงียบๆ

"ไม่นึกว่าเจ้าพวกนั้นจะกล้าโจมตีทางฝ่ายเรา"

เป็นเรื่องที่สุดวิสัยยิ่งนัก ชายหนุ่มหลับตาคำกล่าวที่ถ่ายทอดออก ยิ่งฟังเขาก็ยิ่งเหมือนตกอยู่ในความฝัน

"ยิ่งนึกถึง มันก็เหมือนกับการตัดสินใจนั้นทับถมตัวเองไว้"

ผู้พันกล่าวเสียงเบา ต้นธารายิ้มในรอยยิ้มนั่นแฝงด้วยความผิดแน่นอก

"ไม่หรอกครับผู้พัน ผู้พันนั้นได้ตัดสินในถูกแล้ว"

เขาปลอบคนอื่นได้แต่ไม่อาจปลอบตัวเอง ผู้พันมีทรัพย์ยิ้ม

"นับตั้งแต่สมัยหนุ่มๆที่เขารวมรบในกองทัพมา ทุกสิ่งที่ผมได้ตัดสินใจ ผมไม่เคยเสียดายแม้แต่น้อยจนกระทั่งครั้งนี้แหละ"

ผู้พันระลึกถึงอดีต คุณหมอนุ่มนั่งฟังอย่างเงียบๆ

"เฮ้อ...คุยกับคนแก่ก็เป็นแบบนี้แหละ"

เสียงหัวเราะสดใสดังออกจากปากของคุณหมอหนุ่ม

"ไม่หรอกครับ คุยกับท่านสนุกจะตาย" แต่ในหัวใจลึกๆกลับไม่ใช่เลยเขาแค่กลัว

"ขอบใจมากนะคุณหมอ"

ต้นธารายิ้ม เขาเลื่อนเก้าอี้ออก ผู้พันมีทรัพย์มองคุณหมอผู้ดูร่าเริง ก่อนส่ายหัว...เขาอยากจะรู้จริงๆว่าคนการเรียนสูงๆแบบนั้นอยากเข้ามาทำงานหนักตามชายแดนทำไม มีโรงพยาบาลดีๆใหญ่ๆที่ต้องการตัวแยะแยะ กลับมาหมกส่วนอยูในป่าที่ไร้สิ่งอำนวยความสะดวกหรือเป็นจิตสำนึกดีกัน

------------------------------------------------

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
«ตอบ #39 เมื่อ29-04-2008 21:35:02 »

ฝ่ายต้นธาราเมื่อขอตัวออกจากค่าย เขาเดินไปตามเส้นทางอันมืดมืดหาผู้กองหนุ่มซึ่งนั่งดื่มเหล้าท่าทางเมามาย ดวงตาแกร่งว่องไวจับจ้องอยู่ที่ร่างที่เดินออกมาใกล้กับแสงตะเกียงเจ้าพายุที่แขวนไปกับขื่อบ้าน คุณหมอยิ้ม ภานุมอง...อะไรกันนี่แม้แต่ในห้วงแห่งความฝันที่เขาอยากจะลืมยังเจอหน้าคุณหมออยู่อีกหรือ...ผู้กองขยี้ตา เหล้าป่าไหลรินเปียกคอเสื้อ

"ผมขออนุญาตขึ้นไปนะครับ"

ต้นธาราขอ ภานุผงกหัว เขาเดินสะเงาะสะแงะลงจากบ้านประชิดตัวคุณหมอ กลิ่นเหล้าโชยหึ่ง คุณหมอปิดจมูก

"เชิญ"

นายทหารหนุ่มเปิดทางให้ คุณหมอเดินขึ้นเรือนนั่งลงอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

"ผมมารบกวนคุณหรือเปล่า"

คุณหมอสอบถาม ส่ายหัวเมื่อเหล้าป่ารสแรงถูกยื่นมาให้

"ขอบคุณครับ แต่ผมมาดูคุณเฉยๆ"

ชายหนุ่มปฏิเสธอย่างสุภาพ เขาปัดแก้วเหล้าออก น้ำใสแจ๋วกระฉอก ภานุทำหน้าบูดบึ้ง ต้นธาราหดคอ เขากลัวว่าชายผู้นี้จะทำร้ายเขาแต่ท้ายที่สุด คนดื่มจัดกลับคอพับคออ่อน แก้วหล่นจากมือแตกละเอียด คุณหมอมอง ภานุที่ทอดตัวยาว คุณหมอหนุ่มอึ้ง เขาลากตัวผู้กองหนุ่มเข้าห้อง รู้ว่าผู้กองคงดื่มเพื่อคลายอารมณ์โศกเศร้าที่สูญเสียเพื่อนรักที่สุด เขาคุกเข่ารู้สึกว่าตัวเองโชคไม่ดีนัก นิ้วเรียวตบแก้มหนาเบาๆ นายทหารหนุ่มคราง

"อือ..."

ดวงตาของภานุพยายามมอง เขาเห็นดวงหน้ารางเลือนของคุณหมอ ผมสีน้ำตาลตกระใบหน้า ดุจเพลิงพิโรธเผาผลาญ

"มาทำไมฆาตกร...แกทำให้คนดีๆต้องตาย"

คำพูดของคนเมา ถึงแม้ว่าต้นธาราจะไม่ถือ แต่มันกัดกินหัวใจตัวเองได้พอสมควร เขาปิดปาก

"เจ้านาคีก็งี่เง่าจริงๆยอมตายเพื่อหมอโง่ๆคนหนึ่ง แกไปหลงเสน่ห์อะไรเขาว้า"

ร่างหนาพลิกตัว เขาดันใบหน้าของคุณหมอ ต้นธาราตกใจกับการกระทำ

"ไหน...ตรงไหนกันที่นาคีมันหลงใหล"

นิ้วแกร่งบีบคาง ต้นธาราใช้นิ้วแงะมือที่แตะใบหน้าของตัวเองเสียจนเจ็บปวด ผิวขาวเป็นรอยช้ำ

"คุณจะทำอะไรน่ะ"

ต้นธาราตวาด เขาตกใจกับการกระทำ ชายหนุ่มลุกหนีแต่ก็ถูกคว้าตัวไว้

"เฮ้ อย่าเพิ่งหนีสิ ให้ฉันมองรอยยิ้มนุ่มนวลแบบคนอื่นๆบ้างไม่ได้รึ"

ความป่าเถื่อน ฤทธิ์เหล้าครอบงำ ภานุกระชากร่างของต้นธารากลับมาอย่างง่ายดาย ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนๆเบิกกว้าง

"คุณเลิกทำเรื่องแบบนี้เดี๋ยวนี้นะ"

ต้นธาราดิ้นขลุกๆให้พ้นจากอ้อมแขนอันหนาแน่น

"บอกให้ปล่อย ผู้กองจะทำอะไร"น้ำเสียงเคร่งเครียดเพราะรู้ชะตาของตัวเอง ภานุเหยียดยิ้มยาว

"อา...พอมองใกล้ๆคุณหมอก็ดูน่าตาดีเหมือนกันน้า ผิวพรรณก็ละเอียด แก้มก็ใสสะอาด อีกทั้งดวงตาและริมฝีปากก็ช่างรับกันเสียจริงๆ"

ชายหนุ่มลูบไล้ลำคอ ต้นธาราตัวแข็ง ข้อมือถูกพันธนาการ

"นี่หรือคือสิ่งที่เจ้านาคีต้องการ"

จมูกเฉียดแก้ม ก้มจูบตรงซอกคอ ร่างของคุณหมอสะดุ้งเหมือนถูกนาบด้วยไฟร้อนๆ ชายหนุ่มคว้าแก้วเหล้านึกครึ้มใจจึงราดลงบนผิวสวยๆ ต้นธาราอยากจะพูดแต่มันก็พูดไม่ออก สิ่งที่ภานุต้องการคืออะไรกันแน่ ลิ้นอุ่นๆสัมผัสผิว คุณหมอรู้สึกหมดเรี่ยวแรง

"พอดีเลย คุณจะแตกต่างจากพวกผู้หญิงตรงไหนบ้าง"

ต้นธารานิ่งกับกับพูดกักฬขะของอีกฝ่าย เขาดิ้นอีกรอบจนแขนข้างนิ่งเป็นอิสระผู้กองหนุ่มควบคุมให้อยู่ใต้อาณัติตามเคย ลำแขนบางสลัดหลุดอีกครั้งเพราะภานุยังตกอยู่ในฤทธิ์น้ำเมา ต้นธาราหันไปตบหน้าแกร่งฉาดใหญ่ ภานุนิ่งไปชั่วขณะก่อนจะใช้ฝ่ามือกดหัวคุณหมอซุกกับเตียงจนแทบขาดใจตาย ยิ่งดิ้นก็ยิ่งถูกร่างใหญ่ทาบทับความทรมานแล่นริ้วๆ ปอดทำงานหนัก ลมหายใจเริ่มขาดๆหายๆ ครั้งหนึ่งที่คิดว่าใกล้จะตาย นิ้วแกร่งก็จิกกระชากศรีษะได้รูปขึ้น เมื่อนั้นปอดก็สูดอากาศอันสดชื่น เขาจ้องเข้าไปในแววตาของผู้กองหนุ่ม

"คุณต้องการอะไรกันแน่ ลงโทษผมหรือว่า..."

เสียงพูดช่างปวดร้าวในลำคอยิ่งนัก ภานุทับต้นธาราไว้ น้ำหนักตัวกดเต็มๆ

"คุณโกรธหรือกับการที่ผมเป็นต้นเหตุให้ผู้กองนาคีตาย"

คุณหมอว่า ภานุจ้องดวงตา เขาปลดเสื้อของตัวเอง หน้าอกเป็นมัด ลำแขนแกร่งคร่อมไว้ ใบหน้าจรดชิด

"ตอนนี้คุณหมอที่น่ารักอยากเป็นอะไรล่ะ"

เสียงนุ่มๆถาม ต้นธาราอยากจะตบใบหน้าอีกสักฉาด หากร่างกายไม่อ่อนเปลี้ยล่ะก็ ใบหน้าแกร่งนั้นคงมีรอยนิ้วห้ารอยประทับอีกแน่ๆ

"เป็นถ้วยเหล้าให้ผมดีกว่านะ"

เสียงกระซิบหยาบคาย เขาพยายามเอาตัวรอด ช่วงท้องถูกทับสัมผัสถึงความแข็งขึงของร่างสูงใหญ่ อีกฝ่ายไม่เสียเวลาเปล่า รินเหล้าที่เหลือติดก้นขวดราดเสื้อผ้า

"คุณบ้าไปแล้ว"

ต้นธาราว่าเมื่อชายหนุ่มชูมีดพกเงาวับ ดวงตาสีน้ำตาลปรากฏแววพรั่นพรึง กลัวจับจิตว่าชายหนุ่มจะทำร้ายตนแต่ก็ไม่ใช่เพราะภานุเพียงใช้ตัดเสื้อ

"อย่าทำแบบนี้นะ"

อีกฝ่ายร้องเสียงหลง นี่มันยิ่งกว่าถูกทำร้ายเสียอีก เสียงฉีกขาด ก่อนมือแกร่งจะกระชากขาด เขาไม่อยากเป็นแบบนี้เลย ร่างกายแข็งท่อนดุจท่อนไม้ ทันทีที่รสจูบประทับลง ริมฝีปากหนาเบียดรุกพยายามเปิดปากของต้นธาราให้ได้ ดวงตาสีน้ำตาลหลับลง การจูบที่บดขยี้ มันช่างเจ็บปวดและทำให้เขาตกใจ เมื่อการจูบรุนแรงไม่ได้ผล ภานุก็หันมาเคล้าเคลียกลีบปาก หยอกล้อจนทำให้รู้สึกเคลิ้ม ลิ้นอุ่นๆจึงทำการแทรกสอด ต้นธาราเริ่มตกอยู่ในอำนาจแห่งเสน่หา เขายอมให้ผู้กองได้ครอบครองริมฝีปากอิ่ม ก่อนจะถอนออก ภานุจ้องเข้าในดวงตาสีน้ำตาล ดูราวกับจะดูดกลืนแต่ชายหนุ่มกลับจ้องกลับด้วยแววตาเมินเฉย ชายหนุ่มยิ้มอย่างพึงพอใจ

"หยุดเดี๋ยวนี้ ผมบอกให้คุณหยุด"

ต้นธาราห้าม เหล้าที่รินใส่เสื้อผ้า กลิ่นมันลอยเตะจมูกจนแทบทนไม่ได้

"โธ่เอ้ย คุณเป็นคนโรคจิตหรือไง"ปากเรียวยังไม่หยุดด่า ภานุเงยหน้ามอง

"ผมน่ะหรือโรคจิต"

เขาพึมพำ คุณหมออยากฝากรอยไว้บนแก้มแกร่งอีกข้างเหลือเกิน ดิ้นแล้วดิ้นอีก แรงอันมหาศาลก็กดเขานอนหงาย ใบหน้าของคุณหมอแดงก่ำ

"พอใจหรือยังล่ะ"

ความเหลืออดเหลือทนทำให้ต้นธารากล่าวเช่นนั้น ผู้กองหนุ่มลุกออกจากตัวอย่างง่ายดายจนต้นธาราแปลกใจไม่คิดว่าจะรอดมาได้ง่ายๆขนาดนี้

"ผมพอใจแล้วแหละ คุณไปอาบน้ำซะเถอะ"

ท่าทีเหมือนหยอกเย้าดูถูก ต้นธารากัดฟัน เขาลุกขึ้นมองดูเสื้อของตัวเองที่ไม่เหลือเป็นชิ้น

"คุณ...."

เมื่อพูดไม่ออก ต้นธาราลุกขึ้นจากเตียง เขาเดินก้มหน้าผ่านตารู้สึกถึงสายตาหยามแคลน ดวงหน้าแดงก่ำ ภายในดวงตาสีน้ำตาลสับสนวุ่นวาย ภานุกอดอกพิงผนังบ้านมองร่างที่เดินดุ่มหายในความมืด ก่อนจะปิดประตูไม่ใยดีว่าอีกฝ่ายจะไปไหน ชายหนุ่มรื้อผ้าปูเตียงเปื้อนคราบเหล้าออกโยนลงพื้น อาการเมาจางหายไปนานแล้ว ชายหนุ่มนอนประสานท้ายทอย จ้องมองเพดานห้องนึกหงุดหงิดหัวใจของตัวเอง สิ่งที่เขาทำ...เมื่อครู่เพราะเมาหรือเปล่านะ...เฮ้อ ช่างเถอะ...ชายหนุ่มพลิกกายไม่สนใจกับสิ่งใดนอกจากอยากพักผ่อน

ฝ่ายต้นธาราโมโห สิ่งที่ชายหนุ่มทำมันช่างดูถูกศักดิ์ศรีเขานัก คุณหมอหนุ่มกอดอกเปลือยเปล่า เขาไปยังลำธารใกล้บ้านของภานุ ชายหนุ่มรีบกอดกางเกงที่เหลือลงอาบน้ำท่ามกลางเสียงของป่าพงไพร นิ้วเรียวใช้น้ำถูไปทั่วกาย รู้สึกถึงความรังเกียจ ยิ่งชำระล้างก็ยิ่งชวนให้นึกถึง ต้นธารากัดฟัน เขาแช่น้ำเย็นเฉียบมองดูหมู่ดาว ด้วยความโกรธแค้นหรือที่ทำให้ชายหนุ่มทำเช่นนั้น ด้วยความชิงชังหรือเปล่า เขากวักน้ำล้างหน้าตาลบภาพที่เกิดขึ้นสดๆร้อนๆออก ก่อนจะมองดูเสื้อผ้าของตัวเอง...เขาจะกลับเข้าไปในค่ายได้อย่างไร ความโมโหก็แผ่พุ่งขึ้นอีกระรอก ชายหนุ่มตีน้ำจนมันแตกกระจายเพื่อเป็นการระบายอารมณ์ หูแว่วได้ยินเสียงแซกๆหลังพุ่มไม้ งูตัวเบ้อเร่อเลื่อยออกมา คุณหมอตัวแข็งทื่อ เขานิ่งมันจ้องมองอยู่ชั่วครู่ก็เป็นฝ่ายเลื้อยหนี ลมหายใจถอนออก ดูท่าเขาจะซวยซ้ำซวยซ้อนแน่ๆถ้าหากยังไม่ขึ้นฝั่ง เรื่องไม่ดีต้องบังเกิดกับเขาอีกเป็นแน่แท้ ต้นธาราจึงว่ายขึ้นฝั่งแต่เขาต้องนิ่งอีกรอบ เพราะบนชายฝั่งมีชายหนุ่มสูงพอๆกับเขาโพกหัว ปิดหน้าปิดตาถือปืนยาวเล็งมาทางเขา ดวงตาสีน้ำตาลกระพริบ...นี่ไม่ใช่ภาพฝัน...เขานิ่งงัน

"แกเป็นใครกัน"

ต้นธาราถาม เขาค่อยๆถอยห่างไปกลางลำธาร เท้ากระทบกับกรวดหิน แต่ปลายกระบอกปืนก็ยังไม่เบนไปจากเป้าหมาย เสียงพูดเป็นภาษาพม่า คุณหมอฟังไม่ออกเขาจึงได้แต่นิ่งมิไหวติง

"ท่านไม่เข้าใจในภาษาเรา เราขอโทษ"

ชายโพกผ้ากล่าว เขาลดปืนลงห้ามไกปืนทรุดนั่งริมฝั่ง ต้นธาราฟังคำกล่าวที่เอ่ยวาจาออกมาเป็นภาษาไทยถึง
จะแปร่งหูแต่ก็พูดได้ชัดเจน

"ท่านหมอผู้มีบุญคุณกับข้า"

ชายโพกหน้าก้มหัวให้ คุณหมอหนุ่มอึ้ง

"ผู้มีพระคุณ ข้ามีนามว่ากิ่งไผ่นี่คือชื่อในความหมายภาษาไทย ข้าอยากมาตอบแทนท่านที่ช่วยรักษาข้า"

ต้นธารามอง เขาทำตาดุใส่ ชายโพกหัวยื่นห่อผ้าขาวม้าให้

"ไม่ต้องการ เก็บไปเถอะ"ชายหนุ่มบอกปัด ชายโพกผ้าหน้าตาละห้อย

"ไม่ได้หรอก ท่านผู้มีพระคุณ เอ่อ ข้าเสียใจที่คนของข้าทำร้ายคนของท่าน"

กิ่งไผ่บอก ด้วยความเสียใจจริงๆ ต้นธาราดูเหมือนจะไม่ฟัง แต่ชายหนุ่มข้าศึกจากต่างแดนกล่าวขอโทษและบอกให้ใจเย็นลงบ้าง ต้นธาราพยายามระงับสติ

"ตอนนั้นหากท่านไม่ช่วยข้า ป่านนี้ก็ไม่ได้มานั่งตรงนี้เพื่อเอ่ยขอบคุณหรอก"

เขาตอบ คุณหมอหนุ่มทำใจให้สบาย

"มันเป็นหน้าที่ไม่จำเป็นหรอก"

ต้นธารากล่าว เขามองดูข้าศึก

"ข้าทราบดี แต่ข้าก็อยากมาตอบแทนท่านบ้าง ช่วยรับเงินนี้ด้วยเถิด"

เขามองดูถุงเงินซึ่งจะอาจปล้นมาจากครอบครัวเศรษฐีในเมืองของตัวเองก็เป็นได้

"มิได้ "

ชายหนุ่มยืนกรานปฏิเสธ กิ่งไผ่หน้านิ่ง เขาอุส่าห์ลอบเข้ามาในดินแดนศัตรูกว่าจะได้ กิ่งไผ่ทำหน้าเสียดาย

""แต่น้ำใจที่ท่านอุตส่าห์มาหาฉันก็จะรับไว้" ต้นธารากล่าว กิ่งไผ่ผงกหัว

"ครับ คุณหมอเป็นคนดีจริงๆ"กิ่งไผ่กล่าว

"ไม่ได้เป็นคนดีถึงขนาดนั้นหรอก"ดวงตาสีน้ำตาลหม่นอีกรอบ

"เพราะเรื่องลูกน้องของผมที่ทำร้ายผู้กองใช่ไหมครับ"

ต้นธาราผงกหัวบอกกล่าวตรงๆ

"ใช่ เพราะลูกน้องของท่านที่ทำให้ผู้กองนาคีต้องตาย"

กิ่งไผ่ก้มหน้า

" ช่างน่าละอายใจนัก แต่ข้าได้ลงโทษคนที่ทำร้ายผู้กองแล้ว ถึงแม้ชีวิตมันทดแทนกันไม่ได้ก็เถอะ"

ชายหนุ่มโพกหน้าตอบ ต้นธาราผงกหัว

"ก็ไม่ได้ถือโกรธหรอก รู้ดีว่ามันเป็นสงคราม"

เขาว่าอย่างนั่น ก่อนจะตีน้ำให้มันกระเพื่อมเป็นวงกว้างๆ กิ่งไผ่มองดูคุณหมอ

"เป็นสงครามและหน้าที่ที่สวนทางกันด้วย"

ชายในผ้าโพกกล่าว ต้นธาราหลับตาลง เขาอยากพักผ่อนใจแต่ดันมีตัวขวาง แต่เขาก็ไม่เก็บมาคิดมาก สนทนาอยู่กับเชลยต่างแดน

------------------------------------------------

ภานุร้อนใจ เขานอนกระสับกระส่าย ไม่เห็นคุณหมอเดินทำหน้าบูดกลับมาจึงรีบลุกขึ้น คิดบางอย่าง...หรือว่ากลับในค่าย แต่นั้นก็เป็นไปไม่ได้เพราะเสื้อผ้าฉีกขาดหมด ชายหนุ่มที่ไม่คิดสนใจก็สนใจจนได้ ภานุนำมีดสั้นออกมา เตรียมกระสุนกับปืนให้พร้อมก่อนจะออกมาหาคุณหมอต้นธารา ชายหนุ่มเดินมายังธารน้ำและก็ได้เห็นคุณหมอหนุ่มคุยกับเงาๆหนึ่ง ภานุเพ่งมอง ตกใจเมื่อเงานั่นกลับเป็นฝ่ายศัตรู มันถือปืนยาววางพาดตักพูดคุยเรื่องอะไรสักเรื่องกับคุณหมอที่กำลังแช่น้ำ ใบหน้าของคุณหมอเคร่งขรึม ภานุดวงตาวาวโรจน์ ยิ่งกว่าโกรธ ชายหนุ่มเดินออกจากที่ซ่อน เขาเกือบไปถึงเป้าหมายแล้วแต่เป้าหมายนั้นกลับลุกขึ้นอำลา ชายหนุ่มจึงหลบเข้าที่ซ่อนตามเดิน ซึ่งที่เขาเห็น...คือการทรยศหักหลังที่เจ็บแสบที่สุด ชายหนุ่มกำมือ เพราะเหตุนี้สินะนาคีถึงตาย สิ่งที่สงสัยมาตลอดกลายเป็นความจริง ต้นธารารีบขึ้นจากน้ำ เขาไม่รู้เลยว่านับจากนี้ไปชีวิตของเขาต้องตกอยู่ในอำนาจของผู้กองภานุ กับความใจดีนั้น...มันทำร้ายตัวเขาเอง

------------------------------------------------

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
« ตอบ #39 เมื่อ: 29-04-2008 21:35:02 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
«ตอบ #40 เมื่อ30-04-2008 11:55:35 »

วุ้ย สวรรค์เบี่ยง บวก จำเลยรักมาเอง

ตบจูบ ตบจูบ

ชอบคร้าบบบบ

เป็นกำลังให้นะครับ

 o13

rain-at-rose

  • บุคคลทั่วไป
Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
«ตอบ #41 เมื่อ30-04-2008 13:58:09 »

55++สวรรค์เบี่ยงเรนไม่เคยดูค่ะ ย้ายเข้ามาหอไม่เคยได้ดูทีวีเลย เกาะแต่คอมพ์ จำเลยรักเคยดูแต่เวอร์ชั่นเก่า เมื่อWhen I was yong  (สมัยจอห์น นูโวเล่นอ้ะ จำได้ในความทรงจำรางเลือนว่าพระเอกเถื่อนสมคาแรคเตอร์ในเวอร์ชั่นนิยาย):oni2: ต่อไปคงออกแนวน้ำเน่าหลุดโลกยิ่งกว่านี้ :oni1: เดี๋ยวจะฝากตอนพิเศษมาให้พี่พิมพ์ลงนะคะ ^^

 ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ :L2:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
«ตอบ #42 เมื่อ30-04-2008 18:51:22 »

แอ่ะ  มาด้วยดัน  เอิ๊กๆ 

วันนี้ยังไม่ลงต่อแล้วกันเน้อ  พรุ่งนี้ก่อน  น้องเรนน่าร้ากกก  มาตอบด้วย  อิอิ 

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
«ตอบ #43 เมื่อ01-05-2008 04:10:56 »

เข้ามาช่วยเพื่อนสาวดัน

อึ้บส์ๆๆๆๆ



ปล. เพื่อนสาวขา  หนักมาก  ลดฟามอวบด่วน   :laugh:

ออฟไลน์ RN

  • Global Moderator
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1650/-14
Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
«ตอบ #44 เมื่อ01-05-2008 05:55:58 »

 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
«ตอบ #45 เมื่อ01-05-2008 06:13:20 »

 :impress: :impress: :impress:

อ่าครับผม เป็นกำลังใจให้คุณหมอนะครับ

การเกิดการเข้าใจผิดครั้งนี้ทำให้ภานุโกรธและเกลียดคุณหมอมากขึ้นไปอีกป่าวครับ

สงสารคุณหมอจังครับ เป็นกำลังใจให้ครับผม คุณหมอทนภานุต่อไปแล้วกันครับ

เพราะคิดว่าต่อจากนี้ ภานุคงจะทำทุกอย่างเพื่อให้คุณหมอเจ็บละครับผมว่า

เป็นกำลังใจให้คนเขียนคนโพส เสมอครับผม เรื่องน่าสนใจและสนุกมากครับ

ชอบแนวแบบนี้ครับ ซาดิส ดีชอบๆๆ

:impress: :impress: :impress:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
«ตอบ #46 เมื่อ01-05-2008 20:31:37 »

5555  มาต่อกันเล้ย  เพิ่งรู้ว่าพูห์กับชิว่าชอบตบจูบๆ นะ
ส่วนเจ้กับแป๋ว  รู้อยู่แล้ว อิอิ
++++++++++++++++++++++++++++

ห้วงรัก:3Lust/เสน่หา

ภานุทรุดนั่งใบหน้าของชายหนุ่มมีทั้งความโกรธแค้น อัดอยู่เต็มเปี่ยม เขารอให้ศัตรูหายไปไกลก่อนค่อยๆย่องออกมา คุณหมอหันมาเจอภานุยืนจังก้าก็ตกใจ

"อ่ะ...คุณมาตั้งแต่เมื่อไรครับ"

ต้นธาราถามเสียงซื่อใส คุณหมอก้มเก็บเศษส่วนเสื้อผ้าที่เหลือเพื่อจะนำมาปิดผิวขาวนวลเนียน แต่เท้าของภานุไวกว่า นายทหารหนุ่มเตะกางเกงไปไกล คุณหมอหน้าแดงฉาน เพราะเมื่อเห็นหน้าของผู้กอง เขาก็นึกถึงฉากที่ผู้กองกดเขาไว้

"ผมมาตั้งนานแล้วครับ"

น้ำเสียงเย็นจัด ต้นธาราหน้าซีด

"จะให้ผมบอกแก่ทางกรมทหารเกี่ยวกับเรื่องเมื่อสักครู่ไหมครับคุณหมอผู้ใจดี"

ชายหนุ่มหันปากกระบอกปืนไปทางต้นธาราที่ยื่นตัวสั่นงันงก

"เรื่องนั้นผมอธิบายได้นะครับ ผมไม่ได้ทรยศเลย"

เขาโต้กลับ เท้าชาเมื่อแช่น้ำนานๆ ชายหนุ่มหัวเราะลั่นป่า

"แล้วถ้างั้นมันอะไรล่ะครับ แอบนัดพบกับทางฝ่ายศัตรูจะขายความลับหรือ"

ภานุหยิบห่อเงินในผ้าขาวม้าโยนใส่หน้า ต้นธารารับไว้ทัน เขาวางมันไว้ริมโขดหินที่โผล่พ้นน้ำ

"คุณอย่าเพิ่งต่อว่าผมสิ ฟังเหตุผลก่อนได้ไหม"

ต้นธาราวอน สีหน้ายุ่งยากใจเรื่อยๆ เขาถอยกรูดๆเมื่อชายหนุ่มลงมาในลำธาร ลดปืนกระชากร่างของคุณหมอให้เข้ามาหาก่อนจะแนบปลายกระบอกเย็นๆแนบท้องขาวเนียน ต้นธารานิ่ง ชายหนุ่มดูถ้าจะอารมณ์แรง เขาก็ไม่กล้าดิ้นหรือขัดขืน กลัวผู้กองร่างใหญ่จะทำอะไรเขา

"ได้โปรดเถิด ฟังกันบ้างได้ไหม"

คุณหมอเว้าวอน แต่ชายหนุ่มร่างยักษ์ก็ผลักจนล้มลงไปในน้ำแตกกระจาย สัมผัสเย็นเฉียบ ใบหน้าที่ดูอ่อนโยนปรากฏแววขลาดกลัว

"นั่นคือคนที่ผมให้ความช่วยเหลือ...."

เขายังพูดไม่จบก็โดนบีบคาง ชายหนุ่มวางปืนที่ห้ามไกแล้วลงบนพื้น ผิวขาวช้ำ เสียงที่ลอดออกมามีเพียงความอู้อี้ๆ

"ปล่อยนะ...ปล่อยผม"

ร่างของต้นธาราดิ้นสุดแรงเกิด น้ำกระเพื่อมเป็นวงกว้างกระเซ็นถูกภานุเปียกชุ่ม

"ปล่อยคนอย่างคุณไป สู้ให้ไปตายเสียยังจะดีกว่า ไอ้พ่อพระในคราบฆาตกร"

ผู้กองด่าลอดไรฟัน บีบคางมนแน่นจนมันแทบแหลกคานิ้วที่บีบรัด

"อย่า..."น้ำตาคลอหน่วย ไม่มีวันที่ภานุจะเห็นใจ

"อยากลิ้มลองความตายไหม จะให้ลิ้มรสดู"

ศีรษะได้รูปของคุณหมอสั่นไหวไปมา

"ไม่..."

ความกลัวเอ่อล้น ชายหนุ่มกดหัวของคุณหมอที่หวาดกลัวจมน้ำ เรี่ยวแรงเพียงนิดเดียวขัดขืนไม่ได้ คุณหมอดิ้นหาทางรอดให้กับตัวเอง ปอดอึดอัด เขาคงต้องตายจริงๆหรือนี่...ความรู้สึกเศร้าเอ่อล้น เจ็บปวดไปหมด ภานุมองร่างที่ค่อยๆอ่อนแรงลง เขาก็รีบยกขึ้น คุณหมอมีสีหน้าเหนื่อยอ่อน ร่างอ่อนระทวยตกอยู่ในอ้อมแขนของผู้กองหนุ่ม สายตาที่ใกล้ปิดมองเห็นใบหน้า รับรู้ถึงความอ่อนโยน...เขาตาฝาดไป...

"ผมไม่ได้ทรยศคุณ...ผม..."

คำพูดแผ่วเบา ริมฝีปากบางขยับเขยื้อนเพียงเล็กน้อย ก่อนที่ร่างบางจะถูกโยนไปบนฝั่ง เจ็บกายไม่เท่ากับเจ็บปวดหัวใจ...ร่างกายเขาสามารถรักษาได้แต่แผลตรงหัวใจมันกรีดเฉือนลึก...เสี้ยวหน้าอ่อนโยนมองเสี้ยวใบหน้าแกร่ง กร้านศึก...ทำไม...เขาถึงต้องตามหาชายผู้นี้ ความคิดระลึกย้อนไปถึงวันฝึกเดินสวนสนามในค่ายทหาร มันเป็นภาพที่เขาลืมไม่ลงเมื่อได้เจอพบหน้าผู้กองภานุครั้งแรก ใบหน้าที่แข็งแกร่งภายใต้แสงอาทิตย์อันอบอุ่น เขาลืมไม่ลงเลยเมื่อทางมหาวิทยาลัยที่เขาเรียนได้จัดทัศนศึกษาไปค่ายทหารและได้พบกับภาพการฝึกเดินสวนสนาม พร้อมกับผู้กองภานุครั้งแรก...นั้นมันผ่านมานานแล้ว...ชายหนุ่มอาจลืมไปแล้วก็ได้ หัวใจที่เต้นแรง ถี่กระชั้น...นิ้วเรียวกรีดหยาดน้ำตา กับชายหนุ่มที่มองอย่างไร้ความรู้สึก ภานุทำให้ต้นธาราตกหลุมรักก่อน จนถอนตัวไม่ขึ้น เป็นรักครั้งแรก ผู้กองฉุดร่างของคุณหมอขึ้น

"อย่ามาทำตัวอ่อนแออยู่แถวนี้"

น้ำเสียงกระชาก ห้วน ต้นธาราขืนตัวเองไว้ จนชายหนุ่มต้องลาก ผิวสวยๆนุ่มนวลกระทบกับเศษดิน เศษหิน เสียดสีจนรู้สึกเจ็บปวด เมื่อไม่ได้ดั่งใจ ภานุก็หยุดนิ่ง

"นี่คิดจะขัดขืนกันเรอะ"

ต้นธารามิปริปาก ชายหนุ่มทรุดนั่งก่อนจิกกระชากเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนนุ่มมือ เห็นในแววตาวามเปล่า เขาก็คลายมืออก แตะแก้มเบาๆ

"อยากจะพูดอะไรพูดมา ก่อนที่จะไม่ได้พูดอีก"

น้ำเสียงราบเรียบ ต้นธาราก็ยังไม่ตอบ ชายหนุ่มกัดฟันแน่นเพราะอีกฝ่ายกลับสงบปากสงบคำ

"เมื้อกี้เห็นอยากจะพูดนัก ทำไมตอนนี้ถึงได้เงียบไปล่ะ แก้ตัวสิ ทำไมไม่ทำ"

ภานุกล่าว เขาทรุดนั่งอย่างอ่อนแรง หมดแล้วกับขีดสุดแห่งความอดทน

"คุณกล้าทรยศคนอื่น ผลักให้คนอื่นตายแทนคุณเพื่อให้อยู่รอด แล้วสำหรับเรื่องแค่นี้ยอมรับไม่ได้หรือไง"

แม้จะบังคับให้พูด หรือใช้น้ำเสียงเข้าข่ม แต่คุณหมอก็บื้อใบ้ เอาแต่ส่ายหัว

"นาคีเขาเห็นคุณสำคัญมาก เขาปกป้องคุณจนถึงนาทีสุดท้าย"

ผู้กองภานุกล่าวอย่างเสียใจ คุณหมอเขยิบเข้ามาใกล้ๆ ใช้วงแขนเรียวกอดภานุไว้ นุ่มนวล แผ่วเบา ผิวหน้าแนบแก้ม ร่างกายถ่ายทอดความอบอุ่น

"ทำไม ผมไม่เข้าใจ...เพราะอะไรนาคีถึงป้องคุณนัก"ภานุเอ่ย เขาดันใบหน้าให้มาสบตา

"ผู้กองนาคีเป็นคนอ่อนโยน เขาเป็นคนกล้าหาญผมเสียใจที่เขาได้เสียชีวิตไป ผมว่าผมควรเป็นคนตายแทนผู้
กองนาคีเสียมากกว่า"

คุณหมอกล่าวด้วยความเศร้าโศก ชายหนุ่มจ้องเข้าไปในดวงตาที่ลึกซึ้ง แววตานั้นไม่ได้โกหกแม้แต่น้อย สองสายตาที่ประสาน...เขาควรจะทำอย่างไรดี....ต้นธาราเป็นฝ่ายโน้มใบหน้าเข้าหาภานุ ริมฝีปากอิ่มแตะสัมผัสนุ่มนวล ผิวเย็นเสียดสีเนื้อผ้าแข็ง ภานุกอดเอวแน่นโหยหาความอบอุ่น แต่กลับพบผิวเย็นเฉียบ ถึงแม้จะทะเลาะกันอย่างรุนแรง แต่ก็สงบลงชั่วครู่ชั่วยาม ชายหนุ่มสัมผัสถึงความร้อนรุ่ม ลูบไล้ผิวนุ่มเปื้อนดินทั่วเรือนร่าง สีหน้าอยากจะกลืนกินร่างของต้นธาราเข้าไปทั้งทั่ว เพียงสัมผัสด้วยอาการแผ่วเบา ร่างของคุณหมอยอมอ่อนผ่อนตาม ภานุจับพาดตักใช้ตัวเองเป็นที่รองรับน้ำหนัก ลำแขนคล้องคอไว้ นายทหารหนุ่มจึงได้สำรวจทั่วกายอย่างง่ายได้ นิ้วลูบไล้ทั่วหน้าอก ลำแขนของคุณหมอยิ่งรัดแน่น แนบกายให้ชิดใกล้ นิ้วมือไล้วนทั่ว ให้ความรู้สึกดุจอยู่ในห้วงแห่งความฝัน ภานุก้มหน้าลงบนยอกอก จูบซับที่ผิวกาย ซอกคอก่อนจะขบเม้มยอดอก ริมฝีปากผมกับกันอีกครั้ง ก่อนจะถอนออก ให้ความรู้สึกถึงหัวใจที่หวิววาบ และความรักแสนหวาน นิ้วแกร่งไล้ลงต่ำเรื่อยๆจนเจอกับส่วนต้องห้าม ภานุสัมผัสมันแผ่วเบา มันกลับตื่นตัวและหลั่งหยาดหยดใสๆออกมา แม้จะกลัว...เขาก็รู้สึกดีอย่างน่าประหลาดใจ นิ้วแกร่งจิกเรือนผมสีน้ำตาล ยิ่งสัมผัสยิ่งรู้สึกคล้ายกับดาวพร่าพราย เท่านั้นยังไม่พอ ส่วนที่แข็งขึงของชายหนุ่มก็ตุงผิดปกติ ภานุหยุดมือที่สร้างความสุขสมให้ เขาใช้นิ้วที่เปื้อนหยดคราบน้ำแตะใบหน้า ไกล่เกลี่ยริมฝีปากอิ่ม ก่อนจะค่อยๆปลดซิบออก ปลดปล่อยความต้องการให้พวยพุง คุณหมอลงจากตัว ก้มหน้าลงหาอาวุธประจำกายของชายนุ่มก่อนจะส่งมันเข้าปาก ค่อยๆดูดกลืนช้าๆ มันพองโตคับปากเล็ก หัวในสองตัวสัมผัสซึ่งกันและกัน...แม้เป็นแค่ชั่วขณะก็ตามแต่ คุณหมอเงยหน้ามองใบหน้าที่ได้อารมณ์ของผู้กองหนุ่ม ก็ลุกขึ้น

"ทำไมถึงได้ชำนาญนัก"

ภานุถาม เสียงสั่นเครือ ต้นธารานิ่งลงมือทำการยั่วผู้กองหนุ่มผิดกับลักษณะนิสัย ใบหน้าที่ดูสุภาพโดยสิ้นเชิง ภานุกระชากร่างที่เล่นกับตัวเองให้เข้าไปหา

"หน้ากากของคุณช่างน่าขยะแขยงนัก จิตใจที่แสร้งทำดีที่แท้ก็แฝงความร่านราคะไว้"

ชายหนุ่มว่าจิกเรือนผมนุ่มแน่น รอยยิ้มละลายหัวใจเผยอออก...การกระทำที่เหมือนกับความฝัน...เขาเพียงแค่ดีใจเท่านั้นที่ได้สัมผัสกับคนที่ตัวเองรักมาโดยตลอด..อยากจะทำให้มีความสุขที่สุด...ชายหนุ่มบดขยี้ริมฝีปากอิ่มเอิบที่หลงเหลือรสชาติขื่น จูบแนบชิดสนิท ต้นธาราขึ้นคร่อม บทรักอันแสนร้อนแรงดังสะท้อน จนชายหนุ่มต้องระงับโดยการนำผ้ามาอุดปาก มีเพียงเสียงครางอู้อี้ดังลอด ต้นธาราจิกนิ้วแน่นบนแผ่นหลัง กดจนเลือดซึม ชายหนุ่มค่อยๆสอดแทรกความอบอุ่น ที่ร่างของคุณหมอต้องแบกภาระหนัก ส่วนขยายพองค่อยๆแทรกเข้าไปช้าๆหากแต่แฝงความนุ่มนวลไม่เร่งเร่า เมื่อสิ้นสุดค่อยๆขยับไหว สร้างความคุ้นเคยจนเพิ่มระดับตัณหาให้มากยิ่งขึ้น จนกระทั้งทนการปลุกเร่าไม่ไหวถึงฝั่งฝันเกือบพร้อมๆกัน คุณหมอหอบหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย ซบใบหน้ากับบ่าหนา กล้ามเนื้อตรึงแน่น เสียดสีกับผิวอันอ่อนนุ่มที่แดงขึ้นเพราะอุณหภูมิของร่างกาย ดวงตาสีน้ำตาลปิดลงอย่างเหนื่อยอ่อน จนกระทั่งไม่รับรู้สิ่งใด

ภายในกระท่อมเมื่อตื่นขึ้นมาเขาก็เห็นว่าร่างเปลือยเปล่าถูกวงแขนใหญ่กอดแน่น ต้นธารายิ้มอย่างอ่อนโยน เขามีความสุขกับการที่ได้มอบสิ่งที่ภานุต้องการให้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นคนละความหมายกับที่ชายหนุ่มทราบ ภานุรั้งแขน ส่งสายตามองให้นอนลงข้างกาย ต้นธารายอมอย่างง่ายดาย เขามองดูกองเสื้อผ้าที่ถอดทิ้งเกะกะ ความฝันเมื่อครู่ก็เป็นความจริง ร่างกายถูกชำระร่าง แขนเรียวโอบกอดร่างบึกบึน สัมผัสอุ่นไอแห่งรัก แม้เพียงชั่วครู่ชั่วยามก็ตามแต่ ต้นธาราก็อยากจะเก็บมันไว้ แม้นความจริงจะเป็นแค่สิ่งลวงตา เขาได้เพียงแค่นี้ก็สุขใจ หากสิ้นสุดถึงวันลาจาก...หัวใจเขาจะเป็นเช่นไร

สิ่งที่หัวใจคุณรู้สึก อยากจะตามหาความรู้สึกนี้ เป็นแค่ความฝัน หรือว่าคงอยู่ในโลกแห่งความจริงกัน เป็นเพราะอะไรถึงได้มีความผูกพัน เพราะโชคชะตาอย่างนั้นหรือ หรือเพราะจังหวะหัวใจที่เต้นถี่กัน...เราถึงพบกัน

ไดอารี่สีฟ้าพัดปลิวตามแรงลม เปิดไปหน้าที่เขียนถึงการพบเจอภานุป็นครั้งแรก ลายมือเป็นระเบียบเรียบร้อย ในหน้าไดอารี่อีกหน้าสอดรูปของการเดินสวนสนามซึ่งรางเลือนเพราะมีรอยหยดน้ำหกใส่ ในวันที่แสงแดดสาดส่องเป็นวันที่เราได้พบกัน ความทรงจำสำหรับต้นธารา มันล้ำค่าที่สุด และเขาก็รักมันมากที่สุด....ไม่ลืมแม้กระทั่งความตายก็ตาม...เขาบอกกับตัวเองเช่นนั้น บอกกับหัวใจ....จุดเริ่มต้น...ที่ค้นเจอ

------------------------------------------------


YO DEA

  • บุคคลทั่วไป
Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
«ตอบ #47 เมื่อ01-05-2008 23:19:30 »

 :laugh:


จิ้มๆๆๆๆ

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
«ตอบ #48 เมื่อ02-05-2008 02:43:36 »

:impress: :impress: :impress:

อ่าครับผมชอบแนวนี้อะครับ อิอิ

ตอนล่าสุดได้ใจผมไปเต็มๆๆ

ชอบตอนล่าสุดจังครับผม

ผู้กองภานุนี่ก็ไม่รู้ใจตัวเองหรืออย่างไรอะครับ

เอาเป็นว่าจะรออ่านตอนต่อไปละกันว่าจะเป็นยังไง

กันต่อไปอะคู่นี้อะ แต่ยังไงๆผู้กองก็อย่าทำให้คุณหมอบอบช้ำมากนะครับ อิอิ

เป็นห่วงคุณหมอจริงๆๆ

:impress: :impress: :impress:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
«ตอบ #49 เมื่อ02-05-2008 06:22:44 »

มาดันให้อีกคน  :oni2: :oni2:

นู๋เรนทัน จอห์น นูโว แต่พี่ทัน ลิขิต เอกมงคล  :laugh: :laugh: กรี๊ดดดดดดดด แก๊ แก่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
« ตอบ #49 เมื่อ: 02-05-2008 06:22:44 »





ออฟไลน์ RN

  • Global Moderator
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1650/-14
Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
«ตอบ #50 เมื่อ02-05-2008 09:11:53 »

มาดันให้อีกคน  :oni2: :oni2:

นู๋เรนทัน จอห์น นูโว แต่พี่ทัน ลิขิต เอกมงคล  :laugh: :laugh: กรี๊ดดดดดดดด แก๊ แก่

แก่โคตรรรรรรร เคอะ

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
«ตอบ #51 เมื่อ02-05-2008 09:44:54 »

กรำ ทันยุคลิขิตเหมือนกัน  :m29:  :m29:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
«ตอบ #52 เมื่อ02-05-2008 10:33:08 »

บทอัศจรรย์

อ่านแล้วยังงงๆ อยู่

แต่ช้อบชอบ เสียเลือดขาวขุ่นเนี้ยะ

เอิ๊กๆๆ

 :o8: :o8:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
«ตอบ #53 เมื่อ02-05-2008 14:40:45 »

ป้าๆ ลุงๆ ทั้งหลาย  ทันกันใหญ่  555  เราไม่ทันนะ  เค้ายังไงเด็กอะตัวเอง
ชิว่า เรื่องนี้คุณหมอคงช้ำหมดอะ (ว่าไปนั่น)  แล้วก็ต้อนรับ Yo dea จ้า  มาจิ้มมันทุกทู้เลยนะ

ต่อเลย  ยังคงตบจูบๆ ได้อีก
+++++++++++++++++++++++++++++

เช้ามืด คุณหมอก็ยังคงอยู่ภายใต้อ้อมกอดของภานุ ซึมซับความอ่อนโยน ต้นธาราหันหน้ามองนายทหารหนุ่ม เขาซ่อนความรู้สึกที่ชายหนุ่มไม่มีทางเข้าใจไว้ภายใต้ส่วนลึกของจิตสำนึก สิ่งที่เอ่อล้น ไม่อาจเข้าใจได้กับคนที่ห่างไกลเกินเอื้อม...ดวงตาสีน้ำตาลจับจ้องริมฝีปากหนา ที่มันเคยเบียดรุก จูบพรมไปทั่วกาย มันอาจจะเพียงพอสำหรับเขาแล้วก็เป็นได้...สัมผัสหนึ่งที่หัวใจและร่างกายได้รับ หยดน้ำตาไหลกลิ้งออกจากดวงตาคู่งาม...เขาไม่น่าเอาหัวใจไปวางไว้ในคนเย็นชาเลย คนที่เขาเฝ้ารออยากจะพบเจอด้วยหัวใจ มันเจ็บแปลบขึ้นมา เหมือนกับนายทหารหนุ่มจะรู้ตัวว่าคุณหมอตื่นแล้ว เขาจึงรั้งร่างเข้าหาและเกลี่ยหยดน้ำตาออกจากแก้มให้...ทำไมต้องทำแบบนี้...ไม่รักทำไมต้องให้ความหวัง...อย่าทำแบบนี้เลย...ได้โปรด...เหมือนกับหัวใจจะแตกสลาย...มีเพียงแค่ความชิงชัง อยากกดลงให้อยู่ใต้อาณัติ...หัวใจยับเยินกับคนที่ทำแบบนี้กับหัวใจอันแสนบอบบาง

ต้นธาราลุกขึ้น ช่วงสะโพกรู้สึกชา ขาก็หนักอึ้งไร้ความรู้สึก ชายหนุ่มนวดขาให้เลือดไหลเวียน เมื่อรู้สึกว่าขยับเขยื้อนได้ เขาก็ลงจากเตียงต้องทรุดลงบนพื้นไม้เย็นเฉียบ ต้นธารากำเสื้อผ้าแน่น เขาอยากชำระคราบสกปรกโสโครกที่ติดตัวเหลือเกิน สายลมพัดโชย ร่างเปลือยสั่นเทา หัวใจเอ๋ยเหตุใดจึงเจ็บปวดนัก คุณหมอพยายามจะลุกขึ้นให้ได้ หยิบผ้าเช็ดตัวกับข้าวของส่วนตัวลงจากกระท่อมของภานุ พอคุณหมอลงไปแล้ว ภานุก็ตื่นขึ้นมา เขาลุกขึ้นขัดสมาธิ แตะหน้าผากตัวเองอย่างกลัดกลุ้ม นิ้วของเขายังรับรู้ถึงน้ำตาอุ่นๆ ร้องไห้ทำไมหรือ...เขาอยากจะถามเหลือเกิน...ชายหนุ่มเป็นห่วงคุณหมอต้นธาราเสียจริงๆ จึงลุกขึ้น สายตาสะดุดกับผ้าปูเตียงอันแสนยับเยิน มองเห็นรอยคราบเลือดจางๆ ภานุยิ่งหน้าเครียดขึ้น เขารีบลงจากกระท่อมตามหาคุณหมอ ก่อนที่เขาจะเห็นทรุดนั่งบนดินท่ามกลางป่า เปรียบประดุจเทพี นางไม้ ชายหนุ่มที่ถือเสื้อนอกลายพรางห่มร่างขาวสะอาดตา ทรุดนั่งก่อนตระกรองกอดร่างบอบบางของคุณหมอแน่น ถ่ายทอดความอบอุ่นที่มีให้

"ตื่นแล้ว ทำไมไม่บอกว่าอยากจะอาบน้ำ"

ชายหนุ่มถาม น้ำเสียงเมยเฉย ต้นธารากัดริมฝีปากล่าง เขาไม่เข้าใจการกระทำของภานุเลย ร่างกายอ่อนล้าถูกฉุดขึ้นก่อนจะถูกอุ้ม

"ผมไม่ใช่คนใจร้ายไส้ระกำถึงขนาดนั้นนะ" กับความเฉียบขาดสมทหาร เขามองดูรอบๆป่าที่เงียบสงบ

"ออกมาเดินแบบนี้ช่างมั่นใจเหลือเกินน่ะที่ตัวเองจะไม่โดนไข้โป้ง"ภานุเยาะ คุณหมอหนุ่มก้มหน้า คนร่างยักษ์แบกเขามาถึงลำธาร เขาวางร่างของคุณหมอลงอย่างแผ่วเบา

"จะอาบก็รีบอาบเสียสิ ผมจะได้พากลับ"

ถึงจะเป็นคำพูดที่เห็นใจเขาก็เถอะ ต้นธาราค่อยๆดันร่างของตัวเองให้ลงน้ำ เมื่อทำได้ร่างของเขาก็แช่อยู่ในลำธารเย็นเฉียบ นั่งแช่ดุจจะให้หนาวตาย ภานุถอนใจเฮือก ชายหนุ่มลงไปฉุดให้ต้นธาราลุกขึ้น

"อยากจะเป็นปอดบวมตายหรือไง" ภานุพูดกระชาก เสียงกร้าว ห่อตัวอ่อนปวกเปียก หมดใจไว้ในอ้อมอกหนา ใบหน้าเปียกชื้นซบอยู่กับแผ่นอกแกร่ง

"ประชดผมเรอะ"เมื่อถูกจิกกระชากใบหน้าให้แหงนหงาย ดวงตาเด็ดเดี่ยว สบกับแววตาหวั่นไหว

"ยังไม่สะใจอีกหรือไงครับกับบทลงโทษ แค่นั้นน้อยไปใช่ไหม?"

ชายหนุ่มว่า หมดแรงที่จะโต้ตอบ มันชาด้านไปทุกสัดส่วน ไม่อาจจะเคลื่อนไหว หรือขยับปากโต้ตอบ

"อย่า..."

ได้แต่เผยอปากขมุบขมิบ ชายหนุ่มฟังไม่รู้เรื่องหรอก ร่างสวยงามอ่อนระทวยเหยียดยาว ก่อนดวงตาจะปิดลง ภานุคลายแรง ส่ายหัว อุ้มร่างที่เบาหวิวขึ้น...หัวใจลึกๆเป็นห่วงหา ภานุจำต้องลบมันออก เขาจะเห็นใจคนทรยศไม่ได้ แต่ร่างของคนที่เขาอุ้มอยู่ช่างไร้พลังและน่าปกป้อง สำนึกส่วนลึกบอก เขาขึ้นบ้าน วางคุณหมอลงบนเตียงหาเสื้อผ้าหนาๆใส่ให้ นั่งมองใบหน้าอันแสนใจดีนั้น

"ไม่มีใครสักคนที่ทำให้รู้สึกว่าทุกอย่างถูกเติมเต็ม"

ภานุพึมพำ เขาไม่คิดไม่ฝันอะไร ปัดออกจากใจ หัวใจและความรักมันเป็นเรื่องยากจะตัดสินจริงๆ เหมือนกับมันจะย้ายมาในหัวใจอย่างรวดเร็ว....ชายหนุ่มลุกขึ้นเดิน ก่อนจะหันมามองคุณหมอต่อ สีหน้าซีดเซียว เขาไม่อาจจะตัดใจละสายตาได้ บางเวลา...บางความรู้สึก...หรือว่าบางความทรงจำ ไม่ได้สวยงามเลยซักนิด

" นับตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปทุกสิ่งจะเปลี่ยนแปลง"

ชายหนุ่มมองขอบฟ้าที่เริ่มมีสีอื่นจับ เขาคิดถึงดวงตาที่เฝ้ามองอยู่เสมอ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมทุกครั้งที่ต้นธาราเจอกับเขามักจะทำสีหน้าดีอกดีใจอยู่เสมอ ชายหนุ่มวางมือบนหัว สูบไล้เส้นผมสีน้ำตาลอย่างอ่อนโยน ไล้ใบหน้าเนียน ชายหนุ่มถอนใจอีกเฮือก ทางที่หาทางออกไม่เจอ ภานุพิงผนังบ้านกับความรู้สึกดีๆที่เริ่มต้นขึ้น

------------------------------------------------

ตอนสายคุณหมอลุกขึ้นจากเตียง เลิกผ้าห่มออก มองกระท่อมที่วางเปล่าแล้วหรุ่บตาลง เขาอยากจะกลับไปยังค่ายทหารเสียแล้ว ต้นธาราหาเสื้อผ้า มองถุงเงินอันหนักอึ้งอย่างหนักใจ และแล้วต้องถอยกรูด หาที่หลบอย่างรวดเร็วเมื่อชายหนุ่มเดินขึ้นมา ในมือมีผลส้มกับถุงกับข้าวหลายถุง

"คือ...ผมจะกลับแล้ว"

ต้นธาราบอก กลัวชายหนุ่มจะโกรธ ภานุไม่ได้ตอบหรือว่าอะไรเลย กลับเงียบทำเหมือนเขาเป็นธาตุอากาศ มันน่าเจ็บปวดใจไหมล่ะ ภานุวางของ เดินผ่านคุณหมอที่เอาแต่นั่งก้มหน้าก้มตา ชายหนุ่มหยิบเสื้อโยนให้มันเป็นเสื้อยืดตัวใหญ่สีเขียวขี้ม้า

"ใส่ซะแล้วมานั่งนี่"

ชายหนุ่มสั่ง ต้นธาราทำตาม เขาลุกขึ้นดูขัดๆเขินๆมานั่งตรงพื้นที่วางเปล่า ภานุหาถ้วยหาชามตั้งตรงหน้า ต้นธาราจะลุกขึ้นไปช่วยแต่ได้รับการปฏิเสธ

"นั่งอยู่เฉยๆเถอะ ลุกขึ้นมาก็เกะกะผม"

ชายหนุ่มว่าอย่างนั้นเขาจึงได้นั่งอย่างเหงาๆ นิ้วเรียวหยิบถุงแกง เขาอยากรู้ว่าเขาต้องแกะมันไหม หากเขายื่นมือช่วยแล้วมันจะเป็นอย่างไร เขามองดูภานุเห็นชายหนุ่มไม่ได้ใส่ใจในสิ่งที่เขาจะกระทำ เขาจึงแกะถุงกับข้าว เทแกงใส่จาน

"แกงส้มสายบัว...ทางค่ายทำหรือครับ"เขาถามนายทหารหนุ่ม ภานุส่ายหัว

"เปล่า ชาวบ้านแถวนี้ให้มาตอนไปตรวจหมู่บ้าน เลยไปหาถุงใส่"ชายหนุ่มพูดดีด้วย ต้นธาราใจชื้นขึ้น เขายิ้มให้ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน

"ดีจังเลยนะครับ"

ภานุเห็นรอยยิ้มนั่นแล้วเงียบไป ต้นธารานึกว่าตัวเองจะทำเรื่องทั้งหมดพังกับมือ ดวงตาสีน้ำตาลหมองลง

"เอ่อ...ผมขอโทษครับถ้าคำพูดนี้มันอาจจะทำให้คุณไม่พอใจ" ต้นธาราว่า ภานุแค่นยิ้ม

"ผมก็ไม่ได้พูดอะไรเสียหน่อย"ชายหนุ่มทรุดนั่งลงตรงกันข้าม เทข้าวใส่จานสังกะสียื่นให้คุณหมอ

"ทานซะ"

ต้นธาราพึมพำคำขอบคุณ เขายังไม่ลงมือทานจนกระทั่งผู้กองหนุ่มย้ำอีกรอบนั้นแหละ ต้นธาราจึงตักแกงขึ้นมากิน ภานุนึกว่าต้นธาราจะกินไม่ได้เสียอีก แต่ร่างที่อยู่ตรงหน้าก็ทานน้อยเหลือเกิน

"เอาข้าวอีกไหม กลัวอะไร"ภานุหยิบถุงข้าวโยนให้ ต้นธาราทำท่าเกรงอกเกรงใจ

"หรือว่ากับข้าวไม่ถูกปากคุณหนูล่ะ"เริ่มวกกลับเข้ามาแดกดัน ต้นธาราหน้าซีดเผือดหมดอยากไปทันที

"ไม่ใช่..."เขาพูดพึมพำ กลัวว่าชายหนุ่มจะชิงชังตน มือถือช้อนจึงสั่นระริก

"อะไรกันหนักกันหนา ทำให้หมดอยากหมด"นายทหารหนุ่มวางจานข้าว เบือนหน้าไปทางอื่นเพราะเห็นคนตรงหน้ามีน้ำตาไหลหยดออกมา

"เอ่อ ผมขอโทษครับ"

ต้นธาราเช็ดน้ำตาออกอย่างรวดเร็ว จริงๆแล้วก็ไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนี้เลย...เพียงแต่เขารู้สึกเจ็บปวดอีกครั้ง

"ผู้กองภานุอยู่ไหมครับ"

เสียงตะโกนดังจากหน้าบ้าน ภานุถอนใจ คุณหมอที่เช็ดน้ำตาจนแห้งทำท่าปกติ ชายหนุ่มร่างสูงออกมายืนพิงประตู

"มีอะไรหรือจ่า?"เขาถามเมื่อเห็นจ่าแม้นแต่งตัวเต็มยศสะพานปืนมาหาถึงบ้าน

"ผู้กองครับ คุณหมอไม่อยู่ครับ"จ่าแม้นทำสีหน้ากังวลใจ ภานุยังไม่ตอบหรือเฉลยอะไร

"คุณหมอมาริสาจะตามไปทำงาน แต่ไปถึงบ้านคุณหมอก็หายไป ตามหาจนทั่วก็ไม่มีใครรู้เห็นมีคนบอกว่าคุณหมอมาทางนี้ ผู้กองเห็นเขาไหมครับ?"

จ่าแม้นดูร้อนใจ ภานุลงจากกระท่อม

"จ่าไม่ต้องห่วงหรอก คุณหมอเขามาหาผม กลับไปบอกกับทุกคนเถอะว่าคุณหมอปลอดภัยดี"

ชายหนุ่มว่า ต้นธาราโผล่หน้าออกมา ยิ้มอ่อนๆให้จ่าแม้น ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"ผมปลอดภัยดีครับจ่าแม้น แค่มาดูผู้กองเสียหน่อยนะครับ เห็นบอกว่าดูท่าจะเป็นไข้ ขอโทษครับที่ทำให้เดือดร้อนกัน"

จ่าแม้นคลายใจเมื่อเห็นรอยยิ้มอันอ่อนโยน จ่าแม้นทำความเคารพ

"ครับผม จ่าก็เป็นห่วงเอ่อ...ใช่ ผู้กอง วันนี้ผู้กองรู้ไหมครับว่าจะมีคนใหม่มาแทนร้อยเอกนาคี"

จ่าแม้นบอก ภานุผงกหัว ต้นธาราดูหน้าซีดไปกับชื่อของผู้กองนาคี

"รู้แล้ว เห็นบอกว่ามาวันนี้นี่น่า"

ภานุกล่าว เขามองต้นไม้เขียวชอุ่ม แสงแดดอาบไล้ นกป่าร้องเสียงไพเราะ

"ครับ ผู้กองจะไปดูหน้าไหมครับ"

จ่าแม้นถาม ชายหนุ่มบอกว่าจะไป จ่าแม้นจึงขอตัวไปรายงานว่าหาคุณหมอเจอแล้ว พอพ้นเงาจ่าแม้น ภานุมองคนบนบ้าน

"จะกลับค่ายไหม?"

ต้นธาราผงกหัว เขาเก็บถ้วยเก็บชามซ้อนกันไว้ ชายหนุ่มปิดกระท่อม ยื่นแขนให้เกาะ

"คุณดูเหมือนกับเดินไม่ถนัด ระวังจะล้มเอา"

ต้นธารามองดูต้นแขนแกร่งอย่างลังเล ก่อนที่จะเกี่ยวแขนแกร่ง

"เมื่อคืนเป็นอย่างไรบ้าง ผมคงไม่ทำให้คุณเจ็บนะ"

คุณหมอไม่ตอบ รู้สึกประหลาดนักว่าเพราะเหตุใดจึงได้อ่อนโยนปนโหดร้าย คุณหมอส่ายหัวราวกับจะบอกว่า มันไม่เป็นอะไรมากหรอก ภานุมาส่งคุณหมอในบ้านพักก่อน เขาทรุดนั่งริมเตียงมองดูร่างบางหาเสื้อผ้าเปลี่ยน ชายหนุ่มตาไวจับจ้องที่รอยจูบบนผิวขาวสะอาด ลุกขึ้นไปยื่นซ้อนทางเบื้องหลัง

"ขนาดนี้ยังทำให้ใจปั่นป่วน ช่างมีเสน่ห์เหลือล้นจริงๆนะ"

ภานุเย้า ต้นธาราเอาแต่เงียบ เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว หันมาทางนายทหารหนุ่ม จะทำเป็นไม่สนใจก็ถูกรั้งสะโพกเข้าแนบชิด

"ถ้าคุณอยากอยู่เป็นพ่อพระอยู่ที่นี่ คืนนี้ไปหาผม"

ชายหนุ่มก้มกระซิบ ต้นธาราหน้าชาวาบ...เขาทำแบบนี้เท่ากับว่าดูถูกกันชัดๆ ชายหนุ่มผลักร่างของต้นธาราออก เท่ากับย้ำว่าเขามันต่ำ ต้นธารากัดฟัน...เพราะอะไร...ถึงเห็นเขาเป็นแบบนี้

"ถ้าผมไม่ไปตามคำที่คุณสั่งล่ะ"น้ำเสียงเย็นเยือกกล่าว ภานุยิ้มเย็นราวกับว่าใครจะเป็นต่อ

"เรื่องที่คุณขายความลับมันก็จะรั่วไหลไปเช่นกัน คุณไม่อยากรักษาหน้าพ่อพระไว้หรือ?"

ภานุกล่าว ต้นธาราพูดอะไรไม่ออกเลย...แม้จะเป็นการเข้าใจผิด เขาก็ไม่อาจแก้ตัวหรือนำมันออกจากหัวใจได้เลย

"ทำไมคุณต้องทำแบบนี้"

ต้นธาราถามเสียงแผ่ว ภานุไม่ตอบ...เขาก็ไม่รู้ใจตัวเองเหมือนกันว่าเหตุใดถึงอยากทำแบบนี้นัก...ทำไมจึงรู้สึกอยากรั้งไว้

"จะพูดมากทำไม คุณมีสิทธิ์แค่ทำตามคำสั่งผม"

ชายหนุ่มว่า ต้นธารากัดฟันกรอด....คำสั่งงั้นหรือ...

"ผมมีสิทธิ์ที่จะไม่ทำตามคุณ!"

น้ำเสียงแข็งกระด้าง ชายหนุ่มใช้พละกำลังบีบคาง

"เรามาดูกันว่าคุณกับผมใครมันจะแน่กว่า"

ต้นธาราจากที่เคยอารมณ์เย็น มันสิ้นหวังแล้วทุกๆอย่าง เขาเงื้อมือตบใบหน้าของผู้กองหนุ่มจนหน้าหัน ภานุหันกลับมามองดวงตาแกร่งวาวขึ้น

"ฤทธิ์มากนัก"

เขาผลักคุณหมอที่ไม่ทันระวังให้ล้มลง เอาคืนด้วยการตบใบหน้านั้น มือหนาจะกระทบซีกแก้ม ต้นธาราหลับตา....เขาได้รับปฏิบัติแบบต่ำๆ....หัวใจข้างในเจ็บแปลบ รอรับฝ่ามือที่แสนหนักหน่วง ไม่มีการหลบหรือปกป้อง แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอลืมตา ผู้กองหนุ่มมองเขานิ่ง เล่นเอาหัวใจแทบหยุดเต้น ผู้กองหนุ่มลุกขึ้น ฉุดร่างของเขาขึ้น ใช้นิ้วจิกรั้งศีรษะให้แหงนหงาย ประทับจูบอย่างแผ่วเบา ต้นธาราเบิกตากว้าง...ยิ่งกว่าการลงโทษโดยใช้กำลัง เขาดิ้น แต่ก็ถูกตรึงศีรษะแน่น ริมฝีปากบางถูกบดขยี้ เล็บจิกเข้าที่ต้นแขน พยายามหลบใบหน้าแกร่งที่โน้มลง เขาจะหลงไปกับสัมผัสนี้ไม่ได้ มันอันตรายเกินไป อันตรายเกินกว่าที่จะห้ามหัวใจให้เชื่อฟัง กับสัมผัสที่อ่อนโยนและน่ากลัว...ต้นธาราพยายามหนี เขาไม่ยากถูกกระทำแบบต่ำๆอีกต่อไป ชายหนุ่มขยับตัวดันให้ออก มีหรือที่เขาจะขัดขืนได้ ท้ายที่สุดต้นธาราต้องรอให้โชคชะตาช่วยเท่านั้น และคำอฐิษฐานในใจก็เป็นจริง มีคนมาเคาะประตูเรียกอย่างกังวล เป็นเสียงคุณหมอมาริสานั้นเอง เขาคิดว่าภานุจะเลิกกระทำแบบนี้แต่ผิดคาด ชายหนุ่มกลับดันเข้าติดผนัง ก้มซุกไซร้ซอกคอ มือถูกตรึงแน่น...ไม่มีวันที่จะหลุดกรงเล็บนี้ไป...ในสายตาของภานุบ่งบอกเช่นนั้น

------------------------------------------------

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
«ตอบ #54 เมื่อ02-05-2008 19:05:36 »

:impress: :impress: :impress:

อ่าครับเห็นไหมครับว่าคุณหมอช้ำหมดแน่ๆๆงานนี้

ผู้กองภานุมีแต่ได้กับได้ อิอิ

ชอบจังครับ ฉากตบๆจูบๆๆเนี้ย

โหดและหื่นดี อิอิ เป็นกำลังใจให้เสมอครับผม

ว่าแต่นายทหารที่มาใหม่อะครับ จะตกหลุมรักคุณหมอของผมป่าวเนี้ย อิอิ

:impress: :impress: :impress:

rain-at-rose

  • บุคคลทั่วไป
Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
«ตอบ #55 เมื่อ03-05-2008 00:28:36 »

มาดันให้อีกคน  :oni2: :oni2:

นู๋เรนทัน จอห์น นูโว แต่พี่ทัน ลิขิต เอกมงคล  :laugh: :laugh: กรี๊ดดดดดดดด แก๊ แก่

55+++เรนยังไม่แก่น๊า อายุ21เอง ตอนดูก็ได้ดูสมัยเด้ก เด็ก...หาว่าเรนแก่(แอ๊บเด็กแล้วเรา)

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
«ตอบ #56 เมื่อ03-05-2008 02:04:36 »

ขอยาแก้ช้ำในด่วน หมอต้นแย่แว้ว    :m1: :m1: :m1: :m1:

animob

  • บุคคลทั่วไป
Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
«ตอบ #57 เมื่อ03-05-2008 13:28:05 »

ตบจูบๆ โอ้วววว มันบีบหัวใจเหลือเกิน

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
«ตอบ #58 เมื่อ03-05-2008 18:46:46 »

 :impress: :impress: :impress:

อย่าพึ่งท้อนะครับคนแต่ง คนเขียน

อย่างน้อยยังมีผมอีกคน

ที่ยังเป็นกำลังใจให้อยู่เสมอ

คอยอ่านคอยติดตามอย่างห่วงๆๆครับผม

:impress: :impress: :impress:

Mr.TaiKi

  • บุคคลทั่วไป
Re: ห้วงรักเสน่หา โดย Rain-at-Rose
«ตอบ #59 เมื่อ03-05-2008 22:44:37 »

 :impress: :impress: :impress: :impress:
ขอร่วมก๊วนด้วยอีกคนนะค้าบ
ชอบแนวเน้มั่กๆๆๆ (ตบ จูบ กระชาก กด)
แต่สงส้านสงสาน นายเอกขอเรา
อ่านแล้วเจ็บจี๊ด~~~~ที่หัวใจข้าน้อยยิ่งนัก  :m15:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด