คำวิงวอนจากคนเขียนก่อนอ่าน >> อ่านช้า ๆ ในสถานที่สงบปลอดคน และมีเลือดสำรองซึ่งตรงกับกรุ๊ปเลือดผู้อ่านเตรียมไว้ล่วงหน้าค่ะ (ห๊ะ!?)
Dormitory Boys – สะดุดรัก หอพักอลเวง
“รัก...ติดดิน”Chapter 41 – Passionate lesson..ทุกอย่างต้องมีครั้งแรกทั้งนั้น..?ไม่...ไม่ทุกอย่าง! เขาขอเถียงหัวชนฝาเอาให้ผนังหรือกะโหลกร้าวกันไปข้าง
เพราะบางอย่างมันไม่ควรมีแม้แต่ครั้งแรกเลยด้วยซ้ำ!“อาทิตย์....ฉัน....”
...อย่าสั่นสิ......งี่เง่าฉิบ!......สั่นบ้าอะไรนักหนา เจ้าจะประทับทรงหรือไงเขาได้เตรียมขอหวยตัวเอง
“....ฉั...น.............”
นิ้วที่สามดึงดันเบียดตัวเข้ามาคาอยู่ในช่องทางคับแคบ และถ้อยคำหลังจากนั้นก็แผ่วลงจนเบาหวิวหายไปในอากาศแล้วถูกแทนด้วยเสียงลมหายใจสะดุดเฮือก เวรเอ๊ย! ใส่มาอย่างนี้ไม่ล้วงเข้ามาทั้งมือซะเลยล่ะ!
“..เด็กดี....ทนนิดนะครับ”
ปลายนิ้วรุกล้ำเขตแดนต้องห้ามขยับกวาดไปทั่วจนสัมผัสเข้ากับตำแหน่งซึ่งเรียกความรู้สึกเสียววาบแล่นริ้วขึ้นมาที่ท้องน้อย และอาทิตย์คงสังเกตเห็นท่าทีผิดแปลกไปจากเดิมกะทันหันของเขาจึงได้กดย้ำลงมาตรงจุดเดิมเรียกเสียงครางหลุดรอดจากลำคอซึ่งผงะไปด้านหลังอย่างหมดทางต่อต้าน
“ตรงนี้หรือ?”
“...อึก!! เลว! นี่ไม่เรียกนิดแล้วนะ!ช่วงเวลาที่เขาต่อสู้กับความทรมานเจือหฤหรรษ์ช่างยาวนานแทบขาดใจ รู้ตัวอีกทีร่างกายซึ่งซื่อตรงกว่าลมปากมากนักก็ตื่นตัวขึ้นมาแทบจะชี้หน้าไอ้คนที่กำลังยิ้มกรุ้มกริ่มได้ลามกที่สุดในระบบสุริยจักรวาล เห็นเขาขายหน้าเทกระจาดแทบไม่เหลืออะไรให้รื้อขึ้นมาอับอายได้แล้วอีกฝ่ายเลยช่วยขุดเรื่องใหม่ให้มาอายกันต่อเนื่องเหมือนกลัวขาดช่วง
“ปิ่นหยกน่ารัก...”
เอ่ยกระเซ้าจบแล้วก็ย่อตัวลงจุมพิตบนส่วนหัวมังกรผงาดกลางลำตัวเขาแผ่วเบาไม่ไว้หน้าเจ้าของ “....ตรงนี้ก็ยิ่งน่าเอ็นดู”
วร้อยยยย!! เอาอีกแล้ว!!!ไอ้ตัวหยาบคายไร้มารยาทขาดคุณสมบัติผู้ดีทั้งที่บ้านออกจะมีกะตังค์ หม่อมพ่อมึนใหญ่พรรณรายฉายแสงโชติช่วงชัชวาลไม่ได้สั่งสอนมาหรืออย่างไร!? ในหัวบรรเลงทำนอง
‘อย่าทำ(พูด)อย่างนี้ไม่ว่ากับใคร เข้าใจไหม ’ ของพี่เบิร์ดขึ้นกระหึ่มอย่างกับจ้างวงออเคสตร้ามายัดใส่หู เขาต้องโบกหน้าให้หนาอีกสักกี่นิ้วกันจึงเอามาสู้รบปรบมือกับมนุษย์แอ๊บมึนผู้สะกดคำว่ายางอายไม่เป็นตรงหน้านี้ได้พอฟัดพอเหวี่ยง
นิ้วมือทั้งหมดถูกถอนออกไประหว่างที่เขากำลังสติแตกกับเนื้อหาปรามาสในคราบของคำชม เดี๋ยวก็
‘น่ารัก’ บ้างล่ะ
‘น่าเอ็นดู’ บ้างล่ะ อยากรู้นักถ้าลองเขาเอ่ยปากชมของสงวนมันว่าน่ารักอย่างกับหนอนน้อยบนยอดชาแล้วหน้าหล่อนั่นจะยังยิ้มระรื่นอยู่หรือเปล่า
ความคิดที่ว่านั้นได้แค่ใช้เพื่อความบันเทิงในหัวไม่สามารถนำออกเผยแพร่เมื่อถูกประกาศศักดาต่อหน้าต่อตาด้วยร่างสูงซึ่งโถมตัวคร่อมเขาเอาไว้ แขนแกร่งกันกักซ้ายขวาพร้อมเบียดตัวลงมาประชิด หากเขาหลุดรอดไปได้ด้วยการจมหายกับเตียงคงดีไม่น้อยเพราะดูเหมือนจะไม่เหลือทางอื่นให้หนีแล้ว ส่วนแข็งขืนซึ่งตื่นตัวเต็มที่(ปิ่นหยกภาวนาบ้าคลั่งว่าเต็มที่แล้วเถอะ...อย่ามากไปกว่านี้อีกเลย)ถูไถอยู่บนท้องน้อยเขาคล้ายจะทักทาย พร้อมกับตอกย้ำความจริงแสนเจ็บปวดไปด้วยว่าพอเทียบกันแล้วมังกรที่เขาแสนภาคภูมิใจแทบกลายเป็นกิ้งกือไปในบัดดล
“ใส่นะ”
อาทิตย์ก้มลงกระซิบ ขยับตัวจ่อส่วนนั้นที่ช่องทางซึ่งผ่านการเตรียมด้วยนิ้วมือน่าจะเพียงพอแล้ว
“เดี๋ยวก่อน.... ฉัน........”ปิ่นหยกกะพริบตาปริบ ๆ ....เสียงหายไปไหนหมดแล้ว....
“.......ก....ล...”
“อะไรนะครับ?”
“......ก...ลั....”
อาทิตย์เงี่ยหูฟังสุดชีวิต ใบหน้าแดงซ่านก้มงุดของร่างที่สั่นระริกไปทั้งตัวดูน่าสงสารและน่าแกล้งไปพร้อมกันซึ่งถ้าปิ่นหยกรู้ความคิดนี้เขาต้องถูกตราหน้าเป็นพวกวิตถารแน่นอน
“กลัวหรือ?”
เด็กหนุ่มเอ่ยเสียงอ่อนโยน มือยื่นไปม้วนผมน้ำตาลเข้มไว้กับปลายนิ้วแล้วบรรจงจูบลงไปบนเส้นผมสีสวยนั้นโดยไม่ได้ละการจับจ้องออกจากนัยน์ตาสีเดียวกันแม้แต่น้อย
ปิ่นหยกรู้สึกราวกับกำลังสบตากับหลุมดำมืดมิดซึ่งหมุนวนดูดกลืนทั้งร่างเขาให้ลอยเคว้งคว้าง ค้นพบความจริงอีกอย่างว่าการที่อาทิตย์มักกล่าวหาเขายั่วอย่างนั้นอย่างนี้เป็นเรื่องเพ้อเจ้อสิ้นดี ในเมื่อคนว่าเองไม่ใช่หรือที่ดูจะช่ำชองกับการยั่วยวนให้เขาหลงในโลกซึ่งรอบตัวมีแต่เรื่องของอีกฝ่ายอยู่ร่ำไปแค่เพียงจ้องมองริมฝีปากอิ่มหยอกเย้ากับเส้นผมเขาทั้งที่ยังร่างกายไม่ได้ถูกแตะต้องตรงไหนสักแห่ง
“....รัก...”
หลงเชื่อในคำรักหวานหูเพียงคำเดียว ...เขาช่างโง่เหลือเกิน“.....เป็นของฉันได้ไหม...?”
ร่างสูงกลั้นลมหายใจรอคำตอบ หากปิ่นหยกพูดออกมาคำเดียวว่าไม่ เขาก็พร้อมจะหยุดอยู่แค่นี้แม้ที่ผ่านมาจะทำเป็นหูทวนลมกลั่นแกล้งอีกฝ่ายขนาดไหนก็ตาม
“....ปิ่นหยก?”
เขาไม่ได้ยินเสียงตอบอะไรสักพยางค์
แต่วงแขนซึ่งโอบรัดกลับมาและใบหน้าที่เอนมาซบบนไหล่เขาคงถือว่าเป็นคำอนุญาตได้ใช่หรือเปล่า?........................................................
........................................
ปิ่นหยกกระตุกขาหนีพร้อมกับร่างกายซึ่งเกร็งต่อต้านตามสัญชาติญาณ วงแขนเผลอเกาะหนึบกับลาดไหล่อีกฝ่ายไว้ไม่รู้ตัว ห้วงอารมณ์เหยียบอยู่ระหว่างความเจ็บปวดและหวามไหวจนสั่นสะท้านกับลำแข็งขืนซึ่งชำแรกเข้ามาแทนนิ้วมือ ร่างกายราวกับจะแตกเป็นเสี่ยงไปในวินาทีใดวินาทีหนึ่ง แทบลืมไปแล้วว่าตัวเองเป็นใครและกำลังทำอะไรอยู่ เค้นลมผ่านเส้นเสียงออกจากลำคอได้เพียงพยางค์ตะกุกตะกักชวนสังเวชแม้กระทั่งกับหูเขาเอง
“.....แน่น...ไป...จ...เจ็......!” “เจ็บหรือครับ”
อาทิตย์ประคองต้นคอร่างตรงหน้าก่อนจะโอบเข้าหาไหล่กว้างของตัวเอง กดจูบอ่อนหวานย้ำลงตรงกกหูซ้ำไปซ้ำมาด้วยสิเน่หา เรียวนิ้วแทรกไปตามเส้นผมชื้นเหงื่อซึ่งเริ่มซึมตามรูขุมขนพลางถ่ายน้ำหนักนุ่มนวลที่ปลายนิ้ว นวดวนบนท้ายทอยหวังให้เรือนร่างไหวระริกในอ้อมแขนผ่อนคลายแรงต้านต่อสิ่งแปลกปลอมซึ่งรุกรานอยู่เบื้องล่าง
ได้ยินเสียงหอบหนักหน่วงขาดห้วงในวินาทีที่เขาบดเบียดตัวเองแทรกลึกเข้าไปอีก ปิ่นหยกกลั้นลมหายใจไว้ครู่ใหญ่ก่อนจะตามด้วยไอร้อนระบายออกจากริมฝีปากแดงสดซึ่งเป่ารดลงต้องผิวบนไหล่เขายิ่งโหมแรงอารมณ์ให้พลุ่งพล่านด้วยความต้องการครอบครองทุกอย่างของคนตรงหน้า ทว่าคิ้วขมวดมุ่นอยู่เหนือดวงตาฉ่ำเยิ้มด้วยหยาดน้ำใสเอ่อคลอตั้งแต่ยังสอดแทรกส่วนนั้นเข้าไปได้ไม่ทันสุดทำให้เขาต้องยั้งใจตัวเองไว้เต็มกลืน
ดูท่าจะไม่ง่ายดายอย่างที่คิด“..กอดฉันแน่น ๆ ...ไม่เกร็งนะครับคนดี...”
ริมฝีปากอิ่มทาบลงบนเปลือกตาซึ่งปิดลงตอบรับอย่างว่าง่าย จูบซับหยดน้ำรสเค็มปร่าแผ่วเบาด้วยความทะนุถนอม ดันตัวเองเข้าไปเชื่องช้าจนมิดและค้างอยู่อย่างนั้นให้อีกฝ่ายได้ปรับตัว รอจนกระทั่งแรงจิกจากปลายเล็บที่แผ่นหลังของเขาคลายลงพร้อมกับเสียงระบายลมหายใจยาวหนัก ๆ ดังขึ้นสองสามครั้งจึงคอยขยับสะโพกเชื่องช้านุ่มนวล
“...อือ...แน่น...แล้วก็ร้อนด้วย”
เขากระซิบทั้งที่รู้ว่าปิ่นหยกมาบ่นย้อนหลังประจำเรื่องเขาชอบทำไปบรรยายไป แค่อยากให้รู้เท่านั้นเองว่าเป็นความรู้สึกดีขนาดไหนที่ได้แนบชิดประหนึ่งกำลังหลอมรวมเป็นคนเดียวกันเช่นนี้
“...ดีจัง....” ฟันเรียงเป็นแถวได้รูขบเม้มเบา ๆ บนใบหูนิ่ม ขนาดมีทั้งเจลทั้งใส่นิ้วเข้าไปก่อนแล้วยังคับแน่นจนทำเขาแทบเสียสติ “..ปิ่นหยกรู้สึกหรือเปล่าครับ....”
อีกฝ่ายไม่ตอบ แพขนตาชื้นปรือลงคล้ายคนละเมอ มีเพียงเสียงครางปนเปกับเสียงเรียกชื่อเขาเป็นระยะบอกให้รู้ว่าร่างซึ่งเบียดตัวเองเข้าหาเขายังไม่ได้สติหลุดลอยไปเสียก่อน
“..น่ารัก...”
ทำไมต้องน่ารักขนาดนี้ด้วยนะ...?อดไม่ได้จะมอบรางวัลโทษฐานที่ทำเขาเกือบคลั่งโดยเจ้าตัวคงไม่รู้เรื่องด้วยการบดจูบดูดดื่มแทบไม่เปิดช่องให้ได้หายใจ
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรที่จังหวะเนิบนาบอ่อนหวานกลับเร่งกระชั้นขึ้นตามแรงอารมณ์ซึ่งทะยานจนสูงลิบ จะอย่างไรการที่เด็กวัยรุ่นชายอย่างพวกเขาถูกเล้าโลมให้รุ่มร้อนง่ายดายจากแรงกระตุ้นเพียงน้อยนิดก็ยังเป็นความจริงอยู่วันยังค่ำ สิ่งนั้นถูกพิสูจน์ชัดแจ้งเมื่อสองร่างต่างถูกดึงดูดเข้าหากัน ...เนื้อแนบเนื้อ...แขนขาเกี่ยวกระหวัด..และเรียวลิ้นซึ่งเชื่อมโยงสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกับแรงเคลื่อนเบื้องล่างต่างกวาดชิมรสหวานทุกซอกทุกมุมในโพรงปากอุ่นชื้นจนไม่มีโอกาสแม้จะได้ออกเสียงคำว่ารัก...
ปิ่นหยกเผลอกัดผิวเนื้อซ่อนมัดกล้ามที่ไหล่อีกฝ่ายระงับเสียงร้องหวามไหวซึ่งดังขึ้นเมื่อสะโพกแกร่งเร่งจังหวะรุกเร้ารุนแรงเข้าหาด้วยความถี่ยิ่งกว่าเก่า ในหูอื้ออึงไปหมดพร้อมกับภาพตรงหน้าซึ่งเริ่มพร่าเลือนลงเหมือนติดอยู่ในหมอกควัน ไอร้อนกรุ่นกลิ่นหอมหวานเย้ายวนท่วมเอ่อจนนัยน์ตาเขามองไม่เห็นสิ่งใดนอกจากร่างสูงใหญ่และใบหน้าคมคายซึ่งเคลื่อนกายอยู่ต่อหน้า เพียงแรงกระแทกเบียดดันเข้ามาอีกไม่กี่ครั้ง ความวาบหวามอันสุขสมเสียจนทรมานก็ถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกับฉุดคร่าสติของเขาหลุดลอยไปไกลเกินจะรั้งไว้ได้ทัน
“....อา...ทิตย์...” เขาลืมตา แต่มองไม่เห็นสีสันสักอย่าง ในหัวหลงลืมภาษาไปหมดสิ้น เหลือเพียงชื่ออีกฝ่ายซึ่งหลุดจากปากโดยไม่ผ่านการไตร่ตรองจากสมอง
“ครับ....อยู่ตรงนี้” ร่างสูงกุมมืออีกฝ่ายไว้แล้วนาบลงที่แผ่นอกของตัวเอง
ได้ยินหรือเปล่า...เสียงหัวใจที่เต้นระรัวอยู่ในนั้น “....อยู่กับปิ่นหยก”
อาทิตย์แทรกสอดครั้งสุดท้ายเข้าไปจนสุด ก่อนจะปล่อยตัวเองล่องลอยในดินแดนเวิ้งว้างไร้สรรพเสียงที่มีเพียงพวกเขาก้าวข้ามไปถึง...
.
.
.
“ที่นอนสกปรกหมดแล้ว” ปิ่นหยกนอนหอบหายใจรวยริน เรี่ยวแรงแทบเหือดแห้งแต่ยังไม่วายห่วงความสะอาดเครื่องใช้ “เดี๋ยวต้องซักทำความสะอาดกันอีกยาวเลย”
“อือ” อีกฝ่ายรับคำ พลิกตัวกอดร่างด้านข้างไว้ในอ้อมแขน
“แกซักนะ”
“ฮื่อ ได้” ให้ทำอะไรทำหมดนั่นแหละ กดจมูกลงสูดกลิ่นกายตรงนั้นตรงนี้แล้วก็ชอบใจจนเผลอจะลุกขึ้นคร่อมอีกรอบ
“เฮ่ย!” ปิ่นหยกกระโจนพรวดพราดหวังจะหลบ แต่ท่วงท่าไม่เท่ดังใจนักเมื่อขยับได้หน่อยเดียวก็เจ็บร้าวช่วงล่างขึ้นมาจนต้องค้างอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ปล่อยให้อีกฝ่ายเกาะหนึบกดจูบตรงนั้นตรงนี้ตามอำเภอใจ ตาปรือยื้อยุดกับความง่วงซึ่งกำลังพยายามกลืนกินสติสัมปชัญญะของเขา ไม่รู้ตัวกระทั่งว่ามือถูกดึงไปหาคนที่ดูจะยังเรี่ยวแรงเหลือเฟือด้านข้างตั้งแต่เมื่อไร
สะดุ้งขึ้นมาอีกทีก็...
“โอ๊ย!!”ปิ่นหยกอุทานลั่น กระชากมือตัวเองออกจากมือใหญ่ของอีกฝ่าย ยกขึ้นมองก็เห็นรอยฟันคุณชายทิ้งหลักฐานเป็นวงรอบโคนนิ้วอย่างกับแหวนสีแดงตามการเรียงตัวของรูปฟันเป็นแถวสวยแม้เคยหลุดออกมาแล้วครั้งหนึ่ง ลูกอีช่างกัดนี่!!
“ไอ้งี่เง่า! กัดทำพระแสง!”
“จองไว้ครับ”
ร่างสูงพลิกตัวขึ้นมาเกยบนตักอีกฝ่าย สองมือกอดเอวบางไว้หลวม ๆ พลางยื่นจมูกไปซุกอยู่หน้าท้องคนที่สนใจแต่จะเอานิ้วถูรอยฟันซึ่งเขาบรรจงฝากไว้ ตั้งอกตั้งใจเสียจนลืมปัดป้องเขาออกไปหรือโวยวายให้หยุดสูดตรงนั้นตรงนี้บนผิวเนื้อละเอียดน่าฟัดอย่างที่น่าจะเป็น
“แล้วจะเก็บเงินหาแหวนจริง ๆ มาให้ แบบไม่ขอเงินคุณพ่อด้วย”
“แหวน?”
แหวนอะไรก็เกินคาดเดา แต่ไม่น่าเชื่อว่าคุณชายลูกแหง่ติดพ่ออย่างอาทิตย์เกิดจะครึ้มอกครึ้มใจประกาศตัวอยากทำอะไรเองโดยไม่พึ่งบุพการีขึ้นมา
“ไว้ใส่แทนที่รอยนั่น”
อาทิตย์ยิ้มละไม ค่อย ๆ โผล่คำอธิบายมาทีละช็อตอย่างกับการ์ตูนขึ้นตัวอย่างตอนหน้า พูดให้มันรู้เรื่องรู้ราวทีเดียวไม่ได้หรืออย่างไร เขาได้แต่ขมวดคิ้ว ก้มลงมองมือตัวเองด้วยสีหน้าบอกชัดว่าไม่กระจ่างกับคำพูดกำกวมด้วยตรรกะประหลาดของคุณชายหน้ามึนนัก จนเวลาผ่านไปหนึ่งอึดใจจึงสังเกตเห็นในที่สุด...
รอยฟันเด่นชัดเป็นจ้ำนั้นปรากฏอยู่รอบนิ้วนางข้างซ้ายเขาเหลือบมองอาทิตย์ อ้าปากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ทั้งหมดกลับถูกกลืนหายลงคอเสียสิ้นเมื่อพบว่าดวงหน้าหล่อเหลาของคุณชายหน้ามึนซึ่งปกติไม่แสดงอารมณ์หลากหลายนักคล้ายจะมีสีชมพูอ่อนแต้มอยู่บนนั้น
“...นั่นเขินเรอะ!?”
อะไรกันนะที่ดลจิตดลใจให้ถามออกไปอย่างนั้นทั้งที่เขาเองต่างหากกำลังจะตายด้วยความกระดากอาย
“...ก็นิดหน่อย”
อีกฝ่ายยกนิ้วหัวแม่มือถูจมูกตัวเองเบา ๆ “แต่ฉันจริงจังนะ”
ความร้อนแล่นวาบขึ้นบนผิวหน้า....และเขารู้สึกคืนนี้หัวใจช่างทำงานหนักหน่วงเหลือเกิน ..................................................................
.....................................
.
.
.
.
“...อ...อาทิตย์....อ๊ะ..!”
“ครับ?”
ให้ตายเถอะ เสียงหอบปิ่นหยกเซ็กซี่ถึงตายไปเลย เขาชอบชะมัด...อยากได้ยินอีกเยอะ ๆ
“....ช....ช้า..หน่อ..ย..”
“อือ”
‘อือ’ ที่แปลว่า
‘ไม่’ นั่นอีกแล้ว บัดซบที่สุด!
เขาบ้าไปเองที่หลงดีใจเรื่องทำมันเขิน(ความจริงคืออาทิตย์เขินเอง..เขาไม่ได้ทำ)แม้จะเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น หารู้ไม่นั่นเป็นการหลอกให้เขาตายใจจนเสียท่าโดนทำแฮตทริกปาเข้าไปยกที่สามแล้ว ถึงเขาจะอึดถึกบึกทนจนแทบเอาไปไถนาหรือเทียมเกวียนได้อย่างไรก็ยังเป็นปุถุชนคนสามัญที่ต้องการนอนหลับพักผ่อนหลังกิจกามมาราธอนตั้งแต่เสียซิงครั้งแรกบ้าง สิ่งหนึ่งที่ท่านชายจากอเวจีควรสำเหนียกไว้สักนิดคือเขาเป็นคน...
และที่หนักหนาคือเป็นคนซึ่งเป็นฝ่าย...เอ่อ...รับ“...ว...เว...ร...เอ๊ย!”
ปิ่นหยกคำรามแทรกเสียงหอบ เหงื่อไหลเข้าตาจนแสบไปหมดแถมเสียงพูดก็ฟังอนาถหูสิ้นดี “...แน่จริ..ง....อะ...อา....ลองมาสลับตำแหน่งกันสิ!! .....อึก!... จะเอาให้...ไม่...ได้...นอ...น...เลยมร่าง!!!”
พลันการเคลื่อนไหวทั้งหมดก็ชะงักลง “เอาอย่างนั้นหรือครับ?”
นัยน์ตาวาวโรจน์ของคุณชายร่างสูงเปล่งประกายระยิบระยับราวกับเป็นดาวฤกษ์ที่มีแสงสว่างในตัว น้ำเสียงลิงโลดปิดไม่มิดทำเขารู้สึกเหมือนได้กระทำอัตตวินิบาตกรรมด้วยการยันตัวเองลงเหวไปเรียบร้อย “ปิ่นหยกน่ารักเกินไปแล้ว”
...เขาพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า“สลับกันก็ดีนะ”
กว่าจะรู้ตัวก็โดนปล้นจูบจาบจ้วงไปหนึ่งยก ก้อนเนื้อนุ่มนิ่มในโพรงปากแยกกันอีกทีตอนที่ตระหนักได้ว่าเขาขึ้นมานั่งคร่อมอยู่บนสะโพกท่านชายเรียบร้อยโดยไอ้อะไรที่คาอยู่ในตัวก็ยังอยู่ของมันอย่างนั้น นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเบิกกว้างเมื่อแยกแยะตำแหน่งนั่งตัวเองได้ว่าอะไรเป็นอะไร
“ขยับสิครับคนเก่ง...”
.....มีสั่ง....มันสั่ง!! “อุตส่าห์สลับตำแหน่งให้แล้ว จะนั่งทับไว้เฉย ๆ อย่างนั้นทั้งคืนเลยหรือ”
มันโง่จริงหรือแกล้งโง่ก็น่าสงสัย แต่ดูสีหน้าแล้วขอพนันด้วยเงินหมดกระปุกว่าแกล้งโง่ล้านเปอร์เซ็นต์!
นี่เรียกออนท็อป! ไม่ใช่สลับตำแหน่งรุกรับที่กรูหมายถึงว้อย!“พ...พอ! ไม่เอาแล้ว”
เขาโวยวายกลบเกลื่อนความร้อนระอุจากสายตาซึ่งลามเลียทั่วร่าง ตั้งท่าจะลุกหนีมือใหญ่ก็คว้าสะโพกเขากดลงให้กลืนกินส่วนนั้นของตัวเองเอาไว้ทั้งหมดในคราเดียว พอกำลังจะลุกหนีอีกก็โดนดึงกระแทกกระทั้นลงมาอีก ความพยายามสิ้นสุดลงในครั้งที่สี่เมื่อรู้ตัวว่านี่เหมือนกำลังขย่มไปตามเกมลูกไก่แผนสูงอย่างไรบอกไม่ถูก สุดท้ายเขาก็หยุดการเคลื่อนไหวทั้งปวงทั้งแต่ช่วงใต้สะดือลงไป ปล่อยตัวเองกระแทกลมหายใจถี่กระชั้นเป็นไอ้ตูบหอบแดดขณะที่มองดวงหน้าคมคายคลี่ยิ้มหล่อแต่ตอนนี้ดูยังไงก็โรคจิตสิ้นดีด้วยความคับแค้นใจ
“เอาไงดี..มีชอยส์ให้นะ”
ปลายนิ้วเรียวยาวยกขึ้นเขี่ยแผ่วเบาที่ยอดอกเขาจนสะดุ้งโหยง ท่อนเอ็นร้อนซึ่งค้างอยู่ในร่างเสียดสีขึ้นมาจนเสียววาบไปหมดก่อนรวบรวมสติได้พอจะฟังตัวเลือกอะไรก็ตามที่อีกฝ่ายกำลังเริ่มพูด
“ข้อหนึ่ง...ปิ่นหยกขยับสะโพกเอง รีบทำรีบจบ”
“วิปริต!”
อาทิตย์พยักหน้ารับอาการปฏิเสธไร้เยื่อใยต่อข้อเสนอแรก
“ข้อสอง ปิ่นหยกพยายามลุกหนี แล้วฉันก็จะดึงกลับลงมาแบบเมื่อกี้”
“จิตวิปลาส!”
และร่างสูงพยักหน้ารับคำกล่าวหาอีกครั้งโดยดุษณี
“ข้อสาม จะนั่งปล่อยมันคาไว้อย่างนี้ทั้งคืนฉันก็ไม่ว่าอะไร”
นิ้วมือซึ่งหยอกเย้ากับติ่งเนื้อบนยอดอกเปลี่ยนทิศทางลากผ่านลงมากลางลำตัวอ้อยอิ่ง เรื่อยมาเบื้องล่างก่อนจะกอบกุมส่วนอ่อนไหวของเขาไว้ในฝ่ามือร้อนผ่าวแล้วขยับไปมาอย่างรู้งานพร้อมสายตาแฝงเล่ห์ร้ายซึ่งส่งมาราวกับจะท้าทายตอนที่เสียงทุ้มกระซิบแหบพร่า “...ติดจะชอบด้วยซ้ำ...”
ปิ่นหยกขมวดคิ้ว นิ้วมือที่ขยับพลิ้วอยู่ตรงนั้นทำเอาสมองเขาขาวโพลนไปหมดแล้ว
“..ฉันเอา...ข...ข้อสี่.....อะ.....อา.....”
“ข้อสี่?”
เขากัดฟันรั้งตัวเองไม่ให้ลุ่มหลงไปกับกระแสอารมณ์เชี่ยวกรากซึ่งถูกปรนเปรอด้วยปลายนิ้ว ตะครุบมืออีกฝ่ายที่กำลังเคล้าคลึงบนท่อนเนื้อร้อนผ่าวก่อนจะเค้นเสียงลอดริมฝีปากออกมายากเย็น
“...สามข้อแรก...ผิดทุกข้อ”
อาทิตย์กรีดยิ้มพึงใจ “ไม่มีตัวเลือกข้อนั้นครับ” ก่อนจะเริ่มจังหวะใหม่ด้วยความเร็วหนักหน่วงรุกเร้ากว่าเดิมเรียกเสียงครางกระเส่าที่เขาชอบฟังนักหนาออกมาอีกครั้ง
“ให้เลือกแค่สามข้อ ไม่งั้นสอบตก”
“...อา....ตก..ก็ตกสิวะ”
“ตกก็ซ่อม”
“เลวบรรลัย!!”
“ข้อไหนครับที่รัก”
ว้อยยย!!!! “ปิ่นหยกครับ..” เสียงทุ้มซึ่งปกติเนิบนาบเป็นนิจกลับเปลี่ยนสำเนียงเป็นท่วงทำนองยวนใจเอ่ยชื่ออีกฝ่ายออกมาให้เจ้าตัวใจหวิวเล่น มือข้างที่ยังว่างขยับเข้าโลมไล้หนั่นเนื้อบนบั้นท้ายแน่นตึงซึ่งบดเบียดต้นขาเขาอยู่ ปิ่นหยกยิ่งหน้าแดงซ่านเมื่อจะขยับหนีมือเขาด้านหลังก็มาเจอมืออีกข้างปลุกปั่นอยู่ด้านหน้า อาการลนลานระคนเสียวซ่านที่แสดงออกผ่านเครื่องหน้าชวนมองรุมเร้าให้อยากรังแกขึ้นมาบอกไม่ถูก สงสัยจะกลายเป็นพวกใจวิปริตจิตวิปลาสอย่างที่ปิ่นหยกสบถใส่จริง ๆ เสียแล้ว
“เอาไงดี?”
"......"
ปิ่นหยกยกมือขึ้นปิดหน้าปิดตาไม่พูดอะไรสักคำอยู่เป็นนานสองนาน หรือเขาจะแกล้งหนักไป ที่จริงแล้วโดนแกล้งเสียเยอะตั้งแต่ครั้งแรกหากจะปล่อยโฮออกมาตอนนี้อาจไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก
“..ปิ่นหยก...?”
เขาเอื้อมไปกุมข้อมืออีกฝ่ายไว้หมายจะปลอบประโลม นึกขุ่นเคืองตัวเองขึ้นมาตงิด ถ้าทำร้องไห้ขึ้นมาจริง ๆ คงรู้สึกผิดสาหัสไปอีกนานแน่นอน เวลาผ่านไปใจก็ยิ่งแป้วลงเรื่อย ๆ เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมลดมือลงจากใบหน้าเสียที
แต่แล้วเสียงอู้อี้ใต้ฝ่ามือซึ่งตอบกลับมาก็ทำเอาหัวใจเขาฟูฟ่องเป็นขนมสายไหมสีชมพู“.....เอาข้อแรก”“หา?”
ใบหูแดง ๆ นั่นคงใกล้ลุกเป็นไฟเต็มทีเมื่อลูกศิษย์จำเป็นซึ่งคร่อมเขาอยู่เริ่มขยับสะโพกขึ้นช้า ๆ แล้วกัดฟันทิ้งน้ำหนักลงมาเป็นจังหวะกระท่อนกระแท่น เรือนร่างชุ่มเหงื่อโงนเงนจนต้องเอื้อมมือไปช่วยพยุงด้วยกลัวแม่ไก่สุดที่รักของเขาจะหงายหลังตึงไปตั้งแต่ยังไม่ทันสอบเสร็จ
“รีบทำ...รีบนอน!”...ให้มันได้อย่างนี้สิ..........................................................................................
................................................
.
.
.
.
ร้านเค้กดูเงียบเหงาไปถนัดตาเมื่อปิ่นหยกไม่อยู่ และดูเหมือนเขาจะเป็นผู้ได้รับผลกระทบเป็นพิเศษนอกเหนือจากเหตุผลที่ว่างานต้องหนักขึ้นโดยปริยายเพื่อทดแทนแรงงานชั้นดีคนหนึ่งที่หายไป
อาทิตย์กำลังได้รับผลกระทบด้วยสาเหตุอื่น
...สาเหตุอะไรบางอย่างซึ่งเกี่ยวข้องกับหัวใจ“ไอ้ปิ่นไม่มาทำงานเหรอ”
“ไม่สบายครับ” เขาตอบเสียงเรียบ ใจไพล่นึกไปถึงคนที่ตอนนี้คงนอนซมอยู่ในห้อง เดี๋ยวลูกค้าบางตาลงเมื่อไหร่เขาคงแอบแวบขึ้นไปดูอีกรอบ ทั้งห่วงทั้งปลื้ม จะดีใจก็ทำได้ไม่เต็มที่ แต่จะเสียใจเหตุการณ์เมื่อคืนก็ไม่ใช่เรื่องอะไรซึ่งหุบยิ้มได้เลย
“...หืม??”
แวววันหรี่ตา แผ่รังสีความระแคะระคายเข้มข้นอัดอากาศแทบเกิดเป็นคลื่นกระแทกผลักเขาลอยหวือติดกำแพง
“ไม่สบาย? เป็นอะไร?”
เขาไม่ตอบ เพียงแต่อมยิ้มแก้มแทบปริแล้วก้มหน้าก้มตาทำงานต่อขะมักเขม้น ความจริงไม่ได้รู้สึกเขินอายหากจะพูดถึงแม้แต่น้อย
แต่ถ้าปิ่นหยกรู้เข้าว่าเอามาป่าวประกาศมีหวังครั้งแรกคงได้กลายเป็นครั้งสุดท้ายกันพอดีTo be continued…=============================================
>3< ดีกันนะคะ อย่าเพิ่งงอนคนเขียนที่ค้างเติ่งเอาไว้ตอนที่แล้ว มันไม่สามารถทำให้จบได้ในตอนเดียวจริง ๆ (ฮาา)
จะเขินหรือจะรั่ว...ดูเหมือนปิ่นหยกยังตัดสินใจเลือกสักทางไม่ได้ สารภาพว่าเราเสียดายเวอร์จิ้นแม่ไก่มากเลยนะคะ แต่ด้วยเนื้อเรื่องที่วางไว้ หงึกกกกก....... *แทะคีย์บอร์ด*
สุดท้ายขอหลั่งน้ำตาให้แม่ไก่หนึ่งกระจึ๋ง สมใจนายแล้วสิลูกเจี๊ยบหน้ามึน! ฮือออออ!
*ตบตีด้วยรัก*
กว่าจะได้หม่ำก็ปาเข้าไป 41 ตอน ไม่เคยเขียนเรตขนาดนี้มาก่อนในชีวิต โฮกกกกกกก เขินไปสามโลก

ขอบคุณคนอ่านที่น่ารักค่ะ =////= แล้วพบกันตอนหน้า แต่อย่าลืมของแถมรีพลายถัดไปเผื่อยังไม่ได้อ่านจาก fb >w<
ปล. แอบเห็นว่าช่วงนี้ใกล้สอบหรือไม่ก็อยู่ในช่วงสอบกันหลายท่าน สู้ ๆ นะคะ เอาใจช่วยฮึบ ๆ!
***สารบัญคลิกที่นี่ค่ะ***