ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
มีคนยุให้ลองมาลงที่นี่ครับ เลยลองมาลงดู ถ้าใครชอบก็บอกหน่อยนะครับจะดูว่าลงต่อดีไหม
..........................................................................
หลังจากงานวันคริสมาสต์โต้งและมิวต่างก็แยกย้ายกันไปมีชีวิตเป็นของตัวเอง
- โต้งหันมาให้ความสำคัญและความสนใจกับครอบครัวของเขามากขึ้น กรค่อยๆ เลิกกินเหล้า กินยาจนอาการดีขึ้นมาก และได้ช่วยทำงานบ้านแทนสุนีย์ที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน โต้งไปเรียนตามปกติตกเย็นก็เรียนพิเศษหลังจากนั้นก็จะกลับบ้านทันทีเพื่อไปช่วยเหลืองานบ้านและนั่งสนทนากันภายในครอบครัว ความรักความอบอุ่นค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในครอบครัวนี้อีกครั้งจนบ้านเต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่น และกรก็ยอมรับได้แล้วว่าขณะนี้ในบ้านเหลือเพียงสามคนเท่านั้น
- มิวหลังจากงานคอนเสิร์ตมิวเริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นพร้อมๆกับวงออกัส มีค่ายเพลงยักษ์ใหญ่เข้ามาทาบทามติดต่อโดยยงคงให้วงออกัสทำงานเพลงเองในสไตล์ของตัวเองแต่ทางค่ายจะรับหน้าที่วางงาน โปรโมทและจัดการเรื่องต่างๆ ที่นอกเหนือจากเรื่องดนตรีให้ วงออกัสมีแน้วโน้มในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆเช่นเดียวกับจิตใจของมิว หลังผ่านเหตุการณ์ที่โต้งมอบของขวัญให้มามิวกลายเป็นคนเงียบกว่าเดิมจนทำให้เพื่อนๆในวงเป็นห่วงมาก เอ็กซ์มักจะคอยอยู่เป็นเพื่อนมิวตลอดเวลา ไปค้างที่บ้านบ้างเป็นบางครั้งคราวทำให้จิตใจของมิวดีขึ้น เริ่มเปิดใจให้กับคนอื่นมากขึ้น ประจวบกับที่มีหน้าที่ที่ต้องทำเรื่องของโต้งจึงค่อยๆ เลือนหายไป ไม่มารบกวนจิตใจของมิวมากนัก
ผ่านไปประมาณครึ่งปี โต้งสอบติดมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในสาขานิเทศศาสตร์โดยเลือกสาขาภาพยนตร์ที่บ้านของโต้งดีใจมากกับการที่โต้งสอบติดเลยจัดงานปาร์ตี้เล็กๆ ขึ้นในบ้าน ด้วยมื้อเช้าที่พิเศษ
“แล้วชัวร์หรือยัง ดูจากอินเตอร์เน็ตมันจะมั่นใจได้เหรอเดี๋ยวขับรถไปดูบอร์ดที่เกษตรอีกทีไหมโต้ง” สุนีย์กล่าว
“โถ่แม่ เขาบอกว่าติดก็ติดสิ แต่ยังไงเดี๋ยวเรากินข้าวเสร็จแล้วโต้งจะไปดูอีกที”
“คุณนี่ก็ยังไงนะ เจ้าโต้งมันตั้งในเรียนจะตายมันก็ต้องติดสิใช่มั้ยโต้ง”
“ครับพ่อ โต้งก็ว่างั้น” โต้งทำหน้ามัดใจปนทะเล้นใส่ ทุกคนก็หัวเราะกันออกมา
“ไปก่อนนะพ่อ แม่”
“ไม่ให้แม่ไปส่งจริงๆ เหรอ”
“ไปได้น่าแม่ โต้งจะเข้ามหาลัยแล้วนะ เดี๋ยวก็โดนบอกว่าเป็นลูกแหง่อีก”
“เออ ก็ไปให้ดีๆ แล้วกัน แล้วอย่าไปเล่นอะไรมากมาย แล้วก็รีบกลับด้วยเข้าใจไหม”
“ไปได้แล้วโต้ง ยิ่งอยู่แม่แกก็ยิ่งพูดไปเรื่อยนั่นและ”
“งั้นผมไปล่ะ”
โต้งก็ออกไปนั่งรถแท็กซี่เพื่อไปมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์สถานที่สำหรับประกาศผลผู้ผ่านการสอบเข้าสู่ระดับมหาวิทยาลัย
“พี่ๆ ผมขอเปลี่ยนคลื่นวิทยุนะ” คนขับรถไม่ว่าอะไร ได้แต่พยักหน้าตอบไปเท่านั้น โต้งจึงนั่งฟังเพลงไปเรื่อยๆ ซักพัก
…. “วันที่ผมขอเปิดผลงานชิ้นแรกของวงดนตรีน้องใหม่ของค่ายเราให้ได้รับฟังกันนะครับ ผมว่าความจริงแล้วบางคนอาจเคยได้ยินเพลงนี้แล้วด้วยซ้ำ ถ้าใครเคยติดตามผลงานของศิลปินกลุ่มนี้ตั้งแต่เริ่มออกเป็นแนวอินดี้มาก่อนครับ ฟังที่นี่เป็นที่แรกเลยนะครับ”
เสียงเมโลดี้ที่คุ้นเคยผ่านเข้ามาในหูของโต้งจนโต้งหยุดและตั้งใจฟัง
~ ~ ถ้าบอกว่าเพลงนี้ แต่งให้เธอ เธอจะเชื่อไหม
มันอาจไม่เพราะ ไม่ซึ้งไม่สวยงามเหมือนเพลงทั่วไป
อยากให้รู้ ว่าเพลงรัก ถ้าไม่รัก ก็เขียนไม่ได้
แต่กับเธอคนดีรู้ไหม ฉันเขียนอย่างง่าย...ดาย
เธอคงเคยได้ยินเพลงรักมานับร้อยพัน
มันอาจจะโดนใจ แต่ก็มีความหมายเหมือนๆกัน
แต่ถ้าเธอฟังเพลงนี้ เพลงที่เขียนเพื่อเธอเท่านั้น
เพื่อเธอเข้าใจความหมายแล้วใจจะได้มีกันและกัน
มีความจริงอยู่ในความรักตั้งมากมาย
และที่ผ่านมาฉันใช้เวลาเพื่อหาความหมาย
แต่ไม่นานก็เพิ่งรู้ เมื่อทุกครั้งที่มีเธอใกล้
ว่าถ้าชีวิตคือทำนอง เธอก็เป็นดังคำร้องที่เพราะและซึ้งจับใจ
ให้มันเป็นเพลง บนทางเดินเคียง ที่จะมีเพียงเสียงเธอกับฉัน
อยู่ด้วยกันตราบนานๆ ดั่งในใจความบอกในกวี
ว่าตราบใดที่มีรักย่อมมีหวัง
คือทุกครั้งที่รักของเธอส่องใจ ฉันมีปลายทาง
มีทางเดินให้เราเดินเคียง และมีเสียงของเธอกับฉัน
มีทางเดินให้เราเดินร่วมเคียง และมีเสียงของเธอกับฉัน ~ ~
นี่เป็นผลงานชิ้นแรกของวงออกัสน้องใหม่มาแรงของค่ายเราครับ คือเพลงกันและกัน มีคนเล่าให้ฟังว่าเพลงนี้มีที่มาที่ไปเดี๋ยวยังไงในวันแถลงข่าวซึ่งผมได้รับไปเป็นพิธีกร (หัวเราะ) ผมจะถามเรื่องนี้มาให้ด้วยแล้วกันนะรับท่านผู้ฟัง และหลังจากงานแถลงข่าวเราจะได้พบกับพวกเขาทุกคนที่คลื่นของเราอย่างแน่นอนครับ”
โต้งอึ้งไปชั่วครู่ ภาพความทรงจำเก่าๆ ผุดขึ้นมาในสมองของเขา ภาพห้องของมิว ภาพคอนเสิร์ตในงานปาร์ตี้ ภาพคอนเสิร์ตในวันคริสมาสต์ปีที่ผ่านมา ต่างไหลเข้ามาในสมองเขาอีกครั้งหลังจากที่เขาลืมไปมันไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง มียิ้มเล็กๆ ขึ้นมาบนใบหน้าของเขา โต้งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหารายชื่อจนมาถึงชื่อ มิว เขานั่งนิ่งมองชื่อนั้นอยู่ครู่หนึ่ง
“น้องๆ จะให้พี่เข้าไปเลยไหมหรือว่าลงข้างนอก รถมันเยอะน่ะนะเป็นไปได้จริงๆ พี่ก็ไม่อยากเข้าไปเท่าไหร่ กว่าจะเข้ากว่าจะออก ให้พี่ไปหากินต่อดีกว่าไหมน้อง พี่คิดว่าถ้าน้องเดินเข้าไปมันน่าจะไวกว่าพี่ขับเข้าไปอีกมั้ง…”
“พี่ พี่ พี่ครับ” โต้งเรียกเสียงดัง “เดี๋ยวผมลงตรงนี้แหละ ผมเดินเข้าไปเอง นี่ตังค์ครับ”
โต้งลงจากแท็กซี่เก็บมือถือลงกระเป๋ากางเกงแล้วเดินเข้าไปในตัวมหาวิทยาลัย
เสียงจากกลุ่มและซุ้มต่างๆ ดังมาไม่ขาดระยะ โต้งเดินเข้าไปหาบอร์ดของมหาวิทยาลัยและคณะที่ตนเองเลือกไว้ ไม่นานก็เจอชื่อตัวเอง เพราะว่ารู้อยู่แล้ว โต้งยิ้มนิดๆ จากนั้นก็มีรุ่นพี่เดินเข้ามาล้อมโต้งถามโน่นถามนี่ ชื่ออะไรน้อง ติดไหม เอกไหน คณะไหน พร้อมกับเสียงแซวของรุ่นพี่ผุ้หญิงและรุ่นพี่กระเทยไม่ขาดระยะ น้องคนนี้หล่อจังรู้จักทางไปมหาลัยไหม เดี๋ยวไปพาไปส่ง และก็ส่งเสียงหัวเราะกันอย่างดัง โต้งทำหน้างงๆ แล้วก็ยิ้มเจื่อนๆ ออกมา
“ผมขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับพี่ ปวดฉี่มากทนไม่ไหวแล้ว” โต้งหาทางเลี่ยงสุดชีวิต แล้วก็หลุดมาได้ “ต้องกลับมานะน้องโต้งไม่กลับมาเจอกันที่มหาลัยพี่หอมแก้มแน่เลยนะ” รุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนไล่หลังมา โต้งหันไปยิ้มเจื่อนๆให้
จากนั้นโต้งก็เดินไปอีกด้านหนึ่งของบอร์ดเพื่อจะไปเข้าห้องน้ำ (ปวดจริง) ต้องเดินผ่านคนกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งกำลังล้อมดูอะไรซักอย่าง ด้วยความสงสัยจึงหยุดดู ภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าคือ ภายในกลุ่มดังกล่าวมีคนที่เขารู้จักอยู่สองคน คนหนึ่งเป็นคนที่เขารู้จักดี หรือแทบจะดีมากด้วยซ้ำ โดนล้อมถ่ายรูป พูดคุยและขอลายเซ็นต์อยู่กับเพื่อนอีกคนหนึ่ง สองคนนั้นคือมิวกับเอ็กซ์นั่นเอง โต้งยิ้มนิดๆ และจะเดินเข้าไปทัก แต่เห็นจากคนอยู่เยอะและไม่รู้จะทำหน้าอย่างไรและพูดคุยอะไรกันดี ทักทายยังไงดีนะ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ไม่ได้คุยกันตั้งนาน ดีไหมนะ โต้งทำหน้าเศร้าๆไปเล็กน้อยแล้วตัดสินใจเดินไปเข้าห้องน้ำดีกว่า เพราะไม่รู้จะเข้าไปทักอย่างไร และมิวจะรู้สึกอย่างไรที่เจอเขาอีกครั้ง โต้งจึงกลับหลังหันเดินไปอีกทาง
เอ็กซ์เงยหน้าขึ้นมาจะถ่ายรูปและพูดคุยกับแฟนเพลงที่รายล้อมอยู่ จึงมองเห็นโต้งแวบๆ พอดีแต่ก็ไม่แน่ใจ จึงสะกิดให้มิวดู “เฮ้ย ไอ้มิวนั่นโต้งหรือเปล่าวะ”
“ไหนๆ”มิวถามพร้อมเขย่งมอง
“นั่นไงที่เดินไปตรงมุมนั่นแล้วไง กำลังเลี้ยวไปที่มุมตึกนั่นไง” เอ็กซ์บอกมิวพลางเขย่งดูไปด้วย
“เออใช่จริงๆ ว่ะ” “ขอโทษนะครับขอตัวก่อนนะครับ” มิวค่อยๆ แทรกตัวออกไปจากกลุ่มคนตรงนั้นแล้ววิ่งตามไปที่มุมตึก พอไปถึงเห็นผู้คนอยู่บริเวณนั้นมากมายแต่ไม่พบโต้งแล้ว มิวหน้าเศร้าลงทันที เอ็กซ์วิ่งตามมา “ไง เจอไหมวะ” มิวส่ายหน้า