เพราะ?? ผมรอฟังอยู่ด้วยใจระทึก
ก้องเกาคางนิดหน่อยแล้วออกจากรถ ด้วยความอยากรู้ผมเลยออกจากรถมาด้วยไม่ได้สนใจมองบ้านหรือบริเวณรอบๆเลย
“มานี่...” เขาพูดห้วนๆสั้นๆเหมือนผมเป็นคนใช้อีกละ....แม่ง
ผมตามเขาไปติดๆเดินเลี้ยวผ่านพุ่มไม้ ข้ามสะพานไม้เล็กๆบนสระปลาสีสวย
จนมาหยุดที่แปลงดอกไม้ ผมไม่รู้ว่ามันเป็นดอกอะไร แต่สีเหลืองสดใสน่ารักก็ถูกใจไม่น้อย
“นี่...” เขาชี้ให้ดู
“อื้อหื้อ”
“สวยไหม”
“อืม”
“ดี”
...........................................................
...........................
แล้ว...?? ผมรออยู่ว่าเขาจะพูดอะไรแต่เขาก็เงียบไปหลายนาทีจนคนสวนคนหนึ่งเข้ามาหา
“คุณก้อง....มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“ไม่มี...แค่พาเพื่อนมาดูดอกไม้พวกนี้”
“อ๋อ จะเอาหรือเปล่าครับผมจะตัดให้” เขาล้วงกรรไกรออกทำท่าจะตัด
“ไม่ต้องหรอก ดอกพวกนี้มันเหี่ยวเร็ว ตัดไปก็เสียดายเปล่าๆ” เขาว่าอย่างนั้นแล้วหันมาทางผม
“ดูพอแล้วก็ตามมานะ”
ห๋า?? ผมงงไปเลย เขาพาผมมาดูดอกไม้เพื่อ.......ก้องไม่อยู่ตอบคำถาม เขาเดินกลับไปทางเดิม
ผมหันมามองพี่คนสวน เจ้านายเขานิสัยอย่างนี้เหรอ?? เขายิ้มๆ
“คุณก้องก็อย่างนี้ล่ะครับ ไม่ค่อยชอบให้ดอกไม้ใคร แกว่าดอกไม้อยู่กับต้นจะสวยทน สวยนานกว่าตัดประดับแจกัน”
ขนาดนั้นเชียว....ผมล่ะงงเลย
เอ๊ะ.....
หรือว่า.....
อยากให้ดอกไม้ แต่เสียดายเหรอ?? ผมมองดอกสีเหลืองพวกนี้อีกที จริงด้วย...กลีบดอกบางมาก
ถ้าไม่ทะนุถนอมก็คงช้ำ ตัดไปชื่นชมก็คงได้เดี๋ยวเดียวเท่านั้น ปล่อยให้บานอยู่กับต้นอย่างนี้...ถึงจะคุ้มค่าความงามของมัน
ชอบแฮะ...มันสวยจริงๆ กลิ่นก็หอม
ผมปล่อยให้มันอยู่คู่กับต้นต่อไปอีกหน่อย เมื่อเดินกลับมาทางเดิมก็เห็นก้องนั่งเล่นที่ศาลาแปดเหลี่ยม
ของกินเล่นเต็มโต๊ะ ผมเข้าไปหากำลังจะนั่งลงเก้าอี้ตัวตรงข้าม เขากระแอมเบาๆมือตบหัวเข่าทำนองว่า ‘มานั่งนี่’
“...กลางวันแสกๆอย่างนี้นะ ไม่เอาหรอก” ผมส่ายหน้า
“ให้ 500”
ไม่รู้ว่าผมคิดอะไรอยู่เนี่ย ถึงลุกไปนั่งบนพนักแขนเขาหน้าตาเฉย เห็นแก่เงินแต่ 500 นี่รู้สึกมันไร้ศักดิ์ศรีเหลือเกิน
แต่ก็ทำไปแล้ว ท่อนแขนแข็งแรงพาดรอบเอวทันทีทำให้รู้สึกตื่นเต้นยังไงไม่รู้
ก้องดึงผมลงมานั่งตักเต็มๆก้น หว่า....ใกล้เกินไปแล้วมั่ง ปลายคางเขียวๆใกล้ปลายจมูกได้กลิ่นเหงื่อนิดๆด้วย
“อย่าแน่นไปสิ” ผมเอนตัวห่างจากเขาให้มากที่สุด
“อย่ามากเรื่อง ไม่งั้นตัด 300”
“หา??”
“กูอยากได้ตัวนิ่มๆกอดพอดีมือ ไม่ใช่ท่อนไม้นะ”
เอ้า....ข้อแม้เยอะจริงไอ้นี่ ผมไม่รู้ทำไงล่ะครับ นอกจากยอมตัวอ่อนนั่งเต็มตักไม่บ่นไม่ว่ามันแล้ว
“ชอบดอกไม้ไหม”
“อืม..........ขอบคุณนะ”
“.......” ถึงไม่พูดผมก็รู้เลยว่าตอนนี้เขาอารมณ์ดี เห็นได้จากคางที่เกยบนหัวผมอยู่เนี่ย
แม่ง....เพราะตัวกูไม่สูงหรอกนะไม่งั้นไม่พอดีมึงหรอก ผมนั่งอารมณ์บูดบนตักมันตั้งนาน
ก่อนจะรู้สึกว่า.....ไม่เลวหรอกนะที่จะถูกกอดอย่างนี้ อกกว้างแข็งแรงให้ความรู้สึกอ่อนโยนเอาอกเอาใจเล็กๆ
จนอยากจะเอาหน้าลงไปเกลือกกลิ้งนานๆ ปลายนิ้วแข็งแรงเชยคางผมขึ้นและเห็นริมฝีปากโน้นลงมา ผมเอนตัวหนีทันที
“หื้อ!” ไม่ได้.. ผมปฏิเสธ
“ให้ 500 เอ้า”
“เกลียดคำนี้จริงๆเลย”
“เอาหรือเปล่าล่ะ” เขายิ้มยียวน
“เอา” ผมไม่ปฏิเสธหรอกว่าตอนนี้อารมณ์มักได้กับอารมณ์วาบวามขางในผสมปนเปกันหมด
ทว่ายางอายบนหน้าก็ทำให้แค่ยื่นปากไปจุ๊บปากเขาเบาๆเท่านั้น ผมไม่กล้าทำมากกว่านี้หรอก ก้องพ่นลมออกทางจมูก หึ!
“แค่นี้ 50บาทยังไม่คุ้มเลย”
“อะไร??”
“จูบยังกะเด็กอนุบาล จ่ายตั้ง 500 นะ”
หึ....แล้วไง กูไม่ใช่มืออาชีพนะเว้ย ผมอยากโวยมันจริงๆ “ก็ได้”
เอาวะ....ผมประคองหน้ามันไว้ มองแต่ปากเท่านั้นค่อยๆบรรจงแนบปากลงไปกดแรงพอให้รู้สึกแล้วงับปากล่างเขา
ดูดดุนเบาๆ วู้...ต้องขอบอกว่า มันรู้สึกดีนิดหน่อย
“อืม.... 100 นึง” ก้องงึมงำกับปากผม
“แค่เนี้ยะ..” ผมหดปากหนี แต่เขาก็เป็นฝ่ายขบปากผมมั่ง สองมือประคองหัวไม่ให้ถอยอีก
เราหายใจร้อนๆรดหน้ากัน กลิ่นความเร่าร้อนอบอวลรอบผิวกายที่ลั่นเปรี้ยะๆ
“อ้าปากหน่อย...แล้วแลบลิ้นออกมา” ผมทำตามที่เขาบอกทุกอย่าง แล้วทุกอย่างก็เกินจะควบคุมได้อีก
ปากเราบดเคล้ากันเร่าร้อนเป็นไฟ วินาทีหนึ่งผมหวาดหวั่นถึงการกระทำของตนเอง
แต่วินาทีต่อมาผมก็ลืมมันไปเสียแล้ว สองแขนขึ้นไปกอดรัดก้องตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
รู้แต่วงแขนที่รัดรอบตัวผม มันรัดแน่นและลูบไล้ทั่วทำให้ผมปั่นป่วน รู้สึกทรมานขณะเดียวกันก็เป็นสุขด้วยเช่นกัน
ผมไม่คิดว่าจูบจะทำให้มึนเมาได้ขนาดนี้ ตอนแรกมันเหมือนขั้นบันไดในหนัง ที่ต้องจูบก่อนไปขั้นต่อไป
แต่นี่....เหมือนพายุ เหมือนไฟ เหมือนแผ่นดินไหว
แต่ทั้งหมดทั้งมวล มันคือเสน่หา...ที่ทำให้ทุกสัมผัส ล้วนแต่มีความหมาย
ผมไม่รู้ว่าเราจูบกันนานแค่ไหน รู้แต่ว่าเรานัวเนียกันไม่หยุดลิ้นเขาอยู่ในปากผม
ลิ้นผมอยู่ในปากเขา ผมสอดนิ้วเข้าไปในเรือนผมเขาขยี้แรงๆเหมือนจะคลั่งไปแล้ว
ส่วนก้องบีบเค้นไปทั่วทุกส่วนบนตัวผมโดยเฉพาะสะโพก สองมือเขาขยำบีบแรงๆมันให้รู้สึกแปล้บปล้าบยังไงชอบกล
ผมหอบกระเส่าสั่นเทิ้มไปทั้งตัว จนกระทั่งฝ่ามือใหญ่เลื่อนมาข้างหน้า ขยุ้มน้องน้อยเต็มมือ
“อื้อ! ไม่เอา”
“ไม่ไหวแล้ว” ก้องว่าเสียงแหบพร่า
“เดี๋ยว....ไม่...มันเร็วไป” ผมขืนตัวดิ้นออกจากตักเขาจนได้ แต่ก็โซเซหัวหมุนติ้วไปหมด
โฮ่.....ร้อนไปทั้งตัวเลย ยังกะเพิ่งออกจากเตาอบมาใหม่ๆ
“มิว...”ก้องคว้าแขนผมไว้ เห็นหน้าเขาก็รู้แล้วว่าเขาไม่อยากหยุด
“ขอร้อง....” ผมบอกเสียงอ้อนเว้าวอน มันเร็วไป ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัวเลย จะให้มันง่ายทุกอย่างไม่ได้หรอก
ผมกุมมือเขาไว้ให้ห่างสักนิดก็จะรู้สึกได้ว่าความร้อนระหว่างเรามันค่อยเย็นลงทีล่ะน้อย
ผมยอมรับล่ะว่าจูบเขามันดีมาก... ออกจะมากๆด้วย
“ยังไม่ใช่วันนี้นะ” ผมขอร้องจากใจเลยว่าต้องการเวลาอีกนิด
“โอเค...........โอเค” ก้องพยายามใจเย็นอย่างที่สุดแล้ว เขาไม่พยายามมองหน้าผม
แล้วหยิบน้ำเย็นมาดื่มดับร้อน พอเรามองสบตาบางอย่างก็เกิดขึ้น
ผมรู้สึกอายจัง เมื่อกี้เรานัวเนียกันอย่างไม่อายเลย เว่ยยยยย.... ทำไปได้ไงเนี่ย
“เอ่อ....”ก้องเรียกให้ผมหันไปหา เขามองไปทางอื่นสองมือลูบขากางเกงตัวเองไปมา
เหมือนเช็ดเหงื่อแล้วซุกมันในกระเป๋าทั้งสองข้าง ถึงจะทำหน้าเฉยแต่หูมันแด้งแดง น่ารักจังอะ “พรุ่งนี้ล่ะ”
“เอ่อ.....ไม่รู้สิ” จะให้ผมรีบตัดสินใจเลยเหรอ
“งั้นพรุ่งนี้”
“เดี๋ยวสิ ยังไม่ได้ตัดสินใจเลย”
“ไม่รู้ล่ะ พรุ่งนี้เคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้วมาค้างที่นี่”
“ก้อง??” ผมขอร้อง
“ถ้าไม่มาก็จะไปค้างที่บ้านมึงแทน เอางั้นไหม”
“......” ผมอ้าปากจะท้วง แต่เจอปลายนิ้วแตะที่ปากเสียก่อน
“ค้างบ้านมึง 5,000 ค้างบ้านกู 10,000”
ใจหายวาบเลย นี่ถ้าเผลอเอามือทาบอกแล้วร้อง อุ แม่จ้าว ล่ะก็ใครก็ไม่ต้องแปลกใจหรอก
ผมเกือบจะร้องออกมาจริงๆ หมื่นหนึ่ง ผมไม่ใช่คนมักได้เห็นแก่เงินหรอกนะ
แต่เงินหมื่นหนึ่งก็ช่วยล้างกลบหนี้สินที่ผมทำไว้ได้ตั้งเยอะ
“พรุ่งนี้เจอกัน”
ก้องยิ้มๆว่าอย่างมั่นใจเลยว่าผมจะมา แต่ตัวผมนั้นเหรอ???
เดินออกจากบ้านเขาแบบเบลอๆ ตัวเบาหวิวเลย อายแต่ก็โกรธ ใจเต้นไม่เป็นส่ำ
ร้อนหน้าเป็นพักๆเมื่อนึกถึงค่ำคืนวันพรุ่งนี้ ถึงหน้าบ้านผมล้วงกุญแจมือไม้อ่อนทำมันร่วงลงพื้น
“บ้าชิป..” ผมก้มลงเก็บ ก่อนจะเห็นรองเท้าหนังสีดำ 2 คู่ก้าวมายืนค้ำหัว
พอเงยหน้าขึ้นไปก็เห็นชายแปลกหน้าสองคนยิ้มแฮ่เห็นฟันเกือบครบ 32 ซี่
“หวัดดีไอ้น้อง”
ซวยแล้วไอ้เสี่ยเส็งมาล้างแค้น!!!
ติตามตอนต่อไป