ตอนที่ 15.2 ตุ๊กตา
เมื่อฐาพร่ำพรรณนาสาธยายอะไรไร้สาระมามากผมก็ถามสวนกลับไปว่า...
“มันเจ็บขนาดนั้นเลยเหรอวะ” น้ำเสียงของผมเลื่อนลอยและทำหน้ากลัวๆ
“กูว่ามันคงไม่ทำให้มึงเจ็บหรอกเพราะถ้ามันรักมึงมันก็ต้องอ่อนโยน แต่ความเจ็บมักมากับครั้งแรกเสมอ นอกนั้นอยู่ที่ประสบการณ์และความใหญ่” ผมกลืนน้ำลายเอื๊อกๆ ทำหน้ากลัวหนักขึ้นไปอีก
“โธ่อีโง่ มึงไม่เจ็บก่อนแล้วมึงจะเสียวได้ยังไง” ฐาวีนแตกด่าเสียงดัง
“มึงอ่ะโง่กว่ากูอีก กูผู้ชายนะมึงกูไม่เจ็บกูก็เสียวได้”
“สโตก(ช่วยตัวเอง)น่ะเหรอ?” ถามแบบหน้าตาเฉยมากๆ
“กูเคยบอกแล้วนี่ว่ากูก็เคยมีแฟนมาก่อน มึงดูหน้าแฟนกูก่อน” ผมดึงโทรศัพท์ขึ้นมาให้มันดู เปิดโฟลเดอร์ที่มีภาพอดีตแฟนให้โชว์ภาพสไลด์ ฐาดูอยู่ครู่นึงแล้วนิ่ง
ภาพสไลด์เป็นภาพของเด็กม.ต้น ตัวเล็กๆ น่ารักๆ แทบทั้งสิ้น
“กิ๊ง มึงเป็นเกย์คิงเหรอ?” ฐาทำหน้างงสุดๆ ทั้งๆ ที่ผมก็เคยบอกเรื่องนี้มันไปแล้วแท้ๆ ว่าผมเคยคบแต่กับเด็กๆ ไม่รู้ว่ามันลืมหรือยังไง
“แล้วกูเหมือนเกย์ควีนตรงไหน” ผมถามกลับไปหน้าตาเฉย
“ก็มึงสวยไง แล้วก็ไม่ค่อยสูงมาก ตัวก็ผอมด้วย” สรุปกันง่ายๆ อย่างนี้เองเหรอ
“มึงคิดว่าถ้ากูคบแต่กับแบบนี้ แล้วกูควรจะต้องรุกหรือรับล่ะ” ผมถามกลับ
“ต๊ายยยยย กูมีของดีกับตัวไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี่ย ไหนๆ จัดให้ฐาสักดอกดิ๊ อยากรู้ว่าจะเสียวแค่ไหน” ฐาระริกระรี้เข้ามานัวเนียทำสายตาวิ้งวั้งจนอยากจะถีบให้กระเด็น
“ทะลึ่งแล้ว อีฐา กับน้องๆ น่ะ ส่วนใหญ่กูเมาทั้งนั้นอ่ะ ถ้าไม่เมากูก็ไม่กล้าหรอก ถ้าน้องเลือดออก ตื่นมากูเป็นลมสลบคาเตียงเลย”
“โคตรอ่อนอ่ะ” ฐาเยาะเย้ย แต่เถียงไม่ออกก็บอกแล้วว่ากลัวเลือด แต่ตอนเมานี่ไม่ค่อยมีสามัญสำนึกเท่าไร “ถ้ามึงเป็นเกย์รุกจริงทำไมมึงไปชอบกันย์ได้ล่ะ”
“แบบนี้ไม่ใช่เสป๊กกู นี่ต่างหาก” ผมเปิดอีกโฟลเดอร์ให้มันดู มีแต่รูปชายหนุ่มหน้าเข้มคม ตัวสูงใหญ่ไหล่กว้าง กว่าจะดูหมดคงจะนานเพราะผมสะสมมาตั้งสามปี
“ใครอ่ะ ล้อหล่อ” ฐาทำหน้าเคลิ้มฝัน ผมไม่แปลกใจเลยเพราะมันก็เป็นที่ต้องตาต้องใจของทั้งชะนีทั้งกระเทยมาตลอดอยู่แล้ว
“นัท... สามปีของกู ถ้าแม่งไม่หล่อแล้วกูจะไปชอบมันทำไม”
“มองไกลๆ โคตรเหมือนกันย์”
“บ้า เหมือนตรงไหน” ผมเถียงทันที
“จริงๆ ทั้งรูปร่างสีผิว” ฐาเงยหน้ามองหน้าผมแบบอึ้งๆ
“มึงชอบกันย์เพราะจะเอามาแทนคนๆ นี้หรือเปล่า?”
“เปล่า มึงมั่วแล้วฐา ไม่เห็นจะเหมือนกันเลย” ผมปฏิเสธแล้วรีบดึงโทรศัพท์คืนมา
“เอางี้ ถ้านัทของมึงกลับมา มึงเลือกใครล่ะ”
“มันไม่มีวันกลับมาหรอก ถ้ามันจะรักกูมันคงจะรักกูไปนานแล้ว”
“แล้ว...ถ้ามึงชอบนัท แล้วมึงคิดว่าจะเป็นรุกหรือรับให้มันล่ะ”
ผมหันไปทำหน้าอึ้ง เจอคำถามจี้ใจดำเลย
“กูไม่เคยคิด ทั้งกับกันย์และนัท กูรักโดยไม่เคยคิดว่ามันจะมีอะไรตามมา เพราะแค่อยู่ข้างๆ ก็ทำให้กูมีความสุขที่สุดแล้ว”
“เฮ้อ... ถ้าคิดแค่จะอยู่ข้างๆ ให้ความหวัง ให้ใจแต่ไม่ให้อย่างอื่น มึงก็โคตรเห็นแก่ตัวอ่ะกิ๊ง กูว่ามึงทำใจยอมรับว่าตัวเองเป็นควิงเหอะ” ฐาบอกตบไหล่ผมเบาๆ อย่างให้กำลังใจแล้วเดินกลับไปที่ห้องของมัน
หา.... ควิง??
ถึงจะโดนกล่อมอยู่นานแต่ท้ายที่สุด ฐาก็กล่อมผมไม่สำเร็จ และตอนนี้ผมก็มีความสุขดีที่ได้อยู่ข้างกันย์ เราจำเป็นต้องให้คำจำกัดความด้วยหรือว่า เราอยู่ในฐานะอะไร ในเมื่อต่างคนก็ต่างรู้ว่าอีกคนนึงเป็นคนสำคัญของกันและกัน....
เย็นวันพฤหัส ผมนั่งอยู่ที่แสตนด์เชียร์ ระหว่างมาดูกันย์แข่งบาสรอบรองชนะเลิศ ส่งรอยยิ้มไปให้กันย์ตลอดเวลาที่มันยังคงวิ่งวนอยู่ในสนามบาส หยาดเหงื่อท่วมตัวยิ่งทำให้มันดูเท่ห์ มีเสน่ห์น่ามองขึ้นไปอีก รุคาว่าของกิ๊ง!
ในที่สุดคณะวิทยาศาสตร์ก็ชนะการแข่งไปได้ด้วยคะแนนที่ค่อนข้างสูง ผมกระโดดตัวลอยดีใจตามไปด้วย ท้ายการแข่ง ผมเดินตามมันไปที่ห้องแต่งตัวนักกีฬา ของโรงยิมด้วยรอยยิ้ม ยื่นขวดน้ำเปล่าไปให้
“อย่ากินเยอะนะ เดี๋ยวจุก” ผมเตือนขณะที่มันยกขวดน้ำขึ้นกระดก
“กิ๊งหิวน้ำไหม”
“ทำไมเหรอ?”
“ก็กิ๊งซื้อน้ำมาให้กันย์ ไม่มีหลอดใช่ไหม ถ้ากิ๊งหิว กันย์จะได้ช่วยป้อนน้ำ ...ให้ไง”
“ป้อนยังไง”
“ป้อนด้วยปากน่ะ” มันยิ้มเจ้าเล่ห์ ทำเอาผมกลืนน้ำลายเลย ชอบพูดอะไรให้คิดลึกตลอดอ่ะ
“ขอบใจนะกิ๊ง ที่ชนะก็เพราะกิ๊งแท้ๆ เลย” กันย์บอกด้วยรอยยิ้มที่เปล่งประกาย ผมยกผ้าเย็นเช็ดหน้าให้คนตัวสูงกว่า
“เกี่ยวอะไรกับกูวะ”
“ก็กิ๊งน่ะเป็นกำลังใจสำคัญที่จะทำให้กันย์ฝ่าฟันกับอุปสรรคทุกอย่างได้ไง” โห ..เว่อร์ตลอดครับ แต่ทุกครั้งคำพูดของมันทำให้หัวใจของผมพองโตได้เสมอ
“เอ้า มัวแต่สวีทกัน คนอื่นเค้าเปลี่ยนเสื้อกันเสร็จแล้วนะ” พี่พุแซวมา เพราะคนอื่นๆ ที่ลงบาสต่างเปลี่ยนเสื้อแล้วหยิบของกลับกันหมดแล้วเหลือแต่กันย์ที่ยังเอ้อระเหยอยู่
“แหม เหนื่อยนะพี่ พักแป๊บดิค่อยกลับ”
“งั้นพี่กลับก่อนนะ สองคน...ตามสบาย” พี่พุบอกแล้วหันมายิ้มอย่างล้อเลียน คำว่าตามสบายมันแปลกๆยังไงก็ไม่รู้สิ
“กันย์ รีบๆ เข้า มืดแล้ว” ผมเร่งให้มันเปลี่ยนเสื้อให้เสร็จไวๆ ขณะที่หันมองไปทางอื่น
สวบ... สัมผัสอบอุ่นที่รวบร่างผมไว้จากด้านหลังทำให้ชะงักนิ่ง ผมหันไปหามันแล้วโวยวาย
“ปล่อยเลย จะกอดกูทำไมเนี่ย มันหนักนะ” ไม่ใช่แค่กอดหรอกครับมันเล่นทิ้งน้ำหนักลงมาบนไหล่ผมด้วยนี่สิ
“กิ๊งตัวโคตรนิ่มเลยนะ เหมือนกอดตุ๊กตาเลย” ผมกลายเป็นตุ๊กตาของมันไปตั้งแต่เมื่อไรล่ะเนี่ย ผมรีบแกะแขนปลาหมึกออก แล้วหันไปพบว่ามันทำหน้าเสียดาย แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจ
“เสร็จแล้วก็กลับกันเถอะ” บอกแล้วเดินถอยหลังไปสะดุดบางอย่าง ลูกกลมๆ สีส้มกลิ้งหาย ส่วนตัวผมหงายหลังลงไปจนก้นกระแทก
“ทำไมเค้าไม่เก็บลูกบาสลูกนี้เข้าที่เนี่ย” ผมบ่นเอามือคลำที่ก้นตัวเอง
“เป็นไงบ้าง” กันย์นั่งยองๆ อยู่ใกล้ด้วยสายตาที่ห่วงใย
“ไม่เป็นไรมากหรอก” ผมตอบแล้วเอาแขนกันมันไว้ขณะที่กันย์ทำท่าจะช้อนร่างผมขึ้นอุ้ม
“เฮ้ย...ไม่ต้อง เดี๋ยวลุกเอง” ผมปฏิเสธพัลวัน กันย์ค้างแขนไว้
“ไม่เป็นไรแน่นะ รู้ไหมว่ากันย์น่ะ...เป็นห่วง”
“ห่วงอะไรนักหนา” ผมว่าลุกขึ้นยืนแล้วเอามือปัดก้นตัวเอง
“ห่วงกิ๊ง ห่วงเพราะรักกิ๊งไง” มันบอกได้หน้าตาเฉยเลยครับ แต่กลับทำให้ผมรู้สึกเขินจนต้องขยับกายออกห่าง ผมว่าต้องรีบออกจากตรงนี้ให้ไวแล้วล่ะ เพราะบรรยากาศมันไม่ค่อยดี ตอนนี้ก็เย็นมากแล้วด้วยสิ ที่นี่มันทั้งเงียบแล้วก็มืดๆ มีแค่แสงไฟนีออนดวงเดียวของห้องเปลี่ยนเสื้อ
“อุตส่าห์ชนะทั้งทีไม่ให้อะไรเป็นรางวัลหน่อยเหรอ” กันย์ถามด้วยน้ำเสียงขี้เล่น
“จะเอาอะไรล่ะ” ผมถามด้วยน้ำเสียงกวนนิดๆ จนอีกฝ่ายทำหน้าบูด
“โห ใจร้ายอ่ะกิ๊ง” มันทำเสียงงอนๆ แต่ก็ยังคงก้าวเท้าเข้ามาใกล้มากขึ้นอีก ผมเดินไปที่ประตูห้องเอามือแตะลูกบิด แล้วก็ชะงักนิ่งเมื่ออีกฝ่ายเอามือมาจับไว้ไม่เปิด รับรู้ว่าร่างของอีกฝ่ายยืนซ้อนหลังอยู่ ผมหันไปเผชิญหน้ากับใบหน้าคมคายอยู่ห่างแค่คืบ มันเท้าแขนข้างหนึ่งกับประตู
“กันย์ยังจูบกิ๊งได้อีกตั้งสองครั้ง” กันย์บอกยิ้มๆ ขณะที่เบียดร่างเข้ามาใกล้อวลกลิ่นเหงื่อ แต่มันไม่ได้น่ารังเกียจสักนิด ใบหน้าคมก้มต่ำลงตะแคงใบหน้ามอบจูบให้อีกครั้ง โดยที่ผมก็ไม่ได้คิดจะขัดขืน ก็ยังเหลืออีกตั้งสองครั้ง...
มืออุ่นประคองใบหน้าของผมไว้ไม่ให้เคลื่อนหนี ปลายลื้นอุ่นที่ไล้กระหวัดลงมาทำให้เคลิ้ม...ได้ง่ายๆ เคลิ้มกับความหอมหวาน รสชาติแห่งความรัก...มันหวานมากกว่าอาหารทุกชนิดในโลก... ผมหลับตาพริ้มเมื่อรับรู้ว่าริมฝีปากของอีกฝ่ายมันทั้งนุ่มนวลและอ่อนโยน แขนแกร่งที่โอบรัดร่างมันแสนอบอุ่น
และแล้ว...จากที่มอบจุมพิตให้ผมอยู่ดีๆ ริมฝีปากหนาของมันก็ระเรื่อยต่ำลงไปที่มุมปาก แก้ม คาง ลำคอ
เฮ้ย!! ไหนว่าแค่จูบแล้วทำไมมันลามไปไกลจังวะ
“อื๊อ...” เฮ้ย....ตายห่ากูเผลอคราง....
“หยุดเลยกันย์ ปล่อยกู...” ไม่ไหวแล้วแหละตอนนี้ขืนไม่ปล่อย งานเข้าแน่ๆ
“ปล่อยทำไม กิ๊งชอบไม่ใช่เหรอ” กันย์ถามมาพร้อมเสียงหัวเราะ แต่ผมทำหน้าเหมือนอยากร้องไห้
“ชอบเชี่ยอะไรล่ะ ปล่อยกูเลยกันย์”
“ถ้าไม่ชอบแล้วอะไรมันทิ่มขากูวะ” ว้าก.... แม่ง....ไม่จริ๊ง!!
“กิ๊ง...ผู้ชายก็แบบนี้แหละตื่นง่าย ให้ช่วยป่ะ” กันย์ถามเหมือนคนถือไพ่เหนือกว่า อย่าว่าแต่ผมเลยมันเองก็ใช่ย่อยที่ไหน? ขืนตกลงไปมีหวังเสร็จมันแน่ๆ
“ไม่!!” น้ำเสียงผมเด็ดขาดมากครับแถมจิกตาใส่มันอีกต่างหาก แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่สนใจเพราะมันจะช่วยถอดเข็มขัด เฮ้ย!! ไม่ดีมั้ง ครั้งแรกในห้องแต่งตัวโรงยิมเนี่ยนะ ไม่ใช่สิ ที่ไหนก็ไม่ดีทั้งนั้นแหละ...
“อย่านะกันย์” ผมห้ามเสียงสั่นเพราะมันปลดเข็มขัดเสร็จแล้วเตรียมจะปลดกระดุมต่อผมรีบเอามือตะปบมือมันไว้
“อย่าช้าหรือเปล่า?” เฮ้ย!! ไม่ใช่โว้ยยย
“กูต้องไปซ้อมเต้นต่อนะ” กูมีเหตุผลโว้ย
“แล้วไง... ไม่ได้จะทำให้เจ็บ แต่จะช่วยทำให้สบายตัวเฉยๆ” กูไม่เชื่อว่าได้คืบแล้วไม่เอาศอก...
“แบบไหนก็ไม่เอา ปล่อยกู”
ระหว่างการต่อรองที่แสนกดดัน ก็ได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์เข้ามาจอด ทำให้ผมรีบเบี่ยงตัวออกห่างแล้วใส่เข็มขัดอย่างรวดเร็ว กันย์ยอมถอยออกไปแล้วถอนใจอย่างแสนเสียดาย นั่งลงที่เก้าอี้ยาว จวบจนกระทั่งประตูเปิดออก
“อ้าว...กันย์ มึงยังไม่กลับอีกเหรอ?” พี่พุถามอย่างแปลกใจ
“ก็พี่ไม่ใช่เหรอที่บอกว่าตามสบายน่ะ” กันย์ถามพี่พุด้วยสีหน้าสุดเซ็ง แม่ง....ชั่วมากครับเพราะทำให้พี่พุอึ้งแล้วหันมามองผมที่หดตัวอยู่อีกทิศ
“โทษทีแล้วกันที่มาขัดจังหวะพี่แค่ลืมของ” พี่พุเดินเข้าไปหยิบหนังสือเล่มหนึ่งที่วางทิ้งไว้บนโต๊ะแล้วเดินกลับมา
“พี่ไปจริงๆ ล่ะ ไม่กลับมากวนแล้วจริงๆ ตามสบายอีกรอบนะ” พี่พุบอกยิ้มๆ แต่ทำให้ผมโคตรอาย เดินตามพี่พุออกไปนอกห้อง แต่ไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเขา เลี่ยงเดินไปรอที่มีโอของกันย์ มันเดินตามมาหยุดอยู่ข้าง
“จะต้องให้กูอายแค่ไหนถึงจะพอใจเนี่ย” ผมตวาดใส่
“กูขอโทษ” โกรธจนไม่อยากจะรับคำขอโทษของมันเลยให้ตาย
“จำไว้นะ กูไม่สนว่ามึงจะเห็นกูเป็นตุ๊กตาชนิดไหน แต่มึงจำไว้ กูไม่ใช่ตุ๊กตายาง”
“กูก็ไม่เคยคิดว่ามึงเป็นนี่ อย่าโกรธเลยนะ ก็แค่รักมาก... รักกิ๊งมากๆ เท่านั้นเอง” เฮ้อ... พอผิดอะไรขึ้นมาก็เอาแต่คำพูดแบบนี้มาพูดแล้วมันจะโกรธลงไหม....
“ขอโทษนะกิ๊ง ยกโทษให้กันย์นะ นะ นะ นะ อย่ามองด้วยสายตาอย่างนั้นสิ สายตาคมๆ ของกิ๊งมันจะฆ่ากันย์ให้ตายได้เลยนะ” เอาเข้าไปสิ ถ้าสายตากูฆ่ามึงให้ตายแบบเมดูซ่าก็ดีสิ จะมองแม่งทั้งวันทั้งคืนให้มันตายทั้งเป็นไปเลย
“เออ ไม่โกรธก็ได้ คราวหลังน่ะ ถ้ากูบอกไม่ก็แปลว่าไม่ มึงอย่าบังคับกูอีกนะ” กันย์พยักหน้าอย่างสำนึกผิด แต่มันจะรู้สึกผิดไปได้นานแค่ไหนก็ยังไม่รู้ เฮ้อ...
“บาสก็ชนะได้แล้ว เมื่อไรน้า...จะชนะใจกิ๊งได้สักที” คำถามนั้นทำให้หัวใจเต้นตึกตัก
“อย่าพล่ามอะไรไร้สาระนักเลยน่า กลับเถอะ” ผมรีบเบรกมันและบังคับให้มันไปส่งที่คณะโดยไว พยายามอย่างยิ่งที่จะมองหน้ามันน้อย...ที่สุด เพราะมันโคตรอาย...
นี่ถ้าเมื่อกี้นี้พี่พุไม่เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน...อะไรจะเกิดขึ้นตามมาวะ...
..............................................................................
สวัสดีค่ะ ขอโทษที่หายไปนานนะคะ
หายไปทำอะไร บางท่านก็คงทราบกันดีแล้ว ฮาๆ
คือนิไปเขียนเรื่องสั้น ที่มีฐาเป็นนายเอกน่ะค่ะ ใครอยากอ่านก็ตามไปอ่านกันได้ที่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24654.0
จะไปซ้อมNc :oo1:แต่กลับเป็นNc ที่มันออกฮามากกว่าเสียว กร๊ากกกกกกกกกกก
แต่นิชอบจัง...
ไม่พูดอะไรเกี่ยวกับกิ๊งและกันย์นะคะ เพราะดูจากตอนนี้ เพื่อนๆ คงรู้แล้วแหละว่าอะไรๆ มันพัฒนาไปเยอะแล้ว
กันย์ก็รุกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนกิ๊งก็คงรอดไปได้ไม่กี่น้ำหรอกค่ะ ฮาๆ