One man story 12
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: One man story 12  (อ่าน 61804 ครั้ง)

Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
One man story 12
« เมื่อ05-08-2007 18:48:19 »

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่


http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

-----------------------------------------------------------------



ฝากกันอีกเรื่องหนึ่งนะครับ เป็นวันแมนฯของพี่ชายใบหน้าคมหัวนมฟิตของผมเองครับ แฮ่ๆๆ (พี่ชายคาโอรุ...ณ Dir en grey)


One man story 1

“เฮ้ออออ ! ไม่ไหวแล้วน้า!" สุดละเหี่ยใจเหลือหลาย ใจอ่อน อ่อนใจ วันนี้ผมถอนหายใจเป็นรอบที่สองร้อยสองแล้วมั่งครับนี่ เป็นอะไรที่เซ็งสุดขีดเลยล่ะครับ ที่ต้องมานั่งรอไอ้เพื่อนบ้าอยู่หน้าห้องมันแบบนี้ เหนื่อยก็เหนื่อย หนาวก็หนาว หิวก็หิว มันไปไหนของมันว้อย!เนี้ยนะพอ teen แตะสนามบินปุ๊บ ผมก็รีบจับแท็กซี่มายังที่พักของมันทันที หิวจนตาลายแทบจะจับคน(ผู้ชาย)แถวนี่กินได้แล้วนะมึง ไอ้จี้! มึงตายแน่!...ผมคำรามอยู่ในลำคอ ด้วยความเหนื่อยและโมโหหิว


ดูสิครับมีอย่างที่ไหนเมื่อ ประมาณ 1 เดือน ก่อนหน้านี้ ผมได้รับเมล์จากไอ้เพื่อนบ้า ไอ้จี้มันครับ มันชวนผมให้มาเที่ยวโตเกียวแล้วมาพักอยู่กับมัน ทีแรกผมก็ไม่อยากมาหรอกครับ แต่มันก็รบเร้าอยู่นั่นแหละ และอีกอย่างผมก็เรียนจบมาได้เดือนกว่าๆแล้ว ก็เลยอยากมาหางานทำไปในตัวด้วย ตามประสาเด็กบ้านนอกแหละฮะ พอเรียนจบก็เข้ากรุง ทำงานหาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องให้อยู่รอด ผมว่าสภาพแวดล้อมภายในเมืองใหญ่ๆมันดูเครียดและเหนื่อยยังไงไม่รู้ คิดดูนะฮะ แค่นั่งรถเมล์หรือรถไฟเฉยๆก็ยังเหนื่อยได้เลย แถมยังต้องดิ้นรนถีบตัวเองอยู่ตลอดเวลาอีก ผมเห็นอาการเพื่อนผมแต่ละคนแล้ว ต้องบอกเลยล่ะฮะ ว่าผมคนหนึ่งล่ะที่ไม่คิดที่จะมาใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่ๆแบบนี้ ไม่น่าอยู่เหมือนบ้านนอกเราหรอกครับ ผมรักสงบ เงียบๆ อะไรที่มันดูวุ่นวายสับสนรู้สึกมันไม่เข้ากับผมซักเท่าไหร่

มันจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมต้องคิดหนักมากถึงมากที่สุด คิดแล้วคิดอีกกว่าจะตัดสินใจแพ็กกระเป๋าออกจากบ้านเกิดที่เฮียวโงได้ น้ำตาร่วงไปหลายปี๊บครับ

ผมก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือตัวเองแล้วก็เป็นเดือดเป็นแค้นให้ไอ้เจ้าจี้มันต่อ ก่อนจะมาไอ้ผมหรือก็โทรมาบอกย้ำแล้วย้ำอีกแล้วนะ ฮึ่ม !ไอ้จี้ แกตาย !!!...แค้นมันขึ้นมาอีกรอบ ยิ่งนึกก็ยิ่งหงุดหงิดถึงโตเกียวผมก็โทรหาไอ้เพื่อนตัวดีทันที แต่แล้ว... หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ ...น้าน!มันดันเสือกปิดโทรศัพท์ทำเตี่ยมันทำไมมิทราบ!... ผมกด ๆ จิ่ม ๆเบอร์ของไอ้จี้จนเครื่องจะพังอยู่แล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันหายหัวไปไหนของมัน เล่นแบบนี้ผมก็แย่ซิฮะ!... แย่แน่ๆ มันทำอะไรของมันอยู่

ผมมืดแปดด้านไปหมดไม่รู้จะทำยังไง เด็กใสซื่อบริสุทธิ์แบบผมมาโตเกียวกับเค้าเป็นครั้งแรกด้วย ไม่รู้จะไปทางไหนถนนหนทางก็ไม่รู้

แต่ในที่สุดหลังจากที่นั่งคอยมันอยู่ที่สนามบินจนทนไม่ไหว ผมก็ตัดสินใจนั่งแท๊กซี่มาคอยมันอยู่ที่หน้าห้องพักของมันแทน แล้วตอนนี้ผมก็คอยมันมาสี่ห้าชั่วโมงแล้วครับ

โธ่!... มันไปไหนของมันนะ ผมมั่นใจว่าผมไม่ได้จดที่อยู่และเบอร์ห้องผิดหรอกครับ หิวข้าวจนไส้จะขาดอยากจะไปหาอะไรใส่ท้องก็กลัวว่าไอ้จี้กลับมาจะไม่เจอผมเข้า คอยมันต่ออีกซักหน่อยแล้วกันไหนๆก็มาถึงแล้วนี่ ตาก็จะปิดอยู่ร่อมมะรอแล้ว การเดินทางจากเฮียวโงถึงตัวเกียวมันเหนื่อยไม่น้อย พอง่วงแบบนี้ใจมันนึกถึงเตียงนุ่มๆที่บ้านนอกขึ้นมาทันใดเลยฮะ...

ผมวางสัมภาระลงบนพื้นหน้าประตูห้อง แล้วก็นั่งคอยมันหน้าห้องนี่แหละ ช่างมันไม่องไม่อายไม่สนใจแล้ว ชั้นนี้ก็ไม่เห็นจะมีคนเข้าคนออกซักเท่าไหร่หรอก ยิ่งดึกดื่นแบบนี้ไม่มีใครมาสนใจผมหรอกฮะ...เงียบและสงบพอจะนั่งหลับคอยมันได้น่า

ฟี้ๆๆๆ.....

................

“ เฮ้ ๆ ตื่นๆ ได้แล้ว”

“ งะ ฮะ อะไรๆ “ ผมตาลีตาลานสะดุ้งตื่น ตกใจเมื่อมีตัวอะไรไม่รู้มันมาสะกิดที่ต้นแขน ไหน ๆ ใครบังอาจมาขัดจังหวะการหลับการนอนของผม ผมขยี้หูขยี้ตามองหาตัวมารที่บังอาจมารบกวนเวลาหลับของผมได้

เจออะไรเข้ารู้มั๊ยครับ...นี่เลยครับ เบ่อเร่อเลย เท้าใหญ่ๆภายใต้รองเท้าผ้าใบยี่ห้อดังที่เห็นได้ตามป้ายโมษณาอยู่ข้างสนามบอลบ่อยๆมันอยู่ห่างจากหน้าผมไปแค่คืบเดียวเองอะ...พอผมทอดสายตาไล่มองสูงขึ้นไปอีกนิด...


กร๊าซซซซซซซซซซ แทบบ้าตาย!...ขาแม่งมันสวยชิบหาย!...ภายใต้กางเกงยีนส์ขาดๆเข้ารูป เห็นหน้าแข้งที่ไร้ขนวับๆแวมๆด้วย......

เสื้อยืดสีขาวทับด้วยแจ็คเก็ตสีดำ อยากจะกร๊าซอีกแล้ว!...ไอ้บ้านี่มันแต่งตัวได้ใจผมชิบหายเลยครับ...

ขอยืนดูหน้าตามันหน่อยเถอะ ปล่อยให้กูแหงนมองจนเมื่อยคอแล้วนะเฟ้ย!

ผมลุกขึ้นยืนประชันความหน้าตาดีกับมัน...อะนะ...ขอบอกว่าผมสูงเพียงแค่คางมันเองครับ ผมยักคิ้วให้ทักทายมันก่อน นิ้วชี้ๆเข้าหาตัวเองเป็นเชิงถามไอ้บ้าหัวแดงที่มันมาจากไหนไม่รู้ ยืนอยู่ข้างหน้าผมในขณะนี้ ท่าทางมันเหมือนยากูซ่าที่หลุดออกมาจากในโทรทัศน์เลยล่ะ หน้าตากวนส้นตีนสิ้นดี!

หมอนี้...มันหมายถึงผมเหรอ...ไอ้ที่เรียกเมื่อกี้อะ?

ผมหันซ้ายหันขวา หันหน้าหันหลัง หว่า... ก็แถวนี้มันมีผมอยู่แค่คนเดียว ไอ้หัวแดงท่าทางขี้เก๊กชิบโป้ง พยักหน้าหงึกๆ ท่าทางโกรธ ๆ ทำหน้าตึงๆเชิดๆหยิ่งๆเข้าใส่ เชอะ! นึกว่ากูอยากจะคุยกับมึงนักเหรอไง...แอ๊คอยู่ได้ ...จะหาเรื่องกูใช่ม๊ะ...? ผมชักยัวะฮะ หิวก็หิว ยุงก็กัด โกรธให้ไอ้จี้จนผมว่าตัวเองชักจะพาลแล้วครับ แต่ผมเปล่ากวนประสาทตาหัวแดงนี่นะ ...ท่าทางมันเป็นของมันเอง ...จะหาเรื่องผมเหรอ ตัวมันใหญ่โคตรเลยครับสูงยังกับเปรต...ซวยละสิ

  ซวยอีกแล้วสิกู ซวยอีกเลยซิว้อยไอ้ม่า มึงโดนฆ่าหมกอ่าวโตเกียวแน่ๆ...วันนี้มันเป็นวันอะไรเนี้ย เจอแต่เรื่อง ผมจะสู้หมอนี่ได้ไหมตัวแม่งก็โคตรใหญ่ ประมาณจากสายตาแล้วท่าทางผมจะเจอคู่ต่อสู้ที่ลำบากเข้าให้แล้ว เอาวะเต๊ะจุ้ยมาก็เต๊ะจุ้ยไปแล้วกัน กวนโอ้ยเป็นบ้า ผมลุกขึ้นยืนกอดอกพร้อมจะมีเรื่อง หน๋อย! ไม่รู้จักคาสุม่า ณ เฮียวโงซะแล้ว แบบนี้ต้อง..

“ ก็นายนั่นแหละ” อัยขี้เก๊กหัวแดง หน้าตาก็...งั้นแหละฮะ อย่าไปชมว่ามันหน้าตาดีเลย...น้อยกว่าผมเยอะครับ มันตอบผมขึ้น ก่อนที่ผมจะทันได้ฝ่าไฟแดงกลางสี่แยกอันตราย พลางปรายสายตาคมดุมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ...บอกไว้ก่อนนะเฟ้ยถึงจะตัวเล็กแต่ใจสู้นะเว้ย! ผมร้องท้าอยู่ในใจ พลางยักไหล่เป็นเชิงถาม

“มีไร...?” ไอ้ท่าทางหยักไหล่ถามนี่มันก็เป็นของมันเองนะฮะ ผมเปล่ากวนตีนมันซักนิด...มันเป็นของมันเองครับ...

"เด็กๆ.."

"ตรงไหน...?"หน๋อยว่ากูเด็ก...มึงอะจะแก่กว่าปีซักกี่ปีเชียว...ไอ้นั้นน่ะใหญ่กว่ากูซักแค่ไหนวะ...

ผมไม่ชอบสายตาดุๆของมันนัก...แม่งมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า..มันยิ้มขื่นๆตรงมุมปากได้อย่างกวนโทสะมากเลยครับ

“หลีก” โห! อะ...ไอ้แดง!...มันพูดแค่เนี้ยแล้วก็ทำเป็นเดินผ่านแถมชนไหล่ผมทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก เอ่อ... หมอนี่เล่นเอาผมงงเต็กอะ เอ๋อ ไปพักใหญ่ในใจนึกว่าจะต้องได้วางมวยกับมันซะอีก...

 แล้วมันก็ล้วงบางอย่างออกจากกระเป๋ากางเกงออกมา ...ผมก็ดันเผลอมองตามมันด้วยความสงสัย...มันจะทำอะไรวะ...?...อะนั้น กุญแจ !!! เปิดประตูห้องเข้าไปแล้ว

เฮ้ ! ช้าก่อน ๆ หมอนี่ มันยังไงกันแน่ ก็ห้องนี้มันห้องท็อตจินี่หน่า ผมเดินตามเขา แฮ่ๆๆ ขอเรียกมันด้วยความสุภาพขึ้นมาบ้างนะฮะ ลางสังหรณ์มันเริ่มบอกผมว่า ผมควรจะเป็นมิตรกับมันเอาไว้น่าจะดีกว่าอะครับ...ผมเดินตามมันเข้าห้องพร้อมกับลากกระเป๋าใบโตเข้าไปด้วยความว่องไว กลัวหมอนี่จะปิดประตูห้องใส่หน้าผมซะก่อนนะสิ เขาหันมามองผมท่าทางโกรธๆ...ผมรู้...มันคงไม่พอใจในพฤติกรรมของผมแหละฮะ

ชักสยองขึ้นมานิดๆแฮะ ผมแอบบกลืนน้ำลายลงคอเบาๆ...เมื่อเห็นสายตาดุๆของคนหัวแดงข้างหน้าตัวเอง

“นาย เข้ามาทำไม!...?” มันเท้าสะเอวถามผมอะ

“ อ้าว ก็นี่มันห้องเพื่อนชั้นอะ นายนั่นแหละเป็นใคร...?" ผมเท้าสะเอวตอบและถามกลับบ้าง...สยองฮะสยอง...เห็นสายตาแทบจะกินเลือดกินเนื้อของหมอนี่แล้วผมก็อยากให้ประโยคเมื่อกี้กลับเข้าไปทางเก่าจัง ชักปอดแหกขึ้นมายังไงไม่รู้

2 ขาก้าวถอย แล้วหันหลังวิ่งกลับไปที่ประตูห้องเพื่อตรวจสอบความถูกต้องให้อุ่นใจอีกครั้งหนึ่ง แล้วผมก็ยิ้มออกก่อนที่จะรีบวิ่งกลับมายืนที่เก่า หมอนี่ทำหน้างงติดตลก คงสงสัยว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ละซิ

“เอาล่ะ ไม่ผิดแน่” ผมพูดกับตัวเองเบาๆ พลางเป่าลมออกปาก ถนนก็ถูก ชื่อคอนโดก็ถูก เลขที่ห้องก็ถูกนี่หว่า หมอหัวแดงนี่มันมีกุญแจ เปิดเข้ามาได้ก็แสดงว่ามันต้องเป็นเจ้าของห้องหรือไม่ก็เพื่อนไอ้ท็อต หรือไม่ก็...ช่างหัวมันเถอะมันจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ ยังไงๆตอนนี้ก็ไม่มีอะไรสำคัญเท่าที่มันสามารถเข้าออกห้องนี้ได้ บางทีหมอนี่อาจจะรู้เรื่องท็อตจิบ้างก็ได้...ลองถามมันดูก่อนก็ไม่ผิดนี่หว่า...

ผมสรุปข้อสันนิษฐานของตัวเอง แล้วเริ่มยิ้มเรี่ยราดตีสีหน้าไม่ถูกให้หมอนี่ก่อนที่เขาจะหมดความอดทนกับผมเอาได้

“เอ่อ... ชั้นเป็นเพื่อนท็อตจิ นี่ ๆ เอ้า! ดูซิ" ท็อตจิก็คือไอ้จี้นั้นแหละฮะ...ผมควักกระดาษที่จดชื่อที่อยู่พร้อมเลขที่ห้องให้หมอหัวแดงดู ชักใจแป้วเหมือนกันครับกลัวคำตอบของหมอนี่ ถ้าเขาไม่รู้จักท็อตจิล่ะก็..

“เป็นเพื่อนท็อตจิ...?” เค้าเงยหน้าถามผม ชื่อของไอ้บ้าท็อตจิที่เค้าเอ่ยออกมาทำให้ผมดีใจอย่างบอกไม่ถูก รีบพยักหน้าตอบแล้วส่งยิ้มให้ก่อน ต้องทำเป็นผูกมิตรไว้ ไม่งั้นคืนนี้ผมอาจมีสิทธิ นอนตากยุ่งและลมหนาวอยู่นอกห้องถ้าเผลอแผลงฤทธิ์ให้หมอนี่เห็นไปมากกว่านี้นะครับ

“ท็อตจิมัน ไม่อยู่หรอกนะเห็นบอกว่ามีงานถ่ายแบบด่วนเข้ามา ต้องไปโชว์ตัวที่ปารีส 2 อาทิตย์"

“ ฮึ่ม ! เข้าใจล่ะ ห๋า !!! อะไรนะ ไหงเป็นงั้นล่ะ” ผมแหกปากลั่น โธ่ !อัยทอดกล้วย กล้วยทอด ทำตูจนได้ มันไม่อยู่แบบนี้แล้วมันเสือกโทรชวนผมมาโตเกียวทำหอยอะไรของมัน ทำเป็นว่าอยากเจอผมอย่างนู่นอย่างนี้ คิดถึงผมใจจะขาด แหวะ! ไอ้ตอแหล คิดแล้วผมก็อยากจะตึ้บหน้าหล่อ ๆ ของมันขึ้นมาตะหงิดๆ รู้ว่าตัวเองไม่อยู่แล้วทำไมไม่บอกนะ

“เอ้านี่!... หมอนั้น ฝากไว้” ตาหัวแดงยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้ผม เมื่อคงจะเป็นว่าผมยืนเอ๋ออยู่นาน แล้วเขาก็เดินไปปิดประตูห้องเข้ามาและเลยเดินไปที่ห้องครัว อะนะน่าจะใช่ห้องครัว ก็เขาหาอะไรบางอย่างอยู่ในตู้เย็น อ๊ะ! หลายมือ ท็อตจิ

‘ Hi bybe and my darling' โธ่ ! อัยท็อตจิยิ่งอยากเหยียบให้มันจมธรณีชะมัด

‘ I ขอโทษด้วยน้า มันเป็นงานด่วนจริงๆ พึ่งจะรู้เมื่อเช้านี้เอง อย่าโกรธน้า แล้วก็อย่าหนีกลับเฮียวโงล่ะ ไหน ๆ ก็มาแล้วต้องรออยู่พบนะ ก็แกน่ะทำเป็นมายากมาเย็นนักนี่ไอ้โตเกียวเนี้ย!... ทีแรกชั้นก็กะจะโทรไปบอกแกตั้งแต่เช้า แต่ก็กลัวจะไม่มาหาอย่าโกรธเลยนะแกที่ไม่ได้บอกก่อน แต่ถ้าโกรธก็อย่าหนีกลับเฮียวโงเป็นอันขาดนะ รอชั้นก่อนเดี๋ยวจะกลับไปให้กระทืบสัญญาเลยเอ้า!.. และถ้าม่าได้อ่านแล้วก็แสดงว่าได้เจอไดสุเกะแล้วสินะ’ อ๋อหมอนี่ชื่อไดสุเกะเหรอ ...ตั้งชื่อไม่เข้ากับหน้าอย่างแรง.. ผมแอบมองไดสุเกะคุงแวบหนึ่งก็เห็นเขากำลังชูขวดเบียร์ในมือให้...

ไดสุเกะเป็นเพื่อนและ Room mate ของฉันเอง แล้วชั้นก็ฝากม่าจัง (อย่าเรียกกูว่าม่าจังอีกนะมึงอีจี้)ให้ไดสุเกะมันช่วยดูแลไว้แล้ว มีอะไรก็ถามมันได้ มันจะช่วยได้ทุกอย่าง รบกวนมันได้ทุกเมื่อ ถ้ามีอะไรไม่พอใจเดี๋ยวกลับไปแล้วจะไปกระทืบไอ้ได(ไดสุเกะ)มันคืนให้ ม่าจังเข้าใจชั้นน้า ...ไม่เข้าใจวะ.. ทำไมต้องฝากชั้นไว้กับเจ้าลิงหัวแดงนี่ด้วย ท่าทางนักเลงออกปานนั้น

‘ ห้ามหนีกลับเฮียวโงะเป็นอันขาดถ้าชั้นกลับไปแล้วไม่เจอนายละก็ ตัดเพื่อน OK นะ แล้วค่อยเจอกัน บาย บ่าย bybe' เอา ๆ ขู่กันเข้าไปเหมือนกับไอ้จี้มันจะรู้ว่าผมต้องหนีกลับบ้านแน่ๆ ถ้าไม่พบมันถึงขนาดย้ำแล้วย้ำอีกแบบนี้... ผมเผลออมยิ้มน้อย ๆ เมื่อคิดถึงเพื่อนตัวดีตัดสินใจอยู่แป๊บหนึ่ง มาแล้วนี่จุดมุ่งหมายและจุดประสงค์หลักคือหางานทำ ไดคุง...ผมขอเรียกมันแบบนี้นะครับ ชื่อเต็มของมันยาวอะ ไดคุงยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ มองผมที่จ้องกระดาษโน้ตของท็อตจิอยู่พลางส่งกระป๋องเบียร์ให้ ผมมองไดคุงอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ตัดสินใจในที่สุด...ไหนก็ไหนๆแล้ว

“ไดสุเกะคุงรบกวนด้วยนะ แล้วก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ" ผมค้อมหัวให้ไดคุงนิด ๆ พอเป็นพิธี แล้วก็รับกระป๋องเบียร์ยกขึ้นดื่ม

“คาสุม่าซินะ... นึกว่าจะเป็นผู้หญิงซะอีก" หมายความว่ายังไงไอ้ได...! ถ้าชั้นเป็นผู้หญิงจะต้อนรับให้ดีกว่านี้เหรอ ชักเคืองๆ กับประโยคของไดคุงแล้วครับ

“ ถ้าเป็นผู้หญิง แล้วไงล่ะ ผู้ชายครับบอกไว้ก่อน" ผมยืดอกอวดเบ่งจนคับห้องมองไดคุงอย่างไม่ค่อยพอใจ เห็นทีผมคงจะได้เปิดศึกย่อยๆกับไอ้ไดก่อนเป็นแน่ ถ้าหากว่าไดยังคงพูดไม่เข้าหูแบบนี้

“ อ่าๆๆ  ก็มันเหนือความคาดหมายนะสิคาสุม่า... ไอ้ท็อตมันบอกว่าเพื่อนมันนะเจ๋ง ขาว สวย หมวย อึ๋ม แถมเซ็กซี่ด้วยนะ แล้วดูนายสิ โถ!สวรรค์ชั้นเจ็ดของชั้นล่มซะแล้ว” สวรรค์ล่มเหรอ ดูมันพูดได้กวนส้นไหมล่ะฮะ...ไอ้บ้าท็อตจิพอๆกันเลยกับไอ้บ้าได..มิหน่าพวกมันถึงได้อยู่ด้วยกันได้

“บอกไว้อีกข้อนะไดคุง ชั้นนะวิเศษและสุดยอดกว่าอัย ขาว สวย หมวย อึ๋ม ของนายและอัยท็อตเยอะเฟ้ย” เล่นกับใครไม่เล่น ต้องเอาให้สะอึก

“ ฮ่า ๆ ๆ นายนี่ตลกเป็นบ้า พอแล้ว ๆ ชั้นไม่อยากทะเลาะกับนาย เกิดเดี๋ยวนายหนีกลับบ้านท็อตจิเอาชั้นตายพอดี แต่นายนี่ท่าทางหาเรื่องดี เอาเรื่องน่าดูเลยนะ... พอแล้วอย่ามองชั้นแบบนั้นเอาของไปเก็บในห้องนอนนู้นไป๊ แล้วก็ทำตัวตามสบายเลยนะคาสุม่า คิดว่าเป็นบ้านของนายแล้วกัน" ผมส่งสายตาร้ายให้เค้าก่อนที่ไดคุงจะบอกให้เอากระเป๋าไปเก็บ

“ดุและเอาเรื่องอย่างกับแม่เสือเลยวุ้ย ตัวก็เล็กนิดเดียว ไอ้ท็อตสงสัยกูจะเละก็คราวนี้แหละ"

“ว่าไงนะครับไดคุง” ผมหันกลับทันทีเมื่อ ประโยคแปลกๆมันเข้าหูอีก

“หูแกว่งจังวุ้ย เอ่อ เปล่า ๆ ๆ ไม่มีอะไรนี่ ไม่ได้พูดอะไร" ดายหันมาบอก โบกไม้ โบกมือให้ยุ่งไปหมด

"แล้วไป..เอ่อ..เรียกฉันว่าม่าก็ได้นะ"

"ม่าเหรอ...โอเค...ม่าคุง...แล้วนายอายุเท่าไหร่แล้วล่ะ?"

"แก่แล้วล่ะ...อย่าถามเลยอายุมันเป็นเพียงตัวเลข"ผมเอาคำตอบสุดฮิตขึ้นมาใช้ ...ไม่อยากบอกอายุจริงๆกับไดมันหรอกฮะ...มันยิ่งว่าผมเด็กๆอยู่

"บรรลุนิติภาวะยังล่ะ..เอ่อจะได้ทำตัวถูก..."แล้วมันเกี่ยวไรด้วย...กูเลยมาสองปีแล้วว้อย ทำตัวตามปกติของแกนั้นแหละ

"เลยแล้ว.."ผมบอกพร้อมกับมองไปทั่วห้อง

“เหรอ...?"

"เออดิ..."ไม่เชื่อหรือไง...?


"อ้อ แล้วนายหิว มะ" คุยกันตั้งนานเพิ่งจะมีประโยคนี้ที่เข้าหูนี่แหละ ผมยิ้มหวานให้ไดทันทีครับ แล้วเดินกลับไปใกล้ ๆ เขา

“หิวจะแย่แล้วได ฉันรออยู่หน้าห้องเป็นชาติยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย หิวจนไส้บิดพันกันไปหมดแล้วอะ"อ้อนไว้ ๆ แล้วท้องเราจะสบาย ก็มันหิวจริงๆนี่หน่าช่วยไม่ได้ ไดคุงนี่น่าจะเป็นประเภทอาแป๊ะหลงตัวเองแพ้คำพูดหวานๆ อ้อนๆ แน่ๆ แบบเดียวกับไอ้ท็อต

“ ไดคงทำกับข้าวอร่อยสินะ เห็นท็อตจิ เล่าให้ฟังบ่อย ๆ"

“ ฮ่าๆๆ ไม่ต้องมายอเลย ไปไป๊ ไปอาบน้ำเดี๋ยวทำอะไรง่ายๆ ให้ทานแล้วกัน ดึกดื่นป่านนี้ร้านค้าคงปิดหมดแล้ว" เห็นมะในที่สุดก็สำเร็จ แลกกับยอมให้ไดมันตบหัวที สองทีเพราะไล่ผมไปอาบน้ำ

อืม...ห้องนี้ใหญ่และกว้างน่าดู ผมเดินเข้าห้องน้ำพลางสำรวจนู่นสำรวจนี่รอบๆห้อง แต่ไม่ไหวไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยเอาซะเลย ของก็วางรกไปหมด แถมยังมีเตียงเดียวซะอีก ถึงเตียงจะกว้างอะนะ แต่ผมก็ว่ามันไม่ดีอยู่ดี หว้า!แล้วอย่างนี้ผมจะนอนที่ไหนดีหว่า ผมยืนคิดสอดส่องสายตาหาทำเลให้ตัวเอง นั่งไงเจ๋งเป้ง!... โซฟาหน้าทีวีนี่แหละเจ๋งที่สุด มันอยู่เบี่ยงออกมาทางเตียงไกลพอดู ผมยิ้มให้กับตัวเองเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

“ม่า! จะทำอะไรน่ะ?” ดายร้องถามเสียงหลงเลยครับ

 หลังจากกินข้าวกินปลาอิ่มและด้วยความเจริญอาหาร ทำให้ผมซัดข้าวเกลี้ยงหม้อ อดชมฝีมือคนทำไม่ขาดปาก นั่นก็อะไร นี่ก็อร่อย นู่นก็อร่อย อู้ย อร่อยไปหมด ไดคุงอิ่มกับคำชมของผมจนตัวพอง แล้วผมก็ไปช่วยล้างถ้วยล้างจานจนเสร็จแล้วจากนั้นผมก็เร่ไปที่เตียงทันทีก้ม ๆ เงย ๆ อยู่ซักพักก็หยิบหมอนกับผ้าห่มออกมานี่แหละฮะ

“ อ้าวก็ไปนอนไง ง่วงจะตายชัก" ผมว่าพลางดึงผ้าห่มคลุมตัวเอง พันๆตัวเอาไว้ ก็มันหนาวนี่หน่า แล้วก็กระดึ๊บๆ ไปที่โซฟา

“จะไปนอนไหน...?”

“ นี่ไง โซฟาตรงนี้น่าจะสบาย"

“ จะบ้าเหรอ ได้หนาวตายกันพอดี ห้องนี้มันไม่มีฮีตเตอร์ เดี๋ยวนายก็ไม่สบายหรอก อากาศติดลบขนาดนี้... ไม่ต้องมาเถียง ชั้นขี้เกียจพานายส่งโรงพยาบาล นู่นไปนอนเตียงนู่น" จะอ้าปากบอกว่าผมแข็งแรงจะตายไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก แต่ก็ดันคันจมูกขึ้นมาจนต้องจามออกไปเสียก่อน ปล่อยให้ไดยกมือห้ามว่าผมไปแล้วกัน

“ ทำยังกับเป็นผู้หญิง ฉันไม่ทำอะไรนายหรอกน่า..." ไดว่าพร้อมกับคว้าเอาหมอนจากมือผมไป และดึงชายผ้าห่มให้ผมกระดึ๊บ ๆ ตามไปที่เตียง

“จริงๆ เลยนะนายเนี้ย!" ดายส่ายหน้าแต่ก็แอบขำกับท่าทางของผมนะ

“เด็กจริงๆ นายอายุเท่าไหร่หรือคาสุม่า เอ๊า! นายไปนอนฝั่งนู่นไป" ช่างเถอะอยากว่าอะไรก็ว่าไปแล้วกันตอนนี้อิ่มและอยากนอนจะแย่ รู้สึกเหนื่อยๆ เพลียๆ ยังไงไม่รู้ฮะ

“ นอนดิ้นหรือเปล่านายน่ะ "

“ไม่หรอก” ผมตอบ หนังตาหนักไปหมด

“ ค่อยยังชั่ว นึกว่าจะต้องนอนผวากลัวตกเตียงไปทั้งคืนซะอีก”

“บ้า” ผมแลบลิ้นให้ได พูดประชดดีนักเดี๋ยวก็แกล้งถีบตกเตียงจริงๆ ซะเลย ไดหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอยู่ครู่ก็ล้มตัวนอนตะแคงหันหลังให้ผม ผมถอนหายใจเบาๆ เหนื่อยเหมือนกันแฮะกับการต่อปากต่อคำกับได มือไม้ก็พลางตบหมอนตบผ้าห่มไปตามเรื่อง ไม่ใช่ไม่อยากนอนเตียงเดียวกับไดหรอกเอ้ย !ไม่ใช่ ๆว่าผมไม่เคยนอนเตียงเดียวกับผู้ชายหรอก แต่ผมไม่คุ้นที่จะนอนกับคนแปลกหน้าต่างหาก ผมหันไปมองได... ทำไมต้องใจเต้นตุ้มๆต่อมๆ ด้วยนะ ...ไดไม่เห็นจะหล่อ...หล่อ...ตรงไหน?

แล้วมันเกี่ยวกับดายไม่หล่อยังไงวะ อย่านะ อย่าคิดเชียวนะว้อยไอ้ม่า... อย่าแม้แต่จะคิด มึงจะบ้าเหรอ ทำไมจะต้องรู้สึกตะขวิดตะขวงใจกับไดมันด้วย
ที่เมื่อก่อนนอนกับไอ้ท็อตไม่เห็นเป็นไร หรือกูจะเป็นตุ๊ด ว๊าก!!!...ใกล้ชิดผู้ชายหน้าตาดี...เอาวะมึงอะไอ้ไดหน้าตาดีก็ได้ อยู่ใกล้ผู้ชายที่ตรงสเปคทีไรใจมันหยิวๆทุกที...ไม่อยากจะบอกเลยครับว่าในหัวผมมันเห็นไดคุงตรงสเปคของผมตั้งแต่แรก.

ใจผมกับสมองมันเถียงกันไปมาไม่มีใครยอมใคร เฮ้ย! แล้วผมจะนอนหลับไปมั๊ยเนี้ย...ดายหลับไปตั้งนานแล้ว เสียงลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอทำให้รู้ ผมก็ได้แต่นอนพลิกซ้ายพลิกขวาไปมา

นี่หมอนี่ไม่รู้สึกไม่คิดอะไรเลยเหรอ ...ไม่คิดอะไรกับผมเลยเหรอ...หรือว่าเราไม่มีแรงดึงดูด...^O^

ให้ตายเถอะปล่อยให้เรานอนไม่หลับอยู่ได้ ผมนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยๆไดสุเกะมันตะแคงพลิกตัวหันหน้ามาทางผมแล้ว แล้วผมก็อดไม่ได้ที่จะขยับตัวเข้าไปใกล้ ๆ มันคงเป็นเพราะ(สัญชาตญาณความหื่น)ไออุ่นกระมัง ถึงทำให้เด็กขี้หนาวต้องการความอบอุ่นแบบผมโหยหาและขยับเข้าไปใกล้โดยอัตโนมัติ กลิ่นกายของไดคุงกับกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆก็กระตุ้นความรู้สึกได้เป็นอย่างดี ยิ่งทำให้ผมอยากเข้าไปใกล้ไดมันมากกว่านี้ แต่ก็ระวังไม่ให้ถูกตัวไดนะครับ เดี๋ยวเขาตื่นผมก็แย่นะสิ

ผมนอนจ้องสำรวจใบหน้าที่หลับไม่รู้เรื่องนี่เพลินๆ ไม่มีไรทำ นอนก็ไม่หลับ ขอจ้องไดมันหน่อยแล้วกัน

ให้ตายเหอะครับไม่อยากจะเชื่อ และไม่อยากยอมรับอะครับว่ามองใกล้ ๆแล้ว ไดคุงจะดูดีได้ถึงเพียงนี้ ...รู้สึกเขินๆยังไงชอบกลแฮะไดจะรู้มั้ยเนี้ยว่าผมแอบจ้องเขา คิ้วเรียวรับกับสันจมูก จมูกก็โด่งเป็นบ้า! ริมฝีปากก็หยักสวยได้รูป โหนกแก้มที่สูงเน้นโครงหน้าให้คมเข้ม เรียวปากสวยสีแดงนิด ๆ แถมยังเผลอหน่อย ๆ อ๋อย !!! อยากจูบ ว๊ากๆๆ ไม่ใช่ๆ มันหล่ออะ...หล่อจริงๆด้วยวุ้ย! หน้างี้ใสเชียวนะมึง

ฟังเสียงหัวใจผมสิครับเต้นรัว เร็วและแรงเกินไปแล้ว อย่าพึ่งตื่นขึ้นมาเชียวนะได อย่าพึ่งตื่น!...(ขอกูแอบสำรวจมึงอีกนิดเถอะ)

ดูเหมือนคำขอของผมมันจะไม่เป็นใจ คงเพราะความตื่นเต้นและความกระสับกระส่ายของผมเลยพลอยทำให้คนถูกแอบมองรู้สึกตัวขึ้นมา ไดคุงขยับตัวแล้วครับ.. ไม่ได้ๆ เดี๋ยวความแตก รู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ ผมหลับตาลงทันที ทำเป็นหลับไปซะงั้น รู้สึกว่าไดสุเกะจะตื่นจริงๆ ลมหายใจอุ่นร้อนของเขารดอยู่เหนือใบหน้าจนรู้สึกได้

เอ๋...อย่าบอกว่าดายแอบมองผมคืนนะ ชักทำตัวไม่ถูกแล้ว จะลืมตาดีไหม? แล้วดายจะทำมากกว่าจ้องมั้ย ? อ๊ากก...อย่านะ อย่า ๆ คิดอีกซิคาสุม่า!

โธ่! ความคิดเจ้ากรรมเลยเถิดคิดไปถึงไหนต่อไหน ใบหน้าร้อนวูบวาบไปหมด ไม่ต้องบอกป่านนี้มันคงจะแดงประจานให้ไดเห็นแน่ ๆ ในหูของผมได้ยินเสียงหัวเราะของคนตัวโตที่อยู่ข้างหน้าก็ยิ่งอยากเอาปิ๊บคลุมหัวขึ้นมาทันที

“เป็นไข้เหรอ แก้มแดงเชียว" อึก! นั่นประไรโดนเข้าอย่างจัง ดายพูดประชดปนขันอยู่ข้างๆ หู ...มันรู้ว่าผมแกล้งหลับ

“ฮือ” ผมครางอยู่ในลำคอแกล้งเป็นไข้ขึ้นมาซะงั้น...รู้จักผมน้อยไปแล้วพี่ได... แล้วก็กระเถิบตัวเข้าไปติดตัวไดมากกว่าเก่าอีก อยากว่ามาก่อนนี่ เสียงหัวเราะของไดยิ่งดังขึ้นกว่าเดิมอีกครับ

“เด็กบ้า!” ไดว่าที่ข้างๆหูจนผมรู้สึกจั๊กจี้ พลางลูบหัวผมไปด้วย แล้วด้วยความคาดไม่ถึงวงแขนยาวก็ทาบลงบนตัวผม ตามด้วยขาหนักๆ ที่ยกขึ้นมาก่ายบนขาของผม

โอ้ย! หนักอะผมไม่ใช่หมอนข้างนะ ผมแกล้งดิ้นและครางอย่างขัดใจ ทำเป็นว่ารำคาญให้ไดรู้ แต่ก็อีกนั่นแหละไดยิ่งแกล้งรัดแน่นเข้าไปใหญ่ ผมคงไม่มีทางหลุดจากวงแขนแกร่งของอัยคนตัวโตขี้แกล้งได้แน่ แต่ก็อุ่นนะสุขใจอย่างประหลาด อุ่นจังเลย ไม่คิดมาก่อนว่านอนกับผู้ชายด้วยกันจะให้ความรู้สึกที่ดีแบบนี้

ไดเอื้อมปิดไฟบนหัวเตียงแล้วหันมาหนีบผมต่อ ผมซุกหน้าลงกับอกแกร่งทันที แอบสูดกลิ่นกายของไดเข้าเต็มปอด ผมคงหลงไหลกลิ่นกายที่เร้าใจนี้เข้าให้แล้ว ตอนนี้ผมกำลังอุ่นสบาย หลับละนะดาย กอดให้ถึงเช้าเลยล่ะ ผมขดตัวและยกแขนกอดไดบ้างก็มันเมื่อยนี่นา แขนมันคู้อยู่แบบนี้ ให้ผมมีโอกาสได้เก็บเล็กผสมน้อยบ้างสิ (มันก็เก็บเล็กผสมน้อยเหมือนกันนั่นแหละ : ได)

ผมไม่ปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองหรอกครับ... ก็ดีแล้ว 2 อาทิตย์ที่อยู่กับไดจะได้ไม่น่าเบื่อ อาจจะมีอะไรสนุกๆตื่นเต้นเร้าใจบ้างก็ได้.

To be continue...


รบกวนด้วยนะคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ o15


*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ  แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
 ทิพย์โมบอร์ดนิยาย



Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-09-2010 08:03:32 โดย THIP »

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: One man story 1
«ตอบ #1 เมื่อ05-08-2007 19:02:40 »

คนแรก  o16  o16  o16
ขยันจริง ๆ ลงสองเรื่องพร้อมกัน   :m12:  :m12:

abcd

  • บุคคลทั่วไป
Re: One man story 1
«ตอบ #2 เมื่อ05-08-2007 19:40:20 »

เปงญาติก่าแอม ณ Dir en grey ป่าวเนี่ย  :m24:



 :a4:

@^_^@PeaZa@^_^@

  • บุคคลทั่วไป
Re: One man story 1
«ตอบ #3 เมื่อ05-08-2007 19:49:08 »

 :m11: :m11: :m11:

สนุกอะ ต้องติดตาม

 :m11: :m11: :m11:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: One man story 1
«ตอบ #4 เมื่อ05-08-2007 19:59:39 »

ลงสองเรื่องท่าทางจะสนุกทั้งสองเรื่องเลย  เยี่ยม  :a2:

รออ่านต่อจ้า สู้ๆ  :a1:  :a1:  :a1:
เอาไปบวกหนึ่งเลย สนุกดี

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: One man story 1
«ตอบ #5 เมื่อ05-08-2007 23:59:37 »

มาให้กำลังใจจ้า  :m3:  :m3:

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
Re: One man story 1
«ตอบ #6 เมื่อ06-08-2007 14:25:28 »

เปงญาติก่าแอม ณ Dir en grey ป่าวเนี่ย  :m24:



 :a4:


เพื่อนกันน่ะ กั่กๆๆๆ :m14: :m27:

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
Re: One man story 1
«ตอบ #7 เมื่อ06-08-2007 14:52:58 »

ตามมาอ่านเรื่องใหม่   :m18: :m18:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: One man story 1
«ตอบ #8 เมื่อ06-08-2007 15:11:23 »


เข้ามาเม้นต์ให้แล้วเด้ออีน้อง

ส่วนของฝากน่ะ  เอื้อยสิแวะไปเอานำอยู่ดอกเน้อ  อิอิ  :m18:

ออฟไลน์ ronger

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 599
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
Re: One man story 1
«ตอบ #9 เมื่อ06-08-2007 22:37:46 »

สนุกดีนะ  :m1:  มาให้กำลังใจด้วยคน
รออ่านตอนต่อไปอยู่นะ :m9:

คุณRed....[em] ขยันหยั่งงี้ โหวตให้เลย 1+
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-08-2007 22:40:25 โดย ronger »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: One man story 1
« ตอบ #9 เมื่อ: 06-08-2007 22:37:46 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






abcd

  • บุคคลทั่วไป
Re: One man story 1
«ตอบ #10 เมื่อ07-08-2007 13:41:49 »

ว่าแย้วเชียวว่าต้องเปงญาติผู้เพื่อนก่าแอม สำนวนคล้ายๆกันเยย ไม่ใช่สำนวนการแต่งนะ สำนวนแนวเรื่องอ่ะ  :a9:

@^_^@PeaZa@^_^@

  • บุคคลทั่วไป
Re: One man story 1
«ตอบ #11 เมื่อ07-08-2007 18:34:14 »

มาดันและ รอๆๆๆๆ  :impress:

kei_kakura

  • บุคคลทั่วไป
Re: One man story 1
«ตอบ #12 เมื่อ10-08-2007 00:20:20 »

หุหุหุ.....ตามมาเม้นต์ + มาเป็นแฟนคลับที่บอร์ดแห่งนี้ต่อ   หุหุหุ  :m3:

รอตอนต่อไปอยู่นะเค๊อะ   :m1: :m1:

@^_^@PeaZa@^_^@

  • บุคคลทั่วไป
Re: One man story 1
«ตอบ #13 เมื่อ11-08-2007 13:23:12 »

รอตอนต่อไปอยู่น้า  :m15:

Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
Re: One man story 2,3
«ตอบ #14 เมื่อ12-08-2007 14:02:52 »

 o14 ขอบคุณทุกคนมากๆสำหรับคอมเม้นต์ในตอนที่ 1ครับ วันนี้ไม่ได้แถที่ไหนขออัพ 2 ตอนนะครับ


 :m9:

One man story 2


“ไดกินข้าวได้แล้ว”

“จ๊ะเอ๋วันนี้มีอะไรกินเอ่ย...?”

“มีตาก็หัดมองเองสิ”

“ โห! ม่าแต่เช้าเลยนะ ทำไมนายนี่ปากคอเลาะร้ายจัง พูดดีๆ บ้างไม่เป็นเหรอ"

“ฝันเอาดิ"

“ อะนะ คงต้องฝันเอามั้ง"

“ว่าไงนะได"

“ เอ้า มีหูก็หัดฟังเอาสิ”

“จะกินไหมข้าวน่ะ!"

“กินๆ จ้า" ไดจัดการเอาข้าวยัดปากไปโดยปริยาย นี่เป็นบทสนทนาเบสิคเพียงเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างผมกับไดครับ 1 อาทิตย์แล้วที่อยู่กับไดคุง... ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกวันเมื่อตื่นขึ้นมา ผมจะมีอาการเหน็บชากินก่อนเป็นอันดับแรก เพราะถูกไดใช้เป็นหมอนข้างทั้งคืน

ไดก็เหมือนเดิมชอบแกล้งและแหย่ผมอยู่ยังไงก็อยู่อย่างงั้น ช่วงนี้รู้สึกว่าเบื่อ ๆ แต่ว่าไม่ได้เบื่อไดนะครับ เบื่อที่ไม่ได้ออกไปไหน ไดคุงพาไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่ไม่กี่แห่ง คงเพราะเค้าต้องทำงานด้วยเลยไม่ค่อยมีเวลามาเซอร์วิสผมเท่าไหร่ ผมยังสงสัยไม่หายตกลงผมกับไดใครดูแลใครกันแน่คงเพราะนิสัยจุกจิกจู้จ้ขี้บ่นของผมหรือเปล่า ถึงเล่นเอาผมหมดแรง เพราะมัวแต่เก็บห้องรกๆนี้ แล้วคืนนั้นที่บอกว่าไดทำอาหารอร่อยนะ ไม่รู้เพราะหิวจนตาลายมั่งถึงได้บอกแบบนั้น แต่พอมื้อต่อไปนี่สิครับขอโทษเถอะนะครับไดสุเกะคุง...สุนัขมันยังเมิน [ก็ดีกว่าไม่รับประทานนะเดี๋ยวมันอาจจะเดินกลับมากินก็ได้ : ได]

ไม่ได้เรื่องครับสงสารตัวเองจะแย่... ลำบากผมต้องลงมือทำกินเองจนได้ ไหนจะความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยภายในห้องอีก ไม่รู้คนบ้าสองคนทนอยู่เข้าไปได้ยังไง ผมอีกแหละครับที่ต้องตามเก็บกวาดเช็ดถูให้ เหนื่อยแทบตายต้องโทษนิสัยเจ้าระเบียบที่คุณยายสอนมาดีเห็นแล้วมันอดไม่ไหวนี่ครับขวางหูขวางตาชะมัด...อะไรรกๆไอ้ม่าเก็บเรียบ!

“ม่าไอ้นี่อร่อยจัง ตักไม่ถึงอ่ะ”

“ เอ้า! กินเข้าไปเยอะ ๆ เดี๋ยวชั้นกลับแล้วนายจะอดฝีมือชั้นไปอีกนาน" ผมคีบกุ้งทอดพร้อมตักน้ำจิ้มรสเด็ดให้ได

“ไม่จริงหรอกไหนคืนก่อนบอกว่าจะอยู่หลายเดือน" ไดว่าพลางคีบกุ้งทอดเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ

“บางทีอาจเปลี่ยนใจก็ได้" ไดทำหน้าสลดไปเลยมีอะไรเหรอ..?

“ม่าชั้นอะนะอาจจะดูแลนายไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่ชั้นก็ชอบนะที่มีนายมาอยู่ด้วยแบบนี้ จริง ๆ นะมีนายอยู่ด้วยสนุกออก" แต่ชั้นเหนื่อยอะได เบื่อด้วยไม่มีไรทำ

“ แค่บางทีอะได อาจจะรอตอกหน้าเจ้าท็อตจิก่อนก็ได้” ล้อเล่นหน่อยเดียวซึมไปเลยแหะ

“ หรือนายไม่พอใจอะไรชั้นบอกมานะ”

“ ฮ่าๆ ๆ ไม่มีอะไรหรอกน่า ไว้จะกลับเมื่อไหร่จะบอกนายก่อนแล้วกัน”

“ โธ่!ม่างะ” ดายงอนตุ้บป่องลุกขึ้นคว้าจานกุ้งทอดข้างหน้าผมไปเฉย แล้วก็คีบเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ

เฮ้ย! ไดคุงมันเพ้อหรือเปล่านะ มันคงจะเพ้อแหละฮะ...อะไรมันจะมารู้สึกดีกับผมป่านนั้น แค่ได้อยู่ด้วยกันเพียงอาทิตย์เดียว...แต่ว่ามันก็อดดีใจไม่ได้นะฮะ ...มีผมอยู่ด้วยแล้วดีจริง ๆ เหรอได?... จิตใจกระชุ่มกระชวยขึ้นมา เหมือนปลากระดี่ได้น้ำเลยแหะ

"วันนี้ติดรถไปข้างนอกด้วยได้เปล่า?” หลังจากที่ปล่อยให้ไดสวาปามกุ้งทอดตัวสุดท้ายเข้าปากไปอย่างเอร็ดอร่อยแล้วผมก็ถามขึ้น

“ไปไหนอะ?”

“เบื่ออะ จะไปหางานทำ"

“นายไปถูกเหรอ ไม่หลงนะ"ไดท่าจะเป็นห่วง ผมจัด

“ตามี ปากมีไว้ทำอะไรล่ะ”

“ครับๆ คุณชายเก่งคร๊าบบ...”

“ฮึๆ ๆ รู้ไว้ด้วยว่าคุยกับใครอยู่”

“แต่ว่านะม่า วันนี้ชั้นว่างนะ เอางี้ฉันจะเป็นสารถีให้แล้วกัน O.K."

“เจ๋งเป้ง O.K. ได” ผมยิ้มจนตาหยีให้ได

“ฮ่าๆ ๆ แล้วก็บอกว่าเก่ง"

“อะๆ เสนอมาเองนะ ไม่ได้ขอร้องซักหน่อย”

“ยอมให้แล้วกันคาสุม่า เถียงกับนายไม่เคยชนะซักครั้ง”

“ไม่ได้ชวนทะเลาะซักหน่อยจะมาเถียงเถิงอะไรกันล่ะได... เอ่อได ถามอะไรอย่างได้ม๊า...?” ผมส่งชามใบสุดท้ายที่ล้างเรียบร้อยให้ไดคว่ำบนชั้น แล้วก็เดินมานั่งที่โซฟา อากาศเย็นไม่อยากให้ร่างกายสัมผัสน้ำหรือยืนนานๆครับ

“ไรเหรอ...?” ไดตามมานั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามมองผมอย่างสงสัย

“อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลยนะได ไดทำงานอะไรอะ?" คำถามที่จะถามมาหลายวันแล้ว

ห้องทำงานของไดคุงเป็นห้องเก็บเสียงอย่างดี มันมีกีตาร์ตั้งอยู่หลายตัวพร้อมกับแอมป์ขยายเสียง แถมยังมีคอมพิวเตอร์และเครื่องอะไรต่อมิอะไรเต็มไปหมด

“นึกว่าจะถามอะไรเสียอีก... นักดนตรี"

“ฮ้า! จริงเหรอได!"

“จริงดิ... แต่งเพลงด้วย โปรดิวส์เองด้วย”

“ว้าวๆ สุดยอดๆ เลยได” ผมยิ้มร่าก็งานดนตรีเป็นงานที่ผมอยากทำที่สุด และผมก็รักและหลงใหลเสียงดนตรีเป็นชีวิตจิตใจ

“ฉันเล่นกีตาร์อยู่ในคลับ และแต่งเพลงให้นักร้องดังๆ หลายคน" ไดบอกแล้วก็ลุกออกจากเก้าอี้ลงมานั่งเบียดกับผมที่โซฟาแทน

"หนาวเนอะ...?" ผมไม่ตอบแต่ขยับเข้าไปใกล้มันพลางยิ้มให้มันไปอีกอีก

มิน่าทำงานแบบนี้เอง ไดถึงได้ออกไปทำงานตอนเที่ยงแล้วก็กลับห้องตีหนึ่งตีสองทุกวัน เขาน่าจะอายุมากกว่าผม 6หรือ 7 ปีได้ ผมขยับเข้าไปใกล้ไดจนช่องว่างระหว่างกันแทบจะไม่มี นึกขอบคุณอากาศหนาวเหน็บ ที่ทำให้ผมได้อิงแอบเขาบ่อยๆ (ทุกวันเลยครับ : ได)

ไดจะรู้ไหมนะว่าผมเริ่มมีความรู้สึกแปลกๆ กับเค้า ความรู้สึกที่ว่ามันเริ่มย่างกรายเข้ามาจนบางครั้งก็อยากแสดงออก... แล้วไดล่ะ...เขาจะมีความรู้สึกแปลก ๆ กับผมเหมือนกันหรือเปล่า ...?

“ไดขอเล่นมั่งได้ม้า กีตาร์ที่ตั้งอยู่ในห้องอะ" ไดสุเกะเอามือลูกหัวยุ่งๆ ของผมเล่นไปพลางดูทีวีไปพลาง

“เล่นเป็นหรือ สอนให้เอาไหม?”

“โธ่! แล้วจะหาว่าคุย" ผมยิ้มแป้นยืดอกอย่างภาคภูมิใจ...และก็มั่นใจในฝีมือการเล่นกีตาร์ของตัวเองไม่น้อย

“อนุญาตหรือเปล่า? ให้เล่นมั๊ย?" ลองพูดเสียงอ่อนๆ เข้าไปอิงๆแอบๆ ชิดตัวได รู้ว่าไดไม่หวงหรอกไอ้กีตาร์น่ะ แต่ว่าผมอยากอ้อนเค้ามากกว่า

“เอาซิไม่เห็นเป็นไร”

“ใจดีจัง ขอบใจนะได” มือมันดันไปไวกว่าความคิดอีกว้อย!... เผลอไปลูบแก้มไดเฉยเลย เขินตัวเองจังโว้ย!

คาสุม่านายทำอะไรอยู่...กร๊าซซซซซซซซซซซ เขินชะมัดเลยครับ


ไดมันก็แปลกนะครับ ไม่ยักกะว่าอะไรให้ผมซักคำ แถมยังทำท่าชอบเสียอีกยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่นั่นแหละ ผมก็เลยแกล้งมั่วอิงหัวซบกับอกของไดสบายใจเฉิบเลยฮะ อุ่นแล้วก็หอมดีด้วย ฮ่าๆๆ อุ่นใจไม่อยากคิดอะไรอีก... แต่ อะ อืม เกือบลืมแล้ว คำถามอีกข้อที่อยากถามไดเหลือหลาย ตั้งแต่อยู่กับไดคุงมา ยังไม่เห็นไดติดต่อกับใครหรือพาใครเข้าออกห้องนี้เลยอะ ไดจะมีแฟนหรือยังน้า...?...

คำถามค้างคาใจต้องรู้ให้ได้เลยครับ

แล้วผมก็ถูกไดยกตัวขึ้นให้นั่งบนตักของเค้า ทำอย่างกับผมเป็นเด็กตัวเล็กตัวน้อยเลยอะได...ผมเขินจนตัวอ่อนแทบจะลงไปกองอยู่กับพื้นห้อง ไม่กล้าสบตาไดคุง  ไม่กล้าพูดอะไรทั้งนั้น...ทำได้ก็แค่เอาหน้าไสๆมุดๆอยู่ที่อกของมันแค่นั้น...ไม่กล้าส่งเสียงขึ้นมาทำลายบรรยากาศอะครับ...อารมณ์ก็ประมาณนั่งดูมิวสิควีดีโอซึ้งๆนั้นแหละครับ...

“ม่าหนาวมั้ย?... หนาวเหรอ?" ถูกลวนลามด้วยการกอดอีกแล้วครับ! ...ถามเองและสันนิษฐานคำตอบเอาเองเลยนะเพ่

“อืม หนาวเนอะ แฮ่ๆๆ" ก็มันหนาวจริงๆนี่ 2 มือน้อยๆ ของผมถูกไดจับไปกอดตัวมันไว้ซะงั้น..แต่ผมก็ชอบล่ะ จะได้ลวนลามมันกลับบ้างซิครับ กรั๊กๆๆ ...แค่คิด ไม่ผิดใช่มั๊ย..? ผมไม่ชักมือออกแต่กลับสวมกอดไดมันอย่างที่มันอยากให้ทำ...อื่ม...มันก็อุ่นดีครับ..ตัวมันก็นิ่มๆหอมๆ...แต่ชักรู้สึกแปลกๆที่บั้นท้ายแล้วฮะ

“ ตกลงไม่ไปหางานแล้วนะ เอ่อๆ ถ้าไม่ไปจะได้นอนหรือไม่ก็ทำอย่างอื่น" เสียงไดแหบพล่าแปลกไปจากเดิม คิดอะไรบ้าๆ อยู่แน่ๆ เห็นเรายอมให้หน่อยเป็นไม่ได้ ดูสายตาไดมันสิจะเอาไปเชื่อมเผือกเชื่อมมันได้อยู่แล้ว ผมเด้งตัวลุกออกจากตักไดทันทีเมื่อรู้ว่าอะไรเป็นอะไร

“ไปๆ สิได เอ่อๆ ฉันไปแต่งตัวก่อนนะ!" แล้วผมก็เผ่นแนบวิ่งเข้าห้องนอนไปทันที รู้หรอกน่าว่าไดคิดอะไรกับผมๆ ไม่ใช่เด็กอินโนเซนต์มาจากต่างดาวซะที่ไหน ของอย่างนี้เรื่องใต้สะดือหรือเรื่องบนผ้าปูที่นอนมันก็ต้องมีประสบการณ์กันมาบ้าง แต่ไม่ใช่กับผู้ชายด้วยกันนะ เรื่องพวกนี้บอกตรงๆ ผมยังไม่เคยกับเพศเดียวกันมาก่อน ความอัศจรรย์ลี้ลับหฤหรรษ์ตรงนี้มันยังเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับผมอยู่มาก ..ผมไม่กล้าเสี่ยงที่จะลองกับใคร

มันเป็นเรื่องที่ลองกันเล่นๆ ไม่ได้....สำหรับผมกว่าวันนั้นจะมาถึง ผมคงต้องมั่นใจว่าคนที่ผมจะมอบสิ่งที่มีค่าและหวงแหนให้นั้น เขาต้องสำคัญกับผมมากแค่ไหน ผมสามารถมีเขายืนเคียงข้างได้อย่างไม่ต้องอายใคร...และเหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมดมันจะต้องเกิดจากความรักครับ รักแท้ที่ไม่ใช่แค่ความหลง หรือคลั่งไคล้เพียงชั่วครู่ชั่วยาม

กับไดคุง... ถึงผมจะยังไม่มั่นใจกับความรู้สึกตัวเองที่คิดกับเขาแปลกๆ รู้สึกกับเขาเกินกว่าที่ผู้ชายปกติธรรมดาๆคนหนึ่งจะเป็นได้นั้น ถึงมันจะยังไม่กระจ่างแจ้งชัด...แต่ผมก็พอจะเข้าใจตัวเองแหละครับ

แต่กับได...ผมไม่กล้าคิดว่าเขาจะเป็นแบบเดียวกับผมไหม...เขาอาจจะเห็นผมเป็นเพื่อนหรือน้องชายคนหนึ่งที่เขานึกเอ็นดูมากๆก็เท่านั้นหรือไม่ก็อาจจะเห็นเป็นของเล่นสนุก ๆ เอาไว้ผ่อนคลายเท่านั้น

ถ้ามันจะเป็นแบบนั้น ผมก็คงจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นหรอกครับ... อย่าให้มันมีอะไรเลยเถิดตอนนี้เลย ...อย่าให้มันเกิดขึ้นในเวลาที่ผมไม่มั่นใจและไม่รู้อะไรทั้งนั้น...ให้เวลาตัวเองได้ทำใจและชั่งใจอีกหน่อยนะ...
 ที่ตัวเองเป็นอยู่ตอนนี้ ก็รู้สึกแย่จะตายอยู่แล้ว ผมยังทำใจไม่ได้ที่จะปล่อยให้ความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นเมื่อก่อนเคยหลีกเลี่ยงมาตลอดในทางที่จะทำให้ตัวเองเข่วไป...แต่พอมาเจอได...อาการที่ผมเคยเก็บมันจนมิดได้...มันเริ่มที่จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ผมเป็นเกย์จริง ๆ เหรอ...?

ขอลูกทำใจให้รับกับสภาพตัวเองให้ได้ก่อนเถอะ...

ผมนั่งคิดถึงสภาพตัวเองและปัญหางี่เง่าๆทั้งหลายที่จะตามมา...จนลืมคำถามค้างคาใจไปสนิท

.......

...

Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
Re: One man story 2,3
«ตอบ #15 เมื่อ12-08-2007 14:06:50 »

และแล้ววันนี้ทั้งวันไดก็พาผมไปสมัครงานให้ทั่วย่านที่ไปกัน ใบสมัครที่กรอกเอาไว้หลาย ๆแห่ง จะมีซักแห่งไหมนะที่จะรับผม เด็กอิเล็กฯอย่างผมก็มีความฝันอยากเป็นวิศวกรกับเค้าเหมือนกัน แต่คำว่าไอ้เด็กช่างนี่ล่ะที่ถูกใครต่อใครเขาเหมาเอาว่าเป็นเด็กอันตราย

เฮ้ย! เหนื่อยใจนะครับ...บางครั้งผู้ใหญ่นั่นแหละครับที่ผลักให้เด็กเป็นโดยไม่รู้ตัว จบวิศวะกรรมอิเล็กทรอนิคมาครับ อยากสร้างระบบวงจรควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ดู เฮ้ย !ไม่ใช่ พูดออกไปได้ไง เอาล่ะมาเข้าเรื่องต่อดีกว่า อันเมื่อกี้มันเป็นความอึกอัดใจเล็ก ๆ น้อยของผมที่ถูกมองเวลาไปสมัครงานหรือสัมภาษณ์งาน แต่งตัวก็สุภาพเรียบร้อยดีครับ แต่ว่าหัวม่วงๆนี่ ถ้าจะเด่นเกินไป บวกกับหน้าตายียวนกวนประสาทเวลาที่ไม่พอใจของผม มันคงไปเตะหน้าแข้งคนสัมภาษณ์เข้าให้ เขาจึงเหมาเอาว่าผมนี้เป็นเด็กเกเรแหง ๆ

ทั้ง ๆที่ยังไม่ได้ดูใบรับรองการเรียนกับเกรดนิยมของผมเลย อาวุธนิวเคลียร์ 8,000 ล้านชนิดที่อยู่ในหัวคงคงต้องหยุดไว้ก่อนแหละครับ


วันนี้ไดสุเกะชวนกินข้าวเย็นนอกบ้าน และบอกว่าขอแวะไปดูงานหน่อย ผมก็เลยได้ติดสอยห้อยตามไปที่ทำงานของไดด้วย แต่ว่าไม่ใช่ที่คลับนะครับ น่าจะเป็นห้องอัดเสียงมากกว่า มีห้องซ้อม ห้องตัดแต่ง โอ้ย! เยอะแยะไปหมด เค้าน่าจะเรียกกันว่าสตูดิโอนะเท่าที่จำไม่ผิด

“คาสุม่า ปิดประตูด้วยนะ!” ว้าว!... แค่เปิดประตูเข้าไปก็ได้ยินเสียงกลองกระหึ่มไปทั่ว ตื่นเต้นๆจริง ๆ อะ ผมดูคึกคักเป็นพิเศษเลยครับเวลาที่ได้ยินเสียงดนตรี จังหวะเพลงที่โดนๆ

“ครับ” ผมเดินไปปิดประตู สงสัยกลัวเสียจะออก แล้วเสียงกลองก็หยุดลงเมื่อไดเดินเข้าไป

“หวัดดีไดสุเกะ เฮ้ !พาจิ๊กโก๋ ที่ไหนมาวะ..?" เอาอีกแล้ว จิ๊กโก๋อีกแล้ว ...

ท่าทางกูมันเป็นแบบนี้เว้ย!...มันเป็นของมันเองต่างหาก!...ไอ้พวกนี้นี่!

เสียงห้าว ๆ ดังขัดหู อุตส่าห์หายหงุดหงิดจากคนสัมภาษณ์งานแล้วนะ ไดไม่ตอบแต่เขากลับหัวเราะดังลั่นแทน ผมก็เลยหันไปมองด้วยความไม่พอใจ...มากไปแล้วนะเพ่...อย่าทำให้มีน้ำโห...

“ นี้ก่อนจะว่าใครหัดดูตัวเองก่อนซิเพ่” ผมตอกหน้าคนถามให้สะอึกไปหนึ่งทีแล้วก็เดินหน้าบึ้งไปยืนข้าง ๆ ไดคุง หน๋อย! มาว่าเราเป็นจิ๊กโก๋ ดูตัวเองก่อนเหอะครับ ไม่อยากจะเซด หัวเหอเหลืองเถือกทองไปทั้งหัว หน้าตาก็น่าจะน่ารักดีดอกครับ ถ้ามันไม่ไปเจาะหน้าเจาะตาแถมสักยันต์กันหมาหายให้ลายพร้อยไปทั้งตัว อยากรู้นักที่ปากน่ะ ทำไมไม่ตอกใส่ห่วงเหล็กให้หมดล่ะ มันจะได้ถ่วงให้ปากมันหนักเที่ยวไปกัดใครไม่ได้บ้าง

คนพาลตัวเล็กกว่าจ้องผมตาไม่กระพริบ ใบหน้าเล็กของมันบู้หงอหงิกอย่างกับจะปล่อยหมาในปากออกมากัดผมทั้งคอก และผมก็เริ่มหน้างอง้ำเข้าไปอีก คนอะไรวะจ้องกูอยู่ได้ ส่วนไดก็เอาแต่ขำไม่ช่วยอะไรเลยครับ

“ได น้องแกเหรอ...?" ทำไมจะแกล้งกันเหรอ...?  ท่าทางไม่พอใจมีไรอะ...? ผมเอาศอกกระทุ้งสีข้างได

“อ้อ ๆ อื่ม พึ่งมาจากบ้านน่ะ คาสุม่า นี่ไคย์นะเป็นนักร้องนำวงฉันเอง"ไดมันแนะนำให้รู้จักแล้วครับ...เป็นนักร้องนำด้วย!

 ไคย์ยิ้มให้อย่างไม่ค่อยจะเต็มใจหรอกครับ โชว์เคี้ยวหมาในปากให้ผมดูด้วย

“หวัดดี” เมื่อเห็นผมไม่ทักไคย์ก็ทักขึ้นก่อน

“หวัดดี ไคย์” เค้าหุบยิ้มทันทีที่ผมทักจบแล้วหันไปมองดายแบบเคืองๆ ...อะไรกันอีกวะ...?

“น้องแกนี่หน้าตาน่ารักซะเปล่า แต่ไม่มีสัมมาคารวะเลยวะให้มันรู้จักผู้ยงผู้ใหญ่หน่อยสิวะจะพูดจะจา"

ไคย์นี่นิสัยไม่น่ารักเหมือนหน้าตาและรูปร่างเลยอะ ผมว่าผมร้ายแล้วนะ แต่มาเจอไคย์นี่ท่าทางจะยิ่งกว่า

“อ๋ออออ ! แก่แล้วเหรอไม่รู้นะเนี้ย ถ้าไม่บอก" ผมลากเสียงยาน สุภาษิตของผมมีอยู่ว่าถ้าหมากัดให้รีบกัดตอบซะด้วย ไคย์อ้าปากเหวอพูดไม่ออก ผมสะใจยิ่งนักที่ได้แหย่เสือตัวเล็กๆอย่างไคย์

“ได คนนั้นใครอะ....น่ารักจังเลยครับ" นอกจากไม่ขอโทษแล้วผมยังเมินใส่ไคย์ไม่สนใจอีกด้วย ก็ผมไม่ผิดนี่ ผมหันไปถามพี่ชายอุปโลกของผมเมื่อสายตามันหันไปเจออีกคนที่ท่าทางเป็นมิตรกว่าแถมยังน่ารักสุดๆ นั่งยิ้มอยู่ที่โซฟาคนเดียว ไดตบไหล่ไคย์ขำ ๆ แล้วก็ลากผมออกจากที่ตรงนั้น คงจะกลัวว่าผมจะเปิดศึกย่อย ๆ กับไคย์ขึ้นมาก่อนเลยพาผมไปทางคนน่ารัก ๆ นั้นแทน

“คาสุม่า คร๊าบบบบบ...ยินดีที่ได้รู้จักครับ" ผมโค้งและยิ้มหวานหยดให้คนน่ารักข้างหน้าอดหันไปยิ้มยักคิ้วเย้ยไคย์ไม่ได้

“น้อยหน่อย ไอ้ม่า" ท่าทางผมคงยียวนกวนประสาทมากไป จนไดมันหันมาว่าเอาอะ...ขึ้นไอ้เชียวนะมึง ...แต่ยอมครับเพราะไดมันเอามือมาขยี้หัวผมเล่นอีกแล้ว...ยอมๆ ผมชอบให้ไดมันทำแบบนี้จะตาย...จะรักมันก็เพราะมันชอบเล่นแบบนี้แหละฮะ ฮี่ๆๆ

เขินหมดทำอะไรแบบนี้ต่อหน้าคนน่ารักๆนั้น...ผมทนเสียดายยอมปัดมือมันออกให้คนอื่นดูเหมือนว่าผมรำคาญแทน

"ยินดีที่ได้รู้จักครับ"คนน่ารักข้างหน้าทักกลับครับ ...น่ารักอะ ยิ้มให้ผมทีงี้ โอ่ยยยยยยยยยย...บรรเจิด!

“เรียวคุง มือกลองที่น่ารักที่สุดแล้วในวงฉันม่า” เสียงกลองเมื่อกี้ของพี่เรียวนี่เอง

“...เก่งจังครับแถมพี่ยังน่ารักอีก ฮี่ๆๆ” ผมกระดี้กระด้าน่าดูไปด้อมๆ มองๆใบหน้าหวานนั้นด้วยความชื่นชม พี่เรียวหัวเราะชอบใจอะ ท่าทางใจดีด้วยนะ ยิ้มกว้างให้ผมแล้วก็ตบโซฟาที่ข้าง ๆ ให้ผมลงไปนั่งกับแกด้วย กร๊าซซซซซซซซซซ ตื่นเต้นจังเยยครับ

วงของไดคุงนี้แต่ละคนหน้าตาดีๆกันทั้งนั้นเลยอะ...

“อย่าไปสนใจไอ้บ้านั่นเลยคาสุม่า มานี่มะมาคุยกับพี่ดีกว่า" โอ้ !สะใจอะไคย์จ๋อยไปเลยครับ

และแล้วผมก็ได้เพื่อนไม่ได้มานั่งเบื่อรอดายแล้วฮะ ผมกับพี่เรียวจ้อกันไม่หยุด ปล่อยให้ไดไปเคลียร์กับไคย์เองแล้วกัน แล้วหลังจากนั้นก็มีบุคคลอีก 3 –4 คนเข้ามาฮะ ไดคุงแนะนำให้รู้จักว่าเป็นทั้งสมาชิกในวง และสต๊าฟของวง

ผมถูกพี่เรียวลากไปดูโน่นดูนี่อยู่พักใหญ่ เมื่อพี่เค้ารู้ว่าผมสนใจเครื่องมือเครื่องดนตรีเหล่านั้น...เห็นพวกเขาแล้ว ก็นึกถึงวงของผมบ้าง ...เมื่อสมัยที่ยังเป็นเด็กช่างอยู่นะฮะ ผมก็เคยมีวงผมเป็นของตัวเองกับเหล่าเพื่อนๆ เคยร้องและเล่นกีตาร์ตามงานต่างๆของมหาลัยมานับไม่ถ้วน...เห็นแล้วคิดถึงจริงๆครับ

แล้วในที่สุดผมก็ได้ดูการซ้อมของวงไดซะที อยากไปร่วมแจมจังสนุกอะ ไม่น่าเชื่อว่าเสือหมอบตัวเล็ก ๆ อย่างไคย์จะมีเสียงร้องที่มีเพาเวอร์สุดยอด อึ้งกิมกี่ครับสงสัยผมคงต้องกลับไปมองไคย์มันใหม่ ต้องยอมรับล่ะครับว่าไคย์มีพรสวรรค์ในการร้องเพลงจริงๆ เส้นเสียงนี่ใสกิ๊ก...ไม่มีเพี้ยน ไม่มีผิดคีย์หรือทำนองแม้แต่เพลงเดียวครับ...มันเป็นคนที่ตั้งใจมากจริงๆ...ผมซึ่งใจกับไคย์มันเลยครับ ยอมรับๆมัน

 ส่วนพี่ไดสุเกะของผมนะเหรอ...?ขอพ่นไฟหน่อยเถอะครับ ฮ่าๆๆ
สุดยอดเลยคร๊าบบบบบบบบบบบบบ! กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซว
ผมล่ะอยากจะกรี๊ดๆกับพี่ไดจริงๆ!
มันเท่ห์มากเลยครับ..โอ้ย!เป็นปลื้มสุดๆ! ... ถ้าลงไปนอนดิ้นได้ผมคงลงไปแล้วล่ะครับ หน้าผมนี้มันร้อนผ่าวๆขึ้นมาซะเดี๋ยวนั้นเวลาที่มันหันมามองพร้อมกับการยักคิ้วให้...อายซิครับ มันโดนครับมันโดน!...มันเป็นผู้ชายที่ทั้งเท่ห์ทั้งหล่อทั้งมีเสน่ห์ ยิ่งเวลาที่มันอ้อนๆนะโอ้ยยย! ..มันยิ่งน่ารักครับ...ผมชักไม่มั่นใจตัวเองแล้วล่ะครับว่าจะเก็บความรู้สึกพวกนี้ไว้ได้นานแค่ไหน ...กลัวห้ามใจตัวเองไม่ได้ครับ....
ไดมันดีดกีตาร์เก่งมากๆ ดูดีและเท่ห์สุดๆ เวลาที่ไดมันปล่อยตัวไปตามจังหวะเพลง เขาทำให้ผมคลั่งไคล้มากขึ้นอีกแล้วกร๊าซซซซซซซซซซ   ผมจะทำยังไงดีครับ..จะทำยังไงดี ...ยิ่งหลงมันมากไปอีกแน่ๆ

...........................

ซ้อมเสร็จก็เกือบจะตี 2 แล้วมั้ง พวกดายก็มานั่งแต่งเพลงและแก้โน้ตกันต่อ ส่วนผมไม่ได้รู้สึกว่าง่วงหรือเป็นส่วนเกินอะไรแถมยังสนุกไปด้วย ก็ไดมันดันปากโป้ง พูดออกไปว่าผมมีความรู้ด้านนี้ และแต่งเพลงได้ก็เลยได้มีส่วนร่วมและความคิดเห็นเล็กๆน้อยๆครับ

 ทั้งวงนี่น่ารักกันหมดเลยนะ อ้อ ยกเว้น เฮียไคย์ไว้คนหนึ่งล่ะครับ ขานี้ชอบแหย่และกัดผมบ่อย ๆ แล้วก็มีอยู่ช่วงที่เฮียไคย์มันลากผมออกไปเป็นเพื่อนซื้อเบียร์กับมันด้วย เพราะคนอื่นไม่ว่างกัน ผมก็คิดว่าเฮียมันจะหาเรื่องแกล้งผมแน่ๆแต่ว่าก็ผิดความคาดหมายครับ ไคย์มันก็ไม่เห็นจะแกล้งอะไรผม

.....  ... ...

และแล้วผมก็ได้รู้ว่าไคย์ไม่ได้เกลียดผมอย่างที่ผมคิดไปเองหรอกครับ เค้าคงเอ็นดูผมอยู่ไม่น้อย ถึงได้เผลอลูบหัวม่วง ๆของผม แล้วก็ถามว่า คาสุม่านายง่วงหรือเปล่า หิวมั้ย ผมส่ายหน้าพลางยิ้มน้อย ๆ ให้ ในใจน่ะดีใจแทบลิงโลดแต่ก็เก๊กไว้เดี๋ยวไคย์มันรู้ อยากคุยกับไคย์ให้มากกว่านี้นะครับ มันเป็นคนที่น่าสนใจไม่น้อย จะเปลี่ยนเป็นคนละคนเวลาที่ได้ตั้งใจทำอะไร...ผมนับถือคนแบบนี้แหละครับ คนที่มีความตั้งใจจริง

พวกเราอยู่ในสตูดิโอจนเกือบตี 4 ก็ต้องแยกย้ายกันกลับ ไคย์ขอติดรถของไดคุงไปด้วย เพราะไม่ได้เอารถมาและบ้านไปทางเดียวกัน ในระหว่างที่เดินออกมาจากลานจอดรถ ไคย์กับไดคุงเดินออกมาก่อน ส่วนผมรอพี่เรียวเก็บของ และพากันเดินตามมาทีหลัง


เอ๊ะ! นั่นแย่แล้ว! เฮียไคย์กับไอ้คุณพี่ไดของผมมันดันไปเหยียบหางหมาเข้าอะครับ... มองเห็นไอ้คุณพี่ไดกับไอ้คุณไคย์กำลังทะเลาะกับไอ้พวกขี้เมาสี่ห้าคนที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนอยู่อย่างหน้าดำหน้าแดง...เท่าที่จับใจความได้ พวกนั้นเมาแล้วเดินชนไคย์จนล้มแล้วไม่ขอโทษ แถมยังหาเรื่องหาว่าไคย์มันเดินไม่ดูตาม้าตาเรืออีก ผมชักมองออกราง ๆ ว่าคงต้องมีการลงไม้ลงมือกันแน่ๆ ก็ทั้งไอ้คุณไคย์กับไอ้คุณพี่ไดน่ะเลือดร้อนด้วยกันทั้งคู่ออกปานนั้น... นั่นปะไร!...พูดไม่ทันจบก็เอาให้ซะแล้ว!...พี่เรียวที่ยืนอยู่ข้างๆผมเอามือตบหน้าผากตัวเองเบาๆพลางส่ายหน้าอย่างละเหี่ยใจเลยกับผลงานของเพื่อนทั้งสอง

ไอ้พวกขี้เมาหมาหมู่ทั้งฝูงลงมือก่อน แต่ไคย์กับกับคุณพี่ไดของผมเหมือนจะรู้อยู่แล้วก็เลยตั้งรับได้ทัน

และแล้วการตะลุมบอนก็เกิดขึ้น ลานจอดรถถูกใช้เป็นสนามมวยชั่วคราว ผมอยากเข้าไปร่วมด้วย เอ้ย!ไม่ใช่ อยากเข้าไปช่วยไดคุงใจแทบขาด แต่ก็ถูกพี่เรียวดึงแขนไว้และบอกให้ดูๆ ไปก่อน... และด้วยความตัวเล็กเตี้ยตัน แขนขาสั้น ส่งผลให้เฮียไคย์มันลงไปนอนวัดพื้นเป็นรายแรก หน้าตาเฮียไคย์แกยัวะจัดเลยครับ แล้วผมก็เริ่มจะทนไม่ไหวแล้วด้วย คันไม้คันมือตะหงิดๆ โอ้!!แย่แล้ว ไอ้ขี้เมาคนหนึ่งคว้าไม้หน้า 3 แถวนั้นขึ้นวิ่งหรี่เข้าหาคุณพี่ไดของผมแล้ว! ไดคุงที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาเอากำปั้นอัดเพื่อนของมันจนเลือดกลบปากอยู่ไม่ได้สนใจข้างหลังตัวเองเลยครับ

 ผมสะบัดแขนพี่ชินยะจนหลุดวิ่งเข้ากระโดดถีบ ไอ้ขี้เมานั้นได้ทันก่อนที่ไม้หน้า 3 จะกระทบหน้าหล่อๆ ของไอ้คุณพี่ไดเข้า

“ไดเป็นไงบ้าง เหวอ ๆ ไม่ๆ เอานะ" ผมถามไดคุงแล้วก็ต้องแหกปากร้องห้ามพลางก็หลบมือหลบตีพัลวัล

 จริงๆ นะ ผมไม่อยากทำอะไรไอ้ขี้เมาหมาหมู่นี่เลย ฝีมือกระจอกๆ แล้วจะหนาว ไม่อยากทำให้เสียมือเล้ย ผมฉุดเฮียไคย์ลุกขึ้นพลางหันไปทีบไอ้โย้งหน้าโคตรแก่ ที่เข้ามาข้างหลัง โธ่! โกรธแล้วนะเว้ย บอกไม่เล่นด้วยๆ ยังจะตามมาอีก ผมชักหงุดหงิดอยากพาไดคุงกับกับไคย์คุงออกไปไว ๆ

“ได ระวัง!!!" ...โอ้ย! เจ็บชะมัดยาด!... ผมทรุดลงไปคุกเขากับพื้น

ไม่รู้โง่หรือบ้าถึงเข้าไปรับไม้หน้า 3 แทน บังให้ไอ้คุณพี่ไดจากไอ้มือไม้หน้า 3 คนเก่า ถูกฟาดเต็มกลางหลังจนถึงแขนซ้าย

เจ็บแล้วว้อย! เจ็บๆๆ!!!

“คาสุม่า!!! เป็นไงบ้าง" ไดคุงเข้ามาประคองด้วยความเป็นห่วง ผมยิ้มหน้าเจื่อนๆ เจ็บจนสุดทนกับไอ้ไม้หน้า 3 โกรธจริงๆแล้ว เลือดอันธพาลเก่าสมัยวัยรุ่นเอาะ ๆ เดือดดานขึ้นข้างใน คงต้องเคาะสนิมเทควันโด้ที่ดัดแปลงท่าผ่าเหล่าผ่ากอจนเรียนไม่จบขึ้นมาอะ แล้วหลังจากนั้นผมก็ถูกพวกขี้เมา 5 คนซัด เอ้ย! พูดผิดครับ หลังจากนั้นด้วยความโกรธและเจ็บผมก็จับไอ้มือไม้หน้า 3 ลงไปนอนวัดพื้นแทน วิชาเทควันโดระบุว่า ข้อศอกเป็นจุดที่แข็งแกร่งที่สุดของร่างกาย ผมก็แถมลูกศอกถองกลางกระบาลและกกหูมันไป 2-3 ที จนมันสลบและผมก็กระโจนเข้าไปช่วยเฮียไคย์ต่อ สอยปลายคางไอ้หน้าเหยิน ให้เหยินเพิ่มเข้าไปอีก

โธ่! ไอ้บ้านี่มาจากไหนอีกวะ! วอนหลังหักแล้วนะมึง!..เล่นขวดเหล้าเหรอ ได้เลยไอ้พวกเหี้ย!.. ความไวได้เปรียบเว้ย!... ผมแค่เหวี่ยงปลายเท้าวาดเตะขวดเหล้าในมือไอ้ขี้เมาที่เสือกวิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามาเอง ช่วยไม่ได้ แล้วก็คว้าข้อมือมันล็อคจับเหวี่ยงทุ้มลงบนพื้นคอนกรีตสุดแรง โอ้ย! แต่ผมก็ดันเจ็บบริเวณที่ถูกไม้ฟาดขึ้นมาอีกเผลอออกแรงมากไปหน่อย หันไปมองไดคุงก็เห็นอัดไอ้ขี้เมาอีกคนจนเดินไม่เป็นท่า

ส่วนเฮียไคย์ก็อ่า... ไคย์คุงโหดเป็นบ้าอะ คงนึกว่าหัวกระบาลตัวเองแข็งนักสิ ถึงได้เอาไปชนกับไอ้ถึกร่างควายนั้น ไม่เจียมบอดี้เล้ยพี่ไคย์ นั้นพูดยังไม่ทันขาดคำพี่แกก็เซ ซัดๆ มาทางผม ผมไม่อยากเสียเวลามากนัก เดี๋ยวหมาต๋าก็ได้มาซิวไปโรงพักกันหมด ไม่ทันแล้วมัวแต่พยุงไคย์ก็เลยโดนไอ้ทึกร่างควายซัดเข้าที่หน้าจนได้ รู้สึกรสเลือดเค็มประแล่มๆ ตรงมุมปาก

ว้อยเจ็บอีกแล้ว!กูต้องเสียโฉมแน่ๆมึง!

ต้องโทษเฮียไคย์เลยครับไม่น่าปล่อยมันหลุดมาทำผมปากแตกเลย เอาไว้ค่อยคิดกับไคย์คุงทีหลังแล้วกัน แต่ตอนนี้ผมขอจัดการไอ้ถึกควายนี่ก่อนเถอะ แรงเยอะชะมัดยื้อกับมันอยู่นาน ผมก็รวบรวมแรงกระโดดถีบยอดอกมันติดกำแพงลานจอดรถ (ดูเฉินหลงมากไปป่าวเนี้ยคาสุม่า55+)

“ ไคย์  ไดสุเกะ คาสุม่าคุง ไปเร็วตำรวจมา" พี่เรียวแกตะโกนบอกพลางขึ้นรถตัวเองไปก่อน..แฮ่ๆๆ ขอแอบกัดพี่เรียวมันนิดนะครับ พี่แกแม่งไม่ยอมให้ตัวเองดูสกปรกเลยจริงๆ ท่าทางแกยังเนี้ยบตลอดเวลาไม่ได้ดูมอมแมมเหมือนพวกผม 3 คนซักนิดอะ

 ผมหันไปมองคุณพี่ไดของผม... แป๊บนะไดขอเอาเข่าให้ไอ้ถึกนี่กินแก้จุกทีสองทีเถอะ นี่น่ะๆกระทุ้งๆๆ ไดคุงเห็นท่าว่าผมจะหยุดไม่อยู่แล้ว เขาก็เลยวิ่งมาลากผมไปที่รถ ส่วนไคย์ก็โดดไปนั่งที่ข้างๆคนขับ พี่ไดจับผมยัดลงบนเบาะหลัง แล้วแกก็รีบตะกายขึ้นรถขับตามพี่เรียวไปทันทีเลยครับ

“โว้ย!! สะใจเป็นบ้า เก่งไม่เบานี่ ทำได้ไง คาสุม่า" ไอ้คุณเฮียไคย์!...ไอ้คุณเฮียจะแหกปากร้องขึ้นมาทำไมไม่ทราบ!...ไอ้ที่โดนๆไปนี่มันไม่เจ็บบ้างเลยเหรอเฮีย..?

ผมนึกด่าไคย์มันในใจ...ทำมาพูดดีอีกไอ้คุณไคย์ ตัวเองนั่นแหละเป็นต้นเหตุ เดินไปให้หมามันกัดได้ไงล่ะ..แล้วก็อดทำตาประหลักประเหลือกใส่ไคย์มันไม่ได้

“แค่เอาตัวรอดน่า พูดมากไคย์" ผมเหนื่อยจนไม่อยากพูดอะไรกับไคย์แล้ว ล้มตัวเองลงนอนบนเบาะ เจ็บหลังและไหล่ครั่นเนื้อครั่นตัวขึ้นมาเต็มที

“ ม่า เป็นอะไรมากไหม...?" พี่ไดมองกระจกหลังถามขึ้นครับ

“ไม่เป็นอะไรก็แปลกแล้วไอ้ไดสุเกะ โดนไม้ฟาดซะขนาดนั้น" คนที่ตอบนี่ไคย์นะครับ มันเสือกตอบแทนผมอะ

“ไม่เป็นไรหรอกน่า แค่นี้ไม่ตายหรอก" ผมไม่อยากให้พี่ไดกังวลมาก

“ไปหาหมอนะม่า"

“ไม่เอาอะ ไม่เป็นไรมากหรอกได”

“ แต่...ว่า…”

“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ไม่เป็นอะไรจริง ๆ " จะไม่เป็นอะไรได้ยังไงคาสุม่า...บริเวณที่โดนฟาดมันชาจนไม่รู้สึกเจ็บอยู่แล้ว ...แต่ผมก็ยังดันปากแข็ง...การเข้าโรงพยาบาลหรือการไปหาหมอแต่ละครั้งสำหรับผมแล้วมันเป็นอะไรที่ยากมากๆ ...ตั้งแต่ไหนแต่ไรผมก็ไม่ค่อยถูกธาตุกับโรงหมอเอามากๆซะด้วย...จะเจ็บแค่ไหนก็ขอบายล่ะครับ

“นายนี่อึดเป็นบ้า!"

“แล้วไงล่ะไคย์ ไม่เพราะไคย์เหรอชั้นเลยกลายเป็นจิ๊กโก๋อย่างที่ไคย์ว่าให้จนได้" ได้ยินเสียงไคย์หัวเราะอย่างชอบใจที่ผมดันทำตัวเข้าท่างที่มันว่ามาหมด

“แต่ก็ขอบใจนะ ไม่ได้คาสุม่า ชั้นกับไอ้ไดสุเกะมันเละแน่”

“พอแล้วพูดมากน่าไคย์... เหนื่อยจะนอน" ผมตัดบทขึ้นมา หลับตาลงง่วงจริง ๆ...รู้สึกเพลียมากกว่าครับ วันนี้ทั้งวันไดคุงพาตะลอนหางานจนเหนื่อยใจ ตกกลางคืนก็ดันมานั่งถ่างตาอยู่กับพวกไดอีกแถมยังซ่าไม่ดูตาม้าตาเรือมีเรื่องขึ้นอีก...ร่างกายล้าไปหมดเลยครับ...เหนื่อยโคตรๆ 

“คาสุม่า ไม่เป็นอะไรแน่นะ" ไดมันทำเสียงเก๊กเข้าใส่อะ...ดูมันจริงจังมาก

“อื้อ ขอบคุณนะได ไม่เป็นอะไรหรอก"

“แวะซื้อยาแล้วกันวะไดสุเกะ ดื้อแบบนี้...” เห็นไคย์ส่ายหัวให้ผมอย่างระอา...พร้อมกับบอกไดคุงไปแบบนั้น แล้วผมก็ไม่รู้เรื่องอะไรอีกเลย....


To be continue...



Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
Re: One man story 2,3
«ตอบ #16 เมื่อ12-08-2007 14:11:09 »

“ ไดถึงห้องแล้วเหรอ แล้วทำไมไม่เรียกล่ะ” ผมหลับไม่รู้ตัว สงสัยไดมันจะอุ้มจากรถขึ้นมาบนห้อง เมื่อขยับตัวลุกขึ้นนั่งก็เจ็บบริเวณที่ถูกฟาดขึ้นมาจนต้องนิ่วหน้าด้วยความปวด

“ก็เห็นหลับไม่รู้เรื่อง แล้วท่าทางม่าเหนื่อยก็เลยไม่อยากปลุก” พี่ไดน่ารักจังเลยฮะ...พี่แกถือเอาถุงยาหลายถุงมานั่งดูแล้วก็หันมามองอย่างสงสัย

"ทำไมถึงทำอะไรไม่คิดบ้าง ถ้านายหัวร้างข้างแตกขึ้นมาจะทำยังไง ไหนจะท็อตจิ แล้วไหนจะพ่อแม่นายอีก” อ่า... เอาแล้วไง...ดายท่าทางชีเรียสน่าดู จะสวดผมยาวแน่ๆ ผมก้มหน้าก้มตานิ่งจะให้ตอบว่าไงดีล่ะ ไหนจะอาการเจ็บจนทนไม่ไหวนี้อีก น้ำตาคลอเจ็บหัวไหล่และแขนซ้ายจนชาไปทั้งแถบ นึกไม่ถึงว่าอาการจะเป็นมากถึงขนาดนี้ เมื่อตอนที่โดนใหม่ๆยังไม่เห็นเจ็บเท่านี้เลย ผมไม่ตอบคำถามไดคุงซะทีเดียว เตรียมตัวผละไปแช่น้ำอุ่นดีกว่าเผื่ออาการจะดีขึ้นมาบ้าง

“จะไปไหน มาคุยกันก่อน”

“โอ้ย!ไอ้บ้า !! เจ็บนะ!!!” ผมเผลอร้องด่าให้ ก็ดันจับตรงไหนไม่จับไปจับบริเวณที่เจ็บเข้าพอดี

“โทษที ๆมานี่ซิ...” ไดคุงเปลี่ยนมาจับมือและพาไปที่ห้องนอนแทน

“ถอดเสื้อออก”แล้วมันก็สั่ง

“พูดอะไร ไม่มีอารมณ์นะเว้ยได... มาให้ถอดอะไรกันตอนนี้...” ผมไม่สบตาดาย เสพูดเล่นไปเรื่องอื่น...รู้นะว่าที่มันพูดอะจุดประสงค์ของมันหมายถึงอะไร

“คาสุม่า!” ดายก็เน้นเสียงเย็นใส่อีก มันเรียกชื่อจริงของผมเต็มๆเลยแหละ ไอ้ไดมันโกรธผมแน่ๆ

น้ำตาซึมขึ้นมาทันที...ชักจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว ทำไมต้องมาอะไรกับกูกันนักหนา

...ผมรู้ว่าไดจะดูบริเวณที่โดนไม้ฟาด แต่ผมไม่อยากให้พี่ไดมันเห็น ไม่อยากให้มันเป็นห่วง ไปมากกว่านี้และให้ไดมันรู้สึกผิด น้ำตาพาลจะไหลออกมาทั้งเจ็บและไม่เข้าใจตัวเอง...พาลไม่เข้าใจไดมันด้วย

“ถอด คาสุม่า!” ไดก็ชักจะหมดความอดทนกับผมเต็มที

“อะไรเล้า!!”

“ คาสุม่า” เสียงเย็นเลยล่ะครับทีนี้

"จะถอดไม่ถอด....?"

“โธ่! ไอ้บ้า ก็มันยกแขนไม่ขึ้นนี่ ฮึก!….” กลั่นไม่อยู่แล้ว... ผมปล่อยโฮออกมาอย่างสุดห้าม

พี่ไดมันก็ดูตกใจที่เห็นผมร้องไห้ มันเข้ามาใกล้ๆไม่ได้ว่าอะไรอีก แต่เอื้อมมือมาปลดซิปเสื้อแจ็คเก็ตตัวใหญ่ออกให้แทน

“ คาสุม่า... ฉันขอโทษ...” พูดไปพลางมือก็จับแขนผมค่อยยกขึ้นตั้งกับไหล่ของมันเพื่อที่จะถอดเสื้อใหมพรมอีกตัวให้ได้

“เจ็บมากมั้ย...?”

“ฮื่ออ…เพราะนายนั้นแหละเสือกไปยื่นนิ่งๆให้มันทำไม กลัวมันจะตีไม่ถูกเอาเหรอไง? งี่เง่าที่สุดเลยฮึก!…..” ตกลงด่าไอ้คุณพี่ไดหรือตัวเองก็ไม่รู้ ด่าไปเช็ดน้ำตาไป ..ผมจะนิสัยเสียแบบนี้เวลาร้องไห้จะพาลไปหมด

“ ฮื่ออ … มันไปเอาแรงวัว แรงควายที่ไหนมา ฟาดลงมาได้ถ้าหลังชั้นหักละก้อ ….” ผมพูดยังไม่ทันจบก็พอดีที่เสื้อตัวสุดท้ายถูกไดถอดออกไปอูยย…หนาวง่ะ

“ ฮื้อ….ได เจ็บ.. อะ..เจ็บ ฮึก!..” ผมร้องไห้ไม่สนใจแล้วเมื่อเห็นต้นแขนซ้ายของตัวเองเต็มตา ไดจับตัวผมพลิกดูบริเวณที่โดนไม้ฟาดชัดๆ อือ….มันซ้ำและบวมขึ้นมา เป็นสีเขียวคล้ำเต็มหัวไหล่และแขนซ้าย พาดยาวไปถึงกลางหลัง จากที่พอจะทนได้ในทีแรก แต่เมื่อเห็นชัดแล้วกลับเจ็บขึ้นมายิ่งกว่าเก่าอีก

“ ฮือออ…ไม่ได้เรื่องๆ ทั้งนายทั้งไคย์เลย ปล่อยให้ชั้นโดนอยู่คนเดียว ดูซิปากก็แตกตั้งแต่เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ชั้นยังไม่เคยเจ็บขนาดนี้ซักครั้ง” เมื่อเจ็บก็เลยพาลมั่วไปหมดทั้งเจ็บทั้งด่า ไดคุงคงได้นึกด่าผมอยู่ในใจแน่ แขนไม่มีแรงแม้แต่จะยกหรือแกว่ง ต้องยกมืออีกข้างขึ้นมาเช็ดน้ำตา

“คอยดูนะชั้นจะกลับไปเผาบ้านมันให้ดูฮื่อออ…” ผมยังคงด่าไปร้องไห้ไป เห็นไดแอบส่ายหน้าระอา แต่ก็อมยิ้มนิดๆ

“เมื่อกี้ยังบอกว่าไม่เห็นตายไง แล้วไหงกับร้องไห้ขี้มูกโป่งแบบนี้ละหื้อ?”

“ฮื่ออ..ไอ้บ้าไดไม่ต้องมาล้อเลย ชั้นเจ็บนะ”ผมเอามือข้างที่ไม่เจ็บปัดมือใหญ่ๆของมันที่เริ่มมาเล่นที่หัวทุยๆของผมอีก

“คาสุม่า” เสียงมันอ่อนๆเชียว...ทีเมื่อกี้แม่งทำเป็นโหด!

“ไปเปิดน้ำอุ่นให้ทีสิ นั่งจ้องอยู่ได้” แล้วไดก็โดนไปอีกยก ก่อนที่เขาจะทันได้เอ่ยอะไรออกมา ผมหลบตาคมคู่นั้นมองที่แผลตัวเองไม่ได้นึกจะไปเผาบ้านมันจริงๆหรอก ไม่ได้แค้นมันอะไรกันนักหนาด้วย ถ้าจะโทษก็ต้องโทษตัวเองที่ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดี

ไดคุงยังไม่ลุกไปไหนทั้งนั้น พี่แกเล่นจ้องผมเอาเป็นเอาตายสายตาคาดคั่นเค้นหาบางอย่าง...ผมก็หลบตาซิฮะ เหมือนคนมีชนักติดหลังอะ รู้ทั้งรู้ว่าไดคุงต้องการอะไร ...เขาจับไหล่ผมหันเข้าหาทันทีเอามือเช็ดน้ำตาให้ด้วยความอ่อนโยน

“ทำไมต้องมาบังให้ชั้นด้วยละ คาสุม่า?” นั่นไงคำถามอันตราย กะแล้วว่าพี่ไดมันต้องคิดมาก ผมอึกอักจะให้ตอบไดว่ายังไงดีล่ะ ...หยุดร้องไห้ไปโดยอัตโนมัติ

“ทำยังกับกระดูกของไดมันแข็งยังงั้นแหละ กระดูกนายน่ะมันอ่อนกว่าชั้นเป็นไหนๆ” นั้นตอบมั่วเข้าไปนั้น ...

“ นี่คาสุม่า” ไอ้คุณพี่ไดมันชักยั๊วะขึ้นเสียงกระชากใส่ผม

“ก็มันจริงไหมล่ะแล้วอีกอย่างชั้นขี้เกียจมาดูแลปรนนิบัตินายเวลานายต้องใส่เผือก” ผมยังไปได้น้ำขุ่นๆไม่ได้โกหกทั้งหมดซักหน่อยนี่ครับ ไดทำหน้าระอาอีกแล้วเมื่อเห็นผมปากไม่ตรงกับใจ

“ จะกวนไปถึงไหนคาสุม่า”

“ ไดน่า!... ก็ดีกว่าไดเจ็บแล้วกันนะ” พูดไว้แค่นั้นแล้วผมก็ลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำไปทันที

“ เอ้า! นั่งบื้ออยู่ได้มาอาบน้ำให้ด้วย เร็วๆ” เมื่อโผล่หน้ามาจากประตูห้องน้ำก็ยังเห็นไดมันยังนั่งหน้าเหวออยู่ที่เก่า อย่าบอกว่านั่งตีความหมายกับคำพูดของผมอยู่ สมองทำงานช้าจังพี่ไดนี่
...

“ให้อาบให้จริงงะ” ทำหน้าหื่นเชียวนะเพ่ ผมเจ็บไปหมดทั้งตัวหรอกก็เลยพาลขี้เกียจไม่อยากจะขยับตัวทำอะไรทั้งนั้น

“ คิดลามกอะไรอยู่อีก ชั้นก็มีเหมือนไดนั้นแหละ ทำอย่างกับไม่เคยเห็นของตัวเองมาก่อน แค่จะให้ถูหลังให้เท่านั้น...เหนื่อยล่ะไดเจ็บและเมื่อยไปหมดทั้งตัวอยากนอนแช่น้ำเฉยๆ” ไอ้คุณพี่ไดมันยิ้มจนปากแถ[จะถึงรูหูเลยครับ ฮ่าๆๆ...ตลกมันอะ

และแล้วการอาบน้ำและลงอ่างก็ทำท่าจะผ่านไปด้วยดีแต่แล้วก็...

“ ไดจะล้วง เข้าไปคลำหาอะไรบ่อยๆห๋า!ตรงนั้นน่ะ!?” โดนผมเอ็ดให้เลยคลำๆลูบๆอยู่ได้จั๊กจี้จะจับก็ไม่กล้าจับ

“ก็เห็นม่ายังไม่ได้ทำความสะอาด ฉันก็เลยจะทำให้” ดูมันตอบซิครับ ก้มหน้าตอบเขินๆด้วย

..กูก็เขินมึงจะแย่ไอ้คุณพี่ไดสุเกะ ตั้งแต่เล็กจนโตพอจะจำความได้ กูก็ยังไม่เคยให้ใครอาบน้ำให้ มีมึงนี้แหละที่เสือกดีนัก

“ ไม่ต้องชั้นทำของชั้นเอง มือขวายังใช้ได้ดี” แล้วผมก็นอนคว้ำเอาหน้าเกยกับขอบอ่างหันหลังให้ไดคุงมันไปเลย ทั้งผมและไดมีผ้าขนหนูผืนเล็กๆ พันช่วงสะโพกไว้แค่นั้น

ไดคุงใช้ปลายนิ้วคลึงเบาๆที่บริเวณท้ายทอยให้ ไล่ขึ้นมาหาขมับทั้งสองข้าง อ่า...รู้สึกดีจริงๆ สบายจังเลย ...ปลายนิ้วลื่นๆนวดต่อไปยังหัวไหล่และหลัง... ง่วงขึ้นมาจริงๆซะแล้ว มันสบายสุดๆเวลาไดนวดให้แบบนี้...ผมชอบบ

“ ง่วงเหรอ...?”

“ อื่อ”

“ งั้น..ก็พอ”

“ อื่อ”

“แต่ว่าตรงนั้นยังไม่ได้ล้าง” อีกแล้วไดเนี้ย!! มันจะอะไรกันนักหนากับอีตรงนั้นของผมนะ

“ อื่ม อยากทำก็ทำสิ” กะอีแค่มือของไดก็เหมือนมือของตัวเองนั้นแหละรีบๆล้างรีบๆจับจะได้ไปนอนชักที (แกชักจะขี้เกียจเกินไปแล้วคาสุม่า) ไดเข้ามาสวมกอดจากทางด้านหลังให้แผ่นหลังของผมสัมผัสกับหน้าอกของตัวเขา ผมนั่งตักไดโดยมีผ้าขนหนูกั้นกลางพลางเอาหัวอิงกับซอกคอเค้าไปด้วย.... อยากหลับอยู่แบบนี้จังเลย กร๊าซซซซซซซซซ มีความสุขจังวุ้ย!

แต่แล้วมันก็ชักจะยังไงๆ...

อ๊ะ! นี่ไดจะล้าง จะลูบ หรือจะทำอะไรกันแน่ผ่านไป 10นาที จวนจะเปื่อยอยู่แล้วนะครับคุณพี่!.คุณพี่ก็ได้แต่ลูบขาอ่อนผมเล่นอยู่นั้นแหละ! มือก็ชักเข้าชักออกจากผ้าขนหนูเป็นรอบที่ร้อยแล้วกระมัง ...อ่อนหัดจริงๆพี่ไดเอ้ย! ไม่ได้เรื่องเลยคนเค้าอุตสาห์ปล่อยโอกาสให้แล้ว^__^

“ ไดเมื่อไหร่จะเสร็จซะที”...นี่กูยุส่งตัวเองให้มึงแล้วนะไอ้คุณพี่ได

“ ม่า...?" ...อะไร...?...ผมนั่งฟังมันนิ่งๆครับ

"ถ้าทำแล้วเอ้ย!!ไม่ใช่ ถ้าจับแล้วชั้นกลัวห้ามใจไม่ไหว เกิดฉุดไม่อยู่ เผลอทำมากกว่านั้นล่ะ” ก็อันตรายสิเพ่ถามได้

“ก็ไม่ต้องทำไม่ต้องจับแล้วกันนะได แค่นี้ก็หมดเรื่องไปเถอะอยากนอนแล้ว ” ผมลุกจากอ่างไปเช็ดตัวไม่ลืมที่จะฉุดแขนคนตัวโตหน้าบู้อย่างขัดใจออกไปด้วยกัน สมน้ำหน้าอยากช้าไม่ได้เรื่องดีนัก....ใส่เสื้อผ้าไปก็ขำไปครับ...ไดคุงมันยังนั่งหน้าตาบู้ๆอยู่ตรงขอบเตียง

“ เอ้า! นอนได้แล้วเพ่ พี่ไม่ง่วงแต่ผมง่วงนะครับ” ผมใชแขนข้างที่ไม่เจ็บดึงแขนไดลงมานอนด้วยกัน ดึงผ้าห่มมาคลุมทั้งตัวเองและไดให้เสร็จสรรพ

“ ยังนอนไม่ได้นายยังไม่ได้ทายาเลย”แล้วไดมันก็รีบลุกเหมือนมันก็พึ่งจะนึกขึ้นได้ว่าผมต้องทายาแก้ฟกซ้ำด้วย

“ อะไรกันก็เมื่อกี้ให้กินไปแล้ว ยังจะมียาทาอีกเหรอ”

“ก็แก้อักเสบฟกซ้ำดำเขียว”

“ก็ได้ๆ เพื่อความสวยงามไร้รอยแผลเป็นของเรือนร่างเอ้า !!ทาให้หน่อย” ไดคุงถอดเสื้อนอนผมออกแล้วก็ให้ผมนอนฟุบหน้าลงกับหมอนเพื่อที่จะทายาที่หลังได้สะดวกขึ้น

“ ขอโทษนะม่า... ที่ทำให้เจ็บแบบนี้” เสียงอ่อยๆของไดดังขึ้นมา

“ ไม่เป็นไรดอกได ไม่ใช่ความผิดของนายซักหน่อย”

“ แต่มันก็ไม่ใช่ความผิดของม่าเหมือนกัน” ก็ไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้นแหละ

“แล้วทำไมถึงทำแบบนี้ ถ้าหลังหักขึ้นมาจริงๆจะทำยังไง”

“ไม่เอาน่าได อย่าคิดมากเลยนะชั้นไม่เป็นอะไรแล้ว"

“ก็เป็นห่วงที่หลังอย่าทำอีกนะ” ผมอมยิ้มซ่อนหน้าร้อนผ่าวลงกับหมอนทันที...กูก็เป็นห่วงมึงจะแย่ไอ้คุณพี่ไดรู้ตัวไว้ด้วย!

ดายลูบผมของผมเล่นไปมาซักพักก็ดึงผ้าห่มมาคลุมให้ แล้วตัวเองก็ลงมานอนซุกผ้าห่มกับผม

“ที่จริงแล้วเป็นห่วงฉันใช่มั้ย? ขอบคุณนะคาสุม่า ขอบคุณจริงๆ” น้ำเสียงนิ่มกระซิบที่หลังใบหูแผ่วเบา ผมหันหน้าเข้าหาซบหน้าลงบนคอเขา แอบสูดกลิ่นกายที่ผมหลงไหลและทำเป็นประจำทุกคืนเข้าปอด

“ ไม่อยากเห็นใครบางคนดีดกีตาร์ไม่ได้ต่างหาก...” แล้ววงแขนยาวเรียวก็โอบกอดรอบเอวผมแน่นทันทีที่ผมพูดจบ...เสียงหัวเราะด้วยความชอบใจก็ดังตามมาติดๆ

“ปากแข็ง” ก็รู้แล้วทำไมต้องคาดคั้นให้ตอบด้วยไม่เข้าใจไดจริงๆ...ไดคุงมันว่าผมอะ

“ เมื่อกี้ยังไปไม่ถึงไหนเลย” นั้นไงได้คืบจะเอาศอกแล้วครับท่าน

“ หมดเวลานาทีทองแล้วเพ่”

“ ใจร้ายอะ”

“อะไรใจร้ายอะไร อย่ามั่วไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย”

“ก็ไม่อยากเป็นเหรอ” ใจผมเต้นตุ้มๆต่อมๆ ดายพูดอะไรอยู่ ...รู้ตัวหรือเปล่า...?

“ อยากให้เป็นอะไรอะ...?”...ไอ้สตอเบอรรี่!..รู้ๆคำถามอยู่แต่ดันกระแดะแกล้งถามมันไปงั้นแหละฮะ

“ ก็ เอ่อๆก็..”

"ไม่เอาอะแบบนี้แหละดีแล้ว นอนเถอะไดพูดมากอยู่ได้” เขินวุ้ย ผมตัดบทไดคุงขึ้นมาเฉยๆ ไม่อยากคาดหวังกับคำตอบของมันซะแล้ว

“ตัวนิ่มจังม่า...”

“นอนได้แล้วไดพูดมากอยู่ได้!”

“ก็มันนอนไม่หลับ”

“งั้นชั้นหลับก่อน ห้ามนายทำอะไรพิเรนท์ๆกับชั้นเป็นอันขาด”

"ก็ไม่แน่ถ้านายยังใจดำอยู่แบบนี้”

“ อ้าวพูดงี้ก็สวยซิเพ่”

“ ไม่รู้เหรอนายน่ะสวยสะเด็ด”ไอ้บ้าได ตามันเชื่อมเยิ้มไปหมดแล้วครับ

“ไอ้บ้า!” ชมกันซะเวอร์ ก็เขินนะสิ หน้าร้อนผ่าวไปถึงใบหูพูดอะไรไม่ออกก็เลยด่าให้ซะเลย แล้วเสียงหัวเราะของไดก็ดังขึ้น

“สวยจริงๆนะม่า... สวยแบบโฉดๆโหดๆ สวยประหารอะไรทำนองเนี้ย!” พูดเสร็จไดมันก็หัวเราะขึ้นอีก นี่แน่ะๆโดนชกอกให้เลย ตกลงนี่มันชมผมจริงๆอะเปล่า..

“ จะไปสู้ขาว สวย หมวย อึ๋ม ของนายได้ไงแหละ” ผมว่าหน้างอจะหันหนีแต่ก็เหมือนไอ้คุณพี่ไดตัวดีมันจะรู้ มันรัดวงแขนแน่นขึ้น ไม่ให้ผมกระดุกกระดิกไปทางไหนเลยครับ

“ฉันชอบสวยแบบโฉดๆโหดๆขึ้นมาแล้วอะม่า...ทำยังไงดีล่ะ...” แล้วผมก็นอนนิ่งแข็งเป็นหุ่นไปทันทีที่ไดพูดจบ

ไดพูดจริงหรือพูดเล่น ไม่ต้องรอให้ผมสงสัยนานไปมากกว่านี้แล้วครับ

... สัมผัสแผ่วเบาของริมฝีปากก็ประทับลงมาบนหน้าผากอยู่เป็นนานจากนั้นริมฝีปากสวยก็ไล่พรมจูบพร้อมกับลมหายใจอุ่นร้อนที่รดผ่าวให้ทั่วใบหน้า ผมหลับตาพริ้มนึกถึงสัมผัสหวานต่อไปของไดอีก อ๊ะ.... อ๊ากกกกกกกกกก

“ ไดง่วงๆ ง่วงอะ นอนๆๆๆ” โอ้ย !!เกือบไปแล้ว เกือบเป็นลมแล้วคาสุม่า ดีนะที่รีบเบรกไดกลางอากาศได้ทัน เมื่อผมนึกได้ว่าไดจะทำอะไรผมต่อจากนี้ ริมฝีปากไดห่างจากปากผมไม่ถึงคืบ หายใจไม่ทั่วท้องเอาเลยให้ตายเถอะ ไดจะหยุดหรือจะต่อ ไม่อยากคิดอะ แต่จริงๆแล้วผมก็อยากอะนะ อยากจูบริมฝีปากสวย จูบรสหวานที่เคยฝันเล่นๆอยู่ต่อหน้าแท้ ๆแต่ไม่มีปัญญาทำ

เอื๊อกก!!! เสียงน้ำลายกลืนลงคอของใครก็ไม่รู้ดังขึ้น

“ก็ได้ๆคาสุม่า... ฝันดีนะ” ในที่สุดก็อด ผมหน้าง้ำแอบถอนหายใจอย่างเสียดาย ไม่น่าเบรกเพ่ไดมันกระทันหันเลยครับ เอ๊ะ !!

“ฮื้อออ ดะ ได” เอาแล้วไหมล่ะโดนเอาคืนให้แล้ว ไดแตะริมฝีปากลงมาตอนเผลอโดยไม่ให้รู้ตัว หรือเขาจะรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ จูบหวานละมุนที่หมอบให้ เล่นเอาผมอ่อนระทวย ปลายลิ้นก็หยอกเย้าเล่นอยู่ภายในปากล่อให้ผมใช้ลิ้นตัวเองไล่ออกไป ติดกับไดเข้าให้แล้ว ไม่มีทางละออกจากริมฝีปากนี้ได้แน่ มือใหญ่เลื่อนมาประคองที่ท้ายทอยให้ผมจูบตอบได้ถนัด ปลายลิ้นตวัดซอนไซร้อย่างเหนือกว่าของไดทำเอาผมดิ้นไปไหนไม่ได้ อื้ออ หายใจไม่ออก ไดจะจูบให้ผมตายได้ไหมนะ...ทำไมมันจูบเก่งอย่างเน้...

“ ชดเชยตอนอาบน้ำนะครับ” ไดคุงว่าเมื่อถอนริมฝีปากออกไปในที่สุด อ้อมแขนก็กอดเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ผมได้แต่นอนหอบหายใจปิดปากเงียบ จะให้พูดอะไรได้อีกล่ะครับ... อายจนไม่รู้จะเอาหน้ามุดไว้ตรงไหนแล้ว

“หลับได้แล้วเด็กบ๊องก์ นี่คือบทลงโทษสำหรับเด็กปากไม่ตรงกับใจ” ดายหัวเราะเบาๆอย่างอารมณ์ดี และปล่อยให้ผมทุบอกเบาๆเล่นแก้เขิน

"ไอ้บ้า!"ขอด่ามันอีดหน่อยเถอะ...เขินว้อยได!

"คำก็บ้า สองคำก็บ้า เดี๋ยวจะโดนคนบ้าตบด้วยปากอีกรอบ..." ดูมัน ดูมันพูดซิครับ...อายปากมั้ยนั้น ไดมันยิ้มกรุ้มกริ่มเข้าใส่เลยล่ะ...ผมไม่พูดอะไรเลยครับ ปิดปากตัวเองไปโดยปริยาย กลัวถูกมันตบด้วยปากอีกรอบ...เอาผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้า ซ่อนหน้าร้อนๆของตัวเองไว้ภายใต้ผืนผ้านวมหอมๆนั้นแทน...ได้ยินเสียงหัวเราะของไดดังลั่นด้วยความชอบใจ...

นี่ผมติดกับไดเข้าจริงๆนะเหรอ ไม่อยากจะเชื่อว่าเวลาแค่ไม่กี้วันจะทำให้ผมชอบไดมากแบบนี้ ไดจะชอบผมบ้างหรือเปล่านะ ที่ทำลงไปแบบนี้หรือจะแค่แกล้งเล่น แค่สงสารอาจจะเป็นเพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบก็ได้...ถ้าคนอื่นรู้ผมจะทำยังไง แล้วถ้าท็อตจิรู้มันจะว่ายังไงบ้าง ไอ้บ้านี้มันชอบแกล้งอยู่ด้วย มันคงล้อผมตายจะทำหน้ายังไงยังนึกไม่ออกเลย...

“ ได….?”

……

“ ไดคุง...?”….

“ ว่าไง ยังไม่หลับอีกเหรอ...?”

“ก็ เอ่อ ก็...” อยากถามดายให้เคลียร์ที่ทำลงไปเมื่อกี้หมายความว่าไง

“ก็….. จะ เจ็บแขน ไดรัดแน่นอะ” เฮ้ย!!! ทำไมมันถึงอาศัยความกล้าหาญนักวะช่างเถอะจะด่วนใจเร็วไปทำไม รอดูไปเรื่อยๆ ก่อนดีกว่าคาสุม่า

“หลับแล้วเหรอ...?”

“อือ” ผมครางตอบเอามือยกขึ้นปิดปากไดก่อนที่เขาจะเอ่ยถามด้วยสงสัยอะไรที่ค้างอยู่อีก จะหกโมงเช้าแล้วมั่ง ไดก็ท่าจะเพลีย เขายอมคลายอ้อมกอดให้ผมเล็กน้อยแล้วก็ปิดตาลง อ๊ะ!...แล้วผมจะมัวมาเพ้อหาสวรรค์วิมานอะไรละเนี้ย นอนๆๆๆ...นอนแล้วครับ



To be continue.

ไม่พูดพร่ำทำเพลง ขอบคุณทุกคนมากๆเลยนะครับที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้กัน...ไอ้เอ็มเป็นปลื้ม รู้สึกบ้านหลังนี้อบอุ่นมากมายเลยครับ...(ยิ้ม)

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
Re: One man story 2,3
«ตอบ #17 เมื่อ13-08-2007 01:09:36 »

I LOVE  DK   :m3: : :m11:m1:

kei_kakura

  • บุคคลทั่วไป
Re: One man story 2,3
«ตอบ #18 เมื่อ13-08-2007 01:35:34 »

 :m3: :m3: :m3: :m3:  กรี๊ซซซซซซซซซซซซ....น่าร๊ากกกกกกกกกกกกก.....

 :m2: :m2: :m2: :m2: :m2:

@^_^@PeaZa@^_^@

  • บุคคลทั่วไป
Re: One man story 2,3
«ตอบ #19 เมื่อ13-08-2007 03:25:34 »

 :m11: :m11: :m11: :m11:

เย้ มาต่อซะที รอตั้งนาน

สนุกนะเนี่ย จะเป็นยังไงต่อ มาต่อไวไวน้า

 :m3: :m3: :m3: :m3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: One man story 2,3
« ตอบ #19 เมื่อ: 13-08-2007 03:25:34 »





ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
Re: One man story 2,3
«ตอบ #20 เมื่อ15-08-2007 18:27:21 »

 :m3: :m3: :m3:

@^_^@PeaZa@^_^@

  • บุคคลทั่วไป
Re: One man story 2,3
«ตอบ #21 เมื่อ17-08-2007 16:24:00 »

หายไปอีกละรออยู่น้า ดันๆๆๆๆ  :m21: :m21: :m21:

@^_^@PeaZa@^_^@

  • บุคคลทั่วไป
Re: One man story 2,3
«ตอบ #22 เมื่อ19-08-2007 17:16:44 »

 o9 o9 หายไปอีกแย้ว หลายวันแล้วนะ  o9 o9

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
Re: One man story 2,3
«ตอบ #23 เมื่อ20-08-2007 00:29:16 »

สนุกมากค้าบแล้วมาต่อไวๆๆน้า

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: One man story 2,3
«ตอบ #24 เมื่อ20-08-2007 21:35:17 »

เหอะๆ รอดมาได้เพราะเหนื่อยอ่ะป่าว
 :m11: :m11:

theera

  • บุคคลทั่วไป
Re: One man story 2,3
«ตอบ #25 เมื่อ21-08-2007 12:06:13 »

สนุกดีคับ :m12: :m12: :m12:

@^_^@PeaZa@^_^@

  • บุคคลทั่วไป
Re: One man story 2,3
«ตอบ #26 เมื่อ21-08-2007 12:33:46 »

รอรอรอรอรอรออรอรอรอรอรอ

 o9 o9 o9 o9

Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
Re: One man story 1,2,3,4,5
«ตอบ #27 เมื่อ21-08-2007 19:00:34 »

One man story < 4 >


“ไดๆ ตื่นเถอะ” ผมสะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงโหวกเหวกอยู่หน้าห้อง

“ฮืออ …อะไรคาสุม่า...?”ไดสุเกะคุงงัวเงียๆ ผงกหัวขึ้นมองภายในห้องยังไม่มืดก็แสดงว่ายังเป็นตอนเย็นอยู่

“ได้ยินเสียงอะไรไหม...?” ไดตะแคงเงี่ยหูฟังตามที่ผมบอก

“ไคย์นี่มาทำไม...?”

“ตกใจหมดนึกว่าควายที่ไหนมาเกิดลูกอยู่หน้าห้องซะอีก” ก็ดันแหกปากตะโกนลั่นดีนะที่ข้างห้องเขาไม่ออกมาด่าเอาก็บุญแล้ว ไดคุงเข๊กหัวผมเบาๆในความช่างว่า

“ ไปว่าให้มันได้ยินสิ เดี๋ยวมันด่าเปิง” เขาว่ายิ้มๆแล้วก็ลุกออกจากเตียงไปเปิดประตูให้เฮียไคย์ ส่วนผมก็ปิดตาลงนอนต่อ...ก็มันยังง่วงอยู่

“ หวัดดีแก... ทำแม่งไรอยู่วะปล่อยให้เรียกตั้งนาน”

“โทษที พอดีหลับเพลินเลยไม่ได้ยิน”

“เหรอ...แล้วน้องแกล่ะ?”

“น้องไหนวะ?”

“อ้าวไอ้นี่! พ่อแกไข่ทิ้งไว้เรี่ยราดเหรอวะ ถึงมีน้องเต็มบ้านเต็มเมืองจนจำหน้าตาน้องตัวเองไม่ได้ ...ก็คาสุม่าไง”

“ อ้าวไอ้นี่! เล่นพ่อเชียวนะมึง! หัดให้ข้าวหมาบ้างสิวะ! ปล่อยให้มันตายอดตายอยากเที่ยวกัดคนอื่นเขาอยู่ได้!” อ๊ะ พี่ดายผมสุดยอด ต้องอย่างนี้สิเพ่ ...ผมนอนนิ่งเอาหูตะแคงฟังเอาแค่ผ่านๆ

“ เอ่อ ๆ ก็ได้วะ ก็แกอยากกวนก่อนทำไม”

“คาสุม่าไม่ใช่น้องฉัน แกน่ะโดนเด็กต้มแล้ว.... เขาเป็นเพื่อนท็อตจิมันเว้ย!”

“อ้าวไอ้เวร!ทีหน้าทีหลังก็เสือกบอกเพื่อนบ้างดิ ช่วยเด็กมันต้มกูอยู่ได้...โด่ !! ไอ้XXX!!.”

“พอๆๆ ไคย์มึงหยุดเลยนะ ..กูไม่ได้ตื่นขึ้นมาเพื่อมารับคำด่าของมึง...กูยิ่งนอนไม่เต็มตาอยู่ มึงมีอะไรก็ว่ามาลีลาอยู่นั้นแหละ กูง่วง... ว่าแต่มึงคงไม่ได้มาถามหาน้องกูจริงๆหรอกนะ”

“ ก็นั้นแหละ น้องร่วมโลกมึงเป็นไงบ้างล่ะ?”

“ท่าจะแย่คงจะปวดไปอีกหลายวัน ร้องเจ็บซะลั่นห้อง นู่นยังนอนอยู่บนเตียงอยู่เลย”

“ก็คงจะเป็นอย่างนั้น น้องไรวะรักพี่เหลือเกินเข้าไปรับไม้แทนกันได้” อ้าวๆไอ้คุณเฮียไคย์ ปล่อยหมาออกมาไล่ฟัดผมอีกแล้ว ...ไม่ได้ตั้งใจแอบฟังนะก็เสียงมันดังเข้าหูเอง ไปพูดกระแนะกระแหนไดคุง เดี๋ยวก็ได้มาคาดคั่นเอากับผมหรอก เสียงไดก็เงียบไปหรือว่ากำลังนึกสงสัยอะไรกับสิ่งที่ไคย์มันพูดอยู่อีก...

“ขอแอบไปดูหน่อยได้ไหมวะ อยากเห็นนักตอนหลับ ว่าจะร้ายเหมือนตอนที่ตื่นหรือเปล่า คนแม่งไรวะ หน้าตาก็สวยน่ารักดีแท้ แต่แม่ง ปากโคตรๆ”

มึงจะมาแอบดูกูหลับทำมายยยยยยยยยยยยยย...?...อย่าเชียวนะ อย่ามายุ่งกะกู

"มึงก็เหมือนกันพอกันนั้นแหละ”สมน้ำหน้า ถูกพี่ไดสุเกะของผมว่าให้บ้างเลย

“นี่พวกมึงนอนเตียงเดียวกัน???...”

“ก็เอ่อสิ ...จะให้ไปนอนไหนละ”

“หือ! จริงๆวะ คนไรวะไดสุเกะ? นี่ขนาดนอนหลับนะ หน้ายังหาเรื่องเลย” เตียงยวบลงไปเมื่อมีคนนั่งลง...เสียงกวนประสาทของไคย์ดังขึ้นข้างๆตัว...คิดว่าผมไม่ได้ยินเหรอไงเฮีย ไอ้ที่นินทาๆอะ

“ฮื้อ! ไดคุงครับหมาที่ไหนถูกกัดมาเห่าอยู่ในห้องแต่หัววันเลยครับ ไม่ไช่เสียงควายเกิดลูกที่หน้าห้องหรอกหรือครับ”กร๊าซซซซซซซซซซ ผมแกล้งพลิกซ้ายพลิกขวา ตายังปิดอยู่ทำหน้ารำคาญ

“ควายที่ไหนเกิดลูกอยู่หน้าห้อง?”ไคย์ทวนคำ แล้วผมก็ต้องอดขำแทบตายอยากแอบมองหน้าไคย์มันนัก นี่มันจะรู้ไหมว่าผมแอบด่าเฮียมันอยู่...มันทำหน้าได้สมกับไอ้ตัวที่ผมพึ่งด่ามันออกไปเลยครับ...ตลกชิบโป้ง!

“ โห!! นี่โดนหนักขนาดนี้เลยหรือวะเนี้ย”ไคย์เลิกผ้าห่มออกดูหลังผม

“คุยกันเบาๆหน่อยได้มั้ย คนจะนอน!...แล้วมายุ่งอะไรกับหลังชั้นด้วย! เอามานี่หนาว…”ผมหมดความอดทนหงุดหงิดที่ถูกรบกวนการหลับ ดึงผ้าห่มจากไคย์มาแล้วลงนอนต่อ

“อ้อ! ลืมไปหวัดดีเฮีย” ทักไคย์พอเป็นมารยาทแล้วหลับตาต่อทันที..ลองไม่ทักมันดูดิ...ต้องถูกมันแทะจนร่างพรุนแน่
 
“คาสุม่า นายนี่กระดูกแข็งเป็นบ้า”

“โอ้ย !!!ไอ้เตี้ย ไอ้บ้าไคย์ทำอะไร เจ็บ..เจ็บนะโว้ย!”

“เฮ้ยไคย์!! ทำแม่งอะไรอย่างนั้นเดี๋ยวม่าก็หลังหักหรอก ลงมาๆเดี๋ยวนี้เลยนะมึง!”ไดคุงช่วยผมด้วย...

“แฮะๆๆโทษทีๆ ก็กะจะทดสอบไงว่ากระดูกแข็งจริงเปล่า?”

“ไอ้บ้า ทดสอบอะไรแม่งทำแบบนี้วะ”ไดคุงเข้ามาดึงไคย์ออกจากเอวผม

ไคย์นะไคย์อยากจะแกล้งคืนก็ว่ามาซิ นั่งลงมาได้บนหลัง เจ็บขึ้นมาอีกแล้ว พี่ไดสุเกะของผมเข้ามาช่วยประคองให้ผมลงนอนได้ถนัด พอขยับตัวผมถึงได้รู้สึกว่ามันปวดไปหมดทั้งตัว..เจ็บจนน้ำตาซึมขึ้นมาเลยครับ เมื่อลองขยับแขนและหัวไหล่ดูก็แทบจะยกไม่ขึ้น

“คาสุม่า ขอโต๊ดดดด”เฮียไคย์มันพูดเสียงอ่อยๆหน้าซึมๆ คงจะรู้ว่าทำให้ผมเจ็บจริงๆ

“เจ็บมากไหมคาสุม่าไปหาหมอนะ”

“ไม่เป็นไรหรอกได พอทนได้เดี๋ยวก็คงหาย” ผมยังคงนิ่วหน้าด้วยความปวด

“แน่นะ”

“อืม ยังไหวน่า”

“งั้นเดี๋ยวฉันไปทำกับข้าวนะ นายจะได้กินยา ไปไคย์นายมานี่เลย”ไดคุงหันไปทำตาเขียวใส่ไคย์

“นายไปก่อนสิ คาสุม่าขอโทษนะ นี่ๆ มาหาโดยเฉพาะเลยนะเอายามาให้”เฮียไคย์มันมาแปลก เข้ามาดึงไดออกจากข้างๆผมแล้วตัวเองก็นั่งแหมะลงแทน

“เจ็บตรงไหนล่ะ จะทายาให้ ยานี่มันเย็นๆพอบรรเทาได้นะ”ไอ้คุณเฮียไคย์มันยิ้มแป้นหน้ากลม เมื่อเช้าต้องมีใครเอาอะไรผิดสำแดงให้เฮียมันกินแน่ๆเลยฮะ...ผมกับไดคุงงงเป็นไก่ตาแตกที่ไอ้เตี้ยเฮียไคย์ผิดปกติ เขายังหยิบยาหลายหลอดออกมาทำท่าจะทาให้ผมจริงๆขึ้นมา

“ขอบคุณมากไคย์”

“ไม่เป็นไรหรอกฉันยินดี บอกมาเลยๆ เจ็บตรงไหน”ไคย์มันมาแบบประหลาดๆจริงๆด้วยฮะ

“ไม่ต้องหรอกไคย์ เอาไว้ฉันทาให้ม่าเอง ให้ม่ามันนอนพักเถอะ นายมานี่ไปช่วยฉันทำกับข้าวซะดีๆ”

“ก็ได้วะโธ่!! ทำเป็นหวง แล้วนี่จะทำอะไรกินละ บอกไว้ก่อนนะไม่อร่อยเททิ้งจริงๆนะโว้ย!”แล้วไคย์คุงก็บ่นไม่สบอารมณ์ตามไดคุงออกไป ผมเพิ่งจะรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะเป็นไข้ก็ตอนตื่นเต็มตานี่แหละ ท่าทางจะลุกไม่ขึ้นแน่ๆ

แล้วผมก็หลับไปอีกรอบและมาตื่นเอาก็ต่อเมื่อดายมาปลุกให้กินข้าว เป็นไปตามที่คาดจริงๆ ผมไม่มีแรงแม้แต่จะลุก ตัวร้อนวูบวาบ ปวดหัว ปวดไปหมดทั้งตัวเลยก็ว่าได้ ถูกไดกับไคย์ช่วยกันจับเช็ดเนื้อเช็ดตัวป้อนข้าวป้อนน้ำไปตามระเบียบ ผมป่วยไม่สบายเป็นภาระให้ดคุงอยู่สองสามวันก็หาย เฮียไคย์มันขยันมาเยี่ยมไข้ผมทุกวันเลยล่ะครับ เดี๋ยวก็ซื้อขนม ซื้อผลไม้มาฝาก เอานู่นเอานี่สารพัดที่เฮียมันจะหอบมาให้ผมได้ แล้วเมื่อวานตอนเย็นเฮียไคย์มันก็เอาข่าวดีมาบอกด้วยล่ะครับ

อยากรู้ไหมครับข่าวดีอะไร ก็ผมได้งานทำแล้วนะสิครับ แล้วงานอะไรรู้ไหม นี่เลย เล่นกีตาร์ ผมได้เล่นกีตาร์อยู่ในคลับบริเวณเดียวกันกับคลับที่พวกไดคุงทำงานอยู่ด้วย เจ๋งมั๊ยครับ ไคย์บอกว่าคลับที่ว่าพอดีมือกีตาร์เก่าเค้าลาออก ก็เลยขาดคนเล่นกระทันหัน ไดคุงกับไคย์คุงก็เลยให้ผมไปสมัครและลองเล่นดูทันที ถึงแม้ว่าผมจะยังปวดแขนอยู่นิดๆก็เถอะแต่ผมก็อยากจะทำงานนี้มากๆๆ แล้วผมก็ตั้งใจเล่นมากๆด้วย

ทันทีที่พวกนั้นฟังผมโซโล่กีตาร์จบพวกเขาก็ตกลงกันให้ผมร่วมด้วยแบบทันทีเลยละครับ..ผผมดีใจมาก..ยิ้มไม่ยอมหุบไปเลยทั้งวัน ให้ผมฝึกซ้อมกับวงตั้งค่อนคืน แล้วคืนนี้ผมก็อดตื้นเต้นไม่ได้ครับ ที่จะได้เล่นจริงๆแล้ว ไดคุงกับเฮียไคย์และก็พี่เรียวกก็แวะมาให้กำลังใจผมด้วย


และแล้วคืนแรกในการทำงานก็ผ่านไปด้วยดี ผมรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก หมดกังวลใจ ไม่ต้องเป็นภาระให้ที่บ้านอีกแล้ว ไชโย! หายห่วงแล้ว แบบนี้ต้องฉลองๆๆๆ

อ๋อย!... แล้วในที่สุดก็เมาคาห้อง นอนกองกันอยู่ที่พื้นนั้นละ พี่เรียว เฮียไคย์และไดสุเกะคุงของผม...ขอแอบมั่วว่ามันเป็นของผมข้างเดียวนะครับ กรั๊กๆๆ  แล้วก็ตัวผม

ความคิดของใครเนี้ย! เบียร์ 2 โหลกับคน 4 คน อ๊า... คิดถึงไอ้ท็อตอะ ป่านนี้มันคงนอนกกสาวฝรั่งอยู่แน่ๆ ไอ้นี้มันชอบสไตล์เซ็กซ์บอม เนื้อ นมไข่ หน้าอกเป็นหน้าอก เอวเป็นเอว สะโพกเป็นสะโพก แบนๆแฟบๆมันบอกไม่ใช่สเป็ค คิดถึงจังเลยน้าถ้ามันอยู่ด้วยต้องสนุกกว่านี้แน่ๆเลยครับ

คืนนี้ผมโดนมอมอยู่คนเดียว ก็จะใครซะอีกแหละ ก็ไคย์คุงนั้นล่ะตัวดี ปะเดี๋ยวก็เอ้า! คาสุม่าขาว ซักพักก็ คาสุม่า เอ้า! ขาว เป็นแบบนี้จนผมซักจะไม่ไหวแล้วครับ ไดคุงคงจะนึกสงสารคนคอแป็บ (เดียว) แบบผมถึงได้ดึงแก้วไปดื่มให้บ่อยๆ ผมชอบคุยกับพี่เรียวอะ พี่เค้าน่ารัก และคุยสนุก แต่เฮียไคย์กับไดคุงก็เข้ามาคอยขัดถูกระเดือกอยู่เรื่อยเลย

“ไคย์พอเถอะไม่ไหวแล้วจะอ๊วกอะ” ผมหันไปบอกไคย์เอามือยักแย้ยักยันตัวเองเอาไว้

“อ้าวหลับไปตั้งแต่ตอนหน๋ายยย...” อ๋อยยย ...เมาหลับกันหมดเลยอะ ทิ้งผมอยู่คนเดียว ผมคอเอียงเหล่สายตามองนาฬิกาที่แขวนอยู่ข้างฝาผนัง ตาลายอะมองตัวเลขจนเบลอเพ่งแล้วเพ่งอีกกว่าจะเห็นว่ามันจวนจะตีห้ากว่าๆแล้วก็เล่นเอาคอแทบเคล็ด ไม่ได้รู้ตัวสักนิดว่าที่นั่งก๊งๆกันอยู่นี่มันปาเข้าไปหลายชั่วโมงน่าดูเหมือนกัน...มิน่าพวกคออ่อน(ซะเมื่อไหร่)อย่างสามคนนั้นถึงได้มีอาการพะงาบๆกันทุกคน...ผมสะบัดหัวตบหน้าตัวเองเบาๆเพื่อเรียกสติที่มีอยู่น้อยนิดในเวลานี้ให้กลับมา เดินลากฝืนสังขารทุลักทุเล ไปคายของเสียที่ห้องน้ำด้วยความกระอักกระอ่วนเต็มที่ รู้สึกว่าพื้นห้องที่ตัวเองเหยียบอยู่นั้นมันโครงเครงไปหมดเลยล่ะครับ คงเพราะไม่ได้ดื่มราวกับน้ำแบบ 3 คนนั้นมั่งถึงทำให้ประคองสติอยู่ได้

“ไคย์ๆ ตายยังอะ...?” ลองเอาส้น Teen ขาวๆของผมเขี่ยๆไคย์มันดูว่ารู้สึกตัวไหมอะ

“อือ ยัง ๆ แต่ก็ใกล้ล่ะ... อีกนิด...”ฮ่าๆๆ  ไคย์ปรือตามองผมๆก็เลยลากเอาเจ้าเตี้ยไปนอนบนฟูกที่ปูไว้ก่อนหน้านี้

“ฮือ! คาสุม่า หอมจัง” อ่า...ไคย์ทำบ้าอะไรฟะ! เข้ามากอดแล้วก็หอมแก้มผมอะ สงสัยจะเพ้อถึงสาวๆอยู่แน่ แต่เอ๊ะ มันชื่อผมนี้หว่า

“ ไอ้เตี้ย! พูดใหม่ซิว้อย!!!” ด้วยความเมาผมก็เลยจับคอเสื้อไคย์มันเขย่าๆซะจนหัวมันคอนไปมาอะครับ ด้วยความที่มันมือไปหน่อย...ไอ้คุณเฮียไคย์มันก็คอพับคออ่อนตาม แต่กระนั้นสายตามันงี้...เลยอะครับ

“นา...นะ... นาย สวยจัง คาโอรุ” ไอ้เตี้ยปรือตาฉ่ำเยิ้มราวกับจะกลืนกินผมให้ได้ ทิ้งน้ำหนักตัวที่ไม่น่าจะหนักแต่ก็หนักมากในเวลาที่ผมเมาอย่างนี้ลงมาบนตัวผมทั้งหมดจนล้มลงไปบนฟูกด้วยกันทั้งคู่ โอ๊ย!! แย่แล้วไคย์มันไม่พูดพร่ำทำเพลง ซุกหน้าซุกตาลงมาที่ซอกคอของผมพร้อมกับพรมจูบให้ทั่วไปหมด ..ไอ้บร้าเตี้ยไคย์มึงเป็นอะไรปายยยยยยยยยยยย


“คาสุม่าๆ รู้ไหม ชั้น ชะ”

“ไม่รู้โว้ย!ตื้นซิวะไคย์โธ่!! ทำอะไรน่ะ” ผมหลับหูหลับตาดิ้นส่ายหน้าหนีไคย์ไม่เอาท่าเดียว เมาจนเพี้ยนแล้วไอ้เตี้ยไคย์มึง

“ฉะ ฉันชอบนะ ไม่รู้เลยเหรอ”

“ไม่รู้โว้ย !! ปล่อยสิไคย์...ปล่อยกูดิ..”ผมในตอนนี้ไม่ได้สนใจและตกใจกับคำบอกชอบของไอ้คุณเฮียไคย์มันเท่าไรแล้วเพราะเมาด้วยกันทั้งคู่พูดไปก็ไม่รู้เรื่องอยู่ดี ไอ้เตี้ยซ่านี่แม่งห้ามยังไงก็ยังไม่หยุด แม่ง! วอนโดนตีนผมซะแล้วเอาศอกไปกินดีมั้ยมึง!

 อ๊ะ... อยู่ๆไคย์มันก็ค่อยๆสะลึมสะลือสลบไปทั้งๆที่ผมยังไม่ได้ทันทำอะไรซักนิด หลับไปแล้วนั้นเอง ค่อยยังชั่วนึกว่าจะต้องลงมือลงไม้กันซะอีกผมพลิกไคย์มันลงไปนอนแล้วก็ลุกไปเอาผ้าห่มมาคลุมให้ก่อนที่จะยืนปลงสังเวชมองมันด้วยความกลุ้มใจเล็กน้อย...แต่มันก็คงไม่คิดอะไรในกอไผ่กับผมหรอกนะครับ มันคงจะพูดๆไปงั้นแหละเนอะ...? แล้วก็เสร็จไป 1 ยังอีก 2 คน

........................

.................................


Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
Re: One man story 1,2,3,4,5
«ตอบ #28 เมื่อ21-08-2007 19:07:31 »

...................................


ผมเอาหลังมือเนียนๆของตัวเองปาดเหงื่อเล็กน้อย...ก่อนจะเซๆตัวเอียงๆไปลากเอาพี่เรียวที่หุ่นโคตรดี...หุ่นดีจริงๆนะครับ...แต่ขอบอกว่าน้อยกว่าไดสุเกะคุงของผมไปนิดหนึ่ง พี่ไดอะโคตรของโคตรเลยล่ะครับ...หุ่นงี้ทรมานใจผมอิบอ๋าย ฮ่าๆๆ ผมลากพี่เรียวไปนอนข้างๆเฮียไคย์

พี่เรียวน่ารักอะอยากแอบหอมแก้มจังเยยครับ กรั๊กๆๆ..คนอะไรก็ไม่รู้น่าหวานมาก...ผมชักอดสงสัยไม่ได้เลยล่ะครับ ว่าไดสุเกะคุงอยู่ไกล้ๆพี่เรียวทุกวันนี่ไม่เคยหวั่นไหวบ้างเลยหรือไง ขนาดผมเป็นผู้ชายแค่ 70 % ผมยังหวั่นไหวกับหน้าหวานๆของพี่เรียวแกเลย...สาดจริงๆนี่พี่เขาจะรู้ไหมว่าผมคิดอะไรกับเขาแบบนี้ ไม่ได้ๆอย่าแสดงสันดานไม่ดีสิคาสุม่า ผมสะบัดหน้าผละออกจากพี่เรียวทันที

ไปดูพ่อตัวดีของผมบ้างดีกว่า รายนี้เมาไม่รู้เรื่องรู้ราว ซัดไปทั้งส่วนของผมและของตัวเอง เป็นคนน่ารักเนอะ ...?

อ่า...สงสารไดคุงจังเลยครับ

“ไดคุงๆ ๆ”

“ ฮื้อ อย่ายุ่งหน้า!!!!” แน้!! ดุยังกับหมา แค่เรียกแค่นี้เอง

“ไปนอนที่เตียงเร็ว” แบกไม่ไหวหรอกไดหนักเกินไป

“ไดลุกซิ”

“จะลุกไม่ลุกได อยากหนาวตายเหรอ...?”ไดคุงนี่ปลุกยากปลุกเย็นหูไม่กระดิกซักนิดอะ

“คาสุม่า มานี่”ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก ไอ้คุณพี่ไดมันดึงผมล้มลงบนอกมันแล้ว!!!

“ว่าไงจะลุกไม่ลุก”

“ลุกไม่ไหววววววว” เสียงงี้ยานเลยอะ

“แล้วไง จะนอนตรงนี้”

“แล้วยอมให้นอนเหรอ...?”

ผมไม่ตอบฮะ ...เพราะขี้เกียจสบตาหวานเยิ้มของไดมันที่จะปิดมิปิดแหล่...เลยจัดการลากมันไปเท่าที่แรงจะทำได้นั้นแหละฮะ

“ชั้นแบกไดกลับไม่ไหวน้า เดี๋ยวหลังหักเอา... เอ้า! พยายามหน่อยเพ่ อย่าทิ้งน้ำหนักลงมาหมดสิได" ฝืนประคองทั้งลากและดึงดายมาจนถึงเตียงจนได้ เหนื่อยอะบัฟฟาโร่ ชัดๆเลย

“มานี่ จะไปไหนอีก...?”อ้าวเวร!...กูจะพาน้องไปร้องไห้...ปล่อยกูก่อนดิว้อย...ตัวเซซัดๆตามแรงถึกและหื่นของไอ้คุณพี่ไดมันเลยครับ ถูกไดมันดึงล้มลงไปบนตัวมันอีกครั้งแล้ว...

“ ปวดเยี่ยว...” อารมณ์หื่นของมันคงหายไปแน่เจอคำตอบผมแบบนี้เข้า ผมบอกพลางจ้องคนตัวโต ไดคุงหลับตาอยู่ครับผมเผ้าปรกลู่ลงมาบนใบหน้าดูน่ารำคาญน่าดู จนผมอดไม่ได้เผลอใช้ปลายนิ้วเกลี่ยให้เขาเบาๆ

“ คาสุม่า...” ดูมันดิ...เรียกโดยไม่ยอมเปิดตาขึ้นมามองกูเลย

“ว่าไง...?”

“อยู่หน๋ายยยย น่ะ...?”แดกจนเสียงงี้ยานเชียวนะไอ้คุณพี่!...แต่เสียงพี่ไดมันเป็นแบบนี้ฟังแล้วจั๊กจี้ใจเป็นบ้าเลยนะครับ กร๊าซซซซซซซซซ...เสียวๆอะ...เสียวหัวใจ555+

“ลืมตาสิ อยู่บนตัวไดนี่ไง”อื่ม...เขายกมือขึ้นมาจับมือผมไว้แล้ว

“อยู่นี่ไง...”

“คาสุม่า...”บอกว่ากูอยู่นี่!...เรียกอยู่ได้!!...เรียกทำเมียมึงหรือไง!!!...ผมชักรำคาญแล้วครับ ไดมันจะเอายังไงกับผม

“มีอะไร...?” ตาปรือนั้นยอมลืมขึ้นมามองผมแล้วฮะ

“วันนี้ นายน่ารักจังคาสุม่า”

“พูดแบบนี่แสดงว่าทุกวันชั้นไม่น่ารักงั้นเหรอ”...นี่ผมพูดอะไรออกปายยยย...เล่นมุขเต่าอีกแล้ว...ซื้อขนมกินได้เลยถ้าเวลาปกติจ้างให้หรือเอาไม้มาแงะปากผมคงไม่กล้าพูดหรอกไอ้ประโยคเลี่ยนๆชวนอ๊วกแบบนี้อะ

“ อื้อ น่ารักๆสิ รู้มั้ย น่ารักจนฉันจะอดใจไม่ไหวอยู่แล้ว...” เสียงไดคุงแผ่วเบาลงไปตอนท้ายแต่ผมก็ทันได้ยินครับ...ตามประสาคนประสาทไว 

“ อดใจๆอะไรอะ...?”เมาหรือเปล่านะถึงได้กล้าพูดกล้าถามแบบนี้ …ขอแกล้งมึนมั่วๆไปหน่อยแล้วกันนะครับ...ตอแหลแต่พองามๆ.อะ

“ ก็อดใจไม่ให้...ทำอะไรม่านะสิ”...อ้าวไอ้คุณพี่สาดเอ้ย!...มึงอย่าพึ่งหลับเชียวนะว้อย!ไม่ได้นะว้อยไอ้ได !อย่าพึ่งหลับซิเพ่!ตื่นขึ้นมาคุยกันก่อน...ผมแทบจะเค้นคอไดมันอะ...มายั่วให้ผมอยากรู้อยากลองแบบนี้...แล้วใครจะรับผิดชอบกูล่ะวะ... เป้ากางเกงผมตุงๆปวดท้องเบาก็ปวด

“ได...ก็ไม่เห็นจะต้องอดใจ...”รู้จักผมน้อยไปซะแล้วพี่ได... ผมกระซิบลงไปที่หูไดคุง กล้าได้กล้าเสียเกินไปหรือเปล่าไม่รู้หรอก...ไม่มีเวลาคิด รู้แต่ว่าตอนนี้ตัวเองทำอะไรและคิดอะไรง่ายๆตามประสาคนเมาทั้งนั้น นี่ผมเปิดทางให้ไดอีกแล้วเหรอ…

ก็เอ่อสิวะมึง!...ตอบและด่าตัวเองเสร็จสรรพ

ได้ผลครับ...ไอ้คุณพี่ไดงี้แทบจะปรือตาขึ้นมามองผมอีกรอบ...ตามันงี้ฉ่ำเยิ้มไปหมด คงจะตีกันมั่วทั้งฤทธิ์เหล้าและแรงหื่นแหละครับ...

“ ก็... กลัวม่าเกลียด”ไดมันยืนมือมาลูบใบหน้าผมเล่นสายตาหยาดเยิ้มมากจนสามารถเรียกความกระดากอายของผมขึ้นมาได้ล่ะครับ

“ ชั้นไม่เคยแสดงออกว่าเกลียดนี่”…หอยจริงๆเลยกู...แม่งเหล้าเข้าปากทีไรใจเงี้ยง่ายทุกทีเลยครับ

“งั้นจูบหน่อยสิ ม่าคุง...จูบให้ฉันมั่นใจหน่อย...”ในเวลาปกติผมกับไดคงไม่สามารถพูดอะไรแบบนี้ออกมาได้แน่ๆ และผมก็ไม่นึกโกรธไดคุงอย่างที่ควรจะเป็นด้วย

ปลายนิ้วมือของผมมันลูบไล้ใบหน้าของไดเล่นช้าๆ...หน้าหล่อๆของมันทำให้ผมอยากจะกรี๊ดๆๆ อยากเอาไม้ทุบหัวแล้วลากมันทำผัวซะให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยครับ...สายตาหวานซึ้งของไดมันก็ทำเอาผมใจอ่อนไปหมด มือไม้มันมาหยุดที่ เรียวปากสวยของไดตั้งแต่เมื่อไหร่ผมยังไม่รู้ตัวเลย


อยากตีมือตัวเองจังครับ...ซนไม่เข้าเรื่องเลยอะ...ริมฝีปากไดมันนุ่มนิ่มมาก

“ดะ...ได คืออ ชั้น” กลายเป็นตะกุกตะกักขึ้นทันใด ความรู้สึกที่มีให้ไดมันท่วมท้นออกมาจนเกินยับยั้ง อยากตะโกนใส่หน้าไดถึงความในใจที่มีให้เขารับรู้ เค้าไม่รู้เลยหรือว่าผมก็อดใจมากแค่ไหนเหมือนกัน สายตาผมมันคงจะฟ้องออกมาหมดแล้วล่ะครับ เพียงแต่ไดคุงจะรู้ความหมายของมันหรือเปล่าก็เท่านั้น

ผมมองริมฝีปากเชิญชวนนั้นอย่างหลงใหล ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเผลอเลียปากตัวเองตาม

และแล้วเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้ผมทำได้ทุกอย่าง

ใบหน้านี้อยู่แค่เอื้อมมือถึง ริมฝีปากนั้นก็อยู่แค่จะเอื้อมสัมผัส

ค่อยๆโน้มใบหน้าลงประกบปากกับริมฝีปากสวยของได ไล้เลียจูบซับความหวานจากเรียวปากไปเรื่อยๆ ส่งปลายลิ้นผ่านเข้าไปช้าๆ ควานหาความหวานนุ่มล้ำลึกนั้นอย่างอดใจไม่ไหว ไดปล่อยให้ผมจูบดูดดื่มอยู่เนิ่นนานแล้วจึงแย่ปลายลิ้นยอกล้อกับเรียวลิ้นของผมบ้าง อา... ไม่ไหวแล้ว รสจูบของไดร้อนแรงขึ้นไปทุกที

“ฮื้อดะ ได พอ ๆ ก่อน” ผมร้องอู้อี้บอกพลางเอามือผลักอกไดเบาๆ ดันหน้าหนีออกมาได้

“ คาสุม่า” ไดยังคงเรียกเหมือนเพ้อแต่ก็ยอมให้ผม เปลี่ยนมาพลิกผมลงนอนข้างๆเขาแล้วกอดเอาไว้แทน

ไดคุงเมามากกว่าผมนัก ที่พูดออกมาเมื่อกี้อาจจะแค่เพ้อ... พอถึงวันพรุ่งนี้เขาอาจจะลืม จำไม่ได้ แล้วผมก็ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ไดเพ้อออกมานั้นมันจะเชื่อได้แค่ไหนด้วย ถ้าไม่เพราะเมาทั้งผมและไดจะกล้าทำอย่างนี้กันไหม ...?

“ ชั้นเชื่อไดได้แค่ไหนนะ”แอบถามออกมาที่หน้าอกรู้ว่าไดคงไม่ได้ยินแน่..ค่อยๆงัดตัวเองออกมาจากวงแขนที่รัดแน่นของได ย่องเข้าห้องน้ำก่อนครับ...ไม่ไหวแล้วจะรด!

ยืนมึนอยู่นานจนต้องเอาตัวเองวิ่งผ่านน้ำเย็นๆให้หัวมันโล่งขึ้นแล้วผมก็ปากสั่นคางสั่นวิ่งออกจากห้องน้ำ คงไม่มีคนดีๆที่ไหนเขาอาบน้ำเย็นเฉียบในอุณภูมิ เจ็ดแปดองศาหรอกครับ

ผมอยากจะวิ่งเข้าไปมุดตัวไดด้วยสภาพนี้ชะมัด กร๊าซซ มันคงจั๊กกระเดียมเข้าในถึงเซียงจี้นะครับ...แค่คิดเท่านั้นแหละครับ...ผมคว้าเอาเสื้อตัวใหญ่ๆของดายและกางเกงตัวโปรดของผมมาสวมแล้วก็จัดการมุดเอาตัวเองไปอยู่ในวงแขนไดคุงมันอีกรอบ...ไดมันก็เหมือนจะรู้อะครับ...วงแขนยาวๆเอื้อมกอดตอบผมทันทีเลย

“ฮือ” ไดครางในลำคอแล้วก็มุดหน้าลงมาซุกอยู่ที่ซอกคอผมบ้าง มันหลับสนิทไปแล้วฮะ ทิ้งปริศนาปล่อยให้ผมคิดไม่ตกอยู่คนเดียว นี่ขนาดเอาน้ำเย็นๆราดหัวแล้วนะ..แล้วผมก็ได้แต่เฝ้ามองใบหน้าคมด้วยความสงสัยและไม่แน่ใจ  ความเมาเมื่อกี้หายไปมากกว่าครึ่ง กางแขนสวดกอดคนตัวโตหัวแดงของผมไว้เต็มอ้อมอก อ่า ...พรุ่งนี้ไดคงจะลืมแน่ๆ ถ้าไม่เมาจนเพ้อก็คงจะดีนะครับ.

To be continue...




Red....[em]

  • บุคคลทั่วไป
Re: One man story 1,2,3,4,5
«ตอบ #29 เมื่อ21-08-2007 19:11:42 »

One man story 5

 

โทรศัพท์ใครดังวะ? ....

เมื่อไหร่มันจะรับซักทีหว่า ?...

เพลงคิกขุอาโนเนะแบบนี้ไม่ใช่ของกรู ? ...

เสียงโทรศัพท์ใครดังวะ น่าหนวกหูชะมัด ? ...

รำคาญๆ ๆ หนวกหูๆ ๆ แม่งคนจะหลับจะนอนดังอยู่ได้!


“เว้ย! เฮ้ย! ใครก็ได้รับโทรศัพท์ซักทีซิวะ” และแล้วความอดทนของ 1 ใน 4 ก็หมดลง เสียงนรกนั้นมันทั้งดังและเรียกเข้ามาติด ๆ กัน มันก็ต้องได้ยินกันหมดนี่แหละ แต่เพราะความง่วงผสมความมึนปนความเอื่อยเฉื่อยไม่อยากรับรู้ ...หรืออีกนัยหนึ่งก็ขี้เกียจนั่นแหละ เลยทำให้ไม่มีใครขยันพอที่จะกระเดียดตัวออกจากผ้าห่มอุ่นๆ ขึ้นมาต้อนรับพญายม แต่ละคนก็ได้แต่คอยเงี่ยหูฟังว่าเมื่อไหร่เสียงนรกนั้นมันจะหยุดลงซักที


“ เรียวของนายน่ะไปรับสิ” คนที่ดูจะหงุดหงิดที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นเฮียไคย์ ทั้งๆ ที่ตาปิดอยู่แท้ ๆ แต่หน้างี้บูดอย่างกับตูด เอาแขนดันๆ ผลักๆ พี่เรียวให้ไปรับโทรศัพท์ท่าเดียว


“หือ!... กวนน่านายก็ไปรับสิ ไม่ใช่ของชั้นซักหน่อย” พี่เรียวก็ใช่ย่อยเอาหมอนปิดหน้าปิดหูแล้วก็มุดหน้ากับฟูก ...นอนมันต่อปายยยย

ส่วนไอ้คนพูด (แหะ ๆ ๆ ผมเองครับ คาสุม่า ครับ) กับไดสุเกะคุงนะเหรอ ผมก็ขี้เกียจอะนะ โทรศัพท์มันอยู่ไกลเกินที่จะเอื้อมมือถึงได้ ขี้เกียจลุกด้วย อีกอย่างก็ถูกขาหนักๆของไดคุงทั้งทับทั้งหนีบอยู่ แล้วไดคุงก็คงจะขี้เกียจเหมือนกัน และผมก็คิดว่าเค้าคงไม่อยากจะลุกออกจากตัวนิ่มๆหอมๆของผมด้วย ..แฮ่ๆๆนี่คิดเอาเองนะครับ

“ ก็ได้ๆ วะ! อย่าให้รู้ก็แล้วกันว่าของใคร”เฮียไคย์มันลุกขึ้นด้วยอารมณ์ของข้าวที่ค้างอยู่ในหม้อหลายวัน พาร่างเตี้ยๆ หัวยุ่งเหยิงชี้โด่ชี้เด่ ไปยังต้นเสียงที่ดังได้ดังดี อยู่แถวๆ วงเหล้าที่ก๊งกันเมื่อคืน ..อะนะ ไคย์มันอยู่ใกล้ที่สุดแล้วล่ะครับ

“ไม่ใช่โว้ย!” น่านประลัย! ปลายสายคงสะดุ้งโหยง

“มันกำลังจะตาย !!!” เสียงตะโกนโหวกเหวกคุยโทรศัพท์ด้วยอารมณ์ที่กวนส้น ไคย์มันนี่เหลือเกินนะครับ คงคิดว่าเมื่อกูไม่ได้นอน พวกมึงก็อย่าหวังเลยว่าจะได้เป็นสุขแบบนี้งั้นสิ ตะโกนซะลั่น 3 บ้าน 8 บ้าน

“ก็เมากัน ฉลองให้คาสุม่ามัน”…พูดถึงผมด้วย

“อ้อ มันก็กำลังจะตายเหมือนกัน” เสียงแดกดันฟังคล้ายไม่พอใจ พูดอยู่กับใครวะ? แล้วใครกำลังจะตายอะ?

“ ก็โดนไอ้ไดสุเกะมันทั้งทับทั้งบี้อยู่” อ๊า ไอ้มะหมะ….. หมูไคย์หมายถึงผม เหรอ?

“เอ่อได้! รอเดี๋ยว!”

“ คาสุม่ามีคนจะคุยด้วย เอ้า! หนีบกันอยู่ได้ ซุกๆมันเข้าไป หน้าหนากันจังนะ บอกไอ้ตัวหนีบนายด้วย ตั้งเสียงเรียกเข้าได้ปัญญาอ่อนมากกกก………” ไอ้คุณเอียไคย์มึงนี่มันจริงๆ เลย ...มันยัดโทรศัพท์ใส่มือผมเฉย จากนั้นมันก็เดินไปนอนสลบต่อ แมร่ง!!!

ไอ้XXX ไคย์!!!...มันปล่อยร็อตไวเลอร์ในปากออกมากัดผมกับไดคุงอีกแล้ว

อะโทรศัพท์ของไดคุงอะครับ... แต่ดันจะคุยกับผมนี่หว่า... แล้วทำไมโทรเข้าเครื่องได ใครฟะ...?

“คาสุม่า ครับ”

[ว่าไงจ๊ะ ถูกบี้ตายยัง]... ท็อตจิ !!! โทรมาได้ไง

“ ไอ้บ้า!!!นายอยู่ไหน...?” หน้าของเพื่อนรักลอยอยู่เต็มหัว น้ำเสียงร่าเริงแจ่มใส ไม่บอกก็รู้ว่ามันกำลังยิ้มยิงเขี้ยวเก๋ ๆ ของมันใส่โทรศัพท์ ไปพลางเหล่สาวไปด้วยแน่ๆ...ไอ้นี่มันเจ้าชู้จะตาย

[ปารีส เป็นไงนายสบายดีไหม...?]

“ฮื้อ ๆ สบายดีแล้วนายเป็นไงมั้ง เมื่อไหร่จะกลับไม่รู้เหรอคิดถึงนายจะแย่แล้วนะโว้ย!” หยอดลูกอ้อนตบท้ายเข้าให้หน่อยก็คิดถึงมันจริง ๆ ผมลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่หายง่วงหายมึนเป็นปลิดทิ้ง หันไปดูไดคุงก็เห็นตื่นแล้วเหมือนกัน เอาขาออกจากเอวผมแล้วด้วย นอนลืมตาโพลงมองผมด้วยใบหน้าบู้... เอ่อ...มันเป็นไรของมันอีกล่ะวะนั้น...?

[สบายดีแล้ว นายอยู่กับไดสุเกะมันได้นะ]

“อื่มได้ดิ.. ก็ดี”

[ได้ข่าวว่ามีความสุขน่าดูเลยนี่...]

“ไอ้บ้า ความสุขอะไรเล้า!” เขินน่าดูเมื่อโดนท็อตจิมันแซว... แต่แล้วผมก็ต้องหุบยิ้มกระทันหันเลยล่ะครับเมื่อหันไปเจอสายตาพิฆาตของไดคุงเข้า...แม่งเล่นเอาหัวหดเลยครับไอ้พี่ไดนี่เวลามันทำหน้าดุทีไรหมาทั้งคอกของไอ้คุณเฮียไคย์ยังต้องยอมแพ้มันเลยครับ

กูไปทำอะไรให้ไอ้แดงมันโกรธอีกล่ะเนี้ย!

[ดีแล้ว จะได้หายห่วง]

"ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่าชั้นดูแลตัวเองได้ เอ่อนี่ ท็อตจิชั้นได้งานทำแล้วนะ เล่นกีตาร์อยู่ในผับล่ะ เป็นไง...?”...ช่างหัวไดมันเถอะครับ ขอคุยกับไอ้จี้ให้หายคิดถึงหน่อยเถอะ...ผมหันไปสนใจเสียงเจี้ยแจ้วของไอ้จี้และยิ้มยิงฟันใส่โทรศัพท์เหมือนเดิม...เพื่อนเก่าเพื่อนแก่เขาจะคุยกันเว้ย!

[เจ๋งนี่ ดีใจด้วยแบบนี้ก็ไม่ต้องกลับเฮียวโงแล้วนะ]

“ก็ว่างั้น นี่แล้วนายล่ะ ไหนบอกว่าคิดถึงชั้น เมื่อไหร่จะกลับมาซักที”

[คงต้องเลื่อนไปสิ้นเดือนนู่นแล้วแหล่ะ พอดีงานมันยังไม่เสร็จก็เลยโทรมาบอกนายก่อน เดี๋ยวกลัวจะถูกนายแช่งชักหักกระดูดเอา]

“รู้ด้วยเหรอ”

[ได้ไงก็เพื่อนบังเกิดเกล้านี่หว่า ฮ่า ๆ ๆ ๆ อุ้ย! คาสุม่าเค้ามาตามแล้ว ฉันต้องไปแล้วนะ ฝากความคิดถึงให้ทุกคนด้วย แล้วนายก็รักษาสุขภาพด้วยแหล่ะ เอาไว้จะโทรมาใหม่นะ]

“อืม เหมือนกันอย่าทำให้เป็นห่วงนักล่ะแกอะ หัดๆดูแลตัวเองซะบ้างนะท็อตจิ ดูแลตัวเองด้วย บาย บ่ายแก” เสียงโทรศัพท์จากท็อตจิตัดไปแล้ว แต่ผมก็ยังนั่งอมยิ้มกับโทรศัพท์เครื่องจ้อยในมือ อย่างน้อยท็อตจิมันก็ยังคิดถึงและเป็นห่วงผมอะนะ

... อะแฮ่มๆ เสียงเทสต์เสียง เหมือนไมค์มีปัญหาของคนข้างๆ ดังขัดความคิดขึ้น ...ส้นตีนใครติดคอมันวะ...?

“บาทาติดคอเหรอครับคุณไดสุเกะ...?"

ไอ้คุณพี่ไดมันไม่ตอบครับ..หน้าตามันงี้หงิกอย่างกับมะเหงก

" แล้วเป็นไรตื่นมาก็หน้าหงิกเชียว...?"เอาดิ ถ้ามึงไม่ตอบ...กูก็จะไม่ถามมึงอีก..ไม่ต้องมาพูดกัน

“ไปอี๋อ๋อกันห่างๆ ไม่ได้เหรอคนจะหลับ” ดูมัน...มึงงอนกูหรือนี่ไอ้คุณพี่ได..พูดเสร็จก็นอนหันหลังให้กูอีก... เป็นอะไรอีกละนั่น พอผมลองเอามือสะกิดๆ ที่สีข้างก็ไม่หันมามอง ไม่พูดด้วยเฉยเลยเป็นอะไรของมรึงงงง...หรือมันจะงอนจริงๆ...

“ไปทำกับข้าวดีกว่า”

“เสร็จแล้วอย่าลืมเรียกด้วย”  น้ำเสียงคล้ายน้อยใจเล็ดลอดออกจากโปงผ้าห่มให้ได้ยิน ผมพยักหน้ากับตัวเองงง ๆ แล้วผมก็ลุกออกจากเตียงไป เก็บกวาดขวดเหล้าขวดเบียร์ และทำกับข้าวต่อปล่อยให้พวกเมาค้างแข่งกันกรนต่อไป ง่วนอยู่ในครัวจนลืมเรื่องเมื่อคืนไปเสียสนิท ถ้าไดกับไคย์หายมึน แล้วตื่นขึ้นมาผมจะทำหน้ายังไงอะ แต่ว่าจากท่าทางเมื่อกี้ของทั้ง 2 น่าจะจำอะไรไม่ได้ สาธุ!!ขอให้มันเป็นแบบนั้นจริง ๆ เหอะ ไอ้เฉพาะไดคุงไม่เท่าไหร่หรอก ผมอยากให้ไดคุงมันจำได้ด้วยซ้ำ ความรู้สึกจะได้ไม่คาราคาซังแบบนี้ แต่เฮียไคย์นี่ผมไม่รู้จะบอกกับเขายังไงดี การจะปฏิเสธอะไรนี้มันยากกว่าตอบรับอีกนะครับ


และแล้วก็เป็นไปตามที่คิด ทั้งไดคุงและไคย์ไม่ได้เอ่ยอะไร เกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืน คุยกันแต่เรื่องอื่น กินข้าวเสร็จต่างคนต่างก็แยกย้ายตัวใครตัวมัน ไดคุงไม่พูดกับผมอยู่ได้ไม่ถึงชั่วโมง ก็หายกลับมาเป็นปกติ เค้าไม่คุยเรื่องเมื่อคืน แล้วผมก็ไม่อยากรื้อฟื้น ก็เลยปล่อยเลยตามเลย

ช่างหัวมันเถอะครับ...ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคต จะผลีผลามใจร้อนด่วนตัดสินใจไปทำไม...ให้เวลาได้ศึกษากันให้มากกว่านี้ดีกว่าครับ

..............................
............................................
................................................
... ...  ...  ... 

ทุก ๆวันผมก็ใช้ชีวิตตามปกติ ทำงาน3 ทุ่มถึงตี 2 แล้วก็ตื่นประมาณเที่ยงวัน ลุกขึ้นมาทำกับข้าว ทำความสะอาดห้อง วันดีคืนดี ก็ได้ไปเที่ยวกับไดหรือไม่ก็ไปคลุกอยู่ที่ทำงานของไดไปฟังเรื่องจี้ๆ จากเฮียไคย์ให้ไอ้คุณเฮียไคย์มันแกล้ง ไม่ก็ฝึกบริหารปากเล่น ก็สนุกดีครับ ชีวิตมีสีสันขึ้นมาบ้าง พอตกกลางคืน ผมก็ได้อิงแอบซุกซบกับอกกว้างของไดคุงนอนฟังเสียงหัวใจเขา ยิ่งใกล้ชิดไดคุงมัน ผมก็บอกตัวเองได้เลยล่ะครับว่ายิ่งพาตัวเองถลำลึกลงไปเรื่อย ๆ ความรู้สึกที่มีให้เขามันรุนแรงขึ้นจนคับอกอยากบอกแต่ก็ไม่กล้า กลัวเจ็บครับในเมื่อไดสุเกะคุงเขาก็ไม่เห็นพูดอะไร ต่างคนต่างก็รู้สึกคลุมเครือ คงยังไม่เข้าใจตัวเอง และยังไม่มั่นใจกระมัง...

..........................................................

คืนนี้ผมออกมาทำงานคนเดียวไม่ได้ติดรถไดสุเกะคุงมาเหมือนปกติ เพราะวงของไดคุงจะหยุดทุก 2 วันต่ออาทิตย์ แต่ผมก็มีคนมารับนะครับ เฮียไคย์มันโทรเข้ามาบอกว่าจะเข้ามาดื่มข้างในร้าน แล้วเดี๋ยวพอเลิกจะแวะไปส่งให้ เฮียไคย์มันก็ยังเหมือนเดิมบ้าๆบอๆ ปากจัด ด่าเก่ง อ๊ะเข้าตัวเองหรือเปล่านะ...?  หมั่นมาหาและโทรมาคุยเป็นประจำ ถ้ามีพี่ชายแบบไคย์นี่คงจะดีนะครับ...ผมฝันอยากมีพี่ชายหรือไม่ก็พี่สาวที่อายุห่างๆกันมานาน...

ขอเท้าความถึงพี่น้องตัวเองนิดหนึ่งนะครับ...คือแฮ่ๆๆ อยากเล่าอะคร๊าบบบบ

ผมเป็นคนรองครับแต่ว่าคนพี่ของผมน่ะมันก็อายุเท่าผมแหละ เป็นฝาแผดกันที่นิสัยแมร่ง55+ ไม่อยากจะด่าตัวเองครับ...สุดตีนพอๆกัน...จะผิดกันก็ตรงที่ความหน้าตาดีเท่านั้น ไอ้คาสุยะมันจะน้อยกว่าผมไปประมาณเส้นยาแดงผ่าแปดเท่านั้นครับ(พูดให้งงกันอีกล่ะ...)

แต่ความเหี้ยและความสาด...ผมยกให้มันคนเดียวเลย...55+ ได้ทีขอเผามันหน่อยยย ..ก็คิดถึงมันตามประสาพี่น้องท้องเดียวกันครับ มันไม่ได้ปัย...แล้วแบบผมนะครับ อันนี้รับประกันได้เพราะว่ามันน่ะแมน And เจ้าชู้โคตรๆ...เปลี่ยนผู้หญิงทีเหมือนเปลี่ยนถุงยางอนามัย...สังเกตุได้จากกล่องถุงยางที่ไม่ซ้ำยี่ห้อไม่ซ้ำกลิ่นบนห้องนอนมัน...แต่มันก็ดีอย่างนะครับที่มันก็เลือกคบทีละคน ไม่ได้มั่วซะจนจำไม่ได้ใครเป็นใคร...ผมเคยถูกอดีตแฟนมันหลายคนทั้งเชิ่ดทั้งด่าใส่บ่อยจะตายไป มันกระล่อน ปลิ้นปล้อน เหล้า บุหรี่ หอย จิ้นและอะไรที่ไม่ดีๆทั้งหลาย มันผ่านและทดลองมาแล้วแทบจะทั้งสิ้นครบคุณสมบัติเลวจริงๆครับ แต่มันไม่ได้ติดนะครับ มันแค่ลองไว้เป็นครูเท่านั้น(มันบอกว่าอย่างนั้น)ยกเว้นบุหรี่ที่แม่งควักขึ้นมาสูบแทบจะมือหงิก มันจะรู้ถ้ามันมาพร้อมกับบุหรี่ที่คาบไว้อยู่ในมือหรือไม่ก็ในปากเฉียดมาใกล้ๆผมเมื่อไหร่ละก็...เราจะเล่นปวยปล้ำกันทุกที...

คาสุยะมันชอบแกล้งผมครับ มันจะหวงผมทุกครั้งเวลาที่เพื่อนเลวๆของมันมาเที่ยวบ้าน  ทุกคนจะพาลเข้าใจผิดทุกที เพราะความหน้าหวานด้วยกันทั้งคู่ คาสุยะมันไม่ชอบนะครับที่หน้าตามันเป็นแบบนั้น มันเล่นฟิตเน็ตออกกำลังกายจนมันบึกบึนและแมนกว่าผมมาก ผมมันก็ตัดสั้นๆไว้จอนหน่อยๆไว้หนวดด้วย ซึ้งทั้งหมดที่ผมกล่าวมานั้นมันต่างจากผมโดยสิ้นเชิง ...ผมไม่เคยปล่อยให้หนวดแม้ซักเส้นโผล่พ้นออกมาจากผิวหน้า...ผมนี่ก็ปล่อยจนยาวลงมาเลยบ่าเล็กน้อย...ทำสีด้วยนะครับล่อมันซะสีม่วงเชียว..แสบดี...ผมชอบ เชื่อมั้ยครับคาสุยะมันไม่เคยว่าให้ผมที่เป็นแบบนี้ซักครั้ง ผมรักมันก็ตรงนี้แหละครับ.55+ มันบอกว่ามึงเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว...กูอยากมีน้องสาว...55+ ดูมัน ...คิดถึงมันครับอยากให้มันขึ้นมาอยู่ด้วยผมกับมันไม่เคยห่างกันไกลๆซักครั้ง เป็นแฝดที่ต่างกันสุดขั้วแต่ว่าไม่เคยจากกันเลยครับ


ส่วนน้องชายคนสุดท้อง...คาสุโตะคุง...ไอ้นี่มันจะหน้าแมนกว่าผมกับคาสุยะเพราะตามันไม่เหมือนพวกผม คาสุโตะจะได้ตาเหมือนพ่อครับ ของพวกผมจะเหมือนแม่ที่โตและขนตายาวงอนกว่า จมูกมันก็โด่งมาก สูงกว่าพวกผมด้วย สรุปมันหล่อกว่า55+ ตอนนี้เรียนวิศวะกรรมสาขาเครื่องยนต์อยู่ปี3 ครับ...สงสารคาสุโตะมันเรียนไกลครับ ต้องไปเรียนที่ฮ็อกไกโดนู่นแน่ะ อยู่หอพัก นานๆทีถึงจะกลับบ้านครั้ง

ถ้าได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าสามคน พวกเราจะเสียงดังมากประมาณว่าที่บ้านกำลังเปิดคาโอเกะอยู่ยังไงยังนั้น...พวกเราเป็นพี่น้องที่ชอบทำอะไรด้วยกัน เล่นเกมส์ แข่งรถ ฟันดาบ ทำกับข้าว เล่นดนตรี  และสารพัดกิจกรรมที่สรรหากันมาทำมันจะสนุกและครึกครื้นมากๆที่ได้อยู่ร่วมกันครับ

ผมยิ้มอย่างเป็นสุขที่ได้นึกถึงพวกมัน...จนอยากกลับบ้านขึ้นมาแล้วล่ะครับ


เฮียไคย์มันว่าผมบ้า นั่งยิ้มคนเดียวก็ได้555+ มันดันมาเห็นผมเข้าตอนที่คิดเพลินครับ ไคย์มันมารับพอดี

ผมให้ไคย์จอดรถส่งแค่หน้าตึกแล้วก็ไล่ให้กลับไป ไม่ไหวครับอยู่กับไคย์นาน ๆ แล้วปวดหัวประสาทจะกินตาย จ้อได้ไม่หยุดตอนเล็กๆ สงสัยพ่อแม่มันจะเอาไก่จิกปาก พอโตขึ้นถึงได้เป็นแบบนี้ ผมไขกุญแจเปิดประตูห้อง อะไฟสว่างอยู่แสดงว่าไดสุเกะคุงยังไม่นอน รอผมอยู่หรือเปล่านะ

......................................
.........................
............
“จะทำอะไรน่ะ” เสียงไดคุยกับใครอยู่ในห้องไม่รู้ครับ

“ก็คิดถึงนี่หน่า ขอหอมหน่อยน้า” ใจผมกระตุกวูบเสียงผู้หญิง! หายใจไม่ทั่วท้องเอาซะเลย...

ตีนมันเสือกเดินสุ่มสี่สุ่มห้าเข้าไปเห็นช๊อตเด็ดเข้าเต็มตาพอดี

อ่า!!! อะไรกัน บ้าที่สุด!!!

หญิงสาวผมยาวหน้าตาดีนั่งอยู่บนตักไอ้ไดที่เก้าอี้กินข้าว หอมแก้มไอ้คุณพี่ไดดังฟอดใหญ่

“ทำอะไรแบบนี้เล่า!” ท่าทางที่ว่าดูไม่ทุกข์ร้อนเท่าไหร่แถมมันยังดูเขินๆอีก...ตัวผมแข็งเป็นหินไปแล้วล่ะครับ ไม่สามารถละสายตาออกมาจากคนทั้งคู่ได้เลย...

แล้วทั้งสองก็หันมาเห็นผมเข้าพอดี

สาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

(พวกมึงจะหันมาทำไม จูบเย้ยกูไปเลยดิ!!!!)

ช็อค!!! ยิ่งกว่าโดนผีหลอกขาแข้งแข็งเป็นตะคริวขึ้นมา

เอายังไงดีคาสุม่า ผมเข้ามาขัดจังหวะของพวกเขาหรือเปล่า ถึงได้ผละลุกออกจากกันแบบนั้น ใบหน้าไอ้คุณพี่ไดมันถึงได้ซีดเผือดดูตกใจแบบนั้น...ใครก็ได้ช่วยเคาะกระโหลกผมที ไม่เข้าใจ มันคืออะไร ทำไมถึงเป็นแบบนี้...ไม่เข้าใจ!...ไม่อยากเข้าใจ! ...ไม่รู้!...ไม่อยากรู้เว้ย!


“ คา... คาสุม่า ไม่มีอะไรหรอกนะ คะ...คือ” ไดรีบร้องบอกหน้าตาตื่น... แล้วหลังจากนั้นสมองผมมันก็ไม่ซึมซับประโยคต่อไปของไดคุงอีกเลย

ไม่สนใจแล้วจะให้ฟัง..จะให้ผมดูอะไรอีก

“ โอ๊ะโอ... นี่เหรอเด็กใหม่ ชั้นไม่อยู่แค่ไม่กี่อาทิตย์ ก็มาหาถึงห้องเลย...”

ใบหน้ามันชาไปทั้งแถบ...คำพูดของผู้หญิงคนนี้มันหมายความว่ายังไง ผมเบลอไปหมดเหมือนถูกชกหน้าเข้าเต็มๆ สีหน้าที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของไดคุงนั้นอีก มันหมายความว่ายังไงกันแน่ ไม่ไหวแล้วขืนยืนอยู่แบบนี้ ผมต้องทำอะไรที่แย่ๆ ออกไปแน่นอน...ผมรู้ตัวเองดี

“เอ่อไม่มีอะไร ขอโทษนะ เข้าห้องผิดน่ะ” ...ถึงจะโกหกไม่เนียน แต่ผมก็พาตัวเองออกมายืนอยู่หน้าห้องได้สำเร็จ

ไดคุงทำท่าจะวิ่งตามออกมาแต่ถูกผู้หญิงคนนั้นดึงแขนไว้ก่อน งี่เง่าๆที่สุด เหมือนในมิวสิควีดิโอน้ำเน่าที่ผมเคยดู ทำไมตัวเองต้องมาเจอเรื่องน้ำเน่าแบบนี้ด้วยนะ ผมเดินวนไปวนมาอยู่ที่หน้าห้อง สมองมันรวน คิดอะไรไม่ออกเอาดื้อๆ แต่แล้วจู่ๆ หน้ากลมๆ แป้นๆ ของเฮียไคย์มันก็แว่บเข้าหัวมา ผมรีบกดโทรศัพท์หาไคย์แทบจะทันที

ไอ้เตี้ยแม่งทำอะไรอยู่ที่ไหนนะ! ทำไมไม่ยอมรับโทรศัพท์ผมซักทีโธ่ ! ไอ้เตี้ยมัวทำอะไรอยู่ รับซักทีซิวะ!


“ไอ้เตี้ยไคย์ทำไมรับโทรศัพท์ช้านักวะ!” ทันทีทีปลายสายกดรับ อารมณ์ที่ประทุขึ้นก็ถูกปล่อยออกมาเป็นชุด

[โทษทีติดสายอยู่ แล้วเป็นไรไปกินรังต่อที่ไหนมา]

“เอ่อน่า ที่ไหนก็ช่าง!”

[ อ้าวว่ะไอ้เชี้ยม่า! กูถามดีๆ แล้วนะ มีอะไรว่ามามึง?]

“ คือ...เอ่อ..มัน.."

[ บ๊ะ! ไอ้นี่เม็นไม่มาหรือไง? อ้ำอึ้งอยู่ได้!]

"ไคย์...คือ...ชะ..ชั้น”

[มันอะไรหือ...?มันมีอะไร คือๆอยู่นั้นแหละ ... มีอะไรหรือจ๊ะ หรือว่าคิดถึงจนทนไม่ไหว ร้อยวันพันปี ไม่เคยเห็นโทรมาหากู]

แมร่งมันขึ้นกูมึงกับผมหลายประโยคแล้วนะ...ผมจะสุภาพกับมันต่อดีมั้ย..?

.................
............................

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด