บางทีท้องฟ้าใสๆ มันก็ทำให้อารมณ์ดี หรือแม้แต่เสียงใบไม้ที่ถูกลมพัดเบาๆ หรือแม้กระทั่งเสียงเรอของคนที่นั่งข้างๆ ก็ยัง....พอฟังได้
“เชี่ยป้องมึงช่วยหันไปเรอทางอื่นได้มั้ย อุบาทว์ จะอ้วก แหวะ”ผมหันไปว่ามันที่เรอใส่ข้างหูผม ทั้งผลักทั้งดันแต่ไม่เขยื้อนเลยแม้แต่นิดเดียว
“อ้าว กูก็นึกว่ามึงจะชอบนะนี่ เห็นมองต้นไม้ก็ยิ้ม มองหมาเดินผ่านก็ยิ้ม มองถังขยะยังยิ้ม กูเลยทดสอบไงว่าต่อมความรู้สึกมึงยังใช้งานได้อยู่”
“กูไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”ผมสะบัดหน้าใส่มัน ไม่อยากเถียงด้วย เถียงไปก็แพ้ ก็ทำไมล่ะ คนกำลังมีความสุขนี่นา อย่างนี้แหละเลยมีคนอิจฉา
“พี่เขาทำอะไรให้มึงล่ะ มึงถึงมานั่งหน้าเคลิ้มทั้งวันแบบนี้”นั่น ความเสือกไม่เข้าใครออกใคร
“นั่นสิ หม่อนก็อยากรู้เหมือนกัน เห็นเนมนั่งเรียนไปยิ้มไป แต่ไม่เห็นนั่งจดอะไรสักอย่าง ไม่รู้นึกอะไรอยู่”ใบหม่อนพูดแซวไม่พอ ยังเอานิ้วมาจิ้มแก้มแดงๆ ผมอีก เอาเถอะ ยกเว้นใบหม่อนให้คนนึง อนุญาตให้อยากรู้อยากเห็นได้
“ไม่มีอะไรสักหน่อย แค่เนมอารมณ์ดีไม่ได้ไง”
“ไม่จริงหรอก ปกติถ้าอารมณ์ดีเนมก็จะพูดๆๆๆ หรือไม่ก็กินๆๆ ไม่มีมานั่งตาลอยยิ้มหวานแจกคนอื่นแบบนี้หรอก”
“ก็!!...ก็นิดหน่อย”
“อะไรนิดหน่อยเหรอ แฟนเนมทำอะไรให้พิเศษหรือไง”
“เปล่าหรอก แค่...ไม่รู้สิ เนมแค่รู้สึกว่าช่วงนี้อะไรๆ ก็ดีไปหมด ไม่ทะเลาะกัน ไม่มีเรื่องให้หงุดหงิดหรือเก็บมาคิดมาก คือ...เนมไม่รู้จะบอกไงดี”ปกติผมไม่เคยพูดเรื่องพี่โก้ให้คนอื่นนอกจากพี่นิคไงฮะ พอจะเล่าก็เลยไม่รู้จะเริ่มตรงไหน อีกอย่างที่ทำให้กล้าพูดก็เพราะคีย์ไม่อยู่ตรงนี้ ไม่งั้นผมก็ไม่ค่อยกล้า ไม่ใช่ว่าเกรงใจหรืออะไรคีย์หรอกนะ แต่ไม่อยากเห็นตาเศร้าๆ ของคีย์มันน่ะ ถึงมันจะโอเค ไม่มีปัญหา แต่เราก็รู้กันอยู่ว่ามันไม่ใช่ทั้งหมด คีย์ก็คงประมาณตามใจผม จะคบก็คบ แต่อย่าให้รับรู้อะไรแล้วกัน น่าจะคล้ายๆ ที่ผมไม่ชอบฟังมันพูดถึงอีน้องตองของมันน่ะแหละ
“ยังไงล่ะ ปกติทะเลาะกันบ่อยเหรอ”ใบหม่อนถามต่อ พร้อมด้วยไอ้ป้องที่นอนซบท่อนแขนเอียงหน้ามารอฟังผมเต็มที่
“ก็ไม่เชิง คือปกติพี่โก้จะไม่ค่อยพูดไง อืม...คือเนมกับพี่โก้น่ะ รู้จักกันตั้งแต่เด็กเลยใช่มั้ยล่ะ แล้วแบบก็เคยคบกันพักนึงตอนเด็ก แล้วก็ห่างกัน จนมาเจอที่นี่ แต่แบบ...พี่โก้เมื่อก่อนกับตอนแรกๆ ที่เจอน่ะ ไม่เหมือนกันเลยสักนิดเดียว เนมก็เลยรับไม่ได้นิดๆ น่ะนะ คือมันไม่ชิน แล้วก็มีปัญหาอื่นๆ ด้วย ก็คบกันแบบงงๆ ยิ่งพี่โก้ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยอธิบายอะไร เนมก็ยิ่งหงุดหงิด แล้วก็ทะเลาะกันเรื่องเดิมๆ ถึงจะไม่ได้เถียงใส่กันบ่อย แต่ก็มีอารมณ์แบบ...เล่นสงครามประสาทกันอะไรแบบนี้น่ะ แต่ว่าตอนนี้พี่โก้ไม่เป็นแบบนั้นแล้ว มีอะไรพี่โก้ก็บอกตลอด พูดมากขึ้นน่ะ เนมเลยดีใจ”
“ดีใจเพราะพี่เขาพูดมากขึ้นเนี่ยนะ”
“ก็นิดนึงไง หม่อนไม่รู้หรอกว่าพี่โก้เวลาไม่พูดเป็นยังไง แล้วเมื่อก่อนนะ พี่โก้ใจดีมากๆ พอมาเจอกันอีกมันไม่เหมือนเดิม เนมก็เลยมีช่วงรับไม่ได้บ้างนิดๆ ตอนนี้ก็ไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนสักทีเดียวหรอก เพราะพี่เขาโตแล้ว ไม่มาเล่นปัญญาอ่อนกับเนมเหมือนเด็กๆ อีก แต่บรรยากาศมันก็ใกล้เคียงแล้วล่ะ มันแบบ...คุ้นเคยน่ะ”
“อืม...เหรอ แล้ว....ถ้าพี่เขาไม่เหมือนเมื่อก่อน เนมก็จะไม่ชอบเหรอ”
“ไม่ใช่!! คือ เนมบอกไม่ถูกนะ ปัญหาของเนมมันเยอะ จนเนมเองก็รู้ตัวว่าเราไม่มีทางกลับไปเหมือนเดิมได้อีก เนมก็ไม่คิดว่าเราจะต้องไปเป็นเหมือนตอนเด็ก แต่พอตอนนี้บรรยากาศมันคล้ายๆ เดิม เนมก็เลยดีใจไง แบบว่า...อืม...รู้สึกว่า ใช่...พี่โก้ยังเป็นคนที่เนมรู้จัก ยังเป็นคนเดิม อะไรแบบนี้อะ หม่อนเข้าใจมั้ย”
“ก็.....นิดนึง”
“ไม่เห็นเข้าใจยากเลยหม่อน ก็แค่สรุปง่ายๆ ว่ามันดันตกหลุมรักแฟนตัวเองในรูปแบบใหม่อีกรอบ ก็แค่นั้นเอง”
“เออจริงด้วย ใช่ๆ ที่เนมพูดมาน่ะ ป้องอธิบายได้ตรงที่สุดเลย อย่างนี้หม่อนค่อยเข้าใจง่ายหน่อย”
“เหรอ...งั้นมั้ง”ผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้กับคำพูดของป้องที่โดนใจผมเองเหมือนกัน จากที่ไม่คิดอะไร แค่ดีใจและมีความสุขเฉยๆ พอป้องพูดออกมา ในหัวก็เหมือนมีเสียงตัวเองดังขึ้นว่า...ใช่!! ตกหลุมรักอีกครั้งจริงๆ ด้วย!!
ผมนั่งหน้าแดงบิดไปบิดมาให้ทั้งสองคนล้อได้ไม่นานหรอกครับ คีย์ก็เดินมาตบหัวแทบคว่ำจากด้านหลังพร้อมเพื่อนที่มันไปตามมา ใช่แล้ว วันนี้เรามีนัดปาร์ตี้กันที่ห้องของคีย์ ส่วนพวกที่ตามมาก็คือเพื่อนในกลุ่มเตะบอลของมันนั่นแหละ งานนี้ใบหม่อนไม่ได้ไปเพราะแฟนไม่อนุญาต ตอนนี้เลยต้องนั่งรอพี่บอลเลิกเรียนแล้วเดี๋ยวพี่เขาพาไปส่งผู้ปกครองเหมือนเช่นเคย
จากเดิมที่กะว่าจะไปเมากันที่ห้องคีย์ก็เปลี่ยนแผน เพราะจากการพูดคุยของเพื่อนๆ คีย์ ได้ผลสรุปว่าถ้าเมาที่ห้องมัน รุ่งเช้ามันน่าจะโดนไล่ออก เพราะเล่นขนไปกันสิบกว่าคน แต่ละคนคาดว่าจะเมาแล้วเรื้อนทั้งนั้น ดังนั้นเราเลยย้ายแหล่งเมาไปที่บ้านฟิวส์แทน เพราะในทีมที่เตะบอลกันก็มีพวกฟิวส์หลายคน ผม คีย์ ป้อง พร้อมเพื่อนฟิวส์อีกสองคนนั่งรถฟิวส์ไป ส่วนที่เหลือก็กระจายๆ ไปรถคนอื่น
“เนมแม่งตัวเล็กจังวะมึง เล่นกีฬากับเค้าบ้างเปล่าวะ”เพื่อนคีย์ที่นั่งริมประตูอีกฝั่งถาม เนื่องจากแต่ละคนตัวใหญ่ๆ ทั้งนั้น ผมเลยต้องเสียสละนั่งตักคีย์
“มันเล่นนะเว้ย อย่าดูถูกไป เมื่อวานกูเห็นมันวิ่งตามลูกบาสอยู่ กูลุ้นลูกบาสกระแทกหน้ามันตลอดเลย โคตรมันส์”
“เชี่ย กูไม่ได้เล่นแย่ซะหน่อย”เพื่อนฟิวส์แม่งปากเสียอะ ไอ้สองคนนี้ชื่อไก่กับจอห์น เป็นเพื่อนซี้ฟิวส์ ชอบปากเสียแซวผมบ่อยๆ จอห์นจะสนิทกับคีย์เพราะเตะบอลกับไปเที่ยวกันบ่อยๆ มันอยู่หอพักเดียวกับคีย์ หลังๆ ถ้าคีย์บอกว่าไปเที่ยวก็จะไปกับไอ้จอห์นนี่แหละประจำ แล้วก็พากันหิ้วคนโน้นคนนี้กลับมา จอห์นมันก็คล้ายๆ คีย์นะครับ ประเภทหญิงก็ได้ชายยิ่งดีอะไรแบบนี้
ผมต้องทนนั่งให้พวกมันทั้งหมด ย้ำนะครับว่าทั้งหมด จิกกัดผมตลอดทาง ไอ้ป้องนี่ไม่เคยคิดหวังพึ่งอะไรอยู่แล้ว มีแต่จะซ้ำเติมผมมากกว่า แต่คีย์นี่สิ ไม่ซ้ำนะครับ แต่หัวเราะตัวสั่นจนตัวผมกระเพื่อมไปด้วยเลย
นอกจากเพื่อนสนิทฟิวส์แล้วก็มีผมนี่แหละที่เคยมาบ้านหลังนี้ ครั้งแรกที่มาก็ยังอดตื่นตากับความใหญ่ของตัวบ้านไม่ได้ ไม่ใช่ว่าดูไม่ออกหรอกนะว่ามันรวย แต่ว่าบ้านมันสวยมากๆ ต่างหาก ลักษณะบ้านคล้ายๆตึกสองหลังสร้างคู่กันแล้วมีทางเชื่อมน่ะครับ แล้วก็ยังมีหลังเล็กๆ แยกห่างออกมานิดหน่อย แต่มีลักษณะเป็นเดียว ส่วนนี้นี่ล่ะที่จะเป็นแหล่งสุมหัวของเราคืนนี้ ฟิวส์บอกผมตอนที่มาครั้งก่อนว่าตอนแรกกะว่าจะแยกมานอนคนเดียวตามประสาหนุ่มโสดรักสนุกกลับบ้านดึก แต่พอมาอยู่จริงๆ แล้วลำบาก เพราะเวลาจะหาอะไรทานก็ต้องเดินมาบ้านใหญ่ หรืออยากดูหนัง มาดูที่บ้านใหญ่จะดีกว่า เพราะเป็นโฮมเธียร์เตอร์ ฟิวส์ก็เลยกลับไปนอนห้องเดิม ส่วนหลังเล็กนี้ก็เอาไว้ปาร์ตี้หรือให้แขกพัก
พวกเราเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมพร้อม ไม่ใช่พร้อมเมานะครับ พร้อมว่ายน้ำต่างหาก ตอนแรกกะว่ามาถึงจะตั้งวงกันเลย แต่พอเห็นสระน้ำแล้วมันอดไม่ได้ ตั้งแต่คราวที่แล้วผมก็จ้องเอาไว้ละว่าน่าว่าย ในที่สุดก็ได้ว่ายจริงๆ เราใส่บ๊อกเซอร์กันลงน้ำ บางคนก็ยืมกางเกงขาสั้นฟิวส์ บางก็ไม่ว่ายแต่ตั้งวงรอ หนึ่งในนั้นก็คือคีย์ มันกะเมาอ้วกเต็มที่ ผมว่ายน้ำเล่นได้แป๊บเดียวก็โดนป้องกระโดดขึ้นข้างหลังจนตัวผมจมลงไปในน้ำ พอโผล่ขึ้นมาได้เลยแกล้งมันคืน แต่ผมจะไปสู้แรงอะไรมันไหวล่ะ พวกเราเล่นน้ำไป พอเหนื่อยก็ไปพักลอยคอชนแก้วกับวงข้างๆ สระ จนกระทั่งผมเริ่มหนาวคีย์เลยไล่ให้ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด ก่อนจะผมให้ฟิวส์แวะไปเอาเสื้อผ้าที่ห้องคีย์ก่อน ไม่ใช่เสื้อผ้าผมหรอก เสื้อผ้าคีย์น่ะแหละ ยืมมันก่อน แต่ถ้าจะให้มายืมของฟิวส์ผมยังไม่กล้าแฮะ มันแปลกๆ ยังไม่สนิทกันขนาดนั้น
กว่าผมจะอาบน้ำแต่งตัวใหม่เสร็จ พวกนั้นก็ย้ายเข้ามานั่งดื่มในบ้านเล็กแล้ว ผมเดินไปค้นๆ กล่องดีวีดีหน้าโทรทัศน์ อารมณ์นี้อยู่ดีๆ ก็อยากดูหนังน่ะครับ
“หาเรื่องอะไร”ฟิวส์เดินมานั่งยองๆ มองผมที่มีสมาธิในการรื้อของคนอื่นอย่างมาก
“ไม่รู้เหมือนกัน ยังไม่เจออะไรถูกใจอะ”
“จะดูแนวไหนเดี๋ยวช่วยเลือก”
“ไม่รู้อะ อยากดูเฉยๆ”
“เอ๊า แล้วอย่างนี้จะเลือกถูกมั้ย”ฟิวส์เอานิ้วจิ้มหัวผมหยอกๆ แต่ผมผลักไหล่มันคืนจนมันล้มนั่งเลย มือไปจับอะไรมาบ้างก็ไม่รู้ มาจิ้มหน้าเดี๋ยวสิวขึ้นอะ
“ยุ่ง ไปไหนก็ไป”ผมหันกลับมาเลือกต่อ แต่ก็ยังไม่รู้จะเอาเรื่องอะไรดี เลือกๆ อยู่เสียงเพลงที่คุ้นเคยก็ดัง ผมรีบตะปบโทรศัพท์ตัวเองที่วางไว้ใกล้ๆ มากดรับสายทันที
“ฮาโหลลล”ต้องทำเสียงอ้อนๆ ไว้ก่อนฮะ ความจริงแล้วผมลืมโทรบอกพี่โก้อะ ตอนนี้พี่โก้คงเพิ่งเลิกงานแน่ๆ เลย แต่ทำไมวันนี้เลิกดึกจัง จะสี่ทุ่มแล้ว
“เมายัง”
“เมาอารายยยย คึๆ ยังฮะ เนมเพิ่งเล่นน้ำเสร็จ”
“เล่นน้ำ”
“อ๋อ พอดีเพื่อนๆ มันย้ายที่กินมาบ้านเพื่อนอีกคนแทน กลัวกินที่ห้องคีย์เสียงจะดัง เกรงใจห้องข้างๆ”
“อืม”
“แหะๆ เนมลืมโทรไปบอกอะ พี่โก้เพิ่งเลิกงานเหรอ”ผมลุกออกมานั่งคุยที่เก้าอี้ข้างสระน้ำแทน เพราะทนเสียงแซวจากพวกข้างในไม่ไหว ปากดีกันทุกๆ ตัวเลยให้ตายเหอะ
“เปล่า ไปกินข้าวกับไอ้นิ้งเลยพามันไปส่งบ้านเมื่อกี้”
“อ๋ออออ เนมไม่อยู่เลยนัดสาวเหรอ”ผมแกล้งแซว เพราะพี่โก้ชอบทำหน้าเบ้ๆ ทุกครั้งที่ผมแซวพี่โก้กับพี่นิ้ง หรือแม้กระทั่งชมว่าพี่นิ้งสวยก็เถอะ พี่โก้จะทำหน้าแบบเซ็งๆ กึ่งๆ รับไม่ได้
“สาวดุ้นน่ะสิ”
“ห๊ะ!! พี่นิ้งยังไม่เฉาะเหรอ”
“เปล่า แต่มันเคยมีไง แต่ให้โมดิฟายยังไงพี่ก็ยังนึกภาพมันหัวเกรียนตัวดำออก”
“พี่นิ้งออกจะน่ารัก สวยกว่าผู้หญิงอีก”
“ไปบอกมันไป แล้วนี่ตกลงยังไง จะให้พี่ไปรับรึเปล่า”
“อืม...พวกเนมเพิ่งจะเริ่มตั้งวงกันเอง ดึกมากแน่ๆ เลย พี่โก้กลับไปพักผ่อนดีกว่า แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าค่อยมารับ นะ”
“ตามใจ”
“จะวางแล้วเหรอ”
“อืม พี่ขับรถอยู่”
“อ๋อ งั้นก็วางดีกว่า อันตราย เดี๋ยวดึกๆ เนมโทรหาใหม่นะ”
“อืม อย่าเมามาก”
“เป็นห่วงเหรอ”
“อย่าเมา”พี่โก้ทำเสียงเข้มๆ ตอบกลับมา แต่เข้มได้น่ารักที่สุดสำหรับผมแล้ว เอาเถอะ แค่นี้ผมก็ดีใจจนตัวลอยแล้ว
“ฮ่าๆๆๆ พี่โก้น่ารักที่สุดในโลก โอเค ไม่เมาเด็ดขาด งั้นก่อนนอนเนมโทรหา หรือถ้าพี่โก้จะนอนเร็วก็โทรมานะ แค่นี้ก่อนนะฮะ ขับรถดีๆ นะ”พอได้ยินเสียง ‘อืม’ เบาๆ จากปลายสายผมก็กดวางแล้วถอนหายใจเบาๆ ผมรู้ตัวดีว่ากำลังนั่งยิ้มเพ้อๆ อีกแล้ว ไม่รู้สิ ผมแค่มีความสุข และไม่อยากหาเหตุผลหรือสาเหตุอะไรมาให้คำตอบเหตุการณ์ช่วงนี้ ไม่ว่าจะเพราะอะไรพี่โก้ถึงใจดีกับผมมากขึ้น แต่แค่นี้...ก็พอแล้ว ไม่งั้นผมคงต้องตายเพราะความสุขพวกนี้แน่ๆ
ผมเดินกลับเข้ามาในบ้านอีกครั้ง โครงการดูหนังขอผมถูกขว้างทิ้งแล้วแทนที่ด้วยคาราโอเกะ ไม่ยักรู้ว่าไอ้พวกนี้จะสุนทรีย์ขนาดนี้ ผมเดินมานั่งข้างๆ คีย์ที่เว้นที่ว่างไว้ให้ แก้วของผมถูกชงมาวางทันทีโดยจอห์นที่ยิ้มล้อๆ ผมอยู่ ไม่อยากจะบอกเลยว่าระหว่างที่ผมคุยกับพี่โก้ก็ได้ยินไอ้พวกในบ้านนี่แหละตะโกนแซวตลอด หนักๆ เข้าก็มีเปิดประตูออกมาแซวด้วย แต่ช่างมัน ผมไม่สน
พวกเรานั่งดื่มกันไปเรื่อยๆ จากแหกปากร้องเพลงก็เปลี่ยนมาเล่นเกมส์คลาสสิค วินนิ่งนั่นเอง แต่มันเล่นได้แค่รอบละสองคน คนที่เล่นก็เลยโดนป่วนจากพวกที่รอ ในที่สุดก็ต้องเลิกเล่นกลับมาสู่แผนของผม เปิดหนังดูสิครับจะมีอะไร ดูหนังไปนับเลขกันไป เพลินสุดๆ
“ง่วงแล้วเหรอวะ”คีย์ถามผมที่เอนหัวซบไหล่มันไว้ ถึงคอจะเริ่มอ่อน ตาเริ่มปิด แต่มือยังถือไพ่ไม่ปล่อยนะครับ
“อือ”
“ง่วงก็ไปนอนดิ ไปนอนห้องฟิวส์ก็ได้”ฟิวส์ที่นั่งอีกข้างของผมบอก บ้านหลังเล็กของมันมีหนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องน้ำ หนึ่งห้อง
รับแขก พวกเรากะว่าจะนอนกองรวมๆ กันตรงนี้นี่แหละ แต่เท่าที่ผมดู คาดว่ามันคงไม่นอนจนกว่าจะเช้าจริงๆ พี่โก้โทรมาตอนตีหนึ่งกว่าก่อนเข้านอน เราได้คุยกันแป๊บเดียวผมก็ปล่อยพี่โก้ไปนอน เผื่อพรุ่งนี้จะได้รีบตื่นเช้าๆ มารับผม แต่ผมนี่สิจะตื่นตอนไหนยังไม่รู้เลย
“แล้วพวกมึงล่ะ”
“ไม่รู้ว่ะ เรื่อยๆ กูเริ่มหิวอีกรอบแล้วด้วย”คีย์แม่งชิวเกินไปละ พวกค้างคาวจริงๆ ยิ่งดึกตายิ่งใส
“กูก็หิว มีอะไรให้กินบ้างวะ”พอคีย์พูด ไอ้ป้องก็พูดตาม แล้วก็ตามด้วยคนอื่นๆ เลิกสนใจผมไปทันที แต่ยังคงเหลือฟิวส์ที่สะกิดแขนผมเบาๆ
“ไปนอนในห้องไป พวกนี้อีกนาน เนมนอนตรงนี้ไม่หลับหรอก เกะกะด้วย”แรกๆ ฟังดูดี ทำไมคำสุดท้ายฟังแล้วเชี่ยขึ้นมาทันทีเลย
“เออๆ ไปก็ได้ คีย์ๆ มึงจะนอนก็ไปนอนในห้องกับกูนะ”ผมบอกคีย์ให้ไปนอนเป็นเพื่อน แปลกที่อะครับ ไม่อยากนอนคนเดียว แต่คีย์แม่งไม่ได้สนใจเลย สามัคคีกับไอ้จอห์นไอ้ป้องพากันเดินออกจากบ้านไปทางครัวบ้านใหญ่ คงไปหาของกิน แม่งไม่เกรงใจเจ้าของบ้านที่ยังนั่งตาแป๋วข้างๆ ผมบ้างเลย
“มองอะไร”พอเสาค้ำหลักหายไป ตัวผมก็เอียงสิ ผมไม่เมานะ แค่ไม่เหมือนเดิม ฮ่าๆๆ
“มองคนเมา ไปนอนไป เดี๋ยวไปส่ง”ฟิวส์ฉุดแขนผมให้ลุกขึ้น เพื่อนมันที่ยังนั่งอยู่แม่งก็ปากดี แซวผมกับมันอีกและ
“อย่าอ้วกบนเตียงนะเว้ย ไหวเปล่าเนี่ย”
“ไม่เม๊า!”แม่งถามย้ำ เดี๋ยวอ้วกโชว์เลย ผมเอาเท้ายันๆ ตรงเอวมัน ไล่ให้มันไปไกลๆ ยืนทำหน้ากวนบาทาอยู่ได้ใกล้ๆ
“หาอะไร”ผมควานๆ หาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงขาสั้น แต่ไม่มีแฮะ สงสัยอยู่ข้างนอก พี่โก้บอกว่าจะนอนให้โทรไป ไม่รู้ให้โทรทำไม แต่ต้องโทร อยากโทรด้วย คิดถึง
“โทรศัพท์หาย”
“อยู่ข้างนอกมั้ง เดี๋ยวไปดูให้”มันพูดจบก็เดินออกไปเลย ผมกระดึ้บๆ ให้ตัวมาอยู่กลางเตียงแล้วนอนรอจนเกือบหลับมันก็กลับเข้ามาพร้อมโทรศัพท์ผมที่มันขโมยไป นิสัยเสียอะ
“มองอะไร ไปไหนก็ไปเด้”แม่งแกล้งผมอ่ะ เอาของมาคืนแล้วยังมานั่งเบียดอีก
“จะฟังคนสวีทกับแฟน มีอะไรมั้ย”
“อ๋อออ อยากเสือก โหยยย แล้วก็ไม่บอก”ชิส์ ว่าแล้วยังยิ้มใส่อีก ผมพลิกตัวนอนคว่ำเลย ไม่อยากเห็นหน้ามัน กดเบอร์หาพี่โก้ก่อน สักพักเลยครับกว่าจะรับ
“ทำรายยย ทำไมรับช้า!”ดุใส่เลย เมาครับ ไม่กลัว เอ้ย....ไม่เมาๆ
“........”
“โหลๆๆ พี่โก้ๆๆ ได้ยินเค้าเปล่า โหลๆๆๆๆๆๆ”
“เมาใช่มั้ยเนี่ย”
“ไม่เมา”
“.................”
“เมาก่ะด่ะ คึๆ”
“แล้วไง”
“คิดถึงนะฮะ”งื้อ พูดไปด้วย เขินไอ้ฟิวส์ไปด้วย แต่ทำไมถึงอยากร้องไห้ด้วยนี่ไม่เข้าใจเลย
“เมามากรึเปล่า”
“นิดหน่อย แต่มานอนแล้ว ไม่ดื่มและ อิ่ม”
“นอนตอนนี้แล้วเมื่อไรจะตื่น”
“อือ.....ไม่รู้ฮะ ง่วง”
“ไปนอนไป ตื่นแล้วโทรมาด้วย”
“โทรอยู่ไงฮะ ไม่ได้ยินเหรอ”พี่โก้พูดไม่รู้เรื่องนะ ให้โทรไรอีก ก็โทรอยู่นี่ไง ไอ้พวกข้างนอกก็ตะโกนอะไรกันไม่รู้เสียงดัง ผมจะหันไปด่าก็เจอไอ้ฟิวส์นั่งมองผมท่าเดิมเลย ชิส์ ถือว่าเป็นห้องตัวเองล่ะสิเลยมีสิทธิ์นั่งฟังคนจะสวีทกัน สักพักไอ้จอห์นปากหมาก็เปิดประตูเข้ามาแซวเลย พวกคนอื่นก็ร่วมด้วย เสียงดังจนฟังไม่รู้เรื่อง งง มึน
“พี่โก้....เนมง่วง”
“.......จะให้ไปรับรึเปล่า”
“หืม...ตอนนี้เหรอ หึ ง่วงอะ นอนกันเหอะ เนมคิดถึง เดี๋ยวฝันหานะ”
“อืมๆ ตื่นแล้วโทรมาด้วย รู้เรื่องรึเปล่าเนี่ย”
“อืม รักๆ รู้แล้วน่า คึ”แล้วพี่โก้ก็บ่นอะไรอีกไม่รู้ งงแล้ว ผมนอนคว่ำหน้าหลับมันท่านี้แหละ ถ้าหายใจไม่ออกค่อยพลิกตัว ตอนนี้เมื่อย เหนื่อย ง่วง....แล้วก็คิดถึงพี่โก้ที่สุด
ผมตื่นขึ้นมาเป็นคนแรกของบ้าน แต่ไม่ใช่ว่าตื่นเช้าหรอกนะ ตื่นเกือบจะเที่ยงแล้ว บนเตียงมีคีย์มานอนอีกฝั่ง ส่วนอีกฝั่งมีเจ้าของเตียงมานอนขดตัวข้างๆ สงสัยหนาวเพราะผมแย่งผ้าห่มมาคนเดียวหมดเลย ผมลุกเซๆ ออกมาดูสภาพข้างนอก ไม่แน่ใจว่าตอนที่หลับมีสงครามโลกครั้งที่สามเกิดขึ้นรึเปล่า สภาพถึงได้เละขนาดนี้ มีซากแก้วและจานแตกให้เห็น มีหม้อสุกี้ที่ข้างในเต็มไปด้วยน้ำมาม่าที่เหลืออยู่นิดหน่อย ซองขนมห่อกระจายเป็นหย่อมๆ แล้วก็ศพไม่มีญาติบนพื้น ผมเดินเข้าห้องน้ำอาบน้ำล้างหน้าแล้วก็ใส่ชุดเดิมนี่ล่ะ
“เนมตื่นเช้าจัง”ฟิวส์เป็นซอมบี้ที่ลุกมาเป็นตัวแรก สภาพเหมือนซอมบี้จริงๆ หัวชี้ฟูยิ่งกว่ารังนก แต่หน้ามันก็ยังใสอยู่ดี ทำไมไม่เหมือนผม เมาทีไรตื่นมาหน้าบวมแก้มป่องทุกทีเลย พุงก็บวมด้วย แต่หิว
“หิวอะ มีไรเหลือให้กินมะ”ผมพยายามส่องหาเศษอาหาร น่าสงสารตัวเอง แต่หิวๆๆ
“ง่วงก็บ่น หิวก็บ่น คนอะไร”
“คนน่ารัก”
“แหวะ อยากกินไรล่ะ เดี๋ยวไปบอกพี่แม่บ้านให้”
“อะไรก็ได้อะ รองท้องนิดนึง เดี๋ยวจะกลับแล้ว”
“อ้าวทำไมรีบกลับ ไม่ต่อเหรอ เดี๋ยวพวกนี้มันตื่นมากินต่อนะ”
“โห ไม่ไหวอะ ไม่ค่อยได้เมานานแล้ว เราอ่อน”
“กลับเย็นๆ ดิ เดี๋ยวไปส่ง ป้องมันก็จะกลับไปเอาเสื้อผ้าเหมือนกัน จะได้ออกไปรอบเดียว”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวให้แฟนมารับ”
“อ๋อ แล้วทะเลาะกับแฟนเปล่า ขอโทษแทนพวกมันด้วยแล้วกัน มันชอบเสือกอย่างนี้แหละ”
“ทะเลาะไรอะ เสือกไรเหรอ อ๋อ...ที่ตะโกนแซวอะเหรอ ไม่มีไรหรอก ขำๆ”ผมได้ยินตอนก่อนหลับแว่วๆ นะ แต่ฟังไม่รู้เรื่องหรอก อีกอย่างตอนอื่นที่คุยกับพี่โก้แล้วมันแซว พี่โก้ก็ไม่เห็นได้พูดหรือถามอะไร พี่โก้เป็นผู้ใหญ่แล้วด้วย คงไม่คิดมากหรอก
“แล้วตอนที่มันแย่งเนมรับโทรศัพท์แฟนล่ะ แถมมันพูด...ไม่ดีนิดหน่อย แฟนเนมไม่โกรธใช่มั้ย”
“หือ.....ตอนไหน พูดอะไร”ผมตาสว่างสร่างเมาหายหิวทันที โทรตอนไหน ใครพูด พูดอะไรวะ
“ก็ตอนเช้า....ที่จอห์นมันพูดไปว่าเนมเมาแล้วมือไม่ว่างรับสายเพราะ....นอนกอดกับเราอยู่น่ะ”++++++++++++++++++++++++++
มาม่า....อาหย่อยยยยย
ปล.จีจะอัพประมาณสัปดาห์ละตอนนะคะ ไม่เสาร์ก็อาทิตย์
ปล2.สำหรับใครอยากรู้ว่าหายไปไหน จีขอตอบในเฟสที่เดียวนะคะ ใครอยากรู้ไปอ่านในแฟนเพจเอานะ
ปล3.อาจจะบอกช้าไปสักหน่อย อยากจะบอกตั้งแต่ตอนอัพครั้งก่อนแล้วว่า..............................................ยังไม่ตายค่ะ