แน่นอนว่าลูกค้าไม่ยอมรับแซนวิชจานนั้นแถมลูกค้าที่ดูจะอารมณ์เสียมาจากที่อื่นก็ใส่อารมณ์กับพศวัตอย่างแรง
สมปองสะดุ้งเฮือกเมื่อลูกค้าตวาดลั่นร้าน เด็กหนุ่มรีบวิ่งออกไปทันที
"ขอโทษนะครับผม...จะเอากลับไปทำให้ใหม่เดี๋ยวนี้ครับ...."
"กลับไปหลังร้านไป "พศวัตหันไปสั่งก่อนจะขอโทษขอโพยลูกค้าอย่างสุภาพแล้วหยิบแซนวิชจากนั้นกลับไปในครัวทันที
เด็กหนุ่มเดินตามหลังของเจ้าของร้านเข้าไปในครัว หูตกหางลู่หากจะบรรยายออกมาเป็นคำใดได้คงเป็นเช่นนั้น
"ขอโทษครับ...ออเดอร์โต้ะ แปด....แซนวิสขนมปังโฮลวีท สลัดทูน่าไม่ใส่มะเขือเทศ....ผม...ดันหยิบมะเขือเทศใส่ลงไป...แถมขนมปังก็ผิดด้วย" เด็กหนุ่มก้มหัวยอมรับผิด
"เดี๋ยวผมจะรีบทำให้ใหม่ครับ"
"อืม ... ไม่เป็นไร อย่าใจลอยซิ "พศวัตลูบผมอีกฝ่ายเบาๆ แล้วเดินไปรับลูกค้าโต๊ะอื่นต่อ
ท่าทางของอีกฝ่ายทำให้เด็กหนุ่มถอนหายใจออกมา
"นึกว่าจะโดนด่าซะแล้ว..." พลางรีบทำแซนด์วิซชึ้นใหม่ออกไปส่งให้กับอีกฝ่าย
"ให้พักชั่วโมงนึง " เจ้าของร้านบอกพลางรับเอาจานแซนวิชนั้นมา
" เบลอแล้วไปพักเลย "
สมปองอ้าปากหมายจะเถียงอีกเขายังอยากจะทำงานแต่เมื่อคิดดูแล้วก็จริงดังว่าเลยพยักหน้ารับคำ ก่อนจะออกไปนั่งพักที่หลังร้านตามคำสั่ง ช่วงเที่ยงเป็นช่วงเวลาที่คนเยอะที่สุดแต่เขากลับต้องปล่อยให้สองคนทำงานกันตัวเป็นเกลียวสมปองถอนหายใจออกมาหนึ่งคำรบ
++++++++++++
เวลาหนึ่งชั่วโมงในการหยุดพักนั้นมันยาวนานเกินกว่าจะนั่งนิ่งๆอยู่ที่หลังร้าน เด็กหนุ่มหลบเดินขึ้นไปชั้นสองที่ห้องนอนของตัวเองที่ไม่ได้กลับมานอนเสียหลายวัน คิดได้ก็หยิบจับเสื้อผ้าลงกระเป๋า คิดว่ายังไงถ้าพศวัตจะลากเขาไปนอนที่บ้านนั้นอีกจะได้พอมีเสื้อผ้าใส่ไม่ต้องให้ใครบุกเอาเข้ามาให้ตอนกลางดึก แต่สุดท้ายแล้วเพราะนอนไม่หลับมาตลอดทั้งคืนก็ผล็อยหลับมันไปบนเตียงทั้งๆที่กระเป๋าที่จัดยังไม่ทันได้รูดซิปเสียด้วยซ้ำ
ส่วนพศวัต ปากก็บอกว่าจะให้พักแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้นแต่พอเห็นว่าสมปองเดินขึ้นไปชั้นบนเพื่อพักผ่อนก็ไม่ว่าอะไร ส่วนอรรถนันท์ก็ช่วยเขาทำงานอย่างเต็มที่ชดเชยที่หยุดงานไปนาน ประกอบกับเริ่มเป็นเวลาเข้างานของพนักงานออฟฟิตแถวนี้ จึงไม่ได้เดินขึ้นไปปลุกแต่อย่างใด
เด็กหนุ่มหลับสนิทไปจนเย็นชุดพนักงานที่ใส่อยู่ยับยู่ยี่เพราะนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่หลายตลบ จนจบลงด้วยท่านอนที่ผิดธรรมชาติอีกเช่นเคย ตัวช่วงบนบิดไปทางช่วงล่างบิดมาอีกทางจนเสื้อที่ควรจะอยู่ในกางเกงก็เลิกดึงออกมาด้านนอก ท่าทางชวนเมื่อยแบบนั้นแต่สมปองกลับนอนหลับยิ้มเหมือนสบายใจนักแล
“บอกให้พักได้ก็เอาเสียเต็มทีเลยนะ....”
ท่านอนอย่างสบายอกสบายใจทำให้เจ้าของร้านที่เดินขึ้นมาดูอาการยิ้มออก พศวัตนั่งที่อีกด้านของเตียง มือแกร่งลูบผมของสมปองเบาๆ
"ง่าม....ออกไปเลย...งื้ม..." เสียงละเมอแปลกๆดังขึ้นพร้อมมือที่ปัดไปมาอย่างรำคาญ
"น้อย ค่ำแล้วนะ ตื่นๆ "ชายหนุ่มปลุกด้วยเสียงและมือที่แตะแก้มเบาๆ
"ขอ.......แซนวิสทูน่าไม่ใส่มะเขือเทศ....หนึ่งค่า..."ยังไม่วายสมปองยังละเมอออกมาเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะสัมพันธ์กับการละเมอครั้งแรกออกมาอีกครั้ง
"หึ หึ .. ไม่ต้องทำแล้ว เจ้าหนู ตื่นๆ "เสียงละเมอนั่นทำให้พศวัตหัวเราะได้ เสียงหัวเราะแปลกๆที่ดังขึ้นที่ข้างหู หัวที่กำลังโคลงเคลงไปมาหยุดก่อนที่ดวงตาของเด็กหนุ่มจะค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น
"อือ.....หัวเราะอาราย...พี่จิ๊บ?..." ยังเมาขี้ตาเด็กหนุ่มมองว่าอีกฝ่ายเป็นพนักงานอีกคนของร้านไปเสียอย่างนั้น
"เอ้า จำกันไม่ได้อีก ไอ้นี่โดนแน่"ชายหนุ่มรู้สึกมันเขี้ยวกับท่าทางแบบนั้นจึงก้มลงจูบอีกฝ่ายทันที ได้ผลเด็กหนุ่มสะดุ้งตาโพลง
"อื้อ........คะ...คุณ....แมกซ์" คำพูดขาดห้วงเพราะพยายามหนีให้พ้นริมฝีปากหนาของชายหนุ่มร่างสูง
"หึ หึ เรียกให้มันถูกๆได้ซักทีนะ "
"อะไร...อ่ะ...ผมหลับไปเหรอ..กี่โมงแล้วอ่ะ ต้องลงไปทำงาน" คิดได้ดังนั้นเด็กหนุ่มก็ทำท่าจะลุกไปทำงานเพราะจำได้ครั้งสุดท้ายคืออีกฝ่ายบอกให้มาพักได้หนึ่งชั่วโมง
"ไม่ต้องทำแล้ว ร้านปิดแล้ว พี่ให้น้องจิ๊บกลับไปพักแล้ว "เขาดึงมืออีกฝ่ายให้ลุกขึ้น
"เก็บของเสร็จแล้วใช่ไหม? กลับบ้านกัน" มืออีกข้างก็หยิบกระเป๋าเสื้อผ้าของสมปองแล้วจูงให้เดินลงจากชั้นสองของร้าน
"เดินออกจากร้านเสื้อผ้าหลุดรุ่ย มีผู้ชายอายุมากกว่าเดินจูงมือเดี๋ยวจะมีคนเขาว่าได้...คราวก่อนไปข้าวสารยังมีคนมาหาว่าผมไปขายเลย เซ็งเนอะ ชอบมีคนเข้าใจผมผิดเนี่ย..."
"หรืออยากให้เข้าใจถูก?"พศวัตทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่อีกฝ่ายดูเหมือนเขาจะชอบแกล้งเด็กคนนี้ ชอบที่จะเห็นปฏิกิริยาซื่อๆและตลกของสมปองมากขึ้นทุกวันในขณะเดียวกันก็อยากจะดูแลให้มีชีวิตที่ดีด้วย
เด็กหนุ่มแทบจะกระโดดถอยไปข้างหลัง
"คุณแมกซ์อย่าแกล้งผมดิ่ หลายรอบแล้วก่อนจะเซ็งคนอื่นเซ็งตัวเองผมอาจจะขออนุญาตเซ็งเจ้าของร้านก่อน..แล้ว..แล้วก็...ผมถือเองกระเป๋าเนี่ย..."ว่าพลางก็แย่งเอากระเป๋ามาถือเอาไว้ในมือ
"งั้นก็ถือเอง "
เด็กหนุ่มยิ้มร่า ก่อนจะถือกระเป๋าเอาไว้แน่น หันซ้ายมองขวาดูเหมือนว่าจิ๊บจะช่วยพศวัตปิดร้านเรียบร้อยแล้ว
"พี่จิ๊บ ไม่เป็นอะไรแน่นะครับ" เด็กหนุ่มเอ่ยถาม
"เขามาขอโทษพี่ ที่ลางานบ่อยๆ ต่อไปจะไม่ลาอีกแล้ว "ชายหนุ่มถอนหายใจ เขายังรู้สึกเป็นห่วง หากอรรถนันท์ยังคงคบก้องภพต่อไปอีกไม่นานก็คงมีเรื่องเกิดขึ้นเหมือนกับที่เคยเกิดกับรามินทร์
"ดูคุณแมกซ์จะเป็นห่วงพี่จิ๊บมาก" สมปองว่าพลางก้มลงเล็กๆเพื่อจะมองหน้าของอีกฝ่ายที่ก้มลงถอนหายใจได้ถนัดถหนี่
"แต่พี่จิ๊บคงจะไม่เป็นอะไรหรอกครับ ผมว่า...ขนาดป่วยนอนไม่พอยังหน้าตาบลิ้งมาทำงานได้ ผมว่าพี่เขายังมีแรงทำงานที่ร้านได้อีกนาน"
"ก็ต้องห่วงล่ะ เป็นแฟนไอ้ก้อง .. มันน่ะ.. "ชายหนุ่มเงียบเมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะพูดในสิ่งที่ไม่ควรจะบอกใครออกไป
"ช่างเถอะ กลับกันดีกว่า"
สมปองมองหน้าของอีกฝ่ายอย่างงงๆ เพราะเหมือนกับว่าพศวัตกำลังจะพูดอะไรต่อแต่ก็เปลี่ยนใจไปเสียนี่ ก่อนจะต้องล้ออีกฝ่ายออกมาอีกรอบกับคำพูดของชายหนุ่มอายุมากกว่าเขาเกือบเท่าตัว
"ครับๆ กลับกันดีกว่า..."
++++++++++++
ไม่มีทีท่าว่าแขกประจำของร้านจะมานั่งที่โต้ะริมด้านในสุดของร้านเหมือนเช่นทุกที ช่วงกลางวันก่อนจะถึงช่วงพักเที่ยงของเหล่าพนักงานบริษัทที่ดูบางตาอยู่แล้วก็ยิ่งดูเงียบเหงาไปเมื่อขาดแขกเจ้าประจำที่มักจะสั่งกาแฟมากกว่าสามแก้วพร้อมขนมทานเล่นแล้วนั่งอยู่ได้เรื่อยๆตั้งแต่สายยันบ่ายแก่
"เงียบเนอะ พี่จิ๊บ.... เฮียแมนก็ไม่อยู่ คุณมินก็ไม่อยู่... นี่คุณก้องขาประจำก็ไม่มาอีก.... ร้านเราจะร้างรึเปล่าเนี่ย"เด็กหนุ่มที่ใบหน้านั้นรอยฟกช้ำเริ่มจางลงบ้างแล้วหันมาถามพลางแนบหน้าคงกับเคาท์เตอร์ชงกาแฟ ในขณะที่ตัวก็เหยียดออกไปทางด้านหลัง สองขาสลับยืดเส้นไปมา
พศวัตส่ายหน้าไปมากับท่าทางของ"เด็กของเขา"
" จะตดใส่พี่รึไงวะ ? "ว่าพลางตบก้นงอนๆที่เขาหมายตามาตั้งแต่แรกเสียทีหนึ่งแล้วเดินไปหน้าร้าน
สิ่งที่เจ้าของร้านทำทำให้อรรถนันท์ขมวดคิ้ว ก่อนจะหันมามองสมปอง เขารู้สึกได้ว่ามันต้องมีอะไรแปลกๆระหว่างคนทั้งคู่แน่ๆ
"ก็ถ้าไม่ติดว่าเป็นเจ้าของร้านล่ะก็นะ........" เด็กหนุ่มโวยวายลั่น
"พ่อจะต่อยให้คว่ำเล้ย" ก่อนจะหันไปฟ้องอรรถนันท์
"พี่จิ๊บดูดิ่ คุณแมกซ์อ่ะ เป็นบ้าอะไรก็ไม่รู้แกล้งผมเอาๆ"
"อะ..อ่อ โดนแกล้งแบบนี้บ่อยเหรอ? "สิ่งที่สมปองฟ้องทำให้อรรถนันท์อดคิดมากไปอีกไม่ได้ แกล้งเอาๆ ถ้าแกล้งแบบนี้คงไม่พ้น..เมื่อคิดได้แบบนั้นริมฝีปากอิ่มก็ยิ้มออกได้ทันที
"บ่อยไม่บ่อย ก็เกือบทุกวันอ่ะ... "ก่อนจะสงสัยในรอยยิ้มนั้น "พี่จิ๊บยิ้มทำไม"
"ก็...ก็ตลกน่ะสิ ยิ่งโวยวายยิ่งโดนแกล้งนะ รู้ปะ? "หนุ่มเมืองเหนือแทบจะหัวเราะออกมา เขาจินตนาการไม่ออกเลยว่าคนอย่างพศวัตที่สมบูรณ์แบบขนาดนั้นจะมา "ชอบ" เด็กอย่างสมปองได้ยังไง
"แล้วทำไมต้องยิ่งโดนแกล้งด้วยล่ะ ไม่เอาอ่ะ...งั้นผมทำไงดี ลาออกเลยดีไหมพี่" หน้าตาสมปองยิ่งบอกบุญไม่รับเมื่อได้ยินคำพูดของอรรถนันท์
"เขาแกล้ง เพราะเอ็นดูหรอก "มือเรียวอุ่นๆลูบผมอีกฝ่ายก่อนจะถอนหายใจ
" เฮ้อ... "
"พี่จิ๊บเป็นไรอีกล่ะ "ทันทีที่เห็นอีกฝ่ายถอนหายใจเด็กหนุ่มก็มองหน้าอย่างใคร่รู้เหมือนทุกที ก่อนจะลากเก้าอี้มาจากหลังเครื่องคิดเงินมานั่งข้างๆ
"กลุ้มใจ หรือ ไม่สบาย เห็นตาโหลเป็นหมีแพนด้ามาหลายวันล่ะ...แต่ก็นะ พี่จิ๊บก็หน้าตาดีกว่าผมมาทำงานทุกกกกกกวัน...จนใครบางคนเขาดีใจยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียม" ท้ายเสียงดังเล็กน้อย รู้ว่าเจ้าของร้านจะได้ยิน
"นี่...ถ้าเราทำผิดไปแล้ว แต่ไม่ได้ตั้งใจ จะทำยังไงดีวะ? "
"ขอโทษเขาดิ่" เด็กหนุ่มตอบทันควัน
"ถ้าเราขอโทษ แสดงว่าเราจริงใจ ใส่ใจกะความรู้สึกเขาไม่ใช่เหรอ"ก่อนจะเอนตตัวไปด้านหลัง รู้ว่าเจ้าของร้านร่างสูงยืนอยู่หลังเสาตรงนั้นไม่ห่างออกไปนัก
"ไม่เหมือนใครบางคนเนอะ...ทำอะไรมะเห็นใส่ใจความรู้สึกคนอื่นเลย ....ไม่เคยขอโทษเขาซักครั้ง"คำพูดประชดประชันแบบนั้นไม่ได้ทำให้พศวัตสนใจ แม้จะได้ยิน ผิดกับคนที่มาปรึกษาที่ดูจะ .. คิดมาก
...ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกคนอื่นเลย ไม่เคยขอโทษเขาซักครั้ง ...
มันทำให้เขาคิดได้ว่าตนเองแย่แค่ไหน อรรถนันท์รีบลุกขึ้นทันที
" เดี๋ยวพี่ไปช่ววยพี่แมกซ์เก็บร้านก่อนนะ เย็นแล้ว "
"ผมช่วยด้วย" เด็กหนุ่มว่าพลางวิ่งไปช่วยทำงานบ้าง โดยสายตาก็เหลือบๆมองดูท่าทีของเจ้านายอยู่อย่างระแวดระวัง เมื่อเห็นว่าพศวัตดูจะนิ่งๆ เลยคิดว่าคงจะไม่ได้ยินเป็นแน่
เด็กหนุ่มกระหยิ่มยิ้มย่องทำงานต่อไปเรื่อยๆ จนพอพศวัตจะเดินไปปิดประตูหลังร้าน แล้วน้อยก็กำลังตรวจเช็คไฟฟืน อรรถนันท์ ก็มาบอกขอตัวกลับก่อน ปากบอกว่า จะรีบกลับบ้านไปอ่านหนังสือ แต่พอเดินออกจากร้านไปกลับเลี้ยวไปยังท้ายซอย
"สงสัยจะไปง้อคืนดีแหงม" สมปองยิ้มพลางกอดอกดูท่าคำแนะนำของเขาจะใช้ได้ผลสองไหล่ยืดตรงด้วยความภูมิใจ
"จะตามไปดูด้วยรึไง? …ไปไหม? เดี๋ยวเอาไปทิ้งไว้หน้าบ้านไอ้ก้องมัน" ไม่ทันไรพศวัตก็เดินกลับมาเห็นท่าทางอีกฝ่ายชะเง้อชะแง้อย่างอยากรู้อยากเห็นแบบนั้นก็อดที่จะเดินเข้าไปเงียบๆแล้วเอ่ยขึ้นแซวไม่ได้ ได้ผลเด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือกกับเสียงที่ดังมาจากด้านหลังก่อนจะขยับหนี
"ไปดูอะไรล่ะฮะ...มีอะไรให้ดูกันเชียว...."
"หึ หึ ก็ไปดู...น้องจิ๊บโดนจูบของจริงไง ไปไหมขี้เกียจอธิบายว่ะ ดูแล้วกลับมาจะได้เป็นงานเลย "
พูกจบทำท่าจะพาสมปองไปบ้านของก้องภพจริงๆ
"ไม่เอาอ่ะ...จะไปทำไมอ่ะ ไปเป็นก้าง.....ก้างขวางคอ เหรอ" อยู่ๆก็เกิดพูดติดอ่างขึ้นมาเสียงอย่างนั้น เด็กหนุ่มหน้าแดง
"แล้วไอ้จูบจริงๆนี่มันยังไง...แหวะ ไม่เอาด้วยหรอก"
"แหวะเหรอ? มานี่เลยๆ โดนแน่ "
มือแกร่งคว้าเอาตัวผอมๆของเด็กหนุ่มมาไล่กอดฟัดเช่นทุกวัน และยิ่งอีกฝ่ายโวยวายมากเท่าไร เขาก็ยิ่งสนุกที่ได้แกล้งและดูเหมือนว่าระยะหลังๆมานี่ การที่เขาแหย่อีกฝ่ายแบบถึงเนื้อถึงตัวแบบนี้ยิ่งมามากขึ้นเรื่อยๆ อาจเป็นเพราะอยากจะเห็นผิวของเด็กหนุ่มที่เรียกได้ว่าผิวดีขึ้นกว่าตอนแรกที่ได้คุยกันนั้นแดงระเรื่อขึ้นเพราะความเขินอายก็เป็นได้
หึหึ ตัวบิ๋มมมมมมมมมมม
สงสัยพี่จะมีอคติกะพระเอกของตัวบิ๋มทุกเรื่องแน่เลยหว่ะ กร๊ากกกกกก
โอ้ยยยย หงุดหงิดอิพี่แมกซ์ จะขยับอะไรทำอะไร ทำไมไม่ได้ดังใจเลยว๊าาา
ทำัตัวเป็นเจ้าน้อยเข้่าไปทุกวัน งอน หึง โกรธ อ่อยยย จะบ้าตายยย
โอ๊ะ เพิ่งเห็นพี่อ้อม .. งั้นอดทนกับพี่แมกซ์ต่อไปนะคะ เพราะอันนี้ช่วยไม่ได้จริงๆ
รอวันพี่แมกซ์ "โคตรป๋า" ก่อนก็แล้วกัน