ตอนนี้ยังกะนิยายทมยันดี เศร้าบีบหัวใจซ๊าาาาาาาาาาาาา
เจอเม้นนี้ถึงกับอึ้ง .. ไรเตอร์+โคไรเตอร์ ไม่กล้าเทียบเลยค่ะ .. ต้องขอบคุณรีดเดอร์ทุกท่านที่ชอบ(??) มาม่าชามโตนี้นะคะ
ปล.ตอนนี้มีพี่แมกซ์กับเจ้าน้อยด้วยล่ะ ++++++++++++
"คุณแมกซ์....คุณแมกซ์ครับ"
ร่างผอมของสมปองวิ่งตามร่างสูงออกไปที่หน้าร้าน ท่าทางหัวเสียแบบนั้นแม้จะไม่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเพราะมัวแต่จัดการกับลูกค้าแต่ เขาก็รู้สึกไม่สบายใจแทนคนทั้งสอง
" อะไร! "ชายหนุ่มตะคอกถามแม้จะรู้ว่าคือใคร อรมณ์ของเขาตอนนี้มันทั้งโกรธ ทั้งเสียใจ จนไม่อาจควบคุมตนเองได้ง่ายๆ ร่างเล็กกว่าสะดุ้งเฮือก น้ำเสียงที่ตอบกลับมานั้นทำเอาหัวใจแทบตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม
"เอ่อ....เอ่อ........." เจ้าน้อยละล่ำละลัก เขาจะพูดอะไร ทำไมต้องเดินตามอีกฝ่ายออกมา
"ผม....ผม.....ผมแค่เป็น......เอ่อ...... " เด็กหนุ่มไม่รู้จะพูดอะไรต่อ สายตาที่มองมานั้น หากเขาพูดอะไรออกไปตอนนี้ เขาอาจจะถูกหักคอเลยก็ได้
มือแกร่งยกขึ้นเป็นเชิงบอกว่าเขาไม่เป็นไร ก่อนจะชี้ไปที่ด้านหลังร้าน
"ไปดูไอ้แมนโน่น .. พี่ไม่เป็นไร.. "
"เอ่อ...งั้น รอผมเดี๋ยว...." เด็กหนุ่มยกมือเชิงบอกให้อีกฝ่ายรอ ก่อนจะวิ่งกลับไปหลังเคาท์เตอร์ เสียงดังกุกกัก กรอบแกรบ ก่อนที่ร่างเล็กกว่าจะเดินกลับมาพร้อมถุงพลาสติใส่น้ำแข็งสองถุงเล็กๆ เขายื่นให้อีกฝ่ายถุงหนึ่ง
"เดี๋ยวมือคุณจะบวม" ว่าพลางก็พยักเพยิดไปที่มือใหญ่นั้น แรงกระแทกจากการต่อยมันก็ทำให้เจ็บได้กันทั้งคนต่อยคนโดนต่อยนั่นล่ะทำไมเขาจะไม่รู้
ความเย็นของน้ำแข็ง ช่วยให้ใจของชายหนุ่มเย็นลง แม้ว่าจะไม่หายโกรธเลยซะทีเดียว พศวัตดึงทั้งถุงน้ำแข็งและมือของเจ้าน้อยเข้ามาหาตัว
"ทำให้พี่ก่อน แล้วค่อยไปหามัน"
"หา อะไรเล่า เมื่อกี้ยังไล่ให้ไปดูพี่เขาก่อนเลย" สมปองเลิกคิ้วสูงแต่ก็ยอมประคบให้กับอีกฝ่ายโดยไม่ลืมที่จะยกออกเป็นระยะๆ ถ้าเย็นมากเกินไปก็ไม่ดีเหมือนกัน
"ดีขึ้นไหมครับ ถ้าอย่างนั้นจะได้ไปดูเฮียแมนต่อ เลือดกลบปากเลย ปากแตกต้องเย็บรึเปล่าไม่รู้นะนั่น..."สมปองพยายามไม่ก้าวล้ำเข้าไปสู่คำถามใดๆที่จะพาอีกฝ่ายวกกลับไปยังต้นตอของเรื่อง ที่เขาห่วงก็แค่เรื่องแผลของเจ้านายทั้งสองคนนี่ล่ะ
"อืม ดีแล้วล่ะ ..ขอบใจนะ งั้นพี่กลับก่อน ฝากด้วยก็แล้วกัน "ชายหนุ่มยกมือขึ้นขยี้ผมอีกฝ่ายก่อนจะเดินไปยังที่จอดรถ แล้วขับออกจากร้านไป
++++++++++++
ทันทีที่เจ้าของร้านเดินออกจากร้านไป สมปองแทบสับขาวิ่งไปหลังร้านแทบไม่ทันปากก็ตะโกน
"เฮียแมน.....เฮ้ยยย เป็นไงบ้างงงงง"
ถุงน้ำแข็งถูกยื่นให้แทบไม่ทัน สมปองทำหน้าที่แพทย์สนามตรวจสอบบาทแผล เห็นรอยถลอกที่หน้า และรอยเลือดที่มุมปาก เด็กหนุ่มเช็คซ้ายขวาสั่งให้เชฟหนุ่มอ้าปาก
"โห...ไปให้หมอดูดีกว่ามั้ง...กัดไปจังเบ้อเริ่มแบบนี้....ดีนะลิ้นไม่ขาด ไม่งั้นไม่มีคนทำกับข้าวให้ผมกินแน่เลย"
" ยังไกลหัวใจว่ะ ไม่เป็นไร "กตัญญุหัวเราะออกมาเบาๆ ทั้งๆที่สภาพตนเองดุไม่ได้ขนาดนี้ แน่ล่ะ หัวใจของเขามันไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว เพราะฉะนั้น ถึงพศวัตจะทำร้ายเขามากกว่านี้ก็คงไม่ตายง่ายๆหรอก
"อย่ามากระอักเลือดตายทีหลังก็แล้วกัน...ผมไม่เฝ้าร้านกับผีเชฟหรอกนะ"
เจ้าน้อยพูดออกมาเบาๆ พลางเก็บเครื่องมือปฐมพยาบาลลงกล่อง นานทีปีหนถึงจะได้หยิบออกมาใช้ แต่เมื่อเร็วๆนี้ดูจะได้ใช้บ่อยจนอดเป็นห่วงไม่ได้
"วันไหนไปทำบุญดีกว่า"
++++++++++++
รามินทร์นั่งถอนหายใจอยู่ที่ข้างหน้าต่าง เมื่อวานก่อนพี่ชายของเขาหุนหันออกไปจากบ้าน และเขารู้ดีว่าพี่ชายของเขาไปไหน เกิดอะไรขึ้นระหว่างนั้น มือของพศวัตมีแผลแต่ก็ไม่วายที่จะกลับมาตะคอกใส่เขาอีกหลายประเด็นปลายนิ้วของพศวัตที่ชี้มาที่หน้าเขานั้นเป็นคำสั่ง เด็ดขาด
…. มึงไม่ต้องออกไปไหนทั้งนั้น น้ำหน้าอย่างมึง ไอ้แมนมันยังไม่เอาเลย อายชาวบ้านมันมั่ง ! ....น้ำเสียงหยาบคาย ก้าวร้าว เต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยวดังไปทั่วห้อง มือแกร่งนั้นบวมเพราะต่อยใบหน้าของกตัญญูไปแทบไม่ยั้ง รอยยิ้มหยักขึ้นบนใบหน้าของชายหนุ่มที่นึกถึงสีหน้าท่าทางของพี่ชายแท้ๆ
...ถ้าเขาคิดจะเอาคงไม่มาทิ้งเอาไว้แบบนี้หรอก...ก่อนจะได้ยินเสียงเคาะประตูที่หน้าห้อง เมื่อเดินออกไปก็รู้ว่าเป็นนมใหญ่นั่นเองหญิงสูงวัยร่างอวบอ้วนท่าทางใจดียืนหอบหายใจเล็กๆ เพราะเดินขึ้นมาที่ชั้นสองด้วยตัวเอง
"มีแขกมาหาคุณมินน่ะค่ะ "
"แขก?...ใครเหรอครับ" รามินทร์เอ่ยถามอดแปลกใจไม่ได้
"เห็นบอกว่าชื่อก้องภพน่ะค่ะ เอ...ถ้าจำไม่ผิด เขาเป็นเพื่อนของ...." ยังไม่ทันที่ นมใหญ่จะได้พูดอะไรต่อ รามินทร์ถลันออกไปจากห้องทันที
"นมใหญ่ไม่ต้องเตรียมน้ำ ของว่างอะไรนะครับ เดี๋ยวผมจะออกไปคุยกันข้างนอก"
เมื่อเดินลงมาที่ด้านล่างเห็นร่างสูงของคนที่เคยคุ้ยเคยยืนอยู่ ก้องภพสวมเสื้อเชิ๊ตสีแดงเลือดหมูกับกางเกงยีนสืสีเข้มดูแปลกตาไปจากทุกครั้ง รามินทร์สูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะเดินลงมาตามบันได
"พี่ก้องมาทำอะไรที่นี่" น้ำเสียงนั้น พยายามที่จะไม่แสดง ความรู้สึกอะไรออกไป
" มิน...พี่นึกว่ามินจะไม่... ไม่..ยอมเจอพี่แล้ว" ก้องภพยิ้มให้อีกฝ่าย หากแต่รอยยิ้มนั้นกลับไม่ได้ยินดีตามที่เอ่ยออกไปเลย
"จะออกไปคุยกันข้างนอกดีไหม...อยู่ในบ้านมันคงไม่ดีเท่าไร" รามินทรเอ่ย ก่อนจะเดินนำอีกฝ่ายออกไปยังมุมเงียบของสวนด้านนอก ดวงตารีเรียวเหลียวมองซ้ายขวา นมใหญ่คงรู้ว่าหากเขาพูดเช่นนั้นแสดงว่าเขาไม่ต้องการให้ใครรบกวน
++++++++++++
"พี่มีธุระอะไร...." รามินทร์นั่งลงที่เก้าอี้สีขาวที่มุมที่จัดเป็นโต้ะและเก้าอี้สองตัว
" มิน..พี่ขอโทษนะ.. "เสียงของชายหนุ่มแหบพร่า เขารวบรวมความกล้าที่จะเอ่ยคำนี้กับอีกฝ่ายมาเกือบสามปี ดวงตาสีเข้มสมดวงตาเล็กของอีกฝ่ายไปตรงๆเขายังจำได้ดีว่ารามินทร์หวาดกลัวเขามากขนาดไหน หลังจากที่เขาได้ทำแบบนั้นลงไป
รามินทร์เบือนหน้าไปอีกทาง เขาไม่เคยคิดอยากจะเจอคนตรงหน้าเลย เพราะเพียงแค่นึกถึงหรือมีอะไรมากระตุ้นให้เขาคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับอีกฝ่ายก็ทำให้ร่างสั่นเทิ้มขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ทุกครั้ง แต่ก็เป็นที่น่าแปลกเพราะในวันนี้เขากลับมองหน้าอีกฝ่ายตรงๆได้โดย ที่ไม่รู้สึกกลัวและร่างทั้งร่างก็ยังหายใจปรกติ
"พี่มาเพื่อขอโทษ ผมเท่านั้นใช่ไหม..." รามินทร์รู้สึกเจ็บปลาบในหัวใจ น้ำเสียง ดวงตาที่เขาพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด ในตอนนี้เมื่อได้ยิน และลองสบตามองตรงๆแล้วมันทำให้นึกถึงคนใกล้ตัว...ที่ไม่ใช่ใครอื่นที่ไหนนอกจาก... ตัวของเขาเอง
"ผม...เคยบอกพี่ใช่ไหม ว่าผมเกลียด พวกที่คิดว่าจะยึดคนอื่นเอาไว้เป็นของตัวเองคนเดียว...วิธีการแบบนั้นน่ะ มันไม่ใช่ความรัก" รามินทร์เอ่ยเสียงแหบพร่า ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอ
"ผมคิดว่าเริ่มจะเข้าใจความรู้สึกของพี่แล้วล่ะ...."ดวงตารีเรียวสบตาของอีกฝ่าย
"โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่มีใครหันหลังให้เรา"
"คนนั้นน่ะ ...ใช่พี่แมนรึเปล่า?" ชายหนุ่มถามออกไปตรงๆ เมื่อวันก่อนเขาเข้าไปที่ร้าน ท่าทางของกตัญญูนั้นไม่ได้ต่างจากรามินทร์ซักเท่าไหร่ แววตาเศร้าหมอง และใบหน้าก็บวมช้ำจากการถูกทำร้าย
รามินทร์ไม่ได้ตอบ เพียงแค่ปั้นยิ้มน้อยๆที่มุมปาก
" งั้นเหรอ... ถ้าเป็นพี่แมน เขาคงทำให้มินมีความสุขได้แน่ๆ ... อย่าปล่อยเขาไปนะ " มือแกร่งที่กุมมือของตัวเองเอาไว้ตลอดละออก ก่อนจะค่อยๆยื่นไปแตะมือเรียวนั้นเบาๆ แม้จะกลัวว่า รามินทร์จะหวาดผวาสัมผัสจากเขาอีกก็ตาม มือเรียวนั้นกระตุกเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ชักออกเหมือนเช่นทุกที
รามินทร์มองหน้าของอีกฝ่าย เขาไม่รู้สึกอะไรแล้ว กับคนๆนี้ ทุกอย่างเป็นเพราะความเจ็บปวดทางกาย ใจ แต่วันเวลที่ผ่านไปความสัมพันธ์กับใครอีกคนที่เขาทุ่มไปแล้วทั้งหมด
....นี่ก้าวข้ามผ่านมาแล้วใช่ไหม...
"ถ้าหากมันเป็นสิ่งที่เขาต้องการ...ผมก็ยินดีที่จะทำให้เขามีความสุข.... ผมก้าวผ่านมาแล้ว ความผิดที่สุด ความทุกข์ทรมานที่สุด...ความเจ็บปวดทางกายทางใจอย่างถึงที่สุด...." รามินทร์ยิ้มก่อนจะดึงมือออกมาจากมือของอีกฝ่าย
"และผมว่าพี่เองก็ควรจะข้ามไปให้ได้เหมือนกัน...พอกันที พี่เองก็คงไม่อยากจะจำเรื่องพวกนั้นเอาไว้ใช่ไหม เพราะมีเด็กคนนั้นแล้ว"
คำพูดของรามินทร์ทำให้ก้องภพยิ้มเยาะตนเอง
"เขาไปแล้วล่ะมิน..พี่กับเขามันจบแล้ว "ก้องภพมองขึ้นไปบนฟ้าสีหม่นของเมืองหลวง
"พี่ไม่ใช่คนดี มินก็รู้ .. ทั้งๆที่ตั้งใจว่าจะทำให้ดีที่สุด แต่จิ้บก็ดันมาเห็นมันจนได้ " ชายหนุ่มหยิบม้วนกระดาษออกจากกระเป๋าที่พกมาด้วย เขาวางมันลงตรงหน้าอีกฝ่าย
รามินทร์ขยับถอยเล็กน้อย ดวงตามองม้วนกระดาษนั้นอย่างหวาดระแวง
" เขาเห็นรูปนี้...ก่อนจะกลับเชียงใหม่ นี่คงเป็นเพราะ พี่ทำกับมินเอาไว้เยอะ กรรมสนองมันก็สมควรแล้ว "ก้องภพยิ้มให้กับตนเอง เขากันม้วนกระดาษนั้นให้อีกฝ่าย
" เรื่องของเรา เมื่อก่อน พี่ทำกับมินเอาไว้เยอะ เกินกว่าจะให้อภัย ... วันนี้มินยอมมาคุยกับพี่ พี่ก็ดีใจมากแล้ว "ดวงตาคู่คมนั้นสบตาของรามินทร์อย่างร้องขอ
"แต่ถ้ามินจะกรุณาพี่บ้าง .... เผามันด้วยมือของมินเอง จะได้ไหม?... "
รามินทร์มองหน้าของอีกฝ่าย เรื่องของเขากับก้องภพ เป็นเรื่องที่เคยสวยงาม แต่กลับเลวร้ายลงเพียงเพราะความต้องการที่จะครอบครอง..
เช่นเดียวกับเรื่องของเขา กับ กตัญญู มันเคยงดงาม ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา แต่มันก็จบลง เพราะเขาเพียงคนเดียว
"ถ้าทุกอย่างมันมอดไปแล้ว... ผมขอยกโทษให้พี่ เราจะลืมเรื่องทั้งหมด...และก้าวต่อไปกับชีวิตของพวกเราเสียที....เพราะในตอนนี้ ไม่ว่าจะผม หรือ พี่ ก็เป็นคนที่ผิดไม่ได้ต่างกัน" รามินทร์ดึงม้วนกระดาษนั้นเอาไว้ เขาไม่คิดที่จะเปิดดู เขารู้ดีว่ามันเป็นภาพอะไร และเขาไม่อยากจะให้มันกลับมาหลอกหลอนในชีวิตของเขาอีกต่อไป ร่างเล็กลุกขึ้นยืน ก่อนจะหันมามองหน้าของอีกฝ่าย
"มากับผม........."
รามินทร์เดินไปหากระถางเปล่าๆที่คนสวนวางทิ้งไว้ข้างรั้วมาวางไว้ตรงหน้าของอีกฝ่าย เขาฉีกกระดาษแผ่นนั้นออกเป็นชิ้นๆ ก้องภพยื่นซิปโป้ให้รามินทร์เป็นคนเผามันเสีย ร่างเล็กจุดไฟขึ้นกับกระดาษที่เหลืออยู่ในมือ ก่อนจะทิ้งมันลงไป ในกระถาง เปลวไฟลามเลียเชื่องช้า ก่อนขยายวงกว้างใหม้กระดาษพวกนั้นจนกลายเป็นเพียงเถ้าถ่าน เศษที่มอดไปแล้วเมื่อขาดเชื้อนั้นปลิวตามลมที่พัดผ่านมาเล็กน้อย ทั้งสองคนยืนดูทุกสิ่งทุกอย่างผ่านพ้นไป ก่อนที่รามินทร์จะส่งซิปโป้คืนให้กับอีกฝ่าย
"ผมจะไปอเมริกา...ไปทำหัว...ทำชีวิตให้มันปลอดโปร่ง"
" งั้นเหรอ?...พี่ก็ต้องไปที่โน่นเหมือนกัน "ก้องภพรับเอาซิปโป้มาใส่กระเป๋าหลังของกางเกง
" ถ้าโชคดี เราคงเจอกันที่โน่นนะ "
"ถ้าโชคดี...ให้พี่ได้เจอคนของพี่จะดีกว่า" รามินทร์มองหน้าของอีกฝ่าย
"แบบนั้น คงจะดีที่สุด"
"ไม่รู้สินะ..ทั้งๆที่พี่อยากจะหยุดที่คนนี้แล้ว พี่อยากจะให้เขาเป็นคนของพี่ แต่ก็นั่นแหละ ... พี่ไม่ใช่คนโชคดี "ศิลปินหนุ่มยิ้มจางๆให้รามินทร์ ก่อนจะดูนาฬิกา
" เอาล่ะ .. พี่น่าจะกลับได้แล้ว เดี่ยวพี่แมกซ์มาเจอ คงไม่ดีหรอก ใช่ไหม? "
"อืม..ตอนนี้ พี่แมกซ์เจอใครมันก็ไม่ดีไปหมดนั่นล่ะ" รามินทร์ว่า เขายกมือขึ้นแตะไหล่อีกฝ่ายเบาๆ เป็นครั้งแรกในหลายปีที่รามินทร์แตะอีกฝ่ายก่อน
"ไม่มีใคร ที่โชคไม่เข้าข้างหรอก แต่มันก็มีเวลาของมันนั่นล่ะ …กลับไปได้แล้ว" รามินทร์ว่าพลางออกแรงดันไหล่นั้นเล็กน้อย
ก้องภพหัวเราะออกมาเบาๆแล้วเดินไปยังที่จอดรถของเขา BMWสีดำคันนี้เป็นรถเรียบๆง่ายๆคันเดิมที่รามินทร์เคยนั่งและจิ๊บเองก็เคยนั่ง ชายหนุ่มขับมันออกไปจากบ้านหลังใหญ่หลังนั้น ด้วยท่าทางที่ดีขึ้นรามินทร์ถอนหายใจเมื่อ เห็นรถยนต์คันนั้นแล่นออกไป กล่องดำที่อยู่ในใจ เริ่มย่อขนาดเล็กลงเรื่อยๆ เขาหวังว่า สักวันมันจะหายไปเองตามเวลา ในขณะที่อีกฝั่งของหัวใจ กลับมีกล่องหนึ่งเปิดอ้ารออยู่ ให้เขาเอาความทรงจำกับใครบางคนยัดใส่ลงไป และปิดตายมันเสียที