ชิด1 หน้า 517 เจ้าค่ะhttp://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13917.msg1314637;topicseen#msg1314637บุพเพวายร้าย(สอง)
44. ชิด2
“ กิน” ผมตอบเสียงห้วน
“ เมาแล้วก็นอน นอนเตียงจุมก็ได้” จุมบอก หลังชนผนังห้องแล้ว ผมจับกดไหล่จุมกับผนังห้อง
“ ไม่นอน” ผมยืนหน้าเข้าไปใกล้หน้าจุม จุมหดคอหันหน้าหนี
“ รู้ไหมว่าชิดจะทำอะไร?” ผมถาม พร้อมจูบแก้ม จุมตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ไม่ได้ขัดขืนหรือผลักผมออกมา
“ ชิด ชิด อย่าทำแบบนี้” พูดเสียงสั่นพร้อมทั้งน้ำตาที่เต็มคลอทั้งเบ้าตา
“ ก็จุมไม่ชอบชิดสักที!” ผมว่า
“ อย่า ทำแบบนี้ ชิด”
“ ไม่ให้ทำก็ขัดขืนดิ” ผมว่า จับหน้าจุมที่หันหน้าหนีให้หันมามองผม
มองผมบ้าง มองชิดบ้าง
“ ………………….” มือจุมที่จะผลักตัวผม ได้แค่แตะหยั่งๆ
“ ถ้าไม่ขัดขืน คือยอม” ผมบอก จุมส่ายหน้าตอบ
ก็ขัดขืน ต่อสู้สิ ทำไมถึงไม่ทำอะไรเลย ผมโมโห ทุกอย่างมันไม่ถูกที่ถูกทางไม่หมด ไม่มีอะไรที่ได้ดั่งใจ
“ ฮือๆ” จุมร้องไห้ ผมยอมรับว่าเจ็บปวด แต่ผมก็มีสิทธิ์ที่จะทำตามหัวใจตัวเอง ผมรู้ว่าผมกำลังทำผิด แต่ผมไม่มีทางเลือก ผมจะเอาจุมมาเป็นของผมก่อน แล้วหลังจากนี้ผมจะเอาความจริงใจของผมให้จุมยกโทษให้
“ชิด ขอเถอะ” ผมว่า จูบริมฝีปากที่ดูเหมือนกำลังสั่น จุมหันหนีผมจับหน้าจุมตรึงไว้ ก่อนที่บดริมฝีปากทับลงไปอีกครั้ง จุมกำเสื้อผมแน่น ดวงตาก็หลับแน่นสั่นระริกพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลออกมา
นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่ ผมหยุดตอนนี้จะทันไหม?
แต่ผมก็ทำไปแล้ว ทำไปแล้วก็ทำให้สำเร็จ ไม่งั้นผมก็ไม่ได้อะไร
ผมดึงชายเสื้อจุมขึ้น มือก็ไล้ไปด้านบน ริมฝีปากจูบไซร้ลำคอที่ผมมักแอบมองเป็นประจำ มือจุมเริ่มดันตัวผมออกมา แต่แรงที่ผลักนั้นช่างเบาเหลือเกิน
“ อย่า อย่า อย่าฮือๆ ” เสียงที่สั่นไม่สั่นเท่าร่างกาย
เป็นไงเป็นกัน หลังจากนี้ค่อยว่ากัน
ขอโทษนะจุม แต่จากนี้ชิดจะทำทุกอย่าง เพื่อขอโทษจุม
“ ฮือๆ อย่าทำผม พี่ครับ อย่าทำผม”
ผมชะงัก มองจุม และเป็นโอกาสให้จุมวิ่งหนี แต่ก็ไปไม่กี่ก้าวจากที่ผมยืนอยู่
“ ฮือๆ ผมไม่รู้ ไม่ได้ทำ” จุมค่อยทรุดตัวนั่งลง ทั้งยังเบียดชิดผนัง
“ จุม?” (ผมเดินไปหา)
“ พี่ พี่ครับ” จุมให้ทางตามองผม ก่อนที่จะส่ายหน้า แล้วก้มต่ำลงไปอีก
ผมได้เรื่องเลวร้ายลงไปแล้ว โกรธตัวจนอยากจะชกหน้าให้มันสาสม
“ จุม ขอโทษ” ก้มลงไปหา
“จุม”
“ อย่า อย่าพี่” ถอยเบียดผนัง กอดเข่าตัวเองจนแน่น
“ ชิด!?” ผมหันไป พี่อิง พี่ฟ้า
พี่อิงและพี่ฟ้า หันไปมองจุม และหันมามองผม สายตาที่มองผิดหวัง
“ นี่เรา ทำอะไร?” พี่ฟ้าถาม ผมไม่อยากจะบอก เพราะมันทุเรศและสิ้นคิด
“ ผม ทนไม่ไหวที่จุม ไม่ยอมเปิดใจให้สักที ผมก็เลย...”เสียงหายไปในลำคอ
“ ชิด นี่มรึง มรึงก็พอรู้เรื่องไม่ใช่หรือไง ที่จุมต้องหนีแบบนี้เพราะอะไร?” พี่อิงว่า ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองทุเรศเท่าครั้งนี้มาก่อน
“ ผมไม่รู้ ว่า จุมจะเป็นแบบนี้” ผมบอก หันไปมองจุมที่กำลังพูดบางอย่างที่ผมไม่ได้ยิน
“ มรึงทำให้กรูผิดหวัง” พี่อิงว่า ซึ่งผมก็ผิดหวังในตัวเอง
นับตั้งแต่นั้น ผมก็ไม่เคยคิดปล้ำจุมอีก
“ ..........”
“ จะไปไหน?” พี่ชนะถามเมื่อผมยืนขึ้น
“ กลับขึ้นไปหาจุม ไม่มีคนดู” ผมบอก
“ ขอพี่ขึ้นไปด้วยได้ไหม?” พี่ชนะถาม
“ อย่าเลยครับ ผมบอกแล้ว ผมไม่อยากให้จุมเห็นพี่ คราวที่แล้วที่จุมเห็นพี่ที่ชลบุรี จุมเอาแต่ร้องไห้ ตัวสั่นไปหมด จนผมต้องพามาอยู่ที่นี่” ผมเล่า
“ แต่ถ้าพี่ไม่ได้เห็นจุม พี่ก็ไม่สบายใจ” พี่ชนะยืนขึ้น
“ ผมขอแล้วกัน อย่าให้ผมลำบากใจเลย” ผมบอกขอร้องไปในตัว ถ้าจุมเห็นพี่ชนะต้องตกใจแน่ ที่ตกใจไม่ใช่ว่ากลัวพี่ชนะ แต่กลัวว่า อีกคนจะตามมาเจอ
“ พี่ดูแป๊บเดียว และตอนนี้ชิดก็บอกพี่ว่าจุมหลับอยู่ จุมไม่รู้หรอกว่าพี่มา ”
“ ..........” ผมถอนหายใจ เพราะดูท่าพี่ชนะท่าจะไม่ยอมแน่ๆถ้าไม่ได้ขึ้นไปข้างบนกับผม
“ ก็ได้พี่ ผมยอมแพ้ แต่ให้ผมเข้าไปดูจุมก่อน ส่วนพี่รอข้างนอก” ผมบอก พี่ก็เดินตามผมขึ้นมา
ผมเข้าไปในห้องก่อน แล้วบอกให้พี่ชนะรออยู่ด้านนอกก่อน
ผมเข้าไปในห้อง ไม่เจอจุมที่เตียง ใจหายวูบ วิ่งไปดูระเบียงไม่เจอ ก่อนที่คิดได้ว่าจุมอาจจะอยู่ในห้องน้ำก็ได้ เพราะบ่อยครั้งที่จุมเข้าไปนั่งอยู่ในห้องน้ำ
ขอให้จุมอยู่ในห้องน้ำด้วยเถอะ
ผมเดินเข้าไปในห้อง จุมนั่งขดอยู่ในห้องน้ำจริงๆ บอกตรงๆว่าผมโล่งใจที่เห็นจุม ทั้งภาพที่ผมเห็นมันน่าเวทนา
“ จุม!?” ดวงตาจุมเหม่อลอย เหมือนครั้งนั้นไม่มีผิด ทั้งที่ก่อนผมลงไปยังเป็นปกติอยู่แท้ๆ
“ จุมนี่ชิดเอง” ผมบอกจุม ที่ดูเหมือนไม่รู้ว่าผมเข้ามา
“ ..........” อยู่ๆพี่ชนะก็เดินเข้ามา ทั้งที่บอกให้รอข้างนอก
“ จุม” ผมเรียกยื่นมือหาจุม แต่จุมถอยหนีทั้งก้มหน้าที่มีน้ำตาเต็มหน้า
“ ชิดไม่ทำอะไรจุมหรอก มาเถอะ” ผมบอกจับต้นแขนจุม จุมสะดุ้งทันทีที่ผมแตะตัว ก่อนที่ร้องไห้สะอื้นเสียงดัง
“ ฮือๆๆ” จุมถอยหนี
บาดแผลจุมใหญ่เกินกว่าที่จะคาดเดาได้
“ .........................”
“ จุม” ผมเรียกชื่อจุมเบาๆ ไม่อยากให้ตกใจ ก่อนที่นั่งชันเข่าขยับไปหาจุม
จุม เชื่อใจชิดนะ
ว่าชิดไม่มีทางทำร้ายจุม
“ ฮือๆ” จุมยังคงก้มร้องไห้ไปเรื่อยๆ ในความเงียบ เสียงสะอื้นค่อยๆเบาลง
“...............”ตาจุมค่อยๆหรี่ลง ก่อนจะหลับไป ผมช้อนตัวจุมขึ้นมาแล้วอุ้มออกไปวางไว้บนเตียง (พี่ชนะเดินตามออกมา)
“ พี่ไม่เคยรู้เลยว่าจุมเป็นแบบนี้” พี่ชนะพูด (ผมกำลังห่มผ้าให้จุม)
“ พวกพี่จะไปรู้อะไร!” ชิดพูดโมโห ผมไม่เชื่อหรอกว่าพี่ชนะจะไม่รู้ ผมว่าพี่เขารู้แต่ไม่ได้ช่วยมากกว่า
“...............” (พี่ชนะเงียบ คงเพราะผมพูดถูก)
“ พวกพี่เคยสังเกต หน้าตายิ้มแย้มของจุมหรือเปล่า ว่าภายใต้รอยยิ้มที่ทำเหมือนไม่มีอะไรต้องห่วง ความจริงแล้วคืออะไร พี่คงไม่ได้เห็นท่าทางแบบนี้ของจุม หากว่าจุมยังมีสติดี” ผมบอก เพราะผมเองก็ไม่เคยรู้เลยว่าจุมเป็นยังไง บ้าง เพราะจุมยิ้มแย้ม ทำเหมือนว่าไม่ได้ต้องทนกับเรื่องอะไร
ที่เห็นจุมเป็นแบบบนี้ก็เพราะเพราะจุมไม่สบาย เท่านั้นเอง
“ ผมเห็นหน้าพี่ ผมแทบจะชกให้กองกับพื้น แล้วกระทืบซ้ำให้เจ็บไปถึงเพื่อนพี่” ผมอยากจะรู้ว่าหัวใจคนที่ชื่อ วุฒิ ว่าทำด้วยอะไรที่ทำร้ายคนคนหนึ่งที่รักตัวเองได้ถึงขนาดนี้
“ คนที่เขารักกัน เขาไม่ทำกันแบบนี้หรอก”
“...............”
* * * *
“ ชิด ชิด” เสียงเรียกเพราะๆ กับความรู้สึกว่าไหล่โดนสัมผัสเบาๆ ผมลืมตาขึ้น เห็นหน้า .............จุม
“ จุม?” หายแล้วเหรอ? ผมก้มมองตัวเอง นั่งอยู่กับพื้น แขนข้างหนึ่งวางขอบเตียง ผมไม่รู้ตัวว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไร
“ ไปนอนบนเตียง เถอะ” จุมบอกยิ้ม ผมจ้องหน้าจุมพร้อมยืนขึ้น
“ จุมหายแล้วเหรอ?” ผมถาม เผลอยื่นมือไปจับหน้าจุม
“...............” จุมสะดุ้งเล็กน้อย ผมรีบดึงมือกลับมา
“ หายแล้ว ก็ได้คนดูแลดี” ฉีกยิ้มพูด ที่ผมจับแก้มจุมเมื่อกี้ ผิวยังอุ่นอยู่เลย แต่กลับบอกว่าหายแล้ว คงไม่อยากให้ผมเป็นห่วงมากกว่า
“ ชิด นอนเตียงจุมได้เลย” จุมว่า หันไปหยิบผ้าเช็ดตัว ผมดูเวลาที่ข้อมือ
11 โมง 25 นาที เกือบเที่ยง !?! ทั้งผมทั้งจุมต่างก็หลับยาวได้ถึงขนาดนี้
ก๊อกๆ มีคนเคาะประตู
พี่ชนะ แต่น่าจะกลับไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
ใคร หรือว่า
“ จุม จุม” เสียงพี่อิงเรียกจากด้านนอก จุมเปิดประตูห้องน้ำออกมา สภาพเปลือยท่อนบน
“ จุมจะอาบน้ำเหรอ?” ผมถาม
“ เปล่าจะเช็ดตัว เมื่อกี้เหมือนมีใครเรียก” จุมบอก ผมไม่ยังได้ตอบ พี่อิงที่อยู่ด้านนอกก็เคาประตูอีก
ก๊อกๆ
“ พี่อิงมา จุมไปเช็ดตัวให้เสร็จเถอะ” ผมว่า จุมพยักหน้า ปิดประตูหายเข้าไปในห้องน้ำ ผมเดินไปเปิดประตู
“ หวัดดีไอ้น้องรัก” พี่อิงบอกยิ้ม มีพี่ฟ้ายืนอยู่ข้างๆ ถือถุงมาเต็มสองมือ คงจะมาเยี่ยมจุม เพราะรู้ข่าวที่ผมโทรมาเมื่อคืน
“ จุมล่ะ ไม่ใช่ว่ามรึงกินจุมไปแล้วนะ” ดูพี่ผมมันพูด
“ จุมไม่สบายหายหรือยัง?” พี่ฟ้าถามทั้งที่ผมยังไม่ได้ตอบคำถามพี่อิง (นั่งลงบนเตียง)
“ ดีขึ้นแล้วครับ ตอนนี้เช็ดตัวอยู่ในห้องน้ำ” ผมบอก พี่อิงเดินมาตบหลังผมเบาๆ
“ ไม่ไปเช็ดให้ล่ะ หรือว่ากลัวดอใจไม่อยู่” พี่อิงพูด ส่อแต่เรื่องใต้กางเกง ไม่มีแฟนท่าจะเก็บกด
“ เปล่า” ผมบอก รับเอาถุงผลไม้จากพี่ฟ้าไปวางไว้บนโต๊ะ
“ สู้ต่อไป น้ำหยดหินทุกวัน หินมันยังกร่อน นี่ใจคนไม่แข็งเหมือนหินหรอก”(พี่ฟ้า)
“...............” ไม่แข็งเหมือนหิน เพราะอาจจะแข็งกว่า
“...............” พวกผมสามคนเงียบโดยไม่มีสาเหตุ แต่หัวใจรู้สึกเศร้าขึ้นอย่างประหลาด
“ พี่.....” ผมพูด มองหน้าพี่อิงพี่ฟ้า
“ แผลใจ รักษาหายไหม?” ที่ผมถามไม่ได้ท้อ แต่สงสารจุมไม่อยากให้จุมต้องทรมานกับอดีตอีกแล้ว
จุมเจ็บพอแล้ว
“.................................” ( พี่อิง พี่ฟ้า)
“......... แผลอะไรก็รักษาหายได้ ถ้ายาดี” พี่อิงตอบ
แกร๊ก? จุมเปิดเปิดประตูห้องน้ำออกมา
“ หวัดดีครับ พี่อิง พี่ฟ้า” จุมพูดพร้อมยกมือไหว้
“ เออ มีสัมมาคารวะ แบบนี้สิ ไอ้ชิดมันไม่ไหว้พี่สักแอ๊ะ” พี่อิงว่า จุมยิ้มหันมามองผม( เปลี่ยนชุดที่ใส่เป็นเสื้อยืดสีชมพูอ่อน กางเกงขาสั้นสีครีม)
“ อะไรพี่ ร้อยวันฟันปี ผมเคยทำที่ไหน” ผมพูดลุกขึ้น จะไปล้างหน้าล้างตาบ้าง
“ ก็มรึงมันไม่มีมารยาท อย่างงี้ต้องให้จุมสั่งสอน” พี่อิงว่า ยิ้มให้ผม
“...............” จุมยิ้ม
“ กรูว่าก็ดีนะ ไหนๆจุมจะเป็นน้องสะใภ้มรึงก็ให้ช่วยสั่งสอนไอ้ชิดไปในตัว” พี่ฟ้าเสริม ผมยิ้มจนปากแทบฉีกสิครับ เล่นเชียร์ซึ่งๆหน้าแบบนี้
“พี่ฟ้า?!” (จุม)
“ ไม่เป็นไร ไม่ต้องเขิน คนกันเองทั้งนั้น” พี่ฟ้าพูดต่อ
“ ไม่ใช่ครับผมกับชิดเป็นเพื่อนกัน” จุมว่า ใจผมสลดลงทันที
หนึ่งคำก็เพื่อน สองคำก็เพื่อน เป็นเมียชิดเมื่อไรล่ะคอยดู(ล้อเล่นครับ)
“ เพื่อนกันแค่ตอนนี้เท่านั้นแหละ พี่เห็นมาเยอะแล้ว เพื่อนกินเพื่อนไม่รอดสักราย” พี่ฟ้าว่า
“ เอาน่าฟ้า มรึงอย่าไปต้อนจุมดิ เดี๋ยวหนีไปไอ้ชิดน้องกรูก็ขึ้นคานพอดี” พี่อิง โอบไหล่พี่ฟ้าที่ตัวเตี้ยกว่า เตี้ยกว่าจุมสัก สองสามเซน(ติเมตร)ได้
“ นั่นดิ พวกพี่สองคนยิ่งพูด ยิ่งเลอะเทอะ” ผมพูดตัด แล้วเดินเข้าห้องน้ำ ในห้องน้ำผมมองหน้าตัวเองในกระจกหน้าอ่างล้างหน้า ผมควักน้ำถูกหน้าแรงๆจนแดงเถือก
ได้รักก็พอแล้ว คิดแบบนั้นไม่ได้ เพราะมันไม่พอ
แต่จากคนที่ไม่มีความหวังเพราะจุมมีเจ้าของแล้ว ตอนนี้จุมไม่มีใคร ตอนนี้หวังได้ คิดแบบนั้นก็ความสุข มีความสุขที่ได้ให้
ผมยิ้ม อย่างน้อยก็มีพรุ่งนี้ พรุ่งนี้ต้องมากกว่าวันนี้
ผมเปิดประตูออกมา จุม พี่อิงและพี่ฟ้าก็ยืนขึ้น
“ ช้าได้อีกน้องกรู รู้ไหมคนเขาหิวจนจะขาดแต่ดันมารอมรึงเนี่ยล่ะ” พี่อิงบอก
“ กิน ข้าว พี่อิงเลี้ยงดิ” ผมบอก จะได้ไม่ต้องเสียเงิน
“ เลี้ยงน่ะเลี้ยงอยู่เลี้ยงอยู่แล้ว เพราะกรูอยากให้น้องสะใภ้กินเยอะๆจะได้แข็งแรงเอาไว้ต่อยมรึงเวลาออกนอกลู่นอกทาง” พี่อิงว่า จนผมดูไม่เอาไหน
จะหยอดเชียร์ยังไงก็ให้ให้ผมดูดีครับคุณพี่ชาย
“ เร็วๆพวกมรึงสองพี่น้อง กรูหิว” พี่ฟ้าว่า เดินนำออกไป ตามด้วยจุม ผมเดินไปเดินข้างๆจุม แล้งท้องผมก็ร้องดังขึ้นมา
ซิบหาย
“ หิวเหรอ?” จุมถาม ผมพยักหน้าก็ยังไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เมื่อวานเพราะคิดว่าจะมากินกับจุม เลยไม่ได้กินมา
“ อืม” (พี่อิงกับพี่ฟ้าเดินนำลงบันไดไปก่อน คือ จงใจให้ผมอยู่กับจุมสองคน)
“ เพราะต้องคอยดูแลจุม ขอโทษนะ”
“ ไม่เป็นไร” ผมบอก จับมือจุม
“ชิด?” จุมว่า หันหน้ามองผม และดึงมือตัวเองหนี ผมตามไปจับอีก
“ ขอจับหน่อย เผื่อจะหายหิว” ผมบอกหน้าตาย หันหน้าหนีจุม ไม่อยากสบตาครับ รู้ตัวแหละครับว่าตัวเองหน้าด้าน แต่ด้านได้อายอด
“ แค่จับมือจะหายหิวได้ยังไง?” จุมว่า ยอมให้จับมือแล้ว ดีใจโคตรๆครับ
“...............” ผมเงียบ เดินจับมือลงบันไดไปเรื่อยๆ
มีความสุข แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยก็ตามที
ถ้าเรา สอง คนเป็นมากกว่านี้ก็คงดี
ถ้าเรา สอง คนเป็นแฟนกันก็คงดี ชิดจะได้กอดจุมได้ ชิดจะได้มีจุมนอนอยู่ข้างๆ แล้วเราจะตื่นขึ้นมาพร้อมกัน ยิ้มให้กัน หัวเราะและมีเวลาด้วยกัน
ผมฝากความหวังไว้กับอนาคต
* * * * *
พี่ชนะเหลืออีก 2 ตอน ขอโฆษณา บุพเพวายร้าย2.5 หน่อยเน้อท่านๆ “ พี่ครับ เจ็บ” ผมบอกผ่านริมฝีปากแตกๆยกมือไหว้พี่วุฒิไม่รู้ครั้งที่เท่าไร เพราะมันไม่ได้ผลเลย
“ ก็อยากให้เจ็บ!?” พี่วุฒิว่า กระชากหน้าผมขึ้น
มือไม้ผมสั่นไปหมด จะบังคับให้มันอยู่นิ่งก็ไม่ได้ ผมโดนแน่
“
ไม่ทำแล้ว ไม่ทำแล้ว ฮือๆ” คำพูดผมกระท่อนกระแท่น ร่างกายก็ที่สั่นไม่หยุด ท้องที่โดนชกยังไม่หายปวด
ช่วยผมด้วย ผมกลัว
“ อย่าครับ ผมกลัวแล้ว อย่าทำผม” ผมขอร้อง ร่างกายถูกพี่วุฒิดึงให้ลุกขึ้น
“ แล้วใคร ทำให้พี่ต้องทำแบบนี้!?” ผมส่ายหน้า ผมไม่รู้เลยว่าวันนี้ผมทำอะไรผิด
“ ยกโทษให้ผมด้วย อย่า!? ” !? “ อย่า!?” ผมลืมตา มองเห็นเพดานสีขาว ผมมองไปรอบๆตัว ผมถึงได้รู้ว่าเมื่อกี้ผมแค่ฝันไป
นั่นไม่มีแล้ว
“……………….” ผมนอนหายใจหอมแฮ่กๆบนเตียง ร่างกายนิ่ง แต่ร่างกายชื้นเพราะเหงื่อที่ไหลออกมา
ผมแค่ฝัน แต่ความรู้สึกที่หลงเหลืออยู่ตอนนี้ ไม่ต่างจากฝันเมื่อกี้
3 ปีแล้ว พี่เขาคงไม่ตามหาผมแล้ว ไม่ต้องกลัว ผมบอกตัวเอง ก่อนที่ลุกขึ้นนั่ง ทั้งที่ประตูระเบียงปิดอยู่ พัดลมก็ไม่ได้ปิด แต่ผมกลับรู้สึกหนาว จนต้องกอดตัวเองแล้วมองไปรอบๆห้อง
ที่นี่ไม่มีพี่เขาหรอก ไม่ต้องกลัว
คงเป็นเพราะ 3 วันมานี้ผมรู้สึกเหมือนมีใครสะกดรอยตาม ผมเก็บเอามาคิดทำให้ผมฝันแบบนี้ ทั้งที่ไม่ได้ฝันถึงอดีตมาพักหนึ่งแล้ว
………ตั้ง 3 ปี หลายอย่างก็เปลี่ยนไป พี่เขาเองก็ด้วย ป่านนี้ก็คงมีคนอื่นไปแล้ว ไม่มาตามหาผม ที่พี่เขาทั้งเกลียดทั้งแค้นหรอก
คงมีแต่ผม ที่ยังไม่เปลี่ยน……………
“……………….” ผมลุกขึ้น เดินเข้าห้องน้ำ จะได้ไปทำงาน ที่ต้องเข้างาน แปด โมง
ผมอาบน้ำเสร็จ ก็แต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ต กางเกงดำที่เป็นยูนิฟอร์มของร้าน
กริ่งๆ เสียงแจ้งข้อความจากโทรศัพท์ ทำให้ผมหันไปมองมอง คงจะเป็นข้อความจากชิด ที่ส่งมาทุกเช้า พอใส่เข็มขัดเสร็จแล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
จากชิดอย่างที่คิด จริงๆ
ผมเปิดข้อความ
‘ ตื่นหรือยังคนดี วันนี้เย็นๆไปหานะ จุ๊บๆ’ ผมพิมพ์ข้อความตอบกลับ
‘ตื่นแล้ว วันนี้เงินเดือนออก จะเลี้ยงข้าว’ก๊อกๆ
ผมหันไปมองประตูเพราะมีเสียงคนเคาะ ไม่น่าจะใช่ชิด ก็ไหนบอกว่าจะมาตอนเย็น หรือจะเป็นพี่ฟ้า หรือพี่อิง ที่ไม่ได้มาพักหนึ่งแล้ว พวกพี่เขามักจะมาโดยไม่บอกแบบนี้ เวลามาก็เอาของมาฝากมากมาย ส่วนมากมักจะเป็นของกิน
แกร๊ก!? ผมเปิดประตู
“!?” ผมจ้องคนที่ยืนตรงหน้า หน้าชา ตัวชา มือเย็นจนรู้สึกได้ ขาเดินถอยหลังโดยไม่รู้ตัว
“……………….”
“ จุม” เสียงทุ้มเรียกชื่อผม ก่อนที่จะเดินตามตรงเข้ามาหา
ผมต้องยังฝันอยู่แน่ๆ
ฝัน ผมฝันอยู่แน่นอนไม่งั้น พี่วุฒิ จะมาอยู่ตรงหน้าผมได้ยังไง
“ จุม” พี่วุฒิในความฝันเรียก ก่อนที่ดึงแขนผมเข้าไปกอด
“ จุม ในที่สุดพี่ก็หาจุมเจอ”
ไม่ใช่
นี่ไม่ใช่ความจริง ผมฝัน
ผมฝัน“……………….” ผมต้องรีบตื่น
ต้องตื่น ไม่งั้น ผมคงต้อง โดนทำร้ายแน่
“……………….”
ตื่นสักทีสิ ! ตื่นได้แล้ว ผมบอกตัวเอง เร็วเข้า !
ผมพยายามดิ้น แต่ยิ่งดิ้น ผมก็ยิ่งโดนกอดแน่นกว่าเดิม
“ จุมจะหนีพี่ไปอีกหรือไง?” ผมผลักพี่วุฒิเต็มแรง จนพี่วุฒิผงะ พี่เขาจ้องหน้าผม ไม่ได้มีสีหน้าโกรธผม แต่พี่เขากำลังเจ็บปวด
“……………….” หนี
ใช่ผมต้องหนี ไม่งั้นผมตายแน่ ถึงแม้จะเป็นความฝันก็ต้องหนี ผมมองประตูด้านหลังพี่พี่วุฒิก่อนที่พุ่งไปที่ประตู แต่พอผมผ่านพี่วุฒิ พี่เขาก็ดึงแขนผมไว้ แล้วกระชากจนผมเซถลาไปซบพี่วุฒิ
“ปล่อยครับ” ผมพยายามดิ้น
หนีไปให้ไกล ผมอยู่ที่ไม่ได้แล้ว
“จุม” พี่วุฒิจับแขนผมทั้งสองข้าง
“ ปล่อยครับ ปล่อยผม”
“ พี่ไม่ปล่อย”
“ ขอร้องล่ะครับ ปล่อยผม” น้ำตาคลอ มองใบหน้าที่ไม่เห็น มา 3 ปี คิ้วเรียวยาว ดวงตาคม จมูกโด่งได้รูป กับริมฝีปากสีแดง
“…………………………………..รู้ไหม กว่าพี่จะตามหาจุมเจอ พี่ต้องทรมานแค่ไหน เพราะงั้นพี่จะไม่ปล่อยจุมไปแน่นอน กลับไปกับพี่เถอะ พี่เข้าใจทุกอย่างดีแล้ว” ผมส่ายหน้า
ผมไม่อยากกลับไปแล้ว กลับไปพี่ก็ทำร้ายผมอีก ผมพูดอะไรพี่ก็ไม่เชื่อ ถึงพี่จะดีกับผมแต่แค่ 1 นาที พี่ก็เปลี่ยนเป็นคนละคนได้ โดยที่ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพราะอะไร
ผมกลัว
“ ปล่อย”
เหตุการณ์ ในอดีต ตามมาหลอกหลอนผม เสียงผมกรีดร้อง ถ้อยคำขอร้องที่ไม่ได้รับการสนใจ เนื้อตัวเจ็บปวดจนไม่กล้าขยับ ได้แต่ยอมรับการกระทำที่รุนแรง ในห้องที่เงียบงัน ผมมีน้ำตาเป็นเพื่อน
“ ปล่อ ย ผ ม เถอะ” ตัวผมสั่น
พี่วุฒิตามผมเจอแล้ว พี่เขาต้องโกรธมากแน่ ผมต้องได้รับโทษ ผมไม่อยากคิดว่าผมต้องเจอกับอะไร ใครก็ช่วยผมไม่ได้ เสียงร้องผมไม่มีใครได้ยิน ได้แต่หวังให้ความเกรี้ยวกาจของพี่วุฒิหายไป
“ จุม พี่ขอโทษ พี่ขอโทษ” น้ำตาผมไหลร่วงอาบแก้ม
* * *