+The Power of Lyrics, the Moments of Storytelling
ตอนที่ 5.ด้วยหัวใจ
“เฮ้ย ไหน ๆ ก็มาแล้วเพื่อน นั่งดื่มกันก่อน อย่าเพิ่งรีบกลับ” เลโอชายหนุ่มทรงหนุ่มออฟฟิศ ใส่แว่น เสื้อเชิ้ต กางเกงแสล็คขายาวสีดำ รองเท้าหนังมันวาว พยายามขอตัวกลับก่อน เมื่อเขาคิดว่า เขาไม่เหมาะกับสถานที่อะไรแบบนี้ แต่ต้องขับรถมาส่งบรรดาเพื่อน ๆ ที่จะมาปาร์ตี้กันต่อ หลังจากที่นัดรวมตัวกินมื้อค่ำกัน “เอ้า แก้วนี้ เราเลี้ยงเอง” ใครสักคนในกลุ่มเพื่อนสนิท ส่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาตั้งอยู่ตรงหน้าของเขา
“ถ้าไม่ชอบสาว ๆ ก็นั่งเอ็นจอยดูหนุ่ม ๆ ไป” เพื่อนคนที่รั้งให้เลโออยู่สนุกกับค่ำคืนนี้ก่อน พูดขึ้น ก่อนจะเดินไปทักทายคนอื่น ๆ ภายในงาน “คือ ไม่ใช่ คือ อืม” เลโอไม่ทันจะได้พูดแก้ตัวอะไร ก็จำต้องยอมจำนนต่อสิ่งที่ตัวเขานั้นชอบ ซึ่งเพื่อน ๆ คนอื่นก็คงจะรู้เช่นกัน และเลโอเองก็รู้สึกเหนื่อย ที่จะปิดบังต่อไป
เลโอยกแก้วเครื่องดื่มสีอำพันนั้นขึ้นจิบ รสชาติของมันแรงจนเขาคิดว่า ถ้ายังดื่มต่อเนื่องกับปริมาณแอลกอฮอล์ระดับนี้ เขาคงคอพับคออ่อนในไม่ช้านี้แน่ บรรยากาศของผับในคืนนี้ดูเร่งเร้าและเร่าร้อนอย่างประหลาด ผู้คนที่มาทั้งชายและหญิง ต่างดูจะกระหายที่จะทำความรู้จักกัน เพื่อพากันไปจบกันบนเตียงที่ไหนสักแห่งในมหานครแห่งนี้
เลโอมองสำรวจไปรอบ ๆ ร้าน แผ่นโปสเตอร์ปิดประกาศมองเห็นได้โดยทั่ว กับค่ำคืนแห่งคราสเต็มดวง ใช่แล้ว ในคืนนี้ ดวงอาทิตย์ โลก จะเดินมาเรียงตัวกัน เพื่อสร้างเงาบนดวงจันทร์ ธีมของงานในค่ำคืนนี้ ดูจะดึงดูดให้ผู้คนออกมาที่ผับแห่งนี้ได้มากเกินคาด และต่างดูจะดึงดูดกันเองอย่างไม่ปิดบัง เมื่อหลายต่อหลายคู่ เริ่มแสดงออกว่าต่างฝ่าย ต่างต้องการกันและกัน
เลโอกำลังจะเอื้อมมือไปหยิบเครื่องดื่ม พลันผู้คนที่เคยยืนบังด้านหน้าของเขาอยู่ ได้เปิดทาให้เขาเห็น ผู้ชายคนหนึ่ง ที่นั่งอยู่ที่โซฟาด้านไกลตรงข้ามกับเขา ใบหน้ารูปไข่ จมูกเป็นสันสวย จากการมองเห็นด้านข้างนั้น ทำให้เลโอหยุดชะงักและเพ่งมอง ใจของเขาเต้นตึกตัก ตื่นเต้นที่ได้เห็นอีกฝ่าย ด้วยว่าเห็นคนที่ต้องตาต้องใจ
ทั้ง ๆ ที่ใครคนนั้น เบือนหน้าออกจากเสียงอึกทึกภายในร้าน ราวกับไม่สนใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัว เลโอรู้สึกแปลก ที่รับรู้ถึงความเศร้าสร้อย แผ่กระจายออกมาจากตัวของคนคนนี้ พลันเลโอก็ต้องตกใจจนมือปัดแก้วเครื่องดื่มตรงหน้าล้มลงจนน้ำสีอำพันนองพื้น เมื่ออยู่ ๆ เขาก็เห็นคนหน้าสวยคนนั้น หันมามองสบตากับเขาตรง ๆ
“เฮ้ย อะไรวะ แก้วเดียวก็เมาแล้วเหรอ ไอ้เลโอ” เพื่อนที่ชวนให้ชายหนุ่มนั่งดื่ม วนกลับมาแซวเขา ก่อนจะสั่งพนักงานให้มาทำความสะอาด และเอาเครื่องดื่มแก้วใหม่มาเปลี่ยนให้ “อ้อ หรือว่าเจอของถูกใจ น้องเขาน่ารักนะเว้ย ถูกใจก็เข้าไปจีบเลย” เพื่อนคนเดิมเย้าหยอก แต่ก็ยุให้เลโอเดินเข้าไปขอชนแก้วกับเป้าหมายจริง ๆ
“เฮ้ย เปล่า” ปากของเลโอพูดปฏิเสธ แต่สายตาก็คอยแต่จะมองไปทางเดิมนั้น ก่อนจะเห็นว่า คนหน้าสวยคนนั้น ไม่ได้นั่งอยู่คนเดียว แต่มีผู้ชายร่างสูงดูกำยำนั่งประกบข้างอยู่ด้วย “อ้าว เชี่ย มีแฟนแล้ว” เพื่อนของเลโอพูดขึ้น ชายหนุ่มได้ยินแบบนั้น ก็ใจหล่นวูบ “เฮ้ย ยกแก้วขึ้นชูกลับสิวะ” เพื่อนเชียร์ให้เลโอทำตาม เมื่อผู้ชายร่างกำยำนั้น ค้อมศีรษะให้ ยิ้มมา แล้วชูแก้วเหล้าขึ้นเพื่อผูกมิตร
“เขาเปิดทางให้แล้วมึง ไม่พี่ก็พ่อละมั้ง ไม่น่าจะใช่ผัว” เพื่อนของเลโอพูดติดตลก “อย่างแย่ที่สุด” เพื่อนพูดทิ้งท้าย ก่อนจะกระดกเหล้าที่เหลือในแก้วจนหมด “ก็แมงดาพาน้องหรี่มาอัพราคา หาลูกค้าที่นี่” เพื่อนคนนั้นลุกขึ้นยืน ก่อนจะก้มตัวลงมาพูดกับเลโอ ก่อนจะเดินจากไปว่า
“ไปเลย กลัวอะไรวะ น่ารักน่าเอาขนาดนั้น ทุ่มหน่อยสิวะเพื่อน” เลโอรู้สึกว่า เขากลืนน้ำลายลงคอได้อย่างยากลำบาก เมื่อในใจของเขามันตื่นเต้นกับคำพูดของเพื่อน จนเหมือนจะทำอะไรไม่ถูกแล้ว แต่ก่อนที่เลโอจะทันได้คิดอะไรต่อไป “นั่งคนเดียวเหงาแย่” เลโอก็เห็นชายหนุ่มร่างกำยำนั้นมาอยู่ที่ด้านหลังของเขา
“ผมไบร” หนุ่มกำยำคนนั้นพูดแนะนำตัว สายตามองไปทางคนหน้าสวย ในทิศทางเดียวกับสายตาของเลโอ “ผม ผมเลโอ” ชายหนุ่มตอบกลับไป รู้สึกแปลก ๆ จนต้องขยับใบหน้าของตัวเองออกห่างจากอีกฝ่าย ที่ดูจะยื่นหน้าเข้ามาจนใกล้ เลโอเห็นไบรยิ้มออกมา
“สิงห์หนุ่มอย่างคุณ กล้าเสี่ยงมั้ยครับ” พูดจบ ไบรก็เดินไปหยุดยืนอยู่ข้างหน้าเลโอ “เชิญที่โต๊ะครับ” ไบรยิ้มให้ เชื้อเชิญเลโอให้ลุกขึ้น และเหมือนมันมีพลังอะไรบางอย่าง ที่ทำให้เลโอยืนขึ้นตามคำเชิญนั้น “เดี๋ยวครับ” เลโออยากจะรู้ก่อนว่าไบรกับคนคนนั้น
“ไม่ใช่อย่างที่คุณคิด” เหมือนไบรจะล่วงรู้ถึงความคิดของเลโอ “งั้นก็ พี่น้อง” เลโอคาดหวังให้เป็นไปในทางนั้น “ไม่ใช่ซะทีเดียว” ไบรหัวเราะออกมาเหมือนกับเพิ่งได้ยินเรื่องขำขัน “ตามมาเถอะครับ อย่าคิดมาก” ไบรพูดจบก็เดินนำหน้ากลับไปที่โต๊ะ เลโอเดินถือแก้วเครื่องดื่มตามไปจนทัน คนหน้าสวยของเลโอ ก้มหน้าไม่สบตากับเขา จนไบรพูดขึ้นว่ามีแขกมาร่วมโต๊ะด้วย เมื่อเชิญให้เลโอนั่งลงข้าง ๆ กับใครคนนั้น
“แนะนำตัวให้เพื่อนใหม่ของเรารู้จักหน่อยสิ” ไบรพูดบอก เลโอจึงเห็นอีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมาสบตา ดวงตาสวยแต่ดูเศร้าคู่นั้น ทำให้เลโอรู้สึกเขินอย่างบอกไม่ถูก “แอล” เลโอได้ยินอีกฝ่ายพูดขึ้น ชายหนุ่มยิ้ม ก่อนจะเห็นแอลสบตากับเขา เหมือนจะพูดอะไรออกมา แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจ เมื่อไบรส่งเสียงในลำคอขัดขึ้นมาเสียก่อน
“ขอตัวไปห้องน้ำ” แอลพูดกับไบร ก่อนจะลุกเดินไป “สักครู่นะครับ” ไบรพูดกับเลโอ ก่อนจะลุกขึ้นเดินตามแอลไป เลโอมองเห็นทั้งสองคนไปหยุดยืนคุยกันอยู่มุมมืด ๆ ก่อนจะถึงห้องน้ำ ไบรดูจริงจังกับสิ่งที่เขาพูด ส่วนแอลนั้น ดูลังเล และอยากจะล้มเลิกสิ่งที่อยู่ในใจ
“เธอจะโยกโย้เหมือนครั้งที่ผ่าน ๆ มาไม่ได้แล้ว” ไบรพูดขึ้นเสียงเข้ม “ยังไงคนนี้ก็ไม่ใช่” แอลเถียงกลับ ไบรส่ายหน้า “เธอรู้ดี ว่านี่คือคนนั้น” ไบรไม่พูดเปล่า ดึงมือทั้งสองข้างของแอลไปหงายฝ่ามือขึ้นดู ก่อนที่ไบรจะพูดต่ออีกว่า “คืนคราสเต็มดวง คืนนี้พิเศษกว่าครั้งไหน ๆ” แอลผ่อนลมหายใจออกมา เพราะเขาก็ตระหนักถึงเรื่องนี้ดี
เกือบห้าทุ่มครึ่ง ไบรปิดประตูห้องของคอนโดหรูชั้นบนสุดใจกลางเมืองลง ทิ้งให้เลโอและแอลอยู่กันเพียงตามลำพังสองคน เลโอรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย เขารู้ว่าเขาชอบแบบไหน รสนิยมของเขาเป็นเช่นไร แต่หนุ่มวัยยี่สิบเก้าอย่างเขา ยังไม่เคยได้มีอะไรกับผู้ชายด้วยกันมาก่อน จะว่าไป ไม่ว่ากับเพศไหน เลโอก็ไม่เคยทั้งนั้น ยกเว้นก็แต่ เรื่องที่เขาทำให้ตัวเอง เท่านั้น
แอลมองออกไปด้านนอกหน้าต่างแบบไฮไรส์ พระจันทร์กำลังจะเข้าสู่ช่วงสุดท้าย ก่อนที่คราสในค่ำคืนนี้จะเต็มดวง เมื่อเวลาหนึ่งนาทีหลังเที่ยงคืน แอลเริ่มรู้สึกว่า เขากำลังจะควบคุมตัวเองเอาไว้ไม่ได้ กับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านขึ้นลง โดยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเขา และยิ่งเวลาใกล้คราสเต็มดวงมากขึ้นเท่าไหร่ กลิ่นกายของเลโอ ยิ่งทำให้แอลก่อเกิดความกำหนัดจนมากล้น
เลโอเห็นแอลกำมือจนแน่น ลมหายใจของแอลเริ่มติดขัด หอบหายใจแรงขึ้น เลโอขยับตัวเข้าไปนั่งข้าง ๆ กับแอล ชายหนุ่มแตะมือของเขากับมือของแอล เลโอเห็นแอลเหมือนจะตัวอ่อนยวบยาบ เพียงแค่สัมผัสเบา ๆ นั้น แอลรู้ได้ทันทีว่า เลโอคือคนคนนั้น เพราะก่อนหน้านี้ เขาไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนี้กับใครทั้งนั้น
“ถ้าคุณเริ่ม มันจะย้อนกลับไม่ได้แล้ว” แอลพูดบอกกับเลโอ เสียงพูดของแอลนั้นกระเส่า จนเลโอรู้สึกตื่นเต้นและตื่นตัวเป็นอย่างมาก เลโอประกบริมฝีปากเข้ากับแอล ก่อนจะแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปากนั้นอย่างเร่าร้อนและดุดัน สองมือของเขาตะโบมไล่เลาะ แตะจับ เรือนร่างของแอลไปทั่ว ก่อนจะจัดการให้ร่างนั้นอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า เลโอเอง ก็สลัดอาภรณ์คลุมกายชิ้นสุดท้าย ให้หลุดออกด้วยเช่นกัน
คราสดวงจันทร์ทาบทับจนเกือบแนบสนิท เสียงของแอลร้องออกมาเสียงดัง เมื่อเลโอแทรกความแข็งแกร่งนั้น เข้าไปในช่องทางที่ไม่เคยถูกใครชำแรกผ่านมาก่อน สองมือของแอลจิกผ้าปูที่นอนจนแน่น เลโอครางออกมาดังลั่น เมื่อรับรู้ถึงความแน่นนั้นผ่านแก่นกลางลำตัวของเขา เลโอขบกรามจนขึ้นเป็นสันนูน เมื่อเขากดความยาวทั้งหมดนั้นเข้าไปจนแนบเข้ากับบั้นท้ายของแอล
เลโอยังไม่อยากให้ทุกอย่างจบลงด้วยเวลาอันรวดเร็ว เขาก้มลงจูบกับแอลอย่างดูดดื่ม ชะลอการกระแทกกระทั้นนั้นลง ผ่อนสั้นผ่อนยาว แอลตอบสนองกับทุกสัมผัสที่เลโอมอบให้ ทุกแรงกระหน่ำที่เลโอดันกายเข้าหา แอลแทบจะทนไม่ไหวแล้วปลดปล่อยมันให้ทะลักทลาย
เข็มวินาทีวิ่งเข้าหาหนึ่งนาทีสุดท้าย ก่อนที่คราสจะสมบูรณ์ เลโอรู้ว่า เขาไม่สามารถจะรั้งความรู้สึกนั้นได้อีกต่อไป เขาเร่งจังหวะทั้งแรงและเร็ว จนแอลถึงที่หมายล่วงหน้าเขาไปก่อน โลกเคลื่อนเข้าทาบทับดวงจันทร์จนพอดิบพอดี คราสนั้นสมบูรณ์ เพียงเสี้ยววินาทีที่เลโอปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่าง ให้ไหลเข้าไปในตัวของแอล
เลโอคิดว่าเขาหลับไปได้สักพัก ก่อนที่จะได้ยินเสียงคนพูดรอบตัวเขา และความเจ็บแปลบที่แผ่นอกนั้น ก่อนที่ชายหนุ่มจะสติวูบดับลงไป แอลยืนมองไบร ยื่นหัวใจของเลโอให้กับเขา โดยมีบรรดาคนในครอบครัวของเขา ยืนอยู่รายล้อม และรอดู พวกเขายินดีปรีดา โห่ร้องกันอย่างมีความสุข ที่เห็นแอลกัดกินหัวใจสด ๆ นั้นอย่างเอร็ดอร่อย ทุกคนดีใจ ที่อาการแห่งโรคร้ายของแอลจะได้หายขาด จบสิ้นความหวาดกลัวที่มีกันเสียที
รุ่งเช้ามีข่าวว่า ได้พบศพของชายหนุ่มคนหนึ่ง ถูกทิ้งเอาไว้ โดยมีสภาพเปลือยเปล่า และหน้าอกของเขาถูกผ่าออก หัวใจถูกชำแหละออกไป การสันนิษฐานเบื้องต้นของทางเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ ว่าอาจจะเกี่ยวพันกับการเสียชีวิตของเหยื่อรายก่อน ๆ แต่มีเฉพาะเหยื่อรายนี้ ที่มีหลักฐานว่า มีการร่วมเพศก่อนเสียชีวิต ส่วนรายอื่น ๆ มีเพียงหัวใจ รวมทั้งอวัยวะอื่น ๆ ที่หายไปเท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่คาดว่า น่าจะเป็นการประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิประหลาด เกี่ยวเนื่องกับจันทรุปราคาทุกครั้งที่ผ่านมา ก็เป็นไปได้
แอลอยู่ในเสื้อคลุมสีนิล คาดเอวไว้ด้วยโซ่เล็ก ๆ สีเงิน ยืนรอรับคำอวยพรจากสมาชิกในครอบครัวที่เป็นผู้ชายทั้งหมด ทุกคนต่างยินดี ที่โรคร้ายตามคำทำนายของแอลได้หายเป็นปลิดทิ้ง โดยเฉพาะผู้อาวุโสหลักทั้งหลาย ที่พูดถึงการปลดล็อกสิ่งที่ขัดขวางความรุ่งเรืองขึ้นอีกครั้ง ของสิ่งที่บรรพบุรุษได้ทิ้งเอาไว้ให้ และนั่นคือพลังอำนาจ ที่ไม่อาจจะมีใครเทียบเทียม ได้มาไหลวนอยู่ในร่างของแอลแล้ว
“แอลดูมีน้ำมีนวลขึ้นมาก” ไบรตั้งข้อสังเกต ท่านผู้เฒ่าใหญ่สังเกตแอลอย่างพินิจพิเคราะห์ “เวลาเท่านั้นที่จะบอกเราได้” ท่านผู้เฒ่าพูด ก่อนเอามือแนบลงบนหน้าท้องของแอล ก่อนจะดึงเอาฝ่ามือทั้งสองของแอลมาหงายขึ้นดู ทั้งสองข้าง มีรอยกากบาทกลางฝ่ามือที่ใหญ่และเห็นได้ชัด “งดงามที่สุด” ท่านผู้เฒ่าพยักหน้าและยิ้มอย่างพึงพอใจ ส่วนผู้อาวุโสหลักต่างพากันแซ่ซ้อง ว่าถึงเวลาของการกลับมายิ่งใหญ่บนโลกอีกครั้ง ของเผ่าพันธุ์พวกเขาแล้ว
“หากเพียงว่า เจ้ารัตติกาลคนใหม่ จะไม่ถือกำเนิดขึ้น” ไบรพูดขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่จะถูกพวกผู้อาวุโสหลักตำหนิที่พูดถึงเรื่องไร้สาระ “มันเป็นเพียงแค่ตำนานโบราณ เรื่องเล่าปรัมปรา” เสียงพูดนั้นขุ่นมัว และทำให้ไบรต้องก้มหัวขอโทษ “ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง มีหรือ ว่าเราจะไม่รู้ อีกอย่าง มันเป็นความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ที่อุปโลกน์ขึ้น เพื่อกดหัวพวกเราเอาไว้” หนึ่งในผู้อาวุโสหลักอีกคนพูดขึ้น
“ตามตำนาน ตอนนี้ก็เหลืออีกแค่ครึ่งคืน จากสามวันหลังจากที่เจ้าหนุ่มนั่นตาย” ท่านผู้เฒ่าใหญ่พูด ทุกคนเงียบเสียงลง “ตราบใดที่แอล ไม่ได้” ทุกคนถึงกับตกใจ ไบรเองก็ไม่ทันสังเกตเช่นกัน แอลหายไปจากตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ “ไปให้ทัน” ท่านผู้เฒ่าสั่งการไบรด้วยน้ำเสียงที่น่าเกรงขาม แต่ลึก ๆ แล้ว เสียงพูดนั้นเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น กริ่งเกรง
แอลเดินเข้าไปในห้องเย็นของอาคารนิติเวช ก่อนจะดึงเอาช่องที่บรรจุร่างของเลโอ ออกมาจากช่องเย็น แอลมองใบหน้าซีดขาวของเลโอด้วยความรู้สึกผิด ไม่มีใครสัมผัสความรู้สึกนั้นได้ เหมือนกับที่แอลได้สัมผัส กับชั่วครู่ชั่วยาม ที่แอลได้ใกล้ชิดกับเลโอ มันคือความรู้สึกที่รับรู้ได้ในทันทีว่า เลโอคือคนที่แอลเฝ้าฝันหา คือรักแท้ ที่แอลต้องการได้เคียงคู่
แต่โชคชะตา ฟ้าก็เล่นตลก ที่ความเชื่อในตำนานของครอบครัวเขา เมื่อแอลเจอกับคนคนนั้น ในคือจันทรคราสเต็มดวง ได้เสพสมเสพสุข เพื่อได้รับเอาหยาดหยดจากเขาคนนั้นเข้าไปพักอยู่ในร่างกาย สิ่งหนึ่งที่เขาจะต้องทำ ก็คือ กินหัวใจของคนคนนั้นสด ๆ เพื่อให้คำสาปโรคร้าย ที่ทำให้พวกเขามีแต่ผู้ชาย ขยายเผ่าพันธุ์ไม่ได้ ปลดล็อกโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาผู้หญิง
แอลก้มหน้าลงจนใกล้กับใบหน้าของเลโอ เขากล่าวคำขอโทษเลโอออกมาเบา ๆ แอลหวังว่า เมื่อทุกอย่างจบลง เลโอจะไม่โกรธแค้นเขา แอลรู้ ว่าเขาอ่อนแอเกินกว่าจะต่อต้านคำสั่งของท่านผู้เฒ่าใหญ่และบรรดาพวกผู้อาวุโสทั้งหลายได้ แต่จิตใจที่แอลโหยหาความรักจากใครสักคน ตามวิถีธรรมชาติ มันทำให้แอลตัดสินใจฝืนคำสั่งในครั้งนี้
แอลจูบลงที่ริมฝีปากของเลโอ ก่อนที่ตัวเขาจะรู้สึกว่า พลังงานในร่างกายของเขา เหมือนกับจะถูกดึงออกจากร่างกายไปจนเกือบหมด หากว่าตำนานที่เหล่าบรรดาผู้อาวุโสหลักหวาดกลัว เอาแต่พูดกัน เชื่อกันว่ามันไม่เป็นจริง เมื่อแอลที่กินหัวใจของคนคนนั้นเข้าไปแล้ว กลับมาจูบคืนชีวิตให้ ภายในสามราตรี หลังจันทรคราส เจ้ารัตติกาลจะกลายเป็นจริง
“แอล เธอทำอะไรลงไป” ไบรที่เห็นรางของแอลทรุดอยู่ด้านหน้าตึกนิติเวช ถามด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง แอลในตอนนี้ดูอ่อนแรงกำลัง ไม่ได้ดูมีน้ำมีนวลเหมือนกับเมื่อก่อนหน้านี้ “ทำในสิ่งที่ฉันควรจะทำยังไงล่ะ” แอลตอบออกมาด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบ รอยกากบาทบนฝ่ามือทั้งสองข้างของแอลยังคงอยู่ แต่มันเลือนและจางลงไปมาก
“ด้วยการทำลายเผ่าพันธุ์ตัวเองลงอย่างนั้นหรือ” ไบรถามด้วยความไม่เข้าใจ “เธอก็รู้ดี ว่าเธอคือความหวังสุดท้าย ในการขยายจำนวนของพวกเรา” แอลหัวเราะออกมาอย่างนึกหยัน “ด้วยการให้ฉันต้องผ่านมือผู้ชายในเผ่านับไม่ถ้วนต่อจากนี้น่ะหรือ” แอลไม่คิดว่า เขาต้องการที่จะทำในสิ่งนั้น “แต่นั่นมันคือชะตาชีวิตของเธอ ที่ถูกกำหนดเอาไว้” ไบรพูดจบ ก่อนจะรู้สึกถึงพลังงานบางอย่าง ที่แผ่ออกมาจากด้านหลังของตึกนิติเวช แอลหันไปมองตามสายตาของไบร
เลโอลืมตาขึ้น สูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนจะเอียงตัวตกจากแผ่นอะลูมิเนียมเย็น ๆ นั้น ลงมานอนเปลือยเปล่าอยู่ที่พื้น ที่เย็นเฉียบไม่ต่างกัน ชายหนุ่มมองไปรอบ ๆ ตัว ก่อนจะพยายามปะติดปะต่อเรื่องราว ว่าครั้งสุดท้ายที่เขาจำได้ คือเขานอนอยู่กับแอล แล้วทุกอย่างก็ดับมืดลง จนมาตอนนี้
เลโอก้มลงที่แผงอกของเขา รอยเย็บขนาดใหญ่ พาดอยู่ที่กลางอก ชายหนุ่มยกมือขึ้นแตะ ไม่มีความรู้สึกของหัวใจเต้นอีกต่อไป เพียงเท่านั้น มันเหมือนมีพลังอะไรบางอย่างแผ่ซ่านเข้ามาในร่างกายของเขา สายตาของเขาเปลี่ยนไป ตอนนี้เลโอมองทุกอย่างได้ชัดเจน โดยไม่ต้องพึ่งพาแว่นสายตาอีกต่อไป
ไม่เพียงเท่านั้น สีสันที่เขามองเห็นก็แตกต่างไป เขาสามารถมองผ่านทะลุกำแพงได้ หากว่าเพ่งสมาธิให้แน่วแน่ สัมผัสทางร่างกายตอนนี้ ยิ่งไวต่อความรู้สึก เขาลุกขึ้นยืน ก่อนจะหยิบเอากางเกงวอร์มขายาวที่พาดอยู่บนพนักเก้าอี้มาใส่ ก่อนที่ประสาทการได้ยินเสียงของเขา จะรับรู้ถึงบทสนทนา ที่ดังมาจากด้านหน้าตึกแห่งนี้ได้
“ไม่ใช่แค่เพียงเผ่าพันธุ์เราที่จะสูญสิ้น ชีวิตของเธอเองก็จะไม่รอด” ไบรตะโกนใส่หน้าแอล ก่อนจะเห็นแอลยักไหล่ และหัวเราะออกมา “ให้ทุกอย่างมันจบ ๆ ลงไปเสียที” แอลบอก และนั่นเหมือนเป็นคำปฏิญาณของเขา แต่ก่อนที่ไบรจะได้พูดอะไรต่อ ตัวของเขาก็ถูกปัดให้ปลิวไปจากตรงนั้น ร่างของไบรกระแทกกับพื้นอย่างแรง ก่อนที่เขาจะเห็นเลโอเดินเข้าไปหาแอล
“คุณทำเรื่องบ้าอะไรกับผมไว้” เลโอถามแอลที่นอนฟุบอยู่บนทางเดินนั้น “คุณฟื้นก็ดีแล้ว” แอลพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบ เลโอทรุดตัวลงนั่งลง ก่อนจะดึงตัวของแอลเข้ามาไว้ในอ้อมแขน “ฆ่าฉันซะ” แอลพูดขอร้องกับเลโอ ชายหนุ่มส่ายหน้า เขาไม่ได้มีความคิดที่จะทำเช่นนั้น แค่อยากได้คำอธิบายดี ๆ สักคำ ว่าทำไมเขาถึงมีชีวิตอยู่ได้ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีหัวใจ แต่ก็เห็นแอลในเสื้อคลุมสีดำยิ้มให้
“ขอโทษนะ ที่ฉันทำให้คุณมีชีวิตอมตะซะแล้ว” เรื่องตำนานของเจ้ารัตติกาล เป็นเรื่องจริงสินะ แต่คนที่กินหัวใจของเจ้ารัตติกาลเข้าไป แล้วคืนชีวิตกลับไปนั้น พลังชีวิตในตัวจะลดลง และสูญสิ้นไปในที่สุด “ส่วนฉันกำลังจะเป็นมนุษย์ธรรมดา ที่รู้จักความตาย” แอลพูดบอกกับเลโอ “บอกผม ว่าผมจะช่วยคุณได้ยังไง” เลโอถาม เมื่อเห็นสีหน้าของแอลไม่ค่อยสู้ดีนัก
“อย่าเลย” แอลห้ามเลโอ “ปล่อยฉันไปเถอะ” แอลพูด เสียใจที่ทุกอย่างมันต้องลงเอยแบบนี้ “ไม่ได้นะ” ไบรตะโกนออกมา “เลโอ นายจะปล่อยให้แอลสูญสิ้นพลังไปไม่ได้” เลโอหันไปมองไบร ที่ตอนนี้เขาจำได้แล้ว ว่าเป็นคนเอามีด กรีดผ่าเอาหัวใจของเขาออกมา ไบรเหมือนกับถูกบีบคอ จากพลังที่ไร้ขีดจำกัดของเลโอ ที่แค่เพียงใช้ความคิดเท่านั้น
“นายต้องช่วยแอลเอาไว้ เลโอ” เสียงของไบรติด ๆ ขัด ๆ เหมือนคนจะขาดอากาศหายใจ เมื่อพยายามจะพูด “แอลอาจจะกำลังตั้งท้องลูกของนายอยู่” คำพูดของไบร ทำให้ความคิดของเลโอสะดุดลง เลโอมองใบหน้าที่ซีดเผือดของแอล ที่กำลังจะหมดสติลง “นายพูดเรื่องอะไร” เลโอตะโกนถามออกไป ไบรไอออกมา ก่อนรีบสูดอากาศเข้าปอด เมื่อพลังของเลโอคลายลง
“ยังมีเรื่องอีกมากมายนัก ที่นายยังไม่รู้ เกี่ยวกับเผ่าพันธุ์พวกเรา” ไบรบอกกับเลโอ “คืนจันทรคราสคืนนั้น หัวใจหลักของมันก็คือ การที่นายมอบอำนาจให้พวกเรา เพิ่มจำนวนได้อย่างอิสรเสรีต่างหากล่ะ ทั้งนายและแอล ต่างก็ไม่เคยเปรอะเปื้อนกามมลทินด้วยกันทั้งคู่” ไบรรีบพูดออกไป เมื่อเห็นว่าเลโอยืนขึ้น อุ้มร่างของแอลเอาไว้ในวงแขน
“นายสัญญากับฉันก่อน ว่านายจะช่วยแอลเอาไว้ ช่วยแอล ช่วยลูกของนาย แล้วฉันจะบอกวิธีรักษาชีวิตของแอลให้นายรู้” ไบรตะโกนบอกออกไป เมื่อเห็นปีกสีดำที่หลังของเลโอสยายกางออก “เจ้าแห่งรัตติกาล” ไบรได้เห็นสิ่งที่เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง จะ ๆ อยู่ตรงหน้า “เจ้ารัตติกาลรับปากสิ สัญญาสิ ว่าจะช่วยชีวิตแอล”
เลโอก้มลงมองแอลในอ้อมแขนของเขา ที่แอลซุกหน้าเข้ากับอกข้างซ้ายของเขา ที่ไม่มีหัวใจเต้นสูบฉีดอีกต่อไป ไม่สิ ตอนนี้เขากลายเป็นเจ้ารัตติกาลที่ไร้หัวใจ แต่หัวใจของเขา คือคนที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาตอนนี้ยังไงล่ะ แอลคือหัวใจของเขาแล้ว นับจากนี้ ไบรตะโกนบอกถึงวิธีช่วยชีวิตแอลให้เลโอได้รับรู้ เมื่อปีกสีดำใหญ่ของเลโอขยับบินขึ้น พาตัวของเขาและแอลลอยขึ้นไปบนฟ้า ก่อนจะหายไปกับความมืดมิดแห่งรัตติกาลนั้น
**************************************
Inspired by “เพลง เธอคือใคร”
คำแปลเนื้อร้องภาษาอังกฤษ โดย KADUMPA
English Lyrics Translation by KADUMPA
https://www.youtube.com/watch?v=32ZbMeD-98Mชั่วชีวิตที่เคยรักใคร ไม่เคยล้อเล่นกับหัวใจ
In my whole life, I’m serious about my love lift
แต่ว่าทุกคน เข้ามาคบกัน ไม่นานเขาก็ไป
Every one I knew, they were here briefly and then gone
แต่ละครั้งก็คอยทุ่มเท แต่สุดท้ายก็ยังเสียใจ
I did give everything I had, yet got my heart shattered
เจ็บจนคุ้นเคย แต่ไม่ชอบเลย ที่ต้องไม่เหลือใคร
The pain is familiar, the hard truth when having no one left
ดั่งฟ้า จะแค่เพียงต้องการแกล้งกัน
Heaven, probably these awful pranks from up there
ให้ฉัน ต้องพบเจอแต่เจ็บความช้ำใจ
And I have to endure this pain all along
จนไม่รู้ ว่ารักแท้หน้าตาเป็นเช่นไร
Now love is becoming something far from a familiar sight
ก็ยังไม่พบเจอใคร ที่รักกันจริงสักที
No one is here to give me one true love for real
จะมีไหมซักคน มาเปลี่ยนชีวิตของฉัน เธอคือใคร
Will it be the one to change my life up side down? Who are you?
ที่จะรักจริง ไม่ทอดทิ้งกัน อยากจะรู้
To love and stay around, I wanna know
จะมีไหมซักใจ จะได้เจอะเจอ อยากรู้เธอคือใคร
Will it be that heart to see for myself? Who are you, really?
ที่จะเป็นรักสุดท้าย ของฉันจริงจริงสักที
To be my last love, and truly belongs to me
อยากจะพบสักคนที่เข้าใจ ไม่ต้องพร้อมต้องดีมากมาย
Should there be that one understanding me, no perfection required
อาจจะเถียงกัน อาจทะเลาะกัน เขายังไม่ไปไหน
Should we do argue, or we do fight, still we carry on our affections
อยากจะพบสักใจที่เข้ากัน อยู่กับฉันรักกันเรื่อยไป
Should one heart fits mine, loving me and caring for only me
อย่าแค่แวะมา ฝากแค่น้ำตา ให้ค้างคาในหัวใจ
Should tears be forbidden, no heartbreaking to cause pains
ดั่งฟ้า จะแค่เพียงต้องการแกล้งกัน
Heaven, probably these awful pranks from up there
ให้ฉัน ต้องพบเจอแต่เจ็บความช้ำใจ
And I have to endure this pain all along
จนไม่รู้ ว่ารักแท้หน้าตาเป็นเช่นไร
Now love is becoming something far from a familiar sight
ก็ยังไม่พบเจอใคร ที่รักกันจริงสักที
No one is here to give me one true love for real
จะมีไหมซักคน มาเปลี่ยนชีวิตของฉัน เธอคือใคร
Will it be the one to change my life up side down? Who are you?
ที่จะรักจริง ไม่ทอดทิ้งกัน อยากจะรู้
To love and stay around, I wanna know
จะมีไหมซักใจ จะได้เจอะเจอ อยากรู้เธอคือใคร
Will it be that heart to see for myself? Who are you, really?
ที่จะเป็นรักสุดท้าย ของฉันจริงจริงสักที
To be my last love, and truly belongs to me
ไม่รู้จะเจอเมื่อไหร่
Can’t say when this will really be
ก็เฝ้าแต่ถาม
All I can do is ask
ก็ได้แต่ถามจากฟ้า
I am asking this, longing for the answer from the sky
จะมีไหมซักคน มาเปลี่ยนชีวิตของฉัน เธอคือใคร
Does this someone exit to change my life completely? Will that be you?
ที่จะรักจริง ไม่ทอดทิ้งกัน อยากจะรู้
Give me a genuine love, never walk away from me, I’d love to know
จะมีไหมซักใจ จะได้เจอะเจอ อยากรู้เธอคือใคร
For one pure loving heart to feel, wondering if it s you
ที่จะเป็นรักสุดท้าย ของฉันจริงจริงสักที
My one last love that does belong to me