เพื่อน‘รัก’ ( Close Friend )/บทที่1 : 03.11.64
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เพื่อน‘รัก’ ( Close Friend )/บทที่1 : 03.11.64  (อ่าน 1740 ครั้ง)

ออฟไลน์ Blackcrow

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ 

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.เรื่องสั้นให้จั่วคนว่าเรื่องสั้นด้วยนะครับ และนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม






************************************************




เพื่อน‘รัก’ ( Close Friend )

……………………………


พวกเขา...รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก

พวกเขา...อยู่บ้านใกล้กัน

พวกเขา...เคยเรียนโรงเรียนเดียวกัน

และพวกเขา...เป็นเพื่อน ‘รัก’ กัน


#เพื่อนรัก #closefriend










***สวัสดีนักอ่านแนวเฟรนโซนทุกคนฮับบบบ ใครที่ชอบแนว เมะxเมะ แนวคู่กัด อยากให้ลองแวะเข้ามาอ่าน ลองมาทำความรู้จักกับความสัมพันธ์ในแบบเพื่อนรักของตัวละครหลักกันดูสักหน่อยย รับรองว่าไม่มีดราม่าแถมยังไม่มีสาระ (?) เบาสมองแน่นอนค่ะ

***จะพยายามอัพให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ฮับบบ ฝากคอมเมนต์และเป็นกำลังใจให้ด้วยน้าาา





สารบัญ
บทนำ   บทที่1

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-11-2021 21:22:11 โดย Blackcrow »

ออฟไลน์ Blackcrow

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
Re: เพื่อน‘รัก’ ( Close Friend ) /บทนำ:19.08.64
«ตอบ #1 เมื่อ19-08-2021 23:45:56 »

บทนำ


ถ้าพูดถึงเพื่อนรัก ผมเชื่อว่าหลายๆ คนคงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นเพื่อนที่สนิทที่สุด เข้าใจเรามากที่สุด ไปไหนไปกัน ห่างกันไกลแค่ไหนแต่ความเป็นเพื่อนก็ยังเหนียวแน่นเหมือนเดิม นั่นคือเพื่อนรักสำหรับคนทั่วไป แต่เพื่อนรักสำหรับผม มันไม่ใช่อย่างนั้น...



อนุบาล1

เพื่อนรักที่มักซ่อนสมุดวาดรูปและสีไม้ทุกครั้งที่ผมได้มาใหม่



ป.1

เพื่อนรักที่เป็นหัวโจกพาคนทั้งห้องล้อเลียนผมเพราะฉี่รดที่นอน



ป.4

เพื่อนรักที่แย่งแม้กระทั่งกบเหลาดินสอที่เก็บได้จากข้างทาง



ม.1

เพื่อนรักที่ขิงเรื่องหน้าตากับผม (หล่อมากมั้งไอ้สัส)



ม.4

เพื่อนรักที่พรากรักแรกไปจากผม (ไอ้เหี้ยเอ้ย)



และปี1 (ปัจจุบัน)

เพื่อนรักที่เปรียบเสมือนหลุมดำในชีวิต เป็นเจ้ากรรมนายเวรที่ตามติดชีวิตผม



ไม่ว่าจะหาคำนิยามสักเท่าไหร่ก็ไม่อาจเทียบกับความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่

เพื่อนรัก ที่คนอื่นใช้เรียกแทนความสัมพันธ์ของพวกเราทั้งสองคน พอคิดถึงเรื่องนี้ทีไรก็ได้แต่หัวเราะให้กับโชคชะตา

ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ทำให้ผมกับมันได้มาเจอกัน ผมขอบอกไว้ก่อนเลยว่า ผม โคตร เกลียด



“กูบอกกี่ครั้งแล้วว่าแดกเสร็จให้เก็บด้วย”

เช้าที่ (ผมคิดว่า) สดใสพังลงเมื่อเห็นคนที่ผมมักเรียกว่าไอ้เหี้ยนอนเอาขาข้างหนึ่งพาดโต๊ะพลางกินขนมอยู่บนโซฟาหน้าทีวีอย่างสบายใจ บนโต๊ะด้านหน้ามีห่อขนมและเศษขนมเกลื่อนอยู่

“ทำไมกูต้องฟังมึงด้วย นี่ก็ห้องกูเหมือนกัน กูจะทำอะไรก็ได้” รอยยิ้มกวนส้นตีนถูกส่งมา ไม่รอช้าที่ผมจะยกเท้าเตะขาที่พาดอยู่บนโต๊ะของมัน

“ทำร้ายร่างกายกูอีกละ กูฟ้องป้าพิมพ์แน่”

“งั้นมึงก็รีบไปฟ้องดิ กูจะได้ไปฟ้องแม่มึงเหมือนกันว่ามึงทำตัวโสโครกแค่ไหน กูจะถ่ายรูปหน้าเหี้ยๆ ของมึงส่งไปให้สาวๆ มึงด้วย จะประจานด้วยว่ามึงไม่ชอบอาบนำ้แถมยังใส่กางเกงในซำ้ นิสัยก็เหี้ย....”

“พอก่อนไหม แค่กูไม่เก็บขยะมึงต้องทำขนาดนั้นเลยหรอ”

“กูทำได้มากกว่านี้อีก”

ผมเดินผ่านไอ้เวย์เข้ามาในครัวหวังว่าจะมาหาอาหารเช้ากินสักหน่อย แต่ก็ต้องอึ้งกับภาพตรงหน้า สภาพครัวเรียกได้ว่าผ่านการรบมายังไงยังงั้น ร่องรอยการทำอาหารที่ไม่ได้ถูกเก็บกวาด ถ้วยจานที่กองพะเนินอยู่ในซิงค์ เมื่อเดินมาเปิดตู้ดูวัตถุดิบที่เคยมีพร้อม กลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่สิ ร่องรอยก็เต็มโต๊ะนี่ไง!

จากอึ้งเปลี่ยนเป็นอารมณ์คุกรุ่น ตามมาด้วยความโกรธที่อยากจะถีบไอ้เพื่อนรักให้กระเด็นออกจากห้องไปซะเดี๋ยวนี้

กูไม่อยู่ห้องวันเดียวมึงกล้ามากนะ กล้าทำนิสัยซกมกกับห้องกูขนาดนี้ มึงตายแน่ไอ้เหี้ยเวย์!

ผมเดินวอร์มนิ้วออกจากห้องครัวตรงไปหาคนที่นอนดูทีวีอยู่บนโซฟา มือข้างหนึ่งวาดขึ้นกลางอากาศก่อนจะฟาดลงที่หัวของเป้าหมายอย่างสุดกำลัง

“โอ้ย ไอ้หมาวี!” แค่ฟาดไม่พอสำหรับผม หมอนใบใหญ่ที่วางอยู่ด้านข้างถูกนำมาเป็นอาวุธ ไม่รอให้ไอ้เวย์ได้แหกปากไปมากกว่านี้ ผมก็กดหมอนลงบนใบหน้ามันอย่างโกรธแค้น

“ตายชะเถอะไอ้ตัวเหี้ยยยยย” ผมเพิ่มแรงกดอีก คนที่นอนอยู่ดิ้นแด่วๆ ฟาดมือสะเปะสะปะขัดขืนสุดขีด แต่หลังจากที่ความพยายามไม่ส่งผลมันก็หยุดดิ้น

หึ อยากล้อเล่นกับกูดีนัก

“ยอมแพ้แล้วใช่ไหม” ผมถามอย่างผู้มีชัย ทว่าผ่านไปเกือบหนึ่งนาทีก็ไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่นอนอยู่ ไม่มีเสียง ไม่ขยับตัว

ผมตกใจเมื่อคิดถึงความเป็นไปได้ ปล่อยหมอนที่กดหน้าไอ้เวย์ออก ใบหน้านิ่งๆ ไม่มีเค้าของคนที่รู้สึกตัวดีทำให้ผมลนลาน

ฉิบหายแล้ว ไม่ใช่ว่ามันตายขึ้นมาจริงๆ หรอกนะ

ผมยื่นมือออกไปเพื่อพิสูจน์ดูว่าสิ่งที่คิดเป็นจริงหรือเปล่า นิ้วที่อังจมูกรู้สึกถึงความร้อนจากลมหายใจทำให้ผมโล่งอก แต่ในขณะที่กำลังจะชักมือกลับ มือของผมก็ถูกคว้าเอาไว้อย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ตาทั้งสองข้างของคนที่นอนอยู่ลืมขึ้น จ้องมาที่ผมอย่างต้องการจะเอาคืน

มือของผมถูกดึงอย่างแรงทำให้เสียหลักล้มลงทับบนตัวอีกฝ่าย ไม่ทันที่ผมจะได้ตอบโต้ไอ้เวย์ก็พลิกตัวขึ้นมาคร่อมผมทันที ตอนนี้ผมเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

เสียเปรียบมากด้วย!

“นี่มึงกะเอากูถึงตายเลยใช่มะ แต่เสียใจด้วยนะ มึงต่างหากที่จะตายก่อนไอ้หมา!” ร่างที่คร่อมอยู่บนตัวผมทำท่าจะยื่นมือมาบีบคอ แม้จะอยู่ในท่าเสียเปรียบแต่เรี่ยวแรงของผมก็มีไม่น้อยไปกว่ามัน ผมใช้สองมือพลักอกไอ้เวย์ก่อนจะถีบมันจนตกโซฟา

“คิดว่าจะทำอะไรกูได้หรอ หาาา” กลุ่มผมสีดำสนิทคือเป้าหมายแรก จิกหัวแล้วตบแม่งเลย

ไม่ได้ๆ ถ้าเกิดหน้ามันเป็นรอยต้องซวยแน่ๆ

“ไอ้สัส เจ็บ! ปล่อยนะโว้ยยยย” ไอ้เวย์ร้องลั่นทันทีที่ผมทึ้งผมของมัน มือสองข้างพยายามผลักผมให้ออกห่างจากตัวเอง

ตึง!

ผมโดนผลักจนหัวกระแทกกับขอบโต๊ะ ครู่หนึ่งก็รู้สึกถึงของเหลวที่ไหลลงมาถึงท้ายทอย เรี่ยวแรงมหาศาลที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนทำให้ผมกระโจนเข้าใส่ไอ้เวย์อย่างรวดเร็ว

“อ้าก!!!”

“ยะ อย่าเข้ามานะเว้ยยย”

เพราะผมเป็นฝ่ายได้เลือดก่อนถึงได้เลือดขึ้นหน้าขนาดนี้ ผมกับไอ้เวย์ตะลุมบอนกันโดยไม่มีใครยอมใคร การต่อยหน้าเป็นสิ่งที่ผมกับมันจะไม่ทำ เพราะอะไรน่ะหรอ ก็เพราะ...

ตุบ!

เสียงปริศนาทำให้พวกผมหยุดกะทันหัน สายตาเลื่อนมาสบกันอย่างรู้กัน มือของผมที่ก่อนหน้านี้ทึ้งผมไอ้เวย์กลับกลายเป็นจัดทรงผมให้เข้าที่ ส่วนมือที่กำคอเสื้อของผมก็เปลี่ยนเป็นปัดฝุ่นให้ราวกับเราทั้งคู่กำลังสำรวจความเรียบร้อยให้กันและกัน ตอนนี้ภาพของพวกผมเป็นอย่างนั้น แต่สภาพห้องเละเทะไม่เข้ากับสิ่งที่กำลังแสดงออกเลยสักนิดเดียว

ในใจได้แต่กรีดร้องว่า ฉิบหายแล้ว!

“ตายจริง ทำไมสภาพห้องเป็นแบบนี้ล่ะเนี่ย” เสียงของมารดาของหนึ่งในพวกผมสองคนเอ่ยขึ้น

คุณนายทั้งสองยืนอ้าปากค้างกับสภาพห้องอยู่หน้าประตูพร้อมกับข้าวของที่หลุดมือไปบางส่วน

“พวกผมยุ่งกับงานที่มหาลัยเลยไม่ได้เก็บของน่ะครับ” ผมรีบตอบก่อนที่ไอ้เวย์จะชิงพูดตัดหน้าชะก่อน

“รู้จ่ะ แต่ก็ไม่ควรทำห้องเละเทะขนาดนี้นะ” หญิงวัยกลางคนที่หน้าตาสะสวย ดูท่าทางใจดีแต่นิสัยสวนทางกับหน้าตา และมีศักดิ์เป็นมารดาของผมเอ่ยขึ้น ข้างๆ กันนั้นเป็นผู้หญิงผมสั้น หน้าตาค่อนข้างดุ แต่ใจดี นั่นคือแม่ของไอ้เวย์

มาทีไรมาแพ็คคู่ตลอด แถมมาไม่เคยบอกกันเลยสักนิด

“แหม เด็กผู้ชายก็แบบนี้แหละเธอ” ป้าดาเอ่ยขึ้นพลางเก็บของที่ทำตกขึ้นมา

ผู้มีพระคุณทั้งสองเดินหลบข้าวของที่กระจัดกระจายเข้ามาในห้อง ก่อนจะหันมาจ้องพวกเราทั้งสองคน

“ไม่ใช่ว่ากำลังทะเลาะกันอยู่หรอกนะ” แม่ของผมหรี่ตามองอย่างจับผิด

“โถ่ แม่ก็รู้ว่าไอ้เวย์ไม่ชอบเก็บห้อง ผมเองก็ไม่ว่าง สภาพมันเลยเป็นแบบนี้ไง” พูดจบผมก็ลอบยิ้ม ความซกมกของมันต้องประกาศให้ทุกคนรู้!

“เป็นอย่างที่น้องวีพูดหรอเวย์ ทำไมไม่รู้จักเก็บห้องช่วยน้อง แถมยังทำห้องรกอีก” ผมนึกอยากเบ้ปากเมื่อได้ยินสรรพนามที่ป้าดาใช้เรียกผม ถึงแม้จะได้ฟังมาตั้งแต่เด็กแต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่ทำให้จะรู้สึกดีเลย

น้องงั้นหรอ เพียงเพราะมันเกิดก่อนผมเดือนเดียวอะนะ หึ กูลูกคนเดียวโว้ย

“แม่ก็รู้ว่างานบ้านผมไม่ถนัดเลยให้น้องจัดการแทน” ไอ้เวย์เน้นคำว่าน้องราวกับจะเยาะเย้ย

ถ้ามีพี่อย่างมึงกูจะหนีออกจากบ้าน

“แต่ถึงยังไงเราก็ต้องช่วยกันดูแลห้องนะ ทั้งสองคนก็โตเป็นหนุ่มกันแล้ว สาวๆ รู้เข้าคงได้อายไปถึงไหนต่อไหน” แม่เอ่ยด้วยนำ้เสียงอ่อนลงจากตอนที่หันมาถามผมเล็กน้อย แม่ผมมักจะโอ๋ไอ้เวย์ ส่วนป้าดาก็มักจะโอ๋ผม ไม่รู้ว่าใครเป็นลูกใครกันแน่

และด้วยความสัมพันธ์ของแม่และป้าดาที่เป็นเพื่อนกันมาอย่างยาวนานและเหนียวแน่น ส่งผลให้พวกผมต้องเจริญรอยตาม แม้ว่าความจริงแล้วมันจะไม่ใช่แบบนั้น

ผมกับไอ้เวย์ถูกเลี้ยงมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ไม่มีครั้งไหนที่เราจะไม่ทะเลาะกันและมักถูกบ่นเสมอ พอโตขึ้นมาหน่อยถึงได้รู้ว่าการแสร้งเป็นเพื่อนรักของเราสองคนทำให้อะไรหลายๆ อย่างดีขึ้น เว้นก็แต่ ความรู้สึกของผมกับไอ้เวย์ที่ต้องอยู่ด้วยกันทั้งที่ไม่อยากมองหน้ากันด้วยซ้ำ

“แม่ล่ะยังนึกเสียดายที่หนึ่งในเราสองคนไม่มีใครเป็นผู้หญิง ไม่งั้นคงได้หมั้นกันไว้แล้ว” ขนแขนผมลุกเกลียวเมื่อได้ยินประโยคที่ป้าดามักจะพูดเสมอเมื่อเจอเราสองคน

เรื่องที่ผมกับไอ้เวย์เกิดเป็นผู้ชายคือความโชคดีที่มีน้อยนิดในโชคร้ายมหาศาล

หางตาของผมรับรู้ว่าไอ้เวย์เดินห่างออกไปเล็กน้อยก่อนที่มันจะตบเข้าที่กลางหัวของผม ผมเกือบร้องออกมาเพราะความเจ็บแต่ก็ได้ยินเสียงกระซิบของผู้ที่ทำร้ายซะก่อน

“กูซับเลือดที่หัวให้ ถ้าไม่อยากให้แม่กับป้าพิมพ์รู้ว่ากูกับมึงตีกันก็อย่าร้อง” แม้จะเจ็บที่แรงกดจากมือของไอ้เวย์หนักเกินไป แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

เพราะไม่อยากให้คุณนายทั้งสองรู้ และนี่ก็คือเหตุผลที่แม้จะตีกันให้ตายยังไงก็จะไม่ลงมือที่ใบหน้าเด็ดขาด เพราะมันเป็นหลักฐานชั้นดียังไงล่ะ

“แล้วยืนทำไรกันอยู่ ช่วยกันเก็บของสิจ๊ะ” แม้นำ้เสียงจะอ่อนหวานแต่สายตาที่แสนกดดันก็ยังส่งมาที่ผม แม่กูจริงๆ รึเปล่าวะเนี่ย

“เดินไปดิ” ผมผลักไอ้เวย์ให้เดินไปทางครัวด้วยแรงที่ไม่น้อยจนเกือบหน้าคะมำ แต่มันก็ยังแสร้งหันมายิ้มหวานให้ผมอยู่ดี

ยิ้มไปเถอะมึง รอก่อนเถอะกูเอาคืนแน่

“เดี๋ยวจ่ะ”

“ครับ? ” ผมหันมาขานรับก็เห็นป้าดาเดินตรงมาที่ผม เหมือนกำลังมองอะไรบางอย่าง

“ทำไมเสื้อน้องวีมีสีแดง เหมือนเลือดเลย”

“เลอะซอสอะแม่ พวกผมไปทำความสะอาดก่อนนะครับ”

“ทำไมไม่ทำตรงนี้ก่อนล่ะ” ป้าดาชี้บริเวณข้างๆ โซฟาที่มีเศษขนมเกลื่อนพื้น

“พวกผมจะทำความสะอาดครัวก่อนครับ” ไอ้เวย์ฉีกยิ้มอย่างเสแสร้งแล้วดึงคอเสื้อผมให้เดินตาม


“ปล่อยได้แล้ว กะจะรัดคอกูให้ตายรึไง” ผมมองหน้าไอ้เวย์อย่างฉุนจัด ปัดมือมันออกจากคอเสื้ออย่างแรง

“เก็บกวาดซากอารยธรรมของมึงซะสิ” ผมพูดเสียงเบาเพราะกลัวคุณนายทั้งสองจะได้ยิน

“ไม่ช่วยกูหน่อยหรอ”

“ตีนกูนี่ ทำเองก็เก็บเอง”

ไอ้เวย์ไม่พูดอะไรต่อ เดินไปที่ซิงค์ล้างจานที่มีถ้วยจานกองกันอยู่แล้วลงมือล้างเงียบๆ อย่างผิดวิสัย แน่นอนครับว่าผิดวิสัยสำหรับผม เพราะพฤติกรรมของมันแปลก

ผมมองคนที่กำลังล้างจานอย่างระแวดระวัง พอผ่านไปสักพักไม่มีอะไรเกิดขึ้นผมจึงลดความระวังลงก่อนจะสำรวจแผลที่กลางหัว เมื่อรู้สึกว่าเลือดหยุดไหลแล้วผมก็ล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาเล่นรอไอ้เวย์ล้างจาน แต่แล้วสัมผัสเย็นๆ ที่หน้าผากก็ทำให้ผมเงยหน้าจากโทรศัพท์พลางยกมือขึ้นลูบดู

ฟองนำ้ยาล้างจานติดมือผมมาด้วย

ผมไม่ได้ล้างจาน แต่ฟองมันติดอยู่ที่หน้าผากของผมได้ยังไง... สักพักนำ้จากยาล้างจานก็ไหลลงมาที่หางตา ผมยกแขนขึ้นปาดนำ้ที่ไหลลงมาก่อนจะจ้องไปยังคนที่กำลังล้างจานอย่างเอาเรื่อง

“โอ๊ะ โดนมึงหรอ โทษทีนะ”

ไอ้เวย์ฉีกยิ้มกว้างอย่างที่เคยทำเวลาแกล้งผมได้สำเร็จ แล้วหันกลับไปล้างจานต่อ ส่วนผมก็ได้แต่ระงับอารมณ์เพื่อไม่ให้กระโจนเข้าไปบีบคอมันให้ตายคามือ

ถ้าแม่กับป้าไม่อยู่ล่ะก็ กูไม่ปล่อยมึงไว้แน่!












*** วีเวย์ หรือ เวย์วี เลือกลงเรือได้เลยคับบบ

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
Re: เพื่อน‘รัก’ ( Close Friend )/บทนำ:19.08.64
«ตอบ #2 เมื่อ15-09-2021 11:10:12 »

 :pig4:
 o13

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
Re: เพื่อน‘รัก’ ( Close Friend )/บทนำ:19.08.64
«ตอบ #3 เมื่อ15-09-2021 12:53:33 »

 :z6: :a5:

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: เพื่อน‘รัก’ ( Close Friend )/บทนำ:19.08.64
«ตอบ #4 เมื่อ15-09-2021 21:48:43 »

ตามครับ

ออฟไลน์ Blackcrow

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
Re: เพื่อน‘รัก’ ( Close Friend )/บทที่1:03.11.64
«ตอบ #5 เมื่อ03-11-2021 21:17:18 »

 บทที่1

เมื่อเพื่อนลืมของ เราต้องเอามาให้



Part’ Way



จะมีสักกี่คนที่รู้สึกว่าการตื่นเช้าเป็นอะไรที่ดีและฟังดูเข้าท่า สำหรับผมการตื่นเช้านำพาความสดใสและจิตใจที่เบิกมาให้ เพราะการตื่นเช้าทำให้ผมได้ออกจากห้องเร็วขึ้น ห้องที่มีไอ้หมาบ้าขี้บ่นบางตัวอยู่ด้วย

แต่อย่าไปพูดถึงมันดีกว่าครับ พูดไปก็ทำให้บรรยากาศยามเช้าที่แสนสดใสของผมอึมครึมซะเปล่าๆ

ผมเดินมาหยุดหน้าคณะที่เขียนอักษรตัวใหญ่ๆ ไว้ว่า คณะสถาปัตยกรรม แล้วเงยหน้ามองชื่อนั้นเล็กน้อยก่อนจะเดินผ่านไป เพราะที่นี่ไม่ใช่จุดหมายปลายทางของผม

หน้าตาอย่างผมไม่บอกก็รู้ว่าเรียนคณะอะไร คณะที่เท่และฮอตในหมู่สาวๆ พูดถึงตรงนี้คงนึกออกกันแล้วใช่ไหมครับ

อะแฮ่ม!

ถูกต้องแล้วครับ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ไม่อยากจะโม้ว่าผมค่อนข้างฮอตในหมู่สาวๆ นะ ก็แน่ล่ะ ผมหน้าตาดีนี่นา

จังหวะที่ผมกำลังยิ้มในใจก็รู้สึกถึงสายตาหลายคู่จ้องมองมา แต่เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วล่ะนะ

ผมจัดคอเสื้อให้เข้าที่ก่อนจะเดินให้หล่อเท่ที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้ว่าจะไม่ได้หันไปมองแต่ก็ยังรับรู้ได้ว่าผมกำลังตกเป็นเป้าสายตา

รู้สึกว่าคนมองเยอะเป็นพิเศษแฮะ หรือว่าวันนี้เราจะหล่อกว่าทุกวัน

น่าจะใช่แหละ



“ไอ้เวย์!”

เสียงเรียกดังมาจากด้านหลังพร้อมกับเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาทำให้ผมหันกลับไปมอง เมื่อรู้ว่าเป็นใครจึงยิ้มทักทาย

“ไงมึง”

“ทำไมมาถึงเร็วจังวะ แล้วนี่มึง....” ไอ้นนท์ เพื่อนสนิทในคณะหยุดพูดกลางคันพลางมองผมด้วยแววตาตื่นๆ ครู่หนึ่งมันก็ขยับเข้ามากระซิบ

“มึงฟังกูดีๆ นะเพื่อน…มึงลืมรูดซิปกางเกงว่ะ”

สิ้นเสียงของไอ้นนท์ผมก็ตัวแข็งทื่อ ได้แต่กะพริบตาประมวลผลในหัวว่าสิ่งที่ได้ยินเป็นความจริงหรืออีกฝ่ายแค่ล้อเล่น

“กูขออีกที”

“มึง ลืม รูด ซิป กาง เกง” ชัด...ชัดเจนเลย ผมได้ยินไม่ผิดและไม่ได้คิดไปเอง

ผมรีบก้มลงสำรวจเป้ากางเกงของตัวเองก็พบว่าไอ้นนท์ไม่ได้โกหกแต่อย่างใด กลับกัน เป็นผมเองต่างหากที่อยากให้มันพูดโกหก

มือทั้งสองข้างค่อยๆ จับและรูดซิปกางเกงโดยไม่หวั่นต่อสายตาของคนที่เดินผ่าน ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ มันหวั่นไม่ได้แล้วต่างหาก เขาเห็นกันหมดแล้วโว้ยยยยย

ฮืออออออ กูจะอายอะไรก่อนดีระหว่างลืมรูดซิปกับบ๊อกเซอร์ลายชินจังงง

พื้นที่นิดเดียวน้องก็ยังจะโผล่หน้ามาทักทายประชาชีได้อีกเนาะ

“นั่นมันลายชินจังปะวะ” ไอ้นนท์ถามพลางพยายามกลั้นหัวเราะ

“น้องชินกูน่ารักล่ะสิ”

น้องชินน่ารักแต่คนใส่อย่างกูแทบจะเอาปิ๊บมาคลุมหัวแล้วค้าบบบ ถึงว่ามีแต่คนมองเต็มเลย ไม่ใช่เพราะหล่อแต่เพราะลืมรูดซิปกางเกงไอ้ฉิบหาย

โถ่ ชีวิตคนดังที่ฝันไว้ ต้องมาขายหน้าก่อนได้ดังหรอวะเนี่ย

“น่ารักดี มีกี่ตัววะ”

“อืม...น่าจะสามตัวมั้ง…แล้วมันใช่เรื่องที่จะมาถามไหมไอ้สัส!” เอาชะกูเคลิ้มเลยไอ้ห่านี้

ไอ้นนท์หัวเราะเอิ้กอ้ากอย่างไม่กลัวเสียภาพลักษณ์ แน่ล่ะมันไม่มีภาพลักษณ์ให้เสียนี่หว่า แต่ตอนนี้ผมไม่เหลือภาพลักษณ์แล้ว

เวรกรรมที่แท้ ไม่รู้ไปทำเวรทำกรรมอะไรไว้

“เอาน่า สีสันไงเพื่อน อย่าเก๊กนักเลยสาวๆ เขาไม่ชอบหรอก เขาชอบคนตลกต่างหาก”

“จะบอกว่าสาวๆ ชอบคนแบบมึงว่างั้น”

“อะ ถูกต้องแล้วค้าบบบ”

ไอ้นนท์เอานิ้วชี้ถูข้างจมูกแบบท่าประจำของดาราตลกคนหนึ่ง และก็กลายเป็นท่าประจำของมันเช่นกัน

“ผู้ชายอย่างเราๆ มันต้องมีความตลกไว้รับแขกนะเพื่อน นอกจากหน้าตาต้องมีอย่างอื่นบ้าง”

ผมอยากจะค้านมันเหลือเกินว่า นอกจากหน้าตาผมก็ไม่มีอะไรดีแล้ว

ขอโทษที่ทำให้ผิดหวังว่ะเพื่อน



ไอ้นนท์ลากคอผมให้เดินตามจนถึงโรงอาหารในคณะ เนื่องจากมามอเช้าเกินไปเลยยังไม่ได้กินข้าว

เวลามีเรียนเช้าผมจะมาก่อนเวลาทุกครั้ง และทุกครั้งก็จะมีไอ้นนท์ตามมาด้วยตลอด ผมกับมันรู้จักกันตั้งแต่ตอนรับน้อง ตอนแรกก็ไม่ได้อยากจะคบกับมันหรอก แต่เพราะไม่มีทางเลือก เลยจับพลัดจับผลูได้มาเป็นเพื่อนสนิทกันเฉย

“กินไรดีวะ”

“อยากกินข้าวมันไก่ว่ะ”

“อยากกินทำไมไม่กินตั้งแต่เมื่อวาน”

“อันนี้ไม่ได้เรียกตลก เขาเรียกกวนตีน” ไอ้นนท์ยกเท้าหมายจะเตะแต่ผมไหวตัวทันวิ่งหนีไปอีกร้านซะก่อน

“ป้าครับขอข้าวผัดหนึ่งจานครับ”

ผมวิ่งหลบไอ้นนท์มาร้านอาหารตามสั่งซึ่งอยู่คนละฟากกับร้านข้าวมันไก่ที่มันอยากกิน

“รอแป๊บหนึ่งนะพ่อหนุ่ม”

“ค้าบบบ” ผมตอบรับเสียงหวาน เห็นแบบนี้ผมก็เป็นมิตรกับเด็กและคนแก่นะ ถึงแม้จะมีบางคนบอกว่าผมนิสัยเหี้ย แต่อย่างน้อยผมก็พอมีด้านดีๆ อยู่บ้าง เพียงแต่ใครบางคนมองไม่เห็นมันแค่นั้นเอง

คิดยังไม่ทันจบ ร่างสูงโปร่งของคนในความคิดก็เดินเอื่อยๆ เข้ามาในโรงอาหารด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับอย่างที่ผมเคยเห็นเป็นประจำ

ผมจ้องคนที่เดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ด้วยความสงสัย แต่แล้วก็กระจ่างเมื่อมือข้างหนึ่งของอีกฝ่ายถือขวดนมกล้วยที่ผมมักจะดื่มทุกเช้ามาด้วย

ไม่ใช่ว่ามันเอามาให้ผมหรอกนะ

และสิ่งที่ผมคิดก็เป็นความจริง ราวกับฟ้าจะถล่มแผ่นดินจะทลาย เมื่อนมกล้วยขวดดังกล่าวถูกยื่นมาตรงหน้าผมพร้อมกับใบหน้าบึ้งตึงของคนให้

“เมาขี้ตาหรอ ถึงเอานมมาให้กูอะ” ไอ้วีชักสีหน้าด้วยความรำคาญก่อนจะยัดขวดนมใส่มือผม ทำท่าจะหมุนตัวกลับแต่ผมก็พูดขึ้นซะก่อน

“สั่งข้าวดิ กูเลี้ยง”

ไม่ทันให้ผมได้พูดซำ้ไอ้วีก็ถลาไปยื่นหน้าสั่งข้าวทันที

“คะน้าหมูกรอบหนึ่งจานครับป้าาา”

ใบหน้าที่บึ้งตึงก่อนหน้านี้ฉายรอยยิ้มกว้างแล้วยักคิ้วให้ผม

“ยังดีที่รู้จักสำนึกบุญคุณ” ฟังมันพูดเข้า ถือว่าเลี้ยงข้าวหมาต่างหากล่ะเว้ย



“ข้าวผัดได้แล้วพ่อหนุ่ม” ข้าวผัดกลิ่นหอมฉุยวางอยู่ตรงหน้าพร้อมกับรอยยิ้มหวานของแม่ค้า

“จ่ายของคะน้าหมูกรอบด้วยนะครับ” ผมยื่นค่าข้าวของตัวเองและจ่ายส่วนของไอ้วีด้วย จากนั้นก็ถือจานข้าวของตัวเองเดินไปหาไอ้นนท์ที่นั่งรออยู่อีกฟากโดยไม่ได้สนใจคนที่นั่งรอคะน้าหมูกรอบอีกเลย

“ทำไมไม่ชวนเพื่อนมึงมานั่งด้วยวะ”

“เพื่อนกู? ”

“คนนั้นไง เมื่อกี้กูเห็นมึงคุยกับเขาอยู่ไม่ใช่หรอ” ผมหันไปมองตามนิ้วที่ไอ้นนท์ชี้ พอดีกับไอ้วีเดินไปเอาข้าวแล้วกลับมานั่งโต๊ะไม่ไกลจากร้านเท่าไหร่

ผมยักไหล่แทนคำตอบแล้วลงมือกินข้าว ตั้งแต่เข้ามาเรียนที่นี่ผมก็ไม่เคยบอกถึงความสัมพันธ์ของผมกับไอ้วีกับใคร อีกอย่างมันคงไม่ชอบเท่าไหร่หรอก แค่ปั้นหน้าทำเป็นรักกันต่อหน้าแม่ๆ ก็เหนื่อยจะแย่แล้ว

ถึงจะบอกว่าไม่สนใจ แต่ก็ยังอดหันกลับไปมองไม่ได้ ไม่ได้เป็นห่วงว่ามันกินข้าวคนเดียวแล้วจะเหงาหรือเปล่า แต่กำลังสงสัยว่าวันนี้มันลืมกินยามาหรอถึงได้ทำดีกับผมแปลกๆ

พอมองคนแล้วจึงหันกลับมามองขวดนมที่ตั้งอยู่ ใส่อะไรแปลกๆ ลงไปรึเปล่าวะ

ผมสำรวจฝาขวดก็พบว่ามันยังไม่ได้ถูกเปิดมาก่อน ความคิดที่ว่าไอ้วีจะใส่อะไรแปลกๆ ลงไปจึงต้องพับเก็บทันที

คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง

“ทำไมต้องสำรวจขนาดนั้นวะ นมปลอมหรอ”

“ก็เผื่อมันไปทำนมมา”

“เฮ้ย!” ไอ้นนท์แกล้งทำแขนที่เท้าอยู่กับโต๊ะลื่นลง

สปอยล์กูสุด

“แดกข้าวเถอะ จะเข้าเรียนไม่ทัน” ผมรีบตัดบทก่อนที่คนตรงหน้าจะสรรหามุขมาเล่นต่อ ภูมิใจนักแหละเวลาผมเล่นมุกแป้กใส่ตัวเอง

ยิ่งสีหน้าเหมือนพ่อภูมิใจในตัวลูกนี่ยิ่งแล้วใหญ่ จะมาภูมิในอะไรในตัวกูนักหนา



“นักศึกษาดีเด่นต้องเป็นพวกเราแล้วปะ” ไอ้นนท์พูดขึ้นเมื่อพวกเราเดินเข้ามาในห้องเรียนเป็นสองคนแรก

อันที่จริงเหลือเวลาอีกยี่สิบนาทีก่อนจะเริ่มเรียน พวกผมแค่มาก่อนเวลาเท่านั้นเอง ปกติแล้วจะมีคนมาก่อนเวลา ตรงเวลาเป๊ะ มาสายและไม่มาเลย พวกผมเป็นประเภทมาก่อนเวลา

จะว่าไปแล้วนอกจากหน้าตาก็มีความฉลาดนี้แหละเป็นข้อดี ผมตั้งใจเรียนมากเลยนะ ไม่ได้อวยตัวเองจริงๆ ถึงผมจะเล่นบ้างไม่จริงจังบ้างบางที แต่เวลาเรียนก็จะตั้งใจมากๆ

อาจเป็นเพราะผมต้องแข่งกับหมาบางตัว เรียกได้ว่าแข่งมาตั้งแต่เด็กเลยล่ะ อารมณ์เหมือนพี่กับน้องแข่งกันเรียกร้องความสนใจจากแม่อะครับ แต่ถ้ามันเป็นน้องผมจริงๆ ผมจะไม่แข่งด้วยหรอก จะเป็นพี่ชายที่แสนดียอมให้น้องทุกอย่างไปเลย แต่เพราะเป็นไอ้วีไง ผมถึงยอมไม่ได้

“มึงๆ ” แรงเตะที่ขาทำให้ผมหันไปมองคนต้นเหตุ ไอ้นนท์บุ้ยปากไปทางหน้าประตูห้อง

นักศึกษาหญิงสองคนเดินเข้ามาในห้อง หนึ่งในนั้นเป็นคนที่ผมเคยคุยด้วยไม่กี่ครั้งตอนรับน้อง ด้วยหน้าตาที่สะสวยและโด่นเด่นทำให้เธอเป็นตัวแทนของสาขาเพื่อไปแข่งดาวเดือน

“อะไร”

“ส้มโอไง”

“เออรู้ แล้วทำไม” ผมตอบอย่างขอไปที แต่ไอ้นนท์ก็ยังสะกิดยิกๆ

“เป็นอะไรของมึงเนี่ย”

“ไม่สนใจหรอ”

“แล้วกูดูสนใจเขาไหม” ผมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง ดูหน้ากูด้วยครับว่ามีอารมณ์ร่วมกับสิ่งที่มึงถามรึเปล่า

“อ้าว ก็เห็นมึงกับเขาคุยกันอะ”

“อ้าว แล้วการที่กูคุยกับเขาก็แปลว่าชอบหรอ”

“เออ ก็จริง”

ว่าแล้วไอ้นนท์ก็ทำหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรในใจ สักพักหันมองไปทางที่สองสาวนั่งอยู่ จากประสบการณ์ที่ผ่านมาสายตาไอ้นนท์ที่มองส้มโอนั้น มีอะไรบางอย่างแน่นอน

“แหนะ มึงชอบเขาหรอ”

ผมเตะขามันคืนบ้าง

“บ๊าาาาา” เสียงสูงทะลุตึกแล้วมั้ง

“ไม่ต้องห่วงว่ากูจะชอบหรอก ไม่ใช่สเปคว่ะ” อันที่จริงผมไม่ได้มีสเปคที่ตายตัวหรอก แค่คุยกันถูกคอ รู้สึกไปกันได้ก็คบ

“เขาสวยไปว่ะ”

“เหตุผลส้นตีนอะไรของมึงเนี่ย”

“สภาพอย่างกูจะจีบเขาติดได้ไงวะ”

ผมมองไอ้นนท์อย่างพิจารณา หน้าตามันออกไปทางตี๋นิดๆ เวลายิ้มทำให้คนมองยิ้มตาม ผิวขาวเชี่ยๆ แถมยังสูงอีก แต่ก็ไม่เท่าผม รวมๆ แล้วก็จัดว่าเป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่ง

“ไหนมึงบอกว่าสาวๆ ชอบคนตลกไง”

“ก็…”

เอาแล้วไง หลอกกูหรอเนี่ย

จังหวะที่ไอ้นนท์อ้ำอึ้งอยู่นั้นบุคคลที่ตกเป็นหัวข้อในบทสนทนาก็ลุกขึ้นแล้วเดินตรงมาทางพวกผม

ตอนนี้คนอื่นๆ ทยอยเข้ามาในห้องกันแล้ว มีบางคนมองมาทางผมแล้วหันไปกระซิบกระซาบกัน

รู้เลยว่าถูกนินทาเรื่องอะไร เรื่องเมื่อเช้าแหงๆ

อยู่ดีๆ ก็รู้สึกหน้าบางขึ้นมาซะอย่างนั้น

“หวัดดีเวย์ หวัดดีนนท์” รอยยิ้มหวานที่ส่งมาทำเอาคนตลกแดกอย่างไอ้นนท์ไปไม่เป็น เป็นภาระให้ผมต้องเอ่ยตอบคนตรงหน้าแทนไปอีก

“หวัดดีส้มโอ มีธุระอะไรกับพวกเรารึเปล่า”

“ที่จริงเรามีธุระกับเวย์น่ะ”

“เราหรอ”

“ใช่ รุ่นพี่ฝากมาบอกว่าเวย์ได้เป็นตัวแทนของสาขาไปคัดเลือกเดือนคณะน่ะ” ผมหันมามองหน้าไอ้นนท์เพื่อยืนยันว่า ผมได้ยินไม่ผิดไปใช่ไหม

“อ้อ...”

“แล้วก็ เย็นนี้ต้องไปคัดเลือกดาวเดือนของคณะเพื่อจะส่งไปประกวดระดับมหาลัยอะ เวย์สะดวกใช่ไหม”

“แล้วเราปฏิเสธได้หรอ” ผมถามออกไปทันควัน เหมือนเป็นคำถามกวนตีนแต่ไม่ใช่ ผมหมายความตามที่ถามจริงๆ

มัดมือชกกันแบบนี้ ปฏิเสธได้ด้วยหรอ แล้วเพิ่งมาบอกอีกไม่ให้เวลาเตรียมตัวเลยสักนิด ใช้ไม่ได้จริงๆ

“ถ้าเวย์ไม่โอเคเราไปบอกรุ่นพี่ให้ก็ได้นะ”

“เดี๋ยวสิ!” ใจร้อนเหลือเกินแม่คุณ เล่นตัวสักหน่อยก็ไม่ได้

ส้มโอที่ทำท่าจะเดินกลับโต๊ะมองหน้าผมอย่างต้องการคำตอบ เส้นทางดาวรุ่งของผมที่เกือบร่วงมีคนมอบโอกาสให้ทั้งทีก็ต้องรีบคว้าเอาไว้ แม้จะไม่รู้ว่าสิ่งที่คว้าได้คืออะไรก็ตาม

“เราโอเค”

“งั้นตอนเย็นไปด้วยกันนะ” ส้มโอแจกรอยยิ้มอีกรอบทำเอาคนที่นั่งข้างผมหน้าแดง

พออยู่ต่อหน้าเขาแล้วเงียบเป็นเป่าสากเลยนะมึง













หลังเลิกเรียนผมกับส้มโอก็มาสถานที่นัดหมาย เบื้องหน้าเป็นห้องประชุมขนาดใหญ่ที่เคยใช้เป็นสถานที่รวมคณะวิศวะทุกสาขา ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ผมเข้ามา ครั้งแรกเป็นตอนปฐมนิเทศของคณะ

ด้านในมีทั้งรุ่นพี่และตัวแทนของแต่ละสาขารออยู่ก่อนแล้ว ดูเหมือนว่าพวกผมจะมาเป็นสาขาสุดท้าย

ผมกับส้มโอเดินเข้ามารวมกลุ่มกับคนอื่นๆ แล้วยกมือไหว้รุ่นพี่ในคณะพอเป็นพิธี ก่อนที่พี่ผู้หญิงคนหนึ่งจะก้าวออกมาข้างหน้า

“ที่พี่นัดพวกเรามาวันนี้ก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอกนะคะ เดิมทีคณะเราต้องจัดงานประกวดดาวเดือนเพื่อหาตัวแทนไปแข่งในระดับมหาลัยอีกที แต่เนื่องจากว่าเวลาเรามีจำกัดและปัญหาเรื่องความพร้อมในหลายๆ ด้าน ดังนั้นคณะอาจารย์และพวกรุ่นพี่จึงปรึกษากันว่า จะมีแค่การตอบคำถามเพื่อคัดเลือกตัวแทนดาวและเดือนของคณะเท่านั้น จุดประสงค์ก็เพื่ออยากทราบทัศนคติของน้องๆ ที่เป็นตัวแทนของแต่ละสาขา เพราะพวกพี่เชื่อว่าคณะเราเรื่องความสามารถคงไม่น่าเป็นห่วงอยู่แล้ว”

แบบนี้ก็ง่ายเหมือนกันแฮะ ไม่ต้องเตรียมจัดงานให้ยุ่งยาก

“น้องๆ ผู้หญิงนั่งเก้าอี้แถวหน้าเลยนะครับ ส่วนน้องผู้ชายนั่งเก้าอี้แถวหลัง นั่งให้ตรงคู่ของตัวเองด้วยนะ”

พี่คนที่หน้าตาดูโด่นเด่นพูดขึ้น ผมจำพี่คนนี้ได้ ดูเหมือนพี่เขาจะเป็นเดือนคณะ

“หวัดดี” นั่งลงยังไม่ถึงห้าวิก็มีเสียงทักทายดังมาจากด้านข้าง หันไปก็เจอกับรอยยิ้มสดใสของคนที่ผมไม่รู้จัก

“หวัดดี” ผมทักทายกลับ อีกฝ่ายท่าทางเป็นมิตรมากจนไม่อาจทำเมินเฉยได้

“เราชื่อเจย์นะ”

“เราชื่อเวย์”

“ชื่อคล้องจองกันเลยแฮะ เจย์เวย์” ผมพยักหน้าตามพลางยิ้มเหยๆ

คล้องจองก็คล้องจองวะ

ในขณะที่ผมกำลังจะหันไปสนใจรุ่นพี่ที่กำลังจะพูดชี้แจ้งรายละเอียดในหัวข้อต่อไป คนข้างๆ ก็ดึงความสนใจของผมไปอีก

“เวย์อยู่สาขาอะไรอะ” อีกฝ่ายยังถามอย่างกระตือรือร้น

“โยธา”

“เราอยู่ไฟฟ้านะ” อยู่ไหนก็เรื่องของมึงเลยค้าบบบ กูจะฟังรุ่นพี่เนี่ย

ในใจคิดอีกอย่างแต่สีหน้าที่แสดงออกก็ยังคงยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ก่อนจะหันหน้าหนีอีกฝ่ายอย่างเนียนๆ

แต่ยังไม่จบเพียงแค่นั้น เพราะดูเหมือนว่าคนข้างๆ จะไม่ได้สนใจในสิ่งที่รุ่นพี่ตั้งใจอธิบายให้ฟังเลยสักนิด

หลังจากถามชื่อกับสาขาแล้วก็พูดเป็นต่อยหอย แม้ว่าผมจะหันหน้าหนีก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงเสียงแง่วๆ ข้างหูได้เลย

ฟังรุ่นพี่ไม่รู้เรื่องเลยเว้ยยย

“น้องผู้ชายที่นั่งตรงนั้นตั้งใจฟังหน่อยครับ” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นทำให้เสียงพูดของเจย์เงียบลงโดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องเตือนเป็นครั้งที่สอง

“เอาล่ะ พี่จะเตรียมคำถามสำหรับคัดเลือกดาวก่อน น้องผู้ชายก็ฟังด้วยนะ แล้วก็ขอย้ำนะคะว่าให้สนใจคนที่กำลังพูดอยู่ด้วย” พูดจบพี่ผู้หญิงก็มองมาทางพวกผม

ผมไม่เกี่ยวนะ ผมแค่นั่งใกล้มันเฉยเฉ้ยย

“ดุเนาะ ว่าปะ” อย่างมีหน้ามากระซิบกูอีกนะ

ผมว่าตัวเองสมาธิสั้นระดับหนึ่งนะ แต่ดูเหมือนว่าคนข้างๆ จะหนักกว่าอีก



คำถามของการคัดเลือกดาวผ่านไป ถึงทีพวกผมต้องเป็นฝ่ายตอบคำถามบ้าง ฟังจากคำถามที่พวกผู้หญิงได้ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เป็นคำถามเบสิก อย่างเช่น ถ้าได้เป็นตัวแทนของคณะจะทำอย่างไร คิดอย่างไรกับระบบโซตัส เป็นต้น

นั่นจึงทำให้ผมเริ่มลดความสนใจลงทีละน้อย เพราะไม่มีคำถามที่น่าสนใจ

ผู้ชายคนแรกผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตามด้วยคนที่สอง ผมเป็นคนที่สี่ แต่ในขณะที่ผมกำลังฟังคำตอบของเพื่อนร่วมคณะอยู่นั้น ความรู้สึกแปลกๆ ก็เกิดขึ้นมากะทันหัน เป็นความรู้สึกที่ไม่ดีเอาชะเลย…

ผมนั่งตัวแข็งทื่อ ขนแขนลุกเกลียว รู้สึกได้ถึงอาการปวดที่ท้องตามด้วยความปั่นป่วนอย่างหนัก เหงื่อเริ่มไหวลงข้างขมับในขณะที่ห้องประชุมเปิดแอร์

บะ…บ้าน่า ไม่ใช่ใช่ไหม

ความปวดโจมตีเข้ามา รอบแรกยังพอทนได้ แต่คงจะทนไม่ไหวถ้ามันโจมตีเข้ามาอีกรอบ

อย่างเพิ่งบุกตอนนี้สิวะ! จะได้ตอบคำถามอยู่แล้วนะเว้ย

ผมกัดฟันอดกลั้นกับความปั่นป่วนภายในท้อง ตอนนี้ข้าศึกเริ่มรุกรานเข้ามาใกล้ประตูเมืองเรื่อยๆ

ฮือออ นี่มันวันเหี้ยอะไรวะเนี่ยยยยยย

และชั่ววินาทีที่ความปวดโจมตีเข้ามาอีกระรอก ผมก็ผุดลุกขึ้นพร้อมกับคว้าประเป๋าที่วางอยู่เก้าอี้ด้านหลัง

“ผมมีธุระ ขอตัวก่อนนะครับ!” ผมพูดเสียงดังแทบจะเป็นตะโกนท่ามกลางสีหน้างุนงงของรุ่นพี่และคนที่นั่งข้างๆ

ใครจะงงหรืออะไรก็ช่างแม่งละเว้ยยยยย

ผมวิ่งออกจากห้องประชุมอย่างสุดชีวิต เป้าหมายคือห้องนำ้ชายที่อยู่ใกล้ที่สุด

ขอร้องล่ะ ขอให้วิ่งไปถึงห้องนำ้ก่อนที่ข้าศึกจะพังประตูเมืองทีเถอะ!





มือข้างหนึ่งเอื้อมไปจับขอบประตู อีกข้างกุมท้องที่เริ่มทุเลาความปวดลงบ้างหลังจากได้ปลดทุกข์ไปรอบสาม ใช่แล้วครับ สามรอบ ผมแทบจะหมดแรงแล้วตอนนี้

ผมท้องเสียอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ที่สงสัยคือ กูไปแดกอะไรมาวะ

ทำไมต้องมาท้องเสียตอนเวลาสำคัญด้วย จะได้คัดเลือกตัวแทนเดือนอยู่แล้วแท้ๆ แต่ข้าศึกดันมาจ่อหน้าประตูเมืองซะได้

ยังไม่รุ่งก็ร่วงซะแล้ว

ผมเอนตัวพิงอ่างล้างมืออย่างอ่อนล้า ยังไม่กล้าเสี่ยงที่จะออกจากห้องนำ้เนื่องจากหมดแรงและไม่รู้ว่าจะมีรอบที่สี่หรือเปล่า

และในขณะที่กำลังนึกว่าตัวเองไปกินอะไรแปลกๆ มาหรือเปล่า สายตาก็เลื่อนไปเห็นของบางอย่างที่โผล่ออกมาจากกระเป๋า ผมหยิบมันออกมาอย่างรวดเร็ว เพราะความคิดบางกำลังผุดขึ้นมาในหัว

ขวดนมกล้วยที่ผมลืมทิ้งตั้งแต่เมื่อเช้า ตอนนี้ราวกับว่ามันเป็นผู้ต้องสงสัยที่ผมต้องสืบสวน ว่าสาเหตุที่ทำให้ผมท้องเสียมาจากมันหรือเปล่า

ที่มันต้องตกเป็นของต้องสงสัยเพราะคนที่นำมาให้ผมเมื่อเช้ายังไงล่ะ

ผมมองหาวันเดือนปีที่หมดอายุหลังจากที่นึกได้ว่าควรดูก่อนดื่ม เพราะคนที่เอามาให้ไม่ใช่คนที่จะไว้ใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์

เมื่อเห็นตัวเลขที่บอกวันหมดอายุ มือที่ถือขวดนมก็กำแน่น

ว่าแล้วเชียว ตอนดื่มรสชาติมันแปลกๆ แต่ก็ยังเสือกดื่มจนหมดนะไอ้เวย์!

ผมมั่นใจแล้วว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ไอ้วีจะใจดีถึงขั้นเดินเอามาให้ผมถึงคณะ มันจงใจทำให้ผมท้องเสียไม่ผิดแน่

เพราะนมขวดนี้หมดอายุตั้งแต่สองวันที่แล้ว!















***วีอาจจะไม่ได้ตั้งใจก็ได้น้าาาา




ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: เพื่อน‘รัก’ ( Close Friend )/บทที่1 : 03.11.64
«ตอบ #6 เมื่อ03-11-2021 23:25:37 »

 :hao3:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
Re: เพื่อน‘รัก’ ( Close Friend )/บทที่1 : 03.11.64
«ตอบ #7 เมื่อ04-11-2021 15:56:07 »

 :pig4:
 o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด