(ติ๊ก) แอ้มึงโกหกอีกแล้ว Part ติ๊ก เมื่อคืนแอ้มันส่งข้อความหาผม มันบอกผมว่ามันจะนอนคอนโดแทนและพี่ชายของแอ้มันจะไปส่งเอง และมันก็ไม่กลับไปพร้อมกับผม และผมก็รู้ว่ามีเรื่องที่บ้านของบอย แต่เรื่องอะไรผมไม่สนใจหรอก ผมสนแค่ว่าดิวมันกลับมาก่อน อันที่จริงมันต้องมาถึงพรุ่งนี้ และผมก็คิดว่าแอ้รู้แต่มันไม่บอกผม มันน่าเจ็บใจหนัก และผมก็เดินไปที่บ้านแอ้มันทันทีทั้งที่รู้ว่ามันไม่อยู่ ก็เพราะว่าผมอยากรู้ว่ามันไปนอนที่ไหนกันแน่
"สวัสดีครับพี่เอส"ผมเดินออกมาเจอพี่เอสเดินงัวเงียออกมาจากรถแต่เช้า แสดงว่าไปซ่ามาแน่ๆและเพิ่งจะกลับมาด้วย
"สวัสดีครับน้องติ๊ก รอแอ้มันเหรอครับ"พี่เอสถามผมด้วยอาการสลืมสลือ
"เปล่าครับแอ้มันนอนคอนโดมันแต่ผมแค่เดินผ่านมาเพื่อว่ามันจะเปลี่ยนใจกลับมาบ้านและจะได้กลับไปที่ที่เราต้องไปติดคุกด้วยกัน "ผมตอบพี่เอสไปผมแทนเลยว่ามันเหมือนคุก พี่เอสเลิกคิ้วมองหน้าผม
"จริงดิ แต่พี่ไปนอนคอนโดมานะ แต่พี่ไม่เห็นแม้แต่เงามันเลย สงสัยไปfu**ingกับหนุ่มที่ไหนแน่เลย น้องพี่ย่อมเหมือนพี่ "ผมเงียบเลยมันโกหกผมอีกแล้วไอ้แอ้และคงไม่ต้องถามหรอกว่านอนที่ไหน คอนโดไอ้ดิว (แอบคิดในใจถ้าพี่เอสรู้ว่ามันโดนรุกไม่ได้รุกจะทำหน้ายังไงนะพี่บ้านอออ่าง)
"งั้นพี่ขึ้นบ้านก่อนนะ ง่วง งวง "พี่เอสพูดและอ้าปากห้าว ไปนอนยังไงยังง่วง!
"พี่ไปนอนคอนโดไอ้แอ้ ทำไมพี่ยังง่วงอีกอะ"ผมหันถามพี่เอส
"เออ นอนน่ะนอน แต่มันนอนคนละแบบ และท่าเจอท่ายากนะ แน่นอนต่องไม่อยากจะนอน..."พี่เอสนี้มันนอนแบบไหนเนี๊ยะ จะบอกว่าตัวเองไป อิบ อิบ กับใครมาก็บอกมาเถอะ ผมทำท่าจะเดินกลับเพื่อไปรอพี่พัฒน์ที่รถดีกว่า ไอ้แอ้น่ะไอ้แอ้โกหกผมได้ คอยดูนะกลับนี้ผมคงได้เจอดีกับผมบ้าง
"รู้จักท่ายากไหม ไม่รู้จักซิท่า ว่างๆะพาไปฝึก พี่มีเยอะ แบ่งปันกันได้"ไอ้พี่เอสพูด ผมมองพี่เอส แบบว่าทำไมอะ ท่ายากอะไรของเขาผมหันมากอดอกมอง ผมคิดว่าคุยโวแบบนี้มีไม่กี่ท่าหรอกเอาเข้าจริงๆนะ
"น้องกูไม่ต้องใช้ท่ายากหรอกมั้ง ไอ้เอส"พี่ตุ๊มายืนอยู่ข้างหลังผมตอนไหนก็ไม่รู้
"อุ้ย พี่ตุ๊ สะ สะหวัดดีครับพี่"พี่เอสทักทายพี่ตุ๊ยกมือไหว้พี่ตุ๊ผมไม่ทันเลย
"มึงจะเอาท่ายากอะไรมาเทรนน้องกู ไอ้ พลทหาร"พี่ตุ๊ถามพี่เอส ตั้งแต่พี่ตุ๊กับพี่อ้นพี่ดิมต่อยกันไม่มีใครกล้าแหยกับบ้านตอเต่าเลย
"ท่ายาก เกี่ยวกับ การฝึกทหารเพื่อน้องติ๊กอยากเรียนรู้เป็นวิทยาทานนะครับพี่ตุ๊ "พี่เอส ผมหันไปมองพี่ตุ๊ ไม่เลยนะไม่ร้องขอ และหันมามองพี่เอส
"คงไม่ต้องมั้ง เอส เพราะน้องกูนี้จบมา ก็เข้าเป็นผู้บริหารโรงแรมของพ่อกรู หรือไม่ก็เป็นครูสองอย่างนี้ ไม่คงไม่จำเป็น! ต้องใช้ที่มึงว่าว่ะ เอส"พี่ตุ๊ พูดบอกพี่เอส
"เฮอๆ ถ้าอย่างนั่นไม่เป็นไรครับ เอสขอลาละพี่ กู้ดไนท์ เอ้ย! กู้ดมอนิ่งนะครับทุกคน "พี่เอสพูดและรีบรำลาพี่ตุ๊กับผมทันที
"ดูท่าจะง่วงนอนนะมึงนี้ จะขึ้นไปนอนข้างบน หรือจะนอนตรงนี้ละ "พี่ตุ๊พูดและมองหน้าพี่เอส ผมก็ยิ้มให้ว่าเอาไง
"อุ้ย! นอนบนบ้านดีกว่าพ่อเพิ่งซื้อเตียงให้ใหม่ เด่งดีนะ น่า..จะ.... "พี่เอสมีจะมาชวนผมอีกนะ
"รีบขึ้นไป! เดี๋ยวเตียงมึงจะไม่ได้ใช้เตียงใหม่ที่อากูซื้อให้มึงเอส "พี่ตุ๊ดพูดก่อนจะทำท่าหันหลังเดินออกพร้อมกับยักไหล่ให้ผมเดินตามกลับบ้านไปด้วยกัน
"งั้นไปนะพี่ตุ๊ อยากนอนเตียงใหม่ เดินทางให้สนุกนะน้องติ๊ก “พี่เอสพูดและยงบอกให้ผมเดินทางหให้สนุก ผมว่ากลับไปสนุกแน่น้องพี่นะ เพราะว่ามันโกหกผม
"พี่เอสครับ” ผมเรียกพี่เอสไว้ขณะที่พี่ตุ๊เดินหันหลังออกไปแล้ว พี่เอสหันมามองหน้าผม ผมควักมือเรียกพี่เอาเข้ามา ผมก็เอามือป้องหูพี่เอส พี่เขาเงี่ยหูตั้งใจฟังทันที
“ เออ ท่ายากนะ ผมมีหมดแล้วคงไม่ต้องฝึกแล้วพี่เอส "ผมกระซิบบอกพี่เอา มีเอสมองหน้าผม
"แจ๋ว! "พี่เอสขึ้นบ้านไปโล้ด ผมเดินมารอขึ้นรถ ผมเดินทางไปกับพี่พัฒน์รอบนี้ พี่พัฒน์เอางานมาทำด้วยตลอดเลย(พี่พัฒน์คือใครจะมาในตอน เรื่องรักวุ่นวาย ของพี่ๆ)
"พัฒน์งานบางงานแบ่งคนอื่นทำบ้าง "พี่ตุ๊บอกพี่พัฒน์
"คนไหนละ พี่ตุ๊ ไปจะหมดแล้วที่อยู่ก็ล้นมือกันกันคนแล้วพี่ตุ๊"พี่พัฒน์หรือครูพัฒน์พูดกับพี่ตุ๊ ผมแอบขำเลยพี่ตุ๊ มองหน้าชี้นิ้วให้ผมหยุดหัวเราะ
"โอเค นี้คอมเพลนพี่ใช่ไหมเนี๊ยะ "พี่ตุ๊พูดกับพี่พัฒน์ ผมก็เหลือบตามองแต่ไม่กล้ามองตรงๆเดี๋ยวพี่ตุ๊ไม่กล้าสวีทกับพี่พัฒน์โชว์พวกผม
"เปล่าซะหน่อย "พี่พัฒน์พูดมีแอบค้อนพี่ตุ๊
"ไม่นาน ครูที่จบใหม่พร้อมทำงานจะเดินทางไปเร็วๆนี้ อย่าทำหน้างอซิ มันเหมือนปลาทูแม่กลอง"พี่ตุ๊แซวพี่พัฒน์ พี่พัฒน์สะบัดหน้าหันไปมองพี่ตุ๊ทันที
"คิก คิก คิก"ผมขำพี่ชายผม
"มุขสมัยไหนนี้ "พี่พัฒน์พูด พี่พัฒน์ก็เปิดประตูเข้าไปนั่งทำหน้าที่คนขับส่วนผมก็เดินไปนั่งข้างพี่พัฒน์
"ห้ามขับเร็ว เร็วได้ไม่เกิน 100 "พี่ตุ๊สั่งพี่พัฒน์ เร็วได้แค่ 100 แล้วจะถึงเมื่อไหร่ละเนี๊ยะ ผมหันไปมองพี่ตุ๊
"ปกติพี่พัฒน์ก็ขับไม่เร็วอยู่แล้ว วิ่งจ๊อกกิ้งยังเร็วกว่าเลย"ผมพูดบอกพี่ตุ๊
"อุ้ย! ติ๊กว่าพี่ขับช้าเป็นเต่าเหรอเรานิ"พี่พัฒน์หันมาทำท่าจะตีแขนผม
"เพราะอย่างนี้ไง ถึงให้ออกแต่เช้ามีเวลา ลัลล่าในรถกันหลายชั่วโมง "พี่ตุ๊พูด อ้อ มิหน้าปลุกแต่เช้าตรู่เลย
"ห้ามเปลี่ยนให้ติ๊กขับเด็ดขาดนะพัฒน์ เข้าใจไหม คุณครู ถ้าไม่เชื่อนะ"พี่ตุ๊สั่งพี่พัฒน์ ห้ามผมขับรถ เพราะว่าผมขับรถเร็ว ผมเคยชนคนเสียชีวิตด้วยแต่นั้นมันอุบัติเหตุ เขาข้ามถนนเร็วและครอบครัวผมก็ต้องรับผิดชอบดูแลครอบครัวเยื่อคนนั้นจนตอนนี้ เพราะว่าผมเป็นดาราแล้วไง เรื่องมันเลยใหญ่โต
"ครูใหญ่จะทำโทษครูเล็กเหรอ"ผมถามพี่ตุ๊
"ใช่ ครูใหญ่คนนี้จะทำโทษ…."พี่ตุ๊พูดลืมตัวแน่เลย พี่ตุ๊สะบัดหน้ามามองผม ที่แอบขำ พี่ตุ๊นี้ปากแข็งนะรักพี่พัฒน์ก็ไม่ยอมแสดงออกต่อหน้าพวกผมหรอก
"เอานี้ไปได้แล้ว ทั้งคุณครูละลูกศิษย์เลยนะน่าจับตีก้นทั้งคู่"พี่ตุ๊ พี่พัฒน์สตาร์ทรถ พี่ตุ๊มองพี่พัฒน์ พี่พัฒน์ก็มองพี่ตุ๊
"จะหอมแก้มก็หอม เขาไม่แอบดูหรอก"ผมพูพร้อมกับ หันหน้าไปทางอื่นแต่ว่าผมมีกระจกมองข้างที่ปรับมาให้เห็นได้ พวผมก็อยากให้ะตุ๊ลงเอยกับพี่พัฒน์ซะที ผมรู้ว่าพี่ตุ๊กับพี่พัฒน์รักกันแต่ติดที่พี่พัฒน์เป็นลูกบุญธรรมของพ่อผม แต่ผมรู้มากกว่านั้น ผมรู้ว่าพี่ตุ๊กับพี่พัฒน์โป่งโป้งชึ้งกันแล้วและพวกผมก็แอบเซย์เยสกันดัง ดีใจ แต่เราไม่เอามาพูดกันเพราะว่าพวกเราให้เกียรติพี่เราสองคน
"ฟ๊อด! "เสียงดังเชียวพี่ตุ๊นี้ และพี่พัฒน์เลื่อนปิดกระจก และค่อยๆแล่นออกมาช้า ผมเห็นพี่พัฒน์เอาฝามือลูบแก้มตัวเองและอมยิ้มไปด้วย นั้นแปลว่าพี่พัฒน์เองก็รักพี่ตุ๊
"เราไปรับพายกันใช่ไหม ติ๊ก"พี่พัฒน์หันถามผม ผมพยักหน้า เพราะว่าพ่อโทรมาบอกว่าอาเปรมด์งานเข้าให้ผมแวะไปรับพายด้วย พาไปด้วยกัน ผมก็รู้ว่าพายมันก็แอบชอบไอ้ดิวเหมือนกันและเพราะเหตุนี้หรือเปล่ามันเลยเริ่มจะไม่อยากเป็นหมอขึ้นมาซะเฉยๆ
“ติ๊ก เป็นอะไรหรือเปล่า”พี่พัฒน์เห็นผมเงียบไป ผมหันไปยิ้มให้พี่พัฒน์พร้อมกับผมส่ายหน้าไปมาว่าผมไม่เห็นอะไร
“พี่เอ๋ ยังป้อนงานให้เราอยู่ไหม อย่าหักโหมหนักติ๊ก “พี่พัฒน์พูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงผมแล้วอย่างนี้พวกผมจะไม่รักพี่พัฒน์ได้อย่างไร
“ก็ไม่เยอะหรอกครับพี่พัฒน์ แต่ถ้าเยอะก็คงจะดี พี่พัฒน์ ติ๊กเบื่อที่จะเรียนที่นั้น “ผมพูดกับพี่พัฒน์
“พี่ก็เข้าใจ เราอยากจะเข้ามหาลัย และมีเวลาทำนั้นทำนี้เยอะแยะ และที่นั้นแทบจะไม่มีอะไรสำหรับติ๊กเลย”พี่พัฒน์หันมาพูดกับผม ไม่ใช่หรอก ผมเบื่อที่ผมต้องทนเห็นแอ้กับดิวมันไม่เป็นเหมือนเดิมมันมีแค่กันและกันมากกว่ามีผมแล้วไง
“แต่ ถ้าเราจะมองให้มันเป็นความสุข มันก็ทำได้นะ”พี่พัฒน์หันมาพูดกับผมอีก
“พี่ชอบเหรอพี่พัฒน์”ผมถามพี่พัฒน์ ผมรู้ว่าพี่พัฒน์เข้าใจที่ผมถาม ผมไม่ได้หมายถึงโรงเรียนนั้นอย่างเดียว
“เออ พี่”พี่พัฒน์ ทำท่าอึกอักที่จะพูด
“พี่พัฒน์ รักพี่ตุ๊ ใช่ไหม และติ๊กเชื่อว่าพี่ตุ๊รักพี่พัฒน์เหมือนกัน “ผมพูดพี่พัฒน์หันมามองผมแว้ปหนึ่งและหันกลับไปมองถนนเบื้องหน้าต่อ
"เมื่อไหร่พี่ตุ๊กับพี่พัฒน์จะ แฮปปี้แอนดิ้งซะที พี่ตุ๊จะเก็กไปไหนก็ไม่รู้ พวกผมนี้จะหมดความอดทนว่าจะคุยกับพี่ตุ๊กันอยู่แล้ว"ผมพูดกับพี่พัฒน์ พี่พัฒน์มองผม
"เออ"พี่พัฒน์เงียบไปเลยที่นี้ พี่ตุ๊ก็เก็กอยู่นั้นแหละ พวกผมจะอกแตกตายกันอยู่แล้ว สงสารพี่พัฒน์
"พี่พัฒน์น้อยใจไหม "ผมถามพี่พัฒน์ตรงๆ
"ก็มีบ้างนะแต่ พี่เข้าใจพี่ตุ๊ นะติ๊ก"พี่พัฒน์หันมาบอกผม เห็นไหมพี่ตุ๊นิ
“พี่พัฒน์คงเสียใจมากที่เห็น พี่ตุ๊ไปกับ พี่ขวัญตอนนั้น พวกผมสงสารพี่กันมากเลยนะ “ผมพูด แม้ว่าพี่ขวัญจะเสียไปแล้วก็ตาม ตอนนั้นพี่พัฒน์คงต้องทนเห็นคนที่ตัวเองรักไป เอาใจคนอื่นคือพี่ขวัญซึ้งเป็นเพื่อนสนิทของพี่พัฒน์ แต่พอเขาได้พี่ตุ๊เขากลับไม่พูดกับพี่พัฒน์เลย และพี่ตุ๊ก็เอาใจเขามากจนพวกผมนี้หมันไส้มาก แต่มันจบไปแล้ว โดยพี่ขวัญกระโดดตึกเสียชีวิต
“ติ๊กรักพี่พัฒน์นะ พี่เหมือนพี่แท้ๆของติ๊ก “ผมพูด
“พี่ก็รักติ๊กนะ เป็นห่วงเรานะ บางวันก็เห็นเราไม่มีความสุขเลย ติ๊ก อะไรที่ทำให้เราไม่มีความสุข โย้นมันทิ้งไปบ้างก็ได้นะ หึ!”พี่พัฒน์พูดตอนนี้พี่พัฒน์ขับรถเข้ามาจอดด้านหน้าโรงแรมแล้ว พายมันยืนรออยู่ มีหนุ่มล้ำยืนอยู่ไม่ไกลจากมัน ดูส่งสายตาให้พาย แต่ไอ้นี้มันไม่น่าไว้ใจ เห็นผมแบบนี้เป็นห่วงมันมากนะพายเนี๊ยะ
“อีพาย ไปได้แล้ว ฮอร์โมนมึงนี้ทำงานตลอดเลยนะ”ผมเปิดกระจกแซว พายมันก็หันมายิ้มให้ผมและหันไปโบกมือให้คนข้างๆ
“ไปก่อนนะ “พายบอกคนนั้น ไอ้คนนั้นดูท่าจะอยากได้เบอร์โทรพายมาก
“เอาเบอร์พ่อน้องเขาไหม มีนะ พ่อน้องเขาเป็นนายทหารติดยศสูงสุดแค่นั้นเอง “ผมตระโกนถาม พี่คนนั้นทำท่าตกใจ รีบเดินเข้าไปด้านในทันทีโดนไม่รอเบอร์โทร
“อีติ๊ก มึงสกัดกูอ่ะ เขาอุตสาห์ยืนฉีกยิ้มให้กูอยู่ตั้งนาน พี่พัฒน์ดูซิ”พายพูด
“หึๆ พาย พี่ว่ามันยังไม่ถึงเวลานะ เรียนก่อนดีกว่าไหม “พี่พัฒน์หันมาพูดกับพาย และออกรถทันที พายมันนั่งเบาะหลัง ผมรู้ว่าพายมันจะเอาพวกบรรยายที่มันต้องอ่านมาฟัง
“เป็นไงบ้างมึง” เมื่อวานลุงหนึ่งมาหาที่โรงแรมพ่อผมด้วยเห็นว่ามีปากเสียงกันกับลุงณะ ผมว่าพายมันน่าจะอยู่แหตุการณ์ ผมถามพาย แต่พายมันมองหน้าผม
“เมื่อคืนนะเหรอ มีหนุ่มๆล่ำมาเพียบเลย ที่โรงแรมลุงภาษญ์ว่ะ เมื่อคืนเขาประกวดโดมอนแมน แก “อีพาย พูด ผมอยากจะเค้กกะโหลกมันจริง ๆ กูไม่ได้หมายถึงหนุ่มๆ พายมันขยิบตาว่าไม่พูดตอนนี้ให้ผมฟัง
“ทำไมมึงไม่โทรบอกกู “ผมแซวมันกลับ หันขวับมาเลย
“นี้ใส่เสื้อกล้าม เห็นกล้ามแขนนี้แบบน่า…”พายมันพูดพี่พัฒน์ถึงกับมองผ่านกระตกมองหลัง
“น่าจับตาดู” อีพาย เล่นเอาพัฒน์ต้องยกมือขึ้นทาบอก
“และสวมกางเกงยีนส์ก็ฟิต! น่าดูมว๊าก”พายพูด
“พอได้แล้ว อุ้ย! พี่ทนฟังไม่ได้ เราสองคนนี้ คุยอะไรกันเนี๊ยะ พี่ตุ๊มาได้ยิน โดนแน่ๆเลย”พี่พัฒน์ หันมาเอ็ดผมสองคนแบบไม่จริงจัง แต่ก็ทำให้ผมสองคนอดหัวเราะไม่ได้
“ก็เลยต้องเม้ากันหลับหลังนี้ไงพี่พัฒน์”พายพูด
“และเราสองคนนี้นะ จะทำให้พี่ใจแตกไปด้วยนะเนี๊ยะ”พี่พัฒน์ พูดเหล่มองผมสองคน ก่อนจะหันไปขับรถต่อ ผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูว่าแอ้มันส่งข้อความมาหาผมอีกไหม แต่ไม่มี ผมก็ไม่โทรนะจะดูซิว่ามันจะโทรมาหาผมบ้างหรือเปล่าวันนี้ หรือว่าเมื่อคืนมันกับดิวจัดกันจนลุกไม่ขึ้นกันแน่
Pie = ทำไมหน้ามึงไม่รับแขกเลยว่ะ
TKtik=แอ้มันโกหกกู
Pie=โกหกมึงเรื่องไรว่ะ
TKtik= เรื่องไอ้ดิวมันกลับก่อน และมันไปนอนที่ไหนก็ไม่รู้ กูว่ากับไอ้ดิว
Pie =พอเถอะว่ะ มึง ให้มันรักกันเถอะ มึงรู้ไหมว่าทำไมมันไม่บอกมึง
Pie = เพราะแอ้มันแคร์ความรู้สึกมึงว่ะ มึงเคยแคร์มันบ้างไหมว่ะ กูถามจริง
TKtik = ตกลงมึงซ้ำกู!!
ผมพิมพ์ข้อความและหันหลังไปมองพายมัน มันก็ส่ายหัวให้ผมและเก็บมือลงทันที ผมก็เหลือบมองหน้าพายมันผ่านกระจกมองหลัง แต่ก็ไม่พูดอะไรต่อ
ผมนั่งเงียบไปจนถึงโรงแรมพ่อผม ผมบอกพี่พัฒน์ว่าจะนอนที่ห้องพักที่โรงแรมกัน ไม่กลับบ้าน ว่าจะลงไปหาอะไรดื่มกันซะหน่อย ผมน่ะลูกหลานเจ้าของไม่ต้องดูบัตรก็เข้าได้ แต่ถ้าพ่อรู้ก็จะโดนด่า ผมแค่บอกพนักงานว่าห้ามบอก ถ้าบอกจะได้รู้ว่าใครจะโดนหนัก เท่านั้นแหละเงียบกริบ
“พรุ่งนี้จะไปเรียนกันยังไงละ” พี่พัฒน์ถามผม
“ให้รถโรงแรมไปส่งครับพี่พัฒน์ “ ผมพูดและยักไหล่พาย พายมันก็เดินออกมา และพากันขึ้นห้องพัก โรงแรมผมมีแต่ชาวต่างชาติมาพัก แม้จะห่างไกลแหล่งท่องเทียวแต่เรามีรถบริการรับส่งและ
แรงแรมนี้มีเครือที่ต่างประเทศมากมาย ต่างชาติรู้จักดี บริการเลิศหรู แต่เท่าที่ผมทราบมี คนถือหุ่นอีกยี่สิบเปอร์เซนต์ เป็นคนพื้นที่และเป็นผู้มีอิทธิพล แต่มันก็แค่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์
“เช็คอินครับ” ผมเดินตรงปที่หน้าเคาเตอร์
“ค่ะ ขอเอกสารการbooking ด้วยค่ะ”
“นี่ครับ” ผมพูดและส่งกระดาษที่ผมปรินซ์มาไว้ให้พนักงานดู ผมจองในนามของชื่อผม พนักงานเงยหน้ามองผมด้วยสีหน้าตกใจ
“อัพเกรดให้นะคะ คุณติ๊ก” พนักงานแจ้งผม ผมพยักหน้าเขารู้ว่าผมคือใคร
“เรียบร้อยแล้วค่ะ เดี๋ยวให้พนักงานเรานำกระเป๋าขึ้นไปที่ห้องพักให้นะคะ “
“ขอบคุณครับ เออ ผมกับคุณพายจะลงมานั่งดื่มกันหน่อยช่วงเย็น น่าจะทุ่มหนึ่ง รบกวนดูโต๊ะที่ห่างไกลความวุ่นวายให้ผมหน่อยนะครับ แบบส่วนตัวยิ่งดี “ ผมบอกพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ก่อนจะหันไปพยักหน้าเรียกพายที่เอาแต่กดโทรศัพท์เล่น
“มึงโทรบอกพวกนั้นป่ะว่ะว่าเราพักกันที่นี่” พายถามผม
“ถ้าหมายถึงแอ้ กูไม่ได้บอกว่ะ ถ้ามันแคร์กูจริง มันโทรมาแล้วพาย “ ผมพูดและเดินเข้าไปในลิฟต์ ผมเข้าไปยืน ขณะที่ลิฟท์กำลังปิดลง จู่ ๆก็มีคนเดินเข้ามา เป็นชายหนุ่มหุ่นมาตรฐานชายไทย ถือกระเป๋าเป้เข้ามา กางเกงยีนส์ทันสมัยแต่ขาด ผมก็เหลือบตามองและเบ้ปากนิดๆ พายสะกิดผม
“คุณหนูเชี้ยอะไรกูไม่แคร์ กูแค่อยากเรียนกับพวกไอ้ภาคิน กูก็ไม่แคร์ ถ้าไอ้ธงรบมันจะแท่งกูกลับเพราะว่ากูแท่งมันกูก็ไม่กลัว ก็กูตั้งใจกลับมาเพราะกูอยากเจอมันอีก บร้าๆ ” ดูท่าไอ้นี่จะกินรังแตนมาแน่ๆ แต่ว่าไอ้นี้มันพูดถึงไอ้ภาคิน มันคงไม่บังเอิญซวยเป็นคนเดียวในห้องกับผมหรอกมั้ง มันบ่นคนในสายที่มันคุยด้วยอยู่ไปด้วย และนั้นมันถึงได้กดว่ามันจะลงชั้นไหนและพอถึงชั้นของมัน มันก็มัวแต่ก้มลงหยิบของและหนีบโทรศัพท์ไปด้วย ผมอยู่ใกล้เลยต้องกดลิฟต์ค้างเอาไว้ให้ มันเดินผ่านออกไปโดยไม่หันมามองหรือขอบใจสักคำ
“ไม่มีใครสอนมารยาทให้หรือไงว่ะ “ ผมพูดตามหลัง ติ๊กมันสะบัดหน้ามามองผม ลิฟต์ยังไม่ทันปิด มันก็ชูนิ้วกลางให้ผม
“ไอ้สัส!!”ของผมขึ้นง่ายแต่พายมันรีบคว้าแขนผมเอาไว้ และประตูลิฟต์มันปิดลงพอดี ผมหันมามองหน้าพาย ว่าห้ามผมทำไม
“ที่ห้ามเพราะว่า มึงอาจจะหมอบคาตีนมันได้ ไอ้บ้า! มากันแค่สองคนทำเป็นซ่าห์ “ พายมันบ่นผม
“กวนตีนชะมัดเลยวะ แม่งแต่งตัวก็ปอนมาก ” ผมพูดพร้อมกับเบ้ปาก ทันทีที่ลิฟต์เปิดตรงชั้นของผม ชั้นนี้วีไอพีทั้งชั้น คงไม่เจอคนอย่างมันแน่ๆ ผมเดินตรงไปยังห้องพักของผม ผมก็วางกระเป๋าหลุยส์วิตตองลง และพายมันก็หยิบเอาแลปท๊อปขึ้นมา มันเรียนออนไลน์ พายมันเก่งเรียกว่าอัฉริยะ มาเกิดก็ว่าได้ เรียนรู้เร็ว มันจบมัธยมปลายนานแล้ว แต่ตอนนี้เขาต้องการให้มันเรียนหมอและสาขาโรคหัวใจด้วย ผมนั่งรอเวลาจะลงไปทานอาหารเย็นและไปหาที่นั่งดริ้งกัน ส่วนอีพายเขาก็ไปหาอาหารตามองพวกผู้ชายหล่อ บาร์เทนเดอร์แต่พายมันไม่เอาหรอกแค่มองกับหยอดเขาเล่นไปวันวัน
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------