(รีไรท์)(MPreg)รักที่วุ่นYก็แค่ผู้ชายเขารักกัน ดิวขอให้เดี่ยวช่วย
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (รีไรท์)(MPreg)รักที่วุ่นYก็แค่ผู้ชายเขารักกัน ดิวขอให้เดี่ยวช่วย  (อ่าน 5751 ครั้ง)

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
(บอยVSแจ็ค)แจ็คกลายเป็นคนผิด

Part บอย
       
    ผมแทบจะขาดใจทีได้ยินคนใช้ในบ้านผมบอกว่าแบงค์ลูกชายของผมกับแจ็คหายไป พวกผมพากันเดินตามหา  เรียกว่าทั่วบ้านก็ไม่พบแบงค์ คนใช้ก็พากันตามหาทุกที่ในคฤหาสน์ก็ยังไม่พบเขา ผมได้แต่ยืนมองไปรอบๆ มือไม้ผมสั่นไปหมด แบงค์ ใครพาแบงค์ออกไปหรือเปล่า ใจผมร้อนรนมองซ้ายมองขวา ผมทำได้แค่ยืนสะอึ้นร่ำไห้ยืนกุมมือตัวเอง แบงค์ เขาคือทุกอย่างของผมในตอนนี้

         “หากันเจอไหม แล้วนี้ใครดูแลเด็ก ไม่ใช่พี่ผึ้งเหรอ” พี่เบียร์ถามคนใช้ที่ตอนนี้ลงมาจากตึกเพื่อตามหาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของผมกัน

         “บอย “ พี่บีมเดินมาหาผม และกอดผม

         “พี่บีม ลูกผมหายไปได้ยังไง ฮือๆ” ผมพุดน้ำตาผมไหล

         “พี่ว่าน้องอาจจะไปเล่นซ้อนแอบแถวๆนี้แหละบอย อย่าคิดมาก” พี่บีมพุด พี่บรู๊คส์เดินลงมาและหยุดมองผมกับพี่บีม พี่บีมเห็นพี่บรูคส์ก็ปล่อยผม

         “มี่คนเห็นรถขับออกไปจากงาน ชุดแรกคือรถลุงหนี่ง และอีกคันคือรถของบ้านอาภูมิ แจ็ค “ บรูคส์พูด ผมสะบัดหน้าไปมอง

         “แจ็คเขามาเหรอครับ “ ผมถามพี่บรู๊คส์

         “ใช่ มันมา ทั้งที่พ่อก็บอกอาภูมิแล้ว่าอย่าให้มา พอมาก็มีเรื่องเลยดูซิ “พี่บรู๊คส์พูด ผมก็ได้แต่กุมมือตัวเอง แล้วนี้ลูกชายผมหายไปไหนกัน ผมเห็นพี่ๆบ้านจอจานเดินเข้ามา

         “มีเรื่องอะไรกันนะพี่ เห็นมีคนบอกว่าเด็กในบ้านหายไป ให้พวกผมช่วยหาไหมพี่” พี่โจเดินมาถามพี่บรู๊คส์ พี่บรู๊คส์หันไปมองหน้าพี่โจก่อนจะหันมามองผมเช่นกัน และพี่ๆ บ้านจอจานก็มองผมกันหมด ผมรีบปาดน้ำตา

         “ถ้าอย่างนั้นก็ชวนกันหาแถวๆนี้ เพราะว่าน้องเพิ่งจะขวบหนึ่งเอง น่าจะไปเล่นซ้อนอยู่แถวๆนี้ “ พี่บรู๊คส์พูด และเดินหันหลังออก พี่โจมองพี่บีมไม่วางตา

         “ไหนพี่บอกจะมาช่วยหาเด็กยังไงละครับ เด็กมันอยู่บนหน้าผมเหรอครับพี่โจ” พี่บีมหันไปพูดกับพี่โจและเดินกลับมาหาผมทันที 

         “พี่ว่าบอยเข้าไปนั่งด้านในดีกว่าไหม แดดเริ่มร้อนแล้วเดี๋ยวบอยจะ”

         “ผมจะอยู่ตรงนี้จนกว่าจะเจอลูกผมพี่บีม” ผมพูด แต่ผมก็ต้องยกมือขึ้นปิดปากเพราะว่าพี่ๆบ้านจอจานอยู่ตรงนี้กันหมด พี่โจ พี่เจมส์ พี่เจส พี่จิมมี่และพี่เจอีกคน หันมามองผมกันหมดเลย

         “ลูกเหรอครับน้องบอย” พี่เจสถามผม ผมหันมามองพี่บีม ช่วยผมที

         “ลูกแต่เป็นเด็กที่อยู่ในบ้านที่นี้ครับ บอยเขารักมากเหมือนลูก  แต่มันก็ไม่แปลกไม่ใช่เหรอครับ ถ้าบอยจะเอามาเป็นลูกบุญธรรม” พี่บีมพูดและหันไปมองพี่ๆบ้านจอจานกันทุกคน

         “ใจดีนะครับน้องบอย แต่ไอ้แจ็คน้องพี่นี้มันเตะเด็กอย่างเดียวเลยครับ” พี่เจมส์พูดปนหัวเราะแต่ว่าทุกคนเงียบกันหมดไม่มีใครกล้าหัวเราะด้วย

         “เบียร์” พี่เจมเรียกพี่เบียร์ที่เดินลงมาชั้นล่างพอดี และเดินตามพี่เบียร์ไปติดๆเช่นกัน

         “เจ” พี่บอลเดินลงมาก็ตรงมาหาพี่เจ พี่เขาสนิทกันมาก พี่โจก็มองผมแต่ตาก็มองพี่บีม

         “น้องชื่ออะไรเหรอครับ พวกพี่จะได้ช่วยกันเรียกหานะครับ” พี่โจหันมาถามผม

         “น้องชื่อแบงค์ครับ” ผมตอบ

         “อ้อ ชื่อแบงค์ “ พี่เจสและพี่จิมมี่เอ่ยขึ้นแบงค์ขึ้นมาพร้อมๆกัน o22 พร้อมกับทำหน้าตกใจ พี่เขาสองคนหันมามองหน้ากัน

         “พี่โจ ผมกับจิมมี่ขอไปเดินดูตรงโน้นนะพี่นะ แถวๆถังขยะน่ะ “ผมถึงกับสะบัดหน้ามามองพี่บ้านจอจานสองคน พี่สองคนเขากะซิบกระซาบอะไรกันก็ไม่รู้

         “ไอ้นี่น้องเขาคงไม่ปีนลงไปคุยหาอะไรในถังขยะหรอกมึง หาแถวนี้แหละ”พี่โจหันไปบอกพี่เจส
พร้อมกับควักมือเรียกให้กลับมา

         “ไม่ใช่เพื่อว่าไอ้น้องรักของพี่มันเจอเขามันอาจจะเตะน้องเขาลงไปนะพี่ มันถามหาคนไหนที่ชื่อแบงค์อยู่ มันบอกว่าเจอหน้าจะเตะให้” ผมได้ยินเสียงพี่เจสพูดกับพี่โจ มันทำให้ผมคิด คือก่อนที่ผมจะกลับมาที่นี้ ผมและเขามีเรื่องผิดใจกัน แจ็คแอบได้ยินตอนผมคุยโทรศัพท์กับพี่บรูคส์ ผมเอ่ยถึงแบงค์และเขาถามผมว่าใครชื่อแบงค์ นี้อย่าบอกนะว่าเจอกันแล้วนะ แต่พี่เจสกับพี่จิมมี่ก็วิ่งหายออกไปซะก่อน พี่โจก็หันมาส่งยิ้มให้ผม

         “บี เจอไหม” พี่บีมหันไปถามพี่บี

         “ไม่เจอเลย หากันที่วไปหมดแล้ว จะว่าออกไปข้างนอกก็ไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะว่าเราปิดประตูเข้าออกทุกด้าน ยกเว้นทางประตูออก แต่ตรงนั้นมีการ์ดเฝ้าตลอดเลย และการ์ดก็ยืนยันมามีแค่ขบวนลุงหนึ่งละรถที่แจ็คนั่งออกไปแค่นั้น” พี่บีมพูด ผมหันไปมองพี่โจ พี่บีมก็มองพี่โจเช่นกัน

         “รู้สึกว่าพี่จะงานเข้า” พี่โจพูดและหันหลังทำท่าจะเดินออก

         “พี่โจ น้องพี่ออกไปกับใครหรือเปล่า” พี่บีมถามพี่โจทันที พี่โจค่อยๆหันกลับมา ผมก็มองพี่โจ ผมขออย่าให้เป็นเขาเลยนะ อย่าทำกับแบงค์แบบนี้น่ะ นั้นลูกนายนะแจ็ค แต่ถ้าเขาทำจริง ผมนี้จะเสียใจที่สุดและผมก็จะผิดมากที่ไม่ได้บอกเขา แต่อีกใจผมก็เชื่อว่าแจ็คไม่ใช่คนใจคอโหดร้ายขนาดนั้นหรอก

         “คุณบอยค่ะ นั้นค่ะ คุณแบงค์ “ ผมได้ยินเสียงคนใช้ตะโกน ผมก็หันไปมองตามที่เขาชี้ออกไป มีคนอุ้มเขามา และคนนั้นก็คือแจ็ค

         “แจ็ค!!”

         “ไอ้แจ็ค!!” อันนี้พี่ๆบ้านจอจานพากันตกใจพอๆกับพวกผม ที่เห็นแจ็คเดินอุ้มร่างๆเล็กที่หลับอยู่ในอ้อมกอดของเขา นี้เขาลักพาลูกไปจริงๆอย่างนั้นหรือ

    ผมเดินลงไปหาเขาช้าๆ สายตาผมมองเขาด้วยความเจ็บปวด ผมไม่รู้ว่าผมควรจะโทษตัวเองหรือเปล่าที่ผมไม่ได้บอกความจริงเรื่องแบงค์และการที่เขาทำแบบนี้ พ่อจะให้ผมบอกเขาหรือเปล่า ผมว่าพ่ออาจจะไม่ให้บอกเลยก็ได้

         “ไอ้แจ็ค มึงเอาหลานกูไปได้ยังไง” พี่บรูคส์วิ่งไปแต่พี่เบียร์เข้าไปดึงรั้งพี่บรูคส์เอาไว้ก่อน เพราะดูท่าแล้วพี่บรูคส์จะทำอะไรสักอย่างแน่  ผมยืนมองหน้าเขา แจ็คก็มองหน้าผมเช่นกัน

         “ก็ผมเจอ……” แจ็คทำท่าจะตอบ  ผมก็รีบเข้าไปรับตัวแบงค์จากแจ็คมาอุ้มเอาไว้ แต่พี่บรูคซ์แลพี่บีก็ลงมาอุ้มไปจากผมซะก่อน ผมมองหน้าแจ็ค ผมเสียใจที่สุดในสิ่งที่เขาทำวันนี้

         “ทำไมแจ็คทำแบบนี้ “ผมถามแจ็ค                   

         “แจ็คทำอะไรบอย นี้แจ็คเอามาคืนให้ไง และนี้ใช่ไหม ที่ไอ้คนที่ชื่อแบงค์นะ ทำไมบอยไม่บอกแจ็คอ่ะ “แจ็คถามผม อ้อที่เขาพาไปเพราะว่า คนนี้ชื่อแบงค์ใช่ไหม

         “แค่นี่ใช่ไหมแจ็ค เหตุผลแค่นี้ใช่ไหมที่แจ็คทำลงไปนะ” ผมถามแจ็ค

         “บอยผิดหวังในตัวแจ็คที่สุด” ผมพูด

         “เพี๊ยะ”ฝามือผมตบเข้าที่ใบหน้าแจ็คและผมก็เดินหันหลังเข้าบ้านทันทีเพื่อไปดูแบงค์ ผมไม่ได้หันหลังกลับไปมองแจ็คเลย ผมต้องยอมปล่อยให้เขายืนอยู่แบบนั้น เพราะว่านี้คือการทำร้ายหัวใจผมที่สุด ผมไม่อยากรู้ว่าเขาทำไปแค่เล่นๆหรือว่ายังไง และที่พ่อผมพูดว่าเขาดูแลแบงค์ไม่ได้มันน่าจะจริงอย่างที่พ่อผมพูดทุกอย่าง น้ำตาผมไหล่ ผมก็รีบสับเท้าเดินกลับเข้าไปด้านในและเข้าไปรับแบงค์ที่นอนหลับปุ๋ยมากอด มุมปากเขาเลอะเทอะขนม เหมือนจะเป็นคัพเค้ก ผมใช่นิ้วแตะมาชิมดู ขนมจริงๆด้วย ผมได้แต่กอดเขาเอาไว้ เขาคือดวงใจของผม

         “มึงออกไปเลยนะไอ้บ้านจอจาน ก่อนที่กูจะเตะมึงออกไป” ผมได้ยินเสียงพี่บรู๊คส์ตะโกน โวกเวกโวยวายอยู่ด้านนอก ผมอุ้มแบงค์เอาไว้อย่างนั้นเหมือนกับว่าผมกลัวว่าเขาจะหายไปจากผมอีก

         “ อะไรกันพี่ณะ ผมไม่เชื่อว่าลูกผมจะทำแบบนั้นนะ พี่น่าจะ”

         “พอทีภูมิ เขาไม่เหมาะสมกับบอย จริงๆ ภูมิกลับไปได้แล้ว พี่ขอร้อง” ผมหันไปเจอพ่อณะที่เดินลงเข้ามาโดยมีอาภูมิตามหลังมาเหมือนกับพ่อกับอาภูมิก็มีปากเสียงกันอีก พ่อเอ่ยปากให้อาภูมิกลับไปก่อนแบบนี้ แสดงว่าพ่อโกรธมากเช่นกัน อาภูมิหันมามองผมและหันกลับไปมองพ่อผม อาภูมิต้องจำใจเดินออกไปอย่างเงียบๆ  พ่อเดินมาหาผมและเอาฝ่ามือลูบหัวแบงค์เบาๆ ผมเงยหน้ามองพ่อ น้ำตาผมยิ่งไหล

      
      “ถ้ามันไม่พร้อมจะทำหน้าที่พ่อ ก็ไม่ต้องบอกมัน” พ่อณะพูดแค่นั้นก่อนจะหันหลังเดินออกไป พ่อผมก็คงเสียใจเช่นกัน 

------------------------------------------------------------------------------------
Part  แจ็ค
     
      ผมได้แต่ยืนงง เพราะว่าผมอุ้มเด็กคนนั้นมาคืนแต่ดูบอยซิทำไมต้องโกรธขนาดนี้ โกรธเหมือนกับว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของเขาเองซะอย่างนั้น และเขาก็มองว่าผมเป็นคนผิดทั้งที่ผมยังไม่ได้อธิบายอะไรเลยว่าอะไรเป็นอะไร     ผมยืนมองบอยที่เดินหลังให้ผมนี้แสดงว่าเด็กคนนั้นมีอิทธิพลมากสำหรับบอยใช่ไหม และนี้ก็กลับกลายมาว่าผมนะเป็นคนผิดทั้งที่มันไม่ใช่ผม ผมเป็นคนช่วยเด็กนั้นเอาไว้ แต่นี้ก็แสดงให้เห็นว่าผมเองไม่เคยเป็นคนดีในสายตาบอยเลย


         “พี่บรู๊คส์” ผมเรียกพี่บรูคส์ พี่เขามองหน้าผมกัดฟันกรอดๆ 

         “ไอ้บ้านจอจาน พวกมึงออกไปจากบ้านกูเดี๋ยวนี้!” ผมได้แต่ยืนมองบอยที่เดินกลับเข้าไปในบ้าน ทำไมแค่เด็กคนนั้นเขาถึงได้หันหลังให้ผมแบบนี้

         “แจ็คไปก่อนเถอะวะ “ พี่เจสหันมาดึงแขนผม พี่เจมส์ก็วิ่งมา


         “ไอ้เบียร์เข้าบ้าน” พี่บรูคส์เรียกพี่เบียร์เข้าไปในบ้าน

         “เกิดอะไรขึ้นวะ และเขาบอกว่าเจอเด็กแล้วเหรอว่ะ”พี่เจมส์ถามพี่เจสที่พยายามดึงรังให้ผมออกจากตรงนี้ไป

         “เจอแล้ว และไอ้คนที่เอาเด็กไปก็ไอ้น้องชายสุดรักของพี่นี้ไง ไอ้แจ็คนะ” พี่เจสหันไปบอกพี่เจมส์ พี่เจมส์ก็หันมามองหน้าผมด้วยสีหน้าที่ตกใจ ไม่อยากจะเชื่อ แต่นะตอนนี้ ทุกคนมองมาที่ผมกันหมด และคงมองว่าผมเป็นคนในร้ายทำกับเด็กตัวเล็กๆได้ลงไปหมดแล้ว 

         “ไอ้แจ็ค แล้วนี้มึงกลับมาทำไมอีกวะ”พี่เจมส์ถามผม

         “ก็เอาเด็กมาส่งไงพี่เจมส์ ผมผิดตรงไหนอะ” ผมหันไปถามพี่ชายผม พี่เจมส์ ยืนเอามือมือเท้าเอวมองผม พ่อนจะ “ฟู่!!” พรูลมหายใจออกมายาวๆ

         “ไม่ผิด ไม่ผิดเลย ไอ้แจ็ค ไม่ผิดตัวเลยมึงถูกตัวมาก โธ่ไอ้ตัวโกง เขาก็หากันไปซิ “ ไอ้พี่จิมมี่อีกคน ที่ยืนกอดอกมองผม

         “กูบอกให้ไปไง ไอ้บ้านจอจาน!!” พี่บรูคส์ยืนชี้นิ้วไล่พวกผมโดยมีพี่เบียร์พยายามดึงรั้งเอาไว้ แลพี่บีอีกคนที่เข้ามาช่วยดึงแขนพี่บรูคส์เอาไว้เช่นกัน

         “พี่โจละวะ”พี่เจมส์ถามหาพี่โจ แต่ผมต้องเข้าไปหาบอยก่อน จะให้เขามองว่าผมไม่ดีแบบนี้ไมได้

         “ไปแล้วนั้นไง พี่คนโตวิ่งไปจะถึงรถแล้วมั้งนั้นนะ รักน้องมาก”พี่เจสพูดแต่ผมกำลังจะเดินเข้า”พี่เจสพูดแต่ผมกำลังจะเดินกลับเข้าไปหาบอย

         “ดูแลตัวเอง!!!” พี่โจตะโกนบอกมาแต่พี่โจนะลากแขนพี่เจไปด้วยแล้ว

         “ไอ้แจ็ค ไปก่อน!” พี่เจสเข้ามาดึงแขนผมเรียกว่าลากเลยก็ว่าได้ 

         “ไอ้เจส นั้นน้องรักมึง เอามันกลับด้วยกูไปแล้ว ไอ้จิมมี่มึงจะกลับไหมหรือจะอยู่ให้พี่บรู๊คส์ยำมึงก็ตามใจ “ พี่เจมส์บอกพี่เจสและหันไปเรียกพี่จิมมี่อีกคน  ผมยังคงพยายามจะหันหลังกลับ เพราะว่าผมอยากจะเข้าไปหาบอย ผมอยากรู้ว่าเด็กนี้มันมีอะไรทำไมถึงมีอิทธิพลกับบอยมาขนาดนี้

         “ไปเถอะไอ้แจ็คดูนั้นพ่อเดินออกมาแล้วแสดงว่าพ่อก็คงโดนเหมือนกัน ไปเถอะมึง”พี่เจสที่ดึงลากผมจนมาถึงรถและดันผมเข้าไปในรถอีก ผมเห็นรถพี่ๆค่อยออกไปทีละคันและอีกคันก็รถของพ่อผม นี้ผมต้องเป็นคนผิดอีกแล้วเหรอว่ะ

         “ไปก่อนแจ็คไปตั้งหลักก่อนวะ และมึงเล่นเอาเด็กน้อยออกไปแบบนั้นด้วย”พี่เจสหันมาพูดกับผม

         “พี่ปีเตอร์ออกรถเลยครับ “

         “ออกเลยเหรอครับ”

         “หรือพี่จะรอให้ไอ้นี้มันออกไปตามบาทามาประเคนพวกเราก่อนละครับพี่ เขารอกระทืบพวกเราอยู่หลายเท้าเลยพี่ปีเตอร์” พี่เจสหันไปพูดกับพี่ปีเตอร์ แค่นั้นแหละพี่ปีเตอร์ก็รีบออกรถทันที ผมได้แต่เหลียวหลังหันไปมอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-10-2020 05:57:34 โดย PFlove »

ออฟไลน์ Lambosasha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
อ้าว อัลไลกัน แจ็คยังไม่ทันทำไรเลยง่ะ

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
       
(รีไรท์)(MPreg)รักที่วุ่นYก็แค่ผู้ชายเขารักกัน(บอยVSแจ็ค)ความจริง

                Part แจ็ค ผมนั่งนิ่งเหมอมองออกไปนอกรถ ระหว่างทางไม่มีเสียงคุยกันเลยสักนิด พี่เจสก็เอาแต่พิมพ์คุยกับใครก็ไม่รู้ จนกระทั้งรถแล่นออกมาได้สักพัก ผมก็นั่งนิ่งไม่ได้พูดอะไรไปตลอดทางจนกระทั้งถึงบ้านผม บ้านของผมหลังนี้ พวกผมไม่ค่อยได้มาพักกันจะมีก็แค่พี่เจมส์ และพี่เจ เพราะว่าพี่เขาเรียนที่เดียวกับพี่บ้านบอใบไม้ นั้นคือพี่เบียร์และพี่บอล แต่ถึงแม้ว่าจะอยู่ใกล้กับลุงณะที่สุดก็ตาม ตั้งแต่บอยหายไป ผมก็ไม่เคยมาบ้านหลังนี้เลยและบอยก็ไม่ได้มาอยู่บ้านลุงณะที่นี่ด้วย จนกระทั้งวันนี้แหละที่กล้าขัดคำสั่งและเข้าไป ก็ผมแค่อยากรู้ว่าทำไมเขาห้ามผม  และทันทีที่รถที่ผมนั่งมาแล่นเข้ามาในตัวบ้านผมก็รีบเดินเข้าไปในบ้านทันทีเช่นกัน 


         “นั้นไงมันมาแล้วพ่อ” พี่โจ้หันไปมาและชี้มาที่ผม พ่อนั่งลงสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่  พ่อหันมามองผม พ่อลุกขึ้น ผมรู้ว่าพ่อโกรธที่ผมไม่ฟังคำสั่งพ่อเลย

         “ทำไมแจ็คไม่ฟังที่พ่อพูดบ้าง!! “

         “แล้ว?” ผมทำท่าจะเงยหน้าขึ้นถามพ่อผมกลับเช่นกันว่าทำไมไม่มีใครฟังผมบ้างละ แต่พี่โจส่ายหน้าว่าอย่าในตอนนี้ ดูพ่อกำลังโกรธ

         “พ่อบอกว่าไม่ให้แจ็คไป พ่อจะจัดการให้นี้ก็ไม่ทันได้คุยเลย งานเพิ่งจะเสร็จ เราก็ทำเรื่องซะแล้ว และบ้านโน้นเขาโกรธมากแจ็ค” พ่อพูด

         “ใช่พ่อแจ็คมันไม่ดีในสายตาบ้านโน้นอยู่แล้วพ่อ แจ็คมันดูแลบอยไม่ได้ แจ็คมันหวังสูงไปพ่อ แต่แจ็คไม่ได้อยากได้บอยเพราะตำแหน่งแจ็ครักบอยเพราะเขาคือบอยไม่ได้รักเพราะตำแหน่งบ้าบออะไรนั้น  “ผมพูดและทำท่าจะหันหลังออกเช่นกัน         

         “แจ็คพูดไปก็ไม่มีใครฟัง “ ผมพูดทิ้งไว้แค่นั้นและเดินกลับขึ้นไปบนบ้านทันที เข้าห้องนอนตัวเองและเปิดเพลงที่ตัวเองชอบให้ดัง ผมใส่หูฟังไร้สาย ในห้องนอนผมค่อนข้างจะไฮเทค เรียกว่าสมาร์ทรูม ทุกอย่างถูกคอนโทรนผ่านมือถือห้องน้ำใช้การสั่งงานผ่านเสียงได้ ผมเปิดเจออีเมลของไอ้หลุยส์มันส่งมาให้ผม มันกำลังจะสานต่อทุกอย่างของพ่อมันและผมก็จะลงขันร่วมด้วย มันบอกว่ายิ่งเริ่มเร็วยิ่งได้เปรียบ

         “ก๊อกๆ”เสียงเคาะประตุห้องนอนของผม ใครกันนะ ผมก็ต้องพับโน้ตบุ๊คลง ผมยังให้ใครรู้ไม่ได้ เพราะว่ามันจะไม่เซอไพรส์ แต่ผมคงไม่ได้ทำเพื่อบอยแล้วแหละ ผมว่ามันอาจจะจบลงแล้ว

         “แจ็ค ลงไปทานอาหารเย็นกัน” พี่เจนนั้นเอง พี่เจนน่ารักเหมือนเป็นพี่ที่อ่อนโยนที่สุด

         “ไม่กินอะพี่เจน ผมไม่หิว” ผมตอบพี่เจน

         “โกรธพ่อเหรอ แจ็ค อย่าทำแบบนี้ซิ พ่อนะรักและเป็นห่วงเรามากนะ แจ็ค” พี่เจนเดินเข้ามาในห้อง ผมยอมรับว่าผมเสียใจที่พ่อไม่ฟังผมบ้างเลย

         “ผมยอมรับนะพี่เจนว่าผมโกรธที่พ่อไม่ฟังผมและผมก็เสียใจไปพร้อมๆกันอ่ะพี่เจน  “ ผมพูด แต่ผมก็หยุดไว้แค่นั้น

         “พ่อรู้ความจริงแล้วแจ็ค พี่ปีเตอร์บอกกับพ่อแล้วว่าเรานะไม่ได้เอาเด็กไปแต่ช่วยเด็กคนนั้นเพราะว่ารถลุงหนึ่งเอาไปปล่อยไว้ที่กลางสี่แยกไฟแดง “พี่เจนพูด ผมพยักหน้าผมไม่สนใจหรอกว่าใครจะรู้ความจริงก็ตามเพราะว่ามันสายไปแล้ว

         “พรุ่งนี้ผมไม่กลับไปที่โน้นนะพี่เจนบอกพ่อด้วย ผมว่าจะไปหาที่เที่ยวสักที่ก่อน ยังไม่อยากกลับไป”ผมพูดพี่เจนเดินมาเอามือลูบหัวผมเบาๆ

         “ตกลงไม่ลงไปทานอะไรสักหน่อยเหรอ” พี่เจนถามผมอีกครั้ง ผมส่ายหัวเบาๆว่าไม่ดีกว่าขออยู่บนห้องดีกว่า ผมก็ไม่รู้ว่าบ้านโน้นจะรู้หรือเปล่า แต่เขาก็มองว่าผมเป็นคนเกเรไม่ดี ไม่คู่ควรกับบอยอยู่แล้ว พี่เจนเดินออกไปจากห้องนอนของผม ผมก็เปิดโน้ตบุ๊คขึ้นมามาดู ผมได้รับข้อความผ่านแอฟพริเคชั่นจากไอ้หลุยส์

         หลุยส์ธรรณ์ :ไอ้แจ็คมึงทะเลาะอะไรกับบอยวะ

         แจ็ค:  เขามองกูไม่ดีอีกแล้วและคงตลอดไปวะ กูจะทำทำไมวะถ้าเขาไม่ได้อยากได้กูอยู่แล้วว่ะหลุยส์
         ผมถามไอ้หลุยส์ตอนนี้ผมลบชื่อบอยออกไปแล้วเหลือแต่ชื่อผมในชื่อโปรไฟว์

         หลุยส์ธรรณ์“มึงนี้แม่งก็งี้เง้าตัวพ่อจริงๆว่ะ

         แจ็ค” ว่าแต่มึงรู้ได้ยังไงว่ะ

         หลุยส์ธรรณ์”ธรรณ์โทรหาบอยนะ บอยเสียใจมากเลยนะมึง

         แจ็ค”แล้วกูละว่ะหลุยส์โคตรเสียใจเลยว่ะ เสียใจที่ผ่านมากูทำไปไม่มีค่าว่ะ

         หลุยส์ธรรณ์ “เออ ว่าแต่พรุ่งนี้มึงกลับเลยไหมว่ะ
         แจ็ค”กูว่าจะว่าไปเที่ยวก่อนว่ะ สักอาทิตย์ถ้ากูดีขึ้นก็กลับไปว่ะ ถ้าไม่กูจะไปเรียนมหาวิทยาลัยเลยว่ะ หลุยส์ มึงก็ดูแลบอยด้วยแล้วกันว่ะ “ผมส่งข้อความบอกมัน

         หลุยส์ธรรณ์”ถ้ามึงให้กูดูแล้วไม่ให้คืนแล้วนะโว้ย

         แจ็ค”กูคงไม่ไปทวงคืนแล้ววะ กูยอมแพ้แล้วว่ะแต่ไม่ได้ยอมแพ้มึงนะ ยอมแพ้ใจกูเองนี้แหละว่ะ
ผมบอกไอ้หลุยส์ มัน

         “ก๊อกๆ” เสียงเคาะประตูห้องนอนผมอีกครั้ง ผมก็หันหลังไปมอง

         “ก็บอกไม่ทานไง ทานกันไปเลย”ผมขี้เกียจลุกขึ้นไปกดล๊อกประตู ก๊เลยตะโกนออกไปว่าไม่กินอะไรทั้งนันแหละ

         “กึก” เสียงกุญแจไขประตูห้องห้องนอนของผม นั้นไงใครกันนะ อย่าบอกนะว่าพ่อนะ ผมหันไปมองที่ประตูกำลังถูกเปิดเข้ามา

         “ก็บอกว่าไม่กินไง “ ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกได้ว่าผมหงุดหงิดแค่ไหนและไม่ยอมหันหลังไปมอง

   “กึก” เสียงประตูปิดลงแต่ผมรู้สึกว่ามีคนเข้ามาหยุดยืนที่ด้านหลังของผม และแต่คนที่ที่เดินเข้ามากลับไม่ใช่พี่ๆ ผม แต่เป็นบอย ผมหันไปมองด้วยความแปลกใจ เพราะว่าเขาไม่ได้มาบ้านหลังนี้ของผมตั้งแต่เขาหายไปสามปีกว่า ขนาดบ้านเขาอยู่ไม่ไกลจากผมนะ แต่นี้เขากลับมาหาผม

         “บอยจะมาว่าอะไรแจ็คอีกละ “ผมถามบอยก่อนจะหันกลับมาสนใจโน้ตบุ๊คตรงหน้าต่อ

         “แจ็ค บอยรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น บอยขอโทษที่ไม่ได้ถามก่อน” บอยพูด แต่ผมหันหลังให้เขา

         “แล้ว มาทำไมละ “ ผมถามบอยโดยไม่ได้หันไปมองบอย

         “แจ็ค บอยขอโทษ แจ็คไม่รู้หรอกว่าแบงค์มีค่ากับบอยแค่ไหน ในวันนี้แจ็คอาจจะยังไม่เข้าใจแต่สักวันแจ็ค”

         “แจ็คไม่มีวันเข้าใจหรอกบอย และคงไม่มีวันนั้นสักวันหรอก แจ็คพอแล้ว”ผมพูดโดยไม่ได้หันหลังกลับไปมองบอยเลย บอยเข้ามายืนอยู่

         “แจ็ค” บอยทำท่าจะพูดแต่เขาก็นิ่งงเงียบ

         “แจ็คว่าจะไม่กลับไปแล้วอ่ะบอย “ผมพูดบอยหันมามองหน้าผมแววตาของเขาเสียใจมาก

   “ บอยก็กลับไปอยู่กับพวกนั้นได้นะ “ผมพูดแต่บอยก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรผม ผมยืนนิ่งมองคนที่ยืนตรงหน้า  ผมว่าจะบอกเขาว่าผมจะไปเรียนมหาวิทยาลัยเลยแต่ว่าปากมันหนักพูดไม่ออกซะอย่างนั้น  บอยพยักหน้าเบาๆก่อนที่ บอยหันไปมองทางอื่นผมรู้ว่าเขาพยายามจะไม่

         “บอย “

         “ก็ได้ถ้าแจ็คเลือกแบบนี้จริงๆ “บอยพูดหันหลังขวับจะเดินออกแต่ว่าผมเห็นเหมือนบอยทรงตัวเองไม่อยู่และทำท่าจะล้มลง ก็รีบพุ้งตรงเข้าไปรับร่างนั้นก่อนที่จะกระแทกพื้นแม้จะไม่แข็งเพราะว่ามีพรมอย่างหนาปูเอาไว้ก็ตาม

         “บอย บอย บอย “ ผมเรียกบอยแต่เขาไม่ตอบสนองอย่าบอกนะว่าบอยเป็นลมนะ ดูสีหน้าของบอยซีดมาก

         “บอย” ผมเรียกอีกครั้งและเอาฝามือแตะที่แก้มของบอย ผมก็มองซ้ายมองขวาและอุ้มบอยขึ้นไปไว้บนตียงนอนผมก่อน ผมก็วิ่งออกไปนอกห้อง

         “พี่เจน!!”ผมตะโกนเรียกพี่เจนดังลั่นบ้านเลย ผมวิ่งไปและมองลงไปที่กลางบ้านผมเห็นพวกพี่ๆนั่งกันอยู่ที่ห้องรับแขก

         “พี่เจน บอยเป็นลมในห้องนอนผมอ่ะ” ผมเรียกพี่เจนเพราะว่าพี่เจนเป็นหมอและเป็นหมอตาด้วย พี่เจนก็ลุกขึ้นและวิ่งขึ้นมาบนบ้านทันที ผมวิ่งกลับไปที่ห้องนอนผม พี่ๆพากันวิ่งขึ้นมาผมเข้าไปในห้องนอนผมก่อน ตามมาด้วยพี่เจนทันที พี่เจนวิ่งเข้าไปดูบอยก่อน

         “เว้ย!!” พี่โจ้ตามขึ้นมาเห็นบอยนอนอยู่บนเตียงก็ร้องเสียงหลงเลยทันที

         “พี่โจ้ไปเอากระเป๋าเครื่องเมือแพทย์เจนมาทีครับ “พี่เจนสั่งพี่โจ้ พี่โจ้ก็วิ่งออกไป ผมก็มองพี่เจน

         “พี่เจนบอยเป็นอะไรมากหรือเปล่า” ผมถามพี่เจน

         “ดูแล้วน่าจะพักผ่อนน้อยนะแจ็ค” พี่เจนพูด  พ่อผมเดินเข้ามาในห้องนอนผม

         “บอยเป็นไงบ้างเจน “พ่อผมถามพี่เจน ผมยังคงยืนนิ่ง พี่เจนเงยหน้ามองผม พี่เจนรู้ว่าผมเสียใจอยู่เรื่องที่พ่อไม่ฟังเหตุผมของผมที่เป็นลูกก่อนเลย

         “เจนว่าบอยอาจจะแค่อ่อนเพลียนะครับพ่อ” พี่เจนพูด

         “อืมม “ พ่อพยักหน้า พ่อหันมามองหน้าผม

         “แจ็ค พ่อขอโทษนะ ที่ไม่ได้ฟังเราพูดก่อนว่ามันเกิดอะไรขึ้น โกรธพ่อเหรอ” พ่อภูมิพูดขอโทษผม ผมเงยหน้ามองพ่อภูมิ ผมพยักหน้าเบาๆ

         “เดี๋ยวพ่อจะไปหาลุงณะนะ พรุ่งนี้ก็กลับไปพร้อมกับบอยเลยนะแจ็ค และดูแลบอยด้วยนะ “พ่อผมพูดก่อนจะเดินออกจากห้องไป ผมพยักหน้าเบาๆแค่นั้น พี่โจ้ พี่โจก็เดินเข้ามาพร้อมกัน พี่โจ้ส่งกระเป๋าแพทย์ให้พี่เจนและพี่โจก็มาดึงแขนผมให้ออกมายืนห่างไปหน่อยเพื่อพี่เจนจะได้ตรวจร่างกายบอยได้สะดวก

         “แจ็ค อย่าบอกพี่นะว่านายโกรธพ่อนะ “ พี่โจถามผม ผมหันไปมองพี่โจ

         “แจ็คพ่อรักนายมากนะ และนี้พ่อก็ออกโรงปกป้องนายจนทะเลาะกับลุงหนี่งก็หลายครั้งแล้วนะแจ็ค คิดถึงพ่อบ้าง “ พี่โจพูด ผมพยักหน้าว่าผมรู้

         “ผมแค่แอบน้อยใจนะพี่โจ “ ผมพูด

         “ไม่เอานะ พ่อรักนายมากและพ่อรู้สึกผิดที่ไม่ได้ฟังนายก่อนด้วยแต่นายก็ไม่ควรโกรธพ่อนะ เข้าใจที่พี่พูดไหม “พี่โจถามผม ผมหันไปเห็นบอยเริ่มได้สติแล้ว บอยขยับตัวแล้ว ผมรีบตรงเข้าไปหาบอยทันที

         “บอย “ ผมรีบกุมมือบอย บอยมองหน้าผม

         “ผมเป็นอะไรไปเหรอครับพี่เจน” บอยถามพี่เจนแต่ดันไม่ถามผมซะงั้น

         “บอยเป็นลมอ่ะ แจ็ค ขอโทษนะ “ ผมบอกบอย บอยหันมามองหน้าผม

         “พี่ว่าบอยอาจจะพักผ่อนน้อยไปนะ พี่ได้ฉีดวิตามินบีให้แล้วนะครับ” พี่เจนบอกบอยและลุกขึ้นพี่เจนมองหน้าผม พี่โจที่ยืนกอดอกอยู่ก็เดินหันหลังออก พี่โจ้และพี่เจนก็ยิ้มให้ผมสองคนและเดินออกไปเช่นกัน พี่ๆคงอยากให้ผมกับบอยได้มีเวลาปรับความเข้าใจกัน

         “เออ บอย งั้นบอยกลับบ้านดีกว่าแจ็ค” บอยพูดและทำท่าจะลุกขึ้น

         “บอย จะกลับได้ยังไงเพิ่งจะฟื้นขึ้นมานะ “ผมพูดและดึงแขนบอยไว้

         “ก็แจ็ค บอกบอยเองไม่ใช่เหรอว่าว่าให้บอยกลับนะ “บอยพูดและหันไปมองทางอื่นแทน ผมต้องหลุบตาลงเพราะความไวของปากผมแท้ แต่พอผมเห็นเขาเป็นแบบนี้ แล้วผมจะทิ้งเขาไปได้ยังไง

         “ก็แจ็คน้อยใจ ทำไมใครๆต้องมองว่าแจ็คไม่ดีพอตลอดเลย แจ็คก็เลย”

         “แล้วบอยมองแจ็คแบบนั้นหรือเปล่าละ”บอยถามผม ผมเงยหน้าขึ้นมองบอย ผมนั่งย่องๆลงและกุมมือบอยไว้

         “ถ้าบอยมองแจ็คแบบนั้นบอยจะมาหาเหรอ สู้บอยไปตามที่ลุงหนึ่งบอกไม่ดีกว่าเหรอแจ็ค” บอยพูดผมพยักหน้าว่าจริง

         “แจ็ครู้ว่าแจ็คนะงี้เง้าตัวพ่อ แต่ก็”

         “หมับ”

         “อืมมมม” บอยก้มลงจูบผมเอง ผมก็จูบบอยกลับเช่นกันผมค่อยเลื่อนตัวเองขึ้นมาและดันบอยให้ไปอยุ่ตรงกลางของที่นอนผม ปากเราก็ยังคงทำหน้าที่ดูดดื่มความหวานของกันและกัน

         “อืมมม อ้าห์ “ ผมค่อยไล่ลงมาฝั่งริมฝีปากไว้ที่ตามซอกคอของบอย บอยเป็นผู้ชายที่กายหอมมากอย่างน่าอัศจรรย์ ผมไม่อาจจะหยุดสูดดมมันได้เลย ผิวพรรรณ์ที่เนียนสวยจนหยุดสัมผัสไม่ได้

         “แจ็ค อืมม แจ็ค” บอยเรียกชื่อผม ผมก็เงยหน้าขึ้นมองบอยว่ามีอะไรเหรอ

         “ล๊อกประตูหรือยังบอยอายถ้าพี่ของแจ็คเปิดเข้ามาเจอแบบนี้”บอยพูดด้วยอาการเขิน ผมพยักหน้าและเดินไปที่ประตู พร้อมกับหยิบป้ายว่าห้ามกวน ถ้าแขวนป้ายนี้ไว้จะไม่มีใครมากวนใจแน่ๆ ผมก็เดินกลับมาที่เตียงและทำการถอดเสื้อยืดออก ผมก้มลงและซบใบหน้าเข้ากับหน้าท้องของบอย คนที่นอนถึงกับสะดุ้งเกร็งหน้าท้องตามการขบและเม้มของผม ผมดูดและขบจนคนที่อยู่เบื้องล่างดิ้นส่ายไปมา ผมก็ค่อยๆถอดเสื้อยืดของบอยออกเช่นกัน จนเผยให้เห็นผิวพรรณที่ขาวสวยและเนียนเรียบ ผมว่าสาวๆที่ไหนมาเห็นนี้ก็คงตาร้อนกันบ้างละ ผู้ชายอะไรนะมีทุกอย่างครบจนผู้หญิงยังอายเลย

         “บอย แจ็คไม่มีถุงนะ คือว่าแจ็คไม่เคยพาใครมานอนที่นี้มี่แต่บอยคนเดียวและจะเป็นบอยคนเดียวตลอดที่ได้มาที่นี้กับแจ็ค” ผมพูดบอกบอยว่าผมไม่ถุงยาง บอยมองหน้าผมด้วยสีหน้ากังวล

         “นะบอย แจ็คไม่ได้ไปมั้วกับใครนะ เออก็มีบ้างแต่ไม่เยอะ และแจ็คก็ป้องกันตัวเองตลอดนะ ต่อไปไม่มีแล้วสัญญา ขอแจ็คนะ “ผมพูดออดอ้อนบอย สีหน้าบอยกังวลแต่ก็พยักหน้าให้ผม ผมก็จัดการถอดกางเกงบอยออกไปทั้งหมดทั้งชั้นนอกชั้นใน ส่วนผมก็ถอดเช่นกันไปทั้งสองชั้นเช่นกัน

         “บอยทำไมผิวสวยแบบนี้นะ ผิวก็หอมด้วย เหมือนอาบน้ำแร่แช่น้ำทุกวันเลยอ่ะ อืมม” ผมพูดไปปากก็หอมดอมดมทุกอณุของร่างกายบอย และสูดดมอย่างหื่นกระหาย และผมก็พลิกตัวบอยให้มาอยู่ในท่าดอกกี้

         “ลองท่านี้นะบอย “ผมพูดกระซิบที่ข้างหูบอยและจัดการจัดท่าให้เข้าที่เข้าที่เข้าทางก่อนะจะค่อยแยกขาบอยออกเล็กน้อยและผมก็สอดแกนกายที่มันพองตัวเต็มที่ บอยก้มมอง

         “เอื้อก”เสียงกลืนน้ำลายลงคอดังจนผมได้ยิน คงเห็นความยาวของมันแล้วซิ

         “แจ็คจะไม่รุ่นแรงสัญญา ฟ๊อด” ผมพูดและหอมที่หัวไหล่บอย พร้อมกับค่อยๆดันสิ่งนันให้แทรกเข้าไปในกายของบอยช้าๆ ผมว่าคงเจ็บพอสมควร ผมไม่ได้ทำกันบอยยอมรับ เพราะว่าบอยขอเอาไว้

         “อ้าห์ อืมมม อืมมมม โอ๊ยยย ซี้ด อืมมม แจ็ค” บอยร้องคราวเป็นพักๆ และเรียกชื่อผม ผมก็ค่อยๆขยับๆถ้าบอยร้องเจ็บก็จะหยุด ผมสังเกตจากมือบอยที่จิกผ้าปูที่นอน ผมค่อยจูบไปตามหัวไหล่ และไล่ไปตามลำคออ้อมไปด้านหน้า และใช้ลิ้นเลียไล่ขึ้นมาที่ใบหูชอนไชเข้าไปไม่ลึก ดูท่าบอยจะสยิวหน้าดู บอยเอาฝามือขึ้นมาแตะที่ศรีษะผมเอาไว้

         “เสียวปะ” ผมกระซิบถามบอยเบาๆ ผมพยักหน้าเบาๆ และกัดริมฝีปากตัวเอง ผมรู้ว่าบอยไม่เคยทำแบบนี้กับใครแน่ๆ บอยเหมือนเด็กเนิร์ดแต่ไม่ใช่ซะที่เดียว ผมไม่อยากเชื่อเลยว่ายิ่งบอยโดนผมเร้าโรมแบบนี้บอยก็ยิ่งตื้นตัวมาก เหมือนตื่นเต้นกับความรู้สึกใหม่

         “โอ้วว แจ็ค บอย ซี้ด “ บอยร้องเรียกผม แถมหลับตาพริ้มแบบนี้แสดงว่าเขากำลังมีความสุขกับรสรักที่ผมปรนเปรอให้

         “อันที่จริงเรานะจะทำกันบ่อยๆนะ ดูท่าทางบอยจะชอบ อืมมม เห็นบอยแบบนี้ มันยิ่งยั่วแจ็คมาก ซี้ด อืมมม “

         “ไม่ได้แจ็ค ถ้า เราพล้าดกันขึ้นมาอีก บอย…. “

         “พล้าดอะไรอะ ไม่หรอก มันดีจะตายไป บอยไม่ชอบเหรอ อืมม” ผมพูดและก้มลงจูบบอย ผมก็ค่อยพลิกให้บอยขึ้นมาค่อมผมเอาไว้ บอยค่อยหย่อนลงช้าๆเพื่อให้สวนที่โด่เด่ของผมเข้าไปด้านในอีกครั้ง

         “คุมเองเลยนะ แจ็คอยากได้แบบว่า อารมณ์แบบคาวบอยเลยอ่ะได้ไหมครับที่รัก” ผมกระซิบกับบอย บอยก็มองผมและบอยก็ทำท่าควบสิ่งนั้น แม้จะยังชำนาญแต่ก็ทำได้ดีทีเดียว จนผมเองก็จะไม่ไหวต้องดันตัวเองขึ้นมาจูบคาวบอยหนุ่มของผม คาวบอยของผมก็ควบใหญ่ๆ และยิ่งควบเร็วมากขึ้นแค่ไหนผมก็ยิ่งเสียวมากแค่นั้นจนกระทั้ง ทุกอย่างหยุดนิ่งพร้อมการเกร็งของร่างกาย น้ำรักกำลังจะมา

         “ก๊อกๆ” เสียงเคาะประตู บอยทำสีหน้าตกใจทำท่าจะลุกพล้วดเลยแต่ผมจีลเอวบอยเอาไว้ก่อน

         “อย่าเพิ่งดิบอย อย่าเพิ่ง จะมาแล้วเนี้ยะ”

         “แจ็คมีคนเคาะประตูเพื่อว่าเป็นพ่อ”

         “พ่อบอกจะออกไปหาลุงณะ พ่อตาแจ็คนะ “

         “โยกต่อซิบอยนะ ส่วนข้างนอกให้รอไปก่อน อันนี้สำคัญ นะบอยไม่งั้นแจ็คแย่แน่ๆ”ผมพูดอ้อนบอยและบอยก็โยกต่อ จน น้ำรักผมมาถึงทางออกแล้ว

         “อุ้ยย “ เสียงลากยาวจากปากผม และบอยก็ค่อยๆ ลุกถอนสิ่งนั้นออก บอยก็หยิบผ้าห่มพันตัวเองและวิ่งเข้าห้องน้ำไปทันที ผมก็ค่อยๆลุกขึ้น เดินไปหยิบเอากางเกงยีนมาสวมไว้ก่อนและเดินไปที่ประตูห้อง ผมแอบมองจากช่องเล็ก พี่โจนี้เอง มาขัดทำไมนะ

         “พี่โจอะไรเนี้ยะ” ผมเปิดออกมา พี่โจมองผมก็คงรู้นะว่าผมทำอะไรอยู่

         “พี่บรู๊คเขาโทรหาบอยแต่บอยไม่ได้รับสายมึง และถ้าบอยไม่โทรกลับ มึงจะให้พี่เขยมาหามึงที่นี่และเห็นว่ามึงทำ อิบอิบ น้องเขาไหมละ แจ็ค” พี่โจพุด

         “เดี๋ยวบอกบอยให้โทรกลับนะ มีอะไรไหมอะ เกือบไม่เสร็จนะพี่โจ”

         “เหรอ ไม่มีอะไรแล้ว แล้วนี้บอยจะทานอะไรไหมพี่จะได้ให้แม่บ้านทำให้ และมึงก็จะถนอมบอยหน่อย เขาเพิ่งพื้นจากการเป็นลมนะไอ้แจ็ค พวกพี่ไม่อยากงานเข้า” พี่โจพูดกระซิบกับผม

         “รู้แล้ว แค่นี้นะ ผมจะไปอาบน้ำ แล้วถ้าจะกินอะไรจะโทรไปบอกที่ห้องครัวเองพี่โจ”

         “อีกอย่างพรุ่งนี้ผมกับบอยกลับกันเองได้ไหมอ่ะ ผมจะนัดเจอไอ้หลุยส์มัน นะพี่โจ”ผมพูดบอกพี่โจ อ้อนด้วย

         “ก็ได้ เอาการ์ดพ่อไปสองคน “พี่โจพูดแค่นั้นผมก็รีบเดินเข้าไปในห้องน้ำ และปิดประตูลง บอยยังอาบน้ำชำระร่างกายอยู่ เหมือนรอผมด้วยเช่นกัน ผมก็ไม่รอช้า ถอดกางเกงยืนและเข้าไปยืนอยู่เบื้องหลังบอย พร้อมกับโอบกอดร่างนั้นเอาไว้

         “บอย ทำไมบอยรักแบงค์มากละ เขาคือใคร “ ผมถามบอย บอยหันมามองหน้าผม

         “แจ็ค ถ้าบอยบอกว่าแบงค์คือลูกของบอยละ แจ็คจะรับตรงนี้ได้ไหม”บอยบอกผม ผมก็ต้องทำหน้าตกใจ ผมเลื่อนไปแตะเมนูให้น้ำหยุดไหล่ ผมมองหน้าบอยว่ายังไงกัน นี้บอยไปทำใครท้องมาเหรอ

         “บอยไปมีอะไรกับผู้หญิงมาเหรอ”

         “บอยทำใครท้องมาเหรอ “ผมถามบอย บอยมองหน้าผม

         “บอยอยากมีลูกนะ บอยเลย”

         “อย่าบอกนะว่าบอยก็ทำเหมือนที่พ่อ เราทำนะ “

         “แต่ก็โอเคนะ ถ้าบอยอยากมีลูก” ผมพูดบอกบอย

         “ต่อไปก็จะเป็นลูกของเรานะแจ็ค ได้ไหม “

         “ก็ได้นะ แต่ดูท่าจะไม่ค่อยชอบหน้าแจ็คสักเท่าไหร่ เอาไว้ แจ็คไปหาบอยที่บ้านบ่อยๆ นะ เราจะได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น “ผมพูดกับบอย ผมกอดบอยตอนนี้โล้งไปเยอะเลยที่รู้ว่าไอ้แบงค์เป็นแค่เด็กน้อยธรรมดาคนหนึ่งไม่ใช่แฟนของบอยอย่างที่ผมกลัว แต่ดูท่าจะร้ายกาจใช่เล่น คงต้องเอาของเล่นไปล่อเยอะๆ

ออฟไลน์ Lambosasha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
ดีกันบั่บ... :jul1: แต่น้องแบงค์เรียกแจ๊คมัมมี้ไปแล้วนิ 555

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
ภาค (แอ้VSดิว)ยังไงก็ทำโทษ

                Part's ดิว ผมมีปากเสียงกับลุงหนึ่งแต่จู่ๆก็มีคนเดินเข้ามาคุยกับลุงหนึ่งดูท่าจะเรื่องด่วนและลุงหนี่งก็หันมาบอกผมว่าเขาจะไปคุยกับผมอีกทีผมก็ต้องขมวดคิ้วรอว่ายังจะคุยอีกเหรอครับลุง ผมก็บอกไปอยู่หยกๆว่าผมนะมีคนรักแล้ว  และผมก็คิดว่าแค่นั้นก็น่าจะเพียงพอแล้วที่ผมจะปฏิเสธบอย
                      ผมรู้ว่าบอยสำคัญแค่ไหนและองค์กรก็สำคัญไม่แพ้กัน แต่ผมควรจะเลือกคนที่สำคัญกับลูกๆผมไม่ใช่เหรอ แต่มันติดที่ว่าผมกับพูดหรือบอกเรื่องแอ้กับลูกๆผมไม่ได้ เพราะคนที่เดือดร้อนอาจจะเป็นพ่อผมเองที่แอ้สั่งห้ามผมเอาไว้
                    ตอนนี้ผมก็ได้แต่ชะเงอคอมอง ดูความวุ่นวายภายในบ้านของลุงกฤษณะ ดูท่าจะงานเข้าจริงๆ และนี่ไอ้แจ็คมันไปไหนซะก็ไม่รู้ ผมเห็นบอยเดินเข้าเดินออกเหมือนกับมีเรื่องอะไรที่ค่อนข้างใหญ่ พ่อผมกับอาภีมก็ได้แต่มองเช่นกันไม่รู้จะเข้าไปช่วยเขาทำอะไรได้

                    “พ่อ ดูเขามีเรื่องกันนะ แล้วทำไมเราไม่กลับเลยล่ะพ่อ” ผมถามพ่อผมคุณหมอภาณุเดช  พ่อหันมามองหน้าผม

                    “มึงรีบเหรอ ไอ้ว่าที่ลูกเขย” พ่อถามผมกลับ ถามผมแบบนี้ขนรุกเลยผม เรียกว่าที่ลูกเขยกันแบบนี้

                    “พี่ภา ภีมได้ยินมาว่ามีเด็กในบ้านพี่ณะ หายไปน่ะพี่ภา “ อาภีมปภพเดินกลับเข้ามาและมองหน้าพ่อผม

                    “ดูท่าจะวุ่นวายด้วย แต่ภีมก็ไม่มีโอกาสได้คุยกับพี่ณะเลย  เด็กนั้นใครเหรอพี่ภา ทำไมดูพี่ณะ เป็นห่วงเอามากๆเลย” ผมหันไปมองพ่อผม พ่อไม่เคยบอกเรื่องบอยมีลูกกับอาภีมปภพเหรอ นี้ขนาดแฟนกันนะ พ่อหันมามองหน้าผม พ่อคงอ่านสายตาผมออก พ่อส่ายหัวเฉยเลยว่าไม่ ผมก็พยักหน้าว่างานเข้าแล้วแหละพ่อ
 
                    “พี่ภา ว่าไงล่ะ “ ผมก็ยิ้มให้พ่อผมเอาไงละพ่อ พ่อหันกลับไปมองหน้าอาภีมด้วยอาการ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

                    “แฟนพ่อถามอ่ะ ไม่มีคำตอบให้อาจจะงอนยาวนะพ่อ “ ผมกระซิบกับพ่อผม และส่งยิ้มให้คุณหมอภาณุเดชผมเหมือนจะกดดันพ่อผมอยู่นะว่าถ้าไม่อยากตอบก็รับเพ่นเถอะ

                    “ไปเรากลับกันเถอะ” พ่อภาลุกขึ้นพล้วดเลย ทำเอาอาภีมปภพตกใจมิใช่น้อยพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองพ่อผมด้วยอาการงง แต่ผมนะรีบลุกครับ ไม่งง ครับ รีบกลับกันเถอะ

                    “ไปซิภีมกลับเถอะ พี่มีธุระด้วย มีเครสรอคลอดกับพี่หลายคน ตามฤกษ์ซะด้วยเลยฤกษ์ไปนี้เสียหายหลายแสนเลยไปครับ  “ พ่อผมนะหมอสูตินารีเวชนี้ครับ ผมหันมามองอาภีมปภพ

                    “มีอะไรกันหรือเปล่าพ่อลูกคู่นี่นะ”อาภีมปภพลุกขึ้นพร้อมกับมองหน้าพ่อผมและผมสลับกันไปมา

                    “ไม่มี!” ผมกับพ่อตอบพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายและเสียงก็สูงปรี้ดพอกันเลย

                    “โกหกแน่ๆ “ อาภีมปภพถามขึ้น
         
                    “ไปเถอะภีม” พ่อผมพูดและหันไปดันอาภีมปภพออก ส่วนผมก็รีบเดินนำหน้ารีบไหมบอกได้ว่ามากอยากออกไปจากตรงนี้แย่แล้ว

                    “ไม่ลาพี่ณะก่อนเหรอพี่ภา”อาภีมปภพถามพ่อผม

                    “ไหนละพี่ณะ ดูท่าจะงานเข้า นั้นดู ไอ้พี่ชายเรานะไอ้ภูมิมันกระเด็นออกมาแล้วนะ สงสัยงานนี้เพราะลูกมันเลยนะ แล้วเราจะรออะไรไปเถอะภีม”พ่อผมพูด และชี้ให้อาภีมดู อาภูมิพ่อของไอ้แจ็ค เดินออกมาอย่างไว้ดูจากสีหน้าถ้าจะงานเข้าจริง และงานนี้ก็คงมาจากบ้านจอจานแน่ๆ แล้วผมจะรออะไร ผมรีบเดินเข้าไปในรถทันที ผมเข้าไปนั่งอยู่ด้านหน้ากับพี่คนขับ พ่อผมกับอาภีมก็นั่งหลัง
         
                    “ออกรถเลยครับ ผมจะไปเอากระเป๋าเดินทางและกลับไปส่งพวกผมที่สนามบินเลยนะครับ ผมรีบกลับ” พ่อผมพูดผมหันมามองพ่อผม อยากจะเซย์เยสดังๆ ไม่นานรถเก๋งคันหรูก็พาผม พ่อและอาภีมมาส่งที่โรงแรมหรูที่ผมเข้าพักกันเมื่อคืนแม้จะไม่กีชั่วโมงก็ตาม ผมรีบแพ็คของลงกระเป๋าเพื่อจะได้เดินทางกลับผมคิดถึงกว่าจะถึงก็คงเย็นเกือบจะมืดแต่ไม่เป็นไรจะหาเรื่องกลับเช้าวันรุ่งขึ้น เพื่อจะได้ไปร่วมงานวันเกิดลูกชายของผมน้องมีนก่อน
-----------------------------------------------
                        Part แอ้ ผมมากับติ๊กและพาย เพื่อมาเดินแบบให้กับห้องเสื้อชื่อดัง คอนเซ็ปเสื้อสูทสำหรับใส่ออกงานต่างๆ แม้ว่าผมจะไม่อยากมาก็ตามแต่ติ๊กมันก็ดันให้อาภาษญ์เอ่ยปากขอพ่อผมมาขนาดนั้นผมก็ต้องมา และนี่เมื่อคืนไอ้ดิวมันก็ส่งข้อความมาหาผม ว่ามันคิดถึงผม เล่นเอาผมใจหายเลย ผมก็ไม่รู้ว่าวันนี้ลุงหนึ่งจะคุยอะไรกับ   ไอ้ดิวบ้าง ตอนนี้ในหัวผมวุ่นวายไปหมด ใจผมก็กลัวว่ามันอาจจะต้องแต่งงานกับบอยเร็วขึ้นหรือเปล่า

                    “แอ้” ผมสะดุ้งเฮือก เพราะว่ามีคนมาเรียกผม ผมหันไปมองต้นเสียงนั้น คนที่มาเรียกผมก็เป็นนายแบบที่มาเดินแต่คนละแบรนด์กัน แต่ก็ใช้ห้องแต่งตัวเดียวกัน  ผมไม่ได้สนิทกันมาก่อน แต่พอรู้จักแบบผิงเผินแค่นั้น  แต่ติ๊กบอกว่าไอ้คนนี้มันติดตามข่าวครอบครัวของผมมาก่อน ผมเป็นน้องชายพี่อ้นไงมันก็เลยรู้จักผม ชื่อว่าไนท์ และเป็นนายแบบที่ฮอทที่สุดในตอนนี้ หนุ่มหล่อลูกครึ้งไทยจีนเดนมาร์ค

                    “ไนท์” ผมเรียกชื่อคนที่เดินถือขวดน้ำหวานมาให้ผม ขณะที่ผมกำลังรอติ๊กและพายที่ขึ้นไปเดินโชว์ฟินเนเล่ คู่รัก ผมเองขอปฏิเสธที่ใส่ชุดนี้คู่กับติ๊กเพราะว่าผมไม่อยากงานเข้าไปถึงดิว ไอ้นี้มันขึ้หึง

                    “เห็นนั่งอยู่คนเดียว เลยเอามาให้ดื่ม”ไนท์เขาส่งขวดน้ำหวานมาให้ผม ผมก็มองทั้งเขาและขวดที่ส่งมาให้

                    “เราไม่ได้ใส่อะไรลงไปแน่นอน เชื่อใจเราได้ เราไม่ใช่พวก เออ “ไนท์ทำท่าจะพูด

                    “เปล่าหรอกเราไม่ได้คิดแบบนั้นแต่เราเพิ่งดื่มน้ำไปแล้วนะ “ ผมพูดและส่งยิ้มให้

                    “ลองดูหน่อยนะ วันนี้อากาศมันร้อนนะ เดี๋ยวน้ำตาลตกจะทำให้เป็นลมได้นะ ลองดูหน่อยซิครับ “ ไนท์เขาก็พยายามคะยั้นคะยอให้ผมดื่ม ผมก็รับขวดน้ำหวานมาและทำท่าจะเปิดแต่นายก็ดึงขวดกลับไปและหมุนเปิดฝากมาให้ผมแทน

                    “นี่ครับ” ไนท์พูดและส่งขวดน้ำกลับมาให้ผม ผมก็รับ แต่เหมือนเขาจะพยายามป้อนผม ผมก็รีบคว้ามาถือเอาไว้เองก่อนดีกว่ากลัวงานจะเข้าเอา แอบจิบๆเอา ไนท์มองผมและยิ้มกลับมาให้

                    “ผมเห็นแอ้มาหลายครั้งแล้วแต่ช่วงหลังๆนี้ไม่ค่อยได้มาเนอะ ยุ่งเหรอครับ”ไนท์ถามผม ผมไม่ได้มาเดินแบบอะไรหรอกที่มานะติ๊กมันชวนผมมาเพื่อจะได้อยู่ห่างๆกับดิว แต่ดิวมันก็หาเรื่องให้ผมมาไม่ได้ช่วงหลังๆมานี่

                    “ครับ ผมกำลังเตรียมตัวสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารนะครับ เหมือนพี่ๆของผม” ผมบอกไนท์

                    “แอ้ครับ ผมถามจริงๆนะ คุณมีแฟนหรือยังครับ” ไนท์หันมาถามผม 
           
                    “แคร๊ก”ๆ “ ได้ผล ผมก็ต้องสำลักทันที ไนท์ก็รีบหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดปากให้ผม ผมเองก็รีบคว้ามาเช็ดเอง ผมกลัวว่าไอ้ติ๊กมันเห็นแล้วมันจะถ่ายรูปผมไปลงในไลน์กลุ่ม มันยิ่งอยากจะให้ดิวเห็นว่าผมมีคนอื่น ถามว่าผมโกรธไหม มันก็ต้องมีบ้างแต่ติ๊กมันเพื่อนรักผมและผมเองก็รู้สึกผิดที่ดิวมันดันเลือกผมไม่ได้เลือกคนที่แอบรักมันมานานเช่นติ๊ก

                    “ตื้ดๆ” เสียงมือถือผมสั่น ผมรีบเดินออกไปกดรับสายทันที เบอร์ผมมีไม่กี่คนหรอกที่จะโทรหา มีพี่ๆ ผมแต่ไม่บ่อยแน่นอน และอีกเบอร์นั้นคือดิว ที่นานๆ ทีจะโทร ไม่ใช่อะไร ผมกับดิว แทบจะไม่เคยห่างกันเลยก็ว่าได้ และนี่ดูท่าจะกลับแล้วมั้ง

                    “ดิว ว่าไง” ผมกระซิบกระซาบถามดิว

                    “จะกลับแล้วแอ้ “ ดิวบอกผมว่าจะกลับแล้ว ผมแอบยิ้มนิดๆ

                    “อยู่ไหนแล้วอ่ะ” ผมถามดิว แอบมองหาว่าติ๊กมันลงมาหรือยัง

                    “อยู่บนเครื่องบินแล้วแอ้ พรุ่งนี้กลับบ้านที่ค่ายกันนะ ดิวขับรถไป เราจะได้ไปฉลองวันเกิดลูกชายพร้อมกันและกลับไปโรงเรียนวันรุ่งขึ้นแทน” ดิวบอกผม

                    “แต่ไอ้ติ๊กมันะจะให้แอ้ไปพร้อมกับมันอ่ะดิว” ผมบอกดิว         

                    “เอานะ ดิวจัดการเอง เรากลับพร้อมกันพรุ่งนี้เลยแต่เช้าก่อนที่ไอ้ติ๊กมันจะตื่น”ดิวบอกผม

                    “แค่นี้ก่อนนะแอ้ อาภีมมองดิวอยู่ สงสัยจะคิดว่าดิวแอบคุยกับลูกชายเขาอยู่นะ” ดิวพูดผมก็อมยิ้มก็มึงแอบคุยอยู่นี้ไง
         
                    “เจอกันนะดิว “ ผมพูดและกดวางสายไปทันที ผมหันมาก็เจอ นาย ทืยืนอยู่ด้านหลังผม

                    “อ้อ! มีแฟนแล้วนี่เอง”ไนท์ถามผม ผมพยักหน้าว่ามีแล้ว

                    “ได้ยินชื่อยู่นะ คงจะเป็นคนที่ชื่อดิวใช่ไหมครับ ที่เกือบจะต่อยผมวันนั้นนะครับ” ไนท์พูดผมกับผม ผมก็ทำสีหน้ากระอักกระอ่วนใจ ถ้าไนท์ไปบอกติ๊กละว่าผมบอกกับไนท์ว่าผมกับดิวเป็นแฟนกันจะทำยังไงดี
         
                    “เราขอโทษนะ “ผมพูดขอโทษไนท์ จะว่าไปเขาก็เป็นคนที่สุภาพคนหนึ่งแต่ผมมีคนที่รักแล้วและยังเป็นพ่อของลูกๆผมอีก ผมก็จะเลือกคนนั้น ไนท์คลี่ยิ้มให้ผมก่อนจะเดินหันหลังออก

                    “ไนท์ เราขออย่างดิ อย่าบอกติ๊กที่นายได้ยินเราคุยกับดิวได้ไหม” ผมเรียกไนท์เอาไว้เป็นเชิงขอร้องขอร้องไนท์
 
                    “ได้ซิ แอ้ ไนท์ชอบแอ้ ไนท์ไม่ทำร้ายคนที่ไนท์แอบรักหรอกครับ “ ไนท์พูดผมก็พยักหน้าขอบคุณเขา ผมหันเจอติ๊กและพายที่เดินลงมาแล้ว ติ๊กมองผมกับไนท์สลับกันไปมา

                    “แอบมาแจกชนมจีบแอ้อยู่นี้เอง” ติ๊กมันแซวผมกับไนท์

                    “ติ๊ก พี่กูโทรมาถามว่ากูจะกลับบ้านได้เลยไหม เพราะว่าพี่กูให้กูกลับไปกรอกเอกสารในการสมัครเข้าเรียนทหารแล้ววะติ๊ก  “ ผมพูดบอกติ๊ก

                    “มึงกลับก่อนก็ได้นะ เพราะว่ากูต้องไปกับพี่กูส่วนพายมันจะรอเจออาเปรมดิ์ที่นี้ด้วย “ ติ๊กบอกผมผมพยักหน้าและหันไปเก็บทุกอย่างเพื่อจะได้กลับบ้าน

                    “ให้รถที่โรงแรมไปส่งนะแอ้” ติ๊กบอกผม
         
                    “ไอ้ดิวมันยังไม่กลับวันนี้ใช่ป่ะ มึงบอกกูว่าพรุ่งนี้” ติ๊กมันถามผม ผมหันไปมองหน้ามัน ใช่ตามกำหนดการแต่นี้มันโทรมาบอกผมจะถึงแล้ว ผมเลยแค่ยิ้มให้มัน ผมก็ยอมรับว่าผมเองก็กันท่าดิวกับติ๊กเหมือนกัน ท่าผมบอกไป ติ๊กมันก็ต้องบอกให้ดิวมาหามันที่นี้ มันคงไม่ให้ผมอยู่กับดิวสองต่อสองแน่ๆ ผมเดินไปหยิบทุกอย่างใส่กระเป๋าเป้ และเดินลงไปเพื่อไปนั่งรถของโรงแรม
------------------------------------------------------
        Part ดิว เครื่องบินส่วนตัวที่บินยิงยาวรวดเดียวมาถึงที่สนามบินและผมกำลังนั่งรอรถที่จะขับพาผมไปส่งที่บ้านก่อน ส่วนพ่อผมว่าจะรอลุงกฤษณะที่ตามมาด้วยด้วยเครื่องบินส่วนตัวเห็นว่ามีเรื่องด่วน และตอนนี้เวลานี้ก็เย็นมากแล้วน่าจะเกือบห้าโมงเย็นพอดิบพอดี พ่อผมก็นั่งกับอาภีมคุยกันกะหนุงกะหนิง ผมแอบมองพ่อผมเป็นระยะ พอพ่อผมเงยหน้ามาก็หารอะไรปาใส่ผมทันที และที่ผมแอบมองเพราะว่ามันทำให้ผมแอบคิดไปถึงอนาคตของผมกับแอ้ ผมอยากเป็นเหมือนพ่อผมกับอาภีม ผมรู้ว่าพ่อผมก็ผ่านอะไรมาเยอะมากเหมือนกันกว่าจะได้อาภีมมาเป็นของพ่อผม และชีวิตรักของผมกับแอ้ก็อาจจะคล้ายๆกับอาภีมเช่นกัน โดยคนเดิมลุงหนึ่ง ที่เป็นคนขัดขวาง แต่เหตุผลอะไร แค่เพราะว่าต้องการให้ผมคู่กับบอยเหรอ ผมว่ามันน่าจะมีมากกว่านั้นอีก

         ข่าวซุบซิบดารา
                  นายแบบหนุ่มฮอท ไนท์ หรือทิชากร ที่กำลังมาแรงในขณะได้ แอบซุ่มดูแลหัวใจ ลูกชายนายทหารยศสูงสุด พลเอกภีมปภพ ที่ชื่อแอ้ มีคนแอบถ่ายภาพขณะกำลังป้อนน้ำหวานชื้นใจ ไม่รู้ว่าคนป้อนหรือน้ำหวานอันไหนจะหวานกว่ากัน

                  “ฟั๊ค!!” ผมสะบดออกมาดังลั่นไปหมด เมียผมมีชู้

                  “อะไรดิว” พ่อภาถามผมและอาภีมก็มองหน้าผม

                  “เมียมีชู้อ่ะพ่อ ดูดิ ไม่น่าไปกับพ่อเลย” ผมพูดขึ้นมาแต่ก็ทำเอาอาภีมหันมามองหน้าพ่อผม

                  “มันมีเมียแล้วเหรอพี่ภา” อาภีมหันไปถามผมพ่อผมทันที

                  “ผมมี…”ผมก็กำลังจะอ้าปากพูดว่าเมียผมก็ลูกชายอาไง

                  “เมียอะไร มึงไม่มีเมีย …ดิว!” พ่อผมพูด พี่คนขับรถมาถึงพอดี พี่เขาเดินลงมาเพื่อจะเปิดประตูให้ผม เพราะว่าผมไม่เดินขึ้นเข้าไปในรถซะทีคงคิวว่าต้องเปิดประตูให้ผมด้วยแน่ๆ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ครับ ผมกำลังหึงเมีย

                  “อายุยังน้อยมีเมียแล้วเหรอครับ รีบเหรอครับ” พี่เขาถามผมด้วยเช่นกัน พ่อผมขยิบตาและส่ายหัวให้ผม อาภีมก็มองหน้าพ่อผมกับผมสลับกันไปมา และพ่อก็ดันผมเข้าไปในรถ เพราะว่าอาภีมกำลังมีคำถามรอผมอยู่
                 
                  “กลับบ้าน และถ้ามึงจะไปวันเกิดลูกก็ได้นะ พ่อจะทำหนังสือให้มึงหยุดอีกวัน” พ่อผมพูดลอดไรฟันให้ผมได้ยิน

                  “ภีมเข้าไปรอพี่ณะด้านในกัน พี่ณะน่าจะลงเครื่องบินส่วนตัวแล้ว “พ่อผมบอกอาภีมและดันอาภีมกลับเข้าไปด้านในเช่นกัน รถที่ทำหน้าที่ไปส่งผมที่บ้านก็ออกทันที ผมเข้าไปดูแอ้ในแอพลิเคชั่นที่ใช้คุยกัน แอ้มันไม่ได้ออนไลน์ ว่าแต่หายไปไหนของเขานะ อยู่ห้องนอนหรือเปล่า แต่ผมเข้าไปดูเห็นพายโพสรูปว่ากำลังอยู่ที่โรงแรมกับพ่อ ส่วนติ๊กผมไม่รู้ ผมว่าแอ้ไม่น่าจะอยู่กับติ๊กแน่ๆ

                  ทันทีที่รถที่มาส่งผมที่บ้านเข้ามาจอด ผมก็ไม่ลืมขอบคุณคนขับรถ ก่อนจะเดินเข้าไปแต่ไม่ได้เข้าบ้านตัวเอง  ผมเองก็เดินมาหยุดและมองขึ้นไปที่ชั้นสองของบ้าน ผมจำได้ว่านั้นห้องนอนแอ้ ผมก็หยิบก้อนหินและผมก็เขียนใส่ในกระดาษพร้อมกับโยนขึ้นไปผมว่าแอ้อยู่ในห้อง ผมยืนเอามือล้วงกระเป๋า
                 
                  “ดิว” แอ้เปิดหน้าต่าง ผมทำมือลงมาเคลียร์เลย ลงมาข้างล่างเลย แอ้ก็ปิดหน้าต่างลง ตรงที่ผมยืนคือท้ายบ้าน ไม่นานแอ้ก็เดินลงมา แอ้สวมชุดกางเกงขาสั้น เสื้อยืดเข้ารูปสีแดงขับกับผิวขาวๆนั้น

                  “มีอะไรดิว เดี๋ยวพี่กูก็” แอ้รีบเอ่ยถามผมทันที ผมเองก็รีบเดินตรงเข้าไปหาแอ้และ

                  “หมับ” ผมจับแอ้ดันไว้ที่กำแพงบ้าน เอาแขนกันแอ้ไว้ แอ้มองหน้าผม ลมหายใจอุ่นๆของแอ้ลดใบหน้าของผม ใบหน้าเราอยู่ใกล้กันมากจนผมขยับริมฝีปากรอ

                  “เอื้อก!”เสียงแอ้กลืนน้ำลายดังเอื้อก มันทำให้ผมแอบกระหยิมยิ้มย่องนั้นแปลว่าแอ้ก็อยากจะจูบผมเช่นกัน

                  “ให้ใครป้อนน้ำหวานให้วันนี้แอ้” ผมถามแอ้

                  “ไอ้ไนท์ แต่มันไม่ได้ป้อนกู มันแค่หยิบมาให้กูดิว” แอ้พูด ผมก็โชว์มือถือ ให้ดูมันเหมือนทำท่าจะป้อนนะ
         
                  “กูรับมากินเองดิว “ แอ้บอกผมแต่ผมเชื่อทุกคำพูดที่แอ้พูด ผมก็เก็บมือลงไปในกระเป๋ากางเกง

                  “และมันก็รู้แล้ว่ากูกับมึงคบกันอยู่ แต่กูขอไอ้ไนท์ว้ว่าอย่าบอกเรื่องนี้กับติ๊ก “ แอ้บอกผม

                  “แต่รูปหลุดในนี้กูไม่รู้ใครทำ และมันก็เป็นภาพที่ถ่ายจากมุมที่มองเหมือนกับว่ามันจะป้อนกูแต่ไม่ใช่นะดิว “แอ้บอกผม ผมก็มองใบหน้าเนียนๆนั้น

                  “ต่อให้ไม่ใช่อย่างที่เขาโพสไว้ก็ตาม แต่ดิวก็จะทำโทษ” ผมพูดและผมก็ประกบปากแอ้

                  “ดิว …อาร์…. อย่าดิว ..อาร์ …พี่อ้นอยู่บ้านดิว” แอ้พยายามที่จะห้ามปรามผมแต่ผมก็ทั้งจูบและไซ้ไปตามซอกคอ

                  “คิดถึงอ่ะ ไปนอนห้องดิวไม่ได้เหรอ บอกพี่อ้นว่าไปทำการบ้านกัน นะ การบ้านเยอะ อยากทำการบ้าน “ ผมพูดและยิ่งไซ้หนักขึ้นเรื่อยๆ น้องหนูในกางเกงก็แข็งปังขึ้นมาทันที ผมว่าแอ้รู้สึกได้ว่ามันกำลังดันโคนขาแอ้อยู่

                  “ครูเขาไม่ได้ให้การบ้านไอ้ดิว” แอ้พูด

                  “ดิวนี่แหละจะให้การบ้านเอง ไปนะ ไม่ไหวแล้วอ่ะ จะแตกแล้วเนี๊ยะ” ผมพูดและเลิกเสื้อยืดแอ้ขึ้น

                  “ดิวไม่เอา เดี๋ยวพี่กูเห็น” แอ้ก็เอาดึงชายเสื้อลง ผมกำลังจะดูดสองจุดที่แปะไว้อยูแล้ว
   
                  “ไอ้แอ้! นั้นมึงหรือเปล่านะ “ ผมก็สะดุ้ง เสียงพี่อั๋น เรียกแอ้ ผมเงยหน้าขึ้นไปมองและแอ้ก็ดันผมออก พร้อมกับจัดการแต่งตัว ผมกำลังปลดตะขอกางเกงแอ้อยู่แล้ว

                  “ใช่พี่อั๋น มีอะไร”แอ้ถามพี่อั๋นและทำมือสั่งห้ามไม่ให้ผมพูดอะไรทั้งนั้น

                  “มึงนั้นและมีอะไร และมึงลงไปทำอะไรที่ตรงนั้น มันรกขนาดนั้นไอ้แอ้!” พี่อั๋นพูด แอ้ทำนิ้วไล่ผมออกไปก่อน
         
                  “ทำของตกลงมากำลังหาอยู่ และหาเจอแล้วด้วย” แอ้ตะโกนตอบไป ผมก็ต้องหมุดออกมาก่อน อีกใจก็แอบเสียดาย สงสัยผมจะได้ค้างแน่ๆคืนนี้ ยังไงก็ต้องหาเหตุผลให้แอ้ไปนอนค้างห้องผมให้ได้ 


ออฟไลน์ Lambosasha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
ไนท์คู่กะติ๊กเลยมะ 5555 มายังไง

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
   
(แอ้VSดิว)อยู่เป็นแมียและแม่ของลูกๆดิวนะแอ้ NC18+ ์
 

             Part's แอ้ ผมรีบเดินกลับเข้าบ้านทันที ก็ไอ้ตัวดีมันดันมาเรียกผมลงไปหาที่ด้านหลัง พอไอ้ดิวมาถึงก็แสดงบทรักที่หึงหวงผมกับไอ้ไนท์ทันที ไอ้นายแบบที่มันบอกว่ามันชอบผมวันนี้ แต่ความซวยใครไม่รู้แอบถ่ายคลิปผมกับไนท์ตอนที่กำลังส่งขวดน้ำหวานให้ผมแต่ในมุมนั้นมันเหมือนกับว่าเขาป้อนผมแล้วแต่ผมไม่ได้ให้มันป้อนสักหน่อย เลยทำให้ผมโดนดิวมันบดขยี้ริมฝีปากแม้จะไม่ได้ดิบเถื่อนซะทีเดียว ผมใช้นิ้วเรียวๆ ของผมแตะที่ริมฝีปากตัวเองเบาๆ ใจก็อยากจะหาเรื่องไปนอนกับดิวอยู่นะ แต่พี่อ้น พี่อั้ม พี่โอมอยู่บ้านซะด้วย ครบชุดขนาดนี้ แต่ถ้าพี่อ้นไม่อยู่ผมยังขอไปได้ พี่อั้มนะเขาเข้าใจผมที่สุด

   "พี่อ้น" ผมเดินออกมาก็เจอพี่อ้นที่ยืนกอดอกอยู่ พี่อ้นมองหน้าผมและมองช่องที่ผมเดินออกมา

   "มึงลงไปทำอะไรนะ ไอ้แอ้ กูบอกให้มึงดูทีวี และเตรียมตัวนอน "พี่อ้นถามผม ผมหันไปเห็นพี่โอมเลี้ยวรถเก๋งคันสีขาวเข้ามาป้ายแดงซะด้วย สงสัยพ่อถอยให้ใหม่แน่ๆ


   "เออ ของหล่นนะแอ้เลยลงมาหา เจอแล้วและกำลังจะขึ้นแล้วพี่อ้น"ผมพูด พี่อ้นเงยหน้ามองใช่มันไม่ได้ตรงกับห้องนอนผมเลย

   "มันหล่นมาไกลเนอะ ปามาเองหรือเปล่ามึง นี้นัดหนุ่มมาแอบคุยหรือเปล่าไอ้แอ้! "พี่อ้นพูด ทำเหมือนอยู่ในเหตุการณ์เลย เพราะน้องโดนหนุ่มที่ชื่อไอ้ดิวมันนัดมา

   "ไม่มีจะขึ้นแล้ว "พูดทำแก้มป่องเพื่อกลบเกลื่อนและทำท่าจะแทรกตัวขขึ้น

   "รีบขึ้นห้องเลย นั้นเสียงรถพ่อมาแล้วมึง"พี่อ้นพูดบอกผม พ่อกลับมาแล้วแต่ทำไมมาที่หลังไอ้ดิวก็ไม่รู้ ที่แน่ๆ ผมต้องรีบกลับขึ้นห้องก่อนเช่นกัน เดี๋ยวพ่อจะถามาเรื่องที่ผมโดนโพสลงโซเชียล เพราะว่าดันมีชื่อพ่อผมอยู่ในนั้น แต่แปลกนะพี่อ้นกลับไม่ถามผมสักคำ

   "ดิวไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ก็กลับไปเรียนแล้ว พรุ่งนี้แอ้จะนอนห้องดิวนะ ค่อยทำการบ้านแล้วกัน รักดิวนะ "ผมส่งข้อความเข้าเบอร์มือถือของดิวแอบสปอยด์ชวนดิวทำการบ้านด้วยแค่คิดก็เสียดายนิดๆ ผมยอมรับว่าตั้งแต่มีลูกกับดิว ผมมีอารมณ์อย่างว่าทุกครั้งที่ดิวพูดทะลึ้งกับผม และจู่ๆ ผมก็ได้ยินเสียงรถแล่นตามเข้ามาจอดอีกคัน แต่ผมคิดว่าอาจจะเป็นรถของพ่อภาแน่ๆ ตอนนี้ผมยืนอยู่ตรงบันไดว่าจะขึ้นห้องนอนผมอยู่แล้ว

   "ภีม บอกพี่ซิ ว่ามันยังไงกัน ตกลงแอ้กับดิวเขายังไงเขารักหรือไง"ผมสะดุ้งเสียงลุงหนึ่ง ลุงหนี่งมาบ้านพ่อผม เสียงที่ทำให้ผมสะดุ้งกลัวทุกครั้ง ไม่รู้ว่าทำไม ผมยืนนิ่ง เสียงนั้นกำลังตรงไปทีห้องทำงานของพ่อผม

   "ถ้าเขาจะรักกันภีมจะไม่ห้ามเลย "พ่อภีมพูด พ่อจะไม่ห้ามความรักของผมสองคนนี้ จริงเหรอที่พ่อจะไม่ห้ามผมสองคน ผมหันมองซ้ายและขวา ผมเองก็อยากจะรู้ ผมเลยเดินถอยหลังมายืน ผมเห็นลุงหนี่งจริงๆ ด้วยแม้จะเห็นแค่ด้านหลังผมก็พอจำได้กำลังยืนอยู่ในห้องทำงานของพ่อภีม

   "แต่พี่ห้าม"ลุงหนึ่งห้ามผมกับดิว แน่ละก็ดิวมันคือคนที่ถูกเลือกนี่

   "พี่จะมาห้ามทำไม แอ้เป็นลูกภีมแล้ว และพี่เองที่"พ่อภีมพูดแปลกๆ

   "ใช่พี่เองที่บอกให้ภีมอย่าเก็บแอ้ไว้ แอ้ผิดปกติ และนี้ใช่ว่าพี่ไม่รู้ระว่า ไอ้ภามันทำอะไรกับแอ้ แต่พี่กลัวภีมจะเดือดร้อน พี่ถึงได้ปล่อยให้มันเงียบ มาจนถึงตอนนี้ และพี่มีสิทธิ์ที่จะห้าม! :black"> “ลุงหนึ่งพูดบอกพ่อผมว่าเขาบอกไม่ให้เก็บผมเอาไว้ หรือว่าลุงหนี่งรู้เรื่องที่ผมมีลูกมดอยู่ในตัวผม แต่พ่อภาเคยบอกผมว่ามันมาที่หลัง และนี้ที่ทำให้ผมต้องถอยหลังออก

   “ผมรู้ว่าพี่ทนได้ แม้กระทั่งจะเห็นแอ้ ตายต่อหน้าพี่ ผมทำไม่ได้ และตอนนี้เขาเป็นลูกผม ผมมีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจให้เขา!! ” พ่อภีมขึ้นเสียงดังขึ้น ผมไม่เคยเห็นพ่อผมโกรธขนาดนี้ และต่อหน้าลุงหนึ่งแต่ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหล จริงๆ แล้วเขาไม่ได้อยากให้ผมอยู่ เขาอยากให้ผมตายเหรอ

   "ภีมรักษาแอ้จนหายแล้ว ภีมรักแอ้ ... เหมือนลูกภีม"พ่อผมพูดผมกำลังหัน ผมไม่ได้ยินประโยคหลังชัดเจนเท่าไหร่

   “ดังนั้นภีมคนเดียวที่มีสิทธิ์ในตอนนี้ พี่หนึ่ง”

   "แต่แอ้...เขาเป็น…."ผมสะดุ้งตกใจ

   "โคล้ม! "ผมชนอะไรบางอย่างล้ม พ่อวิ่งออกมาดู ตอนนี้น้ำตาผมไหลมามากมาย ผมเสียใจที่เขาบอกว่าไม่ได้ให้ผมอยู่แต่พ่อเลือกให้ผมอยู่ ให้ผมมีชีวิตอยู่ต่อ

   "แอ้ แอ้! ฟังพ่อก่อน"พ่อภีมและลุงหนึ่งที่มองผม ลุงหนึ่งตกใจเหมือนกัน แต่ผมไม่ควรอยู่ตรงนี้ ทำไม ผมผิดปกติมากจนเขาไม่อยากให้ผมมีชีวิตอยู่เลยเหรอ ผมวิ่งออกมา

   "แอ้วิ่งทำไม"พี่โอมถามผม ผมวิ่งมาเจอพี่โอมก่อนจะเข้าบ้าน

   "พี่โอม กุญแจรถละ"ผมถามพี่โอมพร้อมกับแบมือขอกุญแจรถ เพราะว่าผมเพิ่งจะเห็นพี่โอมขับรถเขามาหมาดๆ

   "น่ารักวะน้องกู วิ่งมาจะเอากุญแจจะเอาเก็บให้เอง นี้ไง ลูกรักเลยนะ เพิ่งถอยออกมา "พี่โอมพูดและผมคว้ากุญแจ และวิ่งออกไปทันที

   “ไอ้นี้ จะรีบวิ่งไปดูลูกรักกูเหรอ ดูแต่ตานะมึง อย่าสะกิดเดี๋ยวเป็นรอย “พี่โอมตระโกนตามหลังผมออกมาผมเห็น รถเก๋งฮอนด้า สีขาว รุ่นใหม่ล่าสุดเลย ผมรีบเข้าไปในรถพร้อมสตาร์ท ทันทีผมต้องออกไปจากตรงนี้

   "แอ้ จะไปไหน!! "พี่อ้นตะโกนผมไม่ได้ฟังอะไรทั้งนั้นผมเร่งเครื่องและขับออกไปเลย ผมรู้ว่าคงได้มีรอยยางไหม้ที่พื้นกันบ้างเพราะว่าผมเบิ้นเครื่องและออกตัวแบบเร็วที่สุดเพื่อให้ออกไปให้เร็วที่สุดเช่นกัน ผมไม่รู้ว่าผมจะขับไปไหนแต่น้ำตาผมไหลไม่หยุด ผมก็ปาดน้ำตาไปด้วย มือก็ประคองพวงมาลัยรถไปด้วย มือถือผมก็สั่นแต่ผมก็เลือกที่จะไม่กดรับมัน

   “ตกลงเขาไม่ได้อยากให้กูอยู่เหรอวะดิว ฮือๆ” ผมร้องไห้ไปด้วยและปาดน้ำตาไปด้วยและยังบังคับพวงมาลัยไปด้วย
-----------------------------------------------------------------------------
[ดิว]
   ผมจำใจเดินกลับบ้าน ผมอยากจะชวนแอ้มานอนค้างที่บ้านผมแต่ดูท่าแอ้ไม่ยอมมาแน่ๆ ถ้าพี่อ้นอยู่บ้าน ผมจูบแอ้เพราะผมหึงแต่ไม่เท่าที่ผมทำกับแอ้วันนั้นที่ผมหึงไอ้พี่ภาณุ ไอ้นี้แอ้ไม่สนใจมันหรอกผมรู้ ตอนนี้ผมเดินกลับมาที่บ้านผม ผมเห็นรถมาส่งพ่อผมเป็นรถเก๋งคันหรูที่มาจากโรงแรมของอาภาษญ์มาส่งพ่อผม ผมก็แอบคิดไหนพ่อบอกว่ามีเครสรอทำคลอดที่โรงพยาบาลไง

   “ดิว เห็นอาภีมมาหรือยัง” พ่อถามผมทันทีที่เจอหน้าผม ผมก็ส่ายหัวว่าไม่รู้ พ่อผมชะเง้อมองเหมือนมีอะไรสักอย่าง

   “มีอะไรเหรอพ่อ และไหนพ่อบอกว่ามีเครสรอคลอดไง”

   “กูโกหก เพื่อจะได้กลับ กูไม่อยากตอบคำถามเรื่องหลานลุงณะกับพ่อตามึงนะเพราะมันจะพาลมาถึงเรื่องของลูกตัวดีกูด้วยนี้ไง” พ่อผมพูด

   “ไอ้ดิวพ่อต้องไปบ้านอาภีมนะ มึงขึ้นบ้าน ลุงหนึ่งมาหาอาภีม” พ่อผมพูด ผมหันไปมองจริงด้วย

   “ดิว นั้นรถกระบะที่มึงอยากได้ พ่อซื้อให้แล้ว ขับดีดีละ “พ่อผมพูดและโยนกุญแจรถให้ผม ผมก็ยิ้มทันที จังหวะที่ผมกำลังหันหลังจะไปดูรถใหม่ที่พ่อถอยมาให้ เป็นรถกระบะโฟว์วีลสี่ประตู ผมเป็นคนชอบแบบลุยๆ

   "บรื้นๆๆ "เสียงรถที่เร่งออกไปอย่างรวดเร็ว ใครหนอรีบอะไรขนาดนั้น รถพี่โอมนี้ คงรีบไปโป่ง โป้งฉึ้ง กับเด็กๆ แน่ๆ หรือว่าพี่อ้นจะไปด้วยนะ เดี๋ยวดูรถก่อนแล้วขึ้นไปหาเรื่องชวนแอ้ลงมาดูรถใหม่ดีกว่าแต่ว่า

   "ไอ้แอ้มึงจะไปไหน!! "เสียงพี่อ้นถามแอ้ เฮ้ย! ที่เร่งออกไปนั้นแอ้เหรอ งามไส้! ปกติแอ้มันทำแบบนี้ ถ้าไม่มีเรื่อง ผมหันหลังกลับไปมอง พ่อก็หยุดชะงัก ส่วนผมวิ่งเข้าไปดูเห็นพี่โอมกับพี่อ้นยืนเถียงกันอยู่

   "ไอ้แอ้!! รถกรูเพิ่งถอยมาเมื่อวาน ขับแบบนี้คงได้เจิมแน่นอน ลูกรักของโอม พี่อ้น ดูน้องพี่ดิ "พี่โอมอีกคนแต่น้ำตาแถบไหลรถคันนั้นรถพี่โอม ผมวิ่งไปชะเง้อพ่อผมยืนมองอยู่และหันมามองผมพี่อ้นกับพี่โอมกำลังเอะอะโวยวายกันอยู่

   “กูเห็นแล้ว แล้วมึงให้กุญแจน้องไปทำไม “พี่อ้นหันมาบ่นพี่โอมอยู่อย่างนั้น

   "ดิวไปดูแอ้ มีอะไรแน่ๆ "พ่อหันมาพูดกับผมมองคนที่เดินออกมาลุงหนึ่ง ชัดเลย ผมรีบวิ่งไปที่รถที่พ่อเพิ่งจะโยนกุญแจมาให้ โดดขึ้นรถผมขับตามออกไปทันทีด้วยความเร็วที่ค่อนข้างสูงโชคดีที่ถนนเส้นนี้เป็นเส้นตรง ส่วนแอ้เองก็ขับเร็วมากเช่นกันแต่ผมคิดว่ารถใหม่ผมกำลังแรงม้าแรงกว่า ผมก็เร่งขึ้นมาจนผมตามแอ้ทัน เกือบร้อยหกสิบแล้วนะแอ้ผมคิดในใจ ผมแซงจนเทียบเท่าแอ้พยายามส่งสัญญาณบอกแอ้ ให้เบาลง ชะลอรถลงแต่แอ้ก็ไม่มอง ผมเลยเหยียบทะลุร้อยหกสิบเพื่อให้แซงรถแอ้ขึ้นไปและ พอพ้นผมหมุนพวงมาลัยเลี้ยว เพื่อขวาง ถ้าแอ้ชนก็โดนผมเต็มๆ แอ้เบรกสุดตัว

   “ฟู่!!! ” เส้นเอาผมพ่นลมหายใจออกจากปลายจมูกที่โด่งรั้นของผม “เอื้อก” ผมกลืนน้ำลายลงคอที่หันไปเห็นว่ารถผมกับรถแอ้มันใกล้กันมากจนเกือบจะชน ผมก็รีบกระโดดลงจากรถได้กลิ้นยางใหม้คุ้งไปหมด ผมไม่รอช้ารีบวิ่งไปเปิดประตูรถฝังคนขับ ผมกอดแอ้ แอ้ตัวสั่นไปหมด มือยังจับพวงมาลัยแน่น

   "ใจเย็นแอ้ ใจเย็น "ผมพูดและกอดแอ้ ผมรับรู้ถึงการเต้นหัวใจที่ดังจนแทบจะทะลุออกมาด้านนอก ผมค่อยๆ แกะมือแอ้ออกจากพวงมาลัย

   "แอ้ดิวจะเอารถเข้าข้างทางนะครับ "ผมพูดแอ้พยักหน้า ผมพาแอ้ลงจากรถและ พามานั่งที่รถผม ผมกลับเข้าไปเอารถเข้าจอดเข้าข้างทางที่ตรงไหล่ทาง

   "พี่อ้น ผมไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ตอนนี้ผมอยู่กับแอ้ ผมจะจอดรถไว้ทีไหล่ทางนะพี่ ผมจะพาแอ้ไปกับผม "ผมโทรหาพี่อ้นด้วยมือถือของแอ้ที่อยู่ในรถ

   "ได้ดิว พี่จะไปเอารถไอ้โอมเอง ป่านนี้มันนั่งร้องไห้ ห่วงรถใหม่มันแล้ว ดูแลไอ้แอ้น้องพี่ด้วยนะ ขอบใจว่ะดิว"พี่อ้นบอกผม น้ำเสียงของพี่อ้นดูเป็นห่วงแอ้มากกว่าทุกครั้งและยอมให้ผมพาแอ้ไปแต่โดยดี

   ผมหันไปเห็นรถที่แล่นมาพร้อมกับเปิดไฟกะพริบเพื่อเข้าจอดไหล่ทางรถคันนั้นคือรถของพี่ดิมพี่ชายผม ส่วนตัวผมเองก็รีบกลับไปขึ้นรถ  ผมก็หันกลับมองคนที่นั่งข้างๆ แอ้กุมมือไว้ด้วยกันแบบนี้แสดงว่าต้องเป็นเรื่องที่สะเทือนใจมากแต่ใครกันที่ทำแบบนี้กับแอ้ ผมเห็นแล้วก็เจ็บใจขึ้นมาทันที ผมก็รีบขับรถออกโดยไม่ได้ทักทายพี่ดิม ผมเห็นพี่อ้นลงมาจากรถพี่ดิมและตรงไปที่รถที่แอ้ขับออกมา

   ส่วนผมเองก็ขับรถออกมาและตรงไปที่คอนโดของผมทันที เป็นคอนโดของบ้านผมเอง พ่อซื้อเอาไว้ เพราะว่าใกล้กับโรงพยาบาลของพ่อผม สาขาที่กรุงเทพและเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ทำรายได้ดีติดอันดับต้นๆ ของโรงพยาบาลทั้งหมดที่พ่อผมมี แอ้เองก็นั่งเงียบไปตลอดทางเช่นกัน ผมเอื้อมมือขับไปจับมือแอ้ที่ประสานกันไว้และเอามากุมไว้ขณะที่ผมขับรถ ผมยังไม่กล้าถามอะไรแอ้มากในตอนนี้ ผมรู้สึกได้ว่ามือแอ้ยังสั่นอยู่ แสดงว่าไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แน่

   "แอ้ ถึงแล้ว"ผมหันไปบอกแอ้ ผมนำรถเข้ามาจอดได้สักพักแอ้ก็ยังคงนั่งนิ่งอยู่ แอ้หันมามองผม น้ำตาแอ้ไหล ผมเองก็ตกใจ เห็นแบบนี้แอ้ร้องไห้ยากมากนะถ้าไม่เจ็บปวดจริงๆ ผมปลอดเข็มขัดแอ้ออก

   “ใครทำอะไรแอ้บอกดิว แอ้” ผมถามแอ้ ผมเอาฝ่ามือแตะที่แก้มแอ้เบาๆ

   "ดิวเขาไม่ได้อยากให้กูอยู่ "แอ้พูดเสียงสั่นๆ ผมก็ต้องเลิกคิ้วสูง เพราะว่าผมไม่เข้าใจที่แอ้พูด

   “ใครแอ้ ใครไม่อยากให้แอ้อยู่ และนี่มันเรื่องอะไรกันแอ้ “ผมถามแอ้

   “เขาบอกว่าอันที่จริงเขาไม่ได้อยากให้แอ้อยู่ตั้งแต่แรกแล้วดิว ฮือๆ เขาอยากให้กูตายดิว แต่พ่อภาช่วยแอ้ไว้ดิว ฮือๆ” แอ้พูด มันทำให้ผมนึกขึ้นได้เรื่องที่แอ้จำเป็นต้องมีมดลูกและกลายเป็นเด็กผู้ชายท้องได้เพราะว่าแอ้ป่วยหนักมาก

   “หมับ” ผมกอดแอ้ไว้ ไม่รู้ว่านานแค่ไหน

   “ใครละแอ้ ที่พูดแบบนั้นแอ้ บอกดิวซิ” ผมพูดปลอบแอ้

   “ฮือๆ” แอ้ร้องไห้จนตัวสั่นโยน แสดงว่ามันหนักจริงๆ สำหรับแอ้ตอนนี้

   "แต่ดิวอยากให้แอ้อยู่ แอ้เราจะอยู่ด้วยกันนะแอ้ เพราะว่ามีครอบครัวที่น่ารักรอเราอยู่ "ผมกอดแอ้แน่นกว่าเดิมแอ้ก็กอดผมแน่นมากเช่นกัน แน่นจนไม่อยากจะปล่อยผมออก และคนที่ทำให้แอ้เสียใจแบบนี้ผมคิดว่าลุงหนึ่งแน่ๆ ผมก็กำหมัดแน่น ผมคงต้องปะทะกับเขาครั้งใหญ่แต่คงไม่ใช่ตอนนี้ เขาต้องมาพูดว่าเขาไม่ให้ผมเลือกแอ้แน่นอน แต่ผมไม่เข้าใจที่แอ้บอกผมว่าเขา ไม่ให้แอ้อยู่นั้นหมายถึงอะไร ทำไมอาภีมไม่ทำอะไรเลยแอ้ลูกอาภีมทั้งคนนะ

   "ขึ้นห้องกันดีกว่าแอ้ "ผมพูดผมพาร่างแอ้ขึ้นห้องพักผม รีบมาเลยไม่ได้คุยอะไรกับพ่อเลย พ่อบอกดูไว้ให้ผมแล้ว ถึงจะยากจะหนักผมจะทำ ผมพาแอ้มาที่ห้องตรงไปที่เตียง แอ้นั่งลงที่ข้างเตียงและผมก็นั่งลงข้างๆ เช่นกัน

   “คนที่พูดนั้นคือลุงหนึ่งใช่ไหมแอ้ บอกดิวเถอะ” ผมถามแอ้ ผมรู้ว่าแอ้ไม่อยากให้ผมดื้อกับลุงหนึ่งเพราะว่าแอ้กลัวว่าพ่อผมจะเดือดร้อน

   “แอ้บอกดิวซิ” ผมถามแอ้ แอ้ไม่ได้พูดไอ้แต่พยักหน้า ตอนนี้แอ้เหมือนเด็กน้อย เหมือนลูกของผมไม่มีผิดเพี้ยน

   "แอ้ ต่อให้ดิวจะต้องปะทะกับลุงหนึ่งดิวก็จะทำ แอ้ ดิวเลือกแอ้ หัวใจดิวเลือกแอ้ อย่าฟังใครว่าใครจะเลือกให้ดิวคู่ด้วย เพราะใจดิวเลือกแอ้ เท่านั้นและดิวก็เชื่อว่าลูกๆ ดิวเลือกแอ้เช่นกัน "ผมพูดกับแอ้ แอ้กอดผม ผมก้มลงจูบแอ้ แอ้ก็จูบผมตอบ แถมมือแอ้ที่ไล่ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตผม ไม่บ่อยเลยที่แอ้จะน่ารักกับผมแบบนี้ ผมค่อยๆ ดันให้แอ้เเอนหลังลงไปนอนราบลงบนที่นอน ผมก็รีบถอดเสื้อเชิ้ตและโดยทิ้งไปด้านข้าง ผมรีบก้มลงไปช่วยแอ้ถอดเสื้อผ้าออกและปลดกระดุมกางเกงและพากันถอดมันออกไป แอ้ก็น่ารักปลดกระดุมกางเกงยันของผมและรูดมันลงเพื่อผมจะได้ถอดมันออกไป

   "วันนี้น่ารักนะ ดิวชอบอ่ะ ชอบให้แอ้แสดงความเป็นตัวของตัวเองออกมา อยากก็บอกว่าอยาก ชอบก็บอกว่าชอบ อืมม "ผมกระซิบที่ข้างหูแอ้ และซุกไซ้ที่เบาพร้อมกับเม้มขบติ้งหูของแอ้ ผมรู้สึกว่ามันคงปลุกเร้าอารมณ์แอ้น่าดู แอ้ขยับส่ายไปมาปลายลิ้าแตะลิมฝีปากบนหลับตาพริ้ม

   “อะ….ดิว….. แอ้เสียว” แอ้พูดผมก็ชะงักมองแอ้ ผมชอบแอ้ตอนนี้มันดูน่ารักและยั่วอารมณ์ผมที่สุด

   “อืมม …อื้ม ….. อ้าห์ … ซี้ด …ดิว “แอ้ร้องครางเมื่อผมไล่ริมฝีปากไล่ลงไปจากแผ่นอกและไปยังหน้าท้อง ผมขบและเม้มแอ้ก็เด้งแอ่นสู้ผม

   “ดิว!!” แอ้เรียกผมเสียงหลงเมื่อผมไล่ขบไปจนถึงเนินเนื้ออ่อนเหนือโคกไปหน่อย แอ้แอ่นขึ้นและลงตามจังหวะการขบของผม ผมก็ยิ่งได้ใจทำต่อ เหมือนกับว่าผมกำลังทรมารคนที่นอนเบื้องล่างยังไงก็ไม่รู้

   “ดิว แอ้ เสียวทนไม่ไหวแล้วดิว” แอ้พูดพร้อมกับร่างที่เริ่มกระตุก

   "เร็วซิดิว ใส่ซะทีซิ แอ้ไม่ไหวแล้วอยากได้ ดิว!! "แอ้ร้องคราวและเร่งให้ผมสอดใส่เข้าในช่องทางรักได้แล้ว ผมก็ลุกขึ้น และมองแอ้ ผมยิ้มให้แอ้ ผมชอบแอ้ทำตัวน่ารักแบบนี้บนตียงแบบนี้เหลือเกิน และผมก็เดินไปที่โต๊ะเล็กๆ เพื่อหยิบถุงยางและเจล ของพวกนี้จะมีอยู่ประจำติดไว้ ผมจัดการสวมมันลงไปและระเรงด้วยเจลหล่อลื้น และผมก็กลับมาที่เตียง แอ้มองผมสายตามันยั่วยวนผมเอามากๆ แอ้ยกขาขึ้นตั้งเพื่อรอต้อนรับแกนกายของผมที่มันชูชัน พ่อยังพูดเลยว่าของผมโตเกินวัยไปมากทีเดียว ทำไมพอถึงรู้ได้เพราะว่าผมให้พ่อเก็บเชื่ออสุจิไปผสมตอนที่ผมอยากมีน้องมีน และน้องมีนก็คือสิ่งที่พิเศษของผมและแอ้ด้วย

   “มาซิดิว” แอ้เรียกร้องผมให้เข้าไปหาเขาสักที ผมก็ขึ้นไปและมองแอ้

   "ได้ผัวจัดให้ เมียขอมาขนาดนี้ ผัวจัดให้ถึงใจเลย"ผมพูดบอกแอ้ แอ้มองผมและยิ้มยั่วยวนมาให้ผมและผมก็แหวกขาแอ้ออกพร้อมกับค่อยๆ ดันส่วนนั้นเข้าไปช้าๆ แต่ก็ลื้นไหลได้ดีจนเข้าไปได้ครึ้งทาง ผมรู้ว่าแอ้ก็อึดอัดปนจุกๆ ผมก้มลงจูบแอ้ แอ้ก็จูบผมกลับ

   “ดิว แอ้รักดิวนะ แต่ไม่อยากทำร้ายดิว” แอ้พูดกับผม ผมมองแอ้ แอ้ไม่เคยพูดคำนี้กับผมเลย ผมยิ้มออกมามากที่สุด ผมดีใจที่สุดที่ได้ยินแบบนี้

   “แอ้ไม่เคยทำร้ายดิว ดิวรักแอ้ รักมากมากที่สุด ดิวรู้ว่าเราอายุยังน้อยและบางทีเหมือนดิวเห็นแก่ตัวแต่ดิวเชื่อว่าแอ้เกิดมาเพื่อดิวและลูกๆ ของดิว อยู่กับดิวนะแอ้ “ผมพูดและก็เริ่มขยับสะโพ้กเข้าออกแบบถี่ๆ แอ้ก็จับเอวผม พร้อมกับขับเพื่อให้ผมโยกเร็วขึ้น

   “ดิว จัดหนักๆ แอ้อยาก….ได้” แอ้บอกผมด้วยน้ำเสียงกระเซ้ามาก ฟังแล้วน้องผมก็ยิ่งแข็งขึ้น

   “ฮ่ะ” ผมร้องออกมาคือไม่เคยได้ยินแบบนี้เลยนะ

   “เร็วซิดิว แอ้อยากได้ “แอ้ยิ่งบีบเอวผมให้ผมซอยให้ถีขึ้น ผมก็ต้องสนองเมียหน่อย ถ้าพรุ่งนี้เอวเคล็ดนี้ไม่ต้องโทษใครเลยนะ

   “ปัก! ปํก! ปัก!” แบบเน้นๆ ขนาดนี้ผมไม่รู้ว่าหนักพอไหม และผมก็พลิกแอ้ให้ขั้นบ้าง เพื่อว่าแอ้จะคุมเกมส์มันเองและถึงใจกว่า แอ้ยิ้มให้ผมและแอ้ก็เริ่มโยก วันนี้เหมือนคนโดนยาเลยบอกตรงๆ มันเร่าร้อนมากแอ้ขึ้นลงแบบขึ้นเกือบหลุดและลงแบบสุด

   “ปึกๆ” เสียงดังแบบเน้นๆ จน

   “แอ้! “ผมเรียกแอ้และจับเอวแอ้ยั้งเอาไว้ก่อน

   “เบาๆ แอ้ เดี๋ยวหัก “ผมพูดบอกแอ้ เพราะเล่นขึ้นก็สุดลงก็สุดแบบนี้ โอกาสจะหักมีสูง แอ้ก้มลงมองผมและก็ค่อยๆ ขึ้นลงแบบเนิบๆ สีหน้าแอ้บอกได้ว่าแอ้มีความต้องการทางเพศมากกว่าทุกครั้ง ผมก็รู้สึกแปลกใจ แต่ผมก็นึกขึ้นมาได้พ่อเคยบอกผมไว้ ตอนนั้นผมและพ่อต้องการเก็บไข่ของแอ้เอาไปผสมเทียม พ่อบอกว่าสังเกตว่าแอ้จะไข่ตก ให้ดูจากวันไหนที่แอ้มีความต้องการทางเพศค่อนข้างสูง (อาจจะไม่เหมือนกันทุกคนแต่แอ้เป็นแบบนั้นจริงๆ) และผมก็พลิกแอ้ให้ไปอยู่ในท่าดอกกี้ แอ้เหลียวหลังมามองผม ผมเทพมากที่พลิกร่างแอ้โดยไม่ให้หลุดจากกัน และผมก็เด้งสวนเข้าออกอย่างต่อเนื่องแอ้ก็โยกแบบเด้งรับจังหวะเราเข้ากันเหมือนเล่นเพลงเดียวกัน ผมลากอ้มาที่ขอบเตียงเพื่อจะได้ซอยเน้นๆ ดูแล้วท่าซอยธรรมดาจะไม่ถึงใจเมียแน่วันนี้ เขาเรียกวันพิเศษของเมียจัดให้หนักๆ หน่อย โชคดีที่พ่อสั่งห้ามผม เพราะว่าแอ้ต้องไปทดสอบร่างกายพ่อห้ามผมหนักหนาว่าอย่าทำให้แอ้ท้องในช่วงนี้ ไม่อย่างนั้นผมคง ไม่สวมถุงหรอก อยากมีลูกกับแอ้หลายๆ คน

   “ดิว อ้าห์ “แอ้ร้องออกมา แอ้ก็กำลังสาวของตัวเองไปด้วย ผมก็รัวแบบถีๆ ไม่นานร่างผมกระตุกและนั้นก็แปลว่าผมสำเร็จแล้วแอ้น่าจะเช่นกัน ผมรับรู้ได้ว่าแอ้กระตุกเหมือนกัน แอ้ทิ้งตัวนอนแผ่ลงผมก็ค่อยถอนแกนกายออกช้าๆ ผมโถมตัวเองขึ้นไปค่อมร่างแอ้แต่ไม่ได้ทิ้งน้ำหนักลงทั้งหมด ผมจูบแอ้ที่แผ่นหลัง แอ้ผิวเนียนสวยมาก ผมว่าผู้หญิงก็ชิดซ้าย ยิ่งแอ้ได้กินฮอร์โมนสำหรับสร้างเอสโตรเจนสำหรับมดลูกด้วยแล้ว ผิวพรรณแอ้ยิ่งเปล่งปลั่ง

   “แอ้ ขอบคุณนะครับ วันนี้ดิวถึงใจที่สุด ดิวอยากให้แอ้แสดงออกแบบนี้ “ผมพูดกับแอ้ แอ้ก็มองผมและผมก็ค่อยจับมือแอ้ เราสองคนลุกขึ้นไปล้างเนื้อล้างตัวพร้อมกัน ถูสบูกันในห้องน้ำ กอดกันในห้องน้ำภายน้ำที่ไหลลงมารดตัวผมสองคน สักพักผมก็ออกมาแอ้สวมชุดนอนที่เอามาทิ้งไว้ แอ้มาค้างที่นี้กับผมบ่อยเมื่อก่อน

   “ดิว บอกพี่หมอด้าไว้หรือเปล่าว่าเราจะไปกันนะพรุ่งนี้” แอ้ถามผมขณะที่แอ้เดินกลับมาจากด้านนอก แอ้อุ่นนมมาให้ผมเหมือนเช่นทุกครั้ง ผมก็รับมาดื่ม

   “สงสัยพี่มึงจะมานอนที่นี้ดิว นมนี่เพิ่งจะซื้อมาใส่ตู้เย็นเอาไว้ “แอ้บอกผม

   “น่าจะอย่างนั้น ช่วงนี้พี่ๆ โดนพ่อส่งมาอบรบกันเยอะขึ้นนะแอ้” ผมพูดและผมก็กระดกรวดเดียวหมดแก้ว   

   “ขอบคุณนะครับ ฟ๊อด” ผมพูดและส่งแก้วนมคืนให้แอ้ พร้อมกับหอมแก้มเป็นรางวัลให้แอ้

   “ดิวไม่ได้บอกพี่ด้านะแอ้ว่าเราจะไป อันนี้เซอไพรส์” ผมพูดแอ้กํมองผมยกไหล่สูง แอ้เดินออกไป ไม่นานก็กลับเข้ามาและล้มตัวลงนอน ข้างๆ ผมแบบเบียดผม ผมก็หันมามองแอ้ สงสัยอยากกอดแน่ๆ ผมก็เลย วางหนังสือที่ใช้อ่านลงและโน้มตัวไปปิดไฟหัวเตียง

   “รู้ว่าอยากกอด รู้สึกเมียว้อนผัวน่าดูนะคืนนี้นะ” ผมกระซิบแอ้ก็กอดผมและซบลงที่แผ่นอกของผม ผมเองก็โอบตัวแอ้ไว้เอามือลูบที่หัวไหล่แอ้เบาๆ ไม่กี่นาทีคนข้างๆ ผมก็หลับสนิท สังเกตได้จากลมหายใจที่เข้าออกอย่างสมำเสมอ

   “อยู่เป็นเมียและแม่ของลูกให้ดิวนะแอ้ “ผมกระซิบกับคนที่หลับแล้ว ไม่รู้ว่าเขาจะได้ยินหรือไม่แต่ผมก็จะบอกเขาแบบนี้ทุกครั้ง


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-10-2020 19:32:20 โดย PFlove »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Lambosasha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1

พิเศษ พ่อก็รักกัน ความลับNC18+

Part’s พ่อภีมปภพ

           ผมไปเจอพี่หนึ่ง พี่หนึ่งบินตามพี่ณะมาติดๆเหมือนกัน พี่หนึ่งกับพี่ณะมีปากเสียงกันเรื่องเด็กหายทันทีที่เดินเข้ามา แต่ผมเองก็ไม่เข้าใจส่วนพี่ภูมิก็เข้าไปกันพี่ณะให้เย็นลงและพาพี่ณะออกไปทันที ผมเพิ่งเห็นพี่ณะโกรธพี่หนึ่งมากก็วันนี้เอง ส่วนผมเองก็ไม่อยากจะคุยเรื่องแอ้ผมเลยเพ่นกลับมาบ้านก่อนแต่ที่ไหนได้พี่หนึ่งตามผมาที่บ้านติดๆเช่นกัน พี่หนึ่งเริ่มระแคะระคายเรื่องแอ้กับดิวแล้ว ผมรู้ว่าเด็กเขารักกัน พี่ภาเป็นคนบอกผม ผมเองก็เห็นว่าดิวน่ะรู้สึกพิเศษกับแอ้มานานแล้วเลยไม่ขัดขวางตรงนี้ แต่นี้พี่หนึ่งจะมาขวางซะเอง ผมกับพี่หนึ่งพูดถึงอดีตของแอ้ และผมก็ไม่รู้ว่าแอ้มาแอบฟังอยู่ ผมวิ่งออกมาแอ้ก็วิ่งออกไปแล้ว 
          ผมกับพี่หนึ่งมองหน้ากัน ผมรู้ว่าพี่หนึ่งเสียใจที่แอ้ดันมาได้ยินที่พี่หนึ่งพูดเช่นกัน  ที่เขาพูดอกไปว่าไม่ได้อยากเก็บแอ้ไว้แต่ผมเข้าใจความหมายลึกๆเพราะว่าเขากลัวว่าแอ้จะต้องเจ็บปวดไปตลอดชีวิตในตอนนั้น ใช่ตอนเด็กแอ้ปวดหนักมากเกือบจะไม่รอด แต่พี่ภาช่วยแอ้ด้วยวิธีที่ผิดโดยการใช้ทางการแพทย์ที่ทำให้ผู้ชายท้องได้มาช่วยชีวิตแอ้ไว้ แต่พี่ภาไม่ได้ยืนยันว่าแอ้จะท้องได้แต่ตอนนี้ผมเริ่มจะเอะใจแล้ว

           “ พี่ขอโทษนะภีม” พี่หนี่งหันมาขอโทษผม

           “พี่ไม่น่าจะกลับมาพูดเรื่องนี้เลย เห็นไหมแอ้มันได้ยิน มันเสียใจไหมพี่หนึ่ง” ผมถามพี่หนึ่ง

           "ภีม"ผมหันไปมองพี่ภา ที่รีบเดินมาหาผม ในขณะที่ผมกำลังเดินออกไปพร้อมกับพี่หนึ่ง ผมคิดว่าพี่หนึ่งคงจะรีบกลับเลยเช่นกัน

           "พี่ภาแอ้ ขับรถออกไปแล้ว "ผมพูดเสียงผมสั้นเครือผมกลัวเหลือเกินว่าแอ้จะตัดสินใจทำอะไรลงไป

           "ดิวก็ขับตามแอ้ไปก่อนแล้ว พี่ว่าดิวน่าจะหยุดแอ้ได้ไม่มีอะไรหรอกภีมเชื่อพี่"พี่ภาเข้ามากอดผม มือผมสั่นไปหมด  พี่หนึ่งยืนมองผมกับพี่ภา พี่ภาหันไปมองหน้าพี่หนึ่ง

      “ดิม เขาเอารถออกไปแล้วภีมและพาอ้นขับตามไปด้วยน่ะภีม “พี่ภาพูด พี่ภามองหน้าผมและหันไปมองหน้าพี่หนึ่ง

           “งั้นพี่กลับเลยนะภีม “ พี่หนึ่งหันหน้าไปมองทางอื่นและทำท่าจะเดินออก พี่ภามองหน้าผมเหมือนจะมีคำถามว่าเรื่องที่เกิดมันมาจากใครกัน แต่ผมคิดว่าพี่ภาน่าจะเดาเองได้

           "พี่หนึ่ง ผมว่าพี่นี่ทำเกินไปแล้วน่ะ"พี่ภาแสดงอาการโกรธพี่หนึ่งขึ้นมาทันที และผมเองที่ต้องดึงพี่ภาเอาไว้ พี่หนึ่งหันมามองพี่ภาแต่ไม่พูดอะไร

           “พี่เลิกบงการชีวิตคนซะทีเถอะ ทุกคนมีชีวิตเป็นของตัวเอง เราแค่คนให้ชีวิตเขาไม่ใช้เจ้าของเขาพี่เข้าใจไหม” พี่ภาพูด พี่หนึ่งก็ยังคงไม่โต้ตอบอะไร

      “ฟู่!!!” เสียงลมหายที่พี่หนึ่งพรูออกมา

           “อย่าพี่ภา พี่ภา อย่า พี่ ภีมขอนะ ถึงยังไงพี่หนึ่งก็ดูแลเรามาน่ะพี่ภา ”ผมกอดพี่ภาณุเดชเอาไว้ ผมไม่เคยเห็นพี่ภาโกรธขนาดนี้เหมือนกัน พอผมพยายามที่จะห้ามพี่ภาก็พยายามที่จะระงับอารมณ์โกรธตัวเองไม่แพ้กัน พี่ภายืนให้ผมกอดเขานิ่งแบบนั้นสักพัก ส่วนพี่หนึ่งยืนมองผมกับพี่ภานิ่งจนไม่ยอมที่จะพูดอะไรเลย ก่อนที่พี่หนึ่งจะตัดสินใจเดินลงไปขึ้นรถในทันทีและรถคันนั้นก็แล่นออกไปอย่างรวดเร็วเช่นกันท่ามกลางสายตาของอ้นและดิมที่กลับเข้ามาพอดี ไอ้โอมลูกชายผมวิ่งออกไปและเข้าไปกอดรถที่ผมเพิ่งจะให้มันไปซื้อมามันขอรถคันใหม่ พี่ภาแตะแขนผมว่าเขาโอเคแล้วผมก็ถึงได้ปล่อยตัวพี่ภา ซึ่งปกติผมไม่กอดแบบนี้ต่อหน้าลูกๆผมเลย ไม่เคยเลย ลูกๆผมยังตกใจเลย แม้ว่าพวกเขาจะรับรู้สถานะของผมสองคนแล้วก็ตาม เรื่องสวีทกันโชว์ไม่มีแน่นอน  และนี่ก็ไม่รู้จะตกใจอะไรขนาดนั้นถึงได้พากันยืนอ้าปากค้างกันเป็นแถว ส่วนดิมก็ได้แต่ยืนเกาหัว

           "ภีม "พี่ภาณุเดชบีบมือผมเบาๆ นั้นคือคำตอบแปลว่าเขาโอเค

           "ไปพักที่โงแรมภาษญ์แล้วกันนะ บางที่เราอาจจะคุยกันกับพี่ณะพี่ว่าปัญหาของพวกลูกๆเรา เราคงต้องยื่นมือเข้าไปช่วย "พี่ภาพูดผมพยักหน้าเบาๆ
 
           "อั้มลุงดูแลพ่อเราเอง ขึ้นไปนอนกันเถอะ ดิมเอากุญแจรถมาให้พ่อ"พี่ภาบอกกับลูกๆผม แต่ละคนพยักหน้ารับทราบ พี่ภาเคยดูแลลูกๆผมตอนที่ผมป่วยหนัก ผมออกจากป่าก็ป่วยหนัก พี่ภาดูแลรักษาผมและดูแลลูกๆให้ผมด้วย ทำให้ลูกๆผมเคารพรักพี่ภาเหมือนพ่อคนหนึ่งเช่นกัน

             ตอนนี้พี่ภาพาผมไปนั่งในรถเบนซ์ของเขาและพี่ภาเองก็ขึ้นมานั่งด้านคนขับ พร้อมกับขับรถพาผมออกมา พี่ภากุมมือผมตลอดทาง ผมหันไปมองพี่ชายที่ไม่ใช่พี่น้องแท้ๆแต่เราโตมาด้วยกัน แถมพี่ชายคนนี้ก็รักและดูแลผม ถนอมผมและห่วงใยผมมาก แล้วผมไม่ควรจะรักเขาหรือ ผมรักเขามากเช่นกัน ความรักของผมกับพี่ภามันกระท้อนกระแท่นมาตั้งแต่เริ่มรักแล้วแต่ว่าตอนนี้มันก็ถึงจุดอิ่มตัวเรียบร้อยแล้ว ผมว่าเราสองคนก้าวข้ามคำว่าคู่รักไปนานแล้ว เรียกว่าคู่ชีวิตก็ได้นะ เพราะว่าผมคงจะอยู่กับเขาไปจนกว่ะจะหมดลมหายใจ

   
       Part’s นายแพทย์ภาณุเดช ผมขับพาคนที่ผมรัก นายทหารยศสูงสุดภีมปภพ กลับมาที่โรงแรมของภาษญ์ที่เป็นน้องชายสองของผม เพื่อจะได้มาตั้งหลักคุยกัน ก็เพราะพี่หนึ่งคนที่ทำหน้าที่ดูแลพวกผมแทนพ่อแม่ที่ถูกสังหาร พี่หนึ่งตามภีมไปที่บ้านและไปพูดเรื่องแอ้ ภีมบอกผมว่าแอ้เข้ามาได้ยินพอดี และแอ้ก็เสียใจมาก เลยขาดสติ ขับรถคันใหม่ป้ายแดงออกไป ด้วยความเร็ว และดีที่ผมให้ดิวขับตามไป ส่วนผมเองก็เกือบได้มีเรื่องกับพี่หนึ่งเช่นกัน ถ้าภีมไม่มากอดเพื่อห้ามผมเอาไว้  พอภีมทำแบบนี้แล้วผมก็ต้องหยุดเพื่อคนที่รักผม

                     “พี่ภา” ผมเดินมาเจอภาษญ์ น้องชายคนที่สี่ของผม เป็นพี่ชายภีมปหนึ่งปี ภาษญ์เดินมาหาผมสองคนทันที

                     “อ้าวทำไมกลับมาละ “ ภาษญ์ถามผม ผมหันไปมองภีมน้องชาย

                       “พี่หนึ่งตามมึงไปเหรอภีม” ภาษญ์ถามภีม ภีมพยักหน้าว่าใช่

                     “พี่ณะละ “ ผมถามภาษญ์น้องชายของผม

                     “อยู่บนห้องรับรองนะ ผมยังไม่รู้ว่าพี่ณะจะอยู่ค้างหรือว่ารอขึ้นเครื่องบินกลับไปเลย” ภาษญ์พูด ผมพยักหน้า และหันไปมองภีมที่ทำท่าจะถอนหายใจ

                     “พี่ภาขึ้นไปกับภีมก่อนแล้วกัน ผมจะโทรเช็คลูกๆผมก่อน” ภาษญ์พูดผมพยักหน้าและพากันขึ้นไป ชั้นที่เป็นห้องรับรองของพวกผม จะมีการ์ดดูแลอยางใกล้ชิด โรงแรมนี้จะค่อนข้างหรูแขกเหลือก็มีแต่ระดับผู้บริหารและนักธุรกิจที่ค่อนข้างมีฐานะ จึงจะเน้นความสงบเป็นอันดับหนึ่งเช่นพวกผมเหมือนกัน

                     “เชิญครับ” ผมเดินมาถึงห้องที่พี่ณะพักอยู่ การ์ดที่ทำหน้าที่ดูแลก็รูดการ์ดเปิดประตูให้ผมสองคนเข้าไป ผมเห็นพี่ณะนั่งอยู่ พร้อมแก้ววิสกี้ นี้ดื่มเหล้าเลยเหรอ ภูมิมองหน้าผมและแบมือว่าเขาก็ห้ามพี่ณะไม่ได้

                     “พี่ณะ” ผมเดินเข้าไปก็ดึงแก้ววิสกี้ออกจากมือ ผมรู้ว่าพี่ณะยังไม่ได้ดื่มจนเมาแต่ผมก็ว่ามันไม่ควรดื่มสำหรับพี่ณะ พี่ณะ สุขภาพไม่ค่อยดี ผมเลยสั่งห้ามพี่ณะดื่มพวกวิสกี้ พวกแอลกอฮอล์แรงๆ มาหลายปีแล้ว 

                     “ภูมิไปโทรหาแจ็คให้พี่หน่อย เช็คว่าเขาจะกลับกันวันไหนแน่ พี่เป็นห่วงบอย”" พี่ณะพูดบอกภูมิ ภูมิหันมาพยักหน้าและหันมามองหน้าผม

                     “อย่าให้พี่ณะดื่มอีกนะพี่ภา” ก่อนที่ภูมิจะเดินผ่านผมไปภูมิได้หันมามองหน้าผมและผมก็พยักว่าได้จะดูให้

                     “พี่ภา ผมขอไปรับสายอ้นก่อนนะพี่” ภีมบอกผม ผมก็พยักหน้าเช่นกัน ผมหันมามองพี่ณะที่นั่งอยู่ ตอนนี้ในห้องเหลือแค่ผมกับพี่ณะสองคน

                     “ตกลงใครพาหลานพี่ไป พี่ณะ” ผมหันมาถามพี่กฤษณะ

                     “พี่หนึ่ง พี่หนึ่งทำแบบนี้ได้ยังไง นั้นหลานพี่นะภา ต่อให้เป็นลูกไอ้แจ็คก็ตาม แต่ก็เป็นลูกบอยด้วย “ พี่ณะหันมาบอกผม ผมรับรู้ได้ว่าพี่ณะโมโหพี่หนึ่งอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนครั้งนี้ 

                     “พี่หนึ่งบอกว่าเขารู้ว่าแจ็คจะต้องขับรถตามเขาออกไปและเขาแค่อยากรู้ว่าแจ็คจะทำยังไง และ สิ่งที่พี่หนึ่งเห็นคือแจ็คมันลงไปช่วย “ พี่ณะพูด  ผมถึงกับแสดงสีหน้าตกใจ แต่นั้นมันก็เป็นสัญญาณที่ดี ก็เด็กนั้นลูกไอ้แจ็คมัน มันคือพ่อที่จะปกป้องลูกมัน แต่มันยังไม่รู้ก็แค่นั้น

                     “พี่ว่าพี่หนึ่งเริ่มระแคะระคายเรื่องแบงค์หลานพี่แล้วแหละภา” พี่ณะหันมาพูดกับผม

                     “ผมเองก็พูดเรื่องนี้ไม่ได้ ยิ่งต่อหน้าภีม พี่ณะ”ผมพูดขึ้น พี่กฤษณะหันมามองหน้าผม

                     “ผมกับพี่ก็ตกอยู่ในสถานะเดียวกัน คือกลืนไม่เข้าคายไม่ออก พี่ณะ แต่ผมคงต้องบอกภีมเร็วๆนี้” ผมพูดขึ้น

                     “นี่อย่าบอกนะว่า “ พี่กฤษณะหันมามองหน้าผม ถามผมด้วยน้ำเสียงที่ตกใจไม่ใช่น้อย

                     “ใช่ ผมมีเหมือนพี่นั้นแหละ มีหลานแล้ว ลูกไอ้ดิวมัน ไอ้ดิวมันถึงได้ขัดคำสั่งพี่หนึ่งไงพี่ณะ” ผมพูด พี่ณะหันมามองหน้าผมอย่างจริงจัง

                     “กับใคร” พี่ณะถามผม

                     “แอ้” ผมพูดบอกพี่ณะ

                     “ไหนเรามีแค่คนเดียวคือบอยไงภา” พี่ณะถามผม ผมหันไปมองที่ประตูเพื่อแน่ใจได้ว่าไม่มีใครเปิดเข้ามา

                     “ผมทำผิดกฎเพื่อช่วยรักษาชีวิตแอ้ พี่จำได้ไหมว่าแอ้เขาไม่สบายมากจนเกือบจะไม่รอด “ ผมพูดขึ้น

                     “นั้นแปลว่าแอ้ตั้งครรภ์ได้เหมือนบอยเหรอภา”

                     “ไม่เหมือนกัน แอ้เกิดจากการตัดต่อเชื่อมอวัยวะและมันเข้ากันได้ดี และผมก็ทำเพราะความจำเป็นพี่ภา ส่วนบอยนะเกิดจากการตกแต่งพันธุกรรม “ผมพูดบอกพี่กฤษณะ

                     “พี่อย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับภีมนะพี่ณะ “ ผมพูด พี่ณะพยักหน้ากับผม

                     “พี่เองก็กลัวพี่หนึ่งจะรู้เรื่องบอยเหมือนกัน ถ้าพี่หนึ่งรู้อีกว่าบอย ท้องไม่ได้อีกแล้ว โอ๊ยพี่ไม่อยากคิดเลยภา “พี่ณะพูดและทำท่าจะคว้าแก้ววิสกี้แต่ผมดันออก

                     “พอแล้วพี่ณะ” ผมพูดห้ามปราม

                     “ตอนนี้เขาก็ต้องการให้เราแต่งตั้งคนที่จะขึ้นตำแหน่งแล้วนะภาและเรื่องสืบเชื้อสายนั้นอีกละ “ พี่ณะพูด

                     “ถ้าแอ้ท้องได้ แล้วนี้ดิวกับแอ้เขามีกันกี่คนแล้วเนี๊ยะ”

                     “ห้าคนแล้วพี่ณะ”

                     “ห้าคนเลยเหรอ นั้นก็แสดงว่าแอ้ท้องได้เหมือนผู้หญิงปกติทั่วไปเลยนะซิภา” พี่ณะถามผม ผมพยักหน้าเบาๆ

                     “ถ้าอย่างนั้นก็ให้แอ้ขึ้นรับตำแหน่งไปเลย บอยเขาไม่อยากได้ตำแหน่งนี้ และพี่ก็ว่าพี่พอแล้วภา ดูบอยไม่มีความสุข พี่ทนเห็นลูกตัวต้องมาแบกอะไรแบบนี้ พี่ทนไม่ได้”พี่ณะพูด

                     “พี่ณะ เด็กห้าคนนี้เราเลือกที่จะมีเขาเพื่อมาดูแลองค์กรก็จริง พายนี้เขาเลือกดิเอ็นเอที่เรียกว่าเด็กอัฉริยะมาใส่ไว้มันไม่ตรงกับตำแหน่งผู้นำแน่นอน  ส่วนติ๊กนี้ตอนนี้ภาษญ์บอกว่าดื้อที่สุดเขามีความคิดเป็นของตัวเองไม่ยอมใครง่ายๆคิดว่าไม่ไหวที่จะให้ขึ้นแทน และแอ้นี้  พี่หนึ่งเขาประกาศเลยว่า ไม่ให้แอ้รับตำแหน่งเด็ดขาด แต่เหตุผลนะผมไม่รู้พี่ณะ” ผมพูด พี่ณะสะบัดหน้ามามองผม แบบไม่อยากจะเชื่อที่ผมพูด

                     “ทำไมละ ทำไมพี่หนี่งพูดแบบนั้นละภา “พี่กฤษณะถามผม

                     “อย่าถามผมเลยผมไม่รู้จริง ๆว่าทำไมพี่หนึ่งประกาศไม่ให้แอ้ขึ้น “ ผมบอกพี่ณะ

                     “คุณสมบัติผู้นำองค์มีแค่บอยเท่านั้นที่เหมาะสมที่สุด แต่ว่าเราจะมีแค่โอเมก้าไม่ได้ เราต้องมีอัลฟ่าทุกคนมองว่าบอยคือคนที่ตั้งครรภ์ได้ดังนั้นเขาจึงต้องหาอัลฟ่ามาคู่กับบอยจะเป็นบอยคนเดียวไม่ได้นี่ซิ “ ผมพูดกับพี่กฤษณะ พี่ณะก็ทำท่าคิดหนักทันที ผมรู้ว่าตำแหน่งนี้ใครก็ไม่อยากได้อึดอัดที่สุด มีความเป็นตัวเองน้อยมาก เพราะว่าถ้าขึ้นแล้วมีความเสียงอันตรายสูง มีคนอยากโคตรอำนาจอยู่หลายคนและถ้าขึ้นแล้วก็เรียกว่าผู้นำองค์กร แน่นอนอยู่เหนือพวกผมอีกต่างหาก 

                     “ถ้าอย่างนั้นก็มีทางเดียว ต้องทำให้แจ็คขึ้นรับตำแหน่งให้ได้แต่ดู ยังเกเรอยู่เลย จะไหวไหมละภาและนี้ดูท่าจะหัวดื้อสุดๆ  “ พี่ณะพูด ผมก็ทำมือให้ทำยังไงได้ละ


                       “ลูกแจ็คหลานพี่นะ ก็ดื้อเหมือนพ่อมันไม่มีผิดเพี้ยนเช่นกัน นี้พี่ต้องคอยปรามเอาไว้นะ” พี่กฤษณะพูดผมก็แอบยิ้มขำๆ ให้คุณปู่ ที่ถึงกับต้องแตะหน้าผากตัวเองทันทีที่พูดถึงหลาน
                     
                     “นี่ถ้าแจ็คไม่ได้เกิดจากผู้หญิงที่ภูมิไปมีอะไรด้วยและเกิดพล้าดท้องขึ้นมา แจ็คคงไม่มีปัญหาหรอกนะภา “ พี่ณะพูดผมพยักหน้าผมรู้เรื่อง ภูมิมันโดนวางยาและมีอะไรกับผู้หญิงที่เป็นลูกสาวคนเดียวของเศรษฐีที่ดูไบ และโชคดีที่อายุครรภ์ใกล้กันกับคนอื่น ๆก็เลยเลือกเกิดวันเดียวกันได้  และนี้ทำให้แจ็คไม่มีเลือดบริสุทธิ์อย่างที่เขาต้องการ ผลก็คือคนที่เขาเลือกเลยต้องเป็นไอ้ดิวลูกชายผม 

                     “มันไม่ใช่ความผิดของเด็ก เพราะว่าที่เราแพลนกันพวกเขายังไม่เกิด แต่พอเขาเกิดมาทุกคนมีความคิด มีความต้องการของตัวเอง เราเลี้ยงได้แค่ตัว เราเลี้ยงหัวใจเขาไม่ได้พี่ณะ “ ผมพูดพี่กฤษณะมองหน้าผม “ฟู่!! “ลมหายถูกพรั้งพรูออกมาจากปลายจมูกเรียวงามนั้น

                     “ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องแบบนี้พี่ภาษญ์ แต่ช่างมันเถอะยังไงมันก็แค่ข่าวซุบซิบ แอ้เขาไม่เป็นแบบนั้นหรอก”ผมต้องยุติการสนทนากับพี่ณะ เพราะว่าเสียงภีมกำลังคุยกับใครสักคนและกลับเข้าในห้องที่ผมนั่งอยู่กับพี่ณะ  ภีมเข้ามาพอดี และตามมาด้วยภูมิอีกคน

                     “บอยกับแจ็คจะขึ้นเครื่องมากันแล้วครับพี่ณะ เขากลับมาพร้อมกับหลุยส์และเพื่อนของบอยที่ชื่อธรรณ์นะครับพี่ณะ” ภูมิพูดและเข้ามานั่งข้างๆพี่กฤษณะในฐานะคนรัก

                     “ธรรณ์เขาเป็นเพื่อนกับบอยมาตั้งแต่เด็ก เขาเป็นเด็กดีพี่การันตีได้” พี่ณะพูด

                     “ภีมมีอะไรทำไมทำหน้าแบบนั้นละ” พี่กฤษณะหันถามภีม ผมก็หันไปมองเช่นกันและเลิกคิ้วสูง ก็เมื่อกี้ก็ยังโอเคอยู่เลยนะ

                     “ก็วันนี้แอ้เขามาเดินแบบกับติ๊ก แต่ดันมีนายแบบมาชอบ และก็มีคนแอบถ่ายรูปและนำไปโพสลงข่าวซุบซิบกันแถมยังระบุชื่อลูกชายพลเอกภีมปภพ งานเข้าไปไอ้ภีม”ภาษญ์พูด ผมก็มองภีม ถ้าอย่างนั้นตอนที่ไอ้ดิวมันสะบดออกมาว่าเมียมันมีชู้

                       “เปรมดิ์ไปไหนละ” ผมหันไปถามเพราะไม่เห็นน้องชายเกือบจะคนเล็กของผมจะว่าเป็นคนเล็กก็ได้นะเพราะเป้ไม่ใช่น้องชายพวกผมจริง ๆ แต่ผมรักและเลี้ยงดูเหมือนน้องแท้ๆ แถมมันก็เอาแต่ใจไม่แพ้น้องแท้ๆเลยจริง ๆแต่พวกผมก็ยอมจนไม่ไหวต้องส่งไปอยู่กับพี่สามและนั้นก็ได้เรื่อง โดยลูกชายพี่สามจับไปทำเมียซะเลย แต่ก็ดีมีคนดูแลพวกผมก็อุ่นใจ

                       “เปรมดิ์มันงานเข้านะพี่ แต่ไม่ได้บอกว่างานอะไรเข้านะ และมันก็รีบกลับไปกับพี่สี่แล้วก่อนที่พี่จะมาได้สักพัก ผมเลยโทรบอกติ๊กว่าให้มารับพายกลับไปด้วยพรุ่งนี้ “ ภาษญ์พูดขึ้น

                       “พวกเราพักที่นี้แล้วกันนะ พี่ณะกลับพรุ่งนี้เถอะ “ ภูมิมันบอกพี่ณะ พี่ณะก็หันมามองหน้าผม ผมก็พยักหน้าตามนั้นเพราะว่าพากันออกมาแล้วด้วย ผมหันไปพยักหน้าเรียกภีม ภีมก็ลุกตามผม เพื่อขึ้นไปยังห้องพักที่ภาษญ์จัดไว้ให้พวกผมพักกัน

                       “แต่ผมต้องกลับบ้านนะ พรุ่งนี้เช้าจะมาแต่เช้า “ ภาษญ์พูดผมพยักหน้าก่อนจะดึงแขนภีมปภพขึ้นไปบนห้องพักกับผม ต้องรีบเลยเพราะว่าต้องไปปลอบคนนี้อีก

                       “พี่ภา ไหนบอกว่าจะคุยกับพี่ณะไง”

                        “พี่คุยแล้ว” ผมพูดขณะที่เข้าไปในลิฟท์

                     “อ้าวแล้วทำไมไม่รอผมละพี่ภา” ภีมปภพถามผม ผมหันไปมองหน้า

                     “รอไปคุยกับพี่ดีกว่าไหม เพราะว่าเราต้องคุยกันแบบส่วนตัว” ผมกระซิบกับภีมปภพ ภีมหันมามองหน้าผม และหันหน้าหนีคุณหมอจอมหื่นทันที เขาคงเดาได้ทันทีว่าบทรักหนุ่มใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น
                     

                     “หื่นชะมัดเลย แล้วนี่ก็หลอกผมออกมาจากบ้านอีก “ ภีมปภพหันมาบ่นผมทันที ผมเดินมาจนถึงห้องพัก พี่ภีมเดินเข้าไปก่อน ผมปิดประตูลงและเข้าไปสวมกอดภีมจาดด้านหลัง

                     “พี่หนึ่งว่าอะไรภีมอีกไหมก่อนที่พี่จะเข้าไปนะ” ผมถามภีม น้องที่ผมรักมากจนข้ามคำว่าพี่น้องแม้จะไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือดก็ตาม

                     “ก็มีแค่เรื่องแอ้นะพี่ภา เราตัดสินใจผิดหรือเปล่าแต่ภีมทนไม่ได้ที่จะเห็นแอ้ “ ภีมหันมาบอกผม เขาคงคิดว่าเขาตัดสินใจผิดที่ให้ผมทำแบบนั้นกับแอ้

                     “ พี่เองที่เป็นหมอพี่ก็ทนไม่ได้ภีม ถึงภีมไม่ขอร้องพี่ พี่ก็จะทำ เพื่อช่วยแอ้เขาในวันนั้น” ผมพูดและโอบเอวบาง ๆของนายทหารติดยศสูงสุด โอบเอวเข้ามาหาผม

                     “อืมม” ผมประกบปากจูบภีมอย่างละมุล

                     “ตกลง ที่พี่ทำให้แอ้นั้นนะ  เออ มัน “ ผมก็มองหน้ามันอะไรเหรอ ผมปั่นหน้าได้นิ่งและไม่มีอาการใด ใจก็อยากบอกนะแต่ผมว่าต้องคุยกับแอ้และดิวก่อนจะดีกว่า

                     “อะไรเหรอภีม” ผมถามภีมปภพ

                     “อืมมม “ผมก็ประกบจูบริมฝีปากนั้นอย่างหนักหน่วงขึ้น ภีมก็โอบรอบคอผมไว้ ผมก็ดันภีมเดินถอยหลังไปเรื่อย ๆจนถึงห้องนอน พร้อมกับใช้เท้าดันประตูให้ปิดลง

                     “พี่ภา ดะ เดี๋ยว ผมจะ อืมมม” ภีมปภพร้องห้ามผม ผมจะหยุดทำไม หยุดภีมก็สักผมเรื่องแอ้ซิ บอกว่ายังบอกไม่ได้ ผมจัดการผลักภีมปภพลงไปนอนและผมก็ขึ้นไปค่อมร่างนั้นไว้ พร้อมกับซุกไซ้ไปตามลำคอ มือก็ปลดเครื่องแบบที่ภีมสวมใส่อยู่ ผมรู้ว่าภีมก็ต้องการเช่นกัน ภีมกระดกหัวขึ้นมามองผมและจัดการปลดกระดุมเสื้อผ้าผมเช่นกัน ผมก็สวมเครื่องแบบเช่นกัน วันนี้ไปในฐานะแพทย์ทหาร ผมลุกขึ้นมายืน ภีมก็ดันตัวเองขึ้นและปลดหัวเข็มขัดกางเกงเครื่องแบบของผมออก ผมก็ถอดมันออกไป พร้อมกับก้มลงถึงกางเกงเครื่องแบบของภีมออกไปเช่นกัน

                     “พี่ภา” ภีมกำลังจะเอ่ยปากถามผม แต่ผมทำนิ้วจุ๊ปาก

                     “อย่าเพิ่งพูดเรื่องเครียดๆตอนนี้ซิ เดี๋ยวน้องพี่หด” ผมกระซิบและโถมตัวเองลงไปผมจัดการจูบเรือนร่างของภีมปภพ ผมพรมจูบไปทั่วทุกอณุของร่างกาย ทั้งดูดและเม้ม ประสบการณ์ยอมรับว่าโชคโชน  ผมยอมรับว่าภีมไม่ได้อยู่กับผมตลอด ผมก็จะหาเด็กมาปรนเปรอบ้าง ดังนั้นถ้าลูกจะทำก็ไม่ว่าอะไรแต่ขอให้ป้องกันตัวเองดีดีก็พอ

                     “อืมมม พี่ภา “ พี่ครางออกมาเบาๆเมื่อผมเลื่อนลงไปถึงขอบกางเกงยางยืดนั้น ผมรู้ว่าภีมอยากให้ผมช่วย

                     “ให้พี่ทำให้ไหม”ผมถามคนที่นอนบิดตัวเองไปมา

                     “รออยู่ อย่าลีลาได้ไหมคุณหมอ” ภีมปภพกระดกหัวขึ้นมาบอกผม ผมก็หัวเราะเขาในลำคอก่อนจะฝังหน้าลงไปจัดการ และถอดปราการสุดท้ายออกไป

                     “โอ้วว พี่ภา โอ้วว ซี้ด อืมมม “ ภีมปภพกอดผมร่างกายก็บิดไปมาและเด้งขึ้นลงตามจังหวะการขบเม้มของผม และเขาก็เริ่มอยู่ไม่สุขเมื่อผมเริ่มใช้ปากกับสิ่งนั้น ภีมปภพมีแฟนเป็นผู้หญิง ช่วงที่เขากับผมเริ่มคบกัน เพื่อบังหน้าและผู้หญิงคนนั้นคือคนที่ภีมปภพขอให้อุ้มลูกให้เขาโดยใช้วิธีทางการแพทย์ของผม แต่เรื่องบนเตียงกับผู้หญิงคนนั้นผมรู้มาบ้างว่าภีมก็มีอะไรเหมือนเช่นแฟนกันทั่วไป และผมเองก็ยอมให้เขาทำ เพราะว่ามันกับทำให้เรื่องบนเตียงของผมและเขายิ่งมีรสชาติมากขึ้นเช่นกัน มันทำให้เราสองคนตอบสนองกันได้ดีขึ้น

                     “ถึงคิวพี่แล้วนะภีม ขึ้นนะ “ ผมกระซิบเมื่อภีมปภพสำเร็จไปแล้วหนึ่ง น้ำรักเต็มปากไปหมดเลย จนต้องแอบไปคายทิ้ง เยอะไปไหม และผมก็เดินกับมาหาภีม ผมก็นอนลงและภีมก็พลิกมาค่อมผมเอาไว้

                     “ไม่ใส่ถุงเหรอ”ภีมปภพถามผม ขณะที่ผมกำลังละเลงเจลที่ลงบนน้องรักของผม ห้องนี้เป็นห้องพิเศษที่ภาษญ์น้องรักของผมจัดไว้ให้ดังนั่นอุปกรณ์สำหรับบทรักจึงมีพร้อม

                     “ไม่ดีกว่าเพราะว่าพี่แขวนนวมไปหลายปีแล้วภีมก็รู้ พี่รอภีมคนเดียว”ผมบอกภีมปภพ ภีมเขาก็ยิ้มให้ผมอย่างผู้ชัย และภีมก็ค่อยกดช่องทางรักเพื่อครอบแกนกายผม ถึงอายุอานามจะเยอะแต่สิ่งนั้นก็ไม่ได้ล่วงโรยไปตามอายุ มันยิ่งผงาดสู้ศึกตลอดเวลา

                     “โอ้วว พี่ภา “ ภีมร้องออกมาเบาๆก่อนจะค่อยๆดันมันลงไปช้าๆและไม่นานก็หายเข้าไปจนหมดด้าม ภีมค่อยๆโยกเบาๆ พร้อมกับหรี่ตามองลงมาที่ผม มือที่ประสานกันไว้ ผมก็ดันตัวขึ้นจูบภีม เพื่อคุมเกมส์รักไม่ให้รีบร้อนเสร็จซะก่อน ภีมและผมบรรเลงเพลงรักที่นุ่มนวล ภีมเป็นคนไม่ชอบบทรักรุนแรง ผมเลยนอนให้ภีมจัดการเอง ควบคุมมันเองไม่นาน ร่างผมก็กระตุกและน้ำรักของผมก็พุ้งกระฉูดอยู่ภายในกายของภีม ภีมหยุดนิ่งและก้มลงมาจูบผม ก่อนจะถอนตัวเองลงมานอนข้างๆผม ผมก็โอบไหล่ภีมเข้ามาหาอกผม ผมหันไปมองภีมปภพ เขายังคงเป็นน้องที่น่ารักน่าถนอมของผมไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน เลยไปครึ้งชีวิตได้แล้วแต่ภีมก็ยังคงเป็นเด็กน้อยของผมอยู่ดี ถึงแม้ภีมจะห่างกับผมแค่สามปีก็ตาม

                     “ภีม พร้อมจะอยู่กับพี่หรือยัง” ผมหันไปกระซิบถามภีมปภพ

                     “นี้ยังเรียกว่าไม่พร้อมอีกเหรอพี่ภา ” ภีมปภพหันมาถามผมกลับ ผมก็จับมือภีมมาไว้บนหน้าอกของผม

                     “อยากอยู่ด้วยกันทุกวัน” ผมพูดและกุมมือภีมมาหอมเสียงดัง “ฟ๊อด”   

                       “แบบสามีภรรยาไปเลยนะ ภีม” ผมบอกภีมปภพ

                     “พี่พร้อมหรือยังละ มาถามผม ถ้าพี่พร้อมก็ควรจะ”ภีมพลิกตัวขึ้นมามามองหน้าผม

                     “จริงนะ ถ้าพี่พร้อมเราจะอยู่กับพี่ใช่ไหมภีม”ผมถามภีมกลับ พร้อมรอยยิ้มที่เจ้าเหล่สงไปให้

                     “พร้อมเมื่อไหร่ก็บอกผมแล้วกัน แต่อย่าให้รอนานนนะ ไม่อย่างนั้นผมจะไปอยู่กับพี่หนึ่งอีก ไม่กลับมาแล้วด้วย ผมพูดจริงไม่ได้ขู่นะพี่ภา ” ภีมปภพพูดบอกผม ผมเข้าใจความหมายดีนั้นแปลว่าเขาเริ่มระแคะระคายเรื่องหลานๆ ลูกของแอ้กับดิวมาแล้วแต่ภีมเขาไม่ถามผมตรง ๆ  เขาคงรอเมื่อพร้อมที่จะบอกเขานั้นเอง แถมขู่ผมมาแบบนี้ เฮ้อ! ไม่ได้ซิ ผมต้องคุยกับไอ้ลูกดิวแล้วซิ ให้มันบอกพ่อตามันไปเถอะ ไม่อย่างนัน คนนี้ขู่จะไปอยู่กับพี่หนึ่ง ไปช่วยงานพี่หนึ่งอีก ผมตายแน่
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คนแต่งหวังว่าจะไม่งงกันนะคะ ถ้าจะมีพิเศษพ่อมาแทรกบ้าง ฝากไว้เป็นกำลังใจให้คนแต่งด้วยนะคะ


ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
   
(ติ๊ก) แอ้มึงโกหกอีกแล้ว

             Part ติ๊ก   เมื่อคืนแอ้มันส่งข้อความหาผม มันบอกผมว่ามันจะนอนคอนโดแทนและพี่ชายของแอ้มันจะไปส่งเอง และมันก็ไม่กลับไปพร้อมกับผม  และผมก็รู้ว่ามีเรื่องที่บ้านของบอย แต่เรื่องอะไรผมไม่สนใจหรอก ผมสนแค่ว่าดิวมันกลับมาก่อน อันที่จริงมันต้องมาถึงพรุ่งนี้ และผมก็คิดว่าแอ้รู้แต่มันไม่บอกผม มันน่าเจ็บใจหนัก และผมก็เดินไปที่บ้านแอ้มันทันทีทั้งที่รู้ว่ามันไม่อยู่ ก็เพราะว่าผมอยากรู้ว่ามันไปนอนที่ไหนกันแน่
 
            "สวัสดีครับพี่เอส"ผมเดินออกมาเจอพี่เอสเดินงัวเงียออกมาจากรถแต่เช้า แสดงว่าไปซ่ามาแน่ๆและเพิ่งจะกลับมาด้วย 

           "สวัสดีครับน้องติ๊ก รอแอ้มันเหรอครับ"พี่เอสถามผมด้วยอาการสลืมสลือ

           "เปล่าครับแอ้มันนอนคอนโดมันแต่ผมแค่เดินผ่านมาเพื่อว่ามันจะเปลี่ยนใจกลับมาบ้านและจะได้กลับไปที่ที่เราต้องไปติดคุกด้วยกัน "ผมตอบพี่เอสไปผมแทนเลยว่ามันเหมือนคุก  พี่เอสเลิกคิ้วมองหน้าผม

           "จริงดิ แต่พี่ไปนอนคอนโดมานะ แต่พี่ไม่เห็นแม้แต่เงามันเลย สงสัยไปfu**ingกับหนุ่มที่ไหนแน่เลย น้องพี่ย่อมเหมือนพี่ "ผมเงียบเลยมันโกหกผมอีกแล้วไอ้แอ้และคงไม่ต้องถามหรอกว่านอนที่ไหน คอนโดไอ้ดิว (แอบคิดในใจถ้าพี่เอสรู้ว่ามันโดนรุกไม่ได้รุกจะทำหน้ายังไงนะพี่บ้านอออ่าง)

           "งั้นพี่ขึ้นบ้านก่อนนะ ง่วง งวง "พี่เอสพูดและอ้าปากห้าว ไปนอนยังไงยังง่วง!

           "พี่ไปนอนคอนโดไอ้แอ้ ทำไมพี่ยังง่วงอีกอะ"ผมหันถามพี่เอส

           "เออ นอนน่ะนอน แต่มันนอนคนละแบบ และท่าเจอท่ายากนะ แน่นอนต่องไม่อยากจะนอน..."พี่เอสนี้มันนอนแบบไหนเนี๊ยะ จะบอกว่าตัวเองไป อิบ อิบ กับใครมาก็บอกมาเถอะ ผมทำท่าจะเดินกลับเพื่อไปรอพี่พัฒน์ที่รถดีกว่า ไอ้แอ้น่ะไอ้แอ้โกหกผมได้ คอยดูนะกลับนี้ผมคงได้เจอดีกับผมบ้าง

           "รู้จักท่ายากไหม ไม่รู้จักซิท่า ว่างๆะพาไปฝึก พี่มีเยอะ แบ่งปันกันได้"ไอ้พี่เอสพูด ผมมองพี่เอส แบบว่าทำไมอะ  ท่ายากอะไรของเขาผมหันมากอดอกมอง ผมคิดว่าคุยโวแบบนี้มีไม่กี่ท่าหรอกเอาเข้าจริงๆนะ
           
           "น้องกูไม่ต้องใช้ท่ายากหรอกมั้ง ไอ้เอส"พี่ตุ๊มายืนอยู่ข้างหลังผมตอนไหนก็ไม่รู้ 

           "อุ้ย พี่ตุ๊ สะ สะหวัดดีครับพี่"พี่เอสทักทายพี่ตุ๊ยกมือไหว้พี่ตุ๊ผมไม่ทันเลย

           "มึงจะเอาท่ายากอะไรมาเทรนน้องกู ไอ้ พลทหาร"พี่ตุ๊ถามพี่เอส ตั้งแต่พี่ตุ๊กับพี่อ้นพี่ดิมต่อยกันไม่มีใครกล้าแหยกับบ้านตอเต่าเลย

           "ท่ายาก เกี่ยวกับ การฝึกทหารเพื่อน้องติ๊กอยากเรียนรู้เป็นวิทยาทานนะครับพี่ตุ๊ "พี่เอส ผมหันไปมองพี่ตุ๊ ไม่เลยนะไม่ร้องขอ และหันมามองพี่เอส

           "คงไม่ต้องมั้ง เอส เพราะน้องกูนี้จบมา ก็เข้าเป็นผู้บริหารโรงแรมของพ่อกรู  หรือไม่ก็เป็นครูสองอย่างนี้ ไม่คงไม่จำเป็น! ต้องใช้ที่มึงว่าว่ะ เอส"พี่ตุ๊ พูดบอกพี่เอส

           "เฮอๆ ถ้าอย่างนั่นไม่เป็นไรครับ  เอสขอลาละพี่ กู้ดไนท์ เอ้ย! กู้ดมอนิ่งนะครับทุกคน "พี่เอสพูดและรีบรำลาพี่ตุ๊กับผมทันที

           "ดูท่าจะง่วงนอนนะมึงนี้ จะขึ้นไปนอนข้างบน หรือจะนอนตรงนี้ละ "พี่ตุ๊พูดและมองหน้าพี่เอส ผมก็ยิ้มให้ว่าเอาไง

           "อุ้ย! นอนบนบ้านดีกว่าพ่อเพิ่งซื้อเตียงให้ใหม่ เด่งดีนะ น่า..จะ.... "พี่เอสมีจะมาชวนผมอีกนะ
         
         "รีบขึ้นไป! เดี๋ยวเตียงมึงจะไม่ได้ใช้เตียงใหม่ที่อากูซื้อให้มึงเอส "พี่ตุ๊ดพูดก่อนจะทำท่าหันหลังเดินออกพร้อมกับยักไหล่ให้ผมเดินตามกลับบ้านไปด้วยกัน

           "งั้นไปนะพี่ตุ๊ อยากนอนเตียงใหม่ เดินทางให้สนุกนะน้องติ๊ก “พี่เอสพูดและยงบอกให้ผมเดินทางหให้สนุก ผมว่ากลับไปสนุกแน่น้องพี่นะ เพราะว่ามันโกหกผม

           "พี่เอสครับ” ผมเรียกพี่เอสไว้ขณะที่พี่ตุ๊เดินหันหลังออกไปแล้ว พี่เอสหันมามองหน้าผม ผมควักมือเรียกพี่เอาเข้ามา ผมก็เอามือป้องหูพี่เอส พี่เขาเงี่ยหูตั้งใจฟังทันที

           “ เออ ท่ายากนะ ผมมีหมดแล้วคงไม่ต้องฝึกแล้วพี่เอส "ผมกระซิบบอกพี่เอา มีเอสมองหน้าผม

           "แจ๋ว! "พี่เอสขึ้นบ้านไปโล้ด ผมเดินมารอขึ้นรถ ผมเดินทางไปกับพี่พัฒน์รอบนี้ พี่พัฒน์เอางานมาทำด้วยตลอดเลย(พี่พัฒน์คือใครจะมาในตอน เรื่องรักวุ่นวาย ของพี่ๆ)

           "พัฒน์งานบางงานแบ่งคนอื่นทำบ้าง "พี่ตุ๊บอกพี่พัฒน์

           "คนไหนละ พี่ตุ๊ ไปจะหมดแล้วที่อยู่ก็ล้นมือกันกันคนแล้วพี่ตุ๊"พี่พัฒน์หรือครูพัฒน์พูดกับพี่ตุ๊ ผมแอบขำเลยพี่ตุ๊ มองหน้าชี้นิ้วให้ผมหยุดหัวเราะ

           
           "โอเค นี้คอมเพลนพี่ใช่ไหมเนี๊ยะ "พี่ตุ๊พูดกับพี่พัฒน์ ผมก็เหลือบตามองแต่ไม่กล้ามองตรงๆเดี๋ยวพี่ตุ๊ไม่กล้าสวีทกับพี่พัฒน์โชว์พวกผม

           "เปล่าซะหน่อย "พี่พัฒน์พูดมีแอบค้อนพี่ตุ๊

           "ไม่นาน ครูที่จบใหม่พร้อมทำงานจะเดินทางไปเร็วๆนี้ อย่าทำหน้างอซิ มันเหมือนปลาทูแม่กลอง"พี่ตุ๊แซวพี่พัฒน์ พี่พัฒน์สะบัดหน้าหันไปมองพี่ตุ๊ทันที

           "คิก คิก คิก"ผมขำพี่ชายผม

           "มุขสมัยไหนนี้ "พี่พัฒน์พูด พี่พัฒน์ก็เปิดประตูเข้าไปนั่งทำหน้าที่คนขับส่วนผมก็เดินไปนั่งข้างพี่พัฒน์
 
           "ห้ามขับเร็ว เร็วได้ไม่เกิน 100  "พี่ตุ๊สั่งพี่พัฒน์ เร็วได้แค่ 100  แล้วจะถึงเมื่อไหร่ละเนี๊ยะ ผมหันไปมองพี่ตุ๊

           "ปกติพี่พัฒน์ก็ขับไม่เร็วอยู่แล้ว วิ่งจ๊อกกิ้งยังเร็วกว่าเลย"ผมพูดบอกพี่ตุ๊

           "อุ้ย! ติ๊กว่าพี่ขับช้าเป็นเต่าเหรอเรานิ"พี่พัฒน์หันมาทำท่าจะตีแขนผม

           "เพราะอย่างนี้ไง ถึงให้ออกแต่เช้ามีเวลา ลัลล่าในรถกันหลายชั่วโมง "พี่ตุ๊พูด อ้อ มิหน้าปลุกแต่เช้าตรู่เลย

           "ห้ามเปลี่ยนให้ติ๊กขับเด็ดขาดนะพัฒน์ เข้าใจไหม คุณครู ถ้าไม่เชื่อนะ"พี่ตุ๊สั่งพี่พัฒน์  ห้ามผมขับรถ เพราะว่าผมขับรถเร็ว ผมเคยชนคนเสียชีวิตด้วยแต่นั้นมันอุบัติเหตุ เขาข้ามถนนเร็วและครอบครัวผมก็ต้องรับผิดชอบดูแลครอบครัวเยื่อคนนั้นจนตอนนี้ เพราะว่าผมเป็นดาราแล้วไง เรื่องมันเลยใหญ่โต

           "ครูใหญ่จะทำโทษครูเล็กเหรอ"ผมถามพี่ตุ๊

           "ใช่ ครูใหญ่คนนี้จะทำโทษ…."พี่ตุ๊พูดลืมตัวแน่เลย พี่ตุ๊สะบัดหน้ามามองผม ที่แอบขำ พี่ตุ๊นี้ปากแข็งนะรักพี่พัฒน์ก็ไม่ยอมแสดงออกต่อหน้าพวกผมหรอก

           "เอานี้ไปได้แล้ว ทั้งคุณครูละลูกศิษย์เลยนะน่าจับตีก้นทั้งคู่"พี่ตุ๊ พี่พัฒน์สตาร์ทรถ พี่ตุ๊มองพี่พัฒน์ พี่พัฒน์ก็มองพี่ตุ๊

           "จะหอมแก้มก็หอม เขาไม่แอบดูหรอก"ผมพูพร้อมกับ หันหน้าไปทางอื่นแต่ว่าผมมีกระจกมองข้างที่ปรับมาให้เห็นได้ พวผมก็อยากให้ะตุ๊ลงเอยกับพี่พัฒน์ซะที  ผมรู้ว่าพี่ตุ๊กับพี่พัฒน์รักกันแต่ติดที่พี่พัฒน์เป็นลูกบุญธรรมของพ่อผม แต่ผมรู้มากกว่านั้น ผมรู้ว่าพี่ตุ๊กับพี่พัฒน์โป่งโป้งชึ้งกันแล้วและพวกผมก็แอบเซย์เยสกันดัง ดีใจ  แต่เราไม่เอามาพูดกันเพราะว่าพวกเราให้เกียรติพี่เราสองคน

           "ฟ๊อด! "เสียงดังเชียวพี่ตุ๊นี้ และพี่พัฒน์เลื่อนปิดกระจก และค่อยๆแล่นออกมาช้า ผมเห็นพี่พัฒน์เอาฝามือลูบแก้มตัวเองและอมยิ้มไปด้วย นั้นแปลว่าพี่พัฒน์เองก็รักพี่ตุ๊

           "เราไปรับพายกันใช่ไหม ติ๊ก"พี่พัฒน์หันถามผม ผมพยักหน้า เพราะว่าพ่อโทรมาบอกว่าอาเปรมด์งานเข้าให้ผมแวะไปรับพายด้วย พาไปด้วยกัน ผมก็รู้ว่าพายมันก็แอบชอบไอ้ดิวเหมือนกันและเพราะเหตุนี้หรือเปล่ามันเลยเริ่มจะไม่อยากเป็นหมอขึ้นมาซะเฉยๆ

           “ติ๊ก เป็นอะไรหรือเปล่า”พี่พัฒน์เห็นผมเงียบไป ผมหันไปยิ้มให้พี่พัฒน์พร้อมกับผมส่ายหน้าไปมาว่าผมไม่เห็นอะไร

           “พี่เอ๋ ยังป้อนงานให้เราอยู่ไหม อย่าหักโหมหนักติ๊ก “พี่พัฒน์พูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงผมแล้วอย่างนี้พวกผมจะไม่รักพี่พัฒน์ได้อย่างไร
 
           “ก็ไม่เยอะหรอกครับพี่พัฒน์ แต่ถ้าเยอะก็คงจะดี พี่พัฒน์ ติ๊กเบื่อที่จะเรียนที่นั้น “ผมพูดกับพี่พัฒน์

           “พี่ก็เข้าใจ เราอยากจะเข้ามหาลัย และมีเวลาทำนั้นทำนี้เยอะแยะ และที่นั้นแทบจะไม่มีอะไรสำหรับติ๊กเลย”พี่พัฒน์หันมาพูดกับผม ไม่ใช่หรอก ผมเบื่อที่ผมต้องทนเห็นแอ้กับดิวมันไม่เป็นเหมือนเดิมมันมีแค่กันและกันมากกว่ามีผมแล้วไง

           “แต่ ถ้าเราจะมองให้มันเป็นความสุข มันก็ทำได้นะ”พี่พัฒน์หันมาพูดกับผมอีก

           “พี่ชอบเหรอพี่พัฒน์”ผมถามพี่พัฒน์ ผมรู้ว่าพี่พัฒน์เข้าใจที่ผมถาม ผมไม่ได้หมายถึงโรงเรียนนั้นอย่างเดียว
           
           “เออ พี่”พี่พัฒน์ ทำท่าอึกอักที่จะพูด

           “พี่พัฒน์ รักพี่ตุ๊ ใช่ไหม และติ๊กเชื่อว่าพี่ตุ๊รักพี่พัฒน์เหมือนกัน “ผมพูดพี่พัฒน์หันมามองผมแว้ปหนึ่งและหันกลับไปมองถนนเบื้องหน้าต่อ

           "เมื่อไหร่พี่ตุ๊กับพี่พัฒน์จะ แฮปปี้แอนดิ้งซะที พี่ตุ๊จะเก็กไปไหนก็ไม่รู้ พวกผมนี้จะหมดความอดทนว่าจะคุยกับพี่ตุ๊กันอยู่แล้ว"ผมพูดกับพี่พัฒน์ พี่พัฒน์มองผม

           "เออ"พี่พัฒน์เงียบไปเลยที่นี้ พี่ตุ๊ก็เก็กอยู่นั้นแหละ พวกผมจะอกแตกตายกันอยู่แล้ว สงสารพี่พัฒน์

           "พี่พัฒน์น้อยใจไหม "ผมถามพี่พัฒน์ตรงๆ
           
           "ก็มีบ้างนะแต่ พี่เข้าใจพี่ตุ๊ นะติ๊ก"พี่พัฒน์หันมาบอกผม เห็นไหมพี่ตุ๊นิ

           “พี่พัฒน์คงเสียใจมากที่เห็น พี่ตุ๊ไปกับ พี่ขวัญตอนนั้น พวกผมสงสารพี่กันมากเลยนะ “ผมพูด แม้ว่าพี่ขวัญจะเสียไปแล้วก็ตาม ตอนนั้นพี่พัฒน์คงต้องทนเห็นคนที่ตัวเองรักไป เอาใจคนอื่นคือพี่ขวัญซึ้งเป็นเพื่อนสนิทของพี่พัฒน์ แต่พอเขาได้พี่ตุ๊เขากลับไม่พูดกับพี่พัฒน์เลย และพี่ตุ๊ก็เอาใจเขามากจนพวกผมนี้หมันไส้มาก แต่มันจบไปแล้ว โดยพี่ขวัญกระโดดตึกเสียชีวิต
 
           “ติ๊กรักพี่พัฒน์นะ พี่เหมือนพี่แท้ๆของติ๊ก “ผมพูด

           “พี่ก็รักติ๊กนะ เป็นห่วงเรานะ บางวันก็เห็นเราไม่มีความสุขเลย ติ๊ก อะไรที่ทำให้เราไม่มีความสุข โย้นมันทิ้งไปบ้างก็ได้นะ หึ!”พี่พัฒน์พูดตอนนี้พี่พัฒน์ขับรถเข้ามาจอดด้านหน้าโรงแรมแล้ว พายมันยืนรออยู่ มีหนุ่มล้ำยืนอยู่ไม่ไกลจากมัน ดูส่งสายตาให้พาย แต่ไอ้นี้มันไม่น่าไว้ใจ เห็นผมแบบนี้เป็นห่วงมันมากนะพายเนี๊ยะ
 
           “อีพาย ไปได้แล้ว ฮอร์โมนมึงนี้ทำงานตลอดเลยนะ”ผมเปิดกระจกแซว พายมันก็หันมายิ้มให้ผมและหันไปโบกมือให้คนข้างๆ
           
           “ไปก่อนนะ “พายบอกคนนั้น ไอ้คนนั้นดูท่าจะอยากได้เบอร์โทรพายมาก

           “เอาเบอร์พ่อน้องเขาไหม มีนะ พ่อน้องเขาเป็นนายทหารติดยศสูงสุดแค่นั้นเอง “ผมตระโกนถาม พี่คนนั้นทำท่าตกใจ รีบเดินเข้าไปด้านในทันทีโดนไม่รอเบอร์โทร
           
           “อีติ๊ก มึงสกัดกูอ่ะ เขาอุตสาห์ยืนฉีกยิ้มให้กูอยู่ตั้งนาน พี่พัฒน์ดูซิ”พายพูด

           “หึๆ พาย พี่ว่ามันยังไม่ถึงเวลานะ เรียนก่อนดีกว่าไหม “พี่พัฒน์หันมาพูดกับพาย และออกรถทันที พายมันนั่งเบาะหลัง ผมรู้ว่าพายมันจะเอาพวกบรรยายที่มันต้องอ่านมาฟัง
 
           “เป็นไงบ้างมึง” เมื่อวานลุงหนึ่งมาหาที่โรงแรมพ่อผมด้วยเห็นว่ามีปากเสียงกันกับลุงณะ ผมว่าพายมันน่าจะอยู่แหตุการณ์ ผมถามพาย แต่พายมันมองหน้าผม

           “เมื่อคืนนะเหรอ มีหนุ่มๆล่ำมาเพียบเลย ที่โรงแรมลุงภาษญ์ว่ะ เมื่อคืนเขาประกวดโดมอนแมน แก “อีพาย พูด ผมอยากจะเค้กกะโหลกมันจริง ๆ กูไม่ได้หมายถึงหนุ่มๆ  พายมันขยิบตาว่าไม่พูดตอนนี้ให้ผมฟัง

           “ทำไมมึงไม่โทรบอกกู “ผมแซวมันกลับ หันขวับมาเลย
 
           “นี้ใส่เสื้อกล้าม เห็นกล้ามแขนนี้แบบน่า…”พายมันพูดพี่พัฒน์ถึงกับมองผ่านกระตกมองหลัง

           “น่าจับตาดู” อีพาย เล่นเอาพัฒน์ต้องยกมือขึ้นทาบอก

           “และสวมกางเกงยีนส์ก็ฟิต! น่าดูมว๊าก”พายพูด

           “พอได้แล้ว อุ้ย! พี่ทนฟังไม่ได้ เราสองคนนี้ คุยอะไรกันเนี๊ยะ พี่ตุ๊มาได้ยิน โดนแน่ๆเลย”พี่พัฒน์ หันมาเอ็ดผมสองคนแบบไม่จริงจัง แต่ก็ทำให้ผมสองคนอดหัวเราะไม่ได้

           “ก็เลยต้องเม้ากันหลับหลังนี้ไงพี่พัฒน์”พายพูด

           “และเราสองคนนี้นะ จะทำให้พี่ใจแตกไปด้วยนะเนี๊ยะ”พี่พัฒน์ พูดเหล่มองผมสองคน ก่อนจะหันไปขับรถต่อ ผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูว่าแอ้มันส่งข้อความมาหาผมอีกไหม แต่ไม่มี ผมก็ไม่โทรนะจะดูซิว่ามันจะโทรมาหาผมบ้างหรือเปล่าวันนี้ หรือว่าเมื่อคืนมันกับดิวจัดกันจนลุกไม่ขึ้นกันแน่
           
           Pie = ทำไมหน้ามึงไม่รับแขกเลยว่ะ
           TKtik=แอ้มันโกหกกู
           Pie=โกหกมึงเรื่องไรว่ะ
           TKtik= เรื่องไอ้ดิวมันกลับก่อน และมันไปนอนที่ไหนก็ไม่รู้ กูว่ากับไอ้ดิว
           Pie =พอเถอะว่ะ มึง ให้มันรักกันเถอะ มึงรู้ไหมว่าทำไมมันไม่บอกมึง
           Pie = เพราะแอ้มันแคร์ความรู้สึกมึงว่ะ มึงเคยแคร์มันบ้างไหมว่ะ กูถามจริง
           TKtik = ตกลงมึงซ้ำกู!!
           ผมพิมพ์ข้อความและหันหลังไปมองพายมัน มันก็ส่ายหัวให้ผมและเก็บมือลงทันที ผมก็เหลือบมองหน้าพายมันผ่านกระจกมองหลัง แต่ก็ไม่พูดอะไรต่อ

           ผมนั่งเงียบไปจนถึงโรงแรมพ่อผม ผมบอกพี่พัฒน์ว่าจะนอนที่ห้องพักที่โรงแรมกัน ไม่กลับบ้าน ว่าจะลงไปหาอะไรดื่มกันซะหน่อย ผมน่ะลูกหลานเจ้าของไม่ต้องดูบัตรก็เข้าได้ แต่ถ้าพ่อรู้ก็จะโดนด่า ผมแค่บอกพนักงานว่าห้ามบอก ถ้าบอกจะได้รู้ว่าใครจะโดนหนัก เท่านั้นแหละเงียบกริบ

           “พรุ่งนี้จะไปเรียนกันยังไงละ” พี่พัฒน์ถามผม

           “ให้รถโรงแรมไปส่งครับพี่พัฒน์ “ ผมพูดและยักไหล่พาย พายมันก็เดินออกมา และพากันขึ้นห้องพัก โรงแรมผมมีแต่ชาวต่างชาติมาพัก แม้จะห่างไกลแหล่งท่องเทียวแต่เรามีรถบริการรับส่งและ
แรงแรมนี้มีเครือที่ต่างประเทศมากมาย ต่างชาติรู้จักดี บริการเลิศหรู แต่เท่าที่ผมทราบมี คนถือหุ่นอีกยี่สิบเปอร์เซนต์ เป็นคนพื้นที่และเป็นผู้มีอิทธิพล แต่มันก็แค่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์

           “เช็คอินครับ” ผมเดินตรงปที่หน้าเคาเตอร์

           “ค่ะ ขอเอกสารการbooking ด้วยค่ะ”

           “นี่ครับ” ผมพูดและส่งกระดาษที่ผมปรินซ์มาไว้ให้พนักงานดู ผมจองในนามของชื่อผม พนักงานเงยหน้ามองผมด้วยสีหน้าตกใจ

           “อัพเกรดให้นะคะ คุณติ๊ก” พนักงานแจ้งผม ผมพยักหน้าเขารู้ว่าผมคือใคร

           “เรียบร้อยแล้วค่ะ เดี๋ยวให้พนักงานเรานำกระเป๋าขึ้นไปที่ห้องพักให้นะคะ “

           “ขอบคุณครับ เออ ผมกับคุณพายจะลงมานั่งดื่มกันหน่อยช่วงเย็น น่าจะทุ่มหนึ่ง รบกวนดูโต๊ะที่ห่างไกลความวุ่นวายให้ผมหน่อยนะครับ แบบส่วนตัวยิ่งดี “ ผมบอกพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ก่อนจะหันไปพยักหน้าเรียกพายที่เอาแต่กดโทรศัพท์เล่น

           “มึงโทรบอกพวกนั้นป่ะว่ะว่าเราพักกันที่นี่” พายถามผม

           “ถ้าหมายถึงแอ้ กูไม่ได้บอกว่ะ ถ้ามันแคร์กูจริง มันโทรมาแล้วพาย “ ผมพูดและเดินเข้าไปในลิฟต์ ผมเข้าไปยืน ขณะที่ลิฟท์กำลังปิดลง จู่ ๆก็มีคนเดินเข้ามา เป็นชายหนุ่มหุ่นมาตรฐานชายไทย ถือกระเป๋าเป้เข้ามา กางเกงยีนส์ทันสมัยแต่ขาด ผมก็เหลือบตามองและเบ้ปากนิดๆ พายสะกิดผม

           “คุณหนูเชี้ยอะไรกูไม่แคร์ กูแค่อยากเรียนกับพวกไอ้ภาคิน กูก็ไม่แคร์ ถ้าไอ้ธงรบมันจะแท่งกูกลับเพราะว่ากูแท่งมันกูก็ไม่กลัว  ก็กูตั้งใจกลับมาเพราะกูอยากเจอมันอีก บร้าๆ ” ดูท่าไอ้นี่จะกินรังแตนมาแน่ๆ แต่ว่าไอ้นี้มันพูดถึงไอ้ภาคิน มันคงไม่บังเอิญซวยเป็นคนเดียวในห้องกับผมหรอกมั้ง มันบ่นคนในสายที่มันคุยด้วยอยู่ไปด้วย และนั้นมันถึงได้กดว่ามันจะลงชั้นไหนและพอถึงชั้นของมัน มันก็มัวแต่ก้มลงหยิบของและหนีบโทรศัพท์ไปด้วย ผมอยู่ใกล้เลยต้องกดลิฟต์ค้างเอาไว้ให้ มันเดินผ่านออกไปโดยไม่หันมามองหรือขอบใจสักคำ

   “ไม่มีใครสอนมารยาทให้หรือไงว่ะ “ ผมพูดตามหลัง ติ๊กมันสะบัดหน้ามามองผม ลิฟต์ยังไม่ทันปิด มันก็ชูนิ้วกลางให้ผม

   “ไอ้สัส!!”ของผมขึ้นง่ายแต่พายมันรีบคว้าแขนผมเอาไว้ และประตูลิฟต์มันปิดลงพอดี ผมหันมามองหน้าพาย ว่าห้ามผมทำไม

   “ที่ห้ามเพราะว่า มึงอาจจะหมอบคาตีนมันได้ ไอ้บ้า! มากันแค่สองคนทำเป็นซ่าห์ “ พายมันบ่นผม


           “กวนตีนชะมัดเลยวะ แม่งแต่งตัวก็ปอนมาก ” ผมพูดพร้อมกับเบ้ปาก ทันทีที่ลิฟต์เปิดตรงชั้นของผม ชั้นนี้วีไอพีทั้งชั้น คงไม่เจอคนอย่างมันแน่ๆ ผมเดินตรงไปยังห้องพักของผม  ผมก็วางกระเป๋าหลุยส์วิตตองลง และพายมันก็หยิบเอาแลปท๊อปขึ้นมา มันเรียนออนไลน์ พายมันเก่งเรียกว่าอัฉริยะ มาเกิดก็ว่าได้ เรียนรู้เร็ว มันจบมัธยมปลายนานแล้ว แต่ตอนนี้เขาต้องการให้มันเรียนหมอและสาขาโรคหัวใจด้วย ผมนั่งรอเวลาจะลงไปทานอาหารเย็นและไปหาที่นั่งดริ้งกัน ส่วนอีพายเขาก็ไปหาอาหารตามองพวกผู้ชายหล่อ บาร์เทนเดอร์แต่พายมันไม่เอาหรอกแค่มองกับหยอดเขาเล่นไปวันวัน   :L3: :L3:
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
         


ออฟไลน์ Lambosasha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
พายนี่สุด เอสกะติ๊ก มีไรป่าวน้า  :hao3:

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
(แอ้VSดิว)วันเกิดลูกP1


       แอ้VSดิว  แอ้เขาตื่นขึ้นมาก็ทำอาหารเช้าให้ผม เป็นไข่ม้วนที่ลูกผมชอบและผมก็ชอบด้วยเช่นกัน แอ้ชอบทำอาหารแบบเน้นโปรตีนให้ผมทาน เพราะว่าผมเน้นสร้างกล้ามเนื้ออยู่ตอนนี้ แต่จู่ๆ พี่เดฟกับพี่เอ็กซ์ก็ออกมาจากห้องนอนอีกห้องหนึ่ง ผมไม่รู้ว่าพี่เดฟกับพี่เอ็กซ์มากรุงเทพและยังพาเด็กมานอนที่คอนโดอีก ตอนแรกก็คิดว่าจะเป็นพี่ดิ๊บซะอีก แน่ละผมกับแอ้เพ่นออกมาแถบจะไม่ทันที

           “เป็นไงละไอ้ดิว ดีนะที่เดฟช่วยเอาไว้ไม่อย่างนั้นกูจะตอบคำถามพี่เอ็กซ์ยังไง”แอ้พูด ผมขับรถออกมาได้สักพักแล้ว

           “แอ้ เราต้องบอกพี่ๆแล้วนะ สงสารพี่ดิม กับพี่เดฟอ่ะ ที่ต้องโกหกเพื่อนซี่แบบนั้นตลอด

   “และเราปิดไปไม่ได้นานอยู่แล้ว ลูกเราโตขึ้นทุกวันแอ้” ผมพูดบอกแอ้ แอ้หันมามองหน้าผม

           “แอ้ ดิวเชื่อว่าหลานน่ารัก ลุงนะหลงหลานแน่ๆ เชื่อดิ” ผมพูด แอ้หันมามองผมอีกที

           “จะว่าไป ยังไม่ได้เปิดเครื่องเลยนะ และส่งข้อความหาไอ้ติ๊กอีก ป่านนี้มันไปตามหากูที่บ้านแล้ว” แอ้พูด ผมก็มองแอ้และยิ้มให้แอ้

           “ยิ้มอะไรดิว” แอ้เหลือบตาขึ้นมองผม

           “แอ้ ดิวส่งข้อความหาติ๊กให้แล้ว บอกว่าแอ้จะนอนคอนโดของแอ้” ผมบอกแอ้ แอ้หันมาทำหน้าตกใจ

           “จะขอบใจเหรอ” ผมถามแอ้
           
           “ดิว พี่เอสเขาเอากุญแจไป เขาจะไปนอนที่นั้น แอ้ได้ยิน พี่เอสบอกพี่อ้นอยู่” แอ้พูด ผมก็มอง เออ

           “คงไม่ซวยขนาดที่ติ๊กมันไปถามพี่เอสหรอกมั้งแอ้” ผมพูดขึ้น

           “ภาวนะขออย่าให้มันถามก็แล้วกัน “ แอ้พูดและหยิบมือถือขึ้นมากดเปิดดู มีข้อความเข้ามามากมาย แอ้ก็ไล่อ่านดู ผมก็หันไปมองแอ้

           “ว่าไงมีข้อความจากติ๊กไหมแอ้” ผมถามแอ้
           
           “ไม่มีอ่ะ แปลกน่ะ “ แอ้พูด

           “ช่างมันเถอะ ไม่มีก็ดีแล้ว ดิวไม่อยากให้ติ๊กมันว่าอะไรแอ้อีก “ ผมพูดขณะที่ผมกำลังขับรถไปที่ค่ายทหาร ผมกุมมือแอ้ไว้ตลอด

           “แอ้ ตอนเช้ามืดแอ้ฝันร้ายเหรอ ดิวเห็นแอ้ร้องไห้และกอดดิวแน่นมาก ดิวตกใจเลยอ่ะ” ผมหันไปถามแอ้ แอ้ก็มองผม

           “ฝันร้ายเหรอแอ้” ผมถามแอ้ แอ้ชอบนอนฝันร้ายตลอด

           “อืม”แอ้พยักหน้าเบาๆ 

           “ฝันว่าอะไรละ เห็นแอ้ฝันร้ายบ่อยมากเลย ดิวเป็นห่วง “ ผมพูด ตอนนี้ผมขับมาใกล้จะถึงค่ายฯทหารแล้ว ตอนนี้ก็เกือบจะห้าโมงเย็นแล้วด้วย กะว่าไปถึงก็ได้เวลาอาหารเย็นเลย

           “ฝันเหมือนเดิมอ่ะดิว “ แอ้พูดกับผม ผมหันไปมองพร้อมกับเลิกคิ้วสูง เหมือนเดิมนี้คือ

           “ที่บอกว่าฝันว่าแอ้สวมชุดตะเบงมานนะเหรอ และดิวก็ถือดาบแบบสงครามยุกต์บางระจันอีกแล้วเหรอแอ้” ผมถามแอ้ แอ้หันมามองหน้าผม ผมถึงกับเกาหัวแกร็ก

           “อย่าถามกูนะว่ากูดูหนังบางระจันก่อนนอนหรือเปล่า กูไม่ได้ดู ดิวแต่กูฝันอีกแล้วและรอบนี้ กูฝันว่า ลูกๆกูไปกันคนละทิศละทางเลย กูกลับคิดถึงแฝดวะดิว “ แอ้พูดผมหันมามอง

           “ไม่เอานะ สงสัยเมื่อวานแอ้คงกังวลเรื่องลุงหนึ่งนะเลยฝันเป็นตุเป็นตะไป “ ผมพูดตอนนี้รถผมเลี้ยวเข้ามาในบ้านเรียบร้อยแล้ว ผมยังไม่เห็นรถเก๋งของพ่อผมเข้ามาจอด ไม่รู้ว่าจะกลับมาไหม แต่เห็นรถพี่ๆผมจอดอยู่ พี่ดิมก็มาถึงแล้วเช่นกัน หรืออาจจะมาออกมาตั้งแต่เมื่อวานตอนกลางคืนก็เป็นได้

           “แล้วของของขวัญน้องมีนละดิว” แอ้ถามผม ผมหันมามองหน้าแอ้

           “ดิวเอาใส่ไว้ในรถพี่ดิมวันก่อนที่จะไปงานบ้านลุงณะ ลูกๆจะได้รู้ว่าเรามาไม่ได้”ผมพูด แอ้หันมามองหน้าผม

           “มึงแกล้งลูก” แอ้หันมาทำหน้าดุ

           “นิดนึง” ผมตอบแอ้ ผมเดินเข้าไปด้านในบ้านกันอย่างเงียบๆ ผมเห็นมีลูกโป้ง สีฟ้าแสดงถึงว่าวันนี้วันเกิดใครคนใดคนหนึ่ง แน่นอนต้องน้องมีนของผม วันเกิดครบหนึ่งขวบพอดี มีลูกบอลลูนเลขหนึ่งลอยอยู่

           “วันนี้พ่อแอ้พ่อดิวจะมาหรือเปล่าป้าด้า” เด็กน้อยถามพี่ชายของผมพี่หมอด้า

           “บอกอย่าเรียกป้าไง เรียกลุงด้าซิครับ”  พี่ด้าผมพูดตอนนี้กำลังจัดสถานที่เพื่อจะได้ฉลองวันเกิดลูกชายเกือบคนเล็กของผม

           “พี่ด้าอาหารเด็กน้อยให้จัดไว้ที่โต๊ะเด็กเลยไหม….. “ไอ้เดียร์น้องชายคนเล็กของผมตอนนี้มันแจกขนมจีบน้องชายเกือบคนเล็กของแอ้อยู่คือแอมอยู่ เดียร์มันหันมามองเจอผมกับแอ้ ที่เข้ายืนเงี่ยบๆอยู่ ผมทำนิ้วจุ๊ปากให้มันอย่าเพิ่งส่งเสียง

           “ป้าด้า วันเกิดพวกเราจะมีลูกโป้งอะเปล่า” มาริโอเจ้าหนูจังไหมถามพี่หมอด้าของผม

           “มีซิครับ” พี่หมอด้าพูด ผมก็เข้ามายืนใกล้เข้าไปอีก และหันมามองหน้าแอ้ แอ้ปิดปากขำลูกๆ ที่กำลังช่วยพี่ด้าผมวุ่นวายตกแต่งโต๊ะที่จะใช้วางพวกเค้กวันเกิดของน้องมีน

           “เอาละเด็กๆ เราไปรอทานอาหารกันดีกว่า คุณปู่ใกล้จะถึงแล้วครับ ส่วนคุณพ่อคงไม่ได้…” พี่หมอด้าพูดหันมาเจอผมสองคนยืนพ่อดีเลย

           “มา!” พี่หมอด้าก็ตกใจ  ผมสองคนยกมือไหว้พี่ด้าแต่ยังไม่สงเสียงเดี๋ยวลูกจะรู้ซะก่อน

           “อยากให้พ่อแอ้มา “ น้องไอซ์พูดแต่ไม่ได้หันมามองว่าผมยืนอยู่ข้างหลังเขา

           “แต่ลุงด้าว่าสงสัยพ่อจะมานะ” พี่หมอด้าด้าพูดและหันไปมองหลาน

           “งั้นลุงด้าไปเอาน้องมีนที่กำลังแต่งตัวอยู่บนบ้านมาก่อนแล้วกันนะ หลานๆ “ พี่หมอด้าพูดผมก็พยักหน้าเบาๆ ผมเดินเข้าไปด้านหลงแฝดของผม และ

           “อยากให้พ่อแอ้พ่อดิวมาเหรอครับ”ผมย่อตัวลงกระซิบถามเด็ก ๆจากด้านหลัง เด็ก ๆสะดุ้งและหันหลังมาพร้อมกัน

           “พ่อแอ้พ่อดิว!!”ทั้งสามคนส่งเสียงเรียกผมกับแอ้เสียงหลงเลยและพากันโผ่เข้าหาผมสองคน ผมก็กอดผมก็กอดมาริโอ้กอด ไอและไอซ์เข้าไปกอดแอ้

           “ขอน้องโอ้กอดพ่อแอ้ได้อะเปล่า” มาริโอ้ถามผมว่าจะขอไปกอดแอ้บ้าง

           “ได้ซิครับ แต่อย่ากอดนานนะ คนนั้นของพ่อ” ผมพูดและชี้ไปที่แอ้ ตอนนี้ไอซ์กับไอกอดอยู่ มาริโอ้อีกคน และผมก็กางแขนให้ไอซ์มากอดผมบ้าง ไอซ์ก็วิ่งจากแอ้มาหาผมและกอดผม

           “ฟ๊อด” หอมแก้มผมด้วย

           “ไอซ์คิดถึงพ่อดิวกับพ่อแอ้ที่สุด” ไอซ์พูด ผมหันไปมองไอ ที่ยืนอยู่ ผมสอนไอให้เขาเข้มแข็งเพื่อจะได้ปกป้องน้องๆแฝดของเขาได้และเขาก็ทำได้ดี ไอเป็นที่อึดอดทนที่สุดเหมือนผมไม่มีผิดเพี้ยนเลยก็ว่าได้

           “อยากกอดพ่อไหม”ผมถามไอ  “ครับ” ไอพยักหน้าตอบผมเบาๆ และตรงเข้ามากอดผมแต่อ้อมกอดของไอ นั้นดูแข็งแกร่ง ผมนี้ภูมิใจในตัวเขาจริงๆ ผมเงยหน้าขึ้นไปมองพี่ชายผม พี่ดิมอุ้มน้องมีนลงมาด้วยชุดที่น่ารักที่สุด มาในชุดวู้ดดี้ เรื่องทอยสตอรี่ และพี่ดรีมก็อุ้มมิ้น คนนี้สวมชุดบัสไรเบียร์แทน แต่แฝดผมทำไมเป็นเอเลี่ยนไปได้นะชุดนะ

           “กูว่าลูกแฝดมึงนะเอเลี่ยนเหมาะที่สุดว่ะ สามเอเลี่ยนของป้าหมอด้าเขา ”พี่ดรีมพูด และยังขำลูกแฝดผมอีกนะ

           “แน่ละ ทำเอาพี่ไม่กล้าไปร้านเบเกอรี่หลายอาทิตย์เลยแหละ ก็เล่นเรียกพี่ว่าป้าดังลั่นเลยอ่ะ “ พี่หมอด้าพูดและทำแก้มป่อง

           “สวัดดีครับพี่ดิม  พี่ดรีม “ แอ้ยกมือไหว้พี่ๆ ผมก็ยกมือไหว้เช่นกัน แอ้หันไปรับน้องมีนที่ดีดตัวมาก่อนเพื่อนเลยเขาอยากให้แอ้อุ้มเขาก่อนมิ้น

           “แฮปปี้เบิร์ดเดย์ครับ” แอ้พูดและผมก็เข้าไปกอดทับ

           “แฮปปี้เบิร์ดเดย์ครับ หนุ่มน้อยของพ่อ” ผมพูดและ “ฟ๊อด! “ เสียงหอมแก้มซ้ายขวาของผมกับแอ้  น้องมีนหน้าหวานมากเหมือนแอ้ตอนเด็ก ๆเลย พ่อบอกผม แต่แปลกนะไม่มีรูปแอ้ตอนเด็กให้ผมได้ดูเลยมีแต่ตอนที่โตแล้วและมาอยู่กับผมตอนนั้นก็น่าจะสี่ห้าขวบได้(มีนคือสิ่งพิเศษที่ผมสั่งทำขึ้นมา ผมไม่กล้าบอกแอ้ กลัวแอ้ด่าผม) 

           “ฮึกๆ” แต่อีกคนซิกอดอกทำท่าจะร้องไห้ คงคิดว่าผมสองคนลืมเขาแล้วแน่ๆ แอ้พยักหน้าให้ผมไปเอามิ้นมาอุ้ม ผมก็กางแขนเข้าไป รีบดันตัวเองออกแต่พี่ดิมแกล้งไม่ยอมปล่อยมาหาผม

           “เฮ้ย! พอเจอพ่อมันดันหน้าลุงทันทีเลยว่ะ” พี่ดิมพูดและผมก็ต้องรับมิ้นมาอุ้ม มิ้นหันไปเห็นมีนที่ออดอ้อนแอ้ มิ้นกางมือจะตีพี่มีน

           “อืมม” มีนส่ายหน้าหลบและเบี่ยงตัวให้แอ้หลบมิ้นทันที แสดงว่าตีพี่บ่อย แถมด้วยแฝดของผมพากันไปหลบหลังแอ้กันหมดเลย

           “เก๊ที่สุดเลยลูกเล็กมึงเนี๊ยะ”พี่ดรีมพูด  ผมก็มองมิ้นส่ายหัวว่าไม่เอาไม่น่ารัก

           “ไม่ ไม่ ไม่ “ พูดว่าไม่รัวๆเลยเขาบอกว่าเขาไม่ได้เก๊ ใครนะ

           “เอาละให้พ่อลูกเขากอดกันไปก่อน พวกพี่ไปจัดโต๊ะวะ พ่อโทรมาบอกว่าใกล้ถึงแล้ว และคงจะไปส่งอาภีมก่อน “พี่ดรีมพูด ผมพยักหน้าพี่ดรีมเดินเข้าไปพร้อมกับพี่ด้า ไปจัดโต๊ะรอ

           “ทำไมเพิ่งจะมาถึงกันว่ะ”พี่ดิมถามผมกับแอ้

           “แม้ก็จะว่ามาเย็นๆเซอไพรส์ลูกอะพี่ดิม” ผมพูด

           “เหรอ!!”พี่ดิมพูด

           “พี่อ้นละพี่ดิม” แอ้ถามหาพี่อ้น

           “ไปหาเมียมันไง เมียน้อยหมายเลขหนี่งมันมานะ วันก่อนไปตีกับเมียน้อยยังไม่ทันติดหมายเลขเลยฟาดเข้าเข้าไปดังหักต้องไปทำดั้งใหม่นะ “พี่ดิมพูดผมหันไปมองแอ้ที่ทำหน้าตกใจ

           “วันนี้วันเกิดใครเนี๊ยะ” เสียงที่ทำให้ผมสองคนต้องหันไปมอง พี่โดม ผมยังไม่เจอพี่โดมเลยตั้งแต่ต้องกลับไปเรียน

           “ พี่โดมหวัดดีครับ” แอ้หันไปยกมือไหว้พี่โดม พี่โดมมาด้วยชุดปลายเวท

           “หวัดดีครับแอ้ “พี่โดมทักแอ้และเข้ามา “ฟ๊อด” หอมแก้มมีนเสียงดังเชียว
           
           “ป๊าป! “พี่โดมเข้ามากอดผมที่ตบที่หลังดังสนั่นเชียว

           “ตบเบาๆก็ได้เดี๋ยวตายก่อน” ผมแซวพี่ชายผม

           “อะไรวะไอ้ว่าที่หมอทหารฟิตหน่อย” พี่โดมพูดและพี่โดมก็ก้มมองมิ้น มิ้นหันหน้าหนีพี่โดม พี่โดมก็ไล่มอง ไม่ยอมสบตาเลย หันหนีจนผมเองก็ต้องหมุนตาม ผมชี้ถามพี่โดม พี่โดมก็แบมือไม่รู้

           “ลูกมึงงอน มึงไม่กลับบ้านไอ้หมอโดม” พี่ดิมพูด ผมพยักหน้า

           “ไปเจอเด็กทีไหนอีกละมึง “

           “มันก็มีบ้าง คนไข้นะ เขาอยากให้ไปดูแล ข้อเท้าเจ็บ” พี่หมอโดมพูด ผมหันไปพยักเพยอกับแอ้

           “เหรอ!!” ผมกับพี่ดิมพร้อมกันทันที

           “หาลุงไหม” พี่โดมกางแขนแต่มิ้นส่ายหัว

           “เฮ้ย! งอนลุงจริงดิ ไม่ได้นอนด้วยกันคืนเดียวเอง “ พี่โดมพูด

           “นี้มิ้นนอนกับพี่เหรอ” ผมถามพี่โดม

           “มันไม่ได้นอนกับกูหรอกไอ้ดิว มันนอนคนเดียว เพราะว่ากูยกเตียงให้ลูกมึงทุกคืน ทุกวันนี้กูนอนที่นอนเสริมวะ “ พี่โดมพูด

           “ทำไมอะ” ผมถามพี่โดม

           “ทั้งดิ้นทั้งถีบขนาดนี้กูจะทนนอนได้ไงวะ ตัวแค่นี้ถีบกูนอนไม่ได้เลยอ่ะ”พี่โดมพูด ปนหัวเราะ
           
           “เร็วดิไอ้เดย์ กูกลัวไม่ทันกินเค้กหลานกู “เสียงพี่แดน ผมหันไปมองพี่แดน พี่เดย์และพี่ดิ๊บ เดินเข้ามาพร้อมกล่องของขวัญวันเกิดคนละกล่อง

                       “พี่แดน พี่เดย์ พี่ดิ๊บ หวัดดีครับ” ผมกับแอ้ยกมือไหว้พี่ชายอีกสามคนของผม แต่ละคนตรงเข้ามากอดและหอมหลานผมกันหมด ผมสองคนมองยืนมองและหันมามองหน้ากัน

                       “ถ้าพี่ๆของแอ้รู้ว่ามีหลานจะรักเขาเหมือนพี่ของดิวไหม” แอ้พูดขึ้นผมหันมามอง
           
                       “ดิวเชื่อว่ารักนะ แม้ว่าดูเหมือนอยากจะเตะเด็กซะมากกว่าแต่ดิวก็เชื่อว่า ลูกๆของดิวมีดีพอตัวที่จะทำให้ลุงๆบ้านอออ่างรักและหลงเลยแหละ” ผมพูดกับแอ้และมองหลานๆแฝดที่หัวเราะเพราะว่าโดนลุงๆพากันหอม

                       “แฮปปี้เบิร์ดเดย์ครับ ฟ๊อด”  พี่แดนตรงเข้ามาหอมมีน แอ้อุ้มอยู่

                       “แฮปปี้เบิร์ดเดย์ครับ ฟ๊อด” พี่เดย์อีกคนก็เข้ามาหอมมีน

                       “แฮปปี้เบิร์ดเดย์ครับ ฟ๊อด! ฟ๊อด! “ แต่คนหลังนี้พี่เดย์ ทำไมหอมสองที ผมเงยหน้ามอง ทั้งมีนและแอ้ที่เอามือลูบแก้มตัวเอง  นั้นแปลว่าพี่ดิ๊บมันหอมเมียผมด้วยครับ

                       “พี่ดิ๊บ บอกอย่าหอมเมียผมไง!!”

                       “ฝากไปให้แอร์ด้วยไง” พี่ดิ๊บพูด

                       “ทำไมมึงไม่ไปหอมเขาเองละวะ ไอ้เวร” พี่ดิมหันไปเม้ง แอ้มองหน้าผมทำหน้ายู่เลย

                       “คุณปู่” ลูกแฝดผมเรียกพ่อผมพร้อมเพียงกันและวิ่งไปหาทันที พ่อผมเดินเข้ามาพอดี ผมเห็นภาพลูกๆผมเข้าไปกอดพ่อผม มิ้นก็ยังกางแขนรอเลย เอนตัวไปด้วยจะไปหาปู่ ผมก็ต้องอุ้มไปแอ้ก็อุ้มมีนไปหาพ่อผมเช่นกัน

                       “ไงละ พ่อมาเซอไพรส์หรือไง ดูยิ้มดีใจกันใหญ่เลย” พ่อผมพูดแซวลูกๆผม

                       “สุขสันต์วันเกิดนะน้องมีน “ พ่อผมพูด

                       “ดิมไปเอาถุงของขวัญมาให้พ่อหน่อยในรถนะ” พ่อผมบอกพี่ดิม แอ้มองพ่อผมและยกมือไหว้พ่อผม

                       “อะไรที่แอ้ได้ยิน อย่าไปคิดมาก ทำทุกวันให้ดีแค่นี้พอแล้วแอ้ ภีมนะเขารักแอ้มากนะ เป็นห่วงเรามากจริงๆ “ พ่อผมพูดทำเอาแอ้ยืนน้ำตาซึมเลยแอ้เข้าไปกอดพ่อผม แต่ผมรู้ว่าคนที่แอ้อยากกอดมากที่สุดคืออาภีมในตอนนี้ ก็ผมสองคนไม่ได้บอกอาภีมว่าผมมาบ้านกัน มางานวันเกิดหลานของอาภีมพ่อตาผมด้วย ถ้ารู้คงได้แห่มากันหมดแน่ๆ ผมจะโดนตีนพี่อ้นเอา อันนี้แหละที่กลัวที่สุด เพราะว่าพี่ดิมบอกเอาไว้ว่าเรามีกฏ ใครเอาน้องต้องกระทืบเป็นบททดสอบของพี่ๆ ทำกัน แล้วผมจะกล้าบอกเหรอครับ

                       “พ่อแกล้งเมียผมทำไมอ่ะ”ผมแซวพ่อผมทันที

                       “ชิบหายแล้วกู นี่กูแกล้งเมียมึงเหรอครับดิว” พ่อผมพูด

                       “ พ่อจัดโต๊ะเสร็จแล้วงเราทานอาหารกันเลยไหม” พี่ด้าเดินเข้ามาถาม

                       “เอาซิ “ พ่อผมพูด และดันหลานๆ เดินเข้าไปด้านใน

                       “พ่อ” แอ้เรียกพ่อผมว่าพ่อ

                       “พ่อคิดว่าเราทั้งคู่น่าจะพร้อมบอกภีมเร็วๆนี้นะ แต่เขาเจอกันแล้วนะพ่อเรานะ วันก่อนแอบไปหาพ่อที่คาเฟ่คุณประภัสรา และโอ้เขาเจอ โอ้เขาเรียกย่า  “ พ่อบอกผมกับแอ้ ผมสองคนหันมามองหน้ากันตกใจเหมือนกัน 

                       “แต่เสียดายพ่อไม่ได้เห็นตอนที่ภีมเขาเจอนะ แต่พ่อเชื่อว่าภีมรักหลานแน่ๆ “ พ่อภาพูด ผมหันมามองหน้าแอ้

                       “ผมขอเวลาสักอาทิตย์สองอาทิตย์ได้ไหมพ่อ ขอให้ผมส่งใบสมัครสอบเข้าทหารก่อนครับพ่อภา” แอ้พูดบอกพ่อผม พ่อผมพยักหน้า

                       “ดิวละ ใบสมัครอยู่บนห้องแล้ว กรอกและจะได้ยื่นเลย “พ่อผมพูด

                       “พ่อดิวมันมันจะ”แอ้ทำท่าจะถามพ่อผม

                       “แพทย์ทหาร” พ่อผมพูดตอบแทนผมทันที

                       “ผมพร้อมแล้วพ่อ ที่จะไปทุกทีที่แอ้ไป” ผมพูดและหันไปมองแอ้

                       “ถ้าอย่างนั้นก็ดี เอาละไปทานอาหารกันดีกว่า ไอ้เดฟมันมาไม่ได้นะวันนี้ มันบอกเพื่อนมันตัวติดจนแงะไม่ออก ไอ้เอ็กซ์นะ ถ้ามามันคงร้องมาด้วย งานจะเข้าเอา หึ หึ  “ พ่อผมพูดพร้อมกับหัวเราะไปด้วย ผมก็เพิ่งจะเจอกันเมื่อเช้านี้เอง

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
                       
(แอ้VSดิว)วันเกิดลูกP2

                          ผมนั่งทานอาหารกันส่วนเด็กแฝดของผมพี่ตอนนี้เขามีโต๊ะอาหารเป็นของตัวเองเป็นโต๊ะสำหรับเด็ก เขานั่งทานกันเรียบร้อย น้องมีนยิ่งเรียบร้อยมา แต่มีอยู่แค่คนเดียว ที่ทำให้โต๊ะอาหารมีสีสันพี่ๆผมบอกว่า ต้องคอยหลบอาหารที่เหวี่ยงไปรอบ ๆ แต่แอ้นะดีคอยปรามวันนี้เลย เอาอยู่

                       “ชู้!!” แอ้ทำนิ้ว มิ้นถึงได้หยุดเหวี่ยงและพยายามตักอาหารใส่ปากเองอย่างระมัดระวัง ผมแปลกใจทำไมมิ้นฟังแอ้มากกว่าคนอื่น มิ้นค่อนข้างดื้อตรงที่มีความคิดเป็นของตัวเองสูง

                       “พ่อแอ้” มาริโอ้เดินมากระซิบกระซาบกับแอ้

                       “อะไรครับมาริโอ้”แอ้ก้มลงถามมาริโอ้

                       “@#$%@#$%” มาริโอ้เอามือป้องปากและกระซิบกับแอ้ถึงกับยิ้มและหันไปมองพ่อผมและหัวเราะเบา แต่มันก็ทำให้พวกผมเลิกคิ้วมองกันทั้งหมด

                       “ไปกินข้าวก่อนนะครับ “แอ้บอกมาริโอ้

                       “เราจะได้กินอ่ะเปล่า”

                       “ได้ครับ” แอ้บอกมาริโอ้ ส่วนผมก็เลิกคิ้วมองแอ้ว่ามาริโอ้พูดอะไรกับแอ้ แอ้รอให้มาริโอ้กลับไปนั่งทีซะก่อน

                       “โอ้เขาถามแอ้ว่าเขาจะได้กินเค้กไหม เขาว่าปู่สั่งห้ามกินเค้กสามวันนะครับ”แอ้พูด ผมหันไปมองพ่อ พ่อผมอมยิ้มทันที

                       “โทษไอ้ลุงดิมมัน ดันพาไปซื้อมาสามสิบก้อน กินแต่เค้กไม่กินข้าวเลย พ่อเลยสั่งทำโทษ ห้ามกินและห้ามลุงพาไปซื้อ สามวัน” พ่อผมพูด ผมหันไปมองพี่ดิม จะซื้ออะไรเยอะขนาดนั้น

                       “ก็กูให้ลูกมึงช่วยจีบแพท ลูกอาเปรมอะดิ เด็กแฝดเลยเรียกค่าจ้างเป็นเค้กและเรียกแพทว่าป้าแพทเขาเลยยื่นข้อเสนอถ้าไม่เรียกป้าซื้อเค้กเพิ่มให้”

                       “ลูกๆมึงก็เห็นแก่เค้กทำให้กูต้องลงแข่งประมูลกับแพท ประมูลไปประมูลมากูได้มาสามสิบก้อน พ่อด่ากูยับ” พี่ดิมพูด

                       “แล้วเป็นไงโอ้มันแอบมาเปิดตู้เย็นกินแต่เค้กเลยไง “ ไอ้เดียร์รีบเสริม แต่พี่ดิมหยิบอาหารบนโต๊ะปาใส่มันทันที

                       “มันน่าไหมละมึง บอกว่าเค้กมันหวานมากและแป้งทั้งนั้น ฟันก็จะพุและมีโอกาสเป็นเบาหวาน ลุงมันไม่ค่อยเชื่อกูเลย ขนาดให้พวกมันเรียนหมอกันนะ” พ่อผมบ่นทันที

                       “พี่ดิมจะจีบพี่แพท พี่ชายพายเหรอพี่”ผมถามพี่ดิม

                       “เออ อย่าแซว”

                       “อายเหรอพี่ดิม” พี่ด้า

                       “อย่าแซวมันเพราะว่ามันกินแห้ว” พ่อผมพูดเองเลย  พวกผมก็ทานอาหารเย็นกันไป คุยกันไปหัวเราะกันไป นี้แหละความสุขของครอบครัวผม เสียดายพี่เดฟอีกคน ไม่อย่างนั้นคงครบองค์ประชุมวันนี้บ้านดอเด็ก ผมหันไปมองแอ้ แอ้ก็คงคิดถึงพี่ๆ ถ้าวันที่เราบอกความจริงบ้านนี้ก็คงมีความสุขมาก ผมว่าผมพร้อมแล้วแหละ จะเกิดอะไรก็เกิด ผมเชื่อว่าลูกๆผมทำให้พี่ๆบ้านอออ่างรักได้ไม่ยากแน่ๆ

                       “เอาละ เด็กๆ เดี๋ยวเราจะช่วยน้องมีนแกะของขวัญและเป่าเค้กกันแล้วนะและจะได้ไม่เข้านอนกันดึกเพราะว่าพรุ่งนี้ไปโรงเรียน” พี่ด้าพูดและหันไปมองเด็กๆ แอ้รีบช่วยพี่ด้าเก็บความสะอาดบนโต๊ะ บ้านผมใช่เครื่องล้างจานเลยง่าย

                       ผมก็พาลูกๆเดินไปที่ห้องนั่งเล่น ผมนั่งลงและน้องมีนก็นั้งมองของขวัญมากมาย เพราะพี่ๆผมซื้อให้คนละชิ้นแม้จะกระทั่งเดียร์เอง มันก็เจียดตังค์ค่าขนมมาซื้อให้หลาน และเริ่มช่วยกันแกะของขวัญกัน น้องมีนยังเด็กเลยต้องให้พี่แฝดช่วยและมีมิ้นอีกคนที่ถนัดฉีก และขวัญส่วนใหญ่ของน้องมีนก็จะเป็นหนังสือนิทาน ซีดีการ์ตูนที่เขาชอบ ผมกับแอ้ซื้อทอยสตอรี่ภาคล่าสุดให้ หนังสือนิทานเจ้าหญิงเจ้าชาย น้องมีนชอบให้อ่านนิทานให้ฟังก่อนนอน และมีเสื้อผ้าน่ารักๆจากหมอด้าและพี่หมอดรีม และตามด้วยเค้กที่สั่งทำเป็นพิเศษ ทอยสตอรีเช่นกัน มีวู้ดดี้และเจสซี่

                       “แฮปปีเบิร์ดเดย์ทูยู แฮปีเบิร์ดเดย์ ทูยู แฮปปีเบิร์ดเดย์ทู น้องมีน แฮปปีเบิร์ดเดย์ทูยู “

                       “ฮิบๆ ฮู เลย์ ฮิบๆฮูเลย์ “ เสียงลูกแฝดของผมและน้องมีนก็เป่าเค้ก มีคนช่วยเป่าแม้ยังเป่าไม่เป็นก็ตาม น้องมิ้น

                       “เอาละเป็นเด็กดีนะลูกนะ มีน สุขภาพแข็งแรงและเป็นเด็กดีของปู่ ย่า และลุงๆ และก็พ่อแอ้พ่อดิวนะลูก”พ่อผมเดินมาแตะหัวให้พรลูกผม ผมกับแอ้ก็ยกมือไหว้แทนน้องมีน

                       “ถ้าอย่างนั่นพ่อขึ้นไปดูเอกสารก่อนนะ เราก็ใช้เวลาอยู่กับลูก คิดถึงร้องหากันทุกวัน” พ่อผมบอกผมกับแอ้

                       “ถ้าอย่างนั้นพวกพี่ขึ้นไปอาบน้ำกันก่อนนะดิว “ พี่ดรีมหันมาบอกผม พี่ๆก็คงอยากให้ผมอยู่กันตามลำพังพ่อแม่ลูก(แม้ว่าแม่จะอยู่ในร่างผู้ชายก็ตาม นั้นคือแอ้ ) 

                       “ใครอยากฟังพ่อร้องเพลงบ้าง” ผมถามเด็กๆ ผมหันไปหยิบกีตาร์มาถือไว้

                       “เย้ๆ”ทุกคนร้องดีใจและพากันยกมือขึ้นไม่เว้นแม้แต่มิ้น รายนั้นไม่รู้ว่ารู้เรื่องไหมแต่ยกเอาไว้ก่อน

                       “นั่งข้างๆพ่อแอ้กันนะ”ผมพูด น้องมีนก็ไปนั่งข้างๆพี่แฝดส่วนแอ้นะอุ้มมิ้นไว้ จะได้นั่งฟังกันอย่างสงบสุข ฮาๆ

                       “เพลงนี้พ่อขอมอบให้ พ่อแอ้นะ “ ผมพูดและเริ่มบรรเลง ผมชอบเล่นกีตาร์ ผมเคยมีวงดนตรีกับเพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกันที่โรงเรียนมัธยมแล้ว

                     “ I found a love for me
Darling, just dive right in and follow my lead
Well, I found a boy, beautiful and sweet
Oh, I never knew you were the someone waiting for me
‘Cause we were just kids when we fell in love
Not knowing what it was
I will not give you up this time
But darling, just kiss me slow, your heart is all I own
And in your eyes, you’re holding mine
-
-
-Well I found a man, stronger than anyone I know
He shares my dreams, I hope that someday I’ll share his home
I found a love, to carry more than just my secrets
To carry love, to carry children of our own
We are still kids, but we’re so in love
Fighting against all odds
I know we’ll be alright this time
Darling, just hold my hand
Be my man, I’ll be your man
I see my future in your eyes
-
-
-
I don’t deserve this
You look perfect tonight
ภาพที่ผมเห็นตลอดที่ผมเล่นกีตาร์และร้องเพลงนั้นคือแอ้กำลังกอดลูกและโยกไปกับจังหวะเพลงที่ผมบรรเลง มันคือภาพที่สวยงามที่สุดแอ้นี้แหละคือแม่ในร่างผู้ชายที่เพอเฟ็คที่สุดของผม

                         หลังจากที่ผมร้องเพลงเสร็จ เสียงปรบมือลูกๆผมก็ดังขึ้น ผมเหลือบไปมองเวลา ตอนนี้ก็สามทุ่มแล้ว เลยเวลาเข้านอนของลูกๆผมมาเกือบครึ้งชั่วโมงแล้วและคงต้องพากันไปแปรงฟันก่อนพาเข้านอน ส่วนผมกับแอ้จะอาบน้ำกันทีหลัง หลังจากส่งลูกๆเข้านอนเรียบร้อยแล้ว

                       “ได้เวลาแปรงฟันและเข้านอนนะครับเด็กๆ”

                       “พรุ่งนี้ไปโรงเรียนไปหาเพื่อนๆ” ผมพูดและวางกีตาร์ลง

                       “พ่อไปส่งได้อะเปล่าโอ้อยากให้พ่อไป โอ้อยากบอกเพื่อนๆว่าเรามีพ่อทีหล่อมว๊าก!”มาริโอ้พูด ทำเสียงได้รู้เลยว่าพ่อหล่อมาก ฮาๆ
                       “ได้ครับ พ่อดิวกับพ่อแอ้จะไปส่งก่อน ดังนั้นเด็กๆต้องรีบเข้านอน เพราะว่าตื่นส่ายพ่อไปส่งไม่ได้นะครับเพราะว่าพ่อแอ้กับพ่อดิวต้องรีบกลับครับ” ผมพูดและมองเด็กๆ มีทำท่าคิดกันด้วย พรุ่งนี้กว่าผมจะไปถึงคงประมาณแปดโมงกว่าๆแน่ๆ และผมก็ต้อนเด็กขึ้นบ้านกัน เพื่อจะได้พากันเข้าไปล้างหน้าแปรงฟัน มิ้นนะพี่โดมมายืนรอแล้ว

                       “มามะมาให้พ่อโดมตบตูนนอนซะดีดี” พี่โดมพูดแต่มิ้นซิโบกไม้โบกมือไม่เอาใหญ่เลยแต่ผมก็ส่งให้ เพราะว่าผมต้องพามีนไปล้างหน้าแปรงฟันกับพี่ๆก่อน  น้องมีนนะโงนเงนเต็มทีแล้ว

                       “ฝันดีครับมิ้น ฟ๊อด “ ผมพูดหอมแก้ม

                       “ฝันดีครับ เอาไว้คราวหน้านะ พ่อแอ้พ่อดิวมาค้างหลายวันจะพาไปนอน วันนี้นอนกับลุงโดมนะ ฟ๊อด” แอ้บอกน้องมิ้น และพี่โดมก็พาเข้าห้องนอนไปทันที

                       “ดิวพาไอ ไอซ์และโอ้ไปแปรงฟันก่อนนะ น้องมีนง่วงมากแล้วแอ้จะพาไปเอง “แอ้พูดผมพยักหน้า

                       “มีน ราตรีสวัสนะครับลูก พ่อดิวรักมีนนะครับ ฟ๊อด”ผมพูดบอกน้องมีนและพาแฝดของผมเขาห้องน้ำก่อน  แต่ละคนรู้หน้าที่ตัวเองเข้าไปก็ไปยืนที่เก้าอี้สำหรับรองเพื่อยื่นให้ถึงขอบอ่างและผมก็บีบยาสีฟันใส่แปรงแต่ละคนก็แปรงฟัน มาริโอ้นี่แปรงไปด้วยร้องเพลงไปด้วย แอคติ้งเยอะเหลือเกินจนผมกลัว ผมไม่อยากให้ลูกไปทางการแสดงเหมือนติ๊กเลย คือพูดง่ายๆ ไม่อยากให้ลูกผมเป็นดารา มีบริษัทโฆษณาติดต่อลูกผมมาหลายครั้งแล้ว เพราะเป็นพรีเซนเตอร์ ให้โรงพยาบาลพ่อผม เขาก็เลยอยากจะได้ลูกๆผมไปถ่ายโฆษณาบ้างแต่ผมปฏิเสธตลอด

                       “เอาละ หนุ่มๆของพ่อขึ้นเตียงนอนได้แล้ว”ผมพูด เตียงเล็กๆสำหรับเด็ก และนอนได้คนเดียวเป็นเตียงรูปรถแข่งของมาริโอ้ ส่วนเตียงของไอและไอซ์เป็นเตียงที่ใหญ่กว่ามาริโอ้ นอนได้สองคน ทำไมทั้งคู่นอนด้วยกัน เพราะว่าน้องไอซ์ชอบตื่นมาร้องไห้ละเมอผมเลยให้ไอซ์นอนกับไอจะดีกว่าเขาจะได้ปลอบน้องและเด็กสองคนนี้เขาเกิดมาพอมาวางด้วยกันเขาก็จับมือกันหมับเลย

                       ผมก็ตรงเข้าไปหอมแก้มมาริโอ้ก่อน”ฟ้อด” เสียงดัง แอ้เดินเข้ามาใหน้องนอนลูกแล้ว และผมก็เดินไปหอมแก้มไอกับไอซ์ แอ้ก็หอมแก้มลูกๆทุกคน

                       “เอาละนอนหลับฝันดีนะครับ พรุ่งนี้พ่อไปส่ง “ผมพูดบอกลูกๆแฝดของผม

                       “ครับพ่อแอ้พ่อดิว รักพ่อครับ” พูดพร้อมกัน ผมกับแอ้ฟังจากน้ำเสียงคงจะพากันหลับในไม่กี่นาทีนี้แหละ ผมกับแอ้ก็พากันเดินออก แต่ก่อนจะออก แอ้หันไปมองไอกับไอซ์ ที่นอนกอดกัน ผมพยักหน้าให้แอ้ออกมาจากห้องก่อน

                       “ดิว เราจะปล่อยให้เขาเป็นแบบนี้ไม่ได้ ต่อไปจะแยกกันยากนะ พี่ด้าก็บอกแอ้ว่า ไอนะ หวงไอซ์จนเกินไป ไม่น่าจะใช่พี่น้องแล้วนะดิว” ผมพยักหน้า

                       “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องซื้อเตียงใหม่และให้เหตุผลว่าเราซื้อเตียงที่ใหญ่ขึ้นเพื่อจะได้นอนกันได้คนละเตียง และลูกๆโตกันแล้ว “ ผมพูดบอกแอ้ แอ้พยักหน้าคงต้องตามนั้น ทำไมผมสองคนถึงกังวล เพราะว่า ไอ ไอซ์และมาริโอ้ เกิดจากไข่ของแอ้และสเปิร์มของผม ถึงจะฝากไว้ในครรภ์ของผู้หญิงที่อุ้มบุญ เด็กก็ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคนอุ้มบุญในทางสายเลือด เขาเป็นลูกของผมสอง และนั้นก็แปลว่าพี่น้องกันแท้ๆ จะปล่อยมารักกันเกินพี่น้องไม่ได้อีก ผมกับแอ้ต้องทำอะไรสักอย่าง


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Lambosasha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
     

 (รีไรท์)(MPreg)รักที่วุ่นYก็แค่ผู้ชายเขารักกัน(แอ้VSดิว)คุณพ่อวัยใสจะไปส่งลูก

            Part’s ดิว  ผมตื่นมาแต่เช้าก็ค่อยๆลืมตาขึ้นด้วยอาการงัวเงีย เมื่อคืนหลังจากที่ผมส่งลูกเข้านอน ผมก็กลับมาอาบน้ำกับแอ้ เมื่อคืนแค่อาบน้ำจริงๆ ไม่ได้ทำการบ้านกัน เพราะว่าคืนก่อนแอ้จัดหนักให้ผมไปแล้ว ดิวรักเมียครับและแม่ของลูกต้องถนอมกันหน่อย แต่ที่เพลียก็เพราะว่าผมกรอกเอกสารที่จะสมัครเข้าเรียนแพทย์ทหารให้เสร็จ ส่วนแอ้นะเขากรอกใบสมัครเข้าเรียนโรงเรียนทหารเรียบร้อยแล้วเช่นกัน

           แต่นี้แอ้ไปไหนนะ ผมก็รีบลุกขึ้น ผมเห็นชุดนักเรียนแขวนไว้แล้ว แอ้เป็นภรรยาที่น่ารักมากจริงๆ ถ้าอยู่บ้านนี้แอ้จะเตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้ผมหมด ผมคิดว่าแอ้คงไปที่ห้องแฝดแน่ๆ ผมเดินไปห้องนอนลูกชาย ผมได้ยินเสียงแอ้คุยกับลูกๆดังมาจากในห้องนอน

                       “พ่อแอ้ ไข่กับไก่อะไรจะเกิดก่อนกันนะ” มาริโอ้กำลังชวนแอ้คุยขณะที่แอ้แต่งตัวให้ ผมเห็นไอกับไอซ์ที่นั่งรออยู่ ไอนั่งตัวติดกับไอซ์ตลอด
                       “อะแฮม”ผมทำเสียงกระแอม แอ้หันมามองผม

                       “ตื่นแล้วเหรอดิว” แอ้หันมาถามผม

                       “ทำไมไม่ปลุกดิวมาช่วยละแอ้” ผมถามแอ้

                       “เห็นดิวนอนดึกนะ และดิวต้องขับรถอีก เลยอยากให้พักผ่อนเต็มที” แอ้พูดบอกผม

                       “ลูกๆพ่อหล่อจังครับ” ผมชอบทั้งสามหนุ่มของผม

                       “เสร็จหรือยังครับ ลุงด้าจะได้พาไปทานอาหารเช้า พ่อแอ้เขาทำไข่ม้วนไว้ให้นะ “ พี่ด้าเดินมารับเด็กๆและยังสปอยด์ลูกผมว่าแอ้ทำไข่ม้วนเอาไว้ให้อีก ผมก็เลิกคิ้วสูง นี้ยังมีเวลาลงไปทำไข่ม้วนให้ลูกๆอีกเหรอ สุดยอดคุณแม่จริงๆ

                       “เย้ๆ “ ทั้งสามหนุ่มยกมือกันและพี่ด้าก็พากันลงไป

                       “ไปรีบแต่งตัวดิว “ แอ้หันมาเร่งผม และผมก็พากันเข้าห้องเพื่ออาบน้ำแต่งตัว ระหว่างช่วยกันแต่งตัวผมกับแอ้หันมาช่วยกันติดกระดุมเสื้อกันและกัน ผมกับแอ้ทำแบบนี้ทุกวัน เพราะว่าเมื่อก่อนแอ้จะนอนบ้านเดียวกับผม ช่วงที่อาภีมไปช่วยงานลุงหนึ่ง

                       “แอ้ทำแซนวิชเอาไว้เราไปทานกันในรถนะดิว เพราะว่าถ้าทานที่นี่จะไม่ทันเวลา” แอ้บอกผม ผมพยักหน้า ผมเดินเข้าไปไปประชิดตัวแอ้ และโอบเอวแอ้ผมก็ประกบริมฝีปากที่หนาได้รูปกับริมฝีปากบางสวยของแอ้

                       “ไปเถอะดิวเดี๋ยวสาย” แอ้พูดก็พยักหน้าและพากันหยิบกระเป๋าเป้และเดินลงไปชั้นล่าง

                       “พ่อนะออกไปตั้งแต่เช้าแล้วอ่ะดิว “ แอ้พูดบอกผม ผมพยักหน้า

                       “พี่แดนขับรถไปกับพ่อและพ่อพาน้องมีนไปพร้อมกันเลยเพราะวารถพ่อมีคาร์ซีทหลานอยู่นะดิว  และพ่อยังบอกอีกว่าจะตรวจสุขภาพหนึ่งขวบและรับวัคซีนอีกด้วย “ แอ้บอกผม

                       “เสียดายแอ้ไมได้อยู่กอดน้องมีนตอนที่โดนฉีดยาอ่ะดิว” แอ้พุดผมก็แตะที่แขนแอ้เบาๆ ระหว่างที่ผมกำลังเดินลงบันไดก็เห็นพี่ๆผมยืนรออยู่ พี่โดม พี่ดรีม พี่ด้า และแฝดของผมที่ยืนรอไปสถานอนุบาลเด็กเล็ก

                       “นั้นไง พ่อลงมา แว้ว!! “ มาริโอ้หันมาตะโกนบอกลุงๆเขาแต่ว่าลงมาแว้วนี้ซิ

                       “ลงมาแล้ว!!” พี่ๆผมพูดออกมาพร้อมกันเลย พี่หมอโดม พี่ดรีมแลพี่หมอด้า

                       “คิก คิก คิก” มาริโอ้ยืนหัวเราะ ผมกับแอ้ก็ขำเหมือนกัน ลูกผมเป็นคนตลก ส่วนอีกคู่ไอกับไอซ์เขายืนตัวติดกันเหมือนเดิม

                       “ลุงว่าคนนี้ไม่น่าจะต้องไปศูนย์เด็กเล็กแล้วมั้งครับ ไปเข้าตลกอเคเดมี่เถอะลูกเอ่ย จบมามีงานเลย” พี่ดรีมพูด

                       “เอาละ ดิวพี่ขับรถเราไปก่อนนะและเราก็ไปส่งลูกๆเรา แล้วค่อยไปเปลี่ยนรถกับพี่แล้วกัน” พี่โดมพูด ผมก็ส่งกุญแจให้พี่โดม ขับรถกระบะของผมไปแทนและผมก็รับกุญแจรถตู้ที่ลูกผมนั่งมาจากพี่ดรีม ขณะที่ผมกำลังจะดันลูกแฝดไปขึ้นรถ และแอ้กำลังจะหันไปอุ้มน้องมิ้นมาใส่รถของผมเช่นกัน

                       “เออ…..เดี๋ยวนะ นี่จะไปส่งลูกๆเข้าเรียนกันแบบนี้เหรอครับ คุณพ่อวัยใส “ พี่ดรีมร้องทักผมสองคน ผมหันมามองหน้ากันและหันไปพยักหน้ากับพี่ดรีมก็ใช่ไงครับ

                       “ใช่ไงพี่ดรีมลูกๆขอให้ผมกับแอ้ไปส่งเขาน่ะพี่” ผมบอกพี่ดรีม

                       “เออ ..จะไปกันทั้งชุดนักเรียนแบบนี้เหรอครับ ผู้ปกครองเพื่อนร่วมห้องลูกมึงไม่ซักถามขนาดเอาไปเขียนชีวประวัติกันแย่เหรอครับ ยังอยู่วัยมัธยมแต่ลูกด้ก ดก ” พี่ดรีมพูด ทำเอาผมสองคนก้มดูชุด เออ จริงด้วย ผมสวมชุดนักเรียนม.ปลายแบบนี้ (ความจริงพวกผมจบกันไปแล้ว)

                       “เออว่ะ ดิว “ พี่โดมอีกคน ที่ยืนเกาหัวและทำท่าจะหัวเราะผม

                       “เออ แอ้ก็ลืมคิดไปว่ะดิว” แอ้พูดผมก็หันซ้ายแลขวา

                       “งั้นก็ขอไปเปลี่ยนชุดเลยแล้วกันพี่พาเด็กๆขึ้นรถเลยพี่” ผมพูดบอกและผมกับแอ้ก็วิ่งขึ้นห้องรีบถอดชุดนักเรียนมัธยมปลายออกทันที เปลี่ยนเป็นชุดธรรมดาแทนเสื่อยืดกางเกงยีนส์ และผมสองคนก็วิ่งลงมาชั้นล่าง ผมก็ขึ้นไปบนรถมินิแวน ลูกๆอยู่ในรถกันหมดแล้ว มิ้นนั่งหลังกับมาริโอ้ ไอและไอซ์เขานั่งตรงกลาง

                       “เอาละพร้อมหรือยังครับ”ผมกับแอ้เข้ามานั่งในรถและหันไปถามเด็กๆ

                       “เย้ๆ”เสียงพร้อมเพียงกันมาก ผมก็ออกรถ ผมหันมามองแอ้ เห็นแบบนี้แล้วผมกับแอ้ไม่อยากกลับไปเรียนเลยอยากอยู่ดูแลลูกๆของผม ผมขับไปจนถึงศูนย์สำหรับดูแลเด็กเล็กของค่ายทหาร ที่นี้จะรับดูแลเด็กเล็ก ตั้งแต่แรกเกิดเลยก็ว่าได้แต่ส่วนใหญ่แรกเกิดพ่อแม่เด็กจะดูแลกันเองแต่พอกลับไปทำงานบางครอบครัวไม่มีคนมาช่วยก็จะนำมาให้ครูและพี่เลี้ยงที่ผ่านการอบรมดูแลแทน 

                       “เอาละถึงแล้วครับเด็กๆ โรงเรียนของหนู” ผมพูดบอกลูก เพราะว่าลูกๆจะเข้าใจว่านี้คือโรงเรียนของพวกเขาและผมก็เดินไปเปิดประตูเลื่อน เด็กๆพากันเดินลงมา ส่วนแอ้เข้าไปอุ้มมิ้น
                       
                       “อ่า!!!”

                    “ดิว!! มิ้นไม่ยอมลง!!” แอ้เรียกผมเสียงหลง ผมเดินไปดู มิ้นยึดคาร์ซีทแน่นเลย
                       
                       “แอ้ไปดูแฝดแล้วกันดิวจัดการเอง” ผมพูดและจัดการแกะมือเหนียวๆ ลูกชายคนเล็ก
                       
                       “มิ้นไปลูก ครูโมรออยู่! “ผมพูดและแกะมือนั้นออกทีละมือ

                       “ทำไมแสดงอาการรักโรงเรียนขนาดนี้ ไปเถอะ!!” กว่าจะงัดออกมาได้จากคาร์ซีท เล่นเอาเหงื่อแตกเลยผม

                       “ฟู่! “ผมพ่นลมหายใจออกมาทันที และมองลูกมิ้นตัวแสบ ทำหน้างอคอหัก มองผมกับแอ้ ทำท่าเบะปากใส่ผมสองคนทันที เหล่ตามองพี่ด้วยและทำท่าเอี้ยวตัวจะกลับไปขึ้นรถ ผมก็ขืนเอาไว้และส่ายหัวว่าไม่ได้ มิ้นหันมาทำตัวตรงเหล่ตาขึ้นมองซ้ายทีขวาทีนั้นคือมองผมกับแอ้นั้นเอง

                       “คิก คิก คิก” ส่วนพี่ๆแฝดสามยืนขำน้องชายคนเล็กกันใหญ่เลย  ผมพากันเดินเข้ามาในศูนย์เด็กเล็ก ก็มีส่วนกับผู้ปกครองที่มาส่ง แต่ละคนก็รู้จักผมกันดี เพราะว่าเป็นลูกหลานเจ้าของค่ายทหารแห่งนี้ พากันยิ้มทักทายผม ผมก็ทักทายกลับก็เช่นกัน 

                       “เอาละ ไหนละครูนุ่น”ผมถามเด็กๆและมองหาครูนุ่น

                       “ออโต้” เสียงมาริโอ้เรียกใครสักคนน่าจะเพื่อนกัน ผมก็เห็นเด็กอ้วนๆวิ่งมาหามาริโอ้ และอีกคนก็ผอมจนอยากจะบอกไปว่า อย่าวิ่งมากลูกล้มไปกระดูดอาจจะหัก และทั้งสองก็วิ่งมาหยุดที่ลูกแฝดของผม

                       “ออโต้ วันนี้พ่อเรามาส่งนะ เรามีพ่อ!!” มาริโอ้บอกเพื่อน ผมกับแอ้ก็ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

                       “คนไหนอะพ่อของพวกนาย” ถามว่าคนไหน พ่อ

                       “นี่ไง” ทั้งสามคนชี้มาที่ผมสองคน ผมก็พยักหน้าใช่ไง

                       “สองคนเลยเหรอ พวกนายมีพ่อสองคนเหรอ” คนผอมเงยหน้าถามมาริโอ้ ไอและไอซ์ ผมหันมามองแอ้ เหมือนจะงานเข้านะ แอ้ส่ายหัวเล็กและชี้มาที่ผม นั้นคือผมแสดงตัวคนเดียว ผมส่ายหน้าไม่ได้หรอก ผมต้องยืดอกว่าผมมีเมียเป็นผู้ชาย

      “พ่อเราสองคนเลย!!” แฝดของผมตอบพร้อมเพียงกันมาก

      “พวกนายมีพ่อสองคน!!” เพื่อนของลูกผมสองคนร้องออกมาพร้อมๆกัน

                       “ใช่ไง แล้วนายมีพ่อกันกีคนละ”แต่มาริโอ้ชิ้งถามกลับไปซะก่อน ที่ผมจะอ้าปากอธิบายอะไร

                       “คนเดียว” เด็กคนอ้วนตอบและหันไปมองคนผอม
         
                     “หว่าน้อยจัง!”ผมสะบัดหน้าไปมอง เขาถูกแล้วลูกโอ้

         “น้อยไปเหรอ?” เพื่อนของลูกผมรีบถามกลับทันที “ใช่น้อยไปนะ!” อันนี้หนักกว่าอีกนะ ลูกชายผมมาริโอ้พูด   ผมค่อยโน้มตัวลงกระซิบกับมาริโอ้ว่า  “ไม่น้อยลูกเขาถูกแล้วโอ้” ผมยิ้มให้เพื่อนๆของลูกและก้มลงกระซิบกับมาริโอ้ ลูกชายตัวดีเงยหน้าขึ้นมองผมแบบไม่เข้าใจ

                       “เหรอ! งั้นเราจะบอกให้แม่เราหาพ่อเพิ่มนะจะได้มีหลายคนเหมือนพวกนาย” ผมก็ต้องพากันยืนอึ้งกิมกีกันสองคน พูดมาแบบผมกับแอ้ไปไม่ถูกเลย
         
                       “ถ้าทางจะงานเข้าว่ะดิว เออ มองหาครูนุ่นเถอะดิว” แอ้กระซิบบอกผม ผมก็เห็นครูนุ่นกำลังเดินออกมา ผมรีบยกมือขอความช่วยเหลือ

                       “อ้าว! แอ้ ดิว มาส่งน้องเองเลยเหรอค่ะวันนี้” ครุนุ่น เป็นครูอนุบาลที่นี่ รู้จักครอบครัวผมกับครอบครัวแอ้ดี ครูนุ่นเป็นเพื่อนกับพี่ดิมและพี่อ้นมาก่อน ดังนั้นครูนุ่นจะค่อนข้างเข้าในลูกๆผมเป็นอย่างดี

                       “สวัสดีครับครูนุ่น “ผมพูดและครูนุ่นก็กางแขนมารับมิ้น มิ้นหันไปมองครูนุ่นก่อน

                       “สวัสดีครับครูนุ่นก่อนซิลูก” แอ้บอกลูกแฝดของผม แต่ละคนก็ยกมือไหว้ ส่วนผมก็ชี้ให้ครูนุ่นดูเด็กอ้วนเด็กผอม ที่ยืนมองผมกับแอ้

                       “ออโต้ กับ เต้ย มายืนทำอะไรตรงนี้คะ” ครูนุ่นถามเด็กสองคน

                       “มาริโอ้เรียกพวกเรามาดูคุณพ่อเขานะครับครูนุ่น แต่พ่อของมาริโอ้เขามีสองคนอ่ะครับ” ครูนุ่นก็หันมามองผมสองคน และหันไปพยักหน้าว่าใช่สองคน

      “ แต่พวกเรามีคนเดียวอ่ะครูนุ่น “ คนอ้วนพูดขึ้น ครูนุ่นหันมามองหน้าผมสองคนอีกทีและผมสองคนก็พยักหน้าว่าใข่แล้วครับ “งานเข้า” ครูนุ่นคงเข้าใจทันที

                       “อ้อ! เดี๋ยวครูนุ่นอธิบายทีหลังนะลูก ไปเล่นกันตรงโน้นก่อนนะ “ ครูนุ่นพูด และหันมายิ้มให้ผม และรับน้องมิ้นไป

                       “เดี๋ยววันนี้น้องมิ้นอยู่กับครูนาก่อนนะคะ เพราะว่าครูโม”

                       “ครูโมท้องแตก”มาริโอ้
           
                       “ห๊ะ?” อันนี้ผมเองครับที่ตกใจ  ผมก้มลงมองลูกชาย

                       “พ่อๆ อย่าซื้อแตงโมให้โอ้กินนะ โอ้กลัวท้องใหญ่มากๆเหมือนครูโม ครูโมกินแตงโมเยอะไป” มาริโอ้พูดและทำมือว่าท้องโต 

                       “ครูโมท้องยังไม่แตกลูก แต่ครูโมเขาลานะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ครูโมมานะ ไปเล่นกับเพื่อนก่อนไหม” ครูนุ่นพูดและหันมายิ้มแหยๆกับผมสองคน ครูนุ่นขวักมือเรียกครูอีกคนน่าจะครูนาให้มารับมิ้นไปดูแลวันนี้ ไอก็จับมือไอซ์เดินไปหาเพื่อนแต่มาริโอ้นะวิ่งไปก่อนแล้ว และเพื่อนๆก็รับอยู่แล้วด้วย

                       “ลูกผมสองคนเป็นยังไงบ้างครับครูนุ่น” แอ้หันไปถามครูนุ่น

                       “เด็กๆก็ปกติดีนะคะ แอ้ดิว ”ครูนุ่นพูดก่อนะจะหันมามองผมเหมือนมีคำถามว่าทำไมผมสองคนถึงถามขึ้น

                       “คือผมแค่กลัวว่าเขาจะรู้สึกแตกต่างจากเพื่อนไหม เข้ากับเพื่อนได้ดีไหม”แอ้พูด

                       “ไม่นะคะ พี่พยายามไม่ให้เขาดูแตกต่างจากเพื่อน และถามว่าเข้ากับเพื่อนๆได้ไหม ได้นะคะ “

                       “ มาริโอ้เนี๊ยะเพื่อนๆรักเพราะว่าเขาช่างพูดช่างเจรจา ช่างสักช่างถาม เขาน่ารัก เลยเข้ากับเพื่อนๆได้สบาย “ครูนุ่นพูด ผมก็พยักหน้าเพราะว่ามาริโอ้นี้พูดเก่งประจำบ้าน

      “แม้กระทั้งผู้ปกครองยังทักทายเขาเลยนะคะ จนผู้ปกครองชมกับพี่มาหลายคนแล้วบอกว่ามาริโอ้เขาน่ารัก อัธยาศัยดี “ ครูนุ่นพูดผมก็หันมามองหน้ากันพยักหน้าว่าโล่งอกไปหนึ่งสำหรับมาริโอ้

                       “ส่วนไอซ์เขาก็จะมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งของเขา ดังนั้นเพื่อนของเขาก็จะสไตล์เดียวกัน จะมีไม่กี่คน ก็จะมีไทม์ ใบเฟิร์น และน้องจีน่านี่แหละค่ะ เพื่อนเล่นของไอซ์เขา ”

                       “แล้วคนอื่นเขาไม่อยากเล่นกับลูกผมกันเหรอครับพี่นุ่น”ผมถามครูนุ่น

        “ใครบอกล่ะคะ อยากเล่นค่ะแต่ …”ครูนุ่นและหยุดไว้แค่นั้น ผมว่าครูนุ่นหมายถึงไอแน่ๆเลย
                       
                       “ส่วนไอนี้ พูดน้อยค่ะ ต่อยหนักไปนิด และหวงน้องมากไปหน่อย ” ผมกับแอ้ก็พยักหน้าออกมาพร้อมๆกัน และพรูลมหายใจออกมายาวๆ ครูนุ่นคงเข้าใจความหมายของผมดีว่า ผมสองคนก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน จะให้แยกออกก็สงสารลูก

                       “เขาทำเพราะว่าเขาหวงไอซ์เหรอครับ พี่นุ่น” แอ้ถามขึ้น

                       “ยอมรับค่ะ ใครแตะต้องไอซ์นี้ โดนทุกราย วันก่อนก็ตาเขียวไปหนึ่งคน  แต่ว่าเขาชอบเล่นแรงๆและทำไอซ์เจ็บด้วย พี่ชายเลยจัดไป พ่อแม่เด็กตอนแรกก็โมโหนะแต่เพื่อนๆในห้องบอกว่าเขาแกล้งไอซ์ก่อน เรื่องก็เลยจบค่ะ” ครูนุ่นพูดและหันมามองหน้าผมสองคน

                       “แต่ที่ผมกลัวมากเลยนะพี่นุ่น ผมกลัวว่าเขาเห็นครอบครัวคนอื่นมีทั้งพ่อทั้งแม่เขาจะคิดว่าเขาขาดหรือเปล่า” แอ้พูด ผมหันมามองแอ้ ที่ยืนมองลูกๆเล่นกับเพื่อนๆโดยเฉพาะมาริโอ้ ดูเขาก็สนุกสนานกับเพื่อนๆดี

                       “แอ้ ดิว ไม่ใครสมบูรณ์แบบไปทุกครอบครัวหรอกค่ะ เด็กในนี้ บางคนก็มีแค่พ่อ และบางคนก็มีแค่แม่ หรือบางคนไม่มีเลย” ครูนุ่นพูด ผมสองคนก็รู้ ในนี้มีแต่ครอบครัวทหาร บางคนก็เสียชีวิตจากการปะทะกับคนร้าย เพราะว่าหน่วยงานของผมขึ้นอยู่กับเอกชน ดังนั้นจะมีถูกส่งไปเป็นทหารจ้างในพื้นที่เสียงอันตราย แต่ก็ได้ค่าตอบแทนค่อนข้างสูง
      “สำคัญที่ว่าเราเติมยังไงให้เต็มให้เด็กไม่รู้สึกขาด และพี่ก็เชื่อว่าลูกๆของแอ้และดิวน่ะ  เขาไม่รู้สึกขาดอะไรเลยะน่ะ เพราะว่าเขาได้รับความรักจากแอ้และดิวมากพอจนมันไม่มีที่ว่างแล้วและไหนจะ ปู่  ลุงและอาเขาอีกและค่ะ “ ครูนุ่นพูด ผมหันมามองแอ้ ผมเห็นด้วยกับที่ครูนุ่นพูดนะ

                       “ถามว่าเขาเคยถามพี่ไหมเวลาเห็นครอบครัวอื่นๆ”

       “เขาก็ถามนะ เคยถามว่าแม่คืออะไร ทำไมเขาไม่มี” พ่อครูนุ่นพูด แอ้หันมามองหน้าผม

                      “พี่ก็อธิบายกับเขาไปตรงๆนะว่าแม่คือคนที่อุ้มท้องเรามาด้วยความรัก” พอพี่พูดแบบนี้เขาสามคนก็เงียบ” ครูนุ่นพูดและหันมามองหน้าผมสองคน แอ้เริ่มจะหน้าซี้ด

                       “พี่ก็ถามเขาว่าเราอยากมีแม่เหรอ แล้วพ่อดิวกับพ่อแอ้ เขารักเราสามคนไม่ใช่เหรอ เรารักพ่อแอ้ดิวกันหรือเปล่า” พี่นุ่นพูด แอ้หันมามองครูนุ่น

                       “เขาสามคนก็บอกพี่นะ ว่าเขารัก เขารักพ่อแอ้กับพ่อดิว “

                       “แล้วทำไมถามหาแม่ละ ถ้ามีแม่แล้วเราจะรักแม่หรือเปล่า” พี่นุ่นพูด

                       “เขาก็บอกพี่นะเขาไม่รู้ แต่เขารู้ว่าเขารักแอ้กับดิวมากกว่า อยากอยู่กับพ่อแอ้กับพ่อดิว ไม่อยากไม่อยู่กับคนอื่น พี่ก็ถามเขาอีกนะว่าทำไมละ”

                       “มาริโอ้บอกว่า เขาไม่รู้ว่าคนนั้นจะรักเขาไหมแต่พ่อแอ้พ่อดิวรักเขาแน่ๆ นี้คือคำพูดของมาริโอ้ นะแอ้ดิว”พี่นุ่นพูด ผมว่าแอ้รู้สึกดีขึ้นเยอะเลยแน่ๆ แอ้ยิ้มออกมาในทันที

                       “แอ้ดิว พี่เชื่อว่าไม่มีอะไรมาแทนที่ความรักได้หรอก และเขาเห็นความรักของแอ้กับดิว เขานึกภาพมันออกมากกว่า แต่ที่เขาถามพี่ก็คงเพราะว่าแค่เห็นว่าเขาไม่มีเหมือนกับคนอื่นก็แค่นั้น “ ครูนุ่นพูดและหันมายิ้มให้ผมสองคน
           
                       “ขอบคุณมากๆเลยนะครับพี่นุ่น แอ้นะเขาคิดมากเรื่องนี้ตลอดเลยครับ ผมว่าตอนนี้เขาดีขึ้นแล้วแหละ” ผมพูดและหันไปมองแอ้

                       “พี่นุ่น ผมสองคนต้องขอตัวนะครับ ผมต้องไปแล้ว” ผมพูดบอกครูนุ่น
                       
                       “น้องไอ น้องไอซ์ น้องโอ้ มานี้เร็วพ่อแอ้พ่อดิวจะกลับแล้วลูก”ครูนุ่นเรียกลูกแฝดของผม พวกเขาก็วิ่งมาหาผมไอซ์มาถึงก็กอดแอ้ ผมก็กอดมาริโอ้และไอ

                       “พ่อไปแล้วนะเด็กๆ พ่อจะมาหาทุกอาทิตย์ “ ผมพูดบอกลูกๆผม

                       “เดินทางปลอดภัยนะคะและไม่ต้องห่วงน้องๆพี่ดูแลให้ค่ะ  “ครูนุ่นบอกผมและพาแฝดผมกลับเข้าไป ตอนนี้คงใกล้เวลาเข้าห้องเรียนแล้ว ผมกับแอ้หันมามองหน้ากันและจำใจเดินออก ผมเห็นแอ้เหลียวหลังไปมองลูกตลอด มองจนผมสองคนขึ้นไปบนรถและผมก็ต้องเอารถไปเปลี่ยนที่โรงพยาบาลพ่อผมด้วย 
         
         //พี่ดรีม ผมเอารถมาเปลี่ยนแล้วพี่ ผมจอดไว้ที่ตรงที่จอดรถประจำตำแหน่งของพี่นะ “ ผมโทรบอกพี่ดรีม
         //ดิวเข้ามาเอากุญแจรถที่พี่เลย ห้องตรวจเด็กนะ เพราะว่าไอ้หมอโดมมันเข้าห้องผ่าตัดไปกับอาจารย์หมอแล้ว///

         //โอเคพี่ดรีม// ผมพูดกับแอ้ ผมพากันเดินเข้าไปในโรงพยาบาล ตรงไปแผนกเด็กทันที ผมเห็นพี่หมอด้ากำลังยืนอยู่กับกลุ่มแพทย์เอ็กซ์เทิร์น ที่มายืนฟังเพื่อเป็นเครสตัวอย่างในห้องฉุกเฉิน ผมรีบเดินผ่านไปหาพี่ดรีม

      “สวัสดีครับ ผมมาหาพี่ดรีมครับ” ผมเดินตรงไปยังพยาบาลที่โต๊ะซักประวัติ เขาก็เงยหน้ามองผมพร้อมกับส่งยิ้มให้ ผมสองคน

      “เข้าไปได้เลยค่ะ พี่ยังไม่ได้ส่งคนไข้เข้าไปหาคุณหมอดรีมค่ะน้องดิว” พี่เขาพูดผมพยักหน้าขอบคุณ ผมเห็นแอ้ยืนมองเด็กๆ ที่ร้องไห้กระจองงอแงกันเป็นแถว ก่อนจะเดินเข้าห้องตรวจพี่ดรีมนั่งอยู่พี่หมอดรีมผม สวมเสื้อกาวน์ บนโต๊ะมีของเล่นเอาไว้หลอกล้อเด็กๆตอนตรวจ

      “นี่ครับคุณพ่อวัยใส ส่งลูกแล้วใครร้องไห้ พ่อหรือลูก” พี่ดรีมส่งกุญแจให้ผมพร้อมกับแซวผมหับแอ้มันที 

      “พี่ดรีม พี่รู้ไหมว่าลูกผมนะไปต่อยเด็กที่นั้นนะ” ผมถามพี่ดรีม

      “เออ พี่ลืมบอกไปว่ะ ว่าลูกไอมึงนะครับ ไปวัดสายตาประกอบแว่นให้เขามาว่ะ สองข้างเลย “พี่ดรีมพูดและมองหน้าผมสองคน

      “เห้ย!! สองข้างเลยเหรอ?” ผมถามพี่ดรีมแอ้หันมามองหน้าผมพร้อมกับพรูลมหายใจออกมาและส่ายหัวไปด้วยพร้อมๆกัน

      “แล้วนี่เขาไม่ว่าเอาเหรอ”

      “ไม่” ผมก็มองพี่ดรีมจริงๆอ่ะ

      “ไม่เหลือ” พี่ดรีมพูด ผมยืนเอามือเท้าเอว

      “พ่อไปรับหน้ามา เลยจบลงด้วยดี” พี่ดรีมพูด ผมหันมามองแอ้ พยักหน้าก็คงต้องจบแหละเพราะว่าใครเขาก็เคารพพ่อผมกันทั้งนั้น

      “เขาเอาลูกไปเรียนที่อื่นแทนไง จบสวยไหมมึง” ผมกับแอ้ไถลเลยครับ

      “สวยมากพี่ดรีม!!” อันนี้ดิวประชดครับ “ แล้วพ่อไม่โดยเขาว่าเอาเหรอ” ผมถามพี่ดรีมผมนี้เห็นใจพ่อผมเลย พ่อรับเรื่องแทนผมก็เยอะยังมาเจอหลานอีก

      “เขาเอาไปที่อื่นเพราะว่าผู้ปกครองคนอื่นก็บ่นว่าเด็กน่ะ เกเรว่ะดิว ลูกๆคนอื่นเขาก็ไม่อยากเล่นด้วย แต่เด็กนี้เห็นไอซ์ไม่โต้ตอบและไอมันหวงมาก  ก็เลยแหยๆน่ะ แต่ลืมไปมันแหยนวดเสือว่ะ จากสองตาเป็นสี่ตาไปในพริบตา “พี่ดรีมพูดปนหัวเราะแต่ผมสองคนหัวเราะไม่ออกครับ ลูกไปต่อยเขานี้ครับโดยเฉพาะแอ้  แอ้นี้คงคิดมากอีกแล้ว เรื่องไอ
   “เสาร์อาทิตย์กลับมาคุยแล้วกัน ยังไงไอก็ฟังดิวกับแอ้นะ และที่เขาทำก็เพราะว่าเขาปกป้องของที่เขารัก แต่รักมากไปหน่อยนะ ถึงขนาดไม่มีใครกล้าแหย่มแบบนี้  กลับมาคราวนี้คุยด้วยเลยนะ เพราะว่ารายนี้เป็นรายที่ ห้าของเดือนนี้ที่โดนต่อยไปนะ” พี่ดรีมพูดผมกับแอ้พยักหน้า

   “ยังไงผมก็จะกลับมาวันหยุดนี้ ใครให้ไปไหนก็ไม่ไปแล้ว มาจัดการลูกก่อน” ผมพูดกับพี่ดรีม

   “เมื่อวานพี่ไม่อยากพูดเพราะว่าเดี๋ยวงานฉลองจะมีน้ำตากัน “ พี่ดรีมพูดและแอบยิ้มให้ผมสองคน

   “พี่ดรีมถ้าอย่างนั้นผมไปนะพี่” ผม

   “ไปเถอะ เด็กๆร้องไห้อยากเข้ามาเจอหมอหล่อแย่แล้ว “ พี่ดรีมพูด ไม่ค่อยหลงตัวเองเลยพี่ดรีมของผมและผมก็เดินออกมาผมจับแขนแอ้ ส่ายหัวบอกแอ้ว่าอย่าคิดมากเรื่องไอ ผมรีบพากันออกเดินเพื่อจะไปขึ้นรถ กะว่าจะหยิบมือถือมาโทรหาไอ้แจ็คมันซะหน่อยแต่จู่ๆ

      “ขอทางหน่อยครับ ทหารผมบาดเจ็บ!!”

      “ไอ้ดิว เสียงพี่โอม” แอ้ร้องออกมาและใช่ด้วยกำลังแบกทหารเข้ามา ผมก็ดึงแอ้เข้าไปแอบอยู่ด้านข้างตู้กดเครื่องดื่ม ส่วนพี่โอมก็อยู่หน้าห้องฉุกเฉินมันเป็นทางออกแต่ถ้าจะให้วิ่งย้อนไปพี่โอมก็ต้องเห็น  แล้วผมกับแอ้จะออกไปกันยังไงละ

      “ไปโดนอะไรมาคะ อย่าบอกนะว่าโดนยิงมาค่ะ”

      “โดยยิงครับ แต่ไม่ใช่กระสุนปืนแต่เป็นไม้เสียบลูกชิ้นครับผม ร้องโอดครวญขนาดนี้ไม่ต้องถามถึงปืนเลยครับคุณพยาบาล” เสียงพี่โอม ผมก็กดเบอร์มือถือหาพี่หมอด้าก่อน

      // ว่าไงดิว//
      //พี่หมอด้า พี่โอมอยู่ตรงทางออกผมสองคนออกไปไม่ได้//
      //พี่โอมอยู่ไหนละดิว//
      // หน้าห้องฉุกเฉินพี่ด้า///
      //โอเค/// ผมกดวางสายและผมก็เห็นพี่หมอด้าเดินมา และ

   “พี่โอม!!!” พี่หมอด้าเรียกพี่โอม พี่โอมหันมาและมองพี่หมดด้า และพี่หมอด้าก็ควักมือเรียก

   “เดี๋ยวครู จะไปไหนอ่ะครับ” นักเรียนทหารใหม่ของพี่โอมเรียกหันมาพี่โอมเอาไว้อีก ผมสองคนยกมือขึ้นแตะหน้าผาก

   “คุณหมอเขาควักมือเรียกขนาดนี้ไม่ไปได้ยังไงเสียมารยาท ดูแลตัวเองนะ ถ้ามันหยุดหายใจผายปอดไปเลย “ พี่โอมวิ่งไปหาหมอด้าทันที วิ่งผ่านผมสองคนไปโดยไม่ได้สังเกต ผมสองคนก็ “ฟู่” พรูลมออกมาจากปากและพากันวิ่งครับก่อนที่พี่โอมจะหันกลับมาและงานเข้าผมสองคนเอาเพราะว่าแอ้ไม่ได้บอกว่าจะมาที่ค่ายฯกับผม  พากันกระโดดขึ้นรถกระบะของผมและผมก็รีบขับออกทันที ฝุ่นคงตลบอบอวลไปทั่ว

ออฟไลน์ Lambosasha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
         
(แอ้VSดิว)เหมือนคนที่คุ้นเคยP1

           Part แอ้  ผมกับดิวไปส่งลูกแฝดผมและน้องมิ้นที่ศูนย์ดูแลเด็กเล็ก เป็นสวัสดิการสำหรับครอบครัวนายทหารและเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในค่ายและโรงพยาบาลในค่ายทหาร วันนี้ผมกับดิวได้พูดคุยกับครูนุ่น ทำให้ผมรู้ว่าลูกๆรักผมกับดิวมากแต่เขาก็ยังคงมองว่าเขามีไม่เหมือนเพื่อนบางคน นั้นก็คือแม่  ใครคือแม่ ถ้าเอาตามจริงผมก็คือแม่เขานั้นแหละแต่ผมไม่ได้อุ้มท้องเข้ามาแค่นั้น แต่เขาก็เกิดจากเลือดเนื้อของผมกับดิว พ่อก็บอกกับผมกับดิวว่าเด็กกับคนที่อุ้มบุญให้ผมจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทางสายเลือดแค่อุ้มให้เท่านั้น แต่ความผูกผันอาจจะมีดั้งนั้นพ่อผมต้องทำข้อตกลงที่เคร้งครัดเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างดีแล้วกับคนคนที่ทำหน้าที่อุ้มบุญให้ผมสองคน

      “แอ้ใกล้ถึงโรงเรียนแล้ว เดี๋ยวดิวจะแวะที่ปั๊มน้ำมันนะ จะได้เปลี่ยนชุดกัน “ ดิวหันมาบอกผม ผมพยักหน้า ดิวค่อยๆปล่อยมือผม และหันไปหมุนพวกมาลัยรถเพื่อเลี้ยวเข้าปั้มน้ำมัน

      “เดี๋ยวซื้ออะไรไปกินเลยนะแอ้ “ดิวบอกผม ผมพยักหน้า ดิวนำรถเข้าไปจอดและผมกับดิวก็หยิบเป้ออกมาตรงดิ่งเข้าไปในห้องน้ำชายในปั๊มน้ำมันทันที ห้องน้ำไม่ถือว่าสะอาดมากแต่ก็พอใช้ได้ ผมกับดิวแค่เปลี่ยนเสื้อผ้ากันเท่านั้น ไม่นานก็เสร็จเรียบร้อย และพากันออกมา

      “ไปหาซื้ออะไรทานกัน เอาง่ายๆแล้วกันดิว ในเซเว่นเอาไหม แอ้ไม่ค่อยหิวอ่ะ” ผมบอกดิว ดิวก็พยักหน้าและผมก็เดินตรงเข้าไปในซุปเปอร์มาเก็ต

      “ดิวไปดูเครื่องดื่มแล้วกันนะ แอ้จะดูพวกแซนวิช ขนมปังพอ เพราะว่ายังไงก็ต้องทานอาหารกลางวันอยู่ดี “ผมบอกดิว ดิวพยักหน้าและผมก็เดินไปที่ช่องที่มีพวก แซนวิชทูน่า ผมก็เลือกมาห่อสองห่อ ให้พอประทังความหิวไปก่อน เพราะว่าตอนนี้น่าจะเป็นคาบเรียนที่สามแล้ว ระหว่างที่ผมกำลังเลือกอยู่ ผมหันไปเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ้งที่ยืนมองขนม ขนมรูปหมีมีใส้ช๊อกโกแลตและพวกขนมจุกจิกๆ เห็นแล้วก็นึกถึงลูกๆของผม

      “น้องเซน “ ผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาเรียกเด็กคนนั้น ผู้หญิงที่ดูราวๆ สามสิบต้นๆ
      
      “แม่น้องเซนซื้อได้หรือเปล่าครับ”

      “เซน แม่ขอโทษนะ แม่มีมาพอแค่จ่ายค่าไฟกับค่าผ่อนของแค่นั้นเองลูก เอาไว้อีกสองสามวันเงินแม่ออกแม่จะซื้อให้นะครับ” พอผมได้ยินแบบนั้นแล้วทำไมผมเจ็บในหัวใจยังไงก็ไม่รู้ ยิ่งเห็นใบหน้าที่แสนเศร้านั้นด้วย ผมออกมายืนมองทำไมผมถึงรู้สึกเจ็บแปลก และนี่ก็ทำให้ผมคิดที่ครูนุ่นพูดว่า ไม่มีครอบครัวใครสมบูรณ์แบบหรอกดังนั้นผมจึงเดินเข้าไปและหยิบขนมที่น้องเขาหยิบมาดูแต่แม่ของเขาบอกว่าซื้อให้ไม่ได้มาถือเอาไว้และขนมน่ารักๆอีกสองสามอย่าง รวมๆแล้วก็ไม่น่าจะเกินสองร้อยบาท ไม่ใช่ผมไม่มีเงินนะแต่ถ้าซื้อให้เยอะเกินแม่ของเขาจะไม่กล้ารับ และผมก็เดินหาดิว ดิวมองหน้าผมและมองขนมที่ผมหอบมาด้วย

      “แอ้ ลูกไม่ได้มากับเรานะแอ้ “ ดิวถามผมปนหัวเราะ

      “เอานะ”ผมพูดและหันไปเหล่มองเด็กน้อยที่ยืนเกาะขาแม่ของเขา ดูแล้วน่าจะแก่กว่าลูกผมปีสองปีเอง

      “พี่ค่ะ ระบบมันช้านะคะ รบกวนพี่รอก่อนได้ไหมคะ และขอหนูคิดเงินให้น้องเขาก่อนค่ะ” พนักงานหน้าเคาเตอร์บอกผู้หญิงคนนั้น ผมก็ยังมองเด็กน้อยนั้น หน้าตาเขาเหมือนผมคุ้นเคย ยิ่งมองยิ่งรู้สึกเจ็บแปล๊บๆ และผมก็เอาขนมวางไว้ที่หน้าเคาเตอร์

      “ขนมนี้ผมรบกวนแยกใส่ถุงให้หน่อยนะครับ” ผมบอกพนักงาน ดิวก็มองหน้าผมเลิกคิ้วมอง ผมก็แค่ยิ้มให้  ผมหนไปเห็นผู้หญิงคนนั้นเดินไปอีกเคาเตอร์หนึ่งชำระค่าไฟและค่าผ่อนสินค้าตามที่เขาได้บอกลูกของเขา

      “แอ้ไปยังเสร็จแล้ว”ดิวบอกผมและผมก็รับถุงใส่ของมาถือไว้ ผมเดินออกมาพร้อมกับดิว
   
      “ดิวรอแป๊ปหนึ่งดิ” ผมบอกดิว ดิวก็มองผม

      “มีอะไรเหรอแอ้” ดิวหันมาถาม และจังหวะนั้นเองแม่ลูกคู่นั้นก็เดินออกมาพอดี ดูหน้าตาเด็กน้อยแอบเศร้าที่ไม่ได้ขนมที่อยากกิน

      “ขอโทษนะครับ พอดีว่าผมจะซื้อขนมไปให้หลานแต่ลืมไปว่าหลานไม่อยู่บ้าน เออ ผมให้น้องได้ไหมครับ”ผมถามผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็มองหน้าผม และผมก็ส่งถุงขนมที่ผมเพิ่งจะซื้อจากเซเว่นให้เขาดู แม่เขาก็มองลูกชายของเขา

      “คือ”

      “นะครับ และผมก็ไม่ชอบทานซะด้วยมันขนมเด็กนะครับ” ผมพูดและส่งยิ้มให้เด็กน้อย

      “ขอบคุณนะคะ น้องเซนขอบคุณพี่เขาด้วยซิครับ” ผู้หญิงคนนั้นหันไปบอกน้องเซนลูกชายของเขา เด็กน้อยเงยหน้ามองผมพร้อมรอยยิ้มทีเปื้อนขึ้นบนใบหน้า ผมก็ยื่นถุงนั้นให้ เขาก็รับไปและ

      “ขอบคุณนะครับ พี่สวยจัง” ผมก็สะดุ้ง

      “พี่เขาหล่อต่างหากละเซน” แม่ของน้องเขาปันมาบอกน้องเซน

      “ไม่เป็นไรครับ “ผมพูดและส่งยิ้มให้เด็กน้อย และแม่ของเขาก็พาเด็กน้อยคนนั้นออกไป ผมก็ยังคงยืนมองอยู่จนเขาดิวดึงแขนผมให้ไปขึ้นรถ

      “แอ้ไปขึ้นเถอะ” ดิวบอกผม ผมก็พยักหน้าก่อนจะเดินตามไปแต่ผมก็ยังหันกลับมามอง

      “แอ้ นั้นลูกเขา” ดิวพูดบอกผม ผมหันไปมองค้อนใส่ไอ้ดิว

      “กูรู้ดิว”ผมบอกไอ้ดิวมัน

      “มองเหมือนจะไปแย้งลูกเขาอย่างนั้นแหละ ไปขึ้นรถเถอะแอ้ “ ดิวก็เร่งผมจังเลยให้ขึ้นรถเพื่อจะได้กลับโรงเรียน พอผมขึ้นไปได้ดิวมันก็หันมามองผมและอมยิ้ม

      “รู้ไหมว่าเวลาแอ้แสดงความรักเด็กๆ รัศมีความเป็นแม่มาเต็มเลย” ดิวพูดแต่มันก็ทำให้ผมนี้อดอมยิ้มให้ๆได้ ดิวก็ขับรถออก ผมก็ก็หันมาแกะนั้นแกะนี้ให้ดิวทาน ระหว่างนั้นผมเหลือบไปเห็นเด็กคนนั้นที่ชื่อเซนเดินเกาะแขนแม่ของเขาดูมีความสุขแต่ทำไมผมถึงมองด้วยอาการอิจฉายังไงก็ไม่รู้เหมือนเขาแย่งของรักผมไปดูแลเลย

      “ทำไมเหรอแอ้ ทำไมมองเขาแบบนั้นละ” ดิวยังหันมาถามผม

      “ไม่รู้อ่ะ เหมือนเด็กคนนี้เคยเป็นของแอ้มาก่อนแต่มันในความฝันที่แอ้เคยฝันอ่ะ ที่เล่าให้ดิวฟังประจำ” ผมหันไปบอกดิวแต่ยังชะเง้อมองเด็กน้อยที่หยิบขนมในถุงที่ผมซื้อให้ออกมาอวดแม่ของเขา ดูรอยยิ้มนั้นซิ 

      “งานระลึกชาติก็มาเมียกู”ดิวมันพูดกับผม

      “โอ้ย!!” ดิวมันร้องเสียงหลง ผมหยิกเข้าที่ต้นแขน เล่นเอารถเสียหลักไปนิดหนึ่ง และดิวก็หันมาลูบแขนตัวเองเบาๆ ก่อนจะหันมาไปขับรถเหมือนเดิม ดิวแอบขำผมด้วย แต่สิ่งที่ทำให้ผมคิดก็คือใบหน้านั้นผมคุ้นเคยมาก ผมนั่งคุยกับดิวเรื่อยเปื่อยส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องลูกนั้นแหละ เรื่องน้องไอกับน้องไอซ์ อันนี้ก็ไม่รู้จะทำยังไงเขาเกิดมาก็สนิทกันมาก น้องไอซ์ก็ร้องหาพี่ไอตลอดและไอก็ชอบที่จะแสดงบทพี่ที่รักและหวง เน้นคำว่าหวงเลย ผมกับดิวคงต้องหาวิธีที่เด็ดขาดได้แล้ว

      ดิวนำรถเข้ามาจอดที่โรงเรียนและผมก็วิ่งไปที่ป้อมหน้าทางเข้าโรงเรียนกัน ดิวไม่ลืมที่จะยื่นเอกสารที่พ่อภาทำให้เพื่อให้เราเข้าเรียนสายได้วันนี้ ลุงรปภ. อ่านข้อความและโทรศัพท์ไปที่ห้องฝ่ายปกครอง

      “เชิญครับและรบกวนนำเอกสารนี้ไปให้ห้องธุรการด้วยนะครับ “ ลุงแกก็หันมามองบอกผมสองคน ผมก็รีบวิ่งขึ้นห้องเรียนทันที ตอนนี้คายเรียนที่สามแล้ว ผมวิ่งขึ้นไปที่ห้องเรียนกันก่อนทันที


      “ขออนุญาตครับ” ไอ้ดิวมันรีบขออนุญาตครูที่กำลังสอนอยู่ วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ไม่มีพวกภาคินเข้าเรียน

      “เชิญค่ะ ทำไมเพิ่งมาโรงเรียนกันละคะ” ครูที่ทำหน้าที่สอนเอ่ยถามผมสองคน ผมหันไปเจอสายตาไอ้ติ๊กมันมองผมและมันก็หันไปคุยกับพาย

      “นี่ครับเอกสาร” ดิวส่งเอกสารให้ครูที่สอนกำลังสอนอยู่ที่หน้าห้องเรียนดู

      “เชิญไปนั่งที่ค่ะ” แค่นั้นหลังจากที่ครูอ่านเอกสารที่พ่อภาทำให้ ก็สั่งให้ผมสองคนไปนั่ง ผมก็นั่งกับดิวเหมือนเดิม

      “ทำไมพึ่งจะมาว่ะ” ไอ้แจ็คมันหันมาถามผมทันที ผมเงยหน้ามองบอยก็ยิ้มให้ผมก่อน

      “กูกับแอ้ พ่อให้เข้าไปในค่ายด่วน เพราะว่ากูสองคนต้องเตรียมยื่นใบสมัครสอบเข้าแล้วว่ะ”ดิวเป็นคนตอบแทน ผมหันไปมองติ๊ก ติ๊กมันไม่มองหน้าผมสักนิด ผมกันไปมองพาย พยักพเยิดให้มัน แต่พายนิ้วเฉือดคอให้ผม ผมก็ต้องรู้แล้วแหละว่ามันโกรธผมมากแน่ๆ  ผมก็นั่งเรียนไปจนหมดชั่วโมงและติ๊กมันรีบลุกออกไป ผมเดาว่าน่าจะไปห้องน้ำ ผมรีบลุกตามไปทันที

      “แอ้ไปไหน”ดิวถามผมทันทีขณะที่มันกำลังลอกการบ้านเมื่อเช้า
      
      “ไปห้องน้ำ” ผมตอบไอ้ดิว

      “ไปง้อเมียน้อยหรือเปล่า เห็นหน้าเป็นตูดตั้งแต่เช้าแล้ว” ไอ้หลุยส์มันพูดและไอ้แจ็คมันก็แตะมือทันที ผมก็ส่งนิ้วกลางให้อย่างไวก่อนจะออกจากห้องไป ผมรีบเดินไปให้ทันติ๊ก ไปจนถึงห้องน้ำและ

      “หมับ” ผมคว้าแขนติ๊กไว้

      “ติ๊ก มึงโกรธกูเหรอว่ะ” ผมถามติ๊ก

      “มึงไปเอากันมาใช่ไหม ใช่ไหมแอ้!!” ติ๊กมันถามผม ขณะนั้นก็มีคนเดินมาเข้าห้องน้ำและหยุดมองผมกับติ๊ก พายก็รีบเดินเข้ามาอีกคน

      “เห้ย! รอไปคุยกันที่บ้านดีกว่าไหมว่ะ” พายพูดขึ้นและมองหน้าผมสองคน ก่อนชวนให้ผมสองคนหันไปมองรอบๆ

      “อิท น๊อท เยอร์ บิสสิเนส “ ติ๊กมันพูดภาษาอังกฤษใส่คนที่มาใช้ห้องน้ำ

      “วอท เดอ ฟั๊ค อาร์ ยู ลุ๊ก เก็ต อัส! จัสเก็ต เดอะฟั๊กเอาท์!” ติ๊กหันไปพูดเสียงดังผมก็แตะแขนมัน แต่ติ๊กมันสะบัดมือผมออก  และคนคนอื่นก็พากันเดินออก

      “แม่งลูกเจ้าของเรียนแล้วไงว่ะ เขาสร้างไว้ให้มึงใช้คนเดียวหรือไง” พวกที่เดินออกก็พากันบ่นต่อว่าติ๊กกัน ติ๊กมันมองหน้าผม

      “ติ๊ก” พายมันพยายามห้ามติ๊ก

      “ไม่ใช่เรื่องของมึงพาย” ติ๊กมันพูด ผมสะบัดหน้าไปมองติ๊กและมองพาย ผมมองว่ามันพูดแบบนี้ได้ยังไง

      “เออ งั้นกูไป “ พายมันเดินออกไปเช่นกัน

      “มึงพูดแบบนี่กับพายได้ไงว่ะติ๊ก” ผมถามติ๊ก

      “มึงยังไม่ตอบคำถามกูเลย ว่ามึงไปเอากันมาใช่ไหม!!”  ติ๊กมันถามผมและเดินก้าวเท้าเข้ามาหาผม

      “บอกกูดิ!!” ติ๊กมันตะคอกเสียงดังใส่หน้าผม

      “ขนาดมึงรู้ว่าดิวมันกลับมาก่อนที่มันบอกมึง มึงยังไม่บอกกูเลยไอ้แอ้ “ ติ๊กมันพูดและ

      “ซี้ด!!!” ติ๊กมันบีบที่ต้นแขนของผม เล็บยางและเรียวแหลมนั้น มันจิ๊กเข้าไปที่ต้นแขนผมจนรู้สึกเจ็บ

      “ติ๊ก กู “ผมกำลังจะพูด

      “มึงจะโกหกอะไรกูอีก “ติ๊กมันพูดและง้างมือจะฟาดหน้าผม ผมก็หลับตาแต่ว่าไม่มีเสียงฝามือกระทบใบหน้าผม ผมค่อยๆลืมตา เพราะว่าคนที่มาจับข้อมือติ๊กไว้? ??????

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
(แอ้VSดิว)เหมือนคนที่คุ้นเคยP2 (ใครก็มองว่าสามผัวเมียกันอยู่แล้ว)

                   “มึงจะโกหกอะไรกูอีก “ติ๊กมันพูดและง้างมือจะฟาดหน้าผม ผมก็หลับตาแต่ว่าไม่มีเสียงฝามือกระทบใบหน้าผม ผมค่อยๆลืมตา เพราะว่าคนที่มาจับข้อมือติ๊กไว้คือดิว

      “กูเคยบอกมึงแล้วใช่ไหมว่ามึงอย่าทำแอ้มัน” ดิวตะคอกเสียงใส่ติ๊ก ติ๊กก็ตกใจมิใช่น้อย ดิวมันเหวียงติ๊กออกไป “ตุ๊บ” เสียงติ๊กไปชนกำแพงแต่ไม่แรงมากและดิวมันก็จะเข้าไปหาติ๊ก  ผมก็รีบดันหน้าออกมันไว้

      “หยุด!! ดิว !!” ผมห้ามปรามมัน

      “ก็มันโกหกกู มันบอกจะกลับกับกู และนี้มันกับไปกับมึง โทรหากูก็ไม่มี เพื่อนกันภาษาอะไรว่ะ มึงอีกคนไอ้ดิว ทำไมถ้ามึงอยากตัดกูออกไปจากชีวิตมึงสอง ก็บอกมาตรงๆดิว่ะ ว่ามึงคบกัน” ติ๊กพูดพร้อมกับกำหมัดแน่น 

      “ติ๊กกูกับแอ้นะไปด้วยกันเมื่อวานเพราะมีเรื่องที่กูกับแอ้ต้องทำด้วยกัน” ดิวมันพูด ผมก็ดันหน้าอกมันเอาไว้

      “อย่าบอกนะดิว” ผมกระซิบผมหมายถึงอย่าบอกว่าผมกับมันไปฉลองวันเกิดลูกมีนมานะ ดิวมันมองหน้าผม

      “ไปด้วยมีเรื่องเชี้ยอะไรว่ะ มันสำคัญขนาดที่บอกให้กูรู้ไม่ได้ใช่ไหม หรือว่ากลัวกูตามมึงสองคนไป” ติ๊กมันถาม

      “กูกับแอ้ จะถูกส่งไปเรียนทันทีที่ผลการตรวจร่างกายผ่าน กูแค่ไปกรอกเอกสารกัน มึงดูดิ ไอ้เชี้ย” ดิวมันพูดและโยนเอกสารที่พ่อภาทำให้ ให้ติ๊กมันดู ติ๊กมันหยิบไปอ่านและมองหน้าผมสองคน

      “เหี้ยอะไรกันอีกว่ะ แม่ง มันจะทะเลาะกันทำไมว่ะ” เสียงเอะอะโวยวายดังเข้ามา ไอ้แจ็คมันเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับบอยอีกคน แต่บอยยืนอยู่ตรงหน้าประตู เหมือนคอยดูต้นทางว่าอาจารย์จะเดินมาหรือเปล่า

      “อะไรกันว่ะพวกมึง”แจ็คมันยืนมองหน้าพวกผม “

      “ พายมันวิ่งออกไป มันบอกว่ามึงบ้าไม่ต่างกับหมาบ้าเลยติ๊ก และก็กูบอกกี่ครั้งแล้วว่ะ ว่าเรามีกันแค่นี้และนี่ยิ่งต้องสามัคคีกัน แค่ต้องมาทำอะไรบ้าๆที่โรงเรียนพ่อมึงก็แย่แล้วติ๊ก” แจ็คมันพูด บอยเดินมาแตะที่ไหล่ติ๊กเบาๆ

      “ภาระกิจบ้าๆพวกนี้เสร็จก็จะได้ต่างคนต่างไปเข้ามหา’ลัย  จะได้ไปมีชิวิตของตัวเอง!!” ไอ้แจ็คมันพูด

      “และมึงสองคนก็ไม่บอกกูกันบ้างเลย ทำให้พวกกูเป็นห่วง ว่าทำไมมึงไม่กลับมากันตั้งแต่เมื่อวานว่ะไอ้ดิว ไอ้แอ้” แจ็คมันหันมาต่อว่าและถามผมสองคน

      “แอ้มันมีเรื่อง ลุงหนึ่งตามไปที่บ้านอาภีม แต่อย่าถามเลยนะว่าแอ้มันโดยอะไร มันเสียใจมากพอแล้ว “ ดิวมันพูดและหันมาดึงแขนผมออกไปทันที

      “กูสองคนไม่ได้อยากปิดอะไรมึงนะติ๊กแต่มึงเองที่ไม่เปิดใจให้พวกกูสองคนแบบนี้ไง! “ ดิวมันลากผมออกไปจากตรงนั้นทันที และพาผมไปตรงไปที่ห้องพยายาล มันลากเก้าอี้มาให้ผมนั่งลง ผมกำลังอ้าปากพูดมันก็ทำนิ้วจุ๊ปากไม่ให้ผมพูดและหันไปค้นตู้ยา ตอนนี้ครูห้องพยาบาลไม่อยู่ 

      “โอ๊ย!” ผมร้องเสียงหลงทันทีที่ดิวมันเอายามาทาที่ต้นแขนผม ที่ติ๊กมันกดนิ้วลงไปจนแดงอมเขียว
      “จะให้ดิวทนได้นานแค่ไหน แอ้ ทนเห็นมันทำแบบนี้นะ แอ้ ดิวทนไม่ได้” ดิวมันพูด ผมก็ก้มหน้าลง

      “ก็มันเพื่อนเราไหมว่ะดิว เพื่อนที่เกิดมาก็เจอกันไหมว่ะดิว “ผมพูดขณะที่ดิวกำลังหันหลังออกไปเพื่อเอาหลอดยากไปเก็บ คนที่เดินเข้ามาก็คือติ๊ก ติ๊กมันเดินมาหาผม และมันก็กอดผม

      “แอ้กูขอโทษ” ผมก็ตอ้งกอดมันกลับ
      
      “กูขอโทษว่ะติ๊ก เรื่องที่กูไม่โทรบอกมึงอ่ะ” ผมพูด

      “อย่าทำกับมันแบบนี้อีก ติ๊ก กูขอละ”ดิวมันเดินเข้ามาและมองผมสองคน ผมลุกขึ้นยื่น

      “ไปทานข้าวกัน “ ดิวพูดผมพยักหน้า

      “มึงขอโทษพายหรือยังติ๊ก” ผมถามติ๊ก

      “อืม “ ติ๊กมันพูด ผมพยักหน้าผมสองคนเดินลงไปที่ห้องอาหาร ผมเห็นมีกลุ่มนักเรียนที่ที่มองหน้าพวกผมกัน

      “สามพีกันหรือเปล่าว่ะ” ไอ้ติ๊กมันสะบัดหน้าไปมองทันทีและจะตรงไปหาเรื่องเขาอีก ผมก็ดึงแขนไอ้ติ๊กเอาไว้ “อย่าติ๊ก” ผมห้ามปรามมัน พวกนั้นก็หันมามองติ๊กพร้อมกับเดินหนีไปทางอื่นแทน  ผมจำได้ว่าเด็กพวกนี่คงเป็นกลุ่มที่ติ๊กมันไล่ออกไปจากห้องน้ำตอนที่มีเรื่องทะเลาะกับผมและมันก็คงได้ยินว่าติ๊กมันถามผมว่าไปเอากันหรือเปล่า

      “เป็นไงละ ใครก็มองกันว่าสามผัวเมียกันอยู่แล้ว” ดิวพูดและเอามือล้วงกระเป๋า

      “ไปกินข้าวเถอะว่ะ ติ๊ก” ผมพูดและดึงแขนมันกลับ ติ๊กมันชี้หน้าเด็กพวกนั้น และผมก็ดึงลากติ๊กมันออกไปจนถึงห้องอาหาร ผมเห็นพายคุยกับต้นข้าวและบลูสนุกสนาน สงสัยจะหนังสื่อเอ็มเล่มใหม่ออกแล้วแน่ๆ พายเงยหน้าขึ้นมามองผมและยิ้ม

      “พายกูขอโทษ” ติ๊กมันพูด พายหันมามองค้อนขวับทันที

      “ที่หลังพูดเชี้ยอะไรคิดนิดนึงนะมึง “ พายพูดและลากเก้าอี้ให้มันนั่งลงข้างๆ ติ๊กมันและผมก็นั่งข้างๆติ๊กเช่นเดิม ส่วนดิวมันก็ไปนั่งข้างๆผม

      “เมื่อวานกูเห็นพวกไอ้ภาคินมันเข้าไปบ้านพี่แฮกซ์กันว่ะ เห็นบอกว่า คนที่เคยอยู่แก้งเดียวกับมันและแท่งพุงเพื่อนมัน ไอ้คนที่คุณก็รู้ว่าใครจะกลับมาเรียนที่นี้ว่ะ” ไอ้ต้นข้าวมันพูด

      “ใครว่ะ ลอร์ดโวลเดอมอร์เหรอว่ะ ไอ้คนที่คุณก็รู้ว่าใครนะ” ไอ้ดิวมั้นรีบถามขึ้นทันที

      “ใช่แล้วไอ้นี่แหละที่มันกำลังจะมา ดังนั้นพวกมึงควรจะไปตามล่า สิ่งที่จะทำลายลอร์ดโวลเดอมอร์เอาไว้เลย “ไอ้ต้นข้าวพูด “เว๊ย!! ไม่ใช่ นั้นมันแฮร์รี่พอร์ตเตอร์ ไอ้ดิว” ไอ้ต้นข้าว

      “เออว่ะ กูก็คิดว่าลอร์ดโวลเดอมอร์  แป๊ะ” พายมันรีบลุกแทกทีมแตะมือกับดิวทันที และแจ็คกับหลุยส์ ที่เดินโอบเอวธรรณ์ เดินมานั่งที่โต๊ะ มันมองหน้าพวกผม

      “ตกลงมึงดีกันยังไอ้สามผัวเมีย นี่กูเดินผ่านใครก็พูดกันว่ามึงตีกันเพราะว่าตกลงวันจะfu**ing กันไม่ได้” แจ็คมันพูดและหันไปมองไอ้หลุยส์  ผมสามคนก็ให้นิ้วกลางมันทันที

      “แธงค์!” ไอ้แจ็คมันขอบคุณพวกผม

      “บอยละว่ะ” ติ๊กมันถามแจ็ค

      “โทรศัพท์อยู่” แจ็คพูดและบอยก็เดินตรงมาทันที

      “แจ็ค สั่งอะไรไปส่งไว้ที่บ้านบอยนะ” บอยถามไอ้แจ็ค พวกผมก็มองหน้าไอ้แจ็คกัน มันก็เงยหน้าขึ้นมามาจากมือถือมันและส่งยิ้มให้บอย แต่สีหน้าบอยซีเรียสมากมันหาได้สำนึกไม่

      “ก็ของเล่นไง ของขวัญปลอบใจลูกเลี้ยงของแจ็คไง แบงค์เขาชอบไหมครับ”  แจ็คมันพูดว่าลูกเลี้ยง

      “ลูกเลี้ยง อะไรอีกว่ะ “ติ๊กมันถามขึ้น

      “แจ็คแต่แบงค์แค่หนึ่งขวบเองนะ ทำไมถึงได้สั่งพวก รถอาร์ทีวี เกมส์เพลสเตชั่นอีก และยังมีพวกมอเตอร์ไซด์วิบากอีก แจ็ค นี้ไม่ใช่ของเล่นเด็กเลยนะ” บอยพูด ผมก็หันมามองดิว บอยบอกแจ็คแล้วเหรอ 

      “เดี๋ยวนะ ใครมีลูก” พายยกมือขัดถามขึ้น
      
      “พวกมึงคงยังไม่รู้ว่าบอยเขามีลูกแล้ว “

      “บอยมีลูก!!” ทุกคนร้องออกมาพร้อมกันยกเว้นผมกับไอ้ดิวที่แค่หันไปมองบอย บอยก็ขยิบตามาที่ผมสองคน

      “พี่บอยมีลูกแล้วจริงๆเหรอค่ะ!!!   “ อันนี้เสียงน้องผู้หญิงสองสามคนที่นั่งติดกับพวกผม ผมหันไปมองพร้อมกัน พวกผมเองก็ไม่ได้สังเกตว่ามานั่งกันตอนไหน

      “เออ…ขอโทษนะ น้องชะนี มานั่งตอนไหนครับเนี๊ยะ”ไอ้หลุยส์มันหันไปถามและธรรณ์ก็ตีแขน

      “สักพักแล้วค่ะ แบบว่าพวกหนู เป็นคนชอบอ่านนิยายวายค่ะ เฮอๆ”

      “อ้อ!! งั้นพวกพี่รบกวนขอความเป็นส่วนตัวนะน้องชะนีคนสวย” ไอ้ติ๊กมันหันไปพูด พากันลุกไปแบบเกรงใจและเสียดาย

      “ใช่บอยมีลูกแล้ว กูนี้ขึ้นตำแหน่งพ่อเลี้ยงที่อายุน้อยที่สุดว่ะ เนอะบอยเนอะ  “ ไอ้แจ็คมันบอกว่ามันเป็นพ่อเลี้ยงด้วย

      “ไอ้แจ็คนี้มันต้องกินหญ้าเบอร์ไหนถึงได้โง่ขนาดนี้ นี้มันเจอแล้วนะมันยังดูไม่ออกเลยว่าลูกมัน” ไอ้ดิวมันหันมากระซิบกับผม ผมก็เอาข้อศอกกระทุ้งให้มันหันไป

      “บอยมีลูกได้ไงอ่ะ “ติ๊กมันถามบอย

      “คือ เออ “

      “เอานะ มีได้แล้วกัน ตอนนี้กูสองคนก็เป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่กันแล้วนะ ไม่ยินดีหน่อยเหรอวะ” แจ็คมันพูดแต่บอยซิยืนมองแจ็ค ด้วยสีหน้ากะอักกะอ่วนใจ

      “……” ยังคงอึ้งกันเป็นแถว

      “โอเค เคินแกรทเชอะเล๊เชิน!” ไอ้หลุยส์คนแรก เห็นมันบอกว่าสนิทกับบอยมันยังทำหน้างง มากเลยแต่ก็ลุกขึ้นเช็คแฮนด์กับไอ้แจ็ค แบบงง ไม่ต่างอะไรกับพายและติ๊ก ต้นข้าวกับบลูก็อ้าปากค้างไปตามๆกัน

      “เออ บอยขอโทษนะที่ไม่ได้บอกทุกคน ว่าบอย “ บอยพูดและหันไปมองหน้าไอ้แจ็ค ผมกับดิวพากันส่ายหัว มันช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย และนี่ก็ทำเอาทุกคนตกใจไม่แพ้กันแม้กระทั้งต้นข้าวและบลู

      “พายไม่อยากเชื่อเลยอ่ะ ถ้าเป็นไอ้แจ็คนะพายเชื่อสนิทเลยเพราะว่าไอ้นี้เมาแล้วไม่รู้เรื่องถ้าจะพล้าดเสียตัวให้ใครนี้มันแน่ๆ แต่บอยนี่ “ พายพูดขึ้น

      “แล้วไอ้คุณพ่อเลี้ยงมือใหม่มึงซื้ออะไรไปฝากลูกอ่ะ” ไอ้ติ๊กมันถามไอ้แจ็คทันที

      “ก็รถอาร์ทีวี  เกมส์เพลย์สเตชั่นใหม่ล่าสุด พีโอบ๊อกซ์ด้วย รถมอเตอร์ไซดิ์วิบากเพื่ออยากได้ความตื่นเต้น”ไอ้แจ็คมันพูด และยิ้มให้พวกผม

      “ทำไมไม่ซื้อเครื่องบินให้ขับเล่นรอบบ้านไปเลยละครับ จะได้ยิ่งตื่นเต้น” ไอ้หลุยส์มันยังพูดกับเพื่อนซี่มันเลย

      “ความคิดที่….”ไอ้แจ็ค มันชี้นิ้วมาทางไอ้หลุยส์  “ดีมาก คราวหน้าเลย”

      “มันไม่มีความสำนึก” ไอ้ต้นข้าวพูด 

      “บอยเพิ่งจะบอกว่าลูกเขาหนึ่งขวบเอง ทำไมมึงไม่ซื้อหนังสือการ์ตูน หนังสือนิทาน หรือไม่ก็ของเล่นทีเขาระบุอายุเด็กไม่เกินหนึ่งขวบเล่นได้ว่ะ แจ็ค” อันนี้ไอ้ดิว และแจ็คมันก็โดนพวกผมบ่นมันชุดใหญ่เลย เพราะว่าเล่นซื้อของเล่นให้ลูก(มันเอง)แต่มันยังไม่รู้เลย คิดว่าเป็นลูกบอยคนเดียวและมันก็คือพ่อเลี้ยงไปก่อน ผมคิดว่าบอยน่าจะมีเหตุผลที่ยังไม่บอกแจ็คแหละ ผมพวกนั่งทานกันจนเสร็จเรียบร้อย ผมเลยว่าจะเดินไปซื้อน้ำ พายกับติ๊กมันกำลังซุมหัวดูรูปที่ไปถ่ายงานกันผมเลยไม่ช่วน ผมเดินมาก็เห็นบอยเดินไปกับธรรณ์

      “แอ้” บอยเรียกผมไว้ ผมสามคนยืนห่างกับพวกนั้นพอสมควร

      “บอยบอกแจ็คแล้วเหรอ”

      “ไม่ได้บอกหรอกแอ้ แต่ทำไงได้เขาเจอกันแล้วและพ่อให้บอยบอกว่าบอยไปทำผู้หญิงท้องมา” บอยพูด ผมกับธรรณ์พยักหน้า

      “ไม่เอ๊ะใจอะไรบ้างเหรอ คุณพ่อนะ”ธรรณ์พูดผมสามคนหันไปมองไอ้แจ็คที่หัวเราะอะไรกับไอ้หลุยส์สองคน

      “ไม่รู้ซิ”บอยพูดและหันไปมอง

      “แอ้ยังไม่เคยเจอน้องนะ เลยไม่รู้” ผมพูด

      “หน้าบล็อกเดียวกันนั้นแหละพ่อลูกนะ”ธรรณ์พูดปนขำ  ผมหันไปมองธรรณ์แสดงว่าเจอกันแล้ว ธรรณ์พยักหน้ากับผมว่าใช่

      “พ่อบอกว่ามีวิธีเดียวคือต้องให้แจ็คขึ้นตำแหน่ง แต่องค์กรต้องการผู้นำ ดังนั้นบอยจะต้องรักษาการไปก่อน บอยต้องมีงานเยอะขึ้นนะ “ บอยพูดและมองหน้าผมสองคน

      “เห็นใจว่ะ เป็นคนสำคัญนี้ลำบากตัวและลำบากใจว่ะ”ธรรณ์พูด

      “เราไปห้องน้ำก่อนนะแอ้” บอยพูดและเดินแยกไปเข้าในร้านขายน้ำของโรงเรียน

      “พี่ครับ ผมขอน้ำเปล่าสามขวดครับ” ผมบอกพี่คนที่ขายน้ำ เขาก็พยักหน้า ผมยืนรออยู่ ช่วงนี้เป็นเวลาพักเที่ยงคนรอซื้อน้ำเยอะพอสมควร เห็นทีช่วงนี้ต้องพ้วงสามคนไปสักพัก และผมก็เข้าใจที่ดิวพูดนะ ว่าเราจะมีกันสามคนแบบนี้ไปตลอดไม่ได้ แล้วจะให้ผมทำยังไง ในเมื่ออีกคนก็แอบรักและอีกคนดันมารักผมและผมก็รักมันและผมกับมันก็มีพยานรักกันอีก แต่บอกไม่ได้ บอกใครไม่ได้เลย แม้กระทั้งครอบครัวผมเอง แต่พ่อภาพูดแล้วว่าผมต้องบอก เฮ้อ!

      “อุ้ย! “ ผมสะดุ้งเพราะว่ามีขวดน้ำมาแตะที่แก้มผม ผมหันไปมองคนที่ทำแบบนี้กับผม

      “นาย” เขาเรียกผม ผมก็หันไปมองว่าเขาคือใคร

      “เราเห็นพี่เขาส่งขวดน้ำให้นานแล้ว คิดอะไรอยู่เหรอ” คนที่รับขวดน้ำจากพี่คนขายน้ำเอาไว้ให้ผม เขายืนมองผมอยู่ ผมก็มองว่าเรารู้จักกันเหรอ

      “เราชื่อนาวิน   เราเรียนห้องถัดไปจากนายนะ ชื่อแอ้ใช่ป่ะ น่ารักดีทั้งชื่อและคน “ ผมพยักหน้าและรับขวดน้ำมา ผมกำลังจะควักเงินจ่าย และเรียกพี่เขามา

      “เราจ่ายให้แล้ว” ผมสะบัดหน้าไปมอง จ่ายให้ด้วยเหรอ

      “แลกกับเบอร์โทรได้ปะ” ผมกำลังจะรับขวดน้ำมาแต่คนที่บอกว่าชื่อนาวินยื้อกลับไปและมาขอแลกกับเบอร์โทรผมนี่น่ะ

      “ได้ดิ เดี๋ยวกูให้เอง” เสียงไอ้คนที่รู้ว่าใครเดินมา ไอ้ดิว มันเดินเอามือล้วงกระเป๋าอย่างเท่และน่ากลัวมาก ดิวมันเดินมาคว้าขวดน้ำไปถือเอาไว้

      “แฟนเหรอ” นาวินถามผมก่อนจะหันไปมองหน้าดิว  แต่จังหวะนั้นติ๊กและพายเดินเข้ามาพอดี
   
      “เพื่อนเรา” ผมรีบตอบแต่ดิวมองหน้าผมและหันไปมองหน้านาวิน

      “กูเพื่อน แต่พิเศษมีไรป่ะ” ดิวมันหันไปกระซิบกับไอ้นาวิน ไอ้นี่แม่งก็หันมายิ้มแบบไม่กลัวไอ้ดิวซะด้วย

      “ไอ้นาวิน กูรอแดกน้ำมึงอ่ะชาตินี้นะมึง” เสียงที้พวกผมคุ้นเคยกันในห้องเรียน ไอ้โซ่ว มันดินมาเรียกไอ้นาวิน เพื่อนมัน

      “นี่เพื่อนมึงใช่ไหม” ไอ้ดิวหันมันถามไอ้โซ่วทันที ไอ้โซ่วรีบเดินมาดึงแขนเพื่อนมันออกไปทันทีเช่นกัน ผมว่าไอ้โซ่วมันรู้จักไอ้ดิวดี และมันก็กระซิบกระซาบกับนาวิน นาวินหันมามองผมและทำนิ้วขอเบอร์โทรผมอีก

      “ไอ้แอ้นี่มึงกำลังโดนเขาจีบเหรอว่ะ” พายมันถามผม

      “แถมเป็นเพื่อนไอ้พวกนั้นที่อยู่ในห้องเราอีกว่ะ” ไอ้ติ๊กอีกคน ผมหันมามองไอ้ดิว มันยังยืนมองไอ้คนนั้นอยู่

      “ปึก” ผมกระทืบเท้ามัน ไอ้ดิวมันหันมามองหน้าผม ผมก็ส่ายหัวให้พอ และพากันเดินออกเพื่อไปเข้าห้องเรียนช่วงบ่ายและจะได้พากันกับบ้าน ผมกับดิวก็ต้องลอกเลคเชอร์ ที่พวกเพื่อนๆจดตามที่ครูบอกกัน 

      “ดิว มึงงอนกูเหรอ เรื่องที่ไอ้นั้นมันจีบกูนะดิว” ผมกระซิบถามไอ้ดิว เพราะว่ามันนั่งลอกแลคเชอร์แบบเงียบมาก

      “ดิวถ้ามันรู้กูเป็นยังไงกูว่ามันก็กระเจิงแหละ”ผมกระซิบ ไอ้ดิวมันเงยหน้าขั้นมามองผมและยิ้มให้ผม ก่อนจะหยิบมือถือมาและมันก็ให้ผมดู มันเป็นเหมือนกระทู้ที่ถูกตั้งขึ้น และมันมีรูปผมที่ถูกแอบถ่าย ขณะที่กำลังนั่งเฉยๆ กดมือถือเล่นไปด้วย และหัวข้อกระทู้มันบอกว่า// คนนี้น่ารักผมแอบชอบ อยากได้เป็นแม่ของลูก //

      “เว๊ย!” ผมร้องเสียงหลงทันที ดีที่ไอ้ติ๊กกับพายมันเดินไปหาพี่พัฒน์เลยไม่ได้อยู่ในห้อง

      “ดิว กูไม่ได้ไปบอกให้เขาอยากได้กูนิ” ผมพูดบอกดิว

      “หึงอ่ะ เข้าใจป่ะ แสดงออกก็ไม่ได้โคตรอึดอัดเลย” ไอ้ดิวมันพูด

      “พอแล้ว คืนนี้ไปนอนด้วยแล้วกัน พอใจป่ะ” ผมพูด ทีอย่างนี้ยิ้มออกมาทันที และผมกับดิวก็ลอกงานที่พวกแจ็คมันจดเอาไว้จนเสร็จ พอดีหมดชั่วโมงสุดท้ายพอดีเลย

      //แอ้ กูกับพายรอด้านล่างเลยว่ะ//  ผมได้รับข้อความจากติ๊ก ผมหันมามองดิว

      “ดิว ติ๊กกับพายพบอกรอข้างล่างเลยว่ะ” ผมบอกดิว ผมก็ลุกขึ้นทันที จังหวะนั้นที่ผมกำลังจะหันตัวออกผมก็เจอกับสายตาของภาคินที่ยืนมองมาที่ผมก่อนจะเลื่อนเก้าอี้เก็บและเขาก็ยิ้มให้ผม ผมก็ยิ้มกลับแต่ก็ต้องหุบก่อนที่ดิวจะหันมาเจอเพราะว่าไอ้นี้มันไม่เคยเข้าใจคำว่ายิ้มตามมารยาท

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
เพื่อนใหม่(อีกแล้ว)

            Part แจ็ค สองอาทิตย์ผ่านไปไว้เหมือนโกหก มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผมกับไอ้หลุยส์จนตอนนี้เรียกว่าสนิทกันมากมองตารู้ใจเลย เพราะว่าผมกับไอ้หลุยส์มีความคิดที่คล้ายกันมากและยิ่งตอนนี้มันก็มีหวานใจที่สไตล์เดียวกันกับผม ธรรณ์เหมือนบอยมาก แทบจะทุกอย่าง แถมอีกเรื่องที่เกือบทำให้ผมกับบอยอาจจะต้องเลิกกัน ก็คือบอยเข้าใจผิดคิดว่าผมพาแบงค์ไปทำมิดีมิร้าย ก็ผมเป็นคนไม่ชอบเด็กแต่เห็นที่ลุงหนึ่งทำแบบนั้นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะกระโดดลงไปช่วยและนี้ถึงทำให้ผมรู้ว่าบอยแอบไปมีลูกมาด้วย แต่ใครกันนะที่บอยพล้าดท่าทำให้ท้องได้ แต่ก็ไม่มายด์ เพราะว่าพ่อผมก็ยังอิบอิบผู้หญิงจนท้องผมมาแล้ว



“ไอ้แจ็ค” ไอ้หลุยส์มันเรียกผม ผมหันไปมองหน้ามันขณะที่กำลังเดินเข้าโรงเรียน ผมมารถที่ทางโรงเรียนไปรับเหมือนเช่นเคย แอ้ดิวพายและติ๊กมันมารถกระบะที่เป็นแบบโฟว์วีลไดฟ์ของไอ้ดิวกัน ผมว่ามันน่าจะยืนรอผมอยู่ด้านในกันแล้ว บอยรีบเดินไปหาธรรณ์ทันที เหมือนจะมีเรื่องเม้ามอยด์กัน



“ดูดิ บอยกับธรรณ์นะ ดูสนิทกันมาก ดูคุยกัน เหมือนสาวๆ เลยวะ ฮาๆ” ไอ้หลุยส์มันพูด ผมนี้ตั้งใจฟังอย่างดีแต่พอมันบอกเหมือนสาวๆ ผมก็อดที่ขำไม่ได้



“ได้ยินนะ “อันนี้ธรรณ์ ไอ้หลุยส์มันกดทันที มันเกียมัวมากกว่าผมซะอีก



“วันนี้จะมีอะไรใหม่ๆ ไหมวะ ของเดิมเบื่ออ่ะ พวกไส้กรอกแฮมขนมปัง” ไอ้ดิวมันพูดขึ้นมันเดินตามหลังผมเข้ามา ไอ้ผมก็นึกว่ามันจะมาถึงก่อนซะอีก ผมหันไปมองสามหนุ่ม (เหลือน้อย แอ้ ติ๊ก พาย ดูยังไงก็สปีชีย์เดียวกัน) ผมพยักพเยิดไปที่สามหนุ่มนั้น ดิวมันยักไหล่ให้ผม พวกผมกำลังเดินผ่านห้องธุรการ ห้องที่พวกผมไปติดต่อวันแรกที่มา ผมเห็นว่ามีรถจอดอยู่ด้านหน้าเลย



“แรงวะ แม่งเข้ามาจอดด้านหน้าแบบนี้เลยเหรอวะ ถ้าเป็นรถสปอร์ตก็จะไม่ว่าเลยอ่ะ” พายพูด ผมก็หันไปมอง ทำไมมันไม่รู้จักไปจอดที่เขาให้จอดว่ะ



“ไม่น่าจะใช้รถของนักเรียนหรอกว่ะ “ไอ้ติ๊กพูด พวกผมก็หยักไหล่สนใจอะไร ระหว่างที่กำลังจะเดินผ่าน พวกผมก็ได้ยินว่า



“ตอนผมย้ายมาครูอีกคนก็บอกว่าว่าผมเรียนห้อง311 ได้แต่ทำไมตอนนี้ผมเรียนห้องนันไม่ได้” ทุกคนหยุด และหันมามองหน้ากัน



“ห้องเรานี้หว่า” ไอ้แอ้พูดขึ้น



“ผมไม่สนใจหรอกครับว่าลูกท่านหลานเธอคนไหน พ่อเป็นใครใหญ่แค่ไหน ผมจะเรียนห้องนั้น ทำไมครูต้องสนใจด้วยครับว่าพวกมันจะชอบผมหรือไม่ เพราะว่านั้นไม่ใช่ธุระของผมที่ผมจะต้องให้บอกว่าชอบผมซะก่อน ที่จะให้ผมไปเรียน “ไอ้คนที่มันตะโกนโหวกเหวกอยู่บนห้องธุรการและมันก็คงหมายถึงพวกผมแน่ๆ



“เหมือนจะงานเข้าพวกเราวะ” ไอ้พายพูดขึ้น



“ไม่แปลกวะ ไปเถอะวะ ไปหาที่นั่งกินข้าวกันดีกว่า “ผมหันไปบอกพวกมัน และหันไปโอบเอวบอยให้เดินต่อจะดีกว่า ไอ้หลุยส์มันก็โอบเอวธรรณ์ให้เดินตามเช่นกัน



“รถแม่งก็ไม่ได้เท่เลยนะแค่โหลดเตี้ยแค่นี่เอง “ไอ้ติ๊กพูดและเบ้ปาก



“ไปเถอะนะ เรื่องของมันมึงอย่าไปหาเรื่องมันก็แล้วกัน แค่มันยังไม่เจอหน้าพวกเราเลยแม่งก็เริ่มจะไม่ชอบขี้หน้าขึ้นมาซะงั้น “ไอ้ดิวมันดันไอ้ติ๊กให้เดินไป พายกับแอ้กำลังเดินออกเช่นกัน



“งานนี้ต้องรีบแล้ววะไอ้แจ็คให้ไอ้ป๊อดมันหาคนมาสืบพวกไอ้ภาคินซะก่อนวะว่าพวกมันคือใคร อะไรคือสาเหตุว่ะ” ไอ้หลุยส์มันบอกผม ผมก็พยักหน้าคิดว่ารอช้าไม่ได้ ระหวางที่พวกผมกำลังจะเลี้ยวเข้าที่โรงอาหาร



“เฮ้ยย! กรูเห็นพี่เดี่ยวมาเรียนวะ “พวกที่อยู่ในห้องอาหารซุบซิบกันเป็นเรื่องปกติแต่วันนี้มันพูดถึงใครก็ไม่รู้แต่ดูท่าจะทอล์คออฟเดอะทาวน์



“จริงดิ พี่เขามาแก้แค้นเปล่าวะ ก็พี่เขาโดยพักการเรียนไป งานนี้สงสัยแม่กูให้กูย้ายโรงเรียนแน่ กลัวตายก่อนเรียนจบวะ” ผมหันไปมองน้องที่มันคุยกัน คงหมายถึงไอ้ที่อาละวาดกับครูห้องธุรการอยู่นั้นแน่ๆ



“ฟังแล้วรู้สึกดีขึ้นชะมัดเลยวะ” ผมพูด บอยก็มองหน้าผมและหันไปมองหน้าธรรณ์



“เฮ้ย กูลืมวะ กูจะไปหาพี่พัฒน์ก่อนพ่อกรูฝากบอกเรื่องสำคัญวะ” ไอ้ติ๊กมันพูดและหันไปจุงมือพายทันที



“แอ้ ตักอาหารให้กูด้วยนะ กูจะมากินว่ะ” ไอ้ติ๊กมันบอกแอ้ ผมพากันเดินเข้าไปนั่งและก็ไปเลือกตักอาหารที่ตัวเองชอบ บอยก็หันมาหาผมและหยิบจานผมไปตักผักสลัดให้ผม บอยนี้บังคับผมทานผักตลอด



“กินผักจะได้ไม่ท้องผูก อ่ะนี้ผักสลัด” บอยบอกผม ผมก็พยักหน้าและลองเคี้ยวดู



“เหม็นเขียวอ่ะบอย” ผมพูด



“ก็ผักมันสีเขียว ทานไปเลย” บอยพูดและผมสองคนก็เดินออกกลับมาที่นั่ง ผมเห็นไอ้ติ๊กกับพายมันเดินกลับมาแล้ว แอ้น่ะตักอาหารไว้ให้มันสองคนแล้วตามมาด้วยไอ้หลุยส์และธรรณ์ที่เดินกะหนุงกะหนิงออกมาพร้อมกัน



“จะว่าไปก็ต้องขอบคุณแผนการของแจ็คนะที่ทำให้หลุยส์กับธรรณ์เขา”



“รักกัน” ผมพูดและยิ้มอย่างภาคภูมิใจ



“จริงๆ ธรรณ์นะเคยเจอหลุยส์มาก่อน ตอนนั้นบอยกับหลุยส์ไปทานอาหารกันและบังเอิญไปร้านเดียวกัน”



“อะไรนะ นี้แอบไปทานอาหารด้วยกันมาก่อนด้วยเหรอ” ผมถามบอย บอยหันมาเหล่มองผม



“ต่อมหึงทำงานอีกแล้ว” บอยถามผม



“ก็นิดหนึ่ง อ่ะเล่าต่ออยากรู้” ผมพูด



“ธรรณ์เขาแอบชอบหลุยส์แต่ตอนนั้นหลุยส์ก็ไม่ได้สนใจอะไรธรรณ์”



“ก็มันมัวแต่สนใจบอยไง “ผมพูด



“นินทาอะไรผมครับคุณแจ็ค” ไอ้หลุยส์มันพูด



“ไม่ได้นินทนโว้ย เล่าสู่กันฟังเนอะบอย” ผมพูดกับบอย





“ไอ้ต้นข้าว ไอ้บลู” พวกผมหันไปมอง ไอ้พายมันเรียกไอ้ต้นข้าวและไอ้บลู พายโบกมือให้มันสองคนเดินตรงมาหาพวกผมนี่มันได้กลับมาเรียนแล้ว แสดงว่าไอ้ภาคินมันไปคุยกับพ่อแม่พวกมันให้พวกผมแน่ๆ ดูเดินยิ้มมาเชียว



“ดีวะพวกมึง” ดูมันหน้าหวานแต่ทักพวกผมนิขัดกับหน้าหวานๆ มันมาก



“ดีวะ ต้นข้าว” ผมหันไปยกมือทักทายมันและหันมาทานอาหารกันต่อ ดูเวลาแล้วเดี๋ยวกจะเข้าแถวแล้ว





“เออ....กูเดินผ่านมาเห็นรถกระบะจอดอยู่ ใครแม่งไปพ่นสีรถไว้วะ “ไอ้ต้นข้าว ผมหันมามองหน้ากัน



“รถสีอะไรวะ”



“สีเขียวอ่ะ สีสวยด้วยวะแต่งลายก็เท่แต่ว่าตอนนี้ ....เละไม่เป็นท่า ใครแม่งมือบอนก็ไม่รู้ เป็นกูนี้นะ จะจับแม่ง”



“กระทืบเหรอ”



“เอออะดิ “ไอ้ต้นข้าวพูด



“ไปหาอะไรมาทานดิวะข้าวเดี๋ยวก็ไม่ทันหรอก” แอ้มันหันไปบอกไอ้ต้นข้าวและไอ้บลู พวกมันก็เดินเข้าไป



“รถไอ้คนที่มันบอกจะมาเรียนกห้องเรียนกับพวกเราไหมวะ” ผมถามขึ้น



“เออวะ กูพอจะจำสีได้วะ” ไอ้ดิว



“เฮ้ยย! พี่เดี่ยวคัมแบค” ผมได้ยินมาจากด้านหลัง ทำไมเสียงพวกนั้นมันดูตกใจจังหวะ



“มันอยู่ไหนไอ้คุณหนูนะ” ผมถึงกับวางช้อนกันแต่ยังไม่ได้หันไปมองหน้ามันนะ



“กูหวังว่าจะไม่ใช่โต๊ะเรานะมึง” ไอ้ดิวมันพูด



“แล้วฉายาที่พวกนั้นมันเรียกพวกเราอะไรวะ” ผมหันไปถามทุกคน



“ไอ้คุณหนูไง” ไอ้ติ๊กมันพูด ใช่ถ้าอย่างนั้นก็คงโต๊ะพวกผมนี้แหละ แต่ว่ายังไม่ทันที่พวกผมจะหันหลังกลับไปมอง



“ฟิ้ววววววว” เสียงเหมือนมีบางสิ่งฝากระแสลมลอยมา และลอยมาจนถึงโต๊ะพวกผม



“ตุ๊บ” ตรงกลางโต๊ะที่พวกผมนั่งอยู่ มันคือรองเท้าผ้าใบ สีดำ รองเท้านักเรียนชัดๆ



“กูว่าคงจะโต๊ะเราแล้ววะ เชี้ย! มันมาลงขนาดนี้แล้ว” ไอ้พายพูด พร้อมเอานิ้วคีบให้ออกไปไกลๆ หน้ามัน และเอามือปัดเหมือนว่ากลิ่นคงได้ทีมาก



“ป๊อด) )) )) )” ผมเรียกไอ้ป๊อด มันก็เดินมาหาพวกผมทันที



“รับอะไรเพิ่มพี่” ไอ้ป๊อดมันร้องถามพวกผมก่อนที่ตัวมันจะเดินออกมาถึง



“ไม่รับ กูส่งคืนได้ไหมไอ้นี่นะ กูแดกไม่ได้ป๊อด” ไอ้ดิวมันพูดและชี้ไปที่รองเท้า



“อ้อ แน่นอนพี่นี้มัน...รองเท้า..รองเท้าใครอ่ะพี่” ไอ้ป๊อดมันร้องถามพวกผมกลับ พวกผมหันไปมองหน้ามัน



“รองเท้ากูเองวะ” เสียงเจ้าของมันดังมาและพวกผมทั้งโต๊ะหันไปมอง มันยืนเท้าซะเอว หน้าตาบอกได้ว่าโหดมาก หน้าตามันออกไปทางชายไทยแท้และท่าทางจะมวยไทยด้วย



“พี่เดี่ยวววววว” ไอ้ป๊อดมันเรียกชื่อไอ้คนนั้น ผมก็ถึงบางอ้อ ชื่อเหมือนที่พวกเด็กๆ มันคุยกันนั้นเอง และไอ้ป๊อดมันก็ถอยทันที



“พี่ครับ แม่ผมเรียกครับ “ไอ้ป๊อดมันไปเลยเร็วมาก หันหลังวิ่งกลับไปทันที



“อ้าวไอ้ป๊อด กูยังไม่ได้ยินแม่มึงเรียกเลย แม่มึงเรียกมึงในใจเหรอไอ้ป๊อด!! มึงนี้แม่งชิ้งเก่งตัวพ่อเลยว่ะ! “ผมตะโกนตามไป ผมยังคงมองหน้ามันไอ้คนที่ยืนมองพวกผมเหมือนกับว่าใครไปเผาบ้านมันมา



“เออ...รองเท้ามึงไหมครับ เอาคืนไปได้ไหม และเดี๋ยวกูส่งคืนให้วะ กลิ่นนี้...ซักบ้างนะ” ไอ้พายพูดและทำท่าโยนรองเท้ามันกลับไป



“กูจะซักก็ต่อเมื่อได้กระทืบพวกมึงก่อน”



“อู้ย!” พวกผมร้องออกมาพร้อมๆ กัน และหันมาเหล่มองหน้ากัน



“จะกระทืบพวกกูทำไมวะ ขอเหตุผลวะ” ผมถามมัน



“มีคนบอกว่าพวกมึงไปพ่นสีที่รถกู และเขาบอกว่าพวกมึงคือคุณหนู ห้อง311 ที่ทำให้กูไม่ได้ไปเรียนที่ห้องนั้น” นั้นไง แต่ใครวะที่พ่น



“ใครวะมึง ผิดคนหรือเปล่า” ไอ้ดิวมันตะโกนถาม



“ไม่ผิด มีคนบอกกูมา พวกเด็กพวกนี้กูรู้จักดีและมันก็บอกว่าไอ้คนที่เป็นดารานะ มันทำ” ไอ้เดี่ยวมันพูด ผมก็ถึงบางอ้ออีกแล้วและสะบัดหน้ามองไอ้ติ๊ก



“ไอ้ติ๊กมึงไปทำรถมันทำไมวะ “ไอ้แอ้มันหันมาต่อว่าไอ้ติ๊ก



“ก็กูหมั่นไส้มันนิที่มันว่าพวกเราตอนที่เราเดินผ่านอ่ะและกูกับพายก็เคยเจอมันที่โรงแรมพ่อกู มันก็ว่าพวกเรานะโว้ย แต่กูไม่คิดว่ามันจะโหดสาดขนาดนี้ “ไอ้ติ๊กพูดผมนี้หันไปส่ายหัวเลยและทำนิ้วเฉืยดคอใส่มันด้วย ก็มันนะชอบรับงานมาให้ตลอดเลย พวกผมลุกและหันไปดู มันยืนทำหน้าตาเหมือนใครไปเผาบ้านมันมาก มันบีบมือเสียงดัง กร๊อบๆ



“กูไม่สนใจว่าพวกมึงเป็นใคร พ่อใหญ่แค่ไหน “มันพูด ผมหันมองไอ้ดิว



“เออ กูขอโทษเรื่องเพื่อนว่ะเรื่องรถแต่เรื่องห้องเรียนกูว่ามึงควรจะไปคุยกับอาจารย์ฝ่ายแอทมินวะ พวกูแค่มาเรียนไม่ได้มาบริหารโรงเรียนวะ” ผมพูดบอกมันไปหวังว่าจะเป็นคำแนะนำที่ดี แต่ไอ้หลุยส์มันทำนิ้วเฉือดคอให้ผมดู



“You’ re suck!” ไอ้หลุยส์มันชมผม ผมเลยต้องส่งนิ้วกลางให้มันไป



“และพวกนักเรียนในโรงเรียนบอกกูว่าตั้งแต่พวกมึงเข้ามาก็ทำตัวขาใหญ่ นี่มึงคงไปบอกครูใช่ไหมว่าไม่ต้องการกูเข้าไปเรียนในห้องมึงนะ” ผมก็สะบัดหน้าไปมองว่าพวกผมไปพูดตอนไหนวะ



“แล้ว” ไอ้ดิวมันถาม



“ถ้าวันนี้กูไม่ได้กระทืบพวกมึงละก็กูจะไม่กลับบ้าน”



“งานงอกเลยวะ” อันนี่พวกผมคงลุกออกจากโต๊ะกันได้แล้วครับ



“โดยเฉพาะไอ้คนที่ทำรถกูด้วย “มันพูด



“เดี๋ยวกูทำรถให้ใหม่จะให้แต่งให้ด้วยก็ได้นะ “ติ๊กมันพูด ผมหันเปล่มันเพราะมันคนเดียวเลยทำของมันขึ้น



“ไม่..กูไม่อยากได้เงินพวกมึงกูอยากจะกระทืบพวกมึง”





“เออ...กูว่าพวกเราไปกันเถอะวะ ดูท่าไอ้นี่มันจะจบยากอย่าไปแลกกับแม่งเลยว่ะ ” ไอ้ดิวมันพูดและลุกขึ้นมันพยักหน้าให้แอ้ลุกและไอ้ติ๊กมันก็ลุกขึ้น และตามด้วยพาย ผมก็หันไปพยักหน้าให้บอยว่าไปดีกว่า





“มึงนั้นเองใช่มั้ยที่พ่นสีใส่รถกู “นั้นชี้ไปที่ไอ้ติ๊กทันที มันสะดุ้งโย้งเลย





“เชี้ย!” ไอ้ติ๊กมันสะบดออกมา





“ก็มึงเสือกหาเรื่อง กูบอกว่าอย่า มึงไม่ฟังกูนิ” พายพูด พวกผมส่ายหัวให้ไอ้ตัวดีของกล่มผม





“มึงไปขอโทษมันไป “ไอ้ดิวบอกไอ้ติ๊ก





“ไม่เอาอ่ะ ดูมันดิ เหมือนเมายาบ้ามาชัดๆ เลย” ไอ้ติ๊กพูด





“พวกกูขอโทษแทนเพื่อนกูวะ เอาเป็นว่าจะให้มันทำรถให้มึงใหม่” ไอ้ดิวหันไปพูด แต่





“กูไม่ต้องการ กูมีปัญญา” พวกผมก็





“แล้วมึงจะเอาไงอ่ะ ไอ้นั่นก็ไม่เอา ไอ้นี่ก็ไม่เอา” ไอ้ติ๊กพูด





“แจ็ค” ไอ้หลุยส์มั้นเรียกชื่อผมเข้าไปหามัน ผมก็มองว่ามีอะไรมันควักมือเรียกผม ผมก็เดินออกไป มันกันก็โอบคอผม แสดงว่าความลับแน่ๆ



“มีอะไร” ผมถาม



“กูว่าไอ้นี่น่าจะคนจริงว่ะ”



“กูก็เห็นว่าคนมัน คนจริงๆ และบ้าด้วย” ผมพูด



“เฮ้ยย ดูดิ ผู้คนล้อมรอบถอยกันหมดและซฺุบซิบนินทากันเหมือนรู้จักไอ้นี่มาก่อนวะ”



“และยิ่งไอ้ป๊อดนี่้่มันตกใจสุดขีด กูว่าเอามันไว้วะ” ไอ้หลุยส์ ผมนี้เกาหวเลย แต่ละคนที่บอกว่าให้เอาไว้ ไอ้ภาคินอย่างนี้ และนี้มาไอ้นี่อีก ผมสะบัดหน้าไปมองหน้าที่ยืนมองพวกไอ้ดิวเหมือนมันไม่ยอมจบ





“แล้วจะเอามันไว้ยังไง” ผมถามไอ้หลุยส์ และไอ้หลุยส์มันก็พยักพเยิดไปทางไอ้ดิว



“มึงจะให้ไอ้ดิวเข้าไปต่อยกับมันเหรอวะ”



“เออ กรูว่าฝีมือแม่งต้องสูสีกันแน่ “ไอ้หลุยส์พูดผมก็พ่นลมออกมา ปัญหาคือจะบอกไอ้ดิวยังไงวะ



“เอานะ แก้งเราต้องการที่มีคุณภาพวะตอนนี้” ไอ้หลุยส์พูด ผมก็เดินเข้าไปสะกิดไอ้ดิว ไอ้ดิวมันหันมามองผม ผมก็ดึงตัวมันออกมาก่อน



“มีอะไรไอ้แจ็ค” ไอ้ดิวมันถามผม แววตามันบ่งบอกได้ว่าผมคงหาเรื่องให้มันอีกแล้ว



“มึงชวนรับคำท้าประลองกับไอ้คนที่มั้นยืนอยู่นี้หน่อยได้ไหมวะ ..ดิว “ผมบอกมัน



“ไอ้แจ็ค มึงให้กรูไปต่อยกับมันเหรอวะ มึง-....”



“กูว่าสำหรับมึงนะ ไม่ยากวะ พวกกูอยากได้มันเข้าแก้งแต่ขอชมผลงานมันหน่อย” ไอ้หลุยส์พูด ไอ้ดิว มันเหล่มองผมสองคน



“กูยิ่งไม่อยาก”



“กูจ่ายให้เข็มละห้าพัน” ไอ้หลุยส์พูด



“กูไม่ได้อยากได้ตังค์ สัส” ไอ้ดิวมันบ่นผมสองคนแต่มันก็พยักหน้า ผมหันไเจอหน้าบอยที่หันมามองผมว่ามีอะเไรแน่ๆ ไอ้ดิวมันเดินออกไป ตรงไปยืนตรงหน้าไอ้คนที่ยืนโมโหพวกผมอยู่



“ดิว ออกมาไอ้นี่มันฉีดยาหรือยังก็ไม่รู้” ไอ้ติ๊ก ผมหันเจอไอ้หลุยส์มันลากเก้าอี้มานั่งดู ไขว่ห้างด้วยนะสาด



“มึงจะต่อยกับกูใช่มั้ยที่ออกมานี่ ฮะ ไอ้ตุ๊ด” ไอ้นี่มันเปิดมากได้แรงมาก ไอ้ดิว มันก็หันมามองพวกผม



“เดี๋ยวมึงก็ได้รู้จักกู “ไอ้ดิวพูด



“เฮ้ยย พี่เขาจะต่อยกับพี่เดี่ยวว่ะ พวกมึง กูขอลงข้างพี่เดี่ยว” มีคนตะโกนมา



“ไอ้นี้มันชื่อเดี่ยววะ” ไอ้หลุยส์มันพูดและหันมาหยักคิ้วให้ผม ผมก็พยักไหล่แล้วไง



“กูลงข้างพี่ดิววะ เพราะว่ามันก่อนต่อยเด็กเทคนิคสลบเลยมึง” มีคนเชียร์ไอ้ดิว



“ตุ๊บ” ไอ้คนที่ยืนมันโยกระเป๋าเป้ อาดิด๊าสมันลอยไปและมันก็ปรี่เข้ามาหาไอ้ดิวทันที ด้วยหมัดตรง ไอ้ดิวหลบขวับแบบชำนาญการ ไอ้ดิวมันเรียนต่อยมวยมาด้วย ครูสอนมันก็แช้มป์มวยสากลสมัครเล่น และไอ้ดิวมันก็สวยหมัดตรงกลับไปที่ใบหน้าไอ้คนนั้น



“โอ้ววว” มันไม่ได้ร้องแต่กองเชียร์ร้องคงเจ็บแทน ไอ้คนนั้นกระเด็นไปไม่ไกลพอมันตั้งหลักได้มันก็เข้ามาใหม่ที่นี้ สัดกันนัวเลย จนไอ้ดิวมันเสียหลักนิดหนึ่ง



“ผลัก” และไอ้ดิวมันก็โดนไปหนึ่งหมัดถึงกับหน้าสะบัดและเซไปอีกทาง ผมเห็นว่ามันเลือดซิบเลย





“อู้ยย! ” ทั้งกองเชียร์และผมเลยครับ แต่ไอ้คนนี้นมันถือโอกาสนี้เข้ามาทันทีไอ้ดิวก็หันไปใส่กับมันต่อ มีทั้งแตะทั้งต่อย



“เชี้ยเอ๊ย! มวยคู่เอกเลยวะ แม่งซูซีกันแบบ ตาต่อตาฟันต่อฟันเลยวะ กูโคตรชอบเลยวะ” ไอ้หลุยส์พูด



“หมับ” มีคนเดินมา ผมหันไปสะดุ้งสุดตัวบอยครับ



“นี้เล่นอะไรกัน” บอย กอดอกมองผมและมองไอ้หลุยส์ ธรรณ์ก็อีกคน



“คือว่าบททดสอบนิดหน่อยนะบอย”



“บอกให้หยุดเดี๋ยวนี้เลย มันไม่ใช่เรื่องเลยนะ แจ็ค หลุยส์” บอยเอ็ดผมสองคน



“ดูซิ ไอ้ดิวนะปากมันแตกแล้วนะ เฮ้ย! ” ไอ้ติ๊กมันเข้ามา ไอ้แอ้ที่เดินมองไอ้ดิว แม้มันจะไม่แสดงอาการอะไรเลยแต่ผมว่ามันก็เป็นห่วงที่สุด พายนี้ยืนเอามือหน้าแต่แอบมองลอดช่องพร้อมกับไอ้สองคนหน้าหวานๆ นั้นด้วย



“แป๊ะ แป๊ะ แป๊ะ” ไอ้หลุยส์มันตบมือเหมือนกับว่าการแสดงมันจบแล้ว มันสองคนหันมามองพวกผม จังหวะนั้นไอ้ดิวมันต่อยให้คนที่ชื่อเดี่ยวลงไปกองอยู่แล้ว



“สุดยอดวะ กูอยากได้คนแบบนี้ แบบมึงวะ” ไอ้หลุยส์มันเดินไปและชี้ไปที่ไอ้เดี่ยว ไอ้เดี่ยวมันชี้ตัวเอง



“เรื่องรถไอ้ติ๊ก จัดการ เพราะมึงทำ” ไอ้หลุยส์มันพูด



“ส่วนเรื่องห้องเรียน พวกกูจัดให้ มึงเรียนห้องเดียวกับพวกกูวะ “



“กูหลุยส์” ไอ้หลุยส์มันก็แนะนำตัวและยื่นมือไปเช็ดแฮนด์ มันก็ทำหน้างง แต่ก็เช็กแฮนด์กลับ



“กูแจ็ควะ” ผมหยักคิ้วและยื่นมือไปทักทายเช่นกัน



“นี้บอยและธรรณ์แฟนของกูสองคน” ผมแนะนำ



“กูดิววะ” ไอ้ดิวมันยื่นมือไปเช็กแฮนด์ก่อนจะเดินออกมา



“เดี๋ยวนี้อะไรของพวกมึงเนี๊๊ยะ” ไอ้คนที่ยืนงง ในดงลาเวนเดอร์มันถาม



“มึงเพื่อนพวกกูแล้ว ยินดีต้อนรับว่ะ “ไอ้หลุยส์พูด



“แล้วทำไมพึ่งจะไปบอกครูกันละว่ามีคนต่อยกัน “ครูพัฒน์เดินมาอย่างรวดเร็ว พวกผมหันมามองหน้ากัน



“งานเข้าแล้ววะ พี่พัฒน์มา พ่อกูรู้แน่ๆ เลยวะ” ไอ้ติ๊ก



“ก็ผลงานมึงไอ้ติ๊ก” ไอ้แอ้พูด





“นี่พวกเธอ ครูได้ยินว่ามีการต่อยกัน ใครต่อยกับใคร” ครูพัฒน์ถามและมองพวกผมและไอ้คนที่ยืนอยู่



“ดูสภาพแล้ว นายใช่ไหม กับ “ครูพัฒน์พูดและหันไปมองไอ้คนที่ยืนอยู่





“ผมครับครูพัฒน์” ไอ้ดิว มันยกมือขึ้น



“อะไรดิว แล้วต่อยกันทำไม” ครูพัฒน์หันไปถามไอ้ดิว

“เออ พี่พัฒน์ มันสองคนแค่ ประลองมัดมวยกัน ไม่มีอะไรมากครับ ใช่ไหมวะ “ไอ้หลุยส์มันพูดและมองไอ้คนที่ยืน



“เออ ครับ ผมแค่ประลองฝีมือกัน นิดหน่อย” ไอ้ดิวมันตอบ



“และเราก็ประลองมวยกับเขาอย่างนั่นเหรอทั้งที่เราเพิ่งจะมานะ นายกิตตศักดิ์” ครูพัฒน์พูด



“และครูหนิงก็บอกครูว่าเราโวยวายเรื่องที่ไม่สามารถจัดให้เราลงเรียนห้อง311 ได้ใช่ไหม” ครูพัฒน์ถาม



“ที่ให้ลงไม่ได้เพราะว่า...เราจำกัดคนต่อห้อง เพื่อทำให้การเรียนการสอนไม่อึดอีดจนเกินไป”



“ครูจะได้ดูแลกันได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่เกี่ยวกับว่าใครไม่ให้ใครเรียน ในโรงเรียนนี้ไม่มีใครได้อภิสทธิ์เหนือใครทั้งนั้น “ครูพัฒน์พูด



“อย่างที่เราเข้าใจ “ครูพัฒน์พูด



“พี่พัฒน์ครับ..เอ้ย..ครูพัฒน์ครับ ผมว่าจะบอกอยู่พอดี ให้เขาเรียนห้องพวกผมนะครับ ไอ้นี่มันเพื่อนพวกผมครับ “ ผมบอกครูพัฒน์ ครูพัฒน์หันมามองหน้าพวกผม และพวกผมก็ยิ้มให้



“จริงเหรอ” ครูพัฒน์ถามพวกผม



“จริงครับ” พวกผมยกเว้นไอ้ติ๊ก ไอ้แอ้มันก็เอาแขนกระแทกพยักหน้า



“จริง..มั้ง” ไอ้ติ๊ก ผมกับไอ้หลุยส์หันมามองมัน หาเรื่องแล้วยังไม่สำนึกอีก



“ใช่ครับพี่พัฒน์” ไอ้ดิวมันพูด



“ถ้าอยากเรียนห้อง 311 “ครูพัฒน์ถามไอ้คนที่ชื่อเดี่ยว มันก็พยักหน้า



“ก็ได้ แต่อย่าเล่นอะไรกันแบบนี้อีกนะ นี้โรงอาหารไม่ใช่สนามมวย” ครูพัฒน์พูด



“ดูซิ พากันปากคอแตก ไปทำแผลและคนอื่นๆ ไปเตรียมตัวเข้าแถวกันได้แล้ว” ครูพัฒน์พูด ไอ้คนที่ยืนมันก็เดินตามพวกผมออกไป



“มึงชื่ออะไรวะ” ไอ้ดิวมันหันไปถาม



“กู เดี่ยววะ”



“ไปทำแผลกันก่อนวะ “ไอ้ดิวมันพูด ผมหันไปมองไอ้หลุยส์



“กูว่ามันได้คนถูกคอแล้วมึง “ไอ้หลุยส์มันพูด



“เห็นไหมการคัดคนของกูเจ๋งไหมวะ” ไอ้หลุยส์



"ไม่!!!” อันนี้สาวๆ ของผมกับไอ้หลุยส์ นั้นก็คือบอยกับธรรณ์ และเดินทิ้งมันและผมอีกดคนด้วย



“อู้ยยย! ” ไอ้หลุยส์



“ลำบากกรูต้องง้อเมียอีก ไอ้หลุยส์) )) ) “



“บอย เขาโดนบังคับ) )) )” ผมรีบวิ่งตามเมียผมไป ทันที พยายามง้อแต่เมียก็สะบัดงอน ไอ้หลุยส์มันก็ตามง้อธรรณ์ เหมือนกันเลย



“สมน้ำหน้าเป็นไง เชียร์กันมันหน้าดู ฮาๆ “พายพูด

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด