Continental drifters ขอวิธีหนีแอบรัก - 18th drift // J (24/07/21)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Continental drifters ขอวิธีหนีแอบรัก - 18th drift // J (24/07/21)  (อ่าน 13062 ครั้ง)

ออฟไลน์ Grey Twilight

  • Moderator
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-17
ผมว่าเคสปรินกับฟาร์นี่เกิดจาก miscommunication นะ เพราะว่าเท่าที่อ่าน ฟาร์เป็นคนที่จิตใจดีมาก ถ้าอยู่กับปริน มีหรือจะไม่หวั่นไหว ผมว่ามีหวั่นไหวบ้างแหละครับ แต่ปัญหาน่าจะเป็นปริน ที่ไม่ค่อยแสดงออกอะไรให้มันชัดเจน การที่ฟาร์ชอบผู้ชายนี่ผมว่ามันดูออกไม่ยากเลยนะ ผมคิดว่าปรินก็น่าจะพอรู้ตัวเองนานแล้วว่าตัวเองชอบฟาร์ แต่ว่ายังไม่แน่ใจ กล้าๆกลัวๆไม่ได้พูดออกไป พอพี่จุณณ์มาเลยเกิดเรื่อง เพราะผมว่าฟาร์เองก็มีให้ท่าอยู่บ่อยๆตั้งนานแล้วแหละ ถ้าคนมันหวั่นไหว พฤติกรรมมันจะส่อเองครับ แล้วจากที่เห็นในเรื่อง นั่งตักด้วยกันเอย อยู่ด้วยกัน ทำอาหารให้แล้วก็รสตามใจ เป็นห่วงตอนอีกฝ่ายดื่มกลับมา แคร์กันขนาดนี้ มันเปิดช่องอยู่แล้วครับ แต่ประเด็นคือมันมีคนไม่กล้าจะรุกมากกว่า สถานะมันเลยคลุมเครือ ทีนี้พอพี่จุณณ์เข้ามาแล้วเปิดหน้าชัดแบบไม่ค่อยแคร์ใคร เพราะว่าฟาร์หายหน้าไปนาน อีกฝ่ายก็คิดถึง ผมว่าคนที่ถูกทำให้สถานะคลุมเครือมันไม่แปลกนะที่จะเอนเอียงไปหาคนเก่าๆที่ไม่ได้เจอกันมานาน เพราะว่าน่าจะสนิทใจมากกว่า

ผมคิดว่าสองคนนี้มีอดีตอะไรสักอย่างด้วยครับ เพราะการตัดการสื่อสารถาวรมันเป็นเรื่องไม่ปกติ ตอนแรกที่วาฬถามจุณณ์ว่าฟาร์เป็นใครกับจุณณ์ จุณณ์ยังมีชะงักเลยเหมือนคิดหาคำตอบ แล้วก็การไม่เจอกันนานแล้วคิดถึงกันขนาดนี้แสดงว่าต้องสนิทกันมากๆแน่ๆ แต่ไม่รู้ถึงระดับไหน แต่นิสัยฟาร์น่ารักมากๆเลย ผมชอบมาก

ต้องชื่นชมคนเขียนนะครับ หลายตัวละครมีมิติที่น่าสนใจและแสดงออกมาได้ชัดเจนดีมาก อย่างฟาร์นี่ก็คือน่ารักในทุกตัวอักษรเลย การแสดงออกของคาแรกเตอร์นี้คือความน่ารักมุ้งมิ้งและขี้อ้อน จิตใจดี สะท้อนผ่านพฤติกรรมการตามใจปริน สไตล์การเขียนข้อความหรือบทสนทนาโต้ตอบกับคนอื่น วาฬเองก็เป็นตัวนางที่คาแรกเตอร์ค่อนข้างชัดเจน ตอนแรกก็มีความเป็นตัวของตัวเองห่ามๆหน่อย แต่พอเจออุบัติเหตุและวิกฤติชีวิตก็ทำให้เปลี่ยนแปลงตัวเองจนสัมผัสได้ แต่ก็ยังมีกลิ่นอายของความเป็นตัวของตัวเองอยู่ลึกๆ และที่พูดขาดไม่ได้เลยคือตัวพระ อนาคิน หรือโคล โคลเป็นตัวละครพระเอกที่ผมถือว่าแหวกแนวและน่าสนใจมากๆเลยนะครับ ปกตินวนิยายหรือวรรณกรรมมักไม่ค่อยชอบเขียนพระเอกที่ขี้เล่นและมีมาดความเป็นสุภาพบุรุษ เป็นคนดี แทบทุกเรื่องจะแสดงความเป็น alpha male ดิบๆออกมาเพื่อแสดงออกถึง masculine trait ในการเน้นย้ำกับจิตสำนึกคนอ่านว่า ‘หมอนี่คือพระเอกนะ หรือเป็นเพศชายดิบๆ’  ซึ่งในความเป็นจริงมันไม่จำเป็นครับ

การเป็นพระเอก อาจแสดงถึงความเป็นสุภาพบุรุษ เรียบร้อย ยิ้มแย้ม เคารพอีกฝ่ายก็ได้ ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่เราพบแทบทั้งหมดในตัวของอนาคิน สังเกตว่าโคลมี flaw ซึ่งขัดกับมาตรฐานเก่าๆของนักเขียนวรรณกรรมสุขนิยมที่พระเอกต้องเก่งที่สุดในโลก ซึ่งมันเกร่อ และไม่จำเป็น อีกทั้งยังทำให้มาตรฐานวรรณกรรมต่ำลงด้วยถ้าวางพล็อตไม่ดี ผมชอบที่อนาคินมี flaw ไม่ต่างจากมนุษย์ปุถุชนทั่วไป เค้าต้องนอนเร็ว มีตารางเวลาที่ชัดเจน ซึ่งไม่ได้มีเพราะว่ากำหนดไว้กับตัวเองเพื่อจะได้สร้างออร่าความเป็นพระเอก แต่มีเพราะว่าถ้าไม่ทำมันจะมี drawbacks (ที่ชัดเจนมากๆคือเรื่องลอจิกการตัดสินใจที่แย่ลงหลังเที่ยงคืน แล้วก็ร่างกายชัตดาว์นอัตโนมัติ ผมอ่านตรงนี้แล้วหลุดขำหน่อยเหมือนกันนะครับ แต่มันเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ชายคนนี้เรียลดีและน่าประทับใจในฐานะพระเอก) อนาคินเป็นพระเอกที่ขี้เล่น มีมุมหยอกเย้าแต่ไม่เลยเถิด ไม่เอาแต่ใจตัวเองในเรื่องไร้สาระ มีภาพลักษณ์ของความเป็นสุภาพบุรุษที่เป็น metrosexual ซึ่งความจริงมันก็ปกตินะครับใน reality ที่เราอาจพบคนแบบนี้ได้ แต่นิสัยของคนแบบนี้เมื่อมาอยู่ในนิยาย พอเจอกับพวก alpha male บางทีออร่ามันจะดรอป แต่สำหรับโคล...ไม่ และยิ่งเค้ามีภาพลักษณ์และบุคลิกแบบนี้ ยิ่งทำให้เหมาะเป็นพระเอกในนิยายเรื่องนี้ เพราะอะไร?

เพราะว่าตัวนางคือนาวาฬครับ นาวาฬเป็นตัวนางที่ชีวิตมีปม เค้ามีตัวละครรอบกายแทบทุกแบบ ตั้งแต่พี่จุณณ์ พี่นนท์ พี่เบน ปริณ รีรัก มันทำให้นาวาฬค่อนข้างคุ้นชินกับบุคลิกของตัวละครเหล่านี้ และไม่สามารถ progress ข้ามความสนิทไปยังขอบเขตของการใจเต้นและตกหลุมรัก อีกเรื่องนึงคือปมของชีวิตนาวาฬเอง ลองสังเกตดูสิครับ ถ้านาวาฬเป็นตัวนางที่เดิมทีค่อนข้างเป็นตัวของตัวเอง ทำอะไรตามใจเพราะว่าพี่ชายเพอร์เฟ็คต์แล้ว คุณจะใจเต้นกับ alpha male (แบบปริน) ไหม? คำตอบคือไม่ เคมีมันไม่ได้ แต่ถ้าเป็นแบบโคล มันใช้ความเท่ ใช้ความอ่อนโยนและความมีน้ำใจค่อยๆทำให้อีกฝ่ายหวั่นไหว ใช้รอยยิ้มขี้เล่นและใช้ความเป็นผู้นำที่ไม่ aggressive ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเขาพึ่งพาคนๆนี้ได้ ซึ่งบุคลิกแบบนี้มันก็จะสอดคล้องกับปมชีวิตของนาวาฬหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุที่พรากพ่อแม่ของนาวาฬไป ว่าเขาหวนหาคนที่บุคลิกคล้ายๆคนที่สูญเสียไปมาเพื่อเติมเต็มตัวเอง

ผมคิดว่านัยยะของเรื่องนี้หลายๆอย่างทำไว้แนบเนียนและน่าประทับใจนะครับ อย่างพี่เบนกับพี่นนท์ นี่ผมก็ว่าน่าจะมีซัมติงนี่แหละ แต่เคสนี้ผมชอบตรงที่นาวาฬสนิทกับพี่เบนและสร้างบรรยากาศได้อย่างอบอุ่นครับ เบนรับสายนาวาฬและพูดคุยกันด้วยอย่างสนิทใจทุกครั้งเหมือนน้องแท้ๆ มีคำหยาบบ้างแต่บริบทไม่ได้แซวหรืออะไรเลย นาวาฬเองพอไปนอนที่บ้านเบนอีกฝ่ายก็ไม่ได้ว่าอะไร ให้ลุคของพี่ชายที่เอาจริงเอาจังแต่ก็ขี้เล่นกับน้อง แต่พี่นนท์จะให้ลุคคุณชายดุๆ ส่วนเคสปรินกับฟาร์ก็อย่างที่ผมอธิบายไปแล้วด้านบน โดยรวมผมชอบงานเขียนชิ้นนี้มากนะครับ ภาษาก็โอเค สะกดคำใช้ได้ สามารถสร้างปมตัวละครให้มาแมตช์กันได้ดี สมเหตุสมผล โดยวางอยู่บนพล็อตที่โอเค แต่ที่เยี่ยมมากที่สุดก็คือการสร้างตัวละครให้เด่นชัดมากจนแทบทะลุออกมาจากตัวหนังสือนี่แหละครับ เสียดายที่ผู้แต่งนานๆมาที เลยไม่รู้ว่ามันไปหยุดที่ตรงไหนของอนาคต (ฮา) แต่เป็นกำลังใจให้ครับ ยอดเยี่ยม

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
ฟาร์จะชอบใคร จุนน์หรือปริน

ออฟไลน์ ddanav

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-1
    • instagram
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

ออฟไลน์ ddanav

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-1
    • instagram
I let out too many feelings
Shit I should've kept in
Probably should've left them all unsaid


Too Many Feelings - Ruel


12th drift - Please don't

“วาฬครับ”

“ครับ”

“อีกยี่สิบนาทีผมต้องไปประชุมกับลูกความรายใหม่แทนนนท์ คุณช่วยเอาสูทเข้ามาให้ผมหน่อย”

พวกเขาทำงานร่วมกันมาได้สองอาทิตย์แล้วตั้งแต่อนาคินออกจากโรงพยาบาลมา นาวาฬเรียนรู้งานได้อย่างรวดเร็วและเริ่มที่จะสนุกไปกับมัน หน้าที่หลักๆ ของเลขาอย่างเขาคือการเตรียมเอกสารและจัดตารางงานให้อนาคินทุกวัน ติดตามไปยังสถานที่ต่างๆ หรือแม้แต่จัดการเรื่องสัพเพเหระตามที่โดนสั่ง

อนาคินเป็นเจ้านายที่ดี และแม้ว่านาวาฬจะไม่อยากยอมรับเท่าไหร่นัก แต่ชายหนุ่มก็เป็นนักกฎหมายที่เก่งเช่นกัน ท่าทางภูมิฐาน การให้เกียรติคนทำงานคนอื่น ความเฉียบคมในการวิเคราะห์และให้คำแนะนำทางกฎหมายนั้นแอบทำให้นาวาฬต้องแอบมองด้วยความชื่นชม ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่ได้ทำงานร่วมกันนั้นทำให้นาวาฬเข้าใจคำพูดชื่นชมอย่างเว่อวังที่เบญจมินทร์และนนท์สกุลมีให้ผู้มาใหม่ที่เขาเคยรู้สึกว่าเยอะจนน่าหมั่นไส้ มันไม่ได้เว่อเกินไปเลยเมื่อเขาได้มาสัมผัสกับมันจริงๆ

สิ่งเดียวที่เขาไม่ชอบ คือการโดนใช้งานในแบบที่ทำให้เขาหมั่นไส้

“นาวาฬ ผูกไทค์ให้ผมหน่อย”

ผูกเองไม่เป็นรึไง

นาวาฬแอบย่นจมูกใส่ผู้เป็นเจ้านายแต่ก็ยอมเดินไปทำให้แต่โดยดี ร่างสูงโปร่งดูภูมิฐานในชุดสูทสีดำเรียบร้อย ผมสีน้ำตาลอ่อนที่เริ่มยาวปรกอยู่ที่ตาข้างหนึ่ง ดวงตาสีเขียวหม่นส่งยิ้มให้เขาเป็นเชิงล้อเลียน

“ผมเห็นนะ”

“เห็นอะไรครับ”

“คุณย่นจมูกใส่ผม”

“แล้วมันทำไมครับ” นาวาฬย่นจมูกใส่ผู้ชายตรงหน้าอีกรอบด้วยความหมั่นไส้ อนาคินหัวเราะก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้

“ไม่มีอะไร ผมแค่ว่ามันน่ารักดี”

นาวาฬรู้สึกได้ถึงเลือดที่ฉีดพุ่งขึ้นหน้านิดหน่อย ไอ้บ้า เขาแอบด่าในใจ รีบถอยหลังกรูดเพื่อหลบใบหน้าของอีกฝ่ายที่หัวเราะเบาๆ

“ผมแค่ชมคุณว่าน่ารัก คุณกลัวอะไร”

“ใครบอกกลัว”

“คุณกลัวชัดๆ นี่ไง หนีผมอีกแล้ว”

อนาคินเดินเข้าไปใกล้คนตรงหน้าที่ถอยหลังหนีอีกครั้ง ใบหน้ามีรอยยิ้มทะเล้นเมื่อผู้เป็นเลขาเริ่มเดินหนีไปทั่วห้อง

“ไม่ได้หนี ไหนคุณบอกคุณมีประชุมไงครับ คุณต้องลงไปรอในห้องก่อนไหม”

“รีบเปลี่ยนเรื่องเลย คุณหยุดหนีผมก่อนสิ”

ต่อให้อนาคินเป็นเจ้านายที่ดี แต่นาวาฬก็ยังไม่ชินกับความล้อเล่นที่ดูไม่ล้อเล่นของเขาอยู่ดี เขาแอบรู้สึกว่ามันเป็นมิชชั่นของอนาคินที่จะเข้ามาใกล้เขาจนเกินพอดีอย่างน้อยวันละครั้ง และทุกครั้งที่มันเกิดขึ้น เขาต้องภาวนาให้หัวใจตัวเองไม่เต้นออกมานอกอกทุกที

“เล่นเป็นเด็ก” เขาบ่น

“อยู่กับเด็กผมก็ต้องเล่นกับเด็กสิ แต่เอาล่ะ เล่นพอแล้ว” ร่างสูงดูนาฬิกาข้อมือ วาฬถอนหายใจอย่างโล่งอก เขารู้ว่าต่อให้อนาคินจะอยากแกล้งต่ออย่างไร แต่งานก็ยังเป็นงานอยู่ดี “ผมอาจจะประชุมเสร็จช้าหน่อย คุณกลับไปได้ก่อนเลยนะถ้าได้เวลาเลิกงานแล้ว”

“ได้เลยครับ” วาฬแอบยิ้มดีใจ แต่เหมือนมันจะโดนแสดงออกมาทางสีหน้าเพราะผู้เป็นเจ้านายถามต่อทันที

“คุณมีนัดหรอ”

“กับปรินครับ” เขาตอบ

ตั้งแต่วันที่ปรินรู้ตัวว่าชอบฟาร์ อะไรหลายอย่างก็เปลี่ยนไปเยอะจนทำให้นาวาฬหนักใจ ปรินทะเลาะกับฟาร์อย่างหนักเรื่องการพาคนอื่นมาที่คอนโดที่ทั้งสองคนแชร์ร่วมกัน และการที่ฟาร์ไปไหนมาไหนโดยไม่บอกแถมโกหกซ้ำซ้อน แม้ว่าชื่อจุนน์จะไม่ได้ถูกเอ่ยออกไป แต่มันก็ทำให้ฟาร์เกรี้ยวกราดไม่ใช่น้อย จนวาฬและรักที่ไม่เคยเห็นเพื่อนตัวเล็กโกรธจัดขนาดนี้มาก่อนได้แต่ส่งสายตาหวาดๆ ให้แก่กันอยู่ข้างหลังเพื่อนอีกคนที่ดีกรีความเกรี้ยวกราดก็ไม่ได้ต่ำไปกว่ากันเท่าไหร่

“ทำไมแค่มึงจะไปไหนกับใครถึงไม่คิดจะบอกกูบ้างวะฟาร์!”

“ทำไมกูจะไปไหนของกูเองไม่ได้ มึงเป็นอะไรกับกูทำไมกูต้องรายงานมึงหา!”

ปรินเงียบ ผลที่ได้จากการทะเลาะกันในครั้งนั้นคือฟาร์ย้ายออกไปอยู่กับรีรัก ซึ่งยิ่งทำให้ปรินหงุดหงิดขึ้นไปอีกเพราะไม่ได้เจอหน้าฟาร์ทุกวันเหมือนที่เคย แล้วใครที่ต้องเป็นคนมานั่งฟังปรินบ่น? ก็นาวาฬนี่ไงล่ะ ปรินมักจะมานั่งหมกตัวอยู่ที่คอนโดวาฬนานๆ ไม่ก็ชวนเพื่อนออกไปกินเหล้าแทบจะวันเว้นวัน ทุกครั้งที่เหล้าเข้าปาก ปรินมักจะวางแผนฆ่าจุนน์อย่างเป็นตุเป็นตะทุกครั้ง มันไม่ทำหรอก วาฬรู้ดี แต่การปล่อยให้มันได้พูดไปเรื่อยอย่างนั้นก็ดูจะทำให้ปรินรู้สึกดีขึ้นไม่มากก็น้อย เขากลับมาเที่ยวผู้หญิงอีกครั้ง ซึ่งมันทำให้วาฬแอบกังวล

“มึงเพลาๆ เรื่องผู้หญิงก็ดีนะว้อย”

“ไม่ กูอยากลืมแม่ง ไอ้เหี้ยฟาร์มีดีเหี้ยไรวะทำไมกูต้องไปชอบ นมก็ไม่มี”

นาวาฬนิ่งเงียบทุกครั้งที่ปรินพูดแบบนั้นออกมา ในใจก็สงสารเพื่อนสนิทจับใจ จากที่ปรินเล่าให้ฟัง เพื่อนของเขาเริ่มสงสัยว่าตัวเองชอบฟาร์มาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ไม่เคยกล้าพอที่จะยอมรับกับตัวเองออกมาดังๆ จนกระทั่งวันนั้น พวกเขารู้จักกันมานาน การมีความรักไม่ใช่เรื่องปกติของปรินที่นานๆ ทีจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนสักที เมื่อมีแล้วก็ไม่เคยคบกันได้นาน ยิ่งปรินเป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องการเปลี่ยนเพื่อนเป็นแฟน ต่อให้เป็นแค่เพื่อนเรียนชั้นเดียวกันคุณชายเรื่องมากอย่างปรินก็จะไม่มีวันสนใจ มากไปกว่านั้น การชอบผู้ชายเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับปรินเช่นกัน แต่เมื่อทั้งสามประเด็นนั้นเกิดขึ้นพร้อมกันในสถานการณ์เดียวเหมือนในตอนนี้ กลายเป็นว่าตัวต้นเรื่องอย่างฟาร์กลับกำลังมีความสัมพันธ์กับรุ่นพี่ที่สนิทกับปรินมานานอย่างจุนน์ที่อยู่ๆ ก็โผล่เข้ามาในชีวิตฟาร์อีกครั้งจากไหนก็ไม่รู้เสียอีก

มีหลายครั้งที่วาฬอยากจะยุเพื่อนไปให้จบว่า มึงก็บอกฟาร์ไปสิวะว่ามึงรักมัน ทำตัวเหมือนพระเอกนิยายกระชากผมมันมาจูบเหมือนที่มึงทำกับกูวันนั้นก็เหมาะกับมึงดีออก แต่เขาก็ไม่เคยพูดออกไป ต่อให้ไอเดียที่ปรินจะตีหัวจุนน์แล้วลากศพขึ้นเรือประมงไปถ่วงทิ้งในอ่าวไทยจะถูกพูดเหนือแก้วเหล้ามากแค่ไหน แต่วาฬก็รู้ดีว่าปรินยังคงรักและเคารพจุนน์เหมือนกับเขา ภาพฟาร์กับจุนน์ที่ยืนจูบกันในวันนั้นเป็นเครื่องยืนยันได้ดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นไม่ธรรมดา ทำให้ต่อให้รักฟาร์มากแค่ไหน ปรินก็ไม่มีทางที่จะเข้าไปแทรกแซงถ้านั่นหมายถึงการทำร้ายรุ่นพี่ที่คอยช่วยเหลือและดูแลพวกเขามาตลอดตั้งแต่อายุยังอยู่แค่สิบต้นๆ

สิ่งเดียวที่มันจะทำ คือหนีจากการแอบรักฟาร์ให้ได้

ไม่ต่างอะไรกับที่วาฬเคยทำเมื่อสี่ปีก่อน

การได้เห็นเพื่อนมีรีแอคชั่นกับการชอบผู้ชายอย่างรุนแรงของตัวเอง มันยิ่งทำให้วาฬไม่กล้าเล่าให้เพื่อนฟังเรื่องที่ตัวเองเคยชอบอนาคิน แม้ว่าเขาจะรู้สึกผิดที่ปกปิดเพื่อนต่อให้มันอาจจะทำให้เพื่อนรู้สึกดีขึ้นเมื่อได้ฟัง มันไม่ใช่ว่าเขากลัวเพื่อนรับไม่ได้หรอก แต่เขาแค่ยังไม่อยากยอมรับในสิ่งที่ตัวเองรู้สึกจนถึงตอนนี้ เขาแค่ไม่อยากฟังตัวเองพูดมันออกมาดังๆ มันก็เหมือนทุกครั้งที่มีเรื่องอะไร ปรินมักจะกล้ากว่าเขาเสมอ เรื่องนี้ก็เช่นกัน ปรินมีความกล้าที่จะยอมรับความรู้สึกตัวเองออกมาดังๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่นาวาฬไม่มี ต่อให้มันเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้วหลายปีก็ตาม

เขาก็ต้องนั่งรับฟังฟาร์เช่นกัน เพื่อนตัวเล็กของเขามักจะโผล่มาโวยวายให้ฟังเป็นประจำว่าปรินมันเป็นบ้าอะไรของมันวะ แม้ว่าจะมีการเลียบๆ เคียงๆ ถามไปด้วยว่าเพื่อนที่ตัวเองมีปัญหาอยู่ด้วยนั้นอยู่ยังไง กินข้าวได้ปกติมั้ย และมีบางครั้งที่วาฬรู้สึกได้ว่าฟาร์อยากถามว่ามันจะย้ายกลับเข้าไปอยู่กับปรินได้เมื่อไหร่ตามประสาคนที่ไม่เคยโกรธใครจริงจังท่ามกลางสายตาเบื่อหน่ายแบบ กูฟังมาเยอะแล้ว ตามึงบ้าง ของรีรัก ฟาร์ไม่เคยพูดถึงจุนน์ให้เขาฟัง และนาวาฬก็ไม่เคยถามหรือเล่าว่าคืนนั้นเขากับปรินเห็นอะไร ถ้าฟาร์พร้อมที่จะเล่าฟาร์ก็คงจะเล่าเอง เขาเชื่อแบบนั้น

เป็นเพื่อนกันยิ่งต้องเคารพกัน ถ้ามันยังไม่อยากเล่า เขาก็ไม่มีสิทธิ์ไปบังคับให้มันเล่า

กลับมาที่ปัจจุบัน อนาคินหยุดกึกเมื่อได้ยินคำตอบของเขา

“ผมลืมไป คุณอยู่รอผมหลังเลิกงานละกัน ผมมีงานที่อาจจะต้องให้คุณช่วยเคลียร์นิดหน่อย คุณยกเลิกนัดเพื่อนคุณไปก่อนละกันนะ”

ชายหนุ่มยิ้มก่อนจะเดินออกไปจากห้องทันที นาวาฬแทบจะกรีดร้องในใจ พักหลังเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเป็นประจำจนเขาเชื่อเสียแล้วว่าผู้เป็นเจ้านายตั้งใจให้เขาต้องกลับบ้านดึกทุกวัน

ขอถอนคำพูดว่าอนาคินเป็นเจ้านายที่ดี


........


“ขอบคุณที่มาส่งครับ”

“ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะคุณ ฝากทักเบนให้ผมด้วยล่ะ”

อนาคินเอื้อมมือมาขยี้ผมเขาจากที่นั่งคนขับเหมือนทุกทีก่อนจะขับออกไป นาวาฬมองตามรถสีขาวคันนั้นไปจนสุดตาก่อนจะกัดปากตัวเองเบาๆ เมื่อรู้สึกได้ถึงรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปากตัวเอง

เจ้านายที่ไหนก็ต้องมาส่งลูกน้องทั้งนั้นแหละ สามทุ่มแล้วนี่นา

แต่จริงๆ นายขับรถกลับมาเองก็ได้นิ เสียงเล็กๆ ที่เขาเกลียดดังขึ้นในหัวอีกครั้งจนนาวาฬแทบอยากจะปาเอกสารพะรุงพะรังที่ตัวเองถืออยู่ลงพื้นด้วยความขัดใจเมื่อนึกถึงรถ Ford Blanco สีฟ้าคู่ใจของตัวเองที่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ใช้งานเท่าไหร่และถูกจอดทิ้งไว้ที่คอนโด

“จะหลอกมันไปถึงเมื่อไหร่ว่ามึงอยู่กับพี่”

วาฬสะดุ้งโหยงจนเอกสารตกกระจัดกระจายอยู่บนพื้นด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงเบญจมินทร์ ชายหนุ่มที่วาฬไม่ทันสังเกตว่านั่งอยู่ข้างประตูหัวเราะ ปากคาบบุหรี่ไว้ข้างๆ อย่างที่วาฬและปรินพยายามเลียนแบบทุกทีเมื่อตอนยังเป็นเด็ก มือสองข้างพยายามมัดผมยาวประบ่าของตัวเองขึ้นให้เป็นระเบียบอย่าทุลักทุเล

“พี่เบนนั่งทำไมเงียบๆ ตกใจหมด”

“มึงเอ๋อไม่เห็นเอง มานั่งนี่ เอกสารเดี๋ยวค่อยเก็บ” เบญจมินทร์ตบที่ว่างข้างๆ ตัวเองให้รุ่นน้องคนสนิทเข้ามานั่ง วาฬทำตามอย่างว่าง่าย ต่อให้โตๆ กันแล้ว นาวาฬก็ยังเชื่อฟังเบญจมินทร์เหมือนเด็กประถม

“ตอบพี่ได้ยังว่าจะให้ไอ้คินมันเข้าใจไปถึงเมื่อไหร่ว่ามึงอยู่ที่นี่”

บุหรี่ถูกส่งต่อ วาฬรับมาเข้าปากก่อนจะพ่นควันออกไปช้าๆ อย่างใช้ความคิดกับคำถาม

“เอาจริงๆ เลยพี่เบน ตอบไม่ได้”

“คือพี่ไม่ได้อะไรกับการที่มึงมานอนบ้านพี่หรอกนะ แค่ไม่เข้าใจว่ะ จะอะไรกับมันนักหนา แฟนเก่าก็ไม่ใช่ แค่มึงไปจูบมันสิบปีที่แล้ว”

“สี่ปีไม่ใช่สิบปี” วาฬแก้ แต่คำพูดของเบญจมินทร์ทำให้เขานิ่งคิดไปได้นิดหน่อย เอาจริงๆ จุดนี้เขาก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าอะไรทำให้เขากลัวกับการที่อนาคินจะเข้ามาใกล้เขาเกินไป ในเมื่อคนๆ นั้นก็พิสูจน์ให้เขาเห็นแล้วว่าไม่ว่าเรื่องอะไรจะเกิดขึ้นในอดีต แต่ปัจจุบันพวกเขาก็ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันได้ (อาจจะดีเกินไปนิดนึง วาฬแอบคิดในใจ) อนาคินไม่เคยพยายามจะเข้ามาประชิดตัวเขาด้วยซ้ำ

ลึกๆ แล้ว นาวาฬก็รู้ดีว่าเขากลัวตัวเองมากกว่า ตราบใดที่เขายังสามารถเห็นภาพตัวเองเชิญชวนอนาคินเข้ามานั่งดูหนังเล่นเกมส์ด้วยกันเหมือนในอดีต เขาก็ไม่ไว้ใจตัวเองอะไรทั้งนั้น หัวใจเขายังเต้นอยู่นิดๆ หน่อยๆ เมื่ออยู่ใกล้คนตัวปัญหา แต่เขาก็บอกตัวเองทุกครั้งว่ามันเป็นเรื่องปกติ คนมันยังมีชีวิตอยู่นะเว้ย จะไม่ให้หัวใจเต้นเลยเหมือนคนตายมันก็คงเป็นไปไม่ได้หรอก

แต่ก็นั่นแหละ เขายังไม่คิดว่าเขาพร้อมที่จะให้อีกคนเข้ามาใกล้ได้มากกว่านี้ อย่างน้อยก็ในตอนนี้

“น้องพี่แม่งกลัวใจตัวเองว่ะ” หนุ่มผมยาวพูดอย่างรู้ทัน

“เปล่าเว้ย”

“ใช่”

“ก็บอกว่าเปล่า”

“เถียงอะไรกัน” ร่างสูงอีกร่างที่ไม่มีใครทันสังเกตปรากฎตัวขึ้นจากประตูอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียงจนนาวาฬสะดุ้งอีกครั้ง ก่อนจะยิ้มให้อย่างงงๆ เมื่อเห็นว่าเป็นพี่ชายของตัวเอง

“ทำไมพี่นนท์อยู่นี่อะครับ”

“ลัลอยากเล่นกับแมว พี่เลยพามาเล่น แล้วดูเวลาผิดไปหน่อยเลยนอนที่นี่ไปเลย นี่เพิ่งกล่อมเสร็จ” นนท์สกุลอ้าปากหาว “แล้ววาฬมานี่ทำไม ไม่ใช่ว่าพรุ่งนี้ต้องทำงานเช้า?”

“กูเห็นทั้งมึงทั้งลัลมานอนนี่ เลยโทรเรียกวาฬให้มาด้วย” เบญจมินทร์ตอบแทนก่อนที่วาฬจะหาคำแก้ตัวดีๆ ให้ตัวเองได้ นนท์สกุลขมวดคิ้ว

“แล้วเอกสารอะไรเต็มพื้น เก็บด้วยนะ ส่วนมึงไอ้เบน แค่มัดผมมันจะยากอะไรนักหนา” ชายหนุ่มบ่นก่อนจะเริ่มมัดผมให้เพื่อนสนิทที่หัวเราะหึๆ แต่ก็ยอมส่งยางให้มัดแต่โดยดี

“บ่นอย่างกับเป็นเมียกู”

“ก็หาเมียซะกูจะได้ไม่ต้องลำบากมาบ่นแทน”

เสียงพี่ๆ ทั้งสองที่กัดกันเป็นประจำต่อให้เป็นเพื่อนสนิทกันมาเป็นยี่สิบกว่าปีนั้นเป็นที่เคยชินของหูนาวาฬ เขาก้มลงเอกสารตามที่โดนสั่งก่อนจะขมวดคิ้วไปนิดเมื่อเห็นว่าข้อความบนเอกสารที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นนั้นดูไม่คุ้นตา

แทนที่จะเป็นรายละเอียดเคสใหม่ที่วาฬจะต้องมาทำสรุปเหมือนที่เคย กระดาษที่กระจายอยู่รอบตัวเขานั้นกลับเต็มไปด้วยข้อมูลแปลกๆ ที่ถูกลิสต์ออกมาในแบบที่เขาไม่เข้าใจ ชื่อจริง นามสกุล ส่วนสูง การศึกษา รวมไปถึง ..

“รูปใครเยอะแยะ” เบญจมินทร์คว้ากระดาษที่นาวาฬถืออยู่ไปดู นนท์สกุลชะโงกข้ามไหล่เพื่อนมามองด้วยความสนใจ

“ผู้หญิงที่ไหนวะ”

“อชิตา วริศรา .. คนนี้กูก็รู้จักนี่หว่า” ชายหนุ่มใช้นิ้วจิ้มย้ำๆ ไปยังผู้หญิงผมยาวหน้าหมวยที่ส่งยิ้มหวานออกมาจากในรูป “ชิชา ลูกสาว SP Shipping ไง เห็นมีคนบอกว่าเพิ่งกลับจากเมกา มึงจำได้ปะวะ”

จริงอย่างที่เบญจมินทร์พูด ทุกข้อมูลในเอกสารพวกนั้นมีรูปผู้หญิงกำกับมาด้วยเสมอ เขาแอบเห็นรูปผู้หญิงบางคนที่เคยมีความสัมพันธ์กับเขาแซมอยู่ประปราย วาฬรู้สึกได้ถึงหัวใจตัวเองที่เต้นตึกตักด้วยความไม่พอใจอะไรบางอย่าง ทำไมโคลถึงมีรูปพวกนี้ล่ะ

“กูรู้แล้ว” นนท์สกุลพยักหน้า สายตาไล่อ่านข้อมูลบนกระดาษไปด้วยอย่างสนใจ “มึงจำที่ไอ้คินมันบ่นเร็วๆ นี้ได้ปะวะ เรื่องที่สามีพี่มันแอบมาบอกมันที่โรงบาลอะ”

“จำไม่ได้”

“ก็นั่งฟังอยู่ด้วยกัน ทำไมจะจำไม่ได้”

“กูไม่จำเพราะรู้ว่ามึงจะจำให้กูไง”

“สัสเบนมึงด่ากูขี้เสือก”

“กูชมว่ามึงเป็นคนเก็บข้อมูลเก่ง”

“ก็คือเสือก”

“กูไม่ได้พูด มึงพูดเอง”

“กูไม่เล่าแล้ว”

“งอนอะไรกูวะเนี้ยครับคุณนนท์สกุล”

“พี่นนท์จะเล่าได้ยังครับ” วาฬถามค่อยๆ เป็นการขัดจังหวะพี่ทั้งสองที่ดูเหมือนจะไม่หยุดเถียงกันไปมาง่ายๆ เบญจมินทร์ส่งสายตาหัวเราะกวนบาทาให้เขา

“มึงอยากรู้ขนาดนั้นเลยหรอ”

“แล้วพี่เบนอยากรู้ปะละ” เขาตอบกลับแบบข้างๆ คูๆ แม้ว่าจะปฏิเสธไม่ได้เต็มปากว่าตอนนี้คือโคตรอยากรู้ เบญจมินทร์หัวเราะ

“มึงเล่ามาเหอะนนท์ เลขาไอ้คินอยากรู้จะตายอยู่แล้วเนี้ย”

“...”

“เออกูขอโทษที่ทำให้มึงคิดว่ากูด่ามึงเสือกต่อให้กูตั้งใจจะชมมึงก็เหอะ จะเล่าได้ยัง” ชายหนุ่มผมยาวยอมแพ้ในที่สุด นนท์สกุลถึงยอมเปิดปากเล่า

คำพูดที่ออกมาจากปากของพี่ชายทำให้นาวาฬต้องยืนตัวแข็ง

“ไอ้คินมันบ่นๆ ตอนที่มึงแดกเหล้าอยู่กับไอ้จุนน์ไงว่าแม่มันกลัวมันหาเมียไม่ได้เลยจะหาให้ ลิสต์พวกนี้ก็คงเป็นพวกผู้หญิงที่แม่มันพยายามจับคู่ให้นั่นแหละ คงส่งมาให้มันดูก่อนเป็นแคตตาล็อค”

“ต้องขนาดนั้นเลยหรอวะ”

นนท์สกุลถอนหายใจ ดูเหมือนจะไม่ทันสังเกตเห็นอาการของน้องชายตัวเองที่กำลังกลั้นหายใจฟังประโยคต่อไป “มึงก็รู้ว่าแม่งไม่เที่ยว ไม่จีบคน ไม่ชอบมีแฟน หรือถ้าจะมีก็คงซุกเมียไว้ที่ไหนซักที่ ถ้ากูเป็นแม่มันกูก็คงกังวลลูกกูเหมือนกันว่ะ ไอ้ห่าจะสามสิบแล้วแฟนคนสุดท้ายที่มีคือตอนปอตรี”

วาฬนิ่งเงียบ เขาไม่เคยคิดเรื่องอนาคินมีแฟนมาก่อน

“ไอ้คินแม่งสุภาพบุรุษจะตาย ผู้หญิงมาอ่อยตรงหน้าเป็นสิบแม่งยังไม่เคยทำอะไรเลย ต่อให้เป็นก่อนหน้าที่มันจะ ... เออนั่นแหละ พ้อยท์กูคือมันยังไม่อยากมีใครแล้วแม่มันจะมาเดือดร้อนอะไรแทนมันวะ

“แล้วส่งมาเป็นลิสต์อย่างงี้คิดว่ามันจะสนหรอ” เบญจมินทร์พลิกหน้ากระดาษไปมา สายตาไล่อ่านข้อความที่อยู่บนนั้นอย่างรวดเร็ว “นิสัยอย่างมันต้องคิดแน่ๆ ว่าลิสต์แบบนี้ทำให้ผู้หญิงดูเหมือนสิ่งของ กูคิดว่าคุณชายเฟมินิสต์อย่างมันน่าจะโยนกระดาษพวกนี้ทิ้งไปด้วยซ้ำ ไม่น่าจะเก็บไว้อย่างนี้”

“เราน่าจะหยิบมาผิดเองพี่เบน เห็นอยู่หลังรถเลยกวาดเอามา” วาฬบอกค่อยๆ

“กูสงสัยมากกว่าว่าทำไมชิชาอะไรนี่ต้องเป็นตัวเอียง” จริงอย่างที่นนท์ว่า ชื่อ ชิชา วาสณาวณิช นั้นถูกตีพิมพ์ด้วยตัวเอียงในแบบที่แตกต่างกับคนอื่นอย่างชัดเจน “แม่ไอ้คินเน้นไว้ให้หรอ คนนี้หรอวะที่จะเป็นเพื่อนสะใภ้กู”

ตึก

ใจนาวาฬตกลงไปเต้นอยู่ที่ตาตุ่ม แต่เจ้าของมันไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะหาเหตุผลว่าเป็นเพราะอะไร เขายืนนิ่ง จ้องมองไปยังรูปภาพผู้หญิงที่ส่งยิ้มตอบมาให้เขาเงียบๆ

เธอสวย เขาไม่ปฏิเสธ ผมยาวสีบลอนด์ของเธอนั้นถูกดัดให้คลอเคลียอยู่ที่บ่า ดวงตาเรียวยาวนั่นดูน่ารักเหมือนตุ๊กตา ถ้าเป็นในอดีต อดีตเสือผู้หญิงอย่างวาฬคงไม่ลังเลที่จะเข้าหาเธอหรือทำให้เธอเข้าหาเขาเองเหมือนอย่างที่เคยทำ แต่ในตอนนี้มันไม่ใช่

แค่รูปของเธอก็ทำให้เขารู้สึกใจหายแบบแปลกๆ

“ไอ้คินไม่เลือกคนที่เจอกันเพราะแม่จับคู่ให้หรอก”

“เป็นกูหน้าตาแบบนี้กูเอา ใครเลือกให้กูก็เอา”

“มึงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไอ้คินชอบคนแบบไหน”

“แล้วมึงรู้?”

“เออ อย่างน้อยกูก็รู้ว่ามันชอบคนผมสั้นๆ ปากแข็ง—“

“หา”

นนท์สกุลทำหน้างงเมื่อได้ยินคำตอบของเพื่อนสนิทที่แอบส่งยิ้มแพรวพราวให้น้องชายของตัวเอง แต่นาวาฬไม่ทันได้สังเกต เขาไม่ได้ฟังเสียด้วยซ้ำ ชายหนุ่มยืนอยู่ตรงนั้น ภาวนาให้ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในอกไม่ใช่ความหึงหวง

แม่งไม่ใช่หรอก เขาบอกกับตัวเอง โคลจะแต่งกับใครก็เรื่องของมันสิ ใครจะสน


......................

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-03-2021 21:07:51 โดย ddanav »

ออฟไลน์ ddanav

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-1
    • instagram
นาวาฬได้เรียนรู้ในเช้าวันต่อไปนั่นเองว่าชิชาคือใคร

“สวัสดีครับ”

“ขอสายพี่คินค่ะ”

“จากที่ไหนครับ”

“บอกว่าชิชาโทรมาค่ะ”

ชิชา วาฬนั่งตัวแข็งเมื่อได้ยินเสียงหญิงสาวจากปลายสายแสดงตัวว่าตัวเองคือใคร ภาพผู้หญิงผมยาวหน้าหมวยยังคงติดอยู่ในความทรงจำเขาจากเมื่อวาน

เขารู้สึกได้ถึงอาการใจหายของตัวเองอีกครั้ง

“ฮัลโหล?”

“คุณอนาคินไม่อยู่ครับ จะฝากข้อความอะไรไว้ไหมครับ เดี๋ยวผมบอกให้”

เขาไม่ได้โกหก อนาคินไม่ได้อยู่ในห้องจริงๆ ชายหนุ่มเพิ่งออกไปทานข้าวกับนนท์สกุลที่โทรศัพท์มาชวน

“ไม่เป็นไรค่ะ แค่บอกว่าชิชาโทรมาก็พอ”

เธอวางสายไป วาฬแอบถอนหายใจอย่างโล่งอก ในใจนึกถึงแคตตาล็อครวมผู้หญิงของอนาคินที่ตอนนี้ถูกเก็บไว้ในชั้นล่างสุดของลิ้นชักข้างตัวเขา

เขายังไม่ได้เอามันไปคืนเจ้าของ และในใจลึกๆ เขาก็ไม่อยากคืนด้วย การที่อนาคินยังไม่ได้มาถามหามันกับเขาแสดงว่าผู้เป็นเจ้านายคงยังไม่ทันได้สังเกตว่ามันหายไป และนั่นมันทำให้เขาใจชื้นขึ้นนิดหน่อยเมื่อนึกถึง

เมื่อคืนเขานอนไม่หลับ ได้แต่นั่งฟังเพลงไปเรื่อยๆ พยายามทำให้ตัวเองคิดไม่ออกว่าอะไรกันแน่ที่ทำให้เขาไม่สบายใจ เบญจมินทร์มาเลียบๆ เคียงๆ ถามหลายครั้งว่าเขาโอเคไหม ทุกครั้งเขาก็จะตอบไปด้วยการเปลี่ยนเรื่องไปเรื่อยเปื่อย จนผู้เป็นเหมือนพี่ชายต้องล่าถอยไปในที่สุด เมื่อเช้าเขาก็ออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อหลีกเลี่ยงการตอบคำถามที่น่าอึดอัด ไม่ได้คิดเลยว่าจะต้องมาเผชิญหน้ากับโทรศัพท์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้

ฟูว์ ...

เขาสะดุ้งโหยงจนตกเก้าอี้เมื่อรู้สึกได้ถึงลมหายใจเบาๆ ที่ถูกเป่าเข้าที่ข้างหู เมื่อหันกลับไปดูก็เห็นอนาคินยืนอยู่พร้อมกับแก้วกาแฟในมือสองใบ (ที่เขารู้ว่าใบหนึ่งไม่ใช่กาแฟแน่ๆ เพราะคนที่ถือไม่กินกาแฟ) ผู้มาใหม่ทำหน้าขำเมื่อเห็นนาวาฬลงไปกองอยู่กับพื้น

“ตกใจขนาดนั้นเลยหรอคุณ”

“ก็มาเงียบๆ ไม่ให้เสียงเลยนี่ครับ” วาฬลูบแขนตัวเองป้อยๆ อนาคินหัวเราะ

“คุณเหม่ออยู่นี่นา นี่ ผมซื้อกาแฟมาให้” เขาช่วยพยุงคนข้างหน้าให้ลุกขึ้นก่อนจะยื่นกาแฟให้ “มีโทรศัพท์เข้ามาหาผมบ้างไหมตอนที่ผมไม่อยู่ ผมเหมือนเห็นคุณรับสายใครอยู่ตอนที่ผมเข้ามา”

วาฬเงียบ

“มีผู้หญิงโทรมาครับ” วาฬบอกในที่สุดอย่างลังเล อนาคินขมวดคิ้ว

“ผู้หญิง?”

“ครับ เห็นบอกว่าชื่อชิชา”

นาวาฬพูดออกไปแล้ว เขานั่งกลั้นหายใจเงียบในขณะที่ผู้เป็นเจ้านายกัดปากอย่างใช้ความคิด

“ผมไม่รู้จักคนชื่อชิชานะ เขาได้ฝากข้อความอะไรให้ผมรึเปล่า”

“เปล่าครับ”

“งั้นก็คงไม่มีอะไร ทำไมคุณทำหน้ายุ่งยากแบบนั้นล่ะ”

แสดงว่าโคลไม่รู้ วาฬแอบถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาหันไปยิ้มให้ผู้เป็นเจ้านายเก้อๆ จนอนาคินต้องแซว

“ทำไมอยู่ดีๆ ดูมีความสุขขึ้นมาอย่างนั้นล่ะคุณ เมื่อกี้ยังทำหน้ายุ่งอยู่เลย”

ก็เพราะ ... เออนั่นแหละ วาฬตอบในใจได้เท่านี้ก่อนจะหยุด เขายังไม่อยากรู้เท่าไหร่หรอกว่าเขารู้สึกดีใจอย่างนี้เพราะอะไร

ขอทำใจอีกนิด


....


แต่ความสุขของเขาก็อยู่ได้เพียงแสนสั้น

ชิชาโทรมาทุกวัน วันละหลายครั้ง ทุกครั้งนาวาฬได้แต่ตอบกลับไปว่าอนาคินไม่อยู่ แม้ว่าอนาคินจะนั่งทำงานอยู่ในห้องข้างหลังเขาก็ตาม เขาไม่รู้สึกผิดสักนิดที่ตอบไปอย่างนั้นแม้ว่าเสียงผู้หญิงในสายจะดูหงุดหงิดขึ้นทุกวันจนเกือบจะเป็นชวนทะเลาะ ก็อนาคินบอกเองว่าไม่รู้จักคนชื่อชิชานี่นา มันก็เป็นหน้าที่เลขาอย่างเขาที่ต้องคอยสกรีนคนที่จะโทรเข้ามาหาเจ้านายอยู่แล้วไม่ใช่รึไง

เขาพยายามไม่คิดถึงแคตตาล็อคเจ้าปัญหาที่ยังคงนอนสงบนิ่งอยู่ในลิ้นชัก จนแล้วจนรอดเขาก็ยังไม่ได้คืนมันให้กับเจ้าของสักที และตอนนี้เขาก็ยิ่งแน่ใจเข้าไปอีกว่าเขาจะไม่มีวันคืนมัน เขาอาจจะฝากเบญจมินทร์ไปคืนแทน ไม่ก็จับมันยัดลงในกองเอกสารที่ต้องเอาไปให้ผู้เป็นเจ้านายดูทุกวัน หรือเขาอาจจะเผามันทิ้งในกองขยะหลังคอนโดเขาเองก็ได้ถ้าไม่ต้องกลัวว่านนท์สกุลจะมารู้ทีหลังแล้วโดนด่าเพราะทำลายข้าวของของเจ้านาย (แม้ในความคิดเรื่อยเปื่อย นาวาฬก็ยังคงกลัวพี่ชายผู้เพอร์เฟคของตัวเอง) เขาคิดด้วยซ้ำว่าเขาอาจจะเอาไปคืนเจ้าของดีๆ หลังจากดึงหน้าที่มีข้อมูลของชิชาอยู่ไปทิ้งแล้ว เขาไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมชื่อผู้หญิงคนนี้ถึงมีอิทธิพลกับเขาขนาดนั้น แต่นั่นคงไม่สำคัญหรอก สิ่งสำคัญสำหรับเขาตอนนี้ก็คือ ...

นั่นสิ คืออะไรล่ะ

เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นปลุกเขาให้ตื่นจากพวังค์ เขามองเบอร์ที่โทรเข้ามาก่อนจะถอนใจ เขาจำเบอร์นี้ได้แล้ว

“สวัสดีครับ”

“คุณคงกำลังจะบอกว่าพี่คินไม่อยู่อีกแล้วสินะ” เสียงค่อนแคะดังมาตามสาย ชิชาดูไม่พอใจอย่างรุนแรง และเขาก็ไม่ว่าเธอหรอก เป็นเขาก็คงไม่พอใจเช่นกันถ้ามีคนมาขัดขวางไม่ให้เขาได้คุยกับคนที่เขาอยากคุยด้วยเป็นเวลาหลายๆ วันแบบนี้

แต่เขาไม่สนใจ

“คุณอนาคินไม่อยู่ครับ”

โกหกทั้งเพ เขายังได้ยินเสียงชายหนุ่มคุยโทรศัพท์กับนนท์ดังออกมาจากห้องทำงานด้านหลังเขาอยู่เลย

“คุณแม่งโกหก ฉันอยู่ในลานจอดรถบริษัทคุณ และฉันก็นั่งจ้องรถเจ้านายคุณอยู่เนี้ย ไปเอาพี่คินมาพูดสายเดี๋ยวนี้”

เสียงของเธอเปลี่ยนไปเป็นไร้มารยาทในแบบที่ทำให้นาวาฬโมโห โอเค เขาไม่เถียงว่าเขาไม่ผิด แต่น้ำเสียงของเธอเจือความดูถูกเหยียดหยามในแบบที่เขาไม่เคยเจอมาก่อนเอาไว้

“คุณอนาคินติดสายอยู่ครับ”

“คุณแม่งเป็นเกย์แล้วชอบพี่คินใช่มะ ฟังเสียงก็รู้ แถมกีดกันซะขนาดนี้ ทุเรศชะมัด ถ้าเย็นนี้ชั้นโทรไปแล้วยังไม่ได้ยินเสียงพี่คินนะ ชั้นเล่นคุณตายแน่ อยากลองก็เอา”

ชิชากระแทกสายวางหูไปแล้ว แต่นาวาฬยังคงถือโทรศัพท์คาไว้อยู่ ในหูมีแต่เสียงวิ้งๆ แบบที่เขาไม่ได้ยินมานาน

ชายหนุ่มกำลังโกรธจัด

ไม่ว่าเธอจะเป็นใคร และต่อให้เขารู้ดีเต็มอกว่าเขามีส่วนผิดที่ทำให้เธอไม่ได้คุยกับชายในฝันของเธอเสียที แต่ในความเป็นมนุษย์ ไม่ว่าใครก็ไม่ควรจะพูดกับใครแบบนี้ ต่อให้เขาจะเป็นน้องชายเจ้าของบริษัทหรือแค่พนักงานกินเงินเดือนก็ตาม ชิชาได้ข้ามเส้นที่ไม่มีใครควรจะข้ามทั้งนั้น

ที่สำคัญ ชิชาพูดเหมือนเพศสภาพของชายรักชายเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ

เขาคิดถึงฟาร์ เพื่อนรักของเขาที่ชอบผู้ชาย เพื่อนที่ไม่เคยเปิดปากบอกเขาว่าตัวเองชอบผู้ชายเพราะคงกลัวสายตาของเพื่อนๆ ที่อาจจะมองตัวเองในแบบที่เปลี่ยนไปเพราะสิ่งที่บังคับกันไม่ได้เช่นเรื่องที่เขารักเพศเดียวกัน

เขาคิดถึงปริน เพื่อนรักของเขาอีกคนที่เพิ่งค้นพบว่าตัวเองชอบผู้ชาย เพื่อนที่ต้องใช้เวลาไม่ใช้น้อยไปกับการยอมรับว่าตัวเองชอบผู้ชายเพราะกลัวว่าสิ่งที่ตัวเองรู้สึกนั้นไม่ใช่สิ่งที่สังคมจะมองว่าเป็นเรื่องปกติ เวลาที่เขาใช้ไปมันเยอะมากพอที่จะทำให้คนที่เขารักนั้นต้องกลายไปเป็นของคนอื่น

เมื่อคิดเช่นนั้น นาวาฬรู้สึกได้ถึงร่างกายของตัวเองที่กำลังสั่นด้วยความโกรธ

เขาไม่ใช่คนใจเย็น เขาไม่เคยเป็นคนใจเย็น แม้ตลอดสี่ปีที่ผ่านมาเขาจะพยายามอย่างมากที่จะเป็นมันก็ตาม

บางที เขาอาจจะไม่ได้เปลี่ยนไปจากเมื่อสี่ปีก่อนขนาดนั้น

นาวาฬกระชากประตูห้องทำงานของผู้เป็นเจ้านายให้เปิดออก จนอนาคินที่กำลังพูดโทรศัพท์อยู่กับนนท์สกุลนั้นต้องลุกขึ้นมาจากโซฟาที่ตัวเองนอนเหยียดยาวอยู่

“มีอะไร—“ อนาคินหยุดเมื่อเห็นสีหน้าเกรี้ยวกราดของคนที่โผล่เข้ามา ก่อนจะกรอกเสียงลงไปในสาย “เดี๋ยวกูโทรกลับ”

“มีผู้หญิงโทรมา” วาฬพูดเรียบๆ “ชื่อชิชา”

“ผมไม่—“

“ผมเบื่อที่จะต้องคอยรับโทรศัพท์ผู้หญิงเหี้ยๆ คนนั้นแล้ว คุณเอานี่คืนไป” เขาโยนแคตตาล็อคที่เขาควรจะคืนมานานแล้วให้เจ้าของ กระดาษเอกสารกระจายไปทั่วห้อง แม้ว่าแผ่นที่มีข้อมูลของชิชานั้นจะร่อนลงบนตักของอนาคินที่หยิบขึ้นมาดูอย่างบังเอิญ “คุณจะไปไหนอะไรกับใครที่ไหนก็ช่าง แต่งงานกับใครก็เชิญ ผมไม่รับสายให้คุณแล้ว แม่งทำเหมือนคนอื่นไม่ใช่คน ผมพอแล้ว” วาฬพูดเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ “ ผมไม่สนอีกแล้วว่าใครจะโทรหาคุณหรือแม่คุณอยากให้คุณแต่งงานกับใคร ผมไม่เอาแล้ว คุณหาเลขาใหม่ได้เลย เดี๋ยวผมพูดกับพี่นนท์เอง”

อนาคินกวาดตาอ่านกระดาษที่มีข้อมูลของชิชาอยู่อย่างเงียบๆ ในขณะที่วาฬยังคงพูดต่อไป เสียงของเขาดังขึ้นเรื่อยๆ จนแทบเป็นตะโกน “ผมเกลียดคนแบบนี้ที่สุด เคารพความเป็นมนุษย์กันไม่ได้ไม่พอ มาหาว่าผมเป็นเกย์แล้วชอบคุณ ทำไม เป็นเกย์แล้วมันไม่ดีตรงไหน ต่อให้ผมไม่ได้เป็น แต่เพื่อนสนิทผมชอบผู้ชายทั้งนั้น คุณรู้ไหมว่าฟาร์ชอบผู้ชาย ปรินชอบผู้ชาย แต่สองคนนี้ต้องเสียใจแถมพลาดโอกาสที่จะมีความสุขหลายๆ ครั้งเพราะสังคมที่มีคนอย่างผู้หญิงคนนี้คิดว่ามันเป็นเรื่องผิดปกติ อยากด่าผมก็ด่าอะไรที่มันควรด่าสิ ด่าผมK สันดานเสีย ควาย พ่อแม่ไม่สั่งสอน ห่วยแตก ด่าเหี้ยอะไรก็ได้แต่ไม่ใช่แบบนี้ คำนี้แม่งไม่ควรเป็นคำด่าด้วยซ้ำ ผมไม่ทนแล้ว ช่างแม่ง”

วาฬหอบ หายใจไม่ทันจากการตะโกน อนาคินวางกระดาษลงแล้ว เขามองวาฬด้วยสีหน้าอ่านไม่ออก

“คุณไม่ต้องมาว่าผมเลยนะว่าด่าผู้หญิง เป็นผู้หญิงแล้วไง ถ้าผู้หญิงด่าผู้ชายได้ผู้ชายก็ด่าผู้หญิงได้เหมือนกัน—”

อนาคินไม่ได้ฟังเขา ชายหนุ่มกดโทรศัพท์ทันทีทั้งๆ ที่วาฬพูดยังไม่จบ

“เบน กูไปปาร์ตี้ลูกความกับนนท์เย็นนี้ไม่ได้แล้วว่ะ พอดีมีเรื่องนิดหน่อย .... มึงไปกับมันแทนได้ปะวะ แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เข้ามาบรีฟให้กูหน่อยก่อนประชุม .... ก็เอาหลานใส่รถเข็นไปสิวะ .... เออเรื่องของกูหน่า ... ได้ๆ ขอบใจมึง เจอกันพรุ่งนี้”

ชายหนุ่มวางสายก่อนจะลุกขึ้นยืน มองคนอายุน้อยกว่าตรงหน้าที่ยังคงมีทีท่าโมโหจัด เขาไม่ได้ดูโกรธอย่างที่นาวาฬคาดไว้ ตรงกันข้าม เขากลับยิ้ม

“คุณโล่งขึ้นรึยัง”

“...”

“ผมฟังคุณต่อได้นะถ้าคุณยังโมโหอยู่ แต่ถ้าคุณใจเย็นลงหน่อยแล้วก็ไปเก็บของแล้วตามผมมา”

“คุณจะพาผมไปไหน” นาวาฬถามอย่างดื้อรั้น ในใจคิดว่าคงโดนพาไปหานนท์เพราะคำพูดก้าวร้าวที่เขาพ่นออกมารัวๆ เมื่อกี้นี้อย่างแน่นอน เขานิ่งไปอย่างไม่เชื่อหูตัวเองเมื่อได้ยินคำตอบจากอนาคิน

“ไปบ้านพ่อแม่ผม”

บ้าน?

พ่อแม่?

บ้านพ่อแม่?






มาแล้วค่ะ ดีใจที่ยังพอมีคนอ่านอยู่ ;)

ถึงคอมเมนต์อันนั้น .. รอบนี้ไม่หายแล้วค่ะ จะพยายามอัพทุกศุกร์/ เสาร์ สัญญาเลย 5555

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
พี่โคลเปิดตัววาฬเลยเหรอ

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
เพิ่งมาเห็น สนุกมากค่ะ ชอบมู้ดมากๆเลย
มีลงที่อื่นบ้างไหมคะ กลัวพลาดไม่ได้เข้าเล้าบ่อย

ออฟไลน์ ddanav

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-1
    • instagram
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ddanav

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-1
    • instagram
Somehow you make me go and eat my words
And fall right back into your fragile hands


Sort It Out - COIN


13th drift - Hiccups

เพลงคลาสสิคดังคลอเบาๆ ในรถ Tesla สีขาวคันสวยที่แล่นอยู่บนท้องถนนในบ่ายวันธรรมดานั้นดูเป็นที่แปลกตา แต่สิ่งที่ดูแปลกตามากกว่าคือชายสองคนที่อยู่ในรถคันนั้น

คนขับนั้นอยู่ในชุดสูทสีดำพอดีตัว ใบหน้าที่บ่งบอกได้ถึงความเป็นลูกครึ่งอย่างชัดเจนนั้นหล่อเหลา ดวงตาสีเขียวหม่นดูเฉียบคม มีไฝเรียงกันสามเม็ดอย่างแปลกตา ผมสีน้ำตาลอ่อนที่เริ่มยาวนั้นตกลงมาปรกตาข้างหนึ่งเมื่อเขาหันไปมองชายอีกคนเป็นระยะๆ สีหน้าแอบยิ้มเล็กๆ เมื่อคนข้างตัวไม่ได้สังเกต

อีกคนนั้นดูแตกต่างออกไป ผมสีดำของเขาค่อนข้างยาว หน้าตาดีต่อให้ผิวจะขาวจนเกือบซีด รอยเจาะตามหูนั้นระโยงระยางไปด้วยต่างหูแบบต่างๆ ทั้งสองข้าง จิวสีเงินที่ปากนั้นดูสว่างขัดกับริมฝีปากที่เป็นสีแดงเรื่อๆ เขายกขาขึ้นวางบนหน้ารถอย่างไม่พอใจอะไรสักอย่าง รองเท้าบูทหนังราคาแพงที่ดูใหญ่เกินขนาดนั้นยันอยู่กับหน้าต่างเหมือนจะบอกคนที่ขับรถผ่านไปมาว่ากินตีนกูสิ

พวกเขาดูต่างกันมากเสียเกินกว่าจะมานั่งอยู่ในรถคันเดียวกันแบบนี้

“ถึงแล้วครับ”

คนขับบอกเสียงนุ่ม เขาใช้กุญแจรีโมตในมือกดเปิดประตูรั้วสูงก่อนจะขับเข้าไป นาวาฬมองดูบ้านที่ตั้งอยู่ตรงหน้าด้วยความสนใจ มันเป็นบ้านเรือนไทยร่วมสมัยสีขาวใต้ถุนสูง บริเวณรอบตัวบ้านนั้นกว้างขวางและเต็มไปด้วยต้นไม้ครึ้ม มันเป็นบ้านที่ใหญ่และดูร่มเย็นในแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

“คุณลงไปก่อนเลยครับ เดี๋ยวผมเอารถไปจอดก่อน”

นาวาฬทำตามที่ผู้เป็นเจ้านายบอกอย่างงงๆ ลงจากรถมายืนตรงหน้าบ้านอย่างเก้งๆ กังๆ แบบไม่รู้จะทำตัวอย่างไร ได้แต่รอให้อีกคนหนึ่งจอดรถเสร็จเพื่อจะได้เดินเข้าบ้านไปด้วยกัน

เขายังไม่เข้าใจว่าอนาคินจะพาเขามาที่นี่ทำไม นี่มันบ้านพ่อแม่เลยนะ! ใครเขาจะพาคนที่ทำงานด้วยมาบ้านพ่อแม่ตัวเองกัน แถมเป็นการพามาหลังจากที่เจอเขาสติแตกตะโกนใส่หน้าแบบนั้นอีก

ตอนที่นั่งรถมาด้วยกัน อารมณ์ช่างแม่งของนาวาฬยังคงพลุ่งพล่านอยู่ เขาจึงยังไม่ได้คิดถึงผลที่จะตามมาของสิ่งที่เขาทำลงไปวันนี้ แต่ ณ ตอนนี้ที่การถูกนำมาปล่อยท่ามกลางบรรยากาศที่ไม่คุ้นเคย เขาค่อยๆ รู้สึกได้ถึงความไม่สบายใจ + รู้สึกผิดที่ค่อยๆ เข้ามากัดกินหัวใจเล็กๆ

โอเค เขายอมรับก็ได้ว่ามันไม่แฟร์หรอกที่เขาไปตะโกนใส่อนาคินแบบนั้นทั้งๆ ที่รู้เต็มอกว่าอีกฝ่ายไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ทำไมเขาถึงมั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่รู้นะหรอ? ก็เพราะเขาเป็นคนเก็บเอกสารนั่นเอาไว้เองตั้งเป็นอาทิตย์ๆ อย่างไรล่ะ เอาจริงๆ นาวาฬก็แปลกใจตัวเองเหมือนกันที่ไปตะโกนใส่อีกฝ่ายแบบนั้น ต่อให้เรื่องที่เกิดขึ้นมันน่าโมโหก็จริง แต่มันก็ไม่ใช่เขาเลยที่จะโวยวายจนเป็นเรื่องใหญ่เสียขนาดนั้น

ในอดีต เขาจัดการปัญหาทุกอย่างด้วย 1. ไม่สนใจ ปล่อยทิ้งไว้เดี๋ยวปัญหาก็หายไปเอง หรือ 2. กำปั้นถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ มันไม่ใช่เขาเลยที่จะมาตะโกนโหวกเหวกพรั่งพรูทุกอย่างออกมาจากอกแบบนี้ อย่างมากที่สุดก็เล่าให้เพื่อนสนิทไม่ก็พี่เบนฟัง ฟังคำแนะนำจากคนที่พูดให้ฟังบ้างไม่ทำบ้างแล้วก็จบ การที่ไปโวยวายอย่างนั้นมันดูเหมือน ...

กูน้อยใจหรอวะ น้อยใจที่มันไม่โยนแม่งทิ้งตอนได้มาอะนะ

“มาหาใครหรอครับคุณ”

เสียงห้าวๆ กับภาษาอังกฤษสำเนียงลอนดอนที่ดังขึ้นด้านหลังทำให้นาวาฬต้องหันไปมองด้วยความตกใจ ชายวัยกลางคนคนหนึ่งยืนประจันหน้ากับเขาอยู่ ใบหน้าคมเคาอย่างคนยุโรปนั้นแปลกตาเพราะเจือความเป็นเอเชียไว้เล็กน้อย เขาเลิกคิ้วขึ้นเมื่อนาวาฬไม่ตอบ

ณ ตอนนั้นเอง ที่นาวาฬสังเกตเห็นดวงตาของคนตรงหน้า

“คุณเข้ามาเองหรอครับ” เขาถามย้ำอีกครั้ง นาวาฬตอบกลับไปเป็นภาษาเดียวกันพร้อมรอยยิ้มแบบธุรกิจ

“ผมมากับคุณอนาคินครับ เขาให้ผมลงมาก่อนตอนเขาไปจอดรถ” เขาส่งมือให้เป็นการทักทายตามธรรมเนียม "ผมชื่อนาวาฬ เป็นเลขาคุณอนาคินครับ คุณคงเป็นคุณพ่อของเขา?”

นาวาฬเดาไม่ผิดแน่ ชายตรงหน้าเขามีโครงหน้าคล้ายคลึงกับดารินทร์และนีร แถมดวงตาสีเขียวนั่นอีกล่ะ ต่อให้ของอนาคินจะหม่นกว่าแต่มันก็เป็นรูปทรงสวยแบบเดียวกันอย่างไม่ผิดเพี้ยน

หล่อกว่าด้วย

“แอนดริค” เขารับมือวาฬไปเขย่า ชะเง้อมองไปทางโรงจอดรถไปด้วย “คุณบอกว่าโคลมาหรอ”

“ครับ”

“แล้วคุณบอกว่าคุณเป็นใครนะ”

“ผมเป็นเลขาคุณอนาคินครับ”

แอนดริคถอยหลังมายืนมองนาวาฬอย่างพินิจพิเคราะห์ วาฬแอบกลั้นหายใจ คนๆ นี้กำลังใช้สายตาเอกซ์เรย์อย่างที่อนาคินใช้เป็นประจำกับเขาอยู่

พ่อลูกไม่ต่างกันจริงๆ

“คุณชื่อนาวาฬใช่ไหม”

“ครับ คุณแอนดริค”

“เรียกผมว่าคุณพ่อละกัน คุณ โคลมา” แอนดริคยิ้มให้นาวาฬก่อนจะตะโกนเข้าไปในบ้าน สักพักผู้หญิงวัยกลางคนในชุดผ้ากันเปื้อนก็โผล่มา ใบหน้าเปื้อนยิ้มของเธอสวยสมวัย ไม่ต่างจากแอนดริค ใบหน้าของเธอบ่งบอกถึงความผสมสานระหว่างความเป็นเอเชียและยุโรปอย่างชัดเจน และที่สำคัญ โครงหน้าของเธอนั้นทำให้นาวาฬรู้ได้โดยไม่ต้องเดาว่านี่คือแม่ของอนาคิน

“โคลมาหรอคุณ แล้วนี่ใครล่ะ” เธอพูดภาษาไทยชัดเจนก่อนจะหันมาทางนาวาฬที่ยกมือไหว้

แม่ง หน้าตาดีกันทั้งบ้าน ...

“เลขาโคลมัน ชื่อนาวาฬ” แอนดริคตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษ ก่อนจะอ้าปากหาว “เดี๋ยวผมไปดูลูกก่อนนะ ทำไมช้านักก็ไม่รู้”

เขาเดินจากไป ทิ้งให้ภรรยาและนาวาฬที่ยังคงไม่ได้แนะนำตัวกันยืนอยู่กันแค่สองคน

“ทำงานกับโคลหรอคะ” เธอหันมาถามนาวาฬด้วยรอยยิ้ม วาฬยิ้มตอบอย่างไม่แน่ใจ

“ครับ คุณแม่ของคุณอนาคินใช่ไหมครับ”

“ใช่จ้ะ เรียกว่าน้าพริมก็ได้นะ ลูกน้าทำงานเป็นอย่างไรบ้าง” เธอถามด้วยความอยากรู้จนนาวาฬต้องใช้เวลาห้านาทีต่อมาไปกับการให้ความมั่นใจกับเธอว่าการงานของอนาคินนั้นไปได้ด้วยดี การบรรยายของเขานั้นจบลงเมื่อแอนดริคเดินกลับมาพร้อมอนาคินที่ตรงเข้าไปกอดผู้เป็นแม่อย่างอบอุ่น

“ผมมาเยี่ยมครับแม่”

“กว่าจะมา นี่แม่ยังบ่นกับพ่อของลูกอยู่เลยนะว่าช่วงนี้โคลหายไปไหน ไม่มาให้พ่อแม่เห็นหน้าเป็นเดือนแล้ว”

“งานมันยุ่งๆ ครับ เลยไม่ค่อยมีเวลามาหาเท่าไหร่ พ่อกับแม่เจอนาวาฬแล้วใช่ไหมครับ” อนาคินเอื้อมมือขึ้นมาขยี้ศีรษะเขาแรงๆ จนผมสีดำนั้นยุ่งเหยิงไปหมด นาวาฬได้แต่หงุดหงิดในใจ ปากก็ส่งยิ้มให้ผู้ใหญ่สองคนข้างหน้า “เลขาผมเอง”

“เพิ่งคุยกันเมื่อกี้จ้ะ คุณนาวาฬชมลูกใหญ่เลยว่าทำงานเก่ง”

“หรอครับ” อนาคินหันมาส่งยิ้มให้นาวาฬที่ได้แต่ยิ้มแหยๆ ตอบกลับไป

ผู้เป็นพ่อแม่ของอนาคินเดินนำเข้าไปในบ้าน พูดคุยไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบกับลูกชายคนเล็กไปด้วย นาวาฬมองแผนผังการตกแต่งในตัวบ้านด้วยความสนใจตามประสานักเรียนสถาปัตย์ เมื่อเทียบกับรูปทรงบ้านที่เป็นเรือนไทยประยุกต์สองชั้นแล้ว ในบ้านนั้นกลับมีสไตล์ความเป็นยุโรปอย่างน่าสนใจ ขัดกับสวนครึ้มภายนอกที่ให้ร่มเงาแบบเอเชีย พวกเขาถูกพามานั่งที่เฉลียงหลังบ้าน ข้างสระน้ำที่เต็มไปด้วยบัวกระด้งที่นาวาฬไม่ค่อยได้เห็น เขากำลังหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปด้วยความสนใจเมื่อได้ยินเสียงอนาคินพูดขึ้นมา

“จริงๆ ผมมาที่นี่เพราะอยากคุยกับแม่ครับ”

“ว่าแล้ว” แอนดริคหันไปทางภรรยา “ผมบอกคุณแล้วว่าลูกไม่โอเคกับลิสต์ของคุณหรอก แถมเอาไปหย่อนในรถลูกแบบนั้นด้วย คุณไม่เชื่อผม”

“คุณรู้ได้ไงว่าโคลจะมาพูดเรื่องนี้”

“นี่คุณยังถามผมด้วยคำถามแบบนี่อีกหรอ ลูกผม ผมก็ต้องรู้นิสัยลูกอยู่แล้ว” แอนดริคยิ้มขำ ไม่ต่างอะไรกับอนาคินที่นั่งอยู่ข้างๆ ผู้เป็นพ่อหันมาทางเลขาของลูกชายก่อนจะพูดต่อ “ให้เดา ผู้หญิงคนนึงในลิสต์คงโทรมาตื๊อลูกใช่ไหม แล้วคุณนาวาฬรับหน้า ฝั่งนั้นคงทำกริยาไม่ดีใส่คุณนาวาฬลูกเลยพามาที่นี่เพื่อมาพูดให้แม่เข้าใจ”

นาวาฬอ้าปากค้างน้อยๆ ก่อนจะรีบหุบปากอย่างรวดเร็ว

พ่อลูกเหมือนกันไม่มีผิด สายตาเอกซ์เรย์นั่นก็ด้วย

“ผมพูดถูกรึเปล่าคุณนาวาฬ” แอนดริคหันมาทางนาวาฬแต่อนาคินกลับตอบแทน

“ใช่ครับ” ชายหนุ่มยิ้มอ้อนๆ แบบที่นาวาฬไม่เคยเห็น เขาจะเข้าไปกอดเอวผู้เป็นแม่ที่ทำท่าไม่ค่อยพอใจนิดหน่อย

“แม่ก็แค่ห่วงว่าเราน่ะไม่ค่อยได้เจอใคร ยิ่งย้ายกลับมาอยู่ที่ไทยด้วยแล้ว แม่ก็แค่กลัวว่าเราจะเหงา ให้เจอผู้หญิงบ้างก็น่าจะดี”

นาวาฬกลั้นหายใจ ความรู้สึกไม่พอใจแบบแปลกๆ พุ่งขึ้นมาในอกเขาอีกครั้ง มันก็จริงอย่างที่พริมว่า เท่าที่เขารับรู้มา นอกเหนือไปจากพวกเพื่อนสนิทสี่คนนั้นแล้ว อนาคินแทบจะไม่มีเพื่อนที่ไทยอีก บางทีอาจจะมีฟาร์อีกคน แล้วก็มีเขา ... ไม่สิ เขาไม่ใช่เพื่อนอนาคินแล้วนิ พวกเขาเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้อง เขาเป็นคนพูดออกมาจากปากเองเลยนะ

แต่ถ้าการที่อนาคินจะเหงากลายเป็นข้อกังวลของแม่อนาคินจนต้องแนะนำผู้หญิงให้ เขายอมกลับไปเป็นเพื่อนเหมือนที่อนาคินอยากให้เป็นนักก็ได้

คิดเหี้ยไรอยู่วะ

“ผมไม่เคยเหงาเลยครับ” อนาคินตอบพร้อมรอยยิ้ม เขาอธิบายต่อไปถึงชีวิตประจำวัน กิจกรรมยามว่าง (วาดรูปและเดินป่า วาฬก็เพิ่งรู้เหมือนกัน) ที่เขาชอบทำในวันหยุด เพื่อนๆ จนไปถึง —

“— งานก็สนุกด้วยครับ ตอนแรกผมคิดว่าต้องมาปรับตัวกับการทำงานที่นี่หน่อย แต่นาวาฬช่วยผมได้เยอะเลยครับในการเป็นเลขา”

ในการเป็นเลขา

สายตาทุกคู่จับจ้องมาที่นาวาฬที่ได้แต่ส่งยิ้มแหยๆ อย่างทำหน้าไม่ถูกไปให้ ใครบอกว่าช่วยล่ะ นี่ก็เพิ่งทำงานใหม่ๆ เหมือนกันปะวะ แต่เขาก็รู้สึกขอบคุณน้อยๆ ที่ได้ยินอนาคินพูดแบบนั้น อย่างน้อยมันก็ทำให้เขารู้ว่าต่อให้เป็นแค่ลูกน้องเขาก็ยังทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี

แต่ไอ้คำว่าในการเป็นเลขานั่นสิที่ทำให้เขาหงุดหงิดแบบแปลกๆ

ก็บอกไปสิว่ารู้จักกันที่อังกฤษ ไม่ได้เป็นแค่เลขาสักหน่อย


“—- ผมคงไม่มีสิทธิ์ที่จะไปบอกให้คุณคิดแบบเดียวกัน หรือกลับมาเป็นเพื่อนกับผม สิ่งเดียวที่ผมทำได้คือการเป็นเจ้านายที่ดีที่สุดของคุณ เพราะนั่นคือสิ่งที่คุณต้องการให้ผมเป็น”

คำพูดที่อนาคินบอกเขาวันนั้นในรถตอนพาเขาไปส่งที่บ้านเบญจมินทร์ดังก้องอยู่ในหัว ใช่สิ ชายหนุ่มเป็นคนรับปากกับเขาเองนิว่าจะเป็นอะไรก็ตามที่เขาอยากให้เป็น แล้วเขาก็บอกไปแล้วด้วยว่าอยากให้เป็นเจ้านายธรรมดา ที่ไม่เคยมีอดีตอะไรมาเกี่ยวข้องกัน

แล้วจะมาเอาอะไรตอนนี้วะ

ความงุนงงกับตัวเองของเขาตอนนี้ไม่ต่างกับเมื่อสี่ปีที่แล้วเลย


...............


“ให้ผมช่วยนะครับ”

“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ตรงนี้น้าทำเองได้ แค่เช็ดโต๊ะให้น้าก็พอ”

พริมบอกเสียงใจดีก่อนจะหันกลับไปล้างจาน นาวาฬเดินไปหยิบผ้ามาเช็ดโต๊ะอย่างว่าง่าย สายตามองไปยังพ่อลูกสองคนที่นั่งคุยกันอยู่ตรงเฉลียงอย่างใจลอย

หลังจากโดนรบเร้า (โดยมีอนาคินยืนยิ้มไม่รู้ไม่ชี้อยู่ใกล้ๆ) นาวาฬก็ตัดสินใจอยู่ทานอาหารเย็นกับครอบครัวของอนาคิน การพูดคุยบนโต๊ะอาหารทำให้เขารู้ว่าครอบครัวของอนาคินเป็นเจ้าของบริษัทอุปกรณ์ดำน้ำแบรนด์ดังของเอเชีย(นั่นอธิบายทริปดำน้ำปีละสองสามครั้งของนนท์สกุลได้เป็นอย่างดีแม้ว่าพี่ชายเขาจะว่ายน้ำไม่เป็น) อนาคินใช้เวลาไปๆ มาๆ ระหว่างฮ่องกงกับอังกฤษตั้งแต่ยังเด็กก่อนที่พ่อแม่ของเขาจะตัดสินใจมาอยู่ที่ประเทศไทยที่ยังคงมีความผูกพันธ์ในสายเลือด (แอนดริคเป็นลูกเสี้ยวไทย-ฮ่องกง-อังกฤษ ส่วนพริมเป็นลูกครึ่ง) แต่อนาคินแทบไม่เคยมาเลยเนื่องากเรียนโรงเรียนประจำที่อังกฤษตั้งแต่ยังเล็ก นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้มาอยู่ที่ประเทศไทยแบบจริงๆ จังๆ

นาวาฬสังเกตได้ที่โต๊ะอาหารนั้นว่าแอนดริคมีบุคลิกและวิธีการพูดที่คล้ายคลึงกับดารินทร์อย่างที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นพ่อลูกกัน คำพูดที่ตรงและฉะฉานอย่างมั่นใจในตัวเองทำให้นาวาฬแอบกลัวอยู่หน่อยๆ แม้ว่าอีกฝ่ายจะพูดกับเขาอย่างใจดี แต่ที่สำคัญ ดวงตาสีเขียวใสของชายวัยกลางคนนั้นทำให้เขารู้สึกเหมือนโดนอีกฝ่ายเอกซ์เรย์อยู่ไม่ต่างไปจากดวงตาเขียวหม่นของอนาคินเลย

ส่วนพริมก็มีส่วนคล้ายกับดารินทร์เช่นกันในเรื่องความกระเง้ากระงอดแบบผู้หญิงและหน้าตาที่คล้ายคลึงกัน นาวาฬต้องหยุดตัวเองไม่ให้มองเธอมากเกินไประหว่างที่คิดไปด้วยว่าในวัยสาวเธอจะสวยมากเพียงไหน

แต่อนาคินไม่เหมือนใครเลย บุคลิกขี้เล่นแต่ก็จริงจัง เอาจริงเอาจังกับชีวิต ความเข้าอกเข้าใจคนอื่น การพูดที่ไม่กดดันคนฟังแต่ยังรักษาเนื้อหาเอาไว้อย่างครบถ้วนเป็นสิ่งที่นาวาฬสรุปเงียบๆ กับตัวเองว่าอนาคินคงไม่ค่อยได้โตมากับที่บ้านเท่าไหร่เลยไม่ค่อยได้ซึมซับบุคลิกคนในครอบครัวมา เหมือนกับเขาสร้างมันขึ้นมาเองมากกว่า การตอบคำถามเรื่องงานบนโต๊ะอาหาร หรือแม้แต่การพูดจาสนทนาในหัวข้อทั่วไป อนาคินจะตอบในแง่ดีเสมอพร้อมกับส่งยิ้มไปด้วย แต่นาวาฬที่สังเกตดูอยู่นั้นรับรู้ได้ถึงการพยายาม—-ความพยายามที่จะแสดงให้เห็นถึงมุมที่ดีที่สุดของตนเอง—-ที่อนาคินส่งออกมาถึงผู้ให้กำเนิดของตัวเองในแบบที่เขาคุ้นเคย

วาฬเคยเห็นนนท์สกุลทำมันมาก่อน คุณชายเพอร์เฟคคนนั้น

มันคือความห่างเหินที่ซ่อนอยู่ในความอบอุ่นที่ผู้เป็นพ่อแม่ไม่รู้สึก

วาฬได้แต่นั่งซึมซับมันไปเรื่อยๆ ฟังพริมรับปากกับลูกชายว่าจะไปคุยกับบรรดาแม่ๆ ของผู้หญิงในลิสต์นั้นไม่ให้มาวุ่นวายกับนาวาฬอีก ในใจคิดไปถึงตอนที่เขาเจออนาคินที่อังกฤษ ชายหนุ่มไม่เคยเป็นแบบนี้กับเขา ต่อให้เป็นตอนนี้ก็เหอะที่สถานการณ์มันเปลี่ยนไปเยอะจนเป็นแบบนี้ แต่เขาไม่เคยรู้สึกถึงความห่างเหินจากอนาคินต่อให้มันเป็นสิ่งที่เขาพยายามส่งมันออกไปให้อีกคนก็ตาม

เขารู้สึกได้แต่ความอบอุ่นที่อีกฝ่ายส่งมา

หรือว่าระหว่างเขากันอนาคิน มันคือความอบอุ่นที่ซ่อนอยู่ในความห่างเหินที่เขาเองเป็นคนเรียกร้อง

แม่ง

ยังงี้มันเรียกตัดไม่ขาดใช่ไหมวะ

“น้าว่าจะบอกอยู่” เสียงของพริมปลุกนาวาฬให้ตื่นจากในภวังค์ “น้าอะคุ้นหน้าเราตั้งแต่ตอนเห็นแล้ว นี่เพิ่งนึกออกว่าคล้ายใคร”

“ใครหรอครับ”

“เราหน้าคล้ายรูปวาดในห้องโคลรูปนึงแหนะ น้าเห็นประจำเวลาเข้าไปกำกับแม่บ้านทำความสะอาด”

รูป?

“รูปหรอครับ?” วาฬถามอย่างงุนงง

“ใช่จ้ะ แปะอยู่ที่ข้างๆ เครื่องเล่นแผ่นเสียงนั่นแหละ น้าก็เคยถามอยู่นะว่ารูปใคร โคลบอกว่าฝึกวาดรูปเฉยๆ” พริมยิ้มขำ “ตอนนั้นลูกน้ายังไม่รู้จักเราเลย เข้าไปดูได้นะจ๊ะ ห้องโคลอยู่ชั้นสองทางซ้ายของบันไดจ้ะ”

“ผมเข้าไปได้หรอครับ”

“น้าเข้าไปทำความสะอาดประจำ โคลไม่ว่าอะไรหรอกจ้ะ เดี๋ยวน้าบอกเอง”

นาวาฬเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสองแบบงงๆ ก่อนจะเลี้ยวเข้าห้องทางซ้าย เขาไม่คิดว่าใช่หรอก โคลจะมีรูปวาดเขาในห้องตัวเองได้อย่างไรล่ะ

ห้องของโคลสีเขียวเข้มกำมะหยี่ ตกแต่งด้วยสไตล์ Scandinavian ต้นไม้ที่ประดับห้องอยู่ประปรายแบบที่ทำให้นักเรียนสถาปัตย์อย่างเขาแอบประทับใจไม่ได้ วาฬหันซ้ายขวาเมื่อไม่เห็นเครื่องเล่นแผ่นเสียง จนสายตาไปสะดุดเข้ากับบันไดที่ยกขึ้นไปถึงชั้นสองของห้องที่มีเตียงติดพื้นสีขาวตั้งไว้อยู่

ทำไมเป็นคนซับซ้อนขนาดนี้วะ วาฬแอบคิดในใจไม่ได้ แต่ก็ขึ้นบันไดไปเมื่อเห็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่เขาหาอยู่วางอยู่ข้างๆ เตียงนั้นเอง

และเขาก็เห็นมัน แผ่นกระดาษยับๆ ที่ถูกคลี่ออกและปักหมุดไว้กับผนัง ภาพสเก็ตช์บนกระดาษแผ่นนั้นบ่งบอกได้ถึงความเร่งรีบของผู้วาด แต่ในขณะเดียวกันลายเส้นเหล่านั้นก็แฝงไปด้วยความตั้งใจและนุ่มนวลเช่นเดียวกัน

อึก

แต่ความละเอียดของลายเส้นเหล่านั้นไม่ได้ทำให้หัวใจนาวาฬกระโดดขึ้นมาจุกอกจนสะอึกแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้

ชายหนุ่มจ้องมองใบหน้ายามหลับของตัวเองที่ถูกร่างออกมาโดยฝีมือของอนาคิน มันเป็นเขาไม่ผิดแน่ๆ ดวงตาที่หลับพริ้ม ผมยาวสีอ่อนจากการย้อมที่ตกลงมาปรกตา รวมถึงเสื้อเชิร์ตในภาพที่ทำให้เขาจำได้ว่ารูปนี้ถูกวาดขึ้นที่ไหน

โคลวาดรูปเราตอนอยู่ Rylands ...

นาวาฬยังจำวันนั้นได้ดีในแมนเชสเตอร์ พวกเขาไปนั่งกับที่ห้องสมุด Rylands เพื่อฆ่าเวลารอให้ถึงคอนเสิร์ต เขาจำได้ว่าเขาผงกศีรษะด้วยความเบื่อจนเกือบหลับอยู่หลายครั้ง แอบมองอนาคินที่กำลังวาดรูปอยู่ เถียงกับตัวเองในใจไปด้วยว่าความรู้สึกในอกของเขาตอนนั้นมันคืออะไร และจบท้ายด้วยการบอกกับตัวเองว่าเขาไม่ชอบผู้ชายหรอก แค่สบายใจกับโคลมากๆ เท่านั้นแหละ ใครจะไปหวั่นไหวกับผู้ชายกัน

ห้าชั่วโมงต่อมา เขาก็จูบโคลในคอนเสิร์ต

วาฬมองรูปบนผนังอีกครั้ง ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกประดังเข้ามาที่เขาเองก็บอกไม่ถูกว่าพวกมันคืออะไร หนึ่ง หัวใจเขาเต้นขึ้นมาจุกอก สอง เขารู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนจนอยากจะอ้วก สาม โอเค อันนี้ยอมรับก็ได้ว่ามันเป็นความรู้สึกดีแบบแปลกๆ เหมือนกับเขาชนะอะไรสักอย่าง

เขาสะอึกอีกครั้ง

ชนะอะไรวะ ชนะที่โคลยังไม่ลืมมึงเหมือนที่มึงไม่ลืมมันอะนะ

ครั้งนี้ วาฬไม่มีอะไรจะเถียงเสียงในหัวที่น่ารำคาญนั้นอีกต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-04-2021 00:10:01 โดย ddanav »

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
แงงงง พบหน้าพ่อแม่รู้จักกันแล้ววว

ออฟไลน์ ddanav

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-1
    • instagram
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

ออฟไลน์ ddanav

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-1
    • instagram
You got me fucked up, feelin' so high
Heart beat out my chest, got me holding on tight


Enough - Nolie


14th drift - Still you


นาวาฬหรี่ตาแห้งผากของตัวเองขึ้นอ่านเวลาบนหน้าจอที่สว่างจ้าในแสงไฟสีส้มสลัวๆ

22:30

สี่ทุ่มครึ่ง เขาลุกขึ้นอย่างตกใจ นี่เขาเผลอหลับไปนานขนาดนี้ได้ยังไง ที่สำคัญ สถานที่ที่เขาเผลอหลับคือไปคือข้างเตียงของผู้เป็นเจ้านายเสียด้วย

หลังจากที่เขาเห็นรูปวาดสเก็ตช์ของเขาข้างเตียงอนาคิน และนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยความงุนงงกับความรู้สึกของตัวเองไปสักพักหนึ่ง เขาก็ตัดสินใจจัดการกับอารมณ์ของตัวเองด้วยวิธีที่เขาถนัดที่สุด นอนตัดปัญหาไงล่ะ สิ่งที่เขาลืมไปคืออีนาฬิกาจับเวลาสิบนาทีของเขานั้นโดนปิดเสียงไว้อยู่ และนั่นทำให้เขาหลับไปได้ถึงห้าชั่วโมงแบบนี้

ความเย็นที่กระทบผิวหน้าเขาเบาๆ ทำให้เขารู้ว่ามีคนเข้ามาเปิดเครื่องปรับอากาศให้เขา ความอบอุ่นรอบตัวทำให้เขารู้ว่ามีคนเอาผ้าห่มมาคลุมตัวให้เขาเช่นเดียวกัน เขาลุกขึ้นไปเปิดประตูห้อง ความเงียบที่อยู่ในบ้านทำให้เขารู้ว่าคนในบ้านได้เข้านอนไปหมดแล้ว

นาวาฬหันไปมองรูปสเก็ตช์ใบนั้นอีกครั้ง ก่อนจะพบว่ามันหายไปแล้ว

ระหว่างที่เขากำลังจะหยิบโทรศัพท์ในมือขึ้นมาโทรหาอนาคิน สายตาเขาก็เหลือบไปเห็นไฟสว่างสลัวๆ จากนอกหน้าต่าง มันเป็นไฟจากเรือนกระจก (อนาคินชี้ให้เขาดูตอนเดินสำรวจบ้านก่อนอาหารเย็น) ที่ควรจะปิดอยู่เนื่องจากเป็นเวลากลางคืนแล้ว นาวาฬหรี่ตาลงด้วยความสงสัยก่อนจะสังเกตเห็นร่างสูงของอนาคินที่เดินไปมาอยู่ในเรือนนั้น

นาวาฬเดินออกมาจากตัวบ้าน พยายามทำเสียงให้เบาที่สุดเพื่อที่จะไม่รบกวนคนที่กำลังหลับ เขาตรงไปที่เรือนกระจกหลังนั้นแม้ในใจจะเต็มไปด้วยคำถามว่าแล้วเขาจะต้องพูดอะไรไหมกับผู้เป็นเจ้านายเรื่องรูปสเก็ตช์ใบนั้น และเรื่องที่มันหายไปเมื่อเขาตื่นขึ้น เขารู้ดีว่าอนาคินเป็นคนเอามันออกไปตอนที่เข้ามาห่มผ้าและเปิดเครื่องปรับอากาศให้เขา

ประตูเรือนกระจกถูกเปิดออกเสียก่อนที่เขาจะได้ทันคิดเสร็จ

“คุณ”

อนาคินหันมาทัก ชายหนุ่มอยู่ในเสื้อยืดสีขาวที่ดูไม่คุ้นตา เขาสวมผ้ากันเปื้อนพลาสติกสำหรับทำสวนสีเขียวที่ทำให้ยิ่งไม่คุ้นตาเข้าไปใหญ่ เขาสวมบู๊ตยางทำสวนอยู่เช่นกัน แว่นตาขนาดใหญ่ที่นาวาฬไม่เคยเห็นมาก่อนตั้งหมิ่นแหม่อยู่ที่ปลายจมูก ผมสีอ่อนที่ไม่ได้เซตนั้นมีที่คาดผมคาดอยู่

หล่อชิบหาย

“ยังไม่นอนหรอครับ” นาวาฬถามด้วยความสงสัย เขายังจำได้ดีว่าอนาคินต้องนอนก่อนเที่ยงคืนทุกวันไม่งั้นความคิดความอ่านจะไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ เบญจมินทร์ว่าเขาไว้เสียเยอะเมื่อมันเกิดขึ้นรอบที่แล้ว

“ผมรอคุณตื่นจะได้พาคุณไปส่งบ้าน ระหว่างรอเลยมาดูแคคตัสผมเสียหน่อย” อนาคินยิ้ม นาวาฬมองไปรอบๆ เรือนกระจก เขาเพิ่งสังเกตเป็นครั้งแรกว่ามันเต็มไปด้วยแคคตัสพันธุ์ต่างๆ มากมาย

“ของคุณหมดเลยหรอ”

“ครับ” ชายหนุ่มหันกลับไปรดน้ำแคคตัสต่อในขณะที่นาวาฬเขยิบตัวเข้ามาใกล้ด้วยความสนใจ “ถ้าคุณชอบอันไหนเป็นพิเศษบอกผมนะ”

“จะให้ผม?”

“คุณอยากได้ไหมล่ะ”

อนาคินหันมาถามด้วยสายตาล้อๆ จนนาวาฬต้องหลบตาลง ในใจคิดไปถึงวันที่อนาคินวาดรูปเขาในวันนั้น บรรยากาศมันก็ไม่ต่างจากวันนี้เท่าไหร่หรอก เขายังคงคิดอยู่ว่าควรจะถามอนาคินดีไหมเรื่องรูปสเก็ตช์ที่หายไปจากห้องตอนเขาตื่นขึ้น หรือแค่แกล้งทำเป็นไม่รู้แล้วจบ

แต่เขาก็อยากรู้นี่ว่าอนาคินจะเก็บรูปสเก็ตช์เน่าๆ นั้นไว้ทำไมถึงสี่ปี

อยากฟังคำตอบจริงๆ รึเปล่าเหอะ เขาถามตัวเองในใจ

“เดี๋ยวผมล้างมือเปลี่ยนชุดแล้วจะพาคุณไปส่งนะ” อนาคินถอดถุงมือเปื้อนดินออก ก่อนจะเดินไปล้างมือที่ซิงค์ใกล้ๆ ในจังหวะนั้นเอง นาวาฬสังเกตเห็นมุมกระดาษยับๆ โผล่ออกมาจากกระเป๋าผ้ากันเปื้อนด้านหน้าของอนาคิน

มันคือรูปสเก็ตช์ใบนั้นไม่ผิดแน่

นาวาฬจ้องมุมกระดาษแผ่นนั้น พยายามคิดต่อไปว่าเขาจะทำอย่างไรดี เขาควรจะถามเลยไหม หรีอทำเป็นไม่รู้เรื่องต่อไป เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองคาดหวังคำตอบแบบไหนจากคนตรงหน้า เขาหยุดเถียงในใจกับตัวเองทันทีเมื่อเห็นอนาคินกำลังจะถอดผ้ากันเปื้อนออกจากตัว

“เดี๋ยวครับ”

อนาคินหยุด เขาหันมามองวาฬที่เดินเข้ามาหาเขาอย่างสงสัย

“มีอะไรรึเปล่าครับ”

“วันนี้ผมคุยกับคุณแม่คุณมานิดหน่อย แล้วคุณแม่คุณบอกว่าคุ้นหน้าผม”

อนาคินยักไหล่ “คุณก็หน้าคล้ายนนท์อยู่นะ แม่ผมคงคุ้นหน้าคุณจากนนท์มั้ง”

“เปล่า คุณน้าบอกว่าผมหน้าเหมือนคนในรูปที่คุณสเก็ตช์แล้วแปะไว้ในห้องนอนคุณ” นาวาฬเขยิบตัวเข้าไปใกล้ผู้เป็นเจ้านายมากขึ้นไปอีก เอาวะ เขาคิดในใจ “ผมเลยเข้าไปดู มันเป็นรูปผมจริงๆ คุณวาดเอาไว้ตอนที่เราไปแมนเชสเตอร์กัน” นาวาฬพูดต่อโดยไม่กล้ามองหน้าคนข้างหน้ายังเงียบอยู่ “พอผมตื่นมามันก็หายไปแล้ว”

นาวาฬได้ยินเสียงตัวเองกลั้นหายใจรอคำตอบจากคนข้างหน้าที่ยืนนิ่งๆ พวกเขายืนอยู่ในความเงียบอยู่สักพักจนนาวาฬต้องเป็นฝ่ายเอ่ยปากขึ้นมาก่อน

“คุณจะไม่ตอบอะไรผมหน่อยหรอ”

“คุณยังไม่ถามอะไรผมเลย จะให้ผมตอบอะไรครับนาวาฬ”

กวนตีน

“ผมอยากถามคุณว่า หนึ่ง รูปนั้นเป็นรูปผมจริงรึเปล่า แล้วก็สอง คุณเอามันไปใช่ไหมครับ”

เขาพูดออกไปแล้ว สายตาก้มหลุบต่ำเพื่อหลบสายตาเอกซ์เรย์ที่เขารู้ดีว่าจะถูกส่งมาให้ หัวใจเต้นโครมครามอย่างตื่นเต้นแบบแปลกๆ กับคำตอบที่คนตรงหน้าจะตอบ

ถ้าอนาคินตอบว่าไม่ใช่ทั้งสองข้อ เขาก็แค่ขอโทษที่ถามอะไรไร้สาระ

แต่ถ้าอนาคินตอบว่าใช่ทั้งสองข้อล่ะ เขาจะทำอย่างไรต่อไป

นาวาฬได้ยินเสียงคนตรงหน้าถอนหายใจยาว ก่อนจะต้องแปลกใจเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะน้อยๆ ดังตามมา

“คุณนี่นะ—“

จู่ๆ นาวาฬรู้สึกได้ถึงปลายนิ้วเรียวยาวของผู้เป็นเจ้านายที่ปลายคาง ท่ามกลางความตกใจของเขา อนาคินใช้ปลายนิ้วนั้นช้อนคางของคนที่ตัวเล็กกว่าให้ขึ้นมามองหน้าเขา สายตาสีเขียวหม่นนั้นไม่เอกซ์เรย์เขาเหมือนที่คาดไว้ แต่กลับหลิ่วล้อเหมือนขบขันกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่

“ไม่มีใครสอนหรอครับว่าเวลาเด็กพูดกับผู้ใหญ่ห้ามหลบตา”

ใบหน้าของพวกเขานั้นอยู่ใกล้กันเสียงจนนาวาฬสามารถเห็นไฝสามเม็ดที่เรียงกันอยู่ใต้ตาคนตรงหน้าได้อย่างชัดเจน ลมหายใจแผ่วๆ ของทั้งสองกระทบผิวกันและกัน นาวาฬรู้สึกได้ถึงหัวใจตัวเองที่เริ่มเต้นแรงขึ้นจนเขาเริ่มกลัว แต่ก็ยังคงทำปากกล้าพูดตอบกลับไป

“ตอบผมได้ยังครับ”

“ไม่ใช่ทั้งสองข้อครับ”

“แต่คนในรูปหน้าเหมือนผมมากเลยนะ”

“ผมวาดนนท์มัน ไม่ใช่คุณหรอก” อนาคินตอบปัด ก่อนจะส่งยิ้มให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ไปขึ้นรถกัน เดี๋ยวผมไปส่ง”

“ถ้าคุณจะตอบแบบนี้ผมขอรูปคืน”

นาวาฬก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรทำให้เขาตอบออกไปอย่างนั้น เขารู้แต่เขาไม่พอใจมาก มาก อาจจะเป็นเพราะคำแถโง่ๆ ที่ออกมาจากปากคนข้างหน้า มันจะเป็นรูปของนนท์สกุลไปได้อย่างไรล่ะ มันรูปเขาชัดๆ ทำไมยอมรับแค่นี้ยังไม่ได้ เขาดึงปลายเสื้อคนข้างหน้าเอาไว้ไห้หันกลับมาทางเขาอีกครั้ง “ผมรู้ว่ารูปอยู่ในกระเป๋าผ้ากันเปื้อนของคุณ ถ้ามันเป็นรูปของพี่นนท์จริงๆ พี่ผมก็ควรได้มันไป เดี๋ยวผมเอาไปให้พี่ผมเอง”

นาวาฬจับปลายกระดาษ ตั้งใจจะดึงออกมาใส่กระเป๋ากางเกงตัวเองแต่กลับโดนมือใหญ่ของอนาคินขว้ามือเขาไว้เสียก่อน สายตาของชายหนุ่มนั้นยังคงมีแววล้อเล่นอยู่ แต่ความจริงจังก็เริ่มถูกส่งออกมาจากดวงตาคู่นั้นเช่นกัน

“ผมไม่ได้เป็นคนเอาไป”

“แล้วมันจะหายไปจากห้องได้ไงถ้าคุณไม่ได้เป็นคนเอาไป”

“ผมก็ไม่รู้ครับ” อนาคินตอบจริงจัง เขาเอามือใส่ในกระเป๋าในแบบที่นาวาฬมองแล้วรู้สึกว่าโดนกวนบาทาอยู่ นาวาฬเขยิบเข้าไปใกล้คนข้างหน้าอีกครั้ง ก่อนจะเชยหน้าขึ้นมองคนที่สูงกว่า เขาไม่หลบตาอีกแล้วด้วยความหงุดหงิดที่ค่อยๆ เพิ่มเข้ามาจากการพูดไม่รู้เรื่องของคนตรงหน้า

“ถ้างั้นผมขอดูกระดาษในกระเป๋าคุณหน่อย”

“คุณเข้ามาใกล้ขนาดนี้ ผมจูบคุณได้เลยนะ”

คำพูดลอยๆ ของอนาคินทำให้นาวาฬชะงัก ดวงตาสีเขียวหม่นคู่นั้นไม่มีแววล้อเล่นอีกแล้ว มันกลับมีแววอะไรบางอย่างที่นาวาฬอ่านไม่ออกแม้จะคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นมาก่อน ต่อให้ที่มุมปากนั้นยังมีรอยยิ้มประดับอยู่ เขามองตอบกลับไป พยายามไม่สนใจความรู้สึกที่หายไปนานแสนนานที่ค่อยๆ เคลือบคลานกลับเข้ามาอีกครั้ง

อยากจูบ

ริมฝีปากของอนาคินเผยอออกเล็กๆ ในแบบที่นาวาฬคิดว่าถ้าเอาลิ้นสอดเข้าไปมันจะดีขนาดไหน ชั่วขณะหนึ่ง เขาจินตนาการไปถึงริมฝีปากได้รูปของคนตรงหน้าบดเบียดกับริมฝีปากของเขา ปลายลิ้นไล้เลียในปากของอีกฝ่าย ฝ่ามือใหญ่สอดเข้าที่เส้นผมของเขา ดึงลงเพื่อให้รับรสจูบได้ดีขึ้น ...

เขาเคยจูบอนาคินมาแล้ว จูบอีกครั้งจะเป็นอะไรไปล่ะ

“คุณทำหน้าอ้อนให้ผมจูบ”

เสียงนุ่มของอนาคินทำให้เขาหลุดออกจากภวังค์ นาวาฬรีบส่ายศีรษะปฏิเสธ จริงๆ คือส่ายศีรษะไล่ความคิดที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ให้ออกไปเสียมากกว่า

“ถ้าผมจูบคุณขึ้นมาจริงๆ คุณจะทำยังไง”

อนาคินถามต่อ เขาจ้องดวงตาของนาวาฬนิ่งเหมือนจะรอให้อีกฝ่ายพูดอะไรออกมา

นาวาฬเงียบ รู้สึกได้ถึงลมหายใจแผ่วเบาของคนตรงหน้า และจังหวะหัวใจของตัวเขาเอง ระยะสามวิบ้าบอ เขาหลับตา พยายามเค้นคำพูดออกมาจากปากโดยไม่สะอึกให้อนาคินเห็นแม้ว่าเขาจะอยากทำเต็มที

จูบสิ

“ผมเปล่า คุณจะให้ผมดูกระดาษนั่นได้ยัง”

เขาถอยออกมา ใบหน้าของอนาคินเปลี่ยนเป็นยิ้มทันที

“คุณจะไม่ปล่อยผมไปใช่ไหมถ้าผมไม่ยอมให้คุณดูน่ะ”

“ใช่”

“งั้นคุณหยิบดูได้เลย” อนาคินยกมือทั้งสองข้างขึ้นแบบยอมแพ้ นาวาฬรีบขว้ามันขึ้นมาดูอย่างรวดเร็ว ก่อนจะต้องผิดหวังเมื่อเห็นว่ามันเป็นกระดาษที่อนาคินสเก็ตช์รูปแคคตัสเอาไว้ก่อนหน้าที่เขาจะมา

“พอใจรึยังครับ”

“.......”

“งั้นผมไปสตาร์ทรถนะ คุณหายช็อคเมื่อไหร่ก็ตามผมมาละกัน”

“ผมไปด้วย” นาวาฬพูดขึ้นทันทีต่อให้จะยังงงงวยอยู่กับแผ่นกระดาษที่อยู่ในมือ เขามั่นใจว่ามันคือรูปเขาแน่ๆ ที่อยู่ในกระเป๋าของอนาคินเมื่อกี้นี้ แต่การที่มันไม่ใช่มันก็แปลว่าเขาคงคิดผิด

“คุณว่าผมควรได้รับคำขอโทษจากคุณไหมครับ” ไม่วายอนาคินยังหันกลับมาถามเขาด้วยรอยยิ้มล้อเลียน

“การที่รูปไม่ได้อยู่กับคุณมันก็ไม่ได้หมายความว่ารูปนั้นไม่ใช่รูปผม”

“แล้วแต่คุณเลยครับ ผมบอกไปแล้วว่ามันเป็นรูปนนท์ ถ้าผมเจอรูปเดี๋ยวจะเอามาให้คุณพิสูจน์ดูเลยว่าเป็นรูปนนท์มัน ไม่ใช่คุณ”

อนาคินพูดขำๆ ก่อนจะเดินรุนหลังนาวาฬให้ตรงไปที่รถ นาวาฬที่อยู่ข้างหน้าไม่ทันได้สังเกตเห็นกระดาษอีกแผ่นหนึ่งที่ถูกชายหนุ่มสอดเข้าไปในรองเท้าบู๊ตยางที่เขาใส่อยู่นั้นอย่างรวดเร็ว

อนาคินยิ้มน้อยๆ ให้กับตัวเอง


.........


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2021 19:42:29 โดย ddanav »

ออฟไลน์ ddanav

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-1
    • instagram

“ฟังกูอยู่ปะวะ”

นาวาฬสะดุ้งก่อนจะหันไปมองเพื่อนที่นั่งอยู่ตรงข้าม รีรักหรี่ตาลงมองเขาอย่างจับผิด

“ได้ยินที่กูพูดปะ”

“มึงพูดใหม่ได้มะ กูคิดอะไรนิดหน่อยเมื่อกี้”

รีรักกรอกตา “ใจลอยนะมึง เป็นไรวะ”

แปดโมง พวกเขานั่งกันอยู่ที่ร้านของรีรักที่ยังไม่เปิด มันไม่ใช่เรื่องปกติสำหรับรีรักที่จะตื่นเช้าขนาดนี้เมื่อร้านของเขานั้นเปิดช่วงหัวค่ำ ดังนั้นการที่นาวาฬได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนเรียกให้มาเจอกันที่ร้านแต่เช้าอย่างนี้จึงเป็นเรื่องแปลกขนาดนี้ถ้าเป็นปกติเขาคงคาดคั้นไปแล้วว่ามีเรื่องอะไรร้ายแรงรึเปล่า

แต่เขาก็ไม่ได้ตั้งคำถาม เมื่อคืนเขานอนไม่หลับด้วยเรื่องที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเรื่องอะไร ได้แต่พลิกตัวไปมา ก่อนจะลุกขึ้นมาดูทีวีให้ตัวเองหยุดคิดแต่ก็ทำไม่ได้ จนท้ายที่สุดต้องไปเอายานอนหลับที่ตัวเองไม่ได้ใช้มานานแสนนานและถูกซ่อนไว้ไม่ให้ใครเห็นมากิน แม้ว่าในใจจะรู้สึกผิดนิดๆ เมื่อนึกถึงหน้าของเพื่อนถ้ารู้เข้า

สี่ปีที่แล้ว นาวาฬไม่มีโชคกับยานอนหลับเท่าไหร่หนัก

แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นในตอนนี้ รีรักยังคงมองเขาด้วยสายตาจับผิด มือก็คนกาแฟในแก้วที่ตั้งอยู่ตรงหน้าไปด้วย ท่างทางของเขาทำให้ผู้เป็นเพื่อนแอบกลัวนิดๆ ว่าจะโดนบี้ถามว่าแล้วมึงคิดอะไรอยู่วะ ยิ่งรักเป็นพวกชอบบี้คนอยู่เสียด้วย นาวาฬรีบเปลี่ยนท่าทีมาทำท่าตั้งใจฟัง มือก็ตักข้าวต้มกุ้งที่เพื่อนทำให้เข้าปากคำโตอย่างเอาอกเอาใจ

“กูเครียดเรื่องงานนิดหน่อย มึงก็พูดมาเหอะ นี่กูตั้งใจฟังสุดๆ แล้วเนี้ย”

“ฟังแต่แรกก็จบ ต้องให้กูพูดใหม่อีก” รักบ่น แต่ก็ยอมทำตามแต่โดยดี

“ฟาร์ได้บอกมึงป่ะว่ามันย้ายออกจากบ้านกูแล้ว”

“หา” นี่เป็นข้อมูลใหม่สำหรับวาฬ ทั้งๆ ที่เขาเพิ่งคุยโทรศัพท์กับฟาร์ไปเมื่อวานนี้เอง “ย้ายไปเมื่อไหร่ ย้ายกลับไปอยู่กับพี่มันรึไง หรือว่ามึงทะเลาะกับมัน”

“เปล่า กูจะไปทะเลาะอะไรกับมัน” รักส่ายศีรษะ “มันไปได้คอนโดแถวๆ มหาลัย เลยย้ายไปอยู่ แต่ย้ายปุบปับมากเลย แม่งบอกกูวันนึงก่อนหน้าจะย้าย”

“ทำตัวมีความลับ”

“มันมีความลับจริง มันบอกกูด้วย แต่กูบอกมึงไม่ได้” รักทำหน้าจริงจังแบบที่นานๆ ทีจะได้เห็น “กูแค่คิดว่ามึงควรจะต้องรู้ไว้ว่ามันย้ายออกจากบ้านกูไปแล้ว แต่มึงทำเป็นไม่รู้ต่อหน้ามันหน่อยละกัน”

“มึงเรียกกูมาด้วยเรื่องแค่นี้นี่นะ”

“เออ กูแค่อยากให้มึงไปเล่าให้ไอ้ปรินฟัง”

“มันเกี่ยวไรวะ”

“ฟาร์ให้กูสาบานว่าจะไม่บอกปรินเรื่องที่มันออกไปอยู่เอง”

“มึงเลยจะวานให้กูไปบอกแทนว่างั้น”

“กูไม่ได้วานให้มึงไปบอกแทน แต่กูมั่นใจในความปากมากของมึงว่ามึงต้องไปบอกมันแน่ๆ” รักยักไหล่ “กูรู้ว่ากูสาบานกับมันก็ไม่ควรทำงี้ แต่อะไรบางอย่างบอกกูว่าถ้าฟาร์ไม่อยากให้ปรินรู้ก็ต้องยิ่งทำให้มันรู้”

“กูไม่เข้าใจ”

“มึงไม่ต้องเข้าใจหรอก แค่ไปบอกปรินต่อแค่นั้นแหละ” รักนิ่งคิดไปนิดก่อนจะพูดต่อ

“จริงๆ มีอีกอย่างที่มึงควรรู้ แต่เรื่องนี้ไอ้ปรินรู้ไม่ได้”

“อะไรอีกวะ”

“มีคนมาช่วยฟาร์ขนของตอนย้ายออก หน้าแม่งคล้ายพี่จุนชิบหาย”

คล้ายพี่จุน?

“มึงแน่ใจนะว่าไม่ใช่พี่จุน”

“ไม่ใช่ แต่ดูไกลๆ คือเห็นเป็นพี่จุนได้เลย เสียงก็คล้ายๆ”

วาฬนึกย้อนกลับไปถึงคืนนั้นที่เขากับปรินเห็นฟาร์ยืนจูบกับจุนน์ที่ผับ เขาหลับตา พยายามรีดเอาความจำในคืนนั้นออกมาให้หมด ในใจคิดไปถึงความเป็นไปได้อีกอย่างที่เขาไม่เคยคิดมาก่อน

หรือว่าคนนั้นไม่ใช่พี่จุน?

“แม่งเป็นญาติพี่จุน ชื่อเมษา”

แล้ววาฬก็จำได้ เมษาเป็นญาติจุนน์ที่ฉลาดขนาดได้เป็นตัวแทนประเทศแข่งโอลิมปิคคณิตศาสตร์โลกและชนะกลับมาในช่วงมัธยมปลาย พวกเขาไม่เคยเจอกัน แต่จุนน์มันจะยกชื่อเมษามาอวดหลายครั้งกลางวงเหล้า ครั้งสุดท้ายที่เขาได้ยินข่าวของเมษา คือญาติของจุนเพิ่งเรียนจบและทำงานอยู่ในบริษัทเทคใหญ่ยักษ์ที่มีสาขาที่ไทยแห่งหนึ่ง

และเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าเมษาชอบผู้ชาย

มันเป็นข่าวใหญ่ในตอนนั้น ตัวแทนประเทศในการแข่งขันโอลิมปิคคณิตศาสตร์โลกเป็นหนึ่งในตระกูลดังเองประเทศ หน้าตาหล่อเหลา และฉลาดขนาดมีมหาวิทยาลัยยื่นข้อเสนอให้เข้าเรียนได้เลยทันทีโดยไม่ต้องจบมัธยมปลายก่อนประกาศตัวในการสัมภาษณ์หลังการแข่งขันว่าเป็นชายรักชาย แถมมีแฟนเป็นรุ่นน้องอยู่ในโรงเรียนเดียวกัน คนทั้งประเทศอให้ความสนใจกับเรื่องส่วนตัวเองเมษามากกว่าผลการแข่งขันเสียอีก และนั่นทำให้ไม่นานหลังจากได้ชัยชนะ เมษาประกาศกลางวงสัมภาษณ์ว่าได้เลิกรากับแฟนหนุ่มไปแล้วเพราะอีกฝ่ายโทษตัวเองว่าเป็นคนทำให้ชีวิตส่วนตัวของเมษาโดนขุดกระจุยกระจายในหน้าสื่อต่างๆ

“ผมอยากให้พวกคุณจำไว้ว่านี่เป็นผลมาจากฝีมือของพวกคุณทุกคน ผมก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง เพศของคนที่ผมชอบไม่ควรจะเป็นที่สนใจไปมากกว่าความสำเร็จในชีวิตของผม”

และนั่นเป็นหนึ่งเหตุผลที่นาวาฬไม่อยากยอมรับว่าตัวเองชอบอนาคินในตอนนั้น

เขากลัวว่านั่นจะเป็นสิ่งเดียวในตัวเขาที่คนให้ความสนใจเหมือนกับเมษา

“แล้วบอกกูทำไมวะ”

“ก็ที่ไอ้ปรินมันฟาดหัวฟาดหางเรื่องฟาร์ไปไหนไม่บอกอะไรของแม่งไง ฟาร์ไม่ได้ไปไหนกับพี่จุนหรอก ไปกับเมษานี่แหละ แค่เวลาพี่จุนเมาเละเทะก็มานอนอยู่ด้วยแค่นั้น”

“......”

“กูไม่รู้หรอกนะว่าไอ้ปรินมันคิดอะไรอยู่แล้วมันบอกมึงว่าอะไร แต่กูว่ากูกับมึงรู้ความลับของพวกแม่งทั้งคู่อะละ ความลับเรื่องเดียวกันด้วยแต่เสือกพูดไม่ได้ รอให้พวกมันงอนกันให้หายไปเองละกัน พวกมึงจะเปิดเรียนแล้วนิ เดี๋ยวก็คุยกันเองแหละ”

รีรักพูดถึงวันเปิดเรียนของเพื่อนทั้งสามที่กำลังขยับเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ นาวาฬขมวดคิ้วอย่างตามไม่ทัน

“กูไม่เกท”

รีรักถอนใจ

“โง่ต่อไปละกันมึง”


.........


Priné - เจอไอ้เหี้ยพี่จุนเดินอยู่กับสาวที่เอ็มควอเทียร์
Priné - สัสอยากเข้าไปต่อยหน้าแม่ง
Priné - ถ้าแม่งจะทำงี้ก็ปล่อยฟาร์สิวะ โคตรเหี้ย

นาวาฬหยุดพิมพ์เอกสารเพื่ออ่านข้อความผ่านหน้าจอมือถือ เขารู้สึกได้ถึงความเกรี้ยวกราดของเพื่อนที่ถูกส่งมาผ่านตัวหนังสือเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย

เขาไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่รีรักพยายามสื่อเมื่อเช้านัก เพื่อนของเขาพูดกำกวมเสียจนคนฟังอย่างเขานั้นตามไม่ทัน สิ่งเดียวที่เขารู้คือรีรักรู้ความลับบางอย่างของฟาร์ และเขารู้ความลับของปริน แถมมันยังเป็นความลับเรื่องเดียวกัน มันจะเป็นอะไรไปได้ล่ะ

ฟาร์ชอบไอ้ปรินเหมือนกันงั้นหรอ?

เขาสลัดความคิดที่ดูแทบจะเป็นไปไม่ได้ทิ้งอย่างรวดเร็ว

อีกเรื่องที่เขาเข้าใจจากสิ่งที่รักพูดคือเรื่องของเมษา เมษารู้จักและสนิทกับฟาร์ขนาดมาช่วยย้ายของกันได้ต่อให้เขาเองที่รู้จักกับจุนน์มาเป็นชาติจะไม่เคยเจอ ฟาร์กับจุนน์รู้จักกันมาก่อนที่จะเจอกันคืนนั้น จุนน์ตอบแบบอ้ำอึ้งเมื่อโดนถามว่ารู้จักกับฟาร์ได้อย่างไร จุนน์บอกว่าฟาร์อยู่ดีๆ ก็ตัดขาดการติดต่อไปเมื่อเข้ามหาวิทยาลัย ...

เขาเริ่มเดาเรื่องออก

เขาเสิร์ชหาอินสตาแกรมเมษา ชายหนุ่มเจ้าของบัญชีนั้นดูคล้ายกับจุนน์มาก เป็นญาติกันอย่างไม่ต้องสงสัย ณ จุดนี้ วาฬก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าคนที่เขาเห็นจูบกับฟาร์ในวันนั้นคือจุนน์หรือเมษากันแน่

วาฬถอนหายใจก่อนจะพิมพ์งานต่อ จริงๆ เขาไม่ควรเอาสมองมาคิดแทนเพื่อนด้วยซ้ำว่าอะไรเป็นอะไร เรื่องตัวเขาเองยังเอาไม่รอดเลย

เมื่อคืนอนาคินขับรถไปส่งเขาที่บ้านเบญจมินทร์เหมือนเคย ระหว่างทางพวกเขาสองคนไม่ได้คุยอะไรกันแม้แต่คำเดียว ได้แต่นั่งฟังเพลงบรรเลงไปเรื่อยๆ เขาแอบมองอนาคินที่ขับรถไปเป็นระยะๆ ในใจคิดถึงไปว่าถ้าตอนนั้นเขาจูบอนาคินจริงๆ เหมือนอย่างที่อยากจะเป็นยังไง

“เจอกันพรุ่งนี้นะครับ” อนาคินบอกตอนส่งเขาลงที่หน้าบ้านเบญจมินทร์ ก่อนจะขับรถออกไป ทิ้งให้วาฬอยู่กับความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองจนถึงตอนนี้

มันตลกที่การได้อยู่ใกล้อนาคินขนาดนั้น ทำให้คนใจเต้นแรงมากกว่าการจูบกับปรินคืนนั้นเสียอีก

ไม่ได้กลับไปชอบมันหรอก เขาบอกกับตัวเองย้ำๆ มาตั้งแต่เมื่อคืน แค่หวั่นไหว เจอคนที่เคยรักก็ต้องหวั่นไหวเป็นธรรมดาปะวะ

วันนี้พวกเขาก็ยังไม่ได้เจอกัน วาฬเข้ามาที่ออฟฟิศตอนเก้าโมงก็พบว่าอนาคินกับนนท์สกุลอยู่ในห้องทำงานของอนาคินด้วยกันแล้ว เมื่อนาวาฬออกไปทานข้าวช่วงเที่ยงก็ยังไม่มีใครออกมา จนตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสองกว่าเสียงพูดคุยเคร่งเครียดก็ยังดังออกมาพอให้นาวาฬได้ยินอยู่ตลอด

เขาถอนใจ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะตอบข้อความของปริน ก่อนจะต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงทิตา พนักงานรักษาความปลอดภัยประจำชั้นโต้เถียงกับใครบางคนที่ทางเดินด้านหน้า

“—เข้าไปไม่ได้ค่ะคุณถ้าไม่ได้แจ้งไว้ก่อน—“

“ชั้นเป็นคนรู้จักของพี่คินทำไมจะเข้าไปไม่ได้!”

เสียงชิชาที่นาวาฬจำได้ดีดังแหวขึ้น ก่อนที่เขาจะได้ทันออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ร่างสูงโปร่งของหญิงสาวก็ดันประตูให้เปิดเสียก่อน เธออยู่ในชุดเดรสสีดำตัวเล็กในแบบที่ถ้าเดินสวนกันนาวาฬคงจะแอบมอง ผมยาวสีบลอนด์ของเธอคลอเคลียอยู่ที่บ่าดูน่ารัก เธอโยนคีย์การ์ดผ่านประตูที่แย่งมาจากทิตาลงกับโต๊ะข้างๆ สายตาสอดส่องไปมาจนมาเจอเข้ากับนาวาฬที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องทำงานของอนาคิน

“ฉันมาหาพี่คิน” เธอพูดเสียงดัง

“คุณอนาคินประชุมอยู่ครับ คงให้เข้าพบไม่ได้”

“ไปบอกเขาว่าฉันมาหา”

“คงไม่ได้ครับ”

“เอ้อ ฉันก็ลืมไป คุณนี่มันเป็นเลขาหวงก้างนี่นา คุณคงไม่ไปเรียกเขาให้ฉันหรอกจริงมั้ย”

สายตาของชิชาเต็มไปด้วยความเหยีดหยามขณะที่มองตรงมาทางเขา นาวาฬรู้สึกได้ถึงความโกรธของตัวเองที่พุ่งสูงขึ้นมา คนอย่างนี้อะนะที่น้าพริมอยากได้เป็นลูกสะใภ้ แต่เขาก็ยังคงพยายามพูดอย่างใจเย็น

“คุณอนาคินประชุมอยู่จริงๆ ครับ คุณนั่งรอก่อนก็ได้ เดี๋ยวผมเข้าไปเรียกให้”

นาวาฬเดินไปหน้าประตูห้องทำงานของผู้เป็นเจ้านาย กำลังจะเปิดประตูออกเมื่อได้ยินเสียงค่อนแคะของชิชาดังมาจากทางด้านหลังของเขา

“ถามจริง เคยสมเพชตัวเองบ้างมั้ย เป็นเลขาแล้วยังไปชอบเค้าเนี้ย”

ชายหนุ่มหยุดกึกเมื่อได้ยินคำพูดนั้น

“คุณพูดอะไร”

“ฉันว่าคุณก็ได้ยินชัดแล้วนะ”

นาวาฬไม่เคยรู้สึกเกลียดใครขนาดนี้มาก่อน ถ้าเป็นผู้ชายทั่วไปเขาคงลุกไปต่อยหน้าแล้วเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยโยนออกไปแล้ว แต่เขาทำไม่ได้ ตราบใดที่เขายังทำงานเป็นเลขาของอนาคินอยู่เขาทำไม่ได้ มันจะไม่ได้จบแค่เขาโดนนนท์สกุลต่อว่า แต่มันจะกระทบไปถึงครอบครีวของอนาคินด้วยเพราะแม่ของชิชารู้จักกับพริม

แม้ว่าเขาเองจะไม่แน่ใจว่าความอดทนของเขาจะอยู่ได้ถึงเมื่อไหร่

“ฉันถาม ก็ตอบสิ”

นาวาฬรู้สึกได้ถึงความโกรธที่พุ่งพรวดขึ้นมาอีกระลอก ใจเย็น เสียงในตัวเขาเตือนอย่างร้อนรน เถียงไปก็เท่านั้น เข้าไปเรียกโคลให้จบๆ ดีกว่านะ

ไม่ เขาสู้กับเสียงนั้นในใจ ไม่เรียกเด็ดขาด เรียกให้คนอย่างนี้กูไม่เรียก

แล้วไง จะตบแย่งโคลกับยัยนี่งั้นหรอ

นาวาฬไม่สนใจเสียงล้อเลียนในสมองของตนเอง เขาหันกลับไปหาชิชาช้าๆ กราดสายตามองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ในสมองเขาว่างเปล่า เขาไม่ได้คิดอะไรเลยเมื่อได้ยินเสียงเรียบนิ่งของตัวเอง แม้ว่ามุมปากจะมีรอยยิ้มประดับอยู่ก็ตาม

นี่คือนาวาฬเวอร์ชั่นโกรธจัดที่ไม่มีใครได้เห็นมานาน

“อย่างน้อยเขาก็รับสายผมนะครับ คุณชิชา”

สีหน้าเหยียดหยามของชิชาเปลี่ยนเป็นเกลียดชังทันทีที่ได้ยิน แต่นาวาฬไม่มีเวลาได้ชื่นชมมันเมื่อหญิงสาวเดินตรงมาทางเขา เงื้อมือขึ้นสูงเหมือนจะทำร้าย เขายืนอยู่กับที่โดยไม่ได้คิดจะหนี กดสายตาลงมองเธอนิ่งๆ แบบที่เขารู้ดีว่าจะทำให้คนที่ถูกมองสติแตกเอาได้ง่ายๆ

ความโกรธมันทำให้เขาไม่คิดจะหลบ

“นั่นคุณจะทำอะไร”

เสียงห้าวดังขึ้นก่อนที่มือของชิชาจะกระทบลงบนใบหน้าเขา นาวาฬมองตามต้นเสียงก่อนจะกลั้นหายใจ อนาคินยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องทำงาน นนท์สกุลยืนอยู่ข้างๆ สีหน้าตกใจแบบที่เขาแทบไม่เคยเห็นมาก่อน

ทุกอย่างหลังจากนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว อนาคินเดินเข้ามาปัดมือของชิชาออก นาวาฬรู้สึกได้ถึงแรงกระชากที่แขนของตนเองเมื่อเขาถูกอนาคินดึงให้มาหลบข้างหลัง แผ่นหลังของชายหนุ่มสั่นเล็กน้อย ก่อนที่นาวาฬจะทันได้รู้ตัว มือของเขาก็ถูกมือใหญ่ของอนาคินกุมเอาไว้

ตึก

ตึก

ตึก

นาวาฬไม่ได้ฟังเสียงของชิชาที่กำลังพยายามอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้อนาคินฟังในแบบที่ทำให้ตัวเองดูดี หัวใจของเขาเต้นรัวเร็ว เขารู้สึกได้ถึงอาการวาบร้อนในอกเมื่อมองไปยังแผ่นหลังของอนาคินที่ให้ความรู้สึกพึ่งพาได้ในแบบที่เขาแทบไม่เคยได้รับจากใคร

ไม่สิ เขาไม่เคยได้รับจากใครเลยต่างหาก

เขาเห็นพี่ชายที่ยังคงยืนอยู่ข้างๆ ประตูห้องทำงานมีสีหน้าเกรี้ยวกราดสุดขีดที่เขาไม่ค่อยได้เห็นมันนัก นนท์สกุลก็เป็นที่พึ่งพาให้กับเขามาตั้งแต่เด็กๆ เช่นกัน แต่มันเป็นความรู้สึกที่ต่างออกไปจากที่เขาได้รับจากชายหนุ่มตรงหน้าเขา

มันคือความอุ่นใจ

ตึก

นาวาฬรู้สึกได้ถึงชีพจรของอนาคินที่เต้นแผ่วๆ ผ่านปลายนิ้วที่ยังคงกุมมือเขาไว้ เหมือนร่างกายทั้งสองจะสื่อสารกันเองได้ ชีพจรของเขาเองนั้นก็ค่อยๆ เริ่มเต้นที่ปลายนิ้วของเขาเองเช่นกัน

“พี่คินต้องฟังชิชาก่อนนะคะ—“

“ผมไม่ฟัง” เสียงของอนาคินแม้จะเรียบนิ่งแต่ก็ห้าวอย่างน่ากลัวในแบบที่นาวาฬไม่เคยได้ยินมาก่อน “คุณเข้ามาในที่ของผมทั้งๆ ที่เลขาของผมบอกกล่าวมาก่อนแล้วว่าผมไม่อนุญาต ผมคงต้องขอให้คุณออกไป”

“พี่คินนี่เข้าข้างเลขาจังเลยนะคะ”

เสียงของชิชาเต็มไปด้วยสำเนียงประชดประชัน นาวาฬหลับตา หัวใจเต้นโครมคราม เขาไม่แน่ใจว่าตัวเองคาดหวังให้อนาคินตอบว่าอะไร แต่ที่แน่ๆ ประโยคต่อไปของอนาคินทำให้เขาต้องกลั้นหายใจ

“นาวาฬไม่ใช่แค่เลขาของผม”

“.....”

“เขาเป็นน้องของผม เป็นเพื่อนของผม”

“.....”

“มากไปกว่านั้น เขาเป็นคนสำคัญของผม”

“.....”

“ผมต้องเลือกคนสำคัญของผมมากกว่าคนนอกอย่างคุณอยู่แล้วครับชิชา ทิตา เชิญคุณชิชาออกไป”

ตึก

ทุกอย่างในห้องตกอยู่ในความเงียบงันเมื่ออนาคินพูดจบ นาวาฬนิ่งอึ้ง หัวใจของเขาค่อยๆ สงบลง ก่อนจะค่อยๆ เต้นประสานกับชีพจรแผ่วๆ ที่ปลายนิ้วของชายหนุ่มที่ยังคงกุมมือเขาไว้อยู่ เขาหลับตา ความคิดที่เขาพยายามปกปิดไว้แสนนานระเบิดในสมองของเขาเหมือนดอกไม้ไฟที่พุ่งขึ้นไปในห้องฟ้าอันนิ่งสนิทยามเที่ยงคืน

เรารักโคล

นาวาฬยืนตะลึงกับความคิดตัวเองที่ดังซ้ำๆ ในหัวเหมือนจะตอกย้ำความจริงที่เขาพยายามปฏิเสธตัวเองมาตลอด

เรายังรักโคลอยู่

เขาทรุดตัวลงกับพื้น แขนขาอ่อนแรงเหมือนเพิ่งวิ่งมาราธอนมา อนาคินหันมาทางเขาทันที ใบหน้าหล่อเหลานั้นมีความเป็นกังวลเจืออยู่ เขาคุกเข่าลงนั่งในระดับเดียวกับนาวาฬที่ตัวสั่น

“เป็นไรไหม—“

“ป—เปล่า—-“

นาวาฬขยับตัวหนีอย่างไม่ตั้งใจ ผิวหนังส่วนที่ปลายนิ้วของอนาคินแตะอยู่นั้นร้อนผ่าว เขารู้สึกถึงเลือดที่สูบฉีดขึ้นหน้า และรู้ได้ทันทีว่าตอนนี้ใบหน้าของเขานั้นแดงขนาดไหน เขาก้มลงซ่อนใบหน้าไว้ในฝ่ามือตัวเอง ภาวนาให้ไม่มีใครเห็นมัน

เขารักโคลอยู่ รักมาตลอด และไม่เคยหยุดรัก




ออฟไลน์ pxxhun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องวาฬจะทำไงต่อไปลูก :monkeysad:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
วาฬ มีอารมณ์ควันออกหูเลย

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ taku_kimu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
อ่านรวดเดียวจบเลย สนุกมากๆ คับ ติดตามอ่านอยู่นะคับ  :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
แงงง ใจดีกับน้องเยอะๆนะ น้องต้องเรียนรู้อีกเยอะ

ออฟไลน์ pxxhun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มาต่อไวๆนะคะ คิดถึงน้อนแล้วว

ออฟไลน์ ddanav

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-1
    • instagram
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

ออฟไลน์ ddanav

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-1
    • instagram
Don't leave me, loving you
If you're out of this when I'm all in, I need a warning


LMLY - Jackson Wang


15th drift - New normal

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นล้วนเป็นภาพเบลอสำหรับนาวาฬ

“ผู้หญิงเหี้ยอะไรร้ายชิบหาย” นนท์สกุลบ่น เกาศีรษะแกรกๆ เมื่อได้ยินเรื่องราวทั้งหมดจากปากของเพื่อนที่นอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟา

ชายหนุ่มคนที่สองยิ้มค่อยๆ แม้ดวงตาจะไม่ยิ้มตาม กลับกัน มันกลับเจือไปด้วยความเกรี้ยวกราดอันแปลกตาสำหรับคนอีกสองคนที่อยู่ในห้องเดียวกัน แม้ว่าคนหนึ่งในนั้นจะเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมาเป็นสิบปีอย่างนนท์สกุลก็ตาม

“แล้ววาฬไปพูดอะไร เค้าถึงโกรธขนาดนี้”

ผู้เป็นน้องชายส่ายหัวดิก พยายามไม่หันไปมองอนาคินที่กำลังแผ่รังสีน่ากลัวออกมาเต็มห้องทำงานของตัวเอง เขาสะดุ้งนิดๆ เมื่ออนาคินพูดขึ้นเหมือนตัดบท

“เดี๋ยวกูจัดการเรื่องนี้เอง ขอโทษที่แม่งต้องมีเรื่องวุ่นวาย”

นนท์สกุลหัวเราะ โบกมือปัดอย่างไม่สนใจ ก่อนจะบุ้ยใบ้ไปที่นาวาฬ

“นู่น คนที่มึงควรจะขอโทษอยู่นู่น”

อนาคินยันตัวขึ้นมองดูนาวาฬที่ยืนอยู่ข้างๆ ประตู สายตาอ่อนลงจนเป็นที่สังเกตได้ เขากลับไปใช้เสียงนุ่มๆ เหมือนอย่างเคยเมื่อพูดกับคนตรงหน้าเขา

“ผมขอโทษนะคุณ”

ตึก

วาฬรู้แล้วว่าหัวใจเต้นแบบนี้มันคืออะไร เขาก้มหน้าลงมองเท้าตัวเองก่อนจะพึมพำออกมาเบาๆ

“ก็ไม่ได้ผิดอะไรนี่ครับ”

“น้องกูใจดีชิบหาย ถ้าเป็นกูนี่กูคงต้องขอกระทืบตีนมึงซักที” นนท์สกุลหัวเราะ “สัสเกือบโดนผู้หญิงบ้าตบในออฟฟิศเพราะเจ้านายสุดหล่ออย่างคุณอนาคิน แม่งอย่างกะนิยาย”

“….”

“มึงเห็นกูขำแบบนี้นะ แต่ถ้ามีคราวหน้าอีก กูจะกระทืบตีนมึงแทนน้องกูเอง”

ท่าทางของผู้เป็นพี่ชายเปลี่ยนไปเป็นจริงจังอย่างกระทันหัน คิ้วที่ขมวดแน่น สายตาที่จ้องเขม็งไปยังเพื่อนสนิทที่กลับไปนอนเหยียดยาวบนโซฟาอย่างไม่ทุกข์ร้อน เสียงที่เข้มขึ้นแม้จะไม่ดัง นาวาฬแอบตกใจเล็กๆ เขาไม่ค่อยได้เห็นนนท์สกุลในมุมพี่ชายผู้ปกป้องน้องเท่าไหร่นัก แต่ดูเหมือนอนาคินจะไม่ได้คิดเช่นนั้น

“มีอีกมึงเล่นกูได้เลย”

ทำไมต้องพูดเหมือนตัวเองผิดวะโคล นาวาฬกรีดร้องในใจ ใช่ อนาคินกำลังพูดเหมือนตัวเองผิด ทั้งๆ ที่คนที่กีดกันไม่ให้ชิชาเข้ามาเจออนาคินก็เขาเองนั่นแหละ ชิชาจะโกรธกึไม่เห็นแปลก

ถ้าจะมีใครผิด ก็คงเป็นเขาเองที่หวงก้าง และชิชาที่คุมอารมณ์ตัวเองไม่เป็น

ไม่ว่าจะในกรณีไหน คนผิดไม่ใช่อนาคินแน่นอน

“โคลไม่ได้ผิด วาฬผิดเองแหละพี่นนท์”

เขาโพล่งออกไปก่อนที่จะทันได้คิด ชายหนุ่มรุ่นพี่ทั้งสองหันมามองทางเขาพร้อมกันเหมือนจะรอฟังว่าเขากำลังจะพูดว่าอะไร นาวาฬถอนใจก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องช้าๆ ตั้งแต่แรก เขาเล่าย้ำว่าอนาคินไม่ได้รู้เรื่องอะไร เขาเองแหละที่เป็นคน ‘ลืม’ เอาเอกสารนั้นไปให้ผู้เป็นเจ้านายดู เขาเล่าข้ามการสนทนาทางโทรศัพท์กับชิชาเมื่อวานไป รวมถึงการที่อนาคินพาเขานั่งรถไปเพื่อไปคุยกับผู้เป็นมารดาด้วยตนเองเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาเล่าบทสนทนาของเขากับชิชาก่อนหน้าที่อนาคินและนนท์สกุลจะโผล่เข้ามา แม้ว่าจะเปลี่ยนแปลงประโยคคำพูดไปนิดหน่อย (“คุณอนาคินไม่รู้จักคุณด้วยซ้ำ” แทนที่จะเป็น “อย่างน้อยเขาก็รับสายผมนะครับ”) แน่นอนว่าเขากระโดดข้ามคำพูดที่เกี่ยวข้องกับเพศที่สามไปทั้งหมด เรื่องนั้นทั้งอนาคินและนนท์สกุลไม่จำเป็นต้องรู้

ที่จริง อนาคินต่างหากที่ไม่จำเป็นต้องรู้

ยิ่งเล่า เขายิ่งรู้สึกโง่ เป็นไปได้อย่างไรกันที่ตลอดระยะเวลาเกือบสองเดือนที่ผ่านมาเขาจะไม่รู้ตัวว่าเขารักอนาคิน มันไม่มีคนธรรมดาที่ไหนหรอกที่หัวใจเต้นให้กันเกือบทุกครั้งที่อีกฝ่ายเข้ามาใกล้ ไม่มีคนรู้จักที่ไหนหรอกจะกีดกันผู้หญิงไม่ให้เข้ามาในชีวิตอีกฝ่าย ไม่มีลูกน้องที่ไหนหรอกที่จะด่วนสรุปว่าผู้หญิงกับเด็กที่เข้ามาจะเป็นแฟนเก่าลูกติดของผู้เปึนเจ้านาย ไม่มีเพื่อนที่ไหนหรอกที่จินตนาการไปว่าริมฝีปากของเพื่อนอีกคนเป็นรสชาติเป็นอย่างไรถ้าได้ลิ้มรสมัน

ไม่มีหรอก ยังไงก็ไม่มี

“สรุป คนของเราก็กวนตีน” นนท์สกุลพูดขึ้นเมื่อฟังจบ

“ก็ชิชามาไร้มารยาทใส่วาฬก่อน”

“ไม่ใช่ข้ออ้าง วาฬอยู่ที่นี่ ทำงานให้ไอ้คิน เป็นตัวแทนของมัน ต่อให้ฝ่ายนั้นเค้าจะมาหยาบใส่ยังไง หน้าที่ของวาฬมีแค่รายงานให้ไอ้คินรับรู้ ไม่ใช่ไปพูดกลับ” นนท์สกุลพูดเสียงดุ นาวาฬอ้าปากจะเถียงแต่ก็โดนผู้เป็นพี่ชายพูดต่อแบบตั้งใจขัดอีกรอบ “แล้วเรื่องทั้งหมดมันจะไม่เกิดถ้าเราไม่ลืมเอาเอกสารชุดนั้นให้ไอ้คินมันดู”

“วาฬแค่เห็นว่ามันไม่มีอะไร—“

“ไม่ใช่หน้าที่เราที่จะตัดสินว่ามันไม่มีอะไร นั่นหน้าที่ไอ้คิน” นนท์สกุลกำลังอยู่ในโหมดพี่สอนน้องที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อย “พี่จะพยายามคิดนะว่าเป็นเพราะเรายังเรียนอยู่ ยังคิดว่าโลกหมุนรอบตัวเองอยู่ แต่พฤติกรรมอย่างนี้มันมีผลเสียมากกว่าแค่เค้าไร้มารยาทมาเราต้องไร้มารยาทกลับวาฬ”

“….”

“จริงๆ พี่ไม่ควรปล่อยให้เรามาทำตำแหน่งนี้ด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้คินเสนอ”

โคล … อะไรนะ

“นี่มหาลัยจะเปิดเมื่อไหร่”

“อีกสองอาทิตย์ครับ”

“งั้นสองอาทิตย์นี้ไม่ต้องทำงานแล้ว ไอ้คิน เดี๋ยวระหว่างหาคนใหม่ กูจะให้กวางช่วยดูงานฝั่งมึงไปพลางๆ ละกัน” นนท์สกุลสรุป ก่อนจะก้มลงดูนาฬิกา “อีกสิบห้านาทีมีประชุมลูกความรายทางด่วน ไปกันเลยมั้ย”

“แต่พี่นนท์—-“

นาวาฬร้องประท้วง ก่อนจะปล่อยให้คำพูดถูกกลืนหายเข้าไปในคอของตัวเอง เขาไม่มีอะไรจะเถียงคำพูดของพี่ชายที่ถูกต้องทุกอย่าง เขารู้ดีว่าสิ่งที่เขาทำมันไม่มีเหตุผลและเด็กน้อยแค่ไหน เขาลืมคิดไปถึงอนาคินในสถานะหุ้นส่วนบริษัท ในสถานะนักกฎหมายชั้นนำของประเทศ เพราะในสายตาของเขา อนาคินก็คือโคลที่ใจดีกับเขาเสมอมา โคลที่เขาแอบอยากให้สนใจแค่เขาเพียงคนเดียว

“จะเถียงพี่อะไรอีก”

“…ไม่ก็ได้”

“ดีแล้ว ไอ้คินไปกัน”

นนท์สกุลเดินออกจากห้อง อนาคินที่เงียบมาโดยตลอดลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปที่กระจกเพื่อจัดผม นาวาฬแอบมองแผ่นหลังของผู้เป็นอดีตเจ้านายด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ประดังเข้ามาจนบอกไม่ถูก

พออยากทำต่อเสือกโดนให้ออก …

“ช่วยผมจัดไทค์หน่อยนะคุณ”

อนาคินส่งเสียงเรียกมาจากหน้ากระจก นาวาฬหลุดออกจากภวังค์ เขาเดินเข้าไปหาชายหนุ่มอย่างว่าง่ายไม่เหมือนทุกทีที่จะต้องมีการบ่นตามมา มือที่สั่นระริกค่อยๆ จัดไทค์ให้คนข้างหน้าตามที่ถูกขออย่างเชื่องช้า เขาหลับตาเมื่อรู้สึกได้ถึงลมหายใจของคนตัวสูงกว่าที่ระอยู่บนผมของตัวเองอย่างแผ่วเบา

อยากอยู่อย่างนี้ไปนานๆ

แต่มันคงไม่มีอีกแล้ว

“ขอบคุณครับ” อนาคินยิ้มให้เขา สูทตัวสวยถูกสะบัดขึ้นพาดบ่าก่อนที่เขาจะก้าวเท้าไปทางประตู นาวาฬก้มหน้าหงุด พยายามผลักความรู้สึกในใจให้จมสงบนิ่งอยู่ที่ก้นใจอย่างที่เคยเป็น

สัมผัสอุ่นๆ ที่เส้นผมทำให้เขาเงยหน้าขึ้นอย่างแปลกใจ อนาคินเดินกลับมาหยุดตรงหน้าเขา ฝ่ามือใหญ่นั้นขึ้นลูบศีรษะเขาเบาๆ อย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะเปลี่ยนไปเล่นกับปลายผมยาวสีดำสนิทของเขาแทนด้วยความอ่อนโยนไม่แพ้กัน ดวงตาสีเขียวหม่นนั้นดูปลอบโยน ไม่มีแววล้อเล้นอยู่เหมือนทุกที ริมฝีปากมีรอยยิ้มบางๆ แปลกตาประดับไว้อยู่

นาวาฬหลบสายตาคนข้างหน้า เขาไม่โวยวายให้หยุดเหมือนทุกครั้ง กลับกัน เขาภาวนาในใจให้นาทีนี้ถูกยืดออกไปนานๆ

แต่ดูเหมือนอนาคินจะไม่ได้คิดเช่นเดียวกับเขา

“ลาก่อนครับ”

ร่างสูงส่งยิ้มให้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะสาวเท้าเร็วๆ และเดินลับออกไปจากห้อง นาวาฬยืนนิ่ง เขาซบใบหน้าลงกับฝ่ามือของตัวเองเป็นครั้งที่สองของวัน

มันไม่ใช่คำว่า “เจอกันพรุ่งนี้นะครับ” หรือ “ไว้เจอกันครับ” เหมือนทุกที คราวนี้ มันคือ “ลาก่อน”

จบแล้วสินะ วาฬคิดในใจ

จบทั้งๆ ที่เพิ่งเริ่มอีกแล้ว เหมือนสี่ปีที่แล้วไม่มีผิด


…………….


เรือยอร์ชสีขาวจอดอยู่ในน่านน้ำทะเลอันดามันสีครามกลางแดดอันร้อนแรงของเวลาบ่ายสามโมง คันเบ็ดสามคันถูกหย่อนไว้ข้างเรือ ชายหนุ่มเจ้าของคันเบ็ดทั้งสามกำลังพูดคุยกันอย่างออกรสท่ามกลางขวดเบียร์และแก้วไวน์ที่วางเกลื่อน กล่องใส่ปลาที่วางอยู่ตรงกลางเรือนั้นมีปลาทะเลอยู่ในจำนวนที่บ่งบอกว่าพวกเขาออกทะเลกันมาตั้งแต่เช้า

อนาคินไม่ได้ร่วมตกปลากับเพื่อนๆ กลับกัน เขานั่งอยู่บนเก้าอี้เอนใต้ร่มสีขาวคันใหญ่ ดวงตาคู่สวยจับจ้องไปยังหนังสือภาษาอังฤษเล่มบางที่วางอยู่บนตักผ่านแว่นกันแดดสีเทา ในอ้อมแขนมีลูกชายตัวน้อยของนนท์สกุลที่นอนขดตัวหลับตาพริ้ม หลับสนิทด้วยความเหนื่อยจากการเดินทางตั้งแต่เช้าตรู่ที่ไม่ได้มีการวางแผนไว้ก่อน

ไม่มีใครวางแผนที่จะมาทะเลใต้สองวันหนึ่งคืนในสุดสัปดาห์คราวนี้จริงๆ อนาคินแค่รับสายเบญจมินทร์ที่โทรมาก่อนเขาเข้านอนเมื่อคืนเพื่อที่จะได้ยินเพื่อนสนิทชวนไปทะเลในวันถัดไป เท่าที่เขาจับใจความจากเสียงเมาๆ ของเพื่อน สาเหตุของทริปครั้งนี้มีเพียงแค่เบญจมินทร์ที่จู่ๆ ก็อยากกินซาซิมิสดๆ ขึ้นมากระทันหัน แค่นั้นเขาก็เออออตามและจองตั๋วเครื่องบินสำหรับตีห้าของวันรุ่งขึ้นทันที

และแน่นอนว่านนท์สกุลเก็บเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวานมาเล่าให้เพื่อนที่เหลือฟังต่อหน้าอย่างออกรส

“ร้ายสัส” จุนน์พูดขึ้นทันทีเมื่อฟังเรื่องราวทั้งหมดจบ “ร้ายอย่างนี้สวยแน่เลย”

“มึงสนใจแค่นั้นหรอวะ แม่งเกือบเล่นน้องกูนะเว้ย”

“ให้น้องวาฬโดนตบแปะๆ ซักสองสามทีไม่เป็นไรหรอกหน่า ถือว่าใช้กรรมทำผู้หญิงไว้เยอะ โอ๊ย!” จุนน์อ้าปากหาวก่อนจะร้องเมื่อเจอนนท์สกุลตบศีรษะฉาดใหญ่

“ไม่มีใครทำน้องกูได้เว้ย! กูทำแม่งได้คนเดียว”

“เออๆ กูยอม แม่มึงชอบคนนี้หรอวะไอ้คิน”

“อืมมม” ชายหนุ่มเจ้าของชื่อลากเสียงยาว ใช้นิ้วเรียวพลิกหน้ากระดาษของหนังสือในมือไปด้วยอย่างไม่สนใจ เบญจมินทร์ขมวดคิ้ว

“ทำไมวาฬไม่เล่าให้กูฟังวะ ปกติต้องวิ่งมาโวยวายให้กูฟังแล้ว”

“มึงเป็นผัวน้องวาฬกูหรอน้องวาฬถึงต้องมารายงานมึงทุกเรื่องเนี้ย โอ๊ยไอ้เหี้ยนนท์เห็นหัวกูเป็นไรวะ!” จุนน์หันไปโวยวายนนท์สกุลที่ตบศีรษะเขาฉาดใหญ่อีกครั้ง

“น้องกูไม่มีผัวเว้ย! ถ้าเสือกจะมีแม่งก็ต้องไม่ใช่ใครในพวกมึง”

“ไอ้เบนแม่งก็เหมือนผัวของพวกมึงพี่น้องทั้งคู่อะละ สัสนนท์ถ้ามึงตบกูอีกทีกูตบคืนละนะ” จุนน์หันไปขู่แกมหัวเราะใส่เพื่อนที่เงื้อมือขึ้นอีกครั้ง นนท์สกุลได้แต่แยกเขี้ยวใส่เพราะรู้ถึงรสมือเพื่อนมือหนักคนนี้ดี ก่อนจะพูดต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเบญจมินทร์ที่เหมือนจะไม่ได้ฟังอะไรที่จุนน์พูดเลย

“ผู้หญิงในกระดาษที่วาฬทำหล่นวันนั้นอะละ ที่ชื่อชิชา ลูกสาว SP Shipping”

“แม่มึงชอบคนนี้จริงๆ หรอวะไอ้คิน” เบญจมินทร์ถามซ้ำกับอนาคินที่พยักหน้าเบาๆ อย่างไม่สนใจตามเคย กลับกันกับจุนน์ที่มีท่าทีตื่นเต้นขึ้นมาทันที

“มึงไปรู้อะไรมา”

“กูเห็นชื่อวันก่อนเลยให้คนของพี่กูไปสืบมานิดหน่อย”

“อย่าบอกนะว่าเป็นคู่ค้าบ้านมึงไรงี้” เป็นที่รู้กันดีในหมู่เพื่อนว่าครอบครัวของเบญจมินทร์เป็นผู้มีอิทธิพลถึงขั้นเจ้าพ่อรายใหญ่ของประเทศ ประกอบธุรกิจสีเทาเกือบดำ เพียงแต่มีพี่ชายที่อายุห่างกันถึงเกือบยี่สิบปีของเขาเป็นคนบริหารอยู่หลังจากที่ผู้เป็นบิดาวางมือไป ทำให้เบญจมินทร์สามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกติโดยไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจผิดกฎหมายที่เขาเกลียดชังมาตลอดชีวิตนั้นได้ นานๆ ทีเส้นสายทางมืดของเขาจะได้ถูกใช้สักที ส่วนใหญ่มักจะเป็นเรื่องไร้สาระทั่วๆ ไป อย่างเช่นเรื่องนี้เป็นต้น

“เปล่า แค่เคยติดยาช่วงเรียนอยู่เมกา เลยโดนเรียกตัวกลับไทย แล้วพ่อแม่แม่งคงคิดว่าจับแต่งงานจบๆ เรื่องไปก็ดีเลยหวยมาลงที่ไอ้คิน”

นนท์สกุลหัวเราะ “สงสัยที่บ้านมันไม่รู้เรื่องไอ้คินKไม่แข็ง”

เสียงหัวเราะก๊ากอย่างกลั้นไม่อยู่จากเพื่อนอีกสองคนดังเต็มเรือ จุนน์และนนท์สกุลหัวเราะจนตัวโยนในขณะที่เบญจมินทร์ตบต้นขาตัวเองรัวๆ อนาคินยังคงนั่งอ่านหนังสือนิ่งอย่างไม่คิดจะต่อกรกับเพื่อนๆ ที่เหมือนจะเห็นว่าประโยคนั้นตลกขบขันเสียเหลือเกิน

“คินมึงจะไม่เถียงอะไรเลยหรอวะไอ้ห่า” เบญจมินทร์เช็ดน้ำตาจากการหัวเราะป้อยๆ อนาคินส่ายศีรษะ

“ไม่”

“พวกกูแซวมึงเรื่องนี้ทุกวัน จะไม่ไปหาหมอหน่อยหรอวะ เดี๋ยวกูหาหมอดีๆ ให้”

“ไม่จำเป็น”

เรื่องนี้เป็นปริศนาสำหรับเพื่อนๆ คนอื่นเสมอเมื่อจู่ๆ วันหนึ่ง อนาคินที่มีชีวิตทางเพศเหมือนคนปกติ (ในมาตรฐานของกลุ่ม) ทั่วไป หิ้วผู้หญิงกลับมาจากผับบ้าง เดทผู้หญิงประปรายแต่ไม่เคยยืนยาวบ้าง hook up กับผู้หญิงที่ถูกใจบ้าง ประกาศขึ้นท่ามกลางวงเหล้า (แน่นอนว่าหลังเที่ยงคืน) ต่อหน้าเพื่อนทุกคนว่าเขาไม่มีอารมณ์ทางเพศกับใครเลยมาเป็นปีแล้ว

“มึงหมายความว่าไง ไม่เงี่ยน?” เบญจมินทร์ถามย้ำเมื่อได้ยินคำประกาศของเพื่อน

“เออ”

“ไม่เงี่ยนหรือมึงไม่แข็ง”

“ทั้งสองอย่าง”

เหมือนติดกับ ตั้งแต่วันนั้น อนาคินโดนเพื่อนขุดเรื่องนี้ขึ้นมาล้อเสมอจนเป็นที่เคยชิน แต่ทุกคนก็ห่วงเขา เรื่องการไปหาทางเยียวยารักษาเป็นสิ่งที่ถูกนำมาพูดถึงเสมอแต่ก็เจอชายหนุ่มปฏิเสธกลับไปทุกครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นกัน

“หมายความว่าอะไรไม่จำเป็น มันจะสี่ปีแล้วนะเว้ย!”

“กูไม่เดือดร้อน”

“มันคือไงนะ มึงไม่เงี่ยนกับใครเลย?”

“เออ”

“แล้วมันแข็งปะวะ แบบ ตอนเช้าไรงี้”

“เออ”

“แค่ไม่เงี่ยนกับคน?”

“เออออ”

“ก็น่าจะเป็นเรื่องทางจิตแล้วปะวะ เดี๋ยวกูนัดจิตแพทย์ให้” จุนน์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แต่ก็โดนกระป๋องเบียร์เปล่าที่ถูกอนาคินขว้างใส่กระแทกเข้าเสียก่อน

“ขอบใจแต่ไม่จำเป็น”

“มึงก็บอกงี้ทุกที เอางี้ เดี๋ยวกูเป็นจิตแพทย์ให้ มึงหลับตา” จุนน์กระโดดเข้ามานั่งคุกเข่าประจันหน้ากับเพื่อนสนิทที่มีสีหน้าเบื่อหน่ายแต่ก็ยอมทำตาม อนาคินอุ้มลัลที่ยังคงหลับสนิทขึ้นส่งให้เบญจมินทร์ก่อนจะหลับตาตามที่โดนจุนน์สั่ง

“คุณอนาคินเงี่ยนกับใครก็ตามครั้งสุดท้ายตอนไหนครับ บอกหมอหน่อย” จุนน์ดัดเสียงต่ำๆ เหมือนจิตแพทย์แก่ๆ ในหนังที่เห็นกันเป็นประจำ อนาคินถอนใจยาวท่ามกลางเสียงหัวเราะคิกคักของผู้สังเกตการณ์อีกสองคนแต่ก็ตอบแต่โดยดี

“สี่ปีที่แล้ว”

“เหตุการณ์มันเป็นยังไงครับ”

“มีคนมานอนช่วยตัวเองอยู่ข้างๆ ผม”

จุนน์และนนท์สกุลกลั้นหัวเราะ ไม่มีใครทันสังเกตสีหน้าของเบญจมินทร์ที่เปลี่ยนไปเป็นครุ่นคิดเมื่อได้ยินประโยคนั้นจากปากเพื่อน

“เงี่ยนมากไหมครับตอนนั้น”

“มาก”

“แล้วคุณทำอย่างไรครับ ได้กันรึเปล่า”

“เปล่า”

“อ้าว ทำไมละครับ เค้าอุส่าห์มานอนอยู่ข้างๆ คุณนะ”

“ผมไม่ได้อยากจะได้เขาแบบนั้นอยู่แล้ว คนบางคนก็สำคัญมากกว่าที่จะไปทำเรื่องอย่างนั้นด้วยแค่เพราะอารมณ์ตอนนั้น”

“เดี๋ยว มึงชอบคนนั้น?” เบญจมินทร์ขัด อนาคินยักไหล่

“เหี้ย สรุปว่ามึงKไม่แข็งเพราะมึงอกหักหรอ!” จุนน์กระโดดตัวขึ้นยืนอย่างตื่นเต้น นนท์สกุลอ้าปากค้างเช่นกัน นี่เป็นข้อมูลใหม่สำหรับพวกเขา แม้ว่ามันจะเป็นข้อมูลที่อนาคินกำลังทำท่าโบกมืออย่างไม่สนใจใส่อยู่ก็ตาม

“กูไม่ได้พูด—“

“สายไปแล้วครับคุณเพื่อน!” จุนน์ตบบ่าเพื่อนร่างสูงดังอัก ไม่ต่างจากนนท์สกุลที่กำลังร่วมผสมโรงฝ่ามืออยู่ด้วยความตื่นเต้นเช่นกัน “มึงเตรียมเจอพวกกูสัมภาษณ์ได้เลย ไอ้ห่าเรื่องมีแค่นี้ทำไมไม่บอกพวกกู”

อนาคินถอนหายใจอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะกลับไปอ่านหนังสือ ไม่สนใจคำสัมภาษณ์ที่พรั่งพรูออกมาจากปากของเพื่อนอีกสองคนที่อยากรู้เต็มที เบญจมินทร์ถอยออกมาจากเสียงเอะอะที่เกิดขึ้นข้างหน้า แกว่งลัลตัวน้อยในอ้อมแขนเบาๆ ดวงตาสีดำขลับมีแววครุ่นคิด


………….
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-05-2021 22:03:20 โดย ddanav »

ออฟไลน์ ddanav

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-1
    • instagram
“กูไปอาบน้ำนะ”

“เออ”

ปรินเดินเข้าห้องน้ำไป ทิ้งนาวาฬให้นอนกลิ้งอยู่ที่โซฟาหน้าทีวีในห้องนั่งเล่นของเพื่อนสนิท ในอ้อมกอดมีโทระกับพีช แมวสีดำและส้มของปรินนอนขดเต็มอ้อมแขนอยู่ เขาหัวเราะเบาๆ เมื่อพีชใช้ลิ้นสากๆ เสียคางของเขาจนจั๊กจี้

สำหรับเขาแล้ว แมวเป็นโบนัสของการมาห้องปรินเสมอ

ความฟุ้งซ่านทำให้เขามานั่งที่ห้องปรินตั้งแต่เช้า เช้าขนาดที่เจ้าของห้องยังลืมตาตื่นไม่ได้เต็มที่เสียด้วยซ้ำ พวกเขานั่งๆ นอนๆ ดูหนัง เล่นเกมส์ สั่งพิซซ่ามากินเหมือนเด็กมัธยมปลาย วาฬนอนเล่นกับแมวทั้งวัน หูก็ฟังปรินที่ยังคงเซ็งเรื่องฟาร์บ่นไม่หยุด

“ทำไมมันไม่โทรหากูวะ”

“แล้วทำไมมึงไม่โทรหามันก่อนล่ะ”

“มึงจะให้กูโทรไปฟังมันบอกหรอว่ามันอยู่บ้านเดียวกับพี่จุนน์อะ กูแค่อยากคุยกับมัน กูไม่อยากรู้ว่ามันได้กับพี่จุนน์ท่าไหนมาบ้างแล้ว”

วาฬทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับรีรักอย่างดี เขาไม่ได้บอกปรินเรื่องว่าคนที่พวกเขาเห็นในวันนั้นอาจจะเป็นเมษา แต่เล่าเรื่องที่ฟาร์ย้ายออกจากคอนโดของรีรักทันทีที่เหยียบเข้าห้องของเพื่อนมา

“ถ้าให้มันโทรหามึงก่อนมันก็บอกได้เว้ย! เรื่องแบบนั้นไม่เห็นเกี่ยวเลยว่าใครโทรหาใครก่อน”

“ไม่ กูไม่อยากแพ้”

“นี่มึงยังไม่แพ้อีกหรอวะ มึงนั่งเซ็งแบบนี้ก็เหมือนแพ้แล้วปะ”

เหมือนคำพูดของนาวาฬจะแทงใจเพื่อนสนิทเข้าอย่างจัง ปรินสูดจมูกก่อนจะพูดเสียงอู้อี้

“เอาจริงๆ กูแค่อยากรู้ว่ามันแคร์กูในสถานะอะไรก็ตามบ้างมั้ย ถ้ามันแคร์ มันต้องโทรหากูดิ ใช่มะ”

วาฬเงียบ

เขาปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาเข้าใจดีว่าปรินรู้สึกยังไงในตอนนี้ เมื่อวานหลังจากที่กลับจากออฟฟิศ เขาใช้เวลาเกือบทั้งคืนไปกับการจ้องโทรศัพท์ แอบคาดหวังให้อนาคินโทรมาหาสักครั้งด้วยเรื่องอะไรก็ตามแต่ ขอแค่ข้อความไลน์ข้อความนึงเป็นเครื่องยืนยันก็ได้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะไม่หยุดอยู่เพียงแค่เขาลาออก

โอเค เขาเป็นคนบอกอนาคินเองจากปากในวันแรกที่ทำงานด้วยกันว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นแค่ความสัมพันธ์ฉันเจ้านายกับลูกน้อง ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นแม้แต่คำว่าเพื่อน และที่ผ่านมาอนาคินก็ยอมทำตามและไม่เคยทำอะไรที่มันมากไปกว่านั้น แต่ตอนนี้ล่ะ? วาฬไม่อยากให้มันจบเพียงเท่านี้ เป็นเพี่อนกันก็ได้ อะไรก็ได้ที่ทำให้เขายังอยู่ในชีวิตของอีกฝ่ายในทางใดทางหนึ่ง แต่ดูจากการที่ไม่มีการติดต่อจากอนาคินเลยตั้งแต่ที่เขาเดินออกจากห้องทำงานตอนนั้น วาฬก็ต้องยอมรับกับตัวเองว่าเขาคงคาดหวังมากไปจากอนาคินที่ตัวเขาเองทำท่ากีดกันความสัมพันธ์ตลอดมานับตั้งแต่ที่กลับมาเจอกันครั้งแรกเมื่อเกือบสองเดือนก่อน

และแน่นอนว่านาวาฬและปรินสนิทกันได้เพราะนิสัยหลายๆ อย่างที่คล้ายกัน หนึ่งในนั้นคือความไม่กล้าเรื่องความรักเหมือนในตอนนี้

นาวาฬถอนใจก่อนจะกลับไปเล่นกับแมวของเพื่อนตามเดิมเป็นการฆ่าเวลารอปรินอาบน้ำเพื่อที่พวกเขาจะได้ไปนั่งดูหนังอีกเรื่องกันเป็นเรื่องที่สามของวัน เขากำลังหาวอยู่เมื่อเสียงโทรศัพท์มือถือข้างตัวของเขาดังขึ้นจนเขาต้องสะดุ้ง

anakin

ชื่อผู้โทรเข้ามาทำให้เขาต้องกระโดดลุกขึ้นมานั่งด้วยความตกใจ หัวใจเต้นตึกตักในอกดังลั่นจนก้องเข้ามาในหูของเขาเอง โคลโทรมา นาวาฬกลืนน้ำลาย ก่อนจะกดรับสายด้วยเสียงสั่นๆ

“ค- ครับ”

“ทำอะไรอยู่ครับคุณ”

เสียงนุ่มๆ ของคนปลายสายที่เหมือนไม่ได้ยินมานานแม้ว่าเพิงได้ยินเมื่อวานทำให้นาวาฬส่งยิ้มกว้างออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ เขารีบหุบยิ้มก่อนจะตอบคำเสียงด้วยเสียงที่พยายามทำให้ฟังดูปกติที่สุด

“ไม่ได้ทำอะไร มีอะไรรึเปล่าครับ”

“ต้องมีเรื่องอะไรด้วยหรอผมถึงจะโทรหาคุณได้น่ะ” อนาคินทำเสียงล้อ “ไม่รู้นนท์ได้บอกคุณรึเปล่า ตอนนี้พวกผมอยู่สตูล จะกลับพรุ่งนี้ หลานคุณก็มาด้วยนะ”

นี่เป็นข้อมูลใหม่สำหรับนาวาฬ “ไม่ได้บอกครับ”

“อืม กระทันหันนิดหน่อยน่ะ พอดีพี่เบนของคุณอยากกินซาซิมิเลยลากพวกผมมาด้วย” ชายหนุ่มหัวเราะ “คุณอยากได้อะไรไหม เดี๋ยวผมซื้อกลับไปฝาก”

“คุณจะซื้อให้ผมหรอ” นาวาฬถามกลับอย่างประหลาดใจ

“อ้าว คนไทยไปไหนต้องซื้อของฝากให้กันไม่ใช่หรอครับ”

เมื่อซักยี่สิบปีก่อนน่ะใช่ นาวาฬแอบคิดในใจ บางทีเขาก็ลืมไปเหมือนกันว่าอนาคินไม่ได้เติบโตที่ไทย ธรรมเนียมไทยเลยถือเป็นเรื่องแปลกใหม่ที่อนาคินได้รับมาจากพ่อแม่ที่ก็คงไม่ได้อัปเดทธรรมเนียมใหม่ๆ เช่นเดียวกัน

แต่เขาก็ไม่อยากขัดน้ำใจ

ไม่ใช่หรอก เขาอยากได้ของจากอนาคินต่างหาก เป็นอะไรก็ได้หมดแหละ

“อะไรก็ได้ครับ”

“อย่าอะไรก็ได้สิคุณ บอกมาเลย เดี๋ยวกลับกรุงเทพแล้วไว้ผมเอาไปให้”

ภาคใต้มีของดีอะไรบ้างวะ กูเกิ้ลในมือถือถูกเขาใช้เสิร์ชอย่างรวดเร็ว ที่เขาคิดออกตอนนี้ก็มีผ้าบาติก แต่เขาไม่ชอบผ้านี่นา มันต้องมีอะไรอย่างอื่นอีกสิ

“ขนมปูตูปีริง”

“ปูตูปีริง?” เสียงของอนาคินฟังดูงุนงง “มันคือขนมไรหรอครับ”

กูก็ไม่รู้ว้อยยยยยยย กูเสิร์ชเจออะไรตอนนี้ก็เอาหมดแหละ

“มัน—“

“วาฬ อาบน้ำเสร็จแล้วนะ” ปรินเดินเช็ดผมออกจากห้องน้ำ เขาขมวดคิ้วเมื่อเห็นเพื่อนนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ด้วยท่าทางลับๆ ล่อๆ “คุยกับใครอยู่วะ”

ขัดจังหวะกูตลอดเลยไอ้เหี้ยปริน วาฬคิดในใจอย่างหงุดหงิดก่อนจะโบกมือไล่อย่างไม่ให้เสียง ปรินยิ้มกว้าง ทำปากเป็นคำว่า สาวหรอ ก่อนจะหัวเราะเมื่อนาวาฬไม่ตอบแต่แยกเขี้ยวใส่แทน

“งั้นกูไปรอบนเตียงนะครับที่รัก เสร็จแล้วตามมาล่ะ”

นาวาฬอ้าปากค้างเมื่อได้ยินคำพูดกวนตีนหลุดออกจากปากเพื่อน นี่เป็นมุกเดิมๆ ของปรินที่ทำมาตั้งแต่มอปลาย เขาเคยแม้กระทั่งทำให้นาวาฬต้องเลิกกับแฟนสาวด้วยการแกล้งจูบมาแล้ว เขาปาหมอนอิงใส่เพื่อนที่หัวเราะลั่นไปพร้อมกับวิ่งหลบออกไปจากห้อง ไม่ได้สนใจว่าตัวเองได้ทิ้งระเบิดลูกใหญ่เอาไว้ให้เพื่อน

“เหมือนคุณจะไม่ว่างนะ งั้นแค่นี้ละกันครับ เดี๋ยวผมจะเอาปูตูปีริงไปให้ตอนกลับกรุงเทพแล้วละกัน”

“นั่นปรินครับ มันแค่แกล้งเฉยๆ ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย—“ นาวาฬแก้ตัวอย่างรีบร้อนก่อนจะอยากกัดลิ้นตัวเอง ไม่ได้ชอบผู้ชาย เขาพูดมันออกไปได้อย่างไร หัวใจที่เต้นจะเป็นจะตายอยู่นี่ไม่ใช่เพราะผู้ชายในสายหรอ

“ผมรู้ครับ” อนาคินหัวเราะ “เดี๋ยวผมก็จะไปอาบน้ำเตรียมนอนแล้วเหมือนกัน คนอื่นเขาจะไปผับ ผมเลยต้องพาหลานคุณเข้านอน” แม้จะไม่เห็นหน้า แต่นาวาฬก็สัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนในน้ำเสียงเมื่อคนปลายสายพูดถึงหลานชายของเขา “บายครับ—“

“คุณอนาคินครับ”

นาวาฬพูดขัดออกไปโดยไม่ทันคิด เขายังไม่อยากวางตอนนี้ ต่อให้อนาคินบอกว่าจะมาเจอเขาหลังกลับกรุงเทพแล้วก็เหอะ อะไรบางอย่างที่ติดค้างในใจเขาตั้งแต่เมื่อวานทำให้เขาหลุดพูดขัดออกไปอย่างนั้น

“หืม”

“ขอบคุณนะครับ เรื่องเมื่อวาน”

เขาพูดออกไปแล้ว คำที่เขาอยากพูดมากที่สุดหลังจากเหตุการณ์วุ่นวายที่เป็นผลมาจากเขาและชิชา แต่ไม่มีโอกาสได้พูดเนื่องจากทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในตอนนั้น เอาจริงๆ เขาไม่อยากพูดต่อหน้าด้วย เผื่อไปหน้าแดงต่อหน้าอนาคินแบบนี้จะทำไงล่ะ

“ไม่เป็นไรครับ ผมต้องขอโทษคุณมากกว่าที่ปล่อยให้ใครก็ไม่รู้เข้ามาวุ่นวายกับคุณแบบนั้น”

อนาคินเป็นคนดีเสมอ วาฬรู้ข้อนี้ดี

“ไม่ครับ ผมผิดเองแหละ ที่พี่นนท์พูดมันก็ถูก” เขายอมรับ ก่อนจะพูดต่ออย่างไม่แน่ใจ “ผมขอโทษจริงๆ ครับ”

“ผมไม่ได้คิดว่าคุณผิดเลยนะวาฬ”

“แต่ผมผิดจริงๆ นี่ครับ ไม่รู้จะขอโทษยังไงเลย”

คำพูดต่อมาของอนาคินทำให้นาวาฬแปลกใจ

“ถ้าคุณอยากขอโทษผมจริงๆ ผมขออะไรคุณอย่างหนึ่งได้ไหม”

นี่เป็นสิ่งที่นาวาฬไม่ได้คาดคิดมาก่อน อนาคินอะนะจะมาขออะไรจากเขา? เขานิ่งไปนิดนึง พยายามคิดว่ามีอะไรที่เขาพอจะให้ฝ่ายตรงข้ามได้บ้าง ให้หัวใจผมแทนได้ไหมครับ เสียงล้อเลียนในสมองของดังขึ้น และนั่นทำให้วาฬรู้สึกได้ถึงเลือดที่สูบฉีดขึ้นหน้าได้ไม่น้อย

“ได้ไหมครับ?” อนาคินถามย้ำ นาวาฬสะดุ้งขึ้นจากภวังค์

“ด-ได้ครับ”

“เรียกผมว่าพี่คินได้ยัง”

เสียงแกมหัวเราะของคนปลายสายทำให้นาวาฬนิ่งอึ้ง ใช่สิ เขาไม่เคยเรียกอนาคินว่าพี่เลยตั้งแต่ที่กลับมาเจอกันอีกครั้ง เขายืนยันที่จะเรียกอีกฝ่ายว่าคุณอนาคินมาตลอดเพื่อรักษาความสัมพันธ์ฉันเจ้านายและลูกน้องเอาไว้ แต่ตอนนี้ ตอนที่เขาไม่ได้ทำงานกับอนาคินอีกแล้ว คำเรียกเหล่านั้นก็ดูจะไม่เมคเซนส์อีกต่อไป

“….”

“ว่ายังไงครับ”

เสียงล้อเลียนของอนาคินทำให้นาวาฬแอบย่นจมูกด้วยความหมั่นไส้ ใช่สิ เขาไม่มีข้ออ้างอะไรแล้วนี่นา

แถมนี่จะเป็นการก้าวข้ามคำว่าเจ้านายกับลูกน้องที่เขาเกลียดหนักหนามาสักพักแล้วด้วย

“พี่คิน” เขาเรียกเสียงเบา อนาคินหัวเราะ

“อะไรนะครับ”

“พี่คิน”

“ผมยังไม่ได้ยินเลย คุณเรียกผมว่าอะไรนะ”

“พี่คินครับ!” นาวาฬตะเบ็งเสียง เสียงหัวเราะลั่นของอนาคินดังออกมาตามสาย คนฟังได้แต่ย่นจมูกใส่อีกครั้ง แม้ว่าในใจจะแอบดีใจนิดๆ ก็ตาม

“ดีมาก งั้นพี่ไปแล้วนะครับวาฬ ฝันดีครับ”

สายถูกวางไปแล้ว นาวาฬนั่งถือโทรศัพท์มือถือค้างอยู่อย่างนั้น ในสมองกำลังพยายามประมวณเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

anakin

เขายิ้มน้อยๆ มองชื่อคนที่เพิ่งวางสายไปอีกครั้ง ก่อนจะพิมพ์เปลี่ยนชื่อสายนั้นช้าๆ

p’ kin

อย่างนี้ เรียกว่ากลับมาเป็นเพื่อนกันแล้วได้ไหมนะ?


…….


เสียงประตูห้องพักที่ถูกเปิดออกอย่างกระทันหันทำให้ชายหนุ่มร่างบางที่นอนเล่นอยู่บนเตียงสะดุ้งโหยง เขาหันไปเอ็ดชายหนุ่มผู้เข้ามาใหม่เสียงดังลั่น

“ไอ้เบนเข้ามาทำไมเงียบๆ กูตกใจหมด”

เบญจมินทร์เดินเข้ามาทรุดตัวลงนั่งที่ปลายเตียงของเพื่อนสนิทที่มีท่าทางหงุดหงิดอย่างไม่ทุกข์ร้อน “ไอ้จุนน์กับกูจะออกไปเที่ยวผับ มึงจะไปด้วยมั้ย”

“จะให้กูทิ้งลูกไว้คนเดียวนี่นะ” นนท์สกุลพูดถึงลัลที่นั่งเล่นอยู่กับจุนน์ที่ห้องนั่งเล่น เบญจมินทร์ส่ายศีรษะ

“ไอ้คินมันไม่ไป กูบอกมันให้ช่วยดูลัลเอาลัลเข้านอนไว้ละ”

“เอองั้นกูไป”

นนท์สกุลลุกขึ้นมาควานหาเสื้อผ้าในกระเป๋าเดินทาง ร่างบางที่ไม่ได้ใส่เสื้อดูสว่างเหมือนนีออนในแสงไฟสีส้มสลัวๆ ของห้อง ผมสั้นสีน้ำตาลอ่อนด้านหน้าถูกมัดขึ้นเป็นจุด ทรงเดียวกับลูกชายตัวเองที่ทำเป็นประจำ แว่นตาอันใหญ่ถูกวางไว้ที่ปลายจมูกอย่างหมิ่นแหม่

แม้ว่าพวกเขาจะเป็นพี่น้องกัน แต่นนท์สกุลกับนาวาฬมีสไตล์ที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่ไหนแต่ไรมา นนท์สกุลเป็นคุณชายเจ้าระเบียบที่ทุกอย่างต้องเนี้ยบ เสื้อผ้าไม่รีดไม่ใส่ ตัดสั้นเป็นระเบียบอยู่เสมอ เขามักจะส่งออร่าที่ทำให้คนเกรงใจออกมาอยู่ตลอดเวลา แค่ยิ้มก็พร้อมที่จะมีคนทำตามสิ่งที่เขาต้องการให้ด้วยออร่าเหล่านั้น

แต่ออร่านั้นไม่มีผลเลยกับเบญจมินทร์ที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก

“หัวนมมึงชมพูชิบหาย”

“สัสแล้วมาดูอะไรของกู” นนท์สกุลแกล้งทำท่าเอียงอาย เอามือทั้งสองข้างปิดหน้าอกตัวเองไว้ เบญจมินทร์หัวเราะหึ

“ปิดไปเหอะ กูเห็นจนเบื่อแล้ว”

“พูดงี้คนอื่นได้ยินก็ซวยสิวะ เออใช่ กูว่ากูมีอะไรจะเล่าให้ฟัง” นนท์สกุลใส่เสื้อไปด้วย ปากก็พูดไปด้วย “มึงรู้เปล่าว่าตอนที่ชิชามาบุก ไอ้คินมันเป็นไง”

“เป็นไง”

“มันเดินเข้าไปกระชากแขนชิชาเว้ย ประชากแขนเลยนะ ไม่ใช่แค่กระชากแขนผู้หญิงเพราะมันก็รู้ดีว่า SP Shipping ก็เป็นลูกค้าเราคนนึงด้วย คือกระชากแขนลูกค้าอะละ”

เบญจมินทร์นิ่ง “แล้วไงต่อ”

“ก็ไม่แล้วไงต่อ เออใช่ มีอีกนี่หว่า” นนท์สกุลทำท่านึกขึ้นได้ “มันบอกชิชาว่าอะไรนะ มันบอกว่าวาฬเป็นน้องของมัน เป็นเพี่อนของมัน เป็นคนสำคัญของมัน มันต้องเห็นน้องกูสำคัญกว่าชิชาอยู่แล้ว” เขาทำท่าคิดต่อ “ทำงานด้วยกันแค่เดีอนกว่าแม่งสนิทกับน้องกูขนาดนี้เลยหรอวะ”

“ก็ปกติเปล่าวะ วาฬก็สนิทกับพวกกูอยู่แล้วนิ”

“แม่งรู้จักมึงมาเป็นยี่สิบปี รู้จักไอ้จุนน์อีกสิบกว่าปี สนิทก็ไม่เห็นแปลก แต่นี่เป็นไอ้คินไง แค่เดือนกว่าไม่น่าจะสนิทได้ขนาดนี้ปะวะ ดูนิสัยน้องกูแล้ว”

“ไอ้คินอาจจะแค่พูดให้ชิชาไม่มายุ่งกับวาฬอีกก็ได้”

“ไม่ใช่แค่ไอ้คินดิ น้องกูก็ด้วย” นนท์สกุลผูกเชือกรองเท้า เขาไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าแปลกๆ ของเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ใกล้ๆ “น้องกูออกตัวรับแทนไอ้คินเฉย เท่านั้นยังไม่พอนะ แม่งเรียกไอ้คินว่าโคล” เขาลุกขึ้นเมื่อผูกเชือกรองเท้าเสร็จ ก่อนจะหันไปพูดกับเบญจมินทร์อย่างคาดคั้น “มึงว่าไม่แปลกหรอวะ พวกเรายังไม่เคยเรียกมันว่าโคลเลย มีแค่บ้านมันที่เรียกมันว่าโคลไม่ใช่หรอวะ พวกเพื่อนต่างชาติอีก”

“มันอาจจะบอกให้วาฬเรียกว่าโคลก็ได้”

“ไม่ ปกติวาฬเรียกมันคุณอนาคิน”

“แล้วมึงจะไปเสือกอะไรเค้า”

“กูแค่งงๆ มึงว่าไม่แปลกเลยหรอวะ”

“กูว่าไม่ ตกลงจะไปยัง ไอ้จุนน์รอจนจะหลับอยู่แล้วเนี้ย” เบญจมินทร์พูดตัดบท รุนหลังเพื่อนให้ออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว นนท์สกุลโวยวายดังลั่น เป็นอีกครั้งที่เขาไม่ได้ส่งเกตเห็นสีหน้าครุ่นคิดของเพื่อนสนิทคนเดิม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-06-2021 16:00:15 โดย ddanav »

ออฟไลน์ taku_kimu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ ddanav

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-1
    • instagram
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

ออฟไลน์ ddanav

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-1
    • instagram
So many times I could've held on
I still can't believe I left you alone


Nerves - DPR IAN



16th drift - Same old me

“อุ่นพอรึยังครับ” อนาคินถามเด็กชายตัวน้อยในชุดนอนสีฟ้า เขาดึงผ้าห่มผืนหน้าขึ้นห่มให้ เหน็บปลายผ้าห่มไว้ที่ขอบเตียง ลัลพยักหน้ารับแบบเด็กๆ ก่อนจะเบ้ปากลง

“ลัลยังไม่อยากนอน”

“แต่พ่อเราบอกอาไว้นะว่าได้เวลานอนของเราแล้ว”

“ก็ลัลยังไม่อยากนอน”

เด็กชายส่งเสียงโยเย อนาคินคุกเข่าลงข้างเตียง จับมือหลานชายเบาๆ พร้อมรอยยิ้ม

“เดี๋ยวอานั่งอยู่ด้วยตรงนี้จนกว่าเราจะอยากนอนดีมั้ย”

ลัลหยุดงอแง เขาพยักหน้ารับอย่างดีใจ อนาคินหันไปหรี่ไฟลงเพื่อสร้างบรรยากาศให้ดูง่วงหงาวหาวนอนสำหรับเด็กอายุสามขวบอย่างลัล

จะบอกว่าลัลเป็นศูนย์รวมจิตใจของพวกเขาทั้งสี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เว่อเกินไปนัก ไม่ต่างจากนาวาฬ ชีวิตของชายหนุ่มอายุ 24 เพิ่งเรียนจบของนนท์สกุลเปลี่ยนไปในทันทีที่พ่อแม่ของเขาเสีย จากชีวิตสบายๆ เป็นคุณชายที่เพอร์เฟคไปเสียทุกเรื่อง ชีวิตของเพื่อนเขากลับถูกโยนเข้าไปในความวุ่นวายแห่งการเป็นผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารบริษัทที่ไม่เคยทำมาก่อน การเริ่มต้นทำงานด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก รวมไปถึงการพยุงจิตใจของน้องชายที่ดูเหมือนจะอาการหนักยิ่งกว่าใคร ตอนนั้นเองที่เพื่อนสุดเพอร์เฟคของเขากลายเป็นคนปาร์ตี้หนัก ผลาลเงินทิ้ง ไม่สนใจธุรกิจที่มีอยู่จนเบญจมินทร์กับจุนน์ต้องทิ้งงานทุกอย่างเพื่อมาดูแลแทน โดยมีอนาคินคอยให้ความช่วยเหลืออยู่จากลอนดอน ชีวิตเหลวแหลกของนนท์สกุลหยุดลง ณ นาทีที่เขารู้ว่าเขากำลังจะได้เป็นพ่อของชีวิตน้อยๆ ชีวิตหนึ่ง

“กูไม่อยากให้ลูกกูคิดว่ากูเป็นคนขี้แพ้” นนท์สกุลบอกเขาไว้อย่างนั้น

หากไม่มีลัล อนาคินก็ไม่คิดว่านนท์สกุลจะสามารถกลับตัวไปเป็นคนที่มีความรับผิดชอบและพาบริษัทไปสู่ความสำเร็จแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

อนาคินยังจำได้ดีถึงวันที่นนท์สกุลโทรมาบอกว่าทำผู้หญิงที่กำลังไปได้รุ่งในสายงานบันเทิงของประเทศไทยตั้งท้องจากความสัมพันธ์เพียงแค่ชั่วคืน ทางเลือกหลายๆ ทางถูกนำขึ้นมาพูดในหมู่เพื่อนที่รู้เรื่องทั้งสี่ แต่ท้ายสุดพวกเขาก็มอบอำนาจการตัดสินใจให้แก่หญิงสาวผู้กำลังจะเป็นแม่เป็นคนตัดสินใจแต่เพียงผู้เดียว หลังจากอนาคินยืนยันว่าเธอควรจะเป็นคนที่ได้ตัดสินใจว่าพร้อมที่จะตั้งท้องต่อไปอีกเก้าเดือน หรือพร้อมที่จะรับผิดชอบชีวิตน้อยๆ ที่กำลังจะเกิดมาหรือไม่

เธอเลือกอย่างแรกและปฏิเสธอย่างหลัง และนั่นเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมนนท์สกุลถึงมีสิทธิ์ในตัวลูกชาย 100% หลังจากคลอดลัลอย่างลับๆ เธอเลือกที่จะเดินทางต่อในสายงานของเธอและประสบความสำเร็จกับการเป็นนักแสดงที่ได้ชื่อว่าเจ้าบทบาทคนหนึ่ง เธอไม่ได้ทอดทิ้งลูกชายของเธอและแอบมาเจอบ้างเป็นครั้งคราว แต่โดยรวมแล้ว ลัลเติบโตขึ้นมาจากการเลี้ยงดูของนนท์สกุลเพียงคนเดียว โดยมีน้องชายและเพื่อนๆ คนอื่นคอยช่วยเหลือ ส่วนอนาคินที่มีภาระการศึกษาติดพันจะได้สานสัมพันธ์กับหลานชายผ่านเฟซไทม์เป็นส่วนใหญ่แค่นั้น

ถึงอย่างนั้นลัลก็จำเขาได้ดี ตั้งแต่เขามาอยู่ที่ไทย เบญจมินทร์ก็บ่นอยู่เสมอว่ากำลังสูญเสียตำแหน่งคุณอาคนโปรดของลัลไปให้เขา ลัลติดเขาแจทุกครั้งที่เจอหน้า เขารู้ดีว่าการมีตัวตนของเขาเป็นเรื่องแปลกใหม่ในชีวิตของลัล และเด็กน้อยนั้นคงกังวลลึกๆ แบบเด็กๆ ว่าวันหนึ่งเขาจะหายไปเป็นเพียงแค่ภาพเคลื่อนไหวในหน้าจอโทรศัพท์ของพ่อเหมือนเดิม

“ลัลอยากให้อาคินขึ้นมานอนด้วย”

“อาตัวใหญ่นะ เดี๋ยวลัลโดนอาทับเอานะครับ”

ลัลทำท่าเบ่งกล้ามโชว์ “อาวาฬบอกลัลแข็งแรง อาวาฬนอนทับลัลตั้งหลายครั้งลัลยังไม่ร้องเลย”

ชายหนุ่มกลั้นหัวเราะให้ท่าทางจริงจังของหลานชาย ในใจคิดไปถึงคนในประโยคอีกคนที่เขาเพิ่งวางสายไปแล้วได้แต่อมยิ้ม

เหมือนเอาเด็กมาเลี้ยงเด็ก

“ปกติเวลาอาวาฬอยู่ อาวาฬจะขึ้นไปนอนด้วยหรอ”

“ช่าย ตัวอาวาฬอุ่น ผมก็หอมมากเลย” เด็กชายยิ้มกว้าง “อาวาฬร้องเพลงให้ลัลฟังด้วยแหละ” ลัลพูดอีกเหมือนจะอวด ก่อนจะพูดต่อเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ “แต่ก่อนอาวาฬเล่านิทานให้ลัลฟังด้วย”

“ทำไมเป็นแต่ก่อนล่ะ อาวาฬเขาไม่เล่าแล้วหรอ”

“พ่อบอกไม่ให้ลัลขอให้อาวาฬเล่า”

อนาคินขมวดคิ้ว “ทำไมล่ะครับ”

“อาวาฬชอบนอนร้องไห้เวลาเล่านิทานจบ น้ำตาเต็มหลังลัลเลย” เด็กน้อยพูดอย่างไม่ได้คิดอะไร แต่มันทำให้คนฟังนิ่งไปได้ไม่ยาก “พ่อบอกว่าเราต้องดูแลอาวาฬดีๆ ไม่งั้นอาวาฬจะตาบวม พ่อเลยไม่ให้ลัลขอ”

“….”

“อาวาฬบอกว่าตอนอาวาฬตัวเท่าลัลหม่าม๊าก็เล่านิทานให้อาวาฬฟังเหมือนกัน อาวาฬคิดถึงหม่าม๊า แล้วก็ร้องไห้ทุกครั้งเลย”

อนาคินจำได้ถึงแผ่นหลังบางๆ ที่ดูหนักอึ้งเหมือนแบกโลกทั้งใบเอาไว้ได้ดีเช่นกัน แผ่นหลังที่เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านั้นเจ้าของของมันยังคงหัวเราะเริงร่ากับเขาในแมนเชสเตอร์ แต่ในวันที่อนาคินเห็นมันอีกครั้ง ร่างโปร่งนั้นกลับนั่งทรุดอยู่ข้างหน้ารูปของผู้ให้กำเนิดทั้งสอง ใบหน้าไร้ความรู้สึก ดวงตาว่างเปล่าเหมือนไม่รับรู้อะไร ได้แต่จ้องตรงไปข้างหน้าอย่างไม่มีจุดหมาย ข้างๆ มีปรินคอยปลอบโยนอยู่ นาวาฬไม่สามารถรวบรวมกำลังลุกขึ้นมารับแขกในสถานะเจ้าภาพเสียด้วยซ้ำ หน้าที่นั้นกลับกลายเป็นของนนท์สกุลและรีรักในสถานะตัวแทนแทน และนั่นทำให้พวกเขาไม่เคย ‘เจอกัน’ มาก่อน ทั้งๆ ที่อนาคินเองก็วิ่งช่วยงานพร้อมกับเพื่อนสนิทคนอื่นๆ ของนนท์สกุลอยู่ทุกวันจนจบงาน

หลังจากนั้นอนาคินก็ไม่เคยเจอนาวาฬอีก เท่าที่เขารู้ นาวาฬขาดการติดต่อกับทุกคนที่รู้จักตอนอยู่ที่ลอนดอนไม่เพียงแต่เขา ทางเดียวที่จะได้ยินข่าวคราวบ้างคือเมื่อเพื่อนสนิทในกลุ่มคนอื่นพูดถึงน้องชายของนนท์สกุลขึ้นมาบ้างในบทสนทนา ต่อให้มันจะทำให้อนาคินได้รับรู้ความเป็นไปของของเจ้าของชื่อ แต่มันก็ไม่เคยเป็นเรื่องดี

นาวาฬไม่เคยเป็นเหมือนเดิมอีกหลังจากสูญเสียพ่อแม่ไป อนาคินจับใจความจากการสนทนาของเพื่อนได้อย่างนั้น

แต่เขาเองไม่เคยรู้ว่านาวาฬเปลี่ยนไปแค่ไหนจนกระทั่งกลับมาเจอกันอีกครั้ง แม้แต่ตอนนี้ เขาก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าความ ‘ไม่เหมือนเดิม’ ของนาวาฬที่เบญจมินทร์พูดแล้วพูดอีกมันคืออะไร ในเมื่อนาวาฬที่เขากลับมาเจออีกครั้งยังคงมีความเป็นตัวเองที่ถูกซ่อนเอาไว้ภายใต้ภาพลักษณ์ความเป็นผู้ใหญ่ที่เจ้าตัวพยายามสร้างขึ้นมาปิดบังตัวตนที่แท้จริงเอาไว้

จนกระทั่งเขาได้ยินที่หลานชายพูด

มือใหญ่ถูกใช้เพื่อลูบผมของเด็กน้อยเบาๆ

“พ่อพูดถูกแล้วครับ เราต้องดูแลอาวาฬกันดีๆ รู้มั้ย”

“อาวาฬเคยหลับไปสามสี่วันด้วย ลัลต้องไปปลุกที่โรงพยาบาลถึงจะตื่น คนอื่นปลุกไม่ตื่น” ลัลพูดอย่างภูมิใจแบบเด็กๆ ไม่ได้สังเกตว่าอนาคินหยุดมือที่กำลังลูบผมของตัวเองทันทีที่ได้ยิน “พอลัลจุ๊บแก้มปุ๊บอาวาฬตื่นเลย”

“อ้าว ทำไมหลับไปนานขนาดนั้นน่ะ” อนาคินถาม พยายามทำให้เสียงเป็นปกติที่สุด ลัลทำท่าคิด

“อาเบนบอกว่าอาวาฬอยากนอนนานๆ แต่พ่อไม่ยอมเลยต้องปลุก”

“….”

“คุณหมอช่วยปลุกด้วยแต่อาวาฬไม่ตื่น แต่ลัลปลุกปุ๊บตื่นเลย” เด็กชายตัวน้อยยังคงทำท่าภูมิใจ “ลัลเก่งมั้ย”

“เก่งครับ เก่ง” อนาคินพูดอย่างอ่อนโยน ลัลยังเป็นเด็ก เขาแน่ใจว่าต่อให้จะเป็นเด็กที่ฉลาดเฉลียวแค่ไหนลัลก็ไม่ได้เข้าใจในสิ่งที่ตัวเองพูดออกมาว่ามันคืออะไรในภาษาของผู้ใหญ่ แต่สำหรับอนาคินที่เข้าใจดีแล้ว สิ่งที่ได้ยินทำให้จิตใจเขาหนักอึ้งขึ้นมาทันที

“ถ้าลัลยังไม่ง่วง อาเล่านิทานให้ฟังดีมั้ย” เขาเบี่ยงเบนความสนใจของหลานชายจากเรื่องในอดีต ดวงตาสีน้ำตาลใสแป๋วของเด็กชายส่งประกายพราวออกมาทันทีเมื่อได้ยิน

“ดียยย์” เด็กน้อยลากเสียงยาวอย่างตื่นเต้น อนาคินยิ้มออกมาอีกครั้ง เขาขึ้นไปนอนบนเตียงข้างๆ ลัล ก่อนจะเริ่มเล่านิทานช้าๆ แบบที่เคยทำกับนีร หลานชายตัวแสบของเขาตอนสมัยเป็นวัยรุ่น

ดวงตาที่หนักอึ้งของลัลค่อยๆ หลับลงอย่างช้าๆ ไม่ถึงห้านาทีต่อมาเด็กชายก็หลับสนิท อนาคินยังคงเอนตัวอยู่อย่างนั้น นาฬิกาที่ข้อมือบ่งบอกให้เขารู้ว่ามันเกือบจะได้เวลานอนของเขาเองแล้วเช่นกัน

นี่สินะที่เบญจมินทร์บอกว่านาวาฬไม่เคยกลับไปเป็นเหมือนเดิม

เขาถอนหายใจก่อนจะหลับตาลง


………..


a - เจอกันที่ร้านทุ่มนึงนะครับ
Nawhale - อาจจะสายนิดนึงครับ
a - พี่รอได้ อย่าให้รอจนร้านปิดละกัน

นาวาฬอมยิ้มอ่านข้อความบนหน้าจอโทรศัพท์ ก่อนจะรีบยัดมันกลับลงไปในกระเป๋าเมื่อรีรักชะโงกข้ามไหล่มาดูอย่างสนใจ

“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ที่ไอ้ปรินบอกมึงมีสาวท่าจะจริง”

“แม่งก็พูดไป กูแค่ตอบข้อความพี่กู”

“คิดว่ากูจะเชื่อหรอครับไอ้คุณนาวาฬ แต่ช่างเหอะ เดี๋ยวมึงก็มาบ่นให้กูฟังเองอะ แล้วนี่กิ๊กเก่ามึงจะโผล่มาได้ยัง เครื่องลงมาจะชั่วโมงแล้ว”

พวกเขาอยู่กันที่สนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่บ่ายโมงครึ่งเพื่อเตรียมรอรับเซลีนที่จะมาเที่ยวไทยสองอาทิตย์ เครื่องของเธอดีเลย์ไปหลายชั่วโมง ทำให้ตอนนี้เป็นเวลาสี่โมงกว่าแล้วแม้แต่เงาของเธอก็ยังไม่มีให้เห็น

แล้วตอนนี้ การมาของเธออาจจะชนกับนัดของเขากับอนาคินเสียด้วยซ้ำ

“รักมึงช่วยอะไรกูหน่อยได้ปะวะ”

“อะไรอีก” รักอ้าปากหาว เขาเป็นคนเดียวที่นาวาฬสามารถลากมารับเซลีนด้วยกันได้ในบ่ายวันจันทร์แบบนี้ อันที่จริงเขาชวนฟาร์มาด้วย แต่อีกฝ่ายถามกลับทันทีเมื่อเขาโทรไปชวน

“ปรินไปด้วยรึเปล่า”

นาวาฬที่ไม่อยากโกหกเพื่อนตอบตรงๆ อย่างจริงใจ “ยังไม่ได้ชวน”

“งั้นกูไม่ไป ถ้ามึงชวนแล้วมันไปก็อึดอัดตาย มึงไปเหอะ ฝากหวัดดีเซลีนให้กูด้วยนะ”

ปรินเองก็ปฏิเสธเช่นกันเมื่อนาวาฬโทรไปชวน

“ฟาร์ไปรึเปล่า”

“มันบอกว่ามึงอาจจะไปเลยไม่ไป”

“แค่มาเจอกูยังไม่อยากเจอ … อืม กูไม่ไปละกัน”

รีรักจึงเป็นออปชั่นสุดท้ายสำหรับวันนี้

“กูมีนัดว่ะ อาจจะอยู่ดูแลมากไม่ได้ กูฝากมึงพาเพื่อนกูไปส่งโรงแรมหน่อยได้ปะวะ”

“สัสทิ้งกันดื้อๆ แบบนี้เลย” รักบ่นแต่ก็ยักไหล่ยอมแต่โดยดี “เออๆ เดี๋ยวกูดูให้ บอกนางเองนะ เดี๋ยวมาหาว่ากูเสนอหน้า”

“รู้แล้วหน่า”

“มึงจะไม่บอกกูใช่ปะว่านัดใครไว้”

“ไม่บอก”

“กูก็ว่างั้น ช่างเหอะ อย่างที่กูบอก มึงอกหักก็ต้องแจ้นมาหากูอยู่ดีอะละ” รักพูดอย่างไม่ทุกข์ร้อนจนนาวาฬแอบหมั่นไส้ “เออ แล้วจะเอายังไงเรื่องรถ”

นาวาฬเป็นคนขับรถไปรับเพื่อนจากที่บ้านมาที่สนามบิน ทำให้ตอนนี้พวกเขามีรถอยู่แค่คันเดียว หากวาฬต้องแยกไปตามนัด นั่นหมายความว่าพวกเขาจะไม่สามารถกลับด้วยกันเหมือนตอนขามาได้ ไม่นับเรื่องที่ต้องไปส่งเซลีนที่โรงแรมอีกล่ะ

วาฬทำท่าคิด “มึงเอารถกูไปละกัน กูเรียกอูเบอร์เอา แล้วจอดทิ้งไว้ที่ร้านมึงอะละ เดี๋ยวกูค่อยเข้าไปเอา”

“ได้ๆ ตามนั้นละกัน เออ คนนั้นใช่ปะวะ โบกมือมาทางนี้อยู่แหน่ะ”

รักชี้ไปทางทางออกใกล้ๆ ที่พวกเขายืนอยู่ เซลีนกำลังเดินตรงมาทางพวกเขาพร้อมด้วยกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่ มือข้างหนึ่งโบกให้อย่างตื่นเต้น นาวาฬยิ้มตอบก่อนจะโบกกลับไป

“ไฟลท์ดีมั้ย”

“ไม่ค่อยเท่าไหร่ ดีเลย์นานมากเลย ไหน ให้เราดูเธอหน่อย” เธอเดินไปรอบๆ ตัวนาวาฬที่ได้แต่ยิ้ม “โห เปลี่ยนไปเยอะมากเลย นาวาฬผมชมพูคนนั้นไปไหนแล้ว”

เขาหัวเราะ “เธออะดูไม่เปลี่ยนเลยนะเซล”

เซลีนก็ยังคงเป็นเซลีนคนเดิม ใบหน้าคมคายดูมีอายุขึ้นนิดหน่อยแต่ก็ยังคงเยาว์วัย เธอยังคงมีรอยยิ้มดึงดูดใจผู้ชายเหมือนเดิม เสียงหวานๆ ของเธอยังเป็นเหมือนเดิม อ้อมกอดของเธอที่ให้กับเขาก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมเช่นกัน

“ไปหาร้านกาแฟนั่งกันหน่อย เธอคงเหนื่อยน่าดู”

“ก็นิดหน่อย เครื่องเวรเลื่อนหลายรอบมากเลย ถ้าไม่ติดว่านัดเธอไว้แล้วนี่เราจะยกเลิกตั๋วไม่มาแล้วนะเนี้ย”

เซลีนทำท่าฮึดฮัด วาฬหัวเราะ

“มาก็ดีแล้ว เราอยากเจอเธอมากเลย”

วาฬไม่ได้โกหก สี่ปีแล้วที่พวกเขาไม่ได้เจอกัน ในบรรดาเพื่อนทั้งหมดที่อังกฤษ เซลีนเป็นเพียงคนเดียวที่เขายังคงความสัมพันธ์ด้วยเสมอมา พวกเขาคุยกันบ่อยในสถานะเพื่อน จนตอนนี้พวกเขาสนิทกันมากกว่าตอนอยู่ที่ลอนดอนด้วยกันเสียอีก

เซลีนยิ้ม “เราพูดเล่นหน่า ใครจะไปยกเลิกตั๋วง่ายๆ แบบนั้นกัน ตังก็จ่ายไปแล้ว แล้วนี่ใครอะ” เธอหันไปทางรีรักที่ยืนกดโทรศัพท์อยู่เหมือนไม่มีอะไรทำ

ลืมแนะนำไอ้รักไปเลย …

“นี่รีรัก เป็นเพี่อนเราเอง วันนี้มาช่วยดูแลเธอด้วยอีกคน”

รักพยักหน้ารับ หันไปคว้ากระเป๋าเซลีนมาถือไว้อย่างเท่ๆ โดยไม่พูดอะไร ก่อนจะเดินนำหน้าไปทางร้านกาแฟที่ใกล้ที่สุด เจอสาวสวยหน่อยทำเป็นเก๊ก นาวาฬได้แต่บ่นด้วยความหมั่นไส้ในอก แต่ดูเหมือนเซลีนจะไม่ได้คิดเช่นนั้น

“หล่อจัง”

“ใคร มันอะนะ”

“อื้ม มีแฟนยังอะ”

“เดี๋ยว นี่เธอ—“

“ทำไมยะ หึงเราหรอ จะมาหึงอะไรตอนนี้” เซลีนพูดอย่างล้อๆ

“เปล่าาาา”

“งั้นก็แนะนำให้เราหน่อย ห้ามปฏิเสธนะ ไม่งั้นจะเล่าวีรกรรมเธอตอนอยู่ลอนดอนให้หมดเลยคอยดู!”

แล้วพวกเขาก็เถียงกันเล่นๆ อย่างนั้นไปตลอดทาง เซลีนก็ยังเป็นเซลีนคนเดิม คนที่ทำให้โลกของนาวาฬสดใสเสมอเวลาที่อยู่ด้วยกันไม่ว่าจะเป็นในสถานะอะไร


……..


“ขอชื่อที่ใช้ในการจองด้วยค่ะ”

“อนาคินครับ”

บริกรสาวเช็คข้อมูลในคอมพิวเตอร์ตรงหน้าก่อนจะเงยหน้าขึ้นบอกเขาด้วยน้ำเสียงสดใส “โต๊ะ 22 อยู่ชั้นสอง จะพาขึ้นไปนะคะ”

นาวาฬเดินตามเธอขึ้นบันไดไป สายตามองไปรอบๆ ด้วยความสนใจ ร้านอาหารที่เขานัดเจอกับอนาคินไว้เป็นร้านอาหารโมรอคโคที่ตกแต่งอย่างสวยงามจนเด็กสถาปัตย์อย่างเขาอยากจะควักเอามือถือมาถ่ายรูปเก็บไว้ แม้ว่าร้านจะเล็กแต่คนก็แน่นเต็มร้าน กลิ่นเครื่องเทศที่หอมโชยในอากาศทำให้เขาที่ยังไม่ได้ทานข้าวเย็นนั้นหิวโซ

หลังจากบอกเซลีนที่เข้าอกเข้าใจเป็นอย่างดีว่าเขามีนัด และรีรักจะเป็นผู้ดูแลเธอแทน (เธอแอบขยิบตาให้เขาด้วยตอนออกมา) เขาก็เรียกอูเบอร์และฝ่าท้องถนนอันเต็มไปด้วยรถของเวลาหกโมงเย็นมาที่สถานที่นัดทันที แม้ว่าเขาจะรีบร้อนอย่างไร เวลาก็ผ่านไปถึงสี่สิบห้านาทีจากเวลาที่นัดไว้เมื่อเขามาถึง อนาคินไม่ได้โทรมาตามเขา ไม่ได้ส่งข้อความมาตามเสียด้วยซ้ำ และนั่นทำให้เขาแอบลุ้นว่าอนาคินจะยังอยู่ที่โต๊ะรึเปล่าเมื่อเขาไปถึง

แต่ดูเหมือนเขาจะคิดมากไป

ที่โต๊ะหมายเลข 22 ชายหนุ่มร่างสูงที่เขามีนัดด้วยนั่งไขว่ห้างอยู่ตรงนั้น เขาอยู่ในเสื้อ hoodie สีชมพูอ่อน กางเกง sweatpants สีเทา ผมสีอ่อนที่ปกติเรียบร้อยเสมอนั้นไม่ได้เซท เขาใช้ปลายนิ้วปัดมันออกอย่างลวกๆ สายตาคมคู่นั้นจับจ้องไปที่หนังสือที่วางอยู่หน้าตัก

อนาคินควรจะดูแปลกตาสำหรับนาวาฬที่เห็นเขาในชุดสูทเรียบร้อนตลอดเวลาที่ทำงานด้วยกัน แต่ไม่เลย อนาคินในชุดลำลองกลับดูคุ้นตาอย่างประหลาด

เหมือนกับอนาคินคนเดิมที่เขาเจอที่ลอนดอน

คิดได้เท่านั้น นาวาฬรู้สึกถึงหัวใจของตัวเองที่เต้นแรงด้วยความตื่นเต้นอีกครั้ง

ไม่ชินเสียที

ก่อนที่เขาจะได้เอ่ยทัก อนาคินก็เงยหน้าขึ้นเสียก่อน

“มาแล้ว” เขายิ้มกว้าง ก้มดูนาฬิกาข้อมือ “รถติดหรอครับ”

“มากๆ เลยครับ ยังกลัวเลยว่ามาถึงแล้วพี่คินยังจะรออยู่รึเปล่า”

สรรพนามใหม่นั้นแปลกหู แต่มันก็ทำให้ระยะห่างระหว่างพวกเขานั้นใกล้เข้ามานิดหน่อยเสียจนนาวาฬรู้สึกได้ อนาคินก็คงรู้สึกได้เช่นกัน เพราะเขายิ้มก่อนจะพูดเหมือนเป็นปกติ

“พี่บอกว่าพี่จะรอพี่ก็รอสิ สั่งอาหารเลยไหม เราดูหิวมากเลย”

อาหารโมรอคโคเป็นอะไรที่นาวาฬไม่คุ้น เขาใช้เวลาไปกับการเสิร์ชหาเมนูอยู่นานกว่าจะสั่งได้ ต่างกับอนาคินที่สั่งอย่างคล่องแคล่ว

“บาสติลล่าปลาครับ เครื่องดื่มผมขอเป็นชามินท์ เอามาเป็นกาก็ได้ครับ”

“รู้จักร้านนี้ได้ไงครับ” นาวาฬมองไปรอบๆ อย่างสนใจ การตกแต่งภายในของร้านนี้โดดเด่นจนเขาแอบแปลกใจที่มันไม่เป็นที่รู้จักมากกว่านี้ “ตกแต่งดีมากเลย

“พี่ชอบอาหารแถบนั้นน่ะ เลยมาเจอที่นี่เข้า” นาวาฬสนใจการตกแต่งเสียจนไม่ได้สังเกตเห็นผู้ถูกถามที่มองตามสายตาเขาด้วยรอยยิ้ม “ชอบหรอ”

“ครับ พอดีชอบอะไรแนวนี้อยู่แล้ว นี่ก็ว่าจะไปโมรอคโคกับเพื่อนอยู่ ไปหาไอเดียทำโปรเจคจบ” เพื่อนคนนั้นคือปริน “ประเทศในฝันพวกผมเลยครับ”

ถึงเขาจะชวนคุยธรรมดา แต่ในอกนั้นหัวใจเต้นโครมครามเสียจนเขาต้องภาวนาให้คนตรงหน้าไม่ได้ยินมัน

อนาคินหัวเราะ “วาฬมีประเทศในฝันด้วยหรอ”

“แล้วพี่คินไม่มีหรอครับ”

“ไม่มีนะ แต่จะว่าไปแล้ว” เขาทำท่าคิด “ตอนนี้พี่อยากไปเวียดนาม”

“ไปทำไมครับเวียดนาม มันใกล้ๆ นี่เอง”

“พี่ชอบเดินป่าคนเดียว แล้วแถบนี้น่ะ เวียดนามดังที่สุดแล้ว” เขาชูหนังสือที่วางไว้บนตักให้นาวาฬดู มันเป็นหนังสือคู่มือการเดินป่าที่เวียดนาม “พี่ว่าจะไปอยู่ นี่เลยหาข้อมูลไว้ก่อน”

พวกเขาคุยกันเรื่อยๆ จนกระทั่งอาหารมาถึง ไม่มีใครพูดถึงเรื่องชิชาในวันนั้น นาวาฬพยายามหาเรื่องนู้นเรื่องนี้มาคุยเพื่อไม่ให้โต๊ะอาหารเงียบเกินไปจนอนาคินมีสิทธิ์จะได้ยินหัวใจเขาเต้นดังขึ้นเรื่อยๆ เหมือนสี่ปีที่แล้วเลยแม่ง เขาคิดในใจ ได้แต่เหลือบมองอนาคินที่ทานอาหารอยู่เป็นระยะๆ เขาคิดว่าเขาเป็นคู่สนทนาที่ดีพอใช้ จนกระทั่งอนาคินหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ

“มีอะไรครับ”

“คิดถึงพี่หรอ ชวนพี่คุยตลอดเลย”

ดวงตาสีเขียวหม่นคู่นั้นส่งประกายวิบวับเมื่อมองตรงมาทางเขา คราวนี้ นาวาฬรู้สึกเหมือนโดนกระชากออกจากความเป็นจริงและโดนโยนกลับไปที่ลอนดอนเมื่อสี่ปีที่แล้วจริงๆ เขากำลังโดนดวงตาคู่นั้นเอกซ์เรย์เหมือนจะเค้นหาความจริงอะไรสักอย่าง เขาหลบตาก่อนจะพูดเสียงอู้อี้

“เปล่าครับ”

“แต่ก็ดีแล้ว ชวนพี่คุยบ้าง” อนาคินยิ้ม “ปกติพี่ต้องชวนคุยตลอดเลย”

“ก็โกรธ”

“โกรธอะไร”

“โดนหลอกอยู่ตั้งหลายเดือนนี่ครับ”

“อ้าว เป็นงั้น พี่ควรจะโกรธเรามากกว่าเปล่า หายไปเลยตั้งหลายปี”

นาวาฬเงียบ เขารู้ว่าอนาคินพูดเล่นแต่สำหรับเขามันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ พูดได้เห็นแก่ตัวชะมัด อนาคินไม่รู้หรอกว่าสี่ปีที่ผ่านมานี้เขาผ่านอะไรมาบ้าง มีหลายครั้งที่เขาไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าจิตใจเขาจะอนุญาตให้ตัวเองได้เห็นวันถัดไปหรือเปล่า ไหนจะเรื่องพี่ชายที่ติดเหล้าเสเพลอยู่เป็นปี ธุรกิจที่บ้านที่ต้องไหว้วานให้คนอื่นมาดูแล นี่ยังไม่นับเรื่องที่การตายของพ่อแม่เขาเป็นความผิดของเขาอีก

โง่รึเปล่า เสียงความคิดของเขาดังขึ้น โคลต้องรู้อยู่แล้วหน่า เพื่อนสนิทพี่นนท์เลยนะ

เขาเลยเลือกที่จะเงียบ

“แต่ตอนนั้นพี่ไม่รู้จริงๆ นะว่าเราเป็นน้องของนนท์มัน”

นี่เป็นข้อมูลใหม่สำหรับนาวาฬ “ไม่รู้หรอครับ”

“อื้ม พี่มารู้เอาเร็วๆ นี้แหละ ตกใจมากเลย คิดไว้อยู่แล้วว่าต้องโดนโกรธ” เขาหัวเราะ “แต่พี่ไม่รู้จริงๆ ถ้ารู้ พี่คงตามเราผ่านทางนนท์ไปนานแล้วแหละ เพื่อนที่ลอนดอนนี่เนอะ”

เพื่อน


คำนี้ปกติมันฟังแล้วรู้สึกเหี้ยขนาดนี้เลยหรอวะ นาวาฬกระพริบตาปริบๆ ใช่สิ สำหรับอนาคินเขาก็คงเป็นแค่เพื่อนสนิทคนหนึ่งจากลอนดอน วันนั้นที่จูบกันในคอนเสิร์ตพวกเขาก็กินเบียร์อยู่ มันก็คงมองให้เป็นการกระทำจากความเมาได้ง่ายๆ อันที่จริง ในสายตาคนอื่นมันก็ควรจะเป็นอย่างนั้นไม่ใช่หรอ ความสัมพันธ์ครั้งนี้มันก็มีเขาที่คิดไม่ซื่อคนเดียวอยู่แล้วนิ

แต่โคลก็ทำอย่างนี้กับเราคนเดียวปะวะ ไม่เห็นทำกับพวกพี่นนท์เลย

เขาจ้องตาอนาคินที่ส่งยิ้มให้เขาข้ามโต๊ะ พยายามอย่างหนักที่จะอ่านความรู้สึกของคนข้างหน้าให้ได้เหมือนกับที่ถูกอีกคนทำมาโดยตลอด แต่พยายามเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล หน้าตาจริงจังของเขาคงดูตลกมากขนาดที่ทำให้อนาคินหัวเราะออกมา

“หน้าพี่มีอะไรติดอยู่หรอ”

เอาเข้าจริง เขาไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่

เสียเปรียบชิบหาย เขาคิดในใจ


………


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-06-2021 04:41:05 โดย ddanav »

ออฟไลน์ ddanav

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-1
    • instagram

รถสีขาวคันสวยจอดอยู่ที่หน้าบ้านของเบญจมินทร์เหมือนอย่างเคย อนาคินที่อาสามาส่งกดปลดล็อคประตูรถเหมือนที่ทำเป็นประจำ แต่คราวนี้นาวาฬกลับนั่งนิ่งจนเขาต้องถาม

“ไม่ลงหรอครับ”

ไม่ตอบ นาวาฬมีสีหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่สักอย่าง เขาไม่ตอบคำถาม อนาคินหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะเอนเบาะลง

“อะ ไม่ลงก็ไม่ลง”

นาวาฬยังคงนิ่งเหมือนไม่ได้ยินด้วยสีหน้าครุ่นคิด เขาไม่ได้สังเกตเห็นสายตาของชายหนุ่มที่มองเขาอยู่ ภายใต้แสงไฟสลัว อนาคินจ้องมองใบหน้าของคนข้างๆ อย่างเงียบๆ ไม่ได้สนใจเพลงคลาสสิคที่ดังคลอเบาๆ ไปด้วย เขาไม่ได้แอบมอง หากแต่มองอย่างเปิดเผยในแบบที่ถ้าเป็นปกตินาวาฬคงจะโวยวายไม่ก็เอามือปิดหน้าตัวเองไปแล้ว

เขาไม่ได้มองนาวาฬนิ่งๆ แบบนี้มานานแล้ว ใบหน้าได้รูปของนาวาฬยังเหมือนกับที่เคยเป็นเมื่อสี่ปีที่แล้ว โครงหน้าได้รูป แก้มแดงเรื่อจากความหนาวของเครื่องปรับอากาศที่พ่นเบาๆ เข้าหน้า สิ่งเดียวที่เปลี่ยนไปคือดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่ไม่มีแววมั่นใจตัวเองร่าเริงเหมือนแต่ก่อน หากแต่หมองลงจนเป็นที่สังเกตได้สำหรับเขา

แต่นาวาฬก็ยังคงเป็นนาวาฬคนเดิมสำหรับเขานั่นเอง แววตาที่แม้จะหมองลงแต่มันก็ยังคงมีความเป็นนาวาฬอยู่ในนั้น เสียงหัวเราะ คำพูด ความคิด ก็ยังเป็นนาวาฬที่เขาจำได้จากเมื่อสี่ปีที่แล้ว นาวาฬที่เขาไม่มีทางลืม

“พี่คินครับ”

“ครับ”

“พี่คินไปส่งที่นี่แทนได้ไหม” นาวาฬยื่นที่อยู่บน GPS มาให้ อนาคินอ่านก่อนจะขมวดคิ้ว

“สามย่าน … แถวบ้านพี่เลย โอเคครับ”

อนาคินออกรถตามคำขอแต่โดยดีโดยไม่มีคำถาม นาวาฬก็ไม่ได้พูดอะไรต่อเช่นกัน พวกเขานั่งด้วยกันในความเงียบอย่างนั้นจนกระทั่งอนาคินเลี้ยวรถเข้าไปในคอนโดหรูย่านสามย่านตามที่อยู่ที่ได้มา

“ถึงแล้ว มาหาใครดึกดื่นเนี้ย”

นาวาฬหันมามองอนาคินอย่างไม่แน่ใจก่อนจะพูดออกมา “เราอยู่ที่นี่พี่คิน”

“วาฬอยู่กับเบนไม่ใช่หรอ”

“เปล่าครับ อยู่ที่นี่แหละ ไปนอนกับพี่เบนบ้างเฉยๆ”

นาวาฬมีท่าทางรู้สึกผิดจนอนาคินต้องหัวเราะ เขาหันมาขยี้ผมนาวาฬอย่างที่ทำอยู่บ่อยๆ “ทำหน้ายุ่งเลย เรานี่น้า สนิทกับเบนขนาดนั้นเลยหรอ”

“ครับ”

“แล้วทำไมไม่บอกพี่ตั้งแต่แรก”

“………”

อนาคินไม่มีปฏิกริยากับการที่โดนนาวาฬหลอกมาตลอดว่าตัวเองอยู่กับเบน เขาหันไปมองเบาะด้านหลังของรถ “เออ อุส่าห์มาเจอกันแท้ๆ พี่ลืมเอาขนมของฝากเรามาให้เฉยเลย” อนาคินทำท่านึกขึ้นได้ นาวาฬหัวเราะเบาๆ

“ไม่เป็นไรครับ”

“ขอโทษ หรือจะให้พี่เอามาให้ใหม่พรุ่งนี้”

“ไม่เป็นไรครับ พี่คินกินไปได้เลย เราไม่ได้อยากกินอะไรขนาดนั้นอยู่แล้ว”

“ทำไมล่ะ แค่อยากให้พี่ซื้อฝากเฉยๆ หรอ”

อนาคินพูดเหมือนล้อแต่คนฟังรู้สึกได้ถึงเลือดที่สูบฉีดขึ้นใบหน้า ถูก เขาคิดในใจ แต่ก็ทำเป็นกลบเกลื่อน

“งั้นเราไปก่อนนะ ขอบคุณที่มาส่งครับ”

เขากำลังจะเปิดประตูเมื่อเจออนาคินเรียกเอาไว้เลียก่อน

“นาวาฬ”

“ครับ”

“พี่มีของฝากอย่างอื่นให้นะ”

ชายหนุ่มค้นของกุกกักในลิ้นชักข้างตัวก่อนจะหยิบเอากล่องเล็กๆ ใบหนึ่งออกมา เขาส่งให้นาวาฬที่ทำท่าจะเปิดออกดูด้วยความสนใจหากไม่เจอเขาห้ามเอาไว้เสียก่อน

“เอาไว้เปิดทีหลัง”

“ค-ครับ” นาวาฬตอบงงๆ เขาลงจากรถมายืนส่งอยู่ข้างๆ ประตูทางเข้าคอนโด อนาคินยิ้มกว้างก่อนจะยกมือลา

“ไว้เจอกันนะ”

ไว้เจอกัน ไม่ใช่ลาก่อน นาวาฬคิดในใจขณะยืนมองดูรถสีขาวที่ค่อยๆ ขับออกไป เขายิ้มกว้างให้กับตัวเองเมื่อแน่ใจแล้วว่าอนาคินจะไม่เห็น

“พี่เห็นนะว่ายิ้มอยู่”

เขาสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงอดีตเจ้านายตะโกนผ่านหน้าต่างออกมาจากในรถ อนาคินมองเขาอยู่ด้วยรอยยิ้มล้อๆ รถที่กำลังเคลื่อนตัวออกไปถูกหยุดไว้ตรงนั้น นาวาฬรีบหุบยิ้มก่อนจะตะโกนกลับไป

“แล้วยิ้มไม่ได้หรอครับ”

“วันหลังอยากยิ้มก็ยิ้มเลย ไม่ต้องหลบพี่ยิ้ม”

แม่งรู้ทุกเรื่องจริงๆ นาวาฬบ่นในใจ เขาทำเป็นไม่ได้ยิ้มประโยคนั้นก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่องอย่างกลบเกลื่อน

“ถึงบ้านแล้วบอกด้วยนะครับ”

อนาคินยิ้มรับก่อนจะขับรถออกไป นาวาฬก้มลงมองพื้นพร้อมกับยิ้มกว้างอีกครั้ง

เหมือนไปเดทเลย

สัสเดทเหี้ยอะไร เสียงในหัวที่เขาเกลียดนักหนาดังขึ้นจนเขาแทบสะดุ้ง เขาหุบยิ้มแม้ว่าจะยังคงมีรอยยิ้มที่มุมปาก ประโยคสุดท้ายที่หลุดออกจากปากเขายังคงก้องอยู่ในหัว

ถึงบ้านแล้วบอกด้วยนะครับ

สาวน้อยชิบหาย นาวาฬส่ายศีรษะ พยายามสะบัดความอายที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันไปให้พ้นจากความคิด เขาพลิกกล่องที่เพิ่งได้รับมาดูอย่างสนใจก่อนจะเปิดออก

ขวดใบเล็กๆ วางอยู่ในกล่องใบนั้นพร้อมกับการ์ดใบหนึ่ง เขาหยิบขวดใบเล็กนั้นขึ้นมาดูก่อน มันบรรจุน้ำมันไว้จำนวนหนึ่ง เขาเปิดออกดมก่อนจะต้องแปลกใจกับกลิ่นหอมแบบเย็นๆ ของมัน ดวงตาสีน้ำตาลเข้มอ่านฉลากอย่างรวดเร็ว

Clary Sage oil

'ถ้านอนไม่หลับใช้นี่นะครับ พี่ไปเก็บดอก clary มาทำเองเลย'

นั่นคือข้อความในการ์ดใบนั้น

ขี้โม้ นาวาฬบ่นในใจ แต่เขาก็หุบยิ้มไม่ได้ขณะมองดูมัน

แต่โคลไปเอามาจากไหนวะว่าเรานอนไม่หลับ เขาคิด แต่ช่างเหอะ อย่างน้อยก็ได้ของขวัญมาอันนึงไง

ต่อให้ต้องสู้กับรถบนถนนหลายชั่วโมง วันนี้ก็ยังถือว่าเป็นวันที่ดีสำหรับเขาได้ไหมนะ?

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด