บทที่ 16
ข้ายังคงมองเห็นกระบี่ลมพัดพันสายและพัดพรายเพลิงปรากฏอยู่บนแท่นศิลาสลักรูปมังกร ลำแสงดวงอาทิตย์ส่องสะท้อนอาวุธวิเศษสองสิ่งซึ่งถูกผนึกไว้เคียงคู่ เพื่อใช้ป้องกันเฉินชิงหลุนจากภัยพาลในอดีต หยางจ้าวหลานและหยวนอู่ชิง ศิษย์เอกของสำนักในคราวนั้นจะล่วงรู้หรือไม่ว่า บัดนี้อาคมซึ่งเขาทั้งสองสู้สละชีวิตไว้นั้นได้เสื่อมคลายลง หยวนอู่ชิงไม่พ้นคือหนึ่งในเชื้อสายบรรพชนของข้าเป็นแน่ ไม่ผิดที่ข้าจะคิดหวังครอบครองพัดพรายเพลิง โดยยอมแม้กระทั่ง...
นับแต่ข้ารู้ความ ในฐานะทายาทผู้สืบทอดตำแหน่งประมุขพรรคเสี้ยวจันทรา บิดาข้าเคี่ยวเข็ญถ่ายทอดเคล็ดลับวิชาต่างๆ นานา อันจะเสริมส่งพละกำลังและบารมีประมุขพรรคเสี้ยวจันทราในภายภาคหน้า เหล่าปรมาจารย์ผู้ชำนาญในสาขาวิชามากมายได้เข้ามาสั่งสอนข้าเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ฉะนั้นหยางเย่ถิงจะสู้ใช้กำลังบังคับข้ามากน้อยแค่ไหน หากข้าใช้วรยุทธต้านทานแล้วไซร้ ย่อมจะระงับเจ้านั่นได้ไม่เหลือบ่ากว่าแรง ต่อฉุกคิดได้ว่า
หยางและหยวนรวมใจเป็นหนึ่งนั่นแล้วจึงทำให้ข้าไม่คิดใช้วรยุทธสู้ขัดขืน
เหตุการณ์ต่อจากนั้นข้าพยายามลบลืมออกจากใจ ไม่มีความทรงจำใดๆนอกจากข้าตั้งความหวังไว้ที่จะได้ครอบครองพัดพรายเพลิง จวนกระทั่งใกล้รุ่งสาง ข้าจึงเร่งรีบออกมาจากเรือนพักแปดเหลี่ยมบนลานผาด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ อาศัยช่วงหยางเยวี่ยนหลับ หลบหนีกลับคืนสู่หอเปลื้องอาภรณ์ ยกสุราเทียนจื่อซานดื่มแล้วรอคอยคืนร่างเดิม จากนั้นตกแต่งกายด้วยเสื้อผ้าบุรุษ เร่งฝีเท้ารุดมาสู่ถ้ำมังกรศักดิ์สิทธิ์
ครั้งก่อนพัดพรายเพลิงสำแดงอิทธิฤทธิ์น่าอัศจรรย์พันลึก สอดประสานท่วงท่าร่วมกับวิชาพัดเสี้ยวจันทราราวกับเกิดมาเพื่อกันและกัน ไม่ผิดที่ข้าจะคิดเข้าข้างตนเองว่าอาวุธพัดวิเศษนี้รอคอยข้ามาเนิ่นนาน ทว่าหนนั้นข้าไม่อาจจับต้องสัมผัสแม้ปลายพู่ประดับด้ามพัด กระทั่งมังกรศิลากล่าวถึงเงื่อนไขสำคัญ คราวนี้หากข้าสามารถแตะต้องพัดพรายเพลิงได้ ย่อมหมายความว่าสิ่งที่ข้าสู้ฝืนกระทำลงไปเมื่อราตรีล่วงผ่าน คือหนทางสู่การครอบครอง
หยวนหลงซานย่ำเท้าเข้าหาแท่นศิลากลางโถงถ้ำ เมื่อใกล้ระยะเอื้อมถึงแล้วจึงหยุดยั้งชั่วขณะลมหายใจเข้าออก
ข้าไม่ได้รักเจ้าปลายนิ้วข้าชะงักงันทันที คำพูดหยางเย่ถิง ณ ค่ำคืนกลางสระเสี้ยวเบญจมาศแปดเหลี่ยมดังสะท้อนผืนน้ำก้องกังวานไปทั่วทั้งห้อง
“คารวะ ประมุขหยวน”
ข้าจดจำน้ำเสียงของเหลียงจินได้ก็หันกลับมามองอีกฝ่าย เจ้าหนุ่มเหลียงไถจินสบตาข้าเพียงครู่ก่อนจะรายงานว่า
“เรียนประมุข หนังสือของหัวหน้าสีฝูเหยานั้นข้าทั้งสามคนคอยจนถึงปลายยามซวีก็ไม่ปรากฏพบเห็นตามนัดหมาย ครั้นล่วงเลยเวลาไปเนิ่นนานเพียงนั้นแล้วจึงชักชวนกันกลับมาที่พำนัก ทว่ากลับหาปะท่านไม่ ครั้นจะเที่ยวออกตามหา ก็มานึกถึงคำสั่งประมุขท่านได้ว่าให้กลับมารั้งรอยังหอเปลื้องอาภรณ์ ไม่ทราบว่าเมื่อคืนประมุขท่านไปสถานที่แห่งใดกับคุณชายรองหยางหรือขอรับ”
ข้าลอบถอนหายใจแล้วแสร้งยิ้มให้เหลียงจิน
“ขอบใจเจ้ามาก เหลียงจิน ข้อหนังสือลับนั้นเห็นว่าหัวหน้าสีคงไม่สบโอกาสเหมาะสม จึงไม่อาจส่งเข้ามาตามนัดหมายได้ เจ้าจงบอกปิงหวนและเป่าเหอตามคำสั่งข้า ให้ทั้งสองทำทีป้วนเปี้ยนสังเกตบริเวณประตูด้านทิศใต้ โดยอาศัยกิริยามีน้ำใจเที่ยวแจกจ่ายข้าวปลาอาหารบังหน้าไปสักสองสามราตรีนับจากนี้ หัวหน้าสีเห็นจะหาโอกาสสบช่องพอเหมาะส่งข้ามมา ก็ด้วยบัดนี้แม่นางเตียวหง ศิษย์เอกสำนักคมเบญจมาศนำพากำลังคนหนุนเนื่องสู่เฉินชิงหลุนกว่าสามร้อยยอดฝีมือ เวรยามตรวจตราจึงแน่นหนาขึ้นอีก ข้าเองก็ออกอุบายให้หยางเย่ถิงแบ่งสรรปันกำลังพลพ้นจากประตูทั้งสี่ทิศอยู่ หากเจ้าคุณชายรองตกบ่วงแล้ว หัวหน้าสีคงส่งเข้ามาได้เอง”
“ขอรับ”
ข้าเห็นว่าหมดธุระแล้วจึงพยักหน้าให้เหลียงจินกลับไปทำการ แต่เจ้าหนุ่มเหลียงยังคงยืนนิ่งคอยอยู่
“เจ้ามีเรื่องอื่นรายงานอีกหรือ เหลียงจิน”
“ข้าน้อย...”
“พูดมาเถอะ ข้ายินดีรับฟัง” ข้าเห็นความวิตกกังวลปรากฏบนหน้าเหลียงจินชัดเจน
“บัดนี้อาการประมุขท่านฟื้นคืนขึ้นมากแล้ว ข้าน้อยเห็นควรว่าพวกเราทั้งปวงควรเร่งหลบหนีจากเฉินชิงหลุนกลับคืนอวี้หงหยวนเถิดขอรับ”
ข้ายังมิได้ตอบคำใด เหลียงจินก็กล่าวต่อไปว่า
“เหตุว่าประมุขท่านลงรักษาตัวในสระเสี้ยวเบญจมาศจึงเกิดอาการธาตุน้ำเป็นพิษ อีกทั้งพิษจิ้งจอกเงินทุเลาลงกว่าแปดในสิบส่วน ปรมาจารย์เฉียนคงผู้เฒ่าพอมีชื่อเสียงเลื่องลือทางตำรับยาอยู่ อาการพิษอีกสองส่วนนั้นคงไม่เหลือบ่ากว่าแรงอาจารย์เป็นแน่ ฉะนั้นอาการธาตุน้ำเป็นพิษก็จะไม่บังเกิดกับประมุขท่านสืบต่อไป”
แววตาเป็นห่วงเป็นใยปรากฏทุกครั้งคราว ยามข้าตกอยู่ในภาวะอันตราย เหลียงจินไม่ต่างจากสหายร่วมทุกข์ร่วมสุข คำชี้แนะหนนี้หากข้าไม่ใส่ใจแล้วคงเหมือนกับตัดมิตรไร้น้ำใจ จึงพูดหยอกเย้าว่า
“เจ้าไม่ประสงค์แต่งงานกับหัวหน้าเสินหวู่หรือ”
เหลียงจินเกิดในครอบครัวยากจนแถบชนบทเมืองลั่วหยาง กำพร้าทั้งบิดาและมารดา ไม่มีพี่น้อง บิดาข้าพบเขาในสภาพเด็กชายอายุสี่ขวบ หนึ่งในผู้รอดชีวิตไม่กี่คนของหมู่บ้านที่ไม่ถูกฆ่าตายด้วยบรรดาฝีมือคนพรรคมารโคมแดง บิดาข้าจึงดูแลเขาไม่ต่างจากบุตรชาย และเหลียงจินก็นับถือหยวนเหวินหยวนดุจบิดาบุญธรรมอย่างเดียวกัน เหลียงจินจึงเป็นเพื่อนเล่นและคู่ฝึกวรยุทธให้แก่ข้ามาตั้งแต่จดจำความได้ กิริยาอาการรั้งรอแลดวงตาฉายแววซ่อนความนัยนี้มีหรือข้าจะไม่ล่วงรู้ แต่ก็ทำทีพูดจาเฉไฉในเรื่องอื่นเสีย หวังตัดความสงสัยของเจ้าหนุ่มเหลียง
“มิได้ขอรับ ประมุข แต่...”
ข้าควรตัดบทหรือให้เหลียงจินพูดความในใจดี ระหว่างใคร่ครวญคิดนั้น เหลียงไถจินก็รวบรวมความกล้าถามคำถามซึ่งข้าพยายามหลีกเลี่ยง
“ประมุขท่านตกเป็นของคุณชายรองหยางแล้วหรือขอรับ”ข้าใจหายวาบราวกับถูกจับกลได้ แต่ก็ปั้นกิริยาทำใจดีสู้พยัคฆ์แล้วว่า
“ข้าหรือจะพลาดพลั้งตกอยู่ในกำมือหยางเย่ถิง เคล็ดวิชาติดตัวข้าพอมีประดับกาย อีกทั้งวิชาพัดเสี้ยวจันทราขั้นแปดนี้มิใช่ได้มาโดยหลับหูหลับตาฝึกไม่ ไฉนเจ้าจึงคิดเห็นเป็นไปเช่นนั้นได้ เหลียงจิน”
“ข้าน้อยไม่อาจข่มตาหลับได้ตลอดราตรีกระทั่งใกล้รุ่งสาง ขณะนั้นประมุขท่านเพิ่งปรากฏตัวคืนสู่หอเปลื้องอาภรณ์ ใบหน้าเปล่งปลั่งไร้โรคภัย สะท้อนชัดว่าอาการธาตุน้ำเป็นพิษถูกถอนออกแลได้รับการเยียวยาแล้วนั่นต่างหากเป็นช่องให้ข้าบังเกิดสงสัย มิหนำประมุขท่านยังกำผ้าคาดศีรษะของคุณชายรองไว้ไม่ห่างกายเช่นนี้อีก วิธีรักษาโดยถ่ายทอดพลังหยินหยางซึ่งเจิ้งอู๋จินแนะนำว่าต้องร่วมสัมพันธ์สวาทนั้นได้ผลชัดเต็มตาเป็นลำดับมาเช่นนี้ ข้าน้อยไม่เห็นเป็นอื่นจึงซักถามตามสงสัย”
ในมือข้าถือผ้าคาดศีรษะของหยางเย่ถิงจริงดังคำเหลียงจิน ข้าลักลอบปลดออกมาเพื่อหวังใช้เป็นหลักฐานยืนยันต่อหน้ามังกรศิลา ว่าข้าได้กระทำรวมใจเป็นหนึ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“การรักษาธาตุน้ำเป็นพิษอาศัยการถ่ายเทพลังหยินหยางผ่านฝ่ามือเท่านั้น หาจำเป็นต้องร่วมหอเริงสวาทไม่ ข้าเข้าใจเจิ้งอู๋จินซึ่งรับรองจะให้หยางเย่ถิงรับตัวข้าเป็นฮูหยิน เหตุว่าจำต้องเปลื้องอาภรณ์ทั้งปวงออกก่อนจึงจะกระทำพิธีได้”
เจ้าหนุ่มเหลียงสบตาข้าแล้วยิ้มปนโศก หลังจากนั้นจึงกล่าวว่า
“เช่นนั้นคำของปิงหวนซึ่งได้ยินมาว่า คุณชายรองหยางมีอาการป่วยนั้นเห็นจะเป็นความจริง”
ข้าเหมือนได้ยินไม่ชัดก็ถลาลงมาจากแท่นศิลา ทะยานเข้าหาเหลียงจิน
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ”
“คุณชายหยางเย่ถิงมีอาการสมดุลธาตุผิดปกติขอรับ”
“ไยจึงไม่รีบแจ้งข้า ข้าจะไปดูอาการเจ้าคุณชายรองนั่นเดี๋ยวนี้”
ก่อนข้าจากมาไม่เห็นว่าหยางเยวี่ยนจะรู้สึกตัวก็ฉุกสงสัยอยู่แล้ว แต่มิได้คาดการณ์ว่าอีกฝ่ายจะกลับกลายสูญเสียสมดุลธาตุ
ท่าทีและสีหน้าข้าคงตื่นตระหนกเกินเหตุหรือไฉน เหลียงจินจึงกางกั้นแขนกักตัวข้าไว้
“ประมุขท่านจะโลดโผนไปในฐานะผู้ใดหรือขอรับ”
คำถามยอกย้อนของเจ้าหนุ่มเหลียงฉุดสติข้าคืนกลับมา
“
หยวนหลงซานหรือหยวนอวี้ฟ่าน ก็ขณะนี้ประมุขท่านยังคงร่างบุรุษอยู่ หากใจเร็วเร่งไปปรากฏตัวต่อหน้าคุณชายรองหยางมิถูกจับกลได้หรือ”
“ข้า...” หมดคำที่จะพูดใดๆโต้ตอบเหลียงจิน
“
กลับอวี้หงหยวนเถิดขอรับ อาการธาตุน้ำของประมุขท่านฟื้นคืนแล้ว ไม่มีเหตุจะต้องรักษาตัวอยู่ ณ เฉินชิงหลุนอีกต่อไป”
ราวกับมีผู้ใดเสียบปลายกระบี่ปักลงกลางใจข้า เจ็บแปลบเสียจนสติปัญญาไหวพริบมีอันถดถอยล้าหลัง
ขณะนั้นหลี่ปิงหวนและหวังเป่าเหอก็ถลันเข้ามาภายในโถงถ้ำมังกรศักดิ์สิทธิ์ด้วยอาการเร่งรีบพอกัน ก่อนปิงหวนคำนับแล้วเร่งรายงานว่า
“ยามเฝ้าทางเข้าสระเสี้ยวเบญจมาศมาเคาะประตูหอเปลื้องอาภรณ์พร้อมแจ้งว่า ที่ปรึกษาพรรคคมเบญจมาศประสงค์เข้าพบประมุขท่านในทันที โชคดีข้าทั้งสองเคยฝึกใช้เสียงปลอมเป็นสตรีอยู่ จึงตอบกลับไปว่า นายหญิงข้าพเจ้าแต่งโฉมอยู่ ขอให้เจิ้งอู๋จินรั้งรออยู่ก่อน แล้วจึงพากันมาหาท่าน”
เหลียงจินสบตาข้าซึ่งไม่อาจบัญชาคำสั่งใดก็ถือโอกาสนั้นช่วยพูดแทน
“ข้าเสนอให้ประมุขหยวนฟงหลบหนีกลับอวี้หงหยวนทันที ด้วยบัดนี้อาการพิษจิ้งจอกเงินทุเลาลงกว่าตอนแรกมากแล้ว อีกทั้งอาจารย์เฉียนคงผู้เฒ่าปรากฏกิตติศัพท์ด้านปรุงยารักษาคนอยู่ พิษที่หลงเหลือคงค้าง วิเคราะห์แล้วไม่เห็นเกินกำลังอาจารย์เราไปได้ พวกเรารีบไปกันเถิด”
แม้แต่ปิงหวนและเป่าเหอก็เห็นดีเห็นงามตามเหลียงจิน ต่างพยักหน้ารับรอง พร้อมกระชับกระบี่ในมือพร้อมสู้รบหลบหนีจากสำนักเฉินชิงหลุน
ใจข้าห่วงแต่อาการหยางเย่ถิง จริงอยู่พิษจิ้งจอกเงินอีกสองส่วนคงไม่เกินฝีมือปรมาจารย์เฉียนคง และข้าก็ไม่จำเป็นต้องพะวงอาการธาตุน้ำเป็นพิษอีกสืบไป แต่ประมุขพรรคเสี้ยวจันทราจะจากไปโดยมิได้ตอบแทนคนผู้ช่วยชีวิตข้านั้น ไม่อาจดำรงตนสืบต่อไปได้ ยิ่งมารับรู้ว่าเจ้าคุณชายรองนั่นเจ็บป่วยด้วยข้าเป็นเหตุซ้ำอีก คำแนะของเหลียงจินจึงทำให้ข้าได้แต่สั่นหน้า
ฝ่ายบรรดาเจ้าหนุ่มยอดฝีมือพรรคเสี้ยวจันทราทั้งสาม ครั้นมองเห็นกิริยาประมุขพรรคปฏิเสธโจ่งแจ้งเช่นนั้น ต่างสับสนอลหม่าน ทั้งร้อนอกร้อนใจหนักหนาอยู่
หยวนหลงซานมองบรรดาผู้ติดตามแล้วยิ้มฝืดเฝื่อน
“ปิงหวน เป่าเหอ เจ้าทั้งสองจงกลับไปเตรียมฉากม่านกำบัง ข้าจะออกรับที่ปรึกษาพรรคคมเบญจมาศด้วยตัวเอง” ******************************************
พูดคุย
เอาจิงดิ
55+ เรียบร้อยโรงเรียนหยาง
อื้อหือ รอตอนต่อไปค่ะ
ตอนใหม่มาแล้วครับ เป็นยังไงบ้างขอรับ
อุ๊บส์~
อิอิ
แงงงงงงง ขอบคุณขอรับ
แล้วถ้าได้กลับไปเป็นชายแล้ว คุณชายรองยังจะยินดีรับเป็นภรรยาอยู่อีกไหม
นั่นน่ะสิขอรับ ตอนนี้อาจจะยังไม่โป๊ะแตก แต่เมื่อไหร่ความแตกขึ้นมา คุณชายรองของเราจะทำยังไงน้า