- โปรดอย่ากีดกันผมกับชานมไข่มุก - [ตัวอย่าง]ตอนพิเศษ : อยากจะชวนเธอกินชานม~ P.12
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - โปรดอย่ากีดกันผมกับชานมไข่มุก - [ตัวอย่าง]ตอนพิเศษ : อยากจะชวนเธอกินชานม~ P.12  (อ่าน 47200 ครั้ง)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
น่าเหนื่อยใจไปกับพิชญ์จริง ๆ

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
พ่อพระเอกสองบาท น่าจะเกินๆ ล้นๆ นะ  :laugh:

หนักใจแทนพิชญ์จริงๆ เจอแต่ละคนๆ

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
เป็นร้านชานมไข่มุกที่ลุ้นระทึกทุกวันเลย 5555

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
         สนุกค่ะ

พิชนี่แนวโหดมันฮา เลยทีเดียว

รออ่านตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
พิช

จะ

เจ๊ง

ใหม

ลูก

สภาพ

แบบ

นี้

ค่า

ไข่มุก

ก็

จะ

ไม่

มี

ต่อทุน

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'
ตอนที่ 4 : กลยุทธ์ใหม่

   เช้าวันนี้เจอคุณคนแรกเจ้าเก่าเจ้าเดิม

   ผมชะโงกตัวออกจากเคาน์เตอร์ มองไปทางหน้าปากซอย จนมั่นใจว่าไม่มีภูมิ ไม่มีพี่พจน์ ไม่มีเงาร่างของกฤต ก็ถอนหายใจแล้วหันมายิ้มให้ลูกค้า

   “วันนี้รับอะไรดีครับ”

   “แนะนำหน่อยสิ”

   วันนี้ถามกลับด้วยวุ้ย ผมผายมือไปทางเมนูซึ่งวางเด่นหน้าเคาน์เตอร์ให้เขารับชม

   “ความจริงผมก็อยากแนะนำชานมไข่มุกนะครับ เพราะเป็นเครื่องดื่มที่ผมรักที่สุด แต่เห็นคุณลูกค้าดื่มสามวันติดแล้ว เลยแนะนำเป็นชาเขียวไข่มุกแทน นี่เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจของผม ชาเขียวนี้เป็นของชั้นดีที่เก็บมาจากยอดดอยของประเทศญี่ปุ่น เน้นเฉพาะยอดอ่อนใบชาเท่านั้น”

   “งั้นเอาชาเขียวไข่มุก”

   “ครับ” ขายของสำเร็จใครบ้างจะไม่ดีใจ ผมตั้งหน้าตั้งตาชงชาเขียวที่อวดอ้างสรรพคุณอย่างดิบดีทันควัน ในใจก็ท่องคาถาแห่งรักไปด้วยเพื่อให้รสชาติกลมกล่อมกำลังดี

   “ชาเขียวไข่มุก สามสิบห้าบาทครับ”

   “สามสิบ?”

   “สามสิบห้าครับ”

   “สามสิบไม่ได้เหรอ”

   “สามสิบห้าครับ”

   คุณคนแรกกับผมจ้องตากัน วินาทีนั้นเหมือนมีกระแสไฟฟ้าพาดผ่าน เป็นการประกาศสงครามแบบไม่มีใครยอมใคร เพราะนี่ก็ปาไปวันที่สี่แล้ว คุณคนแรกจะใช้สิทธิ์คนแรกเอาเปรียบผมตลอดไปไม่ได้!

   “สามสิบห้าก็สามสิบห้า” สุดท้าย คุณคนแรกก็เป็นฝ่ายยอมล่าถอย

   “สามสิบก็ได้ครับ” เช่นเดียวกับผมที่ไม่กล้าหักหาญน้ำใจลูกค้าประจำเพียงคนเดียวได้ลงคอ

   พวกเราชะงัก สงครามจ้องตาจบลงด้วยต่างคนต่างยอมแพ้ แล้วจะสรุปจบยังไง

   “งั้น...” คุณคนแรกหยิบถุงพลาสติกขึ้น แกะหนังยางออก แล้วนับเหรียญสิบให้ผมสามเหรียญ กับเหรียญสองบาทแสนคุ้นตาแถมให้ เพียงแต่ครั้งนี้ไม่ได้มีแค่เหรียญเดียว “พบกันครึ่งทาง สามสิบสองบาทห้าสิบสตางค์”

   มีเหรียญสตางค์ด้วย สมัยนี้ยังมีคนใช้อีกเหรอเนี่ย

   ผมยิ้มแหยๆ ให้เขา รับมาแบบไม่พูดอะไร กำลังคิดในใจอยู่เชียวว่าวันนี้จะได้เหรียญสองบาทรึเปล่า

   กลายเป็นกิจวัตรประจำวันของผมไปแล้วที่จะต้องเอาเหรียญมาผูกกับเชือกแขวน

   “รสชาติเป็นยังไงบ้างครับ” เห็นเขายืนดูดชาเขียวไม่ไปไหน แถมทำหน้าแปลกๆ ผมเลยอดถามไม่ได้

   “ก็ดี” คุณคนแรกเอ่ยแบบไม่รู้รักษาน้ำใจกันรึเปล่า เพราะเขาคล้ายจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ “เมื่อวาน...”

   “ครับ?”

   คุณคนแรกปรายตามองจุดเกิดเหตุเมื่อวานตรงพื้น

   “เสียดายชานมนะ”

   “ครับ เสียดายมาก” พูดถึงเรื่องนี้น้ำเสียงผมก็เศร้าสลดทันที ตอนเก็บเศษซากที่บรรจงชงด้วยหัวใจทิ้งใส่ถังขยะ เป็นอะไรที่เจ็บปวดทรมานแค่ไหนใครจะรู้ แต่คุณคนแรกคล้ายจะรู้ ถึงได้จงใจพูดขึ้นมา แล้วก็...หลุดขำ

   ขำอีกแล้วนะ เขาคงไม่ได้เห็นผมเป็นตัวตลกใช่มั้ย

   ผมปาดน้ำใสตรงหางตา มองเขาแบบเคืองนิดๆ พาลนึกเรื่องเมื่อวาน ปฏิกิริยาแรกเวลาโดนกระชากคอเสื้อคืออะไร ผมไม่รู้คำตอบหรอกนะเพราะคงจะมีหลากหลายมาก แต่หนึ่งในนั้นต้องไม่ใช่คว่ำชานมใส่หัวคนอื่นแน่ๆ

   เห็นชอบทำหน้าตาย เดี๋ยวหลุดขำเสียงเบา เดี๋ยวกระตุกมุมปากยิ้มนิดยิ้มหน่อย แต่ดันมือไวใจเย็นแบบน่ากลัว เหมือนกันนะนั่น

   สงสัยผมจะเหม่อนานไปหน่อย เพราะเงยหน้าอีกทีคุณคนแรกก็เดินออกจากซอยไปแล้ว สวนกับลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ปกครองจูงเด็กนักเรียนวัยประถมมาซื้อขนมแล้วเห็นเข้าโดยบังเอิญ แม้จะเป็นส่วนน้อยมากๆ เพราะโรงเรียนนี้ค่อนข้างมีระดับ ทำให้กำลังทรัพย์ของลูกค้ามักจะเลือกร้านชานมยี่ห้อดังหน้าปากซอยมากกว่า

   แต่ผมก็ไม่เดือดร้อนอะไร ใช้รอยยิ้มเข้าสู้

   แม้จะหน้าตาธรรมดา แต่ด้วยภาพลักษณ์ที่ดูราวคุณหนูดูสะอาดสะอ้านน่าเชื่อถือ ทำให้มักจะตกลูกค้าได้ร้อยละเจ็ดสิบหากเดินหลงเข้ามาแล้วยังไม่ได้ซื้อชานมร้านหน้าปากซอย

   “ตอนนี้มีโปรโมชั่นซื้อหนึ่งแถมหนึ่งนะครับ ลองเข้ามาดูเมนูก่อนได้นะครับ ไม่ซื้อไม่เป็นไร”

   ต้องขอบคุณความเป็นลูกคนเล็ก หน้าผมเลยมีมุมอ้อนน่ารักๆ แบบไม่มากเกินไปชวนให้ผู้ใหญ่เอ็นดู และด้วยความความตั้งอกตั้งใจชงเครื่องดื่ม ก็มักทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ

   สี่วันมานี้ก็เริ่มมีลูกค้าหน้าเดิมนอกเหนือจากคุณคนแรกแล้วนะเออ

   ช่วงเวลาที่จะขายได้เยอะคือช่วงเช้าที่ผู้ปกครองมาส่ง ช่วงเที่ยงที่จะมีคุณครูออกมาซื้อของกิน และช่วงเย็นที่จะมีผู้ปกครองมารอรับ ลูกค้าขาจรมีบ้างประปราย แต่กลุ่มหลักมักมาจากโรงเรียนประถมมากกว่า

   ผมเริ่มคิดจริงจังว่าควรจะโปรโมตแบบไหนดีก่อนจะปิ๊งไอเดียเมื่อเห็นเด็กตรงหน้าใช้กระเป๋านักเรียนแปะสติกเกอร์ลายการ์ตูนเต็มไปหมด

   อะไรนะ แล้วกฤตหายหัวไปไหนทำไมไม่มา

   ปล่อยหมอนั่นไปเถอะ ใช่ว่าเขาจะเป็นคนพูดจริงทำจริงสักหน่อยนี่!

   




   วันต่อมา หน้าร้านพิชพิชชานมก็เปลี่ยนโฉม ข้างป้ายร้านมีแสตนดี้เป็นตัวการ์ตูนสวมหน้ากากเท่ๆ ในชุดรัดรูปและผ้าคลุมสีน้ำเงินคาดเข็มขัดสีเหลือง ตรงอกสกรีนชื่อร้าน ชูมือข้างหนึ่งคล้ายซูเปอร์แมนกำลังเหาะเหิน ซึ่งในมือนั้นถือแก้วชานม

   แน่นอนว่าผมไม่ได้วาดเอง แต่ทันทีที่คิดได้เมื่อเช้าวาน ก็เปิดโน๊ตบุ๊คติดต่อจ้างงานแล้วส่งทำป้ายหน้าร้านใหม่รวมทั้งเปลี่ยนสติกเกอร์บนแก้วบรรจุภัณฑ์ด้วย

   เพราะเหตุนี้ ลูกค้าคนแรกของร้านผมจึงไม่ใช่คุณคนแรกอีกต่อไป

   ต้องขอบคุณผู้ปกครองที่จูงลูกมาซื้อหนังสือเรียนในซอย ทันทีที่เด็กเห็นตัวแสตนดี้ตั้งโดดเด่น แม้จะอยู่สุดซอย ก็ชี้นิ้วแล้วร้องเอ๊ะอย่างสนใจทันที

   เมื่อลูกสนใจ ผู้ปกครองก็ต้องตามใจ แม้ชานมจะราคาถูก ร้านดูไม่น่าเชื่อถือเทียบเท่าร้านหน้าปากซอย แต่เมื่อเห็นผมยืนต้อนรับด้วยสีหน้าน่าเอ็นดู ก็อดจะอุดหนุนไม่ได้

   “อันนี้คือบัตรสะสมแต้มครับ” ผมยื่นบัตรที่เพิ่งทำเสร็จหมาดๆ ให้ลูกค้า “หากครบสิบแต้มจะได้ฟรีหนึ่งแก้วครับ”

   ตัวปั๊มคือลายฮีโร่พิชพิช ส่วนตัวบัตรก็เป็นลายอวกาศ พอปั๊มลงไปแล้วเลยเหมือนฮีโร่กำลังถือชานมเหาะไปในอวกาศ

   เด็กน้อยตื่นตาตื่นใจดังคาด ถือบัตรสะสมแต้มไม่ปล่อย ส่วนผู้ปกครองเองเมื่อลองชิมก็ประทับใจในรสชาติ เปิดตัวได้น่าปลื้มปริ่มใจไม่เลว

   นับเป็นกลยุทธ์เริ่มต้นที่ดี!

   เพราะปัญหาของผมตอนนี้คือ...ร้านชานมหน้าปากซอยนั้นเป็นแบรนด์ดังน่าเชือถือระดับสิบเต็มสิบ หลากหลายสาขาเปิดทั่วประเทศ แถมยังรักษาคุณภาพได้อย่างดีเยี่ยม แม้ผมมั่นใจว่าเราจะใช้คุณภาพวัตถุดิบไม่ต่างกัน รสชาติคล้ายกัน แต่ใครเลยจะเชื่อถือกับร้านชานมโนเนมในซอยที่มีคนชงแค่คนเดียว กับร้านใหญ่ที่มีลูกน้องถึงเจ็ดคนในการรับออเดอร์และทำเครื่องดื่ม แม้หลายวันมานี้จะมีคนลองชิมชานมของผมแล้วชอบ แต่ก็เป็นแค่ 1% ของลูกค้าทั้งหมดที่ร้านใหญ่ได้รับ

   ลูกค้าส่วนมากยึดติดกับแบรนด์ แค่เห็นชื่อร้านดังก็ต่อคิวซื้อ ไม่สนใจไยดีหรือแม้แต่จะเชื่อว่าร้านผมกับร้านนั้นจะใช้วัตถุดิบชั้นดีเหมือนกัน ด้วยราคาที่แตกต่างกันถึงสองเท่า

   ผมเลยใช้กลวิธี...หลอกล่อเด็ก!

   สำหรับเด็กตัวน้อยวัยประถมที่มีผู้ปกครองพร้อมเปย์ คงไม่สนใจหรอกว่าชานมราคาเท่าไหร่ รสชาติต่างกันยังไง ความรอยัลต่อแบรนด์นั้นสำคัญแค่ไหน เอาแสตนดี้มาตั้งสะดุดตาสักหน่อยก็วิ่งโร่เข้าหาแล้ว

   อาจจะดูฉาบฉวยไปนิด แต่ผมต้องการเพียงให้ลูกค้าได้ลองว่าชานมของผมรสชาติอร่อยเหาะไม่ต่างกับร้านชื่อดัง นับเป็นการสร้างโอกาสดึงลูกค้าแบบเนียนๆ นั่นเอง!

   “ชานมไข่มุกหนึ่งแก้ว” คุณคนแรกซึ่งกลายเป็นลูกค้ารายที่สองของวันมองผมด้วยสายตาวิบวับยากเดาอารมณ์  คล้ายจะชื่นชมก็ไม่ใช่จะประหลาดใจก็ไม่เชิง

   สงสัยจะช็อกที่มาไม่ทันคนแรกสมฉายา ผมเลยเพิ่มไข่มุกให้เป็นกรณีพิเศษ

   “สามสิบบาทครับ”

   “น่ารักดีนะ”

   “ครับ?”

   ผมเงยหน้ามองเขาอึ้งๆ ก่อนจะทำความเข้าใจว่าคุณคนแรกหมายถึงลายตัวการ์ตูนบนแก้ว ไม่ได้หมายถึง...

   โอเค ถึงตอนนี้ก็ต้องรู้กันแล้วใช่มั้ยครับทุกคนว่าผมชอบผู้ชายน่ะ

   ในเมื่อแฟนเก่าของผมคือ...

   “ทำอะไรกันน่ะ!”

   ...คือผู้ชายหน้าหล่อที่เจ้าชู้แต่ดันขี้หึง ผมทำหน้าเหม็นเบื่อใส่กฤตซึ่งแทบจะปราดเข้ามากระชากคอเสื้อคุณคนแรกอีกครั้ง แต่โชคดีที่ครั้งนี้เขาไม่ได้มาคนเดียว เลยมีคนช่วยปราม

   หรือไม่ก็โชคร้าย เพราะคนคนนั้นดันเป็นไอ้ภูมิ

   “ตั้งสติสิวะ นั่นลูกค้า ทำร้ายเขาเดี๋ยวพิชญ์ก็โกรธไม่ยอมคุยหรอก” ไอ้ภูมิที่เคยเจอคุณคนแรกแล้วในวันแรกหันมายิ้มขอโทษขอโพยอย่างรู้งาน หมอนี่ดีอย่างตรงที่แม้ชอบกร่างแต่ก็รู้ว่าใครกร่างได้ใครกร่างไม่ได้ ครั้งก่อนโดนผมขู่จนวิ่งหนี วันนี้เลยใช้กลยุทธ์ใหม่ทำตัวเป็นสหายแสนดี แถมยังหวังดีมากๆ อยากให้คู่รักคืนดีกัน

   ซะที่ไหน

   มันแค่อยากให้ผมกลับบ้านหรอก ส่วนที่ลากกฤตมาเนี่ยคือความเข้าใจผิดล้วนๆ ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเข้าใจยากตรงไหน ผมอยากเปิดชานมไข่มุกกับเลิกกับกฤตนั้นคนละเรื่องกัน ทำไมถึงแยกไม่ออกสักที ชอบจับโยงอยู่ได้ น่ารำคาญชะมัด

   แล้วกฤตทำไมถึงหน้าแดงขนาดนี้ อืม...จากที่เดินตัวเซ กลิ่นเหล้าหึ่ง ไม่บอกก็รู้ว่าเมื่อคืนคงไปโต้รุ่งมา สนุกสุดเหวี่ยงเลยสิท่า ไม่มีผมคอยคุมแล้วนี่

   “พิชญ์ ดูสภาพกฤตสิ มันเสียใจที่พิชญ์ไม่ยอมคืนดีด้วยจนเมาหัวราน้ำมาสองคืนแล้ว”

   เสียใจหรือดีใจกันแน่ ผมเอียงศีรษะพลางพิจารณาสารร่างแฟนเก่าอย่างไร้ความรู้สึกรักโลภโกรธหลงโดยสิ้นเชิง

   “พิชญ์จ๋า เราสำนึกผิดจริงๆ นะ จะ...ฮึก...จะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว” กฤตรีบพูดเสริม พยายามกลั้นน้ำตาน่าสงสารเหมือนเป็นผู้ถูกกระทำจนจิตใจร้าวรานแทบแหลกเป็นเสี่ยง ประหนึ่งคนอกหักรักคุดที่เมามายหัวราน้ำไม่เป็นอันกินอันนอนจริงๆ

   “อย่ามายืนขวางแสตนดี้หน้าร้านฉัน” ผมโบกมือไล่ทั้งสองคนเหมือนปัดแมลงวัน และนั่นก็ทำให้ภูมิเพิ่งเห็นความเปลี่ยนแปลงแตกต่างกับวันแรกที่มา

   “ตัวอะไรน่ะ น่าเกลียดจัง”

   ไอ้ภูมิผู้ไร้ศิลปะในหัวใจ

   “อย่างอนเป็นเด็กๆ เลยน่าพิชญ์ กลับกันเถอะ กฤตก็สำนึกผิดแล้วนี่ไง”

   ตรงไหนของสภาพกฤตที่ดูสำนึกผิดวะครับ แค่ดื่มเหล้าทำตัวโทรม แล้วจะทำให้ผมเห็นใจยอมอภัยได้รึไง ใช้สมองส่วนไหนคิดไม่ทราบ

   “แล้วโทรศัพท์ที่พี่พจน์ซื้อให้ทำไมไม่เปิดเครื่อง” ไอ้ภูมิถามย้ำ ขยันก้าวก่ายชีวิตกูจังนะเพื่อน

   ผมคลึงขมับ ปวดหัวจี๊ดขึ้นมาเลยด้วยความโกรธ

   “อย่าเงียบสิพิชญ์ จู่ๆ ก็หนีมาเปิดร้านชานมทุกคนเป็นห่วงมากนะ กฤตก็มาง้อแล้ว พี่พจน์ก็มาตามแล้ว ยังต้องการอะไรอีก ถ้ายังโกรธเรื่องนั้นอยู่...กฤตสัญญาว่าจะไม่ทำอีกแล้ว”

   “ใช่ๆ เราสัญญาว่าจะไม่ทำอีกแล้วนะพิชญ์”

   ช่างเป็นคู่ที่รับส่งจังหวะดีเยี่ยมจนอยากจะชงให้พวกเขาคบกันเองให้สิ้นเรื่องสิ้นราว

   “ถ้าใจเย็นแล้วก็กลับไปคุยกันดีๆ เถอะ ทุกคนรออยู่นะ ส่วนร้านนี้ก็ปิดไป ยังไงก็ไม่มีเหตุผลต้องเปิดแล้วนี่”

   ผมโกรธมาก

   โกรธมาก โกรธมากมาก และโกรธมากถึงมากที่สุด

   โกรธทั้งไอ้ภูมิ พี่พจน์ และกฤตที่ไม่เคยเข้าใจอะไรเลย!

   “พิชญ์...โอ๊ย!” ภูมิอุทานลั่นเมื่อจู่ๆ ก็โดนอะไรปาใส่หน้า สิ่งของนั้นเย็น เป็นก้อนแข็ง หรือก็คือ...น้ำแข็งนั่นเอง

   ผมโกรธจนอยากจะทำอะไรสักอย่าง และอะไรสักอย่างที่ว่านั่นก็คือการปาน้ำแข็งใส่หน้าภูมิ ในร้านนี้อุปกรณ์และวัตถุดิบการชงเครื่องทั้งหมดล้วนมีค่า จะมีก็แต่น้ำแข็งที่เหมาซื้อมาทั้งถังนี่แหละที่พอจะเย็นมือและช่วยให้เย็นใจขึ้นบ้าง

   “พิชญ์ หยุดก่อน...โอ๊ย”

   น้ำแข็งแบบหลอดสะอาดปลอดภัยช่างปาได้ถนัดมือ แถมพอโดนแสงอาทิตย์ก็ละลายพ่วงระเหิดหายไม่ต้องตามเก็บด้วย และถ้ามองจากบุคคลภายนอก ก็แทบจะมองไม่เห็นว่าเจ้าของร่างผู้อัธยาศัยดีคนนี้กระทำการโหดเหี้ยมยังไงเพราะน้ำแข็งก้อนเล็กและสีใส มีแต่คนเมากับไอ้ภูมิที่ร้องโอ๊ย อ๊าก โอ๊ย อ๊ากไม่หยุดปาก

   ฉลาดจริงๆ นายพิชญ์

   ด้วยความประหยัด ผมเลยปาทีละก้อน ปาไปปามาก็เริ่มจะใจเย็นลงแล้วเพราะภูมิลากกฤตวิ่งหนีหางจุกตูดไป แต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่เคยกล้ากับผมเวลาโกรธจัดสุดขีดจนพูดอะไรไม่ออกแล้วลงมืออย่างเดียว สมัยเด็กที่โดนต่อย ผมก็ไม่พูดอะไรแล้วต่อยเอาๆ

   สองคนมาใหม่วิ่งจากไป

   แต่คุณคนแรกยังยืนยิ้มอยู่ที่เดิม

   นึกสภาพตัวเองเมื่อกี้ก็น่าอับอายอยู่เหมือนกัน เปิดถังน้ำแข็งแล้วหยิบปาหยิบปา โคตรทุเรศเลย

   “ปิดหน้าทำไม”

   “มือมันเย็นดี”

   คุณคนแรกหลุดหัวเราะพรืดจนได้ แต่ผมก็แสร้งใช้มือเย็นๆ นาบหน้าตัวเองแก้ความอับอาย พอแง้มนิ้วมองดูก็เห็นว่าคุณคนแรกเดินกลับออกไปหน้าปากซอยแล้ว

   ไม่รู้ว่าดวงสมพงศ์หรืออะไร เขาถึงมักเห็นฉากความวุ่นวายของคนรู้จักผมทุกที

   ซึ่งก็ต้องขอบคุณเขานะ...ที่เอาแต่ชมมอง โดยไม่เคยถามอะไรเลย

   “เกือบลืม”

   “เฮ้ย!” ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ๆ คุณคนแรกก็เดินวกกลับมาตอนกำลังก้มหน้าก้มตาจับนู่นจับนี่แบบงุ่นง่าน ไม่เกี่ยวกับเขาหรอก แต่มันเคืองใจน่ะครับว่าเมื่อไหร่ภูมิจะเลิกวุ่นวายกับผมสักที กฤตน่ะเป็นพวกผีเข้าผีออก บทอยากจะมาก็มาอยากจะไปก็ไป ส่วนพี่พจน์นั้นรู้จักความหัวแข็งของผมดี เขาเลือกเป็นฝ่ายรออยู่ห่างๆ แบบห่วงๆ เหมือนพ่อกับแม่ เชื่อว่าเดี๋ยวเบื่อผมก็กลับเอง เหลือภูมิอยู่คนเดียวที่มุ่งมั่นซะเหลือเกิน แล้วยังพยายามโยงคนนู้นคนนี้มาร่วมด้วยไม่ยอมหยุด

   ก็ใช่จะไม่รู้เหตุผล

   ผมหลุดยิ้มเยาะเมื่อนึกถึงเพื่อนสมัยเด็ก ก่อนจะปรับอารมณ์แทบไม่ทันเพราะโดนคุณคนแรกจ้องเอาๆ

   “ลืมอะไรเหรอครับ”

   “แบมือ”

   คุณคนแรกกำมือยื่นออกมา ผมเลยต้องแบมือรอรับของสิ่งนั้นอย่างว่าง่าย และจะเป็นอะไรไปได้ ถ้าไม่ใช่...เหรียญสองบาท

   “เดี๋ยวจะไม่ครบคอลเลกชั่น” คุณคนแรกเอ่ยเสียงเรียบ ก่อนจะเดินถือชานมเดินออกจากปากซอยไปแบบไม่คิดอะไรลึกซึ้งแต่ดันทำให้คนรับคิดไม่ดีซะงั้น ผมมองเหรียญสองบาทแล้วโคลงศีรษะ สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับ คือพอจับไอ้เจ้าเหรียญสองบาททำเป็นเครื่องรางแล้วช่วยเสริมสร้างแรงฮึดจริงๆ

   อย่างน้อยก็มีคุณคนแรกที่ชื่นชอบชานมของผม

   อย่างน้อยก็มีคุณคนแรกที่รอเปิดร้านทุกเช้า

   แค่นั้นก็มีความหมายกับผมมากมายแล้ว


   --------------------

   ก็จะหวานๆ น่ารักกันประมาณนี้นะคะสำหรับเรื่องนี้

   คุณคนแรกมาจีบแบบเนียนๆ พิชญ์เองก็แอบอ่อยแบบเนียนๆ เรียกว่าชานมไข่มุกสื่อรักก็ได้นะนี่ ต้องปลอบใจพี่พจน์แล้วเพราะกว่าพิชญ์จะกลับบ้าน น่าจะได้แฟนควงกลับไปด้วย 5555 ยังไงก็ตาม...ร้านชานมเริ่มเป็นรูปเป็นร่างเริ่มมีลูกค้าเพิ่มขึ้นมาแล้ว สู้เขานะพิชญ์!!

   

    #ผมกับชานมไข่มุก

   

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
ปรับกลยุทธ์ใหม่ขอให้มีลูกค้าเข้าร้ายเยอะ ๆ น้า

คุณคนแรกน่าจะให้เหรียญครบทุกค่าเงินนะคะ จะได้มีเป็นครอบครัว

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
วันนี้ก็ซื้อชาเขียวไข่มุกกินดูดไปนึกน้องพิชก็ตามส่องนิยายต่อดูดไปอ่านไป หวานชื่นใจ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
กินทุกวัรแบบนี้เบาหวานไม่ถามหาหรือคะ

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
ติดใจชาไข่มุกหรือติดใจเจ้าของก็ไม่รู้น้าาา :z1:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
          ตอนน้ำแข็งระเหิด ต้องใช้ละลายแล้วระเหยจะถูกกว่านะค่ะ
เพราะระเหิดใช้กับของแข็งเช่นลูกเหม็น,น้ำแข็งแห้ง เช่นจากของแข็งเปลี่ยนสถานะเป็นไอหรือก๊าสโดยไม่ผ่านสถานะเป็นของเหลวค่ะ

น้องพิชญ์เปลี่ยนกลยุทธ์มาเเนวเรียกลูกค้าตัวน้อย
แบบนี้เด็กๆคงมาเป็นลูกค้าเพียบ
ตัดหน้าคุณคนเเรกที่จะต้องมาคนแแรกซินะ
คุณเค้าต้องรีบๆมาแล้วนะเดี๋ยวจะไม่สมชื่อคุณคนเเรก อิอิ
อ่านเพลินทุกตอนเลยค่ะ สนุก น่าติดตาม รออ่านตอนต่อไปนะค่ะ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
อยากรู้ประวัติคุณคนแรกแล้วซิ


 :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
จีบเนียนไปมั่ยคุณลูกค้าคแรก เนียนจนไม่รุ้ว่าจีบง่ะ หยอดวันสองบาทๆงี้เหรอ

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'
ตอนที่ 5 : ความเปลี่ยนแปลง



   กลยุทธ์ใหม่ช่วยเรียกลูกค้าหน้าใหม่ที่ไม่เคยคิดจะลิ้มลองได้ตกหลุมรักกับพิชพิชชานม

   จากขายได้วันละไม่กี่สิบแก้ว ก็เริ่มเพิ่มขึ้นทีละนิด และในที่สุด...

   ก็มีคนต่อแถวเข้าคิวหน้าร้านผมแล้ว!

   เพียงเห็นน้ำตาก็แทบไหล นี่สิถึงจะสมกับความอุตสาหะของตลอดสองอาทิตย์ ครับ ผมเปิดร้านได้สิบสี่วันแล้ว ด้วยกำลังใจจากคุณคนแรกที่มาเยี่ยมเยือนไม่เคยห่างหาย และเริ่มหมดมุกกับการให้เหรียญสองบาท เลยจ่ายด้วยเหรียญหนึ่งบาทยี่สิบแปดเหรียญ แล้วตบท้ายด้วยเหรียญสองบาททุกวัน จนตอนนี้เชือกแขวนไม่พอแล้ว และชักจะน่ากลัวขึ้นทุกที เพื่อไม่ให้ลูกค้าหน้าใหม่คิดว่าผมเล่นไสยศาสตร์ ผมเลยเอาเหรียญสองบาทของคุณคนแรกเก็บในกระปุกใส ตั้งไว้ตรงเคาน์เตอร์ด้านใน ให้ผมเห็นแค่คนเดียว

   แต่คงลืมอธิบายให้คุณคนแรกฟัง

   เพราะพอเห็นเครื่องรางตรงกำแพงหาย เขาก็ชะงักกึกเหมือนหุ่นยนต์ถ่านหมด

   “รับอะไรดีครับ” ไม่รู้ทำไมผมถึงยิ้มออกกับท่าทางนั้น

   เกือบลืมบอกไป หลังเริ่มมีลูกค้าเพิ่มขึ้นในช่วงเช้า คุณคนแรกที่คล้ายจะไม่ชอบต่อแถวตอนคนเยอะก็เลือกจะมาหาผมตอนโรงเรียนเคารพธงชาติแทน ทุกครั้งที่มีเสียงเพลงดัง คุณคนแรกจะมายืนตรงแด่วหน้าร้านผม โดยปราศจากลูกค้าคนอื่นเพราะหลังส่งลูกส่งหลานเสร็จผู้ปกครองก็รีบชิ่งไปทำงานกันหมด

   ดูจากท่าทางเอ้อระเหยลอยชายแสนจะคุ้นชินและคุ้นหน้าคนแถบนี้ คุณคนแรกน่าจะเปิดร้านค้าแถวโรงเรียนเนี่ยล่ะ แถมยังชอบชานมมากๆ ด้วย แต่เขาไม่สะดวกจะไปนับเหรียญหน้าร้านชานมชื่อดังราคาแก้วละเกือบร้อย เลยกลายเป็นลูกค้าประจำร้านผมโดยปริยาย

   “ชานมไข่มุกหนึ่งแก้ว”

   “วันนี้สะสมแสตมป์ครบสิบดวงพอดี จะใช้สิทธิ์ฟรีหนึ่งแก้วเลยมั้ยครับ” ผมถามโดยไม่ขอดูบัตรสะสมแต้มด้วยซ้ำ เพราะผมเริ่มพลิกโฉมร้านในวันที่สี่ และวันนี้ก็เป็นวันที่สิบสี่ เท่ากับว่าครบสิบดวงพอดีไม่ขาดไม่เกิน

   “ก็ได้” คุณคนแรกดูจะไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ สังเกตจากอะไรน่ะเหรอครับ ก็...เอ่อ...จากคิ้วที่ขมวดน้อยๆ นั่นไง!

   แปลกๆ ชอบกลที่ทำตัวเหมือนตัวเองว่างจัดจนสังเกตสีหน้าลูกค้า ผมรีบชงชานมด้วยใจรัก นึกดีใจที่ไอ้ภูมิกับกฤตเลิกวุ่นวายกันสักที ใช่ว่าพวกเขาจะตัดใจง่ายๆ หรอกนะ แต่จนปัญญาจะเกลี้ยกล่อมผมแล้ว มากี่ครั้งก็โดนไล่ตะเพิดทุกครั้ง ล่าสุดผมซื้อสเปรย์พริกไทยเตรียมไว้เลย เห็นหน้าพวกนั้นปุ๊บก็ฉีดใส่ปั๊บ

   “ขอยืมปากกาหน่อย”

   “ได้ครับ” ถูกขัดจังหวะการเติมความรักใส่ชานม ผมงงนิดหน่อยแต่ไม่เข้าใจมากๆ เพราะไม่เห็นว่าคุณคนแรกจะถือกระดาษหรือของที่ใช้จดบันทึกได้ ส่งปากกาให้ปุ๊บก็จดจ่อกับชานมต่อ ดูสีน้ำนมนวลเนียนและกลิ่นหอมอ่อนๆ นี่สิ...เห็นแล้วก็ภูมิใจในตัวเองเหลือเกินที่ชงชานมได้น่ารับประทานขนาดนี้

   “ชานมไข่มุกแบบเจาะหลอดได้แล้วครับ”

   ผมประคองแก้วขณะคุณคนแรกส่งบัตรสะสมแต้มที่ถูกปั๊มจนเต็มพร้อมปากกาคืนให้

   พวกเราสบตากันในชั่วอึดใจ ผมสงสัยว่าเขาจะถามเรื่องเครื่องรางรึเปล่า ส่วนคุณคนแรกนั้น...คล้ายจะเดาอารมณ์ ‘ถามสิ ถามสิ’ ของผมได้ เลยยิ้มขำออกมาวูบหนึ่ง

   แล้วก็เดินออกไปเลย

   ผมยืนเอ๋อ มองเงาร่างนั้นจนลับตา เมื่อแน่ใจว่าเขาไม่ย้อนกลับมาอีกแน่ก็เกาหัวงงๆ

   “สงสัยจะไม่มีเพื่อนมาเพิ่มแล้วนะ” ผมเขี่ยกระป๋องใสใส่เหรียญสองบาทด้วยความมึนงง ไม่ใช่ว่ารู้สึกแย่ เพราะนี่ไม่ใช่การบังคับที่ต้องทำ แต่จะว่ายังไงดีล่ะ...มันเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันที่พอขาดไปแล้วมันวูบโหวงอย่างบอกไม่ถูก

   แต่พอเห็นบัตรสะสมแต้มใบแรกที่ปั๊มครบทั้งสิบดวงแล้วผมก็ปลื้มจัด เก็บใส่ลิ้นชักอย่างดีก่อนจะตาไวเห็นตัวอักษรด้านหลังบัตร

   ผมพลิกดูทันที ก่อนจะยืนนิ่งด้วยความรู้สึกพูดไม่ออกบอกไม่ถูก

   ตัวอักษรที่ถูกเขียนด้วยปากกาสีน้ำเงินตวัดอย่างลวกๆ นั้น...คือตัวเลขสิบหลัก

   ไม่ คุณคนแรกไม่ได้จะใบ้หวย แต่คือเบอร์โทรศัพท์ต่างหาก!

   





   ขอย้ำอีกครั้ง ผมชอบผู้ชาย

   และสำหรับคุณคนแรกที่เจอแฟนผมถึงสองครั้ง ก็คงเดาได้ว่าผมมีรสนิยมยังไง

   โทรศัพท์ที่พี่พจน์เอามาให้และไม่เคยเปิดใช้สักครั้งถูกหยิบขึ้นมาในวันนี้ ผมบันทึกเบอร์โทรศัพท์สิบหลักในเครื่องที่มีรายชื่อผู้ติดต่อแค่ห้าเบอร์ ประกอบด้วยพ่อ แม่ พี่ชาย ไอ้ภูมิ และ...คุณคนแรก

   ไม่ ผมไม่ได้จะโทรหาเขา แค่บันทึกไว้เฉยๆ กันทำบัตรสะสมแต้มหาย ก็ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมต้องกลัวหายด้วย แต่ก็ไม่ได้เสียหายอะไรไม่ใช่เหรอ ถึงผมจะอกหัก ก็ใช่ว่าจะปิดตัวเอง ความสัมพันธ์กับคุณคนแรกนั้นยากนิยาม เอาจริงๆ ผมก็รอดูอยู่หลายวันแล้วว่าเขาจะเอายังไง

   เหมือนจะจีบแต่ก็ไม่จีบ เหมือนจะสนใจกันแต่ก็ไม่เคยพูดเกินสามประโยค มาซื้อชานมแล้วก็ไป ให้ของแทนใจเป็นเครื่องรางด้วยเหรียญสองบาท แม้ผมจะไม่มีประสบการณ์ความรักโชกโชน แต่ก็ไม่ได้โง่ขนาดไม่รู้อะไรเลยว่านี่มันเกินกว่าเจ้าของร้านชานมกับลูกค้าแล้ว!

   แต่ถ้าถามว่าจะคืบหน้าไปถึงไหน จะลงเอยหรือไม่

   นั่นเป็นเรื่องของอนาคต

   เมื่อเขาเริ่มชัดเจน ผมก็พร้อมเปิดโอกาส แต่จะรอดหรือร่วงนั้นใครเลยจะรู้ ผมมองโทรศัพท์แล้วนึกลังเลเล็กน้อย ไหนๆ ก็เปิดแล้ว...โทรไปหาแม่ดีกว่า

   (( พิชญ์เหรอลูก ))

   “ครับ” เสียงของแม่ฟังตกใจมากกว่าดีใจ อืม...ผมก็ว่าตัวเองไม่ได้เป็นลูกกตัญญูขนาดนั้นนะ “ชานมที่ผมฝากพี่พจน์ไปให้เมื่ออาทิตย์ก่อน แม่ชิมรึยังครับ อร่อยมั้ย”

   (( อร่อยจ้ะ แต่พิชญ์ไม่ได้ฝากพจน์มาให้ แต่บังคับพจน์ซื้อแล้วเอามาให้พ่อกับแม่ไม่ใช่เหรอ ))

   แม่หัวเราะกึ่งแซว

   (( แล้วจะกลับบ้านเมื่อไหร่ พิชญ์หนีไปเกือบสามเดือนแล้วนะคะ น่าจะกำลังเบื่อแล้วนี่ ))

   “ผมกำลังสนุกต่างหาก” ผมเบ้ปาก

   (( อ้าว แม่ก็นึกว่าโทรมาเพราะอยากกลับบ้านแล้ว ยังกลัวแพ้พนันพ่ออยู่เลยค่ะ รายนั้นเดาว่าพิชญ์กลับก่อนสามเดือน แต่แม่เห็นครั้งนี้พิชญ์ตั้งใจมาก แล้วยังเรื่อง...นั้นอีก คิดว่ายังไงก็ต้องเกินสามเดือน ))

   เวรกรรมชีวิต พ่อกับแม่เอาเรื่องผมมาพนันเล่นกันซะงั้น

   “แม่เตรียมฉลองเถอะครับ ผมก็ยังไม่กลับเร็วๆ นี้หรอก” ผมยืนพิงเคาน์เตอร์ด้วยสีหน้าหน่ายเซ็ง ถ้าจะโทษ ก็ต้องโทษตัวเองที่ก่อนหน้านี้เอาแต่ทำตัวไร้หลักแหล่ง เปลี่ยนงานอดิเรกเป็นว่าเล่น

   (( กฤตมาหาแม่ด้วยนะ ))

   ผมชะงัก นึกไม่ถึงว่ากฤตจะเข้าหาพ่อกับแม่ เพราะครอบครัวผมไม่ค่อยต้อนรับเขานัก

   (( เขามาขอโทษที่ทำให้ลูกเสียใจจนหนีออกจากบ้าน อยากให้พ่อกับแม่ช่วยกล่อมพิชญ์ค่ะ ))

   ผมหัวเราะเหอะๆ เสียใจเรื่องกฤตจนหนีออกจากบ้าน? สำคัญตัวเองเกินไปแล้ว!

   (( กฤตเขาสำนึกผิดมากเลยนะคะพิชญ์ ถึงแม่จะเคยคัดค้าน แต่ก็อดเห็นใจเขาไม่ได้ ถ้ายังไง... ))

   “แม่ครับ ผมกับกฤตเราเลิกกันแล้ว แม่เข้าใจคำว่า ‘เลิก’ ของผมใช่มั้ยครับ”

   แม่เงียบไปอึดใจหนึ่ง เธอคงนึกถึงสารพัดงานอดิเรกของผมที่บทอยากจะทำขึ้นมาก็ลุยไม่ฟังใคร แต่บทจะเลิกก็เลิกเอาดื้อๆ ไม่แม้แต่จะย้อนกลับไปลองอีก

   ใช่ ผมไม่เคยย้อนกลับไปหาอะไรก็ตามที่เคย ‘ทิ้ง’ ไปแล้ว

   (( แล้วภูมิล่ะคะ ))

   “...”

   (( พิชญ์สนิทกับภูมิตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะทำอะไรก็มักลากภูมิไปด้วยไม่ใช่เหรอ ทำไมครั้งนี้ถึงทิ้งภูมิล่ะคะ เขาไม่มีใครนอกจากลูก พิชญ์รู้ใช่มั้ยคะ ครั้งนี้ที่ภูมิโกรธ ไม่ใช่เพราะพิชญ์หนีออกจากบ้าน แต่เพราะพิชญ์หนีไปเปิดร้านชานมโดยไม่บอกเขาต่างหาก ))

   ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงดีว่าไม่เคยลากภูมิไปไหนด้วย แต่เป็นภูมิต่างหากที่เกาะติด ผมทำอะไรเขาก็ทำตาม สมัยเรียนยังโดนล้อว่าเป็นเงาตามตัวผมเลย ตอนผมไปเรียนต่อยมวย ภูมิก็ช่วยถือกระสอบทราย ตอนผมตีเทนนิส ภูมิก็มาเป็นคู่ซ้อม ตอนผมตีกอล์ฟ ภูมิมาเป็นแคดดี้ให้ ตอนผมสะสมแผ่นหนัง ภูมิก็ดูเป็นเพื่อน ตอนผมคบกับกฤต มันยังตามเฝ้า เรียกว่าแทบจะทุกช่วงชีวิตของผมมีภูมิอยู่เสมอ

   ก็ไม่แปลกที่มันไม่เข็ดสักทีแม้จะโดนผมไล่ด้วยสารพัดวิธีพิสดาร

   “แค่นี้ก่อนนะครับ”

   ผมวางสายแม่ ขณะเงยหน้ามองดูผู้ชายหัวทองหน้าโฉด แต่ดันหงอกับผมคนเดียว

   มือพร้อมหยิบสเปรย์พริกไทยแล้ว แต่ครั้งนี้ภูมิมาแปลก เขาไม่ได้มาถึงก็โวยวายให้ผมกลับบ้าน ไม่ได้อ้างถึงพี่พจน์ ไม่ได้อ้างถึงกฤต แต่กลับมองหน้าผมนิ่งๆ แล้วเอ่ยว่า...

   “ชานมไข่มุกหนึ่งแก้ว”

   ผมคิดว่าตัวเองหูฝาด

   “...อะไรนะ”

   “ชานมไข่มุกหนึ่งแก้ว!” ภูมิเอ่ยเสียงกระแทก ดูจากสีหน้าก็รู้ว่าไม่ได้อยากจะกินหรอกไอ้ชานมไข่มุกเนี่ย แต่หมดหนทางจะตามตัวผมกลับแล้วจริงๆ เลยหาทางลงที่อย่างน้อยก็คุยกันดีๆ ได้

   เห็นคนกินไม่อยากจะกิน คนชงอย่างผมก็หมดอารมณ์จะชงเหมือนกัน แต่ด้วยจรรยาบรรณ ผมเลยตั้งอกตั้งใจชงชานมแล้วเจาะหลอดส่งให้ภูมิ

   “สามสิบบาท”

   ภูมิยื่นแบงก์ยี่สิบกับเหรียญสิบบาทให้พอดีเป๊ะ

   “จะเอาบัตรสะสมแต้มมั้ย”

   “บัตรอะไรนะ” ภูมิทำหน้าเหวอ

   “บัตรสะสมแต้ม” ผมชูบัตรลายอวกาศที่ประทับตราฮีโร่พิชพิชให้ภูมิดู เขาทำหน้าไปไม่เป็น อีกนิดเกือบจะสบถว่า ‘ตัวอะไรวะ’ แต่เพราะไม่อยากให้บรรยากาศดีๆ อย่างนี้เสียซะก่อน เลยพยักหน้ายอมรับมาแบบจำยอมสุดๆ “ถ้าไม่อยากได้ก็ไม่ต้องเอา”

   เห็นความกล้ำกลืนฝืนทนนั่นแล้วผมก็นึกเสียดายบัตรสะสมแต้มซึ่งควรอยู่กับผู้ที่คู่ควร

   “เฮ้ย เอาสิเอา เอามาเถอะ” ท่าทางแข็งๆ กลายเป็นอ่อนยวบในทันที ภูมิเกือบจะยกมือไหว้ผมแล้ว พอได้รับก็รีบเก็บใส่กระเป๋าสตางค์ เก็บรักษาอย่างดี

   จากนั้นความเงียบก็เข้าแทรก

   “พิชญ์...” ภูมิดูดชานม แต่ไม่ค่อยจะรู้รสสักเท่าไหร่เพราะสนใจเรื่องอื่นมากกว่า “ทำไมถึงหนีมา”

   “...”

   “หรือจะไม่ใช่เพราะกฤต”

   ผมถอนหายใจเฮือก ในที่สุดเขาก็รู้สักทีว่ากฤตไม่ได้มีความสำคัญขนาดนั้น!

   “ถ้าไม่ใช่เพราะกฤต หรือจะเป็นเพราะ...กู?”

   เห็นสีหน้าลังเลแกมสิ้นหวังนั่นแล้ว ผมก็ถอนหายใจเฮือก

   “ไม่ใช่”

   “งั้นเพราะอะไร”

   “แล้วทำไมฉันต้องบอกนายด้วย”

   “ก็เพราะว่ากูเป็นเพื่อน!” ภูมิกระแทกเสียง บีบแก้วชานมจนไข่มุกแทบกระฉอกผ่านหลอด “เพื่อนที่คบกันมาสิบกว่าปี! กูต่างหากที่ควรถามว่าทำไมมึงถึงไม่บอก เพราะอะไรวะพิชญ์!!”

   คุณยายร้านปักเสื้อชะโงกหน้ามองอีกแล้ว พอเห็นผู้ชายหน้านักเลงเซ็ตหัวตั้งๆ โกรธจัดจนตาแดง ก็ทำท่าเหมือนจะโทรหาตำรวจ ผมหันไปยิ้มปลอบโยนคุณยาย ท่านจึงกลับไปนั่งตากพัดลมด้านในร้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

   “พิชญ์!”

   ในใจอยากตอบว่า ‘อย่าเสือก’ แต่คงแรงและทำร้ายจิตใจเพื่อนคนนี้มากไป ซึ่งภูมิคงไม่ยอมรับง่ายๆ แน่ ฉะนั้นวิธีรับมือที่ดีที่สุด...

   “ฉันยังไม่พร้อมที่จะบอก” คือการบอกไปตรงๆ ด้วยน้ำเสียงจริงจังเป็นเชิงถ้าไม่อยากทำร้ายกันก็อย่าถามมากไปกว่านี้

   ได้ผล ภูมิผู้อารมณ์ร้อนเป็นไฟเย็นลงในทันที ชานมไข่มุกในมือเขาก็รอดพ้นภัยพาลไปด้วย

   “แล้วเมื่อไหร่จะพร้อม” เสียงของภูมิคล้ายจะร้องไห้อยู่รอมร่อ

   “ฉันไม่รู้”

   “ถ้าพร้อมแล้วจะบอกกันใช่มั้ย”

   “ก็ต้องอย่างนั้นแน่อยู่แล้วสิ”

   “งั้น...” ภูมิหาคำพูดต่อไปไม่เจอ แต่ท่าทางเขาดูสงบลง และยืนดูดชานมทีเดียวเกือบครึ่งแก้ว “งั้น...กูกลับก่อนละ”

   “เออ”

   มองแผ่นหลังที่เดินออกจากซอยแบบเซๆ คล้ายเสียหลักยึด ผมก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่

   เอาวะ อย่างน้อยภูมิก็ไม่มาระรานแล้วแน่นอน!


   

   ---------------------

   พิชญ์กับภูมิขัดแย้งอะไรกันนะ

   เรื่องราวจะค่อยๆ เฉลยถึงความสัมพันธ์ของพิชญ์และตัวละครแต่ละตัว นอกจากจะเอาใจช่วยน้องเรื่องร้านชานมแล้ว ก็มาเอาใจช่วยถึงเรื่องราวในอดีตของพิชญ์ด้วยนะคะ และแน่นอนว่า...อย่าเพิ่งลืมคุณคนแรกเชียว!!!

   พระเอกเรื่องนี้มาเนียนๆ แต่ก็มาทุกวันนะ!!!

   

   

    #ผมกับชานมไข่มุก

   

เพจ : มาจะกล่าวบทไป
Twitter : MajaYnaja
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-09-2019 21:26:46 โดย มาจะกล่าวบทไป »

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
ภูมิรักพิชญ์อยู่หรือเปล่า

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
คุณคนแรกแจกเบอร์กันอย่างงี้เลยเรอะะะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
 แค่ไม่เห้นเครื่องรางนี่งอนตุ้บป่องๆไปเลยนะคุณคนแรก

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ทำไมพิชญ์หนีออกจากบ้าน ถ้าไม่ใช่เพราะภูมิ
ถูกภูมิสารภาพรักหรอ หรือโดนอะไรมา

กฤตดูไม่ปลงนะ แถมยังบ้าบอมากด้วย คิดไปเองเก่ง

คุณคนแรกก็มาคนแรกทุกวันจริงๆ แต่ก็แพ้โปรโมชั่นเด็กนะ 5555

พิชญ์น่ารักดีค่ะ พยายามดี แอบเด๋อเป็นบางเวลา

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
ลุ้นกันต่อไป

ว่าแต่ ได้เบอร์มาแล้วก็โทรเลยสิจ้า อย่าเก็บไว้นานเลย อิอิ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
อ่อยเข้าไปสิคุณคนแรก อ่อยแบบมึน ๆ ฮา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด