#รักไม่คาดคิดในวันพุธ : พุธที่ 16 (18/12/2019)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #รักไม่คาดคิดในวันพุธ : พุธที่ 16 (18/12/2019)  (อ่าน 14133 ครั้ง)

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
ทะเลสไตล์. จีบแบบทะเลสุดๆ,,,,

555

ออฟไลน์ kingkongkaew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อ่านวิธีจีบของทะเลแล้ว เข้าใจเลยว่าทำไมล้งเล้งถึงเกลียดทะเล ฝากโซดาช่วยอบรมทะเลด้วยค่ะ 555


ออฟไลน์ appattap

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เออะ จีบแบบนี้อย่าเรียกว่าจีบ เรียกว่ากวนทีนและน่ารำคาญ สู้เค้าทะเลลลลล

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ขอบคุณโซดาเลย โธ่ถังทะเลเอ้ยยยยย555555555

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ babybaphomet

  • Baby Baphomet
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
    • Twitter
12th Wednesday

#รักไม่คาดคิดในวันพุธ





ล้งเล้งไม่เคยรู้สึกปวดหัวขนาดนี้มาก่อน




ตั้งแต่วันที่ทะเลพูดถ้อยคำอุกอาจนั้น ผ่านมาร่วมเดือนแล้ว เขาก็ไม่ได้เจอหน้านิสิตตัวสูงนั่นอีก ตอนสอนเขาเลี่ยงเต็มที่ ไม่ว่าจะหนีไปสอนที่เคเอฟซีทั้งที่ตัวเองไม่ชอบกินไก่เท่าไหร่ถ้าไม่ใช่บอนชอน หนีทุกทางที่เกี่ยวกับทะเลเท่าที่จะทำได้




เด็กหนุ่มก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเป็นอะไร แค่ไม่พร้อมที่จะเจอหน้าอีกคนก็เท่านั้น




แค่น้องแทนกายบังเอิญ (น่าจะบังเอิญ ถึงแม้น้องจะถามพร้อมรอยยิ้มบางๆ คล้ายกับกำลังรู้ทันอะไรบางอย่าง แต่ล้งเล้งจะคิดว่าน้องบังเอิญ น้องแทนกายแค่บังเอิญ!) เขายังรู้สึกปั่นป่วนในท้อง มันเหมือนตอนที่โมโหอีกคนจนหูอื้อ หรือว่าตอนที่เกลียดหน้ามันจนอยากจะต่อยปาก




มัน… แปลกๆ


แปลกมากจนล้งเล้งเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร




รู้แล้วว่าตัวเองใส่ใจทะเลมากกว่าที่จะโยนความคิดเรื่องว่า ‘มันไม่อยากเป็นเพื่อนกับกู แล้วยังไงวะ?’ ทิ้งไป แล้วก็มันน่าหงุดหงิดที่ไม่สามารถสลัดเอาคำบอกรักนั่นออกจากหัวไปได้เลย




เชี่ยเอ้ย อยากเป็นแฟนอะไรของมึงวะ!


เป็นแค่ไอ้ทะเลแท้ๆ!




วันนี้เป็นเหมือนกับทุกๆ วันพุธที่ล้งเล้งจะเข้ามาสอนพิเศษที่สยาม วันนี้เนื่องจากเป็นพุธสิ้นเดือน คนเยอะมากจนทำให้เขาเกือบมาสอนสาย ครั้งนี้ล้งเล้งจึงนัดน้องๆ ในที่ที่เขาจะมาถึงได้เร็วที่สุด นั่นก็คือที่ร้าน McDonald สาขาพาราก้อน ที่เดิมที่เดียวกับที่เขาปักหลักสอนเป็นประจำ




“ขอโทษทีนะ แต่วันนี้คนโคตรเยอะเลย พี่รอรถตู้นานมาก แถมมีอุบัติเหตุอีก กว่าจะฝ่าดงไปได้คือนานมากเว้ย พี่โคตรหงุดหงิด”




ล้งเล้งรัวเป็นชุดตอนที่นั่งลงบนเก้าอี้ที่ล้อมรอบไปด้วยเด็กนักเรียนที่คุ้นเคย น้องเกดมองเขาตาแป๋ว ลิลลี่ไม่ได้มาเพราะว่าไม่สบาย ซึ่งเจ้าตัวไลน์บอกเขาแล้วตั้งแต่เช้า ส่วนแทนกายกับโจนั้นนั่งอ่านชีทเรียนทำการบ้านอย่างเงียบๆ อยู่บริเวณเดียวกัน




“เรามาต่อกันเลยดีกว่า เอาการบ้านที่พี่ให้ทำขึ้นมา เดี๋ยวมาดูกันเนอะ”




การเรียนการสอนเริ่มต้นขึ้นอย่างเรียบง่ายเหมือนกับทุกครั้ง บรรยากาศการเรียนของล้งเล้งอังกฤษที่ไม่มีทะเลมาคอยกวนนั้นเงียบสงบ ออกจะเป็นเรื่องไม่ชินหูของบรรดาเด็กน้อย และตัวของติวเตอร์เอง




Rrrr


โทรศัพท์?


ล้งเล้งล้วงหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมา คิ้วขมวดลงเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์แปลก แต่กก็กดรับด้วยความสงสัยว่าคนที่โทรมาเป็นใคร




“ฮัลโหลครับ”

“น้องล้งเล้งใช่มั้ยครับ?”

“ใช่ครับ นั่นใครครับ?”

“นี่พี่ธนาไง จำได้มั้ย?”




ล้งเล้งเงียบไปเมื่อนึกไม่ออกว่าในชีวิตรู้จักคนไหนที่ชื่อธนาบ้าง เหมือนปลายสายจะสังเกตว่าเขาเงียบนานเกินไปป เจ้าตัวเลยเฉลยออกมาเอง




“นี่พี่ธนาที่น้องเคยเหยียบเท้าบนบีทีเอสไง”

“อ๋อ” ไอ้คนที่ไม่ยอมจบเรื่องนั่นเอง “ครับ?”

“คือพี่อยากจะนัดน้องมาทานข้าวด้วยได้มั้ย?”

“...”

“แทนคำขอโทษของวันนั้นไง”

“อ่าครับ ได้ครับ พี่นัดมาละกัน”

“งั้นน้องล้งเล้งสะดวกวันไหนที่ไหนครับ?”




เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว แค่เหยียบเท้าครั้งเดียวมันจะต้องขนาดนี้เลยงั้นหรือ? ยิ่งเมื่อมองไปทางเด็กๆ ก็เห็นว่าแต่ละคนทำตาปริบๆ รอให้เขาพูดต่ออยู่ ล้งเล้งจึงตัดสินใจตัดบทเสีย




“เอ่อ พี่ครับ เดี๋ยวค่อยคุยได้มั้ย พอดีผมติดสอนอยู่”

“สอน? โอเคๆ ไว้คุยกันนะครับ”

“ครับ”

“เดี๋ยวพี่จะโทรหาทีหลัง”




อะไรของมันวะ


ล้งเล้งส่ายหัวเพื่อเอาความคิดไร้สาระออกไป ก่อนที่จะดึงตัวเองกลับมาที่บทเรียนตรงหน้าต่อ




“โอเค ข้อต่อไปแทนกายนะ…”




ติวเตอร์คนเก่งเลิกคิ้วกะพริบตาอีกครั้งเมื่อเขารู้สึกเหมือนกับตัวเองเห็นเด็กผู้หญิงที่คุ้นเคย นั่นมันหนูแดง เด็กติวของทะเลไม่ใช่หรือไง? หากเป็นปกติเขาก็คงเข่นเขี้ยวฟัน คิดว่าเดี๋ยวก็คงจะเจอทะเลแน่ๆ แล้วเดี๋ยวผู้ชายสูงเท่าแป้นบาสคนนั้นก็จะมากวนประสาทให้เขารำคาญใจอีกตามเคย




แต่ครั้งนี้ลึกๆ ในใจของล้งเล้งกลับรู้สึกอยากเจอทะเลนิดๆ … แค่นิดเดียวเท่านั้นแหละ! แล้วมันไม่มีอะไรสักหน่อย! ก็แค่ไม่ได้เห็นหน้ามาเป็นเดือน แค่นั้นแหละ! แค่นั้นเลย!!




“พี่ล้งเล้งครับ?”

“โทษที”




ล้งเล้งพูดเมื่อตัวเองเผลอเหม่อคิดไปถึงเรื่องไร้สาระ ติวเตอร์ส่ายหัวเล็กน้อย ก่อนจะดึงตัวเองกลับมาโฟกัสกับนักเรียนหนุ่มตรงหน้า ที่ยังคงมองตัวเองตาแป๋ว




“เมื่อกี้ถึงข้อ…”

“55 ครับ”

“โอเค 55”  ล้งเล้งกวาดตามองบทความตรงหน้า พร้อมทั้งช็อยส์ของบทความนี้ “แทนกายตอบอะไรครับ?”

“ตอบ 4”

“ทำไมล่ะ?”




เด็กน้อยของล้งเล้งมองโจทย์เล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาตอบเขาด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ




“ผมแค่เคยเห็น extremely embarrassed เลยตอบครับ แต่ถ้าจะให้อธิบาย ก็น่าจะเป็นเพราะว่า embarrassed เป็น adjective ซึ่งคำขยายข้างหน้าต้องเป็น adverb ซึ่งในตัวเลือกทั้งหมด มีแค่ extremely ข้อเดียวที่เป็น adverb ครับ”



“ถูกๆ เก่งแล้วๆ”


ล้งเล้งยืนยันคำตอบนั้นอีกครั้ง พร้อมส่งยิ้มให้แทนกายซึ่งได้รับรอยยิ้มโล่งใจกลับมา ติวเตอร์หนุ่มมองโจทย์อีกครั้ง ก่อนจะอธิบายให้เด็กที่เหลือฟัง


“ในโจทย์บอกว่า People who are cyber-bullied may feel... to report a bully. ใช่มั้ย ทีนี้ตรงช่องว่างเนี่ย เราต้องใส่ความรู้สึกใช่ป้ะ? เรามาดูคำตอบกัน ข้อเดียวที่เป็นความรู้สึก คือ embarrassed”




เด็กๆ มองกระดาษในมือ ล้งเล้งพูดต่อ




“ข้อหนึ่งผิด เขาบอกว่า extreme embarrass ซึ่งอันนี้เนี่ย extreme เป็น adjective ก็จริง แต่ embarrass เป็น verb ซึ่งจะมีความหมายว่า ทำให้รู้สึกเขิน ทำให้รู้สึกอาย ตรงนี้ถ้าแก้ extreme เป็น adverb โดยการเติม -ly ลงไปข้างหลังก็พอได้ แต่ผิดความหมาย ขัดกับโจทย์”

“...”

“ข้อสอง…”




ล้งเล้งเงยหน้าขึ้นมาเพื่อสบตากับทะเล




ชั่วขณะนั้น เหมือนโลกหยุดนิ่ง




เวลาที่ทะเลเดินเข้ามาในแม็คโดนัลนั้นเหมือนกับพระเอกละครตอนปรากฏตัว ล้งเล้งเพิ่งสังเกตตอนนี้เองว่าทะเลตัวสูงแล้วก็หล่อขนาดไหน ถึงแม้ว่าไม่อยากจะยอมรับ แต่ทะเลมันก็หน้าตาดีจริงๆ นั่นแหละ




ล้งเล้งทำเสียงขึ้นจมูก เหอะ เขาหล่อกว่าตั้งเยอะ!




โต๊ะที่ทะเลเลือกนั่งนั้นไม่ไกลจากล้งเล้งมากนัก พวกเขาสบตาเพียงแค่เสี้ยววินาทีก่อนที่ล้งเล้ง จะหันหน้าหนีกลับมามองนักเรียนอีกครั้ง ซึ่งพวกเด็กนักเรียนตรงหน้าเขาทุกคนสบตากับล้งเล้งด้วยสีหน้าที่แตกต่างกัน ลูกเกดมองล้งเล้งด้วยสีหน้าเขินๆ แทนกายยิ้มล้อแบบรู้ทัน (มันเป็นเรื่องบังเอิญ! แทนกายไม่มีทางรู้อะไรทั้งนั้น!) ส่วนโจ้มองด้วยแววตาว่างเปล่า




“เอ่อ… ข้อสอง… embarrassing extreme มีใครตอบข้อนี้ป้ะ?”




ลูกเกดยกมือขึ้นมาเล็กน้อย ซึ่งล้งเล้งพยักหน้ารับรู้ ก่อนที่จะอธิบายต่อ




“ข้อนี้ผิดเพราะว่า…”

“ลูกหมา”




ยังไม่ทันที่ล้งเล้งจะได้จบสิ่งที่กำลังสอนอยู่ เสียงเรียกข้างตัวก็ดังขึ้นมา ซึ่งเมื่อหันไปมองก็พบกับคนที่เมื่อเจอกันครั้งก่อนเพิ่งจะบอกความรู้สึกตัวเองอย่างอุกอาจ




‘กูชอบมึงไง ไอ้ลูกหมา ไอ้ควายเอ๊ย!’




หยุดคิด! หยุดคิดเดี๋ยวนี้นะ!!




“... มีอะไร?”

“กูซื้อของมาให้”




ล้งเล้งรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังคอสเพลย์เป็นหิน เขาขยับตัวอย่างอืดอาดไปหมด ติวเตอร์คนเก่งไม่กล้าสบตาทะเลเหมือนเมื่อครู่ทั้งที่รู้สึกว่าอีกคนกำลังมองที่หน้าเขาอยู่ นักศึกษาหนุ่มทำเพียงแค่มองมือของอีกคนที่ยื่นอะไรบางอย่างมาให้เขาเท่านั้น




คนอย่างทะเลที่บอกว่าอยากเป็นแฟนเขา ซื้ออะไรมาให้กัน?




“ถั่วแระ?”

“อืม” ทะเลพูด พร้อมกับยกมือเกาหัวด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ “กูคิดว่ามึงอาจจะชอบ”

“เอาอะไรมาคิดว่ากูชอบถั่วแระ?”

“ก็กูชอบ เลยอยากให้มึงชอบด้วย”




โอเค ล้งเล้งคิดว่าตัวเองกำลังโดนแอคแทค




“ลองก่อน มึงอาจจะชอบก็ได้นะ”




ทะเลพูดต่อ โดยที่ไม่สนใจรอยยิ้มล้อเลียนของแทนกาย ท่าทางเหมือนฟินอะไรบางอย่างของลูกเกด แล้วก็สายตาไม่พอใจเล็กน้อยของโจ้




“ถั่วแระเนี่ยนะ?”

“ถั่วแระดิ กูมั้ง? ลองชิมกูมั้ยล่ะ มึงอาจจะชอบก็ได้”

“...”




เกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะ ก่อนที่ล้งเล้งจะได้โวยวายด้วยคำว่า ‘เหี้ยๆๆๆๆๆๆ’ ที่วุ่นวายอยู่ในหัว ทะเลก็พูดหน้านิ่งๆ ออกมาก่อน




“ล้อเล่น กูไปสอนละ”

“...”




ท่ามกลางความแปลกใจของทุกคน ล้งเล้งรับถุงมาแล้วพึมพำเบาๆ เกือบจะไม่มีใครได้ยินว่า




“ขอบคุณนะ”




ทะเลเพียงแค่พยักหน้ารับ ก่อนที่จะเดินกลับโต๊ะไป ซึ่งมีนักเรียนทั้งสามที่ล้งเล้งจำหน้าได้หมดแล้วมองอยู่ พลางซุบซิบอะไรกัน ตอนนี้แทนกายยิ้มกรุ้มกริ่ม ลูกเกดยังคงเม้มปากมือกดโทรศัพท์รัวๆ ส่วนโจ้หันหน้ามองทางอื่น




ล้งเล้งมองถุงถั่วแระที่เขาเอามาวางไว้บนโต๊ะ




ลองดูหน่อยมันก็คงไม่ได้แย่มั้ง



.

.

.




โดยไม่รู้ตัว ล้งเล้งกินถั่วแระในถุงจนหมด




เขามีทั้งโค้กและเฟรนช์ฟรายมากมายอยู่ตรงหน้า แต่ล้งเล้งก็กินถั่วแระไปด้วย เออ มันก็ไม่ได้แย่นี่หว่า บางทีถ้าเขาลองกินมันมากกว่านี้ อาจจะชอบกินมันมากกว่านี้ก็ได้มั้ง




ละมั้ง…




ล้งเล้งรู้ว่าจิตใจของเขาไม่ได้อยู่ตรงชีทเรียนตรงหน้า ตอนนี้เป็นเวลาพักสิบนาที ก่อนที่เขาจะพาน้องๆ เข้าสู่ช่วงครึ่งหลังของการเรียนการสอนในวันนี้ ในขณะที่ตัวเองยังไม่สามารถดึงความสนใจออกมาจากถุงถั่วแระและเจ้าของมันได้ จึงขอตัวออกมาเข้าห้องน้ำ และสัญญากับน้องๆ ว่าคลาสจะเริ่มทันทีที่เขากลับไปนั่งที่




ช่วงนี้อาจจะเป็นเวลาที่เขามีทะเลในหัวมากกว่าที่เป็นมาตลอดชีวิต ซึ่งมันออกจะมากเกินไปจนล้งเล้งปรับตัวไม่ทัน เขาไม่มั่นใจว่าตัวเองเข้าใจมันขนาดนั้น


เพราะว่ามัวแต่คิดถึงเรื่องทะเล ทำให้ล้งเล้งไม่ทันระวังตอนที่ตัวเองเกือบชนกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ถือถาดอาหารหันหลังมาพอดี




“โอ๊ะ ขอโทษครับ”




เธอส่งรอยยิ้มน่ารักมาให้ พอมองดีๆ แล้วหน้าตาเธอเรียกได้ว่าสวยเลยทีเดียว เป็นผู้หญิงที่หน้าคมนิดหน่อย แต่ยังคงดูสวยในแบบของเธอ ซึ่งเธอนั้นอยู่ในชุดนิสิตพอดีตัว ถึงแม้กระโปรงจะยาวแต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่ารุ่มร่าม




“ไม่เป็นไรค่ะ”



ชายหนุ่มหลบทางให้นิสิตคนนั้นเดินไปก่อนอย่างที่สุภาพบุรุษ(ในความคิดของตัวเอง) ควรกระทำ ก่อนจะเดินตามหลังไปเพื่อไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็ถือถาดของกินเดินลงไปนั่งที่…






โต๊ะไอ้เหี้ยทะเล



------- Wednesday In Class --------




ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร?




คำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัวของติวเตอร์หนุ่มตลอดการสอนครึ่งหลัง (ถุงถั่วแระเปล่าเขาก็เอาไปทิ้งแล้วด้วย เปลืองที่! คนเขาจะวางปากกากระดาษ!) ถึงแม้จะพยายามบังคับตัวเองให้โฟกัสกับการสอนตรงหน้า แต่พอเหม่อๆ เมื่อไหร่ล่ะก็ รู้ตัวอีกที ตาของล้งเล้งก็มักจะวางไปที่โต๊ะของทะเลกับผู้หญิงคนใหม่เสียแล้ว




ใครวะ แม่ง!




มันเป็นความรู้สึกหงุดหงิดรำคาญ ทั้งที่ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั่งเฉยๆ กินอาหารของตัวเอง สลับกับนั่งอ่านหนังสือหรือทำการบ้านสักอย่างที่ล้งเล้งไม่มั่นใจ (และไม่อยากรู้) แต่เขาก็อดหงุดหงิดไม่ได้ เขาไม่เคยพาเพื่อนมาสอนด้วยเลยสักครั้ง ทะเลก็ไม่ควรพามาหรือเปล่า




เว้นเสียแต่ว่า… จะไม่ใช่แค่เพื่อน



เพียงชั่วขณะ ล้งเล้งก็รู้สึกว่าพวกเขาสองคนเหมาะสมกันชะมัด


ลึกๆ ในใจของล้งเล้งก็รู้ว่าคนที่เพิ่งบอกชอบเขาไปเมื่อเดือนก่อน คนที่เพิ่งจะเดินเอาถั่วแระมาให้เมื่อชั่วโมงก่อนนั้น คงยังไม่มีแฟนในตอนนี้ … หรือเปล่าวะ




ถ้าหากมันเกิดไม่อยากรอเขาแล้วล่ะ? ถ้ามันไปคบกับผู้หญิงข้างๆ แล้วล่ะ??


ถ้าหากทะเลเลิกชอบเขาแล้วล่ะ?




เพียงแค่คิด สีหน้าของล้งเล้งก็เปลี่ยนไปทันทีจนเด็กที่เรียนพิเศษทุกคนสังเกตได้ พวกน้องๆ ได้แต่มองหน้ากันไปมาแต่ไม่มีใครพูดอะไร สุดท้ายแล้ว ล้งเล้งก็สอนต่อจนจบโดยที่ไม่ได้พูดอะไรในเรื่องนี้ออกมา และไม่เล่นมุกอะไรเหมือนกับบางครั้งที่เขาอารมณ์ดี




ใครอ่ะ ใครวะแม่ง แล้วเป็นอะไรกับไอ้ทะเล?




ล้งเล้งคิดวนเวียนอยู่แค่นี้จนกระทั่งหมดเวลาสอน ลูกเกดกับโจ้ขอตัวกลับก่อนเหมือนกับทุกครั้ง เหลือเพียงแทนกายคนเดียวที่ยังอยู่ต่อ นั่งอยู่ข้างๆ ล้งเล้ง เหมือนกับทุกครั้ง



“คนนั้นใครเหอครับ?”

“ใครอ่ะ?”

“คนที่นั่งกับพี่ทะเลน่ะครับ”




พอแทนกายพูดล้งเล้งจึงหันไปมองทางโต๊ะทะเลอีกครั้งอย่างไม่ตั้งใจ เป็นตอนที่ผู้หญิงคนนั้นหันไปพูดอะไรบางอย่างกับทะเล แล้วทะเลหัวเราะพอดี




คุยอะไรกันวะ อยากคุยมากก็กลับไปคุยกันที่คณะสิ!




“ไม่รู้อ่ะ” ล้งเล้งตอบ พร้อมกับเปลี่ยนเรื่อง “เรากลับยังไง?”

“เดี๋ยวก็ไปแล้วครับ”

“วันนี้เพื่อนไม่มารับเหรอ?”

“กลับเองครับวันนี้”




แทนกายพูดยิ้มๆ ใบหน้าสวยของเด็กหนุ่มยังคงมีรอยยิ้มบางๆ ประดับอยู่ จนบางครั้งล้งเล้งแอบคิดเหมือนกันว่าหากแทนกายใส่วิกเขาอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเด็กคนนี้เป็นเด็กผู้ชาย




“อ๋อ เออดีๆ”




ล้งเล้งพูด ในขณะที่แทนกายยังคงยิ้มอยู่ ถ้าหากน้องไม่หลิวตาคล้ายกับว่ากำลังจะกวนประสาท ล้งเล้งจะไม่รู้สึกหงุดหงิดในใจขนาดนี้!




“เดี๋ยวพี่ก็จะกลับแล้วเหมือนกัน เราเดินไปบีทีเอสด้วยกันมั้ย?”




ติวเตอร์หนุ่มชวนเด็กน้อยไปรถไฟฟ้า ซึ่งน้องตอบกลับมาว่า




“ได้ครับ แต่ขอผมซื้อแม็คไปกินเผื่อพรุ่งนี้แป๊บนึงนะครับ”

“ได้ๆ เดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อน”




พวกเขาทั้งสองคนไปยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์สั่งอาหาร เพราะคนเยอะนิดหน่อย ล้งเล้งจึงเลือกยืนอยู่ข้างหลัง ปล่อยให้เด็กน้อยไปต่อแถว สักพักล้งเล้งก็รู้สึกว่าเขาไม่ได้ยืนอยู่คนเดียว เมื่อเงยหน้าออกจากโทรศัพท์ เขาก็เห็นว่าข้างๆ ตัวเองมีทะเลยืนทำหน้ากวนประสาทอยู่




ความจริงแล้วทะเลก็แค่ยิ้มมุมปากเหมือนกับทุกครั้งที่เจอ แต่ไม่รู้ทำไม รอยยิ้มของทะเลมันถึงได้ทำให้ล้งเล้งรู้สึกหงุดหงิด!




“ลูกหมา ซื้อไร?”

“เสือก”

“อืม ก็เสือกแหละ กูชอบเสือกเรื่องมึงตลอดอยู่แล้ว”




เพราะอะไรบางอย่าง ถ้อยคำของทะเลถึงได้ดูตัดพ้ออย่างน่าประหลาด




“มึงไปเสือกเรื่องคนอื่นมั่งมั้ย?”




อย่างเช่นเรื่องผู้หญิงที่มึงพามาด้วย อะไรแบบนี้… ล้งเล้งคิดต่อในใจ แต่ไม่ได้พูดออกไป




“ไม่อ่ะ ชอบเสือกเรื่องของมึง”




เป็นอีกครั้งที่ล้งเล้งรู้สึกเหมือนผีเสื้อบินอยู่ในท้องเพราะแค่ประโยคพูดสั้นๆ จากอีกคน




“ก็… ก็…” ล้งเล้งพยายามสรรหาคำพูดมากมาย แต่เหมือนมันจะไม่ออกมาเลยตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องอย่างหน้าด้านๆ  “แล้วคนที่นั่งอยู่กับมึงล่ะ คนนั้นใครอ่ะ?”

“เพื่อน”

“น่ารักดีเนอะ”

“อืม น่ารัก”




ทั้งที่เป็นคนเปิดประโยคสนทนาเอง แต่ล้งเล้งกลับรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา




“มึงชอบแบบนี้เหรอ?”

“อะไร?”

“ผู้หญิงคนนั้นไง มึงชอบเขาเหรอ สเปคมึงเป็นแบบนี้เหรอ?”




ระยะเวลาที่ทะเลเงียบลงพร้อมหรี่ตานั้น ล้งเล้งกัดริมฝีปาก ในใจนึกอยากย้อนเวลากลับไปเอาคำพูดเชิงประชดประชันนั้นกลับมา นี่เขาเป็นบ้าอะไรถึงได้พูดแบบนั้นออกไปวะ?! แม่ง




“ก็ดีนะ”

“ดีเหรอ?”

“อืม น่ารักดี” ทะเลยิ้มพร้อมพูดต่อ “เอาจริงก็สเปคกูนะ ตาโต ตัวเล็ก น่ารัก สเปคกูเลย”




เสียใจอะไรวะแม่ง ไม่รู้อ่ะ! เขาแค่เสียใจนิดหน่อย เพียงแค่นิดเดียวเท่านั้นแหละ!



“แต่ว่า…”




ยังไม่ทันที่ทะเลจะพูดจบประโยค ล้งเล้งก็เดินหนีมาตรงเค้าน์เตอร์รับสินค้า เขากำลังจะเดินไปหาแทนกายที่ยืนรออาหารของตัวเองอยู่ ซึ่งยังไม่ทันที่จะถึงนั้น ล้งเล้งก็รู้สึกเหมือนมีคนมาจับแขนเขไว้เสียก่อน




“ไอ้ลูกหมา เดินหนีทำไม ยังคุยกันไม่จบ”

“แล้วจะให้กูอยู่ฟังมึงบอกชอบเขาหรือไง?”

“...”




ทะเลไม่พูดอะไร เพียงแค่ยิ้มมุมปาก กับหลิ่วตาคล้ายกับว่ากำลังจะแซวอะไรเขาสักอย่าง ซึ่งล้งเล้งอาจจะทึบเกินจะรู้ว่าอีกฝ่ายจะแซวอะไร แล้วเขาก็ไม่อยากจะรู้ด้วย


ถ้ามันเลิกชอบเขาแล้วล่ะ?


ถ้ามันไปชอบคนอื่นแล้วล่ะ??




“คือ…”

“จะเลิกชอบกูแล้วเหรอ?”

“ฮะ?”




ทะเลทวนเหมือนงงว่าล้งเล้งกำลังจะพูดอะไร ยังไม่ทันที่ทะเลจะได้พูดอะไรต่อ ล้งเล้งก็ชิงพูดเสียก่อน




“มึงเลิกชอบกูแล้วเหรอ? อย่าเพิ่งเลิกชอบกูได้มั้ย? กูไม่ได้รังเกียจมึงนะ แต่กูแบบ … กูแค่…”

“...”

“ช่างมันเถอะ มึงจะชอบใครก็เรื่องของ…”

“มึงคิดว่าการเลิกชอบใครสักคนมันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอลูกหมา?”




น้ำเสียงจริงจังของทะเลนั้น ทำให้ล้งเล้งเงยหน้าจากปลายเท้าของตัวเองที่ไม่รู้ว่าไปมองอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ สีหน้าของทะเลยังคงนิ่งเหมือนเคย หากแต่แววตาของเจ้าตัวกลับจริงจังมากจนเขาไม่สามารถเถียงได้




“มึงอาจจะไม่รู้ แต่กูชอบมึงมานานมาก กูไปมองคนอื่นไม่ได้อีกแล้ว ไอ้โง่”

“...”

“กูรอมึงมาตั้งแต่มึงยังไม่รู้ว่า Barbie Girl คืออะไร จนวันนี้มึงมาเป็นครูติวภาษาอังกฤษแล้ว คิดเอาเองว่ามันนานขนาดไหน”

“...”

“กูชอบของกูมานานขนาดนี้ มึงจะต่อยกูอีกกี่สิบทีกูก็ไม่เลิกชอบมึงหรอก”

“...”

“ยิงกูดิ”

“กูทำจริงนะ”

“เฮ้ย เดี๋ยว ไอ้เหี้ย กูพูดเล่น”




ทะเลรีบพูดเมื่อล้งเล้งทำท่าทางเหมือนกับว่าเจ้าตัวจะยิงเขาจริงๆ ทั้งที่คนอยู่เต็มแม็คแต่ทะเลรู้สึกว่าถ้าล้งเล้งมีปืน เจ้าตัวอาจจะยิงเขาจริงๆ ก็ได้


ทั้งสองคนยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบๆ เพียงครู่เดียวเท่านั้น ก่อนที่แทนกายจะเดินยิ้มเข้ามาใกล้ พร้อมกับถุงอาหารในมือ




“งั้น… กูไปแล้วนะ”




นับตั้งแต่ที่รู้จักกันมาเกินครึ่งชีวิต นี่เป็นครั้งแรกที่ล้งเล้งหันมาบอกลาทะเล




“ล้งเล้ง”

“ว่า?”

“กูขอจีบมึงนะ”



ทั้งที่รอบตัวพวกเขามีคนมากมาย แต่เสียงหัวใจของทั้งคู่กลับดังกลบทุกอย่างไปเสียดาย เสี้ยววินาทีนานนับชั่วกัปชั่วกัลป์ สุดท้ายแล้ว ล้งเล้งก็พูดออกมาเสียงดัง


“เรื่องแบบนี้ใครเขาขอกันวะไอ้เหี้ย!!”








------- TBC -------
[/b]





นั่นแหละค่ะท่านผู้ชม



#รักไม่คาดคิดในวันพุธ




ออฟไลน์ appattap

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อ่านละยิ้มตามเลยค่า  ต้องขอบคุณแมค สถานที่เปิดเผยความในใจ 5555

ออฟไลน์ kingkongkaew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
แค่อ่านชื่อตอนก็เขินแล้ว

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
กวนตีนเขามาเกือบ 20 ปี พอโดนเพื่อนเคาะกะโหลกมาเท่านั้นแหละ จีบเขาเฉยเลย มันเพิ่งได้คิด ทะเลนี่มันทะเลจริงๆ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
เขินมากมาย,,,

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เออยังงี้ค่อยดูเหมือนจีบหน่อย แหมล้งเล้งยังไงคะลูก :ruready

ออฟไลน์ mkianit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-3
ทะเล~สู้เขารู้กก

ออฟไลน์ babybaphomet

  • Baby Baphomet
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
    • Twitter
13th Wednesday

#รักไม่คาดคิดในวันพุธ





ล้งเล้งยังคงไม่แน่ใจว่าตัวเองขึ้นรถไฟฟ้ามาด้วยความรู้สึกแบบไหน มันประหลาดไปหมด ไม่ได้รู้สึกเหมือนกับตอนที่มีความรักครั้งแรก ไม่ใช่ตอนดีใจที่สอบติดมหาลัย มันเป็นความรู้สึก…




ไม่รู้อ่ะ! รู้สึกอะไรก็ไม่รู้ แต่รู้สึกแค่กับทะเลเท่านั้น




“พวกพี่ยังจีบกันอยู่เหรอครับ?”




ติวเตอร์หนุ่มหันไปมองแทนกายที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆ ตอนนี้พวกเขาสองคนยืนเกาะเสาอยู่บนรถไฟฟ้าบีทีเอส (ซึ่งแทนกายยังสูงกว่าเขาอีก น่าหงุดหงิดชะมัด เป็นแค่เด็กมอหกแท้ๆ โตไวนัก!) โดยมีน้องแทนกายส่งสายตายิ้มๆ มาให้ ล้งเล้งขมวดคิ้ว




“หมายความว่าไงอ่ะ?”

“ผมนึกว่าคบกันไปแล้วซะอีก”

“...”




ในใจของล้งเล้งมีแต่คำว่า ‘ไม่ใช่หรอก น้องแทนกายน่ารัก คงไม่ได้หมายถึงเขากับ...’




“พี่ทะเลนี่ช้าจริงๆ เลย”




แน่นอนว่าน้องแทนกายหมายถึงเขากับมันนั่นแหละ ไอ้เหี้ยทะเลนั่น



“ช้าอะไร ใครคบกันเล่า”

“ก็พี่กับพี่ทะเลไง”




เด็กน้อยพูดด้วยน้ำเสียงสดใส ล้งเล้งพูดด้วยความสัตย์จริงเลยว่าเขารู้สึกยินดีที่น้องแทนกายเหมือนกับจะเริ่มสดใสอีกครั้ง แต่ต้องไม่ใช่เรื่องของเขากับไอ้ทะเลนี่หรือเปล่า ปัดโถ่เอ๊ย!




“พี่กับมันไม่มีอะไรสักหน่อย”

“มีสิครับ”

“ไม่มี”

“มีสิ ก็พี่ทะเลชอบพี่ล้งเล้งไงครับ”




ทั้งที่เป็นเรื่องที่ล้งเล้งได้ยินมาแล้วจากปากของทะเล แต่พอแทนกายพูดให้ฟังอีกครั้งเขาถึงกับทำหน้าไม่ถูก ล้งเล้งไม่รู้ว่าตัวเองแสดงสีหน้ายังไงออกไป แทนกายที่จับเสาต้นเดียวกับเขาถึงได้หัวเราะเบาๆ แล้วมองด้วยสีหน้าเอ็นดูแบบนี้




“แล้วพี่ล้งเล้งก็ชะ…”




แทนกายยังพูดไม่ทันจบ เสียงประกาศตามสายก็ดังขึ้น




‘พญาไท interchange with  Airport Rail Link’




“ผมไปก่อนนะครับพี่ล้งเล้ง”

“อ้าว โอเคๆ กลับบ้านดีๆ”

“แล้วเจอกันนะครับ”




แทนกายเดินออกไปเมื่อถึงสถานีที่ตัวเองจะต้องลง ทิ้งล้งเล้งเอาไว้กับความงงงวยในสิ่งที่เด็กน้อยกำลังจะพูดเมื่อครู่ เอาจริงแล้วล้งเล้งก็ไม่แน่ใจนักว่าตัวเองอยากได้ยินหรือเปล่า มันอาจจะเป็นเรื่องที่ลึกๆ แล้วเขาไม่อยากรู้ก็ได้




เด็กหนุ่มก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ของตัวเองต่อไปเหมือนกับทุกคนบนรถไฟฟ้า ซึ่งเหมือนกับทุกคนบนรถไฟฟ้าขบวนนั้น อาจจะต่างเพียงตรงที่มีเพียงล้งเล้งคนเดียวที่กำลังนึกถึงคนที่เพิ่งจากกันมาเมื่อครู่




แม้ไม่อยากจะยอมรับ แต่ล้งเล้งยังเลิกคิดถึงทะเลไม่ได้เลย


ไอ้เวรเอ๊ย! เป็นแค่ทะเลแท้ๆ!



------- Wednesday In Class -------




ในคลาสวิชามหาลัยในห้องเรียนรวมที่นักศึกษาครึ่งหนึ่งคุยกัน อีกครึ่งกำลังนอน ล้งเล้งเป็นหนึ่งเดียวในกลุ่มที่ตอนนี้กำลังฟังอาจารย์หน้าห้องพูดถึงสไลด์ง่วงๆ อย่างตั้งใจที่สุดเท่าที่เขาทำได้ ข้างกันนั้นคือมูเตลูที่วันนี้มาในเสื้อสีเหลืองเหมือนลูกมะม่วงกับกางเกงสีส้มสว่างซึ่งคนมองมาทั้งคลาส (แม้แต่อาจารย์ก็มองมันบ่อยๆ ซึ่งทุกคนเข้าใจได้ว่าทำไม) ถัดไปเป็นบุ๋มบีมที่นั่งหลับเอาหัวชนกัน ส่วนเจ๋งเป้งไลน์มาบอกในกรุ๊ปว่าไม่เข้าเพราะขี้เกียจ






ล้งเล้งอยากเอาปากกาไล่เคาะไอ้พวกนี้ทีละคน เพราะพวกมึงไม่เรียนกันเนี่ย กูเลยต้องนั่งจดทำสรุปอยู่นี่ไงไอ้พวกเพื่อนขี้เกียจ!


ในตอนที่ล้งเล้งกำลังฟังอาจารย์ไปด้วย ดูสไลด์ไปด้วย และด่าเพื่อนตัวเองในใจไปด้วยนั้น เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา




ไลน์!


Talay: .

ล้งเล้ง: มึงเป็นอะไร?

ล้งเล้ง: ทักทำเหี้ยอะไร

ล้งเล้ง: จุดเนี่ยนะ?

ล้งเล้ง: เพื่อ??

ล้งเล้ง: เปลืองเวลากดเข้ามาในแชทของมึงมาก

Talay: โห

Talay: กูพิมพ์ทักไปแค่จุดเดียว

Talay: ใส่กูใหญ่เลยนะลูกหมา

ล้งเล้ง: ใครลูกหมาวะ!

Talay: ตะโกนแม้กระทั่งในแชท

Talay: กูเจ็บคอแทน




ไอ้ทะเลเจ้าเก่าคนเดิม เพิ่มเติมคือคุยแชทกับล้งเล้งทุกวัน




ตั้งแต่ที่ทะเลบอกว่าขอจีบวันก่อน นิสิตหนุ่มก็ทักมาหาล้งเล้งทุกวัน แรกๆ ตัวล้งเล้งเองก็รู้สึกประหลาดนิดหน่อย ไม่รู้ว่าจะต้องคุยยังไง แต่พอไปเรื่อยๆ แล้วมันก็กลายเป็นปกติไปเองโดยอัตโนมัติ




พวกเขาแชร์เรื่องราวต่างๆ กัน แชร์เพลงที่ฟัง บ่นงานที่ต้องทำ คุยเรื่องหนัง พูดกันเรื่องเพลง คุยนั่นคุยนี่มาเรื่อยๆ จนมันกลายเป็นล้งเล้งเคยชินกับการตอบแชททะเลหลายครั้งต่อวันไปเสียแล้ว




เด็กหนุ่มปล่อยแชทของทะเลทิ้งไว้ เงยหน้ามองสไลด์เมื่อรู้สึกว่าตัวเองละเลยเนื้อหาตรงหน้ามานานเกินไป สิ่งหนึ่งที่เขาคุยกับทะเลแล้วรู้สึกโอเคเพราะอีกฝ่ายไม่เคยมีปัญหาเวลาเขาหายไปนานๆ อ่านไม่ตอบ โทรไปไม่รับหรืออะไรก็ตามที่มักจะเกิดขึ้นกับคนมีแฟนที่ล้งเล้งเคยเห็นบ่อยๆ




อาจจะเพราะพวกเขาสองคนเป็นนิสิตนักศึกษาเหมือนๆ กัน มีภาระที่ต้องรับผิดชอบใกล้เคียงกัน มันเลยออกจะสบายๆ ไม่เกร็งมากเหมือนกับที่คนจีบกันควรจะเป็น




ล้งเล้งเม้มปากเมื่อนึกถึงสถานะของตัวเองกับทะเล… ‘คนที่เคยเกลียดกัน ที่ตอนนี้ไม่เป็นเพื่อนแล้ว จะเป็นแฟน แต่มันเร็วไปเว้ย!’  ซึ่งล้งเล้งก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าสถานะแบบนี้มันมีในโลกหรือเปล่า อาจจะเป็นแค่สถานะสำหรับพวกเขาสองคนก็ได้




ไลน์



Talay: เกือบลืม

Talay: ศุกร์เย็นว่างป้ะ?




นักศึกษาคนเก่งเหลือบมองอาจารย์ที่เช็กชื่อหลังจากหมดคาบ ก่อนที่จะรีบพิมพ์ตอบทะเลที่ส่งข้อความมา




ล้งเล้ง: ว่าง

ล้งเล้ง: มีอะไร?

Talay: แล้วเสาร์ล่ะ?

ล้งเล้ง: ยังไม่ติดไรนะ

ล้งเล้ง: ทำไมวะ?




ล้งเล้งเงยหน้ามองสไลด์เล็กน้อย ในขณะที่บุ๋มบีมตื่นขึ้นมานั่งกินสเต๊กไก่กับไส้กรอกเรียบร้อย ในขณะที่มูเตลูเพื่อนสีสดใสกำลังจัดคิวดูดวงของลูกค้าอยู่ พอกลับเข้ามาในไลน์ล้งเล้งก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นทะเลพิมพ์ถามอะไรไร้สาระ แทนที่จะตอบคำถามของเขาเมื่อครู่




Talay: อาทิตย์?

ล้งเล้ง: …

ล้งเล้ง: กุต้อง จันทร์ อังคาร พุธให้มึงด้วยมั้ย?

ล้งเล้ง: ไหน มันเป็นยังไง?

ล้งเล้ง: ถ้ามึงยังไม่บอกกูตอนนี้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นนะ

ล้งเล้ง: กูสาบานว่าพรุ่งนี้

ล้งเล้ง: กูต่อยมึงแน่

ล้งเล้ง: ไอ้ส้นตีน เสียเวลากูชะมัด

Talay: ใจเย็น

Talay: หัวร้อนอะไรนักหนาวะลูกหมา

ล้งเล้ง: เออ ก็จริงว่ะ

ล้งเล้ง: แต่มึงกวนตีนกูอ่ะ

Talay: หัวร้อนไปก่อนนะ

Talay: กูเรียนแป๊บ




ล้งเล้งทิ้งแชทเอาไว้แบบนั้นพร้อมทั้งลุกขึ้นยืนเมื่ออาจารย์บอกให้ออกจากห้องได้ เจ๋งเป้งตื่นขึ้นมาโดยอัตโนมัติเมื่อคลาสจบลง พวกเขาเดินไปโรงอาหารในขณะที่พูดคุยกันไปด้วย ส่วนใจของล้งเล้งลอยไปที่ที่ไม่คิดว่าตัวเองจะมีวันนี้




ใจลอยไปที่ทะเล




หลังจากแชทของล้งเล้งกับทะเลก็ค้างอยู่ตรงนั้น โดยที่เขาไม่ได้ไปสนใจมันอีกเพราะคาบบ่ายเรียนเยอะเกินไป จนมาถึงตอนเย็น ตอนที่ล้งเล้งกำลังจะเดินกลับไปหอเพื่อเอาหนังสือที่เรียนวันนี้ไปเก็บ แล้วเอาคอมพิวเตอร์ไปนั่งทำที่หอสมุด




Rrrr




“ฮัลโหลครับ”




ล้งเล้งรับสายทันทีโดยไม่ได้มองว่าใครเป็นคนโทรมา ในใจคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนในกลุ่มสักคนโทรมาหาเพื่อเอาข้อมูลเพิ่ม หรือมาตามเขาไปกินข้าวเย็นด้วยกัน




“ลูกหมา”




ไม่ใช่สักกลุ่มที่ล้งเล้งคิด พอเหลือบมองหน้าจอเขาก็เห็นว่าเป็นเบอร์แปลก ไม่ต้องรู้ว่าคนที่โทรมาเป็นใคร




“ว่าไงทะเล”




ล้งเล้งตอบรับพร้อมกับใส่หูฟังเพื่อทำอย่างอื่นไปด้วย หากพูดด้วยความสัตย์จริง ล้งเล้งไม่แน่ใจว่าทะเลเอาเบอร์เขามาจากไหน แต่มันคงไม่ยากเท่าไหร่นักยิ่งถ้ามันพูดออกจากปากเองด้วยว่าชอบเขา การหาเบอร์คนที่ชอบไม่ได้ยากขนาดนั้น … ละมั้ง




“กูจะชวนมึงไปเที่ยว”

“เที่ยว?”




นักศึกษาถามกลับ ล้งเล้งลืมไปชั่ววินาทีว่าเมื่อกี้ตัวเองกำลังจะทำอะไร สมองจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทะเลกำลังจะพูดต่อ




“ใช่เที่ยว”

“เพื่อ?”

“ไม่มีอะไร กูแค่อยากไปเที่ยวกับมึง”




คำตอบตรงๆ ของอีกฝ่ายทำให้ล้งเล้งนิ่งไปอีกครั้ง ถ้าเป็นพากษ์บอลตอนนี้ทะเลนำเขาไปแล้วสวยๆ 1-0




“ลูกหมา ทำไมเงียบไปเลย?”




เสียงของอีกฝ่ายปลุกล้งเล้งออกมาจากเสียงพากษ์บอลเย้วๆ ในหัวของตัวเอง เด็กหนุ่มกัดริมฝีปากของตัวเองเล็กน้อย ชั่งใจว่าควรจะตอบอะไรออกไปทั้งที่ใจตัวเองตอบตกลงไปมากกว่าครึ่งแล้ว




“มีใครไปบ้าง?”

“ตอนนี้มีกู มีโซดาเพื่อนกู มีมูแล้วก็เพื่อนมึงทั้งกลุ่ม แล้วก็มีมึง”




เดี๋ยว? กูไปตกลงกับมึงตอนไหน?




“ไปวันศุกร์นี้ตอนเย็น กลับวันอาทิตย์ตอนเย็น กูวางแผนเรียบร้อยแล้ว จองรถแล้ว เหลือแค่มึงไปกับกูเนี่ยแหละ”

“แล้วมึงพึ่งมาถามเนี่ยนะ?”




ล้งเล้งได้ยินเสียงตัวเองถามออกไป ในขณะที่กำลังโบกมือให้เพื่อนที่รออยู่ที่หอสมุด อาจจะเป็นเรื่องโชคดีที่หอสมุดที่มหาลัยเขาสามารถส่งเสียงดังได้ในชั้นล่าง เลยไม่ต้องวางโทรศัพท์ตอนที่เดินเข้าไป




“ก็ถ้ามึงไม่ตกลง พวกกูก็เที่ยวกันโดยไม่มีมึง แค่นั้นแหละ”

“ไอเหี้ย นี่มึงจีบกูอยู่จริงป้ะเนี่ย?”

“จริงดิ” ทะเลพูดด้วยเสียงยานคางเหมือนเดิม “ถึงได้รู้ว่ามึงจะตกลงไงลูกหมา”

“...”

“ตกลงนะ ไปเที่ยวกับกูนะ”




ในช่วงเวลาเสี้ยววินาทีที่ล้งเล้งกำลังจะเดินไปหาเพื่อนนั่นเอง เขาก็ตอบอีกคนกลับไปในสิ่งที่ใจตัวเองคิดมาตั้งแต่ครั้งแรกที่รับโทรศัพท์




“เออ ไปก็ไป”


 


------- Wednesday In Class -------






ด้วยการตอบตกลงของล้งเล้งในวันนั้น ตอนนี้เขาเลยมานั่งจุ้มปุ๊กอยู่บนรถตู้ร่วมกับเพื่อนทั้งของตัวเองแล้วก็ของทะเลอีกรวมกันเกือบสิบชีวิต ซึ่งทะเลจัดการเหมารถมารับพวกเขาที่มหาลัยเลยทีเดียว เมื่อเปิดประตูรถตู้เข้าไปแล้ว ล้งเล้งเจอว่าโซดานั่งอยู่เบาะหน้าสุดเรียบร้อย ส่วนทะเลนั่งอยู่แถวที่สอง




ตอนแรกเจ๋งเป้งจะมานั่งข้างล้งเล้ง แต่ถูกโซดาดึงไปนั่งข้างหน้าด้วยกัน บุ๋มบีมนั่งคู่กันอยู่ที่แถวหน้า กระเป๋าทุกใบวางอยู่แถวหลังสุด มูเตลูจองแถวสามคนเดียวเพราะว่าจะนอน เลยเหลือที่ว่างข้างทะเลเท่านั้นที่ล้งเล้งต้องไปนั่ง




อันที่จริง มันไม่ได้เหนือบากกว่าแรงอะไรขนาดนั้น


มันแค่รู้สึก… แปลกๆ นิดหน่อย แค่นิดเดียวเท่านั้นแหละ!




“ลูกหมา มึงพอแล้ว”




ทะเลพูดพร้อมหยิบสมุดที่อีกฝ่ายถือติดมือขึ้นมาออกแล้วมาเก็บไว้เอง นิสิตหนุ่มหน้าตึง อันที่จริงเขาคิดว่าการนั่งข้างล้งเล้งจะมีอะไรมากกว่าการที่อีกคนนั่งอ่านหนังสือหรือเปล่า




“กูมีควิซวันจันทร์”

“กูก็มี”

“เรื่องของมึงสิ กูจะอ่าน”

“พอแล้ว ลูกหมา”




ทะเลเอามือของตัวเองมาแปะไว้บนหัวของอีกคน ที่ถึงแม้แต่ตอนนั่งอยู่ข้างกันทะเลก็ยังสูงกว่าล้งเล้งอยู่ดี ซึ่งสำหรับล้งเล้งมันน่าหงุดหงิด!




“อะไรเนี่ย!”

“อยู่กับกู วุ่นวายกับกูสิ”

“วุ่นวายอะไรของมึง?”

“อยู่กับกูก็คุยกับกู”




พวกเขาเดินทางมาได้ครึ่งทาง ทุกคนหลับกันหมด ในขณะที่ล้งเล้งกับทะเลนั่งมองหน้ากันอยู่แบบนั้น ในรถที่เปิดเพลงเบาๆ คลอไปด้วยในขณะที่ขับไปด้วย




“ให้คุยอะไร?”

“มาทำความรู้จักกันมั้ย?”




ล้งเล้งกำลังจะมองหน้าอีกฝ่ายเพื่อหาสัญญาณที่ทะเลจะบอกว่า ‘ล้อเล่น’ แต่มันไม่มีเลยสักนิด ใบหน้าหล่อของอีกคนยังคงความจริงจังเหมือนอย่างเคย ซึ่งตัวล้งเล้งเองก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมาในตอนนี้




ความกล้าหาญสมัยไล่ต่อยคนมันหายไปไหนหมด!




“กูรู้จักมึงอยู่แล้วนะทะเล”

“มึงรู้จักกู แค่มุมที่มึงอยากรู้จัก”




ทะเลพูดสบายๆ พร้อมกับเสยผมยาวๆ ของมันไปด้วย ทั้งที่ล้งเล้งเคยคิดว่าคนที่ผมยาวแล้วดูดีคือผู้หญิงหน้าตาสวยๆ แต่ไอ้เหี้ยทะเลมันก็ดูดีทั้งที่ผมระต้นคอได้ยังไงตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจ 




“แล้วเราต้องรู้จักกันยังไงอีก?”

“มาแชร์เพลงกัน”




ในขณะที่ล้งเล้งยังไม่ทันจะตอบอะไร อีกฝ่ายก็เอาหูฟังข้างหนึ่งของตัวเองมายัดใส่หูเขา แอร์พ็อตของทะเลนั้นมีเสียงเพลงดังออกมา




‘I don't care, go on and tear me apart

I don't care if you do ooh ooh 'Cause in a sky’




“ชอบ Cold play เหรอ?”




ล้งเล้งถามเมื่อเพลงของอีกฝ่ายเป็นศิลปินวงที่เขาฟังอยู่บ่อยๆ ทะเลพยักหน้าด้วยใบหน้านิ่งๆ ของมัน




“มึงชอบมั้ย?”

“ก็โอเค กูฟังหมด”




'cause in a sky full of stars

I think I saw you’




นักศึกษาหนุ่มรู้สึกเหมือนมีคนมองหน้าเลยเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์มือถือที่เจ้าตัวกำลังเพ่งมองเมื่อครู่ ไม่ผิดไปจากที่คิดมากนัก ทะเลตอนนี้มองหน้าเขาอยู่ ซึ่งหากเป็นเมื่อตอนมัธยมเขาคงจะหาเรื่องอีกฝ่ายไปแล้ว




แต่ตอนนี้… มันกลับเขินแปลกๆ




“มึงชอบเพลงนี้มั้ย?”

“ก็ดี บอกแล้วกูฟังหมด”




'Cause you're a sky,

 you're a sky full of stars’




“กูชอบมากเลย”

“มันก็เพราะดี เพลง Cold Play เพราะอยู่แล้ว”

“ใช่ เพราะ”

“อืม”




พวกเขานั่งเงียบ ปล่อยให้เสียงดนตรีโอบล้อมในขณะที่รถก็เคลื่อนตัวต่อไป ในขณะที่ทุกคนนั่งหลับ พวกที่นั่งหน้าดูทาง ล้งเล้งกับทะเลยังคงนั่งมองหน้ากัน




แล้วมันก็ทำให้ล้งเล้งรู้สึกประหลาดมากจริงๆ

 

“ตอนฟังเพลงนี้น่ะ” ทะเลยังคงพูดต่อ โดยที่ไม่ละสายตาออกจากใบหน้าของเพื่อนสมัยเด็กเลยแม้แต่น้อย “กูคิดถึงแต่หน้ามึง”




‘Such a heavenly view You're such a heavenly view’




นี่มัน…. อันตรายมากแล้วจริงๆ



------- TBC -------







อันตรายแล้วเนอะ อันตรายแล้วล่ะ 555555555555555555555


ปล. มาอัพวันนี้เพราะวันนี้ (11 สิงหาคม) วันเกิดเรา แค่อยากอัพนิยายในวันเกิดตัวเองเก็บไว้เฉยๆ ค่ะ 555555 



ออฟไลน์ mkianit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-3
แหม่เขินก็บอกล้งเล้งงง
ปล.สุขสันต์วันเกิดค่า

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
แทนกายถามแทงใจล้งเล้งมาก

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ฟังเพลงด้วยกันแล้วมองหน้ากันไปด้วยเขินมากแม่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ babybaphomet

  • Baby Baphomet
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
    • Twitter
14th Wednesday

#รักไม่คาดคิดในวันพุธ





พัทยาที่มาแบบไม่ได้ตั้งตัวมันก็ไม่แย่เท่าไหร่นัก




เหรอวะ?




“ไอ้เหี้ยนี่ชุดมาทะเลของมึงเหรอ?”




ล้งเล้งถามคนร่วมห้องเมื่อตัวเองมาถึงที่พัทยา พวกเขาเช่าบ้านอยู่ด้วยกันแบ่งเป็นสามห้องนอน สองห้องน้ำ แล้วก็มีห้องครัวตรงกลาง ซึ่งบ้านของพวกเขาราคาไม่แพงมาก หรือแพงล้งเล้งเองก็ไม่รู้ พวกเขาจ่ายเงินกันคนละไม่กี่พันเป็นกองกลาง ซึ่งคนดูแลคือโซดาเพื่อนทะเล




ห้องของพวกเขาแบ่งง่ายๆ โซดากับเจ๋งเป้งนอนด้วยกัน บีมบุ๋มมูนอนด้วยกัน แล้วก็ห้องสุดท้ายคือห้องของทะเลกับล้งเล้ง ตอนแรกล้งเล้งก็จะนอนกับเจ๋งเป้งนั่นแหละ แต่ตอนมาถึงทะเลดันเอากระเป๋าของเขากับตัวเองจองที่เรียบร้อย ซึ่งเจ๋งเป้งเลยต้องไปนอนกับโซดาอย่างเสียไม่ได้




“ทำไมวะลูกหมา?”

“เสื้อแขนสั้นกับกางเกงสามส่วน กูถามจริง?”

“ทำไมวะ?”

“แล้วมึงจะลงทะเลยังไงเนี่ย?”




ทะเลมองล้งเล้งที่ทำหน้าไม่เข้าใจ แล้วยักไหล่ไม่ใส่ใจ ก่อนที่จะจัดเสื้อใส่ตู้ต่อ เขาไม่ได้ตั้งใจจะลงน้ำตั้งแต่แรกอยู่แล้ว




“แล้วทำไมของมึงมีแค่นั้น?”




เป็นนักศึกษาที่งงบ้าง เอ้า แล้วมาทะเลทำไมต้องเอาเสื้อผ้ามาเยอะ ล้งเล้งหอบแค่ของจำเป็นซึ่งก็มีแค่พวกอุปกรณ์อาบน้ำส่วนตัว แล้วก็กางเกงสองตัว ตังนึงเอาไว้ลงทะเล อีกตัวเอาไว้ใส่นอน แล้วก็เสื้อสามตัว เผื่อนอนกับลงทะเล ชุดใส่ไปใส่กลับชุดเดิม




“ก็ไม่เห็นจะต้องมีอะไรเยอะ”

“โอเค”




พวกเขาอยู่ในความเงียบกันสักพัก ก่อนที่ทะเลจะพูดทำลายความเงียบออกมา




“มึงไม่กลัวใช่มั้ย?”

“กลัวไรวะ?”




ล้งเล้งถามกลับอย่างไม่เข้าใจ ใบหน้าน่ารักขมวดคิ้วลงงคล้ายกับกำลังงงการบ้านของอาจารย์




“ก็กูชอบมึง มึงไม่กลัวว่ากูจะทำอะไรมึงใช่มั้ย?”




เออว่ะ




แฟล็ชแบ็กตอนที่ทะเลบอกชอบอยากเป็นแฟนกลับมากระแทกหน้าล้งเล้งอีกครั้ง ชายหนุ่มนิ่ง ก่อนที่จะรวนแบบทำอะไรไม่ถูก มือไม้เกะกะไม่รู้จะวางตรงไหน ในหัวมีแต่คำว่า ‘เหี้ยแม่งๆๆๆ ลืมๆๆ ฉิบหายๆๆๆ’ วนอยู่แบบนี้ ท่าทางของเขาคงดูตลกมากเพราะทะเลหลุดหัวเราะออกมา




“ใจเย็น ลูกหมา กูแค่แกล้งเล่น”

“ก็มึงอ่ะ… มึง...”

“ใจเย็นๆ”




ทะเลพูดเบาๆ พร้อมกับเดินเข้ามาใกล้แล้วเอามือลูบหัว หากเป็นปกติล้งเล้งอาจจะปัดมือทะเลออกจากหัวแล้วด่าสักที แต่ครั้งนี้เขากลับรู้สึกว่าตัวเองไม่อยากทำแบบนั้น




อันตราย


นี่มันอันตรายเกินไป!




“ก็มึงอ่ะ!”

“รอบนี้กูผิด กูรู้” ทะเลพูดยิ้มๆ ทั้งที่ยังไม่เอามือออกจากหัวของอีกคน

“...”

“แต่ไม่ต้องห่วงนะกูไม่ทำอะไรมึงหรอก”

“...”

“แค่ตอนนี้นะ”


ไอ้เหี้ย! นี่กูไว้ใจมึงได้ใช่มั้ยเนี่ย!!!






------- Wednesday In Class ------- 







มาพัทยา คนปกติเขาจะทำอะไรกัน?




คนอื่นอาจจะไปกินเหล้า ฟังเพลง เดินถนนคนเดิน แล้วก็กลับไปนั่งเล่นริมหาด ปาร์ตี้ชิวๆ ก่อนที่จะนอนตายอยู่กลางหาดให้เพื่อนหามศพกลับที่พัก




แต่พวกเขาไม่ทำแบบนั้น




“วันนี้พวกเราควรจะพายเรือ”




มูพูดตอนที่พวกเขานั่งกินข้าวตอนเช้า ซึ่งคนที่ตื่นเช้าสุดก็คือมู ทำเข้าเช้าก็คือมู (มันบอกพวกเขาทุกคนว่าตัวเองมีดวงที่จะต้องเปิดร้านอาหารในอนาคต เลยเรียนรู้การทำกับข้าวตั้งแต่เด็ก) แน่นอนว่าพอมันพูดจบ ทุกคนที่กำลังกินไส้กรอกกับไข่ดาวเงยหน้าขึ้นมา




“พายเรือ?” บุ๋มบีมถามพร้อมกัน? 

“เออ พายเรือ” มูเตลูยืนยัน

“อะไรของมึง วันนี้จะไปขี่รถเล่นที่เกาะล้านไง แล้วตอนเย็นนั่งเรือกลับมาที่นี่งี้ไม่ใช่หรือไง ที่คุยกันไว้เมื่อวาน”




 ล้งเล้งพูดต่อ ซึ่งตอนนี้ทั้งโต๊ะก็กำลังงงเหมือนกับคนตัวเล็ก แต่มูเตลูไม่สนใจ เจ้าตัวยังคงพูดต่อ




“กูพูดจริง เชื่อกู วันนี้พวกเราควรพายเรือ”

“อิหยังวะ”

“เชื่อกู” มูเตลูยืนยันหนักแน่น “ถ้าพวกเราพายเรือวันนี้ มันจะมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้น”




.

.

.



เพราะคำพูดนั้นของมัน พวกเขาทั้งหมดเลยต้องมาลอยคออยู่กลางทะเลตอนนี้


เรื่องดีๆ เหี้ยอะไรของมึงเนี่ย!!!




“เหนื่อย!”




ล้งเล้งพูดออกมา ตอนนี้เขาอยู่บนเรือคายัคที่ลอยเท้งเต้งอยู่กลางทะเล ก่อนหน้านี้ที่มูบอกว่า ‘วันนี้พวกเราควรพายเรือ’ พวกที่เหลือก็ดันบ้าจี้มาพายเรือจริงๆ โดยแบ่งเป็นบุ๋มบีมเรือลำที่หนึ่ง เจ๋งเป้ง โซดา และมูไปเรือลำที่สอง ล้งเล้งกับทะเลมาเรือลำที่สาม




ซึ่งอีกสองลำมันพายกลับฝั่งไปหมดแล้ว เหลือเรือของเขากับไอ้ทะเลนี่แหละที่ยังคงเท้งเต้งอยู่กลางทะเลเกาะล้านเนี่ย




“ลูกหมา ใจเย็น”




ทะเลพูดพร้อมหัวเราะเมื่อลูกหมาของเขาที่ตอนแรกเม้งอยู่คนเดียวที่ต้องมาพายเรือทั้งที่ขี้เกียจ แต่พอไ้จับไม้พายเท่านั้นแหละ พายเอาพายเอาแบบสนุกสนาน จนพวกเขามาลอยกันอยู่ไกลฝั่งมากๆ แล้วเพิ่งจะรู้สึกหมดแรงแล้วก็บ่นออกมาตามสไตล์ของเจ้าตัว




“มึงไม่เหนื่อยเหรอ? กูโคตรเมื่อยแขน กล้ามแน่นกว่านักมวยแล้วมั้งตอนนี้อ่ะ”




ล้งเล้งบ่นพร้อมกับเหวี่ยงแขนคล้ายกับเมื่อยมากไปด้วย ซึ่งนั่นทำให้ทะเลอดขำออกมาไม่ได้ ตอนแรกเขาก็รู้แล้วนะว่าล้งเล้งเหมือนลูกหมาน่ารักๆ ที่กัดเจ็บ แต่เมื่อมารู้จักจริงๆ แล้ว ทะเลก็ค้นพบว่า




มันก็เป็นลูกหมาที่กัดเจ็บนั่นแหละ




“ก็เหนื่อย” ทะเลตอบออกไป เขานั่งอยู่ด้านหลังแล้วให้ล้งเล้งนั่งหน้า มันก็ตลกดีที่ได้เห็นลูกหมาหัวเสียแบบนี้ ”แต่ไม่ได้เหนื่อยอะไรขนาดนั้น”

“มึงแอบอู้ป่าว แล้วปล่อยให้กูพายคนเดียวงี้อ่ะ”

“บ้าหรือไง เมาทะเลเหรอ?”

“ก็กูมองไม่เห็น จะไปรู้ได้ไง” 




ล้งเล้งยังคงบ่นงุ้งงิ้งอยู่กับตัวเอง นักศึกษาหนุ่มยังไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองจะต้องมาติดอยู่กลางทะเลแบบนี้ ตอนแรกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกาะล้านมีเรือให้เช่าพาย แต่พอถามไปถามมาจากชาวบ้านแถวนั้นก็เจอจริงๆ ได้พายจริงๆ แล้วก็มาติดอยู่กลางทะเลแบบนี้จริงๆ ด้วย




“กูไม่กินแรงมึงหรอกน่าลูกหมา เชื่อใจกุได้ กูเคยแกล้งมึงเหรอ?”

“เคย”

“เออ ก็เคย”




ทะเลยักไหล่ด้วยท่าทางกวนประสาทซึ่งล้งเล้งสาบานว่าถ้าได้ขึ้นไปบนฝั่งเขาจะไม่ให้มันกินถั่วแระเลยคอยดูู




ไม่รู้ว่าทะเลเป็นบ้าอะไรทำไมถึงได้ชอบกินถั่วแระขนาดนี้ ตอนที่นั่งรถมาก็กิน ตอนมาถึงที่พักก็กิน ขนาดเมื่อกี้ก่อนลงทะเลกันมันก็ยังต้องกินถั่วแระ อร่อยยังไงล้งเล้งก็ยังไม่เข้าใจ




อันที่จริง เขามีอะไรในตัวทะเลหลายอย่างที่ไม่เข้าใจ




“มึง”

“ว่า?”

“ที่มึงเล่นกันตอนนั่งรถมาอ่ะ ที่บอกมาทำความรู้จักกันหน่อย เรามาลองเล่นตอบคำถามกันมั้ย?”




ล้งเล้งหันหลังไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างหลัง ทะเลมีรอยยิ้มบางๆ คล้ายกับว่าตัวเองกำลังเอ็นดูคนตรงหน้ามากๆ ประดับอยู่ ซึ่งรอยยิ้มแบบนั้นของทะเลไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็น




มันมีมาตลอด เพียงแต่ล้งเล้งไม่เคยสนใจ




“กู…” ล้งเล้งกัดริมฝีปาก “กูเองก็อยากรู้จักมึงเหมือนกัน”

“ได้สิลูกหมา ได้เสมออยู่แล้ว"




ทั้งที่ยังนั่งอยู่กลางทะเล ล้งเล้งไม่สนใจว่าเพื่อนที่เหลือจะไปไหนกัน แต่ว่าตอนนี้เขายังอยากคุยกับทะเลแบบนี้ก่อน



“มึง… ชอบอะไร?”

“ชอบมึง”




ไม่ใช่แบบนี้สิเว้ย!




ล้งเล้งอ้าปากพะงาบๆ ไม่รู้ว่าเพราะอยู่กลางทะเลที่แดดร้อนเปรี้ยงหรือเปล่าเขาถึงได้รู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนฉ่าขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ ซึ่งมันคงดูตลกหรืออะไรบางอย่าง ทะเลถึงได้หัวเราะเหมือนกับว่าเอ็นดูนักหนา




“มึงต้องถามเฉพาะดิว่าชอบอะไร เพลง หนัง หรือว่าคน”

“ที่ไม่ใช่คนน่ะ! มึงชอบอะไร?”

“ถ้าเพลงกูชอบ Coldplay” ทะเลพูดด้วยเสียงยานคางเหมือนเดิม “หนังก็ชอบดูแอคชั่นทั่วไป”

“เออ อันนี้เหมือนกัน กูก็ชอบหนังแอคชั่น เพลงฟังอะไรก็ได้”




บทสนทนาของพวกเขาเริ่มเป็นกันเองมากขึ้น มันให้บรรยากาศคล้ายกับตอนที่ล้งเล้งเริ่มรู้สึกว่าทะเลเองก็คุยได้เหมือนกัน พวกเขาชอบอะไรคล้ายกันมากกว่าที่คิด ยิ่งพอคุยไปเรื่อยๆ แล้ว ล้งเล้งเองก็เพิ่งรู้ว่าทะเลเรียนรัฐศาสตร์




“ทำไมอ่ะ?”




ล้งเล้งถามเมื่อทะเลบอกว่าตัวเองเรียนคณะอะไร จะว่าก็ว่าเถอะ แต่เขาไม่เคยรู้เลยว่าเพื่อนคนนี้เรียนคณะอะไร ไม่เคยสนใจ แอบรู้สึกผิดนิดหน่อย เมื่อมาเทียบกันแล้ว ล้งเล้งคิดว่าทะเลรู้จักตัวเองดีเกือบทุกอย่าง




“ความจริงกูชอบอ่านนั่นอ่านนี่ตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว พอมาเรียนมันก็เปิดมุมมองได้เยอะขึ้นเยอะ สนุกดี”




นักศึกษาหนุ่มพยักหน้ารับ พวกเขาคุยกันอีกหลายเรื่อง จนเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วล้งเล้งก็ไม่รู้ โทรศัพท์มือถือเขาแบตหมดไปตั้งนานแล้ว ส่วนของทะเลเจ้าตัวไม่ได้เอาออกมาตั้งแต่ที่ห้องแล้ว เพราะว่าเปิดให้มันเล่นเกมเอาไว้ แล้วเจ้าตัวก็มาทำตัวติดกับเขาแทน




นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้พูดคุยกันเยอะมากขนาดนี้




“ทำไมมึงถึงซิ่ววะ?”




ล้งเล้งหันกลับมามองคนที่ถาม ทั้งที่ในมือยังมีพายอยู่ ตัวเขาก็เทอะทะเพราะเสื้อชูชีพ แต่ก็ยังอยากหันกลับไปมองหน้าอีกคนอยู่ดี




ทะเลในตอนนี้หน้าชื้นไปด้วยเหงื่อแต่ยังคงดูดี ผมที่ยาวระต้นคอของอีกคนถูกรวบไว้หลวมๆ ตรงท้ายทอย ยิ่งสายตาที่มองมาเหมือนกับว่าอยากจะเข้าใจเขามากๆ นั้นทำให้ล้งเล้งอดรู้สึกแปลกไม่ได้




“กูเรียนไม่ไหว กูรู้สึกว่ามันไม่ใช่”

“...”



“กูเคยคิดว่าตัวเองจะทำได้ทุกอย่างถ้าพยายามมากพอ แต่ตอนที่เข้าไปเรียนแล้วมันมึนไปหมด แค่อาทิตย์แรกกูก็รู้ตัวแล้วว่าตัวเองไม่น่ารอด นึกภาพตัวเองจบด้วยคณะนั้นไม่ออก ก็เลยไปลาออกแม่งเลย”



“ใจเด็ดจัง”

“กูคิดมากนะตอนแรกอ่ะ” ล้งเล้งพูดต่อ “ แต่พอคุยกับที่บ้านเยอะๆ ลองมาดูอีกทีว่าตัวเองจบไปแล้วอยากทำอะไร ไม่ใช่เด็กมอหกที่มีเป้าหมายว่าจะเข้ามหาลัยให้ได้อย่างเดียว กูอยากเป็นครู แล้วกูคิดว่าตัวเองไปสอนใครไม่ได้ถ้ากูยังเรียนไม่รอด ไม่ชอบสิ่งที่ตัวเองเรียน”




ทะเลนิ่งไปเล็กน้อย เพราะความกว้างของเรือคายัคที่มันมากเกินทำให้เขาไม่สามารถเอื้อมมือไปลูบหัวอีกฝ่ายอย่างที่อยากทำได้




“มึงเก่งแล้ว”

“ประชดกูป่าววะเนี่ย?”

“ไม่ดิ” ทะเลพูดนิ่งๆ ด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เห็นกูเป็นแบบนี้แต่กูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่กูเลือกนี่กูชอบจริงๆ หรือเปล่า คือกูชอบนะ มันสนุกแล้วกูก็ทำมันได้ แต่กูไม่รู้ว่าจบไปแล้วอยากทำอะไร หรือมีความฝันว่าตัวเองจะเป็นอะไรที่ชัดเจนแบบที่มึงเป็น”

“...”

“มึงเป็นคนเก่งมากนะสำหรับกูอ่ะ”




ในเวลาบ่ายกลางทะเลที่เหมือนกับจะไม่มีอะไรน่าสนใจ ตอนนั้นเองที่ล้งเล้งรู้สึกว่าตัวเองควรจะพูดสิ่งที่คิดจริงๆ เสียที




“มึงก็เก่ง”

“กูรู้”

“ไอ้เหี้ยนี่!” ละเล้งฟึดฟัดนิดหน่อย เมื่อทะเลกวนตีนด้วยเสียงยานคางนิ่งๆ ของมัน “กูหมายถึง กูคิดว่าตั้งแต่ประถมแล้วว่ามึงเก่งทุกเรื่องเลย เก่งจนกู… อิจฉา”

“...”

“แต่กูโอเคแล้วนะ เมื่อก่อนมันก็มีมั่งแหละยอมรับ คนเหี้ยไรวะอ่านนิดเดียวได้คะแนนท็อปห้อง เป็นบ้าหรือไงมึงง่ะ”

“กูก็ไม่ได้เก่งทุกเรื่องหรอกลูกหมา”

“อะไรวะ?” คนที่เมื่อกี้หันไปมองทางข้างหน้า หันกลับมา ใบหน้าน่ารักขมวดคิ้วสงสัย “มีเรื่องที่มึงไม่รู้ด้วยหรือไง?”

“เรื่องของมึงไง”

“...”




โอเค แดดมันก็ร้อนแหละ แต่หน้าก็ไม่ต้องร้อนขึ้นอีกแล้วก็ได้มั้ง




“พอเป็นเรื่องของมึงแล้ว กูไม่เคยเก่งเลยจริงๆ”




ไอ้เหี้ย! นี่มันอันตรายเกินไป!!




“กู… กู”

“เอ้า เขินเหรอลูกหมา?”

“ไม่คือกูแค่.. กูแบบ”




สมองของติวเตอร์ตัวเล็กวิ่งวุ่นวายไปหมด มีแต่คำว่า ‘ไอ้เหี้ยๆๆ ไอ้ทะเลแม่งๆๆ ฉิบหายๆๆๆ’ ตอนนี้เขามั่นใจว่าหน้าตัวเองต้องแดงเหมือนกับโดนเอาพระอาทิตย์มาจ่อแก้มแน่นอน




“มึงเขิน”

“คือกู…”

“เขิน”




เชี่ย! สู้ไม่ได้! แอคแทคมันรุนแรงเกินไป!! สู้ไม่ได้แล้ว!!!




“กูง่วง! กูนอนละ”




เมื่อรู้ตัวว่าแพ้แน่นอนในศึกการแข่งตอบคำถามทำความรู้จักกันครั้งนี้ ล้งเล้งก็ตัดสินใจทิ้งตัวหลับเลย หลับทันทีโดยไม่สนใจทะเลที่ร้อง ‘เฮ้ย! ไอ้ลูกหมา!’ ออกมา



ไม่รู้เว้ย! เวลานอนกลางวันของกูแล้ว!




“ไอ้ลูกหมาเอ๊ย”




ทั้งที่ควรจะโกรธ แต่ทะเลเพียงแค่หัวเราะออกมาเหมือนคนอารมณ์ดี ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้พวกเขาอยู่กลางทะเลแดดเปรี้ยงๆ ที่ไม่ได้มีความโรแมนติคเลยแม้แต่น้อย ทะเลอาจจะจีบไอ้ลูกหมาตรงหน้าเขามากกว่านี้ก็ได้






นอนได้นอนไปเลย ยังมีเวลาจีบอีกเยอะ




------- TBC -------








กลายเป็นนิยายรายเดือนไปแล้ววววว สังคมมมมมมม

นั่นแหละค่ะทุกคน 555555



#รักไม่คาดคิดในวันพุธ

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
เริ่มทำความรุ่จักกันละ,,,

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เขินแล้วนอนแก้เขินซะงั้น 55555

ออฟไลน์ babybaphomet

  • Baby Baphomet
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-1
    • Twitter
15th Wednesday

#รักไม่คาดคิดในวันพุธ






พัทยานี่มันอันตรายมาก! ย้ำอีกครั้งว่าอันตรายมากๆ!!! 



ล้งเล้งรู้สึกได้ว่ารอบนี้ทะเลคือของจริง



หลังจากเหตุการณ์ที่เขาติดอยู่บนเรือกับทะเลเพราะการพายเรือมันเมื่อยแขนเกินไป พวกเขาสองคนพายเรือเล่นกันอีกไม่นานก็กลับฝั่ง ถึงแม้ว่าล้งเล้งจะอ้างว่าเหนื่อยแล้วก็เมื่อยแขน แต่สาเหตุจริงๆ คือล้งเล้งไม่อยากอยู่กับทะเลสองคนอีกแล้วในตอนนั้น เพราะมันทำให้หัวใจเขาวูบโหวงมากเกินไป



ถึงแม้จะไม่ได้เกลียดอะไรแล้ว แต่มัน… ก็แปลกๆ อยู่ดี



เมื่อพายเรือและว่ายน้ำจนหนำใจ ตกเย็นพวกเขากลับจากเกาะล้านไปที่บ้านพักที่พัทยาเหมือนเดิม ตามธรรมเนียมของการมาทะเลปกติ เด็กหนุ่มทั้งเจ็ดตั้งตี้ก๊งเหล้าอยู่กลางบ้านที่เช่าอย่างคนขี้เกียจ ทั้งที่ชายหาดก็ไม่ได้อยู่ไกลขนาดนั้น



อันที่จริงแล้ว นอกจากความขี้เกียจ อีกเหตุผลหนึ่งคือ



มูเตลู



“อย่าออกไป”



มูเตลูพูดขึ้นมาตอนที่บุ๋มกำลังจับลูกบิดประตู ทุกคนหันมามองหน้ามูที่วันนี้เต็มไปด้วยสีชมพูตั้งแต่หัวจรดเท้า อันที่จริง มูเป็นคนที่พกของมามากที่สุดในบรดาพวกเขาทุกคน เพราะเจ้าตัวต้องเอาเสื้อมาเพียงพอสีมงคลตั้งแต่วันศุกร์ จนถึงวันอาทิตย์



“ทำไมวะมึง?”

“นั่นสินั่นสิ”



บุ๋มบีมพูดในสิ่งที่ทุกคนสงสัยต่อกันเป็นลูกคู่ ซึ่งมูกัดปากเหมือนกับว่าจะพูดดีหรือไม่พูดดี สุดท้ายเจ้าตัวเพียงแค่ส่ายหัว



“เออหน่า กินเหล้าในห้องแหละ”

“...”

“เชื่อกูเถอะนะ”

“เอาจริงก็ได้นะ ไม่ได้มีอะไร เราค่อยออกไปนั่งชายหาดพรุ่งนี้ตอนสายๆ ก็ได้มั้ง”



โซดาเพื่อนของทะเลเป็นคนพูดขึ้นมา ทั้งหมดก็เออออไปด้วย อันที่จริง ตัวทุกคนเองก็ไม่ได้อะไรขนาดนั้น แค่อยากมาพักผ่อนเฉยๆ ดังนั้นจะนั่งกินเหล้าในห้องหรือริมทะเลมันก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่



“เอาเหล้าออกมาเว้ย คืนนี้ไม่เมากูไม่นอน!”



สิ้นเสียงของล้งเล้งพวกเขาก็นั่งจับกลุ่มกันที่ห้องนั่งเล่นกลางบ้าน ขนมขบเคี้ยวถูกเอาออกมาวางกองๆ ไว้ที่โต๊ะ ส่วนทุกคนที่นั่งกันอยู่ที่โซฟาตอนแรก เริ่มเลื้อยมาอยู่บนพรม



ถือว่าโชคดีที่คนเลือกบ้านนั้นเลือกแบบที่เขาปูพรมไว้ให้ ไม่งั้นมันจะต้องมีสภาพทุเรศทุรังแน่นอน



“มึงๆ เรามาต่อเพลงกันเหอะ”



เสียงของเจ๋งเป้งดังขึ้นมา ล้งเล้งเพิ่งรู้ตอนนี้แหละว่าเพื่อนตัวเองคอแข็งระดับหนึ่ง ทั้งที่ตอนนี้เหล้าครึ่งขวดอยู่ที่มันคนเดียวเนี่ย เจ๋งเป้งแม่งยังพูดชัดอยู่เลย



ในขณะที่ตัวล้งเล้งตอนนี้กอดเบียร์สี่ขวดก็เริ่มมึนๆ แล้ว



“น่าสนใจน่าสนใจ”

“ใครจะเล่นอะไรก็รีบเล่น ไอ้บุ๋มเมาแล้ว”



บีมเป็นคนพูดตอนที่บุ๋มหัวเราะเอิ้กอ้ากอยู่กับขวดเบียร์ของตัวเอง ซึ่งล้งเล้งไม่เข้าใจว่ามันจะกินเหล้าพร้อมเบียร์ทำไม มองจากดาวอังคารก็รู้อยู่แล้วว่ามันเมาเร็ว



ส่วนไอ้คนข้างตัวที่นั่งจิบแก้วเหล้าของตัวเองอย่างทะเลนี่ก็ไม่มีทีท่าแม้แต่จะมึนเลยด้วยซ้ำ



“มาๆ เริ่มที่กูครับผม” 



มูในเสื้อลายดอกสีชมพูแปร๋นพูดออกมา พร้อมกับทำหน้ายิ้มแป้นแล้นใส่คนในวง ทุกคนรอฟัมันอย่างใจจดใจจ่อ ไม่เว้นโซดาที่ตอนนี้นั่งหั่นมะนาวมาบีบใส่แก้วเหล้าของตัวเองด้วย



“อั๊งอังอั่ง โดเรม่อน ดาอิซึกิ โดราเอม่อน เอ้า จบที่ น หนูเว้ย!”

“เพลงเหี้ยอะไรของมึงเนี่ย!”



ล้งเล้งโวยวายโดยที่ทั้งวงนั่งหัวเระ ในขณะที่ต้นตอของเรื่องทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้



“เอ้า ก็กูร้องแล้ว ตามึงอ่ะโซดา”

“แป๊บๆๆๆๆ ตากูเหรอ?” คนที่บีบมะนาวลงแก้วเหล้าของตัวเองลนลาน “เออๆ น หนูใช่มะ?”

“เยส”

“น้องเป็นสาวขอนแก่น ยังบ่เคยมีแฟน บ้านอยู่แดนอีสานนนนนนนนนนนนนน”



ในขณะที่โซดายกแก้วเหล้าของตัวเองขึ้นมาแล้วร้องเพลง บุ๋มบีมมูก็ทำเสียงซาวด์ประกอบ ‘เฮ้ เฮ้ เฮ้ เฮ้!!!’ พร้อมกับเจ๋งเป้งที่ตบกีตาร์เป็นทำนอง ทั้งที่ตอนแรกมันจะเอมาดีด 



“จบ น หนูอีกแล้วว่ะ”

“ไม่เป็นไรเว้ย ต่อเลยๆ เจ๋งเป้ง ตามึง!”

“น หนูใช่มะ? ได้!”



เจ๋งเป้งวางกีตาร์ กระแอมเล็กน้อย ทั้งวงตั้งใจรอฟังว่ามันจะร้องเพลงอะไรออกมา



“นี่คือสถาน… แห่งบ้านทรายทอง ที่ฉันปองมาสู่…. อะไรต่อวะ ลืม”

“ฉันยังไม่รู้เว้ยๆๆๆ” มูเตลูในเสื้อสีชมพู ช่วยเพื่อนอย่างเต็มที่!

“เอ้า แล้วใครรู้วะ?”

“ไม่ใช่เว้ย!” มูเตลูตบพื้นพรบให้ตัวเองเจ็บมือเล่น “เนื้อเพลงต่อจากนี้คือ ฉันยังไม่รู้”

“เออใช่!” เจ๋งเป้งที่ตอนนี้หน้าแดงคอแดง ร้องเพลงต่อ “...ฉันยังไม่รู้ เขาจะต้อนรับ ขับสู้เพียงไหน… จบที่ น หนู!”



ล้งเล้งขมวดคิ้ว



“เฮ้ยมึง ไหน มันจบที่ ห หีบไม่ใช่เหรอวะ?”

“มันสะกดด้วย น หนูไง”

“สะกดเหี้ยอะไร มันเป็นอักษรนำ! ไอ้เหี้ย! หลับในห้องตั้งแต่ปอหนึ่งหรือไงมึงอ่ะ!”

“มึงรู้ได้ไงวะ?”



เกิดเด๊ดแอร์ขึ้นสักพัก ก่อนที่เจ๋งเป้งจะพูดต่อ



“มันมี น หนูเป็นตัวสุดท้ายไงมึง ต่อที่ น หนูเว้ย!”

เจ๋งเป้งที่หน้าแดงคอแดงเพราะเริ่มเมาเถียง ซึ่งล้งเล้งปัดมือ เอาเลยมึง จะ ห หีบ หรือ น หนู คนต่อไปก็ไม่ใช่กูอยู่ดี



“บีมๆๆๆ ตามึงๆๆ”



โซดาพูดพร้อมกับเอามือเขี่ยๆ บีมที่ตอนนี้เกยตัวบุ๋มอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่อัศจรรย์มาก บุ๋มที่เมื่อครู่ตาจะปิดเหมือนคนเมา กลับฟื้นขึ้นมา แล้วร้องเพลงต่อได้ทันที



“น้องเปิ้ลน่ารัก!! น้องเปิ้ลน่ารัก!! น้องเปิ้ลน่ารัก!! น้อง… ครอก”



ไอสัด เมาหลับ



บุ๋มที่เมื่อกี้ลุกขึ้นมานั่งแล้วแหกปากร้องเพลง ‘น้องเปิ้ล’ แล้วเมาหลับไปทั้งที่ยังร้องไม่จบเพลงด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่จบเพลงเลย มันร้องได้จบท่อนก่อนสลบก็ถือเป็นบุญของวงเหล้านี้แล้ว



“เพื่อนมึงตลกว่ะไอ้สัดเอ้ย”



โซดาพูดพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง โดยที่มือข้างหนึ่งถือแก้วเหล้าทำหกรดตัวเอง ส่วนอีกข้างหนึ่งตบพื้นพรมไปด้วย



“น้องเปิ้ลนี่แม่งใครวะไอ้เหี้ย”

“ทุกวันนี้กูก็ยังไม่รู้เลย ฟังมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็น่าจะน่ารักนะมึง”



เจ๋งเป้งกับมูเตลูพูดกัน ตอนที่ชนแก้วกันสองคนพร้อมกับกินเหล้าในแก้วของตัวเองไปด้วย ซึ่งตอนนี้ล้งเล้งก็ไม่เข้าใจว่ามูมันจะใส่โค้กเยอะแยะอะไรขนาดนั้น



“โลกนี้ไม่มีใครน่ารักกว่าน้องเปิ้ลแล้วเว้ย!” โซดาเป็นคนพูดขึ้นมา พร้อมกับแกะเลย์กิน

“มีดิ” ทะเลพูดขึ้นมานิ่งๆ

“ใครวะ?”



บีมเป็นคนถาม ซึ่งออกจะแปลกสักหน่อย เพราะปกติแล้วบีมจะพูดต่อจากบุ๋ม จนบางครั้งแม้แต่ล้งเล้งก็คิดว่ามันสองคนเป็นพี่น้องคลานตามกันมาอย่างไรอย่างนั้น



“ก็ล้งเล้งไง ล้งเล้งน่ารักที่สุดแล้ว”



เงียบ



หลังจากที่ทะเลพูดด้วยเสียงนิ่งๆ ของตัวเองจบ ทั้งวงก็เงียบเหมือนกับเป่าสาก มูกับบีมส่งสายตาแบบ ‘มึงๆ คิดเหมือนกูมั้ยวะ?’ ‘เออๆ กูก้คิดเหมือนมึงอ่ะ’ กันไปมาอยู่สองคน โซดาอ้าปากค้างจนเผลอทำแก้วเหล้าในมือหกใส่ตัวเอง ส่วนเจ๋งเป้งทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ในใจคิดว่าเดี๋ยวสักพักล้งเล้งเพื่อนตัวเล็กของพวกเขาจะต้องโวยวายใส่ทะเลแน่ๆ เพราะว่าเจ้าตัวไม่ชอบให้แซวแบบนี้



แต่ทุกอย่างผิดคาด!



ล้งเล้งก้มหน้าลงเหมือนกับกำลังหาอะไรบางอย่างอยู่บนพื้นพรม แต่ที่แก้มทั้งสองข้างของเจ้าตัวกลับขึ้นสีระเรื่อทั้งที่เมื่อกี้ไม่เป็น



สิ่งมหัศจรรย์ของโลก!



ล้งเล้งเขิน!!!



“ทะเลแม่ง หยอกเก่งเพื่อนจัง ฮ่ะฮ่า”



เจ๋งเป้งเป็นคนแรกที่พูดทำลายความเงียบขึ้นมาเพราะรู้สึกว่าบรรยากาศมันประหลาดแบบที่เขาไม่ชอบใจนัก หวังให้ทะเลหัวเราะด้วยเสียงโมโนโทนของเจ้าตัวแล้วกลับมาเล่นต่อกันสักที แต่ทะเลกลับทำเพียงแค่ส่งสายตาสงสัยไปให้เจ๋งเป้งเท่านั้น



“หยอกอะไรวะ?”

“อ่าว ก็เมื่อกี้ไง”

“ไม่ได้หยอกนะ คิดแบบนี้จริงๆ”

“...”

“ล้งเล้งน่ารักที่สุดจริงๆ”

“...”

“ใช่มั้ย ไอ้ลูกหมา”



ล้งเล้งแทบจะมุดลงไปซุกหน้าอยู่ใต้พรมตอนที่คนข้างๆ ถามเขาเสียงนิ่งๆ แล้วหันมามองหน้าคล้ายกับว่าต้องการให้เขาพยักหน้าพร้อมยิ้มให้แล้วบอกว่า ‘ใช่ครับที่รัก’ อย่างไรอย่างนั้น



บ้าเอ้ย! บ้าแม่งทั้งหมดนั่นแหละ!!



พัทยาครั้งนี้แม่งอันตรายจริงๆ ด้วย!!!




------- Wednesday In Class -------






หลังจากที่ทะเลชมล้งเล้งออกมาโต้งๆ แบบนั้น กิจกรรมต่อเพลงก็เลยหยุดชะงักเปลี่ยนไปเป็นแข่งร้องเพลงกันใครแพ้ต้องออกไปซื้อเหล้าเพิ่ม



ซึ่งคนนั้นก็คือล้งเล้ง



“ไม่รู้มันจะกินอะไรกันมากมายนัก”



คนตัวเล็กบ่นเมื่อต้องเป็นหน่วยกล้าตายออกมาซื้อของ แถมรายการของกินที่ฝากซื้อนั้นยาวกว่ากำแพงเมืองจีน ขนาดล้งเล้งถือเงินมานับพันยังเกือบไม่พอ เหล้ายาปลาปิ้งอะไรกินกันครบหมด อันที่จริงล้งเล้งคิดว่าพวกมันใช้เขามาซื้อเซเว่นไปไว้บนห้องน่าจะเหมากว่า



“เอาหน่า ก็มีคนช่วยถือแล้วนี่ไง”



เสียงยานคางข้างตัวดังขึ้น ล้งเล้งกลอกตาอย่างเบื่อๆ



ทั้งที่เขาโดนให้ลงมาคนเดียวแท้ๆ แต่ไอ้นิสิตตัวสูงโย่งหน้านิ่งนี่ดันจะตามลงมาด้วยให้ได้เลย ล้งเล้งเลยต้องปล่อยเลยตามเลย อันที่จริงตอนแรกเหมือนเจ๋งเป้งอาสาจะมาด้วย แต่โดนโซดากับบีมล็อกคอให้นั่งเล่นไพ่ด้วยกันก่อน คนที่ได้ลงมาก็เลยเป็นทะเลอย่างที่เห็น



“มันก็ดี แต่…”

“ขอโทษนะคะ”



 ในขณะที่พวกเขากำลังเดินเลียบหาดกลับที่พักอยู่นั่นเอง มีผู้หญิงคนหนึ่งเรียกเด็กหนุ่มทั้งสองจากด้านหลัง ซึ่งเมื่อหันไปมีเด็กผู้หญิงยืนกันอยู่เป็นกลุ่ม แต่มีคนหนึ่งวิ่งเหยาะๆ มาหา



“ขอเบอร์หน่อยได้มั้ยคะ?”



มาขอเบอร์ไอ้ทะเล!



“ได้มั้ยคะ?”

“ขอคนนี้เลยครับ”



ล้งเล้งสะดุ้งเมื่อคนที่ถูกขอเบอร์ชี้มือมาทางตัวเอง ผู้หญิงทั้งกลุ่มมองมาทางเขา โดยเฉพาะคนที่ยืนโทรศัพท์มาที่หน้าไอ้ทะเลเมื่อครู่ เธอชะงักนิดหน่อย ก่อนที่จะเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นล้งเล้งแทน



“ขอเบอร์เพื่อนเธอหน่อยนะ”

“เอ่อ…”



เอาไงดีวะ



เมื่อล้งเล้งมองหน้าทะเล อีกฝ่ายทำเพียงแค่เลิกคิ้วเฉยๆ เหมือนรอว่าเขาจะทำยังไง



เออ ให้ก็ให้!



ล้งเล้งรับโทรศัพท์จากมือหญิงสาวมาก่อนที่จะกดไล่ในโทรศัพท์ตัวเองแป๊บนึง ก่อนจะพิมพ์ยุกยิกพักหนึ่งแล้วส่งให้ ซึ่งหญิงสาวขอบคุณเขาหลายครั้งก่อนจะกลับไปรวมกลุ่มกับเพื่อนตัวเองแล้วส่งเสียงกรี๊ดออกมาเบาๆ เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการ ล้งเล้งสาบานว่าได้ยินเสียงชมทะเลหล่อมากแล้วก็เสียงแซวจากกลุ่มหญิงสาวด้วย



พวกเขาเดินต่อกันด้วยความเงียบ ในขณะที่ล้งเล้งกำลังก่นด่าเพื่อนตัวเองในใจที่มันฝากซื้อของเยอะแยะ ทะเลที่เหมือนกับอยู่ในภวังค์ของตัวเองก็พูดออกมา



“มึงให้ไปทำไมอ่ะ?”



ถ้าล้งเล้งได้ยินไม่ผิด เหมือนเสียงนั้นเจือความน้อยใจอยู่ด้วย



“เอ้า! ก็มึงบอกว่าให้เขามาถามกู กูก็ให้ไปดิ”

“ไม่ดิ มึงต้องไม่ให้ดิ”

“ทำไมอ่ะ?”

“ก็กูจีบมึงอยู่ไง มึงจะให้เบอร์กูกับคนอื่นแบบนี้ไม่ได้นะเว้ย”



ทั้งที่เป็นคำพูดธรรมดากับน้ำเสียงเรียบนิ่งยานคางของทะเลตามปกติ แต่ไม่รู้ทำไม ล้งเล้งถึงได้รู้สึกหน้าร้อนขึ้นมา



“โอ้ย นึกว่าอะไร” ล้งเล้งพูดพร้อมกับพยายามกลั้นหัวเราะ “กูไม่ได้ให้เบอร์มึงสักหน่อย”

“มึงให้เบอร์ตัวเองไปเหรอ? ไม่ได้นะเว้ย! ทำไมชอบแจกเบอร์นักวะ”



รอบนี้ทะเลเหมือนเม้งแตกของจริง แต่ล้งเล้งกลับหัวเราะร่วนเหมือนคนที่เพื่อนเล่นมุกแป้กแล้วดันขำจริง



“กูไม่ได้ให้เบอร์ตัวเอง ไอ้บ้า กูให้เบอร์มูไป”

“...”

“เบอร์มันขึ้นมาคนแรกอ่ะ กูเลยเลือกๆ สุ่มๆ ไปให้เขา”



ทั้งที่เจ้าตัวรู้ว่าไม่ควรจะขำแต่ตอนนี้มันหยุดไม่ได้แล้วจริงๆ ล้งเล้งหัวเราะออกมาเสียงดังเมื่อทะเลที่ชอบทำหน้านิ่งๆ กวนประสาทตลอดมา เปลี่ยนสีหน้าเป็นโมโห และเปลี่ยนเป็นสีหน้าเด๋อด๋าในเวลาไม่กี่วินาที



ซึ่งมันคือเรื่องจริง เมื่อกี้ตอนที่โดนยื่นโทรศัพท์มาให้ ล้งเล้งคิดอะไรไม่ออกเลยเอาเบอร์แรกที่โทรเข้ามาล่าสุดให้เธอไป ซึ่งเบอร์นั้นคือเบอร์มูเตลูเพื่อนสนิท เพราะว่าเจ้าตัวโทรมาสั่งขนมเพิ่มตอนที่เขาเดินออกมาจากที่พักไม่นาน แถมยังย้ำนักย้ำหนาไม่ให้ลงน้ำทะเล ไม่รู้มันเป็นบ้าอะไร ใครมันจะนึกคึกลงทะเลตอนนี้กัน



“ไอ้ลูกหมา มึงนี่มัน”



ทะเลพูดเหมือนมันเขี้ยวเขามาก ซึ่งล้งเล้งก็ลอยหน้าลอยตาตอบ

 

“ทำไม กูทำไม?” 

“น่ารัก”



ไอ้เชี่ย สาบานเลยว่าเขาไม่ได้คาดหวังคำตอบแบบนี้เลยสักนิด!



“น่ารักจนไม่อยากให้เป็นของใครเลย”

“...”

“แล้วกูก็จะไม่ยอมให้มึงเป็นของใครด้วย”



ท่ามกลางเสียงลมทะเลพัดอย่างรุนแรง ทะเลกลับทำให้ล้งเล้งรู้สึกหัวใจตัวเองเต้นเร็วขึ้น ซึ่งมันเป็นเพราะคำพูดไอ้ทะเลแท้ๆ เชียว!



“มึงไม่ต้องรีบตอบตกลงกับกูก็ได้นะ”

“...”



ทะเลพูดขึ้นมาตอนพี่พวกเขากำลังจะถึงบ้าน ใบหน้าของมันยังคงนิ่งเหมือนเดิม หากแต่คำพูดกลับดูจริงจังเหมือนกับทุกครั้งเวลาที่นิสิตหนุ่มพูดถึงความรู้สึกของตนเองที่มีต่อเขา



“กูรอได้ รอมึงมาทั้งชีวิตแล้ว รอต่ออีกหน่อยก็ได้”

“... ทะเล”

“แค่อย่าเพิ่งมีแฟนก็พอ ตกลงนะ”



ไอเหี้ยเอ๊ย ทำแบบนี้แล้วเขาจะไปไหนได้วะ!



“ระ… เรื่องของมึงเถอะ!”



ล้งเล้งเดินหนีออกมาซึ่งทะเลวิ่งตาม ตอนนี้รอบข้างของพวกเขาฝั่งหนึ่งเป็นถนน อีกฝั่งเป็นชายหาด ในตอนนั้นเอง ล้งเล้งเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังดำผุดดำว่ายอยู่ในน้ำทะเลสีเข้ม



แปลก



ชายหนุ่มคิดแว๊บขึ้นมาในใจ พอดีกับที่ผู้หญิงคนนั้นเงยหน้าขึ้นมาสบตาเขา ซึ่งท่าทางเธอเหมือนกับเป็นกังวลมาก เธอพูดอะไรบางอย่างแต่ล้งเล้งไม่ได้ยินเพราะว่าเสียงลมทะเลดังกลบทุกอย่างที่ไกลตัวไปเสียหมด



“มึง เขาเรียกเราป้ะวะ?”



ล้งเล้งหันไปขอคำปรึกษาจากเพื่อนข้างๆ ทะเลมองไปตามทิศทางที่ล้งเล้งพยักพเยิดไป แล้วหันกลับมาหาไอ้ลูกหมาของเขา



“มึงพูดถึงใครวะ?”

“ก็ผู้หญิงคนนั้นไง” ล้งเล้งชี้มือไปทางชายหาด ที่มีน้ำทะเลขึ้นสูงกระทบฝั่ง “กูว่าเขากำลังต้องการความช่วยเหลือว่ะ มึงถือถุงให้กูแป๊บนะ เดี๋ยวกูมา”

“มึง เดี๋ยวดิ เฮ้ย!”



ล้งเล้งไม่ฟัง เด็กหนุ่มเดินดุ่มๆ ไปที่ทะเลตรงหน้าทันที เป้าหมายคือหญิงสาวที่ตอนนี้กำลังกวักมือเรียกให้เขาเข้าไปใกล้อยู่



น่าแปลกที่เมื่อครู่ผู้หญิงคนนั้นเหมือนอยู่ไม่ไกล แต่พอเขาเดินไปแล้ว ผู้หญิงคนนั้นเหมือนลอยอยู่กลางทะเลห่างจากเขาไปประมาณสองเมตร



“ขอโทษนะคะ ช่วยเราหาหน่อยได้มั้ย?”

“ได้ครับ ให้ผมหาอะไร?”



ล้งเล้งตะโกนตอบหญิงสาวที่ถามมา แต่เธอไม่ตอบ เธอก้มลงไปในทะเลอีกครั้ง ก่อนที่จะผุดขึ้นมาใหม่



“เราทำหาย มันหายไปแล้ว หาไม่เจอเลย คุณช่วยหาหน่อยได้มั้ยคะ?”

“ได้ครับ ต้องทำยังไง”



ล้งเล้งตะโกนถามหญิงสาวกลับไป ในขณะที่กำลังถอดรองเท้าไปด้วย ไม่ได้สังเกตว่าตอนนี้ทะเลที่เมื่อครู่อยู่บนฝั่งวิ่งตามมาอยู่ข้างๆ แล้ว ล้งเล้งโฟกัสเพียงหญิงสาวตรงหน้าเท่านั้น ท่าทางเธอเหมือนกับกำลังร้อนรนและต้องการความช่วยเหลืออย่างมาก



“งมหามานานแล้ว ไม่เจอเลย มาช่วยงมหน่อย”

“โอเค แป๊บนึงนะครับ” 



ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังจะก้าวขาวิ่งลงไปในน้ำ ผู้ที่มาด้วยกันกลับกระชากแขนเขาเอาไว้



“มึง อย่า”

“ไอ้เหี้ยทะเล มึงปล่อยก่อน” ล้งเล้งพยายามสะบัดให้หลุดการเกาะกุม ทว่าอีกฝ่ายแรงเยอะเกินไป เขาเลยทำได้แค่ดิ้นเล็กน้อยเท่านั้น “มึงไม่เห็นเหรอว่าเขาขอความช่วยเหลืออยู่?”

“ไม่เห็น”

“เชี่ย! แล้งน้ำใจ!”

“ไม่ใช่” ทะเลพูดด้วยเสียงนิ่งๆ พลางมองที่ล้งเล้ง ใบหน้าหล่อของนิสิตหนุ่มซีดเผือด “กูไม่เห็นจริงๆ”

“ฮะ…”

“กูไม่เห็นอะไรเลยนอกจากมึงจะวิ่งลงไปในทะเล”



เดี๋ยวนะ?”



พอล้งเล้งมองกลับไปอีกที เขาเห็นผู้หญิงคนนั้นอยู่ใกล้มาก เธอยังคงอยู่ในน้ำแต่ใกล้กว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด เธอโผล่มาแค่ครึ่งตัวทั้งที่น้ำตรงหน้านั้นติดชายหาดแท้ๆ



ไม่มีทางที่คนจะยืนครึ่งตัวในน้ำตื้นเท่านี้ได้แน่นอน!



ในขณะนั้นเอง หญิงสาวตรงหน้าล้งเล้งเผยรอยยิ้มออกมา ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่น่าขนลุกที่สุดที่เด็กหนุ่มเคยเห็น ปากของเธอกว้างขึ้นเรื่อยๆ จนมุมปากฉีกออกไปถึงใบหู ตาเมื่อครู่ที่ดูเดือดร้อนแข็งกร้าว เสียงแหบเย็นไม่เหมือนกับเสียงของผู้หญิงพูดขึ้นมา



“หาตัวตายตัวแทนไม่เจอเลย มาช่วยหาหน่อยสิ”



เชี่ย



เชี่ย!!!!!!!



“อีกนิดเดียวจะได้แล้วแท้ๆ น่าเสียดายจัง”



เธอทิ้งไว้แค่นั้น ก่อนที่จะผลุบหายลงไปในน้ำทะเลดำมืด



ทิ้งไว้เพียงแค่ชายหนุ่มสองคนบนผืนทราย และเสียงคลื่นลูกใหญ่ซัดมากระทบฝั่งเท่านั้น






------- TBC -------






 

ตันค่ะ สารภาพตรงนี้



#รักไม่คาดคิดในวันพุธ



ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด