#ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ไม่ใช่นางเอก EP.5) 16/12/2019

Boy's love > เรื่องสั้น

#ใครเขาจะไปทนกับมึง (รวมเรื่องสั้น : ไม่ใช่นางเอก EP.5) 16/12/2019

(1/13) > >>

lookpatty15407:

--- อ้างถึง ---ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
--- ปิดอ้างถึง ---

_________________________
#ใครเขาจะไปทนกับมึง

ด่าคนอื่นว่าร่าน แต่ตัวเองเสือกไปมีอะไรกับชาวบ้าน
เป็นบุรุษที่ไม่รู้จักพอ
“ใครเขาจะไปทนกับมึง”
เนื้อหาที่อัพแล้วมีชื่อตอน

1.   คนแพศยา 1 – 2 END
2.   เพียงนิรันดิ์ END
3.   จดจำไม่รู้ลืม END
4.   มิอาจหวนคืน (ภาคต่อจดจำไม่รู้ลืม END)
5.   ดูนี่นะ END
ุ6.     อีกตัวตน END -----> *อยู่หน้าสอง*
ึ7.     ไม่ใช่นางเอก  1 - 5 End

lookpatty15407:
คนแพศยา : 1

ก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าชีวิตนี้จะมีผัวที่มักมาก ตบตาเสแสร้งเก่งยิ่งกว่าสตรี นิสัยปลิ้นปล้อน หลอกลวง

แรกๆ อะไรก็ดีไปหมด ปากหวาน ตามจีบ ขอคบเป็นแฟน เข้าไปอยู่หอเดียวกัน…

สิ่งที่เห็นอยู่ตรงนี้ก็มีเพียงแค่เตียงนอนสีขาว

เผยภาพบุรุษแพศยากับสตรีนางหนึ่งที่นอนทอดกายเปลือยเปล่า

สวิตซ์ห้องถูกเปิดดังพรึ่บ แสงสีจึงตกกระทบไปที่เปลือกตาของคนสองคน

ร่างที่หลับใหลก็คล้ายงัวเงีย ฝ่ามือหยัดกายขึ้นไปที่ตั่งเตียง ปลายนิ้วชี้ขยี้ไปมาที่เปลือกตาเพื่อขับไล่ความง่วงงุน

ผ้านวมที่เคยอำพรางตัวก็ร่วงตกหล่น จนเห็นกล้ามเนื้อที่เคยกรีดกรายกับไรขนของสิ่งใต้ร่าง

แฟนคนนี้เคยมาก่อน…

เคยกลืนน้ำลายกับกล้ามเนื้อที่เป็นโต้คลื่นอย่างสวยงาม

เคยใช้ปลายนิ้วไล่สัมผัสไปมาอย่างยั่วเย้า

เคยสูดปากร้องกระสัน

เคยครวญครางเพราะสิ่งใต้ร่างที่ใหญ่โออ่า

ทว่า…

บัดนี้น่าคลื่นเหียนยิ่งนัก

อยากจะขย้อนกับสิ่งที่เคยปรนเปรอ

น้ำมักมากที่เคยดูดกลืนมาก่อน

ขยะแขยงไปหมดกับโพรงหยักนุ่มที่โดนสอดใส่

“คุณ!”

เสียงของคุณดูตกใจมาก

ทัศนียภาพที่เคยพร่าเลือนก็พลันกระจ่างชัด

คงคาดไม่ถึง

คงไม่อยากจะเชื่อ…

ว่าแฟนคนนี้…มาเห็นความลับเข้าให้แล้ว ?

โธ่…

มันดูน่าขำไปหน่อยนะ

เพราะที่ผ่านมา

เพื่อนเตือน

บอกว่าเห็นคุณ…

ไปแอบเดทกับผู้หญิง

แอบเจอที่ผับ

แฟนคนนี้ก็ได้แต่บอก

‘คงไม่ใช่เขาหรอก’ อาจจะเป็นคนที่หน้าเหมือน…

แต่ใจจริงก็แอบกักเก็บเอาไว้

ไม่ได้โง่ดักดาน หรือใสซื่อแต่อย่างใด

ไม่ได้รักมากจนกู่ไม่กลับ

ถึงแม้แรกๆ จะร้องไห้

ปวดร้าว ทบทวีกับความชอกช้ำที่ถูกหักหลัง

แต่แล้วไง ?

คนที่ต้องเข้มแข็ง

คนที่ต้องให้กำลังใจ

ก็คือตัวกูเอง…

ฉะนั้นวันที่ผ่านมาก็เจตนาล้วนๆ
 
เสแสร้งจอมปลอม

แย้มยิ้มต่อหน้าคุณ

ทั้งที่ในใจ

วางแผนต่างๆ นาๆ

เพราะเริ่มสังเกตเห็นถึงถุงยางในลิ้นชัก

ที่ลดลงมากขึ้นเรื่อยๆ

เส้นผมที่ร่วงหล่นบนพื้นห้อง

ยาวเหยียด

สีดำบ้าง

ย้อมสีบ้าง

ไม่ใช่ของแฟนคนนี้แต่อย่างใด…

วันนี้เลยจงใจบอกกับคุณ

บอกว่าจะไปนอนที่บ้าน…

เพราะสัปดาห์หนึ่งจะนอนกับคุณที่หอสี่ครั้งต่อสัปดาห์

ปัจจุบันเราเป็นนักศึกษา

เป็นเด็กมหาลัย

เจอผู้คนที่แน่นขนัด

คุณเลยถึงไม่รู้จักพอ

ทุกวันนี้…

คุณถึงไม่รู้จักพอ

ไปเจอผู้หญิงที่หน้าตาน่ารักเข้าให้ล่ะสิ

คงคิดว่าเป็นคนสับรางเก่งนักสินะ…

คงคิดว่าฉลาดนักหนา ?

แต่โทษที…

แฟนคนนี้ฉลาดกว่า…

ได้แต่หลอกล่อคุณให้หลงกล

เช้ามาก็ไขกุญแจเข้ามาในห้อง

หากเป็นครั้งก่อนคงไลน์มาบอก…

ทักมาบอกกับคุณทุกการกระทำ

ว่าจะไปไหน

ไปทำอะไร

ไปกับใคร

หรือว่าจะกลับหอวันไหน….

แต่วันนี้ไม่…

ไม่เลย

ไม่ทำ

ไม่อยากทำ

ไม่อยากจะบอก

ไม่อยากจะให้รับรู้

เพราะอยากได้เห็น

อยากเห็นอีคนกลับกลอก

อีคนตอแหลที่ชอบหลอกลวง

ทำให้รู้ได้ดี…

ว่าผู้ชายแม่งหาคนจริงใจได้ยากแท้

โดยเฉพาะกับคนแบบคุณ

คุณที่ต่อหน้าดี แต่ลับหลังไม่…

คลับคล้ายคลับคลา…

เหมือนเจ้าชายที่ใฝ่ฝันที่ถวิลหา

เปลือกนอกเพียบพร้อมไปทุกสิ่ง

ทั้งที่ภายใน…

เหี้ยสิ้นดี

“ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ”

หึ แฟนคนนี้อยากจะหัวเราะนักกับสิ่งที่ได้ยิน

จับจ้องไปที่ใบหน้าของคุณที่เริ่มถอดสี

สายตาล่อกแล่กไปมา

หวาดกลัว

ตื่นตระหนก

ตอบไม่ได้

อธิบายไม่ถูก

พินิจมองแฟนคนนี้ที่มองผู้หญิงที่เริ่มตื่นขึ้นมา

ก่อนจะหยิบผ้านวมมาบดบังเรือนร่าง

ดวงตาเบิกกว้าง มองคุณกับแฟนคนนี้โดยไม่ปริปากใดๆ

คงกลัวโดนตบ…

แต่ไม่หรอก…

ไม่อยากจะทำเพราะเปลืองแรง

ได้แต่ยิ้มกับสิ่งที่เห็น

ไม่มีความยี่หระเลยสักนิด

คล้ายชินชา

คล้ายทำใจเอาไว้แล้ว

เลยได้แต่ยิ้มกลบเกลื่อน

เลือกที่จะมองข้าม

เดินไปหยิบของในตู้เสื้อผ้า

ยัดใส่กระเป๋าใบใหญ่

ไม่มีคำด่าใดๆ

ไม่มีการอวดครวญดั่งคนอกหัก

ปานจะขาดใจตาย กับการถูกหักหลัง

ไม่…

ไม่ทำ

มันดูงี่เง่า…

ร้องไปก็ไม่ได้อะไร

จะให้มาระบายตบตีสาแก่ใจ

ก็คงไม่ช่วยอะไร...

เจ็บมือเปล่าๆ

ปวดร้าวไปเปล่าๆ

ทำให้ใบหน้าต้องมาเปื้อนน้ำตา

น้ำมูกไหลหยด

คงดูน่าสมเพชกันน่าดู

เผยความเข้มแข็งแตกต่างจากคนทั่วไป…

แฟนคนนี้เลยเลือกที่จะทำ

กระทั่งคุณที่เริ่มเป็นฝ่ายร้อนรน

เริ่มลุกขึ้นมาสวมใส่กางเกงลวกๆ

วิ่งแจ้นเข้ามาหา

ใช้ฝ่ามือหยาบกร้านแตะลงที่ลาดไหล่

หมุนกายของแฟนคนนี้ให้หันมามอง

สบตากัน…

“คุยกับผมก่อน”

หืม ? คุยอะไรอะ

ในเมื่อหลักฐานก็เป็นที่ประจักษ์ชัด

เสื้อผ้ายกทรง รวมไปถึงกางเกงชั้นใน

ต่างก็กระจายเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้นห้อง

มีอะไรที่ต้องคุยกัน ?

ได้แต่ยิ้มค้างเติงอยู่อย่างนั้น

เหมือนหุ่นที่ถูกสร้างขึ้น

ไม่เปิดเผยด้านอารมณ์

ถูกแต่งแต้มใบหน้าอย่างไร…

ก็เป็นเช่นนั้น

 พลางยกแขนขึ้นมา

ปัดมือทิ้งของคนมักมาก

ช่างเป็นมือที่แปดเปื้อนสิ้นดี

กล้าดียังไงถึงฉุกคิดมาสัมผัสกัน

หากกลับบ้านไป…

คงต้องถอดเสื้อตัวนี้ออก

เอาแอกอฮอล์ราด

จุดไฟเผาทิ้ง

สถานเดียว…

“ฟังผมก่อน !”

มีคนฉุนเฉียว

คล้ายหมาบ้าน

ใบหน้าแดงจัด

เส้นเลือดตึงขนัดที่ข้างขมับ

คงร้อนรน

คงหวาดกลัวกับท่าทางของแฟนคนนี้

คุณกำลังกลัว…

หวาดกลัวกับความเป็นจริง

แต่เชื่อเถอะ…

เทียบไม่ได้กับแฟนคนนี้

“เสร็จยังครับ” เสียงผู้มาใหม่ดังลอดขึ้น

แฟนคนนี้จึงหันไปมอง

มาได้จังหวะพอดีเลย…

ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างให้ชายฉกรรจ์

สร้างความแคลงใจต่อใครบางคน

“อื้ม เสร็จแล้วครับ” พลันเอื้อนเอ่ยตอบกลับไป

รีบหยัดกายลุกขึ้นยืน

ไม่คิดจะมองเสี้ยวใบหน้าของคุณเลยสักนิด

พานเดินผ่านคนตัวโตที่กำลังบดบังทิศทาง

หลบเลี่ยง ไม่อยากจะเอาไหล่กระทบแดกดัน

คร้ามเกรงว่าเชื้อโรคจะตามติด

จบแบบนี้คงจะดีกว่า…

ไม่มีน้ำตาที่หวนไห้

กรีดร้องเป็นบ้าเป็นหลัง

ตัวสั่นผงกเพราะความเกรงกลัว

หรือตั้งคำถามใดๆ เพื่อเค้นคำตอบออกจากปาก

ไม่มีการประทุษร้าย

พูดจาสาปส่งหรือคอยอวยพร

มีแต่ความเงียบที่คอยปกคลุม

จูงมือใครอีกคนแล้วเดินออกจากห้องไป

โชคดีที่ไม่มีการทำร้ายใดๆ

มีแต่ความงงงวยของคุณทั้งสิ้น

ไร้การดื้อดึง

หรือการยื้อไว้…

นอกจากจับต้นชนปลายกันไม่ถูก

ว่าบุรุษผู้นี้เป็นใคร…

แฟนคนนี้เอนกายแนบชิด

ยิ้มหวานและส่งสายตารักใคร่ให้กับเขา

ทั้งที่จริง…

เป็นคนที่ว่าจ้างก็เท่านั้น

กันไว้เผื่อถูกทำร้าย

กันไว้ยามที่คุณกู่ไม่กลับ

จะได้ให้เขาต่อยไปที่ใบหน้าของคุณให้น่วม

ทว่าวินาที…

กลับโชคดีที่ไม่มีใครบาดเจ็บ

เลยอดเจอร่องรอยเขียวช้ำ…

จากใบหน้าคุณ

.
.
.

บนโต๊ะที่มีแต่แก้วที่ถูกรินด้วยเหล้า

รสชาติเข้มข้นแสบพล่านไปตามลำคอ

สายตาจับจ้องไปยังผู้คน

แสงสีนวลลออหลากสีสัน สลับไปมาตามจังหวะของท่วงทำนอง

ผู้คนลุกขึ้นเต้น

อิริยาบถยั่วยวน มีเสน่ห์พริ้มเพราแตกต่างกันไป

ส่วนแฟนคนนี้กำลังมีบุรุษมาแตะต้องที่ต้นขา

ฉุกคิดมาลูบไล้

ใช้ใบหน้าคมคายประชั้นชิด

พรูลมหายใจอุ่นร้อนที่ข้างกกหู

สายตาพลันไปเห็นคนคนหนึ่งที่จ้องมองมา

เป็นคุณ…

คุณ ‘ดินแดน’  ที่เคยเลิกรากันไป

คุณอยู่ฝั่งตรงข้าม

แฟนคนนี้เลยเลือกที่จะแสร้งทำเป็นมองไม่เห็น

ยกเหล้าขึ้นมาจิบกันกระหาย

ทั้งที่มุมปากแอบลอบยิ้มกับสิ่งที่คอยอำพราง

มีคนหลงกล…

มีคนติดกับดักของนายพราน

อ่าห์…

การเช็กอินไม่เสียเปล่าเลย

เพราะตั้งค่าสาธารณะเอาไว้

การโพสต์รูปและข้อความนั้นได้ผล

ช่างเป็นประโยชน์ยิ่งนัก

แม้จะผ่านมาหลายวันแล้ว

ลบเฟซของคุณไปแล้วก็ตามที

แต่ก็รู้ดี…

คนที่นิสัยอย่างคุณ

น่าจะสอดรู้ทุกเวลา

แฟนคนนี้เลยเลือกที่จะเอียงคอเล็กน้อย

ปล่อยให้หนุ่มหล่อคลอเคลียและดูดดุนไปที่ต้นคอ

สร้างตีตราจองได้ตามใจนึก

แลกผลพลอยได้ในกันและกัน

พลันเอียงหน้ามาหาชายหนุ่ม

ใช้กลีบปากนุ่มหยุ่นเข้าไปประทับ

บดจูบ

เคล้าคลึง

ก่อนจะสอดปากลิ้นรุกล้ำอณาเขต

เย้าแหย่รสสัมผัสที่หวานล้ำบนปลายลิ้น

ทุกอิริยาบถช่างจาบจ้วง

หยาบโลนเหมือนหยาดน้ำลายที่เชื่อมประสาน

กระหวัดรัดเกี่ยวไม่ยอมผ่อนผัน

เสื้อเชิ้ตสีขาวที่ปลดกระดุมลงมาสองเม็ด

เริ่มโชว์ไหปลาร้า

กางเกงยีนส์ขาดๆ ฉบับแฟชั่นก็พลันตวัดขาขึ้น

โถมทับขึ้นคร่อมบุรุษ

สะโพกมนบดขยี้ไปที่จุดยุทธศาสตร์

สัมผัสได้ถึงความแข็งขืน

ก่อนจะเอื้อนเอ่ยถ้อยคำที่แสนหยาบโลน

บ่งบอกถึงความเจตนาภายในใจ…

“ไปต่อกันเถอะ”

เผื่อจะได้มีคนดิ้นเร่าทรมาณ

ทำตามเหมือนที่เคยถูกกระทำ

ลบล้างร่องรอยสัมผัส

แทนที่ด้วยสิ่งเร่าของใครต่อใคร

เพราะอยากจะแปดเปื้อนบ้าง

“ไปมีเซ็กส์กัน”

เพราะแฟนคนนี้ติดเซ็กส์สิ้นดี…

คุณเองก็น่าจะรู้ดีอยู่แก่ใจ

จริตจะก้านในท่วงที

ถูกขัดเกลาทุกวี่ทุกวัน

คุณเป็นคนทำ…

โชกโชนจนชำนาญ

lookpatty15407:
คนแพศยา : 2 (END)

ครั้นออกมาข้างนอก…

กำลังจะก้าวขาขึ้นรถของชายหนุ่ม

แต่เป็นใครกันแน่ที่หน้าด้านมากกว่ากัน…

เป็นแฟนคนนี้…

หรือเป็นคุณที่วิ่งตามมา

ฉุดกระชากแฟนคนนี้เข้าหาตัวราวกับพวกหวงแหน

“เฮ้ย มึงปล่อยนะ !”

บุรุษที่หมายตาแฟนคนนี้ไว้

ผลักอกของคุณอย่างแรง

พูดจาเกรี้ยวกราดไม่ต่างจากคุณ

“นี่แฟนกู !”

แต่คุณกลับหน้าด้านยิ่งกว่า

สถาปนาบทบาทเก่าที่เคยมอบมาให้

ไม่วายมอบความเจ็บริ้วที่เรียวแขนเล็ก

ฝ่ามือเสมือนคีมเหล็กกอบกุมแน่นขนัด

หากปลดปล่อยออกมาคงเผยผิวขาวที่ช้ำใน

ช่างเป็นเรื่องที่น่าเบื่อยิ่งนัก

เป็นเรื่องตลกร้ายที่อยากจะหัวเราะออกมาเสียดังลั่น

กล้าดียังไงถึงได้มารั้งแฟนคนนี้ไว้

ทั้งที่เป็นตัวคุณเองแท้ๆ…

เป็นคุณเองแท้ๆ…

ที่ทำให้ความสัมพันธุ์ต้องแตกหัก

ทำให้ความรักต้องขาดสะบั้น

ไม่มีวันที่จะสามารถเยียวยาบาดแผลลึกได้อีกต่อไป

ไอ้สิ่งที่ทะนุถนอมกันไว้

ต่อให้เปรียบเสมือนแก้ว…

ใช้กาวมาติดให้เหนียวหนืดเพื่อรักษาสภาพคงเดิม

ร่องรอยแห่งความร้าวรานก็ยังคงมี   

ฉะนั้นอย่าเลย…

“ปล่อย”

ครั้งนี้เป็นเสียงของแฟนคนนี้ที่ปริปาก

ประโยคชัดแจ้งผ่านคำๆ เดียว

นิ่วหน้าอวดครวญกับการทำร้ายร่างกาย

ควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยอยู่

จากผู้ชายที่แสนอบอุ่น…

บัดนี้มีแต่ความรุนแรงจนน่าหวาดหวั่น

คุณเริ่มเป็นคนอารมณ์ร้อนตั้งแต่เมื่อไหร่ ?

หากทว่าแฟนคนนี้ก็ไม่ได้คร้ามเกรงเลยสักนิด

หนำซ้ำกลับนึกชอบด้วยซ้ำไป

นานๆ ทีจะเจอสีหน้าแบบนี้ของคุณ

มันก็แปลกดี…

“คุยกันก่อนได้ไหมพีท”

คุณทำสีหน้าเว้าวอน

เอื้อนเอ่ยชื่อแฟนคนนี้ออกจากปาก

ผ่อนผันความเจ็บร้าวที่เรียวแขน

ฉายชัดถึงความอ่อนโยนเฉกเช่นคงเดิม

“เราจบกันแล้ว”

ตอบออกไปให้มันกระจ่างชัด…

เป็นสิ่งตอกย้ำในสถานะของความสัมพันธ์ของคนเรา

ให้เลิกยุ่ง

ให้เลิกวอแว

ให้เลิกสาระแนกับชีวิตของคนเรา

อะไรที่มันจบแล้วก็ให้มันจบกันไป

โดยเฉพาะกับคนที่ชอบปลิ้นปล้อน

หลอกลวง…

พาผู้หญิงมากกกอดลับหลังแฟนตนเอง

คนเราต้องหน้าด้านแค่ไหนกัน…

ถึงได้มาสำนึกในตอนท้าย…

อยากหวนคืนในสิ่งที่ควรรักษาไว้

เพิ่งเห็นค่าหรือไงกัน ?

แฟนคนนี้ทำดีมานักต่อนัก

ไม่เคยจุ้นจ้าน

ไม่เคยหึงหวงเกินขอบเขต

เข้าใจทุกสิ่ง

ปรับแก้ทุกอย่าง

สิ่งไหนที่คุณชอบ

สิ่งไหนที่คุณไม่ชอบ

แฟนคนนี้ปฏิบัติทำตามทุกข้อ…

แล้วทำไม

ทำไมอะ

ทำไมถึงได้ทำร้ายจิตใจของแฟนคนนี้

เสพสมผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า…

แล้วจะมาขอให้กลับไปเป็นเหมือนเดิม

ก็คงได้แต่บอก…

“เรื่องของเรามันไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนเดิม”

เมื่อไหร่จะเข้าใจ ?

เมื่อไหร่จะเข้าใจกันสักที

“เราเลิกกันแล้ว”

ย้ำเตือนให้ฟัง

บอกอีกสักรอบให้กับคนโง่

เผื่อสมองตื้นเขิน…

จะได้เข้าใจแม่งสักที

พลันโบกสะบัด…

ปัดแขนทิ้งที่กอบกุมอย่างไม่ไยดี

หมุนกายหันไปหาชายหนุ่ม

คาดหวังจะขึ้นไปที่รถ

แต่สิ่งที่ตามมาไม่หยุดหย่อน…

ปัญหามันก็เริ่มมาจากคุณ

อีกแล้ว….

“ขอร้อง คุยกับผมเถอะ ผมไม่อยากจะเลิกกับคุณ ผมขอโทษ ผมสำนึกผิดแล้ว”

เสียงสะอื้นไห้ดังลอดขึ้น

แฟนคนนี้แอบแปลกใจยิ่งนัก

แต่สีหน้าก็ยังคงเดิม

ฉายชัดถึงความเย็นชา

เหลือบมองคนข้างหลังที่ทิ้งตัวลงคุกเข่า

ยื่นแขนรั้งเรียวขาของแฟนคนนี้ไว้

ฝ่ามือเกี่ยวกระหวัดไปที่ท่อนขา

นัยน์ตาของคุณแดงก่ำเผยถึงความชอกช้ำ

ร้องไห้

เจ็บใจ

คุณช่างน่าเอ็นดู

ระคนน่าสมเพชอยู่ในที

“ผมยอมทุกอย่าง”

หืม…

“จริงเหรอ ?”

จะใช่จริงๆ เหรอ ?

อดไม่ได้จะเอ่ยถามอย่างแปลกใจ

เพราะอยากรู้นัก…

อยากรู้เหลือเกิน

ว่าไอ้ถ้อยคำที่ยอมทุกอย่างของคนเรา

มันทำได้ถึงขั้นไหนกัน

“กล้าจูบเท้าของผมไหมล่ะ ?”

คุณเงยหน้ามองทันที

“ถ้าคุณให้อภัยผมก็ทำ”

แฟนคนนี้ไม่ตอบ

เลือกที่จะเงียบ

จับจ้องคนที่น้ำตาไหลพรากไปตามผิวแก้ม

คุณแหงนหน้าขึ้น

พินิศแฟนคนนี้ที่ทำสีหน้าเบื่อหน่าย

ไม่ได้ปรากฏเค้าอารมณ์

ทั้งที่ภายในใจ…

ยากเกินจะคาดเดา

ก็ได้แต่พินิจดูคนตัวโต

จับจ้องอิริยาบถการเคลื่อนไหว

สิ่งที่น่าขนลุกคือคุณยอมทำตามดั่งคำพูด

ทิ้งศักดิ์ศรีที่ควรพึงมี

ทิ้งความโอหังทั้งหมดทั้งปวง

ทิ้งความละอายใจ

เพราะอยากรักษาแฟนคนนี้ไว้

แฟนคนนี้ที่ทำดีกับคุณทุกอย่าง…

แต่กลับได้รับบทเรียนที่แสนตราตรึง

แทนซะงั้น…..

“…”

ใบหน้าคมคายโน้มลงต่ำ

ลำตัวกระตุกสั่นไหวเพราะการร่ำไห้

ริมฝีปากตีตราประทับ

จุมพิตลงที่รองเท้าผ้าใบสีขาว

ทุกการกระทำช่างแสนจะอ้อยอิ่ง

เชื่องช้า

เบาหวิว

พานให้หัวใจสั่นไหวเจือจาง

และวกกลับไปเรียบนิ่งคงเดิม

สาเหตุมีเพียงประการเดียว…

คือสิ่งที่คุณทำ

กับสัมผัสที่ตอกย้ำในความทรงจำ

ให้แฟนคนนี้ไม่หลงลืม

ไปอีกนาน…

“ขอบคุณ”

ยิ้มเย้ยหยันในทันใด

เพราะชอบใจ…

ชอบในความเจ็บปวดที่คุณควรมีเอาไว้

อยากให้คุณได้บทเรียนล้ำค่าในชีวิต…

ไม่ต่างจากแฟนคนนี้

อยากให้ฝังลึกในโสตประสาท

ระลึกได้แม้แต่ปัจจุบัน

ตายไปก็ขอให้มันย้ำเตือนเอาไว้

ให้มันกลายเสี้ยนหนามทิ่มแทงใจ

คอยกรีดแทง…

อย่างหนักหนาสาหัส

แล้วคุณจะเข้าใจเอง…

คุณจะพูดกับตัวเองได้เอง..

ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า…

ว่าไอ้การหักหลัง

เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ

เรื่องความเชื่อใจ...

มันคือสิ่งที่ควรรักษาเอาไว้

ทะนุถนอมมันเอาไว้

ประคับประคองเอาใจใส่เอาไว้

อย่าได้บิดพลิ้วสักนิดเดียว

เพราะผลลัพธ์ที่ตามมา…

อาจไม่ค่อยเป็นที่พอใจสำหรับคุณ

“อย่าได้ไปทำแบบนี้กับใครอีก”

จับใส่กระโหลกเอาไว้ให้ดี

“เพราะคงไม่มีใครชอบ”

“…”

“ขนาดตัวกูเองยังไม่ชอบ”

ถ้อยคำหยาบจึงตามมา

ทิ้งด้วยด้วยคำว่า…

“แล้วใครเขาจะไปทนกับมึง”

.
.
.

บนรถที่เงียบสงบ

ไร้คำพูด

เพลงก่อนหน้านี้ที่คลอขึ้นมาช่างแสนจะเศร้าสร้อย

ท่วงทำนองตอกย้ำถึงความเจ็บปวด

เนื้อหาบ่งบอกถึงการหักหลัง

ก่อนจะถูกกดปิดด้วยน้ำมือของใครอีกคน

“ให้ผมไปส่งคุณที่บ้านไหม”

ใบหน้าคมคาย หล่อเหลาราวกับถูกจิตรกรปั้นแต่ง

นัยน์ตาที่เคยปิดสนิทพลันลืมขึ้น

ช้อนตามองบุรุษที่หันมามองอย่างเป็นห่วงเป็นใย

ทั้งที่เป็นคนแปลกหน้าแท้ๆ

“มือของคุณช้ำ งั้นไปหาหมอแทนละกัน”

อีกฝ่ายเอ่ยบอก

ก้มลงมามองเรียวแขนเล็กที่เริ่มปรากฏชัดเป็นสีเขียว

“ไม่เป็นไร”

เลือกที่จะปฏิเสธไม่ใส่ใจ

ส่ายหน้าไปพลาง

เอี้ยวมองริมถนน

รถยนต์เคลื่อนผ่าน

ก่อนจะตัดสินใจชี้นิ้วไปที่ตอกมืด

ไร้ผู้คน

ไร้ยานพาหนะขับผ่าน

เป็นสถานที่เปลี่ยวที่ไม่ค่อยมีใครพบเห็น

ใกล้จะถึงบ้านตัวเองแล้วแท้ๆ

แต่จอดตรงนี้แหละ

ขี้เกียจมาทนรอ

ครั้นรถยนต์จอดผ่าน ความเคลื่อนไหวก็หยุดลง

ฝ่ามือขาวก็ปลดล็อกเข็มขัดนิรภัย

ยื่นหน้าไปหาคนที่อยู่ด้านข้างในทันที

ประคองใบหน้าคมคาย

แลบลิ้นดุนดันเข้าไปที่โพรงปากร้อนชื้น

เป็นฝ่ายรุกเร้า

เป็นฝ่ายเริ่มต้นด้วยความต้องการ

ก่อนจะถูกตอบสนองตอบกลับมา

พลางเหยียดกายขึ้นเล็กน้อย

ตวัดขาขึ้นคร่อมฝั่งคนขับ

ดับเครื่องยนต์จนไร้สรรพเสียง ไม่แม้กระทั่งแสง

แทนที่ด้วยความมืดมิดที่ปกคลุม

แทนที่ด้วยเสียงครวญครางของคนเรา

เสื้อผ้าเบื้องล่างถูกปลดเปลื้อง

มือไม้เป็นระวิง

สัมผัสแตะต้องที่ต้นคอ

โอบรัดเอาไว้

พิงพนักในบางจังหวะ

ส่งเสียงหวานล้ำที่แหบพร่าในบางที

ทุกครั้งที่มีการเสียดสี

ทุกครั้งฝ่ามือลูบไล้ไปที่เอวคอดกิ่ว

ขณะที่อีกคน…

ทุ้มขรึมเป็นที่พอใจ

ใบหน้าเรียวเชิดหน้าขึ้น

พลันก้มมองบุรุษที่อยู่ข้างล่าง

ก่อนจะแยกขาออกกว้าง

กดสะโพกตัวเองดูดกลืนไปกับสิ่งสงวน

อีกฝ่ายเหมือนมีเพลิงโชติที่รุกโชน

ฉายชัดถึงความปรารถนา

เส้นเลือดถึงขนัดอย่างแข็งขืน

จับจ้องสีหน้าที่คล้ายปรีดาของคนผู้นี้

เผยออ้าปากออกกว้าง

กรีดร้องปานร่ำไห้

“อะอ๊า”

เพราะอยากลบล้างรสสัมผัส

อยากให้แทนที่ด้วยคนอื่น…

ใครก็ได้ที่ไม่ใช่มัน

ใครก็ได้ที่ไม่ใช่บุรุษผู้นั้น

ใครก็ได้ที่สามารถทำให้ตนพอใจ

พลางขบเม้มความนุ่มหยุ่นในบางครั้ง

ก่อนอ่อนระทวยยามถูกดูดเม้มที่แผงอกนุ่มหยุ่น

ปลายลิ้นเกี่ยวกระหวัดหยอกเย้า

ชวนสั่นสะท้านยิ่งนัก

พอใจยิ่งนัก

รวมไปถึงสิ่งใต้ร่าง..

ก็ใหญ่โตโอฬารยิ่งกว่าใครบางคน

สนองตัณหาทั้งหมดทั้งปวง

“ระ แรงๆ อะ ฮ้า”

“อึก ! คุณ”

“ลบสัมผัสพวกนั้นที”

“…”

“เอาผมแรงๆ”

เอาให้เสียวสะท้านไปทั้งตัว

ก่อนจะควงสะโพกตัวเองกับสิ่งใต้ร่าง

สะโพกบดเบียดกับสิ่งหยาบโลน

ตอดรัดความผงาดที่กระทบจุดกระสัน

พลันถูกกระแทกสวย

ลำตัวเปลือยเปล่าจึงกระเด้งไปมาอยู่เบื้องบน

“อึก อื้มมม !”

เสียงหนั่นเนื้อกระทบกันแน่น

แต่สิ่งที่ต้องการก็มีแค่ประการเดียว…

อยากลบเสียงในหัวออก

เสียงของคนผู้นั้น

สัมผัสที่เคยทิ้งท้ายเอาไว้

จูบที่เคยมอบมาให้

ความใหญ่โตที่เคยชำแรกเข้ามา

อยากให้มันหายไป…

“เอาจนกว่าคุณจะพอใจ”

เพราะบางคน…

ของดีอยู่ใกล้ตัว

แต่ไม่เคยเห็นถึงคุณค่าของมัน

“อ่าห์”

“คบกับผมไหม”

เป็นประโยคร้องขอ

จากคนแปลกหน้า…

ที่เพิ่งเคยเจอ

แม้จะรวดเร็วเหลือเกินนัก

“ตะ ตามใจ อะ อ๊า”

ตอบออกไปอย่างปลงๆ

ปล่อยให้ตัณหามาครอบครอง

ยามนี้ในหัว…

คงมีแต่ความคิดที่ว่า…

เบื่อความรักสิ้นดี

และก็พอกันที

กับการเสแสร้งเป็นคนดี


ใครจะมาคบก็คบไป

แต่คงยากเกินจะให้เต็มร้อย…

กับความรักที่เคยมี

ไม่อยากพยายามอีกต่อไปแล้ว

ให้เป็นฝ่ายที่ถูกประคับประคองบ้าง…

ก็คงดี

.
.
.

ห้าปีผ่านไปใครจะไปคาดคิด

ว่าบุรุษที่เพิ่งเคยเจอในวันนั้น

จะเอื้อนเอ่ยถ้อยคำคำนี้…

แถมยังรักษาความสัมพันธ์ได้ดียิ่งกว่าใครบางคน

“แต่งงานกับผมนะ”

ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดี…

น่ายินดียิ่งกว่าคนคนนั้น

ปัจจุบันก็ได้แต่เดินสวนผ่าน

แสร้งทำเป็นไม่รู้จักกัน

เพียงเพราะผมคนนี้ไม่อยากจะคุย

“อืม”

ตอบตกลง

ให้กับคนที่ถักทอความทรงจำ

ยื่นแหวนเงางามที่เจียระไนมอบมาให้

เขาเป็นคนดี…

ดีมากเลยล่ะ

ดีจนไม่อยากจะเชื่อ

ทะนุถนอมความสัมพันธ์ของเราได้ดี

ฉับพลันก็อุ้มผมคนนี้จนตัวลอย

“ฮ่าๆๆ ผมรักคุณจัง !”

เขาแย้มยิ้มสว่างไสว

ไม่ต่างจากผม…

มอบให้กับผู้ชายที่คอยปกป้องคุ้มกันภัย

เป็นรอยยิ้มที่มีความสุขยิ่งกว่าเคยมีมา

แด่คนแปลกหน้า…

ที่แปรผันเป็นคนรักที่แสนดี


END

lookpatty15407:
เพียงนิรันด์ (END)

คุณเคยไหมกับการแอบรัก

เคยไหมกับการแอบชอบใครคนหนี่ง

แรกเริ่มด้วยการมอง

แรกเริ่มด้วยการสบตา

แปรผันเป็นชื่นชอบ

จับจ้องทุกอิริยาบถในท่าทางของเขา

ทำไมกันนะ ?

ทุกครั้งที่อีกฝ่ายอยู่ท่ามกลางผู้คน

เราจะเห็นเขาเด่นหราอยู่เพียงผู้เดียว

ราวกับว่า…

ทุกสิ่งที่เคยเห็น

คงมีแค่เขา

แค่เขาคนเดียวที่เด่นชัด

ความรู้สึกในใจก็พลอยเต้นระรัว

หายใจติดขัด

เหมือนชีพจรเต้นผิดจังหวะ

เพื่อนๆ ที่รู้เข้าก็เริ่มเอ่ยแซะ

เริ่มบอกกับเราว่า…

“มึงชอบเขาอ๋อ กิ้วๆ”

กลายเป็นคำหยอกล้อในท้ายที่สุด

กลายเป็นเรื่องชวนแกล้งในยามขบขัน

ครั้นเดินผ่านคนที่ชอบ

เพื่อนจะกระแซะมาทางเรา

เอาศอกสะกิดบ้างในบางจังหวะ

ผลักเราให้กระเถิบไปหาเขาในบางครั้ง

บ้างก็ฉวยโอกาสให้เราได้ใกล้ชิดกับคนตรงหน้า

ตอนนั้นอยากจะขอบคุณเพื่อนๆ มากเลย…

ทุกวันนี้เราถึงได้คบกับเขา

เราจึงได้คบกัน

พี่เขาน่ารักมากเลย

เป็นผู้ชายที่แสนดี

ดีทุกอย่าง

ดีจนน่าแปลกใจ

แต่เสียส่วนใหญ่มันเป็นเพราะเรามากกว่า…

เราที่ยอมทุกอย่างให้กับคนที่ชอบ

ยอมให้อภัย

ยอมเป็นฝ่ายง้อทุกครั้งเวลา

ทะเลาะ

หวังรักษาความสัมพันธ์

ครั้นพี่เขาสอบเข้ามหาลัยติด

แรกๆ มันก็ดีอยู่หรอก

แต่พักหลังๆ เริ่มขาดการติดต่อ

บ้างก็อ้างว่างติดงานมหาลัย

เสาร์อาทิตย์เราเลยมีโอกาสไปหาเขา

ไปนอนค้างที่หอ

พี่เขาดีใจมากที่เจอเรา

เราได้กอดกัน

จนกระทั่งตอนนั้นถูกจับนั่งอยู่บนตัก

สายตาของพี่หวั่นไหวมาก

ดูเร่าร้อนยิ่งนั้น

เราเลยอ่อนระทวยกับภาพเบื้องหน้า

ฝ่ามือประคองใบหน้าที่หล่อเหลา

ก้มหน้าลงไปจูบ

ท่าทางสั่นระริก

เพราะเป็นครั้งแรกที่เป็นฝ่ายเริ่ม

และเป็นครั้งแรกที่รู้ได้ดี…

ว่าหลังจากนี้จะเป็นเช่นไร

เราถูกจับพลิกไปด้านข้าง

ล้มลงไปนอน

นอนอ้าซ่าอยู่บนผืนเตียง

ปลายนิ้วของพี่เขาสอดเข้ามาที่ชายเสื้อ

ลูบไล้สัมผัสบนผิวเนื้อเนียนลื่น

เราใจเต้นแรงมาก…

คล้ายกับว่ามีกลองตีระรัวอยู่ภายในอก

เลือดสูบฉีดไปตามกรอบหน้า

พวงแก้มมีสีเลือดฝาดแดงระเรื่อ

พลันครางสะท้ายเมื่อถูกเลิกเสื้อขึ้น

ปลายนิ้วไล่วนไปที่สิ่งชูชัน

เขาหยอกล้อกับแผงอกของเรา

ก้มลงไปบดขยี้

มอบความหฤหรรษ์ที่เราไม่เคยพบเจอ

มันวาบหวิว

สัมผัสเบาบาง

แต่โลดแล่นไปทั่วโสตประสาท

ทั่วสรรพางค์เลยขนลุกชู

เสียววาบที่ยอดอกเพริศ

ส่งผลกระทบต่อสิ่งเบื้องล่างให้ปรากฏเค้าอารมณ์

พวกเราจึงมีอะไรกัน…

เป็นครั้งแรกที่ถูกลิ้มรสด้วยเซ็กซ์

เป็นครั้งแรกที่เราได้ใช้ปากปรนเปรอ

ใหญ่มาก

คับปากเราจนแทบกลืนกินไม่หมด

ทำให้เราหลุดสำลักดังโครก

พี่เขายิ้มขำ

ลูบหัวเราอย่างเอ็นดู

ทุกการกระทำอ่อนโยนยิ่งนัก

เริ่มตั้งแต่ต้นยันจบ

ทุกอิริยาบถช่างแสนจะเอาใจใส่

เราได้รับความนุ่มนวลที่โถมกายเข้ามาหา

ขณะที่อีกคนกัดฟันดังกรอด

คลับคล้ายคลับคลาไม่อยากกระทำให้หนำใจ

เกรงกลัวว่าเราจะเจ็บแสบ

ช่างเป็นผู้ชายที่เอาใจใส่ยิ่งนัก

ช่างเป็นคนที่เหมือนหลุดพ้นออกมาจากนวนิยาย

อดไม่ได้ที่แอบขำกับคนตัวโต

ไม่ช้านาน…

เราก็ถูกกระแทกกระทั้น

ตัวสั่นโยนบนผืนเตียงกว้างขวาง

เกิดเสียงครางวาบหวิว

“อะ อ๊า”

เรียกชื่อขนานนาม

“พะ พี่เจมส์ อ๊ะ อื้ออ”

ถูกบดจูบขยี้มอบลงมา

“อึก อื้มมม”

เอื้อนเอ่ยถ้อยคำหวานหยดให้แก่เรา

“พี่รักเรา ฮ้า พี่รักมินนะ”

ทำเราลอบร้องไห้ด้วยความปรีดา

สดับรับฟังเสียงของพี่เขาที่เริ่มพร่ำเพ้อ

บอกกับเราว่ารักไม่หยุดปาก

จนทุกอย่างผ่อนผัน…

เสร็จสิ้นกามกิจ

เสียงหอบหายใจก็ค่อยๆ เจือจาง

เราจึงเป็นฝ่ายเอ่ยปาก…

“มินรักพี่เจมส์นะ”

พูดออกไปโดยไม่กระดากอายแต่อย่างใด

.
.
.

การชอบพี่เจมส์ก็เหมือนชื่นชอบเน็ตไอดอล

เราคลั่งไคล้เขามากนัก

มีรูปพี่เขาเต็มไปหมด

เสียส่วนใหญ่จะนำมาแปะใส่ในไดอารี่

พูดถึงเขาในวันครบรอบต่างๆ นาๆ

วันที่พวกเราได้คบกัน

วันที่เราแอบหลงรัก

สาเหตุเพราะอะไร

ความหล่อล้วนๆ

แต่สักพักก็เพราะความดีที่เขามี

ความรักที่เขาถ่ายทอดให้แก่เรา

อีกแค่ไม่กี่วัน…

อีกแค่ไม่กี่วันเท่านั้น…

ก็จะใกล้วันเกิดของพี่เจมส์แล้ว

เราจึงตั้งใจทำไดอารี่นี้มาก

มันมีแต่รูปของพวกเรา

รูปที่แอบถ่ายพี่เขาในยามเผลอ

ชายหนุ่มที่หันไปมองทางทิวทัศน์

ใบหน้าขาวกระจ่างใส

ดวงตาเรียวคม

จมูกโด่งสัน

ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อ

สุขภาพดีตั้งแต่ผิวพรรณ

[ผมรักพี่มากนะ]

เป็นประโยคพรรณนาถ้อยคำสุดท้าย

สิ่งที่ถักทอประเดประดังทั้งหลายแหล่

เราถ่ายทอดออกมาหมดเปลือก

ครั้นถึงวันเกิด…

เรานัดเจอกับพี่เจมส์ที่ห้าง

เราพกไดอารี่ไปด้วย

ผูกโบว์เล็กน้อย

ไม่จำเป็นต้องห่อแต่อย่างใด

คิดจะยื่นให้ทันทีตอนเจอกัน

“มินนน !!”

เสียงพี่เจมส์ตะโกนเรียก

เราเห็นเขาอยู่อีกฟากหนึ่งของถนน

ความหล่อเหลาทบทวีทุกครั้งที่แย้มยิ้ม

ทุกวันนี้…

ถึงหลงพี่กู่ไม่กลับนี่ไง

ไอ้เจ้าคนบ้า…

ไม่รู้จะหล่อไปไหน

ครั้นเดินมาถึงก็กลับถูกล็อกคอ…

จากใครก็ไม่รู้ที่อยู่ข้างหลัง

ตามมาด้วยเสียงหวีดร้องของผู้คน

ส่วนเราเห็นแต่สีหน้าของพี่เจมส์ที่เบิกตาโพลง

เขาหน้าซีดเผือด

เรียกชื่อเราอีกครั้งนึง

แต่ดังยิ่งกว่าที่เคยมีมา

ตื่นตระหนกคร้ามเกรงกับสิ่งที่เห็น

เพียงเพราะมีปืนจ่อลงที่หัวของเรา

“มินนน”

“อย่าเข้ามา พวกมึงอย่าเข้ามา ถอยออกไปสิวะ !”

เสียงแหบแห้งดังลั่นอยู่ข้างกกหู

คล้ายพวกจิตวิปลาส

แต่แท้จริงนั้นก็แค่โจร…

โจรที่หลีกหนีเพราะการลักลอบขนขโมย

เรากลัวมาก

มือไม้สั่นระริก

ข่มตาหลับแน่น

ไม่ยอมมอง

สะดุ้งตกใจทุกครั้งที่ปลายกระบอกปืนจ่อลงบนศีรษะ

มือกุมของที่ถืออยู่แน่น

หวังให้มันเป็นสิ่งที่พอบรรเทาความคร้ามเกรง

ของก็ยังไม่ให้

แต่ดันมีชะตาที่ซวยไปอีก

รู้สึกชีวิตบัดซบสิ้นดี

จวบจนกระทั่งพี่เจมส์ตื่นตระหนก

คล้ายจะถลาเข้ามาหา

เพียงเพราะปลายกระบอกปืนทิ่มกระแทกไปมาคล้ายจะยิง

พี่เขาแค่ก้าวนิดเดียวเท่านั้น

นิดเดียวจริงๆ

โจรคนนั้นเลยหันปืนไปหาชายที่เรารัก

เราส่งเสียงกรีดร้อง

“ม่ายยย !”

รีบยื่นมือไปจับเรียวแขนให้ลดต่ำลง

กระสุนยิงลงที่พื้นอย่างเฉียดฉิว

เรารีบอาศัยจังหวะโดยการก้มลงไปกัด

กัดไม่ยั้งแรงกับท่อนแขนอีกข้างของชายฉกรรจ์

หวังให้มันหลุดออก

“อ๊ากกก !!”

เสียงเจ็บริ้วจึงตามมา

ครั้นผละกายออกห่างก็รีบวิ่งไปหาพี่เจมส์

คิดว่าอย่างน้อยตำรวจคงอาศัยจังหวะในท่วงที

แต่ไม่คิดเลย…

ว่าโจรจะชิงไหวชิงพริบได้ดีกว่า

ปัง !!

เสียงกระสุนจึงดังลั่น

เรารู้สึกชาที่แผ่นหลัง

สักพักก็เจ็บเกินจะทัดทาน

ฉุกคิดขึ้นมาว่า…

คงเป็นเรื่องตลกร้าย

ฮ่าๆ

ต้องใช่แน่ๆ

บ้าไปกันใหญ่แล้ว

ใครจะไปซวยขนาดนั้น

เข่าพลันอ่อนแรง

ล้มลงไปต่อหน้าต่อตาใครบางคนที่ยืนน้ำตาคลอ

“ไม่ ฮึก ! ไม่นะมิน !!”

พี่เจมส์รีบวิ่งแจ้นมาหา

แต่ไม่ทันเท่ากับร่างของเราที่ล้มคว่ำคะมำ

ปลายจมูกกระแทกลงกับพื้น

สัมผัสถึงน้ำเหนียวหนืดที่ไหลทะลักออกจากกาย

สายตาของเราพร่าเลือน

เสี้ยววินาทีก็ถูกประคองจากใครบางคน

“พี่เจม…”

เราส่งเสียงแหบแห้งคล้ายคนขาดน้ำ

พานมึนหัวไปหมด

มือคล้ายไร้เรี่ยวแรง

แต่ก็พยายามยกแขนขึ้น

ยื่นไดอารี่ที่ดันเปรอะเปื้อนหยาดโลหิต

เปื้อนจนได้…

เราแอบนึกเสียดาย

แต่ก็พยายามเค้นยิ้ม

ส่งสายตารักใครให้กับคนตัวโต

อวยพรให้กับคนตรงหน้า

“แฮปปี้เบริด…”

ฉับพลันก็ไร้เรี่ยวแรง

ทั้งที่ปกติในละครจะได้เอื้อนเอ่ยประโยคส่งท้าย

อย่างน้อยก็จบคำพูดในการลาโลก

แต่ไม่รู้ทำไมเราถึงอ่อนแรงยิ่งนัก

นัยน์ตาพลางดับวูบลง

เริ่มหายใจแผ่วเบา

อาจเพราะว่าเลือดมันไหลเยอะมากเกินไป

ความง่วงงุนจึงเข้ามา

ได้ยินเสียงร้องของพี่เจมส์ที่เรียกชื่อเราไม่ขาดปาก


เราอยากจะบอกเหลือเกินนัก

ว่าอย่าร้องไห้ไปเลย…

มันไม่ใช่ความผิดของพี่หรอก

แต่ก็อยากจะขอโทษนะ…

ที่ทำให้วันเกิดวันนี้…

กลายเป็นฝันร้ายไปซะได้

แต่พี่เจมส์…

พี่ลองเปิดไดอารี่ดูนะ

มันจะมีข้อความหนึ่งที่มินเขียนเอาไว้

[มินจะรักพี่ตลอดไป]

เป็นคำหมายมั่นสัญญาของเด็กคนหนึ่ง…

ที่ใฝ่ฝันอยากอยู่กับคนที่รัก

จวบจนกระทั่งหมดลมหายใจ

ถึงแม้ตอนนี้…

จะไม่สามารถอยู่เคียงข้างได้ดั่งใจต้องการ

.
.
.

กาลเวลาเดินผ่าน

แต่ความรักนั้นไม่เคยแปรผัน

มินหัวเราะกับสีหน้าของพี่ยามขมวดคิ้ว

อยากจะถามเหลือเกินว่าจะเครียดไปไย

ทำหน้าบึ้งตึงอยู่ได้

แต่ก็น่ารักดีนะ

ถึงได้มองไม่รู้จักเบื่อ

เมื่อไหร่พี่จะเลิกขมวดคิ้ว

ชอบเป็นไบโพล่าร์เวลามองสมุด

มินจึงเดินเข้าไปหา

ทำปากยู่กับภาพของเราสองคนที่ถูกเปิด

เป็นภาพที่พี่กำลังหอมแก้มมิน

น่าอายยิ่งนัก…

“เมื่อไหร่จะเลิกดู”

“คิดถึงมินจังเลยนะ”

พี่ตอบออกมา

ก่อนจะลุกขึ้นยืน

เดินผ่านร่างของมินไป

ทิ้งตัวลงบนตั่งเตียง

มินได้แต่จับจ้องพี่ที่นอนร้องไห้

ตัวมินเอง…

ก็พลอยร้องตาม…

หากพี่ไม่ปล่อยวาง

ชอบโทษตัวเองแบบนี้

มินก็คงไม่กล้า…

ไม่กล้าที่จะไปเกิดใหม่

“มิน ฮึก ฮืออออ มิน”


พระเจ้า…

ผมอยากให้เขาเลิกร้องไห้เหลือเกินนัก

ผมจะต้องทำยังไง

ทำยังไงพี่ถึงจะหายจากอาการพวกนี้


แต่แล้วพี่ก็หายจริงๆ

มินไม่สามารถทำอะไรได้…

ไม่สามารถขัดขวางอะไรได้เลย…

ได้แต่มองพี่ตัวลอยอยู่เหนือพื้น

หัวลอดผ่านเชือกที่คล้องคอ

ดวงตาเบิกถลน

ไร้ลมหายใจอย่างที่เคยเป็น

“มิน”

เสียงเรียกดังมาจากข้างหลัง

ทำให้มินต้องหมุนกายหันไปมอง

“พี่เจมส์ ฮึก ฮือออ”

รีบถลาไปสวมกอดอย่างรวดเร็ว

คงเหลือทิ้งไว้แค่กายา

นอกจากจิตวิญญาณของเราสองคน


“พี่คิดถึงมิน”


END

TheDoungJan:
ตลอดไปจริงๆด้วย

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

ไปที่เวอร์ชันเต็ม