Rough Love
ตอนที่ 1 Maze
มีแต่คนบอกว่าโพสเป็นพวกมาโซคิสม์ คู่นอนที่ผ่านมาทุกคนมักบอกว่าโพสเป็นพวกวิตถาร ชอบความเจ็บปวด แล้วก็เรื่องมาก
โพสไม่ปฏิเสธ เขาชอบความเจ็บปวด เขาชอบความรุนแรง ชอบถูกตี บีบคอ ขยำขยี้ให้เกิดรอยช้ำ จะมีความสุขมากเมื่อรอยนั้นอยู่ต่อไปอีกสองสามวัน และโดนช่างแต่งหน้าด่าซ้ำอีกทุกครั้งที่ต้องใช้คอนซีลเลอร์กลบ
หน้าที่การงานของโพสคือนายแบบ ช่วยไม่ได้เมื่อเขาก้าวเข้ามาอย่างสง่างาม หนทางเต็มไปด้วยกลีบกุหลาบ เพราะแม่คืออดีตซูเปอร์โมเดลรุ่นแรกของประเทศไทย มีชื่อเสียงโด่งดังจนกระทั่งตั้งโมเดลลิ่งของตัวเอง และพาเขาเข้ามาสู่วงการที่เต็มไปด้วยคนหน้าตาดี อันเป็นอาหารอันโอชะของคนที่เสาะแสวงหาคู่นอนที่ถูกใจไม่จบไม่สิ้น แต่ไม่ง่ายเลย คนที่ชอบความรุนแรงแบบนั้น อาจเป็นเพราะหน้าตาลูกเสี้ยวที่หวานคม สวยสง่า พวกที่มาจีบจึงมีแต่ผู้รากมากดี คิดว่าเขาจะชอบแนวสุภาพบุรุษกันทั้งนั้น
จนอายุ 25 ปีแล้ว โพสก็ยังไม่เจอคนที่ทำให้ฝันเป็นจริงสักที
ร่างระหงสูงถึง 180 ซม. ขาเรียวยาวสวยยิ่งกว่าผู้หญิงบางคนเดินนวยนาดเข้ามาในงานวันเกิดของน้าซาร่า เพื่อนแม่เอมิเลียของเขา ใครต่อใครต่างก็ว่าโพสมีจริตเหมือนนางงาม ชอบทำอะไรช้า ๆ เดินช้า ๆ กะพริบตาช้า ๆ ขัดแย้งกับตอนอยู่บนรันเวย์ลิบลับ แต่นี่ก็คือเสน่ห์อีกแบบที่หาไม่ง่ายจากผู้ชายทั่วไป ถ้าจะถามหาสาเหตุก็คงเป็นเพราะคุณย่าที่มีเชื้อสายจากในวังคอยสั่งสอนโพสให้ทำอะไรเนิบนาบเพื่อรักษาภาพลักษณ์ที่ดี แต่คนเรียบร้อยอย่างนี้ เวลาโกรธก็โกรธแรง เวลาดีก็ดีใจหาย บทจะนิ่งก็นิ่ง เวลาเที่ยวก็ปล่อยตัวเต็มที่ โพสจึงเหมือนคนหลายบุคลิก ดังนั้นคุณหนูแห่งวังพยับหมอกคนนี้จึงไม่มีใครกล้าขัดใจหรือเล่นปีนเกลียวด้วยกลัวโชคร้ายจะถูกพายุโหมใส่
“โพสไปนั่งกับเมย์นะแม่”
กว่าร่างสูงจะมองหากลุ่มเพื่อนวัยเดียวของตัวเองได้ก็ใช้เวลานานมากโข บ้านของน้าซาร่าใหญ่กว่าบ้านใครทั้งหมดในกลุ่มเพื่อนแม่ เพราะแต่งงานกับมหาเศรษฐีจากดูไบ ขณะที่แม่ของโพสยังต้องทำงานและช่วยงานพ่อบ้าง แต่น้าซาร่าแค่นั่งถูเครื่องเพชรอยู่ในบ้านแค่นั้นเอง เหมือนหนูตกถังข้าวสารก็ว่าได้
“ไม่โดดลงน้ำเหรอวันนี้”
“อย่าแซว!”
เมย่าเป็นเพื่อนในวงการ อยู่โมเดลลิ่งเดียวกัน เธอแก่กว่าโพสสองปี แต่ก็เล่นหัวกันได้ เอ่ยแซวเรื่องตั้งแต่สมัยปีมะโว้ที่โพสเคยเมาจัดจนเดินตกสระน้ำบ้านเพื่อนในงานปาร์ตี้วันเกิดแบบนี้เลย แต่วันนี้ผู้ใหญ่ในวงการเยอะ โพสคงไม่บ้าระห่ำปล่อยให้ตัวเองเมาจนไร้สติแบบนั้นหรอก
ร่างสูงลงนั่งอย่างนางพญา คว้าแก้วไวน์แดงของคนข้าง ๆ ที่เคยเจอหน้ากันไม่ถึงห้าครั้งอย่างไร้มารยาท แต่คนถูกขโมยแก้วไปก็ไม่ได้ว่าอะไร ถึงจะไม่สนิทกัน แต่วิถีชาวเที่ยวย่อมเผื่อแผ่ของกินให้กันสบาย ๆ
“มึงเลิกกับแพทริคแล้วเหรอ” เมย่าถามข้ามโต๊ะ เล่นเอาทั้งโต๊ะหันมามองพร้อมกัน หนุ่มหน้าสวยกลอกตามองบนที่เพื่อน(ควบรุ่นพี่)เปิดเผยเรื่องลับ ๆ ของวงการต่อหน้าพวกปากหอยปากปู แต่ก็ส่ายหน้าทิ้งความคิดวุ่นวายนั้นไปเพราะก็เลิกกันไปแล้วนี่นะ
“ไม่ไหวหรอก long distance ไม่อยากคาดหวัง ไม่ชอบรอ”
“อืม เข้าใจ”
หญิงสาวดันจานเทมปุระให้เป็นของปลอบใจ ทำอย่างกับว่าเขาจะหายทันทีที่ได้ของเข้าปากอย่างนั้นแหละ โพสไม่ได้อกหักสักหน่อย แต่ก็ต้องทำเป็นเศร้าเพื่อให้เพื่อนไม่เสียหน้า ที่จริงแล้วเขากับแพทริคมีความสัมพันธ์แบบ friend with benefit แต่ต่างไม่มีใครอื่น ถ้าเรียกกันในวัฒนธรรมไทย อาจจะเรียกว่า คนคุย ก็ได้ แค่ไม่คาดหวังว่าจะได้คบกันยืดยาว อย่างไรทั้งโพสและแพทริคต่างรู้ดีว่ายังมีหลาย ๆ อย่างที่ไม่คลิกกัน กอปรกับแพทริคเป็นอเมริกันแท้ ไป ๆ มา ๆ หลายประเทศ โพสขี้เกียจตามตอแย คนติดเซ็กส์อย่างเขา เหมาะที่จะมีแฟนติดบ้านที่สุด แต่ก็ยังหาไม่เจอสักที ยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก ถึงจะทำท่าฟังเมย่าโฆษณาผู้คนใหม่ แต่สมองกลับคิดแต่เรื่องอย่างว่า ช่างน่าไม่อายจริง ๆ
พอมางานแบบนี้ แม่เอมิเลียสาวแซ่บก็อดที่จะอวดลูกชายไปพร้อม ๆ กับหาคอนเนคชั่นไม่ได้ โพสที่กรึ่มกำลังดีถูกผู้เป็นแม่ลากไปสวัสดีคนนั้นทีคนนี้ทีจนสับสนไปหมด ใครจะไปจำไหว เด็กขวางโลกอย่างเขาก็ไม่ลืมที่จะทำหน้าซังกะตาย เมื่ออดทนไม่ไหวก็ปลีกตัวออกมา แต่แทนที่จะกลับไปหาเมย่า นึกอย่างไรก็ไม่รู้ เดินเล่นไปเรื่อยเปื่อย บ้านน้าซาร่าใหญ่ไม่ใช่เล่น พื้นที่สวนอย่างกับวังอังกฤษ มีเขาวงกตที่เดินแล้วน่าจะหลง รอบ ๆ มีบ่อปลาคราฟใสแจ๋ว ที่มีปลาคราฟตัวละเป็นแสนแหวกว่ายอยู่ในนั้น แม่เคยเล่าให้ฟังว่าถ้าวันไหนปลาคราฟตาย น้าซาร่าก็จะซึมไปทั้งวันเพราะเสียดายเงิน แต่โพสก็ไม่เห็นว่าขนหน้าแข้งน้าแกจะร่วงตรงไหน ยังมีปลามาเติมใหม่เรื่อย ๆ จนสงสารคนเลี้ยงที่น่าจะเซียนมาก ๆ ค่าจ้างต่อเดือนอาจจะมากกว่าเขาด้วยซ้ำ
สมกับความรวยของสามีน้า ขนาดโพสเดินมาตั้งไกลจากตัวบ้าน ยังมีไฟสว่างเรียงรายรอบทิศ กระทั่งดวงดาวบนฟ้ายังต่างพากันอาย ไม่ยอมออกมาส่องแสงแข่งกับโคมไฟ โพสจำได้ว่า ณ ใจกลางของเขาวงกต มีศาลาสีขาวกับน้ำพุตั้งอยู่ แต่ก็ไม่กล้าเดินไปด้วยกลัวหลง ถึงแม้มันอาจไม่ได้ยากเย็นขนาดนั้นเพราะก็คงไม่มีใครอยากหลงในสวนตัวเอง แต่เขาก็ขี้เกียจเกินกว่าจะรู้สึกผิดหวังจากการที่เลือกเส้นทางหนึ่งแล้วเจอทางตันซ้ำ ๆ
ทว่าโพสได้กลิ่นบุหรี่
กลิ่นบุหรี่อยู่ไม่ไกลนักจากจุดที่โพสยืนลังเลว่าจะเดินเข้าไปในเขาวงกตหรือไม่ เป็นกลิ่นเย็น ๆ เหมาะกับอากาศในสวน โพสเดินตามกลิ่นนั้นไปเพราะหวังจะได้เพื่อนใหม่ สวรรค์ไม่ปล่อยให้สงสัยนานนัก เพราะเพื่อนใหม่คนนั้นยืนอยู่อีกฟากของพุ่มไม้นี้เอง ด้วยความที่โพสก็ไม่ย่องเบาอะไร ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ที่มองจากแผ่นหลังก็รู้ทันทีว่าเป็นคอเคเชียนหันมาตามเสียงเท้าของนายแบบหนุ่ม
“สวัสดีครับ” เสียงทุ้มทักเป็นภาษาอังกฤษ เบ้าหน้าฟ้าประทานของชายต่างชาติแสดงออกว่ายินดีที่ได้พบกัน ดวงตาสีฟ้าอมเขียวเด่นชัดใต้โคมไฟ มันส่องประกายระยิบระยับ สาบานได้เลยว่าโพสไม่เคยเห็นใครมีประกายที่ตามาก่อนจนกระทั่งวันนี้ ผนวกกับการแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาว มีลูกเล่นเป็นลายงูปักอยู่บนคอเสื้อ ปลดกระดุมบนออกสองเม็ด พับแขนเสื้อถึงข้อศอก กางเกงสแล็คสีดำ สวมรองเท้าหนังสีดำ ไหนจะทรงผมที่แต่งแบบลวก ๆ เหมือนเดินเข้าห้องน้ำแล้วเอาน้ำลูบ แต่มันกลับออกมาดูดีมาก เพลย์บอยแต่อบอุ่น น่าสนใจอย่างบอกไม่ถูก
“สวัสดีครับ” เคลิบเคลิ้มกับความหล่อจนนึกคำพูดไม่ออก โพสได้แต่ยืนมองสุดหล่อบี้บุหรี่กลิ่นมินต์กับกระถางทิ้งบุหรี่ที่คนอย่างน้าซาร่ามีบริการแขกของแก ทุกท่วงท่ากิริยาของหนุ่มปริศนาชวนหลงใหล เขาหล่อ เขาหล่อมาก โพสชอบ สเป็คสุด ๆ
“ผมลุคครับ” ชายหนุ่มที่อายุมากกว่าโพสแน่ ๆ ยกมือขึ้นมา โพสอยากจะตีอกชกตัวเองที่เคลิ้มจนเสียมารยาท ลืมสร้างความประทับใจแรกพบกับคนหล่อจนได้
“ผมโพสครับ”
ร่างโปร่งยื่นมือไปจับตามมารยาท
“โพส?”
มันคงจะเป็นชื่อที่แปลกมากสำหรับต่างชาติ โพสทำใจกับความคิดสร้างสรรค์ของแม่มานานแล้ว โพส เวอร์มอน พินิจกิริย เป็นไงล่ะชื่อจริงของเขา
“เอ่อ…ชื่อเล่นน่ะครับ เอางี้ คุณลุคเรียกผมว่าพิทก็ได้”
เป็นชื่อเล่นที่เพื่อนต่างชาติแท้ ๆ นิยมเรียก
“อ้อ! ไม่เป็นไร ผมเข้าใจแล้ว ตอนแรกผมนึกว่าคุณจะโพสท่าอะไร” ลุคเล่าพร้อมแอบขำเบา ๆ กับความคิดซื่อ ๆ ของตัวเอง คนหล่อกับท่าเกาหัวยิ้มเขิน ใครน้อจะมีวาสนาได้เห็น โพสได้แต่ขอบคุณบุญเก่าของตัวเอง
“งั้นก็โพสแหละครับ-เอ๊ะ” นายแบบหน้าสวยหลุดอุทานเมื่อเห็นว่าสีในตาของลุคมันแปลก ๆ เมื่อชายหนุ่มขยับตัว มันไม่ใช่สีฟ้าอมเขียวทั้งสองข้าง แต่มันคือข้างหนึ่งสีฟ้า ข้างหนึ่งสีเหลืองต่างหาก แล้วดูเหมือนว่าลุคจะรู้โดยอัตโนมัติว่าโพสตกใจอะไร ท่าทางเจอมาบ่อย เขาจึงขยับตัวให้อยู่ใกล้แสงไฟเยอะ ๆ โพสจะได้เห็นชัด ๆ
“ผมมีตาสองสีน่ะ”
“ว้าว! เพิ่งเคยเห็นเลยครับ…นี่ผมดูเสียมารยาทหรือเปล่า”
“ไม่นะครับ ปกติ”
“จริงอะ”
เจ้าของตาสองสีหลุดขำ เขาไม่เคยคาดหวังว่าจะต้องมีผู้วิเศษที่ไม่มีปฏิกิริยากับดวงตาเขาเลย ถ้าโพสจะพยายามสร้างความประทับใจด้วยการทำตัวแตกต่างจากคนอื่นนั้น ไม่จำเป็นสักนิด จะเหมือนใคร หรือไม่เหมือนใคร สุดท้ายแล้วก็แค่ต้องอยู่ด้วยกันได้โดยไม่ทะเลาะกันทุกวันก็พอ
ลุคเดาออกแต่แรกแล้วว่าถูกสนใจ คนเด็กกว่ามองตาเยิ้มขนาดนั้น เขาที่ผ่านโลกมามาก มองไม่ออกก็แปลก ร่างสูงที่สูงกว่าโพสผายมือไปยังทางเข้าเข้าวงกต ที่จริงก็จะเดินเข้าไปอยู่แล้ว แต่มีโพสเดินเป็นเพื่อนด้วยก็ดี คนมันไม่มีใครนี่นะ
“บอกเลยนะว่าผมไม่เคยเข้าไป ถ้าหลงอย่าว่ากัน”
“ไม่เป็นไรครับ เราก็มาหลงด้วยกันนี่แหละ”
ทั้งคู่มุ่งหน้าสู่เขาวงกต
“เฮ้ย!” ลุคเลิกคิ้วเมื่อคนข้างกายเพิ่งจะก้าวได้ก้าวเดียว ก็ร้องอุทานอีกแล้ว “ผมนึกออกแล้ว คุณเคยแบบให้กับโรงแรมของพี่นาถหรือเปล่าครับ หลายปีมาก ๆๆ แล้ว ผมเคยเห็นโปสเตอร์หนุ่มคอเคเชียนตาสองสีเกาะขอบสระน้ำในโรงแรม”
“เอ…ผมจำคนชื่อนาถไม่ได้แฮะ แต่พอจะนึกออก ผมเคยถ่ายแบบในสระน้ำของโรงแรมไม่กี่ที่น่ะ”
“เดี๋ยวนี้คุณยังรับงานอยู่ไหมครับ เหมือนจะไม่เห็นนานแล้ว” โพสคาดเดาว่าอีกฝ่ายคงอายุเกินสามสิบแล้ว แต่ไม่น่าเกินสี่สิบ เพราะยังบาดคมไม่ถึงรุ่นนั้น ยังมีความเป็นหนุ่มเพลย์บอยอย่างที่คิดตั้งแต่เห็นครั้งแรก สองขาก้าวเดินต่อขณะรอฟังคำตอบ ในเขาวงกตไม่น่ากลัวเท่าไหร่ เพราะมีไฟทั้งบนพื้นและบนพุ่มไม้
“ผมไม่รับแล้วครับ ทำธุรกิจส่วนตัว”
“ดีจังเลย ผมก็อยากลองมีธุรกิจส่วนตัวบ้างนะ”
“คุณสนใจอะไรเป็นพิเศษล่ะ อายุยังน้อย ลองทำก็ไม่เสียหลายนะ—ทางนี้ดีกว่าครับ” มือหนาเผลอแตะหลังคนเพิ่งรู้จักโดยลืมความเหมาะสมเพราะมัวแต่คุยเพลิน
“อยากทำวิกผมครับ ผมชอบการทำสีผม แต่เสียดายผมตัวเอง กลัวมันเสีย แต่ผมจริงจังนะ ไม่ได้อยากทำวิกเพราะอยากใส่เองนะ อยากทำขายจริง ๆ”
“โอเคครับ ผมเชื่อ แล้วตอนนี้คุณทำอะไร เป็นนายแบบ?”
“อื้ม คุณรู้ได้ไง”
“ก็คุณสูง หน้าตามีเอกลักษณ์มาก สวยมาก”
“ชมงี้เลยเหรอ” แน่นอนว่าคนถูกชมเขินม้วน เดินก้มหน้าคางแทบชิดอก
“ทางนี้ครับ” ลุคต้องจับอีกคนจริง ๆ เพราะถ้าไม่จับ โพสคงได้เดินชนพุ่มไม้แน่ ๆ
“ขอบคุณครับ” นายแบบยิ้มแห้งให้กับความเซ่อของตัวเอง “ผมเป็นลูกเสี้ยวไทย-อเมริกัน-รัสเซียน่ะครับ หน้าเลยไปหลายทาง”
“ผมก็คนอเมริกัน”
“ฟังจากสำเนียงก็รู้ครับ อเมริกันจ๋ามากกก” แม้จะติดเขินคนหล่อไปบ้าง แต่โพสก็ไม่เลิกนิสัยห่าม ๆ พูดอย่างใจนึกเท่าไหร่ “ทำไมถึงอยู่ไทยเหรอครับ เกี่ยวกับธุรกิจเหรอ”
“ใช่ครับ ผมนำเข้าส่งออกสินค้าน่ะ”
“ยาเสพติด?” ชายหนุ่มถามเอาฮา แต่หน้าคนตอบจริงจัง
“ใช่ครับ คุณอยากเป็นเอเย่นต์ก็บอกผมได้นะ”
โพสชะงัก สมองกำลังประมวลว่าถ้าลุคเป็นจริง เขาจะโดนฆ่าหมกพุ่มไม้หรือเปล่าถ้าเกิดทำอะไรไม่ถูกใจเข้า
“ฮ่า ๆ ๆ ผมล้อเล่น ผมส่งออกของฟุ่มเฟือยทั่วไปนั่นแหละ คุณเชื่อคนง่ายนะเนี่ย”
“ก็ลุคคุณให้อะ ตาดุ ๆ แต่มีเสน่ห์ หลอกล่อให้คนมาเป็นเอเย่นต์ง่าย ๆ”
“ผมควรจะภูมิใจไหมเนี่ย”
“แฟนคุณคงหวงคุณน่าดูเลย” โพสไม่ใช่ไก่กา ลื่นไหลเข้าประเด็นที่อยากรู้จนได้ คนถูกถามยิ้มกริ่มในใจ ถ้าโพสเชี่ยวระดับสิบ เขาก็เชี่ยวระดับห้าสิบแล้วกัน แต่คนทันกันมากก็ไม่ดี บางทีปล่อยให้เรื่องมันไหลไปเองก็ดี ไม่ต้องทำตัวฉลาด ขวางทุกเรื่อง ขัดทุกอย่าง การคุยกันมันจะไม่สนุก แม้แต่กับเพื่อนสนิทหรือคนในครอบครัวเองก็ตาม
“ผมไม่มีแฟนให้หวงหรอก ทำงานตัวเป็นเกลียว เอาเป็นว่าแค่ต้องต่อวีซ่าก็ปวดหัวแล้ว”
“นั่นสิเนอะ เอ…” มาถึงทางแยก ทั้งสองหยุดเดิน “ผมว่าทางซ้ายนะ” โพสเสนอ
“แต่ผมว่าทางขวา”
“ทางซ้ายไฟสว่างกว่านะ”
“คุณดูบนพื้นสิ รอยหญ้าล้มไปทางขวา ส่วนทางซ้ายหญ้าสวยเชียว”
“ว้าว! คุณฉลาดจัง” โพสตบมือแปะ ๆ หนุ่มหน้าสวยเดินตามหนุ่มต่างชาติเต็มตัวต้อย ๆ สักพักก็ได้กลิ่นหอมของดอกกุหลาบลอยมาตามลม ผสมกับกลิ่นนุ่มสุขุมเหมือนไม้ที่เพิ่งถูกตัดใหม่ ๆ เป็นกลิ่นน้ำหอมจากคนข้างหน้า บอกเลยว่าเย้ายวนใจโพสมาก ๆ ตั้งแต่แพทริคที่ลีลาเซ็กส์ค่อนข้างจะถูกใจเขาห่างหายกันไปร่วมเดือน โพสก็…หิว… ของแซ่บไม่ตกถึงท้องมานาน ดูทรงคนข้างหน้าท่าทางจะแซ่บเสียด้วยสิ ลีลาการเจรจาพาทีกับคนที่เพิ่งรู้จักแถมยังเด็กกว่ามากไม่เบาเลย บทสนทนาไหลลื่นมาก สนุกมาก โพสไม่เกร็งหรือรู้สึกว่าอีกฝ่ายหรือเขาต้องพยายามสรรหาเรื่องมาตบมุกกัน
“คุณรู้จักน้าซาร่าเหรอครับ” หน้าหน้าสวยเข้าเรื่องที่ดูจะเกี่ยวข้องกับปาร์ตี้นี้ที่สุด ต่อให้คุ้นหน้าต่างชาติรูปหล่อคนนี้ ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่าเหตุใดจึงไม่เคยได้ทำความรู้จักเลย
“ผมก็มาหาคอนเนคชั่นไปเรื่อยนั่นแหละ วงการนี้ต่างชาติเยอะจะตายไป”
“อ้อ” คนฟังขานรับ แม้จะยังไม่ถูกใจคำตอบที่ไม่ตรงคำถาม
“แล้วคุณล่ะครับ”
“มากับแม่น่ะครับ เป็นเพื่อนน้าซาร่า”
“ขอเดาก่อนนะ หน้าคุณเหมือนซูเปอร์โมเดลคนหนึ่งมาก” ปลายนิ้วโป้งลูบคางที่ถูกโกนอย่างดี โพสสังเกตมาตลอด เวลาที่ลุคคิด มักจะเผลอเอานิ้วโป้งเขี่ยคางตัวเอง ดูน่ารักไม่สมวัย
“ตอบช้าผมเก็บเงินนะ” เด็กหนุ่มหยอก
“ผมแก่แล้ว ให้เวลาหน่อยซี่”
“อย่างคุณเนี่ยนะแก่”
“ผมสามสิบแปดแล้ว”
ก่อนที่เด็กหนุ่มที่อายุต่างกับคนข้าง ๆ ถึง 13 ปี จะตกใจให้สมกับสิ่งที่ได้ยิน เจ้าตัวก็เห็นศาลากลางเขาวงกตเสียก่อน
กลิ่นกุหลาบก็มาจากต้นกุหลาบรอบ ๆ นี้เอง ไม่ฉุนมาก หอมกำลังดี ยิ่งผสมกับกลิ่นไม้จากตัวผู้ชายอายุ 38 ปี ก็ยิ่งทำให้ชวนหลงใหล โพสปิดสายตาตัวเองไม่มิด โทษความคึกคะนองของอายุแล้วกัน นี่ยังดีที่ลุคเจอเขาตอน 25 ถ้าเกิดเจอตอน 18 ป่านนี้คงนั่งขย่มกันอยู่ในพุ่มไม้สักแห่ง ไม่ดั้นด้นเดินมาจนถึงนี่หรอก
“สวยดีนะ” ลุคเอ่ยเพื่อเรียกสติคนหน้าสวย ศาลากลางสวนอย่างกับภาพในนิทาน แสงระยิบระยับจากหลอดไฟรุ่นสั่งทำพิเศษจึงส่องระยิบอย่างที่ไม่เคยเห็นที่ไหน หยอกล้อกับดอกไม้สีสันหลากหลายภายในสวน คิดว่าเจ้าของบ้านคงใช้สวนเต้นรำในการ์ตูนเรื่องซินเดอเรลล่าของดิสนีย์เป็นต้นแบบ
“So this is love ซินเดอเรลล่าใช่ไหมครับ”
ลุคหัวเราะอย่างแปลกใจให้กับความบังเอิญที่คิดเหมือนกัน “เหมือนมากเลยนะครับ”
“สงสัยผมต้องกลับก่อนเที่ยงคืนแล้วสิ”
“นั่นสิครับ คนสวยคงต้องกลับเที่ยงคืน” ลุคบอกเป็นนัยว่าคืนนี้คงไม่มีสานต่อ คนฟังยู่ปาก คนหล่อเลือกได้ คงไม่ตื่นเต้นกับหน้าตาเขาหรอก โพสจะพยายามทำความเข้าใจ แต่ก่อนเที่ยงคืนมันก็อีกตั้งนาน ก็ไม่ได้ยากอะไรถ้าจะ…
“คุณนี่คึกคักน่าดูเลยนะ” คนโตกว่าเอ่ยแซวขณะที่พาร่างตัวเองเข้าไปนั่งในศาลาสีขาว หยิบบุหรี่ขึ้นมาขออนุญาตทางสายตากับอีกคนที่ไม่สูบ
“ตามสบายครับ ผมก็เคยสูบนะ แต่ไม่ใช่ทางจริง ๆ” หน้าหวานโปรยยิ้มหว่านเสน่ห์ ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาเล่น เป็นท่าทางที่น่าตีจริง ๆ ยั่วเย้าแล้วก็ตัดบทฉับ วิธีการไม่ธรรมดา ลุคพ่นควันบุหรี่สู่ฟ้า แต่ปรายตามองเด็กร้ายกาจ
“สรุปว่าคุณเดาได้หรือยังว่าแม่ผมคือใคร”
“เอมิเลีย”
“เก่งมาก คุณนี่เก่งไปหมดทุกเรื่องเลย โอ๊ะ! พูดไม่ทันขาดคำ ไลน์มาหาแล้ว แกชอบห่วงว่าผมจะไปเมาที่ไหนน่ะ ครั้งก่อนหนักไปหน่อยจนตกน้ำ ตั้งแต่นั้นมาเลยปฏิญาณตนว่าจะไม่ดื่มจนตกน้ำอีก”
น้องน่ารักจนลุคขำ คืนนี้เขาขำจนตีนกาขึ้นไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
“แม่คุณเลี้ยงคุณมาดีมากเลยนะ”
“ขอบคุณครับ” อยู่ ๆ แม่ก็ถูกชม เลยไปไม่เป็น โพสเก็บมือถือ ลุกขึ้นยืน เดินไปรอบ ๆ ศาลาที่มีต้นกุหลาบ เขาลองดมแม้ใจกลัวว่าคนสวนจะฉีดสารเคมีไล่แมลงศัตรูพืชไว้หรือเปล่า แต่พอดมแล้วก็หอมดี เลยเพลินจนไม่รู้ตัวว่าลุคก็ตามมาด้วย
“คุณชอบกุหลาบเหรอ” ลุคเอ่ยถามพร้อมดมตาม กลิ่นกุหลาบสดชื่นคล้ายกลิ่นผลไม้ ไม่ฉุนเหมือนทั่วไป
“เปล่าครับ ผมแค่ไม่มีอะไรทำ” โพสตอบตามความจริง ยิ่งเรียกรอยยิ้มจากปากคนแก่เข้าไปอีก แล้วจู่ ๆ นึกไงไม่รู้ เด็ดกุหลาบชาวบ้านยื่นให้คนเด็กกว่าหน้าตาเฉย
“คุณลุค!” โพสมองซ้ายมองขวา กลัวคนมาเห็นโดยเฉพาะเจ้าของ โพสไม่คิดว่าคนแก่กว่าจะใจกล้าขนาดนี้ มันกึ่งถูกใจที่ได้เจอคนแรง ๆ แต่ก็กลัวน้าซาร่ารู้ ได้โดนด่าหูชาแน่ ๆ
กุหลาบสีชมพูบานเย็นถูกยื่นให้อีกคนอย่างมั่นใจ แต่คนรับไม่ค่อยจะรับอย่างมั่นใจเท่าไหร่
“คุณต้องรับผิดชอบนะ”
“หึหึ” ลุคหัวเราะในคอนัยว่ายอมรับข้อกล่าวหา
นายแบบดมกุหลาบพลางเดินวนชมสวนยามกลางคืน อากาศดี แสนสงบ ผิดกับบรรยากาศครึกครื้นในบ้านลิบลับ บางทีโพสก็โหยหาช่วงเวลาแบบนี้ แต่เขาก็เลิกอาการติดเพื่อนไม่ได้ สุดท้ายแล้วการ hang out กับเพื่อนก็ทลายกำแพงแห่งความเหงาได้ดีกว่า
โพสอยู่กับโลกของตัวเองโดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีใครอีกคนมองการกระทำน่ารักนั้นด้วยสายตาหลงใหล ลุคห่างหายจากความรู้สึกนี้ไปนานแล้ว เขาไม่ใช่คนที่ต้องมีเพื่อนร่วมเตียงตลอด เป็นคนที่เลือกนอนกับคนที่ตัวเองกำลังศึกษาดูใจเท่านั้น แต่ยิ่งมองท่วงท่าแสนสง่านั้น ยิ่งกลับทำให้ลุคอยากจะได้มาครอบครองเสียตอนนี้เลย ไม่รู้ทำไม จู่ ๆ ก็รู้สึกถูกใจและอยากคุยด้วยนาน ๆ ทั้ง ๆ ที่อายุห่างกันมากแท้ ๆ
“คุณจะกลับกี่โมงเหรอ” มือเรียวสวยยื่นกุหลาบในมือให้ชายหนุ่ม หนุ่มใหญ่ทำหน้างง ยังไม่รับของ
“ไม่รู้สิ ผมก็อยู่ไปเรื่อย ๆ ได้ —ทำไม แม่คุณตาม?”
โพสส่ายหน้า ดึงกุหลาบเข้าหาตัว หลังจากที่อีกฝ่ายไม่รับสักที มือเรียวหักก้านกุหลาบให้สั้นลงเหลือเพียงความยาวนิ้ว
“แล้วถ้าเกิดว่าคุณไปต่อที่อื่น แม่คุณจะว่าหรือเปล่า” ลุคล้มเลิกความตั้งใจเดิมอย่างไม่เหลือเยื่อใย คนเด็กกว่าแต่มากประสบการณ์พอกันอมยิ้มอย่างมีเลศนัย
“ไม่ว่าหรอกครับ แต่อาจจะบ่นที่ไม่มีคนขับรถให้จนต้องเรียกแท็กซี่”
“อ้อ โอเค”
โพสหลุดขำแผ่วเบาเมื่อเห็นท่าทางเงอะงะแบบนั้น หน้าตาก็ดี จะมาขี้อายไม่กล้าชวนเขาไปต่อไม่ได้นะ โพสเอากุหลาบในมือที่ถูกริดก้านจนสั้นเสียบไว้ในกระเป๋าเสื้อของร่างสูง ทำให้ตอนนี้ทั้งคู่หันหน้าเข้าหากัน ใกล้ชิดกันจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่เจือด้วยบุหรี่เย็น ๆ
“ผมให้ เป็นของขวัญที่เราเจอกัน” เขาเอ่ยถึงกุหลาบสีสวยที่อยู่บนอกแกร่ง ดวงตาหลุบมองกุหลาบ ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองดวงตาสองสีคู่นั้น เพิ่งจะว่าเขาไปหยก ๆ แท้ ๆ แต่ตัวเองก็อายเหมือนกัน แต่อ่อยถึงขนาดนี้แล้ว โพสต้องได้ต้องโดนแล้วนะ ไม่งั้นไม่ผ่านนะหนุ่มตาสองสีคนนี้ เขาชอบร้าย ๆ แรง ๆ แต่ลุคกลับเจี๋ยมเจี้ยม ไม่เข้ากับหน้าตาเอาซะ—-
“อื้อ” โดยไม่ทันตั้งตัว โพสรู้สึกคล้ายกับว่าโดนดึงผมเบา ๆ เพื่อให้ตัวเองเงยหน้าขึ้น พร้อมกับแรงจู่โจมจากอวัยวะนุ่มหยุ่นบนใบหน้าที่ประกบลงมาลงบนอวัยวะเดียวกัน คนสวยเปิดปากต้อนรับอย่างไม่อิดออด สองแขนยกคล้องคอร่างสูง ลูบไล้ท้ายทอยไปตามสัญชาตญาณที่ต้องการปลุกเร้ากันและกัน
โพสไม่เคยจูบแล้วเหนื่อยขนาดนี้มาก่อน ลุคเหมือนคนกระหายอยาก ขาดของก็เรียก ลิ้นร้อนกวาดต้อนไปทั่วโพรงปาก เลาะตามไรฟัน ดูดกลืนความหวานอย่างตะกละตะกลาม ไม่พอ ยังบีบเคล้นคางเล็กสวยได้รูปที่ไม่ได้ผ่านการศัลยกรรมมาแม้แต่น้อย แต่โพสกลับกลัวว่ามันจะเบี้ยวซะเดี๋ยวนั้น
“อ—อือ” เสียงหายใจผสมเสียงครางเครือเบา ๆ ในลำคอดั่งสัตว์ร้องหาคู่ด้วยความทรมาน
“อึก” ดั่งไฟฟ้าแล่นพล่านไปทั่วร่าง โพสได้เห็นศักยภาพของลำแขนของอีกฝ่ายก็เมื่อตอนที่ถูกยกตัวลอยจนเขาเกาะขาทั้งสองข้างกับเอวแกร่งแทบไม่ทัน ลุคยกตัวเขาง่ายดายโดยไม่ปล่อยปากออกจากกันแม้แต่เสี้ยววิ น้ำลายไหลเยิ้มลงตรงมุมปาก ก็ยังตามเก็บทุกหยาดหยด
โพสถูกพาเข้ามาในศาลา เป็นตอนที่ลุคยอมปล่อยเขาในที่สุด ทั้งคู่หอบหายใจรินรดใส่กัน หน้าผากชนหน้าผาก ปลายจมูกชนปลายจมูก ตาประสานตา ดวงตาสองสีส่องประกายแปลกประหลาด
โพสอาจจะคิดไปเองคนเดียวก็ได้ แท้ที่จริงดวงตาคู่นี้ไม่ได้ล่อลวงเขา เป็นเขาเองต่างหากที่พร้อมกระโจนลงสู่ความวกวนนั้นด้วยความเต็มใจ
“แม่คุณไม่ว่าอะไรใช่มั้ย” ลุคถามย้ำอีกครั้ง คืนนี้คงปล่อยไปไม่ได้แน่ ๆ คนตรงหน้าร้อนแรงเกินห้ามใจไหว อยากคุย อยากชิดใกล้…ทั้งคืน
“ม..ไม่รู้สิ”
“จริงเหรอ” เสียงทุ้มแหบพร่าถามชิดใบหู ริมฝีปากฉ่ำนั้นคลอเคลียไม่ห่าง โพสขนลุกซู่ สติพลันหาย ร่างกายอ่อนยวบยาบยิ่งกว่าขี้ผึ้งลนไฟ นายแบบควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้ อย่างกับว่าเพิ่งเคยได้ชิมรสชาติแบบนี้ครั้งแรก ทั้ง ๆ ที่ช่ำชองมาไม่รู้กี่สนาม ลุคทำให้โลกของเขาเปลี่ยนไป มันมึนงง สับสน เหมือนเมาแอลกอฮอล์ ฝ่ามือหนาควบคุมร่างกายเขา มันจุดไฟราคะตั้งแต่ลำคอ บั้นเอว ลามไปถึงโคนขาอ่อน ที่แม้ใส่ชุดเต็มยศ แต่ก็เหมือนกำลังเปลือยเปล่าต่อหน้าผู้ชายวัยเกือบสี่สิบ แล้วยิ่งมองเห็นเป้าที่เด่นนูนขึ้นมาของคนที่ยืนคล่อมอยู่ ก็ยิ่งทำให้โพสหมดเรี่ยวแรงจะพูด อยากจะอะไร ๆ ให้มากกว่านี้
“กลับกับผมนะ” น้ำเสียงออดอ้อนขัดกับการกระทำที่ไม่ไร้เดียงสาเลยสักนิด โพสแทบไม่ต้องคิด เขารั้งคอหนุ่มใหญ่ลงมาบดจูบ อ้าขาออกกว้าง เปิดทางให้จุดกลางกายต่างบดเบียดซึ่งกันและกัน เป้าแฉะชื้นไปถึงไหนต่อไหน โพสแทบทนไม่ไหว ต้องการมากกว่านี้ แค่จูบมันไม่พอ ลุคก็เหมือนกัน ถ้าใจตรงกันขนาดนี้ มันก็ต้องจัดการให้หายกลุ้มแล้วจริงไหม
rrrrrrrrr…ถ้าหากว่าเสียงโทรศัพท์ไม่ขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน
“จิ๊!!” อยากจะปาลงไปในพุ่มไม้ ถ้าไม่เห็นว่าชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอคือแม่
โพสกลอกตา อย่างไรก็จะปฏิเสธ จะบอกเอมิเลียว่าขอกลับกับเพื่อนที่กำลังงับหูเขาเล่น สร้างความเสียวซ่านจนเสียงต้องพยายามเก็บลมหายใจ
“ครับแม่”
[“อยู่ไหน แม่จะกลับแล้วนะ ซาร่ามันป้ายเค้กใส่หน้าแม่ แม่ทนเหนียวไม่ไหวละ พาแม่กลับหน่อย”]
“เอ่อ…”
[“แม่อยู่ตรงเขาวงกต อยู่ในนั้นหรือเปล่า ออกมาเร็ว ๆ เลย”] สำเนียงยังติดพูดไม่ชัดเร่งเร้า โพสแทบอยากจะร้องไห้ แม่ก็คือแม่อยู่วันยังค่ำ รู้ได้ไงว่าอยู่ที่นี่
“หึหึ” เสียงขำเอ็นดูจากคนข้างบนที่ยังไม่เลิกงับหู ลุคเห็นหน้าตาฟึดฟัดของคนเด็กกว่าแล้วเริ่มทำใจได้ว่าคืนนี้คงต้องจบแค่นี้ ซินเดอเรลล่าต้องรีบกลับบ้าน แต่เขาก็ยังไม่เลิกแกล้งหยอกเล่น
[“อยู่กับใครเนี่ยโพส พาแม่กลับบ้านหน่อย ค่อยหาก็ได้ผู้น่ะ”]
“โธ่แม่” โพสอ่อนใจกับแม่ผู้รู้ทันไปเสียทุกอย่าง เขาสบตาลุค เจ้าชายรูปงามที่ต้องจากกันเสียแล้ว
“เดี๋ยวออกไปครับ”
[“จ้า เร็ว ๆ นะ ยุงกัด”]
นายแบบหนุ่มกดวาง พร้อมกับที่ลุคผละออก เขาจึงลุกขึ้นยืน มองหน้าหล่อเหลาดั่งรูปสลักนั้นด้วยความเสียดาย
“ไม่เป็นไรครับ ถ้างั้นผมขอไลน์หน่อยสิ” ลุคเอ่ยปลอบใจ มือลูบเรือนผมนุ่มด้วยความหลงใหล
“ผมให้ได้ทุกอย่าง ทั้งไลน์ วอทสแอป เฟซ ทวิต ไอจี”
“ฮ่า ๆ ๆ ตามใจ” คนแก่กว่ายื่นมือถือตัวเองให้โพสเพิ่มเพื่อนตามต้องการ ระหว่างที่รอก็เคลียคลอไม่ห่าง กาวยี่ห้อนี้ติดทนเสียจริง แกะมือปลาหมึกไม่ออกเลย
Tbc