[END] เพียงควัน -- บทส่งท้าย-- 31/08/19
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [END] เพียงควัน -- บทส่งท้าย-- 31/08/19  (อ่าน 71590 ครั้ง)

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 6-- 15/05/19
«ตอบ #60 เมื่อ15-05-2019 22:20:00 »

อ้าว แสงถูกฆ่าตายหรอกหรือ นึกว่าตายเพราะอุบัติเหตุ
ปั้นแอบชอบพลีสหรือเปล่า

ออฟไลน์ wanida023

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 6-- 15/05/19
«ตอบ #61 เมื่อ15-05-2019 22:48:53 »

 o13

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 6-- 15/05/19
«ตอบ #62 เมื่อ16-05-2019 00:14:11 »

ต้องเกี่ยวกับพลีสแน่ๆ การตายของแสง
เพราะแสงคุ้นหน้าของพี่หน่อย

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 6-- 15/05/19
«ตอบ #63 เมื่อ16-05-2019 01:41:27 »

 :a5:

 :3123: :pig4: :3123:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 6-- 15/05/19
«ตอบ #64 เมื่อ17-05-2019 16:14:57 »

กำลังคิดว่า แสงเทียนตายยังไง อย่าบอกว่าตายเพราะช่วยพลีสไว้นะ
เพราะบางอย่างเป็นโชคชะตา วิญญาณพลีสเลยต้องหลุดออกไป
เพื่อให้แสงได้เข้ามาแก้ไขสิ่งที่พลาดในอดีต หรือจะมาช่วยให้พลีสเข้มแข็งนะ

ชีวิตแสงดีมากเลยล่ะ ถ้าไม่ตายก่อน และไม่ทะเลาะกับตามก่อน
ชีวิตพลีสมีครบ แต่ไม่มีความสุข น้องต้องพยายามตายมากี่ครั้งกันนะ
และพลีสเจออะไรมาบ้างตอนยังอยู่ ตอนนี้วิญญาณน้องไปอยู่ที่ไหน

ออฟไลน์ Miawncha

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 6-- 15/05/19
«ตอบ #65 เมื่อ17-05-2019 23:09:54 »

เอาาแล้ววววๆๆ อ่านแต่ละคอมเม้นวิเคราะห์แล้วตื่นเต้นหนักกว่าเดิม แสงตายยังไง ที่สงสัยอีกคือแล้วทำไมตามต้องทำพาร์ทไทม์ไม่หางานประจำทำ แล้วปั้นแอบชอบพลีสหรอ โอ้้้ยยยยอยากรู้ทุกเรื่องเลยจ้าแม่

ออฟไลน์ เต้าหู้ไข่

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +279/-5
    • twitter
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 7-- 21/05/19
«ตอบ #66 เมื่อ21-05-2019 00:02:17 »

ตอนที่ 7
ใครๆ ก็มีสิทธิ์ที่จะมีความสุขได้ทั้งนั้นแหละ

 

ผมถูกแทงตายจากการเข้าไปช่วยเหลือเด็กคนหนึ่งที่กำลังถูกทำร้าย จำเหตุการณ์วันนั้นได้ไม่เคยลืม คมมีดในมือคนร้ายพุ่งตรงมาแทงร่างกายของผมอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ไม่มีโอกาสแม้แต่จะอ้อนวอนร้องขอชีวิต

แค่แผลเดียว แต่เป็นแผลลึกและคล้ายกับว่ามีดเล่มนั้นยังคงทิ่มแทงอยู่ในความทรงจำทุกครั้งที่คิดถึงเหตุการณ์ในวันนั้น ผมยังไม่ลืมความเจ็บปวดทรมาน ไม่ลืมความรู้สึกสุดท้ายก่อนที่ความตายจะพรากชีวิตผมไป ไม่ลืมลมหายใจสุดท้ายก่อนที่ทุกอย่างจะดับสิ้นลง

วันนั้นผมบอกพ่อกับแม่ว่าจะกลับบ้านช้าหน่อย บอกกับสายป่านตอนกินข้าวเช้าด้วยกันว่าจะพาไปดูหนังในวันหยุด ผมทำผิดกับตามและทะเลาะกัน วันสุดท้ายของชีวิตผมจบลงไปแบบนั้นและหลายสิ่งหลายอย่างยังคงค้างคา ผมเผลอคิดไปเองว่า เพราะความค้างคาเหล่านั้น มันจึงเป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ผมยังอยู่ตรงนี้

"พลีส"

"..."

"ไม่เป็นอะไรแล้วนะ"

ผมเหลือบตาขึ้นมองตามที่ถามขึ้นมาเบาๆ พลันตั้งสติได้ก็เห็นว่าตัวเองกอดตามเอาไว้แน่น สองมือของตามก็โอบร่างของผมเอาไว้เช่นกัน ผมขยับตัวออกจากอ้อมกอดของตาม ยกมือเช็ดน้ำตาที่ไหลนองใบหน้า กระทั่งตามถามขึ้นมาอีกครั้ง

"โอเคไหม"

"โอเคครับ"

"โอเคแบบที่มือยังสั่นอยู่น่ะเหรอ"

ผมหลุดยิ้มออกมาตอนที่ตามเห็นความผิดปกติของมือทั้งสองข้างที่ยังคงสั่นด้วยความหวาดกลัว ก่อนที่ความอบอุ่นของฝ่ามือตามจะยกขึ้นมาจับมือทั้งสองข้างของผมเอาไว้

"ไม่ต้องกลัวนะ"

"..."

"ไม่เป็นอะไรแล้ว"

คำปลอบโยนของตามทำให้ใจผมสงบลงได้ จนกระทั่งรู้สึกโอเคแล้วจริงๆ ตามจึงพาผมกลับบ้าน ขณะที่มือข้างหนึ่งยังจับมือของผมเอาไว้ไปตลอดทาง ความอุ่นใจทำให้ผมสบายใจขึ้น เมื่อนึกขึ้นมาได้ก็มีคำถามหนึ่งที่เกิดสงสัยขึ้นมา

"พี่ตาม พี่เลิกงานแล้วเหรอ มาได้ยังไง"

"เลิกแล้ว พี่เห็นเรานั่งอยู่ที่หน้าร้านกะว่าเลิกงานจะชวนไปกินข้าวด้วยกัน แต่เดินออกมาเรียกไม่ทันก็เลยตามมานี่แหละ"

ผมพยักหน้ารับ ก่อนที่เราจะเดินมาถึงที่บ้านพอดี

"ขอบคุณที่มาส่งนะครับ"

"ไม่เป็นไร แล้ววันหลังอย่าออกไปไหนดึกๆ คนเดียว มันอันตราย รู้เปล่า"

"ครับ"

"เข้าบ้านเถอะ"

ผมตอบกลับด้วยการพยักหน้า แต่ที่ยังไม่ยอมเดินเข้าบ้านก็เพราะว่ามือของตามยังจับมือของผมอยู่ ก่อนอีกฝ่ายรู้ตัวจึงพูดออกมาขำๆ

"อ๋อ ต้องปล่อยแล้วสินะ" ตามทำท่าจะปล่อยมือผมออก แต่กลับเป็นผมที่กระชับมือนั้นให้แน่นกว่าเดิมไม่ยอมปล่อย

"พลีส"

"..."

"มีอะไรหรือเปล่า"

ผมเข้าใจว่า ตามมีคนรักใหม่เข้ามาแทนที่ผมแล้ว ร่างกายผมสูญสลายและความทรงจำของตามอาจกำลังค่อยๆ เลือนหายไปอย่างช้าๆ ผมเข้าใจดี แต่สำหรับผมแล้วตามเป็นคนเดียวที่ผมรัก เป็นความทรงจำเดียวที่ผมมี ผมจึงไม่อาจเปลี่ยนใจ

ผมใช้ร่างของพลีสกระทำความผิดด้วยการตรงเข้าไปกอดตามอย่างคนเห็นแก่ตัว อย่างที่เคยบอกไปว่าแม้สัมผัสผ่านร่างกายของพลีส แต่ความรู้สึกเป็นของผม ผมจึงละโมบเก็บเอาความรู้สึกนั้นให้อยู่กับตัวเองได้นานที่สุด มีคำบางคำอยากพูดกับตาม แม้รู้ดีว่าหากพูดเช่นนั้นออกไปตามคงสงสัยและไม่เข้าใจ แต่ความรู้สึกอัดอั้นเกินจะยับยั้ง ผมจึงกระซิบบอกตามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

 

"เราคิดถึงเธอนะ"

 

...

 

เย็นวันพุธที่ควรจะได้กลับบ้านเร็ว แต่วันนี้ผมมีนัดกับครูวิชาคณิตฯ เพื่อมาเรียนเพิ่มเติมหลังจากที่สอบตกคราวก่อน ผมมาก่อนเวลานัดประมาณห้านาที แต่มีคนที่มาก่อนแล้วคือไอ้ปั้น มันหันมาเลิกคิ้วใส่ทำหน้าสงสัย ก่อนเอ่ยปากถาม

"มึงมาทำอะไรวะ"

"แล้วมึงมาทำอะไรล่ะ"

"เดี๋ยวนะ มึงสอบตกเหรอ"

"ศูนย์คะแนน" ผมตอบส่งๆ แล้วเลือกที่นั่งที่ห่างจากไอ้ปั้นไปสองโต๊ะ

"ความรู้มึงไหลออกไปจากหัวตอนมึงตกตึกใช่ไหม"

"มึงเลิกพูดเรื่องตกตึกซักทีได้ไหม กูรำคาญ"

"อ้าว ไอ้นี่..."

"มากันครบแล้วใช่ไหม" เสียงครูดังขึ้นก่อนที่ไอ้ปั้นจะออกปากด่าอะไรผม ผมหันไปสนใจครูเพราะประโยคที่เอ่ยมาก่อนหน้า คำว่ามากันครบแล้วในที่นี่หมายถึงผมกับไอ้ปั้นแค่สองคนงั้นเหรอ

"พันธกานต์มานั่งตรงนี้"

"ผมขอนั่งตรงนี้ได้ไหมครับ"

"กูไม่กัดมึงหรอกน่า" ไอ้ปั้นหันมาบอก ผมหมดทางเลือกจึงต้องหอบกระเป๋าขยับเข้าไปนั่งข้างๆ ไอ้ปั้น ก่อนที่ครูจะเริ่มสอน คิดว่าการสอบตกของผมคงจะสร้างความประหลาดใจให้ครูอยู่ไม่น้อย เพราะครูเอาแต่บ่นว่าเกิดอะไรขึ้นกับนักเรียนตัวท็อปอย่างพันธกานต์ ยิ่งตอนที่ครูสอนผมแบบตัวต่อตัวแล้วผมก็เอาแต่นิ่งเพราะตอบอะไรไม่ได้เลย ยิ่งทำให้ครูแปลกใจ หัวคิ้วชนกันยุ่งเพราะต้องเริ่มสอนผมใหม่ตั้งแต่ต้น นับถือความอดทนของครูที่ใจเย็นกับคนหัวช้าอย่างผมแล้วค่อยๆ สอนไปทีละขั้นทีละตอนอย่างช้าๆ แต่ก็อย่าลืมอย่างที่เขาว่ากัน ความอดทนของคนมันก็มีจำกัดนั่นแหละเนอะ

"อันนี้เราเรียนกันไปแล้วตอนม.สี่ไงครับ"

"โห่ ครู เรียนตั้งแต่ม.สี่ผมจำไม่ได้หรอกครับ"

"งั้นลองทำโจทย์พวกนี้ดู"

"ยากจังเลยครับครู ไม่เข้าใจสักข้อ"

"แต่นี่มันข้อสอบของเทอมที่แล้ว ที่เธอทำได้คะแนนเต็มไง"

"เหรอครับ ไม่คุ้นเลย"

"พันธกานต์! มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอเนี่ย!"

ขอบเขตของความอดทนจบลงในทันทีตอนที่ชื่อผมถูกเรียกด้วยเสียงดังที่ดูออกว่ามันเต็มไปด้วยความโมโห

"พักสิบนาทีก็แล้วกัน เดี๋ยวมาเริ่มกันใหม่" ครูถอนหายใจเฮือกหนึ่งก่อนจะเดินออกจากห้องไป ไอ้ปั้นหันมาหัวเราะเยาะผม แล้วยกมือขึ้นตบท้ายทอยผมเบาๆ

"ไปกินหญ้าไป ไอ้ควาย"

ผมยกมือทำท่าจะทุบมัน แต่มันลุกหนีได้ทันซ้ำยังใช้นิ้วจิ้มหน้าผากผมจนหน้าเกือบหงายก่อนจะเดินออกไปนอกห้อง ผมตั้งใจใช้สิบนาทีที่ครูให้พักหาวิธีออกจากร่างพลีสให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นชีวิตทางการศึกษาของพลีสคงได้พังพินาศแน่นอน...ถ้าโดดตึกอีกรอบ วิญญาณจะออกจากร่างไหมนะ

 

"ครืด...ครืด..."

 

ผมหันขวับมองมือถือของไอ้ปั้นที่วางทิ้งเอาไว้บนโต๊ะ หน้าจอแสดงรายชื่อคนโทรเข้ามาว่าเป็นแม่ ผมชะโงกหน้ามองออกไปข้างนอก ไม่เห็นว่ามันอยู่ตรงนั้นจึงไม่ได้เรียก ปล่อยให้มือถือสั่นอยู่อย่างนั้นก่อนวางสายไปเอง แต่ครู่หนึ่งก็โทรเข้ามาอีก จึงเดาว่าน่าจะมีธุระสำคัญ ผมจึงถือวิสาสะกดรับแทน

(ข้าวปั้น! อยู่ไหน)

"ปั้นไปเข้าห้องน้ำครับแม่ ลืมโทรศัพท์ไว้" ผมตอบกลับแม่ของไอ้ปั้นตอนที่เกือบจะหลุดขำชื่อของมันที่แม่เรียก ข้าวปั้น...หึ!

(อ้าวเหรอ ที่โรงเรียนมีงานอะไรหรือเปล่าลูก ทำไมข้าวปั้นกลับบ้านช้าจัง)

"มีเรียนซ่อมครับ พอดีผมกับปั้นสอบตกวิชาคณิตครับ"

(ข้าวปั้นสอบตก!)

"ครับ"

(ไม่คิดจะบอกแม่เลยนะ! งั้นถ้าข้าวปั้นมา ฝากบอกว่าเลิกเรียนแล้วรีบกลับบ้านเลยนะลูก)

"ครับๆ เดี๋ยวบอกให้ครับ"

ผมกดวางสายในตอนที่ไอ้ปั้นเดินกลับเข้ามาพอดี มันเบิกตาขึ้นนิดหนึ่งเมื่อเห็นว่าผมกำลังถือโทรศัพท์ของมันอยู่

"มึงทำอะไรวะ"

"แม่มึงโทรมา กูเลยรับแทน"

"เสือก"

"เอ้า! กูเห็นแม่มึงโทรหลายรอบ คิดว่ามีเรื่องสำคัญ"

"แล้วแม่ว่าไง"

"บอกให้ข้าวปั้น กลับบ้านเร็วๆ นะลูก"

"ไอ้พลีส!"

"เลิกเรียนแล้วกลับบ้านเลยนะครับข้าวปั้น" ผมแกล้งกวนตีนด้วยการเรียกชื่อเต็มๆ ของมันที่ดูน่ารักเกินกว่าจะเป็นชื่อของไอ้ยักษ์นี่ อีกฝ่ายก็ดูโมโหจนหน้าบูด

"แล้วมึงบอกแม่กูไปว่ากูทำอะไรอยู่"

"ก็บอกว่าเรียนซ่อมคณิตฯ ไง จะให้กูบอกว่ามึงไปสำรวจดาวอังคารกับองค์การนาซ่าหรือไง"

"มึงบอกแม่ว่ากูสอบตก!"

"เยส"

"ไอ้พลีส!"

"เฮ้ย!" ผมลุกพรวดกระโดดหนีไอ้ปั้นที่ตรงเข้าใส่ด้วยความโมโห หลบกำปั้นของมันที่กำลังจะยกมือทุบผมได้อย่างหวุดหวิด ผมกระโดดข้ามโต๊ะไปอีกฝั่งตอนที่ไอ้ปั้นกำลังจะวิ่งตาม วิ่งไล่กันไปมาในห้องเรียนอย่างโกลาหล

"มึงหยุดเลยนะไอ้พลีส!"

"ไม่หยุดครับข้าวปั้น"

"เลิกล้อกูสักที!"

"ไม่เลิกครับข้าวปั้น"

"ไอ้เหี้ยพลีส!" ไอ้ปั้นคำรามลั่น กระโดดข้ามโต๊ะมาดึงคอเสื้อผมเอาไว้ได้พอดี ก่อนที่เราทั้งคู่จะพากันล้มคว่ำอย่างไม่ได้ตั้งใจ ผมหลับตาแน่นตอนที่ล้มลง คิดว่าหัวคงกระแทกพื้นแน่ๆ จึงหลับตาแน่นรอคอยความเจ็บปวด แต่...

 

"ฟึ่บ!"


 

ไม่เจ็บสักนิด

ผมลืมตาขึ้น กระพริบตาถี่งุนงงว่าทำไมถึงไม่เจ็บจนได้คำตอบว่า ฝ่ามือของไอ้ปั้นสอดเข้ามารองหัวผมเอาไว้ก่อนที่จะกระแทกกับพื้น ส่วนแขนอีกข้างของมันยันกับพื้นเอาไว้เพื่อไม่ให้ร่างของมันล้มมาทับร่างของผมที่ล้มลงไปกับพื้นก่อน เป็นการล้มที่ดูเหมือนฉากละครมากๆ จนรู้สึกว่ามันพิลึกแปลกๆ

ใบหน้าของผมกับไอ้ปั้นอยู่ในตำแหน่งที่เราจะมองหน้ากันได้พอดี ต่างฝ่ายต่างเงียบจนกระทั่งผมเอ่ยปากพูดประโยคแรก

"ข้าวปั้น"

"อะไร"

"ถ้ามึงมองกูอีกหนึ่งวินาที มึงจะตกหลุมรักกู"

"พ่อมึงดิ!" มันตะโกนลั่นแล้วดีดตัวเองออกไปจากตัวผม ยกมือปัดเสื้อสองสามทีแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะ ผมยันตัวเองขึ้นมาพร้อมเสียงหัวเราะแล้วเดินไปนั่งข้างๆ มัน

"ที่แกล้งกูทุกวันเนี่ย ชอบกูล่ะสิ"

"มึงพูดอะไรของมึง ปัญญาอ่อน มึงมันบ้า ไอ้โรคจิต..."

"ขอบคุณนะ"

คำพูดของไอ้ปั้นหยุดชะงักตอนที่ผมพูดคำขอบคุณแทรกขึ้นมา

"ขอบคุณอะไร"

"ที่มึงเอามือรองหัวกูไว้เมื่อกี้ ไม่อยากให้กูเจ็บใช่ไหมล่ะ"

"กูแค่ไม่อยากให้กบาลมึงแตกอีกรอบ ไม่งั้นสมองมึงคงไหลจนความรู้หายหมด ต้องมานั่งเรียนใหม่กับกูอีก กูรำคาญไม่อยากเห็นหน้ามึง เข้าใจไหม!"

"อ๋อเหรอ" ผมเบ้ปากใส่ไอ้ปั้นที่ร่ายยาว ก่อนที่ครูจะเดินกลับเข้ามาพอดี วิชาเรียนเพิ่มเติมดำเนินต่อไปโดยที่ผมก็ไม่เข้าใจอะไรเหมือนเดิม เราเรียนกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งหกโมงเย็นจึงเลิก แน่นอนว่าเวลาแค่สองชั่วโมงที่ผ่านมาไม่เพียงพอสำหรับบทเรียนที่ผมไม่เข้าใจเลย จึงมีนัดสำหรับวันต่อไปอีกครั้ง

พอรู้ตัวว่าต้องมานั่งเรียนคู่กันอีก ไอ้ปั้นก็แสดงอาการไม่พอใจด้วยการทำหน้ายุ่งๆ ใส่ผม ผมเดินออกจากห้องพร้อมไอ้ปั้น ในตอนที่มันก้าวเท้าออกจากประตู ผมก็ก้าวเท้าออกไปในจังหวะเดียวกัน ด้วยร่างกายใหญ่โตของมัน ชนเข้ากับความบอบบางของร่างกายพลีส ผมจึงเซไปอีกทาง ไอ้ปั้นดึงแขนเสื้อผมเอาไว้ไม่ให้ล้มแล้วหันมาบ่นโวยวาย

"มึงไม่เห็นกูหรือไงวะ!"

"กูตาเล็ก เห็นไหมว่ากูตาเล็ก!" ผมเถียง ชี้ให้ดูตาตี่ๆ ที่แทบจะเป็นขีดเดียวเพราะพลีสได้เชื้อจีนจากพ่อมาเยอะ ไอ้ปั้นส่ายหัวเบาๆ แล้วเดินออกไปก่อน ผมเดินตามมันไปรอรถที่หน้าโรงเรียน ไม่วายจะหันไปแซวเล่นเพราะเห็นหน้าตาตอนโดนแกล้งของมันแล้วตลกเป็นบ้า

"รีบกลับบ้านนะข้าวปั้น คุณแม่รออยู่"

"เลิกกวนตีนกูได้แล้ว"

"ได้ครับข้าวปั้น"

มันคงหมดคำจะด่าจึงได้แต่ยกมือผลักหัวผมเบาๆ แล้วหันไปเห็นรถเมล์คันที่ต้องไปพอดีมันจึงรีบเดินไปขึ้นรถ รถเมล์คันที่ไอ้ปั้นขึ้นขับออกไปก่อนถูกแทนที่ด้วยรถยนต์สีดำคันหนึ่ง กระจกถูกลดลงพร้อมเสียงเรียกจากเจ้าของรถ

"น้อง"

พี่ต่อ...

"ขึ้นมาสิ"

"ครับ?"

"ขึ้นมาเร็ว"

ผมพยักหน้าหงึกๆ แล้วเดินไปเปิดประตูรถพี่ต่อขึ้นไปอย่างว่าง่าย ผมไม่รู้พลีสสนิทกับพี่ต่อขนาดไหน แต่สำหรับผมแล้วก็รู้จักกันพอสมควร เพราะตอนที่มีชีวิตผมก็ไปบ้านตามอยู่บ่อยๆ 

"ทำไมกลับบ้านช้าจังครับ"

"ผมสอบตกก็เลยต้องไปเรียนซ่อมครับ"

"ตกวิชาอะไรครับ"

"คณิตฯ ครับ"

"คณิตเหรอ เอาไว้ว่างๆ พี่มาสอนให้ไหม"

ผมหันมองพี่ต่อที่กำลังยิ้ม ความใจดีมีมากพอสำหรับจะแจกให้ทุกคนบนโลกเลยเหรอครับ ผมกำลังจะปฏิเสธอยู่แล้วเชียวแต่คิดถึงข้อความในไดอารี่ของพลีสแล้วก็ชั่งใจ พลีสจะหาว่าผมวุ่นวายไหมนะถ้าผมจะหาโอกาสให้เขาได้เจอกับพี่ต่อมากกว่าที่จะรอแค่เดือนละครั้ง เนี่ย...ก็ชอบเอาตัวเองไปวุ่นวายเรื่องของคนอื่นถึงได้ถูกแทงตายทั้งๆ ที่ไม่รู้จักเด็กคนนั้นด้วยซ้ำ พูดแล้วมันก็เจ็บใจอยู่เหมือนกันนะ ถ้าไม่ขี้เสือก ไม่ตายนะเนี่ย

"ตกลงว่าไงครับ ให้พี่สอนไหม"

"ถ้าไม่รบกวนพี่ต่อ ก็ตกลงครับ"

"ฮึ?"

"ครับ?"

ผมทำหน้างง ตอนที่พี่ต่องงก่อน เรางงใส่กันจนกระทั่งพี่ต่อพูดออกมาก่อน

"เรียกพี่ว่าไงนะ"

"ก็...พี่ต่อไงครับ"

พี่ต่อหลุดยิ้มกว้าง สว่างไสวอันตรายไปทุกที่คล้ายกับมีแสงเรืองรองของความหล่อแผ่กระจายเป็นออร่า เพราะเป็นหมอฟันหรือเปล่านะ ถึงได้ยิ้มสวยเป็นบ้าเลย

"เมื่อก่อนเรียกแต่คุณหมอๆ บอกให้เรียกพี่ต่อก็ไม่ยอม วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับน้องเนี่ย"

"จะได้ดูสนิทกันมากขึ้นไงครับ"

"โอเค ถือว่าตกลงกันแล้วนะว่าจะเรียกพี่แบบนี้ ไม่เรียกคุณหมอแล้วนะ"

"ครับ ไม่เรียกคุณหมอแล้วครับ"

พี่ต่อยังคงยิ้ม พาให้ผมต้องยิ้มไปด้วยโดยไม่มีเหตุผล ผมเองไม่ค่อยมีประสบการณ์ด้านความรักซักเท่าไร เพราะตลอดชีวิตก็มีแค่ตามคนเดียว แม้ไม่แน่ใจนักแต่ก็คิดว่าเข้าใจไม่ผิด...พี่ต่อเองก็น่าจะชอบพลีสเหมือนกันนะ

ผมบอกทางให้พี่ต่อขับรถมาส่งที่หน้าบ้านพลีส ก่อนที่จะลงจากรถพี่ต่อก็เรียกผมเอาไว้ก่อน

"น้อง"

"ครับ"

"เดือนหน้ามีนัดเปลี่ยนยางวันที่เท่าไรนะ"

"สิบหกครับ"

"พี่ไม่แน่ใจว่าจะเข้าคลินิกวันไหน อาจจะต้องเลื่อนไปนะ"

"เลื่อนเหรอครับ ถ้างั้นให้พี่ที่คลินิกโทรบอกผมก็ได้ครับ"

"อยากบอกเองอะ"

"ครับ?"

"ขอไลน์น้องได้ไหม ไว้พี่จะไลน์มาบอกเอง"

"อ่า...ได้ครับ"

อย่าหาว่าพี่เสือกเลยนะพลีส...แต่พี่ต่อเป็นหนึ่งในความสุขของพลีส ผมมองเห็นชีวิตของพลีสที่เจ็บปวดมากพอแล้ว ก็เลยคิดว่ามันน่าจะเป็นวิธีที่ทำให้พลีสได้มีความสุขบ้าง เราแลกไลน์กันเสร็จเรียบร้อยก่อนที่พี่ต่อจะส่งมือถือคืนมาให้ แล้วพูดยิ้มๆ

"เจอกันวันที่สิบหกนะครับ"

"อ้าว ก็ไหนว่าเลื่อน"

"ไม่เลื่อนครับ มันเป็นมุกขอไลน์น้อง"

"พี่ต่อ!"

"พี่ร้ายนะ น้องไม่รู้เหรอ"

"อย่าร้ายกับน้องมากนะครับ น้องไม่สู้คน"

"ครับผม"

พี่ต่อยิ้มให้ผมอีกครั้ง ก่อนผมจะบอกลาพี่ต่อแล้วเดินเข้าบ้าน พลางคิดไปว่าถ้าพลีสกลับมา คงมีอะไรในชีวิตเปลี่ยนแปลงไปจนน้องต้องตกใจแน่ๆ แต่อีกใจมันก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าพลีสกลับมา ผมก็จะหายไป...กลับกลายเป็นวิญญาณที่ไม่มีตัวตนเช่นเดิม

 

...

 

วันนี้วันอาทิตย์ เป็นเช้าที่ผมอารมณ์ดี ดี๊ด๊าอยากจะออกจากบ้านตั้งแต่เช้าเพื่อไปโบสถ์ ไม่สิ เรียกว่าไปเจอตามจะถูกกว่า   

"พลีส"

"ครับ" ผมหันไปตอบรับแม่ที่นั่งอยู่ที่โซฟา พ่อก็เดินออกจากห้องมาพอดีเช่นกัน

"จะออกไปไหน"

"ไปโบสถ์ครับ"

"ไม่กินข้าวก่อนเหรอ"

"ไม่กินครับ"

"แล้วจะไปยังไง ให้พ่อไปส่งไหม หรือว่าโทรตามหน่อย"

"ไม่เป็นไรครับ ผมไปคนเดียวได้"

"แต่ว่า..."

"ไม่ต้องห่วงครับ ผมไปคนเดียวได้จริงๆ ไปนะครับ รักพ่อกับแม่นะ" ผมตัดบท ก่อนตรงเข้าไปกอดพ่อกับแม่พลีสคนละที การกระทำสร้างความแปลกใจจนทั้งคู่ทำหน้าสงสัยออกมาพร้อมกัน ผมยิ้มกว้างให้สองคนที่กำลังงง ก่อนจะวิ่งฉิวออกจากบ้านด้วยความคาดหวังว่าจะได้เจอตามอย่างเร็วที่สุด

แต่ฝันสลาย...

ใช้คำนั้นอธิบายความรู้สึกตอนนี้ก็น่าจะเหมาะสมที่สุด วันนี้ตามไม่มาโบสถ์และผมไม่มีช่องทางที่จะติดต่อเขาได้เลย อารมณ์ดีถูกตีกระเจิงกลายเป็นความผิดหวัง ทั้งๆ ที่อุตส่าห์รอคอยวันอาทิตย์อย่างใจจดใจจ่อแท้ๆ แต่ตามดันไม่มาซะอย่างนั้น ผมนั่งอยู่ในโบสถ์จนจบพิธี ก่อนจะเดินออกมาข้างนอกแล้วหย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้ใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าโบสถ์

"น้องพลีส"

หันขวับไปมองเสียงเรียก ก่อนจะเห็นว่าเป็นพี่หน่อยที่ไม่รู้ว่ามาได้ยังไง ขาก็ยังไม่หายดี หนีบไม้ค้ำยันเดินกระเผลกเข้ามาหา ผมจึงรีบลุกไปประคองพี่หน่อยเข้ามานั่งที่เก้าอี้พลางเอ่ยปากถาม

"พี่หน่อยมาได้ยังไง"

"มาแท็กซี่ค่ะ"

"ขายังเจ็บอยู่เลย มาทำไมครับเนี่ย"

"ก็วันนี้..." พี่หน่อยเว้นช่วงคำพูด ก่อนมองหน้าผมอยู่ครู่หนึ่งไม่ยอมพูดต่อ

"วันนี้ทำไมครับ"

"วันนี้หน่อยต้องไปหาคนๆ หนึ่ง เลยอยากมาชวนน้องพลีสไปด้วยกัน ถึงจะรู้ดีว่าน้องพลีสไม่อยากไปแต่หน่อยก็อยากจะมาชวนอีกสักครั้ง น้องพลีสไปกับหน่อยนะคะ ไปด้วยกันนะคะ"

ไม่เข้าใจที่พี่หน่อยพูดเลยสักนิด ไม่รู้ว่าจะต้องไปหาใคร ไม่รู้ว่าควรไปหรือไม่ควรไป แล้วทำไมพี่หน่อยถึงได้คะยั้นคะยอให้ผมไปนักหนา ด้วยความสงสัยและไม่มีคำตอบผมจึงตกลงที่จะไปในที่ที่พี่หน่อยบอกทั้งๆ ที่ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปที่ไหน   

พี่หน่อยพาผมนั่งแท็กซี่มาที่วัดแห่งหนึ่ง ก่อนที่จะเดินนำผมไปยังบริเวณหลังวัดซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของโกศบรรจุอัฐิ บรรยากาศคุ้นเคยราวกับเป็นบ้านของตัวเองเพราะเถ้ากระดูกของผมก็ถูกเก็บไว้ที่นี่เช่นกัน พอได้ใช้ชีวิตเป็นมนุษย์อีกครั้งก็มีอะไรให้ทำเยอะแยะจนเผลอลืมเรื่องบางอย่างไปชั่วขณะ คิดขึ้นมาได้ตอนที่เดินเข้ามาที่นี่...วันนี้เป็นวันครบรอบวันตายของผม

"น้องพลีส"

พี่หน่อยหันมาเรียกในตอนที่ผมหยุดเดินตามเพราะกำลังคิดถึงเรื่องของตัวเองอยู่

"มีอะไรหรือเปล่าคะ"

ผมส่ายหน้าหน่อยๆ แล้วประคองพี่หน่อยที่พาเดินเข้าไปในนั้นอย่างช้าๆ มาถึงตรงนี้ก็อดถามไม่ได้   

"เรามาหาใครเหรอครับ"

"คนที่น้องพลีสจะไม่มีวันลืมเขาค่ะ"

ขยับหัวคิ้วชนกันนิดหน่อยอย่างไม่เข้าใจ จนกระทั่งพี่หน่อยพาผมมาถึงช่องบรรจุอัฐิหนึ่งที่อยู่เกือบสุดทาง ผมนิ่งไปชั่วครู่เมื่อมองเห็นรูปถ่ายที่หน้าช่องบรรจุอัฐินั้น หัวคิ้วที่ชนกันยังไม่ทันคลายก็ต้องผูกมันให้แน่นกว่าเดิมด้วยความสงสัยไม่มีสิ้นสุด คนที่พี่หน่อยพาพลีสมาหา คนที่พลีสจะไม่มีวันลืม...

 

ทำไมถึงเป็นผมล่ะ...


 

To be continued.

 

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 7-- 21/05/19
«ตอบ #67 เมื่อ21-05-2019 01:42:48 »

ว่าแล้วเชียว

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 7-- 21/05/19
«ตอบ #68 เมื่อ21-05-2019 10:01:07 »

ผูกพันกันด้วยเรื่องนี้สินะ ชีวิตของแสงที่แลกเพื่อช่วยพลีส

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 7-- 21/05/19
«ตอบ #69 เมื่อ21-05-2019 10:07:09 »

 :3123: :pig4: :3123:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 7-- 21/05/19
« ตอบ #69 เมื่อ: 21-05-2019 10:07:09 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 7-- 21/05/19
«ตอบ #70 เมื่อ21-05-2019 11:03:35 »

 :pig4:
o13

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 7-- 21/05/19
«ตอบ #71 เมื่อ21-05-2019 22:09:07 »

 :mew6: :mew6:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 7-- 21/05/19
«ตอบ #72 เมื่อ22-05-2019 16:56:48 »

เกี่ยวข้องกันแบบนี้ จะหลุดพ้นกันยังไงล่ะ
หรือถ้าได้อโหสิให้กันแล้ว แสงเทียนจะหายไป

ตอนนี้พลีสอยู่ที่ไหน ยังวนเวียนอยู่ หรือไปแล้ว

สงสารชีวิตพลีสนะ กดดันทุกอย่างเลย
มีพร้อม แต่ไม่ครบ มีคุณหน่อยก็ช่วยได้ส่วนหนึ่ง

พี่ต่อเป็นคนดีใช่ไหม ที่มาเจอพลีสแบบนี้
และเนียนขอไลน์ไว้แบบนี้ คือจริงจังเนาะ
ข้าวปั้นยังไงล่ะ โดนแซวถึงกับเป๋หรอ 5555

ตอนนี้สงสารแสงเทียน ความทรงจำยังตามมาหลอกหลอน

ออฟไลน์ Miawncha

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 7-- 21/05/19
«ตอบ #73 เมื่อ24-05-2019 11:11:15 »

แงงงงง ทำไมจบตรงนี้ล่ะ แสงจะได้ออกจากร่างพลีสไหม อยากให้ตามรู้สึกได้ว่าแสงอยู่ในร่างพลีส  อยากให้แสงได้มีโอกาสแก้ไขในสิ่งที่ค้างคา

ออฟไลน์ เต้าหู้ไข่

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +279/-5
    • twitter
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 8-- 25/05/19
«ตอบ #74 เมื่อ25-05-2019 23:43:11 »

ตอนที่ 8
จะลืมได้ยังไง หันไปทางไหนก็ยังเป็นเธอ

 

เรื่องวันนั้น ทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่เปลี่ยนชีวิตผมไปตลอดกาล ผมจำได้เพียงว่าเด็กนักเรียนคนหนึ่งกำลังถูกทำร้าย ผมพยายามที่จะเข้าไปช่วยจนถูกแทงตายและถูกทิ้งให้จมกองเลือดอยู่อย่างนั้นกระทั่งหมดลมหายใจ มันจึงเป็นค่ำคืนที่มืดมิดและเงียบงันในวันสุดท้ายของชีวิต

ผมไม่ได้เห็นหน้าเด็กคนนั้น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเป็นตายร้ายดียังไง ไม่รู้ว่าความช่วยเหลือของผมจะทำให้เขาปลอดภัยไหม จนถึงวันนี้ครบรอบสามปีผมเพิ่งจะได้รู้ ว่าเด็กคนนั้นยังมีชีวิตอยู่...และมีชื่อว่าน้องพลีส

"วันที่น้องพลีสถูกคนใจร้ายรังแก พี่เขามาช่วยเอาไว้แต่โชคร้ายที่พี่เขาเสียชีวิต"

"..."

"เขาจึงเป็นคนที่เราจะไม่มีวันลืมค่ะ"

"..."

"ที่ผ่านมา น้องพลีสไม่กล้ามาหาพี่เขา ไม่ว่าหน่อยจะชวนกี่ครั้งก็ไม่เคยมาเลย"

"..."

"รู้สึกผิดจนไม่กล้ามาหา กลัวครอบครัวของพี่เขาจะโกรธ น้องพลีสให้เหตุผลแบบนี้อยู่เสมอ แต่วันนี้หน่อยดีใจนะคะที่น้องพลีสตัดสินใจมา พี่เขาไม่โกรธหรอก ดูสิคะ พี่เขายิ้มให้เราด้วย"

พี่หน่อยชี้ไปที่รูปถ่ายของผม เป็นไปอย่างที่พี่หน่อยพยายามจะบอก ผมไม่เคยคิดโกรธเด็กคนนั้นเลย แน่นอนว่ามันก็มีบ้างบางครั้งที่ผมรู้สึกเสียดายชีวิต เสียดายที่ตายเร็ว เสียดายที่ยังไม่ได้ทำอะไรอีกตั้งมากมาย แต่พลีสไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ผมต้องตาย คนใจร้ายคนนั้นต่างหากที่ไม่มีหัวใจ ทำร้ายพวกเราอย่างไร้ความปราณี

ในตอนนี้ที่รู้ว่าพลีสยังมีชีวิตอยู่ ผมกลับดีใจด้วยซ้ำไป อย่างน้อยๆ ความช่วยเหลือของผมก็ดูเหมือนจะมีประโยชน์ เพื่อให้อีกคนได้มีชีวิตอยู่ต่อก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ตายฟรี 

ผมพบคำตอบที่เคยสงสัยว่าทำไมพี่หน่อยถึงหน้าตาคุ้นๆ พี่หน่อยเคยมาหาผมที่นี่และไปหาพ่อกับแม่ที่บ้าน ตอนนั้นผมไม่ทันได้สนใจอะไรคิดว่าเป็นเพื่อนของพ่อกับแม่ที่ผมไม่รู้จัก

ผมมีคำถามเยอะแยะผุดขึ้นมาในหัวเกี่ยวกับพลีส ลังเลว่าจะถามพี่หน่อยดีไหม กลัวว่าพี่หน่อยจะสงสัยว่าทำไมพลีสถึงอยากรู้เรื่องของตัวเอง แต่เหตุผลที่ความจำสับสนยังคงใช้งานได้อยู่ ผมจึงตัดสินใจที่จะถามออกไป

"พี่หน่อยครับ"

"คะ"

"เพราะเรื่องวันนั้น ทำให้ผมต้องหยุดเรียนไปใช่ไหมครับ"

"ใช่ค่ะ เพราะสภาพจิตใจของน้องพลีสแย่มากจึงต้องหยุดเรียน น้องพลีสเอาแต่ขังตัวเองไว้ในห้อง ไม่ยอมพูดจากับใคร คนดีของหน่อยที่เคยสดใสและยิ้มเก่ง น้องพลีสคนเดิมคนนั้น ไม่กลับมาหาหน่อยอีกเลย"

"..."

"ช่วงนี้หน่อยเห็นน้องพลีสยิ้มบ่อยๆ ก็เลยดีใจ หน่อยอยากให้น้องพลีสมีความสุขค่ะ"

ผมก็อยากให้พี่หน่อยดีใจแต่ต้องยอมรับความจริงว่ามันเป็นยิ้มของผม ไม่ใช่ของพลีส หากว่าพลีสกลับมา ผมคิดว่าพลีสก็ยังคงจมดิ่งอยู่กับความเจ็บปวดและเรื่องราวเหล่านั้น พอลองประกอบรวมเรื่องราวระหว่างผมกับพลีส ก็พลันคิดไปว่า การที่ผมเข้ามาอยู่ในร่างของพลีสไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หนึ่งชีวิต หนึ่งวิญญาณ ที่ผูกพันกันโดยไม่ได้ตั้งใจ จึงทำให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับเรา

"พี่หน่อยครับ ผมขออะไรอย่างหนึ่งได้ไหม"

"อะไรคะ"

"ถ้าพลีสกลับมา หมายถึง ถ้าผมคนเดิมกลับมา"

"..."

"ช่วยพาผมมาที่นี่อีกครั้ง แล้วบอกกับผมว่าอย่ารู้สึกผิด พี่แสงไม่ได้โกรธ"

"..."

"บอกกับผมว่าให้ผมใช้ชีวิตให้ดี ให้สมกับที่ยังมีชีวิต"

"..."

"บอกให้พลีส...ใช้ชีวิตเผื่อพี่แสงด้วยนะครับ"


 

...

 

ผมแยกกับพี่หน่อยจากที่วัด บรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนทำให้วันนี้ไม่ร้อนอย่างทุกวัน ผมจึงยังคงเดินเตร็ดเตร่ไปเรื่อยๆ ในความคิดไม่มีจุดหมาย แต่ความรู้สึกในใจพาสองขาเดินมุ่งหน้าไปยังบ้านของตัวเอง ผมกำลังจะเดินถึงหน้าร้านกาแฟของแม่แล้ว แต่จู่ๆ ฝนก็ลงเม็ดลงมาซะเฉยๆ ใจหนึ่งคิดจะหาที่หลบฝนก่อน อีกใจก็อยากไปให้ถึงร้านแม่ที่มองเห็นอยู่ตรงหน้า สุดท้ายผมเลือกอย่างหลัง วิ่งฝ่าฝนไปจนถึงหน้าร้านของแม่ พลันสายตามองไปเห็นตามที่กำลังเดินผ่านตรงนั้นพอดี

"ตาม!"

ไม่ใช่ผมแต่เป็นแม่ที่เปิดประตูออกมาเรียก ตามไม่ได้ตอบรับยืนนิ่งอยู่กับที่ให้เม็ดฝนที่ตกลงมาทำเนื้อตัวเปียกปอน ก่อนที่ตามจะหันหลังให้แม่แล้วทำท่าจะเดินออกไป

"ตาม ตามหยุดก่อนลูก"

"..."

"ตาม!"

มือของแม่รั้งตามเอาไว้ไม่ให้เดินหนี 

"เข้ามาข้างในก่อนสิ ตัวเปียกหมดแล้ว"

จนในที่สุดตามก็ยอมเดินตามแม่เข้าร้านไป ในตอนที่ทั้งสองคนหันมาเห็นผมพอดีจึงชวนเข้าไปด้วยกัน ผมนั่งลงที่โต๊ะคนละตัวกับตาม เพราะดูเหมือนว่าแม่มีเรื่องอยากจะคุยกับตาม ผมที่อยู่ในร่างพลีสก็ดูจะกลายเป็นคนอื่นจึงขยับไปนั่งที่อื่น แต่มันก็ใกล้พอที่จะได้ยินบทสนทนาของแม่กับเขา

"ตามเป็นยังไงบ้าง"

"..."

"สบายดีนะลูก"

ไม่มีคำตอบจากตาม และในตอนนั้นประตูร้านก็ถูกเปิดเข้ามาพร้อมเสียงบ่นของสายป่าน   

"ฝนตกทำไมตอนนี้เนี่ย เปียกหมดเลย..." คำพูดหยุดชะงักเมื่อสายป่านหันไปเห็นตามที่นั่งอยู่ หัวคิ้วขมวดเข้าหากันด้วยใบหน้าที่ดูไม่พอใจนัก คำถามห้วนๆ ถูกกระแทกเสียงใส่คนที่กำลังนั่งก้มหน้าอยู่ตรงนั้น 

"มาทำไม!"

"สายป่าน" เสียงดุของแม่ไม่มีผลต่อสายป่าน น้ำเสียงที่ฟังดูคับแค้นใจถูกพูดออกมาตรงๆ   

"เขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับครอบครัวเราแล้ว จะมาทำไม"

"..."

"คิดว่าลืมพี่แสงไปแล้วด้วยซ้ำ ไม่เคยโผล่หน้ามาหาพี่แสงสักครั้ง จะมาเอาตอนนี้ไม่คิดว่ามันสายไปหน่อยเหรอคะ!"

"สายป่าน ขึ้นห้องไป!" เสียงของแม่ดังกว่าเดิม ก่อนที่สายป่านจะหันมองตามตาขวางด้วยความไม่พอใจ แล้วเดินขึ้นห้องไปตามคำสั่งของแม่

ผมรู้ว่าน้องโกรธแทนผม การหายหน้าไปของตามหลังจากที่ผมตายจึงทำให้สายป่านไม่พอใจ เคยได้ยินน้องพูดกับแม่หลายครั้งว่าพี่ตามใจร้าย ไม่ยอมมาหาผมเลย

"ไม่ต้องไปสนใจสายป่านหรอก น้องก็แค่โกรธ อย่าไปถือสาเลย"

"ผมผิดเอง ที่ไม่เคยมาหาแสงเลย" ตามพูดออกมาเป็นประโยคแรกด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ผมเข้าใจว่าทำไมตามไม่ยอมมาหาผม ก็เหมือนอย่างที่ผมไม่เคยไปหาตาม

"ไม่ใช่เพราะผมลืมแสงไปแล้ว แต่มันเป็นเพราะ..." คำพูดของตามหยุดชะงัก ก่อนค่อยๆ เอ่ยอีกประโยคที่หยุดค้างออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลในจังหวะเดียวกัน

"เพราะผมยังทำใจไม่ได้"

ผมรีบหันหน้ามองออกไปนอกร้านเพื่อไม่ให้ใครเห็นว่าน้ำตาของผมก็กำลังไหลอยู่เช่นกัน ฟังบทสนทนาของแม่กับตามที่กำลังพูดถึงผมก็ไม่อาจจะห้ามความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ได้

"ผมไม่กล้ามาหาแสง ไม่อยากบอกตัวเองให้เชื่อว่าแสงไม่อยู่แล้ว ไม่อยากรับรู้ว่าแสงไม่วันกลับมาแล้ว"

"..."

"ผมคิดถึงแสง"

"..."

"คิดถึงทุกวัน ไม่มีวันไหนไม่คิดถึงเลย"

"..."

"ยิ่งคิดถึงมากเท่าไร ยิ่งย้ำให้ตัวเองรู้ว่าแสงไม่มีวันกลับมา"

"..."

ที่ตามไม่มาหาผม ที่ผมไม่ไปหาตาม เพราะความรู้สึกโหยหาอาวรณ์ที่เรามีต่อกันมันทรมานเกินไป เราหลบเลี่ยงด้วยการไม่ขอพบหน้า แต่ไม่ได้แปลว่าเราต่างคนต่างทำใจได้

"ผมยังรักแสง แต่แสงไม่อยู่แล้ว"

"ไม่เป็นไรนะตาม"

"ถ้าวันนั้น..."

"ตาม"

"ถ้าวันนั้นผมอยู่ด้วย แสงก็คงไม่ต้องจากไปแบบนี้"

"มันไม่ใช่ความผิดของตามนะลูก"

"มันเป็นเพราะผม ทุกอย่างมันเป็นเพราะผม เป็นเพราะผมที่ทำให้แสงต้องตาย"

คำพูดของตามไหลพรั่งพรูพอๆ กับน้ำตาที่กำลังร้องไห้ฟูมฟาย เสียงร้องสะอึกสะอื้นกับถ้อยคำที่เอาแต่พร่ำโทษตัวเอง ทำผมเจ็บปวดแทบจะขาดใจ แต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากกำหมัดแน่นจนมือสั่นเพื่อกลั้นน้ำตาเอาไว้

"วันนั้นผมน่าจะอยู่ ผมควรจะอยู่กับแสง วันนั้นเราไม่น่าทะเลาะกัน ผมไม่ควรเดินหนีแสงไปเฉยๆ ผมควรจะมาส่งแสงที่บ้านเหมือนทุกวัน ถ้าผมทำอย่างนั้นแสงก็คงไม่ตาย"

"..."

"ถ้าผมอยู่ด้วยแสงก็คงไม่ตาย"

"..."

"ผมขอโทษ"

"..."

"ผมขอโทษครับ" ตามพูดแค่นั้นแล้วลุกออกจากโต๊ะก่อนเดินออกจากร้านไป ผมไม่ทันชั่งใจคิดอะไร แต่ปล่อยให้ตามเดินออกไปทั้งที่ยังร้องไห้หนักขนาดนั้นไม่ได้ จึงลุกตามไปด้วย

ฝนที่ตกลงมากระหน่ำแรงกว่าเดิมเหมือนจะแกล้งกัน ผมวิ่งฝ่าฝนไปหาตามที่เดินนำหน้าผมไปก่อนทรุดตัวลงนั่งริมฟุตบาทท่ามกลางฝนที่กำลังตกหนัก

"เธอ"

เสียงเรียกของผมทำให้ตามเงยหน้าขึ้นมามอง ภาพที่เห็นทำให้ผมไม่อาจจะนิ่งเฉย ทรุดตัวลงนั่งข้างๆ แล้วกอดตามเอาไว้แน่น ตามยิ่งฟูมฟายไม่ได้สติ ปล่อยน้ำตากับสายฝนให้ไหลปะปนกัน พลางเอาแต่พูดคำว่าขอโทษผ่านเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นเจียนจะขาดใจ   

"เราขอโทษ"

"..."

"เราขอโทษ แสง เราขอโทษ"

"มันไม่ใช่ความผิดของเธอ"

"..."

"มันไม่ใช่ความผิดของเธอนะตาม"

ตามยังคงร้องไห้จนไม่ได้สนใจคำปลอบโยนของผมที่จงใจพูดออกไปแบบนั้นโดยไม่สนใจว่าตามอาจจะสงสัยที่ผมใช้สรรพนามผิด มันไม่ใช่คำพูดของพลีสแต่เป็นคำพูดของผม คำพูดที่ผมอยากบอกกับตามมาโดยตลอด

 

"มันไม่ใช่ความผิดของเธอสักนิดเลย"


 

...

 

ผมกลับมาที่บ้านหลังจากอยู่เป็นเพื่อนตามจนกระทั่งเขารู้สึกดีขึ้น แต่พอถึงช่วงเวลากลางคืนผมกลับรู้สึกเป็นห่วงตามอย่างบอกไม่ถูก อาจเป็นเพราะผมไม่ได้ไปส่งตามถึงที่บ้าน จึงไม่แน่ใจว่าตามจะกลับบ้านแล้วหรือยัง จะยังร้องไห้ หรือเสียใจอยู่ไหมนะ

หันมองนาฬิกาที่บอกเวลาเกือบสี่ทุ่ม พลันคิดขึ้นมาได้ว่าในเวลานี้ตามน่าจะทำงานพิเศษอยู่ที่ร้านสะดวกซื้อ คิดได้อย่างนั้นจึงตั้งใจออกจากบ้านไปหาตาม ถนนหน้าหมู่บ้านน่ากลัวนิดหน่อย จนผมเกือบลังเลว่าจะไปต่อดีไหม แต่เพราะความเป็นห่วงเอาชนะความกลัวไปแล้วจึงถอยหลังกลับไม่ได้ รีบก้าวเท้าเร็วๆ จนแทบจะเป็นวิ่งเพื่อให้ผ่านตรงนั้นไป

ผมเดินมาถึงร้านสะดวกซื้อแล้วเข้าไปถามหาตาม แต่พนักงานคนอื่นบอกว่าตามหยุด นั่นยิ่งทำให้ผมเป็นห่วงเข้าไปอีก แต่เพราะไม่รู้ว่าจะติดต่อกับตามยังไงก็ดูเหมือนว่าจะไร้หนทาง ผมเดินออกจากร้านมาหย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้หน้าร้าน ความคิดมืดแปดด้านจนอยากจะถอนหายใจแรงๆ ออกมาสักที แต่คนข้างๆ ทำแทนไปแล้ว

"เฮ้อ"

ผมหันมองเจ้าของเสียงถอนหายใจที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้อีกตัว

"สายป่าน"

"อ้าว พี่"

"มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้"

"กินขนมจีบ" ว่าแล้วก็ยกถุงขนมจีบให้ผมดู

"แล้วถอนหายใจซะดังเชียว มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า"

สายป่านพยักหน้ารับ ก่อนอ้าปากกัดขนมจีบเข้าไปทีเดียวสองลูก ไอ้อ้วนเอ๊ย!

"ไม่สบายใจอะไร เล่าให้พี่ฟังได้นะ"

"จริงป่ะคะ พี่มีเวลาฟังเหรอ"

"เรื่องมันยาวมากหรือไง"

"โคตรๆ"

"งั้นเดี๋ยวพี่ไปซื้อป๊อบคอร์นกับโค้กมานั่งกินระหว่างฟังก็แล้วกัน"

"โห่! พี่! ไม่นานขนาดนั้น เดี๋ยวหนูเล่าแบบกระชับๆ"

"อ่าๆ ว่ามา"

"คือหนูมีพี่ชายคนหนึ่ง แต่ว่าเขาตายไปแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าถึงทำตายเร็ว สงสัยรีบมั้ง"

พี่ก็ไม่ได้อยากตายเร็วหรอกโว้ย!

"วันนี้เป็นวันครบรอบวันตายของพี่หนู แล้ววันนี้แฟนของพี่ชายหนูก็มาที่บ้าน ไม่รู้ว่ามาทำไม สามปีไม่เคยมาให้เห็นหน้าเลยนะพี่ แล้วอยู่ดีๆ ก็โผล่มา หนูโกรธอะ ก็เลยด่าไปชุดหนึ่ง"

"..."

"แต่หนูไม่รู้ว่าตัวเองพูดแรงไปหรือเปล่า"

"..."

"แต่หนูแค่โมโหอะ พี่เขาน่าจะกลับมาเยี่ยมพี่ชายหนูบ้าง เจอกันครั้งสุดท้ายที่งานศพแล้วหลังจากนั้นเขาก็หายไปแบบไร้ร่องรอยเลย ติดต่อก็ไม่ได้ แค่โทรกลับหรือส่งข้อความมาบอกว่าสบายดีสักคำก็ไม่มี หนูเป็นห่วงเขานะ แต่เขาไม่สนใจอะไรพวกเราเลย เป็นใครใครจะไม่โกรธ พี่ว่าป่ะ?"

"..."

"แต่หนูทำผิดใช่ไหมคะ ที่ว่าพี่เขาไปแบบนั้นโดยไม่ฟังเหตุผลเลย"

ผมยกมุมปากขึ้นยิ้มนิดๆ ยิ้มให้กับความคิดของสายป่านที่ยังรู้จักสำนึกผิด ตอนที่ผมยังมีชีวิต สายป่านกับตามก็สนิทสนมกันดี เด็กอ้วนกับคนขี้แกล้งอย่างตามเข้ากันได้ง่ายจนตอนนั้นไม่แน่ใจเลยว่าสายป่านเป็นน้องของใครกันแน่ นอกจากความโกรธแล้ว ผมคิดว่าสายป่านคงรู้สึกผิดหวังในตัวตาม จึงพูดออกไปแบบนั้นแล้วก็มานั่งรู้สึกผิดอยู่ตรงนี้

"เอาไว้วันหลัง เราก็ไปขอโทษเขาสิ"

"เขาคงโกรธหนูไปแล้ว"

"เขาไม่โกรธหรอก"

"พี่รู้ได้ไง"

"ก็รู้จักตามดี"

"อ้าว พี่รู้จักพี่ตามด้วยเหรอ"

ผมพยักหน้ารับ ก่อนที่สายป่านจะยิ้มออกมานิดๆ

"งั้นเดี๋ยวหนูจะไปขอโทษพี่เขานะคะ"

"ดีมากอ้วน" ด้วยความพลั้งเผลอ ผมหลุดปากเรียกสายป่านแบบนั้นยังไม่พอ ยังยกมือตัวเองขึ้นไปขยี้หัวน้องเบาๆ อย่างที่เคยชอบทำ อีกฝ่ายทำตาโตมองหน้าผม เมื่อรู้ตัวจึงรีบชักมือออกแล้วแก้ตัวไปแบบข้างๆ คูๆ

"คือ...คือพี่ติดนิสัยชอบจับหัวคนอื่น แล้วก็...แล้วก็เอ่อ...ชอบเรียกคนที่อายุน้อยกว่าว่าอ้วน"

"ใช่ พี่เคยเรียกหนูว่าอ้วนไปแล้วครั้งหนึ่งในโรงอาหาร"

"ขอ...ขอโทษ"

"ไม่เป็นไร ไม่ได้โกรธเลย แต่จะว่าไปหนูยังไม่รู้จักชื่อพี่เลยนะ พี่ชื่ออะไรเหรอ"

"พลีส"

ไม่ใช่ชื่อผมด้วยซ้ำแต่จำเป็นต้องพูดออกไปเช่นนั้น คล้ายว่าทุกอย่างกำลังย้ำเตือน นี่คือพลีส...ไม่ใช่แสง ไม่ใช่เลย

"โอเค พี่พลีส งั้นหนูกลับบ้านก่อนนะคะ ดึกแล้ว"

"สายป่าน"

"คะ?"

"ขอกอดหน่อยสิ"

"กอด? คือ...พี่จะกอดหนู แบบ...หนูกับพี่กอดกัน?"

"อือ สายป่านเหมือนน้องสาวพี่ที่ไม่ได้เจอกันนานแล้ว ก็เลยคิดถึงน้องน่ะ อยากกอดสักครั้ง..."

มุมปากของสายป่านขยับเป็นรอยยิ้มก่อนจะอ้าแขนให้ผมกอดแล้วพูดกับผมขณะที่เรายังกอดกันอยู่

"บางทีเวลาที่หนูคุยกับพี่ ก็เหมือนได้อยู่กับพี่ชายหนูเหมือนกัน"

เพราะประโยคนั้นทำให้ผมกระชับกอดสายป่านให้แน่นกว่าเดิม พลางโต้ตอบบางคำอยู่ในใจ

ก็พี่เองไง...พี่เองนะอ้วน

 

สายป่านกลับบ้านไปแล้วแต่ผมยังนั่งอยู่ที่เดิมเพราะติดฝนที่ตกลงมาอีกรอบ ขณะกำลังนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยเสียงไลน์จากโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา เห็นว่าเป็นไลน์จากไอ้ปั้นก็เลยกดเข้าไปดู

 

ปั้น : กูทำรายงานส่วนของกูเสร็จแล้ว ดูด้วยว่าโอเคไหม

ปั้น : ถ้าไม่โอเค มึงแก้เองนะ

 

ความกวนของไอ้ปั้นทำเอาผมหลุดสบถคำหยาบอยู่ในใจบ่อยครั้ง ไอ้เด็กนี่มันกวนตีนจริงๆ ผมส่งสติกเกอร์กลับไปตัวหนึ่ง แล้วกดออกจากไลน์ เลื่อนหน้าจอโทรศัพท์ไปๆ มาๆ ก่อนสายตาไปจ้องอยู่กับแอพลิคชั่นเฟซบุ๊ก

ยังจำรหัสเฟซบุ๊กตัวเองได้อยู่ไหมนะ ถ้าอย่างนั้นนี่อาจจะเป็นช่องทางที่ทำให้ผมติดต่อกับตามได้ก็ได้นะ แต่...แสงตายไปแล้วนะ ถ้าขึ้นสถานะออนไลน์คนไม่ตกใจแย่เหรอวะ ผีเล่นเฟซบุ๊กเนี่ยนะ...ไม่รู้ด้วยแล้ว!

ผมคิดเพียงแค่ว่าจะใช้มันเพื่อดูความเคลื่อนไหวของตามเผื่อว่าจะมีอะไรให้เห็นบ้าง จึงออกจากระบบบัญชีของพลีสแล้วเข้าบัญชีตัวเองแทน กดเข้าไทม์ไลน์เฟซบุ๊กของตามอย่างไวแต่ไม่มีอะไรเลย เฟซบุ๊กร้างเป็นป่าช้า โพสท์ล่าสุดก็เมื่อปีก่อน ตามเลิกเล่นไปแล้วหรือไง ผมกดเข้าไปดูในช่องแชทข้อความ บทสนทนาสุดท้ายระหว่างผมกับตามทำให้ผมยิ้มออกมาตอนที่เลื่อนอ่าน ยังคงยิ้มในประโยคถัดไปแต่น้ำตาไหลออกมาไม่รู้ตัว...คิดถึงตาม คิดถึงช่วงเวลานั้น

ผมยกมือเช็ดน้ำตาพลางตั้งใจจะกดปิดแชทนั่นแต่พลันมือไวของตัวเองก็สร้างความชิบหายด้วยการไปแตะโดนเข้ากับปุ่มไลค์ในช่องแชท ส่งนิ้วโป้งนิ้วหนึ่งไปหาตามเรียบร้อย

เวรแล้ว! 

ผมลุกพรวดขึ้นอย่างตกใจ ในใจเอาแต่ถามว่าทำยังไงดีวะ ทำยังไงดี ซวยแล้ว!

"เขี้ยวกุด!"

ผมหันขวับมองเสียงเรียกที่ดังลั่น คนที่กำลังคิดถึงปรากฏตัวตรงหน้าพอดี ผมหันไปมองตามที่เดินเข้ามาหา จึงละความสนใจจากเฟซบุ๊กนั่นรีบยัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงก่อน

"พี่ตาม"

"ใช่ครับ พี่ตามเองครับ"

หัวคิ้วผมขมวดเข้าหากันตอนที่ตามเดินเซๆ เข้ามาหา

"พี่เมาเหรอ"

"เละ" ยอมรับกันตรงๆ แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ กลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้งจนอยากจะถามว่ากินเข้าไปหรือเอามาอาบกันแน่

"บอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ให้กินเหล้า"

"อะไรนะ"

"เปล่าๆ แล้วทำไมไม่กลับบ้านล่ะครับ"

"กลับไม่ไหว นอนตรงนี้แหละ"

"เฮ้ย! เธอ!" ผมโวยลั่นตอนที่ตามทิ้งตังลงนอนแล้วเอาหัวมาหนุนตักผม กำลังจะบอกให้ตามลุก แต่เสียงเบาๆ ของตามเอ่ยบอกกับผมก่อน

"ขอห้านาที"

"..."

"แค่ห้านาที"

คำพูดนั้นหยุดทุกความคิดของผมแล้วปล่อยให้ตามนอนหลับตาอยู่บนตัก ดูเหมือนว่าจะหลับไปจริงๆ เพราะนิ่งสนิท เลยปล่อยให้นอนอย่างนั้นไปก่อน ในตอนนั้นพลันสายตาผมมองไปเห็นโทรศัพท์ของตามที่ยื่นออกมาจากกระเป๋ากางเกง ผมโบกมือตรงหน้าตามเพื่อให้แน่ใจว่าหลับจริงๆ แล้วค่อยๆ ยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์ของตามออกมาช้าๆ 

พ่นลมหายใจอย่างแผ่วเบาตอนที่โทรศัพท์นั่นอยู่ในมือผมแล้ว โชคดีที่ตามใช้รหัสเดิมจึงกดเข้าไปได้ง่ายๆ ผมตั้งใจจะรีบหาแอพพลิเคชั่นแมสเซนเจอร์แล้วลบนิ้วโป้งที่กดส่งไปให้ตามเมื่อครู่ แต่ความสนใจทั้งหมดกลับไปจดจ่ออยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์ ตามยังใช้รูปของผมเป็นภาพหน้าจออยู่เลย ก่อนที่น้ำตาจะไหลหรือว่าตามจะตื่น ผมรีบกดเข้าแอพฯ แล้วลบแชทที่ตามยังไม่ได้อ่าน ให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"เขี้ยวกุด"

"ครับ!" ความตกใจทำให้เผลอตอบรับเสียงดัง ก่อนที่ตามจะลุกขึ้นจากตักแล้วมองมาที่โทรศัพท์ตัวเองในมือผม

"ขโมยโทรศัพท์พี่เหรอ"

"เปล่าซะหน่อย!"

"แล้วเอาไปทำอะไร"

"จะโทรหาพี่ต่อ ให้มารับพี่ไง พี่จะนอนตรงนี้หรือไง!" เสียงดังขู่ไว้ก่อน จะได้ดูไม่มีพิรุธ

"ไม่ต้องโทร พี่กลับเองได้" ตามว่าแล้วแบมือขอโทรศัพท์คืน ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนแล้วทำท่าจะเดินออกไป ได้แค่ก้าวเดียวก็เซถลาไปอีกทาง โชคดีที่ผมโผเข้าไปรับไว้ได้ทัน

"พี่เมามากเลย ให้ผมไปส่งที่บ้านดีกว่า"

ตามไม่ปฏิเสธ คงเป็นเพราะรู้ตัวว่าเดินไปสภาพนี้คงไม่ถึงบ้านแน่ๆ จึงยอมให้ผมไปด้วย ผมกำลังจะเรียกแท็กซี่แต่ถูกตามห้ามเอาไว้ บอกว่าใกล้ๆ เดินไปได้ แต่เท่าที่ผมรู้ บ้านตามไกลจากตรงนี้มาก ถามไปถามมาจึงได้ความว่าตามอยู่ที่หอ ไม่ได้อยู่ที่บ้าน และเมื่อตามพูดชื่อหอของตัวเองออกมา ผมก็รู้ทันทีว่ามันเป็นที่เดิมที่เราเคยอยู่ด้วยกัน

"เขี้ยวกุด พี่ต้องไปซื้อดอกไม้"

"ดอกไม้?"

"อือ ดอกไม้"

"ไว้ซื้อพรุ่งนี้ก็ได้"

"ไม่ได้ ต้องวันนี้"

ดื้อจะไปหาซื้อดอกไม้ให้ได้ ผมจึงต้องพาไปเดินหาร้านดอกไม้ที่ตามเคยซื้อวันก่อน เมื่อได้ดอกไม้ที่ต้องการก็อารมณ์ดีเดินแกว่งถุงดอกกุหลาบพลางพูดคนเดียวเป็นทำนองเพลงมั่วๆ

"กุหลาบสีแดง กุหลาบสีแดงที่แฟนเราชอบ แฟนเราชอบมากๆ เลย"

หึ! เมาแทบตายยังไม่วายต้องซื้อดอกไม้ไปให้แฟน เราหึงได้ไหมเนี่ย!

เราเดินมาถึงหอพักที่เราเคยอยู่ด้วยกันตอนสมัยเรียน จริงๆ บ้านผมไม่ได้ไกลจากมหาลัยเท่าไร แต่มาอยู่กับตามเพราะอีกคนมันอ้อนจนใจอ่อน เอาจริงๆ มันก็สะดวกด้วย เพราะจากตรงนี้เดินไปมหาลัยได้สบายๆ เลย 

เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามา ผมมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างตอนที่ตามยกมือขึ้นเปิดไฟ มันเหมือนเดิมแทบทุกอย่าง ผ้าปูที่นอน โคมไฟ ข้าวของทั้งของตามและของผม ทุกอย่างถูกวางอยู่ที่เดิมราวกับไม่มีใครอนุญาตให้มันเปลี่ยนแปลงไป

มีอย่างเดียวที่เพิ่มเข้ามา คือรูปถ่ายของผมที่วางอยู่บนโต๊ะ หน้ารูปมีดอกกุหลาบสีแดงที่ยังไม่ทันแห้งเหี่ยวปักอยู่ในแจกันแก้วใส ตามใช้มือหนึ่งดึงกุหลาบดอกเดิมออกแล้วใส่ดอกใหม่เข้าไปแทน พลางหันหน้าพูดกับรูปถ่ายของผม

"กุหลาบแดง"

"..."

"ที่เธอชอบ"

น้ำตาที่พยายามกลั้นอยู่นานพลันไหลออกมาเพราะการกระทำของตาม ผมคิดว่าตามจะทำใจได้แล้ว คิดว่าตามคงจะค่อยๆ ลืมเรื่องราวของเราไป คิดว่าตามคงมีคนรักใหม่อย่างที่เคยพูด คิดว่าชีวิตของตามจะเดินไปข้างหน้าโดยที่ไม่มีผม คิดว่าตามจะทิ้งความทรงจำเกี่ยวกับผมเอาไว้ในอดีต แต่ทุกอย่างไม่ใช่เลย ตามยังทำเหมือนกับว่าผมยังอยู่ที่นี่ ดอกไม้ที่ผมชอบตามก็ยังไม่ลืม แล้วแฟนของตามที่เคยพูดถึงก็ยังเป็นผม ทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับตาม...ยังคงเป็นผม

ตามเดินไปเปิดหน้าต่างที่มองออกไปเห็นท้องฟ้ามืดครึ้มด้านนอก หยิบกล้องโพลาลอยด์ตัวเก่าที่ผมซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด ก่อนจะกดถ่ายรูปท้องฟ้านั่น ตามหยิบรูปถ่ายที่ไหลออกมาจากกล้อง แล้วรอให้ภาพมันปรากฏขึ้นมาเอง แต่เพราะมันเป็นภาพท้องฟ้าตอนกลางคืน จึงมีแต่ความมืดมิดมองไม่เห็นอะไร ตามหยิบสมุดเก็บภาพโพลาลอยด์ที่เราชอบถ่ายด้วยกันประจำ หลังจากที่ผมตายไป ตามก็มีภาพถ่ายโพลาลอยด์เก็บลงในสมุดนั่นจนถึงหน้าสุดท้าย หยิบรูปที่ถ่ายเมื่อครู่เก็บลงในนั้นแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

"โลกนี้ไม่มีเธอมาสามปีแล้วนะ"

"..."

"เธอรู้ไหม ท้องฟ้าเวลาไม่มีแสง มันโคตรมืดเลย"

 

To be continued.

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 8-- 25/05/19
«ตอบ #75 เมื่อ26-05-2019 00:33:12 »

เพื่อนเดินมาเจอ  มันว่า​ บ้าาาาา​ คนอะไรอ่านนิยายแล้วร้องไห้​

ออฟไลน์ Wanwann

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 8-- 25/05/19
«ตอบ #76 เมื่อ26-05-2019 01:33:28 »

 :hao5: ร้องไห้หนักมาก

ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 8-- 25/05/19
«ตอบ #77 เมื่อ26-05-2019 09:27:56 »

เศร้านะ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 8-- 25/05/19
«ตอบ #78 เมื่อ26-05-2019 09:30:30 »

 o18


 :L1: :pig4: :L1:

ออฟไลน์ Miawncha

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 8-- 25/05/19
«ตอบ #79 เมื่อ26-05-2019 12:03:59 »

ฮือออออออออออออออ ร้องห้ายยยยยยยย เจ็บปวดดดดดด  การต้องอยู่แบบยังทำใจไม่ได้นี่โคตรแย่เลย สงสารทั้งตามทั้งแสง ไม่น่ารีบตายจากกันเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 8-- 25/05/19
« ตอบ #79 เมื่อ: 26-05-2019 12:03:59 »





ออฟไลน์ wutwit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 259
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 8-- 25/05/19
«ตอบ #80 เมื่อ26-05-2019 13:23:12 »

โครตหน่วงเลย

ออฟไลน์ Seilong2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 8-- 25/05/19
«ตอบ #81 เมื่อ26-05-2019 14:26:33 »

สงสารทุกคนเลย แสงจากไปไว อยากรู้ทำไมแสงถึงมาอยู่ในร่างพลีส ถ้าพลีสกลับมาแสงจะหายไปไหม ติดตามจ้า

ออฟไลน์ lcortsess

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-3
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 8-- 25/05/19
«ตอบ #82 เมื่อ26-05-2019 14:30:58 »

ไม่ไหวแล้ววว แงงงงงง อยากให้ตามรู้ว่านั้นคือแสงงงงง มิใช่น้องพลีสสสสสส ฮึก

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 8-- 25/05/19
«ตอบ #83 เมื่อ26-05-2019 22:03:11 »

พีคมากอะไรมากค่ะ แบบเศร้าสุดใจเลยล่ะ
แสงเทียนไม่เสียใจที่ได้ช่วยชีวิตคน และดีใจที่เค้ารอด
แต่คนที่อยู่ข้างหลัง ทั้งเสียใจและรอคอย แถมยังไปต่อยากอีก
สงสารทุกคนเลยค่ะ ทั้งแสง พ่อแม่ สายป่าน และตาม
ทุกคนที่ยังไม่ลืมว่า ตอนมีแสงเทียน ดีแค่ไหน

พลีสไปอยู่ที่ไหนนะ น้องจะเป็นยังไงบ้าง
น้องจะรู้ไหมว่าแสงไม่เสียใจ และอยากให้น้องใช้ชีวิตต่อไป

หรือนี่คือเวลาที่อยากให้แสงเทียนมาแก้ไขอะไร
ได้บอกลา ได้บอกคำที่ไม่ทันได้บอก น้ำตาไหลพรากแล้วค่ะ

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 8-- 25/05/19
«ตอบ #84 เมื่อ26-05-2019 22:08:48 »

เศร้าอะ แต่ก็ยังอ่าน ไหนฟิลกู้ด ไหน!!!


Sent from my iPhone using Tapatalk

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 8-- 25/05/19
«ตอบ #85 เมื่อ26-05-2019 22:56:29 »

 :mew6: :mew6:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 8-- 25/05/19
«ตอบ #86 เมื่อ26-05-2019 23:24:01 »

โอยใจจะขาด สงสารทุกคน

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 8-- 25/05/19
«ตอบ #87 เมื่อ26-05-2019 23:41:17 »

อ่านนิยายแล้วร้องไห้ในรอบ 3ปี  บ้าไปแล้ววววว

คนอยู่ก็คิดถึง คนไปก็คิดถึง ทำไมเศร้าขนาดนี้

ออฟไลน์ kong6336

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 8-- 25/05/19
«ตอบ #88 เมื่อ27-05-2019 00:05:59 »

กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่จริงๆ :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ porjj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 8-- 25/05/19
«ตอบ #89 เมื่อ31-05-2019 15:47:36 »

ทำไมมันเศร้าจังอ่ะ
เราว่าที่แสงยังไม่ไปไหนเพราะยังมีห่วงอยู่แน่เลย
แบบทุกคนยังยึดติดอยู่กับแสง
น้องพลีสจะกลับมาใช่ไหม

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด