[เรื่องสั้น ตอนเดียวจบ] พันธะ - 23/8/2562 [#FGFseries] #4
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น ตอนเดียวจบ] พันธะ - 23/8/2562 [#FGFseries] #4  (อ่าน 3566 ครั้ง)

ออฟไลน์ plusoneproject

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

********************************************************

อ่านแล้วติชมอย่างไร บอกกล่าวพูดคุยกันได้ที่ https://twitter.com/PlusOneNovel นะคะ

edit 2/6/62 สนใจเรื่องสั้นในซีรีย์เดียวกันนี้ จิ้มจากสารบัญนี้ได้เลยค่ะ อ่านแยกก็ได้ อ่านตามลำดับก็ดีน้า

[#FGFseries] #1 กลับบ้าน

[#FGFseries] #2 เหงา

[#FGFseries] #3 สัญญา

[#FGFseries] #4 พันธะ


Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-10-2019 23:30:04 โดย plusoneproject »

ออฟไลน์ plusoneproject

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
[เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] #FGFseries #4

พันธะ

“ทำไมมานั่งอยู่ที่นี่”
เสียงร้องทักที่ดังขึ้นด้านหลังเรียกร้องให้คนที่กำลังนั่งหย่อนขาอยู่ในลงสระว่ายน้ำเอี้ยวบิดตัว และแหงนขึ้นมามองเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะกับสู่ท่าทางเดิม

“นอนไม่หลับหรือ”
คนที่ร้องทักซึ่งยังคงไม่ได้รับคำตอบจากคำถามใดๆ จึงเลือกที่จะขยับร่างลงไปนั่งเคียงข้างคนที่จับจองพื้นที่อยู่ก่อน

“ให้อยู่เป็นเพื่อนไหม”
คำขออนุญาตที่ไม่ได้รับคำตอบกลับ ไม่สามารถทำให้อีกฝ่ายย่นย่อ เท้าที่แกว่งน้ำเบา รบกวนความสงบของพื้นผิว เรียกร้องความสนใจให้คู่สนทนาหันมาขมวดคิ้วใส่ แม้ยังไม่ได้เอ่ยตำหนิอะไรออกมา แต่อากัปกิริยาก็ไม่ได้ปกปิดความไม่พอใจที่แสดงออกมาชัดเจน ในขณะที่คู่สนทนายังคงเป็นฝ่ายตั้งคำถามอย่างต่อเนื่อง

“สรุปว่า มานั่งอยู่ที่นี่ทำอะไร”
และความเงียบยังคงเป็นเพียงการตอบสนองเดียวที่เกิดขึ้น

“เอาเถอะๆ ไม่อยากตอบ งั้นพี่นั่งเป็นเพื่อนละกันนะ”

แต่ทว่า เมื่อสิ้นเสียงอาสานั้น ผิวน้ำก็ขยับกระเพื่อมเมื่อคนที่ครองพื้นที่อยู่แต่แรก ขยับตัวยกเท้าทั้งสองขึ้นจากสระ เอื้อมมือไปหยิบรองเท้าที่วางข้างๆ แล้วก็เดินจากไปด้วยท่าทีไม่ใส่ใจ
.
.
.
“ทำไมทำท่าง่วงอย่างนั้นล่ะ”

เสียงที่รบกวนการนอนฟุบหน้าลงกับโต๊ะ คือเสียงของเจ้าของห้องซึ่งกำลังเดินเข้ามา ทำให้เด็กหนุ่มซึ่งกำลังเข้าสู่ภวังค์ ต้องขยับใบหน้าที่ซบแนบอยู่กับแขนทั้งสองขึ้นมอง ก่อนที่จะขยับร่างกายเข้าสู่ท่านั่งหลังตรงพิงพนักเก้าอี้

“สวัสดีตอนเช้า กายวุธ”

“สวัสดีครับ พี่สิงห์”

“คำทักทายยังไม่มีอารมณ์ร่วมเหมือนเคย”

คนที่ถูกเรียกว่าพี่ เมื่อได้เห็นอีกฝ่ายไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใดๆ ต่อความคิดเห็นที่ได้รับ ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรต่อ ทำเพียงขยับร่างกายไปนั่งลงฝั่งตรงข้าม ให้โต๊ะกลายเป็นพื้นที่ไม่กว้างนักที่กั้นกลางระหว่างเขาและคู่สนทนา ก่อนที่มือจะเอื้อมไปหยิบแฟ้มกระดาษขึ้นมาเปิด และคำถามจากเจ้าของโต๊ะก็ถูกเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบในห้องอีกครั้ง

“สรุปว่าไง ช่วงนี้ การนอนเป็นปกติไหม ยังมีอาการนอนไม่หลับอยู่อีกหรือเปล่า”

“ไม่ครับ ผมปกติดี”

เมื่อได้ยินคำตอบ สิงห์หยุดมือที่กำลังจดบันทึกบางสิ่งลงในแฟ้ม สายตาคมตวัดขึ้นมองคนตรงหน้า ส่งสบเข้ากับสายตาของกายวุธที่จ้องตรงมา ราวกับกำลังสอบทานคำตอบที่ได้รับ

“งั้นหรือ”

“พี่มีอะไรสงสัยครับ ผมก็ตอบว่า ผมนอนหลับเป็นปกติดี ไม่ได้มีปัญหาอะไร”

“พี่ไม่ได้ต้องการคำตอบแบบอะไรก็ได้ให้ผ่านๆ ไปนะกายวุธ สิ่งที่พี่ต้องการคือคำตอบจากสภาพของเราที่เป็นจริง

“ครับ ก็ตามนั้น”

คำตอบนั้นทำให้สิงห์ต้องขมวดคิ้ว มือขยับปิดแฟ้มตรงหน้า และขยับเอ่ยถ้อยความกับเด็กหนุ่ม ซึ่งยังมีสายตามองตรงมาที่เขาอย่างไม่หวาดเกรง

“กายวุธ พี่บอกเรามาหลายครั้งแล้วนะ การให้คำปรึกษาจะไม่มีอะไรดีขึ้นเลย ถ้าเราไม่เลือกที่จะเล่าและพูดทุกอย่างตามความจริง ถ้าเราปฏิเสธและหลบหนี มันจะไม่มีทางแก้ไข และเราก็จะจมอยู่กับสิ่งที่ไม่มีวันแก้ไขตลอดไป การพยายามซ่อน และพยายามหนี มันไม่ใช่ทางออก และทางแก้ที่ถูกต้องนะ”

“ก็ผมไม่ได้เป็นอะไร จะให้ยอมรับว่าอะไร”

“การนอนไม่หลับ ไม่ใช่เรื่องเล็กนะกาย”

“มันก็แค่ไม่ง่วงตามเวลาปกติ แต่ผมก็นอนได้ ไม่เห็นหรือ เมื่อกี้ผมยังหลับอยู่เลยจนพี่เข้ามา”

สิงห์ยังคงไม่ละสายตาออกจากใบหน้าของคู่สนทนา แม้ว่าจะไม่ได้แสดงความคิดเห็นอื่นใดออกไปเพิ่มเติม แต่สายตารุกไล่หาคำตอบ ก็ทำให้เด็กหนุ่มเลือกที่จะเอ่ยปากอธิบายตนเองต่อไป

“ผมสบายดี พี่ไม่ต้องห่วง ผมรู้ว่าตัวเองเป็นอย่างไร สบายหรือไม่สบาย ไม่จำเป็นต้องให้พี่วินิจฉัยก็ได้”

“กายวุธ การที่เธอมาอยู่ที่นี่ เป็นความรับผิดชอบของพี่ที่จะต้องดูแลเธอให้ดีที่สุด ทั้งทางร่างกายและจิตใจนะ”

“ตัวผมเอง ใครจะเข้าใจได้ดีกว่าตัวผมกันล่ะ ผมดูแลตัวเองได้”

“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะกาย เธอมีคนคอยห่วงใยเสมอ คอยเฝ้าดูแลและเป็นห่วงเธอนะ อย่าคิดว่าตัวเองอยู่คนเดียวในโลกนี้สิ”

“ผมก็อยู่ของผมแบบนี้ดีแล้วครับ ขอบคุณที่เป็นห่วง”

“กาย อย่าปฏิเสธความหวังดี อย่าทำให้จิตใจอ่อนแอ”

“ผมไม่ได้อ่อนแอ”

“พี่ก็ไม่ได้หมายความว่ากายอ่อนแอ แต่บอกว่าอย่าทำให้จิตใจอ่อนแอ มันจะกลายเป็นช่องว่างให้สิ่งต่างๆ มารบกวนได้ง่าย”

“ผมมั่นใจว่าจิตใจเข้มแข็งดี ขอบคุณครับ วันนี้พี่มีเรื่องจะคอนซัลท์ผมแค่นี้ใช่ไหม ถ้าแค่นี้ ผมขอตัว สวัสดีครับ”
สิ้นคำว่ากล่าวลา ร่างของกายวุธก็ขยับไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว เพื่อออกจากพื้นที่ห้องทำงานโดยไม่เหลียวหลัง ปล่อยให้เจ้าของห้องทอดสายตามองแผ่นหลังที่จากไป ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาเบาๆ
.
.
.
“ว่าไง มานั่งนี่อีกแล้ว
เป็นเสียงทักทายเดิมของคนเมื่อวานที่เอ่ยปากเรียกเขา

“ทำไมไม่หลับไม่นอนอีกแล้ว”
กายวุธที่นั่งอยู่ริมสระว่ายน้ำ เหลือบตามายังผู้รุกรานที่พยายามเรียกร้องความสนใจจากเขา โดยที่ยังไม่ได้เอ่ยตอบ อีกฝ่ายก็เอ่ยคำสนทนาต่อเนื่องขึ้นมาเสียก่อน

“มานั่งอยู่ที่นี่ ไม่กลัวหรือ”
เสียงถอนหายใจยาวๆ ท่ามกลางความเงียบของค่ำคืนดังขึ้นแทนคำตอบ เสมือนเจ้าตัวจะแสดงให้อีกฝ่ายรู้ว่าตนนั้นรู้สึกอย่างไร และอีกฝ่ายก็ดูจะสามารถรับสารที่เขาต้องการสื่อได้เป็นอย่างดีเสียด้วย 

“โถ่ มาถอนหายใจไล่กันขนาดนี้เลย เสียใจนะเนี่ย”
จากการยืน อีกฝ่ายก็เลือกที่จะทรุดตัวลงนั่งข้างกายของกายวุธอีกครั้ง

“พี่นั่งด้วยนะ นั่งคนเดียวเหงาใช่ไหมละ พี่อยู่เป็นเพื่อน”
เด็กหนุ่มเหลือบตามองคนข้างกายแล้วก็ตอบสนองด้วยการลุกยืน ขยับไปใส่รองเท้าแล้วหมุนตัวเดินออกไปจากบริเวณสระว่ายน้ำ โดยไม่สนใจเสียงเรียกที่ตามมา

“ใจร้ายจังเด็กน้อย ขอนั่งเป็นเพื่อนก็ไม่ได้ นั่งคนเดียวมันเหงานะ”
.
.
.
“คนประสาท”
กายวุธที่กำลังเดินกลับมายังเรือนนอน สบถขึ้นเบาๆ เมื่อนึกถึงคนที่มารบกวนความสงบยามค่ำคืนของเขาเมื่อครู่
แล้วเขาก็ต้องเปลี่ยนเป็นสะดุ้งตัวเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นพร้อมคำถามหนึ่ง

“ไปไหนมา”

“เปล่าครับ” กายวุธเลือกที่จะเอ่ยปฏิเสธการตอบคำถาม ก่อนที่จะหยุดการเคลื่อนไหวที่ตรงหน้าพี่สิงห์ที่กำลังยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้าเรือนนอน

“ไหนบอกว่านอนหลับเป็นปกติ แล้วทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ ไม่ไปนอน”

“ผมก็ออกไปเดินเล่นก่อนนอน”

“กายวุธ ตอนนี้มันตี 3 กว่าแล้วนะ มันไม่ใช่เวลาที่เรียกว่าปกติ”

“ทำไมครับ ใครบอกกันว่าเวลาไหนคนควรเข้านอนเวลาไหนถึงเรียกว่าปกติ”

“กายวุธ ฟังพี่นะ กลางคืนไม่ใช่เวลาที่เด็กควรออกไปเดินเตร็ดเตร่ รู้ไหม”

“พี่สิงห์ อย่ามาบอกผมเป็นเด็ก ผมโตแล้ว อย่ามาพูดเหมือนหลอกเด็กด้วย ผมไม่ชอบ”

“กาย พี่ไม่ได้หลอก พี่ขอร้องเถอะ กลางคืนน่ะ อย่าออกไปเตร็ดเตร่ มันไม่ใช่เวลาของเด็กที่ควรลุกไปจากที่นอน”

“ผมไม่ใช่เด็กแล้ว”

“งั้นหรือ แต่พี่ไม่คิดอย่างนั้นนะ”

“ผมอายุ 19 แล้วนะพี่สิงห์ ไม่ใช่เด็กแล้ว ผมดูแลตัวเองได้ ไม่มีเด็ก 19 ที่ไหนเขามาฟังเรื่องขู่ที่เอาไว้เล่าหลอกเด็กแล้วเชื่อกันแล้วหรอกนะ”

“กายวุธ พี่ไม่ได้หลอก พี่ไม่ได้พูดเพื่อให้เธอกลัว แต่พี่ต้องการให้เธอระวัง เข้าใจไหม”

“ระวังอะไรครับ ที่นี่มีอะไรไม่ปลอดภัย รปภ. ก็มี กล้องวงจรปิดก็มี รั้วรอบขอบชิด กำแพงก็สูงลิบลิ่ว”

“พี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น กลางคืนไม่ควรเป็นเวลาที่จะออกไปเตร็ดเตร่ ข้างนอกล้วนมีอันตราย เชื่อพี่เถอะ”

“ผมก็บอกพี่แล้ว ว่าผมไม่เชื่อ มันอะไรนักหนา นี่มันยุคไหนแล้ว พี่จะมาเล่านิทานหลอกเด็ก ว่ากลางคืนมีผีหรือไง”

“กายวุธ อย่าพูดจาพล่อยๆ”

“ทำไมครับ”

“เธอไม่เคยได้ยืนคำคนที่เตือนหรือ บางเรื่องไม่เชื่อ ก็ไม่ควรลบหลู่ คำพูดของเรามีพลังในการชักนำสิ่งที่ดีและสิ่งที่ไม่ดีนะ”

“พี่สิงห์ นี่พี่เรียนจบปริญญามา เป็นนักจิตวิทยาจริงดิ พูดเหมือนคนแก่ มรรคทายกวัดซะงั้น”

“คนโบราณเอ่ยเตือน เชื่อเถอะว่ามันมีที่มาที่ไป เอาเป็นว่าอย่าออกไปนอกเรือนนอนตอนกลางคืนอีกแล้วกัน ถือว่าพี่ขอร้อง”

เด็กหนุ่มไม่ได้ตอบคำรับปาก หรือว่าแสดงอาการอื่นใดเพื่อโต้ตอบชายหนุ่มคู่สนทนาอีก เขาทำเพียงส่งสายตาจ้องมองไปที่อีกฝ่าย ก่อนความเงียบจะเข้ามาแทรกกลางระหว่างคนทั้งสอง ก่อนที่เป็นฝ่ายกายวุธที่เลือกขยับกายอ้อมคู่สนทนาตรงหน้า และเดินจ้ำเพื่อขึ้นบันไดไปยังส่วนบนของเรือนนอน
และนั่นทำให้เด็กหนุ่มไม่อาจจะเห็นใบหน้าแสดงความกังวลและสายตาที่เจือความห่วงใยที่มองตามร่างของคนที่ละไปจากบทสนทนากลางคัน และไม่ได้ยินเสียงที่ร่างสูงถอนหายใจยาวๆ ออกมาก่อนบ่นพึมพำขึ้น

“พี่จะดูแลเธออย่างไรดีนะกายวุธ”
.
.
.
“กาย ช่วงนี้นอนไม่หลับอีกแล้วหรือ”

กายวุธชะงักตัวเล็กน้อยเมื่อได้เสียงเพื่อนร่วมห้อง ซึ่งเขาคิดว่าอีกฝ่ายกำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงข้างๆ
“เราทำให้นิวตื่นหรือ ขอโทษนะ”

“ไม่ใช่งั้นหรอก ปกติเราก็ตื่นประมาณตีสี่ ตีสี่ครึ่งประมาณนี้อยู่แล้ว แต่วันนี้ทำไมกายเพิ่งกลับมานอนล่ะ”

“จริงๆ จะขึ้นมาตั้งนานแล้ว แต่เจอพี่สิงห์ข้างล่างน่ะสิ เสียเวลาต่อล้อต่อเถียงไปอีก”
กายวุธขยับลงนั่งที่เตียงของตัว ในขณะที่เพื่อนร่วมห้องสะบัดผ้าห่มออกจากตัว แล้วยันตัวขึ้นมานั่งเช่นกัน

“กาย เราว่านะ กายคุยกับพี่สิงห์ไปตรงๆ ดีไหม ว่ากายนอนไม่หลับมาสักพักแล้ว”

“เราสบายดีนิว”

“เราไม่ได้คิดว่ากายจะไม่สบายนะ แต่กำลังจะไม่สบาย ถ้าไม่นอนนานๆ เราว่าไม่น่าจะดีต่อสุขภาพ แถมออกไปเดินเล่นตอนกลางคืนมันก็อันตรายนะ”

“เราไม่ได้ออกไปเดินเล่นสักหน่อย แล้วเราก็อยู่แค่ในศูนย์จะมีอันตรายได้ไง เราแค่ไปนั่งเล่นรับลมเท่านั้นแหละ”

“ไปนั่งรับลมที่ไหน”

“ที่สระว่ายน้ำ”

“โห กาย กลางคืนแถวสระมืดจะตาย น่ากลัวนะ”

“มีอะไรน่ากลัว”

“ก็แบบมันมืด ใครจะไปรู้ อาจจะมีอะไรน่ากลัวก็ได้”

“อย่าไปเชื่อนิทานหลอกเด็กเลยนิว กลางคืนก็แค่ช่วงเวลาที่โลกซีกเราหมุนหันออกจากมุมที่จะได้เห็นดวงอาทิตย์เท่านั้นล่ะ”

“โถ่ กาย เราเป็นห่วงจริงๆ นะ มืดๆ น่ากลัวจะตาย ยุงไม่กัดหรือไง”

“เอาเถอะๆ ขอบใจ เอาเป็นว่าเราไม่เป็นไรแล้วกัน เราโอเค ไปอาบน้ำ วันนี้มีเรียนคลาสเช้าไม่ใช่หรือ มาคุยกับเรา เดี๋ยวไม่มีเวลาเตรียมตัว ไปช่วยงานเวรก่อนไปมหาวิทยาลัยนะ”
เพื่อนร่วมห้องที่มองอีกฝ่ายขยับตัวลงนอน ก็เปลี่ยนท่าขยับร่างกายลุกจากเตียงเพื่อลุกไปทำธุระส่วนตัวที่ห้องน้ำ

“เออ นิว จริงๆ เราก็ไม่ได้นั่งคนเดียวหรอกนะ”

“กายว่าไงนะ” เสียงพึมพำ และเพราะได้ยินชื่อของตน คนที่อยู่ในห้องน้ำ ที่กำลังล้างหน้า และแปรงฟัน ก็ชะโงกหน้าออกมาเพื่อสอบถาม

“เปล่าๆ เราแค่บอกว่า เราเจอคนที่ไปนั่งเล่นที่สระว่ายน้ำด้วย เขาพยายามมาคุยกับเราตอนที่เราไปนั่งอยู่ แต่เรารำคาญเลยไมได้คุย”

“งั้นหรือ ใครกัน”

“ไม่รู้สิ เราก็ไม่เคยเจอ เพิ่งมาเจอนี่ล่ะ”

“งั้นหรือ หรือเขาเพิ่งมาเป็นเพื่อนใหม่ เขานอนไม่หลับเหมือนกันหรือ” นิวพึมพำแสดงความเห็น แล้วก็ปิดประตูห้องน้ำไปเพียงเท่านั้น แต่ความคิดเห็นนั้นกลับตกตะกอนอยู่ในความคิดของกายวุธให้ขยับมานั่งคิด และเอ่ยขึ้นกับตัวเองเบาๆ

“หรือเราควรจะคุยกับเขาดีๆ ดูนะ”
.
.
.

“สวัสดี วันนี้ก็เจอกันอีกแล้วนะ”
เสียงทักทายเดิมดังซึ่งขึ้นด้านหลังของกายวุธในวันนี้ไม่ได้ทำให้เขาหันไปให้ความสนใจอีก

“โห นี่ใจคอจะไม่ทักไม่ทายกันสักวันเลยหรือ”
ความเงียบที่ยังเป็นคำตอบ ก็ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายหยุดการกระทำในการขยับร่างกายทิ้งตัวลงข้างๆ เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ริมสระว่ายน้ำ พร้อมกับเอาขาหย่อนลงไปในน้ำเช่นที่เด็กหนุ่มทำ

“วันนี้ก็นอนไม่หลับอีกแล้วหรือ”

“แล้วพี่มายุ่งอะไรด้วย”

“โห ตอบกลับมาแบบไม่มีเยื่อใยเลย เสียใจนะเนี่ย”

“งั้นก็ไม่ต้องมาคุยด้วยครับ เราไม่ได้รู้จักกัน ไม่จำเป็น และไม่ต้องการที่จะมีเยื่อใย”

“โถ่ อยู่คนเดียวมันเหงานะ อยู่กันสองคนไม่ดีกว่าหรือ”

“อย่าอยู่คนเดียวแล้วเหงา ผมแนะนำให้ไปนอนครับ จะได้เจอเพื่อนร่วมห้อง จะได้ไม่เหงา”

“พี่ไม่มีเพื่อนร่วมห้องน่ะสิ”

“เพิ่งมาอยู่หรือ”

“ประมาณนั้นครับ”

“แล้วห้องพี่ไม่มีเมทหรือไง”

“ไม่มีๆ พี่อยู่คนเดียว พี่อยากได้คนมาอยู่ด้วยจังน้า มีเพื่อนออกจะเป็นเรื่องดี ไม่เหงาด้วย”

“พี่ก็ไปแจ้งพี่โจ้ หัวหน้าบ้าน มาบอกผมทำไม”

“เอาอีกแล้ว พูดจาตัดรอนไร้เยื่อใย เสียใจนะเนี่ย”

“จะเสียใจทำไมครับ”

“เสียใจที่น้องตัดรอนพี่ไง”

“ผมชื่อ กาย อย่ามาเรียกน้อง ขนลุก”

“งั้นหรือ กายหรือ แล้วชื่อเต็มๆ ของเราล่ะ”

“กายวุธ”

“กายวุธนั่นเอง”

“ทำไม ชื่อผมมีปัญหาอะไร”

“ไม่มีๆ แค่พี่ดีใจที่ได้รู้ชื่อเราแล้ว กายวุธ”

“รู้ชื่อของผมแล้วจะทำไม”

“ก็เหมือนการตอบรับละมั้ง”

“ตอบรับอะไร”

“ตอบรับจะไปอยู่กับพี่ไง”

“ผมไปตอบรับที่จะไปอยู่กับพี่ตอนไหน ผมมีเมทของผมแล้ว พี่ไปขอแจ้งย้ายห้องไปอยู่กับคนที่ไม่มีเมทเถอะ”

“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก แต่กายปฏิเสธไม่ได้หรอกนะ กายตอบรับพี่แล้ว เราไปอยู่ด้วยกันเถอะนะ”

“อะไรของพี่ จะบ้าหรือไง”

“กายเหงาไม่ใช่หรือ พี่ก็เหงา นะ เราไปอยู่ด้วยกันเถอะ”

กายวุธที่เริ่มรู้สึกไม่ดีกับท่าที และบทสนทนาของอีกฝ่าย คิดจะขยับตัวหนีจากคนตรงหน้า
แต่ในขณะที่กำลังขยับเอาขาขึ้นจากน้ำ กายวุธพบแรงฉุดที่ตรงข้อเท้า กำลังดึงทั้งร่างเขาให้หล่นลงไปในสระ
และในเสี้ยวนาทีที่คิดว่าจะร้องขอความช่วยเหลือ ร่างทั้งร่างของเขาก็ได้จมลงดิ่งลงไปในสระน้ำ
สิ่งที่มองเห็นตรงหน้าคือคู่สนทนาที่เขากำลังคุยอยู่เมื่อสักครู่ พร้อมรอยยิ้มกว้าง และเสียงที่กายวุธเองก็ไม่เข้าใจว่าดังมาจากไหน แต่เขามั่นใจว่าเขาได้ยินเสียงของอีกฝ่ายที่กำลังพูดกับเขา

“มาอยู่กับพี่เถอะนะกายวุธ เราจะมาอยู่ด้วยกัน จะได้ไม่เหงา”

กายวุธที่ขยับตัวดิ้นรนในน้ำ พยายามออกแรงดึงร่างของตนเองให้ขึ้นเหนือผิวน้ำ ฝืนสุดแรงที่จะต้านกับแรงดึงปริศนาที่ตรงข้อเท้า

“อย่าดิ้นเลยกาย ไม่มีประโยชน์หรอก เธอตอบรับพี่แล้ว พี่มีสิทธิพาเธอไปอยู่ด้วยแล้ว เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป”

เสียงที่ดังขึ้น ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายไม่ได้เปิดปาก ยิ่งทำให้ความกังวลของกายวุธเพิ่มมากยิ่งขึ้น
ตอนนี้เขาบอกไม่ได้ว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาคืออะไร แต่สิ่งที่รู้แน่ชัดคือ เขากำลังจะขาดอากาศหายใจ เพราะแรงฉุดตรงข้อเท้าทำให้ทั้งร่างของเขาจมอยู่ใต้น้ำ

ทั้งๆ ที่สระว่ายน้ำแห่งนี้ไม่ได้มีความลึกมากเท่าใดนัก ในเวลาปกติ ด้วยความสูงของกายวุธเพียง 170 cm ก็ยังสามารถยืนเท้าแตะก้นสระ และน้ำสูงเพียงไหล่ของเขาเสียด้วยซ้ำ
และเมื่อพยายามตั้งสติ กวาดตามองไปรอบๆ ตัว สิ่งที่เขาเห็นกลับทำให้สติยิ่งหลุดลอย สิ่งที่เข้ามาในสายตา มีทั้งพืชน้ำ สาหร่าย และสีน้ำขุ่น ผิดกับน้ำสีใสในสระว่ายน้ำอย่างที่ควรจะเป็น
นี่มันไม่ใช่เรื่องปกติแล้วจริงๆ

‘ช่วยด้วย’ การร้องขอความช่วยเหลือที่ไร้เสียงเกิดขึ้นตามสัญชาตญาณ

“กายวุธ ไม่ต้องดิ้นไปหรอกนะ อีกไม่นานหรอก อีกไม่นาน เธอก็จะไม่เหงาแล้วนะ”
มือซีดขาวเอื้อมมาลูบใบหน้าเขา และเสียงที่พูดกับเขานั้นเหมือนพยายามปลุกปลอบ แต่กายวุธรับรู้ได้ว่านั่นไม่ใช่การปลอบและเขากำลังเผชิญกับสิ่งที่ตัวเองไม่เข้าใจ และไม่สามารถอธิบายได้ ในขณะที่กำลังคิดทดท้อว่าอากาศกำลังจะหมดไปจากปอด และร่างกายกำลังสำลักน้ำเข้าไป หมดสิ้นความหวังที่จะมีคนมาช่วยได้ในตอนนี้

ใบหน้าขาวซีดตรงหน้ากำลังขยับเข้ามาใกล้เขา
และริมฝีปากสีคล้ำกำลังขยับเข้ามาทาบทับกับริมฝีปากของเขา
พร้อมๆ กับเสียงปลุกปลอบที่ทำให้เขาขนหัวลุกมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับสติที่กำลังเจือจางไป
“อีกเดี๋ยวก็จะไม่ทรมานแล้วนะกายวุธ”

ใต้สำนึกที่กำลังทดท้อ กายวุธกลับคิดถึงเสียงๆ หนึ่ง ซึ่งดังก้องขึ้นในความทรงจำ
“พี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น กลางคืนไม่ควรเป็นเวลาที่จะออกไปเตร็ดเตร่ ข้างนอกล้วนมีอันตราย เชื่อพี่เถอะ”

“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะกาย เธอมีคนคอยห่วงใยเสมอ คอยเฝ้าดูแลและเป็นห่วงเธอนะ อย่าคิดว่าตัวเองอยู่คนเดียวในโลกนี้สิ”


และในห้วงคำนึงสุดท้ายที่กำลังจะดับมืดไป เขาเหมือนได้ใช้แรงเฮือกสุดท้ายเอ่ยขึ้นด้วยสำนึกที่กำลังพร่าเลือน
“พี่สิงห์ ผมขอโทษที่ไม่เชื่อพี่”

แม้นจะรู้ว่าเป็นเพียงคำพูดที่ดังขึ้นในความคิด แต่สิ่งสุดท้ายที่กายวุธตัดสินใจเอ่ยขึ้นในใจคือ
“พี่สิงห์ ช่วยผมด้วย”

.
.
.
.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-08-2019 02:20:25 โดย plusoneproject »

ออฟไลน์ plusoneproject

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
“กาย”

ใคร ใครกำลังเรียกชื่อเขา นี่เขาตายไปแล้วหรือ ตายเพราะไอ้ตัวประหลาดที่ลากเขาลงน้ำงั้นหรือ

“กายวุธ ได้ยินเสียงพี่ไหม”

เสียงใครกันนะ ทำไมเขารู้สึกคุ้นเคย แต่เปลือกตามันหนักเหลือเกิน
อยากจะนอน อย่ามาเรียกกันตอนนี้สิ
ไม่อยากจะขยับตัวเลย ให้เขาได้นอนเถอะ จะใครก็อย่ามายุ่ง

“กายวุธ ตื่นขึ้นมานะ”


เสียงใครกันนะ หนวกหูจริง
เขาอุตส่าห์รู้สึกง่วง
อยากนอน
ปล่อยให้เขาได้นอนก็ไม่ได้งั้นหรือ
.
.
.
.
หนาว
ร้อน
ทำไมอากาศในห้องมันหนาวๆ ร้อนๆ แบบนี้กันนะ

“อืม”

กายวุธที่พยายามฝืนยกเปลือกตาที่กำลังหนักอึ้ง ท่ามกลางความรู้สึกทั้งร้อน ราวกับร่างกายกำลังถูกแผดเผา พร้อมๆ ไปกับหนาวยะเยือกจนไม่อาจจะอธิบายได้ว่าร่างกายที่กำลังกระสับกระส่ายนี้ มันเกิดเพราะความร้อนหรือความหนาวกันแน่

ภาพที่พร่าเลือนก็ปรากฎเข้ามาในครรลองสายตา
เป็นภาพของคนที่เขาคุ้นเคย ริมฝีปากเหมือนจะขยับตอบรับจิตสำนึกไปโดยอัตโนมัติ จึงเอ่ยเรียกชื่อออกมา
“พี่สิงห์”

“กายตื่น พี่ขอร้องละ”

“ร้อน ไม่สิ หนาว ทำไมเป็นแบบนี้”
ไม่เพียงพูด แต่ร่างกายของเด็กหนุ่มกำลังขยับดิ้นไปมาอยู่บนเตียงกว้าง
แรงดิ้นที่ทำให้ผ้าปูที่นอนยับย่น ทำให้ชายหนุ่มตรงหน้าสะท้อนความกังวลใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด

“กายวุธ พูดกับพี่”

“ร้อน พี่ช่วยผมด้วย ทำไมร้อนอย่างนี้ ร้อน ไม่ หนาว หนาว ทำไมมันทั้งร้อนทั้งหนาวแบบนี้”

ร่างที่แสดงอาการดิ้นรนราวถูกแผดเผา และเย็นยะเยือกในคราวเดียวไม่ตอบสนองต่อเสียงที่กำลังแสดงความห่วงใย
“กาย อดทนนะ พี่พยายามจะช่วยเราอยู่”

“ช่วย ช่วยผมด้วย”

“ช่วยสิ แต่หลังจากนี้ถ้าเรารู้สึกตัวต้องไม่โกรธพี่นะ พี่ขอบอกเราไว้ก่อนเลยว่าพี่ไม่อยากจะใช้วิธีนี้เลย”

แต่เหมือนกายวุธไม่อาจจะคุมสติที่จะรับรู้ข้อเสนอใดๆ อีกต่อไปแล้ว และสภาพร่างกายของเด็กหนุ่มที่ไม่มีทีท่าจะดีขึ้นแม้แต่น้อย ยิ่งเร่งเร้าให้ชายหนุ่มตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว
.
.
.
สิงห์ปลดเปลื้องอาภรณ์ห่อหุ้มกายทั้งหมดของเด็กหนุ่มออกไปแล้ว แต่เสียงครวญครางทั้งเรื่องความร้อน ความหนาวยังออกจากปากของอีกฝ่ายไม่ขาดสาย
อาการที่ไม่ปกตินั้น ทำให้ชายหนุ่มผู้ช่วยเหลือมั่นใจถึงสาเหตุของอาการ แต่ทว่าก็หนักใจในวิธีการแก้ไขที่กำลังจะดำเนินการไม่น้อยไปกว่ากัน
อาการจากการสัมผัสสิ่งชั่วร้ายที่เขาพยายามเตือนอีกฝ่ายให้ระวังตัวมาโดยตลอด

“กาย พี่จะแก้ไขให้ แต่ตอนนี้เราตอบรับพี่ก่อนว่าจะอนุญาตให้ทำ”

“ช่วยด้วย ร้อน ผมร้อน ทั้งแสบทั้งร้อนจะตายอยู่แล้ว น้ำ ต้องลงไปในน้ำ ไม่ ไม่ หนาวๆ ผมหนาว ช่วยเอาผ้าห่มมาเพิ่มให้ผมหน่อย”

“กาย ตอบพี่ เราโดนพิษของพราย มันเรียกเราลงน้ำ เราจะลงน้ำตอนนี้ไม่ได้นะ ได้ยินพี่ไหม ตอบรับพี่ก่อน แล้วถึงพี่จะช่วยเราได้”

เสียงเรียกของสิงห์ และการเอื้อมมือไปตบแก้มของกายวุธเบาๆ ดูเหมือนจะเรียกสติกลับมาที่ร่างของเด็กหนุ่มได้เล็กน้อย เพราะอีกฝ่ายปรือตา พยายามจะมองเขา แล้วเอ่ยปากตอบรับความช่วยเหลือที่อีกฝ่ายเสนอให้
“พี่สิงห์ ช่วย ช่วยผมด้วย จะทำอะไรก็รีบทำ ผมจะไม่ไหวแล้ว มันทั้งร้อน ทั้งหนาว”

“สัญญากับพี่นะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราต้องมีสติ อย่ากลัว และจำเอาไว้ พี่อยู่ข้างๆ เสมอ”

“สัญญา จะทำอะไรก็ทำ มันทั้งร้อนทั้งหนาว จนผมจะตายอยู่แล้ว”

เสียงครวญครางไม่ได้สติ การอนุญาต และการรับคำ เป็นสัญญาณให้สิงห์ตัดสินใจทำการช่วยเหลืออีกฝ่ายอย่างเร่งด่วน
.
.
.
.
“โอ๊ย”
เสียงแรกที่กายวุธเปล่งออกมาเมื่อขยับร่างกายคือเสียงร้องโอดโอยจากความเจ็บแปลบและเมื่อยล้าที่เกิดขึ้นบริเวณสะโพกและช่วงขา

“กาย เป็นอะไรไป ร้องทำไม” เสียงของเพื่อนร่วมห้องที่ยันตัวลุกชะโงกหน้าออกมาจากผ้าห่ม ร้องทักเมื่อได้ยินเสียงร้องของอีกฝ่าย

“นิว เราปวดตัวไปหมดเลย”

“หือ กายเป็นอะไร นอนอยู่เฉยๆ แล้วทำไมถึงปวดตัวได้ล่ะ”

“นอนหรือ” กายวุธพึมพำ “ทำไมเรามานอนที่นี่ได้ล่ะ ก็เมื่อคืน”

“เมื่อคืนทำไมหรือ”

“ไม่มีอะไร เราคงฝันน่ะ นิวนอนต่อเถอะ ยังไม่เช้าเลย” แล้วเป็นกายวุธเองที่เลือกตัดบทเพื่อไม่ให้เพื่อนร่วมห้องนั้นกลับไปสู่ห้วงนิทรา และไม่ต้องมากังวลใจ แม้ในใจของเขาจะมีความสงสัยในความผิดปกติที่ยังอยู่ในความทรงจำอยู่เต็มอก

“ทำไมถึงมานอนอยู่ที่นี่ได้นะ ก็เมื่อคืน” กายวุธพึมพำ ก่อนสะบัดผ้าห่มที่คลุมกายออกจากตัว อาศัยแสงสว่างจากดวงจันทร์ที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาให้ก้มมองสำรวจร่างกาย
รอยจ้ำแดงที่ปรากฎอยู่ทั่วผิวขาวตรงหน้าอก
รอยกัดที่อยู่ตรงหัวไหล่ และแนวกระดูกไหปลาร้า
เมื่อเอื้อมมือไปแตะเข้ากับสะโพก และช่องทางหลืบลับด้านหลัง

“เจ็บ”
เด็กหนุ่มก็ต้องสะดุ้งกาย จนเปล่งเสียงร้องโอดโอยเบาๆ ออกมา เพราะความบวมแดงของช่องทางที่เรียวนิ้วได้สัมผัส
หลักฐานทั้งหลายที่ร่างกายของเขา ทำให้กายวุธแน่ใจได้ว่า ความทรงจำอันรางเลือกนั้นไม่ใช่ความฝัน แต่ทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นจริงๆ
แล้วเขารอดมาจากการถูกตัวประหลาดนั่นดึงขาลงน้ำได้อย่างไรนะ ความทรงจำสุดท้ายคือ ความรู้สึกกระวนกระวายทั้งร้อนทั้งหนาว
ใช่ แล้วก็มีคนมาช่วย
พี่สิงห์

เขาจำได้ว่า เขาเรียกชื่อพี่สิงห์ แล้วเขาก็ได้เห็นพี่สิงห์มาช่วยเขาไว้จริงๆ
แต่สภาพร่างกายตอนนี้นี่มันอะไรกัน เหมือนผ่านสมรภูมิรบมาอย่างไรอย่างนั้น
ไม่ใช่สิ สภาพร่างกายเข้าตอนนี้มันคือ สภาพของคนเพิ่งมีเซ็กซ์มาชัดๆ เขาก็ไม่ได้โง่เง่า ไร้เดียงสาเป็นเด็กน้อยขนาดที่จะไม่รู้ว่ารอยตามตัว ทั้งรอยแดง รอยกัดนี้เกิดจากอะไร แถมความเจ็บแปลบที่ช่องทางด้านหลังนี่อีก นี่มันหลักฐานถูกล่วงละเมิดอธิปไตยชัดๆ
แล้วมันเกิดจากใครกันนะ พี่สิงห์ หรือ ไอ้ตัวประหลาดนั่น
ไม่สิ ถ้าเป็นตัวประหลาดนั่น เขาคงไม่ได้มานอนอยู่ในเรือนนอนอย่างนี้
พี่สิงห์งั้นหรือ

ยิ่งคิดทบทวน กายวุธก็พบว่าร่างกายอันอ่อนล้า ส่งปฏิกิริยาให้ปากอ้าหาววอด สมองที่กำลังใช้ความคิดอย่างหนักในการทบทวนเหมือนจะตื้อเอาดื้อๆ
ช่างเถอะ ยังหายใจอยู่ นอนสักตื่น เดี๋ยวตื่นมาคิดต่อ
แล้วเด็กหนุ่มก็เลือกที่จะสะบัดผ้าห่มขึ้นคลุมกายแล้วเข้าสู่ห้วงนินทรา
.
.
.
“สวัสดีครับ”  หลังจากเคาะประตู กายวุธก็เอื้อมมือจับลูกบิดเพื่อเปิดประตูเข้าสู่ห้องทำงานของนักจิตวิทยาที่คุ้นเคย พร้อมเอ่ยทักทาย

ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานตรงหน้า เงยหน้าขึ้นสบตาผู้มาเยือนแล้วก็เอ่ยตอบรับ
“สวัสดีครับ”

แต่เป็นกายวุธเองที่ต้องชะงักเมื่อได้เห็นใบหน้าเจ้าของพักเข้าเต็มตา
“เอ่อ นี่ห้องทำงานพี่สิงห์ไม่ใช่หรือครับ”

“สิงห์ไหนกายวุธ วันนี้ เธอมีเรื่องมาปรึกษาหรือ”

“พี่เป็นใคร”

“อ้าว อะไรกัน อยู่ก็จำพี่ไม่ได้ซะอย่างนั้น นี่พี่ศรไง เป็นอะไรไปเรา”
อีกฝ่ายหัวเราะเบาๆ ทำท่าราวขบขันใส่คำถามของกายวุธ

“แล้วพี่สิงห์ไปไหน”

“สิงห์ไหนหรือ”

“พี่สิงห์ ที่เป็นนักจิตวิทยา”

“กายวุธ ทั้งศูนย์นี่ ก็มีพี่เป็นนักจิตวิทยาคนเดียวนะ”

คำตอบของอีกฝ่ายที่มาพร้อมกับสายตาจริงจัง ทำให้กายวุธชะงักงัน
บางสิ่งผิดปกติไป
เด็กหนุ่มหมุนตัวกลับออกจากห้องพักโดยเร็วโดยไม่สนใจคู่สนทนาอีกต่อไป เพื่อมุ่งกลับไปที่เรือนนอน

“นิว”
กายวุธส่งเสียงเรียกเพื่อนร่วมห้อง เพื่อสอบถามในสิ่งที่ตนสงสัย

“นิว พี่สิงห์ไม่อยู่”

“พี่สิงห์ไหนหรือกาย”

“สิงห์ที่เป็นนักจิตวิทยาไง ที่เราไปคอนซัลท์ด้วยน่ะ”

“กาย นักจิตวิทยาของเรามีแค่พี่ศรคนเดียวนะ แล้วคนที่กายไปคุยด้วยตลอดก็พี่ศรไม่ใช่หรือ”

“นิว เราจำได้จริงๆ นะ มันไม่ใช่พี่ศร ไม่ใช่คนนี้ หน้าตาก็ไม่ใช่แบบนี้”

“เรางงนะกาย กายหมายถึงใครกัน”

“นิว เราว่ามันไม่ถูก มันมีบางอย่างผิดไป”

“กาย ใจเย็นๆ นะ เราไม่เข้าใจ กายหมายถึงเรื่องอะไร”

กายวุธมองหน้าเพื่อนสนิทที่ทำหน้าฉงนกับสิ่งที่เขาถาม และยืนยันในคำตอบ
เขาก็เลือกสูดลมหายใจยาวๆ เข้าปอดครั้งหนึ่ง ก่อนที่ตัดสินใจเอ่ยตัดบทกับเพื่อน เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายมากังวลกับความผิดปกติที่เขาเองก็ไม่อาจจะอธิบายได้
“เราคงยังมึนๆ ล่ะนิว เราขอนอนพักสักหน่อยแล้วกันนะ”

“กายไม่สบายก็พักเถอะ งั้นเราไปเรียนก่อนนะ”

เมื่อเพื่อนขยับตัวเดินออกไปจากห้อง และเสียงปิดประตูห้องพักดังขึ้น
กายวุธขยับลุก พาร่างกายไปที่หน้ากระจกบานใหญ่ พร้อมๆ กับถอดเสื้อที่กำลังสวม
รอยแดงเป็นจ้ำ และรอยขบกัดที่ยังชัดเจน ปรากฏอยู่ทั่วเรือนร่าง
ทำให้กายวุธที่กำลังเอามือลูบรอยต่างๆ ส่งเสียงพึมพำออกมา
“รอยเยอะขนาดนี้ แถมเอวยังปวดอยู่เลย นี่มันอะไรกัน คิดจะฟันแล้วทิ้งใช่ไหมพี่สิงห์”
.
.
.
.
.

“ร้อน หนาว ไม่ไหวแล้ว ช่วยด้วย ช่วยผมด้วย”

“กาย ร่างกายของเจ้า ข้าขอล่วงเกินแล้ว”

กายวุธได้ยินคำพูดขออนุญาตเพียงเท่านั้น ในความทรงจำที่ค่อยๆ พยายามทบทวน ร่างกายของเขาเหมือนมีทั้งเตาพัดโหมพัด และพายุหิมะหมุนวน ทั้งความร้อน ความหนาว พัดพาตีกันในร่างกายภายในอย่างยากอธิบาย
หลังจากคำอนุญาตนั้น กายวุธไม่ได้ยินเสียงอื่นใดจากร่างสูงที่มีเงาพาดทับร่างเขาอีก
มีแต่เพียงสัมผัสที่เคลื่อนผ่านฝ่ามือไล้ไปทั่วร่าง
ริมฝีปากที่ทาบลงมา และลิ้นที่รุกเข้ารุกราน จูบที่ดูดดึงลิ้นของของเขาให้ร่วมเคลื่อนไหว
กายวุธจำได้ว่าเขาตอบสนองร่างสูงอย่างไร ลิ้นร้อนที่โรมรันถูกอีกฝ่ายขบกัดและดูดดึงอย่างรุนแรงแค่ไหน ก่อนที่เสียงคำอธิบายของพี่สิงห์จะดังเข้าสู่โสตประสาทอีกครั้ง

“กายวุธ อดทนนะ พิษของพรายมันต้องขับออก ข้าสัญญาว่าจะช่วยเจ้าให้ปลอดภัย”

แล้วหลังจากนั้น ริมฝีปากของพี่สิงห์ก็ค่อยๆ เคลื่อนไหวอีกครั้ง ไล่ไปตามร่างกาย ไล้ไปตามบริเวณที่ถูกพรายน้ำสัมผัส ไล้เลียเพื่อถอนพิษที่วิญญาณร้ายได้สัมผัสผ่าน
ตลอดระยะทางของริมฝีปาก ล้วนเหลือร่องรอยดูดดึงเป็นจ้ำแดงไว้ ในส่วนที่รอยพิษพาดผ่านมา สิงห์เลือกที่จะขบกัดและดูดดึง ทิ้งรอยฟันไว้ทั่วบริเวณ
แม้รู้สึกได้ว่าร่างกายของกายวุธตอบสนองต่อการถอนพิษร้าย แต่ว่าพิษที่อีกฝ่ายได้รับนั้นไม่ได้เพียงสัมผัส เพราะเขามาช้าเกินไป
เพราะกายวุธเรียกร้องความช่วยเหลือจากเขาช้าเกินไป
พรายน้ำได้สัมผัสริมฝีปากของเด็กในความดูแลไปเรียบร้อยแล้ว พร้อมๆ กับที่ได้ทิ้งพิษร้ายไว้ในร่างกายของอีกฝ่าย
หนทางเดียวตอนนี้ คือ ขับพิษของพรายออกมาจากร่าง และเติมพลังวิญญาณเข้าไปทดแทน

กายวุธขยับร่างกายดีดดิ้นจากความทรมานของความร้อน และความหนาวที่ยังคงโจมตีจากภายในร่างกาย
สิงห์จับร่างของอีกฝ่ายเปลี่ยนท่าให้นอนคว่ำตัวลง แล้วกดรวบมือทั้งสองข้างของเด็กหนุ่มที่กำลังปัดป่ายไปทั่วมารวบไว้ด้วยมือข้างเดียว ในขณะที่มืออีกข้าง เลื่อนไล้ไปตามสะโพกขาว และขยับนิ้วมือยาวเข้าไปในช่องทางแคบ ค่อยๆ ขยับขยายช่องทางให้พรั่งพร้อมเพื่อการรักษาที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า

“อือ เจ็บ”

“อดทน ผ่อนคลาย และเชื่อใจ ทุกอย่างมันจะผ่านไปด้วยดี  และตอนนี้เธอปลอดภัยแล้ว แค่ต้องรักษานะกายวุธ”

“ช่วยผมด้วย ร้อน ไม่ หนาว ฮือ”

สิงห์ตระหนักว่าสิ่งที่ต้องทำนั้น ควรต้องยิ่งเร่งมือเท่าใด นิ้วที่อยู่ในร่างอีกฝ่ายก็ขยับเข้าออกให้เร็วเท่านั้น พร้อมๆ กับที่เพิ่มจำนวนของนิ้วเข้าไปช่วยกันขยายช่องทาง
ร่างที่นอนคว่ำขยับดิ้น จากทั้งความร้อนหนาวเพราะพิษพรายที่ได้รับ และความรู้สึกที่แทรกเข้ามาจากการรุกรานของสิ่งที่ร่างกายไม่เคยได้พบ
ก่อนที่นิ้วมือทั้งสามจะถูกดึงออก และร่างกายที่ถูกตระเตรียมก็ได้รับความเร่าร้อนของท่อนเนื้อที่มีขนาดใหญ่กว่านิ้วอยู่หลายเท่าไปแทนที่

เสียงกรีดร้องของกายวุธไม่ได้ทำให้สิงห์ที่รุกรานร่างกายของเด็กหนุ่มนั้นหยุดมือ กลับกันเขายิ่งเพิ่มความเร็วของการเคลื่อนไหว เพราะรู้ว่าการเคลื่อนไหวนั้นเป็นทางเดียวที่เขาจะช่วยแลกเปลี่ยนพลังวิญญาณจากร่างเขาเข้าสู่ร่างกายเด็กหนุ่มได้อย่างรวดเร็ว
มือที่ว่างจากการตระเตรียม เปลี่ยนขยับไปยังกลางร่างของกายวุธ เพื่อรีดเร้นพิษของพรายให้ออกมาจากร่างเด็กหนุ่ม
มือใหญ่กอบกุมขยับเคลื่อนไหว เสียงจากกายวุธเปลี่ยนจากร้องคร่ำครวญจากความร้อนหนาว กลายเป็นเสียงครางหวานหู

ถือเป็นสัญญาณที่ดีของการกลับคืนสู่สภาพปกติ
และนั่นยิ่งทำให้สิงห์ขยับร่างกายของตน ควบขับเหนือร่างกายของเด็กหนุ่มให้รวดเร็ว และเร่งเร้าขึ้นเรื่อยๆ
ริมฝีปากไล้เลียเอาพิษที่ตกค้างบนผิวกายออก พร้อมๆ กับกำหนดสมาธิขับเคลื่อนร่างกายของตนเข้าออก เพื่อเติมพลังชีวิตให้ร่างตรงหน้า มือที่กอบกุมพยายามเร้นพิษให้ขับออกทางสายน้ำที่กำลังเคลื่อนหลั่ง

เสียงร้องครางของกายวุธที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ขาดห้วง สลับกับการร้องขอความเร็ว และความรุนแรงที่เกิดจากการกระทำทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ล้วนเป็นตัวกระตุ้นขับดันให้สิงห์ยิ่งโจนทะยาน และขยับเคลื่อนไหว

เหมือนเสียงร้องเป็นพลังงานให้การเคลื่อนไหว
ยิ่งร้องคราง ยิ่งขยับ
ยิ่งเรียกร้อง ยิ่งโถมใส่
การเคลื่อนไหวที่สอดประสานกำลังนำทั้งสองร่างสู่เป้าหมาย
สิงห์สัมผัสได้ถึงพิษที่กำลังเคลื่อน และกำลังถูกขับดันออกมาด้วยพลังจากวิญญาณของเขา
และนั่นยิ่งทำให้เขาขยับร่างกายให้เร็วขึ้น เร็วขึ้น

เสียงหวีดร้อง และสายธารขุ่นขาวที่ถูกร่างเล็กขับออกมา ทำให้สิงห์ยิ้มอย่างพอใจ เพราะนั่นหมายถึงเขาสามารถเอาพิษที่อยู่ภายในออกมาได้แทบทั้งหมด แม้ว่าการขับนั้นจะทำให้อีกฝ่ายต้องเสียพลังวิญญาณออกไปด้วย แต่เขาก็พร้อมที่จะเติมเพิ่มให้อยู่เบื้องหลัง
สิงห์จึงตัดสินใจขยับควบร่างกายให้เร็วขึ้นอีก และต่อเนื่อง เพื่อเร่งเร้าเอาสายธารของร่างตนส่งผ่านเข้าสู่ร่างของอีกฝ่ายเพื่อทดแทนวิญญาณส่วนที่เสียไป

เสียงกรีดร้องของกายวุธดังขึ้นอีกครั้งเมื่อส่วนที่รุกรานของสิงห์สัมผัสเข้ากับจุดกระทบในร่างกายอย่างต่อเนื่อง อารมณ์ปั่นป่วนที่ได้สัมผัสกับพลังวิญญาณที่อีกฝ่ายส่งเข้ามาในร่าง สร้างความรู้สึกที่ไม่อาจจะอธิบาย
กายวุธรู้เพียงว่ามันเป็นความรู้สึกที่ไม่ได้ทรมานเช่นเมื่อโดนพิษสักครู่ แต่เพราะว่ามันเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยได้พบเจอ เขาไม่อาจจะอธิบายได้ว่าควรเรียกมันว่าเป็นความรู้สึกเช่นไร แต่มันอบอุ่นและปลอดภัย
สายธารที่อาบรดร่างกายภายใน ทำให้เขารู้สึกว่ากำลังซึบซับเอาความฉ่ำร้อน และความอบอุ่นเข้าสู่ร่างกายอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
เมื่อความทรมานหายไป ความอบอุ่นเข้ามาทดแทน สติกายวุธก็ถูกดึงเข้าสู่ห้วงนิทราโดยที่ไม่อาจจะฝืนรั้งไว้กับร่างกายของตนเองได้อีกต่อไป 
.
.
.
.
.
.
ระหว่างที่นั่งทบทวนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
กายวุธพยายามสั่งให้สมองเรียกคืนความทรงจำ ผสมกับที่สิ่งที่ร่างกายนั้นจดจำ
สมาธิก็มาถูกทำลายเพราะเสียงๆ หนึ่ง

“บอกแล้วใช่ไหม ว่ากลางคืนไม่ควรออกมาจากห้องนอน”
เสียงที่คุ้นเคยซึ่งดังขึ้นข้างหลังร่างของกายวุธที่กำลังนั่งหย่อนขาลงในสระว่ายน้ำ

“แล้วนี่อะไร ออกมานั่งที่นี่อีกแล้ว ไม่เข็ดไม่หลาบเลยใช่ไหม”
เสียงที่เต็มไปด้วยความดุดัน แต่ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกกลัว ผิดที่กลับทำให้รู้สึกอบอุ่นเสียอีก

“ถามไม่ตอบล่ะกายวุธ ทำไมไม่ไปนอน”

“แล้วทำไมผมต้องตอบคนที่ฟันแล้วทิ้งแบบพี่ด้วย” เด็กหนุ่มที่โดนอีกฝ่ายดุ ไม่เพียงไม่หวาดกลัว ไม่เพียงไม่สำนึกตามที่ว่า กลับหันมาตอบอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงสะบัดแกมตัดพ้อ

“อะไรคือฟันแล้วทิ้ง”

“แล้วสิ่งที่พี่ทำบนร่างกายผม ไม่ได้เรียกฟันแล้วทิ้งหรือไง”

“กายวุธ”

“อย่ามาส่งเสียงดังข่มนะ”

“มันไม่ใช่ มันคือการรักษา ที่เธอก็เอ่ยอนุญาตแล้ว”

“ผมไปอนุญาตให้พี่มาทำอะไรผมตอนไหนกัน นี่มันฟันแล้วทิ้งชัดๆ ตื่นมาก็ไม่มีพี่อยู่แล้ว จะให้เรียกอย่างอื่นได้ไง”

“พี่ไม่มีคุณสมบัติที่จะอยู่ข้างเธอแล้ว”

“อะไร พี่พูดเหมือนว่ากำลังจะไปไหน”

“ไม่ได้ไปไหนหรอก เพียงแต่กำลังจะหมดหน้าที่ที่จะดูแลเธอแล้ว”

“พี่สิงห์”

“ไม่ดีหรือ ไม่มีคนมาคอยจ้ำจี้จ้ำไช เธอจะได้ใช้ชีวิตได้สะดวกสบายขึ้น”

กายวุธผุดยืนขึ้นเต็มความสูง สายตาส่งไปเผชิญหน้ากับคนที่ยืนอยู่ก่อน
“หยุดเดี๋ยวนี้นะพี่สิงห์ พี่จะไปไหน แล้วทำไมไม่มีใครจำพี่ได้ อะไรต่ออะไรมันแปลกไปหมด”

“ไม่แปลกหรอก ทุกอย่างที่เป็นตอนนี้คือสิ่งที่เป็นปกติของมันแล้ว”
สิงห์กล่าวในขณะขยับเท้าถอยหลังไปเล็กน้อย เมื่อกายวุธเป็นฝ่ายขยับเดินเข้ามาใกล้

“พี่อธิบายมา มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วพี่เป็นใคร”

“อยากรู้ แล้วเธอไม่กลัวหรือ”

“กลัวอะไร ผมมานั่งอยู่ที่นี่ พี่ว่าผมจะต้องกลัวอะไรอีก เกือบจะตายเพราะโดนตัวประหลาดอะไรก็ไม่รู้ดึงลงน้ำ”

“มันคือพราย เป็นวิญญาณเร่ร่อนที่อยู่ในน้ำ มันหาตัวตายตัวแทนไปอยู่แทนมัน จิตใจที่มีช่องว่างของเธอดึงดูดมันมา”

“แล้วยังไงต่อ ทำไมผมไม่ตาย”

“กายวุธ อย่าพูดเรื่องตาย มันไม่เป็นมงคล คำพูดมีพลัง มีอำนาจในการชี้นำนะ เวลาพูดจงพูดแต่สิ่งที่ดีๆ เป็นมงคล อย่าพูดเรื่องอัปมงคล อย่าท้าทายสิ่งเหนือธรรมชาติ และอย่าเอ่ยตอบเมื่อมีคนไถ่ถามชื่อยามค่ำคืน อย่างเช่นที่ทำเมื่อตอบรับไอ้พรายนั่น”

“ผมตอบรับอะไรตอนไหน”

“ก็เธอตอบบทสนทนาของมัน แถมไปบอกชื่อกับมันอีก ล้วนเป็นเงื่อนไขในการผูกพันธะและตอบรับการชักชวน”

“บ้าบอไปละ ใครกำหนดเงื่อนไขแบบนี้ไว้เนี่ย”

“ก็เคยบอกแล้ว อย่าออกมาเวลากลางคืน มันมีสิ่งที่อธิบายไม่ได้ในโลกของเจ้ามากมาย”
 
“แล้วพี่เป็นใคร สรุปว่าพี่ทำอะไรกับร่างกายผม ทำไมไม่มีใครจำพี่ได้ เหมือนไม่มีใครรู้จักพี่มาก่อน”

“...”

“ทำไมไม่ตอบ”

“เรื่องบางสิ่งนั้น ไม่รู้น่าจะดีกว่าในการใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาตามปกตินะ”

“พี่คิดว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับผม จะทำให้ผมใช้ชีวิตตามปกติได้อีกหรือไง”

“พี่ไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้นเลย แต่ว่าวิธีที่จะช่วยเธอแบบเร่งด่วน มันมีทางแค่นั้นจริงๆ นะ”

“โดยการเอาผมเนี่ยนะ”

“อย่าพูดจาหยาบคายแบบนั้นได้ไหม การกระทำนั้นเพียงแค่พยายามเชื่อมต่อเพื่อถ่ายเอาพิษของพรายออกมาจากร่างกาย และเอาพลังวิญญาณใส่เข้าไปต่างหาก”

“งั้นหรือๆ ก็คือ เอาผมแล้วทิ้งอยู่ดี”

“ไม่ใช่”

“อะไรคือไม่ใช่ สรุปว่าพี่คือตัวอะไรกันแน่ คือพวกเดียวกับตัวประหลาดนั่นหรือ”

“พวกเดียวกันแปลว่าอะไร ถ้าแปลว่าไม่ใช่คนเป็นก็คงใช่ แต่ว่าเชื่อเถอะ พี่ไม่มีวันทำร้ายเธอแบบมันแน่นอน”

“สรุปว่าพี่คือตัวอะไร”

“เธอเคยได้ยินไหม ว่าเด็กทุกคนนั้นมีวิญญาณคอยดูแลอยู่”

“นิทานเรื่องแม่ซื้อน่ะหรือ”

“ก็คงประมาณนั้น บางคนก็อาจจะเรียกแม่ซื้อ เพียงแต่แม่นั้นคงแทนเพศเมีย แต่ในความเป็นจริงแล้ว วิญญาณผู้ดูแลไม่ได้มีแต่เพศเมีย”
 
“พี่เป็นแม่ซื้องั้นหรือ”

“ข้าเป็นเพศผู้ จะเป็นแม่ได้อย่างไร”
สิ้นคำอธิบาย ร่างสูงตรงหน้าค่อยๆ แปรเปลี่ยนสภาพ ร่างที่สูงใหญ่อยู่แล้ว สูงใหญ่ขึ้นไปอีก และส่วนใบหน้านั้น แปรสภาพเป็นสิงห์อย่างเช่นชื่อ

“สิงห์ งั้นหรือ”

“ใช่ ข้าเป็นวิญญาณที่มีพันธะคอยปกปักเจ้าตามที่ผู้ให้กำเนิดเจ้าร้องขอ”

“พ่อแม่งั้นหรือ”

“ใช่ ตั้งแต่เจ้าเกิดมา เขาก็ร้องเรียกวิญญาณประจำวันให้มาคุ้มครอง เช่นเจ้า เกิดวันอาทิตย์ ก็มีข้าคอยดูแล มันเป็นความเชื่อเก่าแก่ คนเป็นยุคนี้อาจจะไม่ใส่ใจ และไม่เชื่อถือ”

“แต่พ่อกับแม่ตายไปแล้ว”

“นั่นก็ใช่ แต่คำร้องขอยังผูกพันธะอยู่กับตัวเจ้าและข้า วันที่เจ้ามาอยู่ที่นี่ ข้าจึงมาอยู่ด้วย อาศัยอำนาจจัดการกับความทรงจำนิดหน่อย อาศัยซ้อนทับกับร่างมนุษย์ที่ชื่อ ศร ให้ข้าได้คอยดูแลเจ้าได้อย่างเปิดเผย จนวันที่เจ้าเป็นผู้ใหญ่ในอีกไม่ช้า”

“แล้วยังไง แล้วพี่ก็จะเลิกดูแลผมแล้วงั้นหรือ”

“ไม่ใช่เช่นนั้น ข้ายังจะคงอยู่กับเจ้าเสมอ จนกว่าอายุเจ้าจะล่วง 20 ปีบริบูรณ์”

“ผมยังไม่ 20 แล้วทำไมถึงหายไป”

“ไม่ได้หาย เพียงแต่ไม่อยากให้เจ้าสับสนนะกายวุธ เมื่อเรื่องเมื่อคืนผ่านไป ข้ารู้สึกผิดต่อเจ้า เฮ้อ ที่ล่วงล้ำร่างกายเจ้าไปมากทีเดียว”

“ออ ก็รู้นี่นาว่าฟันแล้วทิ้ง”

“ข้าบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าพูดจาหยาบคาย”

“ไม่ได้หยาบคาย แค่พูดอธิบายตรงๆ”

“ข้าบอกแล้วว่ามันคือการรักษา”

“ไม่รู้ล่ะ เอาเป็นว่าพี่ต้องมารับผิดชอบร่างกายผม เอาสิถ้าฟันแล้วทิ้งนะ จะแม่ซื้อหรือพ่อซื้อ ก็จะจุดธูปฟ้องให้ดู”

“ข้าอยู่ข้างเจ้าเสมอ”

“ถึงผมจะอายุ 20 แล้ว ก็ต้องไม่ไปไหนสิ เข้าใจไหม”

“เจ้าจะผูกพันธะกับข้าต่องั้นหรือ”

“ก็ถ้าพี่เรียกว่าพันธะ ผมก็จะผูกพันธะ เพียงแต่ว่าอย่าทิ้งผมไปไหน”

สิงห์ก้มมองเด็กหนุ่มตรงหน้า
เด็กน้อยที่เขาดูแลมาตั้งแต่กำเนิด
เด็กน้อยที่เขาเฝ้าคอยคุ้มครอง
และแย้มยิ้มด้วยใบหน้าราชสีห์ เมื่ออีกฝ่ายต้องการเช่นนั้น แล้วทำไมเขาจะต้องปฏิเสธพันธะที่เขาเต็มใจจะรับไว้นี่ด้วยล่ะ

“ก็ถ้าเจ้าต้องการเช่นนั้น ข้าก็ยินดีจะมีพันธะดูแลเจ้าตลอดไป”

และอ้อมกอดของกายวุธที่ขยับเข้ามา ก็เปรียบเป็นค่าตอบแทนแก่พันธะที่มีให้กับวิญญาณผู้ปกปักเช่นเดียวกัน...ตลอดไป




********************************************************
สวัสดีค่า ขอเอาพ่อซื้อวันอาทิตย์มานำเสนอ แบบยาวมากๆๆๆๆๆ 
สนใจเรื่องสั้นในซีรีย์เดียวกันนี้ จิ้มจากสารบัญนี้ได้เลยค่ะ อ่านแยกก็ได้ อ่านตามลำดับก็ดีน้า

อ่านแล้วติชมอย่างไร บอกกล่าวพูดคุยกันได้ที่ https://twitter.com/PlusOneNovel นะคะ

#FGFseries

**************************
edit 31/10/62 สนใจเรื่องสั้นในซีรีย์เดียวกันนี้ จิ้มจากสารบัญนี้ได้เลยค่ะ อ่านแยกก็ได้ อ่านตามลำดับก็ดีน้า

[#FGFseries] #1 กลับบ้าน

[#FGFseries] #2 เหงา

[#FGFseries] #3 สัญญา

[#FGFseries] #4 พันธะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-10-2019 23:30:50 โดย plusoneproject »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
น้องกายคนดื้อ..ดีที่พี่สิงห์มาช่วยทัน  :katai1:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ ืืnanana21

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ชอบทุกเรื่องเลย
อยากอ่านอีกๆค่ะ ขอวันต่อไปด้วยนะคะ

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
น้องดื้อสุดๆ

ออฟไลน์ Fufufeel

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 138
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เป็นการถอนพิษที่แซ่บมากเลยค่ะ :hao7: แต่น้องดื้อจริงๆอะแหละ ถ้าพี่สิงห์ช่วยไม่ทันหนูได้ไปเป็นพรายน้ำแทนแล้วลูกเอ้ย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด