★… ◤ ห้องลับ ห้องรัก ◥ …★ —— เปิดโอนเงินวันนี้ - 25 ธันวา 62 // ตอนพิเศษ 100%
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ★… ◤ ห้องลับ ห้องรัก ◥ …★ —— เปิดโอนเงินวันนี้ - 25 ธันวา 62 // ตอนพิเศษ 100%  (อ่าน 165542 ครั้ง)

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

ออฟไลน์ Quatree

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ NY_JK

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 639
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
สิงหาใจกล้ามากทนอยู่ต่อทั้งที่มีเรื่องแปลกๆเกิดบ่อยขนาดนี้ ถ้าเป็นเราคงหอบของไปนอนห้องเพื่อนนานแล้ว นี่ก็ทั้งอยากอ่านทั้งกลัว  :sad4:

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
 :ling3: แกร๊ก แอ๊ด ซ่า....ผีประตู ผีโทรทัศน์  :ling3:

ออฟไลน์ suginosama

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
หลอนไปอีกกก
ไม่ไหวแล้วค่ะ กลัวอ่ะ

ออฟไลน์ MooMiew

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
กลัวแล้วจ้าาาาาา  :ling3:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ Philosophy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ลุ้นๆ แบบหลอนๆ o22

ออฟไลน์ colorsplash

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
คือผีเปิดประตูเข้ามาแน่ๆเลยอ่าาาาา
งือออออออ ปิงนอนทับผีด้วยยยรู้ตัวมั้ยยยย  :katai1:

ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
ผีจริงๆแต่มาจากไหนกันเนี่ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/


12. 20



บรรยากาศในห้องนั่งเล่นเงียบสนิทเหลือเพียงเสียงลมหายใจ พวกเขาทั้งสี่เพิ่งรู้ตัวว่าเป็นคนกลัวผีก็วันนี้ เสียงทีวีที่เปิดเองยังไม่น่ากลัวเท่าเสียงประตู กว่าจะทำใจให้เปิดคลิปของกล้องวงจรปิดในห้องทำงานก็เกี่ยงกันเดินไปเปิด สุดท้ายเจ้าของเรื่องต้องทำเอง ถามว่าเขากลัวไหม ตอบตรงๆ ชัดๆ เลยว่ากลัว คราวนี้กลัวจริงๆ ตั้งแต่ดูคลิปคราวก่อนที่เห็นตู้หนังสือเปิดได้เองเขาก็ใช้เวลาในห้องทำงานน้อยมาก ตอนกลางคืนแทบไม่เข้าไป คิดว่าตัวเองหลอนไปเองที่รู้สึกถึงบรรยากาศแปลกๆ ในห้องนั้น ใครจะไปคิดว่าเซนจ์เขาจะแรง


ภาพวีดีโอในกล้องกำลังรีฯ ไปช่วงเวลาเดียวกับห้องนั่งเล่น สิงหากดหยุดก่อนจะเปิดเสียงให้ดังขึ้น แต่เมื่อรับรู้ถึงสายตาแฝงแววข่มขู่อีกสามคู่เขาเลยเบาเสียงลง...เพื่อนก็ยังไม่ยอมถอนสายตากลับไป จนต้องกดปิดเสียงสามสหายถึงพยักหน้าให้อย่างพอใจ


ห้องทำงานไม่ได้เปิดไฟไว้ ภาพจึงเป็นภาพขาวดำ โต๊ะ เก้าอี้ ไม่มีอะไรเคลื่อนไหว สิงหาเล่าให้ฟังแล้วเรื่องตู้เปิดเองได้ ตู้หนังสือจึงเป็นจุดรวมสายตา บานพับชั้นล่างมุมขวาค่อยๆ แง้มออกช้าๆ

“แม่งงง” เต้หลุดด่าออกมา เขาไม่คิดจริงๆ ว่าจะเห็นภาพแบบนี้กับตาตัวเองติดต่อกันถึงสองช็อตเต็มๆ

บานพับเปิดกว้างจนสุด ด้านในว่างเปล่า ไม่มีอะไรอยู่ รวมถึงไม่เห็นอะไรออกมาด้วย จากนั้นประตูห้องทำงานค่อยๆ เปิดช้าๆ ปิดเสียงไปก็ไม่ค่อยช่วยอะไรเพราะเสียงประตูห้องจากคลิปก่อนหน้านี้ยังคงดังอยู่ในหัวทุกคน



แอดดดดดดดดด



ประตูถูกเปิดค้างไว้ไม่นานก็ค่อยๆ ปิดลง ทุกคนเพ่งความสนใจไปที่ตู้ซึ่งเปิดค้างอยู่ แต่มันก็ยังไม่ปิด สายตาสี่คู่กวาดมองหาความผิดปกติอื่นๆ ในห้อง นิ้วยาวๆ ของชวินค่อยๆ ยกขึ้นชี้ไปทางเก้าอี้ทำงานที่เริ่มขยับ เหมือนมีคนกำลังนั่งอยู่ เก้าอี้ล้อเลื่อนหมุนไปมาหันหน้าไปทางระเบียงแล้วหยุด ก่อนจะหมุนขวับหันกลับมาหากล้อง สี่หนุ่มสะดุ้งโหยงเหมือนมีคนมองผ่านมาทั้งที่เป็นเก้าอี้เปล่าๆ บานพับตู้หนังสือที่เปิดค้างไว้ค่อยๆ ปิดลง พร้อมกับทีวีที่ปิดสนิทเพราะเจ้าของห้องเอื้อมมือมาแย่งรีโมตมากด



“ไอ้เหี้ยๆๆๆ แม่งเอ้ย!” ชวินโยนรีโมตทิ้งทันทีที่กดผิด เขารู้สึกว่าถ้าถือรีโมตไว้นานผีในจออาจย้ายมาที่รีโมตได้

“แม่งๆๆ เหี้ยมากๆ แม่งไม่น่าดูเลย” เต้ยกสองมือตบตาตัวเองเบาๆ แล้วสลัดไล่สิ่งไม่ดีที่เพิ่งเห็นออกไป

“แล้วคืนนี้กูจะกล้านอนเหรอวะ ต่อไปกูจะกล้าปลอบนักเรียนตอนเข้าค่ายได้ไงว่าโลกนี้ไม่มีผี” โบ้คนที่จิตแข็งรองจากสิงหาบ่นเบาๆ

“......ห้องกูมีผีจริงๆ ด้วย”

“เออ!!!” ทั้งสามคนหันไปตะโกนตอบสิงหาที่มองเหม่อไปเบื้องหน้า ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ แต่เชื่อแล้วเหมือนจะใช้ชีวิตในห้องยากกว่าเดิม



บรรยากาศในห้างสรรพสินค้ายังมีคนเยอะเช่นเคย ปกติเขาจะไม่ค่อยมาห้างเท่าไร ถ้ามีวันหยุดก็จะนอนอยู่บ้าน อยากซื้ออะไรก็สั่งออนไลน์ นานๆ ครั้งจะมาเดินห้างแบบวันนี้ น่านนทีอยากตะโกนใส่หูพี่ชายรอบที่สิบว่าเลือกๆ สักที เสื้อยืดแบบไหนมันก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ

“ไม่รู้เรื่องแล้วอย่ามาทำเป็นบ่น เนื้อผ้ามันไม่เหมือนกัน แบบนี้เวลาเหงื่อออกแล้วมันแห้งเร็ว ไม่เหนียวตัว ซักแล้วก็แห้งง่าย”

“ก็รู้ว่าแบบนี้มันดีก็เลือกเลยสิ พี่จะเดินวนอีกกี่แบบล่ะ ปิงเมื่อยแล้ว”

“เออน่า เดินตามมา เดี๋ยวซื้อให้ด้วย” สมุทรหยิบเสื้อรุ่นเดียวกันใส่ตะกร้าเกือบครบทุกสี เดินย้ายไปอีกช่องเลือกกางเกงขาสั้นไว้ใส่นอน เสื้อกล้าม หันไปมองหุ่นน้องชายกะขนาดแล้วหยิบเผื่ออีกสองตัว เดินวนกลับไปที่เสื้อยืดหยิบเผื่อพ่ออีกสามสี กางเกงในหนึ่งโหล ถุงเท้าสามคู่

“เอาไหม”

“เอา” ตอนนี้พี่ถามอะไรก็เอาหมดล่ะ ถือเป็นค่าจ้างหิ้วของ เห็นเสื้อผ้าส่วนของตัวเองและพ่อแม่เพิ่มมากขึ้น แรงกายในการเดินถือของตามพี่ชายก็มีมากขึ้นตามลำดับ

“ซื้อจนหมดห้างแล้วมั้งเนี่ย ขนไปอะไรเยอะนักหนา”

“ก็เอาเก็บๆ ไว้ที่ห้องด้วย ขนมนี่เอาไปแบ่งๆ กันกิน ไม่ได้กินคนเดียวจนบวมแบบแกหรอก”

“ไม่ต้องมาแกล้งเลย ไม่ได้บวม แก้มมันห้อยเฉยๆ” เจ้าของแก้มห้อยยกมือนวดแก้มตัวเอง อยากดันให้มันแฟ่บลงแต่ก็ไม่สำเร็จสักที

“กินแต่ขนม ออกกำลังก็ไม่ออก เดี๋ยวก็อ้วน”

“ปล่อยให้อ้วนไปเลย เนื้อนิ่มๆ น่ารัก” น่านนทีดึงแก้มตัวเองยืดออกอย่างภูมิใจ เขาเป็นตุ๊ต๊ะของพ่อ ส่วนพี่ชายพี่สาวไม่มีโค้ดลับแบบนี้สักคน

“คนอะไรชมตัวเอง ไปเลย จะกินอะไรเลือกให้ได้สักที”

“ไม่รู้อะ กลับบ้านพาพ่อแม่ออกมากินด้วยกันเหอะ ชาบูสุกี้อะไรพวกนี้”

“บ่ายอยู่เลย กินมื้อเที่ยงเบาๆ กันก่อน ตอนเย็นค่อยพาพ่อแม่ออกมาก็ได้ พี่หิวแล้ว”

“เออๆ ก็ได้ กินไก่นี่มั้ยล่ะ มีเซ็ทไก่กับข้าวมีซุปกิมจิ โอ๊ะ มีเกี๊ยวซ่าด้วย แต่ไม่ค่อยมีผักเลย เอาสลัดอีกอย่าง แค่นี้ก็พอเนอะ” นิ้วชี้จิ้มค้างไว้บนเมนูหน้าร้านให้พี่ชายมองรายการอาหารที่เลือกเรียบร้อย สบสายตาคนที่รับปากว่าจะเลี้ยงอย่างขอความเห็น สมุทรอยากบอกน้องว่าแค่เซ็ทปีกไก่สิบกว่าชิ้นนั่นก็เรียกว่าแค่นี้ไม่ได้แล้ว ยังไม่รวมอาหารที่สั่งเพิ่มอีก

“อ้วนเอ้ย” คนพี่แกล้งผลักหัวน้องก่อนเดินกอดคอพาเข้าร้าน นานๆ จะตามใจเด็กผู้หิวโหยสักที โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าภาพความสนิทสนมนี้มีปาปารัสซี่ฝึกหัดแอบถ่ายเอาไว้



ภาพผู้ชายสองคนเดินพูดคุยกันอย่างสนิทสนมกลางห้าง เดี๋ยวจับแก้ม เดี๋ยวจับหัว กอดคอ โอบไหล่ ปาปารัสซี่หยิบโทรศัพท์ตัวเองกลับคืนมาจากเป้าหมาย

“กูไม่ได้อยากยุแยงอะไรนะ แค่ไม่อยากรู้อะไรแล้วปิดมึงเหมือนเมื่อก่อน บังเอิญเห็นพอดีเลยถ่ายมาให้” ชวินรีบแก้ตัวก่อนเพื่อนเข้าใจผิด เขาเคยพลาดมาแล้วที่ปิดเพื่อนด้วยความหวังดี คราวนี้จะไม่พลาดอีก

“ไม่มีอะไรหรอก ปิงบอกว่าวันนี้ไปซื้อของเป็นเพื่อนพี่ ตอนกินข้าวยังส่งรูปมาให้ดูเลย ดูในรูปก็หน้าคล้ายๆ กันอยู่นะ แต่หน้าพี่ชายคล้ายพ่อมากกว่า”

“เออ กูก็คิดว่าเป็นญาติกันนั่นแหละ แค่ถ่ายมาเฉยๆ ตกลงมึงกับปิงถึงไหนกันแล้ว”

“เรื่อยๆ เขาก็รู้แหละว่ากูจีบ”

“โอเคใช่ไหม”

“เออ ดี น่ารักกว่าที่คิดไว้เยอะ” คิดถึงคนน่ารักที่ตัวจริงดุกว่าที่คิด ดูเป็นคนสดใสร่าเริง แต่ก็คนจริงจังและจริงใจมาก อย่างเรื่องเพื่อนที่มีปัญหา แม้จะบ่นโน่นนี่แต่ก็ไม่เคยบอกว่าคนๆ นั้นไม่ดี แค่บ่นพฤติกรรมที่ทำให้ไม่ชอบ ขนาดสิงหาเคยแอบไปรอรับยังโดนดุมาแล้ว โชคดีที่มีอะไรก็พูดกันตรงๆ อธิบายให้เข้าใจแล้วก็ไม่เก็บปัญหามาคิดมากอีก เขาชอบคนแบบนี้ ไม่ได้อยากมีคนรักที่ถึงขนาดเป็นเพื่อนคู่คิดหรือที่ปรึกษา แค่เป็นผู้รับฟังที่ดี อยู่เคียงข้างกันในวันที่เขาเหนื่อยก็พอ จะทะเลาะกัน งอนกัน เขาไม่มีปัญหาในการเป็นฝ่ายง้อก่อน ขอแค่อีกฝ่ายยอมให้ง้อ ยอมรับฟังและพร้อมเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ  น่านนทีเป็นคนแบบนั้น เมื่อบอกว่าอยากเรียนรู้กัน ก็เหมือนอีกฝ่ายยินดีเปิดโหมดตัวเองทันที จากที่เคยแกล้งซื่อไม่รับรู้อะไร ก็เริ่มแสดงความเป็นตัวเองมากขึ้น อะไรไม่ชอบก็คุยกันตรงๆ อย่างเวลางานเมื่อก่อนเขาหาข้ออ้างไปนั่งเล่นนั่งคุยด้วยได้ แต่พอเปิดโหมดเรียนรู้ปุ๊บ อย่างเดียวที่ทำได้คือวีดีโอคอลหากันเท่านั้น ส่วนนอกเวลางานก็ได้ไปกินข้าวหรือรับส่งที่บ้านบ้างตามโอกาส แรกๆ น่านนทีแทบจะไม่ยอมเลยเพราะชอบพึ่งพาตัวเอง การที่มีคนรับส่งจะทำให้ดูเหมือนเป็นคนดูแลตัวเองไม่ได้ เรื่องนี้เลยต้องอธิบายเหตุผลกันอีกรอบว่าเขาไม่ค่อยมีเวลาว่างที่ตรงกัน ช่วงนี้กำลังเก็บตัว มีเวลาว่างก็อยากใช้เวลาร่วมกันให้มากที่สุด ไม่ใช่เพราะเป็นช่วงทำคะแนนแต่เขาเป็นคนชอบดูแลคนอื่นแบบนี้อยู่แล้ว

“คงเยอะโคตรๆ เลยใช่ไหมถึงยิ้มไม่หุบแบบนี้ เอาเหอะ เห็นมึงมีความสุขก็ดี” ชวินยิ้มล้อเพื่อนสนิท เขาดีใจกับเพื่อนจริงๆ ถึงแม้ฐานะหรือหน้าที่การงานของน่านนทีจะไม่ค่อยเหมาะกับสิงหาเท่าคนอื่น แต่คนที่เหมาะสมก็ใช่ว่าจะดี ฉะนั้นพวกเขาอยากเห็นเพื่อนมีความสุขกับคนที่ดีก็พอ



ในโรงภาพยนตร์รอบสุดท้ายของห้างฯ มีผู้ชมไม่มากนัก ที่นั่งแถวสุดท้ายมีชายหนุ่มสองคนนั่งคู่กัน คนหนึ่งนั่งไขว้ขาวางศอกไว้บนที่วางแขนนั่งอย่างเรียบร้อย พยายามไม่วอกแวกไปที่คนข้างๆ ซึ่งยังไม่หยุดนิ่งตั้งแต่นั่งลง มือหนึ่งกอดถังป็อปคอร์นไว้บนตัก อีกมือหยิบเข้าปากไปเรื่อยๆ พอเบื่อรสเค็มของชีสก็จะควานลึกไปข้างล่างที่มีอีกรสคาราเมลหวานๆ แก้เลี่ยน ช่วงตัวโน้มเข้าหาเพื่อคุยถึงตัวอย่างหนังที่ดูแล้วชอบ สิงหาเป็นคนชอบดูหนังเงียบๆ ไม่ชอบคุยหรือกินอะไรระหว่างดู แต่ไม่ได้มีปัญหาถ้าคนที่มาด้วยจะกิน ขอแค่ไม่ชวนคุยก็พอ ตอนนี้ก็ทำได้เพียงลุ้นว่าคนช่างพูดจะหยุดพูดตอนไหน


ป็อปคอร์นที่หมดไปเกือบครึ่งถังถูกวางไว้บนพื้นข้างๆ ทันทีที่หนังเริ่มฉาย น่านนทีพิงเบาะตั้งใจดูด้วยความตื่นเต้นกว่าทุกเรื่อง นักแสดงตัวเป็นๆ นั่งอยู่ข้างๆ จะไม่ได้ตื่นเต้นได้ยังไง เป็นความรู้สึกแปลกใหม่สุดๆ แต่ความตื่นเต้นนั้นก็อยู่ได้เพียงไม่นาน เมื่อฉากแรกของหนังดึงดูดความสนใจไปจนหมด


หนังรักที่เปิดเรื่องมาด้วยบรรยากาศในงานเผาศพ แขกในงานมีจำนวนค่อนข้างมาก หลังจากวางดอกไม้จันทน์ แขกเหรื่อทยอยกันกลับเหลือเพียงเจ้าภาพและคนใกล้ชิด มุมหนึ่งของวัดมีชายหนุ่มคนหนึ่งยืนมองบรรยากาศอันโศกเศร้าด้วยความเสียใจไม่น้อยไปกว่าคนอื่น เขาคือปกป้อง ชายซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุบัติเหตุที่ทำให้มีคนตาย


ปกป้องเป็นผู้ชายธรรมดาที่ใช้ชีวิตตามปกติเหมือนคนทั่วไป เรื่องเดียวที่เคยทำให้ต้องขึ้นโรงพักคือเสียค่าปรับขับรถเร็ว ใช้ชีวิตอย่างมีสีสันตามประสาหนุ่มโสดที่ค่อนข้างมีฐานะดี แต่หลังจากเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่จนมีคนเสียชีวิต เขาเอาตัวเองออกมาจากเรื่องนี้ไม่ได้ ยิ่งเห็นภาพรุ้งทอ แฟนสาวของคนตายยืนร้องไห้จนหมดสติในงานศพเขายิ่งรู้สึกผิด เขาเฝ้าติดตามชีวิตเธอ รับรู้ว่าทั้งคู่กำลังจะแต่งงานกัน เขาคิดว่าเธอต้องใช้เวลามากกว่านี้เพื่อทำใจจึงได้แต่คอยดูอยู่ห่างๆ ด้วยความห่วงใย แต่เหมือนยิ่งนานไปเธอยิ่งแย่ เวลาไม่ได้ช่วยเยียวยาหัวใจเธอ


ฉากที่สองพระ-นางโต้เถียงกันดึงอารมณ์ของผู้ชมแบ่งเป็นสองฝ่าย บางคนรู้สึกว่าพระเอกพูดถูก นางเอกไม่พยายามทำใจเลย ทำให้คนรอบข้างเป็นห่วง ช่วงแรกทุกคนก็ห่วง แต่เมื่อเห็นพฤติกรรมที่ยังวนเวียนกับคนรักที่ตายไปแล้วไม่หยุด จากความห่วงใยก็เริ่มเอือมระอา และเริ่มตีตัวออกห่าง บางคนก็รู้สึกร่วมไปกับนางเอก ความทรงจำบางเรื่องมันก็ชัดเจนเหมือนเพิ่งเกิดขึ้น ไม่แปลกอะไรที่นางเอกจะยังเจ็บปวดอยู่ตลอดเวลา แต่ทุกคนก็คิดเหมือนปกป้อง ทำไมความรักเพียงไม่กี่เดือนของเธอถึงลึกล้ำจนทำให้เธอคิดจะทิ้งชีวิตที่เหลือไป...เธอรักเขามาก และเขาคู่ควรหรือ...คีตะ


เนื้อเรื่องเริ่มสลับฉากในอดีตกับปัจจุบัน ปกป้องกับรุ้งทอพระนางของเรื่องเดินทางไปตามสถานที่ในความทรงจำของรุ้งทอ มีการทะเลาะโต้เถียงแนวพ่อแง่แม่งอน เป็นมิตรภาพที่เริ่มจากการขัดแย้ง สงสัย และเรียนรู้กันและกัน ประตูบานเล็กๆ ในหัวใจของปกป้องเริ่มเปิดแง้มออกมามองเธอโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว หรืออาจจะไม่อยากยอมรับ


ฉากการเล่าเรื่องอดีตในช่วงแรกแทบจะไม่เห็นหน้าสิงหา การพบเจอกันที่บันไดก็เห็นเพียงด้านหลัง หรือด้านหน้าช่วงริมฝีปากล่างลงมา รวมถึงฉากการเจอกันครั้งต่อๆ ไป ความสนิทสนมที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว มีเพียงภาพเงาหลัง หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของใบหน้า เทคนิคการถ่ายทำคล้ายกำลังดูมิวสิควีดีโอ ช่วยดึงความสนใจได้เป็นอย่างดี ฉากสารภาพรักที่เรียบง่ายในร้านหมูกะทะ ภาพคู่รักที่จับมือกันไปในที่ต่างๆ และใช้เวลาร่วมกัน โดยไม่รู้ตัวผู้ชมเริ่มหลงใหลไปกับดวงตามีเสน่ห์คู่นั้น ริมฝีปากยามยิ้มและหัวเราะ ฝ่ามือที่คอยจับจูง ประคองหลังหรือโอบไหล่ยามเดินฝ่าฝูงชน ถึงจะไม่ได้เห็นหน้าแต่ในใจทุกคนก็คิดตรงกันว่าคีตะช่างเป็นแฟนหนุ่มที่ดีเหลือเกิน ช่างเอาใจใส่ มีอารมณ์ขัน และดูจะรักรุ้งทออย่างมากมายเหลือเชื่อ


ความเปลี่ยนแปลงไม่คาดฝันมาถึงเมื่อคีตะต้องย้ายไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นกะทันหัน การไปครั้งนี้มีกำหนดอย่างต่ำสองปี ความรักของเขากับรุ้งทอเพิ่งเริ่มต้น เขาไม่อยากไปจากเธอจึงตัดสินใจขอเธอแต่งงานแม้จะเพิ่งคบกันได้เพียงหกเดือน ขอให้เธอย้ายไปอยู่ด้วยกันที่นั่นในฐานะภรรยา ความรักที่กำลังเบ่งบานทุกวันในใจเธอทำให้เธอตอบตกลงแม้จะยังหวาดหวั่นกับการตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิต ผู้จัดการหนุ่มกับพนักงานสาว ความต่างของหน้าที่การงานและฐานะทำให้ถูกมองไม่ดีเมื่อทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงาน ส่วนหนึ่งมองว่าเร็วเกินไป ส่วนหนึ่งก็ว่าไม่เหมาะสม แต่คีตะยังคงยืนกรานและจับมือรุ้งทอเตรียมงานแต่งอย่างมีความสุขทุกวัน...จนถึงวันสุดท้ายของชีวิต


ทั้งที่ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าคีตะต้องตาย แต่เมื่อเหตุการณ์ตอนเกิดอุบัติเหตุอันเป็นจุดเริ่มเรื่องเกิดขึ้น ในใจก็ยังหวังให้เกิดปาฏิหาริย์ เช่นเดียวกับรุ้งทอนางเอกของเรื่อง เสียดายที่ปาฏิหาริย์นั้นไม่เกิดขึ้น คนรักของเธอเสียชีวิต ในวันแรกของงานศพเธอร้องไห้เสียใจเช่นเดียวกับคนในครอบครัวแฟนหนุ่ม ถึงรักครั้งนี้จะเกิดขึ้นเร็ว แต่เขาทำให้เธอมั่นใจว่าชีวิตแต่งงานจะต้องเป็นไปด้วยดี รุ้งทอเป็นหญิงสาวตัวคนเดียว แม่เสียชีวิตนานแล้ว ส่วนพ่อมีครอบครัวใหม่ หลังเรียนจบเธอพยายามไม่พึ่งทางบ้านพ่อมากนักด้วยความเกรงใจ เธออาจจะเป็นผู้หญิงน่าเบื่อ คิดในแง่ลบมากกว่าบวก โทษตัวเองก่อนโทษคนอื่น ทำให้โลกของเธอดูหม่นๆ แต่เมื่อคีตะเข้ามาก็เหมือนมีแสงไฟนำทาง คนที่บอกว่าเธอตั้งใจจับเขาก็ไม่ผิด เธอยังไม่พร้อมแต่งงานแต่เพราะกลัวจะเสียเขาไปเลยตกลง วาดฝันถึงอนาคตที่จะมีชีวิตที่ดี เธอแปลกใจทุกครั้งเวลามองตาคีตะ มองเห็นความรักมากมายในแววตาเขา ผู้ชายแสนดีคนนี้ทำไมถึงรักเธอมากมายแบบนี้ เป็นความรักที่หนักแน่นจนทำให้เธอเชื่อมั่นทุกสิ่งที่เขาพูด แต่ความฝันนั้นแตกสลายในพริบตา เขาไม่อยู่แล้ว มันจบแล้ว ต่อไปนี้เธอต้องเดินต่อไปเพียงลำพัง


ในตอนบ่ายวันที่สองหลังงานเผาศพเสร็จสิ้น รุ้งทอได้รับโทรศัพท์จากสตูดิโอที่จัดงานแต่งงาน ทางนั้นรู้แล้วว่าฝ่ายเจ้าบ่าวเสียชีวิตจึงติดต่อเพื่อคืนเงินมัดจำส่วนหนึ่ง รุ้งทอต้องไปรับของบางส่วนที่สั่งทำที่ร้าน รวมถึงรูปพรีเวดดิ้งที่ได้ถ่ายไปแล้ว เงินส่วนหนึ่งที่ได้คืนมาเธอใส่ซองเตรียมนำไปคืนให้ครอบครัวคีตะ หยิบเอ็กเทอร์นอลฮาร์ดดิสที่เอาไปโหลดรูปจากทางร้านกลับมาเปิดดู ภาพของเธอกับคีตะในชุดเสื้อยืดคู่รักยืนข้างจักรยานในสวน เธอจำได้ว่าเชือกผูกรองเท้าผ้าใบหลุดแล้วคีตะก้มลงผูกให้ ช่างภาพแอบถ่ายเอาไว้ด้วย รูปนับร้อยทำให้นึกถึงความสุขในวันนั้น น้ำตาค่อยๆ ไหลออกมาเมื่อมองรอยยิ้มที่จะไม่ได้เห็นจากตัวจริงอีกแล้ว มีไฟล์วีดีโออยู่หลายไฟล์ น่าจะเป็นเบื้องหลังที่ไว้ตัดต่อไปฉายในงานแต่ง แต่มีคลิปหนึ่งที่แปลกกว่าอันอื่น เหมือนเป็นการตั้งกล้องสัมภาษณ์ และมีคีตะเป็นผู้ถูกสัมภาษณ์


“ตรงนี้เดี๋ยวผมจะตัดเสียงผมออก แล้วขึ้นตัวหนังสือในคลิปนะครับ โอเคนะ” เสียงจากหลังกล้องพูดขึ้น คลิปนี้เดิมทีจะใช้เปิดในงานแต่งงาน เป็นการเซอร์ไพรส์ที่เจ้าบ่าวตั้งใจเตรียมไว้ให้เจ้าสาวโดยเฉพาะ แต่เมื่อไม่มีงานแล้วทางทีมงานเลยเอาไฟล์ต้นฉบับใส่มาให้ด้วย

“โอเค เริ่มเลยๆ ตื่นเต้นว่ะ” ในกล้องคีตะเซ็ทผมตัวเอง ปาดเหงื่อที่ไม่มีบนหน้าผาก ยกแก้วน้ำขึ้นจิบก่อนจะพยายามนั่งให้นิ่ง

“คำถามแรกนะครับ ใครจีบใครก่อน” คำถามแสนง่าย เขาตอบอย่างไม่ลังเล

“ก็ต้องผมสิ”

“ทำไมถึงชอบเจ้าสาว”

“เธอ...น่ารักดี บอกไม่ถูกเหมือนกัน เห็นแล้วรู้สึกอยากรักขึ้นมาทันทีเลย” คีตะยกมือเสยผม จับใบหูก่อนย้ายมาปิดปากตัวเองที่ยิ้มไม่หุบด้วยความเขินอาย

“งั้นเล่าครั้งแรกที่เจอกันให้ฟังหน่อย”

“เอ่อ...ไม่รู้เธอจะโกรธรึเปล่า ถ้ารุ้งฟังจบแล้วอย่าเพิ่งโกรธนะ คืนนี้เราต้องเข้าหอกันนะ ห้ามไล่ออกนอกห้องเด็ดขาด” อาการกลัวเมียก่อนแต่งทำให้ทีมงานหลุดหัวเราะจนเสียงเข้ามาในกล้อง

“ผมว่าเจ้าสาวน่าจะโอเค เล่าเลยครับ”

“จริงๆ รู้จักตั้งแต่เด็กแล้ว บ้านอยู่ซอยเดียวกัน ตอนมัธยมก็เรียนที่เดียวกัน เราอายุห่างกันสี่ปี ตอนผมอยู่มอห้าเธอเป็นน้องใหม่มอหนึ่ง วันแรกที่เจอเหมือนเธอจะจำทางกลับบ้านไม่ได้เพราะลงรถผิดซอย ผมเดินผ่านเห็นเด็กผู้หญิงยืนน้ำตาคลอกำกระโปรงแน่น รู้ตัวอีกที่ก็เดินเข้าไปหาแล้วพาไปส่งบ้านเพราะเธอจำบ้านเลขที่ตัวเองได้ มือน้อยๆ กำนิ้วผมได้สามนิ้วเอง แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกว่าอยากให้มือนี้จับผมไว้ต่อไป เหมือนรักแรกพบเลยครับ”

“เรื่องนี้เจ้าสาวไม่รู้เหรอครับ” ทีมงานทุกคนตั้งใจฟังความลับของเจ้าบ่าวด้วยความซาบซึ้งยินดีแทนเจ้าสาวที่มีคนแอบรักนานขนาดนี้

“เธอจำไม่ได้หรอกมั้ง เพราะหลังจากนั้นไม่นานประมาณมอสองมอสามเธอก็ย้ายบ้านส่วนผมก็เข้ามหาฯลัยเลยไม่ได้เจอกัน จนเรียนมหาฯลัย ตอนนั้นผมไปหาเพื่อนที่มหาฯลัยเธอ เห็นเธอนั่งกับกลุ่มเพื่อนแต่ก็ไม่กล้าเข้าไปทัก ได้แต่แอบตามเธอรวมถึงให้เพื่อนคอยถ่ายรูปถ่ายคลิปส่งมาให้ตลอด สุดท้ายเพื่อนบอกว่าเธอมีแฟนแล้ว ตอนนั้นก็อกหักเลย แอบร้องไห้ใต้ฝักบัวไปทั้งคืน เป็นหวัดโดนแม่ดุอีก” เขาพยายามเล่าให้ขำเพราะไม่อยากให้เจ้าสาวรู้สึกไม่ดี ตอนนั้นอาจจะเศร้าเสียใจแต่ตอนนี้เขามีความสุขมาก

“จากนั้นก็ไม่เจอกันเลยเหรอครับ”

“ใช่ครับ แล้วก็บังเอิญมาทำงานที่เดียวกัน เห็นเธอตั้งแต่เข้ามาสัมภาษณ์ เดินเด๋อๆ เข้าลิฟต์ ยืนอยู่ข้างหน้าผม ตัวเกร็งเชียว ชีวิตเธอมักจะเจอปัญหาบ่อยๆ ไม่รู้ทำไม แต่ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องดีเพราะทำให้ผมได้เข้าไปจีบเธอ”

“เล่าวิธีจีบให้ฟังหน่อย” ทีมงานถามจบ คีตะหวนคิดถึงเรื่องเก่าๆ แล้วหลุดหัวเราะ

“ไหนๆ จะสารภาพแล้ว เอาเป็นเรื่องที่เธอไม่รู้ดีว่า คือแถวที่ทำงานเรามีออฟฟิศเยอะมาก เรียกแท็กซี่หรือวินฯ ยาก บางวันฝนตกเธอยืนเรียกรถทั้งตัวเปียกๆ แต่ก็ไม่มีคันไหนรับ ผมต้องเดินไปดักหน้าเธอไกลๆ แล้วโบกเอง ก็ติดสินบนไปร้อยสองร้อยให้รถไปจอดรับเธอ แต่เรื่องนี้เธอไม่รู้หรอก วันนี้ก็คงรู้แล้ว หมดเงินไปเยอะเหมือนกันตอนนั้น เพื่อนร่วมงานเธอบางคนก็เป็นเพื่อนของลูกน้องแผนกผม บางทีผมก็ใช้อำนาจโดยมิชอบให้คอยรายงานความเคลื่อนไหว วันไหนเธอเครียดก็จะไปดักเอาน้ำอัดลมให้เธอดื่ม ยังไม่ทันสิ้นเดือนบางทีเงินเธอก็เริ่มเหลือน้อย เริ่มต้มมาม่ากินตอนเที่ยง ผมเห็นแล้วปวดใจ ผู้จัดการแผนกเธอเลยเลี้ยงมื้อเที่ยงทั้งแผนกบ่อยๆ แต่ทั้งหมดก็มาเก็บเงินที่ผมนี่แหละ เรื่องเล็กๆ อย่างได้กินของอร่อยและฟรี หรือโบกแท็กซี่ครั้งเดียวก็ได้ขึ้น เธอก็ยิ้มอย่างมีความสุขได้แล้ว ความสุขของเธอเล็กๆ แค่นี้เอง และความสุขของผมก็คือเธอ”

“ได้ข่าวว่าคุณมีวันครบรอบให้ฉลองเยอะมาก”

“ใช่ครับ นอกจากวันที่ขอเธอเป็นแฟนที่เราจะฉลองทุกเดือนก็มีวันที่จับมือกัน วันฉลองซื้อที่เหลาดินสอความจริงคือวันแรกที่ผมพบเธอเมื่อ 10 ปี 4 เดือน 21 วันก่อน วันฉลองซื้อปากกาคือวันแรกที่ได้คุยกับเธอตอนงานกีฬาสีมอสอง วันฉลองซื้อกระเป๋าคือวันแรกที่ได้เจอกับเธออีกครั้งที่มหาฯลัย วันซื้อแก้วน้ำคือวันที่เธอเดินชนผมในโรงอาหาร วันซื้อต่างหูคือวันที่ผมรู้ตัวว่าอกหัก วันนี้ก็เลยจะฉลองครั้งเดียวพอเพราะไม่อยากจำ จริงๆ ก็มีอีกหลายวันเลย บอกหมดคงยาว”

“คุณดูรักเจ้าสาวมากๆ เลยนะครับ สุดท้ายอยากบอกอะไรถึงเธอ”

“ก็...ขอโทษที่ไม่ได้เล่าให้ฟังก่อน รุ้งอย่าตกใจนะ อยากขอบคุณที่วนเวียนอยู่ใกล้ๆ จนเราได้กลับมาเจอกันอีก ขอบคุณที่เปิดใจให้กัน ผมรู้ว่ารุ้งยังกลัวว่าเรื่องของเราจะไม่ราบรื่นหรือเปล่า เร็วเกินไปไหม ผมอยากบอกรุ้งว่าผมรอรุ้งมานานมากแล้ว ให้รอนานกว่านี้ก็รอได้ แต่ขอรออยู่ข้างๆ รุ้งได้ไหม ให้เวลาค่อยๆ พิสูจน์ว่าผมรักรุ้งมากและรักรุ้งคนเดียวเสมอมา บางทีรุ้งอาจจะยังจำผมไม่ได้แต่ก็ไม่เป็นไร เราค่อยๆ สร้างความทรงจำใหม่ขึ้นมาร่วมกันก็พอ...ขอบคุณที่แต่งงานกัน...รักรุ้งมากนะ รักมาก...จริงๆ” ภาพสุดท้ายค้างไว้ที่รอยยิ้มเจิดจ้าจนแสบตา หยดน้ำตาไหลลงข้างแก้มแทนคำพูดมากมายในใจ...รัก เธอคือความรักของเขา

ในที่สุดปกป้องก็ได้คำตอบ เขาไม่ได้กำลังแข่งกับความรักของเธอ แต่แข่งกับความรักของคีตะ ของผู้ชายคนหนึ่งที่ทำทุกอย่างเพื่อคนที่ตัวเองแอบรักมาตลอด ความรักของรุ้งทอไม่ลึกล้ำเท่าเขา ไม่หนักแน่นเท่าเขา เพราะงั้นตอนนี้เธอจึงเสียใจมากเมื่อได้รู้ความจริง ปกป้องไม่ได้ทำลายความรักของเธอ แต่ทำลายความฝันของเขา...ความฝันของผู้ชายที่รอเธอเงียบๆ มาสิบกว่าปี ความรักของเขายังคงอยู่...และมันจะอยู่ในใจเธอตลอดไป

บทสรุปการเดินทางของรุ้งทอกับปกป้องจบลงแล้ว เธอไม่คิดสั้นอีกต่อไป แต่ความเสียใจนี้ไม่รู้เมื่อไรจะหายดี มันต้องใช้เวลา อาจจะนานสักหน่อยแต่เธอยินดีที่จะอยู่กับความเศร้าและความทรงจำนี้

“อย่าคิดสั้นอีกนะ ไม่ใช่เพื่อผม แต่เพื่อคนที่รักคุณมากขนาดนั้น อยู่ต่อไปให้ได้ ให้คนอื่นเห็นว่าความรักของเขามันสวยงามแค่ไหน คุณไม่ใช่แค่คนรักของเขา แต่คือความรักของเขาทั้งชีวิต...อยู่เพื่อเขาเถอะ” เขาเพียงสนใจรุ้งทอและเริ่มชอบ อนาคตเขาอาจจะจีบเธอ หรือแค่คบอย่างเพื่อน แต่เขาสัญญากับตัวเองว่าจะไม่หายไปไหน จะไม่ทิ้งเธอให้อยู่ลำพัง เพื่อชดเชยให้กับความรักที่ยิ่งใหญ่ของผู้ชายคนหนึ่งที่เขาได้มีโอกาสรู้จักผ่านการเดินทางครั้งนี้




ออฟไลน์ G_wa

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1961/-23
    • https://www.facebook.com/Gwa.Novel/


บนรถยามค่ำคืนเงียบสนิทแต่ไม่ค่อยสงบ เสียงสูดน้ำมูกของคนตาบวมยังมีให้ได้ยินเป็นระยะ ป็อปคอร์นเกือบครึ่งถังวางอยู่บนตัก บางครั้งก็หยิบเข้าปากทั้งๆ ที่ยังสะอื้น

“ไหนบอกว่าหนังรักไง ดูตัวอย่างก็น่ารักดี หลอกลวงคนดูชัดๆ”

“ก็หนังรักไงครับ เกี่ยวกับความรักล้วนๆ เลยนะ” สิงหาหัวเราะด้วยความเอ็นดูแต่เหมือนคนตาแดงจะไม่พอใจ

“มันหนังดราม่าต่างหาก สงสารคีตะมากเลย อีกนิดเดียวจะได้แต่งงานกันแล้ว” น่านนทีนึกถึงฉากในหนังที่รุ้งทอเปิดคลิปของคีตะแล้วน้ำตาก็ยิ่งรื้นขึ้นมา อีกนิดเดียวก็ได้แต่งงานกันแล้ว

“ใจเย็นๆ นะ บางทีคีตะอาจจะดีใจก็ได้ที่อย่างน้อยความตายของเขาก็ทำให้ผู้หญิงที่เขารักเข้มแข็งขึ้น อย่าคิดมากเลยครับ”

“มันเศร้านี่นา ถึงจะขำช่วงต้นๆ เวลาปกป้องตามรุ้งไปที่ต่างๆ ก็เถอะ ฉากที่รุ้งเล่าเรื่องคีตะก็ขำดี ดูน่ารักดี แต่พอมาตอนเปิดคลิป ไอ้ที่ขำมาครึ่งเรื่องหายไปหมดเลย”

“แล้วปิงชอบไหม คิดว่าเรื่องนี้เป็นไง”

“ดูตาปิงสิ นี่ล่ะคำตอบ อินขนาดน้ำตาแตกเลย คุณสิงเห็นคนอื่นที่ออกมาไหม มีคนร้องไห้ตั้งเยอะ เห็นหน้าคุณสิงเต็มๆ นิดเดียวเอง แต่อารมณ์มาเต็มมาก เป็นตัวแย่งซีนในเรื่องเลยนะเนี่ย” มือที่เปื้อนป็อปคอร์นป้ายเช็ดกางเกงตัวเองก่อนมาปาดน้ำตาที่หางตาให้หมดแล้วกินป็อปคอร์นที่เหลือต่อ

“ปิงชอบก็ดีครับ เอาจริงๆ ผมก็ไม่คิดว่าจะตัดต่อออกมาได้ดีแบบนี้ ภาพสวยมาก เพลงก็ดี ผมชอบหนังของพี่ธงชัยตรงการตัดต่อนี่แหละ เขามักจะมีมุมกล้องแปลกๆ ทำให้ภาพมันมีมิติขึ้น ดูไม่น่าเบื่อ”

“ทำไมตอนโปรโมตหนังไม่เห็นคุณสิงไปกับดาราคนอื่นเลยล่ะครับ เหมือนจะมีงานเดียวที่ออกข่าวเองมั้ง” น่านนทีเหลียวมองหาขวดน้ำในรถเพราะคอเริ่มแห้ง สิงหาเลยหยิบจากข้างประตูฝั่งคนขับส่งให้ ตามด้วยทิชชู่ไว้เช็ดปากเช็ดมืออีกหนึ่งห่อ น่านนทีหัวเราะเมื่อรู้ตัวว่าสภาพตอนนี้คงดูไม่จืด ร้องไปกินไป ดูดนิ้วเสร็จก็เช็ดหน้าเช็ดกางเกง แต่เมื่อสิงหาไม่ว่าอะไรเขาก็ไม่สนใจ หยิบทิชชู่หนึ่งแผ่นมาเช็ดนิ้วเช็ดปากแล้วกินต่อ

“มันไม่ได้อยู่ในสัญญาน่ะครับ ก็ไปเฉพาะรอบสื่อวันแรกเท่านั้น อีกอย่างผมไม่ออกไปโปรโมตจะทำให้ตัวคีตะน่าสนใจมากขึ้น ไม่งั้นคนดูชินกับหน้าผมแล้วตอนช่วงต้นๆ คงไม่อินเท่าไร”

“แต่หนังดีมากเลยนะ คุณสิงแสดงเก่งมาก จริงๆ เรียกว่าเป็นพระเอกของเรื่องก็ยังได้เลย”

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกปิง ผมว่าเป็นเพราะปิงตั้งใจมาดูผมมากกว่า เลยโฟกัสที่บทผมมากกว่าคนอื่น แอร์ไทม์ในเรื่องผมมีแค่ยี่สิบนาทีได้มั้ง แถมออกมาแบบไม่เห็นหน้าอีก”

“ตอนที่เปิดคลิปแล้วมีฉากแฟลชแบครัวๆ แบบให้เห็นหน้าคุณสิงคือดีมากเลย บางฉากเห็นแค่ตาก็สื่ออารมณ์ได้ด้วย สุดยอด ยิ่งฉากจบที่ร้องไห้ทั้งหน้ายิ้มนี่ปิงน้ำตาไหลพรากเลยอะ มันจะเรียกว่าดราม่าก็ไม่เชิง มันแค่รู้สึกซึ้งมาก แบบจะรักอะไรขนาดนั้น ดูรักแบบ ร๊ากกกกกรัก”

“ฮ่าๆๆ หนังจบอารมณ์ไม่จบใช่ไหมแบบนี้” นอกจากหนังจะออกมาดี อาการคนดูแบบนี้ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกดีขึ้นไปอีก โดยเฉพาะคนๆ นั้นคือน่านนที สิงหาไม่ได้อยากเปรียบเทียบน่านนทีกับพีท แต่ก็อดนึกไม่ได้ว่าพีทไม่เคยแสดงออกอย่างนี้เลยเพราะเป็นคนไม่ชอบดูหนังไทย ถ้าบังคับให้ดูส่วนใหญ่พีทจะชมแค่เรื่องนี้หล่อ เรื่องนี้แต่งตัวดี ไม่ค่อยอินกับบทในเรื่องของเขา ต่างกับคนนี้ที่ทั้งหัวเราะ ร้องไห้ แล้วก็พูดถึงฉากนั้นฉากนี้ไม่หยุด ไม่ได้ชมเพื่อเอาใจเขา แต่ชมเพราะประทับใจในตัวหนังจริงๆ

“ก็มันอินนี่ เดี๋ยวปิงต้องพาพ่อกับแม่มาดูอีกรอบ แล้วจะแกล้งถ่ายน้ำตาแฟนคลับรุ่นเดอะส่งมาให้ดูนะครับ”

“แกล้งแม่มากๆ ระวังโดนตีนะ”

“แม่ชอบแกล้งตีปิงทุกวันอยู่แล้วล่ะ” แม่เขาชอบตีก้น ถ้าพูดแหย่อะไรตอนเดินผ่านจะต้องฟาดก้นเขาทุกที แรงบ้างเบาบ้าง บางทีเขาก็แกล้งกลับด้วยการกอดแม่แล้วเขย่าตัวแรงๆ

“เออผมลืมบอกปิงให้หาห้องเช่าให้ผมเลย ที่คอนโดฯ น่ะครับ”

“ที่บอกว่าพ่อแม่คุณสิงจะกลับมาก่อนกำหนดน่ะเหรอ คุณสิงอยากได้ห้องขนาดไหน”

“อยากได้แบบเดียวกับห้องผมเลย ขออยู่ชั้นใกล้ๆ กันก็ดีครับ”

“ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ปิงเช็คให้นะ พ่อแม่มาเมื่อไรครับ”

“อีกเดือนสองเดือนนะ แต่ผมกลัวถึงเวลาจะไม่มีห้องว่างที่ถูกใจเลยจะเช่าทิ้งไว้ก่อน หรือปิงว่าไงดี”

“ปิงไปถามพวกฝ่ายขายให้ก่อนดีกว่า ตรงส่วนนี้ปิงไม่ได้ดูแลเลยไม่ค่อยรู้รายละเอียด ร้านคุณสิงใกล้เสร็จแล้วเหรอ” น่านนทีจำได้ว่าสิงหาคุยว่าจะให้พ่อแม่มาช่วยดูแลร้านในส่วนของสินค้ามือสอง พี่ฝ้ายก็วุ่นเรื่องซื้อตู้คอนเทรนเนอร์ไปตั้งที่บ้านเก่าคุณสิงเพื่อเก็บเฟอร์นิเจอร์ที่กำลังส่งมาทางเรือ

“เกือบเสร็จแล้วครับ เหลือเก็บรายละเอียดนิดหน่อย พวกงานม่านงานสวนน่ะ เอาไว้ของล็อตแรกมาถึงเมื่อไรผมจะพาปิงไปดูนะ”

“ต้องทำพิธีอะไรอีกหรือเปล่าครับ แม่ปิงกำลังบ่นไม่ได้เจอคุณสิงเลยตั้งแต่ไปช่วยงานตอกเสาเข็มบ้านใหม่ ช่วงนี้ปิงคะแนนตก หัวจะเน่าแล้วเนี่ย”

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ลืมคิดเลย เขาต้องทำใช่ไหม”

“ปิงก็ไม่รู้ แต่ถ้าทำมันก็น่าจะดีนะ”

“เดี๋ยวผมไปคุยกับพวกนั้นก่อนแล้วกัน ปิงจะแวะกินอะไรไหม จะถึงบ้านแล้วนะ” สิงหาถามเมื่อใกล้ขับถึงถนนที่มีอาหารขายยามดึก ถ้าเลยจากย่านนี้ก็ถึงแยกบ้านน่านนทีแล้ว

“คุณสิงหิวไหม ปิงกินป็อบคอร์นจะหมดถังคนเดียวเลย”

“หิวเหมือนกัน แต่ผมลดน้ำหนักอยู่เนี่ยสิ”

“เฮ้อ คุณสิงเก่งจัง วันๆ กินแต่ผักก็ยังอยู่ได้ ส่งปิงที่บ้านเลยครับ ปิงไม่หิวหรอก”

“แล้วพรุ่งนี้เอาไง ให้ผมมารับไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันไหม จะได้เจอพี่ฝ้ายของปิงด้วย” พรุ่งนี้สิงหาจะไปดูความคืบหน้าที่บ้านใหม่ แล้วก็ไปซื้ออุปกรณ์เครื่องมือช่างไปติดตั้งที่บ้านเก่าซึ่งเตรียมห้องทำงานช่างเอาไว้แล้ว ตัวบ้านถึงจะเก่าแต่สภาพยังดี ของข้างในทั้งของแม่และของเขาก็มีอยู่เต็มไปหมด ลานหน้าบ้านส่วนหนึ่งต่อเติมเพิ่มไว้เป็นห้องทำงานช่างแบบง่ายๆ เหลือพื้นไว้สำหรับวางตู้คอนเทนเนอร์ คนที่ไม่อยากให้ทำอะไรกับบ้านนี้มากที่สุดไม่ใช่แม่แต่เป็นพ่อ พ่ออยากมาเห็นบ้านที่เขากับแม่เคยใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน

“ก็ได้ครับ”



วันรุ่งขึ้นตอนเที่ยงสิงหาก็โทรบอกน่านนทีก่อนที่จะเข้ามารับถึงบ้าน ตลอดการเดินทางไปร้านอาหารแถวคอนโดฯ มีเพียงเสียงสหายต่างวัยคุยกันอย่างออกรส

“ปิงไม่ได้เจอหลานนานแล้วนะเนี่ย เอาไว้หยุดคราวหน้าปิงไปหาที่บ้าน” น่านนทีที่นั่งด้านหน้าเอี้ยวตัวผ่านช่องว่างข้างคนขับมาคุยกับพี่สาวคนสนิท เมื่อครู่ไม่มีที่ให้จอดรถ ฝ้ายเป็นคนลงไปเรียกน่านนทีเลยได้สวัสดีพ่อแม่ของรุ่นน้องนิดหน่อย ส่วนสิงหาได้แต่นั่งบนรถแล้วเปิดกระจกลงมาสวัสดีตอนแม่เดินออกมามองดาราขวัญใจตัวเอง

“เออ จะมาก็โทรบอกก่อนล่ะ ช่วงนี้พี่ต้องออกมาดูทั้งร้านทั้งบ้านให้คุณสิง บางวันก็ไม่อยู่บ้านนะ”

“โอเค จะไปแล้วเดี๋ยวโทรหา เป็นไงครับคุณสิง พี่ฝ้ายเก่งแบบที่ปิงอวยไว้เลยใช่ไหม” น่านนทีหันมองคนขับที่นั่งยิ้มแอบฟังพวกเขาคุยกัน

“ใช่ครับ ฝ้ายทำงานคล่องมาก พี่อ้วนก็ฝากชมมานะว่าเรียนรู้งานเร็ว เรื่องงานในวงการไม่ต้องกังวลนะครับถ้าหางานให้ผมไม่ได้ เมื่อก่อนผมรับพวกงานละครด้วย มันก็จะมีงานโชว์ตัวออกรายการโน่นนี่เยอะ แต่ตอนนี้ผมอยากรับแต่งานหนังอย่างเดียวมากกว่า สักปีละเรื่องก็พอแล้ว”

“มีละครติดต่อมาเยอะนะคะตั้งแต่หนังเริ่มฉาย แต่ฝ้ายก็บอกปัดไปอ้อมๆ หมดแล้วล่ะ พวกรายการหรืองานโชว์ตัวช่วงนี้ก็ติดต่อมาเยอะ แต่น้ำหนักคุณสิงลงไปเยอะแล้วไม่เหมาะจะออกรายการจริงๆ เสียดายนะคะ”

“อีกสามเดือนได้มั้งครับถึงจะเริ่มปรับน้ำหนักขึ้นมาเป็นปกติได้ ตอนนี้ยังต้องลดลงอีกหน่อย”

“เห็นหน้าแม่ปิงตอนคุณสิงไปที่บ้านเมื่อกี้ไหมล่ะ อีกนิดจะร้องไห้แล้วนะนั่น แฟนคลับปวดใจเห็นคุณสิงผอมลง” เขาหัวเราะแม่ตัวเองที่พอรู้ว่าสิงหาขับรถมาจอดหน้าบ้านแต่ลงไม่ได้ก็รีบวิ่งออกมามองหา พอเห็นสิงหาเปิดกระจกลงมาก็เอามือกุมกันแน่นเหมือนปลื้มใจที่พ่อพระเอกรูปหล่อทักทาย ทำเหมือนคนไม่เคยเจอกันนานทั้งที่ไม่กี่วันก่อนก็เพิ่งมาส่งเขาถึงบ้าน

“ฮ่าๆๆ ปิงก็ชอบไปแซวแม่ตัวเอง ผอมแบบสุขภาพดีก็โอเคล่ะครับ”

“ปิงก็อย่างนี้ล่ะค่ะ ชอบแกล้งแม่ตัวเอง แต่พอพี่สาวพี่ชายกลับมาทีตัวเองก็เป็นแค่หมาหัวเน่า งอนแม่ไม่สนใจ เด็กโข่งเอ้ย”

“มันเป็นการแสดงเหอะ ไม่ได้งอนจริงๆ งอนเพื่อความบันเทิงเฉยๆ” อันที่จริงเมื่อก่อนก็มีงอนจริงบ้างตอนเด็กๆ แอบน้อยใจว่าแม่รักพี่ชายพี่สาวมากกว่า พ่อก็เลยโอ๋เขามากหน่อย

“จ้าๆ อยู่กับคุณสิงมากๆ ก็อย่าไปงอนเพื่อความบันเทิงล่ะ งอนจริงๆ ก็ได้ ใช่ไหมคะ” ฝ้ายหันไปแหย่เจ้านายหนุ่มที่นั่งอมยิ้มไม่ตอบคำถาม ได้คุยกับพี่โจหลายครั้งเลยรู้ว่าสองคนนี้มีซัมติงบางอย่าง ไม่รู้ว่าจีบกันอยู่หรือว่าคบกันแล้ว ที่สำคัญคือกำลังโดนคนในคอนโดฯ จับตามองแน่นอน พนักงานคบกันน่ะไม่มีปัญหาหรอก แต่พนักงานกับลูกบ้านคบกันนี่สิเรื่องใหญ่

“ใครจะไปงอน เนอะคุณสิงเนอะ”

“ครับ” แค่ครับคำเดียวทำไมน่านนทีฟังแล้วอยากแยกเขี้ยวใส่ไม่รู้



กว่าจะจบมื้ออาหารและแยกย้ายกันน่านนทีก็รู้สึกเหมือนหน้าเกือบไหม้เพราะฝ้ายเอาแต่หาเรื่องแซว ส่วนคู่กรณีนอกจากไม่ช่วยแล้วยังยิ้มรับให้ได้อายมากกว่าเดิม ฝ้ายกลับมาเอารถที่จอดทิ้งไว้ที่คอนโดฯ ของสิงหาขับกลับบ้าน ส่วนสองหนุ่มค่อยๆ แอบเข้าลิฟต์หลบสายตาพนักงานคนอื่นขึ้นมาบนห้อง

“ถ้าบ้านเก่าคุณสิงก็ยังดีอยู่ทำไมไม่อยู่ต่อล่ะครับ ทำไมต้องสร้างใหม่หรือมาอยู่คอนโดฯ” น่านนทีวางเสื้อสูทพาดกับพนักโซฟาเดี่ยวไว้กันยับ นั่งรอสิงหาที่เอาของไปเก็บในห้องนอนก่อนจะมานั่งข้างๆ กัน เปิดโทรทัศน์ดูรอเวลาก่อนน่านนทีจะไปทำงาน

“บ้านมันเก่ามากแล้วครับ ผมอยากได้บ้านกว้างๆ กว่านั้น แถมหลังบ้านเขาปลูกเป็นหอพัก เมื่อก่อนอยู่บ้านทีไรชอบระแวงว่ามีคนกำลังแอบมองผมก็เลยเช่าคอนโดฯ อยู่แทน”

“อ๋อ ปิงเข้าใจ ดูบ้านปิงสิเป็นตึกแถวติดๆ กันไปหมด บางทีคนทะเลาะกันเสียงดังก็ได้ยิน ปิงก็อยากมีบ้านเป็นหลังๆ มีพื้นที่ให้ปลูกต้นไม้นะ แต่พูดเรื่องนี้ทีไรพ่อแม่ก็ชอบบ่นให้เก็บเงินไว้ๆ จะซื้อรถก็ไม่มีที่จอดอีก ไม่รู้ให้ปิงเก็บเงินไว้ทำไมเหมือนกัน”

“ทำไมพ่อแม่ไม่อยากย้ายล่ะครับ”

“กลัวย้ายไปแล้วขายของไม่ได้ คือพ่อแม่เขาชอบทำงาน ชอบทำกับข้าว ให้หยุดขายอยู่บ้านเฉยๆ ก็ไม่ยอม ลูกๆ เรียนจบหมดแล้วก็เอาเงินให้ใช้นะ แต่พ่อแม่ก็เก็บอย่างเดียวเลย”

“กลัวย้ายไปแปลกที่แล้วจะเหงาหรือเปล่า ตอนแรกแม่ผมก็ไม่กล้าไปอยู่กับพ่อนะ กลัวนั่นนี่ไปเรื่อย พอดีพ่อป่วยแม่เลยต้องไป แต่ก็เสียดายบ้านอีกนั่นแหละ ผมจะขายก็ไม่ให้ จะปล่อยเช่าก็กลัวทำบ้านเสีย พ่อก็ห้ามเหมือนกันผมเลยเอาบ้านมาทำโกดังเก็บของซะเลย” สภาพบ้านเก่าของเขายังดีแต่ไม่พร้อมอยู่ เพราะก่อนย้ายไปเขากับแม่ขายเฟอร์นิเจอร์บางส่วนไปเกือบหมด พวกตู้เสื้อผ้า ที่นอน เตียงที่ทำจากไม้ แม่กลัวว่าไม่มีคนอยู่เดี๋ยวปลวกจะขึ้นก็เลยขายบ้างแจกบ้างให้คนแถวนั้น บางส่วนก็นำไปบริจาค

“เออเรื่องห้องที่คุณสิงถามปิงขอรายละเอียดให้แล้วนะ น่าจะอยู่ที่เคาน์เตอร์ คุณสิงอยากลงไปดูเลยไหมครับ”

“เดี๋ยวค่อยลงก็ได้ครับ ยังไม่ได้เวลาทำงานเลย กว่าจะแอบขึ้นมาได้ อยู่นานๆ นะ”

“คุณสิงไม่โกรธนะที่ปิงแอบๆ แบบนี้ ถ้าเป็นเวลางานคงไม่เท่าไร แต่ขึ้นมาบนห้องแบบนี้ถ้ามีคนเห็นแล้วเอาไปฟ้องอีกปิงจะซวยเอา”

“เขามีกฎห้ามพนักงานคบกับลูกบ้านเหรอครับ” สิงหาไม่ได้คิดมากเรื่องนี้ เพราะอันที่จริงกรณีของเขาน่าจะทำให้น่านนทีลำบากมากกว่า

“ก็ไม่ได้ระบุชัด เพียงแต่ให้ระวังเรื่องความเหมาะสมในการติดต่อลูกบ้านน่ะครับ ปิงก็เข้าใจนะว่ามันดูไม่ดีจริงๆ แต่ก็นั่นแหละ...ปิงก็ไม่รู้จะทำไงเหมือนกัน”

“ไม่ได้คิดจะเลิกคุยกับผมนะ” สิงหามองหน้าอีกคนไม่ยอมให้หลบตา หากปัญหานี้ทำให้น่านนทีเครียดเขาต้องรีบแก้ไข ไม่ปล่อยให้กลายเป็นเรื่องใหญ่จนมากระทบความสัมพันธ์

“ไม่หรอกครับ ปิงไม่คิดว่าการที่เราคุยกันจะเป็นเรื่องผิด แต่ในมุมมองของคนอื่นมันก็พูดยาก ปิงเคยทำงานโรงแรมมาก่อน ถ้ามีพนักงานขึ้นห้องพักไปกับแขกแล้วบอกว่าสนิทกันเพราะแขกมาพักประจำเลยคุยกันบ่อย มันก็ฟังดูไม่ดีจริงไหมครับ เหมือนใช้หน้าที่เอื้อผลประโยชน์ส่วนตัว ถ้าไม่ทำงานที่นี่แล้วจะสนิทกับแขกได้ยังไง ต่อให้ไม่มีเรื่องชู้สาวก็เถอะ”

“ผมจะทำให้ปิงมีปัญหาเรื่องงานรึเปล่าเนี่ย ผมลืมคิดเรื่องนี้จริงๆ นะ”

“ตอนนี้ก็คงไม่เป็นไร ถ้ามีก็ค่อยว่ากัน”

“เดี๋ยวผมเร่งคนงานสร้างบ้านให้เสร็จเร็วๆ เลย ถ้าผมย้ายออกปิงก็ไม่มีปัญหาแล้ว” ทางแก้เดียวที่เขาพอจะนึกออกก็คือทางนี้ ถ้าไม่ได้อยู่ที่นี่จะคบกันก็ไม่ผิด ง่ายมาก

“โห พูดเหมือนง่าย บ้านคุณสิงกว่าจะสร้างเสร็จ ตกแต่งอีก ปีนี้จะเสร็จเหรอ”

“ตามกำหนดคือสิ้นปี คิดว่าน่าจะเสร็จตามกำหนดนะ เพราะทีมงานทั้งหมดมาจากบริษัทชวินหมดเลย ถ้าช่างหนีงานเมื่อไรผมจะไปลากมันมาสร้างแทน”

“โหดกับเพื่อนด้วยเหรอเนี่ย” น่านนทีแกล้งทำตาโตมองคนโหด แต่คนโหดไม่สะทกสะท้านอะไรเลย

“ยกเว้นปิงคนเดียวดีไหม”

“ไม่ต้องหยอดเลย ทีตอนกินข้าวไม่เห็นช่วยปิงเลย ปล่อยให้พี่ฝ้ายรุมอยู่ได้”

“รุมอะไร ผมก็เห็นฝ้ายพูดเรื่องจริงนี่นา” อยากให้น่านนทีงอนใส่ก็คือจริง อยากง้อก็จริงอีก น่ารักก็จริง พูดเก่งแต่เต็มใจฟังก็จริง ฝ้ายพูดอะไรก็จริงไปหมด คำพูดที่ทำให้เขาได้ผลประโยชน์ตรงๆ แบบนี้จะไปขัดทำไม

“จริงๆ คุณสิงเป็นคนเจ้าชู้เงียบใช่ไหม ไม่ใช่พ่อพระแสนดีแบบคีตะเลยสักนิด เอาวิญญาณคีตะกลับมาเข้าร่างเดี๋ยวนี้” น่านนทีอยากโถมตัวไปเขย่าตัวสิงหา แต่แค่ขยับแล้วสิงหามองตาพราวเขาก็หยุด เรื่องอะไรต้องวิ่งไปเข้าปากเสือที่อ้าปากรอแบบนั้น เป็นคนหลอกแต๊ะอั๋งได้เนียนที่สุด ถ้าโถมเข้าไปจริงๆ อย่างน้อยๆ ก็ต้องหลอกจับเอวแน่ๆ เพิ่งกินอิ่มๆ เอวเป็นห่วงเลย ไม่ให้จับหรอก

“ไม่มีทาง ใครจะบ้าแอบรักเป็นสิบปีแล้วไม่บอกก็ช่าง ผมไม่เอาด้วยคน ถ้าชอบก็บอก อยากได้ก็จีบ แอบมองเงียบๆ ให้เสียใจไปวันๆ ผมไม่ไหวนะ” สิงหานึกถึงคีตะในเรื่องแล้วพบว่าแทบไม่มีส่วนไหนเหมือนตัวเขาเลย อย่างน้อยเขาไม่มีทางแอบมองคนที่รักเงียบๆ แบบนั้นแน่นอน

“แสดงว่าคุณไม่เคยแอบรักใครเลยใช่ไหม สงสัยมีแต่คนแอบรักมากกว่า”

“ไม่เคยแอบเลยจริงๆ อย่างที่ปิงรู้ ผมเคยมีแฟนคนเดียว ก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้สนใจใครขนาดที่อยากจีบด้วย”

“กับแฟนเก่าคุณสิงก็ไปจีบก่อนเหรอ” น่านนทีแอบอึ้งนิดหน่อย ฟังวีรกรรมแฟนเก่าที่ชื่อพีทแล้วไม่เข้าใจว่ามีดีอะไรให้คนแบบสิงหาตามจีบได้

“ถ้าบอกว่าเขาตามจีบผมจะฟังดูอวดตัวไปไหม”

“ปิงว่ามันน่าเชื่อถือกว่า ฟังวีรกรรมเขา แล้วก็ฟังจากคนอื่นเล่าให้ฟัง ปิงคิดไม่ออกว่าเขามีอะไรให้คุณสิงชอบถึงขั้นตามจีบได้ เอาจริงๆ นะ ตอนนี้ปิงยังนึกไม่ออกเลยว่าทำไมคุณคบกันได้ตั้งหลายปี” เขาไม่อยากบอกว่าแอบไปค้นข่าวเก่าๆ มาอ่าน ความจริงก็ไม่ได้ตั้งใจค้นแต่ออมชอบเปิดให้ดู ก็เลยอ่านดูนิดๆ ผ่านๆ ไม่ได้อยากรู้สักนิด

“ตอนเพิ่งคบกันมันยังเรียนกันอยู่ก็มีความสุขตามวัย เฮฮากับเพื่อนๆ แต่พอทำงานเยอะขึ้นหลังเรียนจบอะไรมันก็เริ่มเปลี่ยน ถ้าย้อนกลับไปได้ผมก็คงคบกับเขาอยู่ดี ช่วงเวลาที่ดีมันก็มีเยอะ เพียงแต่เรื่องแย่ๆ มันร้ายแรงมากเกินไปเท่านั้น”

“แรกๆ ที่คบกันเขาดีมากเลยเหรอครับ” น้ำเสียงน่านนทีสลดลงนิดหน่อยโดยไม่รู้ตัว จากรูปตามข่าวที่เห็นเขาก็รู้ว่าแฟนเก่าสิงหาหน้าตาดีมาก ฐานะดีมาก เป็นดารานายแบบได้สบายเลย

“ผมไม่ได้บอกว่าเขาดีกว่าคนอื่นนะ แต่ตอนนั้นที่คบกันมันก็ดีพอแล้ว เหมือนมีเพื่อนแต่พิเศษกว่าเพื่อนคนอื่น ทำอะไรได้มากกว่า”

“........” ทำอะไรได้มากกว่า!! น่านนทีทวนคำแล้วแอบตาโตกับเหตุผลที่ได้ยิน

“คิดไปถึงไหนล่ะนั่น ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้นเลยนะ” สิงหาแกล้งแซวคนแก้มเริ่มแดง แก้มใสอะไรขนาดนั้น

“อะไรเล่า ปิงไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย” เขาปฏิเสธเสียงแข็ง แต่ทำไมคำนั้นมันติดหูก็ไม่รู้ ทำอะไรได้มากกว่า!!

“แล้วถ้าผมหมายถึงเรื่องนั้นล่ะ”

“ทะลึ่งว่ะ!”

“ฮ่าๆๆ ขึ้นว่ะเลยเหรอ ก็คนเป็นแฟนมันต้องพิเศษเรื่องนั้นอยู่แล้วไหมล่ะ มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ส่วนอื่นมันก็ดี มีอะไรก็พูดกันตรงๆ ทะเลาะกัน เอาแต่ใจบ้าง ผมก็มีหน้าที่ง้อ คอยตามใจไปเรื่อย ถ้าผมเล่าแล้วปิงห้ามงอนนะ โอเคไหม”

“โอเค เรื่องอดีตปิงไม่ใส่ใจหรอก ใครๆ ก็มีแฟนเก่า ปิงก็มี เพราะงั้นเล่ามาเลยครับ”

“ผมว่าเราเปลี่ยนมาเรื่องแฟนเก่าปิงก็ดีนะ” สิงหาอยากเปลี่ยนเรื่องทันทีที่ได้ยินคำนี้ นานๆ ทีอีกฝ่ายจะพูดเรื่องแฟนเก่าตัวเอง

“อ้าว อะไรอะ ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่องเลย มันค้างคานะ เดี๋ยวปิงต้องลงไปทำงานแล้วด้วย เร็วๆ ครับ เล่ามา”

“งั้นคราวหน้าปิงต้องเล่าเรื่องแฟนเก่าปิงบ้างนะ แลกกัน”

“โอเค ดีล” น่านนทียื่นมือมาจับกับสิงหาแทนคำสัญญา พอจะดึงมือกลับอีกฝ่ายแกล้งรั้งไว้จนต้องทำตาดุใส่ถึงยอมปล่อย บอกแล้วว่าคนนี้เป็นพวกตีเนียนเก่ง แป๊บๆ หลอกจับมืออีกละ

“คือผมไม่ชอบเปลี่ยนแฟนบ่อย เคยคิดว่าถ้าคบใครก็จะคบกันไปนานๆ พอมีแฟนก็เลยพยายามประคับประคองทุกอย่างให้ไปกันรอด คือพีทก็มีหลายอย่างที่ผมชอบถึงคบได้นาน เคยทะเลาะจะเลิกกันก็บ่อย บางทีผมเหนื่อยไม่อยากง้อแต่มันรู้ตัว ก็เข้ามาง้อมาคลอเคลียผมก็หายละ พอเลิกกันครั้งนี้เพื่อนก็ห่วงนั่นล่ะว่าเดี๋ยวจะเข้ารอยเดิม แต่มันเป็นไปไม่ได้หรอก ผมชอบคนขี้อ้อนนะบอกไว้ก่อน ชอบให้มานัวเนีย มันรู้สึกน่ารักดี ถ้าเกิดผมกับปิงทะเลาะกันแล้วผมโกรธ ปิงแค่มากอดแขนผมอ้อนๆ แค่นี้ก็หายแล้ว”

“ใจอ่อนแบบนี้ไงครับเลยโดนหลอก” เขาเหล่มองแขนแบนๆ ที่กล้ามหายไปเกือบหมด ให้ไปกอดแขนนี้แล้วอ้อนเนี่ยนะ ไม่เอาด้วยหรอก

“โหปิง หักมุมกันแบบนี้เลยเหรอ จะหยอดทำคะแนนสักหน่อย”

“เล่าเรื่องแฟนเก่าทำคะแนนเนี่ยนะ คะแนนติดลบน่ะสิ” เขามองคนมีความคิดประหลาดไม่เหมือนชาวบ้าน มีการทำคะแนนวิธีนี้ด้วยเหรอ

“ก็แสดงความจริงใจก่อนคบไง ผมแค่อยากบอกว่านิสัยอะไรผมก็รับได้หมด ขอแค่ไม่โกหกกันก็พอ ที่คบกับแฟนเก่าได้นานเพราะผมเคยเชื่อว่ามันไม่เคยโกหกผม ตอนที่รู้เรื่องก็เลยเสียใจมากที่ไว้ใจคนผิดมาตลอด ที่ต้องใช้เวลาทำใจนานก็เพราะนั่งนึกย้อนหลังว่ามีเรื่องไหนที่โกหกกันหรือเปล่า มันแย่นะ กลายเป็นว่าความทรงจำดีๆ หลายๆ เรื่องของเรามันไม่สวยงามเหมือนเดิม”

“ปิงก็ไม่ชอบคนโกหก ไม่ชอบคนโลเลด้วย ถ้าคุณสิงเปลี่ยนใจก็อย่าหลอกปิงนะ”

“สัญญาครับ ตกลงคบกันนะ”

“เอ่อออ.....ทำไมมาเข้าเรื่องนี้ได้ล่ะ ปิงว่าปิงลงไปทำงานดีกว่า” น่านนทีมองนาฬิกาแล้วลุกเตรียมไปทำงาน ไปก่อนเวลาสักห้านาทีสิบนาทีไม่เป็นไรหรอก

“เดี๋ยวสิครับ ให้คำตอบผมก่อน” สิงหาจับข้อมือคนลุกหนีไว้ ไม่ยอมให้เดินไปไหน เลื่อนมือลงมาจับที่มือนิ่มๆ แต่เล็กกว่าเขาเยอะเลย

“ก็...คุณสิงรอไม่ไหวแล้วเหรอ เราเพิ่งคุยกันไม่นานเองนะ” สิงหาดึงมือให้เขานั่งลงข้างๆ ตามเดิมแต่เขายื้อแขนเอาไว้ รู้สึกว่าการนั่งลงไปไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไร

“รอไหวครับ แต่รอสิบปีแบบในหนังไม่เอานะ”

“ไม่นานขนาดนั้นหรอก”

“งั้นบอกเวลาคร่าวๆ ได้ไหม” เขาถามแบบไม่ได้ต้องการเร่งรัด สิงหาเชื่อว่าถ้าถึงเวลาเราจะรู้ได้เอง สำหรับเขาตอนนี้อยากคบเลยไหมก็คืออยาก แต่ถ้ายังไม่พร้อมก็ไม่เป็นไร

“ก็...ไม่รู้เหมือนกัน ใกล้แล้วมั้ง”

“ใกล้แค่ไหน ตอนนี้เต็มร้อยให้กี่คะแนนดี”

“อืม...ยี่สิบ”

“โหปิง กดคะแนนเกินไปรึเปล่า อย่าใจร้ายนักสิครับ” เขย่ามือที่จับไว้เบาๆ เจ้าของมือแกล้งมองรอบๆ ห้องไม่หันมาสบตากันเลย

“...ก็อีกยี่สิบจะเต็มร้อยไง”

“.....ขอบคุณครับ ดีใจนะเนี่ย อยากกอดขึ้นมาเลย”

“ไม่ต้องเลย วันนี้ทะลึ่งหลายรอบแล้วนะ ตกลงเป็นคนอย่างนี้ใช่ไหม”

“ไว้เต็มร้อยแล้วผมให้พิสูจน์นะ”

“งั้นลดเหลือเจ็ดสิบพอ”

“ใจร้ายไม่ให้ออกจากห้องนะ”

“คุณสิง! ห้ามแกล้ง!! แล้วมือนี่ก็ปล่อยเลย ปิงต้องไปทำงานแล้ว” คนโวยวายขอมือคืนแต่สะบัดเบาๆ ยังไงก็ไม่หลุด คนที่จับไว้ก็ไม่ยอมปล่อยสักที

“โอเค ไม่แกล้งก็ได้ ห้ามหักคะแนนกันนะ ไปครับเดี๋ยวผมลงไปด้วย”

“มือน่ะมือ เนียนเลยนะ”

“ซ้อมให้ชินมือเฉยๆ ไปเร็ว เดี๋ยวเข้างานสาย” สิงหาทำเป็นเหลียวมองมือที่จับไว้แต่ก็ไม่ปล่อยออก เดินนำออกจากห้องเข้าลิฟต์ก็ยังจับมือนิ่มๆ ที่เจ้าของทวงคืนแต่ไม่พยายามยื้อไปเอง น่านนทีทำเป็นมองเลขลิฟต์ค่อยๆ น้อยลง ไม่สนใจสายตาสิงหาที่จ้องอยู่ใกล้ๆ รู้สึกถึงลมหายใจข้างขมับอุ่นๆ ลิฟต์หยุดชั้นล่างสุดมือของทั้งคู่ถึงค่อยๆ คลายออกจากกัน...ซ้อมไว้ก่อนนะ



—¤÷(`[ ♌ ♡ ▽ ]´)÷¤—



หวานๆ จ้าาาาาาา

 :mew1:

ออฟไลน์ Tuffina

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น่ารักกกกกกก แต่ :hao5:ดูจากต้นๆของตอนไม่น่าหวานได้นาน แง

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
เอ็นดูนู๋ปิง :mew1:

ออฟไลน์ Peterpanmama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอยยยหลอนเหลือเกิน

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
ขอให้เป็นผีติ่ง

เป็นผีมาดี

และเป็นผีจิ้นวาย

ไม่งันหนูปิงรำบากแน่

ทำไมเรารู้สึกว่า พี่ธารกับชวินเคมีเข้ากันอ่ะ

ออฟไลน์ กุหลาบเดียวดาย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
โอ๊ยลุ้นเรื่องลับ มากกว่าเรื่องรักละเนี่ย

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
หวานกันไป

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
หวานๆ  :pig4: o22

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
น่ารักจริงๆตอนนี้ รู้สึกถึงเสน่ห์กับความเจ้าชู้ของคุณสิงเลย    :impress2:

ว่าแต่ทำไมคุณสิงยังกล้าอยู่ในห้องจะจิตแข็งเกินไปแล้ว  :ling3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
หลอนอยู่ช่วงแรก แต่ทำไมมาตกถังน้ำตาลเอาตอนท้ายเล่า 5555

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
รูมเมทร่างโปร่งใสของคุณสิงมีจริง ชัดไม่ต้องเดาเลย แต่ที่สงสัยคือ มาปรากฎให้เห็นเพื่อสิ่งใดกันคะ? หลอนจริงจังอ่ะ  :call:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ผีในห้องคุณสิงคือต้องการอะไรอ่ะ  :ling3: :ling1:

ออฟไลน์ janehsih

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ปิงน่าร้ากกกกกกก
ตอนนี้หวานๆ จริงๆ
แต่ตอนที่เล่าเรื่องหนังอะ ก็คือน้ำตาซึม สงสารคีตะ

ออฟไลน์ rainichxx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตอนนี้หวานมากกกก แต่ผีในห้องก็คือแสดงตัวอย่างต่อเนื่องจริง ๆ
มาจากไหนก็ไม่รู้ ต้องการอะไรก็ไม่ทราบ
น่าจะเป็นผีจากในห้องมั้ย เพราะข้างนอกคุณสิงก็ยังไม่เจออะไร ปกติดีทุกอย่างเลย  :mew5:

ออฟไลน์ Funnycoco

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เป็นคู่ที่น่ารักดี พูดมากกันทั้ง2ฝ่าย :katai2-1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เกือบจะร้องไห้แล้วจริงๆนะ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
หวานๆเนียนๆไปตอนนี้ :กอด1:

ออฟไลน์ Quatree

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
บทคิตะในหนังคือกีมาก :pig4:

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
ซ้อมไว้ๆ  :hao6:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด