Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนจบ "พลัดพรากชั่วนิรันดร์"
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนจบ "พลัดพรากชั่วนิรันดร์"  (อ่าน 18029 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0

ออฟไลน์ Kanni

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รอเจ้าตัวเล็กอยู่นะ สู้ๆทั้งสองคน

ออฟไลน์ thanatcha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-2



Hydrangea 21


                       ไล่กว้านหลินหอบถุงอาหารเข้ามาในห้องพักที่ภัทรนอนอยู่ รอยยิ้มเนือยๆถูกส่งมาให้ ภัทรในตอนนี้ไร้ความสดใสดูไม่มีชีวิตชีวาเหมือนเมื่อก่อน การนอนนิ่งๆอยู่บนเตียงเป็นระยะเวลากว่าหนึ่งเดือนทำให้ความสดใสที่เคยมีหายไป ไหนจะเป็นห่วงและคิดถึงลูคัส อยากเจอลูกใจจะขาดก็ทำไม่ได้เพราะทุกครั้งที่ลูคัสมาเด็กน้อยก็จะร้องให้แม่อุ้ม แต่ณภัทรในตอนนี้ทำไม่ได้ สงสารลูกจนน้ำตาร่วง ไหนจะต้องกินอาหารให้ได้มากๆเรียกว่ากินเกือบทั้งวันเพื่อเพิ่มน้ำหนักให้กับเจ้าตัวน้อยในท้อง

ณภัทรรู้สึกขอโทษลูกในท้อง อาจจะเป็นเพราะตนเองสุขภาพไม่แข็งแรงพอที่จะอุ้มท้องแบบคนปกติได้ หรืออาจจะเป็นเพราะตนไม่เชื่อฟังคำเตือนของศลัยเอาแต่เดินทำนู่นทำนี่ทุกวันจนทำให้ลูกต้องมาลำบากตั้งแต่อยู่ในท้อง ภัทรหลับตาลงยามกว้านหลินเดินมากดจูบลงบนหน้าผากของตน

            “วันนี้เป็นยังไงบ้าง? เบื่อมากมั้ย?”กว้านหลินเอ่ยถามภรรยาพลางหยิบเอาโจ๊กเจ้าดังที่ตนเองลงทุนไปต่อแถวซื้อมาให้เพราะภัทรบ่นอยากกินใส่ชามทั้งสองถุงแล้วเลื่อนเก้าอี้มานั่งข้างเตียง เป็นเรื่องปกติไปเสียแล้วที่เขาจะกลับมากินข้าวพร้อมภัทรโดยการกินในชามเดียวกัน ป้อนภัทรคำหนึ่งตัวเขากินคำหนึ่ง

            “เบื่อมากครับ”

            “ขอโทษนะที่ทำให้ต้องลำบาก”อีกครั้งที่กว้านหลินพร่ำขอโทษเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกวันทุกคืน

            “ไม่อยากฟังคำขอโทษแล้วครับ อยากฟังเรื่องของลูคัสมากกว่า”

            “ไอ้ตัวแสบนั่นเหรอ เมื่อกลางวันแวะเข้าไปดูกำลังเล่นรถมอเตอร์ไซค์ แทบจะนอนขับอยู่แล้ว ที่ตลกก็คือพี่แกล้งเอาขนมลูกมากินลูคัสมันแหวใส่เลย รีบปีนลงจากรถจะมาแย่งขนมคืน ขาสั้นไง อ้วนด้วย สะดุดล้มหน้าทิ่ม”กว้านหลินส่งเสียงหัวเราะเมื่อนึกถึงเจ้าลูกชายที่ส่งเสียงดุเขาแบบไม่เป็นภาษาแต่ดันสะดุดขาตัวเองล้มกลิ้งราวลูกบอล ภัทรมีสีหน้าตกอกตกใจด้วยความเป็นห่วงลูก


            “ยังจะมาขำลูกอีกครับ แกเจ็บหรือเปล่า?”

            “ไม่เจ็บหรอกจับทันหน้ายังไม่ทันทิ่ม เด็กคนนี้แปลกจริงๆเวลาป้อนนมป้อนข้าวก็เชื่องดีพออิ่มปุ๊บทรยศปั๊บ”

          “คุณก็ไปว่าลูก แกยังเล็กยังคิดอะไรไม่เป็นหรอกครับ”

            “เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องพาแกมาฉีดวัคซีนจะพามาหานะ”

            “กลัวลูกร้องไห้”ภัทรพูดเสียงแผ่ว สูดน้ำมูกเบาๆ ใจคนเป็นแม่แสนอยากจะเจอลูกหากแต่ยามลูกทิ้งตัวลงไปร้องไห้เพราะแม่ไม่อุ้มนั้นก็แสนจะน่าสงสาร

            “เดี๋ยวจัดการเอง กินเยอะๆนะ”กว้านหลินป้อนโจ๋กให้ภัทร
            “ผมกินจนอ้วนเป็นตุ่มแล้วครับ รูปร่างน่าเกลียดจะแย่แล้ว”

            “ไม่เห็นน่าเกลียดเลย นุ่มๆนิ่มๆดีออก”กว้านหลินแกล้งจิ้มลงบนหน้าท้องนูนของภัทรอย่างหยอกล้อ เขารู้ดีว่าภัทรค่อนข้างเป็นกังวลกับรูปร่างที่ขยายใหญ่ของตัวเองมากเพราะต้องกินเยอะๆเพื่อให้ลูกในท้องตัวโตและไม่สามารถลุกขึ้นมาทำนู่นทำนี่ได้เหมือนเมื่อก่อนทำให้น้ำหนักเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าเรียวที่เคยเห็นสันกรามเด่นชัดกลายเป็นหน้ากลม แก้มที่เคยฟูหน้ารักบัดนี้กลมคล้ายซาลาเปาสองลูกเขื่องๆ

สรีระของภัทรเปลี่ยนแปลงจนเห็นได้ชัด

ใครจะว่าน่าเกลียดขึ้นเขาไม่สนใจ สำหรับเขาไม่ว่าจะอ้วนหรือจะผอมภัทรก็ยังคงน่ารักเสมอ

            “กินไปเถอะ ไม่เป็นไรหรอก จะเป็นแบบไหนก็รัก”     

            “เดี๋ยวนี้ปากหวานเก่งนะครับ”ภัทรอดไม่ได้ที่จะแซวคนเป็นสามีด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ทั้งสองคนนั่งคุยเรื่องสัพเพเหระจนกระทั่งกินอิ่ม กว้านหลินก็จัดแจงรูดม่านปิดเพื่อเช็ดตัวให้ภัทร จากนั้นจึงไปอาบน้ำทำธุระส่วนตัวก่อนจะออกมาหยิบแวนตาและกรรไกรตัดเล็บมานั่งบนเตียง

            “เล็บยาวแล้ว ตัดหน่อยนะ”กว้านหลินไม่รอให้ภัทรอนุญาตชายหนุ่มขยับแว่นให้เข้าที่ก่อนจะค่อยๆตัดเล็บให้ภัทรทีละนิ้วจนกระทั่งครบหมดทั้งสิบนิ้ว จากนั้นก็เปลี่ยนมานั่งที่ปลายเตียง
           
    “คุณกว้านหลิน ไม่ต้อง...”ภัทรร้องท้วงเมื่อกว้านหลินจับเท้าของตัวเองหากแต่อัลฟ่าหนุ่มก็ทำหูทวนลม ปล่อยให้ภัทรมองการกระทำของเขาอย่างตื้นตัน

กว้านหลินในตอนนี้ไม่ต่างจากพี่กว้านหลินตอนอายุ 15 เลยซักนิด

 ทั้งใจดีและอ่อนโยน

 

            ไล่กว้านหลินและเฉินเสี่ยวป๋ายก้าวเท้าเร็วอย่างรีบเร่งเข้าไปในห้องทำงานใหญ่ของผู้เป็นพ่อ ด้านหน้าห้องบอดี้การ์ดหลายคนยืนอารักขาบุคคลด้านในที่ตั้งแต่ไล่หยวนช่างสิ้นลม สตรีหมายเลขหนึ่งของตระกูลไล่ก็ขึ้นแท่นผู้บริหารที่มีตำแหน่งใหญ่ที่สุด กว้านหลินทำความเคารพผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่ใหญ่ สตรีวัยหกสิบปีกำลังยืนมองรูปถ่ายบานใหญ่ที่ติดไว้ด้านขวาของห้องด้วยสีหน้าราบเรียบเดาความคิดในใจของนางไม่ได้เลยซักนิด อู๋อี้เฟยยังคงความสง่างามไม่ต่างจากวันวานเลยซักนิด หญิงวัยหกสิบปีส่งยิ้มอ่อนหวานมาให้

            “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะกว้านหลิน ดูโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวต่างจากตอนไปอเมริกาครั้งก่อนจนแม่จำเธอแทบไม่ได้”หญิงชราลูบใบหน้าลูกชายคนเล็กอย่างแผ่วเบารอยยิ้มเยือกเย็นอันเป็นบุคลิกประจำตัวส่งมาให้เช่นทุกครั้ง

            “แต่แม่ใหญ่ยังสวยเหมือนเดิมนะครับ”ชายหนุ่มประคองสตรีชราไปนั่งที่เก้าอี้ของพ่อก่อนจะย้ายตัวเองมานั่งด้านตรงข้าม

            “เห็นว่าช่วงนี้มีปัญหาส่วนตัว”นางรับแฟ้มเอกสารที่กว้านหลินส่งไปให้เปิดดู ปากก็เอ่ยถามราวกับคุยเรื่องสัพเพเหระ แต่กว้านหลินรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องคุยเล่น

อู๋อี้เฟยกำลังสอบสวนเขาอยู่

            “ก็นิดหน่อยครับ”

            “อัลฟ่าดีๆมีอีกเยอะนะ ถ้าจะต้องสละชีวิตใครไปอีกซักคนแม่ไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญให้เธอต้องลดเกียรติไปนั่งเฝ้านอนเฝ้า โดยเฉพาะพวกสายเลือดชั้นต่ำที่ทำให้พ่อเธอตาย”

            “แต่ในท้องนั่นมีเลือดเนื้อเชื้อไขของผมอยู่นะครับแม่ใหญ่ อีกอย่างเรื่องที่ผ่านมาภัทรได้ชดใช้อย่างสาสมแล้ว”

            “ถ้าเธอบอกว่ามันชดใช้อย่างสาสมแล้วทำไมไม่ปล่อยมันไปล่ะ ยังจะเก็บไว้ใกล้ตัวให้เป็นหอกข้างแคร่ทำไม เธอรู้หรือเปล่าว่าการยกลูกของคนทรยศขึ้นมาอยู่ในฐานะภรรยามันจะทำให้ความน่าเชื่อถือของเธอลดลง”

            “แต่แม่ใหญ่ครับ เรื่องนี้ผมว่ามันไม่ควรเอามาเกี่ยวกัน ภัทรเองก็ไม่ได้รู้ได้เห็นในสิ่งที่ชานซองทำ”

            “แล้วใครจะสนใจเหตุผลข้อนั้นล่ะ ไล่กว้านหลินเธออายุจะสามสิบแล้วนะ บางสิ่งบางอย่างต่อให้รักมากแค่ไหนเธอก็ต้องเสียสละทิ้งมันไปบ้าง ตระกูลของเราขึ้นมาได้ถึงขนาดนี้ไม่ได้เป็นเพราะกินบุญเก่าไปวันๆนะ มันเป็นเพราะผู้สืบสกุลที่ผ่านมาเด็ดขาดกับทุกเรื่อง แม่ไม่เห็นด้วยที่จะยกเด็กคนนั้นขึ้นมาเป็นเมียอย่างออกหน้าออกตา ยิ่งลูกของมันแล้วแค่รับรองบุตรก็พอ ถ้าเธอหาคู่ไม่ได้แม่จะหาให้ จะเอาแบบไหนเรียบร้อยเพียบพร้อมหัวอ่อนเชื่อฟังหรือแบบที่มั่นใจในตัวเอง คุณหนูสกุลหวังดีมั้ยเธอก็เคยเจอแล้วนี่”

            “แม่ใหญ่ครับ เรื่องงานถ้าผมทำผิดพลาดแม่ใหญ่ตำหนิหรือลงโทษผมได้เต็มที่นะครับ แต่เรื่องครอบครัวของผม ผมขอ ผมอยากให้แม่ใหญ่เปิดใจให้คนของผมบ้างภัทรเป็นเด็กดีและอดทนมากคนหนึ่งทั้งๆที่ผมทำร้ายๆกับเขาไปตั้งเยอะแต่เด็กนั่นมีแต่คำว่าให้อภัยเสมอและตอนนี้เขาก็กำลังอดทนเพื่อลูกของเราอยู่”กว้านหลินพยายามอธิบายให้แม่ใหญ่ฟังหากแต่อู๋อี้เฟยผิดแฟ้มเสียงดังปึง รอยยิ้มใจดีจางหายไปจากใบหน้าแล้ว

            “เธอคิดว่าเด็กนั่นจะรักเธอจริงๆได้เหรอกว้านหลิน เธอกำลังเผยจุดอ่อนให้มันเล่นงานเธอต่างหากเล่า คิดดูเถอะมันจะมีใครที่ไหนรักคนที่ฆ่าพ่อตัวเองต่อหน้าต่อตาได้ เหมือนที่เธอก็ทำใจยอมรับพ่อของเด็กนั่นให้อยู่ในฐานะพ่อตาไม่ได้นั่นแหละ ตอนนี้กำลังรักกำลังหลงกันเธออาจจะมองข้ามจุดนี้ไป แต่พอวันหนึ่งที่ความสดใหม่มันเจือจางความรักความหลงเริ่มคงที่ไม่มากขึ้นเธอจะเห็นความจริงข้อนี้ ขอเถอะนะ เธอเองก็ไม่ใช่วัยรุ่นที่จะมาหลงลมกับความรักฉาบฉวยแล้ว ทำอะไรคิดให้เยอะๆ แม่เลี้ยงเธอมาเพื่อให้โตมารับใช้วงศ์ตระกูล อย่าเอาเลือดชั่วเข้ามาแปดเปื้อนสายเลือดอันบริสุทธิ์ของเราเลย เธอเองถ้ายศฐาบรรดาศักดิ์ยังเป็นที่ยอมรับนับหน้าถือตาในปัจจุบันก็ถือว่าได้เลือดสีน้ำเงินมาครึ่งตัว ท่านหญิงคงไม่ดีใจนักถ้าลูกชายคนเดียวใฝ่ต่ำของเลือดชั่วมาร่วมสกุล แม่เองก็รักเธอไม่น้อยไปกว่าคริสและจอห์นนี่ก็อยากจะขอให้เธอเอาคำพูดแม่ไปคิดให้มากๆ ส่วนเรื่องงาน เธอทำดีมากไม่มีที่ติ เลขาเฉิน เดี๋ยวส่งแฟ้มกลับไปที่โรงแรม ก่อนบินคืนนี้ฉันจะตรวจอีกทีแล้วจะให้เลขาหม่าส่งคืนมาให้”หล่อนหันไปสั่งเสี่ยวป๋ายที่ยืนรอคำสั่งอยู่มุมห้อง เสี่ยวป๋ายรีบเดินมารวบรวมแฟ้มตามคำสั่ง ผู้เป็นประมุขใหญ่ของบ้านลุกขึ้นยืนเพื่อเตรียมตัวกลับโรงแรมที่พัก กว้านหลินจะเข้าไปประคองหากแต่เธอยกมือขึ้นห้าม

            “ไม่ต้องไปส่งแม่หรอก ตั้งใจทำงานเถอะ”

            “ครับ”กว้านหลินก้มหัวรับคำ

            “อ่อ แล้วก็ เก้าอี้ตัวนี้ของพ่อเธอ อาจจะนั่งสบายก็จริง แต่ถ้านั่งไม่ดีวันหนึ่งอาจจะตกได้ เข้าใจแล้วใช่มั้ย?”


            “ครับ”อู๋อี้เฟยยิ้มเมื่อลูกชายคนเล็กรับคำ หล่อนประคองใบหน้าของลูกก่อนจะจูบลงบนแก้มของกว้านหลินเบาๆ

            “แม่กลับก่อน หวังว่าเย็นนี้เธอคงมีเวลาว่างมากพอจะไปกินมื้อเย็นกับแม่นะ”

            “ได้ครับ ผมจองร้านอาหารไว้แล้วเดี๋ยวตอนเย็นจะไปรับแม่นะครับ”อี้เฟยยิ้มรับ หล่อนจากไปพร้อมบอดี้การ์ดที่คริสให้ลีโอคัดเลือกมาเพื่อดูแลมารดาของตน ทิ้งระเบิดเวลาไว้ในใจของกว้านหลิน อัลฟ่าหนุ่มทรุดตัวลงนั่งอย่างอ่อนแรง ปัญหาของเขากับภัทรไม่ได้เบาลงเลยซักนิด การที่แม่ใหญ่มาพูดกับเขาด้วยตัวเองทั้งที่ก็นิ่งไปหลายเดือนแสดงว่าพี่ใหญ่โน้มน้าวไม่สำเร็จ การที่เขาจะแต่งภัทรเข้าบ้านก็เป็นเรื่องยากเหลือเกิน

ในใจของอัลฟ่าหนุ่มทั้งหนักและหน่วงคล้ายมีเหล็กเผาไฟนับพันดันทาบทับ ชายหนุ่มปิดเปลือกตาลงอย่างอ่อนล้า

ต้องหาทาง

จะทำยังไงดี...ทำยังไงดีกับเส้นทางของพวกเรา

พี่มองไม่เห็นทางเลยภัทร

          บรรยากาศบนโต๊ะอาหารมื้อเย็นไม่ดีเลยซักนิด หัวข้อที่แม่ใหญ่หยิบยกขึ้นมาพูดยังไม่พ้นเรื่องครอบครัวของเขา ชายหนุ่มฝืนตักอาหารใส่ปากโดยไม่ได้รู้รสชาติของอาหารที่ใครหลายๆคนต่างรีวิวกันในโซเชียลว่ามันแสนจะเลิศรสเลยซักนิด

เพราะไม่ว่าจะกินคำไหนก็มีเพียงความขมปร่าที่แผ่ซ่านจากปลายลิ้นถึงหัวใจ

          "ความน่าเชื่อถือของเธอลดลงตั้งแต่เปลี่ยนตัวเลขาจากอี้เฉินนมาเป็นเสี่ยวป๋ายเพียงเพราะเรื่องหึงหวงและไม่ได้เกี่ยวกับงานเลยหากเธอยังยกเด็กนั่นมาแต่งงานด้วยยกให้ออกหน้าออกตาบรรดาพนักงานบริษัทรวมทั้งผู้ถือหุ้นจะมองเธอยังไงรู้บ้างมั้ยเธอจะได้ชื่อว่าสมรู้ร่วมคิดกับคนทรยศฆ่าพ่อตัวเองเพื่อฮุบบริษัท ถึงวันนั้นต่อให้แม่อยากช่วยเธอแค่ไหนก็ช่วยไม่ได้แล้ว"นั่นคือประโยคทิ้งท้ายที่อู๋อี้เฟยพูดกับเขาก่อนจะแยกจากกัน


          "เป็นอะไรครับทำไมหน้าเครียดจังเลย?"ภัทรที่สังเกตเห็นถึงใบหน้าเคร่งเครียดของกว้านหลินหลังจากกลับมาถึงโรงพยาบาลเอ่ยถามอย่างห่วงใย

นานแล้วที่กว้านหลินไม่ได้ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างนี้  ไล่กว้านหลินยามที่กำลังมีเรื่องไม่สบายใจหรือไม่พอใจอะไรน่ะดูออกง่ายจะตายไป หากแต่เจ้าตัวกลับส่ายหน้าปฏิเสธ

          "ไม่มีอะไรหรอกภัทรนอนเถอะ  ดึกแล้วนะเดี๋ยวลูกง่วง"ณภัทรหัวเราให้กับคำพูดนั้นของผู้เป็นสามี

ช่างเป็นมุกที่ตลกร้ายเสียเหลือเกินสำหรับโอเมก้าที่ต้องนอนติดเตียงอยู่อย่างนี้

      "ผมนอนมาจะสองเดือนแล้วนะครับ มีอะไรไม่สบายใจทำไมไม่บอกกันล่ะครับ คุณกว้านหลินชอบเก็บทุกอย่างไว้คนเดียว"น้ำเสียงราวกับกำลังตัดพ้อเอ่ยกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี กว้านหลินกดจููบลงบนหน้าผากของภัทร รอยยิ้มอ่อนโยนมอบให้กับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่ชีวิตคู่แห่งโชคชะตา

เขาไม่มีทางให้ภัทรรับรู้สิ่งที่แม่ใหญ่พูดเด็ดขาด เด็กคนนี้อดทนและเจ็บปวดมามากเกินพอแล้ว

          "คุณกว้านหลินครับ ถ้ามีอะไรที่ไม่สบายใจ หรือมีปัญหาอะไรที่แก้ไขไม่ได้ก็บอกให้ผมรับรู้บ้างนะครับ ผมอยากแชร์ทุกอย่างจริงๆ ทั้งความทุกข์และความสุข ผมเชื่อนะครับว่าคงไม่มีปัญหาอะไรจะยิ่งใหญ่และยากลำบากไปกว่าเรื่องลูกที่เรากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้แล้ว"

          "รู้แล้วๆ มันไม่มีอะไรใหญ่หรอก แค่กำไรบริษัทไตรมาสนี้ลดลงนิดหน่อยเลยโดนแม่ใหญ่บ่นน่ะ ไตรมาสหลังนี้ไตรมาสหลังนี้คงต้องขยันมากขึ้นกว่าเดิม"กว้านหลินบีบจมูกคนที่ส่งสายตาเป็นห่วงเป็นใยอย่างหมั่นเขี้ยว เมื่อก่อนเขาไม่เคยคิดเลยว่าการมีครอบครัวจะช่วยให้หัวใจหายเหน็ดเหนื่อยได้ ยามที่พี่ๆทั้งสองคุยฟุ้งเรื่องเมียตัวเองให้ฟังกว้านหลินได้แต่เบะปากใส่และแอบคิดว่าพี่ชายทั้งสองคนของตนนั้นเพ้อเจ้อ แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าการที่มีใครซักคนพยายามปลอบเรายามท้อแท้ หรือแสดงความห่วงใยใส่ใจกันนั้นมันมีความสุขมากเพียงใดชายหนุ่มไม่ปล่อยให้ปัญหานี้ค้างคาอยู่ในใจนานนัก  รุ่งขึ้นเมื่อเดินทางมางบริษัทกว้านหลินไม่สนใจว่าตอนนี้ที่อเมริกาจะเป็นเวลาเท่าไหร่ ทายาทคนเล็กของตระกูลไล่ต่อสายตรงถึงพี่ชายคนโตทันที  รอสายเพียงไม่นานคริสก็รับสายพร้อมน้ำเสียงหงุดหงิดเต็มที่

         "ไอ้สาม แกจะโทรมาทำไมตอนนี้ กว่าลีโอจะกล่อมลูกหลับได้ฉันสองคนแทบหมดพลัง"คริสค่อยๆปิดประตูห้องอย่างแผ่วเบาแล้วเดินออกมาคุยด้านนอกปล่อยให้ลีโอที่เพิ่งคลอดลูกได้เดือนเศษนอนกับลูกชายตัวน้อย

          "พี่ใหญ่ไหนพี่บอกว่าจะคุยกับแม่ใหญ่ให้ไงเรื่องผมกับภัทร ทำไมแม่ใหญ่ถึงได้มาบังคับให้ผมกับภัทรเลิกกันล่ะ"

          "ฉันก็ไม่ได้นิ่งนอนใจนะไอ้สาม แต่กับแม่ใหญ่น่ะท่านเป็นคนระเบียบจัดอยู่ๆจะไปบอกให้เข้าใจอะไรแบบปุบปับน่ะเป็นไปไม่ได้ แกต้องใจเย็นๆ ฉันรับปากแกไว้แล้วยังไงก็จะช่วยเต็มที่แน่ๆ ตอนนี้แกดูแลภัทรให้ดีเถอะ อย่าให้หลานของฉันตายไปอีกคน แกโตเป็นพ่อคนแล้วเรื่องบางอย่างแกก็ต้องเด็ดขาดที่สำคัญ อย่าวู่วาม รู้จักที่จะรอบ้าง ฉันกับไอ้รองคอยช่วยแกอยู่เสมอ แต่เรื่องของแกกับภัทรมันใหญ่และต้องใช้เวลา ฉันก็อยากให้แกเข้าใจพวกฉันบ้างเข้าใจมั้ย?"

           "ไอ้เข้าใจมันก็เข้าใจแหละพี่ แต่แม่ใหญ่ท่านรบเร้าจะให้ผมไล่ภัทรไปแล้วทิ้งลูกไว้ ถ้าไม่ยอมเลิกกันลูกของผมจะไม่มีสิทธิ์ในหุ้นทั้งหมดที่เป็นของผม แม่ใหญ่ขู่จะถอดชื่อผมออกจากผู้ถือหุ้น พี่ต้องเห็นแก่หลานนะ"

          "เออๆ วางใจเถอะลูกแกก็หลานฉัน พวกฉันไม่ทิ้งแกหรอกยังไงซะตอนนี้ไม่ว่าแม่ใหญ่จะพูดอะไรแกก็เออออไปด้วยก่อนที่เหลือเดี๋ยวฉันจัดการเอง  โอเคมั้ย?"

          "ครับ  เอาตามนั้นก็ได้"


ในที่สุดภัทรก็ประวิงเวลาได้จนผ่าน 28 สัปดาห์ของการตั้งท้อง แต่ระหว่างนั้นเด็กน้อยเกิดอาการหัวใจวายอีกหนจนหมอนนท์ตัดสินใจให้ย้ายไปนอนที่ห้องเตรียมคลอด  กว้านหลินคอยติดตามอาการของภรรยาอย่างเคร่งเครียด เขาไม่รู้เลยว่าสิ่งที่พยายามกันมาตลอดสองเดือนนี้จะเป็นผลมั้ย เหมือนภัทรและลูกพร้อมจะทิ้งกันได้ตลอดเวลา  แม้ว่ายามอยู่ด้วยกันกว้านหลินจะยิ้มแย้มแจ่มใสเล่าเรื่องลูคัสให้ฟังราวกับตลกเสียเต็มประดาหากความจริงแล้วยามที่ไปทำงานได้อยู่คนเดียวในห้องทำงานอัลฟ่าหนุ่มต้องเสียน้ำตาไปแล้วตั้งหลายครั้งหลายหน

เขาไม่ได้เข้มแข็งเหมือนเปลือกนอกมีแสดงเลยซักนิด...

อันที่จริงแล้วไล่กว้านหลินคนนี้อ่อนแอยิ่งกว่าโอเมก้าที่กำลังเผชิญหน้าอยู่ระหว่างเส้นแบ่งระหว่างความเป็นกับความตายอย่างณภัทรเสียอีก

ไล่กว้านหลินไม่รู้เลยว่าเด็กคนนั้นไปเอาความเข้มแข็งและอดทนขนาดนั้นมาจากไหน  อาจเป็นพลังความรักของคนเป็นแม่ที่พร้อมจะสู้ทุกอย่างเพื่อสายเลือดในครรภ์  เขาอยากแบ่งเบาความยากลำบากของภัทรบ้าง แต่สิ่งที่ทำได้คือคอยโอบกอดและบอกว่าเขารักภัทรในทุกค่ำคืน

สัปดาห์ที่ 30 ผ่านไปอย่างเชื่องช้ากำลังเข้าสู่สัปดาห์ที่ 31 ในอีก 2 วันข้างหน้า  ระหว่างที่กว้านหลินกำลังนั่งดูวงจรปิดที่ติดเอาไว้ที่บ้านเพื่อดูลูคัส อยู่ๆเสี่ยวป๋ายก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาโดยไม่เคาะประตูเหมือนเช่นทุกครั้ง

          "คุณกว้านหลินครับหมอนนท์โทรมาแจ้งว่าคุณภัทรหัวใจวายอีกรอบ คราวนี้หมอนนท์จะทำคลอดเลยให้คุณกว้านหลินรีบไปครับ"


          คุณชายสามตระกูลไล่ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะสามารถขับรถได้เร็วขนาดนี้ชายหนุ่มก้าวยาวๆผ่านทางเดินแคบๆผ่านบรรดาญาติคนไข้ที่เดินดันขวักไขว่ในยามบ่ายแก่ๆได้โดยไม่สนใจใคร เสี่ยวป๋ายพยายามวิ่งตามเจ้านายหนุ่มที่ก้าวพรวดๆทิ้งห่างแบบไม่เห็นฝุ่น

ในใจของกว้านหลินมันเต้นรัวราวกับจะหลุดออกมานอกอก

          "ไปจัดกาจัดการตัวเองก่อน"หมอนนท์บอกกับชากับชายหนุ่มที่ทำท่าจะเข้าไปในห้องรอคลอด กว้านหลินจัดการทำความสะอาดตัวเอตัวเองและสวมชุดที่พยาบาลนำมาให้ ภัทรถูกยัายเข้าไปในห้องคลอด ใบหน้าของเด็กน้อยของเขาช่างซีดเซียวจนน่าสงสาร  กว้านหลินยกมือของภัทรมากุมไว้ บีบมือนุ่มนั้นราวกับจะส่งผ่านกำลังใจจากเขาไปให้

         "เป็นยังไงบ้าง?"

          "เหนื่อยครับ กลัวด้วย"

           "ไม่เป็นไรนะพี่จะอยู่กับเธอ เราจะรอลูกออกมาพร้อมกัน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นพี่จะอยู่ข้างๆภัทรนะ"อัลฟ่าหนุ่มยิ้มให้กับภัทรที่มีใบหน้าซีดเซียว  แม้หลังจากนั้นทั้งคู่จะไม่ได้พูดอะไรกันอีกแต่ทั้งกว้านหลินและภัทรก็รู้ดีว่าเขาทั้งคู่จะเป็นกำลังใจเพื่อกันและกัน  ณภัทรไม่รู้ว่าหลังจากการคลอดครั้งนี้จะเกิดอะไรขึ้น ลูกจะยังอยู่กับตนหรืออาจจะเป็นตัวของเขาเองที่ต้องจากไปโดยทิ้งกว้านหลินไว้เบื้องหลัง

ดังนั้น

ในตอนนี้

เวลานี้

ณภัทรก็อยากจะเก็บเกี่ยวช่วงเวลานี้กับกว้านหลินให้มากที่สุด  เพราะถ้าหากตนเองต้องเป็นฝ่ายจากไปจริงๆชีวิตนี้ก็คุ้มค่าแล้วที่สามารถได้รับความรักจากไล่กว้านหลิน

โชคดีเหลือเกิน...

        "คุณภัทรจะใช้ยาสลบหรือบล็อกหลังครับ?"

          "ผมขอบล็อกหลังครับ"

          "ยาสลบดีกว่ามั้ยภัทร"กว้านหลินเอ่ยท้วงกับการตัดสินใจของซอนของภัทรด้วยความเป็นห่วง



ไม่ยินยอม  เขาไม่พร้อมจะเสียใครไปซักคน  ไล่กว้านหลินในยามนี้เหมือนคนละโมบหากภัทรและลูกในท้องเป็นปลาเขาก็เป็นคนโลภที่จะคว้าเอาไว้ทั้งสองมือ ภัทรยังคงยืนยันความตั้งใจเดิมคือการบล็อกหลัง

          "ผมอยากเห็นลูกพร้อมคุณกว้านหลินนะครับ"ภัทรบีบมือกว้านหลินเบาๆเมื่อเป็นเช่นนั้นชายหนุ่มก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ อนลเริ่มกาเริ่มการทำคลอดด้วยการฉีดยาชาเข้ากระดูกสันหลัง ภัทรกัดริมฝีปากจนรู้สึกชาไปหมด ทีมแพทย์ต่างทำหน้าที่ของตนเอง กว้านหลินหลับตาลงยามคมมีดกรีดลงบนผิวเนื้อของภัทร

          "เจ็บมั้ย?"ถามคนที่ถามคนที่นอนมองขั้นตอนการทำคลอดตนอยู่อย่างสนอกสนใจ ภัทรส่ายหน้า

          "เลือดออกเยอะจังเลย"อัลฟ่าหนุ่มปรารภออกมาเบาๆ อัลฟ่าหนุ่มตาโตยามเห็นสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆที่หมอนนท์นำออกมาจากท้องของภรรยา

          "เด็กผู้หญิงครับ"หมอนนท์หันมาบอกก่อนที่พยาบาลจะนำไปดูดน้ำคร่ำออกจากปากและจมูกของเด็ก การดูแลเด็กทำไปด้วยความเร่งรีบ

ลูกสาวของเขาต้องถูกนำใส่ตู้อบทันที

เด็กน้อยตัวเล็กมากน้ำหนักเพียงแค่ 1250 กรัม เท่านั้นช่างต่างจากลูคัสคนพี่ลิบลับ

อย่างน้อยก็มีเรื่องน่ายินดีคือเด็กน้อยยังมีชีวิตอยู่

          "คุณหมอคะ คนไข้มีมีอาการตกเลือดค่ะ"พยาบาลที่ดูอาการของภัทรอยู่ร้องบอกกับนายแพทย์หนุ่ม กว้านหลินถูกเชิญให้ออกไปรอด้านนอกทันที แม้ชายหนุ่มจะอยากอยู่เป็นกำลังใจให้กับภัทรซักแค่ไหนแต่สุดท้ายก็ทำได้เพียงมายืนภาวนาอยู่ด้านนอก

          "พอได้แล้ว...หยุดลงโทษผม หยุดทดสอบผมซักที"ชายหนุ่มเงยหน้ามองฟ้าเก็บกลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลกลับไปตามเดิม  เขาเชื่อว่าภัทรจะสู้เด็กคนนั้นน่ะใจสู้ที่สุดเท่าที่กว้านหลินเคยเห็นมา


และครั้งนี้ก็เช่นกัน


ไล่กว้านหลินรีบลุกขึ้นทันทีที่หมอนนท์เปิดประตูออกมา

          "พี่ ภัทรเป็นยังไงบ้าง?"น้ำเสียงร้อนรนรบเร้าจะเอาคำตอบทันที อนลถอนหายใจขับไล่ความเหนื่อยล้าสีหน้าเศร้าจนกว้านหลินใจกระตุก

          "ปลอดภัยแล้ว"เบต้าหนุ่มที่แสร้งทำหน้าเศร้าแจ้งผลการรักษา กว้านหลินถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะทิ้งตัวลงคุกเข่าลงพื้นอย่างอ่อนแรง ชายหนุ่มยิ้มออกมาทั้งน้ำตา

          "พี่มึงแม่ง...ฮึก..."กว้านหลินสบถออกมาเบาๆ ทั้งดีใจทั้งโล่งใจแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  อนลย่อตัวลงไปจับไหล่กว้านหลินก่อนจะตบลงเบาๆ

          "จำความรู้สึกนี้ไว้ให้ดีนะคุณชาย ถ้ารู้ว่าเขาสำคัญมากก็อย่าทำให้เขาเสียใจอีกล่ะ เด็กคนนั้นน่ะสมควรได้รับสิ่งดีๆได้แล้ว"

          "รู้แล้วน่า แล้วลูกของผมล่ะ?"

          "เด็กคลอดก่อนกำหนดและตัวเล็กมาต้องให้อยู่ในตู้อบไปก่อน ต้องเช็คพวกระบบทางเดินหายใจ ปอดกับหัวใจอีก ระหว่างนี้ก็อยู่โรงพยาบาลกันไปอีกซักพักนะ"

          "แล้วผมจะได้เข้าไปหาภัทรเมื่อไหร่?"

          "ก็เดี๋ยวรอย้ายเข้าไปห้องพักก็เฝ้าได้แล้วล่ะ ระหว่างนี้ก็อย่าเพิ่งไปกวนแกเลยให้คนไข้พักผ่อนไปก่อน"กว้านหลินพยักหน้ารับทราบ

          "อ่อ"อนลที่เดินไปได้ 2-3 ก้าวหันหันกลับมาหากว้านหลินอีกครั้ง

          "ตอนที่คุณไม่อยู่ผมแวะไปคุยกับคุณภัทรทุกวัน แกบ่นคิดถึงแม่กับน้องๆตลอดเลยนะ"

#ไฮเดรนเยีย



TBC.


















............................................



ใครจะไปใจร้ายได้ลง แหมพวกเธพวกเธอก้อออออออ...





แม่ใหญ่มาแล้วววววววววววว



ความรักมันไม่ได้ขึ้นอยู่ที่คนสองคนหรอก ยิ่งเป็นคนเอเซียด้วยแล้วความรักจะประกอบด้วยพ่อแม่พี่น้องโคตรเหง้าศักราชต่างๆ บางครั้งต่อให้เรารักกันมากแค่ไหนพ่อแม่ไม่เอาก็ต้องเลือกว่าจะไปต่อหรือจะปล่อยมือกัน



ถ้าจับไม่แน่นพอหันมาอีกทีอาจมีแต่ทางที่ว่างเปล่า



ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
สงสารกว้านหลินกับภัทรจัง

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
 ไรท์อย่าใจร้ายกับน้องเลย เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่นะขอให้ผ่านด่านแม่ใหญ่ไปให้ได้

ออฟไลน์ ตัวไหมอ้วนกลม

  • สาว Y ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่เป็นแล้วรักษาไม่หายนะคะ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
 :sad4:   :sad4:   :sad4:      มันจะไม่ม่าใช่ไหมคะคนเขียนขา

ออฟไลน์ thanatcha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-2
   Hydrangea 22

 
 
 
            ณภัทรใช้เวลาในการอยู่ดูลูกน้อยในตู้อบอีกนานนับเดือน โชคดีที่เด็กหญิงลิซ่า ไล่ สุขภาพดีขึ้นตามลำดับ ตอนนี้โอเมก้าแม่ลูกสองสามารถเล่นกับลูคัสได้แล้วดังนั้นในตอนกลางวันลูกชายวัยสองขวบเศษจึงสามารถมาอยู่กับแม่ได้
 
            "ไม่เอาครับ"ภัทรปฏิเสธลูกยามที่เจ้าเด็กตัวล่ำพยายามถกชายเสื้อของผู้เป็นแม่พลางเอาศีรษะชนหน้าอก บ่งบอกว่าเจ้าตัวต้องการดื่มนมจากอกแม่มากกว่า ในหัวของเด็กน้อยยามนี้มีแต่ความสงสัย
 
ทำไมถึงกินไม่ได้?
 
ก็เมื่อก่อนพอส่งเสียงว่าหม่ำๆแม่ก็ยอมให้เข้าเต้าทุกที
 
หากแต่ในตอนนี้ต่อให้พูดหม่ำๆจนคอแทบแตกแม่ก็ไม่ให้แถมเอาแต่ยื่นขวดนมที่จุกนมไม่นิ่มเหมือนนมแม่เลยซักนิดมาให้
 
เคร้ง
 
ลูคัสเขวี้ยงขวดนมที่แม่ยื่นใส่ปากให้ อย่างหงุดหงิด เด็กน้อยทิ้งตัวลงกับพื้นเตียงอย่างงอแงเต็มที่ มือป้อมขยี้หูขยี้ตาอย่างน่าสงสาร
 
            “โอ๋ลูก ไม่ร้องนะครับ"ภัทรคว้าร่างป้อมของลูกมาอุ้มหากแต่เด็กน้อยก็ขืนตัวไว้ทำตัวอ่อนราวไร้กระดูก
 
กว้านหลินมองเจ้าลูกชายออกฤทธิ์ออกเดชแล้วได้แต่ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา
 
มารยาล่ะที่หนึ่ง ร้องไห้อะไรกันน้ำตาซักหยดก็ไม่มี
 
เสียงร้องเหมือนจะเป็นจะตาย
 
น้ำตาจระเข้ล่ะสิไม่ว่า
 
กว้านหลินเดินไปอุ้มเจ้าตัวป้อมที่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาร้องมาไว้ในอ้อมกอดแล้วก้มหยิบขวดนมอีกขวดในตะกร้ายัดใส่ปากลูกชาย ลูคัสทำท่าจะไม่ยอมหากแต่เสียงทุ้มเอ่ยดุกับลูกชาย
 
            "กิน ถ้าไม่กินจะโยนขวดนมทิ้งให้หมดแล้วไม่ต้องกินอะไรแล้ว"ที่สุดแล้วแม้จะไม่อยากจะยอมแต่ความหิวก็มีอิทธิพลกับเจ้าตัวจ้อยเสียเหลือเกิน ลูคัสค่อยๆสงบก่อนจะปิดเปลือกตาลงเพราะง่วงเต็มทน
 
            “แกคงแปลกใจทำไมกินนมแม่ไม่ได้น่ะ”กว้านหลินบอกก่อนจะหันหลังเตรียมวางลูคัสลงนอนบนโซฟาตัวใหญ่
 
            “เอาแกมานอนบนเตียงกับผมก็ได้ครับ สงสารเหลือเกิน”ภัทรเปิดผ้าห่มให้กว้านหลินเอาลูกมานอนข้างๆ อัลฟ่าหนุ่มทำตามโดยไม่อิดออดเมื่อวางลูกลงแล้วภัทรก็ห่มผ้าให้ลูกมือป้อมถูกคนเป็นแม่ยกขึ้นมาก่อนจะจรดริมฝีปากลงไปจูบหลังมืออูมๆของลูกรัก น้ำตาพาลจะร่วงเมื่อสังเกตแล้วลูคัสผอมลงไปถนัดตา
 
            “เป็นอะไร ทำไมทำหน้าเศร้า?”
 
            “ลูกผอมลงครับ”กว้านหลินหัวเราะเบาๆก่อนจะลูบเรือนผมดำสนิทของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยา
 
            “ไม่ได้ผอมหรอก แกยืดตัวน่ะ ดูสิ ตัวแกยาวขึ้น แขนขาก็ยาวขึ้น เห็นมั้ย?”กว้านหลินดึงแขนลูกให้ภัทรดู  แขนของลูคัสยาวขึ้นจริงอย่างที่กว้านหลินว่านั่นแหละ ที่เคยเป็นปล้องๆก็เริ่มบางลง สองสามีภรรยานั่งคุยกันถึงเรื่องลูกจนกระทั่งได้เวลาให้นมลิซ่า พยาบาลเข็นทารกน้อยเข้ามาในห้องตามมาด้วยคุณหมออนล
 
            “ไงคุณแม่คนเก่ง เบื่อโรงพยาบาลแล้วหรือยัง?”คุณหมอนนท์ทักคนไข้ด้วยน้ำเสียงสดใส แม้จะเป็นเพียงเสียงกระซิบเพราะเห็นว่าลูคัสหลับอยู่แต่ก็เหมือนมีพระอาทิตย์สว่างจ้าอยู่ในห้องพัก ภัทรยู่ปากด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่ายขั้นสุดจริงๆ
 
            “ผมเบื่อจะแย่แล้วครับ อยากกลับบ้าน อยู่นี่นอกจากยายหนูก็ไม่มีอะไรน่าดูแล้ว”
 
            “พูดแบบนี้หมอน้อยใจนะเนี่ย ออกจะหล่อขนาดนี้ยังดึงดูดให้คุณภัทรอยากอยู่ต่ออีกเหรอครับ”อนลพูดสรรพยอกโอเมก้าที่อยู่ในการดูแลอย่างอารมณ์ดี แต่พอหันไปเจอสีหน้าถมึงทึงของกว้านหลินก็ถึงกับสะดุ้ง
 
            “อุ่ย...เจ้าที่แรงจริงจริ๊ง”หมอนนท์แกล้งส่งเสียงล้อคนที่ทำหน้าบึ้งอยู่ข้างเตียงแล้วจึงหันมาให้ความสนใจกับแม่ลูก กว้านหลินไปนั่งรอที่โซฟาเพราะไม่อยากจะยืนเกะกะหากแต่ดวงตาไม่ได้ละไปจากภาพอันแสนงดงามยามที่ภัทรให้นมลูกแม้แต่วินาทีเดียว บนเตียงแคบๆนั้นมีสามชีวิตที่เขารักและหวงแหนที่สุดรวมกันอยู่ตรงนั้น ยามที่ภัทรส่งเสียงคุยกับลูกสาวตัวน้อยเหมือนโลกทั้งใบถูกปกคลุมด้วยลมอุ่นๆ ลิซ่าอาการดีขึ้นตามลำดับแม้จะตัวเล็กเมื่อครั้งแรกคลอดแต่ตอนนี้น้ำหนักเริ่มเพิ่มมากขึ้นจนเกือบเท่าเด็กปกติ เด็กน้อยมีอาการหัวใจรั่วแต่อนลบอกว่าเขารักษาได้กว้านหลินก็วางใจไปเปราะหนึ่ง
 
            “อาทิตย์หน้าหมอว่าคุณกลับบ้านได้แล้วนะครับ อาการยายหนูไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว คุณกับคุณชายจะได้ไม่ต้องมาอุดอู้อยู่ที่นี่ บอกตามตรงผมเบื่อหน้าคุณชายเต็มที”
 
            “อ้าว ทำไมพูดแมวๆแบบนั้นล่ะพี่”กว้านหลินแกล้งทำเสียงขรึมใส่อนล คุณหมอหนุ่มยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ ต่อให้ใครจะกลัวกว้านหลินจนหัวหดแต่ไม่ใช่เขาแน่นอน  หลังให้นมลูกเสร็จพยาบาลก็เข็นเด็กหญิงตัวน้อยกลับไปยังห้องเด็ก กว้านหลินพาลูคัสกลับไปส่งบ้านให้กับศลัย  ภัทรที่ไม่มีอะไรทำก็ถือโอกาสนี้เอนหลังพักผ่อน ห้องทั้งห้องเงียบเมื่อโอเมก้าแม่ลูกอ่อนหลับลง บานประตูห้องที่ภัทรพักค่อยๆเปิดออกอย่างเงียบเชียบ ใครบางคนเร้นกายเข้ามาราวกับเงา สองตาจ้องมองร่างบอบบางที่นอนหลับสนิทบนเตียงอย่างแสนรักและแสนคิดถึง ภัทรดูโตขึ้นมากกว่าครั้งสุดท้ายที่เห็นเมื่อสามปีก่อน แก้มยุ้ยๆที่พ่อแม่ชอบล้อเลียนหายไปแล้วเหลือเพียงใบหน้าคมแบบฉบับเด็กผู้ชายที่โตเต็มวัย สันกรามคมได้รูปส่งให้ใบหน้าของภัทรดูน่าหลงใหลหากแต่ความคมแบบผู้ชายกลับถูกกลบลบด้วยขนตายาวเป็นแพ ร่างกายสูงโปร่งหากแต่กลับดูเปราะบางเหมือนแก้วที่ถูกเป่าจนบางเฉียบหากจับต้องก็คงต้องประคับประคองสุดความสามารถ ภาวิณีไม่สามารถสะกดกลั้นความรู้สึกคิดถึงและดีใจที่ท่วมท้นขึ้นมาในอกได้
 
ลูกชายคนโตที่ถูกพรากไปถึงสามปี หลังจากมินฮยอนหายไปจากชีวิตหล่อนและลูกชายอีกสองคน  คนเป็นแม่ก็ถูกตัดขาดจากลูกคนโต หล่อนไม่ได้รับอนุญาตให้ไปหาภัทรเพราะกว้านหลินขู่ไว้ว่าถ้าหากภาวิณีเข้าไปยุ่มย่ามวุ่นวายที่บ้านเขาจะไม่รับประกันความปลอดภัยของภัทร
 
ทั้งๆที่อยู่ใกล้กันไม่กี่กิโลเมตรแต่กลับเหมือนไกลคนละซีกโลก ดวงตาพราวไปด้วยหยดน้ำหล่อนยกมือตั้งใจจะเช็ดน้ำตาแห่งความคิดถึงนั้นออกหากแต่ช้าไป น้ำตาหยดอุ่นตกกระทบผิวแก้มของลูกชาย ภาวิณีรีบลูบมันทิ้งหากแต่แพขนตาที่ปิดสนิทกลับค่อยๆลืมขึ้นเผยให้เห็นดวงตากลมที่กระพริบตาหลายๆครั้ง ก่อนที่ลูกแก้ววาวใสนั้นจะถูกบดบังด้วยหยาดน้ำใส
 
            “แม่?...”
 
ภัทรหลับตาลงก่อนจะลืมตาขึ้นมองอีกครั้ง
 
แม่ยังคงอยู่ตรงหน้าไม่ได้เลือนหายไปเหมือนในความฝัน  โอเมก้าที่พลัดพรากจากครอบครัวค่อยๆยื่นมือไปลูบใบหน้าอาบน้ำตาของแม่อย่างแผ่วเบา
 
ใบหน้าของแม่อุ่นเหลือเกิน...
 
เหมือนเป็นเรื่องจริงไม่ใช่ความฝัน
 
อุ้งมือของแม่ยังอบอุ่นเหมือนเช่นทุกครั้งที่เคยลูบศีรษะเขา
 
ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยซักนิด
 
            “ถ้านี่เป็นความฝัน ผมคงฝันดีที่สุดในรอบหลายๆปี...ฮึก...”ภัทรพูดกับความฝันตรงหน้า หากแค่ภาวิณีกลับส่ายหน้า
 
            “มันไม่ใช่ความฝันเลยลูกรัก นี่คือความจริง แม่มาหาลูกแล้ว ภัทร แม่คิดถึงลูกเหลือเกิน”เกิดเสียงร้องไห้โฮของสองแม่ลูกที่โผเข้ากอดกันทันที ภัทรผวาขึ้นมาสวมกอดผู้เป็นแม่อย่างแสนรักแสนคิดถึง
            “แม่ครับ แม่จริงๆใช่มั้ยครับ ผมคิดถึง...ฮือ....คิดถึงจริงๆ”สองแขนกอดรัดร่างซูบผอมของผู้เป็นแม่ ปล่อยเสียงร้องไห้อย่างไม่อายใคร ตลอดระยะเวลาสามปีกว่าที่ต้องจากกัน แม้นไม่ได้ตายจากแต่ก็ไม่เคยได้ติดต่อกันสิ่งที่รู้สึกผิดและติดค้างมาโดยตลอดคือการที่ไม่ได้อยู่ดูแลผู้เป็นมารดาแทนบิดาผู้ล่วงลับ
 
แม่ซูบผอมลงจากเมื่อก่อนจนเห็นได้ชัด
 
จากสตรีผู้มีน้ำมีนวลยามกอดก็เต็มอ้อมแขน บัดนี้ร่างกายของแม่กลับบางลงอย่างเห็นได้ชัด
 
            “หลายปีมานี้ลำบากมากมั้ยลูก...แม่ขอโทษนะที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย”ยองแลลูบผมลูกชายคนโตเบาๆ น้ำตาไหลไม่ขาดสาย ร่างกายของลูกชายสั่นเทาราวลูกนกที่พยายามซุกกับอกแม่เพื่อหาไออุ่น ภัทรส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ
 
            “ผมไม่ลำบากเลยครับแม่ คุณกว้านหลินดีกับผมมากๆหลังจากปรับความเข้าใจกัน แล้วแม่ล่ะครับลำบากมากมั้ย น้องๆเป็นยังไงบ้าง ไปอยู่ที่ไหนกัน ทำไมไม่เคยมาหาผมเลย”ท้ายน้ำเสียงคล้ายตัดพ้อ
 
            “แม่กับน้องๆกลับไปอยู่บ้านหลังเดิมที่เราเคยอยู่”
 
            “หืม?..”
 
            “ก็หลังจากพ่อเสียคุณกว้านหลินก็เรียกแม่ไปคุยให้แม่โอนหุ้นขงบริษัทกับขายบ้านหลังใหม่เพื่อใช้หนี้แต่ก็ชดใช้ได้แค่ส่วนหนึ่งเธอให้เงินแม่กับน้องไว้ก้อนหนึ่งเพื่อเป็นทุนตั้งตัวแล้วก็บอกให้แม่พาน้องๆกลับไปอยู่บ้านหลังเก่า สั่งห้ามไม่ให้มายุ่งย่ามวุ่นวายกับลูกจนกว่าลูกจะทำงานใช้หนี้ให้เธอหมด แรกๆก็มีเลขาอี้เฉินมาคอยดูแล แต่อยู่ๆก็หายไป”ภัทรฟังสิ่งที่แม่เล่าด้วยความแปลกใจ  กว้านหลินไม่ได้จับตัวแม่และน้องๆของตนไปขังไว้ให้อยู่อย่างยากลำบากเลยซักนิด ผู้เป็นมารดาเล่าเรื่องราวต่างๆตลอดสามปีด้วยน้ำเสียงราบเรียบ น้องชายทั้งสองย้ายจากโรงเรียนนานาชาติราคาแพงกลับไปเรียนโรงเรียนรัฐ ทั้งสองใช้เวลาในการปรับตัวกับสังคมใหม่ๆนานเกือบปีแต่สุดท้ายเด็กทั้งสองก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่น
 
            “ภีมจบ ม.ปลาย แล้วนะ กำลังตั้งใจอ่านหนังสือสอบเข้ามหาวิทยาลัย พลเองก็กำลังจะขึ้น ม.4 ตัวโตขึ้นเยอะเลย”
 
            “แล้วแม่ล่ะครับ ทำอะไรอยู่ที่ไหน”
 
            “ตอนแรกแม่ก็ไปหางานทำ อย่างน้อยสมัยก่อนก็เคยทำบัญชี แต่ไม่นึกเลยว่าไม่ว่าจะไปสมัครที่บริษัทไหนก็มีประวัติไปแล้วว่าเป็นคนขี้โกง พอทำอะไรไม่ได้แม่เลยเอาทุนที่คุณกว้านหลินให้ไปเปิดร้านขายอาหารเล็กๆ ขายดีใช้ได้เลยล่ะเลยมีเงินพอส่งน้องๆเรียน”
 
            “ไม่ได้ลำบากกันใช่มั้ยครับ”
 
            “มันก็มีบ้างในช่วงแรกๆ แต่ตอนนี้ไม่ลำบากแล้วล่ะ แล้วลูกล่ะ”ภาวิณีลูบแก้มที่ตอบลงไปจากสมัยก่อนของลูกอย่างแผ่วเบา
 
ภัทรน่ะ เรื่องจะพูดให้ใครเป็นห่วง ไม่มีเสียหรอก
 
ลำบากมากสินะ
 
            “ผมมีหลานให้แม่แล้วนะครับ...”เด็กน้อยในกาลก่อนของหล่อนเอ่ยบอกด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข แม้ดวงใจของคนเป็นแม่จะกระตุกวูบหากแต่รอยยิ้มดีใจก็ฉายชัดออกมา
 
            “แม่ไปดูยายหนูมาแล้ว ตัวเล็กนิดเดียว”
 
            “แกน่ารักนะครับ เลี้ยงง่าย ลูคัสเองก็เลี้ยงง่ายแต่รายนั้นไม่ค่อยถูกกับพ่อทะเลาะกันทุกวันเลยครับ เสียดายคนโตแท้งไปก่อนไม่งั้นก็มีสามคน”น้ำเสียงที่สลดลงของลูกชายทำเอาใจของคนเป็นแม่ร้าวราน
 
หล่อนเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นแม่ที่ต้องสูญเสียเลือดเนื้อเชื้อไขไปเป็นอย่างดี รวบร่างของลูกมากอดปลอบอย่างแสนสงสาร
 
            “ผมสงสารลูก สงสารแกมากๆ เสียใจจนอยากจะตายตามไป”
 
            “แม่รู้ลูกแม่รู้ ความสูญเสียเป็นเรื่องที่ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครจะเกิดซักกี่ครั้งเราก็ไม่มีทางชินหรอก แต่ลูกจะจมอยู่กับความเศร้าไม่ได้ ถือซะว่าแกไม่ต้องเกิดมาใช้เวรใช้กรรมบนโลกนี้นะลูกนะ แล้วตอนนี้มีลูกด้วยกันสองคนแล้ว หนี้สินเค้าก็ยกให้หมดแล้วลูกจะเอายังไงต่อ?”ภาวิณีถามถึงการดำเนินชีวิตหลังจากนี้ของลูกชาย ภัทรเงียบไปจนหล่อนใจหาย
 
คนเป็นแม่ลูกอยู่ที่ไหนแม่ก็อยากจะอยู่ที่นั่นหล่อนรู้ดี ภัทรในตอนนี้ไม่ใช่โอเมก้าตัวน้อยของหล่อนอีกต่อไปแล้ว
 
ตอนนี้ณภัทรของหล่อนโตจนมีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว
 
            “ถ้าลูกจะกลับมาอยู่กับแม่...”
 
            “คุณกว้านหลินคงไม่ยอมให้ลูกมากับผมหรอกครับแม่ ยายหนูเองก็สุขภาพไม่แข็งแรง”น้ำเสียงของคนเป็นลูกแผ่วจนภาวิณีต้องสูดลมหายใจเข้าปอด หล่อนเอ่ยขัดลูกชายทั้งที่ภัทรยังพูดไม่จบเลยด้วยซ้ำ
 
            “ลูกรักเขาใช่มั้ย? อยากอยู่กับเขาหรือเปล่า?”
 
ภัทรจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของผู้เป็นแม่ ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันอย่างกดดัน มือเย็นจนคนเป็นแม่ต้องบีบเบาๆ
 
ภัทรของหล่อนพยักหน้าพร้อมน้ำตาที่รินหล่น
 
            “รักครับ รักมาตั้งแต่แรก รักมาตลอด”ลูกน้อยของหล่อนร้องไห้โฮเมื่อพูดจบประโยค หล่อนรู้ว่าในใจของภัทรนั้นกดดันเพียงไหน รักแรกและรักแท้รักเดียวที่ไม่เคยลบเลือนไปจากใจนั้นมาอานุภาพร้ายแรงคล้ายเนื้อร้ายที่เกาะกินใจมานานหลายปี หล่อนกอดลูกลูบหลังอย่างแม่ที่เข้าใจ
 
            “ถ้าลูกรักเขา แม่ก็จะไม่ขัด ต่อจากนี้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขนะลูก แม่จะเป็นกำลังใจให้ลูกอยู่เสมอ หลังจากนี้เขาคงไม่ใจร้ายแยกเราแม่ลูกอีก ไว้มีโอกาสแม่จะไปเยี่ยมลูกกับหลานๆนะ เดี๋ยวอีกพักแม่ต้องไปแล้วคุณเสี่ยวป๋ายบอกว่าจะมารับตอนทุ่มหนึ่งก่อนคุณกว้านหลินจะกลับมา แม่รักลูกนะ รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีๆ”
 
            “ครับ แม่เองก็เหมือนกันนะครับ ขอเบอร์พี่เสี่ยวป๋ายไว้ถ้ามีอะไรแม่โทรหาพี่เขาได้เลยนะครับ ผมรักแม่รักน้องๆนะครับ”
 
 
ภาวิณีไปแล้ว...
 
ณภัทรนั่งกอดเข่าร้องไห้เงียบๆอยู่บนเตียงจนกระทั่งประตูห้องเปิดออก กว้านหลินรีบสาวเท้ามาดึงร่างบางที่สะอื้นจนตัวโยนขึ้นมากอด ภัทรซุกหน้ากับอกผู้เป็นสามีสวมกอดเอวสอบแน่น
 
            “ได้เจอแม่แล้วใช่มั้ย?”ร่างบางในอ้อมกอดพยักหน้าเบาๆ
 
            “แล้วร้องไห้ทำไม? ต้องดีใจไม่ใช่เหรอ?”
 
            “ผมดีใจ ดีใจที่อย่างน้อยคุณกว้านหลินไม่ได้ใจร้ายอย่างที่ขู่ ผมเสียใจที่ไม่เลือกแม่แต่เลือกลูกของเรา แม่ถามว่าอยากกลับไปอยู่กับแม่มั้ย ผมป็นลูกที่แย่มากเลยใช่มั้ยครับ”
 
            “ไม่เลย เธอโตแล้ว เธอมีชีวิตเป้นของตัวเองแล้ว มีครอบครัวที่ต้องดูแล หลังจากนี้ถ้าเธออยากไปหาแม่ฉันจะไม่ห้ามแต่ต้องกลับมานอนบ้านห้ามค้าง โอเคมั้ย?”
 
            “จริงเหรอครับ ยอมให้ผมไปเยี่ยมแม่กับน้องๆจริงมั้ยครับ?”ภัทรยืดตัวขึ้นมามองผู้เป็นสามีด้วยดวงตาเป็นประกาย กว้านหลินส่งยิ้มให้กับเด็กน้อยของเขา
 
ณภัทรในวันนี้ไม่ต่างกับเด็กชายภัทรวัยแปดขวบในตอนนั้นเลยซักนิด
 
ยังคงใสบริสุทธิ์น่าปกป้องยังไง
 
วันนี้ก็ยังคงเป็นเช่านั้น
 
            “จริงสิ ฉันจะโกหกทำไม แต่ต้องให้คนขับรถพาไปนะ อยากจะไปไหนก็บอกเขา ดูสิ ร้องไห้งอแงเป็นเด็กๆไปได้เธอมีลูกสองแล้วนะ”ร่างสูงค่อยๆเช็ดคราบน้ำตาให้กับภรรยาด้วยความแผ่วเบา
 
ชายหนุ่มมองร่างบอบบางตรงหน้าด้วยความรู้สึกรักและหวงแหน
 
รักมากก็ย่อมหวงมาก
 
หวงมากก็ห่วงมาก
 
เมื่อพายุร้ายพัดผ่านภัทรก็ควรได้เที่ยวชมกับโลกอันสดใสเสียที
 
เขาควรทำอะไรๆให้มันถูกต้อง
 
ไม่ต้องสนใจชื่อเสียง ไม่ต้องสนใจแวดวงธุรกิจ ไม่ต้องสนใจเหล่าหุ้นส่วนว่าจะเห็นด้วยกับสิ่งที่เขากำลังจะทำหรือไม่
 
สิ่งที่เขาสนใจในตอนนี้คือลูกและเมียที่เป็นแรงบันดาลใจให้เขาอยากจะเป็นคนที่ดีมากขึ้นในทุกๆวัน กว้านหลินเชยปลายคางของภัทรขึ้นก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้ใจดวงน้อยเต้นรัวสั่นไหวอย่างรุนแรง
 
            “ณภัทร เธอจะให้เกียรติพี่เป็นคนดูแลเธอและลูกๆตลอดชีวิตได้หรือไม่”กว้านหลินค่อยๆนั่งลงคุกเข่าต่อหน้าของภัทร ถอดแหวนประจำตระกูลที่นิ้วของตนเองออกมาถือไว้ตรงหน้าของโอเมก้าของเขา
 
            “แต่งงานกับพี่นะครับ...ได้มั้ย?”ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นจ้องดวงตากลมที่เอ่อล้นไปด้วยหยาดน้ำ ภัทรพยักหน้ารัวๆ
 
            “แต่งครับ ผมจะแต่งงานกับคุณกว้านหลิน”ทันทีที่ได้รับคำตกลงแหวนประจำตระกูลของกว้านหลินก็ถูกสวมลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของภัทรความเย็นจากโลหะถูกทาบทับด้วยความอุ่นของริมฝีปากของอัลฟ่าหนุ่ม ภัทรถลาลงไปสวมกอดชายหนุ่มเอาไว้อย่างมีความสุข ริมฝีปากอุ่นถูกทาบทับลงมาเนิ่นนานไร้การรุกล้ำ เป็นดังคำมั่นสัญญาว่าไล่กว้านหลินจะดูแลและทะนุถนอมณภัทรอย่างดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้
 
หัวใจของภัทรในตอนนี้มีความสุขเหลือเกิน มีความสุขจนล้นออกมาจากอก
 
ฟ้าหลังฝนงดงามเสมอ ภัทรเลิกเชื่อคำๆนี้ไปนานแล้ว แต่วันนี้ ณ ขณะนี้ เด็กหนุ่มกลับมาเชื่อถือคำๆนั้นอีกครั้งด้วยจังหวะหัวใจที่เต้นประสานไปกับไล่กว้านหลิน
 
หัวใจที่จะเต้นไปพร้อมกันในทุกๆวันหลังจากนี้




 
 ((ต่อด้านล่าง))

ออฟไลน์ thanatcha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-2

            ภัทรพาลูกกลับมาอยู่บ้านได้เกือบหนึ่งเดือนแล้ว เด็กหญิงลิซ่ายังต้องไปหาหมออยู่เรื่อยๆในขณะที่คนเป็นพ่อกับแม่ก็เริ่มวางรูปแบบงานแต่งกันไปบ้างแล้ว ภัทรรับหน้าที่เลือกแบบการ์ดแต่งงาน แม้จะอยากจัดงานแบบเงียบๆภายในมีแค่คนสนิท แต่พอเอาเข้าจริงแล้วภัทรก็รู้สึกว่ากว้านหลินจะมีเพื่อนเป็นประชากรประเทศเกาหลีใต้ทั้งประเทศ เพราะพอลิสต์รายชื่อแขกออกมาก็มีเยอะจนตาลาย แม้จะเคยทักท้วงไปแล้วว่าไม่อยากให้งานเอิกเกริกแต่กว้านหลินก็มีข้อโต้แย้งให้เจ้าตัวจำต้องเงียบไปโดยปริยาย
 
            “ก็สนิททุกคน นั่นก็หุ้นส่วน นี่ก็เพื่อน พนักงานก็อยากมาร่วมแสดงความยินดี”
 
            “แต่มันเยอะไปนี่ครับ ผมอยากจัดแบบภายในครอบครัวมากกว่า”
 
            “แต่ฉันอยากให้ทุกคนรู้ว่าเธอคือภรรยาของฉัน”
 
 
            อากาศด้านนอกร้อนอบอ้าวมาหลายวันแล้วลูคัสที่ชอบให้พาออกไปเดินเล่นด้านนอกร้องงอแงยามแม่และพี่เลี้ยงไม่ตามใจอย่างที่ใจนึก เด็กน้อยชอบที่จะเดินเล่นบนสนามหญ้าเก็บดอกไม้ใบหญ้าที่แม่เป็นคนปลูกรดน้ำพรวนดินตั้งแต่เด็กน้อยยังไม่ลืมตาดูโลก คล้อยหลังไม่กี่วันฝนก็โรยตัวพร้อมลมแรงเป็นสัญญาณว่าฤดูฝนกำลังย่างกรายมาอีกครั้ง ภัทรนั่งอยู่ริมหน้าต่างท้าวคางกับมือตัวเองเหม่อมองไปยังด้านนอกด้วยดวงตาเหม่อลอย ลูคัสกับลิซ่านั้นหลับไปเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนหลังกินนมและกินข้าวกลางวันเสร็จ เม็ดฝนสาดกระเซ็นมาที่กระจกจนเกิดภาพสวยงามคล้ายภาพลวงตา
 
ความสุขในตอนนี้มันคือเรื่องจริงที่ภัทรสามารถจับต้องได้ตลอดไปใช่มั้ย เด็กน้อยในวันก่อนยกแก้วนมขึ้นมาจิบพลางปล่อยสายตาไปด้านนอกก่อนจะถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายออกมา
 
มันเหมือนชีวิตในช่วงนี้มีความสุขแต่มันก็เหมือนมีบางอย่างติดอยู่ในใจ ภัทรตัดสินใจลุกจากเก้าอี้ บิดตัวขับไล่ความเมื่อยขบแล้วก้าวเท้าเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมอาหารเย็นไว้รอกว้านหลิน
 
            “คุณภัทรจะทำอาหารเย็นเลยเหรอคะ”แม่บ้านชราเข้ามาเห็นภัทรกำลังเลือกวัตถุดิบเพื่อประกอบอาหารมื้อเย็นเอ่ยถาม ภัทรพยักหน้ารับก่อนจะจัดการกับของตรงหน้าเงียบๆ ในหัวนึกถึงเมนูที่จะทำให้ลูกและสามีกินโดยมีแม่บ้านเข้ามาช่วยเป็นลูกมือ ภัทรหยิบหอมหัวใหญ่มาปอกเด็กหนุ่มกะว่าจะทำซุปไว้ให้สามีและลูกได้ทานในมื้อเย็น ใบหน้าติดไปทางหวานมีรอยยิ้มประดับอยู่เกือบจะตลอดเวลา
 
มีความสุข
 
นี่คือครอบครัวในฝันของภัทร
 
เหมือนที่แม่เคยทำให้พ่อกับตนเองและน้องๆ
 
ผักหลากหลายชนิดถูกหั่นและวางเรียงกันทีละอย่างๆจนเต็มจาน แม่บ้านชราลอบมองว่าที่นายอีกคนของบ้าน ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่เคยต้องเกรงใจเลยแท้ๆ แต่มาวันนี้ทุกคนต่างเอาอกเอาใจอดีตเชลยคนนี้ หล่อนนั้นเห็นคุณชายสามมาตั้งแต่เพิ่งมาอยู่ไทยใหม่ๆ เด็กคนนี้ก็เคยเห็นเข้านอกออกในไม่ได้ขาด ดูก็รู้ว่าคนพ่อหมายมั่นปั้นมือจะให้จับคุณชายบ้านนี้แน่ๆ
 
คุณชายสามของหล่อนช่างสูงส่งและควรคู่กับอัลฟ่าสาวซักคนที่สามารถให้กำเนิดลูกที่เป็นอัลฟ่า 100% ได้ ไม่ใช่ครึ่งอัลฟ่าครึ่งโอเมก้าที่ไม่รู้ว่าโตไปจะได้อยู่ในชนชั้นไหน
 
            “เตรียมงานแต่งไปถึงไหนแล้วล่ะคะ”หล่อนแสร้งถามราวกับสนใจใคร่รู้เสียเต็มประดา
 
            “ก็เริ่มลิสต์รายชื่อแขกกับเตรียมหาสถานที่แล้วครับ”ภัทรตอบกลับประสาซื่อ ด้วยพื้นฐานเป็นคนมองโลกในแง่ดีเป็นทุนเดิมจึงไม่รู้ว่านั่นไม่ใช่คำถามของความใส่ใจใดใด
 
            “งานคงใหญ่น่าดูสิคะ แบบนี้เรื่องอาหารเลี้ยงแขกคงต้องจ้างโรงแรมทำ”
 
            “ผมอยากได้งานเล็กๆภายในมีเฉพาะญาติๆมากกว่าแต่แขกคุณกว้านหลินเธอเยอะน่ะครับเลยบานปลาย ก็คงต้องจ้างข้างนอกอย่างที่ป้าว่า”
 
            “แล้วนี่คุณๆจะบินมาร่วมงานเหรอคะ”
 
            “เมื่อวันก่อนพี่วิคตอเรียโทรมาบอกจะมากับคุณชายรองแล้วก็ลูกๆก่อนงานอาทิตย์หนึ่ง คุณชายใหญ่จะตามมาทีหลังครับ”
 
            “แล้วคุณนายทั้งสองล่ะคะ”ภัทรชะงักมือที่กำลังหั่นมันฝรั่งลงทันที ริมฝีปากอิ่มเม้มจนเป็นเส้นตรง ตัวเขาเองไม่เคยเอ่ยถามถึงสตรีผู้กุมอำนาจของตระกูลทั้งสองคนนี้เลยเพราะไม่กล้าและกว้านหลินก็ใม่เคยจะเอ่ยถึง
 
            “ท่านอาจจะมาหรืออาจจะไม่มาก็ได้นะคะยังไงดิฉันก็อยากให้เตรียมใจรับเรื่องหลังจากนี้ไว้”
 
            “เตรียมใจ? เรื่องงอะไรเหรอครับ?”ภัทรวางมือจากสิ่งที่ทำลงหันไปมองแม่บ้านชราที่ทำทีเป็นสาละวนคนช้อนฟองในน้ำซุปทิ้ง
 
            “นี่คุณภัทรยังไม่ทราบเหรอคะ?”หล่อนแสร้งเลิกคิ้วสูงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแหลมทำทีเป็นเว้นระยะราวกับไม่อยากจะพูดถึงสิ่งที่ตนเองรู้มา
 
            “ก็คุณนายใหญ่ยื่นคำขาดกับคุณชายว่าถ้ายังดึงดันจะแต่งงานกับคุณ คุณนายใหญ่จะตัดคุณชายสามออกจากกองมรดก ทีนี้ไม่ใช่แค่คุณชายสามที่จะลำบาก คุณกับคุณหนูเล็กๆทั้งสองก็จะลำบากไปด้วย คุณก็น่าจะทราบดีว่าตอนนี้คุณนายใหญ่มีอำนาจมากที่สุดในตระกูลอะไรที่เธอยื่นคำไปแล้วถือเป็นเด็ดขาด คุณนายใหญ่บอกกับคุณชายว่าเอาลูกไว้ก็ได้แต่ไม่อยากได้แม่ที่เป็นลูกของคนทรยศ ถึงคุณจะพากันหอบลูกหอบเต้าไปอยู่เมืองนอกคุณนายใหญ่ก็มีวิธีบีบให้คุณชายสามหางานหาการทำต่อไปไม่ได้ แล้วที่ผ่านมาคุณชายสามก็กินแค่เงินเดือนเท่านั้นคงไม่มีเงินเก็บเหลือพอจะเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียให้สบายจนแก่เฒ่าหรอกค่ะ ขี้คร้านไม่เกินสองปีคงกลับมาขอขมาคุณนายใหญ่ถึงวันนั้นดิฉันไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง...อ่ะ...อ้าว คุณภัทร ไม่ทำกับข้าวแล้วเหรอคะ?”หล่อนร้องเรียกเมื่อภัทรวางของในมือลงแล้วเดินออกจากครัวไปทันที ภัทรไม่ได้หันกลับมาร่างบางสั่นจนแทบจะบังคับตัวเองให้เดินไปแต่ละก้าวไม่ออก
 
            “ได้เวลายายหนูกินนมแล้ว ป้าช่วยทำต่อทีนะครับ”ภัทรไม่รอฟังคำตอบ ร่างบางพาตัวเองออกมาจากตรงนั้นทันที ในหัวมีแต่ประโยคยืดยาวนั้นเล่นวนซ้ำๆ น่าแปลกที่ภัทรจำได้ทุกคำ
 
ไม่เคยคิดเลยว่ากว้านหลินจะเก็บงำอุปสรรคที่จะต้องเจอไว้ได้มิดขนาดนี้
 
มีปัญหาอะไรทำไมไม่บอกกัน เผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบากในการตัดสินใจแบบนั้นคนเดียวทำไม ภัทรขังตัวเองไว้กับลูกๆโดยให้ศลัยลงไปพัก ทารกตัวน้อยกับเจ้าลูกชายจอมซนหลับสนิท
 
ถ้าการแต่งงานของตนเองทำให้ทั้งกว้านหลินและลูกลำบาก งานแต่งนั้นก็ไม่ควรเกิดขึ้น  ภัทรปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างเชื่องช้า ความคิดต่างๆวนเวียนอยู่ในหัวยากจะสลัดทิ้งไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ากว้านหลินกลับมาแล้ว ชายหนุ่มยืนมองร่างบางที่นอนหันหลังให้กับประตูก่อนจะค่อยๆทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงโน้มตัวลงไปกดจูบที่แก้มของภัทรเต็มรัก
 
            “กลับมานานยังครับ หิวหรือเปล่า?”
 
            “ไม่หิว แต่คิดถึงลูกกับเมียมากกว่า”ชายหนุ่มว่าพลางทิ้งตัวลงนอนหนุนตักยามที่ภัทรลุกขึ้นนั่ง คว้ามือเรียวมากดจูบซ้ำแล้วซ้ำอีก
 
            “เหนื่อยมั้ยครับ?”ภัทรลูบลงบนเรือนผมของผู้เป็นสามี ส่งยิ้มอ่อนโยนไปให้อย่างแสนรัก
 
เหนื่อยมั้ยที่ต้องแบกรับภาระไว้เพียงคนเดียว
 
เหนื่อยมั้ยที่ต้องสู้กับคุณนายใหญ่เพียงเพื่อครองคู่กับโอเมก้าชั้นต่ำอย่างเขา
 
            “เหนื่อยสิ งานเยอะมาก แต่พอกลับมาเจอเธอกับลูกพักซักแป๊บก็หายแล้ว”
 
            “ขอโทษนะครับ”กว้านหลินมองหน้าภัทรที่พูดคำขอโทษออกมาด้วยน้ำเสียงเจือรอยแห่งความเศร้า จิตใจของอัลฟ่าหนุ่มรู้สึกหมองลงอย่างไม่รู้ตัว
 
อยู่ๆก็เหมือนในอกมันหนักอึ้งไปหมด
 
            “ขอโทษทำไม ขอโทษเรื่องอะไร?”ฝ่ามืออุ่นลูบลงบนผิวหน้าที่มีหยาดน้ำตาเบาๆ
 
            “ขอโทษที่ช่วยอะไรคุณกว้านหลินไม่ได้เลย”กว้านหลินหัวเราะกับคำตอบนั้นอย่างเอ็นดู
 
            “จะไปช่วยอะไรได้ล่ะ ก็นั่นมันงานของฉัน ถ้าอยากช่วยน่ะ ช่วยอยู่เป็นกำลังใจให้ฉันตลอดไปก็พอ”
 
            “ไปอาบน้ำเถอะครับเดี๋ยวผมจะให้คนตั้งโต๊ะ อีกเดี๋ยวลูกก็ตื่นแล้ว วันนี้นอนเย็นคืนนี้สงสัยจะไม่หลับง่ายๆแน่ๆ”
 
            “ถ้างั้นรอแป๊บนะจะรีบอาบ เธอคงหิวแล้วสิ รีบกินก่อนลูกๆตื่นมากวนดีกว่าเธอจะได้กินได้เยอะๆ”กว้านหลินลุกขึ้นยืนพร้อมๆกับภัทรที่เดินไปหยิบผ้าขนหนูและเสื้อคลุมมายื่นให้
 
            “ถ้าอย่างนั้นผมลงไปข้างล่างก่อนนะครับ”
 
            “อืม ไปเถอะ”กว้านหลินรับผ้าที่ภรรยายื่นให้ ภัทรจับมือกว้านหลินรั้งไว้เบาๆจนชายหนุ่มเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ เด็กน้อยในอดีตยืดตัวกดจูบลงบนแก้มซ้ายของผู้เป็นสามี
 
            “ผมรักคุณกว้านหลินนะครับ”กว้านหลินยิ้มกว้างให้กับถ้อยคำแสนน่ารักนั้นก่อนจะรวบร่างบอบบางมาไว้ในอ้อมแขน กดจูบลงบนกลีบปากอิ่มนั้นเนิ่นนาน
 
            “ฉันก็รักเธอเหมือนกัน”ทั้งสองคนส่งยิ้มให้แก่กัน แต่ในรอยยิ้มนั้นกลับมีความรู้สึกที่ต่างกัน
 
คนหนึ่งยิ้มอย่างมีความสุข
 
คนหนึ่งยิ้มเพื่อกลบเกลื่อนความทุกข์ในใจ
 
ทุกข์ที่ไม่สามารถบอกกับใครได้ คล้ายเชื้อไฟที่ค่อยๆลามกองใบไม้ทีละนิดโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นควันอันจางบางเบานั้นเลย


..............................................

ไม่มีอะไรจะทอล์ค 5555555555555555555555555555


ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ยายแก่แม่บ้านเอ้ย มันไม่ใช่เรื่องที่แกจะมาสอดเลยนะ มันเป็นเรื่องของเจ้านายเขาก็ต้องให้เขาตัดสินใจกันเองซิ จะไปยุ่งให้มันเสียเรื่องทำไมกัน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ตัวไหมอ้วนกลม

  • สาว Y ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่เป็นแล้วรักษาไม่หายนะคะ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
 :m31: :m31: :m31:   เอาป้าแม่บ้านไปเผาแส่ดีนัก

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น เพียงแต่...... ยังไงก็เอาใจช่วยทั้งสองคนนะ //กว้านลินก็ไม่ใช่คนใจร้ายมากไปนี่นาา เบื้องหลังก็แอบช่วยแม่และน้องของภัทรอยู่นี้เอง //สนุกกกกก รอตอนต่อไปเลย ขอบคุณนะคะที่แต่งและขอบคุณในความพยายามที่จะแปลงจากฟิคเกามาเป็นนิยายวายไทยให้ได้อ่านกัน แอบรู้สึกว่ามีชื่อเกาหลุดมาเนืองๆ 55 ยังไงก็ขอบคุณอีกครั้งเพราะงั้นคงไม่ได้อ่านนิยายสนุกๆเรื่องนี้ในที่นี่  :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ง่า อะไรอ่ะป้าา เรื่องของเจ้านายเด้อ เหอะๆๆ

งงไปหมดใครเป็นเจ้าของบ้านกันแน่

น้องภัทรอย่าเพิ่งเสียใจน้าา ฮึบๆไว้

// ยังมีบางคำที่ยังไม่ได้ปรับจากแฟนฟิคนะคะ

ออฟไลน์ thanatcha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-2
Hydrangea 23 
 


                ไต้หวัน...
 
          ไล่กว้านหลินยืนสงบนิ่งหน้าหลุมฝังศพของผู้เป็นพ่อ เยื้องไปด้านหลังมีณภัทรที่อุ้มลูคัสข้างกันคือศลัยที่อุ้มลิซาไว้ในอ้อมอก ชายหนุ่มคุกเข่านั่งลงก่อนจะรินเหล้าใส่แก้วเล็กๆให้กับวิญญาณของไล่หยวนช่าง
 
            “พ่อครับ ผมมาขออนุญาตพ่อให้ผมได้แต่งงานอยู่กินกับภัทรอย่างถูกต้อง ถึงแม้พ่อจะจากไปหลายปีแล้วแต่ผมก็อยากจะบอกกับพ่อด้วยตัวเอง วันนี้จึงพาภัทรกับลูกมาทำความเคารพพ่อด้วย ผมหวังว่าพ่อจะอวยพรให้พวกเราสี่คนอยู่อย่างสงบสุขนะครับ พ่อดูสิครับผมมีทายาทสืบสกุลไล่ของเราแล้วนะครับ ซวี่ซีเป็นเด็กแข็งแรงเหมือนอย่างที่พ่อเคยหวัง ดังนั้นพ่อช่วยคุ้มครองหลานๆด้วยนะครับ”
 
            “คุณท่านครับ ผมภัทรเองนะครับ ขอโทษที่เวลาผ่านไปหลายปีแล้วเพิ่งมีโอกาสได้มาเคารพท่าน ผมมาขออนุญาตใช้ชีวิตคู่กับคุณกว้านหลิน แล้วก็...ผมอยากจะขอโทษแทนพ่อกับสิ่งที่พ่อได้ทำไป ผมสัญญาว่าจะดูแลลูกของผมกับคุณกว้านหลินอย่างดีที่สุดท่านไม่ต้องห่วงหรือกังวลใจไปนะครับ”
 
จะดูแลให้ดีที่สุดเท่าที่แม่และเมียคนหนึ่งจะทำให้กับสามีและลูกได้
 
ภัทรวางลูกน้อยลงบนเตียงอย่างแผ่วเบาลิซ่าหลับสนิทพอๆกับลูคัสที่ตระเวนเที่ยวทั่วไต้หวัน หลังจากมื้อเย็นแสนอร่อยจบลงกว้านหลินก็ให้คนของจอห์นนี่ที่ส่งมาอำนวยความสะดวกให้น้องชายและน้องสะใภ้ขับรถพาสามแม่ลูกและศลัยกลับมาส่งที่คอนโดส่วนตัวของกว้านหลินโดยไม่ลืมสั่งบอดี้การ์ดให้คอยดูแลอย่างดีที่สุด แล้วก็ต้องกลับเข้าไปในบ้านใหญ่เพื่อนอยู่คุยกับพี่ชายและพี่สะใภ้ต่อเรื่องกำหนดการณ์ของงานแต่งโดยบอกกับภัทรว่าอาจจะกลับมาดึกหน่อยไม่ต้องรอถ้าเหนื่อยหรือง่วงก็ให้เด็กน้อยของเขานอนหลับไปได้เลย
 
            “พี่ศลัยก็ไปพักเถอะครับ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”ภัทรหันไปยิ้มกับพี่เลี้ยงสาว เห็นใจหล่อนอยู่ไม่น้อย อยู่ไทยก็คอยดูแลตัวเขาและลูกพอมาไต้หวันแทนที่จะได้เที่ยวเล่นพักผ่อนให้สบายกลับทำงานหนักมากยิ่งขึ้นไปอีก หญิงสาวส่งยิ้มให้กับเจ้านายที่หล่อนมอบกายถวายชีวิตดูแลจากความสงสารจนตอนนี้เป็นความรักและปรารถนาดีเท่าที่เพื่อนมนุษย์คนหนึ่งจะมีให้กันได้
 
            “ถ้ามีอะไรก็เรียกนะคะ เดี๋ยวพี่เตรียมน้ำร้อนใส่กระติกไว้เผื่อคุณหนูตื่นจะได้ชงนมให้เธอทานได้เลย”
 
            “ขอบคุณครับ”หลังจากศลัยออกไปแล้ว ภัทรจึงได้มีเวลาอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน โอเมก้าแม่ลูกอ่อนหยิบหนังสือนิยายที่พกติดตัวมาด้วยขึ้นมานั่งอ่านหากแต่กลับต้องวางลงบนโต๊ะหัวเตียงเมื่ออ่านไปได้ไม่กี่หน้า เสียงโทรศัพท์ดังจนต้องรีบตะครุบขึ้นมาแนบหูเพราะกลัวลูกทั้งสองจะตื่น ลิซ่าสะดุ้งและขยับตัวเล็กน้อยจนภัทรต้องตบลงบนอกเล็กเบาๆอย่างปลอบโยน
 
            “สวัสดีครับ...”
 
            “ณภัทรใช่มั้ย? ฉันคุณนายตระกูลไล่”น้ำเสียงทรงอำนาจของสตรีที่ภัทรไม่มีโอกาสได้พบเลยซักครั้งดังออกมาจากโทรศัพท์ แม้ไม่ได้นั่งฟังคนๆนี้พูดตรงหน้าแต่น้ำเสียงที่ส่งผ่านมากลับทำให้เลือดในกายเย็นเฉียบ
 
คุณนายใหญ่สกุลไล่
 
คนที่คัดค้านการแต่งงานของตนและกว้านหลิน
 
            “ครับ...สวัสดีครับคุณนายใหญ่”
 
            “หึ...”เสียงหัวเราะในลำคอสั้นๆที่ส่งกลับมายามเอ่ยทักทายไม่ได้ทำให้รู้สึกดีเลยซักนิด กลับกัน เสียงหัวเราะนั้นกลับยิ่งทำให้หน้าผาสูงใหญ่ในมโนภาพของภัทรชัดเจนขึ้น มันสูงเสียจนต่อให้แหงนหน้าขึ้นมองจนคอตั้งฉากก็มองไม่เห็นยอดเขาสูงเสียดฟ้านั้นได้เลย
 
            “เรียกฉันถูกคนก็แสดงว่าพอจะรู้อะไรมาบ้างแล้วสินะ”ไล่อี้เฟยเหยียดยิ้มใส่เครื่องมือสื่อสารอย่างพอใจ
 
ก็ดี จะได้ไม่ต้องเสียเวลาพูดอะไรเยอะแยะน่ารำคาญ
 
            “ออกไปจากชีวิตลูกชายของฉันได้มั้ย? ถือว่าฉันขอร้อง กว้านหลินไม่ควรต้องมีประวัติด่างพร้อยเพราะคนชั้นต่ำอย่างเธอ”
         
ไม่ผิดจากที่คิดเลยซักนิด...ณภัทรกำโทรศัพท์แน่น ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันอย่างคนที่ขลาดกลัว
 
กลืนก้อนสะอื้นที่รื้นขึ้นมาอยู่ที่ลำคออย่างยากลำบาก
 
            “แต่เรารักกันนะครับ...ผมขออยู่กับคุณกว้านหลินไม่ได้เหรอครับ ผมสัญญาว่าจะอยู่อย่างเจียมตัว”
 
            “ลูกชายของฉันไม่ได้ถูกเลี้ยงดูให้โตมาเพื่อเอาลูกคนทรยศมาเป็นเมียออกนอกหน้านอกตาหรอกนะ เธอใช้สมองโง่ๆของเธอคิดดูว่าเหล่าผู้ถือหุ้นจะยอมรับเธอและกว้านหลินได้มั้ย ลูกชายของฉันอาจถูกสงสัยได้ว่าสมรู้ร่วมคิดกับพ่อของเธอวางแผนฆ่าพ่อตัวเองเพื่อขึ้นมาเป็นประธานบริษัท หรือแม้แต่ตัวของเธอเองก็เถอะ จะเชื่อได้เหรอว่าไม่รู้เห็นกับสิ่งที่พ่อของตัวเองทำ พ่อเธอฆ่าสามีของฉัน ฆ่าพ่อของกว้านหลิน ส่วนกว้านหลินเองก็ฆ่าพ่อของเธอ ทุกวันนี้เธอกินข้าวได้คล่องคอคล่องปากงั้นรึ? คนจีนเราถือเรื่องความกตัญญูเป็นที่ตั้ง แต่ดูสิ่งที่เธอสองคนทำสิ น่าขำเหลือเกิน เธอคิดว่าความรักของเธอสองคนมันยิ่งใหญ่พอที่จะทำให้คนอื่นมาชื่นชมเหรอ?”
 
            “ผม...”
 
            “หรือเรื่องแค่นี้เธอก็คิดไม่ได้ ขอร้องล่ะ ฉันพูดในวันนี้ก็พูดด้วยเพราะอยู่ในฐานะแม่ ถึงกว้านหลินจะไม่ใช่ลูกแท้ๆแต่ฉันก็เลี้ยงเค้ามาตั้งแต่ท่านหญิงเสีย กว้านหลินสูงส่งทั้งชาติกำเนิดและสถานะ อย่าให้การแต่งงานกับเธอต้องมาดึงชีวิตของเขาลงที่ต่ำเลย ถ้าเธอยังดึงดันที่จะแต่งงานกับเขาฉันก็คงต้องบอกเธอตรงนี้ว่ากว้านหลินคงจะต้องถูกปลดจากตำแหน่งในบริษัท รวมทั้งปลดออกจากสกุลไล่ด้วย เธอไม่เห็นแก่กว้านหลินก็เห็นแก่ลูกๆของเธอเถอะหากกว้านหลินโดนปลดคนที่ลำบากก็คือลูกๆของเธอ หรือเธอจะเห็นแค่ความสุขส่วนตัวโดยไม่สนใจอนาคตของลูกๆ ว่ากันว่าคนเป็นแม่น่ะ ยอมเสียสละได้ทุกอย่างเพื่ออนาคตที่ดีของลูก หรือเธอไม่ใช่แม่ประเภทนั้น เธอจะเห็นแค่ความสุขชั่วครั้งชั่วคราวพอแก่เฒ่าความรักก็จะค่อยๆลดลงไปเธอจะยอมให้ความรู้สึกประเดี๋ยวประด๋าวมาทำลายอนาคตที่ดีของลูกเชียวเหรอ”
 
            “ไม่...ผมไม่.. มันไม่ใช่อย่างนั้น”ภัทรลำล่ำละลักตอบกลับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ โอเมก้าต้อยต่ำยกมือขึ้นปิดปากมองลูกน้อยของตัวเองที่นอนหลับบนเตียงด้วยสายตาทั้งรักทั้งห่วง
 
เขาไม่มีทางยอมให้ลูกๆต้องลำบากและกว้านหลินก็คงไม่ยอมเช่นกัน ภัทรสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะกรอกเสียงลงไปในสาย
 
            “ผมรักคุณกว้านหลิน และคุณกว้านหลินก็รักผม ความรักของเราไม่ใช่เด็กเล่นขายของไม่ว่าจะยังไงผมกับคุณกว้านหลินก็จะแต่งงานกัน ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงได้ ผมต้องขอโทษที่ขัดใจท่านนะครับ  ได้โปรดอนุญาตให้เราสองคนแต่งงานกันเถอะครับ”
 
            “ดี!! เธอจะเอาอย่างนี้ใช่มั้ย ได้ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน”ณภัทรปล่อยโทรศัพท์ร่วงลงบนเตียงอย่างหมดแรง ความเข้มแข็งที่พยายามแสร้งทำทลายลงทันที
 
หนักหนาเหลือเกิน ทำไมเส้นทางความรักของตนกับกว้านหลินช่างยากลำบากนัก
 
เหมือนทุกก้าวที่ย่างเท้าโรยด้วยหนามกุหลาบ เด็กน้อยยกมือขึ้นมากุมหน้าร้องไห้สะอื้นฮัก หากแต่ต้องชะงักเมื่อมือป้อมๆของลูกชายที่ตื่นเพราะเสียงร้องไห้ของแม่แตะลงลนท่อนแขน ลูคัสเบะปากดวงตาฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำมองมารดาอย่างใจเสีย
 
            “หม่าม้า หม่าม้า”เสียงเล็กของลูกที่ยังพูดไม่ชัดร้องเรียกพลางทิ้งศีรษะลงบนตักของแม่ยิ่งทำให้ภัทรร้องไห้หนักขึ้น  คนเป็นแม่ยกมือป้อมๆของลูกชายขึ้นมาจูบก่อนจะรวบร่างน้อยมากอดแนบอก
 
            “แม่รักลูกมากๆนะ รักที่สุดในชีวิตเลย”
 
รักยิ่งกว่าชีวิตของตัวเองเสียอีก...




 
 
            การเตรียมงานแต่งงานเหนื่อยกว่าที่คิด ทั้งกว้านหลินและภัทรต่างวิ่งวุ่นกับการวัดตัวตัดชุดและสารพัดงานจิปาถะที่ต้องแก้ปัญหา มีทั้งปัญหาเล็กๆที่แก้ไขได้ง่ายรวมทั้งปัญหาใหญ่เช่นการจัดแนวดอกไม้ที่ต้องสั่งดอกไม้บางชนิดนำเข้ามา  แต่ปัญหาที่ทำให้ภัทรงอนกว้านหลินไปเสียสามวันก็คือ
 
            “ใส่สีดำเถอะ”
 
ไล่กว้านหลินอยากใส่สูทสีดำในการเข้าพิธี ซึ่งภัทรอยากให้ธีมเป็นขาวและเทาอมฟ้า
 
            “งานแต่งนะครับไม่ใช่งานศพ”ในที่สุดหลังจากโดนงอนไปสามวันกว้านหลินก็ได้สูทตัวเสื้อสีขาวมีเสื้อกั๊กสีเทาอมฟ้ารวมทั้งกางเกงที่เป็นสีเดียวกัน ส่วนพิธีในโบสถ์เป็นสูทขาว ดูสว่างราวเทวดาตกจากสวรรค์ เรือนผมสีบลอนด์ยิ่งเปล่งประกายทำให้อัลฟ่าหนุ่มดูดีจนละสายตาไม่ได้ระยะเวลาการเตรียมงานกระชั้นเข้ามาเรื่อยๆ ภัทรรู้สึกเหมือนตัวเองร้อนรนไปหมด หนึ่งอาทิตย์ก่อนงานแต่งจะเกิดขึ้นจอห์นนี่กับวิคตอเรียและลูกๆเดินทางมาถึง สองวันให้หลังคริสและลีโอรวมทั้งหวังอี้เฉินก็ตามมาสมทบ เบต้าหนุ่มมีท่าทีสำรวมต่อภัทรมากขึ้น แม้จะไม่ได้พูดคุยกันมากนักแต่สายตาที่อี้เฉินมองมาที่ภัทรนั้นยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
 
สายตาของความปรารถนาดี ภัทรโค้งให้กับเบต้าหนุ่ม รอยยิ้มจางๆส่งมาให้ ต่างคนต่างเอาประสบการณ์ที่ผ่านมามาใช้เตือนตัวเองว่า สถานะของเราต่างกันและบทเรียนเก่าๆนั้นบอกได้เป็นอย่างดีว่าการทำอะไรโดยไม่คิดมีผลเสียมากเพียงไหน
 
เป็นเพียงคนรู้จักกันก็พอ  อย่าสนิทไปมากกว่านี้เลยไม่อย่างนั้นคนที่เดือดร้อนก็คงไม่พ้นอี้เฉินเอง
 
อี้เฉินเองก็เรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านเข้ามาตลอดสองปีกว่าว่าบางครั้งการที่เรารักใครซักคน เราแค่หวังให้เขามีความสุขกับสิ่งที่เลือก
 
ความรักบางครั้งก็ไม่ใช่การได้ครอบครองซึ่งกันและกันหากแต่กลับเป็นเพียงการเห็นคนที่เรารักใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในสิ่งที่เขาเลือกนั่นเอง
 
และในวันนี้ภัทรมีใบหน้าฉาบด้วยรอยยิ้มตลอดเวลา
 
แค่นี้เขาก็วางใจกับอนาคตของเด็กน้อยน่าสงสารในอดีตคนนั้นแล้ว
 
 
 
            ภัทรดีใจมากที่ได้เจอวิคตอเรีย อย่างไรเสียวิคตอเรียคือพี่สาวที่แสนดีสำหรับภัทรเสมอ เธอเข้ามาช่วยจัดการเรื่องต่างๆที่ภัทรหัวหมุนได้อย่างเป็นระบบระเบียบรวมทั้งช่วยดูแลเด็กๆ หาวหาวเข้ากันได้ดีกับลูคัสถึงแม้จะห่างกันถึงห้าปี เด็กชายโตจากครั้งก่อนมากเข้าเรียนชั้นอนุบาลแล้วแต่ความแสบซ่านั้นกลับไม่ได้ลดลงเลยซักนิด ส่วนเหมียวเหมียววัยเก้าขวบดูจะชอบน้องน้อยวัยเกือบสี่เดือนมากกว่า
 
            “น้องน่ารักนุ่มนิ่มหนูอยากอุ้มน้อง”
 
            “น้องยังเล็กเกินหนูอุ้มน้องเดินไม่ได้ แต่ถ้าอุ้มวางบนตักได้เอามั้ยคะ?”ภัทรบอกกับหลานสาวคนโตอย่างใจดี เด็กหญิงเหมียวเหมียวพยักหน้าอย่างดีใจ เธอกลายเป็นผู้ช่วยในการเลี้ยงน้องไปโดยปริยาย ส่วนหาวหาวก็ฉัดกระชากลากถูกับลูคัสน้อยทั้งวัน เสียงเด็กๆเจี๊ยวจ๊าวน่าปวดหัวแต่สำหรับคนเป็นแม่แล้วการได้เห็นลูกหัวเราะนั่นคือความสุข
 
ก่อนวันงานหนึ่งวันคุณนายรองตระกูลไล่ก็เดินทางมาถึง สตรีหมายเลขสองเลือกที่จะพักในโรงแรมที่ใช้เป็นสถานที่จัดงานมากกว่าพักที่บ้าน
 
            “เขียนคำสาบานแล้วหรือยัง?”วิคตอเรียที่เดินมาวางแก้วนมให้กับว่าที่เจ้าสาวในวันพรุ่งนี้เอ่ยถาม ภัทรยิ้มรับพลางส่ายหน้า
 
            “ผมยังนึกไม่ออกเลยครับว่าจะเขียนอะไร”
 
            “โธ่เอ้ย เด็กน้อยของฉัน เธอก็แค่เขียนความในใจลงไป จิตใจของเธอบริสุทธิ์เพราะฉะนั้นฉันเชื่อว่าไม่ว่าเธอจะเขียนอะไรลงไปมันก็ดีทั้งนั้น ตอนฉันเขียนให้จอห์นนี่ก็ยากอย่างนี้แหละ แต่พอนึกถึงช่วงเวลาที่เรียนรู้ซึ่งกันละกันมันก็เขียนได้เอง”
 
            “ผมกลัวจะทำได้ไม่ดีพอ”ภัทรก้มหน้าบีบมือตัวเอง
 
เป็นท่าทางของความขลาดกลัวจนวิคตอเรียอดที่จะรู้สึกสงสารไม่ได้ หญิงสาวกุมมือเด็กที่หล่อนให้ใจรักเหมือนเป็นพี่น้องร่วมท้องกันมา
 
            “ภัทร อย่าเอาแต่ก้มหน้าหนีปัญหาหรือความกลัว เธอเก่งและเธอเข้มแข็งกว่าที่เธอรู้ อยากเขียนอะไร หรืออยากทำอะไรก็ทำเลย ฉันเชื่อว่าไม่ว่าเธอจะทำอะไรสิ่งๆนั้นคือสิ่งที่ดีที่สุด เชื่อใจตัวเองสิ ถ้าเธอมีปัญหาอะไรให้ช่วยก็บอกพี่ พี่จะช่วยเธอทุกอย่าง เพราะฉะนั้นคืนนี้พี่จะเอาเด็กๆเข้านอนเอง เธอเขียนคำสาบานไปนะ”ภัทรส่งยิ้มตอบให้กับอัลฟ่าสาวที่มีแต่ความใจดีให้เขาเสมอมา วิคตอเรียอยู่คุยกับภัทรอีกพักใหญ่จึงลงไปต้อนเด็กๆให้เข้านอน พรุ่งนี้ทั้งหมดจะไปพักที่โรงแรมสถานที่จัดงาน กว้านหลินและพี่ชายทั้งสองล่วงหน้าไปก่อนแล้วเมื่อตอนเย็นเพื่อควบคุมงานขั้นตอนสุดท้ายโดยไม่อนุญาตให้ภัทรติดตามไปด้วยยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องจัดเตรียมให้เสร็จ บรรดาภรรยาทั้งสามจึงปักหลังอยู่ที่บ้าน ลีโอพาซื่อชุนลูกชายคนแรกวัยหกเดือยของตนกับอี้ฟานมาเล่นกับลูคัสและลิซ่าก่อนจะพากลับห้องในตอนสามทุ่ม
 
ยามเช้าบ้านทั้งหลังเข้าสู่ความวุ่นวายอีกครั้งเมื่อต้องต้อนเด็กๆให้ทานอาหารเช้ารวมทั้งจัดเตรียมข้าวของเพื่อไปพักที่โรงแรม บรรดาแม่บ้านวิ่งวุ่นเข้าห้องนั้นออกห้องนี้ ที่เหนื่อยสุดเห็นจะเป็นศลัย ทั้งอุ้มทั้งดึงลูคัสที่ติดหาวหาวจนแทบจะกลิ้งลงบันไดมา ขบวนแม่ลูกและผู้ติดตามมาถึงโรงแรมในตอนบ่าย วิคตอเรียพาภัทรไปสปาเพื่อนวดตัวโดยทิ้งเด็กๆให้ศลัยและพี่เลี้ยง ลีโอขอตัวไปอยู่กับคริสเพราะไม่ชอบนวดซักเท่าไหร่
 
            “ตื่นเต้นมั้ย?”หลังจากสปาเสร็จทั้งคู่ก็แวะมากินขนมหวานที่ห้องอาหารของโรงแรม ภัทรวางแก้วชาที่จิบไปอึกใหญ่ลงบนจานรองพลางพยักหน้า
 
            “ตื่นเต้นมากครับ ผมอยากไปดูที่โบสถ์แต่คุณกว้านหลินห้าม”
 
            “คงอยากเซอร์ไพร์ส แล้วนี่ใครเป็นคนจูงมือเข้าโบสถ์ล่ะ?”
 
            “คุณหมอนนท์ครับ”ภัทรตอบด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ก็ในเมื่อเขาไม่มีพ่อแล้ว อนลคือคนรู้จักคนเดียวที่พอจะทำหน้าที่นั้นได้ และที่ผ่านมาหมอนนท์ก็ดูแลปกป้องเขาไม่ต่างจากผู้เป็นพ่อเลยซักนิด เมื่อโอเมก้าแม่ลูกอ่อนไปขอให้คุณหมอหนุ่มมาทำหน้าที่นี้ก็อดไม่ได้ที่จะบ่นนิดหน่อยแต่ก็ยอมตกลงแต่โดยดี
 
            “ผมเขียนคำสาบานเสร็จแล้วนะครับ”
 
            “ฉันจะรอฟังพรุ่งนี้พร้อมทุกคน ชายสามอาจจะหลั่งน้ำตาด้วยความซึ้งก็ได้”
 
           
ณภัทรถูกปลุกขึ้นมาแต่งหน้าแต่งตัวตั้งแต่ตีสี่ โอเมก้าแม่ลูก่อนที่นอนหลับๆตื่นๆมาค่อนคืนบิดขี้เกียจอย่างเหนื่อยล้า วิคตอเรียเป็นคนติดต่อช่างแต่งหน้าคนนี้มาเอง หญิงสาวบอกสิ่งที่ต้องการให้กับช่างโดยที่ภัทรมีหน้าที่นั่งหาวหวอดๆไปเรื่อยๆ
 
ง่วงจนแทบจะหลับกลางอากาศก็หลายครั้ง ไม่น่าเชื่อ ทั้งๆที่ตนเองเป็นผู้ชายคิดว่าไม่ต้องแต่งอะไรมาก สุดท้ายก็ยังต้องแต่งนานเป็นชั่วโมง วิคตอเรียบอกว่าให้แต่งเป็นธรรมชาติที่สุดแต่ให้ดูอ่อนหวานน่าทะนุถนอมเมื่อตื่นเต็มตาก็พบว่าคนในกระจกดูดีกว่าทุกวัน แก้มถูกปัดคล้ายบ่มแดดดูน่าค้นหา ริมฝีปากถูกแต่งแต้มจนเป็นสีระเรื่อยิ่งพอเจ้าตัวสวมชุดแต่งงานที่เสื้อตัวในคอและปลายแขนเป็นลูกไม้เล็กๆที่คอเสื้อผูกด้วยโบว์เส้นเล็กๆสีเทาอมฟ้าอ่อนๆแล้วยิ่งดูอ่อนหวานเข้าไปใหญ่ ภัทรถูกพาไปที่โบสถ์เมื่อใกล้ถึงพิธีทางศาสนา อนลมาพร้อมคนขับรถเพื่อมารับเจ้าสาวที่ตนจะพาไปส่งให้กว้านหลิน ช่อบูเก้ที่ประกอบด้วยดอกไลเซนทัสถูกยื่นมาให้กับภัทร
 
ดอกไม้ประจำตัวของเขาเอง
 
สวยและดูอ่อนโยนไม่ผิดจากเจ้าตัวเลยซักนิด
 
ความรู้สึกของเจ้าสาวยามที่เห็นทางเดินรวมทั้งรอบโบสถ์ประดับประดาไปด้วยดอกไลเซนทัสและไฮเดรนเยียหลากสีแซมด้วยดอกยิปโซเล็กๆรวมทั้งดอกสุ่ยยิ่งทำให้หัวใจของภัทรเต็มตื้น โบสถ์ถูกตกแต่งงดงามราวปราสาทในเทพนิยาย
 
แขกในงานคนอื่นๆไม่อยู่ในสายตาอีกต่อไปเมื่อพบว่าที่นั่งแถวแรกของงานถัดจากพี่ชายทั้งสองของกว้านหลินก็คือแม่และน้องๆของตน ลูคัสถูกอุ้มนั่งอยู่บนตักของคุณนายรองตระกูลไล่ส่วนลิซ่านั้นภาวิณีเป็นคนอุ้ม ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวคือเบต้าหนุ่มเฉินเสี่ยวป่าย ภัทรเดินเข้ามาหากว้านหลินเรื่อยๆ
 
ชายหนุ่มในวันนี้แปลกตาไป
 
เรือนผมสีบลอนด์ถูกย้อมจนดำสนิทเปิดหน้าผากส่งให้ใบหน้ายิ่งคมเข้ม กว้านหลินส่งยิ้มให้กับว่าที่ภรรยาที่กำลังจะถูกต้องตามกฎหมายก่อนจะยื่นมือไปรับมือเล็กๆของภัทรไว้
 
ยามเมื่อฝ่ามือนุ่มวางทับลงมานั่นเป็นสัญญาณว่าต่อไปนี้เขาจะรักและดูแลภัทรให้ดีที่สุด พิธีการดำเนินไปจนถึงช่วงแลกคำสาบาน กว้านหลินรับไมค์มาถือไว้ก่อนจะคลี่แผ่นกระดาษที่ตนเองเขียนและลบไปเสียหลายครั้ง น้ำเสียงของชายหนุ่มสั่นเล็กน้อยด้วยความประหม่าหากแต่ภัทรก็กระชับมือเป็นกำลังใจให้กับผู้เป็นสามี น้ำเสียงทุ้มก้องกังวานยามเอ่ยขานคำสาบานของตน ตรึงคนฟังราวต้องมนตร์สะกด
 
          “ณภัทร ก่อนอื่นฉันอยากจะขอโทษกับทุกเรื่องที่ผ่านมา ขอโทษที่เคยทำร้ายๆกับเธอ แม้ว่าฉันจะพูดจาหรือทำร้ายร่างกายเธอทั้งที่มีสติและขาดสติ แต่สิ่งหนึ่งที่เธอมีให้กับฉันเสมอมาคือการให้อภัย เพราะความรักและความดีที่เธอมีให้ค่อยๆทลายกำแพงที่ฉันสร้างขึ้นมาทีละนิดจนกระทั่งเราสามารถมาใช้ชีวิตร่วมกันในวันนี้ได้ ดังนั้นวันนี้ฉันขอสัญญา ไม่ว่าจะยามทุกข์หรือยามสุข คนที่ฉันจะนึกถึงและปกป้องเป็นคนแรกคือเธอ ไม่ว่าจะมีเรื่องร้ายหรือดีคนที่ฉันจะคอยยืนเคียงข้างกุมมือเผชิญปัญหาไปด้วยกันก็คือเธอ ทุกครั้งที่มีความสุขคนๆแรกที่ฉันอยากให้ร่วมชื่นชมและรับผลด้วยกันก็คือเธอ ขอบคุณที่ให้กำเนิดลูกๆแสนน่ารักให้กับฉันถึงสองคน ฉันขอสัญญาว่าจากนี้ไป จะรักและให้เกียรติเธอและลูกๆของเราจะดูแลคุ้มภัยตราบสิ้นลมหายใจ จะซื่อสัตย์ละมีเธอเป็นภรรยาเพียงคนเดียวจนกว่าชีวิตจะหาไม่”ณภัทรยิ้มออกมาอย่างตื้นตันใจ น้ำตาไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ โอเมก้าขี้แยยิ้มกว้างกับคำสาบานนั้น หัวใจพองฟูราวลูกโป่งอัดก๊าซ กว้านหลินไม่ได้พูดอะไรเกินจริงเลยหากแต่ทุกคำที่กล่าวมาฝังสลักลงในใจของภัทรทุกถ้อยคำ เด็กน้อยรับไมโครโฟนมาถือไว้แล้วเริ่มอ่านคำสาบานของตนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือไม่แพ้กัน
 
ภาพทุกภาพที่เคยทำร่วมกันมาค่อยๆผุดขึ้นมาในความทรงจำ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกว้านหลิน
 
วันที่ต้องพรากจาก
 
วันที่กลับมาพบกันอีกครั้งด้วยเหตุการณ์ไม่คาดคิด
 
วันที่ทำร้ายกัน
 
วันที่รักและปกป้องซึ่งกันและกัน
 
ราวหนังที่ฉายซ้ำแล้วซ้ำอีก
 
มีทั้งความทุกข์และความสุขที่ปะปน
 
จนสุดท้ายภาพที่เห็นคือกว้านหลินและลูกน้อยทั้งสองคน
 
นี่คือสุดรักสุดดวงใจของภัทร
 
            “เมื่อคืนผมนอนไม่หลับ ผมไม่รู้ว่าผมควรจะเริ่มเขียนคำสาบานของผมยังไง ดังนั้นก่อนอื่นผมขอขอบคุณคุณกว้านหลินที่ยังคงเป็นอัศวินของผมเสมอมา ตั้งแต่เล็กจนโต คนที่คอยปกป้องผมก็คือคุณกว้านหลิน แม้มีช่วงระยะเวลาหนึ่งที่เราต้องแยกจากกันแต่ผมไม่เคยลืมคุณกว้านหลินเลยซักวัน ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างกันในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต ขอบคุณที่คอยกอดและหอมแก้มผมที่ตอนนั้นน้ำก็ไม่ได้อาบแถมยังอ้วแเผละเป็นภาระให้คุณต้องคอยดูแล ไม่ว่าผมจะเป็นเพียงเด็กชายณภัทรวัย 8 ขวบ หรือณภัทรวัย 22 ปีคนนี้ คุณก็ยังคงเป็นอัศวินผู้พิทักษ์ของผม ผมขอสัญญาว่าต่อจากนี้จะรักและซื่อสัตย์ต่อคุณคนเดียว คุณจะเป็นรักแรกรักเดียวและรักสุดท้ายที่ผมจะมีในชีวิต ณภัทรคนนี้จะมีไล่กว้านหลินเป็นสามีคนเดียวตลอดไป ผมรักคุณ”เมื่อคำสาบานสิ้นสุดกว้านหลินก็ใช้ปลายนิ้วเช็ดน้ำตาให้กับภรรยาของตนก่อนจะประทับริมฝีปากมอบจูบแสนหวาน ผู้ร่วมงานต่างพากันปรบมือดังกึกก้องก่อนที่บ่าวสาวจะเดินออกมาที่หน้าโบสถ์ ภัทรหันมาโบกมือให้กับทุกคนแล้วจึงหันหลังโยนช่อดอกไม้ไปให้กับผู้ร่วมงานที่ยังโสด
 
            “อ๊ะ...ปล่อยนะคุณ ผมคว้าได้ก่อน”เฉินเสี่ยวป่ายพยายามยื้อแย่งช่อดอกไม้ออกจากมือของอนลที่กุมมือเขาไว้แน่น ทั้งสองยื้อยุดกันไปมาจนหมอนนท์กระซิบเบาๆให้ได้ยินกันสองคน
 
            “อยากได้ก็เอาไปแต่เดี๋ยวตอนงานแต่งของเราผมจะสั่งช่อใหม่ให้”
 
            “จ...จะบ้าเหรอ ใครจะไปแต่งกับคุณล่ะ เพ้อเจ้อ”

TBC.

#ไฮเดรนเยีย


......................................

จะจบแล้วววววววว


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-01-2020 19:21:22 โดย thanatcha »

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Chakaimook

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อยากให้ทั้งคู่ผ่านอุปสรรคต่างๆไปได้และอยู่กันอย่างมีความสุขซ้ากกกกที~

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่เลยนะ

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1001
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
แอบรอเธออยู่นะจ้ะ  :z13:

ออฟไลน์ thanatcha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-2
 ณภัทรกวาดตามองไปจนทั่วงาน บรรดาแขกเหรื่อที่ส่งเสียงแสดงความยินดีแก่คู่แต่งงานในวันนี้นั้น
 
จะมีซักกี่คนที่ยินดีกับพวกเขาทั้งสองคนจริงๆ
 
ถ้าจะให้นับแล้ว คงมีเพียงสมาชิกในครอบครัวของกว้านหลินนั่นแหละที่ยินดีไปกับเขาทั้งสองคนด้วย
 
แม้แต่แม่และน้องชายทั้งสองคนที่ถูกจัดให้นั่งร่วมโต๊ะกับคริส ลีโอ จอห์นนี่ และวิคตอเรียก็นั่งก้มหน้านิ่ง แม่ไม่ได้ยินดีกับการแต่งงานของภัทร น้องทั้งสองคนก็แทบจะไม่มองหน้ากว้านหลินและคนอื่นๆบนโต๊ะเลย  หากแต่ทั้งสามจำต้องทนฝืนนั่งร่วมโต๊ะกับตระกูลอัลฟ่า
 
ถึงแม้ปากจะบอกว่าความบาดหมางที่ผ่านมาขอให้มันเป็นอดีตแต่พอเอาเข้าจริงก็ไม่มีใครลืมได้หรอก มีเพียงความกระอักกระอ่วนใจ คุณนายรองเมินไม่มองครอบครัวของภัทรเลยด้วยซ้ำ
 
เสียงเพลงจากนักดนตรีฝีมือดีช่วยขับกล่อมแขกในงาน  ภัทรและกว้านหลินหลังเสร็จสิ้นพิธีการต่างๆและการพูดคุยกับแขกก็กลับมานั่งที่โต๊ะ โอเมก้าแม่ลูกสองกุมมือนุ่มของแม่ไว้ใต้โต๊ะแล้วบีบเบาๆ  สองแม่ลูกสบตาแล้วยิ้มให้แก่กัน
 
แม้จะรู้สึกแย่แต่เราจะผ่านมันไปด้วยกัน
 
ในที่สุดงานเลี้ยงก็สิ้นสุด คุณนายรองกลับขึ้นไปพักในห้องด้านบนสุดที่จองไว้ คู่บ่าวสาวกลับมาถึงบ้านหลังเข็มนาฬิกาบอกเวลาตีหนึ่งครึ่ง บรรดาพี่ๆแยกย้ายกันไปพักผ่อน  ความเหนื่อยล้าทำให้สีหน้าอิดโรย  ดวงตาของภัทรแดงๆเพราะก่อนกลับกอดลากับแม่ แม่อวยพรให้ภัทรมีความสุขกับชีวิตคู่ เริ่มต้นใหม่และโตเป็นผู้ใหญ่จริงๆเสียที
 
ภัทรเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวแล้วจัดชุดนอนมายื่นให้กว้านหลิน
 
                “คุณกว้านหลินไปอาบน้ำก่อนเถอะครับ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”สองมือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตให้กับผู้ที่เป็นสามีอย่างถูกต้องตามกฎหมายอย่างคุ้นชิน
 
                “ไม่อาบด้วยกันเหรอ แช่อ่างสบายๆ”กว้านหลินรั้งเอวบางไว้ก่อนจะฝังจมูกกับซอกคอผู้เป็นภรรยา ภัทรผลักอกของเขาออกเบาๆใบหน้าหวานฉาบด้วยรอยยิ้มละมุน
 
                “ไม่เอาครับ คุณกว้านหลินไปอาบน้ำให้สบายเนื้อสบายตัวก่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมแวะไปดูลูกๆแล้วจะกลับมา”ประคองใบหน้าหล่อที่ถูกล้อมกรอบด้วยเรือนผมสีดำสนิทแล้วกดจูบแผ่วเบา กว้านหลินยิ้มให้กับความอ่อนหวานน่ารักนั้นของภรรยา
 
                “ไม่ดื้อนะครับ เดี๋ยวจะให้รางวัล”พูดจบก็ดึงตัวออกจากอ้อมกอดของกว้านหลิน แม้ชายหนุ่มจะเอื้อมมือเพื่อคว้าร่างนุ่มนิ่มนั้นหากแต่ภัทรกลับไวกว่า โอเมก้าเด็กของเขาหัวเราะเสียงใสก่อนจะเร้นกายหายออกไปจากห้อง กว้านหลินจัดการอาบน้ำนานราวๆ 15 นาที เมื่อออกมาก็พบภัทรนั่งรออยู่แล้วพร้อมชุดนอนของตัวเองที่วางไว้บนตัก
 
                “ใส่แค่ผ้าขนหนูออกมาก็ได้มั้ง เพราะเดี๋ยวก็ต้องถอดอยู่ดี”แกล้งก้มไปกระซิบชิดริมหูเรียกสีแดงซ่านให้มาประดับบนสองแก้มปลั่งได้ในทันที ปลายจมูกโด่งคลอเคลียที่ผิวแก้มจนใบหน้าร้อนผ่าว หากแต่ภัทรในวันนี้ไม่ใช่โอเมก้าขี้ขลาดไร้เดียงสาอย่างเมื่อหลายปีก่อนแล้ว พอตั้งสติได้ก็ช้อนตาขึ้นสบกับสามี รอยยิ้มน้อยๆนั้นช่างน่าดู ยื่นหน้าเข้าไปใกล้มากกว่าเดิมจนริมฝีปากแตะกันผะแผ่ว
 
                “ใส่เพื่อให้คุณกว้านหลินช่วยถอดให้มันดีกว่าแก้ผ้าออกมาตั้งเยอะนี่ครับ”
 
ไล่กว้านหลินไม่เคยคิดว่าตัวเองจะอดทนรออะไรได้นานขนาดนี้ เข็มนาฬิกาเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างเชื่องช้าในความรู้สึก ปกติภัทรจะใช้เวลาในการอาบน้ำพอๆกับเขาคือ 15-20 นาที แต่วันนี้ต่างไปจากเดิม 20 นาทีผ่านไป ภัทรก็ยังอาบน้ำไม่เสร็จ อัลฟ่าหนุ่มจ้องไปยังประตูห้องน้ำราวกับจะกดดันคนด้านในให้ออกมาซักทีจนกระทั่งประตูห้องน้ำเปิดออกมาไล่กว้านหลินกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
 
ภัทรในวันนี้ดูร้อนแรงเสียเหลือเกิน ชุดนอนผ้าลื่นๆลีขาวของเจ้าตัวประดับบนเรือนกายหากแต่ภัทรใส่ออกมาแค่เพียงเสื้อ ส่วนปลายเสื้อยาวพอที่จะปิดอะไรๆที่เจ้าตัวดึงปิดไว้ กลิ่นดอกไลเซนทัสหอมกรุ่นผสมเคล้ากลิ่นฝนแรกแสนชุ่มฉ่ำ บรรยากาศในห้องดูจะเย็นชื้นอย่างไม่น่าเชื่อ ภัทรยิ้มให้กับกว้านหลินที่ยังคงกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงก่อนจะค่อยๆเดินไปหา
 
เรียวขาขาวคืบคลานขึ้นไปแล้วนั่งคร่อมลงบนร่างกายของกว้านหลิน ชายหนุ่มจ้องตาภรรยาที่กลายร่างจากแมวเหมียวตัวน้อยมาเป็นเสือแสนปราดเปรียวแล้วพลิกร่างขึ้นมาเป็นฝ่ายคร่อมก่อนจะเปลี่ยนเป็นแทรกกายอยู่ตรงกลางหว่างขาของภัทร เรียวขายาวถูกดันขึ้นแล้วสูดดมกดริมฝีปากลงบนต้นขาจนภัทรรู้สึกถึงความวาบหวามที่ประทับลงมา ปลายจมูกกดไล่ตามความยาวขึ้นมาเรื่อยๆเหมือนจะชื่นชมกลิ่นประจำตัวของคนใต้ร่างให้ทั่วทุกซอกมุม
 
                “หอมไปหมดทั้งตัวเลยนะ..."
 
                “มันจะหอมกับแค่คุณคนเดียว...”โอเมก้าแม่ลูกอ่อนคล้องแขนกับลำคอแกร่งก่อนจะยืดตัวขึ้นมาเรียกร้องรสจูบแสนหวาน กว้านหลินไม่ได้ตะกรุมตะกรามหรือรีบร้อนเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เขาค่อยๆบดเบียดร่างกาย ฟอนเฟ้นไปทั่วร่างกดจูบอย่างเว้าวอนอ้อยอิ่งจนคนที่ทนไม่ได้ต้องเริ่มเพิ่มความร้อนแรงวาบหวามกลายเป็นภัทรเสียเอง
 
กว้านหลินยิ้มที่มุมปากเมื่อภัทรเริ่มเอาแต่ใจมากขึ้น เสื้อนอนแสนเกะกะถูกถอดจนเหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่า ภัทรเองก็ไม่ยินยอมที่จะถูกกระทำเพียงฝ่ายเดียว เสื้อยืดสีขาวของกว้านหลินถูกถอดจนพ้นกายตามด้วยกางเกงนอนเนื้อนิ่ม เรือนกายของคนทั้งคู่ร้อนผ่าว ยิ่งจับต้องยิ่งเพิ่มอุณหภูมิให้ยิ่งรุ่มร้อน ดวงตาลุ่มหลงซึ่งกันและกันสื่อความนัยว่าเราทั้งสองต่างเป็นคู่แห่งโชคชะตาที่จะไม่มีวันพรากจากกัน
 
แผ่นหลังค่อยๆเอนลงจนแตะกับที่นอนนุ่มตามด้วยร่างหนาที่ทาบทับ
 
เหมือนสายลมอุ่นในเดือนเมษายน ทุกครั้งที่ร่างกายถูกสัมผัสความต้องการก็เรียกร้องเร่งเร้าจน แทบทนไม่ไหว
 
ณภัทรชอบทุกสัมผัสที่กว้านหลินแตะต้องลงบนร่างของตนเอง
 
ณภัทรชอบปลายลิ้นเฉอะแฉะที่กวาดต้อนเสียจนตนเองจนมุมไร้แรงต้านทาน
 
ณภัทรชอบความรู้สึกยามที่ใกล้จะหมดลมหายใจจนต้องจิกลงไปที่กลางแผ่นหลัง
 
ณภัทรชอบยามที่ร่างกายของตนเองตอบรับการรุกรานอย่างอ่อนโยนของกว้านหลิน
 
ชอบตอนที่เราทั้งสองต่างหลอมรวมเชื่อมต่อจนเป็นหนึ่งเดียวกัน
 
ชอบทุกๆสิ่งทุกๆอย่างที่กว้านหลินทำให้
 
ชอบแม้กระทั่งเสียงหอบกระเส่ายามที่ตนเองบีบรัดจนความรู้สึกซ่านเสียวแล่นไปทั่วร่าง
 
ชอบหยาดเหงื่อที่ผสมรวมกันเป็นหนึ่ง
 
ชอบยามเรียวนิ้วของเราประสานกัน
 
ชอบ...ชอบทุกอย่างที่เป็นไล่กว้านหลิน
 
พายุอารมณ์โถมใส่เหมือนคลื่นในฤดูมรสุมที่สาดซัดเข้าฝั่ง ภัทรส่งเสียงร้องครางยามความลินกระทั้นกายแรงขึ้นเป็นสัญญาณว่าใกล้ถึงจุดหมาย อัลฟ่าหนุ่มจับภรรยาหันหลังทั้งๆที่ยังเชื่อมต่อกันอยู่ดูดดึงผิวเนื้อตรงต้นคอที่ส่งกลิ่นหอมแสนเย้ายวนอย่างมัวเมา ภัทรกระชับฝ่ามือของตนเองที่มีปลายนิ้วของกว้านหลินเกาะกุมอยู่ยามความรู้สึกกำลังจะพุ่งถึงขีดสุด
 
น้ำเสียงกระท่อนกระแท่นตามความโยกคลอนของร่างกายเปล่งออกมาแทบจะไม่เป็นคำ หาแต่กว้านหลินกลับได้ยินอย่างแจ่มชัด
 
                “คุณกว้านหลิน...กัด...กัดหลังคอผมได้มั้ยครับ ผมอยากเป็นของคุณกว้านหลินตลอดไป”
 
ณภัทรเชิดหน้าขึ้นยามคลื่นอารมณ์ของตนถึงจุดสูงสุด ร่างบางเกร็งกระตุกปลดปล่อยทุกหยาดหยดพร้อมน้ำเสียงชวนฟัง ไล่กว้านหลินมองคนใต้ร่างในขณะที่ส่งตัวตนของตนเองย้ำหนักราวกับจะตอกย้ำว่าณภัทรเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์ทั้งกายและใจ
 
ภัทรที่หลีกเลี่ยงการผูกพันธะระหว่างเรามาตลอดเอ่ยปากร้องขออย่างเว้าวอนด้วยตนเอง
 
หมายถึงโอเมก้าใต้ร่างพร้อมที่จะผูกชะตากับเขาไปชั่วชีวิต ยามตัวตนเน้นหนัก คมเขี้ยวขาวซี่ไม่ใหญ่อย่างที่ใครจินตนาการก็งอกออกมา ภัทรหลับตายามความเจ็บแล่นเข้าจู่โจมที่หลังคอพร้อมกับธารอุ่นที่ถูกส่งเข้ามาเต็มช่องทางด้านหลัง กว้านหลินครางต่ำย้ำรอยเขี้ยว
 
พันธะระหว่างอัลฟ่าและโอเมก้าผูกกันอย่างสมบูรณ์รอยเขี้ยวเล็กๆมีโลหิตสีแดงฉานซึมที่ปากแผลก่อนที่จะหายไปเหลือเพียงจุดเล็กๆคล้ายแผลเป็นยามที่ปลายลิ้นร้อยเลียจนแผลปิดสนิท ยามกว้านหลินถอดตัวตนของตนเองออกภัทรก็พลิกกายกลับมาสวมกอดเอวสอบไว้ ซุกใบหน้ากับอกแกร่งของสามีอย่างออดอ้อน
 
                “ผมจะเป็นของคุณคนเดียวตลอดไปชั่วชีวิต
 
                “ฉันก็จะมีเธอคนเดียวชั่วชีวิตเหมือนกัน”
 
                “คุณกว้านหลินไม่ต้องสัญญากับผมหรอกครับ อัลฟ่าจะมีโอเมก้ากี่คนก็ได้ ถ้าหากวันหนึ่งคุณกว้านหลินไปถูกใจใคร คุณก็พาเขามาก็ได้นะครับ”ภัทรเงยหน้าพูดกับกว้านหลินด้วยดวงตาที่บ่งบอกว่าตนคิดตามที่พูดจริงๆ
 
มันคือวัฏจักรของเผ่าพันธุ์เขาเข้าใจดี
 
หากแต่กว้านหลินกลับเชยคางของภรรยาขึ้นมาแล้วกดจูบลงบนหน้าผากสวย
 
                “ฉันจะมีเธอเพียงคนเดียว”น้ำคำแน่นหนักทำให้ใจดวงน้อยอุ่นวาบอย่างไม่รู้ตัว ขอบตาร้อนผ่าวยามเสียงนุ่มทุ้มของสามีเอื้อนเอ่ยประโยคถัดไป
 
                “อยู่ด้วยกันจนผมหงอกขาวนะภัทร”โอเมก้าขี้แยปล่อยน้ำตาให้รินไหลด้วยความปลื้มใจ
 
                “อยู่ด้วยกันให้เหมือนนกเงือกที่มีผัวเดียวเมียเดียวจนชั่วชีวิตนะ”
 
                “ครับ ผมจะอยู่กับคุณชั่วชีวิต ฮึก...ผมรักคุณกว้านหลินนะครับ รักมากๆ และจะรักตลอดไป”น้ำเสียงเจือสะอื้นบอกกับผู้เป็นสามีกว้านหลินหัวเราะเบาๆกับท่าทางเหมือนเด็กช่างอ้อนนั้น อ้อมแขนแกร่งรัดร่างบางไว้อย่างหวงแหน
 
อยู่ด้วยกันจนกว่าจะตายจากไม่ใช่คำพูดพล่อยๆ
 
แต่กว้านหลินตั้งใจเช่นนั้นจริงๆ
 
เขาเคยทำผิดพลาดทำร้ายหัวใจอันเปราะบางของภัทรมานับครั้งไม่ถ้วน
 
หลังจากนี้เขาจะดูแลภัทรอย่างดีที่สุด
 
จะทำให้ภัทรสามารถเชิดหน้าได้อย่างไม่อายใครที่เป็นสะใภ้สกุลไล่
 
จะเป็นสามีที่ภัทรไม่รู้สึกเสียใจว่าตนเองเลือกคู่ครองผิด
 
จะไม่ทำให้คนในอ้อมกอดเสียใจอีกเป็นอันขาด



 
          กว่าสองอาทิตย์แล้วที่แต่งงานกันมา  ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมในบ้านหลังนี้  สัปดาห์หน้าลิซ่าต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวใจแล้ว แม้จะรู้สึกกังวลนิดหน่อยแต่หมอนนท์บอกว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้โอเมก้าแม่ลูกอ่อนวางใจไปได้เขายังคงดูแลลูกสาวด้วยความเอาใจใส่และไม่ละเลยลูกชายที่เริ่มเรียกร้องความสนใจจากแม่เพราะอิจฉาเวลาแม่อุ้มน้อง
 
เด็กต่างวัยต่างก็อยากได้รับความรักความเอาใจใส่ที่แตกต่างกัน งานในแต่ละวันของภัทรหมดไปกับการดูแลลูกและบ้าน ไฮเดรนเยียที่ปลูกมานานหลายปีบัดนี้สวยงามชูช่อประดับรั้วรอบบ้าน จากบ้านที่ไร้ชีวิตชีวากลายเป็นบ้านที่ใครหลายๆคนเดินผ่านต้องหยุดชื่นชมกับดอกไม้สวยหวานหลากสีนั้น บ้านดูมีชีวิตชีวาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีทั้งเสียงหัวเราะเล็กๆของเจ้าตัวน้อย มีกลิ่นอาหารหอมกรุ่นทั้งเช้าและเย็น มีความสุขอบอวลแผ่ซ่านทั่วทุกมุมบ้าน  เป็นชีวิตครอบครัวแสนอบอุ่นที่ภัทรใฝ่ฝันมาตลอด กว้านหลินกับลูกๆเองก็มีความสุขกับความเป็นอยู่ของครอบครัวแบบนี้
 
เหมือนเรื่องเลวร้ายต่างๆผ่านพ้นไปแล้ว
 
จนกระทั่ง...
 
            “ติดต่อทางอเมริกากับจีนหรือยัง ทำไมแม่ใหญ่ถึงมีคำสั่งจะปลดฉันออกจากบอร์ดบริหาร”ภัทรวางมือจากโต๊ะอาหารที่กำลังจัด เสียงกว้านหลินที่เดินนำเสี่ยวป๋ายขึ้นไปบนห้องทำงานทำให้โอเมก้าตัวน้อยไม่กล้าที่จะตามขึ้นไป
 
แต่แค่ประโยคเดียวประโยคนั้นภัทรก็รู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น
 
คุณนายใหญ่เริ่มกดดันกว้านหลินและภัทรแล้ว  กว้านหลินและเสี่ยวป๋ายหายเข้าไปในห้องทำงานตั้งแต่เย็นจนทุ่มกว่าเสี่ยวป๋ายถึงได้เปิดประตูออกมา สีหน้าของเลขาหนุ่มเคร่งเครียด คำสั่งการของคุณนายใหญ่นั้นมาอย่างไม่มีวี่แววและกว้านหลินไม่ได้ทำหน้าที่ของตนบกพร่องแต่ประการใด การวีดีโอคอลคุยกันของสามพี่น้องเกิดขึ้นอย่างเคร่งเครียดนานนับชั่วโมง คริสรับปากน้องชายว่าจะช่วยพูดให้
 
แต่ครั้งที่แล้วเขาเองก็คว้าน้ำเหลว
 
แม่ใหญ่ให้เหตุผลที่ไม่อาจคัดค้านได้คือกว้านหลินลดความน่าเชื่อถือของตนเองต่อผู้ถือหุ้นคนอื่นๆด้วยการเอาลูกของคนทรยศมาเป็นเมีย
 
ผิดที่ใคร
 
ผิดที่ภุชงค์โลภมากหรือผิดที่ภัทรโชคร้ายเกิดมาเป็นลูกของคนทรยศ
 
ไม่เลย เรื่องนี้ภัทรไม่ได้มีความผิดเลยซักนิด แต่ทุกคนโยนความผิดทุกอย่างมาให้เด็กคนนั้นแบกรับมันมาตลอดสี่ปี
 
            “ไอ้สาม แกใจเย็นก่อน ปล่อยให้พี่ใหญ่ไปพูดกับแม่ใหญ่ก่อน ยังไงเขาก็แม่ลูกกัน ต่อให้โกรธหรือไม่พอใจแค่ไหนแม่ใหญ่ก็ทำรุนแรงกับแกไม่ได้หรอก”จอห์นนี่ปลอบใจน้องชายที่เครียดจนดวงตาแดงก่ำ
 
กว้านหลินฝังตัวเองให้จมมลงกับเก้าอี้ในห้องทำงาน ไฟทุกดวงปิดสนิทเหลือเพียงแสงจากหน้าจอคอมพ์
 
ภัทรมาตามให้เขาออกไปกินข้าวหลายครั้งแล้วแต่เขาขอเวลาอยู่เงียบๆคนเดียว จนตอนนี้เกือบสี่ทุ่ม ภัทรเอาลูกๆเข้านอนเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงเดินเข้ามาหาสามีอีกครั้ง
 
กลิ่นฝนแสนอึมครึมปกคลุมทั่วทั้งห้องบ่งบอกว่าเจ้าของกลิ่นกำลังเครียดมาก ภัทรไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงเดินไปหยุดอยู่ข้างๆแล้วดึงร่างของสามีเข้ามากอด
 
กว้านหลินไม่ได้ปฏิเสธกอดนั้น อัลฟ่าหนุ่มรัดเอวบางไว้อย่างหวงแหน
 
หากเป็นเมื่อก่อนที่เขายังไม่มีภาระ
 
หากเขามีเพียงแค่ภัทรคนเดียวเขาจะไม่สนใจเลยซักนิดว่าแม่ใหญ่จะไล่เขาออกจากบริษัทหรือไล่เขาออกจากตระกูล เขาสามารถไปเริ่มต้นชีวิตแบบเรียบง่ายที่ไหนซักแห่งที่ไม่มีใครมายุ่งมาบงการชีวิตครอบครัวของเขาได้
 
แต่นี่
 
เขายังมีชีวิตน้อยๆอีกสองชีวิตที่ต้องดูแล ลำพังลูคัสน่ะไม่เท่าไหร่หรอก ลูกชายของเขาสุขภาพแข็งแรง
 
แต่ยายหนูคนเล็กนี่สิที่ยังต้องรักษาโรคหัวใจอีกนาน ลิซ่าสุขภาพไม่แข็งแรงนักเขาไม่รู้ว่าในอนาคตต้องใช้เงินเท่าไหร่ ลำพังเงินเก็บที่เป็นเงินเดือนของเขาจะดูแลลูกได้ซักกี่ปี ทุกวันนี้ที่มีเงินใช้สอยอย่างสบายเป็นเพราะเบิกกงสีส่วนหนึ่งถ้าเขาถูกตัดชื่อออกจากเงินส่วนนี้แม้จะไม่ลำบากแต่ก็ไม่ใช่หลักประกันที่ดีสำหรับลูกๆ
 
กว้านหลินวางแผนอนาคตของเด็กๆไว้หมดแล้ว เขาอยากให้ลูกได้รับการศึกษาจากโรงเรียนที่ดีมีคุณภาพโดยเฉพาะลิซ่าที่อาจจะเป็นอัลฟ่าหรือโอเมก้าก็ได้นั้นน่าห่วงที่สุดและโรงเรียนสำหรับโอเมก้าชนชั้นสูงนั้นแพงแสนแพง ถ้าเขาถูกตัดออกจากตระกูลนั่นหมายถึงคุณภาพชีวิตของลูกๆจะถูกลดระดับลงทันที
 
            “ให้ผมไป...”หลังจากปล่อยความเงียบให้บีบคั้นความรู้สึกมานานภัทรก็เปิดปากพูด หากแต่กว้านหลินตวาดกลับทันที
 
            “ไม่!! อย่าพูดแบบนี้อีก ฉันจะหาทางแก้ไขเอง”
 
            “ถ้าอย่างนั้นออกไปทานข้าวนะครับ ผมหิวแล้ว”ณภัทรดึงสามีให้ลุกขึ้น เขารู้ดีว่าไม่ควรเถียงกว้านหลินในตอนนี้ หากสามีอารมณ์ไม่ดีเขาจะหยุดจะไม่เซ้าซี้รบเร้าอีก กว้านหลินยอมลุกขึ้นเดินตามภรรยาลงมาทานข้าวแต่โดยดี หากแต่อาหารมื้อนี้กลับฝืดคอเหลือทน
 
อัลฟ่าหนุ่มแทบไม่รู้รสของอาหาร กินไปได้ไม่กี่คำก็รวบช้อนแล้วยกน้ำขึ้นดื่ม
 
            “อิ่มแล้วเหรอครับ?”ภัทรมองอย่างเป็นห่วง กว้านหลินทำเพียงพยักหน้ารับ จิตใจของเขาเอาแต่คิดหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
 
            “ขึ้นไปอาบน้ำนอนเถอะครับ เผื่อจะช่วยให้สมองโล่งขึ้น เดี๋ยวผมอุ่นนมขึ้นไปให้ คุณกว้านหลินทานข้าวน้อยเกินไปเดี๋ยวจะไม่อยู่ท้อง”กว้านหลินยอมลุกเดินขึ้นไปบนห้องตามที่ภัทรบอก
 
คืนนั้นเขาหลับไม่เต็มตาเลยซักนิด
 
ต่างคนต่างนอนลืมตาในความมืดคิดหาทางออกให้กับปัญหาใหญ่นี้
 
ต่างคนต่างคิดถึงวิธีที่จะดูแลอีกคนจนกระทั่งเช้า ภัทรก็ยังคงลุกขึ้นมาทำหน้าที่ของตัวเองไม่ขาดตกบกพร่องแต่ประการใด เตรียมอาหารเช้าเสร็จก็ขึ้นมาปลุกสามีให้อาบน้ำช่วยแต่งตัวให้กว้านหลินแล้วพากันลงมากินอาหารเช้า กว้านหลินอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อยหลังลูคัสตื่นแล้วเดินป่วนพ่อทีแม่ที หลังจากอิ่มแล้วกว้านหลินก็ออกไปทำงานตามปกติ
 
หากแต่ช่วงสายของวัน เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ศลัยที่อยู่ในครัวกำลังจะวิ่งมารับให้แต่ภัทรโบกมือห้ามไว้
 
            “ไม่เป็นไรครับพี่ศลัยเดี๋ยวผมรับเอง”โอเมก้าแม่ลูกอ่อนลุกขึ้นมารับโทรศัพท์ หากแต่เมื่อกล่าวสวัสดีเสียงที่ตอบกลับมาทำเอาเลือดในกายแทบจะกลายเป็นน้ำแข็ง
 
 
            “สวัสดีณภัทร จำฉันได้มั้ย?”
 
            “คุณนายใหญ่...”
 
            “ขอบใจที่ความจำยังดีอยู่ งานแต่งงานราบรื่นดีใช่มั้ยจ๊ะ ขอโทษด้วยที่ฉันไม่ได้ไปร่วมงาน มีแพลนฮันนีมูนกันหรือยังจ๊ะ  ถ้ายังไม่มีก็รีบหาเลยแล้วกันเพราะฉันหาเวลาว่างให้กว้านหลินได้แล้ว ตอนนี้ฉันจะออกคำสั่งให้เขาออกจากตำแหน่งทุกตำแหน่งมีผลบังคับใช้สิ้นเดือนนี้”
 
            “คุณนายใหญ่ครับ ผมขอร้อง อย่าบีบคุณกว้านหลินด้วยวิธีนี้เลยนะครับ”ภัทรละล่ำละลักอ้อนวอนขอความเมตตาจากผู้อาวุโสของบ้าน หากแต่กลับได้รับเสียงหัวเราะเสแสร้งกลับมา
 
            “เธอรู้ดีว่าควรทำยังไง แต่เธอก็ไม่ทำ แล้วตอนนี้เธอจะมาขอร้องอะไรฉัน ฉันไม่มีวันยอมให้สายเลือดบริสุทธิ์ของตระกูลถูกโอเมก้าชั้นต่ำอย่างเธอมาทำให้แปดเปื้อนหรอกนะ ในเมื่อรักกันมากก็เชิญไปรักกันให้พอ ฉันจะดูว่าน้ำหน้าอย่างกว้านหลินน่ะ ถ้าไม่มีงาน เงินหมดจะดูแลเลี้ยงดูเธอและลูกให้สุขสบายไปได้ซักกี่ปี แล้วยายหนูน่ะไม่รู้ต้องผ่าตัดต้องรักษาอีกกี่ครั้งถึงจะหาย ถ้าเงินหมดจะทำยังไง ปล่อยให้ลูกตายเหรอ?ถึงเวลานั้นถ้ากว้านหลินทนความลำบากไม่ไหว เขาก็จะคิดได้ว่าที่ชีวิตของเขาพังก็เพราะพ่อเลวๆของเธอ ลองถามเขาดูสิจ๊ะว่าทุกวันนี้เขาให้อภัยพ่อเธอจริงๆหรือเขาทำเป็นแกล้งลืม ที่ควรพูดฉันก็พูดจนหมดแล้ว ถ้าเธอไม่รักลูกรักผัวก็เตรียมตัวกัดก้อนเกลือกินแล้วก็หาเงินทำศพลูกคนเล็กของเธอได้เลย”ภัทรถือสายโทรศัพท์ค้าง สัญญาณถูกตัดไปแล้ว โอเมก้าแม่ลูกอ่อนทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้อย่างอ่อนแรง น้ำตาหยดใสกลิ้งหล่นยามหันไปมองลิซ่าน้อย
 
แค่คิดถึงวันที่ลูกอาจจะตายเพราะไม่ได้รับการรักษาที่ดีภัทรก็เจ็บปวดหัวใจจนต้องกุมอกตัวเอง ปล่อยเสียงร้องไห้ที่พยายามกลั้นออกมาอย่างเต็มฝืน ศลัยที่เพิ่งล้างขวดนมเสร็จเดินเข้ามาเห็นผู้เป็นนายร้องไห้ก็รีบเข้ามาหาอย่างตกใจ
 
            “เป็นอะไรคะคุณภัทร ร้องไห้ทำไม”
 
            “ผมผิดเอง...ฮึก...ผมเป็นคนผิด ผิดทั้งหมดเลย เป็นเพราะผมเรื่องทุกอย่างถึงได้แย่ลงแบบนี้ เพราะผมคนเดียว”
 
 
            ภัทรพลิกตัวมองหน้าสามีที่ยังคงลืมตามองเพดานอยู่เงียบๆอย่างใช้ความคิด ร่างบางขยับเข้าไปกอดเอวสอบไว้ซบหน้าลงกับแผงอกที่ขยับขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะ กว้านหลินยิ้มให้กับภรรยาพลางกระชับกอดตอบ
 
โอเมก้าตัวน้อยแนบใบหูตรงกับหัวใจของกว้านหลิน
 
เพราะจัง...เสียงหัวใจของคุณกว้านหลินเพราะจังเลยครับ  เด็กหนุ่มหลับตาลงฟังเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะของสามีราวกับจะซึมซับมันไว้ในความทรงจำคลี่ยิ้มบางๆให้กับความสุขเล็กๆน้อยๆนี้ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปสบตากับผู้เป็นสามีที่ยังคงมองตนเองอยู่
     
     "คุณกว้านหลินครับ เราไปไหว้อัฐิพ่อของผมกันมั้ยครับ?"ตัดสินใจพูดประโยคนั้นออกไป กว้านหลินมีท่าทางที่นิ่งไป วูบหนึ่งภัทรรู้สึกว่าหัวใจของกว้านหลินเต้นผิดจังหวะ
 
     
     "เธอไปเถอะ ฉันไม่ว่าง ถ้าจะไปวันไหนก็บอกเดี๋ยวให้คนที่บริษัทขับรถพาไป”ความรู้สึกของภัทรในตอนนี้เหมือนลูกโป่งที่ถูกอัดแก๊สไว้จนเต็มหากแต่กว้านหลินกลับเอาเข็มแหลมมาทิ่มแทงจนมันแตกกระจาย
 
กว้านหลินยังคงไม่ให้อภัยพ่อของตนจริงๆอย่างที่คุณนายใหญ่บอกนั่นแหละ
 
 
ภัทรรอจนกระทั่งกว้านหลินหลับจึงพลิกกายนอนหันหลังให้กับสามี ดวงตาคลอหน่วยไปด้วยหยาดน้ำ
 
ต่อให้เขาทำเป็นลืมว่ากว้านหลินเป็นคนลงมือสังหารพ่อของเขาเองต่อหน้าต่อตา แต่กว้านหลินกลับไม่เคยลืมเลยว่าพ่อของเขาเป็นคนจ้างวานฆ่าพ่อของกว้านหลิน
 
แผลเหมือนจะหายดีหากแต่ฝากรอยแผลเป็นไว้ไม่มีใครลืมเลือน
 
     เราอาจจะเกิดมาเพื่อรักกัน แต่เราอาจจะไม่ได้เกิดมาเพื่อเคียงคู่อยู่ด้วยกัน
 
 
((ต่อด้านล่าง))

ออฟไลน์ thanatcha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-2

   
 
            ชีวิตประจำวันของภัทรและกว้านหลินยังคงดำเนินไปเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยน จนกระทั่งก่อนที่ลิซ่าจะต้องเข้ารับการผ่าตัดภัทรต้องพาลูกสาวไปตรวจร่างกายอีกครั้งแต่กว้านหลินติดประชุม เขายังคงตั้งใจทำงานแม้คำสั่งจากเบื้องบนจะปลดเขาภายในสิ้นเดือนนี้แล้วก็ตาม เช้าวันนี้ทุกอย่างจึงเร่งรีบไปหมดภัทรลุกขึ้นมาเตรียมเสื้อผ้าวางไว้ให้กว้านหลิน จากนั้นจึงลงมาเตรียมอาหารเช้าง่ายๆ ดอกไฮเดรนเยียด้านนอกชูช่อดอกไสวตามแรงลม ภัทรหยิบกรรไกรตัดกิ่งเดินออกไปตรงริมรั้ว กวาดตามองหาดอกที่สวยที่สุดแล้วจึงตัดออกมาหนึ่งช่อใหญ่ จากนั้นก็เดินกลับเข้าไปในบ้านกว้านหลินถือกระเป๋าเอกสารลงมาแล้ว ทั้งสองยิ้มให้กันและกันก่อนที่ภัทรจะเดินเข้าไปซุกกายในอ้อมกอด กระชับกอดร่างสูงโปร่งของสามีไว้แล้วสูดกลิ่นฝนชุ่มฉ่ำจนเต็มปอด
 
            “อ้อนจังเลย อยากได้อะไรครับ”กว้านหลินเอ่ยถามภรรยาอย่างเอ็นดู หากแต่ภัทรกลับส่ายหน้าไปมา
 
            ไม่ได้อยากได้อะไรครับ แค่อยากให้คุณกว้านหลินกับลูกๆมีความสุข”
 
            “ทุกวันนี้ก็มีความสุขดีครับแค่มีเธอกับลูกอยู่ฉันก็มีความสุขจนล้นออกมานอกอกแล้ว”ภัทรหัวเราะให้กับคำพูดนั้น
 
บ้าจริง ทั้งๆที่มีความสุขกับคำพูดนั้นแท้ๆแต่ทำไมกลับอยากจะร้องไห้ขึ้นมาเสียดื้อๆอย่างนี้ล่ะ
 
อ่อนแอจริง ณภัทรกลั้นน้ำตาที่ทำท่าจะไหลออกมาก่อนจะทำเสียงร่าเริงดันกายตนเองออกจากอ้อมกอดของสามี
 
            “ผมตัดดอกไฮเดรนเยียมาให้คุณกว้านหลินครับ”ยื่นไฮเดรนเยียช่องามสีชมพูหวานให้กับกว้านหลิน ชายหนุ่มรับมาถือไว้
 
            “คราวก่อนเธอให้สีม่วงคราวนี้ทำไมให้สีชมพูล่ะ”
 
            “ก็เพราะคราวก่อนผมตัดพ้อคุณกว้านหลินว่าคุณกว้านหลินน่ะช่างมีจิตใจที่ด้านชาเย็นชาเสียเหลือเกิน แต่คราวนี้ผมให้เพราะผมอยากจะขอบคุณที่คุณกว้านหลินรักและเข้าใจในตัวผมมาตลอด แล้วสีชมพูมันก็เป็นสีแทนความรักไงครับ”
 
            น่ารักจริง เมียใครเนี่ย”กว้านหลินรวบร่างบางมากอดแล้วกดจูบลงบนผิวแก้มผ่องของภรรยาแสร้งไถจมูกจนภัทรหัวเราะคิกก่อนจะผลักอกของสามีให้ห่างออกจากตัว
 
            “ไปทานข้าวได้แล้วครับ เดี๋ยวก็ไปประชุมไม่ทันหรอก ดุสิเสื้อยับหมดแล้ว”ภัทรปัดๆลูบๆตรงอกเสื้อที่เกิดรอยยับของสามีก่อนจะพากันไปทานข้าว
 
            “เสียดายวันนี้ติดประชุม ไม่งั้นก็อยากจะไปด้วย”
 
            “คุณกว้านหลินไปประชุมเถอะครับ มีพี่ศลัยไปด้วยทั้งคนไม่น่าห่วงอะไร”ภัทรวางจานอาหารให้กว้านหลิน ก่อนจะรับเอาลูคัสมานั่งลงบนตัก เด็กน้อยเริ่มทำตัวอ่อนดิ้นรนจะลงจากตักแม่เพื่อไปหาพ่อ น้ำเสียงเล็กที่ยังพูดไม่ชัดร้องงอแงเรียกพ่อไม่ยอมหยุด
 
            “ป้อๆๆ..ป่าป๊าๆๆๆ”กว้านหลินวางช้อนส้อมลงบนจานก่อนจะรับร่างจ้อยร่อยของลูกชายมานั่งตัก เจ้าลูคัสน้อยออเซาะซบอกพ่อทันที
 
            “ทำไมหืม? เจ้าแสบ วันนี้นึกพิศวาสอะไรป๊าเนี่ย อ้อนเชียว”กว้านหลินแกล้งบีบแก้มยุ้ยๆของลูกชายก่อนจะหนั่นไส้กรอกเป็นชิ้นเล็กๆป้อนให้ลูคัส ตลอดมื้ออาหารลูคัสไม่ยอมลงจากตักของพ่อเลยซักนิด แม้กระทั่งตอนที่กว้านหลินจะขึ้นรถไปทำงานเจ้าตัวน้อยก็แผลงฤทธิ์ลงไปนอนชักดิ้นชักงอเอาแต่ใจกับพื้นจนภัทรต้องรวบร่างลูกขึ้นมากอด กว้านหลินจูบลงบนหน้าผากของลูกทั้งสองรวมทั้งภัทรด้วย
 
บางอย่างรบกวนจิตใจ มันเกิดความรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก ไม่อยากออกจากบ้านไปเลยซักนิด เขาหันกลับมามองลูกเมียก่อนจะเดินกลับมาสวมกอดอีกครั้ง
 
            “เลิกงานแล้วพี่จะรีบกลับมานะครับ”ภัทรยิ้มให้กับสามี ก้อนสะอื้นแล่นขึ้นมาจุกอยู่ที่อกพยักหน้ารับโดยไม่ได้พูดอะไร ลูคัสยังคงร่ำร้องจะไปหาพ่อ กว้านหลินจำใจต้องให้คนรถออกรถไม่อย่างนั้นวันนี้ตนคงไม่ได้ไปทำงานแน่ๆ เมื่อกว้านหลินออกจากบ้านภัทรก็ขึ้นไปเตรียมเอกสารของลูก ศลัยจัดตะกร้าของสำหรับลิซ่าและลูคัสเสร็จก็ตามลงมาสมทบข้างล่าง ช่วงสายทั้งหมดจึงเดินทางไปโรงพยาบาล หมอนนท์อนลทักทายและเอาของเล่นมาให้ลูคัสเล่นระหว่างรอตรวจร่างกายของลิซ่า
 
            “แข็งแรงดีไม่น่าห่วงพรุ่งนี้ก็มาแอดมิทรอได้เลยนะครับ”อนลบอกกับภัทร โอเมก้าแม่ลูกอ่อนถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะคว้ามือของอนลมากุมไว้
 
            “พี่หมอครับ ช่วยดูแลลูกของผมด้วยนะครับ รักษาแกให้หายขาดให้แกได้เติบโตมีชีวิตยืนยาวรักแกให้เหมือนกับลูกของพี่หมอได้มั้ยครับ”อนลมาองหน้าภัทรด้วยความรู้สึกแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากคิดว่าภัทรคงฝากฝังลูกเหมือนที่คนเป็นแม่ทุกคนทำยามที่ลูกเจ็บไข้ได้ป่วย คุณหมอหนุ่มตบลงบนหลังมือของภัทรเบาๆ
 
            “ผมรับปากครับผมจะดูแลยายหนูให้เหมือนแกเป็นลูกผมเลย คุณภัทรไม่ต้องกังวลไปครับ ยายหนูจะปลอดภัยแล้วเติบโตเป็นหญิงสาวที่งดงามได้แน่ๆ เชื่อใจผม”ภัทรสูดลมหายใจเข้าปอดกลั้นน้ำตาที่ทำท่าจะไหลอย่างพอใจ
 
            “ได้ยินแบบนี้ผมก็เบาใจจริงๆครับ ดีมากๆเลย แบบนี้ผมก็หมดห่วงแล้ว งั้นผมกลับก่อนนะครับ”
 
            “พรุ่งนี้เจอกันครับ”อนลเดินมาเปิดประตูห้องตรวจให้กับภัทร โอเมก้าแม่ลูกอ่อนไม่ได้ตอบกลับทำเพียงยิ้มและโค้งให้อย่างนอบน้อม
 
            “ลาก่อนครับ”คนเด็กกว่าเดินกลับไปหาพี่เลี้ยงของลูกก่อนจะส่งยายหนูลิซ่าให้กับศลัย
 
            “พี่ศลัยครับ ฝากลูกด้วยนะครับ”ภัทรส่งลูกทั้งสองคนให้กับพี่เลี้ยงสาวที่ไว้ใจที่สุด
 
            “คุณภัทรจะไปไหนคะ”
 
            “เอ่อ...ผม...ผมจะไปห้องน้ำครับ”ณภัทรคว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพาย
 
            “เดี๋ยวพี่ดูกระเป๋าให้ก็ได้ค่ะคุณภัทรไปเข้าห้องน้ำเถอะ”
 
            “ไม่เป็นไรครับเอาไปเผื่อแวะซื้อขนมในซุปเปอร์”ภัทรหันหลังเตรียมเดินออกมา เป็นอีกครั้งที่ร่างบางชะงักเพราะร่างเล็กของลูคัสเดินมาเกาะขา
 
            “หม่าม๊า ด้วยๆ คัสไปด้วย”เด็กน้อยเกาะขาแม่ไม่ยอมปล่อย เริ่มกระทืบเท้าจนรองเท้าที่มีเสียงดังระงมทั่ววอร์ด
 
            “ลูคัสอยู่กับป้าศลัยนะครับไปกับแม่ไม่ได้”ภัทรพยายามแกะมือลูกน้อยออกศลัยก็เข้ามาช่วยด้วยแต่วันนี้ลูคัสแรงเยอะเหลือเกิน เด็กน้อยทิ้งตัวลงนั่งส่งเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นยังไงก็ไม่ยอมปล่อยจนภัทรเกือบจะร้องไห้ตามลูก จนในที่สุดโอเมก้าแม่ลูกอ่อนก็ตัดสินใจ
 
            “โอเค ลูคัสไปกับแม่ก็ได้ลูก พี่ศลัยครับ ผมฝากยายหนูด้วยนะครับ ลิซ่า แม่ไปก่อนนะลูก แม่รักลูกมากๆนะครับ”ศลัยหัวเราะให้กับภัทรที่ก้มลงจรดริมฝีปากของตนเองกับเท้าน้อยๆของลูกสาว
 
            “ดูแม่ลูกพวกนี้สิ แค่ไปห้องน้ำทำยังกับจะจากกันตลอดชีวิต รีบไปเถอะค่ะจะได้กลับบ้านกัน”หล่อนเอ่ยปากบอกกับผู้เป็นเจ้านาย ภัทรลูบศีรษะเล็กของลูกสาวเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะย่อตัวอุ้มลูกชายคนโตมาไว้แนบอก
 
            “งั้นผมไปก่อนนะครับ”
 
            “ค่า พี่จะนั่งรออยู่ตรงนี้แหละค่ะ รีบไปรีบมานะคะ”ณภัทรตัดสินใจหันหลังให้กับศลัยและลิซ่า น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่อีกต่อไป ทุกย่างก้าวเจ็บเหมือนจะขาดใจ
 
เขารู้ว่าชีวิตคนเราต้องมีการตัดสินใจครั้งที่สำคัญที่สุดในชีวิต
 
และครั้งนี้ภัทรเลือกทางเลือกที่จะดีกับทุกคน
 
แม้หัวใจในตอนนี้มันปวดราวกับถูกขยี้จนแหลกแต่เขาก็คิดดีแล้ว ร่างบางหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออกหาใครบางคน รอสายไม่นานคนทางนั้นก็รับสาย
 
            “ครับ  ออกมารอตรงที่นัดได้เลยครับ กำลังไปครับ”
 
 
 
            ศลัยชะเง้อมองไปตรงทางเดินที่ภัทรเดินจากไปพร้อมลูคัส เวลาล่วงเลยมานานจนพี่เลี้ยงสาวร้อนใจ
 
            “ไปเข้าห้องน้ำทำไมนานจัง เป็นชั่วโมงแล้วทำไมยังไม่กลับมากันอีกนะ”หล่อนอุ้มเด็กหญิงลิซ่าที่หลับไปได้ซักพักแล้ว ชะเง้อมองพลางผุดลุกผุดนั่งจนกระทั่งอนลที่ออกเวรเปิดห้องตรวจมาเจอ คุณหมอหนุ่มมองพี่เลี้ยงสาวและลิซ่าด้วยความแปลกใจ
 
            “อ้าว ศลัย ทำไมยังไม่กลับกันอีกล่ะ ตรวจเสร็จนานแล้ว”
 
            “ก็คุณภัทรน่ะสิคะ บอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำ จนป่านนี้ยังไม่กลับมาเลยค่ะ ดิฉันลืมเอาโทรศัพท์มาจะโทรตามก็ไม่ได้”ศลัยรีบเข้ามาคุยกับคุณหมอหนุ่มด้วยน้ำเสียงร้อนใจ อนลล้วงโทรศัพท์ของตนเองมาโทรหาภัทรทันที
 
            “ปิดเครื่อง”คุณหมอหนุ่มขมวดคิ้วด้วยความสงสัย พลันภาพตอนภัทรเอ่ยฝากฝังลูกก็ผุดขึ้นมาในหัว  เขาสังหรณ์ใจบางอย่าง เมื่อไม่กี่วันที่ไปกินข้าวกับเสี่ยวป๋าย เลขาหนุ่มเล่าถึงปัญหาของกว้านหลินให้ฟังอย่างไม่สบายใจ
 
และภัทรก็คงรับรู้ถึงปัญหานั้นดี
 
            “เสียสละตัวเองเหรอ คิดอะไรอยู่เด็กคนนี้นี่ ศลัย คนที่มาด้วยอยู่ไหนพาฉันไปหาหน่อย ฉันคิดว่าเกิดเรื่องแล้ว”
 
 
 
            กว้านหลินนั่งประชุมด้วยความเบื่อหน่าย แผนการตลาดเดิมๆของธุรกิจสีขาว ซำซากและจำเจ มองเวลาเกือบห้าโมงเย็นแล้วก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จ เสี่ยวป๋ายลุกขึ้นขอตัวออกไปรับโทรศัพท์ซักครู่ก็กลับมาด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
 
เลขาหนุ่มเข้ามากระซิบเบาๆให้ผู้เป็นนายฟัง
 
หากแต่ประโยคที่พูดออกมานั้นเหมือนระเบิดลูกใหญ่ที่ระเบิดใส่หัวสมองของกว้านหลิน อัลฟ่าหนุ่มผุดลุกแล้วสั่งเลิกประชุมทันที
 
     "แย่แล้วครับคุณกว้านหลิน  คนของเราที่ไปกับคุณภัทรโทรมาบอกว่าคุณภัทรกับคุณลูคัสหายไป"
 
 
ร่างสูงก้าวยาวไปที่ลานจอดรถมือก็กดโทรศัพท์หาภัทร
 
 
ไม่มีสัญญาณตอบรับ เขาเปิดแอพที่ใช้ติดตามโทรศัพท์ที่โหลดใส่มือถือของภัทรไว้ หากแต่มันกลับนิ่งสนิทอยู่ที่โรงพยาบาลนั่นเอง
 
 
คำสั่งถึงบริวารที่ตามรายล้อมรอบตัวตวาดก้อง
 
 
 
     "ตามหาเมียกับลูกของฉันให้เจอ ถ้าไม่เจออย่าเสนอหน้ากลับมา!!"
 
 
หายไปไหน...ทำไมไม่กลับมา
 
เป็นคำถามที่กว้านหลินเอ่ยถามซ้ำๆราวกับจะสื่อไปถึงภัทร
 
ในหัวอกร้าวยอกราวกับถูกทุบ มันทั้งเศร้าและโหยหา
 
ในใจร่ำร้องราวกับจะให้คนทั้งโลกได้ยินคำอ้อนวอนถึงภรรยาและลูกชาย
 
กลับมาเถอะนะ กลับมาอยู่เป็นครอบครัวเหมือนเดิม
 
ได้โปรด
 
อย่าทิ้งพี่ไป
 
ภัทร กลับมา…
 
เขามั่นใจว่าภัทรหนีเขาไป  เขาไม่รับรู้ถึงอันตรายแต่ในใจของเขารับรู้ถึงความอาลัยอาวรณ์ของภัทร ความเจ็บปวดของการพลัดพราก
 
หากคู่แห่งโชคชะตาสามารถถ่ายทอดความรู้สึกของกันและกันได้จริง
 
ได้โปรดรับรู้ว่า พี่ต้องการเธอกับลูกกลับมา
 
 
            ณภัทรอุ้มลูกลงจากรถ สายตากวาดมองไปยังผืนน้ำเบื้องหน้า ลูคัสหลับสนิทในอ้อมอกหลังจากกินนมจนอิ่มไปแล้ว อากาศเย็นทำให้ต้องกระชับร่างกายของลูกให้มากขึ้น ภัทรมองไปยังด้านหลังที่ไม่มีแม้แต่บ้านคน
 
มาไกลเกินจะย้อนกลับไปแล้ว
 
และถึงอยากจะกลับ ก็กลับไม่ได้แล้วเพราะตัดสินใจลงไปแล้ว ตัดสินใจหันหลังก้าวลงไปในเรือที่ถูกเตรียมไว้รอโดยไม่หันกลับไปมองด้านหลังอีก
 
จบสิ้นวาสนากันแต่เพียงเท่านี้แล้ว เมื่อเรือเริ่มเดินเครื่องออกจากฝั่ง คำร่ำลาก็ถูกเอื้อนเอ่ยไปตามสายลม
 
 
        "ลาก่อนนะครับคุณกว้านหลิน ลาก่อนนะยายหนูของแม่..."
 
 
 
 
 
 
          3 เดือน ผ่านไป
 
การค้นหาณภัทรและลูคัสล้มเหลว แม้จะพลิกแผ่นดินหา ไปตามหาที่บ้านเก่าของภัทรก็ไม่พบ หนำซ้ำแม่และน้องของภัทรก็ไม่รู้ว่าโอเมก้าของเขาหายไปไหน แม้จะทุกข์จนแทบจะขาดใจแต่กว้านหลินก็ต้องดูแลลิซ่า การผ่าตัดยังคงกำหนดเดิมในอีกสองวันให้หลัง โชคดีเหลือเกินที่มันผ่านไปได้ด้วยดี ตอนนี้จากเด็กทารกที่น้ำหนักตกเกณฑ์ ลิซ่าในวัย 6 เดือนเติบโตแข็งแรงเทียบเท่ากับเด็กคนอื่นๆ  อาการหัวใจรั่วถูกรักษาจนในที่สุดก็หายขาด ลิซ่ากลายเป็นคนที่ทำให้กว้านหลินดึงตัวเองขึ้นมาจากความทุกข์ตรมที่กัดกร่อนหัวใจ
 
เขาต้องเข้มแข็งและมีชีวิตอยู่เพื่อลูกสาวที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว
 
ไม่มีวันไหนเลยที่เขาจะไม่คิดถึงภัทรและลูคัส
 
เขารู้ดีว่าเขาต้องมีชีวิตอยู่ต่ออย่างเข้มแข็งแต่นั่นมันช่างยากเหลือเกิน
 
พินัยกรรมของไล่หยวนช่างถูกเปิดหลังจากภัทรพาลูกหนีไปในอีก 1 เดือนถัดมาซึ่งตรงกับวันเกิดของผู้เป็นบิดาของเขา สมบัติต่างๆถูกแบ่งให้ลูกทั้งสามคนอย่างเท่าเทียมกัน เครื่องเพชรและเงินถูกแบ่งออกเป็นสามกองให้กับภรรยา ท่านหญิงแม่ของกว้านหลินก็ได้รับด้วยแม้ว่าจะเสียชีวิตไปนานแล้ว กว้านหลินจึงยกส่วนนั้นให้กับลิซ่าทั้งหมด เขาจัดทำพินัยกรรมของตนเองขึ้นมาหนึ่งฉบับโดยยกทรัพย์สินทั้งหมดของตนเองแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งให้กับลิซ่า อีกส่วนหนึ่งเขาให้กับไล่ซวี่ซีลูกชายคนโตโดยมีหมอนนท์และเสี่ยวป๋ายเป็นพยาน

แม้จะไม่รู้ว่าจะตามหาภัทรและลูกเจอมั้ยก็ตาม
 
ตอนนี้เขามีสิทธิ์เต็มกับกิจการทั้งหมดในไทย มีสิทธิ์โดยชอบธรรมโดยที่แม่ใหญ่ก็ไม่สามารถมาบีบให้เขาต้องออกจากตำแหน่งได้อีก
 
แม่ใหญ่รู้อยู่แล้วว่าผู้เป็นพ่อจะแบ่งอะไรให้กับใครบ้างแต่ก็ยังเอามาบีบภัทร
 
ผู้หญิงคนนั้นจิตใจโสโครกอย่างไม่น่าให้อภัย  กว้านหลินสิ้นความเคารพหล่อนนับจากวันนั้นเป็นต้นมา แต่ความสัมพันธ์อันดีระหว่างพี่น้องยังคงอยู่เหมือนเกลียวเชือกที่พันกันจนแน่นหนา แม้จะไปทำงานตามปกติแต่กว้านหลินก็ปล่อยตัวจนโทรม บ่อยครั้งที่แก้ปัญหาอาการนอนไม่หลับด้วยการดื่มเหล้าเพื่อที่ตัวเองจะได้เมาแล้วหลับไป บุหรี่ที่เลิกมานานก็ถูกเอากลับมาสูบอีกครั้งเพื่อคลายเครียดยามที่ลิซ่าหลับแล้ว แม้ว่าพี่ๆจะออกปากเตือนเท่าไหร่กว้านหลินก็ทำราวกับว่านั่นเป็นเพียงเสียงลมเสียงฝนไม่ได้ให้ความใส่ใจ
 
จนกระทั่งในยามสายของวันหนึ่งศลัยก็ถือซองจดหมายมาให้ ใบหน้าของหญิงสาวมีคราบน้ำตาเปรอะเปื้อน
 
            “คุณกว้านหลินคะ จดหมายค่ะ จ่าหน้าซองว่าจากคุณภัทร”ชายหนุ่มรีบคว้ามาดูด้วยมืออันสั่นเทา ชายหนุ่มเปิดซองหยิบกระดาษด้านในออกมากวาดสายตาอ่านด้วยดวงใจที่พองฟู
 
 
 
            “ถึงคุณกว้านหลินที่รักยิ่ง
 
กว่าจดหมายฉบับนี้จะถึงคุณกว้านหลิน ผมกับลูกคงจากไปนานแล้ว เลิกตามหาผมกับลูกนะครับ ผมขอโทษที่ต้องพาลูคัสมาด้วยทั้งที่ตอนแรกตั้งใจจะยกลูกให้คุณกว้านหลินไว้ทั้งสองคน แต่ลูคัสร้องตามจนผมตัดใจทิ้งลูกไว้ไม่ลง คุณกว้านหลินต้องดูแลตัวเองดีๆนะครับ ทานข้าวให้ตรงเวลาครบทั้งสามมื้อ ต้องออกกำลังกาย อย่ากินเหล้าแล้วก็อย่าสูบบุหรี่อีกนะครับมันไม่ดีต่อสุขภาพ คุณกว้านหลินต้องมีอายุยืนยาว อยู่เพื่อเป็นหลักให้ยายหนู เพราะถ้าหากว่าคุณกว้านหลินเป็นอะไรไปซักคน คนที่จะลำบากคือลูกของเรา ผมอยากให้ยายหนูมีพ่อที่ควงไปออกงานที่ไหนใครๆก็พากันอิจฉาว่าพ่อของแกช่างหล่อเหลือเกิน ที่จากมาไม่ใช่ว่าผมไม่รัก แต่เพราะว่ารักมาก มากยิ่งกว่ารักชีวิตของตัวเองผมจึงตัดสินใจแบบนี้ จะโกรธผมก็ได้แต่ได้โปรดอย่าเกลียดผม ผมสัญญาว่าผมจะเลี้ยงลูคัสให้ดี ดีที่สุดเท่าที่ผมจะมีกำลัง ไม่ต้องตามหาผมแล้ว ปล่อยให้เรื่องของเราหลงเหลือเพียงความทรงจำ ยายหนูยังเด็กยังต้องมีคนดูแล คุณกว้านหลินควรจะหาคู่ซักคน คนที่เขาจะรักและเอ็นดูลูกของเราด้วยใจจริง ส่วนผมเป็นของคุณกว้านหลินแล้ว ก็จะยังคงเป็นของคุณกว้านหลินคนเดียวตลอดไป ผมหวังว่าคุณกว้านหลินจะทำตามที่ผมขอได้นะครับ
 
ผมรักคุณกว้านหลิน ไม่ว่าจะเป็นอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต คนที่ผมรักก็จะยังเป็นคุณ
 
จดหมายฉบับนี้จะเป็นฉบับแรกและฉบับสุดท้าย ได้โปรดอย่ารอคอย ขอให้คุณใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันดูแลลูกของเราให้ดี
 
ฝากบอกกับลูกด้วยว่าแม่คนนี้รักลูกสุดหัวใจ บอกแกว่าแม่และพี่ชายได้ตายไปแล้ว
 
ลาก่อนชั่วนิรันดร์
 
รักคุณเสมอและจะรักตลอดไป
ภัทร
 
            เป็นครั้งแรกที่ศลัยเห็นกว้านหลินร้องไห้หนักขนาดนั้น อัลฟ่าหนุ่มประคองจดหมายแนบอกแล้วทรุดตัวลงร้องไห้สะอึกสะอื้นราวเด็กน้อยที่สูญเสียสิ่งสำคัญในชีวิตไป
 
วันแล้ววันเล่าผ่านไป กว้านหลินรอคอยจดหมายฉบับถัดไป หากแต่นั่นคือจดหมายฉบับเดียวที่ภัทรเขียนมาหา กว้านหลินให้คนไปตามหาภัทรยังจังหวัดที่ประทับตราไปรษณีย์ เป็นจังหวัดที่ติดกับทะเลหากแต่ก็ไม่พบ
 
กว้านหลินปรับปรุงตัวเอง เขากินข้าวครบสามมื้อและเริ่มกลับมาดูแลตัวเองอีกครั้งจนร่างกายที่ซูบผอมกลับมามีกล้ามเนื้อเหมือนเดิม
 
และกลายเป็นภาพชินตาของพนักงานในบริษัทไปเสียแล้วที่จะเห็นท่านประธานอุ้มลูกพลางป้อนนมไปด้วย ที่บ่ามีผ้าอ้อมผืนใหญ่พาดอยู่ กว้านหลินเอาลิซ่ามาเลี้ยงที่ทำงาน อยู่กับลูกตลอดเวลาไม่ยอมให้ลูกสาวคลาดสายตาไหนเลย เด็กหญิงตัวน้อยเองก็ติดผู้เป็นพ่อมากหากกว้านหลินหายไปนานจะส่งเสียงร้องทันที
 
สองพ่อลูกใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันโดยปราศจากผู้เป็นภรรยาและแม่ รวมทั้งลูกชายคนโต
 
และเขาเองก็จะยึดมั่นตามคำสัญญาที่ว่าจะรักและเชิดชูภัทร จะมีชีวิตแบบนกเงือกคือถือผัวเดียวเมียเดียวจนวันตาย
 
เขาไม่เปิดโอกาสให้ใครเข้ามาอีกเลย
 
ณภัทรจะเป็นภรรยาที่เขารักและซื้อสัตย์ตลอดไป
 


The end.



..................................

สารภาพ ว่าลืมอัพเรื่องนี้ ขอประทานโทษด้วยค่ะ555555555555555


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ร้องไห้ทุกตอนเลยค่ะ สงสารทั้งคู่เลย
คนที่หลุดพ้นได้ก่อนคือภัทรกับแม่
มีแต่กว้านลินที่ไม่ปล่อยวาง จนทำให้ภัทรตัดสินใจเด็ดขาด
และเสียดายที่พินัยกรรมเปิดช้าไป
ทำให้แม่ลูก พ่อลูก และคนรัก จากกันไปตลอด

มีตอนพิเศษที่เจอกันโดยบังเอิญบ้างก็ได้
ได้ตกลง ได้คุยกันใหม่ กับมาเป็นครอบครัวกันเหมือนเดิม

แม่ใหญ่คือคนน่าชังแห่งชาติค่ะ

ขอบคุณมากนะคะ อ่านแล้วอินทุกตอน อ่านยาวๆ จนจบเลยค่ะ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ก็เข้าใจว่าผัวโดนฆ่าแต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้แก้แค้นคืนนี่ เรื่องของลูก ๆ ก็ไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวซิ
เป็นคนที่น่ารังเกียจจริง ๆ แม่ใหญ่

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6

ออฟไลน์ yochiki1404

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เป็นนิยายที่เรียบเรียงได้ดีมากค่ะ ทำให้เวลาอ่านเราสามารถจินตนาการเรื่องราวตามไปได้เวลาที่ถึงบทเศร้าน้ำตาก็มาเต็มเลยค่

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1001
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ไม่มีใครปล่อยวาง..สุดท้ายก็ต้องแยกจากกัน  :mew4:

ออฟไลน์ airicha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
นึกว่าตอนจบจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันสะอีก

ออฟไลน์ phai

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 406
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
จบเศร้ามากกก ฮือ

ออฟไลน์ cutelady

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เศร้า.. ทำมัยใจร้าย ให้ต้องแยกกัน
ร้องไห้หนักมาก.. ให้หากันจนเจอแต่และเข้าใจกันไม่ได้หรือ
 :sad4: :sad4: :sad4:
ขอบคุณนักเขียน กับเรื่องราวดีๆแต่เศร้าใจ
 :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด