❤︎❦❤︎ ช่วยใจดีกับผมหน่อยเถอะครับ ❤︎❦❤︎ Ch.10 (15/07/63)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❤︎❦❤︎ ช่วยใจดีกับผมหน่อยเถอะครับ ❤︎❦❤︎ Ch.10 (15/07/63)  (อ่าน 2910 ครั้ง)

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Chemin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
-ใต้ฝัน-

ซ่าาาาา

ซ่าาาา

ฝนตกอีกแล้ว

ช่างเป็นหน้าฝนที่บ้าคลั่งเสียจริง

ผมลุกขึ้นเดินไปปิดหน้าต่างเพื่อกันละลองฝนก่อนจะเดินมาทิ้งตัวนั่งบนเตียงเก่าๆ แล้วยกขาขึ้นขึ้นมากอด

เฮ้อ

ผมเบื่อ

เบื่อจะตายอยู่แล้ว

มาอยู่ที่นี่สภาพก็ไม่ได้ต่างจากอยู่กรุงเทพนัก เพราะก็ยังเป็นนักโทษโดนขังอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมไม่ได้ต่างจากเดิม ยังดีหน่อยที่ช่วงดึกๆ ยามที่ลูกน้องของผู้ชายคนนั้นไปนั่งจับกลุ่มสังสรรค์ทำให้ผมแอบออกไปเดินสูดอากาศบ้าง

ซ่าาาาา

ผัวะ

!

ผมสะดุ้งกับเสียงกระชากประตูเปิดรุนแรงจนกลัวว่าประตูไม้บานเก่าจะหลุดติดมืออีกฝ่าย พอเลื่อนตามองตามเสียงก็เห็นพี่ต้นกล้าลูกน้องมือขวาของผู้ชายคนนั้นเดินเข้ามาด้วยสภาพเปียกซกไปทั้งตัว พี่เขาเดินไปคว้าผ้าขนหนูเอามาเช็ดหน้าก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป

ไม่นานพี่กล้าเดินออกมาพร้อมผ้าขนหนูพันรอบเอวเปลือยกายช่วงบนอย่างไม่คิดจะอายผมที่นั่งหัวโด่อยู่ด้วย ผมปิดการมองเห็นด้วยการปิดเปลือกตาลงแล้วซบหน้าลงกับเข่า

ผมได้ยินคนตัวใหญ่เดินไปทั่วห้อง จับโน้น วางนี้จนมันเกิดเสียงดัง ก่อนผมจะได้ยินเสียงโทรศัพท์ของอีกคนดังขึ้น

"ครับนาย ครับ นั่งบื้ออยู่ในห้องนี่แหละครับ"

ก็คงหมายถึงผม

"ครับ ได้ครับ แล้วผมจะบอกให้ครับ"

"นายบอกว่าตั้งแต่พรุ่งนี้ให้มึงไปทำงานที่บ้านนาย"

"..."

"มึงได้ยินที่กูพูดมั้ย"

"อือ"เอาเถอะ อยากจะให้ทำอะไรก็จะทำ เหนื่อยจะดื้อดึงแล้วเหมือนกัน มาอยู่ในถิ่นของเขา มีแต่คนของเขา ไม่ฟัง ไม่ทำตามก็ไม่พ้นไม่แคล้วจะโดนลากไปซ้อม ไม่ได้กลัวหรอกนะแต่ไม่อยากมีสภาพเจ็บทรมานเหมือนจะตายแบบนั้นอีกแล้ว แค่ความรู้สึกผิดที่มันทับถมอยู่บนกายก็หนักอึ้งนี่ก็มากเกินพอแล้ว

เรื่องหนีก็ตัดไปได้เลย ผมเคยจมน้ำทะเลเกือบเอาชีวิตไม่รอดตอนช่วงมอต้นและหลังจากนั้นผมก็กลัวการลงทะเลหรือแม้แต่น้ำในสระผมก็ไม่กล้า มันเป็นความกลัวที่ฝังแน่นไปถึงราก อาการเมาเรือวันก่อนก็ส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนคือความกลัวที่ร่างกายมันแสดงออกมา ตอนที่อยู่บนเรือแล้วมองไปทางไหนก็เห็นแต่น้ำ ผมหน้ามืดจะเป็นลมเสียให้ได้

ซ่าาาาา

เสียงฝนห่าใหญ่ยังคงดังไม่หยุด ปะปนไปกับเสียงถอนหอยใจเฮือกใหญ่ของอีกคน ก่อนผมจะสัมผัสได้ถึงแรงยวบของฟูกข้างตัวจนต้องเงยหน้าขึ้นมา

"พี่...จะนอนนี่หรอ"

"เออ ก็นี่บ้านกูแล้วฝนก็ตกขนาดนี้จะให้กูออกไปไหน"จะเรียกว่าบ้านก็หรูไป เพราะมันมีแค่ห้องนอนกับห้องน้ำ ถ้าเอาให้คิดภาพก็คล้ายๆ พวกบังกะโลทั่วไป ผมเห็นมีบ้านแบบนี้อยู่เกือบสิบหลัง คาดว่าน่าจะเป็นของลูกน้องตัวใหญ่พวกนั้น ส่วนเจ้านายของพวกเขาก็คงนอนที่บ้านหลังใหญ่ที่ผมเห็นหลังคาอยู่ไกลๆ แต่ไม่เคยเฉียดกายเข้าไปใกล้

ผมที่ไม่ชินกับการต้องนอนร่วมเตียงกับคนอื่นก็ขยับตัวไปนั่งที่พื้นทันที สองสามวันที่ผ่านมาพี่แกจะไปนอนที่อื่น เขาจะโผล่มาแค่ตอนเอาข้าวมาให้กับตอนจะอาบน้ำเท่านั้น ผมเลยถือวิสาสะยึดเตียงของเขาซะ



ในห้องเงียบกริบไร้เสียงสนทนาเพราะผมกับเขาเราไม่คิดจะคุยอะไรกัน ผมไม่คิดจะผูกสัมพันธ์กับคนพวกนี้เท่าไหร่นัก ผมก็ยังคงซบเข่าฟังเสียงฝนไปเรื่อยๆ จนเริ่มง่วงพอเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าพี่กล้าแกนอนหลับไปแล้ว ตัวเขาใหญ่ไม่ต่างจากเจ้านายของเขาเลยเพราะเตียงห้าฟุตดูเล็กไปถนัดตาเมื่อพี่แกนอนพาดอยู่

ผมเดินไปเอากระเป๋ามารองหัวแทนหมอนก่อนจะทิ้งตัวลงนอน อากาศก็หนาวจนต้องล้วงหยิบเอาเสื้อตัวหนึ่งออกมาคลุมตัวไว้ หูก็ได้ยินเสียงฝนที่ตกไม่เลิกไม่ลาแต่มันก็ทำหน้าที่คล้ายเพลงกล่อมที่ดึงผมเข้าสู่ห้วงนิทรา

"ว่าไงนะ! เออๆ เดี๋ยวกูไปแจ้งนายก่อน"ผมสะดุ้งตื่นขึ้นกลางดึกเพราะเสียงของอีกคนดังแหวกอากาศขึ้นมา ผมเหลือบสายตาขึ้นมองก็เห็นพี่กล้าลุกไปสวมเสื้อแล้ววิ่งออกจากห้องไปทันที โดยไม่สนใจจะปิดประตูให้ดีด้วยซ้ำ

ผมลุกขึ้นหมายจะไปปิดประตู แต่พอเหลืบไปข้างนอกดันรู้สึกอยากออกไปเดินเล่นซะงั้น ผมเลยตัดสินใจเดินออกมาจากบ้านพักหลังนั้น แล้วเดินลัดเลาะไปตามทางที่เคยไปไม่นานก็ทะลุมาอยู่ที่หาดทรายละเอียดแต่วันนี้ทรายมันดันเปียกชุ่มไปหมดทั้งหาด

วันนี้คลื่นลมแรงน่ากลัว มันโบกพัดผ่านผมทีก็เล่นเอาหนาวสะท้านไปทั้งกาย ผมยกแขนกอดตัวเองเอาไว้ก่อนจะได้ยินเสียงโวยวายของคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังมาทางนี้ ผมหันซ้ายขวาเลิ่กลั่กก่อนวิ่งไปแอบที่ต้นไม้ต้นใหญ่ คิดอยากจะกลับไปที่บ้านพักแต่ความอยากรู้มันก็ทำให้ผมต้องชะโงกหน้าออกไปดูเหตุการณ์

ผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งถูกลากถูลู่ถูกังมาด้วยฝีมือของพวกลูกน้องตัวใหญ่โดยมีเจ้านายของพวกเขาเดินตามหลังมานิ่งๆ

ตุบ

ชายคนนั้นถูกถีบลงบนพื้นทรายอย่างไร้ความปราณี พวกลูกน้องขยับไปยืนล้อมเขาเอาไว้ และนายใหญ่ของพวกเขาก็เดินเข้าไปหา

ผัวะ!

ฝ่าเท้าซัดเข้าเต็มคาง ผมสะดุ้งพลางยกมือขึ้นปิดปากก่อนจะเผลอหลุดเสียงร้องออกมาเพราะรู้สึกเจ็บแทน ชายที่โดนลูกแตะเข้าที่คางถึงกับล้มหงายไปแต่ไม่นานก็ถูกกระชากหัวให้ลุกขึ้นมานั่งอีกรอบ

"ใครส่งมึงมา"

"..."

"ไม่ตอบ... ได้ จัดการมันซะ"สิ้นเสียงเจ้านาย พวกลูกน้องก็พากันควักอาวุธมีคมอย่างมีดพกสั้นๆ ออกมาแล้วเข้ามานั่งล้อมชายคนนั้น

"อ๊ากกกกก!!! "และมันก็เร็วมากจนผมไม่คาดคิดเมื่อคมมีดเฉียนใบหูของชายผู้โชคร้ายคนนั้น มันเริ่มจากข้างซ้าย ตามด้วยข้างขวาผมเห็นอวัยวะที่ถูกเฉียดทิ้งล่วงหล่นลงพื้น เลือดสีสดไหลออกจากบาดแผลราวกับก๊อกแตกพร้อมเสียงร้องโหยหวนดังลั่นไปทั่วหาดแห่งนี้

ผมมองภาพความโหดร้าย น่าสยดสยองตรงหน้าด้วยใจที่เต้นรัว ความรู้สึกกลัวมันเข้าเกาะจิตใจจนตัวผมแข็งทื่อ ลมหายใจติดขัด

คนพวกนี่มัน...

"มึงจะบอกไม่บอก"

"อึก...กูไม่...บอก...อึก...กู...ยอมตาย..."

"หึ แต่กูไม่ยอมให้มึงตายจนกว่าจะรู้ว่าใครส่งมึงมา"

ฉึก

"อ๊ากกกกกก!! "อีกเสียงของความเจ็บปวดดังขึ้นเมื่อชายคนนั้นถูกถีบให้นอนลงไปผืนทรายชุ่มน้ำ คมมีดวาววับปักลงกลางอกก่อนจะกรีดเป็นแนวตรงมาถึงหน้าท้อง เลือดสีสดสาดกระจาย กลิ่นโลหะชวนคลื่ยเหียกลอยตามลมปะทะเข้าจมูกจนผมต้องยกมือขึ้นปิดกั้นประสาทการรับกลิ่น

"บอกกูมา"

"..."เขาคล้ายคนใกล้จะขาดใจ เลือดมากมายไหลออกจากร่างของคนเป็นๆ ยอมอาบบนทรายละเอียด

ฉึก

"!!! "มีดในมือใครสักคนปักลงบนฝ่ามือ เจ้าของร่างนั้นดูท่าจะหมดแรงแม้แต่การส่งเสียงร้อง

"ไป...ตาย...ซะ..."น้ำเสียงพึมพำแผ่วเบาดังขึ้น เรียกรอยยิ้มหยันบนใบหน้าเรียบนิ่ง

ภายใต้แสงสลัวผมเห็นชายตัวใหญ่กำยำคนนั้นรับปืนมาจากลูกน้องก่อนจะยกขึ้นเล็งไปที่หัวของผู้ชายอีกคน

ปัง!

แล้วลั่นไกด้วยความสงบนิ่ง

ในชั่ววินาทีที่ลมหายใจของผู้ชายคนนั้นหมดลงนัยน์ตาดุดันทรงอำนาจก็หันมาสบตากับผมที่ยืนอยู่ตรงนี้ ผมตกใจผงะก้าวถอยหลังก่อนจะออกตัววิ่งหนีออกมาจากลานประหารนั้นทันที

ผมจะไม่มาที่นี่อีกแล้ว



อึก อ๊อกก อ้วกกก

ผมโก่งคออาเจียนขย้อนเอาของเก่าออกมาจนหมด ทั้งภาพความโหดร้าย ทั้งเสียงร้องโหยหวน ทั้งกลิ่นคาวเลือดยังฝังติดตรึงอยู่ในทุกโสตประสาท

ผมทิ้งตัวนั่งหน้าซีด ตัวสั่นอยู่หน้าโถส้วม พอตั้งสติได้ก็ขยับกายลุกขึ้นไปที่อ่างล้างหน้า ผมจัดการล้างหน้าล้างปาก ยืดกายขึ้นแล้วมองนิ่งสบสายตากับเงาตัวเองในกระจก

"ลืมเรื่องเมื่อกี้ไปซะฝัน มึงต้องลืม"ผมเอ่ยเสียงแผ่วสะกดจิตตัวเอง ผมต้องลืม ลืมเรื่องเมื่อกี้ให้หมดสิ้น

ตลอดทั้งคืนผมนอนไม่หลับ ทุกครั้งที่หลับตาภาพชายคนนั้นที่ถูกทรมานอย่างโหดเหี้ยมมันฉายซ้ำอยู่ในหัว บางครั้งผมก็สะดุ้งเพราะได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังแว่วมา

ผมนั่งผวาทั้งคืนจนกระทั่งเช้า

แกร็ก

ประตูไม้ถูกเปิดออก ก่อนเจ้าของบ้านที่ไม่ได้กลับมาเมื่อคืนจะเดินเข้ามา พี่กล้าเหลือบมองผมก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ

"เมื่อคืนวิวดีมั้ยละ"

"..."

อย่าทำให้ผมต้องคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนได้มั้ยวะ

"รีบไปอาบน้ำ กูจะพาไปบ้านนาย"

"..."ผมไม่ตอบกลับทำเพียงแค่ขยับลุกจากเตียงแล้วไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ผมทิ้งตัวนังบนชักโครก

"อย่านานนะมึง"

เออ!!!



หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จผมก็ถูกพี่กล้าพาเดินผ่านดงต้นไม้นานาพรรณที่ผมไม่รู้จักจนมาถึงบ้านไม้ยกสูงหลังงาม ผมกวาดมองรอบๆ อย่างรวดเร็วก่อนจะรีบเดินตามอีกคนขึ้นไปบนบ้าน

"นายครับ ผมพาตัวมันมาแล้วครับ"

"..."เขาไม่ได้ตอบ ไม่แม้แต่จะหันมามอง ตาคมสีนิลของเขายังคงจดจ่ออยู่กับไอแพดขนาดสิบเอ็ดนิ้ว จนมีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา

"คนงานที่จะมาแทนพี่หรือเปล่าคะ"

"ใช่"

"งั้นเดี๋ยวตามพี่มาทางนี้นะคะ เดี๋ยวพี่จะบอกรายละเอียดงานให้ฟัง"ผมเดินตามพี่เขาเข้าไปในครัวอย่างงงๆ

"พี่ชื่อจอยนะ"

"ผมชื่อฝันครับ"พี่เขายิ้มรับลากเก้าอี้มาให้ผมกับของตัวเองคนละตัว

"งานไม่มีอะไรมาก ระหว่างคุณสิงห์อยู่ที่นี่ก็คอยเตรียมอาหารให้คุณสิงห์สามมื้อ แล้วก็ทำงานบ้านทั่วไป กวาดบ้าน ถูพื้น ล้านจาน ซักผ้า"

ก็งานคนใช้ดีๆ นี่เอง

"ง่ายใช่มั้ย คิดว่าทำได้มั้ย"

"คือ..."

"ผมทำอาหารไม่เป็นครับ"

"ไม่เป็นเลยหรอ"

"ครับ"

"..."พี่จอยเงียบไป

"อ่า ไม่เป็นไร ค่อยเรียนรู้ไปเนอะ เปิดสูตรดูตามในอินเตอร์เน็ตก็ได้ ทำอะไรก็ได้ คุณสิงห์เป็นคนทานง่าย"

"..."

"ส่วนเวลาจะซื้อของสด ของแห้ง หรือของอื่นๆ ให้เราเขียนรายการของที่อยากได้แล้วเอาไปให้พี่กล้า อาทิตย์หนึ่งเขาจะขึ้นฝั่งแค่ครั้งเดียวคือวันอาทิตย์"

"..."

"เราต้องคำนวนของให้พอนะ อย่าให้ขาดโดยเฉพาะกาแฟ ห้ามหมดเด็ดขาด คุณสิงห์ท่านชอบดื่มกาแฟมาก"

"ครับ"

"แล้วอะไรอีกนะ อ่อ..."ผมนั่งฟังพี่จอยพูดโน้นพูดนี่ไม่หยุด จนโทรศัพท์ของพี่จอยดังขึ้นนั้นถึงได้หยุดพูดแล้วเดินเลี่ยงออกไป แต่ไม่นานก็กลับมาใหม่

"พี่ต้องไปแล้ว เรือจะออกแล้ว"

"พี่จอยจะไปไหนครับ"

"กลับบ้านจ่ะ"

"พอดีแม่พี่ป่วยน่ะ ไม่มีคนดูพี่เลยต้องลาออกไปดูแลแม่"

"อ่อ ครับ"

"ไปแล้วนะ"พี่จอยโบกมือลาก่อนจะเดินหายออกไปจากห้องครัว ทิ้งผมให้โดดเดียวทำอะไรไม่ถูก ผมหันซ้ายหันขวาจนพี่กล้ามันเดินเข้ามานั้นแหละ

"รู้แล้วใช่มั้ยว่าต้องทำอะไรบ้าง"

"ครับ"

"ส่วนเรื่องแค่แรงนายจ่ายให้มึงวันละห้าร้อย"

"แต่ถ้ามึงจะไม่เอาเหมือนตอนขย้ำเช็คสี่สิบล้านทิ้งละก็ เอามาให้กู กูจะได้เอาเงินไปเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย"

"..."

"แล้วก็ทำให้มันดี อย่าก่อปัญหา ถ้าไม่อยากมีสภาพเหมือนคนเมื่อคืน"จากที่กำลังลืมๆ แต่พอถูกสะกิดภาพเหตุการณ์เมื่อคืนก็แว่บขึ้นมา จนผมออกอาการพะอืดพะอม จนต้องยกมือปิดปากแล้ววิ่งหาห้องน้ำทันที

ผมออกห้องน้ำอีกทีด้วยสภาพอ่อนแรง กวาดตามองเจ้าของบ้านกับลูกน้องของเขาก็พบว่าไม่อยู่แล้ว ผมลอบถอนหายใจก่อนจะเดินไปเก็บแก้วจานที่โต๊ะไม้เงาวับมาล้าง แล้วก็เริ่มทำงานตามหน้าที่ที่ไม่ได้อยากจะทำเลยสักนิด

แต่เอาเถอะ ก็ยังดีกว่าอยู่เฉยๆ

ผมทำงานบ้านไปเรื่อยๆ จนเกือบสิบเอ็ดโมง ก็เริ่มรู้สึกหิว ตั้งแต่เช้ากินแค่นมหนึ่งแก้วกับขนมปังหนึ่งแผ่นที่ถือวิสาสะเอาของเขามากิน

ผมเดินไปเปิดหม้อหุงข้าวดูก็เห็นว่ามีข้างกล้องหุงสุกแล้วอยู่เกือบเต็ม เลยเดินไปเปิดตู้เย็นแล้วยืนบื้ออยู่พักใหญ่



"นี่มันอะไร"

"ก็...ไข่ดาว"ผมตอบอย่างไม่เข้าใจว่าเขาจะถามทำไม หรือไข่ดาวบนจานมันหน้าตาแปลกประหลาดเกินจะดูออก

"เธอทำไข่ดาวให้ฉันกิน"

"..."

"ล้อฉันเล่นหรือไง"เขาว่าเสียงเข้มอย่างคนข่มอารมณ์ ตาเรียวคมสีนิลของเขาตวัดมองผมด้วยความไม่พอใจ

"..."

"เธอมีปัญญาทำได้แค่นี้หรือตั้งใจกวนประสาทฉัน"

"..."

ครืนน

พอเห็นผมเงียบ เขาก็ลุกขึ้นจนขาเก้าอี้ลากไปกับพื้นส่งเสียงดัง กายสูงใหญ่ของเขาเดินเข้ามาใกล้ ภาพความโหดร้ายเมื่อคืนของเขาซ้อนทับขึ้นมาจนผมต้องผงะถอยหนี

"ผม..."

"ผมทำอาหารไม่เป็น"

หมับ

"อ๊ะ"ผมหุบปากฉับหลังหลุดเสียงร้องเมือเขาใช้มือที่แข็งราวกับคีมเหล็กจับคางแล้วบังคับตรึงหน้าผมให้ประจันกับใบหน้าของเขา

"อยู่กับฉัน ห้ามมีคำว่าทำไม่เป็น ทำไม่ได้ ฉันไม่ชอบ"

"..."

"จำเอาไว้"เขากดเสียงต่ำเหมือนที่ชอบทำเวลาขู่ผม ก่อนจะปล่อยมือออกแล้วกลับไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม แล้วลงมือกินข้าวไข่ดาวของผมด้วยความไร้อารมณ์ ผมมองเขาก่อนจะเดินกลับเข้าไปที่ครัวก่อนจะยกเท้าขึ้นถีบเก้าอี้ตัวหนึ่งไปเต็มแรง

กูอยากอยู่กับมึงตายละไอ้เหี้ย

ลากกูมาเองแท้ๆ



ช่วงบ่ายผมไม่มีงานทำแล้ว เพราะทำไปหมดแล้วเมื่อเช้า เลยเดินมานั่งเล่นที่หลังบ้าน ผมเพิ่งค้นพบว่ามันเหมาะกับการนั่งพักมากๆ เพราะค่อยข้างร่มรื่นจากกิ่งไม้ที่แผ่กว้างสร้างร่มเงา ไหนจะบ่อปลาคราฟขนาดกลางที่ถูกสร้างเป็นน้ำตกจำลองแถมมีสะพานไม้เอาไว้ไปอีกฝั่ง

ผมเดินไปยืนเท้าราวสะพานพลางโปรยอาหารปลาลงไปเจ้าปลาคราฟสีสวยนับสิบตัวก็รีบว่ายมารุมกินอาหารของพวกมันทันที เจ้าสัตว์น้ำแหวกว่ายไปมา ตัวไหนที่กินอิ่มแล้วมันก็ว่ายไปทางอื่น ตัวไหนที่ยังไม่อิ่มก็ว่ายวนเวียนอยู่ที่เดิมจนผมอดไม่ได้ที่จะโปรยอาหารลงไปอีกกำใหญ่

"งานเสร็จแล้วหรือถึงได้มายืนเล่นแบบนี้"

"..."ความเพลิดเพลินของผมหมดลงทันทีเมื่อเสียงทุ้มต่ำของผู้ชายคนนั้นดังขึ้น ผมถอนหายใจแล้วเดินเอากระปุกอาหารปลาไปเก็บที่แล้วเดินผ่านเขามา

"ถ้าว่างนักก็มานี่ ฉันมีงานให้ทำ"

"เฮ้ย! "ผมร้องเสียงหลงเมื่อถูกกระชากเข้าที่คอเสื้อแล้วลากให้เดินตามเขา ไอ้บ้านี่!

"ปล่อย ผมเดินเองได้"เขายอมปล่อย ก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้องๆ หนึ่ง ห้องที่เมื่อเช้าผมเข้ามาไม่ได้เพราะมันล็อคเอาไว้

"เอาเก็บเอกสารพวกนั้นเข้าลังซะ"ผมกวาดตามองชั้นเอกสารห้าตู้ที่อัดแน่นไปด้วยแฟ้มเอกสารมากมาย ข้างๆ มีกล่องที่ยังไม่ขึ้นรูปวางพิงอยู่



"..."ผมไม่ได้พูดอะไรนอกจากเดินไปหยิบเอากระดาษลังมาขึ้นรูป หันไปเห็นสก็อตเทปใสก็ไปหยิบมันมาแปะฝาข้างหนึ่ง ส่วนเขาก็เดินไปนั่งปักหลักอยู่ที่โต๊ะทำงาน

ผมไล่เก็บเอาสารตามปีไล่จากปีเก่าๆ มาพร้อมกับเขียนที่หน้ากล่องไว้ด้วยว่ากล่องนี้มีแฟ้มอะไรบ้าง พอตู้แรกเก็บเสร็จผมลากเก้าอี้มาก่อนจะปีนขึ้นไปหยิบแฟ้มที่ชั้นบนๆ เอามาไว้ในอ้อมกอด ถ้าไม่ติดกว่าเจ้าของบ้านนั่งหัวโด่ทำงานอยู่ในห้องด้วยละก็ผมจะโยนแฟ้มพวกนี้ลงพื้นซะจะได้ไม่ต้องปีนขึ้นปีนลงให้เหนื่อย

ผมกวาดหยิบแฟ้มอันใหญ่เกือบหกอันมาถือไว้ เพราะขี้เกียจปืนบ่อยๆ

"เฮ้ย...! "

โครมมม

"โอ๊ยยย"ผมร้องโอดควรญเพราะเมื่อกี้ตอนจะลงจากเก้าอี้ดันเสียหลักล่วงไปกองกับพื้นพร้อมแฟ้มตั้งใหญ่ ข้อศอกขวากระแทกพื้นเต็มๆ สวนมือซ้ายที่เผลอเอายันพื้นไว้ก็เจ็บจี๊ด

ผมนิ่วหน้าก่อนจะลุกขึ้นนั่งท่ามกลางกิงแฟ้มกระจัดกระจาย

"โง่"

"..."เสียงด่าดังขึ้นทับถม จนผมเดือดดาลจนได้แต่นั่งหายใจเข้าออกข่มอารมณ์ อย่าหวังเลยว่าผู้ชายคนนั้นจะลุกขึ้นมาถามด้วยความเป็นห่วงเลย ผมกัดฟันลุกทำงานต่อทั้งๆ ที่เจ็บข้อมือ

"ฉันหิวน้ำ"ผมหยุดมือที่กำลังเก็บแฟ้มลงลัง แล้วลุกขึ้นเดินออกมาจากห้องเพื่อเอาน้ำไปให้อีกคน แต่ก่อนหน้านั้นผมเดินหากล่องยาเผื่อมันจะมียาทาแก้ข้อเคล็ด แต่ก็ไม่เจอไม่รู้เจ้าของบ้านเอาไปเก็บไว้ที่ไหนเลยตัดสินใจเลิกหามัน

"ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ฉันอยากดื่มกาแฟ"

"..."ผมเงยหน้ามองอีกคนที่พูดขึ้นโดยไม่ละสายตาออกมาจากแมคบุ๊คตรงหน้า

"ครับ"

และกว่าเขาจะพอใจกับรสชาติของกาแฟที่ผมชง ผมก็เดินเข้าเดินออกอยู่หลายรอบ พอหมดธุระกับเขาผมก็กลับมาทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปเงียบๆ

"โอ๊ย! "เพราะอยากจะรีบทำให้เสร็จจนไม่ระวังตัวเผลอใช้มือข้างมือข้างที่เจ็บหยิบแฟ้มอันใหญ่ ผมรีบปล่อยมันแล้วนั่งกุมข้อมือตัวเองทันที พอก้มไปมองก็เห็นข้อมือผมมันทั้งบวมทั้งแดง

เดี๋ยวผมคงต้องออกไปหายาอีกที

"ถ้ายังทำไม่เสร็จก็เอาไว้มาทำต่อพรุ่งนี้ ตอนนี้ออกไปเตรียมมื้อเย็นให้ฉันได้แล้ว"

"แล้วก็อย่าคิดจะทำไข่ดาวให้ฉันกินอีก ถ้าเธอทำมาฉันจะเอามันยีหัวเธอ"

ไหนพี่จอยบอกว่าเป็นคนกินง่ายไงวะ

้เหอะๆๆ

ผมเดินออกมาจากห้องทำงานของเขาแล้วมาเปิดตู้เย็นดู เนื้อสัตว์ ผัก วัตถุดิบในการทำอาหารอัดแน่นอยู่เต็มแต่คนที่ทำอาหารไม่เป็นแบบผมก็ไม่รู้จะหยิบ จะจับอะไร

ผมรื้อตู้เย็นอยู่สักพักก็ตัดสินใจหยิบเอาเบค่อนกับแครอทออกมา กะว่าจะลองทำข้าวผัดดู ผมเคยเห็นแม่ครัวที่บ้านทำ มันก็ดูไม่ยากเท่าไหร่

เคร้ง!

ผมสะดุ้งกับเสียงช้อนที่ถูกปาลงบนโต๊ะ ตาคมตวัดมามองผมเมื่อตักข้าวกินเข้าไปคำแรก

"นี่มันอะไรของเธอ! "

"..."

"นี้หรอรสชาติที่ทำไว้ให้คนกินน่ะ"

ถึงมันจะไม่อร่อยแต่ก็กินได้นะ ผมยังกินไปแล้วเลย

เพล้ง

ผมเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อจานข้าวผัดที่ผมทำถูดปัดทิ้งจนมันล่วงหล่นไปกับพื้น ความอดทนที่ผมสะสมมาทั้งวันมันใกล้จะหมดลงเต็มที

"คิดจะลองดีกับฉันใช่มั้ย"

"..."

"มองหน้าฉันแบบนั้นหมายความว่ายังไง"

"..."

"อย่าทำให้ฉันหมดความอดทนนะใต้ฝัน"

ใครกันแน่ที่จะหมดความอดทนก่อนกัน

หมับ!

"โอ๊ย"พอผมไม่พูดอะไรหนักเข้า เขาก็ก้าวเข้ามาประชิดตัวแล้วเอื้อมมือมากระชากผมจนหน้าผมหงายไปตามแรงดึง

เขาจ้องหน้าผมนิ่ง จ้องเหมือนอยากจะฉีกผมออกเป็นชิ้นๆ ส่วนผมก็จ้องเขากลับนิ่งๆ เช่นกัน

ผลัก!

"!! "ผมนิ่วหน้าเพราะความเจ็บหลังจากถูกเขาผลักหัวอย่างแรงจนล้มไปกับพื้น แน่นอนว่าผมดันเอามือข้างที่เจ็บยันพื้นอีกแล้ว

ไอ้เหี้ย

ผู้ชายนั้นเดินออกไปแล้ว ส่วนผมก็ค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นพร้อมกุมข้อมือเอาไว้

เจ็บ

มันเจ็บจนน้ำตาผมไหล



พอฟ้าเริ่มมืดผมก็เดินกลับมาที่บ้านพักแล้วล้มตัวนอนบนเตียงพลางกุมข้อมือเอาไว้ไม่เลิก

นี่ผมทำบ้าอะไรอยู่นะ



ผมถูกปลุกให้ตื่นเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรอุ่นๆ แตะๆ แนบๆ อยู่ที่ข้อมือ กลิ่นหอมประหลาดๆ คล้ายๆ สมุนไพรที่ลอยอยู่ตรงหน้าทำผมต้องค่อยๆ เริ่มตาขึ้น

"..."พี่ต้นกล้าคือคนที่นั่งอยู่เบื้องหน้าพลางเอาอะไรบางอย่างประคบไปมาอยู่แถวๆ ข้อมือของผม

"นอนเฉยๆ "

"..."ผมนอนเฉยๆ ตามที่อีกฝ่ายบอก พลางมองไอ้ก้อนกลมๆ ที่ขยับซ้ายทีขวาที

"มึงนี่ก็ทนมือทนตีนดี ทนเจ็บมากได้ครึ่งค่อนวัน"

"ก็แล้วจะให้ผมทำยังไง บอกนายพี่หรอ เหอะๆ ได้ด่าผมซ้ำอีก"

"ในสายตามึง นายกูคงเป็นคนที่เลวร้ายมากเลยสินะ"

แล้วไม่ใช่แบบนั้นหรือ ภาพเมื่อคืนแม่งยังติดตาผมอยู่เลย

"ไม่ใช่แค่นายพี่หรอก รวมถึงพวกพี่ก็ด้วย แต่ก็นะ เจ้านายลูกน้อยนิสัยก็คงเลวไม่ต่างกันหรอกโอ๊ย..เจ็บ"ผมร้องเมื่อพี่กล้ากดลูกประคบแรงๆ

"มึงนี่มัน...เพราะแบบนี้ไง นายกูถึงได้ตบะแตกเอาทุกที"พี่แกพูดก่อนจะลุกขึ้นเดินไปวางลูกประคบแล้วก็เดินออกจากห้องไปเงียบๆ ส่วนผมก็ปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง

"ศพไอ้จุกถูกเผาเรียบร้อยแล้วครับนาย"

"เออ แล้วหลังจากนี้อย่าให้มีหนอนมุดขึ้นมาบนเกาะของกูได้อีก"

"ครับ"

"แล้วเรื่องนั้นว่ายังไง นี่มันเกินเดือนเข้ามาแล้ว พวกมึงยังสืบให้กูไม่ได้อีกหรอ"

"ขอโทษครับนาย แต่เพราะไอ้โก้มันตายไปแล้ว เราเลยสืบอะไรต่อไม่ได้แล้วครับ ไอ้โก้ไม่เหลืออะไรให้เราสาวไปถึงคนสั่งการได้เลยครับ"

"..."

"เริ่มสืบใหม่ กูเชื่อว่ายังไงมันก็ต้องเหลืออะไรไว้บ้าง เราต้องเป็นคนจัดการจบเรื่องทั้งหมดหมดเพื่อเรียกความไว้ใจคืนจากพวกลูกค้าเก่าและอาจจะได้ลูกค้าใหม่ที่ทิ้งไอ้พวกนั้นมาหาเราด้วย"

"แต่จะเป็นไปได้มั้ยครับนายว่ามันอาจจะทำเอง ไม่มีใครสั่ง..."

"สวะขี้ขลาดแบบมันไม่กล้าทำอะไรเองแน่นอน มันต้องมีคนสั่งให้ทำ ไม่งั้นมันจะกล้าหักหลังกูกับคนอื่นๆ หรอ"

"..."

"มันย่อมรู้ว่าสิ่งที่มันทำมันเสี่ยงแค่ไหน ถ้าคนนั้นไม่เสนอจะคุมกะลาหัวมัน มันไม่คงไม่กล้าทำ"

"ยังไงก็ไปเริ่มสืบใหม่ ภายในหนึ่งอาทิตย์กูต้องได้ความคืบหน้า"

"ครับนาย"

"แล้วเด็กนั่นเป็นยังไงบ้าง"

"ข้อมือซ้นครับ ผมเอาสมุนไพรประคบแล้ว สองสามวันน่าจะดีขึ้น"

"อืม แล้วพรุ่งนี้ให้คนขึ้นฝั่งไปซื้อหนังสือทำอาหารมาให้มันหน่อย กูทนกินอาหารรสชาติห่วยๆ แบบนั้นไม่ไหว"

"ได้ครับ"

ต้นกล้ารับคำก่อนจะเดินออกจากห้องไป พอเหลือแค่ผู้เป็นนายคนเดียวเขาก็หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมา นัยน์ตาสีนิลกวาดมองรายละเอียดที่ถูกเขียนเอาไว้ รายชื่อเอเยนต์นับสิบพวกที่โยงไปหาคนเดียวๆ

ใต้ฝัน

เพราะไอ้โก้มันตาย คนที่มาสนิทในช่วงเกิดเรื่องเลยถูกหมายหัว แต่เด็กนั่นก็ไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิด

การส่งของให้ลูกค้าไม่ครบตามออเดอร์ อาจดูไม่เสียหายอะไรมากมาย แต่ความเชื่อใจของลูกค้ากับลดหวบ และเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดแค่กับเขาแต่พวกเอเยนต์พ่อค้ากลุ่มอื่นๆ ก็โดนไอ้โก้เล่นเข้าให้จนลูกค้าหดหาย

และเขาเชื่อว่าต้องมีคนสั่งให้ไอ้โก้ทำ

ครืนนน ครืนนน

ตาคมเลื่อนมองโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างๆ ด้วยใบหน้าหงุดหงิดแต่พอเห็นว่าใครโทรมาก็วาดรอยยิ้มขึ้นประดับบนใบหน้าคมคาย

"ว่าไงครับใต้ฝุ่น"

(คุณสิงห์...)

----
C U next ch na ka

ออฟไลน์ MayuYume

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กำหมัดไปบวกคุณสิงห์ :fire: :m31:

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
"ในสายตามึง นายกูคงเป็นคนที่เลวร้ายมากเลยสินะ" ลั่นแรง อห กล้าถามเนอะพี่ต้นกล้า ตั้งแต่เจอหน้ากันมาเนี้ย ไม่เลวร้ายเล้ยยยย ท่านเจ้านายพี่มีไรดีอ่ะ ให้คิดสามวันก็คิดไม่ออก   :fire: นึกภาพอยากให้ฝันเมิน ไม่พูด ไม่คุย ทำตามคำสั่งอย่างเดียว ไม่ร้องขอ อ้อนวอนอะไรทั้งนั้น พอฝันทำแบบนี้จริงๆแล้วบับ  o13 o13 o13 เอ้อออ อย่ายอมให้ใจ แต่ให้ยอมทำงานได้ ยอมไม่ใช่ว่าจะแพ้เสมอไป ฝึกความอดทนต่อความโหดร้ายที่เกิดกับตัวเองเพื่อความแข็งแกร่งในวันข้างหน้า ควบคุมอารมณ์ได้ดี นิ่งๆมองมามองกลับไม่หลบสายตา นี่มันบับใจเต้นแรงเลย ชอบอ่ะ ท้าท้ายดี 5555 งานบ้านไม่ยากก็ดีกว่าไปทำอย่างอื่นที่ผิดกฎหมาย ได้เงินด้วย อาหารก็ฝึกทำบ่อยๆเดี๋ยวก็เก่ง ทำอร่อย จะเอาใจช่วยนะ ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน เรื่องอื่นช่างแม่ง!!!!  o13 อาร๊ายยสนุกก ขอบคุณนะคะที่มาต่อ รอตอนต่อไปเล้ย แต่งเก่งค่า  :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด