- หนึ่งมิตรชิดใกล้ - บทที่สิบเอ็ด (21-Mar-19)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - หนึ่งมิตรชิดใกล้ - บทที่สิบเอ็ด (21-Mar-19)  (อ่าน 8563 ครั้ง)

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ไม่รู้จะเชื่อใครได้ เพราะทุกคนทำผิด ทุกคนนอกใจ ทุกคนชอบแทรกแซงเป็นมือที่สาม
เรื่องเซ็กส์ก็เพลา ๆ กันบ้าง เว้นไม่ได้ก็ปลอดภัยไว้ก่อนนะ อายุยังน้อยกันทั้งนั้น

ออฟไลน์ ppseiei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 87
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ่านไปก็รู้สึก อาทิตย์กับตะวันคือ อิหยังวะ 555555555
แล้วน้องปรายคือยังไง นี่แอบทีมน้องอยู่นะ ถ้าน้องไม่ได้นอกใจจริงๆนะฮึ่มๆๆๆๆ
ติดตามนะคะ  o13

ออฟไลน์ Holy.shit

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เป็นกำลังใจให้นักเขียนค่ะ

ออฟไลน์ junlifelove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตะวันดูแปลกๆอะ มีไรมากกว่าเห็นใจอาทิตย์กลัวเพื่อนโดนนอกใจไหมเนี่ย
แต่อาทิตย์เธอนี่มันช่าง...  :katai1:

ปรายไม่ได้นอกใจใช่ไหม หรือยังไง  :katai1:

ออฟไลน์ PromQueen29

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
บทที่สิบ






ห้าวันที่เขากล่าวอ้างว่าใช้เวลาอยู่กับครอบครัว ตลอดระยะช่วงเวลาดังกล่าวผมเฝ้ารอการกลับมาของเขา เวลานั้นมาถึงแล้ว เขาอยู่ตรงหน้านี้ในห้องพักของเรา ผิวของเขาคล้ำขึ้นเล็กน้อย หน้าชื่นมื่น และหอบหิ้วของฝากมาจำนวนหนึ่ง เขานัดผมมาเจอที่นี่ ผมรู้ถึงจุดประสงค์ดีว่าเขาต้องการชดใช้เวลาห้าวันที่ห่างกันไป

ผมไม่แน่ใจนักว่าควรรู้สึกอย่างไร แต่เมื่อได้เห็นหน้าเขาอีกครั้ง ใบหน้าที่แลดูมีความสุขมากล้นกลับทำให้ผมรู้สึกถึงความโมโห ผมมองดูเขาวางของฝากไว้บนโต๊ะ มองเขาเดินเข้ามากอดก่อนจะเบี่ยงหลบ สีหน้าของเขาแสดงความประหลาดใจ

“ผมถามปรายจริงๆว่าไปเชียงใหม่กับใคร”

“ไปกับที่บ้านไง”

ผมคว้าโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาเปิดเข้าไปในหน้า Instagram ของคนที่ชื่อต้นส่งให้เขาดู หากแต่เขากลับแสดงสีหน้าฉงนสงสัยหลังจากเห็นภาพในนั้น “อาทิตย์เอามาให้ผมดูทำไม”

“ปราย ผมถามว่าปรายไปเชียงใหม่กับใคร”

“ผมไปกับที่บ้าน อาทิตย์คิดว่าผมไปกับใครหละ”

“ไม่ได้ไปกับคนที่ชื่อต้นเหรอ ปรายไปกับคนอื่นมาใช่ไหม”

เขาเงียบลง เห็นชัดว่าสีหน้าแววตาดูสลดลง การที่เขาไม่ตอบรับสิ่งใดยิ่งพัฒนาโทโสของผมให้พุ่งสูงขึ้น

“ทำไมเงียบหละ บอกผมมาสิว่าไปกับใคร”

“ทำไมเราต้องทะเลาะกันด้วยอาทิตย์ ผมบอกแล้วว่าผมไปกับที่บ้านแต่อาทิตย์ก็ไม่เชื่อ”

“แล้วทำไมไอจีของต้นถึงได้มีสถานที่ที่ปรายไปทุกที่เลยหละ จะให้ผมคิดยังไง”

“ผมไม่รู้ว่าอาทิตย์ไปเอามาจากไหน แต่ผมไปเชียงใหม่กับที่บ้าน”

เขาจ้องหน้าผมก่อนจะหุนหันเดินไปทางอื่น วางกระเป๋าเป้สะพายหลังลง ผมเดินตามเข้าไป รู้สึกโมโหเหลือเกินที่เขาเดินหนี ผมคว้าแขนของเขา บีบแน่นและตวาดถามหาความจริง เขาพยายามดึงแขนออกแต่ท้ายที่สุดแล้วความพยายามของเขาล้มเหลว

ผมกับเขาทะเลาะกันอีกครั้ง ทุ่มเถียงกันใหญ่โต น้ำตาของเขาไหลแต่ผมฝืนทนไม่ให้ตัวเองอ่อนไหว ผมไม่ได้ทำร้ายร่างกายของเขาแม้แต่น้อย เพียงแต่มือที่จับแขนข้างหนึ่งของเขาบีบแน่นจนคิดว่าเขาคงจะเจ็บ

“มีความสุขมากป้ะที่หลอกผมได้อะ”

“หลอกบ้าอะไรวะ ผมบอกว่าผมไปเชียงใหม่กับครอบครัว อาทิตย์นั่นแหละมีความสุขมากป้ะที่ชวนผมทะเลาะแบบนี้”

“ปราย ผมจะไปมีความสุขได้ยังไงที่ทะเลาะกับปราย ถ้าปรายพูดความจริงมันก็จบ”

“ผมพูดความจริงแต่อาทิตย์ก็ไม่เชื่อ จะให้ผมพูดยังไงอีก”

“แต่สิ่งที่ผมเห็นมันไม่ตรงกับสิ่งที่ปรายบอก”

“เออ ผมโกหก ผมไปเชียงใหม่กับต้น พอใจรึยัง”

“ปรายอย่าประชดดิ”

“ผมไม่ได้ประชด ผมพูดความจริง ทีนี้เชื่อผมได้แล้วนะ ผมไม่อยากทะเลาะด้วย”

น้ำเสียงของเขาที่ประชดประชันยิ่งกว่าสิ่งใดได้กระตุ้นโทสะของผมมากอีกเท่าตัว แต่ผมทำอะไรไม่ได้ ผมไม่เคยนึกอยากให้เขาเจ็บตัวผมจึงยอมปล่อยแขนของเขาไป เขาเช็ดน้ำตาและหันกลับไปรูดซิปเพื่อปิดกระเป๋าเป้

“จะไปไหน”

เขาไม่ตอบแต่หุนหันเดินไปยังทิศทางซึ่งประตูตั้งอยู่ ผมดึงกระเป๋าเป้ไว้ รั้งมันออกมาจากมือของเขาและเหวี่ยงทิ้งไปทางใดทางหนึ่ง เขาปาดน้ำตาอีกครั้งในตอนที่เดินเข้าไปเก็บกระเป๋า คราวนี้ผมจับแขนของเขา แน่นหนักจนเขาร้องเจ็บ

“ถ้าไม่รักผม อาทิตย์ก็อย่าทำเหมือนอาทิตย์หึงผมกับต้นเลย”

“หึงบ้าอะไร ผมไม่ได้หึง แต่ปรายคบกับผมอยู่ก็ไม่ควรไปกับคนอื่น”

“ผมไปเชียงใหม่กับที่บ้าน เลิกคิดว่าผมไปกับต้นสักที ผมไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว”

ผมมองจ้องเขา มองเพื่อใคร่ครวญว่าควรทำอย่างไรต่อไปดี แต่ดูสิ เขาตาแดงเพราะร้องไห้ ใบหน้าบิดเบี้ยวจากความรู้สึกที่อัดอั้น ความรู้สึกของผมไม่เอนเอียง มันแน่ชัด และหนักแน่นเช่นเดิม เขาทำให้ผมรู้สึกเหนือกว่าอีกแล้ว

“แล้วจะอธิบายในไอจีของต้นว่ายังไง”

“ผมจะไปรู้ได้ยังไง อยากรู้ก็ไปถามต้นดิ”

มือที่จับแขนของเขาออกแรงบีบมากขึ้น แม้ว่าปากจะเถียงแต่น้ำตาของเขายังไหลออกมาให้ได้เห็น ผมทำให้เขาร้องไห้ ส่วนหนึ่งในความรู้สึกปรีดาเหลือเกินที่เห็นเขาเป็นเช่นนี้ ผมไม่ปฏิเสธเลยว่าชอบเสียอีกที่เห็นเขาปั่นป่วนเพราะผม ยิ่งรับรู้ว่าเขารู้สึกต่อผมมากเท่าไหร่ผมกลับยินดีต่อสิ่งนั้น

“เอามือถือมา”

เขาเงียบไม่มีทีท่าว่าจะทำตามที่ผมบอก ผมไม่รีรออีกต่อไป ผมล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือจากในกระเป๋ากางเกงของเขาออกมาเปิดดู ไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชั่นไหนผมเข้าไปสอดส่องทั้งหมด แต่แล้วมันไม่มีอะไรนอกจากรูปถ่ายทิวทัศน์ตามสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ และแม้ว่าจะมีไม่มากนักแต่ในอัลบั้มรูปภาพก็มีภาพถ่ายครอบครัวของเขาอยู่ด้วย

ผมอื้ออึงไปหมด เหมือนโดนความจริงต่อยหน้าซ้ำๆที่มุมเดิม เขาเดินมาหยิบโทรศัพท์มือถือคืน ไม่พูดกล่าวสิ่งใดและไม่ร้องไห้อีกแล้ว

“ผมไม่รู้ว่าอาทิตย์ไปเอาเรื่องต้นมาจากใคร แต่ผมเสียใจที่อาทิตย์ไม่เชื่อใจผมเลย”

“แล้วปรายทำตัวให้ผมไว้ใจบ้างหรือเปล่า”

“ผมไม่รู้ ผมใช้ชีวิตปกติของผม อาทิตย์นั่นแหละที่เชื่อคนอื่นมากกว่าผม”

“หมายถึงยังไง”

“ก็แล้วใครบอกอาทิตย์เรื่องต้นหละ”

“จะโทษว่าเป็นความผิดคนอื่นงั้นสิ”

“แล้วใครบอกอาทิตย์หละ”

ผมถอนหายใจยาวก่อนจะยอมบอกความจริง “ตะวันเอาไอจีของต้นมาให้ผมดู”

“แล้วอาทิตย์ก็เชื่อตะวันเหรอ”

“ใช่ ผมเชื่อตะวัน”

“เชื่อมากกว่าผมอีกเหรอ” คราวนี้น้ำเสียงของเขาสั่นเครือ ผมยืนมองเขาในระยะประชิด เห็นน้ำตาซึ่งเอ่ออยู่ในลูกตาของเขาอย่างชัดเจน

ผมเคว้งคว้างอยู่ตรงไหนสักแห่ง คำถามของเขาทำให้ผมจนคำพูด ผมอาจเคยเห็นเขาร้องไห้มาก่อนแต่ไม่ใช่ลักษณะนี้ ลักษณะที่ราวกับว่าหัวใจของเขาบีบรัดด้วยความผิดหวังและผมทำให้เขาเสียใจ

ขณะที่สถานการณ์ตรงหน้านี้อยู่ในอารมณ์หลากหลาย ประตูหน้าห้องพักของเราก็ถูกเคาะจากภายนอก ผมละสายตาจากเขาเดินไปเปิดประตู และคนที่อยู่หลังประตูก็คือคุณ สถานการณ์ย่ำแย่เสียเหลือเกิน คุณมาในเวลาไม่ถูกไม่ควร แต่จะให้ผมเอ่ยปากไล่คุณไปผมก็ทำไม่ได้อีกเช่นกัน

“อาทิตย์ผมมาเอาของหนะ ผมลืมไว้”

คุณกล่าวแต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้เอ่ยปากอะไรเขาก็เดินมาที่ประตู เดินมาเพื่อทำในสิ่งที่เกินกว่าคาดคิด “ตะวันทำแบบนี้ทำไม” เขาพูดเสียงดังจนแทบกลายเป็นการตะโกน ผมตกตะลึงแต่ไม่นานนักก็เรียกสติกลับคืนได้ จึงรีบปิดประตูห้อง

“ผมทำอะไร” คุณถามกลับด้วยสีหน้าใสซื่อ

“ตะวันโกหกเรื่องต้น”

“ผมไม่ได้โกหก”

“แล้วเอาไอจีของต้นมาให้อาทิตย์ดูทำไม”

ผมเงียบเพื่อรับฟังการทุ่มเถียงของคนทั้งสองคน

“ปรายนั่นแหละโกหก ผมรู้ว่าปรายแอบคุยกับต้นอยู่ แล้วปรายก็ไปเชียงใหม่กับต้น”

ทั้งคุณและเขาต่างยืนกรานในความถูกต้องของตัวเอง และเป็นผมที่คาดเดาเหตุการณ์ตรงหน้านี้ไม่ได้สักอย่าง

“ผมไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับต้นเลย ผมแค่ทำโปรเจคกับเขา”

“เขารู้กันทั้งเซคชั่นแล้วเรื่องที่ปรายแอบคบกับต้นทั้งที่มีอาทิตย์อยู่”

เขาเงียบลงไปครู่หนึ่งและมองมาที่ผมด้วยสายตาที่ยากเกินกว่าอ่านใจ “ผมไม่เคยยุ่งกับต้น ไม่เหมือนตะวันหรอกที่แอบยุ่งกับแฟนของผม”

ตอนนี้ถึงคราวที่ผมบื้อใบ้ พูดสิ่งใด คิดสิ่งใดไม่ออก คุณนิ่งสงบ สีหน้าดูไม่รู้สึกอะไรเป็นพิเศษ

“ปรายรู้ได้ยังไง” ผมเอ่ยถาม

“ถุงยางในห้องน้ำ”

ผมยอมจำนนต่อหลักฐานจึงไม่พูดอะไรเพื่อโหมกระพืออารมณ์ที่มีกันอยู่ ผมสะเพร่าเองที่ลืมเก็บกวาดให้เรียบร้อย

เขาพูดมันออกมาทั้งหมดว่ารู้ได้อย่างไรว่าผมกับคุณแอบมีความสัมพันธ์กัน เขาเห็นถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วในห้องน้ำทั้งที่ผมกับเขาไม่ได้ใช้มันมาสักพักแล้ว ในคราวแรกเขาไม่รู้ว่าผมใช้มันกับใครแต่ช่วงที่ผมออกไปข้างนอกกับคุณ เขาเก็บกวาดห้องและพบเข็มขัดเส้นหนึ่งซึ่งจำได้ว่าเป็นเข็มขัดของคุณ เขาปะติดปะต่อเรื่องราว จากท่าทีที่ผมมีต่อคุณ จากความสนใจของผมที่มีต่อคุณ จากการกระทำของผมที่มีต่อคุณ และท้ายที่สุดผลลัพธ์ที่เห็นต่อหน้านี้คือสิ่งยืนยันว่าผมมีความสัมพันธ์กับคุณทั้งที่คบหากับเขาอยู่

ห้องพักหลังนี้เงียบสงัดลงไป คุณไม่ได้เอ่ยพูดและเขาเองก็เช่นกัน ผมมองของฝากจากเชียงใหม่ มันตั้งวางอยู่บนโต๊ะเช่นเดิม แห้งเหี่ยวไม่มีใครสนใจ แต่แล้วอึดใจหนึ่งเขาก็ผุดลุกขึ้นเดินหายไปในห้องนอน กลับออกมาอีกทีพร้อมกับเข็มขัดเส้นหนึ่งโยนมันลงต่อหน้าคุณ คุณไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาเป็นพิเศษนอกจากก้มลงหยิบเข็มขัดเส้นนั้นขึ้นมา

“ตะวันตั้งใจทิ้งมันไว้ที่นี่ใช่ไหม” เขาเอ่ยถาม

คุณมองมาตรงมายังผมก่อนจะมองไปที่เขาและเผยความจริงต่อหน้าเราสามคน “ใช่ ผมอยากให้ปรายรู้ว่าผมมีอะไรกับอาทิตย์”

ผมตกตะลึงและไม่มีคำพูดสวยหรูประกอบความรู้สึกในตอนนี้เลย

“แล้วเรื่องต้นหละ” คราวนี้คุณเอ่ยถามบ้าง

เขาถอนหายใจยาวก่อนจะปาดเช็ดน้ำตาบนใบหน้า นิ่งไปพักใหญ่ราวกับประมวลผลครุ่นคิดก่อนจะกะเทาะเปลือกแห่งความสงสัย

“ผมไม่รู้ว่าตะวันคิดยังไง แต่ผมไม่เคยยุ่งกับต้นเลย” เขามองหน้าคุณทั้งที่น้ำตากำลังไหลลงมาอีก เขาดูเปราะบางจนจิตใจของผมรู้สึกแปลกประหลาด ผมไม่ชอบที่เขาเป็นแบบนี้ ผมทนไม่ได้เมื่อเห็นน้ำตาของเขา

“โกหก” คุณแทบจะตวาดออกมา สีหน้าของคุณดูเกลียดชังเขาอย่างเห็นได้ชัด

ในส่วนนี้ผมคิดว่าคุณแสดงออกอย่างชัดเจนเกินไป คุณมีความชัดเจนต่อสิ่งที่รับรู้มา คุณกล่าวหาว่าเขาโกหก และคุณยืนยันมันจากหลักฐานหลายอย่าง ทั้งบทสนทนาของเขากับต้นที่ได้มาจากหมวย คุณอ้างเพื่อนของคุณที่เรียนอยู่คณะเดียวกันกับเขาถึงความประพฤติปฏิบัติ ทั้งหมดนี้คุณดูแน่วแน่ต่อสิ่งที่คุณได้รับรู้มา เพียงแต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคุณต้องการสร้างความร้าวฉานระหว่างเรา

“ถ้าปรายบอกว่าไปเชียงใหม่กับที่บ้านแล้วทำไมต้นถึงลงรูปที่เดียวกับปรายตลอดเลยหละ”

“ผมไม่รู้แต่ผมไปกับที่บ้าน” เขายังยืนกรานต่อความบริสุทธิ์ของตัวเอง

“มีหลักฐานไหมหละ” คุณเค้นถาม สีหน้าของคุณดูแปลกตาอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน คุณต้องการเอาชนะเขา

เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา มือสั่นเทาจนสังเกตเห็นได้ ผมทนไม่ไหวต่อการเห็นคุณจาบจ้วงหาความจริงจนทำให้เขาร้องไห้แบบนี้ บางทีผมคงมองคุณผิดไป ผมคิดมาตลอดว่าคุณช่างใสซื่อ ผมเชื่อว่าสิ่งที่คุณกระทำลงไปเป็นเพราะความปรารถนาดี ผมตกหลุมไปกับคำพูดของคุณ คำพูดให้ร้ายต่อเขา เขาที่ไม่เคยคิดร้ายต่อใครเลย ผมเสียอีกที่ประจักษ์แจ้งว่าเขาดีต่อผมขนาดไหน ทั้งที่ผมละเลยและทิ้งขว้างความรู้สึกอันบริสุทธิ์ของเขา มาวันนี้ผมตระหนักแน่ชัดว่าผมมองคุณผิดไปอย่างมหันต์

“พอเถอะตะวัน” ผมบอกต่อคุณแล้วก้าวเข้าไปหาเขา เขายิ่งร้องไห้หนักและไขว่คว้าอ้อมกอดของผมในทันทีที่เราใกล้กัน ผมมองหน้าคุณไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านั้น ผมคิดว่ามันคงเป็นการกระทำซึ่งชัดเจนแทนการเอ่ยปากพูดแล้ว

กระนั้นคุณกลับไม่ยอมแพ้เลย คุณยื้อแย่งโทรศัพท์มือถือของเขาซึ่งยังค้างหน้าจออยู่ที่แอพพลิเคชั่นไลน์

“ผมไม่เคยยุ่งกับต้นจริงๆนะอาทิตย์ ผมไม่รู้ว่าทำไมตะวันถึงทำแบบนี้กับผม”

เสียงของเขาสั่นเครือ ดูน่าสงสารและชวนให้ผมยิ่งกอดเขาแน่นขึ้นไปอีก คุณไม่ได้คำตอบที่น่าพอใจจากการจับผิดในโทรศัพท์มือถือของเขา แต่สายตาของคุณยังคงมองเขาด้วยความรังเกียจ

“ผมกล้าพูดว่าสิ่งที่ผมรู้มาเป็นความจริง ปรายไม่ได้คบกับอาทิตย์แค่คนเดียว”

“ตะวัน ผมไม่อยากรู้อะไรแล้ว ในมือถือของปรายผมก็ดูหมดแล้ว มันไม่มีอะไรเลย”

“อาทิตย์ แต่ว่าผมไม่-…”

“ไว้ค่อยคุยกันได้ไหม เดี๋ยวผมจะคุยกับปรายเอง”

“คุยอะไรอีก อาทิตย์ก็เห็นอยู่ว่ามันโกหก”

“พอได้แล้วตะวัน” ผมขึ้นเสียงกับคุณ มันคงเป็นน้ำเสียงแข็งกร้าว เป็นครั้งแรกที่ผมพูดจาไม่ดีต่อคุณ

คุณยืนนิ่งต่อหน้าผมกับเขา คุณไม่มีน้ำตาแต่สีหน้าของคุณดูผิดหวัง

“ทำไมอาทิตย์ไม่เชื่อผม”

“ผมเชื่อในสิ่งที่ผมเห็น”

“เชื่อในสิ่งที่มันโกหกหนะเหรอ”

“ตะวัน!”

คราวนี้ผมขึ้นเสียงจนคุณหุบปากสนิท คุณไม่พูดอะไรอีกแต่เดินออกไปจากห้อง เสียงประตูปิดดังโครมจากการถูกใส่อารมณ์ ผมไม่สนใจอะไรนอกจากคนในอ้อมแขนของผม เขายังมีน้ำตาอยู่และโผกอดผมแนบแน่นหลังจากคุณออกไป

“ผมรักอาทิตย์…” เขาละล่ำละลักพูดแล้วเงยหน้ามองขึ้นมา “ถ้าผมไม่รักอาทิตย์ผมจะยอมอาทิตย์ทุกอย่างแบบนี้เหรอ อาทิตย์ก็เห็นหมดแล้วว่าผมไปเชียงใหม่กับที่บ้าน ในไลน์ผมก็คุยกับต้นแค่เรื่องงาน”

ผมไม่เห็นสิ่งใดนอกจากแววตาใสซื่อที่น่าสงสาร ผมผิดไปแล้ว ผิดที่เคยเชื่อใจคุณมากกว่าเขา เขาที่รักผมมากถึงเพียงนี้ คุณไม่มีสิทธิ์ทำให้เขาร้องไห้ มีแต่ผมเพียงคนเดียวที่สามารถกระทำสิ่งใดต่อเขาก็ได้ มีเพียงผมที่ถือครองสิทธิ์ทุกอย่างในตัวเขา มีเพียงผมเท่านั้น

“ผมมีแค่อาทิตย์คนเดียว อาทิตย์เชื่อผมนะ”

ผมตอบรับและลูบศีรษะปลอบประโลม

แม้ว่าผมจะผิดหวังในตัวคุณและเห็นใจเขามากเพียงใด แต่สิ่งหนึ่งยังคงติดค้าง มันเป็นความรู้สึกของผมเอง ความรู้สึกที่ว่าผมยังไม่สามารถเชื่อเขาได้เต็มใจ อะไรบางอย่างยังคลางแคลงเต็มไปด้วยสงสัย ผมไม่รู้ว่าใครโกหก อาจเป็นคุณหรืออาจเป็นเขา บางทีอาจเป็นทั้งคุณและเขาที่โกหกต่อหน้าผม







************************************






 :m16:


ออฟไลน์ Cyclopbee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนแรกก็เหมือนปรายโกหก
ตอนนี้ทำเหมือนตะวันโกหกอีก

เอาเข้าไป ปวดหัว :katai1:

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
เชื่อปรายมาตลอด แต่ตอนนี้รู้สึกแบบเดียวกับอาทิตย์เลย
รู้สึกอยากกอดอยากปลอบปราย
แต่ก็กลัวคนเขียนจะทำให้เราผิดหวังในตัวน้อง

:hao5:



ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
ตะวันเหมือนไม่ใช่คนเดิมเลย​ ทำไมเป็นแบบนี้
ทีมน้องปราย​ แต่ก็นั่นแหละบางทีก็ไม่รู้จริงๆว่าใครโกหกกันแน่​ ปวดหัวหน่อยๆนะอาทิตย์55555

ออฟไลน์ gibgift

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

มุมมองความรู้สึกของอาทิตย์ที่มีให้ปราย ปรายเป็นของชิ้นหนึ่ง  อาจจะมองแค่ว่าตัวเองเหนือกว่าในแง่ที่ปรายเป็นฝ่ายตกหลุมรักตัวเอง เป็นของตาย  ยกตัวเองเป็นฝ่ายควบคุมทุกอย่างได้ อาทิตย์น่าจะเป็นคนขาดความมั่นใจแล้วเก็บกดด้วยรึเปล่าพอ(ฐานะทางบ้าน ฐานะทางสังคมอีก) ปรายมาอยู่ในชีวิตเลยเอาอารมณ์เบื้องลึกมาบีบบังคับกดดันความรู้สึกของปรายให้ร้องไห้เพื่อสนองชัยชนะของตัวเองว่าตัวอาทิตย์ก็เป็นคนมีค่า

ปรายต้องเก็บกดความรู้สึกแย่มากแค่ไหน   ทั้งถุงยาง ทั้งเข็มขัด ไหนจะเดาๆได้ว่าอาทิตย์มีความลึกซึ้งให้ตัวเองมากน้อยแค่ไหน มีแค่ชนักติดหลังที่ว่าเคยนอกใจแฟนมามีความสัมพันธุ์ลึกซึ้งกับอาทิตย์ อาทิตย์จะยกสิ่งนี้มาพูดร้อยพันหมื่นครั้งก็เถียงไม่ได้ พอเป็นฝ่ายที่ทุ่มเทความรักแล้วก็ต้องจำยอมทนต่อไป ต้องทนจนกว่าจะทนไม่ไหวกว่าที่จะรักตัวเองมากกว่าที่รักอาทิตย์จนถอยออกมาจากวังวนนี้ได้

ตะวันร้ายเหลือเกิน ร้ายที่สุด อาทิตย์จงรู้ไว้ค่ะ   ควรค่าให้แอบหลงรัก แต่ไม่ควรค่าจะเอามาเป็นคู่เคียง (ฮาๆ)
ตะวันจงใจทิ้งหลักฐานไว้ให้ปรายเห็น น่าไม่อายมากๆ ถ้าปรายแอบไปมีคนอื่นจริง สิ่งที่ตะวันควรคือบอกให้อาทิตย์รู้ และรอให้เค้าเคลียกันให้เสร็จถึงเข้ามา ไม่ใช่ใช้โอกาสนี้มามีอะไรกับอาทิตย์ทั้งที่รู้ว่าอาทิตย์มีปราย

สิ่งที่อาทิตย์ต้องทำคือ เรียกต้นมาคุย มาเคลียร์ ต่อหน้าทุกคน ปราย ต้น ตะวัน มาให้หมด ไม่ต้องคิดว่าควรจะเชื่อใจใคร ใครพูดโกหก (เพราะนี่ก็ตามไม่ทันเช่นกัน เออหวะ จริงหวะ ใช่มั้ยนะ อยู่คนเดียวจนนอนไม่หลับแทนอาทิตย์ไปแล้ว)

ปรายเคยนอกใจแฟน มามีอะไรกับอาทิตย์
ตะวันก็มีอะไรกับอาทิตย์ทั้งที่รู้ว่าอาทิตย์มีเจ้าของแล้ว

สองคนนี้ไม่ต่างอะไรกัน ต่างแค่ว่าใจของอาทิตย์เองรักใคร ชอบใครมากกว่ากัน รู้สึกดีกับใครมากกว่าคนๆนั้นก็จะผิดน้อยที่สุดในสายตาของอาทิตย์

เดาทางใจอาทิตย์ว่าคงเลือกตะวัน แต่แค่กลัวว่าตะวันจะไม่รักตัวเองเท่าที่ปรายนั้นรู้สึกด้วย
ถ้าอาทิตย์มั่นใจว่าตะวันรักอาทิตย์มากเท่าที่ปรายมอบให้ อาทิตย์คงเลือกตะวันอย่างไม่ลังเล


ตะวันคือดวงตะวันสำหรับอาทิตย์
อาทิตย์คือดวงอาทิตย์สำหรับปราย
แล้วปราย...?


ปรายคือดวงใจของพี่นะคะ โอ๋ๆ
ติดตามนะคะ อยากจะเม้นท์ยาวกว่านี้แต่ถ้าเม้นท์หมดยาวเท่ากับไรท์แต่งตอนนึงเลยค่ะ ฮา
จบแฮปปี้มั้ยคะไรท์ เดาทางไม่ถูกเลยมาจบยังไง คู่ไหน ฮือออ เทใจให้น้องปรายแล้วอะค่ะ
พิมพ์ชื่อสลับกันมั่งมั๊ยเนี่ยเริ่มมึนแล้วค่ะ ฮือๆ

ออฟไลน์ ppseiei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 87
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ทีมน้องปรายยยยยย
แต่ก็แอบกลัวโดนหลอก5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ jazumine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เราจะไม่อยู่ทีมไหนทั้งนั้นนนนนน

Sent from my BLL-L22 using Tapatalk


ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
คิดถึงน้องปรายมากๆ

 :a3:

ออฟไลน์ PromQueen29

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
บทที่สิบเอ็ด


ผมเจอคุณที่มหาวิทยาลัย ตรงหอสมุด บริเวณห้องชมภาพยนตร์ ทุกอย่างเป็นแบบเดิมยกเว้นเพียงคุณ ผมเข้ามาปรึกษาเรื่องฝึกงานกับอาจารย์ก่อนจะมารวมตัวกับกลุ่มเพื่อน คุณคงโกรธผมและเหตุผลเห็นแจ้งชัดเจนอยู่แล้ว คุณเหินห่าง ตีหน้าเมินเฉย และบทสนทนาของเราช่างน่าอึดอัดเกินทน หากคิดว่าสถานการณ์ตรงหน้านี้อิหลักอิเหลื่อพอตัวแล้ว ผมกล้าพูดได้เลยว่ามันน่าอึดอัดมากขึ้นเมื่อเขาปรากฏตัวโดยไร้การบอกกล่าวล่วงหน้า เขาดูเช่นเดิม อยู่ในชุดลำลองสบายๆ ทักทายพูดคุยกับเพื่อนของผมอย่างสนิทสนม แม้แต่คุณก็ยังถูกเขาทักทายราวกับไม่มีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน

เขานั่งลงที่ข้างผม ใบหน้ามีรอยยิ้มหากดวงตายังแดงเล็กน้อยจากการร้องไห้ คืนก่อนหน้านี้ผมกอดปลอบประโลมอยู่นานสองนาน ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะเขาร้องไห้หนักหนาอะไร เพียงแต่ผมรู้สึกอยากกอดเขา อย่างน้อยก็คงพอจะทดแทนการละเลยดูแลเขาในฐานะที่เราคบหากัน ผมไม่ได้สอบถามอะไรเขาอีก เรานั่งกินของฝากจากเชียงใหม่ด้วยกัน ช่วยเขาซักเสื้อผ้าก่อนต่างคนต่างอยู่ในโลกของตัวเอง

“หนอน มาช่วยดูหน่อยว่าใช้โลโก้อันไหนดี” หงส์เอ่ยเรียก ใบหน้าที่ซ่อนอยู่หลังคอมพิวเตอร์ดูเคร่งเครียด “ส่งโลโก้ให้อาจารย์เสริมดูสองรอบแล้วแต่ไม่ผ่านสักที นึกไม่ออกแล้วเนี่ย โปรเจคเชี่ยนี่แดกพลังงานชีวิตชิ้บหาย”

ผมเลื่อนดูโลโก้เกี่ยวกับการรณรงค์ลดใช้รถยนต์ส่วนบุคคลที่หงส์ทำ บอกตามตรงว่าไม่มีโลโก้แบบไหนที่โดดเด่นสะดุดตา และผมไร้ความคิดเห็นในการช่วยเหลือเพื่อนในเวลานี้ ผมเท้าแขน มองหน้าจอ มองเพื่อน ก่อนจะเห็นคุณและเขาเดินออกไปด้วยกัน ผมไม่คิดว่าพวกคุณจะทะเลาะกันอีกจึงไม่ได้สนใจอะไรนอกจากตั้งใจช่วยงานเพื่อน ผมหมกตัวช่วยหงส์สร้างโลโก้ใหม่โดยมีหงส์คอยบอกว่าต้องการอย่างไรแบบไหน

“เออ มึง ไอ้ตะวันมันไม่มารับปริญญานะ มันบอกมึงยังวะ”

ผมนิ่งค้างไป ด้วยความสัตย์จริงผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยสักนิด “ทำไมวะ อีกตั้งนาน”

“มันจะไปเรียนต่อที่ออสเตรเลีย เผลอๆ อาจจะอยู่ยาว”

ผมไม่ได้ตอบรับอะไรแม้ในใจจะรู้สึก… เคว้งคว้าง



คุณกลับมาพร้อมกับเขา กลิ่นบุหรี่ชัดเจนผมจึงไม่ตั้งคำถามว่าคุณและเขาหายไปไหนมา ผมไม่รู้ว่าคุณและเขาพูดคุยสนทนากันด้วยเรื่องอะไรเพราะสีหน้าดูราบเรียบเป็นปกติ เขาเดินมาหาผมเพื่อบอกว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อน ผมไม่ทันได้ตอบตกลงเพราะเขาเดินมาเพื่อบอกกล่าวและอนุญาตตัวเองก่อนหน้านี้เสียแล้ว คราวนี้คุณนั่งลงที่ด้านข้างผม ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะคุณต้องการนั่งข้างผม แต่เป็นเก้าอี้ตัวอื่นถูกจับจองไปหมดแล้ว สีหน้ามึนตึงยังปรากฏให้เห็น และผมไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นบทสนทนาอย่างไรเพื่อไม่ให้เราอึดอัดกัน

“มึงกับอิหนอนเป็นอะไร ทำไมไม่คุยกันวะ”

อยู่ๆ หงส์ก็เอ่ยถามและจ้องมองผมกับคุณสลับกัน ผมหลบสายตา ทำทีเป็นตั้งสมาธิกับงานตรงหน้าแต่ในใจกำลังเต้นตุบตับด้วยความตื่นเต้น

“ทะเลาะอะไรกัน เรื่องที่ตะวันไม่ชอบแฟนมึงเหรอ ไอ้หนอน”

บางทีผมก็เกลียดลางสังหรณ์ของผู้หญิงขึ้นมาเสียดื้อๆ ผมไม่ตอบหงส์ ไม่มองเธอเลยด้วยซ้ำแม้ว่ายังจะรู้สึกถึงสายตาคาดคั้นจากอีกฝ่าย

“ก็มีเรื่องกันอยู่ แต่ช่างเถอะเดี๋ยวกูก็ไปแล้ว”

“อ้าว อะไรวะ มึงจะไปออสฯตอนไหนนะ” หงส์ถามต่อหากแต่คุณบ่ายเบี่ยงที่จะตอบ

“วันไหนก็วันนั้น”

“กวนตีน” หงส์ด่าคุณจากนั้นก็มารับช่วงทำงานออกแบบโลโก้ตรงหน้าต่อ ปล่อยให้ผมสบโอกาสมีเวลาอยู่กับคุณ
คุณนั่งฟังเพลงในโทรศัพท์มือถือ เหลือบมองมาที่ผมก่อนลุกขึ้นเดินหนีหายออกไป ในวินาทีนั้นผมไม่รู้ว่ามันเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอคุณ หากผมรู้ผมจะเดินตามคุณออกไป



อาทิตย์กว่าแล้วที่ผมไม่ได้เจอคุณ ในตอนนั้นผมไม่นึกแปลกใจเพราะผมอยู่กับเขา เขามอบรอยยิ้มให้ผมหากแต่ผมรู้สึกว่าเป็นรอยยิ้มแปลกประหลาด อะไรบางอย่างที่คั่งค้างจากเมื่อครั้งนั้นยังไม่ถูกสะสาง ผมว้าวุ่นอยู่ในใจ คิดวนเวียนอยู่กับตัวเองซ้ำๆด้วยเรื่องเดิม เรื่องระหว่างเขากับต้นนั่นแหละ ผมนึกเหตุผลที่ยังไม่เอ่ยปากถามเรื่องนี้กับเขาไม่ออก ผมคิดที่จะถามแต่ทุกครั้งก็มักถูกละเลยไปด้วยเรื่องใดเรื่องหนึ่งเสมอ ผมไม่รู้สึกเป็นตัวของตัวเอง เหมือนตกอยู่ในภวังค์น้ำลึกและหาอากาศหายใจได้อย่างยากลำบาก

“ได้คุยกับตะวันบ้างไหม”

อยู่ๆ เขาพูดถึงคุณ หลังจากที่เขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ

“ไม่ได้คุย”

“ผมรู้ว่าอาทิตย์ยังค้างใจเรื่องต้น อาทิตย์เชื่อผมนะ ผมรักอาทิตย์คนเดียว”

ผมนั่งนิ่ง ไม่รู้ว่าควรตอบรับอย่างไรนอกจากโอบกอดร่างของเขาที่เพิ่งซุกตัวเข้ามาเพื่อออดอ้อน

“เป็นอะไรหรือเปล่า”

“หืม?” ผมย้อนถาม มองดวงตาของเขาด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด

“ผมสงสัยมานานแล้วว่าอาทิตย์คิดยังไงกับผม”

ผมหวังว่าความเงียบจะตอบแทนความรู้สึกของผมในเวลานี้ แต่ดูเหมือนเขาไม่คิดเช่นนั้น เขาต้องการคำตอบในรูปแบบคำพูด

“ผมรู้ว่าอาทิตย์ไม่ได้รักผม แต่อย่างน้อยบอกผมหน่อยว่าเราอยู่ในฐานะอะไร”

“คบกันอยู่ไง”

“คบกันยังไงล่ะ”

คิ้วของผมขมวดเข้าหากัน ผมอึดอัดใจที่เขาจี้ถามแบบนี้

“อาทิตย์คิดยังไงกับผม” เขาผละตัวออกมา ท่าทางดูจริงจังกับบทสนทนาที่กำลังเกิดขึ้น

“ก็ไม่คิดไง”

“แล้วอยู่กับผมทำไม ผมอยากรู้ว่าเราเป็นอะไรกัน”

ผมรู้สึกปวดหัว ทำไมเขาต้องถามอะไรแบบนี้ด้วยนะ

“ผมถามอะไรอาทิตย์ก็ไม่เคยตอบ ทำไมวะ แค่บอกความรู้สึกตัวเองนี่มันยากนักเหรอ”

“เฮ้ย ก็บอกว่าไม่รู้ ทำไมเซ้าซี้จังวะ”

“เซ้าซี้อะไร ผมเพิ่งเคยถามอาทิตย์ครั้งแรก”

“พอแล้วนะ ไม่อยากคุยเรื่องนี้”

“ทำไมคุยไม่ได้อะ”

ผมมองหน้าเขาอย่างเหลืออดเหลือทน “อย่าล้ำเส้นให้มันมากนักได้ป้ะ”

เขาอ้าปากเหมือนจะพูดเถียงแต่แล้วก็เงียบลง ความเงียบคงเป็นตัวแปรให้ผมไม่หงุดหงิดไปมากกว่าที่เป็นอยู่ ผมเดินออกมาจากบริเวณห้องนอน หยิบหนังสือมาอ่านเพื่อลบล้างอารมณ์หงุดหงิดแม้ว่าจะไม่ค่อยมีสมาธิมากสักเท่าไหร่นัก เขายังคงอยู่ในห้องนอนเล่นโทรศัพท์มือถือ ซึ่งผมมองว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะหากเขาเซ้าซี้ถามไปมากกว่านี้ผมคงอดไม่ได้ที่จะบอกว่ารำคาญ



หนึ่งเดือนให้หลัง ผมเพิ่งรู้ว่าคุณไปเรียนต่อที่ประเทศออสเตรเลียอย่างเป็นทางการแล้ว ผมไม่ได้หมายถึงว่าคุณเรียนแล้วแต่หมายถึงว่าคุณไปพำนักอยู่ที่ต่างประเทศ คุณจากไปเสียแล้ว ไปเสียก่อนที่ผมจะมีโอกาสได้เปิดอกคุยกับคุณ

คุณคงยังปล่อยวางเรื่องราวคราวนั้นไม่ได้ คุณคงโกรธ โมโห และผิดหวัง คุณไม่บอกกล่าวผมสักคำ คุณจากไปโดยไม่ทิ้งร่องรอยวัตถุใด แต่กว่าผมจะคิดได้ก็สายไปเสียแล้วเมื่อพบว่าคุณได้ทิ้งร่องรอยบางอย่างไว้ในใจ ผมคิดถึงคุณเหลือเกินและผมจะไม่ปฏิเสธความรู้สึกนี้อีกต่อไป

และทั้งที่ผมยังคบหากับเขา และทั้งที่มีเสี้ยวหนึ่งในห้วงความรู้สึกที่ผมอาจจะรักเขา แต่ผมไม่สามารถวางใจไว้ที่เขาได้เลย ผมไม่สามารถไว้ใจเขาได้และผมไม่มีคำอธิบายใดขัดแย้งความรู้สึกนี้ เขายังปฏิบัติต่อผมเช่นเดิม ยังรักผมเหมือนเดิม แต่ไม่รู้สิ ความรู้สึกของผม ผมว่ามันไม่ใช่ความรัก

ผมไม่พูดถึงเรื่องของคุณให้เขาฟัง ไม่พูดเพราะรู้ว่าเรื่องของคุณจะทำให้ผมทะเลาะกับเขา แต่ในวันที่ผมเห็นภาพของคุณบนเฟสบุ๊ค คุณในชุดลำลองดูสุขสบายภายใต้แสงแดดของเมืองโกลด์โคสต์ เบื้องหลังของคุณคือชายหาด มีนักท่องเที่ยวถือกระดานโต้คลื่นหลากสีสัน ผมคิดถึงคุณ ผมพูดคำนี้วนอยู่ในสมองหลายร้อยล้านครั้งแต่ไม่มีสักครั้งที่ผมจะพูดออกไปได้ เพราะเขายังอยู่ตรงหน้านี้

“ดูอะไรอยู่”

“เข้าเฟสฯอยู่” ผมตอบแล้วเลื่อนหน้าฟีดของคุณผ่านไป

เขาวางถุงอาหารลงและเตรียมอาหารให้ผมเช่นเดิม ผมรู้ตัวดีว่าผมไม่ได้รักเขาแต่เพราะอะไรที่ทำให้ผมยังคงอยู่ตรงนี้ ผมเองก็อธิบายไม่ได้เช่นกัน

“อาทิตย์ วันพรุ่งนี้เข้ามอไปกับผมก่อนนะ แล้วค่อยไปสยามกัน”

ผมตอบรับเขาและนั่งกินข้าวไปเรื่อยๆ

ไม่เชิงว่าทุกวันนี้ของผมซังกะตาย แต่ก็ไม่ได้สดใสนัก เขายังคงเหมือนเดิม ผมเองก็ยังเหมือนเดิม เรื่องของเขากับผมไม่พัฒนาไปทางไหน ไม่เลวร้ายแต่ก็ไม่สุขสม ผมเดินทางร่วมกันกับเขาแต่เท้าของผมยังย่ำอยู่ที่เดิม ผมไม่รู้วิธีก้าวเดิน บางทีผมไม่อยากก้าวไปไหนกับเขาอีก

ผมมองเขากินข้าว ผมมองหน้าเขายามหลับใหล ผมมองเห็นความดีของเขา แต่เขาไม่ใช่คุณ ไม่ใช่คนที่ผมรัก ผมคิดว่าเรื่องราวระหว่างเราคงไปต่อไม่ได้ ผมอยากขอเลิกคบหากับเขา จะให้ผมคบกับเขาไปได้อีกเช่นไรในเมื่อความรู้สึกของเราไม่เท่ากัน

"ผัดบวบร้านนี้อร่อยเหมือนฝีมือแม่ผมเลยอะ อาทิตย์ชอบไหม"

"อื้ม ก็อร่อยดีนะ"

ผมตอบรับและมองรอยยิ้มของเขา แต่ในใจกำลังคิดถึงคุณ






************************************





มาแล้วววววว เย้ๆ
 :sad4:

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
เป็นบทที่อ่านแล้วรู้สึกอึดอัดในใจมาก
อยากดึงน้องปรายมากอดแน่นๆ แล้วก็ :z6: อาทิตย์หลายๆที
อยากให้ปรายได้เจอคนที่รักน้อง ส่วนอาทิตย์อยู่คนเดียว เหี่ยวแห้งไปซะ

 :pig4:

ออฟไลน์ ขอบฟ้าสีจาง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ยิ่งอ่านยิ่งปวดใจ ฮืออออ สงสารน้องปราย  ถ้าเขาไม่รักก็ออกมาเถอะลู๊กกก  :o12:

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ระหว่างน้องปรายกับตะวันนี่มันแปลกๆเสียจริง
อยากให้น้องปรายหายไปจากชีวิตอาทิตย์บ้าง
แต่ก็กลัวว่าอาทิตย์จะไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับการที่น้องหายไป
สงสารน้อง แต่ก็ไม่แน่ใจว่าน้องยังรักอาทิตย์อยู่เหมือนเดิมไหม

กลับมาอ่านกี่รอบก็ยังรู้สึกสับสนยุ่งเหยิง รอคุณคนเขียนมาคลายปมนะคะ

 :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-09-2019 17:23:54 โดย tasteurr »

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
ต่างคนต่างโกหกรึเปล่าเนี่ย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด