❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❤️:::::เพื่อนที่ไม่น่าสงสาร[Mpreg]:::::❤️ EP.20 อวสาน [Up.31-03-2019]  (อ่าน 45538 ครั้ง)

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
เพื่อน กูรังมึงว่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
:: ๔ ::
รูมเมท


สามปีต่อมา

“ไอ้ต๋องตื่นนนน!!!” เมื่อได้ยินเสียงตะโกนปลุกดังแว่วเข้ามาในหู คนที่กำลังนอนกอดหมอนข้างอยู่บนเตียง กลับเอาหมอนที่หนุนอยู่มาปิดที่ใบหูเอาไว้ ไม่ทีท่าว่าจะยอมลุกจากเตียงนอน

“อืออคนจะนอนเว้ย อย่ามากวน...”

“มึงมีสอบไม่ใช่เหรอวะลุกเร็ว!” ไอร์ไม่ยอมตามใจเพื่อนแน่นอน เพราะวันนี้ต๋องมีสอบกลางภาค หากเขายอมให้นอนต่อไปมีหวังมันได้ลงเรียนใหม่อีกแน่นอน

“เฮ้ย! วันนี้กูมีสอบนี่หว่า” เมื่อได้สติต๋องก็ลืมตาแล้วลุกพรวดขึ้นมาทันที

“ก็เออดิวะมึงมีสอบรีบลุกไปอาบน้ำเร็ว เดี๋ยวกูจะออกไปก่อนนะ”

“รอกูก่อนเดี๋ยวไปส่งที่คณะ”

“ขืนรอมึงกูได้เข้าเรียนสายแน่นอน”

“รอแป๊บนึงน่านะ” เจ้าตัวพูดขณะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเพื่อที่จะเข้าไปอาบน้ำ

“เออๆ อย่านานนะมึง”

ในที่สุดไอร์ก็เป็นฝ่ายยอมไอ้เพื่อนตัวดีเหมือนทุกครั้ง ตอนนี้ทั้งสองคนเรียนอยู่ชั้นปีที่สี่ ที่มหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร หลังจากใช้ความพยายามอย่างหนักหน่วงในการเตรียมตัวอ่านหนังสือ ไอร์ก็สามารถสอบติดคณะแพทย์อย่างที่ตั้งใจไว้ ส่วนต๋องก็สามารถสอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์ได้เช่นเดียวกัน ตั้งแต่เป็นเฟรชชี่มาจนถึงตอนนี้ทั้งสองยังคงเป็นรูมเมทกันมาตลอด และความสัมพันธ์ยังแน่นแฟ้นเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง

หลังจากนั้นไม่นานต๋องก็เดินนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกมาจากห้องน้ำ เผยให้เห็นเรือนกายที่กำยำแข็งแรงและซิกแพ็คที่ขึ้นรูปอย่างชัดเจน ดูเป็นหนุ่มขึ้นมากกว่าสามปีก่อนหน้านี้และที่สำคัญความหล่อนั้นพุ่งปรี๊ดขึ้นเป็นหลายเท่าตัวอีกด้วย

“วันนี้มึงเลิกเรียนกี่โมง” พูดพลางใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมอย่างลวกๆ

“กูเรียนเสร็จตั้งแต่ช่วงเช้าแต่ต้องไปช่วยอาจารย์ทำวิจัยต่อน่าจะดึกอ่ะ ทำไมเหรอวะ”

“เปล่า...กูว่าจะไปรับมึงอ่ะ”

“ไม่ต้องกูกลับเองได้”

“ได้ไงวะยิ่งดึกกูยิ่งต้องไปรับเผื่อมึงโดนฉุดจะทำยังไง”

“ไอ้สัสอย่างกูใครจะกล้าทำ แมนทั้งแท่งซะขนาดนี้”

“แมนห่าอะไร มึงคงไม่รู้หรอกเพื่อนๆ คณะกูจ้องมึงตาเป็นมันเลย”

“แล้วไงวะ” เจ้าตัวทำหน้าสงสัย

“ก็มึงมันดึงดูดพวกผู้ชายหื่นๆ ไง ตัวก็เท่าแมวยังจะทำเป็นเก่งอีก เอาเป็นว่าจะกลับตอนไหนก็โทรมาหากูละกันเดี๋ยวออกไปรับ” ตอนนี้ต๋องใส่เสื้อช็อปสีกรมท่าคู่กับกางเกงยีนส์ยี่ห้อดังเสร็จเรียบร้อยแล้ว

“เคๆ กูไม่เคยเอาชนะมึงได้อยู่แล้วนี่” เป็นอย่างที่พูดเวลามีเรื่องขัดใจกัน คนที่เป็นฝ่ายยอมแพ้นั่นคือเขาตลอด ไอ้เพื่อนรักลูกคุณหนูมันไม่เคยอ่อนข้อให้แม้แต่ครั้งเดียว

“เสร็จแล้วไปกันเถอะจะเดี๋ยวสายเอา” คนที่พูดยืนสะพายกระเป๋าเตรียมพร้อมที่จะออกไปจากห้องแล้ว

“กูต้องเป็นคนพูดประโยคนี้ป่ะวะ”

“ใครพูดมันก็เหมือนกันล่ะน่า รีบๆ ไปเหอะ” ต๋องเอ่ยขณะดุนหลังเพื่อนให้นำหน้าออกไปจากห้อง



*-*-*-*-*-*-*



มหาวิทยาลัย

หลังจากเรียนเสร็จในช่วงเช้าแล้ว ไอร์ก็เดินมุ่งหน้าไปยังห้องวิจัยลับของคณะแพทยศาสตร์ ซึ่งอยู่ชั้นบนสุดของอาคารยี่สิบชั้น หลังจากรู้ว่ามันเป็นงานวิจัยเกี่ยวกับอะไรเขาก็ขอเข้าร่วมเป็นทั้งผู้ช่วยและอาสาสมัครของโครงการวิจัยนี้ทันทีเมื่อปีที่แล้ว และคนที่เป็นหัวหน้านักวิจัยนั่นคืออาจารย์ที่ปรึกษาของเขานั่นเอง

“สวัสดีครับอาจารย์หมอ” เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องที่เต็มไปด้วยจอมอนิเตอร์และเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัย ก็เจอกับศาสตราจารย์ นายแพทย์ สมิธ ประสิทธิ์พรกุล อาจารย์หมออายุอานามก็ห้าสิบห้าปีพอดี

“อ้าวไอร์ อาจารย์กำลังต้องการผู้ช่วยพอดี” อาจารย์หมอยิ้มทักทายลูกศิษย์ที่เขารักเหมือนลูกชายแท้ๆ

“มีอะไรให้ผมช่วยทำครับ” ไอร์วางกระเป๋าเป้ไว้ในลิ้นชักที่ประจำ ก่อนจะเดินเข้าไปยืนข้างๆ เพื่อรอรับคำสั่งจากอาจารย์ที่ปรึกษา

“ช่วยไปฉีดฮอร์โมนให้อาสาสมัครที่อยู่ในห้องด้วยนะ พอดีอาจารย์ติดธุระต้องคุยวิดีโอคอลกับอาจารย์หมอที่อเมริกาก่อน”

“ได้ครับอาจารย์”

“ส่วนไอร์เดี๋ยวอาจารย์จะเป็นคนฉีดให้เอง นี่เข็มสุดท้ายแล้วนะขั้นตอนต่อไปก็เข้าสู่กระบวนการสร้างมดลูกและรังไข่เทียมแล้ว”

ไอร์ถึงกับยิ้มออกมาทันทีที่ได้ยินอาจารย์หมอบอกอย่างนั้น ในที่สุดวันที่เขารอคอยก็มาถึง แม้ไม่รู้ว่ามันจะประสบความสำเร็จหรือไม่ แต่อย่างน้อยมันก็มีโอกาสที่จะเป็นความจริงได้

“ผมดีใจที่สุดเลยครับ”

“อาจารย์ก็รอให้ถึงวันนี้มาตลอดแต่เผื่อใจไว้บ้างก็ดีนะไอร์ ตลอดหลายปีที่อาจารย์ทำงานวิจัยนี้มา มันไม่เคยประสบผลสำเร็จเลยแม้แต่ครั้งเดียว” อาจารย์หมอสมิธบอกกับลูกศิษย์ ตอนแรกเขาก็ค้านหัวชนฝาเพราะไม่อยากให้ไอร์เข้ามาเป็ดนอาสาสมัครในงานวิจัยนี้ เพราะหากมันไม่ประสบความสำเร็จขึ้นมาเขากลัวว่าลูกศิษย์จะเสียใจกับสิ่งที่ได้ตั้งความหวังเอาไว้

“ผมเชื่อมั่นในตัวอาจารย์ครับว่าครั้งนี้จะต้องประสบผลสำเร็จแน่นอน อาสาสมัครทั้งยี่สิบคนรวมทั้งผมก็จะมีความสุขกันถ้วนหน้า อาจารย์เองก็จะถูกยกย่องให้เป็นศาสตราจารย์คนแรกที่สามารถทำให้ผู้ชายตั้งครรภ์ได้” ไอร์บอกกับอาจารย์

“ถ้ามันสำเร็จขึ้นมาจริงๆ อาจารย์คงจะเก็บไว้เป็นความลับ เพราะหากคนทั้งประเทศรู้เข้ามันคงจะวุ่นวายน่าดู” ที่เขาทำโครงการวิจัยนี้ขึ้นมาเพราะอยากรู้แค่ว่าผู้ชายจะสามารถเป็นผู้ให้กำเนิดทารกได้เหมือนผู้หญิงหรือไม่ก็เท่านั้น หากในอนาคตมันเกิดวิกฤติเรื่องการสืบพันธุ์ของมวลมนุษยชาติขึ้นมาจริงๆ เขาถึงจะรื้องานวิจัยนี้ขึ้นมาอีกครั้งและทำในสเกลที่เยอะกว่าเดิมหลายเท่าตัว

“อ้าวแล้วที่ทำมาทั้งหมดมันก็ไม่มีประโยชน์เลยสิครับอาจารย์” ไอร์มองหน้าอาจารย์ด้วยความสงสัย

“ใครบอก อย่างน้อยอาสาสมัครทั้งยี่สิบคนก็จะสามารถมีลูกกับคนที่เขารักได้ แค่นั้นก็ถือว่าเป็นประโยชน์ที่คุ่มค่าที่สุดแล้ว” อาจารย์หมอสมิธยิ้มให้กับลูกศิษย์

“ขอบคุณอาจารย์หมอมากนะครับที่ทำเพื่อพวกเราขนาดนี้”

“เอาไว้ให้มันสำเร็จค่อยมาขอบคุณอาจารย์ก็แล้วกัน”

“ครับอาจารย์ เดี๋ยวผมไปฉีดฮอร์โมนให้อาสาสมัครคนอื่นๆ ก่อนนะครับ”

ไอร์เดินเข้าไปในห้องแล็ปที่มีอาสาสมัครผู้ชายยี่สิบคนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ทั้งหมดเข้ามาเป็นอาสาสมัครในโครงการนี้อย่างเต็มใจ เพราะในชีวิตจริงต่างก็มีแฟนเป็นผู้ชายด้วยกันและตั้งใจอยากจะมีทายาทไว้สืบสกุล เมื่อถูกชักชวนให้เข้ามาเป็นอาสาสมัครก็ทำให้ตอบตกลงอย่างไม่ลังเล

“เดี๋ยววันนี้ผมจะเป็นคนฉีดฮอร์โมนให้กับทุกคนเองนะครับ นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วขั้นตอนต่อไปก็จะเป็นการสร้างมดลูกและรังไข่เทียมแล้ว” ไอร์ว่าพลางเตรียมอุปกรณ์ไว้บนโต๊ะ

“พวกเราใกล้จะได้มีลูกสมใจอยากแล้วใช่ไหมครับ” หนึ่งในอาสาสมัครเอ่ยถามขึ้น

“ผมก็หวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้นครับ เอาเป็นว่าทุกคนพยายามอย่าเครียดแล้วก็ทานอาหารที่มีประโยชน์ พยายามออกกำลังกายให้แข็งแรง มันอาจจะมีโอกาสสูงที่จะทำให้พวกเราสามารถตั้งครรภ์ได้แน่นอนครับ” ไอร์บอกกับทุกคน

เมื่อได้ยินอย่างนั้นสีหน้าของแต่ละคนก็ดูมีความหวังขึ้นมาทันที

ไอร์เริ่มลงมือฉีดฮอร์โมนเข็มสุดท้ายให้กับอาสาสมัครคนแล้วคนเล่าจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นก็ให้คำแนะนำนิดๆ หน่อยๆ เกี่ยวกับการดูแลตัวเอง เพื่อเตรียมความพร้อมในการสร้างมดลูกและรังไข่เทียมในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้



“อาจารย์หมอครับผมฉีดฮอร์โมนให้ทุกคนเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ” ไอร์เดินเข้ามาหาอาจารย์หมอ ที่กำลังนั่งอ่านเอกสารบางอย่างด้วยความตั้งใจในห้องทำงาน

“ออ...ไปรอในห้องแล็บนะเดี๋ยวอาจารย์ตามไป”

“ครับ”

ไอร์เดินเข้าไปในห้องแล็บก่อนจะนั่งครุ่นคิดถึงอนาคตที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไป หากถึงเวลาที่ร่างกายเขาพร้อมที่จะรับน้ำเชื้อเพื่อการปฏิสนธิแล้ว เขาจะใช้วิธีไหนเพื่อที่จะเอาน้ำเชื้อจากไอ้เพื่อนตัวดีมาได้นะ

“โทษทีที่ให้รอนาน” เสียงอาจารย์หมอดังขึ้นทำให้ไอร์หลุดจากภวังค์ แล้วหันไปมองยังต้นเสียง

“ไม่เป็นไรครับอาจารย์”

“ไอร์บอกกับทุกคนแล้วใช่ไหมว่าการฉีดฮอร์โมนเข็มนี้มันอาจจะมีผลข้างเคียงมากกว่าเข็มก่อนๆ”

“บอกแล้วครับ”

“เอาล่ะยื่นแขนมา”

อาจารย์หมอสมิธหยิบไซริงค์ขึ้นมาแล้วดูดฮอร์โมนในขวดแก้วเล็กๆ ออกมาจนหมด ก่อนจะใช้นิ้วดีดที่เข็มหนึ่งครั้งเพื่อไล่ฟองอากาศออกไป หลังจากนั้นก็จัดการฉีดเข้าไปที่ต้นแขนของลูกศิษย์ทันที

“เสร็จแล้วนอนพักก่อนนะค่อยมาช่วยอาจารย์ทำแล็บต่อ”

“ไม่เป็นไรผมไหวครับอาจารย์”

“เชื่ออาจารย์เถอะนอนพักสักครู่ก่อน”

“ก็ได้ครับ”

ไอร์นอนพักบนเตียงได้สักพักเมื่อไม่มีอะไรผิดปกติกับร่างกาย จึงลุกขึ้นแล้วกลับเข้าไปช่วยอาจารย์ในห้องแล็ปต่อทันที

“อ้าวทำไมมาเร็วจัง” เมื่อเห็นลูกศิษย์เดินเข้ามาเจ้าตัวก็ผละจากการส่องกล้องจุลทรรศน์

“ผมโอเคแล้วครับ เดี๋ยวช่วยงานอาจารย์เลยละกันนะครับ” พูดจบก็นั่งลงที่เก้าอี้ตัวข้างๆ แล้วสวมถุงมือยางทันที

“วันนี้งานเยอะหน่อยนะเดี๋ยวเสร็จแล้วอาจารย์จะไปส่งที่หอพัก”

“ไม่เป็นไรครับอาจารย์เดี๋ยวเพื่อนผมจะมารับ” ไอร์รีบปฏิเสธทันควัน

“เพื่อนคนที่เราอยากให้เป็นพ่อของลูกใช่ไหมล่ะ” อาจารย์หมอสมิธรู้เรื่องนี้ดี เพราะก่อนที่จะเข้าร่วมโครงการ อาสาสมัครทุกคนต้องบอกเหตุผลที่อยากจะเข้าร่วมในการวิจัยครั้งนี้ด้วย และนั่นก็คือเหตุผลของไอร์

“ใช่ครับ” พูดไปก็จัดการไปเปตตัวอย่างลงบนแผ่นไลสด์ก่อนจะหยดสีย้อมลงไป ปิดด้วยกระจกปิดสไลด์อีกทีแล้วนำไปส่องกล้อง

“นี่ก็ใกล้เวลาแล้วหาวิธีบอกเพื่อนเราได้รึยังล่ะว่าต้องการน้ำเชื้อเขา” อาจารย์หมอถาม

“ผมกำลังคิดเรื่องนี้อยู่ครับ”

“ถ้ามันเป็นไปไม่ได้อาจารย์ว่าลองหาคนอื่นดูไหม”

“ถ้าไม่ใช่มันผมไม่มีทางตั้งท้องกับใครเด็ดขาดครับอาจารย์” เจ้าตัวพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว

“ถ้าอย่างนั้นอาจารย์ก็เอาใจช่วยละกันนะ”

“ขอบคุณครับ”



ไอร์ช่วยอาจารย์หมอทำแล็บจนเสร็จเรียบร้อย ตอนนี้เวลาก็เกือบจะสามทุ่มแล้ว เขายืนรอเพื่อนรักอยู่หน้าคณะเพียงลำพัง ไม่นานนักรถหรูยี่ห้อดังก็มาจอดเทียบตรงหน้า ไม่รอช้าเจ้าตัวก็รีบเดินไปเปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่งทันที

“รอนานป่ะวะ” เมื่อล้อหมุนเจ้าของรถก็เอ่ยถามขึ้นมาทันที

“แล้วมึงว่านานป่ะละ”

“กวนตีนล่ะ กูถามมึงก่อนนะเว้ย” ต๋องหันมาทำหน้าดุให้เพื่อน

“มึงก็รู้ว่าไม่นานแล้วยังจะมาถามกูอีก”

“ก็กูไม่รู้จะคุยอะไรกับมึงนี่หว่า”

“กินข้าวรึยัง แล้วทำไมไม่ถามล่ะ”

“แล้วมึงกินข้าวยังล่ะ” เมื่อโดนเพื่อนชงให้เจ้าตัวก็ถามต่อทันที

“ยังสิวะก็เพิ่งจะออกมาจากห้องแล็บ”

“เออว่ะ...เรื่องนี้กูว่าจะถามมึงหลายครั้งแล้ว สรุปมึงช่วยอาจารย์ทำวิจัยเรื่องอะไรวะ เห็นกลับดึกดื่นๆ เกือบทุกวันเลย” ต๋องขมวดคิ้วขณะถามคำถามนี้

“เอ่อ..ก็งานวิจัยทั่วไปของคณะนั่นล่ะมึงสงสัยอะไรมากมายวะ กูยังไม่เคยถามเรื่องของมึงเลย” ไอร์ตอบกลับไปเสียงดุ

“ถามแค่นี้ทำไมต้องดุด้วยวะ กูชักจะสงสัยซะแล้วสิว่างานวิจัยที่มึงทำเกี่ยวกับอะไรกันแน่”

“ก็กูบอกไม่มีอะไรไงวะ!” ไอร์เริ่มขึ้นเสียงจนคนที่ขับรถอยู่ถึงกับชะงัก แล้วขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

มันจะอะไรนักหนาวะก็แค่ถามเฉยๆ ...

“กูว่ามึงเริ่มจะจริงจังเกินไปแล้วว่ะ”

“มึงก็เลิกถามเรื่องนี้ซะทีสิวะกูขี้เกียจจะตอบแล้ว” ไม่รู้ทำไมเขาถึงได้อารมณ์เสียหนักขนาดนี้ อยู่ๆ ก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาหรือนั่นอาจจะเป็นผลข้างเคียงของการฉีดฮอร์โมนเมื่อช่วงบ่าย

“เออๆ เดี๋ยวกูพาแวะไปกินข้าวก่อนละกันแป๊บนึงก็จะถึงตลาดแล้ว” ต๋องรู้ตัวว่าหากเขาต่อปากต่อคำอีก อาจจะมีเรื่องทะเลาะกันหนักกว่านี้ก็เป็นได้ ช่วงหลังมานี้เพื่อนรักยิ่งอารมณ์แปรปรวนอยู่ซะด้วย

“ซื้อกลับไปกินที่ห้องได้ป่ะกูรู้สึกเวียนหัวอ่ะ” ไอร์ไม่ได้แกล้งพูดเพื่อเรียกร้องความสนใจแต่อย่างใด อยู่ๆ เขาก็รู้สึกเวียนศีรษะขึ้นมากะทันหัน หลังจากแสดงอาการหงุดหงิดออกไปเมื่อสักครู่

“ได้ๆ เดี๋ยวกูลงไปซื้อให้ละกันรออยู่บนรถนี่ล่ะ งอแงอย่างกับเป็นแฟนกูซะอย่างนั้น”

ถ้ากูเป็นอย่างนั้นได้ก็ดีสิวะ...

เมื่อหาที่จอดรถข้างทางได้แล้วต๋องก็ลงไปซื้อข้าวให้เพื่อนรัก ไม่นานหลังจากนั้นก็เดินมาพร้อมกับถุงข้าวกล่องและผลไม้ เขาวางของไว้เบาะหลังแล้วเข้ามานั่งที่ฝั่งคนขับตามเดิม ก่อนจะเหลือบตามองไปข้างๆ ก็พบว่าเพื่อนได้หลับไปเสียแล้ว เจ้าตัวยิ้มกริ่มพร้อมกับจ้องมองใบหน้าขาวใสนั้นด้วยความเอ็นดู

“สงสัยจะเพลียจัดหลับไปซะแล้ว ไอ้อ่อนเอ๊ย” เอ่ยออกมาเบาๆ ก่อนจะขับรถออกไป

หลังจากนั้นไม่นานรถหรูก็เคลื่อนตัวมาจอดที่ลานจอดรถของคอนโด ต๋องดับเครื่องแล้วหันไปมองเพื่อนที่กำลังหลับปุ๋ยอยู่อย่างไม่รู้เรื่อง

“ไอ้ไอร์ถึงคอนโดแล้ว” เสียงเข้มเอ่ยปลุกเพื่อนรัก

“............”

คนที่นอนนิ่งอยู่นั้นดูท่าทางคงจะหลับลึก จนไม่สามารถใช้เพียงแค่เสียงปลุกให้ตื่นได้ ต๋องจึงใช้วิธีเขย่าตัวเพื่อปลุกอีกที

“ไอ้ไอร์ตื่นก่อนเร็ว” เมื่อมือหนาสัมผัสที่ต้นแขนของเพื่อนก็ต้องตกใจทันที “เชี่ยตัวร้อนฉิบหาย”

ไม่รอช้าต๋องรีบอุ้มเพื่อนออกจากรถแล้วขึ้นไปบนห้องทันที



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*






ออฟไลน์ Noina_Pn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
ขออีกกกกกกกอยากอ่านต่อต่อแล้ววววว

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ต่อด่วนนนนนนนนนนนนนนน  :katai1:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
หืมมม...
ยังไง.. อ่าาาา..  :katai1:
ไรท์รีบมาาาาา.. :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เอาใจช่วยนะ

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
นี่คือเหตุผลที่ไอร์ท้องได้สินะ จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Funnycoco

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
อ๋อออ นี่เป็นเหตุที่ทำให้ไอร์สามารถท้องได้ รอตอนต่อไปค่ะจะขอน้ำเชื้อต๋องยังไง

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
:: ๕ ::
ง้อ


ชามน้ำอุ่นถูกวางไว้ข้างเตียงนอน ผ้าขนหนูผืนเล็กจุ่มลงก่อนจะถูกบิดจนหมาด ต๋องจับแขนเพื่อนขึ้นมาเช็ดย้อนรูขุมขนแรงๆ เพื่อระบายความร้อนออกจากผิวหนัง จากแขนก็เปลี่ยนเป็นใบหน้ารูปไข่ที่ดูซีดเซียว มือหนาจับผ้าเช็ดอย่างทะนุถนอมสัมพันธ์กับสายตาคมที่จ้องมองใบหน้าละมุนนั้นแล้วยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว

“อืออ” เหมือนคนที่นอนซมอยู่เริ่มจะงอแงขึ้นมา เจ้าตัวส่ายศีรษะไปมาทำให้ต๋องถึงกับทำหน้ายุ่ง

“อยู่นิ่งๆ สิวะ” เสียงเข้มเอ่ยพร้อมกับใช้สองมือพยุงใบหน้าเพื่อนเอาไว้ “นี่มึงเป็นไข้หรือเมากันแน่วะ” เจ้าตัวบ่นขณะจ้องไปที่ใบหน้ารูปไข่ ริมฝีปากหยักได้รูป จะว่าสวยก็ไม่ใช่จะว่าหล่อก็ไม่เชิงซะทีเดียว

ต๋องรู้สึกร้อนวูบวาบที่ใบหน้าเมื่อเจ้าเพื่อนรักเม้มปากสีชมพูนั่น ไปพร้อมๆ กับการเอื้อมมือมาคล้องคอเอาเขาไว้ เจ้าตัวทำอะไรไม่ถูกได้แต่อึ้งกับการกระทำของคนที่นอนอยู่บนเตียง ‘มึงยั่วกูเองนะไอร์’ เขาคิดในใจก่อนจะโน้มใบหน้าคมเข้าไปจุมพิตที่ริมฝีปากบางอย่างช้าๆ

“อืมมม” คนที่กำลังนอนซมเพราะพิษไข้อยู่นั้นส่งเสียงอู้อี้ในลำคอ มือเรียวก็รั้งต้นคอของเพื่อนเข้ามากอดเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย รสจูบที่หอมหวานทำให้ต๋องถึงกับเคลิ้มและลืมตัวไปว่าไม่ควรปล่อยให้มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น

ต๋องพยายามบอกตัวเองซ้ำๆ ว่านี่คือเพื่อนรัก แต่ลิ้นสากกลับไม่ยอมหยุดมันถูกสอดเข้าไปซุกซนในโพรงปากของเพื่อนอย่างดูดดื่ม เสียงลมหายใจดังถี่ขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่สามารถหยุดการกระทำนี้ได้ยิ่งพยายามคิดจะผละตัวออกมา มือหนายิ่งกระชับตัวเพื่อนเข้ามากอดไว้แน่น ไม่ต่างจากไอร์ที่แม้จะไม่ได้สติแต่ก็ตอบสนองได้เป็นอย่างดี

“นี่กูทำบ้าอะไรลงไปวะเนี่ย!” ในที่สุดต๋องก็ตั้งสติได้แล้วรีบลุกขึ้นยืนมองเพื่อนอย่างเสียดาย มือหนาทั้งสองข้างยกขึ้นมากุมใบหน้าคมเอาไว้อย่างรู้สึกผิด ก่อนจะพยายามเช็ดตัวให้เพื่อนอีกครั้งจนเสร็จเรียบร้อยเพื่อที่จะได้ออกไปจากตรงนี้เสียที

ต๋องหยิบยาพาราเซตามอลมาป้อนให้เพื่อนทานสองเม็ดก่อนจะห่มผ้าให้ หากคืนนี้เขาอยู่ที่นี่ต่อไปมีหวังได้สติแตกแน่นอน เจ้าตัวจึงหยิบเสื้อแจ็คเก็ตพาดบ่าแล้วมองไปยังเพื่อนรักที่นอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียง ก่อนจะเดินออกไปจากห้องทันที



รุ่งเช้า

แสงแดดอ่อนๆ ในยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา ทำให้คนที่นอนอยู่บนเตียงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ แล้วมองไปรอบๆ ห้องด้วยความงัวเงีย ก่อนจะสะดุดตากับชามน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงนอนพร้อมกับผ้าขนหนูผืนเล็กที่วางแอ้งแม้งอยู่

ไอร์จำได้ว่าเมื่อคืนเขานั่งรอเพื่อนอยู่บนรถ อยู่ๆ ทุกอย่างก็ดับวูบลงไปตื่นขึ้นมาอีกทีก็นอนอยู่บนเตียงซะแล้ว แถมเสื้อผ้ายังถูกเปลี่ยนอีกต่างหาก แล้วไอ้เพื่อนตัวดีล่ะหายไปไหน? ปกติหากเขาไม่สบายอย่างนี้มันจะอยู่ด้วยทั้งคืนไม่ยอมไปไหน ไอร์หันไปมองที่ราวแขวนเสื้อก็ไม่เห็นเสื้อแจ็คเก็ตตัวโปรดที่ต๋องชอบใส่ไปเที่ยว คิดแล้วก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจขึ้นมาทันที

กูไม่สบายมึงยังมีหน้าออกไปเที่ยวข้างนอกได้อีกเหรอวะ แถมยังไม่กลับมานอนที่ห้องอีกต่างหาก ไอร์คิดในใจ ตอนนี้ไม่มีอาการวิงเวียนศรีษะเหมือนเมื่อคืนแล้ว แถมอุณหภูมิร่างกายยังอยู่ในภาวะปกติดีอีกด้วยเจ้าตัวจึงค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นจากเตียง

“ในเมื่อมึงไม่เป็นห่วงกู กูก็จะกลับบ้าน”

ไอร์จึงรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวกลับไปหาแม่ที่บ้าน



*-*-*-*-*-*-*



ลงจากรถเมล์หน้าปากซอยแล้วไอร์ก็นั่งวินมอเตอร์ไซต์ตรงมาที่บ้าน เขาเห็นแม่กำลังตักอาหารใส่ถุงให้กับลูกค้าอยู่จึงเดินเข้าไปหาทันที

“หวัดดีครับแม่” ไอร์ยกมือไหว้แล้วเข้าไปกอดจากด้านหลัง

“มาก็อ้อนเลยนะเนี่ย” ปิ่นแก้วยิ้มกว้างเมื่อเห็นหน้าลูกชาย มือก็รัดถุงแกงให้กับลูกค้าไปด้วย

“ใกล้จะจบรึยังล่ะเจ้าไอร์” ลูกค้าขาประจำเอ่ยถามขึ้น

“อีกสองปีครับลุง” เจ้าตัวยิ้มให้

“อีกหน่อยลุงคงจะไม่ได้กินข้าวแกงฝีมือแม่ปิ่นแล้วมั้ง ลูกชายเรียนจบหมอคงจะนั่งนับเงินสบายเลย”

“ฉันไม่มีทางเลิกขายแน่นอนลุงไว้ใจได้ ว่าแต่ลุงนั่นล่ะอย่าเพิ่งเบื่อฝีมือฉันก่อนละกัน”

“ถ้าเอ็งยังขายลุงก็จะมาซื้อบ่อยๆ ไม่มีทางเบื่อแน่นอน”

“พูดแล้วนะลุง”

“จ๊ะ”

หลังจากลูกค้าเดินออกจากร้านไปพร้อมกับถุงแกง ปิ่นแก้วก็หันมาคุยกับลูกชายต่อ

“วันนี้ทำไมกลับมาได้ล่ะไม่มีเรียนเหรอลูก”

“วันนี้ไม่มีเรียนครับผมจะมาอยู่กับแม่สักสองวันให้หายคิดถึงเลย” อย่างน้อยสองวันนี้อาจจะทำให้เขาลดระดับอารมณ์ฉุนเฉียวลงได้ ยิ่งนานวันอารมณ์ยิ่งเหมือนผู้หญิงเข้าไปทุกที ขี้งอนและหงุดหงิดง่ายโดยเฉพาะเวลาอยู่กับไอ้เพื่อนตัวดี เขากลัวเหลือเกินว่ามันจะจับผิดได้เข้าสักวันและตีตัวออกห่างก่อนที่จะถึงวันนั้น

“แล้วต๋องล่ะลูกไม่มาด้วยเหรอ” ปกติหากลูกชายกลับมาเยี่ยมบ้านก็จะมีเพื่อนรักติดสอยห้อยตามกลับมาด้วยเกือบทุกครั้ง หล่อนจึงเอ่ยถามเหมือนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

“มันคงกลับบ้านไปแล้วมั้งครับ” ไอร์ตอบแบบส่งๆ ไปเพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ต๋องอยู่ที่ไหน

“มีปัญหาอะไรกันรึเปล่าลูกปกติไอร์จะรู้ตลอดว่าต๋องอยู่ไหนไม่ใช่เดาเอาแบบนี้”

“เปล่าครับแม่ผมกับมันสนิมกันมานานจนคิดว่าบางทีมันอาจจะนานเกินไป มันต้องมีชีวิตของมันบ้าง ส่วนผมก็อยากมีชีวิตส่วนตัวบ้างก็เท่านั้นเองครับ” เจ้าตัวยิ้มให้กับผู้เป็นแม่

“ไม่มีอะไรก็ดีแล้วแม่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง เข้าไปเก็บของข้างในก่อนนะแล้วค่อยลงมากินข้าวเดี๋ยวแม่เตรียมไว้ให้”

“คร้าบบแม่” ไอร์เดินสะพายกระเป๋าขึ้นไปที่ห้องนอนของตัวเอง

บ้านไม้สองชั้นที่กันแดดกันฝนมาตั้งแต่เด็กจนโตตอนนี้ก็เริ่มโทรมมากขึ้นทุกวัน หลังจากเรียนจบและมีงานทำแล้วเขาตั้งใจจะสร้างบ้านหลังใหม่ให้กับแม่ โดยไม่ลืมที่จะทำร้านขายข้าวแกงให้เหมือนเดิม

ไอร์วางกระเป๋าไว้บนโต๊ะคอมพ์แล้วนั่งลงบนเตียงนอนเล็กๆ ที่เคยเอนกายมาตั้งแต่ด็กจนโต ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูว่ามีสายของเพื่อนโทรเข้ามาบ้างหรือเปล่า เมื่อมองหน้าจอแล้วก็ต้องผิดหวังเพราะทุกอย่างยังคงว่างเปล่าไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น

“กูคงไม่สำคัญสำหรับมึงแล้วสินะไอ้ต๋อง” พูดจบเจ้าตัวก็ปิดเครื่องทันที ในเมื่อไม่โทรมาก็ไม่ต้องคุยกันอีก เขาคิดอย่างนั้น ช่วงนี้ขออยู่ช่วยงานแม่เพื่อให้สบายใจขึ้นก่อนที่จะกลับไปเจอหน้าไอ้เพื่อนตัวดีอีกครั้ง



“มาแล้วคร้าบบ” ไอร์ตะโกนเสียงดังพร้อมกับวิ่งลงมาจากข้างบน สวมเสื้อยืดกางเกงบอลเหมือนที่เคยใส่เป็นประจำ

“แม่เตรียมกับข้าวไว้บนโต๊ะให้แล้วนะ” ปิ่นแก้วตะโกนบอกลูกชายขณะขายของอยู่หน้าร้าน ตอนเที่ยงๆ อย่างนี้ลูกค้าค่อนข้างเยอะพอสมควร

“เดี๋ยวผมช่วยแม่ขายก่อนค่อยกินละกัน” แทนที่จะนั่งลงที่โต๊ะสำรับที่แม่เตรียมไว้ให้ ไอร์กลับเดินไปยืนข้างๆ ผู้เป็นแม่

“ไม่เป็นไรแม่ขายคนเดียวไหวไปกินก่อนเถอะ” เธอบอกกับลูกชายด้วยความเป็นห่วง

“ไม่เอาผมจะช่วยแม่ก่อน”

“โอเคๆ ดื้อจริงๆ เลยลูกชายคนนี้”

ไอร์ช่วยแม่ตักแกงราดข้าวให้กับลูกค้าที่ทยอยมาในช่วงเที่ยง ส่วนมากจะเป็นคนหาเช้ากินค่ำและชนชั้นแรงงานซะส่วนมาก เพราะปิ่นแก้วขายในราคาที่ไม่ค่อยแพงมากเหมือนที่อื่น เพราะต้องการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยนั่นเอง

หลังจากลูกค้าทานข้าวเสร็จแล้วไอร์ก็ช่วยเก็บจานที่วางอยู่บนโต๊ะไปล้างอย่างขะมักเขม้น สมกับที่เคยช่วยทำมาตั้งแต่เด็กจนโต

ผ่านช่วงเที่ยงไปแล้วลูกค้าเริ่มซาลงไปเรื่อยๆ จนหมดในที่สุด ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เจ้าตัวจะต้องทานข้าวแล้ว ไอร์นั่งที่โต๊ะก่อนจะเปิดฝาชีออกมาเมื่อเห็นกับข้าวแล้วท้องก็ร้องขึ้นมาทันที

“แม่กินข้าวคร้าบบ”

“กินเลยลูกแม่ไม่ค่อยหิว”

ได้ยินอย่างนั้นเจ้าตัวก็ไม่รอช้ารีบคดข้าวใส่จานแล้วนั่งทานอย่างเอร็ดอร่อย ไม่ถึงนาทีหลังจากนั้นก็มีแขกไม่ได้รับเชิญมานั่งลงตรงข้าม ไอร์เงยหน้าขึ้นมามองแล้วก็ต้องเชิดหน้าหนีทันที เพราะคนที่กำลังนั่งยิ้มแป้นอยู่ตรงหน้าคือเพื่อนรักนั่นเอง

“กูกินด้วยนะไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เช้าแล้ว” ไม่พูดเปล่าต๋องรีบคดข้าวใส่จานดูก็รู้ว่ากำลังหิวโหยมาขนาดไหน

“กูอิ่มล่ะ” พูดแล้วก็จะลุกขึ้นแต่โดนคนที่นั่งอยู่ดึงแขนเอาไว้ก่อน

“อย่าทำอย่างนี้สิวะกินข้าวก่อนมีอะไรค่อยคุยกัน” เพื่อนรักจ้องตาพร้อมกับพยักหน้าให้

“ไม่! กูไม่มีอะไรจะคุยกับมึงแล้ว” แม้จะยังปากแข็งแต่ก็ไม่ยอมเดินไปไหน

“กินก่อนเร้ววว เดี๋ยวแม่มึงก็รู้หรอกว่ามึงกำลังงอนกู” ต๋องพยายามรบเร้าเพื่อน ราวกับว่าตัวเองไม่ได้มีความผิดเลยซะอย่างนั้น

“กูไม่ได้งอนเว่ย” คนที่โดนกล่าวหาทำหน้าบึ้งใส่ทันที

“ไม่ได้งอนก็นั่งลงกินต่อสิคร้าบบ” ต๋องพยักหน้าหงึกๆ

“ก็ได้” ไอร์นั่งลงอย่างจำยอมแต่ก็ไม่ยอมพูดจากับเพื่อนแม้แต่คำเดียว เอาแต่ก้มหน้าทานข้าวอย่างเอาเป็นเอาตาย ส่วนไอ้เพื่อนตัวดีก็ทานไปยิ้มไปอย่างอารมณ์ดี



ตอนเย็นวันนั้น

“มึงนี่หน้าด้านจังอยู่ๆ ก็หอบผ้าหอบผ่อนมานอนบ้านกูทั้งที่ไม่ได้รับอนุญาต” คนที่พูดกำลังนั่งอยู่บนเตียงส่วนเพื่อนตัวดีนั่งยิ้มแฉ่งอยู่บนพื้น

“ใครบอกว่ากูหน้าด้าน แม่มึงอนุญาตแล้วต่างหาก มึงเป็นเจ้าของบ้านรึไงวะ” ต๋องยักคิ้วให้อย่างเย้ยหยัน ปกติถ้าต๋องมานอนที่บ้านทั้งสองจะนอนพื้นด้วยกัน แต่ครั้งนี้เจ้าของห้องกลับขึ้นไปนอนบนเตียงปล่อยให้แขกนอนอยู่ที่พื้นเพียงลำพัง บ่งบอกว่าทั้งสองกำลังไม่ลงรอยกันอย่างชัดเจน

“แต่ห้องนี้เป็นห้องกูนี่หว่า”

“แล้วไงก็อยู่ในบ้านหลังนี้ไม่ใช่เหรอ หรือมึงจะเถียงกู”

“กูไม่พูดกับมึงแล้วนอนดีกว่า” พูดแล้วก็นอนห่มผ้าหันหลังให้เพื่อน

“มึงนี่ขี้งอนอย่างกับผู้หญิงจริงๆ ลุกมาคุยกับกูก่อนดิ”

“ไม่!” พูดขณะนอนหันหลังให้

“ถ้างั้นมึงก็ไม่ต้องนอนกูจะร้องเพลงทั้งคืนเลยคอยดู” ต๋องรู้ดีว่าเสียงตัวเองไม่บันเทิงหูสักเท่าไร ร้องเพลงแต่ละทีคนที่ได้ฟังแทบจะกระอักเลือด นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเอาเรื่องร้องเพลงมาป็นข้ออ้าง

“...........”

“คืนที่ดาวเต็มฟ้าฉันจินตนาการถึงหน้าเธอ ละเมอไปไกลมองไม่เห็นดวงดาว จันทร์ที่เคยสดใสนั้นเป็นดั่งใจเธอหรือเปล่า หากมันเป็นจริง จะเก็บเอาจันทร์มาใส่ใจ.....”

ไอร์นอนเอามือปิดหูไว้ด้วยความหงุดหงิด คนอะไรจะร้องเพลงได้เหี้ยขนาดนี้นะ โสตประสาทเขาเริ่มรับมันไม่ไหวแล้ว

“หยุดร้องได้แล้วกูหนวกหู!” เจ้าตัวลุกขึ้นหันมาตวาดใส่เพื่อนเสียงดัง

“จุ๊ๆ ๆ เบาๆ ดิวะเดี๋ยวแม่มึงก็ได้ยินเข้าหรอก” ต๋องเอานิ้วจุ๊ที่ปากไว้

“มึงมีอะไรก็ว่ามากูง่วงแล้ว” หากไม่ยอมให้ไอ้เพื่อนตัวดีพูดในสิ่งที่มันอยากพูด คืนนี้เขาคงไม่ได้หลับได้นอนเป็นแน่

“วันนี้ทำไมมึงมาไม่บอกกูแถมยังปิดเครื่องอีกต่างหาก รู้รึเปล่ากูเป็นห่วง” ต๋องเริ่มเข้าสู่โหมดจริงจังแล้ว

“เรื่องของกูอย่าเสือก” พูดพร้อมกับเชิดหน้าใส่

“เรื่องของมึงก็คือเรื่องของกู เราเป็นเพื่อนกันนะเว้ย”

“แล้วมึงล่ะหายหัวไปไหน กูนอนไม่สบายอยู่ห้องถ้ากูตายขึ้นมาล่ะจะทำยังไง ไหนมึงบอกว่าเป็นห่วงกู” ไอร์จ้องหน้าเพื่อรอฟังคำแก้ตัวของเพื่อน

“คือ...กูมีธุระ” เมื่อได้ยินคำถามก็ทำให้ต๋องนึกถึงเรื่องเมื่อคืน ที่เขาเผลอจูบเพื่อนโดยที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่อง มันน่าละอายใจยิ่งนักเมื่อนึกถึงภาพนั้น

“ธุระของมึงสำคัญกว่ากูงั้นเหรอวะ”

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะเว้ยมึงสำคัญที่สุดสำหรับกู แต่กูจำเป็นต้องไปจริงๆ”

“แล้วมึงไปทำอะไรล่ะบอกกูได้รึเปล่า” ไอร์พยายามเค้นความจริงจากเพื่อน เขาอยากรู้ว่าธุระที่ต๋องทิ้งไปนั้นคืออะไรกันแน่ เดาว่าคงไม่พ้นการไปเที่ยวเตร่กับพวกเพื่อนวิศวะของมัน

“คือ...กูไปกินเหล้ากับเพื่อนมา” ในที่สุดต๋องก็บอกความจริงแม้จะรู้ว่าเพื่อนคงโกรธไม่น้อย

“นี่ไงธุระสำคัญของมึง กูเข้าใจแล้วนอนเถอะ” ไอร์นอนหันหลังให้แล้วหลับตาลง นี่ไอ้นั่นมันทิ้งเขาไว้ในห้องคนเดียวเพื่อไปกินเหล้ากับเพื่อนงั้นเหรอ มันน่าโมโหจริงๆ อย่าหวังว่าจะญาติดีด้วยเป็นอันขาด

“กูขอโทษนะอย่าโกรธกูเลย”

เสียงเข้มเอ่ยข้างใบหูพร้อมกับเสียงลมหายใจที่เป่ารดแก้มขาวนวลอย่างแผ่วเบา นี่ไอ้เพื่อนตัวดีมันขึ้นมาบนเตียงตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาไม่ได้ฝันไปใช่ไหมมันกำลังสวมกอดจากด้านหลัง

[มึงทำอย่างนี้...จะไม่ให้กูยกโทษให้ได้ไงวะ]



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
 :hao5: :hao5:
รีบมานะ.. เค้ารออยู่..  :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ต๋องเพื่อนกันเค้าไม่ทำแบบนี้นะเห้ย  :pig4:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
มาบ่อยๆน้าาาาอยากอ่าตต่อแช้ววว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ฮึกก น้องไอร์ฮอร์โมนเปลี่ยนแน่เลยอ่ะะ  :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ไอส์งอแงเก่งนะพักนี้  :hao3:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
สงสารน้อง เข้าใจอารมณ์คนที่เป็น แบบนี้เลย

ออฟไลน์ Noina_Pn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ Funnycoco

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
รอตอนต่อไปน้าา ลุ้นๆว่าจะท้องยังไง

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
ไหนว่าจะมาสองวัน1ตอนอ่ะ รอออ

ออฟไลน์ ไมเลอร์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-6
:: ๖ ::
แผนรีดน้ำเชื้อ



“กลับก่อนนะครับแม่” ต๋องยกมือไหว้อย่างมีสัมมาคารวะ

“เอาไว้แวะมาเยี่ยมแม่อีกนะต๋อง”

“คร้าบบ”

ปิ่นแก้วยิ้มกริ่มให้กับลูกชายทั้งสองคนขณะมาส่งที่หน้าบ้าน สองวันที่ผ่านมาทั้งต๋องและไอร์ช่วยงานปิ่นแก้วได้ดีเลยทีเดียว แถมยังทำให้เรื่องที่ผิดใจกันกลายเป็นฝุ่นผงไปในพริบตาอีกด้วย

“ผมไปนะครับแม่” ไอร์ยกมือไหว้แล้วเดินเข้าไปสวมกอดผู้เป็นแม่

“ตั้งใจเรียนนะลูกแล้วก็อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยล่ะ”

“แม่ก็เหมือนกันนะครับเหนื่อยก็พักบ้าง”

“จ้า...รีบไปเถอะเพื่อนรอนานแล้ว”

ไอร์ขึ้นไปนั่งบนรถแล้วคาดเข็มขัดนิรภัยจนเสร็จเรียบร้อยแต่ไอ้เพื่อนตัวดียังไม่ออกรถเสียที จึงหันไปมองหน้าด้วยความสงสัย

“รอเหี้ยอะไรรีบๆ ไปดิ”

“ปากดีแต่เช้าเลยนะมึง”

“เออแล้วไงวะ” ไม่พูดเปล่าเจ้าตัวยังกำหมัดยกขึ้นจะชกอีกด้วย

“แหมๆ ๆ ทำเป็นเก่ง ที่กูยังไม่ออกรถเพราะรอให้มึงนั่งคิดก่อน ว่าลืมอะไรรึเปล่าจะได้ไม่ต้องวนกลับมาอีก”

“กูไม่ได้ลืมอะไรโว้ย นี่บ้านแม่กูถึงลืมก็ไม่มีปัญหาอะไรเคนะ”

“ถ้างั้นกูออกรถละนะ”

“เออๆ จะไปก็รีบไปกูจะงีบละ” พูดแล้วเจ้าตัวก็หลับตาลงทันที ต๋องไม่ได้ตอบโต้อะไรเพียงแต่ยิ้มที่มุมปากเท่านั้น



เมื่อมาถึงคอนโดแล้วคนที่นอนหลับยังคงนอนนิ่งไม่มีท่าทีว่าจะตื่นง่ายๆ เห็นอย่างนั้นต๋องก็ไม่อยากจะกวนใจเพื่อน จึงอุ้มเจ้าตัวออกจากรถในท่าเจ้าสาวอย่างระแวดระวัง ขณะต๋องยืนรออยู่หน้าลิฟท์สาวๆ หลายคนต่างก็มองมาแล้วยิ้มให้ เพราะคิดว่าทั้งสองคนเป็นแฟนกัน

“น่ารักจังเลยนะคะคบกันมานานรึยังเนี่ย” หญิงสาวรายหนึ่งเอ่ยถามหลังจากยืนมองอยู่นาน

“นานแล้วครับ” ต๋องยิ้มแห้งๆ ให้ เขาไม่รู้ว่าคบของเจ้าหล่อนนี่คือคบแบบไหน

ก่อนที่หญิงสาวจะเอ่ยปากถามอีกครั้งลิฟท์ก็มาพอดี

ติ๊ง!

“ชั้นไหนคะ”

“ชั้นสิบห้า ขอบคุณครับ”

เมื่อเข้ามาในลิฟท์แล้วหญิงสาวรายนั้นกลับยังไม่จบ เจ้าหล่อนยังคงอยากรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งสองคนจึงยอมเสียมารยาทเอ่ยถามอีกครั้ง

“ดูท่าทางคุณจะรักแฟนมากๆ เลยนะคะ ขนาดหลับยังอุตส่าห์อุ้มขึ้นมาบนห้อง” เจ้าหล่อนยิ้มให้ด้วยความฟิน

“ไม่ใช่แฟนครับนี่เพื่อนผมเอง มันนอนขี้เซาผมเลยขี้เกียจปลุก” ตอนนี้ต๋องภาวนาให้ถึงชั้นสิบห้าเร็วๆ เพราะเริ่มรู้สึกลำบากใจที่จะตอบคำถามเหลือเกิน

“โทษทีค่ะนึกว่าเป็นแฟนกันซะอีก แต่ถึงไม่ใช่แฟนแต่ฉันก็ว่าพวกคุณเหมาะสมกันดีนะคะ” เจ้าหล่อนขอโทษขอโพยยกใหญ่

“ไม่เป็นไรครับ ผมชอบผู้หญิงเผื่อเจอกันคราวหน้าจะได้ไม่เข้าใจผิดอีก” ต๋องยิ้มให้

ติ๊ง!

ในที่สุดก็ถึงซะทีทำเอาต๋องเหงื่อตกหลังเดินออกมาจากลิฟท์ เจ้าตัวไขกุญแจห้องอย่างทุลักทุเลก่อนจะค่อยๆ เบียดตัวเดินตรงเข้าไปในห้องนอนของเพื่อนแล้ววางไว้บนเตียงอย่างนุ่มนวล

ต๋องยืนมองหน้าเพื่อนรักด้วยความรู้สึกสับสนในใจ ‘ทำไมชอบมีคนบอกว่ามึงกับกูเป็นแฟนกันตลอดเลยวะ หรือถึงเวลาที่กูควรจะมีแฟนแล้วซะที” ไม่นานก็เดินออกมาแล้วเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง

จริงๆ แล้วไอร์รู้สึกตัวตั้งแต่ตอนที่ต๋องอุ้มออกมาจากรถแล้ว เจ้าตัวได้ยินทุกประโยคที่เพื่อนรักพูดกับหญิงสาวขณะอยู่ในลิฟท์ ประโยคที่ต๋องบอกว่าชอบผู้หญิงทำไมมันถึงได้รู้สึกเจ็บปวดอย่างนี้นะ ความรักครั้งนี้มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยแม้แต่น้อย แต่อีกไม่นานทุกอย่างก็จะจบลงแล้วไอร์สัญญากับตัวเอง



*-*-*-*-*-*-*



คณะแพทยศาสตร์

และแล้ววันที่ไอร์รอคอยก็มาถึง วันนี้เจ้าตัวรีบมาคณะตั้งแต่เช้าแล้วตรงดิ่งมาที่ห้องแล็บทันที เมื่อคืนแทบนอนไม่หลับเพราะตื่นเต้นที่จะเข้าสู่กระบวนการสังเคราะห์มดลูกและรังไข่เทียม จากเครื่องมือที่มีชื่อว่า ‘Artificial Reproductive Maker’ เป็นนวัตกรรมที่อาจารย์หมอสมิธพัฒนาขึ้นมา โดยอาศัยโมเดลของเครื่องพิมพ์สามมิติเป็นต้นแบบ เพียงแต่พัฒนามาใช้กับมนุษย์ก็เท่านั้น ในอนาคตอาจจะใช้เจ้าเครื่องนี้ในการรักษาอาการเจ็บป่วยที่เกิดจากการสูญเสียอวัยวะในช่องท้องได้

ไอร์สวมชุดของทางหน่วยวิจัยซึ่งคล้ายๆ กับชุดผู้ป่วยในโรงพยาบาล เพียงแต่มันผลิตจากเส้นใยที่ถักทอมาจากแร่ธาตุชนิดหนึ่ง ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษช่วยกระตุ้นปฏิกิริยาการสังเคราะห์อวัยวะให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังช่วยปกป้องเนื้อเยื่อไม่ให้ได้รับอันตรายจากการยิงเลเซอร์อีกด้วย

“พร้อมแล้วนะไอร์” อาจารย์หมอเอ่ยถามขณะเจ้าตัวยืนอยู่หน้าเครื่อง Artificial Reproductive Maker

“ครับอาจารย์หมอ”

“ถ้างั้นก็เข้าไปนอนได้เลย” ไอร์พยักหน้าให้อาจารย์หมอแล้วเดินเข้าไปนอนที่เตียงไฟฟ้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเครื่อง Artificial Reproductive Maker

เมื่อไอร์นอนลงที่เตียงแล้วอาจารย์หมอก็ฉีดยาสลบให้ หลังจากนั้นก็เดินไปที่จอควบคุมแล้วใช้นิ้วสัมผัสสองสามครั้ง ไม่นานเตียงไฟฟ้าก็เคลื่อนตัวพาไอร์เข้าไปในเครื่องที่มีลักษณะคล้ายกับแคปซูลอวกาศ

คนที่อยู่ในเครื่องนอนหลับตาแล้วนึกถึงหน้าผู้เป็นแม่ เขาตั้งใจจะบอกความจริงหลังจากเรื่องทุกอย่างผ่านไปด้วยดีแล้ว และก็หวังว่าแม่คงจะเข้าใจในสิ่งที่เขาทำ

ไม่นานเจ้าตัวก็หลับด้วยฤทธิ์ยาสลบ หลังจากนั้นเครื่อง Artificial Reproductive Maker ก็เริ่มทำงานโดยการยิงแสงเลเซอร์เข้ามาที่ช่องท้องเป็นร้อยๆ เส้น ส่วนอาจารย์หมอก็ยืนควบคุมกระบวนการทำงานที่หน้าจอมอนิเตอร์ เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงก็มีเสียงสัญญาณดังขึ้น บ่งบอกว่าการสังเคราะห์มดลูกและรังไข่เทียมเสร็จสิ้นกระบวนการเรียบร้อยแล้ว

ไอร์ลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือก่อนจะเอามือคลำที่ท้องของตัวเอง ตอนนี้เขาพร้อมที่จะเป็นแม่คนแล้วหรือนี่ เตียงไฟฟ้าค่อยๆ เลื่อนออกมาจากตัวเครื่อง เมื่อเตียงไฟฟ้าหยุดเคลื่อนไหวแล้วไอร์ก็ลุกขึ้นมาอย่างช้าๆ

“โอ๊ย!” เมื่อขยับตัวก็รู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ที่ท้องทันที เขารู้สึกอึดอัดในช่องท้องนั่นเป็นเพราะว่าตอนนี้มีอวัยวะเพิ่มเข้ามาอีกสองอย่าง

“ระวังเรื่องการเคลื่อนไหวร่างกายหน่อยนะ ไอร์ต้องพักฟื้นร่างกายประมาณหนึ่งสัปดาห์เพื่อให้มดลูกเข้ากับร่างกายเราได้ซะก่อน” อาจารย์หมอแนะนำ

“ขอบพระคุณอาจารย์มากนะครับ”

“ไม่เป็นไร ไปนอนพักก่อนนะแล้วค่อยกลับ”

“ครับอาจารย์” ว่าแล้วก็ค่อยๆ เดินไปนอนบนเตียงผู้ป่วยที่มุมห้อง

หลังจากอาจารย์หมอเดินออกไปแล้วไอร์ก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เพื่อโทรบอกเพื่อนรักให้มารับเหมือนทุกครั้ง

“มึงทำอะไรอยู่วะ”

[“ตอนนี้กูกำลังประชุมอยู่คณะมึงมีอะไรรึเปล่า”]

“เย็นนี้มารับกูหน่อยสิ”

[“ได้สิกี่โมงล่ะ”]

“ประมาณสี่โมงเย็นเดี๋ยวกูจะไปรอที่หน้าคณะ”

[“เคๆ แล้วเจอกันเดี๋ยวกูต้องวางแล้วนะ”]

“เออๆ แค่นี้ล่ะ”

หลังจากวางสายเพื่อนแล้วไอร์ก็นอนพักต่อจนหลับไปในที่สุด ด้วยความเพลียจากการสังเคราะห์มดลูกเทียมทำให้เจ้าตัวนอนหลับไปหลายชั่วโมงจนเลยเวลาที่นัดกับเพื่อนเอาไว้ รู้สึกตัวอีกทีก็เกือบจะสามทุ่มแล้วไอร์จึงรีบลุกออกจากมาเตียงแล้วลงไปที่หน้าคณะทันที

ขณะยืนอยู่หน้าคณะไอร์มองหารถของเพื่อนรักแต่ก็ไม่เจอ ในใจก็คิดว่าไม่น่าจะอยู่รอจนถึงขนาดนี้จึงเดินจากหน้าคณะไปที่ถนนใหญ่เพื่อเรียกแท็กซี่กลับ แต่ระหว่างนั้นก็เห็นรถหรูที่คุ้นตาจอดอยู่ในลานจอดรถ เจ้าตัวถึงกับยิ้มออกมาแล้วเดินเข้าไปหาทันที

รอยยิ้มถูกแทนที่ด้วยน้ำตาเมื่อเจ้าตัวเดินมาถึง แสงสว่างจากเสาไฟข้างทางทำให้ภาพที่เห็นในรถมันชัดเจนมาก ไอ้เพื่อนตัวดีกำลังจูบกับผู้หญิงอย่างดูดดื่มอย่างไม่อายฟ้าดิน ในที่สุดก็มีวันนี้วันที่ต๋องมีผู้หญิงเข้ามาในชีวิตและเขาคงจะตกกระป๋องในอีกไม่ช้าแน่นอน ไอร์พยายามตั้งสติแล้วเดินออกมาจากตรงนั้น ปล่อยให้เพื่อนได้มีความสุขกับผู้หญิงของมันให้เต็มที่ ส่วนเขาขอเลือกไปตามทางของตัวเองก็แล้วกัน



*-*-*-*-*-*-*



ปัง!

ไอร์มาถึงก็ปิดประตูเสียงดังอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะรีบอาบน้ำแล้วเข้านอนเขาไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น แต่ก็ดีเหมือนกันที่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น มันจะได้ช่วยให้การตัดสินใจอะไรง่ายขึ้นกว่าเดิม

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

“ไอร์มึงนอนรึยังวะ!” ต๋องยืนเท้าสะเอวอยู่หน้าห้องด้วยอารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก เพราะรออยู่นานแถมโทรมาก็ไม่รับสาย แต่เพื่อนรักกลับแอบมาถึงก่อนซะอย่างนั้น

“............”

“กูรู้ว่ามึงยังไม่หลับออกมาคุยกับกูเดี๋ยวนี้”

“...........” เจ้าตัวยังเงียบ

“ถ้ามึงไม่ออกมากูจะพังประตูเข้าไปนะ” ต๋องตะโกนเสียงดังบ่งบอกว่าตอนนี้อารมณ์กำลังเดือดพล่านเต็มทนแล้ว

“หนึ่ง....สอง....สะ”

แอ๊ดดด!!

“มีอะไรว่ามากูจะนอน” ไอร์กอดอกพูดอย่างไม่สบอารมณ์

“มึงจะกลับมาก่อนทำไมไม่โทรบอก มึงรู้ป่ะว่ากูรอมึงนานแค่ไหน”

“แล้วก่อนหน้านั้นทำไมมึงไม่โทรหากูเลยล่ะ กูนึกว่ามึงคงไม่รอแล้วก็เลยกลับมาเอง”

“คือกู....ไปทำธุระเลยลืมโทรหามึง แต่มึงเองก็ไม่โทรหากูนี่นา กูเลยนึกว่ามึงอาจจะเลิกดึกเลยรอที่ลานจอด” ความโมโหในตอนแรกหายไปหมดเมื่อได้รู้ว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน

“สรุปเราเข้าใจผิดกันไปเอง หมดธุระแล้วช่ะกูจะนอน”

“เดี๋ยว! มึงกินอะไรมารึยังกูซื้อข้าวมันไก่มาเผื่อมึงด้วย”

“กูไม่หิวขอตัวนะ”

ปัง!

เจ้าของห้องรีบกลับไปนอนบนเตียงร้องไห้ระงมเพื่อระบายความเจ็บปวดที่อยู่ในใจ ทำไมมึงต้องทำเหมือนเป็นห่วงกูด้วย รู้ไหมว่ามันเจ็บปวดมากแค่ไหน ไอร์นอนคิดถึงแต่เรื่องของเพื่อนรักจนหลับไปในที่สุด



*-*-*-*-*-*-*



หนึ่งสัปดาห์ต่อมา

ความสัมพันธ์ระหว่างไอร์และต๋องเริ่มย่ำแย่ลงเรื่อยๆ หลังจากวันนั้นไอร์ก็เริ่มพยายามตีตัวออกห่างเพื่อนรักมากขึ้น ปล่อยให้ต๋องได้มีเวลาไปอยู่กับแฟนที่เพิ่งตกลงคบกันเมื่อไม่นาน เพราะอีกไม่นานช่วงเวลาแห่งความสนุกในรั้วมหาวิทยาลัยก็จะหมดลงแล้ว แต่นั่นมันสำหรับต๋องเพียงคนเดียว สำหรับไอร์ยังคงต้องเรียนต่อไปอีกสองปีกว่าจะได้รับใบปริญญาบัตร

ตอนนี้สภาพร่างกายของไอร์พร้อมแล้วที่จะรับน้ำเชื้อเพื่อการตั้งครรภ์ วันนี้จึงตัดสินใจโทรหาต๋องเพื่อจะได้ทำตามแผนที่วางไว้ หากผ่านคืนนี้ไปแล้วไม่ว่าผลจะเป็นยังไงเขาก็จะยอมรับมันให้ได้

“ต๋องมึงว่างคุยไหมวะ”

[“คุยได้มึงมีอะไรวะ”]

“คืนนี้มึงมีนัดที่ไหนรึยัง กูว่าจะชวนมึงมาทานข้าวที่ห้อง”

[“ได้สิคืนนี้กูไม่ได้มีนัดที่ไหน” / ให้ดาวไปด้วยคนนะคะ] เสียงแฟนสาวของต๋องดังแทรกเข้ามาทำให้คนที่ได้ยินถึงกับเจ็บจี๊ดๆ ที่หัวใจ

“ต๋องคืนนี้กูขอให้มีแค่มึงกับกูเท่านั้นได้ไหมวะ ถือว่ากูขอร้อง”

[“.......อื้มได้สิเดี๋ยวกูบอกดาวให้ละกัน”] ได้ยินเพื่อนบอกอย่างนั้นต๋องเองก็ลำบากใจเพราะกลัวว่าแฟนสาวจะน้อยใจ

“ขอบใจมากแล้วเจอกันนะเว้ย”

[“แล้วเจอกัน”]

ต๋องรู้สึกสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ๆ เพื่อนรักก็โทรมาคุยกับเขาทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เอาแต่หลบหน้าไม่พูดไม่จา แต่ก็ถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่จะได้ปรับความเข้าใจกัน ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเพื่อนกำลังโกรธเขาเรื่องอะไรกันแน่





เย็นวันนั้นไอร์เตรียมกับข้าวมื้อพิเศษที่ลงมือทำด้วยตัวเอง วางเรียงรายไว้บนโต๊ะพร้อมกับขวดเหล้ายี่ห้อดังที่เคยชอบดื่มกันเป็นประจำ เขาจัดแจงทุกอย่างให้สุดฝีมือเพราะนี่มันอาจจะเป็นมื้อสุดท้ายที่เขาและเพื่อนจะมีโอกาสได้อยู่ด้วยกัน

“กูขอโทษที่ต้องทำอย่างนี้นะต๋อง” ในมือก็ถือยาปลุกเซ็กส์ขวดเล็กๆ ก่อนจะหยดลงไปในแก้วเหล้าของเพื่อนทันที

แอ๊ดดด!!!

เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูไอร์ก็รีบเก็บขวดเอาไว้ทันที แล้วทำทุกอย่างให้เป็นปกติที่สุด

“มึงมาเร็วจังวะ” ไอร์ถามเพื่อน

“กูกลัวมึงจะรอไง โอ้โหนี่มึงทำเองทั้งหมดเลยเหรอวะ” ต๋องทำหน้าตื่นตาตื่นใจกับอาหารที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะ

“ใช่เพื่อมึงเลยนะเนี่ย”

“วันนี้เป็นวันพิเศษอะไรเหรอวะ”

“ไม่มีอะไรพิเศษหรอกแค่กูอยากจะขอโทษมึงกับหลายวันที่ผ่านมากูมันงี่เง่าเอง”

“เฮ้ย! อย่าคิดมากดิวะกูไม่ได้โกรธมึงเลยเว้ย”

“กูดีใจที่มึงไม่โกรธกู ดื่มฉลองให้กับมิตรภาพของเราหน่อยสิ” ไอร์ยกแก้วเหล้าที่ใส่ยาให้เพื่อนรัก

แกร๊ง!

แก้วสองใบกระทบกันเสียงดังก่อนที่ของเหลวสีชาจะถูกกรอกลงไปในลำคอซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนหมด ไม่นานหลังจากนั้นยาปลุกเซ็กส์ก็เริ่มออกฤทธิ์ ต๋องมองเพื่อนรักด้วยสายตาหวานเยิ้ม ร่างกายรู้สึกร้อนวูบวาบด้วยความกระสัน สัมพันธ์กับแก่นกายที่กำลังตื่นตัวจนแข็งแน่นคับเป้ากางเกง ต๋องรีบกระโจนเข้าไปหาเพื่อนรักแล้วอุ้มขึ้นในท่าเจ้าสาวทันที หากไม่ได้ปลดปล่อยวันนี้มีหวังเขาได้ตายอย่างแน่นอน

“ไอร์มึงต้องช่วยกูนะกูไม่ไหวแล้ว” ต๋องพูดเสียงกระเส่าใบหน้าแดงก่ำ

“วันนี้กูยอมทำตามใจมึงทุกอย่างเลยต๋อง” พูดแล้วก็ยิ้มหวานให้เพื่อน

ต๋องยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจก่อนจะอุ้มเพื่อนรักเข้าไปในห้องนอนของตัวเองทันที



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*



ขอโทษที่ลงช้านะครับ ลืมไปเลยว่าเคยบอกจะลองสองวันตอน 555


ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
 เค้าจะทำยังไงกันนนนนน
แผนไอซ์จะสำเร็จไหม

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ฮื่ออ สงสารไอร์อ่ะ
สงสารน้องอันดาที่กำลังจะเกิดมาด้วย
 :ling3: :ling3: :ling3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด