หาเพื่อนนอนสนใจทัก DM ครับ : ตอนพิเศษวันคริสต์มาส [25/12/2019] P.30
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หาเพื่อนนอนสนใจทัก DM ครับ : ตอนพิเศษวันคริสต์มาส [25/12/2019] P.30  (อ่าน 240128 ครั้ง)

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
สงสัยบุญที่ใส่บาตรจากเมื่อเช้ายังมาไม่ถึง 55555555555555
ว่าแต่ใครขุดทวิต

ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ฟรองซ์ไม่น่ารักเลย มีสิทธิ์อะไรจะไปทำร้ายร่างกายคนอื่นหรอ พระพายกับเฟนก็เป็นเฟนกัน ถามน้องตัวเองก่อนไหมว่าเขาเต็มใจหรือเปล่า เคารพการตัดสินใจน้องหน่อยเหอะ อย่าห่วงจนบ้า ไม่น่ารักมากๆอะ ส่วนอิพี่พระพายคือกากเหมือนเดิม หัวแตกเพราะความกากของตัวเองเลย แต่ถ้าโดนแฉจริงก็ยืนอกรับไปเลยอิพี่แค่นัดเยเฉยๆคนฟอลแค่หลักพันเอง ไม่ได้หากินจากแอคนั้นด้วย ชิลๆแก5555555555555

ออฟไลน์ ursleepingxd

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โอโห้ค้างงงงงงง


สู้นะพพพ ชีวิตแค่โดนทำร้ายย

แต่พสฟก็ปั่นเก่งนะคะ ปั่นมาหลายตอนละเนี่ย 555555 น่ารักจริงๆ สมกับเป็นพสฟของเรา เนี่ยดูไว้นะพิ อย่าทำให้ฟรองซ์โกรธ 55555555 ไม่รู้ถึงเวลานั้นพี่จะโดนหนักกว่าพพพ หรือพี่จะมีวิธีจัดการฟรองซ์ 5555

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
 :pig4: ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ทำไงดี พี่พระพายแย่แล้ว

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
จะแก้ตัวไงนะ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
งานเข้าอิพพแล้ว~

ออฟไลน์ juthamart

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สวดมนต์ช่วยพี่พพ.อยู่กงนี้นะคะ พี่พพ.คนบาปป

ออฟไลน์ JackXy Wu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-5
บทที่ 26

พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก ผมโดนแหกแต่ยังไม่ตาย!





[พระพาย]

“ครับพี่เปเป้ ได้ครับ ฝากบอกพี่พริ้งด้วยว่าเดี๋ยวเล่าให้ฟัง สวัสดีครับ”

ผมวางสายโทรศัพท์จากพี่เปเป้ พอมีข่าวฉาวของผมออกมาปุ๊บ ไม่นานหลังจากนั้นพี่เปเป้ก็โทรมาปั๊บพร้อมเนื้อหาใจความว่าพี่พริ้งรู้ข่าวแล้ว เธอเป็นห่วงผมมาก และต้องการรู้เรื่องราวทั้งหมดว่าเป็นมายังไง ผมยังไม่พร้อมเลยบอกปัด รอให้พี่พริ้งกลับจากถ่ายละครที่ต่างจังหวัดแล้วจะเล่าให้ฟังพร้อมกันทีเดียวทั้งครอบครัว

“เอาไงดีมึงคราวนี้” สายฟ้าถาม มันนั่งอยู่บนเตียงตัวเอง นิ้วเลื่อนไถหน้าจอโทรศัพท์อ่านข่าวของผมสลับกับเงยขึ้นมามอง

“กำลังคิดอยู่” ผมนั่งขัดสมาธิกับพื้น กินขนมปังนมสดที่ดารัญซื้อมาให้ระหว่างคิด ตอนนี้ผมกับเพื่อนๆ ย้ายกันมาที่ห้องของสายฟ้า ปล่อยให้สองแฝดอยู่ที่ห้องของผม ส่วนแผลที่หัวดารัญจัดการปฐมพยาบาลให้แล้ว สมกับที่มันอยู่ฝ่ายสวัสดิการ แผลไม่ลึกมากเลยไม่ต้องถึงขั้นเย็บ

“มึงอย่าเพิ่งเคลื่อนไหวอะไรในทวิตนะ” ดารัญเตือน มันจ้องผมนิ่ง “ไม่งั้นคนเขาจะจับสังเกตได้ว่าแอคเค่อของมึงเคลื่อนไหวตอนมีข่าวพอดี”

“รู้แล้วน่า”

“แต่ล็อกแอคไว้หน่อยก็ดีมั้ย?” สายฟ้าเสนอ “ถึงยอดฟอลมึงจะเยอะจนล็อกไปก็ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ถ้าคนที่ฟอลมึงไว้จะแคปอะไรออกมา แต่ก็ดีกว่าปล่อยให้พวกนักข่าวเข้ามาขุดคลิปมึงไปแฉปะวะ”

“แบบนั้นจะดูร้อนตัวไปหรือเปล่า” ดารัญแย้งขึ้น มันขมวดคิ้วแน่นพอๆ กับสายฟ้า “ในข่าวไม่ได้เอ่ยเจาะจงว่าเป็นแอคไหน ส่วนในทวิตก็ยังเดาสุ่มกันอยู่ จู่ๆ มึงมาล็อกแอคไม่กลายเป็นเผยพิรุธหรือไง”

“อันที่จริง” ผมกระแอม “กูล็อกแอคไว้นานแล้วเว้ย”

“อ้าว เหรอวะ” สายฟ้าถาม “หรือมึงรู้ว่าถ้าเข้าวงการจะโดนคุ้ยเลยชิงล็อกไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย?”

“ไม่ๆ ที่บอกว่าล็อกไว้นานแล้วคือนานแล้วจริงๆ”

“ตั้งแต่ตอนไหนล่ะ?” ดารัญเลิกคิ้ว ผมเกาแก้มตัวเองเบาๆ จะว่าไปเรื่องนี้มันก็…

“ตั้งแต่ที่กูไม่รู้จะระบายความน่ารักของเฟนยังไง กูเลยล็อกแอคแล้วหวีดน้องในนั้น…”

“...”

“สามสิบทวิตในหนึ่งนาทีอะมึง”

“แล้วพวกคลิป?”

“ทยอยลบทิ้งหมดไปนานแล้ว” ผมยักไหล่ “เฉพาะพวกคลิปที่เอากัน ส่วนคลิปโชว์หุ่นโชว์กล้ามวับๆ แวมๆ กูก็คาไว้เหมือนเดิม กูเริ่มไล่ลบทิ้งทั้งแต่ช่วงที่รู้ตัวว่าจริงจังกับเฟน พอมาเห็นคลิปเก่าๆ ในแอคตัวเองมันก็แบบ...ยังไงดีวะ เหมือนกูนอกใจนอกกายน้องทั้งที่มันเป็นเรื่องก่อนที่กูจะเจอเฟนด้วยซ้ำ”

“ไอ้รัญ กูรู้สึกน้ำตาจะไหล” สายฟ้าแม่งเล่นใหญ่จนผมต้องกลอกตาใส่

“เว่อร์ ไอ้สัส!”

“น้องอาจไม่ได้โชคดีที่มาเจอคนอย่างมึง” ดารัญออกความเห็นด้วยสีหน้าเรียบนิ่งตามแบบฉบับมัน “แต่กูว่ามึงโชคดีที่ได้เจอน้อง”

“เหมือนมึงหลอกด่า แต่ครั้งนี้กูเห็นด้วย” ผมพยักหน้ารับ “กูก็แค่อยากเป็นคนดีพอให้น้องไม่อายที่มีกูเป็นแฟนแค่นั้นแหละ”

“หล่อมากซีนนี้ หล่ออยู่ซีนเดียวนอกนั้นเป็นบ้า”

“ถึงมึงกัดกูทุกวันรัฐบาลใหม่ก็ไม่จัดตั้งเร็วขึ้นหรอก”

“บทกู แอคเห็บกูสั่นระริกไปหมดแล้ว สัสเอ๊ย!”

“ตลกกันพอแล้วมั้ง” ดารัญปรามก่อนลากกลับมาประเด็นจริงจัง มันมองหน้าผม “คราวนี้งานช้าง ทั้งที่บ้านมึง ไหนจะพวกนักข่าวอีก”

“มึงจะตอบรับแมนๆ หรือเลี่ยง?” สายฟ้าเสริม

“อนาคตมึงเลยนะพระพาย คิดดีๆ”

“กูบอกตามตรงนะพวกมึง” ผมกินขนมปังนมสดชิ้นสุดท้ายจนหมด มองหน้าพวกมันสองคนสลับไปมา “กูไม่ได้สนเรื่องอนาคตในวงการบันเทิงอยู่แล้ว เพราะกูไม่ได้อยากเข้าตั้งแต่แรก ที่ไปถ่ายแบบก็เพราะพี่พริ้งกับพี่เปเป้ชวน พอเขาเสนองานใหม่ให้กูไปแคสกูก็ปฏิเสธแล้ว”

“ไหงงั้นวะ?”

“กูไม่อยากให้เฟนไม่สบายใจ”

“กูไม่ชินที่มึงเป็นแบบนี้เลย” ดารัญขมวดคิ้ว แต่สุดท้ายก็ยิ้มแล้วส่ายหัวไปมา

“ไม่ชินที่ตัวเองเป็นแบบนี้เหมือนกัน” ผมหัวเราะหึๆ “แต่รักน้องมากก็แคร์มากปะวะ เห็นเฟนนิ่งๆ ไม่ค่อยงอแงแบบนั้นแต่หวงกูจะตาย”

“อันนี้คืออวดถูกมั้ย?”

“รู้ทันสมกับเป็นเพื่อนกู” ผมทำท่าถูกต้องนะค้าบบบ ใส่หน้าสายฟ้า “แล้วเรื่องนี้...กับที่บ้านกูคงต้องบอกไปตามจริงนั่นแหละ”

“พ่อมึงจะไม่เม้งแตกไล่มึงออกจากกองมรดกอีกเหรอวะ” สายฟ้านิ่วหน้า “มึงกับพ่อเพิ่งจะกลับมาคุยกันดีๆ ด้วย…”

“อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด กูห้ามได้ที่ไหน” ผมยักไหล่ ทำเป็นไม่สนใจ แต่เอาเข้าจริงในใจมันไม่ได้สงบเหมือนกับที่แสดงออกหรอก “ส่วนพวกนักข่าวคงหาทางตอบเลี่ยงไป ใครมันจะไปอยากตอบให้คนทั้งประเทศรู้วะว่าเป็นแอคนัดเย ถ่ายคลิปเสียวลงทวิต เรื่องในมุ้งกูทั้งนั้นเสือกอยากรู้กันจัง อีกอย่างกูไม่อยากให้เรื่องของกูกระทบชื่อเสียงพี่พริ้ง พี่เพลิง ตระกูลกูอีก สัสเอ๊ย ตัวกูคนเดียวไม่เท่าไหร่หรอก”

“ค่อยๆ คิดไปมึง” ดารัญตบไหล่ผมหนักๆ ทีนึง

“อย่างน้อยคลิปมึงที่เคยถ่ายไว้ก็ไม่เห็นหน้า” สายฟ้าถอนหายใจ “ถึงใครเซฟไว้ทันก็ไม่รู้หรอกว่ามึง”

“สายฟ้า”

“หือ” มันขานรับในลำคอ

“มึงดูคลิปกูเหรอวะ…” สายฟ้าสีหน้าเลิ่กลั่ก ผมถามต่อ “เป็นไง เด็ดมั้ย?”

“...”

เกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะหนึ่ง ก่อนดารัญจะกระแอม

“ข้ามเรื่องกระอักกระอ่วนนี่กันเถอะ”

“โอเค กูจะทำเป็นเรื่องเมื่อกี้ไม่เคยเกิดขึ้น” ผมพยักหน้ารับ พอดีกับที่เสียงโทรศัพท์ดัง พอเห็นชื่อหน้าจอก็ต้องถอนหายใจออกมาแรงๆ “พี่เพลิงว่ะ”

“จะรับมั้ย?”

“ถ้าไม่รับพี่แกคงขับรถบึ่งมาเค้นคอกูถึงหอนี่แหละ” ผมตัดสินใจสไลด์หน้าจอรับสาย “ฮัลโหลพี่ อย่าเพิ่งถามอะไรเลย ผมรู้ว่าพี่โทรมาเรื่องข่าวนั่น เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังพร้อมกันทีเดียวตอนพี่พริ้งกลับจากถ่ายละครที่ต่างจังหวัด...อืม ใช่ รวมทั้งพ่อกับแม่ด้วย เอาให้ครบทีเดียวผมไม่อยากพูดหลายรอบ รู้แล้วพี่ ขอบคุณ แค่นี้ก่อนนะ ครับ บายพี่”

“พี่เพลิงด่ามั้ยวะ”

“ไม่ เขาแค่...โอ๊ย โทรมาอีกแล้ว รอบนี้ใครอีก” ผมมองหน้าจอโทรศัพท์ “แม่ว่ะรอบนี้ ฮอตเหลือเกินมึง ไอ้พระพายเอ๊ย!”

ผมได้แต่บ่นกับตัวเอง กดรับสายแม่แล้วตอบแบบเดียวกับที่ตอบพี่เพลิง เสียงแม่ฟังดูกังวลจนผมสัมผัสได้ ความรู้สึกผิดตีตื้นขึ้นจุกอก ผมวางสายแม่ไปในขณะที่ใจหนักอึ้ง

“นัดเยไม่ใช่เรื่องผิดหรอกมึง” สายฟ้าโยนขนมปังให้ผมอีกห่อ “มึงเต็มใจ คู่นอนมึงก็เต็มใจ ได้กันจนพอใจแล้วแยก ไม่ได้ไปฉุดใคร”

“แค่สังคมสมัยนี้ขี้เสือก” ดารัญเสริม “มึงดันมาเริ่มมีชื่อเสียงด้วยพอดี ธรรมดาของวงการบันเทิง ข่าวฉาวๆ มันขายได้มากกว่า”

“คงงั้นล่ะมั้ง” ผมถอนหายใจ โทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง ผมกำลังจะบ่นด้วยความหงุดหงิดแต่พอเห็นชื่อบนหน้าจอก็ชะงัก ผมลุกขึ้น หันไปบอกเพื่อนๆ “กูไปคุยโทรศัพท์ที่ระเบียงนะ เฟนโทรมา”

“เออ ตามสบาย”

สายฟ้าปัดมือไล่ ผมเดินออกมายืนตรงระเบียงนอกห้อง บรรยากาศข้างนอกร้อนวูบต่างจากข้างในที่สายฟ้าเปิดแอร์เอาไว้ ผมสูดหายใจ กระแอมปรับน้ำเสียงตัวเองแล้วกดสไลด์หน้าจอรับสายน้อง

“แหม คิดถึงพี่เหรอหนู ห่างกันแป๊บเดียวเองนะเรา โทรตามซะแล้ว”

“พี่…”

“ครับ ว่าไงเอ่ย?”

“เราเป็นห่วงพี่นะ…” เสียงของเฟนจริงจังและจริงใจจนผมสัมผัสได้ ผมเงียบไปจนน้องต้องพูดซ้ำ “พี่ก็รู้ใช่มั้ยว่าเราอยู่ข้างพี่เสมอ ไม่ว่าพี่จะเจอกับอะไร”

“เฟน…” ผมเรียกชื่อน้อง เงียบไปพักนึง เฟนไม่ได้แทรกขึ้นมา เขารอให้ผมพูดต่ออย่างใจเย็น “หนูเห็นข่าวแล้วคิดว่าไง รังเกียจพี่มั้ยที่พี่เคยทำอะไรแบบนั้น”

“พี่เครียดจนบ๊องไปแล้วเหรอ”

“อ้าว ไหงมาด่าพี่ล่ะเนี่ย?”

“พี่ลืมไปแล้วเหรอว่าเรารู้จักกันได้ยังไง” น้องเตือนความจำผม “เราหารูมเมตแล้วติดแท็กผิดจนพี่ที่เป็นแอคเค่อทักมาดีลเรา หมายความว่าเรารู้จักพี่ในด้านนั้นตั้งแต่แรกแล้ว เรารู้ว่าแอคเค่อเป็นยังไง แล้วเราก็รู้ด้วยว่าตัวตนจริงๆ ของพี่เป็นแบบไหน”

“...”

“แต่เราก็ยังชอบพี่มากๆ ชอบทุกอย่างที่พี่ดูแลเรา ทำให้เราสบายใจเวลาอยู่กับพี่ ถึงจะขี้แกล้งเราไปหน่อยแต่พี่ก็รักเรามากๆ เรารู้ เราแค่อยากบอกพี่ว่าเราไม่ได้รังเกียจพี่เลยนะ พี่ยังเป็นพี่พระพายคนเดิมที่เรารู้จักเสมอนั่นแหละ”

“พี่อยากเป็นคนที่ดีพอให้หนูคบได้แบบไม่อายใคร” ผมบอกความรู้สึกตัวเองออกไป เฟนหัวเราะเสียงใส

“เราไม่อายที่คบกับพี่ พี่ดีที่สุดในใจเราเลย”

ผมยิ้มออกเมื่อได้ยินน้องพูดแบบนั้น ใจที่หนักอึ้งผ่อนคลายลง ผมเท้าแขนกับราวระเบียง สายตามองออกไปไกล เห็นการจราจรที่วุ่นวายบนถนน ก่อนหน้านี้ในใจผมก็เป็นแบบนั้น วุ่นวายยุ่งเหยิง แต่พอได้คุยกับเฟนทุกอย่างก็เปลี่ยนไป น้องเป็นคนที่ฮีลลิ่งผมได้จริงๆ นั่นแหละ

“หนูก็น่ารักที่สุดในใจพี่เหมือนกัน”

“อื้ม...คิดถึงพี่แล้ว อยากกอด” น้องพูดเสียงเบาลงกว่าเดิม คงอยากอ้อนแต่ก็อายผมนั่นแหละ “พี่ลงมากอดหนูได้แล้ว ฟรองซ์ให้อภัยพี่แล้วนะรู้ยัง”

ผมหลุดหัวเราะลั่นเมื่อได้ยินแบบนั้น พยักหน้ารับแม้น้องจะไม่เห็น

“งั้นหนูเตรียมแก้มรอเอาไว้เลยค่ะ เดี๋ยวพี่จะลงไปหอมเป็นรางวัลให้คนน่ารัก :)




“พี่รอหนูอยู่หน้าตึกบริหารนะเฟน เสร็จแล้วรีบมานะครับ”

ผมกดวางสายโทรศัพท์จากน้องหลังเจ้าตัวรับคำเรียบร้อย มองซ้ายขวาหาที่นั่งก่อนพาตัวเองไปนั่งรอที่โต๊ะหินอ่อนใกล้ๆ นั้น ผมหยิบโทรศัพท์มากดเล่นไปเรื่อยระหว่างรอน้อง ข่าวเรื่องนายแบบหน้าใหม่ที่เป็นแอคเค่อยังไหลผ่านไทม์ไลน์แอคหลักผมมาเป็นระยะๆ แต่โชคยังดี เท่าที่เห็นยังไม่มีใครเดาว่าเป็นแอคนั้นของผมเลย

หลังข่าวถูกปล่อยผมก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่ามาเรียนตามปกติ รู้สึกว่าตัวเองเป็นเป้าสายตามากกว่าเดิม ต่างกันก็แค่เมื่อก่อนคนมองผมเพราะเป็นเป็นเด็กกิจกรรมและติดโผจัดอันดับหนุ่มหน้าตาดีประจำมหาวิทยาลัย แต่ตอนนี้สายตาที่มองมามีแต่ความสงสัยใคร่รู้

เป็นความรู้สึกที่แปลกใหม่ดี ผมเองก็เบื่อแล้วเหมือนกันเวลามีแต่คนมองเพราะหล่อ ลองมีคนมองเพราะข่าวฉาวก็ไม่เลว โชคดีหน่อยที่ข่าวมันค่อนไปทางเชิงซุบซิบไม่ได้มีการเปิดเผยหรือลงรูปแฉระบุตัวตน ถ้าขนาดนั้นผมคงไม่รอดโดนคณบดีเรียกพบแหงๆ

แต่ถ้าจะแฉกันจริงๆ ผมฟ้องแน่ จะเอาให้ล้มละลายกันไปข้าง

บ้านกูรวยนะบอกไว้ก่อน

อำนาจเงินน่ะเคยได้ยินมั้ย?

ผมหัวเราะหึๆ กับความคิดตัวเอง ก่อนรู้สึกว่ามีคนเดินมาใกล้ ตอนแรกผมคิดว่าเป็นเฟน แต่พอเงยหน้าขึ้นถึงเห็นเป็นคนกลุ่มหนึ่งที่ดูไม่เหมือนนักศึกษาเอาซะเลย แถมในมือที่มีไมค์กับเครื่องบันทึกเสียงพร้อมกับตากล้องนั่นอีก ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ นึกรู้ชะตากรรมตัวเองทันทีที่สบสายตาเข้ากับหนึ่งในนั้น

“น้องพระพายคะ พี่ขอรบกวนเวลาสัมภาษณ์หน่อยค่ะ!”

ยังไม่ทันอ้าปากอนุญาตพี่แกก็ทิ่มไมค์เข้ามาจนเกือบเสยปากผมพร้อมๆ กับสามไมค์ โห ขนาดนี้ไม่ต้องถามกันก็ได้ปะวะ

“ขอโทษนะครับ ผมไม่สะดวก” ผมลุกขึ้นตั้งท่าจะเดินเลี่ยงแต่ก็ถูกล้อมหน้าล้อมหลัง แม่งเอ๊ย พี่ยามปล่อยนักข่าวเข้ามาในมอได้ไงวะ

“แต่น้องพระพายคะ ตอนนี้ชาวโซเชียลอยากรู้มากๆ เลยว่านายแบบหน้าใหม่ที่เป็นแอคเค่อในข่าวใช่น้องหรือเปล่าคะ?”

“น้องพระพายคิดยังไงกับเรื่องนี้คะ”

“ได้คุยเรื่องนี้กับคุณพะพริ้งหรือยังครับ?”

และอีกสารพัดคำถามที่ยิงใส่ผมรัวๆ ไม่ทันให้ตั้งตัว ตอนนี้ผมกับกลุ่มนักข่าวบันเทิงกำลังกลายเป็นจุดสนใจ คนอื่นๆ ที่อยู่แถวนี้ยกมือถือขึ้นถ่ายกันเป็นแถว ผมชักคิดถึงเพื่อนรักทั้งสองที่ตัวเองทิ้งให้พวกมันคุยงานกับอาจารย์แล้วชิ่งหนีมาก่อนชะมัด หรือนี่จะเป็นเวรกรรมแบบสี่จีติดจรวดมาตามสนองผมวะ?

“นี่พวกคุณหยุดเลยนะ!”

จู่ๆ เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นพร้อมร่างเล็กๆ ของใครบางคนแหวกฝูงนักข่าวเข้ามาประชิดตัวผม เขายกกระดานวาดรูปแผ่นใหญ่ขึ้นบังผมออกจากกล้องและไมค์ที่จ่อมา

“เฟน?”

“พี่ๆ จะมารุมกันแบบนี้ไม่ได้นะครับ พี่พระพายไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ อีกอย่างที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่พวกพี่จะมาทำแบบนี้นะ ไม่ให้เกียรติสถานที่กันเลย”

น้องเอาตัวมายืนขวางผมเอาไว้โดยมีกระดานวาดรูปเป็นโล่กั้นอีกชั้นหนึ่ง ผมไม่เห็นสีหน้าของเฟน แต่แค่น้ำเสียงของเจ้าตัวเล็กก็พอจะบอกให้รู้แล้วว่าเฟนไม่พอใจที่นักข่าวพวกนี้มารุมผม พอน้องโดนนักข่าวชักสีหน้าใส่ที่มาขวางเสียงเล็กที่เหมือนลูกแมวก็ขู่ออกไป

“ผมเรียกพี่ รปภ.มาแล้ว พี่ๆ จะออกไปดีๆ หรือจะให้โดนลากไปโทษฐานบุกรุกสถานศึกษาครับ?” พอโดนขู่ไปแบบนั้นพวกเขาก็เริ่มหน้าเสีย สงสัยพากันแอบเข้ามาจริงๆ นั่นแหละ เฟนฉวยโอกาสนั้นจับมือผมไว้แน่นแล้วออกแรงดึง “ไปกันเถอะพี่พระพาย เราหิวแล้ว”

จากนั้นเฟนก็ลากผมออกจากกลุ่มนักข่าวได้สำเร็จ โชคดีอีกอย่างที่พวกเขาไม่ตามมาเพราะ รปภ.ที่น้องเรียกมากักตัวพวกเขาเอาไว้พอดี ผมมองมือเฟนที่จับมือผมไว้แน่น น้องจ้ำเท้าเร็วๆ เดินนำหน้า แผ่นหลังเล็กๆ นั้นเหมาะแก่การถูกปกป้องมากกว่าการปกป้องคนอื่น

แต่คราวนี้น้องปกป้องผม

ความกล้าหาญของเขาใหญ่ยิ่งกว่าตัวของผมซะอีก

“เฟน” ผมกระตุกมือเบาๆ เป็นสัญญาณ น้องหยุดเดินแล้วหันหน้ากลับมา เราสบตากัน ผมยิ้มให้เขา “ขอบคุณครับคนดีของพี่”

“พี่น่าจะวิ่งหนีออกมาเลย” น้องหน้ามุ่ย “รู้มั้ยว่าเราตกใจมากแค่ไหนที่เห็นพี่โดนรุมแบบนั้นอะ คนอื่นก็เอาแต่ถ่ายรูปถ่ายคลิปกันสนุกเลย ไม่มีใครเข้าไปช่วยพี่สักคน”

“มันไม่ใช่เรื่องของเขาอะเนอะ จะมาช่วยพี่ทำไม” ผมยักไหล่เบาๆ

“แล้วพี่รัญกับพี่สายฟ้าล่ะ?”

“มันคุยงานกับอาจารย์อยู่บนตึกน่ะ พี่ลงมาก่อน” ผมตอบน้อง ยกมือโอบพาดไหล่เขา เราสองคนออกเดินอีกครั้ง “รู้งี้น่าจะลงมาพร้อมพวกมัน พี่ไม่ชินกับกล้องกับไมค์เหมือนพี่พริ้งเวลาโดนนักข่าวรุมซะด้วย”

“คราวหลังเกาะติดพี่รัญกับพี่สายฟ้าแน่นๆ เลยนะ”

“เอางั้นเลย?”

“อื้อ เรามาช่วยพี่ทุกครั้งไม่ได้หรอกนะ”

“จ้า คนเก่งของพี่” ผมหอมหัวน้องเร็วๆ ทีนึงจนโดนฟาดไหล่โทษฐานแสดงความรักในที่สาธารณะ “ต่อไปพี่จะเกาะติดเพื่อนแน่นๆ ไม่ให้นักข่าวหน้าไหนเข้ามารุมเลยโอเคมั้ย?”

“อื้ม…” เฟนพยักหน้ารับ น้องเงยหน้ามองผม “พี่พระพาย”

“ครับ ว่าไงเรา?”

“วันนี้เปลี่ยนจากไปกินข้าวดูหนังที่ห้างไปที่อื่นได้มั้ย?”

“หนูอยากไปไหนล่ะ พี่พาไปได้หมดแหละ”

“เราอยากพาพี่ไปบ้าน” น้องตอบ เขายิ้มน้อยๆ แก้มแดงขึ้นกว่าเดิมตอนพูดประโยคต่อมา “อยากพาพี่ไปแนะนำกับแม่ว่านี่แฟนเรา”

“หนู…”

“หือ?”

“เบาหน่อย พี่ใจบางไปหมดแล้ว” ผมแกล้งทำเป็นกุมใจตัวเอง เฟนหลุดหัวเราะจนตาหยี ผมลูบหัวน้องเบาๆ พยักหน้ารับคำขอเขา “เอาสิ พี่ก็อยากเจอแม่หนูเหมือนกัน แต่ว่า…”

“ทำไมเหรอพี่?”

“แม่เฟนจะโอเคมั้ย ช่วงนี้ข่าวพี่มัน…”

“อ๋อ ไม่เป็นไรเลยพี่พระพาย” เฟนส่งยิ้มน่ารักให้ผมอีกครั้ง “แม่ชอบดูละครอย่างเดียวแต่ไม่ชอบตามข่าวบันเทิงซุบซิบอะไรพวกนี้ แม่ไม่รู้หรอก”

“งั้นก็โอเคครับ พี่ไม่ติดอะไรแล้ว วันนี้เราไปบ้านหนูกัน” ผมเคลื่อนมือลงมากุมมือน้องไว้ กระชับแน่น “อยากบอกคุณแม่แทบแย่แล้วว่าชอบลูกชายคุณแม่มากขนาดไหน”

“บ้า”

เจ้าตัวเล็กเขินจนหน้าแดง ผมหัวเราะ จับมือน้องไม่ปล่อย ไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนไหนก็ไม่ปล่อยเด็ดขาด

รักมากขนาดนี้แล้วนี่นา

v
v
v

ออฟไลน์ JackXy Wu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-5
- ต่อ -





“คิดถึงแม่จังเลยยยยย”

เจ้าตัวเล็กพอเปิดประตูเข้าบ้านได้ก็กระโดดเกาะคุณแม่ตัวเองจนเธอผงะไปเล็กน้อย ผมพยายามกลั้นหัวเราะเอาไว้ตอนเฟนโดนจับบีบแก้มจนยืด

“หนูจะมาทำไมไม่บอกแม่เลย” คุณแม่บ่นอย่างไม่จริงจังนักก่อนหันมาทางผม รอยยิ้มใจดีถูกส่งมาให้ ผมยกมือไหว้เธอพร้อมยิ้มหวานที่สุดเท่าที่จะทำได้ “พ่อหนุ่มคนนี้ใครล่ะเนี่ย หล่อเหลาระดับพระเอกละครเชียว”

“สวัสดีครับคุณแม่ ผมชื่อพระพาย” ผมทำเนียนเรียกแม่เหมือนเฟน ไหนๆ ก็จะมาเป็นลูกเขยบ้านนี้แล้ว เรียกแบบนี้คงไม่ผิด “ผมเป็น…”

“พี่พระพายเป็นแฟนเฟนครับแม่” เฟนรีบแทรกขึ้นก่อนผมพูดจบ ผมมองน้อง ค่อนข้างแปลกใจที่เขาชิงตอบซะเอง ส่วนคุณแม่เลิกคิ้วเล็กน้อย ท่าทางแปลกใจ ดูเหมือนฟรองซ์จะไม่ได้บอกแม่ว่าเฟนมีแฟนตามที่เขาเคยพูดไว้

“แฟนหนูเหรอลูก?”

“ครับคุณแม่” ผมตอบรับแทนน้องตัวเล็กที่แก้มแดงแจ๋น่าเอ็นดู ขยับเข้าไปยืนข้างเฟน ส่งยิ้มให้คุณแม่อีกครั้ง “ผมกับเฟนเราคบกันมาสักพักแล้วครับ เลยถือโอกาสมาไหว้คุณแม่ฝากเนื้อฝากตัว”

“แม่ตกใจนิดหน่อย แป๊บนึงนะลูก”

“แม่จะเป็นลมมั้ย เฟนมียาดม”

“เจ้าลูกคนนี้ เป็นลมอะไรกัน” คุณแม่บีบจมูกเฟนไปทีจนจมูกน้องแดง “แม่แค่ต้องตั้งหลักก่อน จู่ๆ ลูกชายแม่มาบอกว่ามีแฟนแล้วแถมยังพาแฟนมาไหว้ไม่ให้แม่ตั้งตัวอีก”

“คุณแม่โอเคมั้ยครับที่ผมเป็นผู้ชายเหมือนน้อง” ผมกลั้นใจยิงคำถามไป ถึงคุณแม่จะดูใจดีแต่ผมก็อดคิดมากเรื่องนี้ไม่ได้ เหมือนเธอจะสังเกตเห็นสีหน้ากังวลของผมเลยยิ้มให้อีกครั้ง

“แม่ตกใจนิดหน่อยลูก แต่สมัยนี้มันเป็นเรื่องปกติใช่มั้ย? แม่เคยดูซีรี่ส์วายด้วยนะ”

“เราบอกพี่แล้วว่าแม่ไม่ว่าอะไรหรอก”

“จ้าหนู ก็พี่กังวลนี่ครับ”

“อยู่ๆ มาหวานกันต่อหน้าแม่เฉยเด็กพวกนี้” คุณแม่แซว ผมกับเฟนเลยได้แต่ยิ้มเขิน “มาๆ มานั่งกันก่อน ยืนคุยกันแบบนี้เมื่อยแย่”

คุณแม่เดินนำไปยังห้องรับแขก ผายมือเชื้อเชิญให้ผมนั่งซะดิบดีก่อนขอตัวไปเอาน้ำเอาขนมมาให้ ตอนแรกผมอาสาจะช่วยแต่คุณแม่ก็ยืนยันว่าให้ผมอยู่นั่งคุยกับน้องไป หน้าที่รับแขกเป็นของแม่อยู่แล้ว เธอว่างั้น

“ตื่นเต้นเหงื่อออกเต็มมือไปหมดแล้วหนู”

“พี่ก็เว่อร์อะ” เฟนหัวเราะ

“ไม่เว่อร์สักหน่อย” ผมเถียง “มาไหว้ฝากเนื้อฝากตัวกับแม่แฟนทั้งคนนี่นา”

“พอแล้วพี่” เฟนยกมือขึ้นพัดหน้าตัวเอง แก้มกลับมาแดงแปร๊ดอีกครั้ง “ใจเราก็มีอยู่เท่านี้ ขยันทำให้เขินอยู่ได้ เราจะหายใจไม่ทันเอานะ”

“น่ารักจังเลยค่ะ” ผมหัวเราะ จ้องหน้าน้องยิ้มๆ “ไว้พี่เคลียร์กับที่บ้านเรียบร้อยแล้วจะพาหนูไปไหว้พ่อกับแม่พี่บ้าง จริงๆ ก็คิดจะพาไปเปิดตัวอยู่ แต่รอให้หนูหายเจ็บก่อน โอ๊ย ฟาดแขนพี่ทำไม?”

“เรื่องไหนข้ามได้พี่ก็ข้ามเถอะน่า” เฟนค้อนใส่ผม

“ครับๆ แหม แซวนิดหน่อยไม่ได้เลยนะเราน่ะ” ผมหยิกแก้มใสไปทีนึง “เสียดายเนอะที่มีเรื่องนี้เข้ามาก่อน จังหวะไม่ดีเลย ไม่รู้ด้วยว่าหลังจากนี้พ่อจะกลับมาโกรธพี่อีกมั้ยที่ทำชื่อเสียงตระกูลเสียแบบนี้”

“เราไม่ห้ามพี่ไม่ให้คิดมากหรอกนะ”

“อ้าว นึกว่าจะปลอบ”

“ไม่ๆ ฟังให้จบซี่ เรากำลังจะปลอบอยู่” เฟนจับมือผม น้องออกแรงแกว่งเบาๆ ในขณะเงยหน้าสบตากัน “เรารู้ว่าเรื่องมันใหญ่มากสำหรับพี่ พี่จะคิดมากก็ถูกแล้ว มันเป็นสิ่งที่ห้ามไม่ได้นี่นา แต่เราก็จะบอกพี่เหมือนที่บอกตลอดนั่นแหละว่าพี่ยังมีเรานะ เราอยู่ข้างๆ พี่ ถ้าพี่เครียดมากๆ ต้องการกำลังใจก็มาเอากับเราได้ เรามีให้พี่ไม่จำกัดเลย”

“ให้ไปเอากับหนูได้เหรอครับ?”

“อื้อ มาเอากับเราเลย”

“เอาเยอะๆ ได้เลยใช่มั้ย” ผมพยายามกลั้นหัวเราะจนปากสั่นระริก เฟนมองตอบกลับมาตาใสซื่อ

“เอาได้เยอะๆ เท่าที่พี่ต้องการเลย”

“หนูจะไหวเหรอ”

“ไหวซี่”

“แต่พี่เอาดุนะ”

“เอ๊ะ…?” น้องชะงักไป เอียงคอจ้องผมตาใส ผมกลั้นหัวเราะจนไหล่สั่นไปหมด ตอนนั้นเองที่แววตาเฟนสว่างวาบเมื่อรู้ทัน น้องเม้มปากแน่น ง้างมือฟาดเข้าเต็มไหล่ผมดังเผียะ “พี่พระพาย!”

“อ้าวๆ ทะเลาะอะไรกันลูก แม่ไม่อยู่แป๊บเดียว”

“เปล่าครับแม่” ผมตอบกลั้วเสียงหัวเราะ หันมองน้องที่หน้าแดงแจ๋แถมคิ้วยังขมวดมุ่น “น้องแค่เขินน่ะครับ”

“แกล้งอะไรลูกชายแม่หืมพระพาย”

“เปล่านะครับคุณแม่”

คุณแม่ถามกึ่งเล่นกึ่งจริง เธอวางน้ำกับถาดขนมลงบนโต๊ะรับแขก ผมพูดขอบคุณก่อนเอื้อมหยิบขนมมาจ่อปากเล็กๆ น่ารักของเฟน

“ไม่เอา”

“โอ๋นะคะ พี่ป้อน” ผมพูดเสียงหวาน เฟนส่งเสียงฮึดฮัดนิดหน่อยแต่ก็ยอมอ้าปากรับขนมไปเคี้ยวหงุบหงับ

“มัวแต่ป้อนน้อง พระพายลองชิมดูมั่งสิ” คุณแม่ทรุดตัวนั่งตรงข้ามผม พยักพเยิดให้ลองชิมขนม “แม่อบเองเลยนะ เจ้าเฟนน่ะกินบ่อยจนคุ้นรสแล้วล่ะ”

“งั้นไม่เกรงใจแล้วนะครับ” ผมหยิบขนมขึ้นมากินชิ้นหนึ่ง ก่อนตาโตเอ่ยปากชมคุณแม่ไม่หยุด “อร่อยมากเลยครับแม่ อร่อยกว่าร้านดังๆ ในห้างอีก”

“ชมเกินไปหรือเปล่าเนี่ย อย่าหลอกให้คนแก่ดีใจสิ”

“ผมพูดจริงๆ ครับ”

“ถ้างั้นก็ทานเยอะๆ นะ ถ้าติดใจเดี๋ยวแม่ห่อกลับให้ เอาไปกินกันที่หอ” คุณแม่จ้องหน้าผม ยิ้มนิดๆ “เป็นรูมเมตเฟนด้วยนี่ใช่มั้ย?”

“ใช่ครับ” ผมใจหายลงไปตาตุ่มตามประสาคนที่มีคดีความติดตัว

“แม่ฝากน้องด้วยนะพระพาย น้องไม่เคยมีแฟนมาก่อน” ยิ่งคุณแม่พูดผมก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองทำผิดบาปไว้อย่างหนักหน่วง “ถนอมลูกชายแม่หน่อยนะลูก เฟนก็ตัวนิดเดียว”

“ฮ่าๆๆ ได้ครับคุณแม่ ผมจะดูแลน้องอย่างดี” ผมตอบไปปาดเหงื่อไป

“พี่พระพายชอบแกล้งเฟนแหละแม่” เจ้าน้องตัวเล็กฟ้องแม่ทันทีที่มีโอกาส ผมเลยรีบโอดครวญขอความเป็นธรรมให้ตัวเอง

“โธ่หนู ก็พี่เอ็นดูเราไง”

“ข้ออ้างอะ”

“ตีกันเก่งจริงๆ นะคู่นี้”

“น้องตีผมเก่งครับ แต่ผมไม่กล้าตีกลับหรอก ตัวนิดเดียวเอง” ผมรีบพูดเอาใจ

“พี่ไม่ตีแต่พี่…” เฟนชะงักไปแล้วเม้มปากแน่น พวงแก้มใสขึ้นสีแดงเรื่อ เนี่ย ออกพิรุธเก่งนะเรา รู้เลยว่าคิดถึงเรื่องอะไรอยู่ เดี๋ยวคุณแม่จับสังเกตได้ก็แพ่นกบาลพี่หรอกหนูเอ๊ย “ไม่รู้แหละ พี่ชอบแกล้งเรา”

“พี่ก็ให้หนูตีกลับแล้วไงคะ”

“ถ้าจะง้อเฟนแม่บอกเคล็ดลับให้เอามั้ยพระพายลูก” คุณแม่พูดขึ้นยิ้มๆ

“ดีเลยครับคุณแม่”

“เวลาเฟนงอนแม่นะ แม่จับมาหอมแก้มซ้ายแก้มขวาสามสี่ฟอดก็ยิ้มตาหยีหายงอนแม่แล้ว”

“แม่!” น้องเรียกคุณแม่เสียงหลง หน้าเน่อหูตาแดงไปหมด “มันไม่เหมือนกันสักหน่อย”

“พระพายก็ลองดูนะลูก”

ผมยิ้มรับคำคุณแม่ ไม่อยากบอกว่าทำมากกว่าฟัดแก้มน้องไปแล้ว

เวิร์บช่องสองของฟัดก็คือฟัคดีๆ นี่เอง…

“เฟนว่าเราเปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่า” เฟนแทรกขึ้น “ฟรองซ์ไม่อยู่เหรอแม่ บ้านเงียบมากเลย”

ผมสะดุ้งเบาๆ เมื่อได้ยินชื่อฟรองซ์ รู้สึกเจ็บหัวแปล๊บๆ ทั้งที่แผลไม่ได้สดแล้วอย่างบอกไม่ถูก

“ฟรองซ์ออกไปซื้อของฝากให้เพื่อนที่ญี่ปุ่นน่ะลูก เดี๋ยวจะกลับอาทิตย์นี้แล้ว”

“เฟนต้องคิดถึงฟรองซ์แน่ๆ”

“ปิดเทอมหนูก็บินไปหาฟรองซ์ไงลูก” คุณแม่ว่าก่อนหันมาทางผม “ว่าแต่เย็นนี้ถ้าไม่ติดอะไรอยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันมั้ย แม่กำลังจะเข้าครัวพอดี”

“จะไม่รบกวนคุณแม่เหรอครับ”

“ไม่หรอกลูก ดีซะอีกแม่จะได้ไม่เหงา เราจะได้ทำความรู้จักกันเพิ่มด้วย”

“งั้นก็ได้ครับคุณแม่ ผมสะดวก ไม่ได้ติดอะไร”

“ดีเลยจ้ะ งั้นแม่ไปทำกับข้าวก่อน เฟนก็นั่งคุยเป็นเพื่อนพี่เขาไปนะลูก เปิดทีวีดูกันตามสบายเลยจ้ะ”

“ให้ผมไปช่วยมั้ยครับแม่” ผมออกตัว จะให้นั่งเฉยๆ รอกินก็ยังไงอยู่

“ไม่เป็นไรลูก พระพายเป็นแขก นั่งรอสบายๆ กุ๊กกิ๊กกับน้องไปนั่นแหละดีแล้ว”

“แม่!”

“ลูกคนนี้ขี้เขินจัง แซวนิดแซวหน่อยก็หน้าแดง” คุณแม่ปิดปากหัวเราะคิกคักก่อนเดินหายเข้าหลังบ้าน ทิ้งพวกเราสองคนไว้ที่ห้องรับแขก

“คุณแม่หนูใจดีจังเลยค่ะ”

“เราก็บอกพี่อยู่ พี่อะขี้กลัวไปได้”

“ดูคำพูดคำจา พี่มันเขี้ยวแล้วนะ” ผมฉวยโอกาสยื่นหน้าหอมแก้มน้องฟอดใหญ่ เฟนตาโต รีบดันหน้าผมออก

“พี่ เดี๋ยวแม่เห็น”

“คุณแม่เชียร์พี่ค่ะ ดูออก แม่ไม่ว่าหรอก”

“พี่อะ!”

“หอมไม่ได้เหรอคะ อยากได้กำลังใจแล้ว” ผมลูบแก้มน้องเบาๆ เฟนเอียงหน้าแนบกับมือผม ดวงตาใสแจ๋วช้อนขึ้นมอง “ไหนว่าให้พี่เอาได้ไม่จำกัดไงคนดี”

“เอากำลังใจ” น้องเสริมคำที่ผมจงใจพูดกำกวม

“ฮ่าๆๆ นั่นแหละๆ เอากำลังใจ” ผมขยับเข้าหาน้อง ดึงเฟนเข้ามากอด เกยคางกับหัวหอมๆ และเส้นผมนิ่ม “พรุ่งนี้พี่พริ้งจะกลับจากถ่ายละครที่ต่างจังหวัดแล้ว”

“พี่นัดกับที่บ้านไว้พรุ่งนี้เลยใช่มั้ย?”

“ครับ อยากรีบเคลียร์ให้เสร็จเป็นเรื่องๆ ไป” ผมก้มหน้ากดจมูกหอมหัวน้องเพิ่มกำลังใจให้ตัวเอง “จะเป็นยังไงก็ไม่รู้เนอะ ตื่นเต้นแล้วเนี่ย”

“ให้เราไปเป็นเพื่อนมั้ย”

“คุณพ่อพี่ดุนะ หนูไม่กลัวเหรอ”

“หนูกลัวพี่พระพายดุมากกว่า” เฟนอ้อมแอ้ม “ดุแบบนั้นอะ…”

“ดูซิคนเรา กล้าเล่นมุกแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ตั้งแต่ตอนนี้นี่แหละ” น้องตอบ ซุกหน้ากับอกผม แถมยังกอดกันแน่น “ไม่อยากให้พี่เครียดมากไปนี่นา”

“งั้นพี่ขอกำลังใจเยอะๆ เลยได้มั้ยคะ”

“อื้อ ได้สิ”

“หนูปลอบพี่หน่อยสิเฟน” ผมกระซิบเสียงหวานข้างใบหูเขา จูบเบาๆ บนขมับอีกฝ่าย “ปลอบยังไงก็ได้ค่ะให้ในหัวพี่มีแต่หนู เลิกคิดเรื่องอื่นไปเลย”

เฟนนิ่งไปแป๊บนึงก่อนผละตัวออก น้องเงยหน้าขึ้น เราสบตากันอยู่สักพักก่อนเฟนจะเลื่อนมือโอบรอบคอผมแล้วโน้มใบหน้าผมลงไปใกล้เขา

ริมฝีปากน้อยๆ กดประทับมอบจูบที่ไร้เดียงสาให้ เฟนไม่ใช่คนที่จูบเก่งหรือมีลีลาน่าเร้าใจอะไร จูบของน้องเป็นแค่การเอาปากแตะปาก ขยับเม้มเบาๆ ตามประสาแต่กลับทำให้ใจผมพองฟูและเต้นถี่ยิ่งกว่าวิ่งรอบสนามบอลมหาวิทยาลัย เฟนผละใบหน้าออก น้องเปลี่ยนมาจูบแก้มผมทิ้งท้ายแล้วก้มหน้าซุกไหล่ กอดแน่นจนเนื้อตัวเราแนบสนิทกัน ผมสัมผัสถึงแรงเต้นตุบๆ ที่อกข้างซ้ายของน้อง

มันเต้นเป็นจังหวะเดียวกับผมไม่ผิดเพี้ยน

“หนูทำได้แค่นี้นะ” เฟนอุบอิบเสียงเบา “หนูเขินพี่…”

“แค่นี้ก็พลังงานล้นหลอดแล้วค่ะ”

“จริงนะ?”

“จริงที่สุดเลย” ผมหอมหัวเฟนอีกครั้ง ไม่รู้เป็นอะไร มันเอ็นดู มันอยากหอมหัว “พรุ่งนี้มีพลังพร้อมรบแล้ว เฟนรอพี่อยู่ที่หอนะ พี่ไม่อยากให้หนูลำบากไปด้วย บรรยากาศมันต้องมาคุมากแน่ๆ แต่พี่จะรีบเคลียร์รีบกลับมากอดหนูแน่นๆ นะคนดี”

“พี่เอางั้นเหรอ” น้องเงยหน้าขึ้นมอง ยังคงกอดผมไว้แน่น

“เอางี้เลยครับ”

“รีบกลับมากอดหนูนะ” เฟนสบตาผม สายตาเป็นห่วงกันชัดเจน “ไม่ว่าผลจะเป็นยังไงก็ต้องกลับมากอดหนูแน่นๆ นะพี่พระพาย”

“ครับ พี่สัญญาเลย”

พอผมบอกสัญญา เฟนก็ยกนิ้วก้อยขึ้นมา ผมไม่รอช้าเกี่ยวก้อยตอบน้องเลยได้รับรอยยิ้มสดใสส่งมาให้จนกำลังใจที่ล้นอยู่แล้วกลายเป็นท่วมท้นไปหมด

เฟนเป็นทั้งกำลังใจและโลกทั้งใบของผมจริงๆ

----------------------

แค่มีเฟนอยู่ข้างๆ พี่ พพ ก็สู้ตายจ้าาาา กำลังใจล้นหลอดขนาดนี้

ว่าแต่ปริศนาธรรม พี่สายฟ้าดูคลิปพี่ พพ จริงหรือไม่ (10 คะแนน)

#เพื่อนกล่อมนอน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
น้องเฟนคือร่มชูชีพ พพ.เลยลอยตัวเหนือดราม่าใดๆ

ออฟไลน์ เมื่อนั้นฝันว่า

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ไม่มีอะไรดึงความสนใจเราได้มากเท่ากับตอนที่พระพายทักสายฟ้าเรื่องดูคลิปอีกแล้วแหละ55555555 :hao7:

ออฟไลน์ o_ishi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รู้สึกทั้ง ซึ้งน้ำตาซึม อยากกระโดดถีบขาคู่ หัวเราะลั่นบ้าน และเขินตัวบิด ไปในคราวเดียวกันเมื่อได้อ่านตอนนี้

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
กด 1 ดู
กด 2 ดูแน่นวล...ลลลลลล      :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
หนูเฟน~~ หนูน่ารักที่สุดในโลกในจักรวาลเลย อยากจับหนูมาจุ๊บๆๆๆ
พี่พพ.เนี่ยเห็นกากๆแต่ก็ไม่ได้รักเฟนไปวันๆ พยายามทำสิ่งดีๆ ใส่ใจน้องตลอด เป็นคู่ที่น่ารักมากๆเลย
แต่ไม่อยากให้ฟรองซ์กลับญป.เลยค่ะ เดี๋ยวพี่พพ.จะยิ่งได้ใจ ฮา อีกอย่างกับพี่สายฟ้ายังไม่ชัดเจนเลย ฟรองซ์จะหนีกลับไม่ได้นา เดี๋ยวพี่สายฟ้าไม่มีใครให้แกล้ง  :-[
 :pig4:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ตะหนุกกกกกก ขอให้พี่สายฟ้าผ่านไปได้ เป็นกำลังใจเร้กๆให้ค่ะ !!

ส่วนพี่สายฟ้า พี่ไปดูมาจริงๆใช่ไหม !!!

ออฟไลน์ Emmaline

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ฟรองซ์ไม่น่ารักเลย มีสิทธิ์อะไรจะไปทำร้ายร่างกายคนอื่นหรอ พระพายกับเฟนก็เป็นเฟนกัน ถามน้องตัวเองก่อนไหมว่าเขาเต็มใจหรือเปล่า เคารพการตัดสินใจน้องหน่อยเหอะ อย่าห่วงจนบ้า ไม่น่ารักมากๆอะ ส่วนอิพี่พระพายคือกากเหมือนเดิม หัวแตกเพราะความกากของตัวเองเลย แต่ถ้าโดนแฉจริงก็ยืนอกรับไปเลยอิพี่แค่นัดเยเฉยๆคนฟอลแค่หลักพันเอง ไม่ได้หากินจากแอคนั้นด้วย ชิลๆแก5555555555555

เห็นด้วยค่ะ​ ไม่ถามน้องตัวเองสักคำว่าเรื่องเป็นมายังไง น้องก็โตแล้ว​ มาทำร้ายร่างกายกันแบบนี้ ไม่น่ารักเลย​  ไม่ชอบ คนที่หวงจนก็ไม่ฟังเหตุผลใดๆ

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
น้องเฟนน่ารักเท่าโลก  :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เฟน ทำไมหนูน่ารักจังเลยล่ะลูกกกกกก

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
แตก1!!!!!  555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
พระพายจะหล่อทั้งทีก็โดนน้องมาทำหล่อกว่า555555 ยัยน้องเฟนน่ารักจังลูก แหล่งกำลังใจเลยนะเราอะ แม่เฟนก็น่ารักมากๆ เป็นกำลังใจให้พพ เราวาง2บาทว่าพ่อพระพายจะไม่ตัดนางออกจากกองมรดก ปสกในอดีตต้องสอนพ่อพพบ้างแหละว่าถ้าใจร้ายกับพพตัวเองและครอบครัวจะเป็นยังไง พพบอกครอบครัวแล้วก็เงียบไปเลยคงดีที่สุด น้องเฟนจะได้ไม่ต้องมาหวงด้วย

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
สู่ขิตของแท้ล่ะพี่พพ

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
 :pig4: ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
กำลังใจขนาดนี้พี่พพผ่านดราม่าได้แน่

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สองตอนจุก ๆ ไปเลย ทำไมน้องเฟนน่ารักอย่างนี้คะและก็ฉากที่เข้ามาช่วยพี่พระพายเท่มาก ๆ เลย
ปล.พี่สายฟ้าดูคลิปพี่พพ.เพื่อศึกษาไว้เหรอคะ อรุ่มมมมม

ออฟไลน์ JackXy Wu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-5
บทที่ 27

เลิกเยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว





[พระพาย]

มื้อเย็นผ่านไปด้วยดี ผมคิดว่างั้น เพราะอย่างน้อยฟรองซ์ที่กลับบ้านมาเห็นผมนั่งหน้าแป้นแล้นร่วมโต๊ะอาหารด้วยก็ไม่คว้าอะไรมาฟาดหัวผมเพิ่มนอกจากขมวดคิ้วใส่น้อยๆ

“แล้วนี่จะกลับกันเลยมั้ยลูก?”

“ยังอยากอยู่กับแม่ต่ออ่า เฟนคิดถึง” น้องอ้อนแม่เสียงหวาน เนี่ย เป็นเด็กน่าเอ็นดูจริงๆ แฟนผม

“คิดถึงแม่ก็ค้างสิ ฟรองซ์ก็อยากนอนกับเฟน” ฟรองซ์เสนอ

“แต่พรุ่งนี้เราเรียนเช้าน่ะสิฟรองซ์” เฟนมีสีหน้าเสียดาย

“แต่ฟรองซ์จะกลับญี่ปุ่นแล้วนะครับ อยากอยู่กับเฟนนี่นา”

“เด็กๆ ตกลงกันไปก่อนนะลูกว่าค้างไม่ค้าง เดี๋ยวแม่ขอตัวไปล้างจานก่อน” พอได้ยินแบบนั้นผมก็รีบลุกช่วยคุณแม่รวบรวมจาน เขี่ยเศษอาหารทิ้งตามประสาว่าที่ลูกเขยที่ดีจนโดนชมเปาะ “น่ารักจังเลย แม่ขอบใจนะลูก แค่นี้ก็พอจ้ะ เดี๋ยวแม่ยกไปหลังบ้านเอง”

“แต่ผมอยากช่วยนะครับ”

“ไม่เป็นไรลูก แม่จะใช้งานแขกได้ไง”

“งั้นเฟนไปช่วยแม่ล้างจานนะ” น้องรีบยกมือเสนอตัว

“ไม่ได้รีบกลับเหรอลูก พรุ่งนี้เรียนเช้านะ กลับมืดๆ ค่ำๆ เกรงใจพี่เขา”

“ไม่เป็นไรครับ ให้น้องอยู่ต่อสักพักก็ได้ผมไม่รีบ” ช่วงนี้เฟนงานเยอะ ผมเห็นน้องหอบงานกลับมาทำที่ห้องตลอด วันหยุดเสาร์อาทิตย์เลยไม่ค่อยได้กลับบ้านเหมือนช่วงแรกแล้ว วันนี้น้องได้กลับบ้านผมก็อยากให้เขาอยู่กับครอบครัวนานๆ หน่อย

เพราะผมรู้ดีว่าเวลาคิดถึงครอบครัวมันเป็นยังไง

“นะแม่ ให้เฟนช่วย”

“จ้า อ้อนเก่งจังลูกคนนี้”

“เย่”

น้องส่งเสียงร้องดีใจก่อนช่วยคุณแม่ยกจานชามเดินไปหลังบ้าน ผมมองตามแผ่นหลังเฟน ปกติเขาก็สดใสร่าเริงอยู่แล้ว แต่พอได้กลับบ้านน้องยิ่งดูสดใสกว่าเดิมจนผมอดยิ้มไม่ได้

“นี่” เสียงเรียกของฟรองซ์ทำสะดุ้ง ผมหันมอง

“อะไร พี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”

“ผมก็ยังไม่ได้จะว่าอะไรพี่”

“อ้าว”

“แต่ร้อนตัวแบบนี้มันน่าสงสัย” เขาหรี่ตามองผมด้วยสายตาจับผิด

“โอ้โห ก็สามวันก่อนคุณเล่นทำผมหัวแตก ไม่ให้ระแวงได้ไง”

“ที่จริงพี่ขาพันกันแล้วล้มหัวฟาดเองไม่ใช่หรือไง”

“แต่ต้นเหตุก็คือนายวิ่งไล่พี่”

“จะให้ผมย้อนไปที่ต้นเหตุจริงๆ มั้ย” เสียงฟรองซ์เย็นขึ้นอีกระดับ ผมเสียวสันหลังวาบ

“ไม่ต้อง ยอมแพ้ ไม่เถียง ว่าแต่เรียกพี่มีอะไร”

“ขอคุยด้วยหน่อย”

“เรื่องเฟน?”

“ก็มีอยู่เรื่องเดียว” ฟรองซ์พยักหน้ารับ เขาพยักพเยิดไปทางห้องรับแขก “ไปคุยตรงนั้น โต๊ะกินข้าวมันใกล้ห้องครัว เดี๋ยวแม่กับเฟนได้ยิน”

ผมพยักหน้ารับ เดินตามหลังฟรองซ์ไปนั่งบนโซฟาห้องรับแขก ฟรองซ์นั่งตรงข้ามผม เขาใช้ใบหน้าที่เหมือนเฟนมองมาแต่บรรยากาศรอบตัวกลับต่างกันลิบลับ พวกเราเงียบใส่กันครู่หนึ่งฟรองซ์ถึงเปิดประเด็น

“ไม่น่ารักเลยใช่มั้ย?”

“ฮะ?” ผมขมวดคิ้วงงกับคำพูดที่ไม่มีต้นสายปลายเหตุ ฟรองซ์ถอนหายใจ

“ที่ผมทำกับพี่ ทุกการกระทำที่แสดงออกไป ไม่น่ารักเลยใช่มั้ยล่ะ”

“เรื่องนี้มันก็…”

“ผมรู้ตัวว่าเป็นคนนิสัยไม่ดีเท่าไหร่” เขาแทรกก่อนผมจะทันได้ตอบ ฟรองซ์สบตาผมนิ่ง “แต่เพราะผมห่วงเฟนมากๆ มากเกินกว่าที่พี่จะรู้ด้วย เราผ่านอะไรกันมาเยอะ”

“อยากเล่าให้ฟังมั้ย?”

“ไม่ได้อยากเล่า แต่คิดว่าควรเล่า”

“พี่ฟังอยู่”

“เฟนเคยเล่าเรื่องสมัยเด็กให้ฟังมั้ย” ฟรองซ์ถาม “เรื่องที่ทำไมเราถึงแยกกันแบบนี้”

“อืม เฟนเคยเล่าให้ฟังอยู่” ผมตอบรับ ฟรองซ์พยักหน้าเข้าใจ

“เฟนน่ะเป็นคนดี เห็นอกเห็นใจคนอื่นตลอด จนบางทีความดีของเขาก็ทำให้ถูกเอาเปรียบอยู่บ่อยๆ” ฟรองซ์เริ่มเล่า ส่วนผมนิ่งฟัง ตั้งใจซึมซับทุกรายละเอียด “เมื่อก่อนก็ยอมคนง่ายอยู่แล้ว ยิ่งช่วงที่พ่อกับแม่...ช่วงคลื่นลมสงบก่อนหย่านั่นแหละ เฟนก็ยิ่งทำตัวดีกว่าเดิม ดีเกินไป เขาฝังใจว่าทุกอย่างเป็นเพราะเขาเรื่องมันเลยแย่ ต้องไม่สร้างปัญหาอะไรเพิ่มให้พ่อแม่ไม่สบายใจไปมากกว่านี้”

“เวลามีเรื่องโดนเพื่อนแกล้งที่โรงเรียนเฟนก็ไม่ยอมบอกพ่อกับแม่ โดนเพื่อนเอาเปรียบใช้ให้ทำงานก็ยิ้มรับ บอกว่าดีเหมือนกันได้ทบทวนความรู้ไปในตัว มีแค่ผมที่รู้ทุกอย่างที่เฟนโดน ผมเคยจะบอกที่บ้านแต่เฟนโกรธมาก เขาไม่อยากให้เรื่องของเขาทำให้พ่อกับแม่กลุ้มใจ ผมเลยทำได้แค่ปกป้องดูแล” ฟรองซ์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ หลุบตามองมือตัวเองที่ประสานและบีบแน่น “แต่เราเรียนคนละห้อง ผมไม่สามารถปกป้องเขาได้ตลอดเวลา เฟนเองก็ไม่บอกผมหรอกนะว่าโดนอะไรบ้าง ชอบให้ผมไปสืบจนรู้เองตลอดนั่นแหละ มันน่าหงุดหงิดพี่ว่ามั้ย ที่ผมรู้ว่าเฟนโดนอะไรบ้างก็หลังจากเรื่องนั้นเกิดขึ้นแล้ว ทั้งที่อยู่ใกล้กันที่สุดแต่กลับช้าไปก้าวนึงตลอด”

“นายทำดีที่สุดแล้วน่า”

“มันควรดีได้มากกว่านี้” ฟรองซ์ส่ายหัว “ยิ่งพวกที่ชอบเอาเปรียบเฟนเห็นเฟนยอมมากกว่าแต่ก่อนก็ยิ่งไม่เกรงใจกัน ผมโคตรหงุดหงิดอะ อยากซัดเรียงตัวแต่เฟนห้ามไว้ จนวันที่เกิดเรื่อง…”

“เกิดเรื่อง?” ผมทวนคำ ขมวดคิ้วแน่น “เกิดเรื่องอะไรฟรองซ์”

“แกล้งกันนั่นแหละ” สีหน้าฟรองซ์ดูไม่ดีสักนิด คล้ายเขาไม่อยากพูดถึงเรื่องนั้น “แกล้งกันจนเลยเถิดเป็นลวนลาม วันนั้นเฟนมีเวรทำความสะอาดห้อง เขาให้ผมไปรอหน้าโรงเรียนแล้วจะตามมาหลังทำเวรเสร็จ แต่ผมรออยู่นานจนผิดสังเกตเขาก็ยังไม่มา โทรไปไม่รับ ผมร้อนใจจนต้องย้อนกลับขึ้นตึกเรียนไปตาม เจอพวกมันสองคนกับเฟน เฟนตัวแค่นั้นอะพี่จะไปสู้ใครได้วะ ตอนผมไปเจอคือพวกนั้นกำลังทึ้งเสื้อผ้าเฟน ผมเลือดขึ้นหน้า คว้าแจกันในห้องได้ก็จับฟาดแม่งหัวแตกไปคน อีกคนพอเห็นว่ามีคนอื่นรู้ก็รีบวิ่งหนี”

ใจผมหล่นวาบลงตาตุ่มหลังได้ฟังเรื่องที่ฟรองซ์เล่า ไม่เคยคิดว่าคนที่มีรอยยิ้มสดใสได้ขนาดนั้นจะมีเรื่องราวในอดีตที่ยากลำบากขนาดนี้ ผมเผลอกำมือตัวเองแน่น

“ความอดทนผมขาดตรงนั้น ยังไงเรื่องนี้ก็ต้องบอกที่บ้าน ต้องเอาเรื่องให้ได้ ไม่รู้เพราะตอนนั้นผมโกรธหนักจนเฟนไม่กล้าแย้งหรือคิดได้ว่าเรื่องมันหนักเกินมองข้าม เขาถึงยอม แล้วหลังจากนั้นผมก็เกาะติดเฟนแจ คอยดูแลปกป้องเขายิ่งกว่าที่ผ่านมาจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว”

“ตอนพ่อกับแม่หย่าเราต้องแยกกัน ผมโคตรอยากตามมาด้วย ไม่อยากห่างเขาเลย เฟนก็รู้ว่าผมเป็นห่วงเขาเลยสัญญาว่าจะไม่ยอมให้ใครมาแกล้ง จะไม่ปิดบัง จะเล่าให้ฟังทุกเรื่อง กลายเป็นเฟนที่ผมคอยปกป้องมาตลอดต้องมาปลอบผมให้หยุดร้องไห้ในวันที่เราแยกกัน วันนั้นผมถึงรู้ว่าคนที่ผมคิดว่าอ่อนแอกลับเข้มแข็งได้ขนาดนั้น เฟนโตขึ้นแล้วแต่ผมยังติดอยู่ที่เดิม มองเขาเป็นคนที่ต้องปกป้องเสมอ”

“เพราะแบบนี้นายถึงได้โกรธมากใช่มั้ย วันนั้นน่ะ” ผมถาม ฟรองซ์พยักหน้า

“มันทำให้ผมคิดถึงเรื่องวันนั้น มันฝังใจ ยอมรับ ไม่ได้คิดว่าเฟนเต็มใจหรือเป็นเรื่องปกติของคนเป็นแฟนกัน” ฟรองซ์เงียบไปพักนึง เขาเงยหน้ามองผม สบตานิ่ง “มันอาจดูเป็นการกระทำที่เกินเหตุในสายตาพี่ ผมไม่เถียง แต่ในมุมของผม ประสบการณ์ที่ผมเจอมาทำให้ผมทำแบบนั้น จะโกรธผมก็ได้ ไม่มีอะไรแก้ตัว”

“ช่างเถอะ” ผมบอกปัด “ยังไงก็แตกไปแล้ว”

“หัว?”

“อย่างอื่นก็ด้วย”

“เพราะแบบนี้ไงผมเลยอยากฟาดหัวพี่สักที” ฟรองซ์กลอกตา “ผมน่ะดูแลเฟนมาเหมือนไข่ในดิน...”

“ในหิน” ผมแก้ “ไม่สันทัดภาษาไทยเหมือนเฟนเลยนะนายน่ะ”

“มันก็เหมือนกันมั้ย?” เขาขมวดคิ้ว “สุภาษิตไทยทำไมไม่ค่อยเมคเซ้นส์เท่าไหร่เลย ไข่บ้าอะไรไปอยู่ในหิน”

“แล้วไข่อยู่ในดินมันเมคเซ้นส์หรือไง”

“พี่ไม่เคยเห็นไข่เต่าเหรอ”

“นั่นมันอยู่ในทราย”

“มันก็คล้ายๆ กันนั่นแหละ”

“นี่ ถ้าเรายังคุยเรื่องไข่ต่อ มันจะเรทขึ้นเรื่อยๆ นะ” ผมหัวเราะหึๆ เลยโดนฟรองซ์ถลึงตาใส่ “เอาเถอะ ยังไงก็ขอบใจที่ยอมเปิดใจคุยกัน พี่รู้ว่านายห่วงเฟนมาก ยิ่งกับพี่ที่มีข่าวเรื่องนั้นอีก”

“ประเด็นนั้นน่ะช่างมันเถอะ” ฟรองซ์ปัดมือในอากาศ “เฟนเล่าให้ฟังแล้วว่ามันก่อนที่พี่จะมาจีบเฟน แต่พี่ก็เลิกแล้วนี่ใช่มั้ย?”

“ใช่”

“แล้วเมื่อก่อนป้องกันบ้างมั้ย ตรวจเลือดบ้างหรือเปล่า”

“เห็นแบบนี้แต่พี่เซฟเซ็กส์สุดๆ นะเว้ย” ผมตบอกตัวเองป้าบใหญ่ ยืดอกพกถุง ตรวจเลือดประจำ

“ดีแล้ว ได้ยินแบบนี้ผมก็โล่งใจ”

“งั้นสรุปว่า…” ผมค่อยๆ เลียบเคียงถาม “นายให้พี่ผ่านแล้วใช่มั้ย จะไม่มีการขัดขวางหรือหาอะไรฟาดหัวพี่อีกแล้วนะ?”

“ก็พี่เป็นความสุขของเฟน” เขาตอบรับสั้นๆ ทิ้งตัวพิงพนักโซฟา กอดอกแหงนหน้ามองเพดานแล้วถอนหายใจ “คงถึงเวลาที่ผมต้องมูฟออนออกมาจากจุดเดิม ยอมรับว่าเฟนโตขึ้น มีชีวิตเป็นของตัวเอง อีกอย่าง...”

“อีกอย่าง?”

“เห็นแล้วล่ะ สายตาพี่เมื่อกี้...” ฟรองซ์กลับมาสบตาผมอีกครั้ง “ตอนที่มองตามหลังเฟนไป สายตาพี่ทำให้ผมเชื่อแล้วว่าจริงจังกับเฟน”

“กับคนนี้จริงจังมานานแล้ว”

“อืม ดีแล้ว ผมจะได้กลับญี่ปุ่นอย่างหมดห่วง” ฟรองซ์พึมพำกับตัวเอง สีหน้าเศร้าลงแวบหนึ่งก่อนกลับเป็นปกติ

“จะว่าไป…” ผมเกริ่น ฟรองซ์มองหน้าผม เขาเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม “กับสายฟ้านี่ยังไงนะ?”

“ฮะ?”

“มีซัมติงกันใช่ปะ ดูออก”

“อะไรของพี่วะ”

“ก็นั่นไง” ผมแตะติ่งหูตัวเองแต่พยักพเยิดไปทางเขาเป็นเชิงว่าหมายถึงฟรองซ์ “ต่างหูที่นายใส่อยู่น่ะ พี่จำได้ว่าเป็นของสายฟ้า มันให้มาเหรอ”

“ต่างหูมีแค่อันเดียวในโลกหรือไง”

“สรุปว่าไม่ใช่ของมัน?”

“ของเพื่อนพี่นั่นแหละ” ฟรองซ์ยักไหล่ “แค่ให้มาเฉยๆ ไม่มีอะไร”

“อ๋ออออออ”

มึงโดนกูล้อแน่สายฟ้า!

“ไม่ต้องมาทำหน้าล้อเลียนผม มันไม่มีอะไรในกอหญ้าทั้งนั้นแหละ”

“กอไผ่”

“พี่จะขัดอะไรผมนักหนาเนี่ย!”

ฟรองซ์ฟาดโต๊ะ หน้าแดงเล็กน้อย ไม่รู้เพราะอายที่พูดผิดต่อหน้าผมหรือเพราะโกรธที่ผมชอบขัดกันแน่ แต่เดาแล้วน่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า ผมนี่เตรียมวิ่งแล้วถ้าฟรองซ์จะพุ่งมาซัดกันอีก แต่โชคดีชะมัดที่เฟนเดินเข้ามาพอดี

“เราไม่อยู่แป๊บเดียวทะเลาะอะไรกัน?”

“หนูจ๋า ฟรองซ์จะตีพี่” ผมรีบวิ่งไปหลบหลังน้อง ส่วนฟรองซ์ยืนชี้นิ้วใส่ผมอ้าปากพะงาบๆ

“พี่พระพายแกล้งอะไรฟรองซ์อีกหรือเปล่า”

“โธ่หนู พี่ก็ตัวแค่นี้…”

“ผมกับเฟนรวมกันยังใหญ่ไม่เท่าพี่” ฟรองซ์กลอกตา

“จริง อันนี้พี่เห็นด้วย เพราะพี่ใหญ่มาก”

“ก็รู้ตัวนี่นาว่าใหญ่ ยังจะมาบอกว่าตัวแค่นี้”

“คนเราก็ต้องมีถ่อมตัว”

“ถ่อมไปก็เท่านั้นเห็นๆ อยู่ว่าพี่ใหญ่”

“เนอะ ใหญ่มาก บิ๊กๆ กำไม่มิด...”

“เอ่อ ฟรองซ์…” เฟนกระแอมเรียกชื่อแฝดตัวเอง “เราคิดว่าเรารู้ว่าตอนนี้บทสนทนามันไปเรื่องไหน เราว่าเปลี่ยนเรื่องเถอะ”

“ฮะ? ยังไงนะเฟน”

“จริงๆ นะฟรองซ์ เฟนว่าเราควรไปลงเรียนภาษาไทยเสริมกันเวลาจะคุยกับพี่พระพาย”

“เริ่มรู้สึกแปลกๆ แล้วล่ะ” ฟรองซ์ขมวดคิ้ว เขาหรี่ตามอง “เมื่อกี้หลอกให้ผมพูดอะไรไม่ดีใช่มั้ย”

“ฮ่าๆๆ บ้า แหม คิดไปเอง” ผมหัวเราะแห้งๆ รีบเปลี่ยนเรื่องหันไปถามเฟน “ว่าแต่หนูจะเอายังไงหืมเฟน จะค้างมั้ย หรือกลับหอ”

“แต่พรุ่งนี้เรียนเช้านะพี่”

“ตัดเรื่องนั้นไปก่อน หนูอยากค้างมั้ย พี่ถามแค่นี้” เฟนมองหน้าผมสักพักก่อนพยักหน้ารับ เขาส่งเสียงอื้อเบาๆ ผมยิ้ม ลูบหัวน้อง “งั้นก็ค้างได้ค่ะ แต่ต้องตื่นเช้านะ ไม่งั้นไปเรียนไม่ทัน”

“ไม่ลำบากพี่ใช่มั้ย” เฟนถาม ดวงตาใสแจ๋วช้อนขึ้นมอง “เราจำได้ว่าพี่เรียนบ่าย พี่เลยต้องตื่นเช้าเพราะไปส่งเราเลย…”

“ตื่นได้น่า ไม่ได้ลำบากสักหน่อย”

“พี่เขาบอกว่าได้ก็ได้สิเฟน” ฟรองซ์เสริม

“เอางั้นก็ได้” ในที่สุดน้องก็ยอมตกลง เฟนหันมาหาผม ยิ้มหวานให้จนตาหยีแล้วโผเข้ากอดก่อนยื่นหน้าจุ๊บแก้มผมไปทีนึง “เราให้รางวัล พี่ใจดีกับเราอีกแล้ว”

“เฟน เดี๋ยวฟรองซ์ตีเลย ต่อหน้าต่อตาเลยนะ! เฮ้ย แล้วนั่นพี่เป็นอะไรเนี่ย!?”

“น่ารัก น่ารักจังเลยหนูจ๋า…”

ผมเพ้อออกมาในขณะเฟนและฟรองซ์ช่วยกันหิ้วปีกหลังผมทรุดลงไปกองกับพื้น

“อะไรวะเนี่ย?”

“ไม่มีอะไรหรอกฟรองซ์” เฟนยิ้ม “ฝากฟรองซ์บอกแม่หน่อยนะว่าเราจะค้าง เดี๋ยวพี่พระพายค้างกับเราด้วย”

“แล้วพี่เขาจะนอนไหน”

“ห้องนอนแขกก็ได้ แม่บอกว่าทำความสะอาดไว้ตอนฟรองซ์จะกลับแต่ฟรองซ์ไม่นอนจะนอนกับแม่” เฟนกอดแขนผมไว้ “เดี๋ยวเราพาพี่พระพายไปห้องเอง”

“แล้วเฟนมานอนกับฟรองซ์กับแม่นะ”

“อื้อ ได้สิ”

อ้าว เดี๋ยวสิ ผมก็อยากนอนกับน้องนะ ได้แต่คิดในใจเพราะโดนฟรองซ์หันมาจ้องกดดันเลยต้องหุบปากเอาไว้ เฮ้อ เอาเถอะ ที่ให้น้องค้างก็เพราะอยากให้เขาได้อยู่กับครอบครัวไม่ใช่หรือไง เพราะงั้นผมนอนคนเดียวก็ได้ ไม่เป็นอะไรอยู่แล้ว...


v
v
v


ออฟไลน์ JackXy Wu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-5
- ต่อ -


ขอถอนคำพูด!

คิดถึงเฟนชิบหายเลยเว้ยยยยยย!!!

ผมนอนพลิกตัวไปมาในห้องตั้งแต่แยกย้ายกับเฟนช่วงห้าทุ่ม เด็กตาใสยิ้มหวานให้ผม โบกมือบ๊ายบายแล้วเดินไปอีกห้อง ทิ้งผมไว้ที่ห้องนอนแขก จากตอนนั้นก็น่าจะผ่านมาเกือบชั่วโมงครึ่งแล้ว และผมยังไม่สามารถข่มตาหลับได้

คิดถึงเฟน อยากนอนกอดแฟน หอมแก้มนุ่มๆ หอมหัวหอมๆ กอดตัวอุ่นๆ ของน้อง ยิ่งคิดยิ่งฟุ้งซ่าน ผมเปลี่ยนจากนอนตะแคงมานอนหงาย นี่เป็นการเปลี่ยนท่านอนครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าพรุ่งนี้ผมต้องตื่นเช้าเพื่อไปส่งน้องเรียนให้ทัน ขืนไม่ได้พักผ่อน พรุ่งนี้ท่าจะแย่ ผมยังไม่อยากหลับในแล้วไปเสยตูดรถใครนะ

“เอาล่ะใจเย็น” สูดลมหายใจเข้าลึกแล้วผ่อนออก หลับตาลงช้าๆ ผ่อนคลาย

เยี่ยม!

หลังผ่อนคลายเรียบร้อยผมก็งัดเคล็ดลับก้นหีบขึ้นมาใช้ สะกดจิตตัวเองโดยการนับ...ไม่ ไม่ใช่นับแกะ แบบนั้นมันเชยไปแล้ว ที่ผมนับน่ะคือ...

เฟนคนที่หนึ่ง

ภาพเฟนในชุดเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้นจุ๊ดกระโดดโลดเต้นผ่านหน้าผมไป ในจิตนาการนั้นน้องยิ้มหวานจนตาหยี น่าฟัดเหลือเกินพ่อคุณของพี่

เฟนคนที่สอง

คราวนี้น้องอยู่ในชุดนักเรียนกางเกงน้ำเงินขาสั้น ใบหน้าและแววตาใสซื่อมองมาทำให้ผมรู้สึกคึกคัก ถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อคงนอนไม่หลับ เผลอๆ จะตื่นซะมากกว่า แบบ...ตื่นในหลายๆ ความหมาย

เฟนคนที่สาม

ผมไม่รู้ว่าในหัวตัวเองมีอะไรอยู่บ้าง แต่มันโคตรจะแฟนตาซีที่ในจินตนาการเห็นน้องมีหูมีหางแมวฟูๆ กำลังคลานเตาะแตะมาหาผมพร้อมคลี่ยิ้มยั่วเย้า นางแมวยั่วสวาทก็คือเธอ ระวังไว้เถอะจะเจอโจรปล้นสวาทอย่างพี่

เฟนคนที่สี่ดาเมจรุนแรง น้องเล็กๆ ในชุดเดรสสั้นสีขาวฟูฟ่องลายสตรอร์เบอร์รี่นอนคว่ำหน้าเท้าแขนตีขามองผมอยู่บนเตียง คอเสื้อหย่อนลงมาเล็กน้อยทำให้เห็นผิวเนื้อขาวๆ กับจุดเนื้อนิ่มสีชมพูเล็กวับๆ แวมๆ

เนี่ย คือไม่น่าจะได้นอนแล้วล่ะ จินตนาการมึงไปสุดขนาดนี้

“แอ๊ด…”

เสียงเปิดประตูดังเข้าหู ผมนึกสงสัย จำได้ว่าตัวเองล็อกประตูห้องเรียบร้อยก่อนดับไฟนอน ผมยังนิ่ง ไม่ได้ขยับตัว แกล้งทำเป็นหลับ เสียงฝีเท้าดังเข้ามาใกล้เตียงเรื่อยๆ ตอนนั้นเองในหัวผมนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา

เชี่ย…

หรือว่าบ้านน้องจะมีผี

ไม่สิ...ก่อนนอนผมยังไม่ได้ไหว้พระสวดมนต์บอกเจ้าที่เลย หรือว่านี่จะเป็นการเตือนจากสิ่งที่มองไม่เห็น สวดมนต์ในใจตอนนี้ทันมั้ย? ท่านเจ้าที่ครับผมไม่ได้มีเจตนาจะลบหลู่ใดๆ ผมแค่ขอนอนที่นี่คืนนึงเท่านั้นเองนะครับ ถึงจิตใจผมจะสกปรกคิดไม่ดีไม่งามกับลูกชายเจ้าของบ้านนี้ไปบ้างแต่ผมก็ยังยืนยันว่าไม่มีเจตนาร้ายใดๆ คือผม…

พื้นที่บนเตียงข้างตัวยวบลง มันส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดตามจังหวะการทิ้งน้ำหนัก ผมตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับ ได้แต่สวดมนต์ในใจ เหงื่อแตกพลั่กๆ ในขณะที่สิ่งลี้ลับทิ้งตัวนอนลงข้างผม สอดตัวเข้ามาในผ้าห่มผืนเดียวกัน ขยับเข้ามาใกล้ คู้ตัวซุกหน้ากับไหล่

เดี๋ยวก่อน…

ทำไมท่านเจ้าที่ตัวหอมแบบนี้ แถมยังนุ่มนิ่มให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยจังวะ

ผมค่อยๆ หรี่ตามองผ่านความมืด ใช้เวลาปรับสายตาให้เข้ากับความมืดสักพัก โชคดีที่ม่านหน้าต่างเปิดเอาไว้ แสงไฟจากด้านนอกเลยส่องเข้ามาให้ผมเห็นว่าใครกันที่แอบปีนขึ้นเตียงมานอนซุกไหล่

แฟนตัวน้อยของผมนั่นเอง

ผมเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ มองน้องที่นอนซุก มือเล็กๆ กำชุดคลุมอาบน้ำที่ผมสวมนอนเพราะไม่มีเสื้อเปลี่ยน ผมหลุดยิ้มออกมาจนได้ ยิ้มจนปากจะยกถึงหูอยู่แล้ว แกล้งขยับตัวเล็กน้อยแต่ยังไม่เฉลยว่ารู้สึกตัว ก่อนเคลื่อนมือวางพาดบนเอวน้องดึงเขาเข้าใกล้ กอดแน่นจนใบหน้าเฟนมุดกับอกผม ส่วนปลายคางผมเกยอยู่บนหัวน้อง กลิ่นแชมพูสระผมหอมๆ ลอยเข้าจมูก อยากหอมหัวน้องชิบหายเลยแม่ง

เฟนตัวแข็งไปครู่หนึ่ง คงกลัวว่าผมจะรู้สึกตัว พอเห็นว่าผมไม่ได้ทำอะไรนอกจากจับกอดเขาก็ผ่อนคลายลง สงสัยคิดว่าผมคิดว่าเขาเป็นหมอนข้างล่ะมั้ง ผมกลั้นหัวเราะจนจมูกบาน เคลื่อนมือลงต่ำจนถึงสะโพก แอบลูบเบาๆ น้องขยับตัวยุกยิก พยายามจะถดหนีสัมผัสผม ได้ยินเสียงกระซิบบ่นกับตัวเองเบาๆ

“ขนาดละเมอยังหื่นเลย พี่บ้า”

นินทากันเผาขนขนาดนี้เลยนะยัยตัวดี ลงโทษเลยนี่แน่ะ!

ฟอด!

“อื๊อ!”

หมับ!

“อ๊ะ นี่!” คราวนี้เฟนฟาดมือใส่อกผมเต็มแรง เจ็บจนหลุดไออ่อกๆ ออกมา “พี่ยังไม่หลับใช่มั้ย แกล้งเราเหรอ!?”

“ว้า โดนจับได้ซะแล้ว”

“หอมเราน่ะไม่เท่าไหร่ แต่บีบก้นเราแบบนี้อะ…” เฟนเงยหน้ามองผม น้องเบะปากนิดหน่อย “เราเจ็บนะ พี่ชอบจับเราแรง ตัวเราก็มีอยู่แค่นี้ ช้ำหมดแล้ว”

“ยิ่งหนูพูดแบบนี้พี่ยิ่งอยากบีบหนูให้ช้ำเลยค่ะ” ผมหัวเราะ กดจมูกหอมหัวน้องรัวๆ อย่างที่อยากทำมาตั้งแต่เจ้าตัวเล็กเบียดซุกขอนอนด้วย “ว่าแต่เดี๋ยวนี้ร้ายนะเรา”

“อะไร เราร้ายตรงไหน?”

“แอบย่องเข้าห้องพี่เหรอคะ ปีนขึ้นเตียงผู้ชายก่อนเลยนะเนี่ย ใจกล้าจัง”

“กะ ก็…”

“ก็อะไรหืม?”

ผมหลุบตามองเฟน เขากำเสื้อผมแน่นกว่าเดิม น้องมุดหน้า อิงแก้มนิ่มๆ ทาบกับอกผม

“เรานอนไม่หลับ” น้องสารภาพ

“หืม?”

“งงมากเลย ปกติเรานอนกับแม่กับฟรองซ์ก็หลับสบายตลอด แต่วันนี้มันไม่ยอมหลับ” เฟนบ่นงึมงำกับอกผม ผมยกมือลูบหัวเขาเบาๆ สลับกับจูบหน้าผากเนียนและหอมหัว “เราพลิกไปมาตั้งหลายรอบจนกลัวจะปลุกแม่กับฟรองซ์ตื่น เลยมาหาพี่ เพราะ…”

“เพราะ?”

“พี่อย่าล้อเรานะถ้าเราบอก”

“ไม่ล้อครับ ไหนบอกพี่เร็วคนดี”

“ก็...เราคิดว่าที่นอนไม่หลับเพราะเราติดนอนกับพี่แล้วแน่ๆ เลย” เฟนสารภาพ น้องพาดมือกอดผมแน่น “เราชอบนอนกอดพี่แบบนี้ ตัวพี่อุ่น แล้วก็ชอบให้พี่กอดเรา ลูบหัวกล่อมเรานอนแบบทุกๆ คืน”

“ติดพี่แล้วนี่เอง”

“ฮื่อ ไม่ล้อสิ ก็พี่แฟนหนูนะ ไม่ให้ติดพี่แล้วจะให้ไปติดใคร”

“พูดจาน่ารักแบบนี้รู้มั้ยว่าจะโดนอะไร”

“รู้”

“แต่ก็ยังพูด”

“อื้อ ก็อยากโดนเลยพูด”

เอาว่ะ เด็กมันร้ายว่ะ ต้องจัดให้หน่อยแล้วมั้ยแบบนี้น่ะ?

“งั้นเงยหน้าขึ้นมาเลยคนดี” ผมแตะปลายคางน้องให้เงยหน้าขึ้น กระตุกยิ้มมุมปากส่งให้เขา “ปากแบบนี้ต้องโดนจูบสักหน่อย”

“อื้อ!”

เฟนครางอือในลำคอเมื่อผมกดจูบปิดปากน้อง บดคลึงความนุ่มหยุ่นจนพอใจแล้วแทรกปลายลิ้นเข้าโพรงปาก ตวัดต้อนรุกไล่กับลิ้นเล็กที่ไร้เดียงสา ผมประคองใบหน้าเฟนเอาไว้ให้เขาเงยหน้ารับสัมผัสได้ถนัดมากว่าเดิม เสียงลมหายใจเราดังผสานกัน ผมขบฟันลงบนเรียวปากนุ่ม ดึงรั้งเบาๆ ราวกับมันเป็นเยลลี่แสนอร่อยจากนั้นประกบปากจูบอีกครั้ง เฟนทำให้ผมหลงใหลจนไม่อยากหยุด

“พะ พี่...พอก่อน หนูหายใจ มะ ไม่ทัน” เฟนประท้วงเสียงเบา ถึงจะเสียดายแต่ผมก็ยอมทำตามที่น้องขอ ริมฝีปากอีกฝ่ายเผยอหอบน้อยๆ ผมเปลี่ยนเป้าหมายไปจูบแก้มน้องแทน

“ทำไมแก้มนุ่มจังเลยคะ”

“ฮื่อ เราไม่รู้”

“คอหนูก็หอม” ผมคลอเคลียปลายจมูกกับซอกคอน้อง รอยที่ทำไว้เริ่มจางแล้ว ใจผมอยากตีตราประทับเพิ่มแต่ก็กลัวว่าถ้าพรุ่งนี้คนที่บ้านน้องเห็นมันจะดูไม่ดี โดยเฉพาะฟรองซ์อาจจะอยากเขวี้ยงจานใส่หัวผมอีกสักรอบได้

“พี่ เราจั๊กจี้”

“หนูจั๊กจี้ ส่วนพี่อยากจ้ำจี้”

“มะเขือเปาะแปะเหรอ” น้องถามเสียงซื่อ “เราเคยเล่นกับเพื่อนนะ แต่มืดๆ แบบนี้เราว่าเล่นไม่ได้หรอก มองไม่เห็น”

“มืดๆ นี่แหละหนู เวลาเล่นจ้ำจี้เลย”

“ไม่เอา ไม่เล่น” น้องปฏิเสธ เขาดันตัวผมที่เริ่มลุกมาคร่อมให้ทิ้งตัวนอนข้างๆ เหมือนเดิม “ดึกแล้ว ถ้าพี่กับเรายังไม่รีบนอนพรุ่งนี้ต้องตื่นสายแน่ๆ”

“ก็ได้ครับ” ผมหัวเราะ ดึงเฟนเข้ามากอด “หนูรู้มั้ย ก่อนหนูจะเข้ามาพี่ก็นอนไม่หลับเหมือนกัน”

“แปลกที่เหรอ?”

“นิดนึง แต่ที่นอนไม่หลับเป็นเพราะพี่นอนคนเดียวไม่ได้แล้วน่ะสิ”

“...”

“เวลาไม่มีหนูให้กอดแล้วนอนไม่หลับเลยค่ะ” ผมสบตาน้องในความมืดที่มีเพียงแสงสลัวจากไฟนอกหน้าต่าง เกลี่ยปลายนิ้วกับแก้มใสเบาๆ “ไม่ใช่แค่หนูที่ติดพี่ พี่ก็ติดหนูเหมือนกัน แพ้ให้คนนี้ทุกทางจริงๆ ค่ะ”

“หยุดพูดได้แล้วน่า”

“ทำไมคะ”

“เราเขิน พี่ก็น่าจะรู้” น้องยิ้มอายๆ ใส่หน้าผมแล้วหลุบตาหนี

“หนูน่ารักใส่พี่อีกแล้วนะเฟน” ผมจูบหน้าผากน้องอีกครั้ง “เห็นหนูยิ้มแล้วพี่นึกถึงเพลงๆ นึง อยากฟังมั้ย?”

“จะร้องให้เราฟังเหรอ”

“กล่อมเด็กดีนอนไงคะ”

“อื้อ งั้นฟังก็ได้” เฟนพยักหน้ารับ น้องจ้องผมตาแป๋ว ผมลูบหัวเขาในขณะร้องเพลงท่อนนึงขึ้นมาเบาๆ เราสบตากันไม่ละไปไหน

“ไม่รู้ว่าต้องโตท่ามกลางหมู่ดอกไม้มากมายขนาดไหน เธอจึงได้ครอบครอง รอยยิ้มที่สวยงามขนาดนี้ ทำให้รักใครไม่ได้อีกเลย”


แค่เฟนยิ้ม แค่รอยยิ้มเล็กๆ ของน้องแต่กลับทำให้โลกของผมสดใสได้มากขนาดนั้น มองเพลินไม่รู้เบื่อ


“วินาทีที่เธอเจอกับฉัน มันทำ ทำให้ความเดียวดายสลายเพราะได้เจออะไรที่คู่ควร ฉันขอบคุณและให้คำสัญญา ว่าจะรักษาไว้”


ยังจำวันแรกที่เจอกับน้องได้ ผู้ชายตัวเล็กที่ตั้งท่าระแวงผมเหมือนลูกแมวพองขนขู่แง้วๆ ไม่ได้น่ากลัวสักนิด กลับกันมันน่ารัก แถมความซื่อของเฟนยังทำให้ผมยิ้มได้ทุกครั้งที่คุยด้วย


“ฉันไม่ต้องการใครอีก ดวงดาวทั้งฟ้าต้องเสียใจและ ไม่มีสิ่งไหนสวยงามต่อไป ตราบที่โลกนี้มีคนอย่างเธอ”


แค่มีเฟนคนเดียวผมก็เหมือนกับมีแหล่งกำลังใจชั้นดีเป็นของตัวเอง เติมเต็มจนพลังงานล้นหลอด


“และฉันคือคนโชคดี เมื่ออ่านความหมายทุกคำกวี ไม่มีบทไหนงดงามอีกแล้ว ตราบที่โลกนี้ยังมีชื่อเธอ”


เฟน แค่ได้ยินชื่อนี้ก็ทำผมยิ้มได้เหมือนคนบ้า


“ได้โปรดให้ฉันเป็นคนสุดท้าย ได้ไหม”


ผมมองลึกเข้าไปในดวงตาของเฟน แววตาน้องสั่นไหวก่อนเขาจะหลุบตาลง ผมเกลี่ยเส้นผมที่ปรกหน้าทัดหูน้อง


“เธอคือชีวิตและลมหายใจ”


ผมยื่นหน้าเข้าใกล้ กดจูบบนหน้าผากเนียนแล้วเคลื่อนหน้าผากตัวเองแตะกับหน้าผากน้อง ขยับใบหน้าให้ปลายจมูกเราสองคนเกลี่ยกัน ตอนนั้นที่เฟนช้อนสายตาขึ้นมอง หนึ่งวินาทีที่สบตา ภาพเรื่องราวที่ผ่านมาย้อนเข้าในหัว ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักและเจอกัน จนกระทั่งความสัมพันธ์พัฒนา มันเป็นช่วงเวลาที่ไม่นานเท่าไหร่ แต่ความสุขที่ได้รับกลับมากกว่าที่เคยได้ทั้งชีวิต

“พี่พระพาย”

“ครับ”

“ขอบคุณนะที่รักเราขนาดนี้” น้องยื่นใบหน้ามาจูบปลายคางผมแล้วผละออก ดวงตาหยีลงรับกับรอยยิ้มหวาน “เราจะรักพี่ให้มากๆ เหมือนกัน”

“พี่ก็ขอบคุณหนูเหมือนกันที่เลือกพี่ อยู่ข้างๆ พี่” ผมกระชับกอดแน่นกว่าเดิม รู้สึกสบายใจเมื่อมีเจ้าตัวน้อยในอ้อมกอด “หนูทำให้พี่เปลี่ยนแปลงตัวเองรู้มั้ย พี่เลิกทุกอย่างจริงๆ นะเฟน มีแค่หนูคนเดียว อดีตพี่กลับไปแก้ไขไม่ได้ แต่พี่จะทำปัจจุบันให้ดี”

“เราเชื่อพี่”

“เด็กดีของพี่” ผมหอมหัวน้อง ลูบหลังเขาเบาๆ “ดึกแล้ว นอนได้แล้วค่ะ”

“อื้ม ฝันดีนะพี่พระพาย”

“ฝันดีเหมือนกันเจ้าตัวเล็กของพี่”

เฟนซุกตัวนอนขดในอ้อมกอดผม ไม่นานหลังจากนั้นลมหายใจน้องก็เข้าออกสม่ำเสมอเป็นสัญญาณว่าเขาหลับสนิทเรียบร้อย ผมระบายยิ้มออกมา ต่อให้พรุ่งนี้ต้องเจอกับอะไรก็ไม่กลัวแล้ว เพราะผมรู้ว่าถึงเกิดอะไรขึ้นก็ตามผมจะยังมีน้องอยู่ตรงนี้...

...ตรงพื้นที่ข้างตัวผมเสมอไป


หนูจ๋ามาสร้างหนุมานกันเถอะจ้ะ @Mylovelyfen

พี่ทำทุกอย่างเพื่อหนูเหมือนน้ำทำทุกอย่างเพื่อพี่โชน ถึงพี่ไม่ได้ไปคัดนางรำ เล่นละครเวทีหรือเป็นดรัมเมเยอร์ แต่พี่ก็เลิกเยทั้งอำเภอเพื่อเยเธอคนเดียวนะหนูจ๋า



--------------------------------

ใครอยากฟังเพลงเต็มๆ ชื่อเพลง "เวลาเธอยิ้ม" ของ POLYCAT นะคะ ขอบคุณนักอ่านที่น่ารักที่ทำลิสต์เพลงเพราะๆ สำหรับนิยายเรื่องนี้ไว้ให้ค่ะ เพราะทุกเพลงเลย

บทนี้เล่าเรื่องฝั่งของฟรองซ์บ้างนะคะ น้องอาจห้วนๆ ห้าวๆ ไม่น่ารักไปบ้าง แต่อย่ารำคาญน้องกันเลยนะคะ และสุดท้ายฟรองซ์ก็เคลียร์กับพี่พระพายเรียบร้อย เย่ พักความตลกมาฮีลลิ่งหวานๆ เบาๆ กันหน่อย ส่วนบทถัดไป...ดราม่านิดนึงเนาะ

ปล.พี่พระพายมีหลายแอค หวีดแอคนั้นไม่ได้มาหวีดแอคใหม่ก็ได้

ปล.2 หนุมานเป็นลูกของพระพายกับนางสวาหะ ชื่อแอคนี้เลยหมายถึงการชวนน้องเฟนทำลูกค่ะ...

ออฟไลน์ o_ishi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อ่านไปด้วย ฟังเพลงไปด้วย พี่พะพายแม่งงงงงงง น่ารว๊อกกกกกกกอะะะะ
ปล. "เจ้าตัวเล็กของพี่" มันเหมาะกับน้องเฟนมากกก หอมหัวนะลูก

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด