,,เพราะนายคือของฉัน[II],, ตอนที่พิเศษ :เรื่องหลอนๆ ... [P.13][UP!!] [11/11/62]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ,,เพราะนายคือของฉัน[II],, ตอนที่พิเศษ :เรื่องหลอนๆ ... [P.13][UP!!] [11/11/62]  (อ่าน 74550 ครั้ง)

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
เดี๋ยวก็ได้อยู่ด้วยกันแล้ว รอๆๆๆ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ไม่ผิดหวังใดๆ เลยค่ะ มีแต่กำลังใจที่จะส่งให้
เขียนนิยายต่อๆ ไป มีตอนพิเศษหลายๆ ตอน ยังไม่อยากให้จบเลยค่ะ
ติดตามมาหลายเรื่อง ต่อเนื่องมากมาย ดีใจมากที่มีภาคสอง

ใจบางมากเลยค่ะ เอ็นดูกลอย เข้าใจโช
อยากพกใส่กระเป๋าไปด้วย แต่คนเราต้องเติบโตเนาะ

แหนะ จัดหนักมากนะคะ เก็บตุนไว้งี้หรอ
ชอบความตามใจของกลอย และความเอ็นดูของโช
รักมาก หวงมาก ฝากเพื่อนไว้ให้ทั่วจ้า กว่าจะกลับมาอีกรอบ
โชต้องหมดตังค์ไปอีกเท่าไหร่น่ะ 5555

เป็นกำลังใจให้นะคะ ไม่ว่าจะเรื่องใดๆ นิยายยังสนุกและน่าติดตามเสมอ
รอเรื่องต่อไป และถ้าเรื่องนี้จะจบ ก็ขอตอนพิเศษ สิบแปดตอนแทนค่ะ 5555

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
รอพี่โช...

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
อิจความรักของกลอยจริงๆ แม้จะเกรียนไปบ้างแต่รึ่นนี้ลิมิเตตอิดิชั่นสุดๆ พี่โชหลงจนไม่รุ้จะหลงยังไงแล้ว

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
เพราะนายคือของฉัน [ll] : 24 [END]





        เคยได้ยินมาว่า เวลาของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน มันจะเป็นไปได้ไง ในเมื่อตัวเลขที่ผมเห็นมันก็มีแค่นั้น ไม่ได้มีเลขสิบสาม สิบสี่ สิบห้าเกินมาสักหน่อย แต่แล้วไม่นานมานี้ผมก็ได้ค้นพบ ว่าคำนิยามนั้นมันมีอยู่จริง เวลาบนนาฬิกาของผม ไม่เคยจะตรงกับคนอื่น อย่างเช่นตอนนี้ เพียงแค่ผมเอนศีรษะลงบนหมอน เสียงโทรศัพท์ก็ดังปลุกจนต้องแหกตามารับ

   “กลอยสุดหล่อรับสาย” 

   (กวนตีนนะมึง)

   “พี่โทรมาทำส้น...อะไรตอนนี้ครับ ผมจะนอนแล้วเนี่ย” เพราะเหลืออีกไม่กี่ชั่วโมงพระอาทิตย์จะยิ้มแฉ่งแล้ว

        (มึงยังนอนไม่ได้โว้ย ลูกค้าเขาดูงานแล้วๆ อยากเปลี่ยนเพลง เขาจะขอดูพรุ่งนี้เช้าตอนแปดโมง)

   “พี่พูดจริงพูดเล่นเนี่ย” ตาสว่างแทบจะทันทีที่ได้ยิน “แต่งานนั้นคือไฟนอลแล้วนะ”

   (ก็ใช่ แต่ลูกค้าแม่งเรื่องมาก เมียกูก็บ่นอยู่เนี่ย มึงทำได้ใช่ไหม)

   “เคยตอบว่าไม่ได้ด้วยเหรอ”

   (ดีมาก เดี๋ยวเสร็จงานกูให้เมียพาไปเลี้ยงปิ้งย่าง)

   “ให้มันจริง แค่นี้นะ ผมรีบ”

   หลังจากวางสาย ผมถอนหายใจไปหลายเฮือก ก่อนพาร่างไร้แรงลุกออกไปที่ห้องทำงานเก่าของพี่โช ที่ตอนนี้กลายเป็นห้องทำงานของผม ข้าวของ หนังสือวางระเกะระกะไร้ระเบียบ หากพี่โชอยู่ผมอาจหูชาได้ แต่ถึงแม้พี่เขาจะอยู่ ผมก็คงไม่ให้เก็บอยู่ดี เพราะกลัวจะหาของไม่เจอ

   กดเปิดจอคอมเครื่องแรงราคาแพง ระหว่างรอเครื่องเซ็ทโปรแกรม ผมส่งยิ้มให้กับปีศาจหน้าหล่อที่ทำหน้าตาติ๊งต๊องอยู่ในกรอบรูป ทั้งตาเหล่ แลบลิ้น ปลิ้นตา แต่ก็ยังดูดี เห็นแล้วก็พาลนึกถึงตัวเป็นๆ ที่ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน พอขยับสายตาไปอีกนิดจะเจอปฏิทินตั้งโต๊ะที่ถูกปากกาขีดทับวันที่ในทุกๆ วัน

   ใกล้กลับมาแล้วสินะ ปีศาจของไอ้กลอย

   เมื่อคราวนั้นที่พี่โชมาตอนผมเรียบจบ พอกลับไปเราก็เริ่มคุยกันน้อยลง แต่เราก็ไม่ได้ห่างหายกันไปไหน ถึงแม้ไม่ได้คุย แต่ก็ยังส่งรูปพร้อมแนบข้อความบอกเล่าเรื่องราวของแต่ละคนอย่างเนืองๆ อาจเพราะเวลาเราต่างกันด้วย แถมตอนนั้นผมก็เพิ่งเริ่มทำงาน พี่โชกลับไปก็เรียนหนัก ทำให้ช่วงเวลาของเราค่อยๆ น้อยลง จนผ่านไปเป็นปี รูปสุดท้ายที่ผมได้จากพี่โชก็เมื่อสองเดือนที่แล้ว เป็นรูปรองเท้าพร้อมข้อความว่า คิดถึง ก็น่าจะซึ้งใจอยู่หรอกถ้าอ่านแค่ข้อความ...

   หน้าผมกับรองเท้า...เหมือนกันเหรอวะ   

   “คิดถึงว่ะ” ใช้มือเขี่ยรูปพี่โชไปมา อยู่ๆ ก็อยากโทรหา แต่ไม่รู้ตอนนี้อีกฝั่งจะทำอะไรอยู่ แล้วก็ไม่รู้ว่าที่นั่นกี่โมงแล้ว เกิดโทรไปหา พี่โชยุ่งอยู่จะทำยังไง เป็นแฟนที่ดีต้องอดทนเป็น ฮึบไว้ไอ้กลอย ฮึบไว้ “ทำงานโว๊ย ทำงาน” เรียกแรงฮึดให้ตัวเองแล้วลงมือแก้งานต่อ

   วกเข้าเรื่องงาน เอาจริงๆ เพลงในวีดีโอของลูกค้านั้น ผมเคยบอกพี่ฝ่ายเออี (ฝ่ายติดต่อประสานงานลูกค้า) ไปแล้ว ว่าเพลงที่ลูกค้าเลือกมันไม่โอเค แต่พี่เขาบอกให้ทำตามที่ลูกค้าบอก แล้วไหงสุดท้ายมาให้ผมเปลี่ยนเป็นเพลงที่ผมเคยเสนอไป ไอ้กลอยปวดหัวครับ แต่ทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อสโลแกนที่ถูกพูดกรอกหูอยู่เช้าเย็นคือ ลูกค้า คือพระเจ้า แล้วแบบนี้จะบ่นอะไรได้...โอ้ มาย ลูกค้า!!!!! (เพราะลูกค้าคือพระเจ้า พระเจ้าอ่านว่า ก็อด .... ขอโทษที่เล่นมุกแป้กครับ)
 
   แต่นี่ก็ยังไม่เลวร้ายเท่าตอนส่งงานไปแล้วถูกลูกค้าแคนเซิลแบบดื้อๆ เพียงเพราะได้งานจากที่อื่นในราคาถูกกว่า แฟนพี่รหัสผมแทบอยากเอาระเบิดไปบอม เพราะงานนั้นทุกคนช่วยกันจนแทบไม่ได้นอน บรีฟวันนี้ เอาพรุ่งนี้ พอได้กลับไม่เอา บ้าบอคอแตกที่สุด

   เสียงนาฬิกาเดินของมันอย่างทุกวัน ผมก็ตั้งหน้าตั้งตาแก้งานตามคำสั่ง จะว่าไป ตอนนี้ผมเริ่มใส่แว่นแล้ว สงสัยจ้องจอคอมนานสายตาเริ่มสั้น แถมยังติดกาแฟอีก ปกติก็กินแต่ไม่ได้โหยหาอย่างทุกวันนี้ เข้าใจหัวอกคนติดคาเฟอีนเลย ไม่ได้กินมันจะทรมาน ปวดหัว กระสับกระส่ายอยู่ตลอด

   โปรแกรมพรีเมียโปรที่ไม่ค่อยจะถนัด แต่การเรียนรู้ บวกกับประสบการณ์การผิดพลาดทำให้เริ่มชินมือ ดังนั้นไม่ยากเลยที่จะแก้งาน แต่ถ้าให้ดี ควรบอกให้เร็วกว่านี้สักนิด ขอเวลานอนให้ผมบ้าง อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์ ผมนอนไม่ถึงแปดชั่วโมงด้วยซ้ำ
จากตีสาม ใช้เวลาเกือบๆ สองชั่วโมงงานก็เสร็จ ผมส่งไฟล์ตัวจริงไปให้พี่รหัส เสร็จสรรพก็เตรียมเข้านอน แค่ได้พักสักงีบก็เป็นบุญมากแล้ว เพราะต้องเข้าออฟฟิตอีก นี่ผมคิดถูก คิดผิดวะเนี่ย ที่มาทำงานที่นี่

   หลังจากงีบหลับได้ไปตื่นหนึ่ง ผมก็ต้องรีบอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน วันนี้จะมีลูกค้ารายใหญ่เข้ามาคุยรายละเอียดงาน บอกอยากได้วีดีโอบอกรักแฟนแบบโรแมนติก แน่นอนว่าผมถนัด เห็นแบบนี้ ไอ้กลอยก็เป็นผู้ชายอบอุ่นนะครับ (ไขมันเยอะนั่นเอง)
 
   “ไงมึง หัวฟูมาเลยนะ” เสียงทักของพี่ที่ทำงาน หลังจากผมลงจากมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่จอดหน้าตึก

   “รีบมากไปนิด” บอกพลางหัวเราะแห้งๆ เพราะสระผมเลยไม่อยากใส่หมวกกันน็อค “ลูกค้ามายังพี่”

   “ยัง” คนตอบอัดบุหรี่เข้าปอดไปเฮือกใหญ่ก่อนพ่นออกมา “นี่มึงยังกล้านั่งมอเตอร์ไซค์อีกเหรอวะ”

   “อ่าว ทำไมผมจะนั่งไม่ได้ล่ะ”

   “ก็มึงเคยหลับในแล้วตกลงถนนไม่ใช่เหรอ อันตรายสัด”

   “แต่มันก็ดีกว่าผมขับมาเอง เผลอๆ อาจตายตอนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ”

   “ก็จริงของมึง”

   ผมส่ายหน้าปฏิเสธมวนบุหรี่ที่พี่เขายื่นมาให้ ส่วนเรื่องตกมอเตอร์ไซค์นี่ก็ประมาณช่วงแรกๆ ที่ผมเริ่มทำงาน เพราะไม่ค่อยได้นอน ความง่วงเลยสะสม ซ้อนพี่วินติดไฟแดงอยู่ดีๆ รู้ตัวอีกทีก็นอนโรงพยาบาล มานึกตอนนี้แล้วก็ตลกดี แต่ตอนนั้นตลกไม่ออก เพราะข้อศอกถลอกปอกเปิกไปหมด ดีที่สวมหมวกกันน็อค หัวเลยปลอดภัยไม่มีส่วนไหนบุบสลาย

   “พี่อัดแต่เช้าเลยนะ กินข้าวหรือยัง”

   “กูอัดล่วงหน้าเผื่อเครียดเว้ย ส่วนข้าวกูไม่ซี” ไม่ซีของพี่แกคือไม่ซีเรียล เอ้ย ไม่ซีเรียสต่างหาก (มุกแป้กครับ โปรดอ่านข้ามไป) “มึงเถอะ แดกข้าวบ้างหรือเปล่า ผอมสัด”

   “ถ้างานน้อยกว่านี้ ผมคงมีเวลากินข้าวครับ” ตอบตามความจริง ซึ่งอีกฝ่ายก็เห็นด้วยพลางหัวเราะออกมา “ผมเข้าไปก่อนนะ”

   บริษัทโปรดักชั่นเฮ้าส์เล็กๆ แต่ก็อบอุ่น ทุกคนในที่นี้แม้หน้าตาจะโหดไปสักหน่อย หนวดเคราขึ้นเพราะขี้เกียจโกน แต่กลับใจดี สอนงานผมอย่างใจเย็น ถามว่ามีผู้หญิงไหม ตอบเลยว่ามี แต่สถานะไม่โสดสักคน

   “ไอ้กลอยน้องเลิฟ” พี่รหัสผมโผเข้ามากอดไหล่ “ขอบใจเรื่องแก้งานนะเว้ย ลูกค้าเซย์เยสแล้ว เดี๋ยวกูเลี้ยงปิ้งย่าง”

   “อ่าว แล้วพวกผมล่ะ”

   “เมียกูเลี้ยงทุกคนอยู่แล้วน่า”

   “ปากดีนะมึง”

   ช่วงทำงานทุกคนจะเครียดจนแทบไม่คุยกัน แต่พองานผ่านพ้น ความสนุกและเสียงหัวเราะก็เกิดขึ้นอย่างไม่ขาดสาย ผมชอบบรรยากาศแบบนี้นะ

   “ว่าแต่ไอ้กลอย เมื่อไหร่มึงจะเปลี่ยนกระเป๋าสักทีวะ เห็นเป็ดเหลืองมึงแล้วกูขี้ไม่ออก”

   “ผมไม่ได้เอากระเป๋ายัดตูดพี่ ถึงขี้ไม่ออก เชี่ย” โดนตบปากไปทีจากพี่รหัส ชอบนักการใช้ความรุนแรงเนี่ย “ถ้าพี่ทำร้ายผมอีกที ผมจะฟ้อง...”

   “ฟ้องใคร ฟ้องศาลหรือผัว กูไม่กลัวเว้ย แน่จริงก็มา”

   “ปากดีนะมึง คราวนั้นกูเห็นมึงยกมือไหว้ด้วย”

   “นี่ผัวมึงนะ หัดไว้หน้ากูซะบ้าง”

   ผัวเมียง้องแง้งใส่กันพอประมาณ แต่ก็สร้างเสียงหัวเราะได้ดี ผมรีบใช้โอกาสนี้เดินหนีไปนั่งโต๊ะประจำ หน้าที่หลักคือช่วยงานพี่ฝ่ายอาร์ตไดเรกเตอร์ที่ควบคุมงานด้านความคิดสร้างสรรค์ทุกอย่างของบริษัท ฟังดูเหมือนง่ายแต่มันโคตรยากเลยสำหรับผม การที่ต้องคิดงาน สร้างสรรค์งานในรูปแบบต่างๆ ที่ลูกค้าอยากได้มันไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งกว่าผมจะอยู่รอดมาได้ถึงวันนี้ ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการเรียนรู้งาน โชคดีที่ทุกคนใจเย็นสอน

   “ลูกค้าจะเข้ามากี่โมงพี่” พี่ต้น ผู้ซึ่งเปรียบเสมือนอาจารย์อีกคนของผมเอ่ยถาม หลังจากหาวเป็นรอบที่ล้าน สงสัยผมต้องติดโรคใต้ตาดำมาจากพี่แกแน่ๆ

   หรือผมจะเป็นญาติกับแพนด้าวะ

   “เดี๋ยวก็มาละมั้ง นั่นไง” ลูกค้ารายใหญ่ที่ทุกคนพูดถึง เป็นหญิงสาวท่าทางมั่นใจในตัวเอง ใบหน้าที่มีเครื่องสำอางฉาบไว้ เชิดขึ้นเล็กน้อยยามเดินมาหยุดตรงหน้าพวกผม “สวัสดีครับคุณพิมพ์อักษร”

   “ค่ะ” น้ำเสียงแข็งกระด้างจนรุ่นพี่ผมถึงกับหน้าเสียไป “เข้าเรื่องเลยนะคะ งานวีดีโอที่ดิฉันต้องการนั้น...” แล้วก็เหมือนเดตแอร์เมื่อเธอหยุดพูดไปซะดื้อๆ แต่แล้วดวงตาคู่สวยนั่นก็หันมาจ้อง เอาซะผมหันรีหันขวาง “งานของฉันเป็นงานใหญ่ ไม่อยากได้เด็กฝึกงานทำนะคะ”

   เหมือนถูกน้ำกรดผสมมะนาวสาดหน้า ความชาดิกทำให้ผมยิ้มค้างแบบเก้อๆ ไม่ต่างจากทุกคนที่เงียบสนิท ชนิดได้ยินเสียงมดเดิน

   “นี่ผู้ช่วยของผมเอง ดูหน้าเด็ก แต่ทำงานดี” พี่ต้นโพล่งออกมา ดังเทพบุตรขี่ไก่ขาวมาช่วย (พี่แกเกิดพี่ระกา ข้าวของส่วนใหญ่ก็เป็นรูปไก่ทั้งนั้น)

   “ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ฉันอยากได้มืออาชีพทำจริงๆ คุณช่วยเอาเด็กกระเป๋าเหลืองนั่นออกไปก่อนได้ไหม หรือถ้าไม่ได้ ฉันก็จะ...”

   “ได้ครับๆ กลอย มึงออกไปรอข้างนอกก่อน”

   พี่รหัสผมทั้งกระพริบตา ทำปากขมุบขมิบจนผมต้องยอมจำนนเดินคอตกออกห้อง แล้วทำไมถึงเป็นผมคนเดียว ในเมื่อฝ่ายอื่นก็มีเด็กใหม่เหมือนกัน สองมาตรฐานชัดๆ

   พอออกมาได้ผมก็มานั่งแกร่วอยู่หน้าออฟฟิต ระหว่างนั้นสังเกตเห็นรถที่ลูกค้านั่งมามันช่างคุ้นตา แต่ก็นะ คนรวยจะขับรถคล้ายๆ กัน สีเหมือนๆ กันก็คงไม่แปลกอะไร อย่างกลุ่มเพื่อนพี่โชก็มีรถที่เหมือนกันอยู่

   นานมากกว่าลูกค้าจะเดินออกมาพร้อมกับแฟนพี่รหัสผม เธอปรายหางตามองผมนิดๆ ก่อนสะบัดหน้าเดินขึ้นรถไป ชาติที่แล้วผมอาจหักอกเขามา ชาตินี้เขาเลยไม่ชอบขี้หน้าแน่ คนเกิดมาหล่อมันผิดตรงไหนวะครับ

   “งานที่เขาอยากได้ เป็นไงบ้างเจ๊” ลองแอบถามเจ้าของบริษัทดู แต่ก็ได้แค่ยักไหล่เป็นคำตอบ อะไรวะ “พี่ต้น งานเขา...”

   “มึงไม่ต้องถามมาก เอางานอื่นไปทำไป งานนี้กูกับไอ้มิ่งต้องลุยเอง แม่งยุ่งยากฉิบหาย” พี่ต้นบ่นๆ แต่ก็ไม่วายหันมามองผมเป็นระยะ แล้วก็หันกลับไปบ่นอีก อะไรของเขาอีกคนวะ

   วันนี้ทุกคนเป็นอะไรกันหมด หรือผมจะลืมรูดซิปถึงมองกันจัง ไม่แน่ อาจสงสารที่ผมโดนด่าออกอากาศขนาดนั้น อยากบอกว่าไอ้กลอยประเกรียนคนนี้ยังไหว ใครไม่ไหว กลอยไหว




***

   แล้วชีวิตของผมก็วนลูปเหมือนเดิม ทำงาน คิดงาน ตัดต่องาน โชคดีที่ช่วงนี้ไม่ได้ออกไปทำข้างนอก ไม่อย่างนั้น ตายพอดี แต่ก็คงเฉพาะผมนั่นล่ะ เพราะทั้งออฟฟิตเหลือผมนั่งหน้าจอคอมอยู่คนเดียว คนอื่นออกไปทำงานให้ลูกค้าข้างนอกหมด เป็นงานอะไรก็ไม่มีใครบอก รู้แค่ว่าลับแบบสุดๆ

   “ไงมึง เฝ้าออฟฟิตคนเดียว เหงาป่ะ” เสียงทักดังมาจากด้านหลัง ก่อนจะมีแก้วกาแฟปั่นวางลงตรงหน้าผม “กูซื้อมาฝาก”

   “พี่นี่ใจดีสุดๆ ใครได้เป็นแฟนนะ สบายไปทั้งชาติ” พูดเสร็จก็ดูดกาแฟเข้าปาก ความเย็นแล่นปรี๊ดขึ้นสมองจนต้องนิ่วหน้า “แล้วคนอื่นล่ะ”

   “เดี๋ยวก็คงถึง” พี่มิ่งเดินไปนั่งประจำที่ตัวเอง แต่มิวายโผล่หน้ามาหาผมอีกรอบ “งานที่พี่ต้นให้ เอาพรุ่งนี้นะเว้ย”

   “รู้แล้วน่า รีบให้อยู่” ผมตอบออกไป ก่อนจะได้ยินเสียงขำเบาๆ กลับมา “แค่งานตัดต่อ ไอ้กลอยคนนี้เอาอยู่”

   “กูจะรอดู”

   “ได้เห็นแน่นอน”

   อวดไปอีก พี่มิ่งส่ายหน้ารัวๆ พลางหันกลับไปทำงานของแกต่อ แต่เห็นผมแซวเรื่องแฟนแกแบบนั้นน่ะ ที่จริงสาวที่พี่แกคุยๆ ไว้โคตรเด็ดดวงเลย ส่วนเว้าส่วนโค้งมีครบ ติดอยู่อย่างเดียว พี่มิ่งแกไม่มีเวลาให้ สาวสวยเลยให้สถานะแค่เพื่อน น่าเห็นใจเลยแบบนั้น

   หลังจากพี่มิ่งเข้ามาไม่นาน คนอื่นๆ ก็ทยอยกลับเข้าประจำโต๊ะตัวเอง พอผมชะโงกหน้าจะไปถามพี่ต้น แกก็รีบหันหน้าหนี หันไปถามพี่อีกฝ่าย เขาก็ลุกไปซะอย่างนั้น งานอะไรจะเป็นความลับขนาดนั้นครับ หรือในงานจะมีเพชรพันล้าน? บ้าน่า ถ้างานระดับนั้นก็ต้องเป็นบริษัทใหญ่ๆ นู้น

   แล้วมันงานอะไรกันเนี่ย ไอ้กลอยอยากรู้ ต่อมเสือกสั่นจนอยากจะบ้าตายแล้ว

   ถึงอยากรู้ไปก็เท่านั้น เพราะไม่มีใครปูดรายละเอียดอะไรเลย จนก่อนวันงาน ผมถูกพามาช่วยจัดฉาก เก็บของ เก็บไฟ สถานที่ถ่ายทำพรุ่งนี้เป็นห้องสูทของโรงแรม พื้นพรมสีแดงมีกลีบกุหลาบสีขาวโรยเป็นทางยาวตั้งแต่หน้าประตูมาถึงหน้าเวที บรรยากาศรอบๆ ดูเหมือนจะเป็นงานแต่งงาน แค่ไม่มีพร็อบซุ้มดอกไม้ กับป้ายชื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวบนเวทีก็เท่านั้น ดอกกุหลาบสีขาวที่กำลังถูกตกแต่งมีทั้งถูกมัดเป็นช่อๆ กับที่ปักอยู่ในแจกัน

   “ไอ้กลอย ยกไฟมาหน้าเวทีดิ๊” พี่รหัสผมตะโกนสั่งงานมาจากบนเวที

   “เมื่อกี้พี่บอกให้ผมยกมาหน้าประตูไม่ใช่เหรอ” รีบตะโกนตอบ เพราะตอนนี้ผมก็ยืนอยู่หน้าประตูนี่แหละ

   “นั่นมันเมื่อกี้ แต่ตอนนี้มึงยกมาหน้าเวที เร็วๆ”

   “เออๆ”

   แม่ง เอาแต่ใจฉิบหาย

   ผมยกเสาไฟที่มีสปอร์ตไลท์ดวงโตไปหน้าเวที ถูกสั่งให้ขยับซ้ายที ขวาทีจนเหนื่อย กว่าพี่ท่านจะพอใจผมก็หอบ นี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ผมผอม ออกกองทีไรถูกใช้ยิ่งกว่าเด็กฝึกงานทุกที

   “พี่มิ่งๆ” เดินไปสะกิดขณะพี่มิ่งกำลังเช็คการรันคิว “งานนี้มันงานอะไรเหรอ เราต้องถ่ายอะไร?”

   “ก็ถ่ายงานลูกค้าไง” ตอบแบบขอไปที แถมไม่มองหน้าผมอีก คงเพราะกำลังยุ่ง

   “นั่นแหละ งานอะไร ทำไมผมไม่เห็นหน้าเจ๊คนจ้างเลย” ตั้งแต่เช้ามืดที่ผมมาแล้ว ไม่เห็นหน้าใครเลย เห็นแต่ทีมงานกับพนักงานของโรงแรม

   “เดี๋ยวมึงก็เห็นเอง ไอ้ตูนๆ” แล้วพี่มิ่งก็รีบเดินไปหาเจ้าของชื่อที่นั่งอยู่หลังแผงควบคุมไฟ

   แล้วผมต้องทำงานอะไรนอกจากแบกหามเนี่ย ปกติจะมีหน้าที่หลักๆ แต่นี่กลายเป็นตัวลอย แม้ดูงานสบายแต่มันก็วางตัวลำบาก เดินไปไหนก็มีแต่คนทำงาน จะนั่งเฉยๆ ก็ดูไม่ดี เลยได้แต่เนียนไปขอช่วยงาน หยิบจับอะไรบ้างไม่ให้ดูว่างจนเกินไป

   งานช่วงเช้าผ่านไปไว พอเข้าช่วงบ่ายดูทุกอย่างช้าลง อาจเพราะเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยรอแค่ถ่ายทำวีดีโอพรุ่งนี้ก็จบงาน ผมเดินร่อนไปทั่ว คอยมองหางานที่คาดว่าจะช่วยได้ แต่บรรดาพี่ๆ ทุกคนก็ดูจะไม่ใส่ใจร้องเรียกให้ช่วย

   “เฮ้อ” ถอนหายใจรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่ได้นับ

   “เดี๋ยวอายุสั้นหรอกมึง” เสียงทักกวนๆ มาจากด้านหลัง ผมเลยถอนหายใจโชว์ไปอีกรอบ “กวนตีน”

   “เราจะกลับกันกี่โมงอะพี่”

   “งานยังไม่เรียบร้อยเลย มึงจะรีบกลับไปไหน” พี่ต้นทิ้งตัวนั่งเก้าอี้ข้างๆ ผม สายตามองไปรอบงานแล้วมาหยุดอยู่ที่หน้าผม รอยยิ้มที่ผมเห็นตรงหน้าดูมีพิรุธแถมพึมพำเบาจนหูผมแทบไม่ได้ยิน “มึงนี่นะ ทำยุ่งยากฉิบ”

   “พี่พูดไรอะ” เริ่มหวาดระแวงนิดๆ กลัวจะเรื่องของตัวเอง

   “กูไปทำงานต่อดีกว่า” พี่ต้นยืดตัวขึ้นยืนเต็มความสูงตัวเอง ก่อนไปยังมิวายพูดลอยๆ ทิ้งท้าย พลางใช้กระดาษที่ม้วนตีเข้าหัวผม “กูจะหาเด็กกวนตีนแบบนี้ได้จากที่ไหนอีกเนี่ย”

   อะไรของพี่เขาวะ 

   หลังจากนั่งเฉยๆ ความง่วงก็คืบคลานเข้ามาหาจนได้ จากการถอนหายใจกลายเป็นหาว ผมหาวจนน้ำตาไหล หาวจนจะวูบกลางอากาศ ตอนนี้ก็เริ่มบ่ายแก่เต็มที งีบสักนาทีคงไม่มีใครว่า ไหนๆ ก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้วๆ ถ้างานเสร็จพร้อมกลับบ้านคงมีคนมาปลุกเอง

   ขอพักสายตาสักแปบนะครับ....





[มีต่อด้านล่างค่ะ]
v
v
v

   

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
  [ต่อจากด้านบนค่ะ]

v
v


       ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก เสียงเหมือนนาฬิกาเดินแต่ทำไมมันดังกว่าปกติ เอ๋ ผมงีบไปนี่หว่า ตอนนี้กี่โมงแล้ววะ ทำไมไม่มีใครปลุกสักคน หรือผมจะเพิ่งหลับ? คำถามมากมายกำลังเกิดขึ้น แม้ตอนนี้ผมจะฟุบหน้ากับโต๊ะอยู่ก็ตาม พอขยับเปลือกตา เงยหน้าขึ้น กลับพบแค่ห้องมืดๆ ที่ปิดไฟหมดทุกดวง หรือทุกคนจะทิ้งผมวะ

   ก่อนจะลุกยืน เสียงชู่วก็ดังขึ้นพร้อมมีแสงสว่างวาบที่หน้าเวที พอหันไปมองก็เห็นจอผ้าขนาดใหญ่มีภาพเคลื่อนไหวอยู่ ซึ่งมันจะไม่น่าสนใจเลย หากคนในวีดีโอนั้น ไม่ใช่คนที่ผมคิดถึงอยู่ทุกเวลา แถมยังส่งยิ้มหวานจนผมเผลอยิ้มตามออกมา

   ‘จะพาไปดูเด็กนอนน้ำลายยืด’ เสียงจากคลิปทำให้ผมน้ำตารื้นด้วยความคิดถึง ในคลิปพี่โชหมุนกล้องตัวที่ใช้ถ่ายไปหาไอ้เด็กนอนอ้าปากกรนอยู่บนเตียง พลางส่งเสียงหัวเราะคลอเคล้าเสียงกรน ‘นอนยังไงให้ตลกวะ’ ประโยคที่ดังแทรกเข้ามา ก่อนคนถือจะเอากล้องไปวางบนหมอน ทำให้ภาพบนนั้นเห็นทั้งคนนอนและคนตื่น สายตาอ่อนโยนกำลังจ้องมองคนนอนไม่รู้เรื่องราว ‘แต่แม่งโคตรน่ารักเลย’ พูดจบก็ก้มฟัดแก้มกลมๆ ไปหลายรอบ จนคนนอนขยับ ‘ฉิบหาย’ แล้วภาพก็ตัดไป

   ผมต้องรู้สึกยังไงดีก่อนในตอนนี้ แล้วจู่ๆ ก็มีแสงวาบขึ้นมาหน้าจออีก

   ‘มีเด็กโข่งกำลังงอนว่ะ’ แม้จะพูดแบบนั้น แต่เจ้าตัวก็ยังยิ้มขำ ‘แค่ไม่พาไปกินบุฟเฟ่เองนะเว้ย ตลกสัด เมียกูเนี่ย’ แล้วกล้องก็ค่อยๆ หันไปทางคนงอนที่กำลังนั่งหน้าง้ำกอดตุ๊กตาควายอยู่บนโซฟา ‘ปากเป็ดได้อีก’ พี่โชขำ แต่ผมไม่ขำเว้ย ‘เดี๋ยวจะทำให้หายงอนให้ดู’ พูดจบก็วางกล้องไว้แล้วเดินไปสะกิดคนงอน บอกจะพาไปกินปิ้งย่างแทนชาบู แค่นั้นไอ้คนอ้วนก็หายงอน

   ทำไมผมแม่งเห็นแก่กินจังวะ

   แม้ภายในห้องสูทของโรงแรมนี้จะมืด แต่แสงที่ลอดผ่านใต้ประตูก็ทำให้พอรู้เส้นทางและการเคลื่อนไหว ซึ่งตอนนี้ผมว่าผมกำลังนั่งอยู่ในห้องเพียงลำพังอย่างแน่นอน ว่าแต่ ใครเป็นคนเปิดคลิปนี้...หรือพี่โช?? แค่คิดน้ำตาก็พาลจะไหลออกมาอีกรอบ จนความสนใจถูกดึงไปอยู่ที่หน้าจอบนเวทีอีกรอบ เมื่อมีคลิปวีดีโอถูกเปิดอีก

   ก็แล้วทำไมไม่เปิดรวดเดียวให้จบฟะ ดึงอารมณ์กันอยู่ได้

   ‘มีเด็กงอแงอีกแล้ว’ เสียงนุ่มทุ้มกระซิบเบาๆ ก่อนเจ้าตัวจะวางกล้องไว้ในมุมที่สามารถมองเห็นทั้งผมและคนถ่าย หากจำไม่ผิด ผมว่าคลิปนี้มันไม่ดีต่อผมแน่นอน ‘ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อย’
 
   ‘พี่โชไปตั้งเป็นปีนี่นา กลับมาลืมหน้ากลอยแล้วมั้ง’ นั่นไง ผมยังจำได้ทุกคำที่พูด

   ‘ใครจะไปลืมได้ลง หน้าแบบนี้มีอยู่คนเดียวในโลก’
 
   ‘หล่อใช่ป่ะ’

   ‘หน้าด้านต่างหาก’ คนด่าผมหัวเราะร่วน ก่อนจะดึงหน้าผมเข้าไปฟัดแก้มซ้ายที ขวาที ‘ด้านไหนก็นุ่ม ด้านไหนก็น่าหอมไปหมด’
 
   ‘มุกนี้ผ่าน’
 
   แล้วเสียงก็หายไปเหลือเพียงแค่ภาพเคลื่อนไหวตอนผมออดอ้อน จำได้ว่าเหตุการณ์นี้น่าจะเป็นช่วงก่อนพี่โชกลับไปเรียน ใช่ครับ คลิปพวกนี้ผมถูกแอบถ่ายตอนพี่โชกลับมาวันผมเรียนจบ แต่ที่สงสัยคือ ทำไมผมถึงไม่รู้ตัวสักนิด อาจจะเห็นแต่ไม่ได้สนใจ คิดว่าพี่โชแค่สนใจกล้อง เช็ด ทำความสะอาดอย่างทุกที ที่ไหนได้ แอบถ่ายกันนี่เอง (ที่จริงหลังจากออดอ้อนมันมีอะไรมากกว่านั้น แต่คงถูกตัดออกไปโดยฝีมือคนถ่าย แหงล่ะ เปิดได้ก็บ้าแล้ว ยิ่งกว่าสามสิบบวกๆๆๆ อีก)

   จากคลิปออเซาะหวานแหววผ่านไป วีดีโอตรงหน้าก็กลายเป็นภาพสถานที่ท่องเที่ยวพร้อมวันที่เดินทางในต่างช่วงเวลา ก่อนตัดกลับมาที่โต๊ะไม้สีน้ำตาล บนโต๊ะมีสมุดบันทึกวางอยู่ แล้วหน้ากระดาษก็ถูกมือขาวพลิกทีละหน้า แม้จะเห็นแค่ผ่านๆ แต่ก็รู้ว่าเป็นเรื่องราวที่เขียนถึงผม บางหน้ามีรูปวาดประกอบคำบรรยายด้วย และพอถึงหน้าสุดท้าย มือขาวๆ นั่นก็หยิบปากกาขึ้นมาเขียน

   ‘คิดถึง’

   เสียงพูดของเจ้าของลายมือดังก้องห้องจัดงาน ผมลุกพรวดพลางหรี่ตามองรอบห้องที่แสนมืดมิด จนเห็นเงาลางๆ กำลังเคลื่อนไหวบนเวที เพียงแค่นั้นก็ทำใจเต้นแรงยิ่งกว่าลุ้นหวยรางวัลที่หนึ่งเสียอีก

   “พี่...จอม” ทันทีที่มีไฟสปอร์ตไลค์สาดไป ผมถึงกับยืนนิ่ง พี่จอมมองตรงมาพลางหัวเราะยามที่เห็นผมทำหน้าตาผิดหวัง

   “ดูทำหน้าเข้า กูไม่ใช่ขี้นะเว้ย” พี่จอมขำ แต่ผมไม่ขำด้วยหรอก “ผิดหวังล่ะสิ ที่เป็นกูมายืนตรงนี้แทน”

   “ไม่เลย” ตอบเสียงสูงไปหน่อย แต่มันก็เป็นเสียงปกติของผมอยู่แล้ว (เหรอวะ)

   “เพื่อนรักกูฝากมาให้” ผมมองสมุดเล่มที่เห็นในวีดีโอเมื่อกี้อยู่ในมือของพี่จอม “แล้วก็ มันมีอะไรมาบอก” พูดจบ พี่จอมก็ขยับไปยืนด้านข้าง ก่อนหน้าจอจะปรากฏวีดีโอที่มีพี่โชนั่งปลายเตียง ใบหน้ายิ้มแย้มจนผมต้องเผลอยิ้มตามอีก

   ‘สวัสดีน้องกลอย’ คนพูดดูขัดเขินจนผมเบ้ปากอย่างหมั่นไส้ แต่ในใจก็คิดถึงแหละ คิดถึงมากด้วย ‘ตอนนี้กำลังเขินอยู่ใช่ไหม พี่ก็เขินว่ะ รู้สึกเหมือนกลับไปจีบใหม่ๆ เลย’ เอ้า ผมเพิ่งรู้ว่าตอนจีบผมใหม่ๆ พี่โชแม่งเขิน เห็นพี่แกโหดและชอบบังคับอย่างเดียว ‘พี่ขอโทษนะ ที่ไม่ได้โทรหา พี่ยุ่งเรื่องเรียนจริงๆ แต่กลอยรู้ใช่ไหม ว่าพี่คิดถึงกลอยทุกวัน’ ผมพยักหน้ารัวๆ พลางยกมือปาดน้ำตาที่จู่ๆ ก็ไหลออกมาซะอย่างนั้น ‘กลอยคิดถึงพี่ไหม’

   “คิดถึง” แม้รู้ว่าพี่โชไม่ได้ยิน แต่ผมก็พูดออกมา

   “อะไรนะ” เสียงถามซ้ำระหว่างที่ปาดน้ำตา

   “บอกว่าคิดถึง!” ตะโกนตอบไป แล้วก็นึกแปลกใจ วีดีโอมันถามกลับได้ด้วยเหรอวะ? หรืออัดทิ้งไว้เพราะรู้ล่วงหน้า แต่จะบ้าหรือเปล่า ไม่ใช่หรอกมั้ง

   “ดีใจจัง”

   แล้วความขัดแย้งภายในสมองก็ค่อยๆ คลี่คลาย เมื่อมีเสียงคล้ายกระซิบแต่ดังชัดเจนที่ข้างหู ผมหมุนตัวกลับหลังหันไป คนที่นั่งยิ้มอยู่ในวีดีโอเมื่อครู่ กำลังมายืนตรงหน้า ใบหน้า ทรงผม หรือแม้แต่เสื้อผ้ายังเหมือนกันเป๊ะ

   “พี่โชออกมาจากวีดีโอเหมือนหนังทวิภพเหรอ” คงเพราะสมองตื้อๆ เลยหลุดถามแบบโง่ๆ พี่โชหัวเราะร่วน แต่สายตาอบอุ่นยังคงจ้องมองผม

   “ดูละครมากไปนะเราเนี่ย” ถูกเคาะหน้าผากไปที แต่ก็ทำให้รู้ว่า คนที่ยืนตรงหน้า ไม่ได้ออกมาจากความฝันหรือในวีดีโอแต่อย่างใด

   “ไหนพี่บอกจะกลับมาเดือนหน้าไง” ถามตามความสงสัย ข้อความที่ได้เมื่อต้นเดือนเป็นแบบนั้น

   “ก็คิดถึง รอเดือนหน้าไม่ไหว”

   “เลี่ยนว่ะ”

   “แล้วไม่ชอบ?”

   “ชอบ ชอบมาก ชอบที่สุด โคตรชอบเลย”

   ถึงเวลานี้ มันไม่มีคำอื่นใดในสมองที่คิดได้ ผมกระโดดเกาะตัวพี่โชเอาไว้ ใช้ขาเกี่ยวเอวเหมือนเด็กชอบทำ คนอุ้มตกใจในคราแรก ก่อนจะกระชับกอดตัวผมไว้ไม่ให้ตกพื้น ตอนนี้น้ำตาลูกผู้ชายกำลังไหลอาบบ่าของพี่โชจนเสื้อเปียกเป็นวงกว้าง

   “นั่นมันลิงหรือปลิงวะ” เสียงพูดคุยดังจากหน้าประตูทางเข้า เรียกสายตาผมให้มองไป เพิ่งสังเกตว่าตอนนี้ไฟในห้องถูกเปิดแล้ว และมีคนนับสิบยืนอออยู่ที่ประตูทุกด้าน

   “ตัวประกอบอย่างพวกเราเข้าไปได้หรือยังวะ” พี่แทมแน่นอน เสียงแบบนี้

   “นั่นสิ กูยืนจนน่องปูดแล้วเนี่ย” พี่ตินรีบเสริม

   “น่องมึงมันปูดอยู่แล้ว” แต่ดันถูกพี่เบขัด

   “กูเปรียบเทียบไอ้สัด” จนต้องรีบซัดกลับแบบรวดเร็ว

   ผมรูดตัวลงจากตัวพี่โชมายืนอยู่ข้างๆ ตอนนี้ทุกคนเดินเข้ามายืนล้อมตัวผมกับพี่โช ก่อนทุกคนจะดึงพลุกระดาษเสียงดังสนั่นห้องจนผมกระโดดตัวลอยด้วยความตกใจ แม้ใบหน้าทุกคนจะดูเอือมๆ กับความรักของคู่ผมก็ตาม สงสัยจะถูกพี่โชบังคับมาแน่นอน

   “ทำไมกูต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย” พี่จอมบ่นออกมาคนแรก

   “เพื่อความรักของเพื่อน ทำให้ไม่ได้เหรอ” ผมแกล้งแหย่ เลยโดนฝ่าตีนเข้าเต็มก้นจนตัวเซ ดีที่พี่โชรับไว้ทันก่อนก้นผมจะจูบพื้น “พวกพี่ทุกคนรู้เรื่องนี้หมดเลยเหรอ พวกมึงด้วยเหรอไอ้ทู” พอโดนถีบ สมองถึงได้แล่น ผมปรายตาไล่มองทุกคนที่ยืนล้อมอยู่ “พี่โชจ้างบริษัทผมจัดงานนี้เหรอ” สุดท้ายก็จ้องไปยังคนน่าจะเป็นต้นเรื่อง คนถูกจ้องเลยพยักหน้าอย่างจำนน “จ้างทำไม เปลืองเงิน”

   “ผัวมึงรวย จำไม่ได้เหรอ แค่นี้ขน...หน้าแข้งไม่ร่วงหรอก” แทบกลั้นหายใจรอฟังประโยคเต็มของพี่แทม

   “ไม่เจอนาน พี่ยังพูดจา...เหมือนเดิมเลยนะครับ”

   “มึงด่ากูว่าเหี้ยเลยเถอะไอ้ม่าน พูดมาขนาดนั้นแล้ว”

   ผมนี่ปรบมือให้กับเพื่อนสนิทเลยครับ ไอ้ม่านรีบยกมือไหว้ขอโทษ แต่หน้ามันก็ยิ้ม ส่วนคนอื่นๆ ไม่เหลือ...หัวเราะไม่เหลือ ว่าแต่ พวกพี่ๆ ทีมงานหายไปไหนวะ

   “มองหาใคร” เสียงนิ่งๆ ของพี่โชทำให้ผมรีบยิ้มประจบ

   “ก็พี่ที่บริษัทกลอยไง หายไปไหนหมดไม่รู้”

   “อยู่ข้างนอก” เสียงเย็นได้อีกครับพี่ “เห็นนะ ไอ้หนวดนั่นนั่งมองกลอยตอนหลับ”

   “ไอ้หนวดไหน พี่โชมั่ว เดี๋ยวสิ พี่โชแอบดูอยู่นานแล้วเหรอ”

   “ก็ตั้งแต่แรก”

   “กลับมาไม่บอกเลยนะ”

   “ก็อยากเซอไพรส์ไง ไม่ชอบเหรอ”

   “ชอบ แต่เปลือง เอาเงินไปซื้อ...”

        “ชาบู หมูกระทะ ปิ้งย่างกินจะดีกว่า!!” 

        ยังพูดไม่ทันจบประโยค ทุกคนก็พูดต่อท้ายให้เฉย

   “ทำไมทุกคนรู้ทัน” ว่าอย่างเขินๆ จนพี่โชดึงไปหอมแก้มหลายฟอด “ว่าแต่ งานนี้ไม่เห็นมีอะไรเลยอะ มีแค่ดอกไม้”

   “งานจริงมีพรุ่งนี้ต่างหาก” พี่โชพูดจบไม่นาน พวกพี่ๆ ที่บริษัทก็เดินเข้ามา มีพนักงานของโรงแรมเริ่มจัดโต๊ะ เก้าอี้ ปูผ้าเหมือนห้องจัดเลี้ยงทั่วๆ ไป “พรุ่งนี้วันเกิดแม่พี่ พ่อเลยจะจัดงานให้ พี่เลยบอกให้จ้างบริษัทที่กลอยทำมาถ่ายวีดีโองานพรุ่งนี้”

   “พี่โชเลยใช้โอกาสนี้จัดเซอร์ไพรส์กลอยโดยไม่ต้องออกเงินว่างั้น?” เกือบซึ้งละ ไอ้กลอยเกือบตื้นตันแล้ว พี่โชยิ้มอ่อนพยักหน้าออกมาอย่างเสียมิได้ “คนเรานี่นะ...”

   “รู้เรื่องแล้วใช่ไหม งั้นแยกย้ายได้ยัง กูอยากไปร้องคาราโอเกะแล้วเนี่ย” พี่แทมโวยวายทำเอาผมหันไปมอง “งานฟรี กินไม่อั้นแบบนี้กูชอบ ยิ่งมีให้กูโชว์ลูกคอด้วยยิ่งชอบ”

   “ผมขอไม่ฟังพี่ร้องได้ป่ะ” ไอ้อัธรีบออกตัวจนโดนพี่แทมล็อคคอออกจากห้องไปปรับทัศนคติ

   “เชี่ยเอ้ย กูอยากกินยำปูม้า ร้านจะมีไหมวะ” ก่อนพี่จอมจะเดินหน้านิ่วคิดหาเมนูที่อยากกิน มีพี่ซันส่ายหน้าอย่างเอือมๆ ตามหลัง รวมทั้งคนอื่นๆ ก็ทยอยเดินตามออกไป
 
   “นี่เราจะจบกันแบบนี้เหรอ” ผมถาม ท่ามกลางพนักงานของโรงแรมที่กำลังจัดห้องอย่างขมักเขม่น รวมทั้งพี่ๆ ที่บริษัทผมกำลังเตรียมงานสำหรับพรุ่งนี้ “ว่าไงพี่โช”

   “ก็ตามใจกลอย อยากจบแบบไหน พี่ตามใจหมดแหละ”

   “งั้น...ยังไม่จบดีกว่า ไม่อยากจบอะ ได้ไหม” กระโดดขึ้นหลังพี่โช ความอุ่นแบบนี้ ความหอมที่ชอบ นานแล้วที่ไม่ได้สัมผัส “กลอยรักพี่โชนะ” กระซิบข้างๆ หู ไม่เห็นว่าพี่โชทำหน้ายังไง แต่เห็นแก้มขยับคงจะยิ้มอยู่แน่นอน
 
   “บอกบ่อยๆ พี่ชอบ” เสียงนุ่มตอบกลับยิ่งทำให้ผมยิ้มกว้าง “ต้องขุนให้อ้วนแบบเดิม แบบนี้ผอมไป จับไม่เต็มมือเลย” ไม่เต็มมือที่ว่าคงจะเป็นก้นผมละมั้ง เนี่ย ไม่เจอกันนานยังหื่นเหมือนเดิม

   “พี่โชจะไม่กลับไปแล้วจริงๆ ใช่ไหม ไม่ได้กลับมาแปบๆ แล้วกลับไปใช่ไหม”

   “พี่จะอยู่กับกลอยทุกวัน ทุกคืนเลย จะไม่ไปไหนอีก”

   “ขี้โม้ป่ะเนี่ย”

   “พี่เคยขี้โม้เหรอ”

   “บ่อยไป”

   “ใส่ร้ายว่ะ”

   “ใส่รักต่างหาก”

   “พูดดี น่าให้รางวัล”

   “ขอแพงๆ ได้ไหม”

   “หัวใจพี่ แพงพอไหม”

   “ทำไมเลี่ยนจัง ไปอยู่นู้นกินเนย กินชีสเยอะใช่ไหม”

   “คิดถึงกับข้าวอร่อยๆ ฝีมือกลอยมาก อยากกินไข่เจียวหมูสับหอมๆ ผัดผักบุ้งไฟแดงสูตรเกรียน ยำทะเลรวมเปรี้ยวๆ”

   “กลอยจะทำให้พี่โชกินทุกอย่างที่พี่อยากกินเลย น่ารักป่ะ”

   “มาก”

   “พูดดี น่าให้รางวัล”

   “เลียนแบบพี่นี่นา”

   “ไม่ได้เหรอ”

   “สำหรับกลอย ได้ทุกเรื่อง”

   ผมยื่นหน้าไปหอมแก้มพี่โชเป็นรางวัล โดยคนที่อุ้มหัวเราะร่าเพราะหอมคืนไม่ได้

   “พวกมึงจะอ้อล้อจีบกันอีกนานไหม พวกกูหิวแล้ว”

   สวีทหวานกันจนลืมว่ามีคนรอ พี่โชยกเท้าขึ้นใส่ แต่ทุกคนไม่สนใจ ยังทำหน้าทำตาเหม็นเบื่อใส่พวกผมอีก พวกขี้อิจฉาก็งี้แหละ

   “มึงไม่มีตีนเดินเหรอ เกาะเพื่อนกูจัง”

   “ผมเกาะพี่โช ไม่ได้เกาะพี่จอมสักหน่อย เดือดร้อนทำไม เนอะ”

   “กูว่า กูคงได้ฆ่าไอ้เกรียนก็วันนี้แหละ”

   “พี่โช เพื่อนพี่จะทำร้ายกลอย”

   “นี่พวกมึงอายุกี่ขวบวะเนี่ย โวยวายหนวกหู”

   “แต่ผมว่า พี่วอร์มเสียงหนวกหูกว่านะ อูย”

   “ไอ้ม่าน มึงวอนโดนตีนกูตั้งแต่เมื่อกี้ละ มานี่เลย ผัวมึงก็ช่วยไม่ได้ มานี่”

   ผมเกาะหลังพี่โชหัวเราะเพื่อนสนิทที่ถูกพี่แทมวิ่งไล่ แม้มันพยายามใช้ตัวแฟนเด็กเป็นเกาะกำบัง แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ในเมื่อไอ้เม่นเอาแต่ขำ ก็นะ เห็นไปกินเหล้ากับแก๊งพี่แทมเกือบทุกวัน สนิทกันถึงขั้นนั้นไปแล้ว

   “กลอยว่า เรากลับไปทำข้าวไข่เจียวที่ห้องดีกว่าไหม” กระซิบข้างหูพี่โชในช่วงที่ทุกคนโวยวาย พี่โชพยักหน้าเห็นด้วยพลางพาผมย่องหนีออกไปจากความวุ่นวาย

   “กะเพราทะเลด้วยนะ พี่อยากกิน”

   “จะทำทุกอย่างที่พี่โชอยากกินเลย”

   “ท้องร้องแล้ว”

   “รีบเดินเลย ไปเร็ว โกๆ”

   หลายคนเคยบอกว่า ความรักมักจะสวยงามแค่ตอนเริ่มต้น ผมว่ามันก็จริง แต่ช่วงสำคัญที่ควรใส่ใจน่าเป็นตอนกลางของเรื่อง นั่นคือความเข้าใจ เมื่อใดที่ความรักค่อยๆ ลดลง ความเข้าใจและความอดทนนั้นจะพาเราประคับประคองความรักให้ไปต่อได้ ซึ่งแน่นอนไม่มีใครรู้จุดสิ้นสุดว่าอยู่ตรงไหน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากลางทางเราจะเจอพายุ เจอเรื่องร้ายแรงอะไรบ้างที่ทำให้หวั่นไหว แต่ที่แน่ๆ ตอนกลางเรื่องผมกับพี่โช เรายังจับมือกันอยู่ และเราเริ่มเรียนรู้ที่จะผ่อนแรงบ้างในบางเวลาที่เมื่อย เพื่อไม่ให้มืออีกคู่อึดอัด ส่วนปลายทางความรักนั้นให้มันเป็นเรื่องของอนาคต อาจจะสั้นหรือยาวก็ตาม เพียงแค่วันนี้มือเรายังจับมือกัน เรายังเดินข้างกัน เพียงแค่เท่านั้นก็พอ...




   ……

   บทส่งท้าย


   “อร่อยไหม” ถามด้วยความตื่นเต้น เพราะตั้งแต่ทำงานก็ไม่มีเวลาทำอาหารเลย ส่วนใหญ่จะซื้อแบบสำเร็จรูปมากินมากกว่า “พี่โชอย่าทำนิ่งสิ อร่อยไหม”

   “อร่อย...แต่น้อยกว่าตัวกลอยนะ”

   “เวลากินข้าว อย่าหื่นครับปีศาจ”

   ผมถลึงตาใส่พี่โชที่ไม่รู้ไปเก็บกดมาจากไหน สามวันมาแล้วกับการที่ผมกินๆ นอนๆ ไม่ได้ออกไปข้างนอก แต่เดี๋ยวนะ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด ผมไม่ได้ถูกจับกินตับทั้งวัน ทั้งคืนแบบที่ทุกคนเข้าใจ ที่บอกไม่ได้ออกไปไหนก็เพราะความขี้เกียจนั่นเอง อีกทั้งความเหนื่อยสะสม ทำให้คืนแรกที่พี่โชกลับมา แล้วเราอยู่ในช่วงเข้าด้ายเข้าเข็มกับท่าล่อแหลมบนเตียง โดนปลุกปั่นในเตลิดอยู่ๆ ดี สติผมชัตดาวน์โดยไม่รู้ตัว อาจเพราะไม่ได้นอนติดๆ กันนานเลยสติหลุดง่าย และพอตื่นเช้ามาก็โดนทบดอกไปแบบเถียงไม่ได้ (อยากเถียงแต่ปากไม่ว่างเลยนี่สิครับ)

   ส่วนเรื่องงานที่เป็นกังวลนั้น เพิ่งมารู้วันที่สอง ว่าพี่โชแอบไปคุยกับพี่รหัสผม ว่าถ้าเขากลับมา ผมจะออกทันที ไม่รู้ว่าเอาเวลาไหนไปตกลงกัน ที่แน่ๆ โดนผมงอนไปหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ ที่ทำอะไรไม่ปรึกษา แต่ก็ต้องยอมรับในเมื่อผมเคยรับปากเรื่องงานไปแบบนั้นจริงๆ ว่าหากพี่โชกลับมาก็จะออก แม้จะรู้สึกผิดมากแต่ก็ต้องรับผิดชอบคำพูด ส่วนงานที่ค้างไว้ผมจะขอทำให้เสร็จก่อน ไม่อยากโดนตราหน้าว่าทิ้งงานและไม่มีความรับผิดชอบ

   “มองอะไร” ถลึงตาใส่อีกรอบ หลังจากหันไปมอง พี่โชไม่ตอบ แต่ยื่นมือมาจับก้นผมแทน “กินข้าวสิ ไหนบ่นว่าอยากกินกะเพราไง”

   “ทำไมดุจัง อ่อนโยนกับพี่เหมือนเมื่อคืนหน่อยสิครับ” ทำเสียงเล็กเสียงน้อย คิดเหรอว่าไอ้กลอยจะหลงกล

   “ไม่ต้องพูดมาก เดี๋ยวตีนะ ห้ามอมข้าวด้วย” ชี้นิ้วสั่ง แต่พี่โชกลับหัวเราะออกมา

   “ไม่อมข้าว แต่อมอย่างอื่นแทนได้ป่ะ”

   “ตีนเหรอ เชี่ย” กวนมากไปเลยถูกช้อนเคาะหน้าผากไปที

   “กวนตีนเก่งขึ้นนะ พี่ไม่อยู่แปบเดียวเนี่ย”

   “คนเราน่ะนะ เวลาเปลี่ยน มันก็ต้องมีอะไรเปลี่ยนกันบ้าง”

   “แต่ทำไมพี่ยังรักกลอยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนล่ะ”

   หันไปโก่งคออ้วกเพราะเลี่ยนกับประโยคนั่น พี่โชหลุดขำออกมาสงสัยจะทนสิ่งที่ตัวเองพูดไม่ไหวเหมือนกัน

   “กินข้าวให้หมดนะ กลอยตั้งใจทำให้พี่โดยเฉพาะ ใส่หมูเยอะมากด้วย”

   “พี่ก็อยากกินแบบตั้งใจเหมือนกัน แต่กลอยทำให้พี่กินช้า”

   “กลอยไม่ได้ทำอะไรเลยนะ พี่แหละ กินช้าเอง”

   “ทำสิ”

   “ทำอะไร”

   “ก็กลอยเล่นแต่งตัวแบบนี้ พี่จะกินข้าวลงได้ยังไง”

   หลังพี่โชพูดจบ ผมก็ก้มมองตัวเอง ก็แค่ทั้งตัวสวมแต่เสื้อเชิ้ตสีขาวยาวคลุมกางเกงใน มันก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติสักนิด ก็ใครล่ะ บ่นหิวๆ จนผมรีบไม่มีเวลาใส่กางเกง

   “ไม่เห็นมีอะไรเลย”

   “มีสิ ยิ่งมาก้มๆ เงยๆ โชว์อก โชว์ก้นแบบนี้ ใครจะไปกินข้าวลงวะ”

   “ทีพี่โชเดินโทงๆ ไม่ใส่อะไรมานั่งกินข้าวเนี่ย กลอยยังไม่บ่นเลยนะ” เริ่มถอยครับ คนบ่นลุกขึ้นยืนโชว์อกล่ำๆ ท้องเป็นลอนกับ...ขายาวๆ ที่ก้าวเดินเข้ามาหาผมอีก “ถ้าไม่กิน พรุ่งนี้ไม่ทำไข่เจียวโคตรปูให้กินนะ”

   “ไม่เป็นไร เพราะพี่กินไข่เมียแทนได้”

   แล้วตัวผมก็ถูกปีศาจหน้าเหี้ยมตะครุบลากเข้าห้อง ทั้งที่เพิ่งออกจากห้องมาทำอาหารไม่ถึงชั่วโมงดีด้วยซ้ำ แต่นั่นก็ทำให้รู้ว่า เราคิดถึงกันมาก ทั้งผมและพี่โชต่างก็โหยหาอ้อมกอดของกันและกัน การห่างกันเป็นปีๆ มันทำให้รู้ว่า เรารักกันมาก แม้ช่วงแรกจะต้องใช้ความเข้าใจ ความไว้ใจ ก้าวข้ามความระแวงมากสักหน่อย แต่พอผ่านมาได้ก็ถือว่าคุ้ม

   เพราะอ้อมกอดของพี่โช...เป็นของผม

   และอ้อมกอดของผม...ก็เป็นของพี่โชเพียงคนเดียว


   ...รักพี่โช (วงเล็บใส่หัวใจดวงโตๆ) ... จากกลอยประเกรียนสุดหล่อแม่นเว่อร์



...... THE END .......


รู้สึกใจหายจริงๆ ที่เห็นคำว่า The End จากปี 59 จนมาถึง 62 กลอยประเกรียนกับพี่โชเดินทางมาไกลมากจริงๆ ค่ะ
แน่ๆ เลย เรื่องนี้จะเดินทางมาถึงภาค 2 ไม่ได้ หากขาดทุกคน ขอบคุณมากๆ เลยนะคะที่อยู่ข้างๆ กัน เป็นกำลังใจให้กัน
ทุกคนเป็นคนผลักดันให้นักเขียนตัวอ้วนๆ มีแรงฮึดในยามที่รู้สึกท้อใจ ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ แม้บางครั้งจะมาๆ หายๆ ไปบ้าง
แต่ทุกคนก็ยังรอ ยังคอยแวะเวียนมาพูดคุย ขอบคุณจริงๆ ค่ะ รักทุกคน เราจะพยายามพัฒนาตัวเอง
พัฒนางานเขียนในดีมากกว่านี้ หากมีตรงไหนผิดพลาดหรือไม่เป็นดังหวัง ต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยค่า จะเดินต่อให้แข็งแกร่ง
เพื่อให้ไม่ทุกคนผิดหวัง .... ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาตลอดค่า ขอบคุณที่รักกลอยประเกรียนสุดหล่อแม่นเว่อร์ ขอบคุณที่รักพี่โช
ขอบคุณที่รักเดอะแก๊ง หวังว่าเรื่องนี้จะทำให้ทุกคนยิ้มได้ในเวลาที่รู้สึกเครียด

...รักกกกกก...

...aiaea...

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
ใจหายไม่อยากให้จบเลย เราคงคิดถึงกลอยปะเกรียนกับเดอะแกงค์มากแน่เลย แต่ก็ยินดีด้วยที่ทุกคนมีความสุข แล้วก็ขอบคุณคุณนักเขียนที่ทำให้เรายิ้มได้ทุกตอนและทุกเรื่องที่ได้อ่าน เป็นกำลังใจให้กับเรื่องต่อ ๆ ไปนะคะ  :L2: :L2: :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ใจหาย...ตามมาตั้งแต่แรก
    รักเน้อ...อออออออออออออ     :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
รักมากกกกกก

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
หวานปนหื่นตลอดๆ

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
น่ารักมากๆๆ  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
เสียดายมากที่จบซะแล้ว คงคิดถึงกลอยประเกรียนแน่เลย
ขอบคุณที่เขียนนิยายดีๆให้อ่านนะคะ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
 :mew6: จบแล้ว เสียดายจังเลยค่ะ คิดถึงโชกลอยอีกแน่

เอ็นดูกลอยหนักมาก เพื่องานคือทุ่มเทสุดไรสุด ผอมหนัก
แล้วก็ยังเด๋อเหมือนเดิม ความอยากรู้ก็ยังมีเยอะ
ความเกรียนก็ไม่เคยหาย ไม่ได้ลดลงด้วย

โชเซอร์ไพรส์ได้เวอร์วังมากจ้า ชอบสินะ ทำให้น้องตื่นเต้นน่ะ
ก็ทำไงได้เนาะ รักมาก ห่วงมาก หวงมากด้วย แค่นี้เอง ทำได้อยู่แล้ว
แต่ใช้สถานที่งานได้คุ้มนะคะ ทำเนียนมากและทำดีมาก

ไม่โดนตามเนาะ ตอนหนีกลับไปสวีทกันสองคน
ชอบความบ่นง้องแง้งของกลอย แต่ยอมพี่ตลอด
ชอบความฟัดหนักมือมากของโช คือคิดถึงมาก ห้ามยาก

ขอบคุณมากนะคะ ที่มีภาคสองมาให้อ่านหลายตอนเลย
เราชอบมากค่ะ อินตลอดทุกตอนที่อ่าน
ส่งกำลังใจให้คนเขียนนะคะ รอเรื่องต่อไปจ้า

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ TuEyyy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
พี่โช กับ น้องกลอยน่ารักที่สุด  :-[ :-[

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
พี่โชมีมาเซอร์ไพร์สกลอยด้วยน่ารัก  หลังจากนั้นคือโดนปีศาจจับกินยาวไป555 มีความสุขเนอะกลอย ไม่อยากให้จบเลย ขอบคุณค่ะรอเรื่องต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :L1: :pig4:

ตีสองตีสามนั่งอ่านไปขำไป ตลกแต่ละมุกกับแต่ละคน :m20:
ขอบคุณมากมายสำหรับเรื่องสนุกๆ

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
เพราะนายคือของฉัน [ll] : ตอนพิเศษ ปีศาจขี้หึง




        กลางดึกที่แสนเงียบสงัด เสียงโทรศัพท์ปลุกผมให้ตื่นจากนิทรา แม้จะมีเสียงบ่นจากคนที่นอนข้างๆ ไปบ้าง แต่ก็ต้องรับ แสงหน้าจอทำให้ต้องหรี่ตาดู แต่สายตาดันพร่ามัวเลยกดรับทั้งที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร

   “ใคร” กรอกเสียงแหบๆ ไป

   (พี่เอง) คำตอบที่ได้ ไม่ได้กระจ่างในความคิดเลย

   “พี่เองไหนวะ”

   (พี่โอ๊ตเอง)

   “โอ๊ตไหน ไม่มีพี่ชื่อโอ๊ต” จะว่ากวนตีนก็คงไม่ใช่ ความง่วงทำให้สมองผม ไม่รับรู้และไม่นึกคิดอะไรสักอย่าง “แค่นี้นะ ไม่รู้จัก”

   (ลืมพี่ไปแล้วเหรอ พี่โอ๊ตจากเชียงใหม่ไง น้องกลอยใจร้ายจัง) น้ำเสียงดูเง้างอด แต่ตอนนี้ผมง่วงมากกว่า (ที่บ้านพ่อของกลอย พี่โอ๊ตที่หล่อๆ ผิวขาวๆ)

   “จากบ้านพ่อเหรอ...เชี่ย” สะดุ้งลุกขึ้นมานั่ง พี่โชถึงกับหันหลังหนีเสียง ผมนั่งกระพริบตาปริบๆ ก่อนดึงหน้าจอมาดูชื่อ แล้วเอากลับไปแนบแก้มแบบเดิม “พี่โทรมาทำไมดึกดื่นแบบนี้เนี่ย” จำหน้าได้แล้วครับ อวยตัวเองเก่งใช่ย่อยพี่คนนี้

   (พี่เพิ่งลงเครื่องมา แล้วนึกถึงกลอยพอดี) ปลายสายมีเสียงพูดคุยดังแทรกเป็นระยะ แต่ที่ชัดสุดคงเป็นเสียงเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องละมั้ง

   “พี่อยู่สนามบินเหรอ ไปเที่ยวที่ไหน” ผมขยับตัวเอนหลังพิงหัวเตียง พี่โชก็ค่อยๆ ขยับเอาศีรษะมาซบตรงหัวไหล่ของผม ขี้เซาเกินไปแล้ว “อย่าลืมของฝาก”

   (ไม่ลืมหรอก พี่เอาของฝากจากเชียงใหม่มาให้กลอยด้วยนะ)

   “ดีๆ แต่เดี๋ยว ของฝากจากเชียงใหม่เหรอ? พี่อยู่ที่ไหน”

   (อยู่จังหวัดเดียวกับกลอยนี่แหละ พอดีพี่มาอบรม)

   “แล้วพี่จะมาหากลอยเหรอ?” แค่หลุดการเรียกแทนตัวเองด้วยชื่อ เสียงกระแอมก็ดังขึ้น แม้คนส่งเสียงจะหลับตาทำเป็นหลับ

   (ถ้าพี่อบรมเสร็จจะโทรหาอีกทีนะ จะได้เอาของที่ย่าฝากมาให้ด้วย)

   “แบบนั้นก็ได้ ถ้าพี่โอ๊ตอบรมเสร็จก็โทรมานะ กลอย เออ ผมจะรอ” ผมนิ่วหน้าเมื่อถูกหยิกเอว

   “วางได้แล้ว กี่โมงกี่ยาม คนจะนอน” พี่โชเอ่ยแทรกขึ้น พี่โอ๊ตถึงกับขำ คงได้ยินละนะ

   (งั้นพี่ไม่รบกวนกลอยแล้ว ฝันดีครับ แล้วเจอกัน)

   “ครับ ไว้เจอกัน อย่าลืมโทรมานะ”

   (ครับ)

   “พี่โชจะหยิกให้ผิวกลอยหลุดเลยเหรอ เจ็บนะเนี่ย” หลังจากวางสายก็ถึงเวลาโวยวาย พี่โชเดี๋ยวก็หยิก เดี๋ยวก็ดึง ถามว่าคนทำสำนึกไหม ก็ไม่ ยังแกล้งนอนหลับไม่รู้เรื่อง แต่ไม่เนียนบอกเลย “พี่โช”

   “ก็ใครใช้ให้พูดแบบสนิทกันมัน ญาติแท้ๆ ก็ไม่ใช่ ไม่ต้องไปอ้อล้อเลยนะ”

   “พี่โชเห็นกลอยชอบอ้อล้อเหรอ”

   “เออสิ ชอบนัก ยิ้มให้คนอื่นไปทั่ว ไม่รู้ตัวเหรอ ว่าเพราะกลอยยิ้มให้ พวกนั้นถึงหวังน่ะฮะ”

   “ยังขี้หึงเหมือนเดิมเลยนะ” ผมขยี้ศีรษะพี่โชจนหัวที่ฟูยุ่งกว่าเดิม ก่อนถูกรวบมือชูไว้

   “ถ้ายังไม่นอนอีก กลอยจะไม่ได้นอนละนะ” ถลึงตาใส่ปีศาจขี้หึงที่กำลังทำตาเจ้าชู้ใส่ ผมรีบหลับตาแล้วไถลตัวลงไปนอนตามเดิม “ก็แค่นี้” เสียงพูดข้างๆ หูทำให้ผมขยับเข้าไปใกล้ ยื่นมือไปกอดรัดด้วยความหมั่นเขี้ยว “น่ารักแบบนี้ ไม่ให้หวงได้ไง”

   พอได้กลิ่นหอมจากตัวพี่โชก็ทำให้ค่อยๆ เคลิ้มแล้วหลับไปอีกครั้ง ผมว่า ผมเสพติดกลิ่นตัวพี่โชแน่ๆ ได้กลิ่นปุ๊บ หลับปั๊บ น่ากลัวจริงๆ กลิ่นของผู้ชายคนนี้





**

   
   หลังจากพี่โอ๊ตโทรมาหาคืนนั้น ก็เงียบหายเป็นอาทิตย์ จนผมคิดว่าเขาอาจจะกลับไปแล้ว แล้ววันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผมอยากนอนเล่นอยู่บนเตียงโง่ๆ แต่ดันมีสายเข้า คนปลายสายคือคนที่ผมรอมาตลอด นี่ให้พี่โชรู้ไม่ได้เลยนะครับว่าผมรอ ไม่งั้นไอ้กลอยโดนเตะแน่

   “ใครโทรมา” นั่นไง แค่คิดยังโผล่มาเลย พี่โชทิ้งตัวนั่งลงบนเตียง ยื่นหน้ามาดูชื่อคนโทรเข้า ก่อนสายตาจะมองผมแบบนิ่ง เอาซะไม่กล้ารับต้องปล่อยให้มันดับไป แต่ก็ดังขึ้นมาอีกรอบ “รับสิ”

   “อืม” เกร็งๆ ที่ถูกจับตามองระยะใกล้ กดรับปุ๊บ ปลายสายก็ทักทายเสียงร่าเริง

   (วันนี้กลอยว่างไหม เพราะพี่จะกลับค่ำนี้แล้ว)

   “ผมคิดว่าพี่โอ๊ตกลับไปแล้วซะอีก เงียบไปเลย”

   (พอดีอบรมเลิกดึกทุกวัน จะโทรหาก็เกรงใจแฟนของกลอย)

   พี่โชถึงกับแสยะยิ้มหลังจากได้ยิน ผมถูกบังคับให้เปิดลำโพง ไม่แปลกหากคนข้างๆ จะได้ยินไปด้วย

   “สักสิบเอ็ดโมงไหม ไปกินข้าวกันที่ห้างxxx พี่โอ๊ตรู้จักป่ะ”

   (ครับ ตามนั้น)

   “ถ้าถึงแล้ว พี่โอ๊ตโทรหาผมด้วยนะ”

   (ครับ เจอกันนะ)

   ผมรีบกดวางสายเมื่อเห็นว่าพี่โชกำลังจะอ้าปากพูด และผมก็คิดถูก เมื่อสิ่งที่พี่โชพูดออกมา มันอาจทำให้มองหน้าอีกฝ่ายไม่ติด

   “ทำไมต้องพูดเสียงอ่อน เสียงหวานด้วยวะ”

   “ก็พูดปกติไหมล่ะ เสียงกลอยก็เป็นแบบนี้”

   “เจอหน้าอย่ายิ้มให้มันเยอะ เอาของฝากก็กลับ”

   “แต่กลอยบอกจะกินข้าวด้วยไง”

   “นั่นไง อ้อล้อ”

   “พี่โช”

   ผมเอาศีรษะดันท้องแข็งๆ ของคนขี้หึง พี่โชตบหัวมาที แม้ไม่แรงมาก แต่ผมสำออยเจ็บหนักจนโดนหนักไปหนึ่งฉาด คนทำจ้องหน้าก่อนหลุดหัวเราะออกมา ตอนเห็นผมหน้างอกุมหัวตัวเอง

   “ไปอาบน้ำแปรงฟันไป เหม็นขี้ฟัน”

   “เหม็นเหรอ กล้าเหม็นกลอยเหรอ”

   ยิ่งพูดก็เหมือนยิ่งยุ ผมจับหน้าพี่โชทำปากจู๋จะเข้าไปจูบ ไปหอม แต่พี่โชใช้ฝ่ามือดันหน้าผมไว้จนแก้มแทบเบี้ยว จะลุกหนีก็ไม่ได้ เพราะผมลดมือลงไปกอด

   “ไอ้กลอย กูถีบนะเว้ย”

   “ไหนบอกรักไง รังเกียจกลอยเหรอ”

   “ถ้าไม่หยุด กูจะเอามึงละนะ”

   ไม่ต้องให้พูดซ้ำเลย ผมหยุดทุกการกระทำ แล้วเดินลงเตียงไปเข้าห้องน้ำอย่างง่ายดาย เพราะพี่โชเป็นคนพูดจริงทำจริง ถ้าเกิดถูกเอาตอนนี้ละก็ เวลาที่นัดพี่โอ๊ตไม่ทันแน่นอน หากเป็นเมื่อก่อนอาจทัน แต่เดี๋ยวนี้ ใช้เวลาเยอะ บอกว่าห่างนาน ความคิดถึงก็เลยเยอะ ผมว่า ไม่ใช่แค่ความคิดถึงที่เยอะหรอก ความหื่นก็เยอะ เผลอๆ อันหลังจะเยอะกว่าอีก

   นอกจากจะเป็นปีศาจขี้หึงแล้ว ยังเป็นปีศาจขี้หื่นอีกด้วย เหมาฉายาไปคนเดียวตั้งสองอัน ไม่ธรรมดา โอ้โห ไม่ธรรมดา (ไชยา ไข่เค็มก็มา แฮ่)



   ใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวไม่นานก็เสร็จ พี่โชเรียบร้อยก่อนนานแล้ว แถมใจดีทำขนมปังทาแยมไว้ให้ด้วย อยู่เมืองนอกคงกินแต่แบบนี้สินะ ไม่เหมือนผม อยู่เมืองไทยกินดีอยู่ดี กินอาหารญี่ปุ่นเป็นประจำ (บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั่นเอง)

   “ทำอะไร เอาอะไรใส่เป๋าเป็ดน่ะ” ระหว่างเก็บของใส่กระเป๋าสะพายลายเป็ด (เพิ่งซักเลยไม่เน่าอย่างที่พี่โชเรียกแรกๆ) ก็ถูกทัก ผมเลยต้องยกของที่เอาใส่ให้ดู “เอาช็อกโกแลตไปทำไม เดี๋ยวก็ละลาย”

   “กลอยจะเอาไปฝากพี่โอ๊ต”

   “แต่นั่น พี่ซื้อมาให้กลอยนะ”

   “อันเดียวเอง นะๆ”

   แม้อีกฝ่ายจะไม่พูดอะไร แต่ก็เหมือนตกลงกลายๆ ผมยิ้มร่าเดินตามหลังพี่โชออกห้อง พอลิฟต์เลื่อนลงไปแค่ชั้นเดียวก็จอด คนเข้ามาเป็นผู้ชายตัวผอมใส่แว่น สูงพอๆ พี่โชเลยด้วยซ้ำ คนๆ นั้นยิ้มส่งมา ผมก็ยิ้มตอบ แต่แค่แปบเดียวก็มีแขนยาวพาดบ่าของผมตามด้วยฝ่ามือใหญ่ๆ กดปิดปาก พร้อมทั้งออกแรงดันหน้าผมให้หันเข้าไปหา นี่ถ้าปากไม่ถูกปิด ผมคงร้องเพลงพี่ก็อตแล้ว

   ปิดปากคุณได้ ก็จะปิดปาก เดี๋ยวคุณรับฝาก ความรักจากใคร ปิดจมูกไม่ให้ได้กลิ่น ปิดหูไม่ให้ได้ยินเสียงใคร (เฉียบ! งานลูกคอเน้นๆ ครับ)


   ระหว่างการเดินทางที่แสนจะติดขัด ผมแทบอยากหาอะไรอุดหู เมื่อพี่โชเล่นบ่นๆๆๆ จนผมจำเรื่องที่บ่นเรื่องแรกไม่ได้ ไม่น่าเชื่อ ว่าพี่แกจะบ่นเก่งขนาดนี้ เมื่อก่อนไม่มาก ตอนนี้ไม่รู้สรรหาอะไรมาบ่น สงสัยอายุมากขึ้น เลยขี้บ่น ไม่นานเราก็มาถึงห้างสรรพสินค้าที่นัด ผมโทรหาพี่โอ๊ต รอสายไม่นานก็มีเสียงตอบกลับบอกว่าใกล้ถึง ผมเลยบอกจะรอแถวๆ ร้านไอศกรีม

   “เอาแบบโคนครับ” สั่งเสร็จก็แบมือขอเงินจากคนข้างๆ พี่โชขำขึ้นจมูกก่อนยื่นแบงค์สีแดงมาให้ “พี่โชไม่เอาเหรอ” ถามขณะรอพนักงานบีบไอศกรีมใส่โคน

   “รอแย่งกลอยกิน” ดีจริงคนเรา พอได้ไอศกรีมมาผมก็รีบเลียมันทุกด้าน พี่โชกระพริบตาปริบๆ มอง ก่อนปล่อยเสียงหัวเราะออกมา “อายเด็กบ้าง เลอะเต็มแก้มเลย” แม้จะขำ แต่มือก็ยื่นมาเช็ดคราบที่เลอะออกไปใส่ปากตัวเอง แอบได้ยินเสียงกรีดร้องเบาๆ ด้านหลัง หันไปดูก็เจอนักเรียนผู้หญิงสามคนยิ้มเขินอายส่งมา ผมก็ยิ้มตอบกลับ แต่ดันมีเสียงนิ่งๆ บอกให้รีบเดิน

   แยกออกมาไม่ไกลก็ถูกดึงไอศกรีมในมือไปกิน อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ดีแท้ สงสัยเมื่อคืนจะนอนน้อย เพราะมัวแต่ดูแบบแปลนงานก่อสร้างตึกโครงการอะไรสักอย่าง เห็นว่าได้เป็นผู้ช่วยพี่อัลก่อน

   “เมื่อกี้หึงเหรอ” ลองแหย่ดู เจอตาดุตวัดมอง แค่นี้ก็ได้คำตอบที่ถามแล้ว

   “อย่าโปรยยิ้มให้คนอื่น พี่หวง”

   “คนอะไร หวงแม้กระทั่งรอยยิ้ม”

   “ทุกอย่างที่เป็นกลอยนั่นแหละ”

   “พ่อคนขี้หึง”

   “ผัว ไม่ใช่พ่อ”

   “โอ้โห ใช้คำแรงว่ะ”

   “หรือไม่จริง?”

   “จริงครับผม เหมาะสมกับท่าน”

   ด้วยความที่ลืมคิดไป ยกมือขึ้นตะเบะแต่มือข้างนั้นดันถือไอศกรีม ผลปรากฏว่า ไอศกรีมแปะเข้าขมับแล้วไหลย้อยลงมาที่แก้ม พี่โชหัวเราะจนตัวงอ แต่ก็ช่วยเช็ดออกพลางก้มลงเช็ดที่พื้นด้วย เพราะกลัวจะมีใครมาเหยียบแล้วลื่น คนดีสุด

   ถึงแม้จะใช้ผ้าเช็ดออกจนหมด แต่ความเหนียวเหนอะก็ทำให้รู้สึกไม่สบายตัว ผมขอไปล้างในห้องน้ำ เช็ดๆ ถูๆ เสร็จ ออกมาก็เจอพี่โอ๊ตยืนยิ้นแป้นอยู่ข้างพี่โช ในมือถือถุงของฝากพะรุงพะรังจนเราต้องเอาไปฝากที่เคาน์เตอร์ ก่อนเราสามคนจะไปหาร้านบุฟเฟ่นั่ง เข้าทางผมสุดๆ   

   “เสียดายที่พี่รีบกลับ” เริ่มเปิดประเด็นการสนทนา พี่โชปรายตามองนิดๆ แต่ก็แค่นั้น ไม่ได้พูดแทรกอะไร

   “พรุ่งนี้พี่ต้องทำงาน ไม่กลับวันนี้ก็คงไม่ได้” พี่โอ๊ตพูดน้ำเสียงเสียงเรียบๆ มือคอยหยิบผักใส่หม้อชาบูตัวเอง ส่วนผมมีพี่โชคอยหาของโปรดเทใส่หม้อให้ “กลอยล่ะ ไม่ไปเที่ยวหาคุณย่าเหรอ เรียนจบแล้วนี่” พอพี่โอ๊ตพูดจบ ผมก็ยิ้มค้าง ก่อนคนพูดจะหัวเราะแห้งแล้วรีบเปลี่ยนเรื่อง “จะว่าไป กลอยผอมลงนะ”

   “รู้สึกดีที่มีคนบอกผอม” ยิ้มร่าทันที งานหนักมันก็มีข้อดีเหมือนกันนะเนี่ย ส่วนพี่โอ๊ตก็ขำ ต่างจากพี่โชที่นั่งนิ่งๆ หยิบจานผักใส่หม้อของผมซะล้น “พี่โช กลอยไม่ใช่วัวนะ ที่กินแต่ผัก เอาหมูบ้าง”

   “ก็เห็นอยากผอมนัก ก็กินแต่ผักนี่แหละ” ป๊าด โดนปีศาจกัดเข้าให้ อยากให้เห็นสายตาตอนพี่โชตวัดมองผมจริงๆ แม้จะแค่แวบเดียวก็ทำเอาหนาวขึ้นหัว

   ผมได้แต่บ่นในใจก่อนหันไปยิ้มให้พี่โอ๊ตอีกรอบ เราสามคนนั่งแบบเคาน์เตอร์แยกหม้อกันครับ ขืนให้รอหม้อรวมคงอีกนาน ซึ่งผมนั่งคั่นตรงกลาง ตอนแรกพี่โชถลึงตาใส่จนแทบหลุดจากเบ้า แต่ผมก็ไม่ยอม แน่ล่ะ ลองปล่อยให้พี่โอ๊ตนั่งข้างพี่โช มีหวังอาหารไม่ย่อยแน่  ขนาดตอนนี้ยังมีแค่เสียงผมกับพี่โอ๊ตเท่านั้นที่คุยเล่นกัน

   “คุณ...ย่าสบายดีไหมครับ” คิดอยู่นานว่าจะถามดีไหม สุดท้ายก็ถามออกไป พี่โอ๊ตยิ้มส่งมาพลางพยักหน้าลง “แล้วควันพิษหมดหรือยังครับ”

   “อากาศสดใสแล้วล่ะ กลอยไม่ต้องห่วงนะ” พี่โอ๊ตยกมือตบบ่าผมเบาๆ ก่อนจะรีบลดมือลง เมื่อมีเสียงกระแอม “ถ้าว่างก็ไปเที่ยวที่นู้นบ้างนะ ย่าคงดีใจที่ได้เจอกลอยอีก”

   “ย่าอาจดีใจ แต่คนอื่นอาจเหม็นขี้หน้า”

   “คิดมาก”

   “ไม่ได้คิด แต่เห็นกับตา พี่โอ๊ตก็รู้นี่ น้องพี่โอ๊ตน่ะ” ค่อนขอดในใจยามนึกไปถึงหน้าของน้องต่างแม่ “อยู่แบบนี้สบายใจทั้งคู่ ดีที่สุดแล้ว”

   “ก็เอาที่เราสบายใจนั่นแหละเนอะ”

   “ใช่เลย”

   “รีบๆ กิน มัวแต่คุยเดี๋ยวก็หมดเวลา”

   เสียงนิ่งๆ เย็นๆ ที่ทำให้ผมหยุดคุยแล้วรีบยัดของกินในหม้อลงท้อง ลืมไปเลยว่าร้านนี้จำกัดเวลา กินน้อยเดี๋ยวไม่คุ้มเงิน พออิ่มจนท้องแน่นช่วงล่างก็เริ่มหน่วงๆ ผมกระตุกแขนพี่โชพลางกระซิบว่าปวดท้อง พี่โอ๊ตยิ้มๆ ตอนเห็นผมกุมท้องตัวเอง คงรู้แหละ ถึงแม้ไม่ได้บอก แอบกังวลเหมือนกันที่ปล่อยให้พี่โอ๊ตอยู่กับปีศาจ แต่ข้าศึกมันมาอยู่ที่ประตูเมืองแล้ว มันไม่ไหวที่จะกลั้นจริงๆ เลยต้องปล่อยเลยตามเลย และหลังจากปล่อยข้าศึกออกจากประตูเมืองเสร็จ ผมก็รีบย้อนกลับไปหาคนที่รอ แต่กลับเจอพี่โชแค่คนเดียว พอหันไปมองรอบๆ ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาพี่โอ๊ต


   หรือพี่โชจะเขมือบพี่โอ๊ตไปแล้ว?


   “เขากลับแล้ว ต้องไปเก็บของอีก” เหมือนพี่โชจะรู้ ว่าผมกำลังคิดร้ายใส่เลยรีบบอก ผมยิ้มแห้งๆ ส่งให้ก่อนจะถูกซองสีขาวตบหัว “เขาฝากนี่ให้ด้วย”

   “ซองอะไรอะ ผ้าป่าเหรอ”

   “ก็เปิดดูเอง” รับมาเปิด แต่ก็มิวายเงยมองหน้าพี่โชที่ทำหน้านิ่งๆ อย่างหวาดระแวง “อะไร”

   “ไม่ได้เอาอะไรใส่แกล้งกลอยใช่ไหม”

   “เห็นพี่เป็นคนยังไง”

   “ปีศาจไง”

   โดนเข่าเข้าข้อพับจนแข้งขาอ่อน ดีที่คนทำคว้าทันก่อนที่ตัวผมจะร่วงลงพื้น แม้จะหัวเราะกลบเกลื่อน แต่ผมก็ไม่ยกโทษให้ง่ายๆ หรอกนะครับ ปีศาจขี้หึงต้องเจอของแข็งซะบ้าง ให้รู้ว่ากลอยประเกรียนสุดหล่อแม่นเว่อร์คนนี้ก็ไม่ได้ง่าย

   ผมนั่งนิ่งไม่ยอมพูด ยอมจา ตั้งแต่ห้างถึงห้อง พี่โชพยายามหลอกล่อยังไงผมก็เงียบใส่ตลอด หลายครั้งใจอ่อนเกือบหลุดคุย แต่ดีที่รีบชิ่งหนีเข้าห้องน้ำไปซะก่อน ผมใช้เวลาอาบน้ำไม่นาน ออกมาก็เห็นพี่โชกึ่งนั่ง กึ่งนอนพิงหัวเตียง ในอ้อมกอดมีกีต้าร์ตัวโปรด พอเห็นผมปุ๊บ นิ้วก็เริ่มดีดบรรเลงเป็นเพลง คลอเคล้าเสียงนุ่ม

   “ยิ้มให้กับฉันหน่อย แค่หึงเล็กน้อย แค่คอยรัก ได้โปรดอย่าโกรธฉัน ขนาดนั้น อีกนานคงขาดใจ” แววตาที่มองทอดมาทำแข้งขาผมอ่อน ดีที่ยืนเก๊กพิงตู้เสื้อผ้า ไม่งั้นมีล้ม “และไม่ใช่ไม่ไว้ใจ ใจฉันร้อน หากใครมองนาน ก็เธอดันน่ารัก ขนาดนั้น ให้มองอยู่ได้ไง” ผมพยายามทำหน้าให้ตึง เหมือนเพิ่งฉีดโบท็อกซ์ เพราะกลัวหลุดยิ้มออกมา กลั้นจนตะคริวจะขึ้นหน้าอยู่แล้วเนี่ย “ช่วยเอียงมาหาหน่อย ฉันเฝ้าคอยที่จะบอกรัก ได้โปรดอย่าโกรธฉัน ที่ทำไปนั้น จะไม่ทำอีกต่อไป” ทำเสียงที่ร้อง เหมือนอ้อนวอนขอคืนดี เอาซะใจสั่น มือสั่นไปหมด “บางทีฉันก็ยั้งไม่อยู่ บางทีฉันก็รู้ แต่ทนไม่ไหว บางทีฉันใจร้อนเกินไป โปรดจงเข้าใจ ที่เป็นไปนะ เป็นไปด้วย...” มีเว้นช่วงด้วย พี่โชฉีกยิ้มอย่างอ่อนโยน แค่นั้น ฟอร์มที่กั๊กไว้ก็หลุด มือขาวๆ กวักเรียกผมให้ไปนั่งข้างๆ ก่อนจะเริ่มร้องต่อ “...รัก แต่อาจจะขี้หึงเกินไป แต่ใจทั้งใจมีแต่เธอคนเดียว รักเธอคนเดียว ไม่ยอมให้ใครมาเปลี่ยนไป...”

   “หายโกรธแล้ว พอแล้ว” เขินจนแขน ขาม้วนไปหมด สายตาปีศาจนี่มันน่ากลัวจริงๆ มีพลังทำลายหัวใจที่แข็งให้อ่อนลงได้ในพริบตาเดียว

   “เขินว่ะ” อยู่ๆ พี่โชก็พูดออกมา หูแดงไปหมดโคตรตลก

   “ทำเอง เขินเอง”

   “แล้วกลอยชอบไหม”

   “ชอบ”

   “พี่หรือเพลง?”

   “เพลง”

   “ไอ้...”

   “ล้อเล่นน่า กลอยก็ต้องชอบคนร้องสิ”

   “ดีมาก”

   ถูกขยี้ผมจนฟูฟ่อง ก่อนหน้าขาวๆ จะค่อยๆ โน้มเข้ามาใกล้

   “อยากกินไอศกรีม” พูดออกมาก่อนที่ปากแดงจะชิด พี่โชถึงกับชะงัก ผมเลยใช้จังหวะนั้นวิ่งออกห้องนอน ได้ยินเสียงหัวเราะไล่หลังมาด้วย แต่ไม่สน ผมเปิดตู้เย็นเอาไอศกรีมแบบถ้วยไปนั่งกินหน้าทีวี เปิดซีรี่ส์ดูไปด้วย ไม่นานพี่โชก็ตัวหอมฉุยออกมา ก็ว่าทำไมตามมาช้า ที่แท้หนีไปอาบน้ำ 

   “อร่อยไหม” ถามเสร็จก็หย่อนตัวนั่งลงข้างๆ ผม แต่ที่ว่างก็เยอะ ทำไมต้องเบียดด้วยเนี่ย

   “อืม รสนมอร่อยกว่าช็อกโกแลตอะ” พูดจบก็ตักเข้าปาก “แต่กินคู่กันก็อร่อยดี” 

   “กินเหมือนเด็ก ดูดิ๊ เลอะปากไปหมด”

   “กินแบบอ่อยไง ไม่รู้เหรอ” หัวเราะร่วน หลังจากพี่โชใช้นิ้วปาดคราบไอศกรีมที่มุมปากผมออก “พี่โชว่ากลอยต้องไปไหม” ถามขณะยื่นช้อนไอศกรีมไปจ่อปากคนข้างๆ แต่พี่โชกลับส่ายหน้า ผมเลยเอากลับเข้าปากตัวเองแทน

   “ไม่เห็นต้องไป”

   “แต่งานแต่งพี่โอ๊ตทั้งทีนะ”

   “หรือกลอยอยากไปล่ะ” คำถามนี้เอาผมนิ่งไปนาน ก่อนส่ายหัวตอบ “งั้นก็ไม่ต้องไป อีกอย่าง เขาก็คงรู้ ว่ากลอยไม่ไป”

   “แต่เขาให้การ์ดมาด้วยนี่สิ”

   “พี่เอาช็อกโกแลตที่กลอยเอาไป ให้เขาไปแล้ว บอกเป็นของขวัญวันแต่งงาน”

   “แบบนี้ก็ได้เหรอ”

   “ถ้าเราคิดว่าได้ ก็ต้องได้”

   “เหรอ”

   มัวแต่คิดเรื่อยเปื่อยกับมือที่ตักไอศกรีมเข้าปาก จนลืมมองคนข้างๆ ที่กำลังจ้องอยู่ ผมลืมบอกไป ว่าคนข้างผมน่ะ สวมแค่เสื้อคลุมอาบน้ำสีขาว ข้างในไม่ใส่อะไรเลย ที่รู้เพราะการนั่งของพี่โชมันเปิดเผยซะเหลือเกิน

   “จะกินอีกนานไหม” พี่โชคงเหลืออดที่ผมกินไม่ยอมหยุด เลยจัดการแย่งช้อนในมือผมไป แล้วรวบตัวผมขึ้นพาดบ่า

   “พี่โชทำอะไรเนี่ย กลอยตกใจนะเว้ย” ทำอะไรไม่บอก ไม่กล่าวเลยให้ตาย แถมไอศกรีมก็ยังไม่หมดด้วย “พี่โชโว๊ย”

   “ก็กลอยบอกเองว่าอ่อย”

   “พี่เลยจะเอาเหรอ”

   “เออ”

   “ตรงมาก”

   “ไม่ดีเหรอ”

   “ดีครับผม เหมาะสมครับท่าน”

   “ปากดีแบบนี้ ต้องจัดให้หนัก”

   อยากจะเถียงเหลือเกิน ว่ามันก็หนักทุกคืน ไม่มีเบา มีผ่อน มีดาวน์ แฮ่ (มุกแป้กโปรดจงข้ามไป) เรื่องพี่โอ๊ตแต่งงาน ผมก็ยินดีด้วยจริงๆ ใจหนึ่งก็อยากไปร่วมงาน แต่อีกใจมันก็แย้ง ผมไม่อยากไปแล้วถูกสายตาจ้องมอง แน่นอนว่าคนพวกนั้นต้องพูดถึงเรื่องแม่ผมแน่ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่ชอบและไม่อยู่เฉยแน่ หากได้ยิน ดังนั้น ผมคงได้แต่ส่งความยินดีผ่านข้อความไป แบบนั้นคงจะดีที่สุด




   “พี่โชๆ กลอยปวดขี้”

   “มึงมาปวดขี้อะไรตอนนี้วะ!!!”



.....

ตอนพิเศษสั้นๆ กับความขี้หึงของพี่โชค่า โปรดให้อภัยมุกแป้กๆ ด้วยนะคะ ต้องบอกให้กลอยพัฒนามุกตัวเองสักหน่อย ลับมุกให้คมกว่านี้ จะได้ไม่แป้ก 555

หากผิดพลาดจุดไหน ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่า

ขอบคุณสำหรับความรักที่มีให้กับพี่โชและกลอยประเกรียน...ขอบคุณค่า

รักกกก

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ปีศาจยังคงขี้หึงขี้หวงกลอยไม่เปลี่ยน ส่วนกลอยนอกจากตดทำลายบรรยากาศ ยังมีขี้ทำลายอารมณ์อีกนะ ไม่รู้ควรส่งสารพี่โชดีมั้ยเนี่ย

ออฟไลน์ rainiefonnie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
กลอยก็คือกลอยเนอะ55555555555555555555555555555555555

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
กลอยนี่ก็คือกลอยจริงๆ5555

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
น่ารักจริง ๆ ดีใจกับกลอยที่มีคนที่รักเราได้มากมายขนาดนั้น  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-07-2019 19:21:05 โดย O-RA DUNGPRANG »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด