'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End  (อ่าน 176490 ครั้ง)

ออฟไลน์ YoK_mehok

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
เลือกสงสารไม่ถูกเลย :sad4:  :serius2:  :m15:  ทำไมเขียนได้ดิบขนาดนี้  :katai1: แต่ชอบบบบบ รอตอนต่อไป และเป็นกำลังใจให้นะคะ

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
มันสะเทือนไปทั้งตัว :sad2: :sad2: :sad2:

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
อ่านไปก็ลุ้นไปจะเจออะไร  พีคขึ้นเรื่อยๆ  :a5:

ออฟไลน์ เนเน่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
โอ้ยยยยยยย สงสารน้องดินทรมานมากมั้ยคะ

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 710
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
อ่านถึงตรงนี้
โคตรสงสารน้องดินเลย ฮือออออออ
 :m15:  :m15:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
มันยังมีเรื่องที่พีคกว่านี้อีกหรอคะ :o12:

ออฟไลน์ Funnycoco

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
น้องปวดหัวไปหมดแล้วคะคุณพี่  :z3:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เจ็บทุกทางเจ็บทั้งหมด สงสารรรรรรร
 :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
สุด ๆ ของความหน่วงเลยคราวนี้  :katai1:

ออฟไลน์ mareeyah

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ขอไม่สงสารใครเลยตอนนี้ เพราะสงสารตัวเองมากกว่า
อ๊ากกกกกกก :z3: :z3: :z3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
« ตอบ #699 เมื่อ: 21-02-2019 00:19:56 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
สนุก เหนือการคาดเดา เดาอะไรไม่ถูก รอน้องดินพี่เจ้าจี้ด้วย

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
พีคในพีค

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
 :pig4:

ออฟไลน์ kanj1005

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
เจ้าไม่ใช่ลูกของพ่อ และอาจไม่ใช่ลูกคุณแม่  เดาล้วนๆ

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
สรุปนี้ถ้าไม่ใช่พี่น้องกัน..จะกรี๊ดดดดด...

ออฟไลน์ bowbeauty

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
เพราะแกคนเดียว นังจันทร์จ้าววววววว ทำเป็นอ่อนแอ ตอออออออออออ

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
พีคในพีค อ่านแล้วต้องลำดับเหตุการณ์​ดีๆ เลยเรา

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 687
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
อ่านตอนนี้ได้แต่ร้อง ห้ะ ห้ะ ห้ะ ทำไมเลือกไปทางไหนก็มัแต่ความเศร้า

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
ไม่รู้ต้องชมคนเขียนยังไงถึงจะให้สมกับที่เขียนเรื่องยากๆเรื่องนี้ได้ขนาดนี้ เก่งจริงๆ ทั้งซับซ้อนในซับซ้อน ทั้งอ่านยาก บีบหัวใจ แต่ก็ไม่สามารถเลิกตามอ่านได้ ฉันต้องทนให้ไหวใช่ไหม? กาวเอ๋ กระเจี๊ยบเอ๋ ก็ขาดตลาดไปแล้ว แล้วฉันจะพึ่งอะไรรรร?  :hao5:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 22 Their fault ​P.23 20/02/2019
« ตอบ #709 เมื่อ: 21-02-2019 20:46:59 »





ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
พีคไปอีก หักให้สุดแล้วหยุดที่ท่านนะ

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
ซับซ้อนไปอี้ก!!! สุดยอดเลยครับ. พีคแล้วพีคอีก,,,

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เพิ่วได้อ่าน แต่อ่านมา 2วันติด มาทันตอนล่าสุดเมื่อกี๊๊ อ่านแบบไม่ให้พลาดทุกตัวอักษร ผูกเรื่องได้ดีมากๆเลยค่ะ ตอนแรกก็คิดว่าตัวเองคงจะงง แต่อ่านไปเรื่อยๆก็เริ่มเข้าใจขึ้นเรื่อยๆ อ่านจนหยุดไม่ได้เลยจริงๆ

ส่วนเรื่องห้วงเวลา แสดงว่าเป็น้วงเวลาของ2คนซ้อนทับกันอยู่ใช่มั้ยคะ ทั้งเจ้า และ ก็ดิน คนที่ตายก็คือดินกับเจ้า ส่วนคนยิงอาจจะเป็นจี้ หรือแม่ของเจ้า
แล้ว99ครั้งที่เจ้าย้อนกลับไปในช่วงเวลาเดิมๆ ดินจำเจ้าได้ทุกครั้ง แต่ต้องทำเหมือนเกลียดเพื่อที่จะได้อยู่กับเจ้าในช่วงเวลานี้ตลอดไป

นับถือมากๆค่ะ หน่วงแบบ ลุ้นมากๆ ว่าตอนจบ จะเป็น happy end ที่ทั้งคู่อาจจะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในสักที่นึง หรือว่า bad end ที่มีคนใดคนหนึ่งต้องหายไป

แต่ที่เราสงสัยคือ จี้อยู่ที่ไหน จี้บอกว่าอยู่ด้วยตลอดแต่เราไม่เห็นจี้เลย หรือจริงๆแล้วทั้งสองคนอาจจะยังไม่ตาย ทั้งเจ้าและก็ดิน  อาจจะโคม่ากันทั้งคู่

โอยยยยย คิดเยอะมากไม่เคยอ่านนิยายแล้วคิดเยอะขนาดนี้    :sad4:

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
«ตอบ #713 เมื่อ24-02-2019 17:22:22 »

ตอนที่ 23 Our pain



“มานั่งทำอะไรตรงนี้ครับคุณชาย” ลุงชันคนสนิทของท่านเจ้าเอ่ยถามกับเด็กหนุ่มที่กำลังเหม่อมองท้องฟ้าอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ในยามดึกสงัด “ลุงเห็นนั่งอยู่ตั้งแต่หัวค่ำ ข้าวปลาก็ไม่ยอมกิน ถ้าป่วยจะแย่เอานะครับ”

“ผมไม่เป็นไรหรอกครับลุงชัน” ธราตอบกลับทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากท้องฟ้าเบื้องหน้า “วันนี้ดาวสวยดีก็เลยดูเพลินไปหน่อย”

ลุงชันเผยรอยยิ้มเอ็นดูพลางนั่งลงบนพื้นหญ้าเคียงข้างเด็กหนุ่มที่ครั้งหนึ่งเคยตัวสูงแค่สะโพก แต่บัดนี้กลับสูงใหญ่เลยศีรษะของเขาไปแล้ว “พอมานั่งดูดาวแบบนี้แล้วก็คิดถึงตอนที่ท่านเจ้าพาคุณชายไปท้องฟ้าจำลองครั้งแรกนะครับ”

“ครับ คิดถึงตอนนั้น เจ้าน่ะใจดีมากเลย โม้ด้วยนะว่าบนท้องฟ้าน่ะมีดาวที่ชื่อว่าดาวจักรพรรดิอยู่ด้วย” ธราร่วมผสมโรงไปกับลุงชัน หวนระลึกถึงเรื่องราวครั้งเก่าก่อนที่เต็มไปด้วยความทรงจำแสนสุข “เอาแต่พูดว่าขอเดือนก็จะให้เดือน ขอดาวก็จะให้ดาว ท่านเจ้าของลุงบันดาลได้ทุกสิ่งเลยนะครับ ฮ่าๆ ๆ”

“จริงครับ เพราะท่านเจ้าบอกเอาไว้ว่าจะเป็นพระเจ้าที่มอบทุกอย่างให้กับคุณชาย”

“ก็ไม่ได้ผิดคำพูดเลยนะครับ” คราวนี้รอยยิ้มของธราเจือด้วยความเศร้า “เป็นพระเจ้าที่มอบทั้งโชคดีและก็โชคร้ายให้”

“ท่านไม่ได้ตั้งใจหรอกครับ” ลุงชันเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ต่อให้จะชอบทำตัวเป็นพระเจ้าแต่ท่านก็เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่ง ซ้ำยังมีอายุมากกว่าคุณชายแค่สองปี สำหรับลุงแล้วถ้าจะทำเรื่องผิดพลาดบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลก”

“เพราะยังเด็กสินะครับ”

“ใช่ครับ ทั้งคุณชายและท่านเจ้ายังเด็ก” รอยยิ้มของลุงชันราวกับน้ำเย็นที่รินรดหัวใจของธราให้ชุ่มชื่น ไม่บ่อยเลยที่จะได้นั่งพูดคุยกับลุงชันอย่างนี้ เพราะโดยมากแล้วลุงชันมีหน้าที่ติดตามท่านเจ้าและทำงานให้กับคุณแม่ นานๆ ครั้งเท่านั้นที่จะได้นั่งพูดคุยกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว “เด็กน่ะมักจะทำผิดพลาดและเติบโตขึ้นจากความผิดพลาดนั้น”

“ลุงครับ” ธราเอ่ยเรียกพลางสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ใบหน้าหล่อเหลาของเด็กหนุ่มเชิดขึ้นในขณะที่ปิดเปลือกตาลง สีหน้าผ่อนคลายอย่างที่ไม่ได้เห็นมานานหลายเดือน “มีแต่คนบอกว่าความรักของผมกับเจ้าเป็นเรื่องผิด ความรักของผมมันเป็นไปไม่ได้ตั้งแต่แรก ทั้งน่ารังเกียจและน่าสะอิดสะเอียนที่รักกับพี่ชายร่วมสายเลือด” เขาลืมตาขึ้นเมื่อพูดจบ ก่อนจะหันมองลุงชันที่ยังคงสงบรับฟัง “ลุงคิดว่าผิดหรือเปล่าครับ คิดว่าผมน่ารังเกียจมั้ย”

“ไม่ครับ” ลุงชันให้คำตอบ “ความรักที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องผิด ต่อให้จะเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรมหรือเป็นเรื่องที่สังคมภายนอกไม่ยอมรับ แต่ใครเป็นคนตัดสินถูกผิด นั่นก็ยังเป็นเรื่องที่ลุงสงสัย เพราะการตัดสินมันขึ้นอยู่กับทัศนคติของแต่ละคนครับคุณชาย ในเมื่อสังคมที่เราอยู่นั้นมีกฎเกณฑ์ซึ่งคนในสังคมก็ยึดถือและปฏิบัติตามกันมา หากเกิดสิ่งที่ผิดเพี้ยนไปเพียงนิดก็อาจถูกมองว่าผิดโดยทันที แต่ไม่ใช่ทุกคนในสังคมจะคิดเห็นเหมือนกันทั้งหมด บางเรื่องเรามองว่าผิดแต่เขาอาจจะมองว่าถูก” รอยยิ้มอบอุ่นถูกส่งมอบให้กับธราพร้อมกับเสียงทุ้มที่ดังปลอบโยนขึ้นต่อ “ความรักของคุณชายกับท่านเจ้า สำหรับลุงน่ะไม่ผิดหรอกครับ แล้วคุณชายก็ไม่น่ารังเกียจด้วย คุณชายของลุงน่ะรูปหล่อขนาดนี้”

“ถ้าผมลอยขึ้นฟ้าจนไปเจอกับดาวจักรพรรดินี่ต้องโทษลุงแล้วนะครับ” ธรายิ้มกว้างเมื่อพูด เขาพรูลมหายใจเมื่อรู้สึกสบายใจขึ้นมากจากการได้พูดคุยกับลุงชัน “แต่โชคชะตาก็แปลกดี ทำไมผมถึงกลายมาเป็นพี่น้องกับเจ้าแถมยังบังเอิญเจอพ่อแท้ๆ ของตัวเองก็ไม่รู้ ยังคิดอยู่เลยว่าถ้าผมยังอยู่ที่บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าจะได้เจอกับพ่อมั้ย”

“โชคชะตากับความบังเอิญเกิดขึ้นแค่ตอนที่ท่านเจ้าเจอกับคุณชายเพียงครั้งเดียวเท่านั้นแหละครับ”

“หมายความว่ายังไงเหรอครับลุง” ธราเอ่ยถาม เขาได้ยินเสียงถอนหายใจจากลุงชัน พอหันมองก็เห็นว่าคุณพ่อบ้านคนเก่งกำลังมีสีหน้าลำบากใจ “ผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร”

“ลุงก็พูดอะไรมากไม่ได้” ลุงชันตอบไม่เต็มเสียงนัก น้ำเสียงของลุงแผ่วเบาจนธราแทบไม่ได้ยิน “แต่ลุงจะพูดแค่ที่พูดได้เท่านั้นครับ”

“หมายถึง...”

“ที่จริงแล้วคุณท่านตั้งใจจะไปรับคุณชายมาเลี้ยงดูตั้งแต่แรก ท่านตามหาคุณชายจนเจอเพราะแม่ของคุณชายเสียชีวิตหลังจากคลอดคุณชายที่โรงพยาบาลแต่ในตอนนั้นไม่มีญาติหรือใครที่พอจะแสดงตนมารับผิดชอบได้”

หัวใจของธราปวดหนึบเมื่อฟังเรื่องเล่าจากปากของลุงชัน ขอบตาของเขาร้อนผ่าวขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่จุกแน่น “เขาทำยังไงกับแม่เหรอครับลุง”

“ศพไร้ญาติจะมีมูลนิธิฯ เป็นคนจัดการครับ ส่วนคุณชายก็ได้พยาบาลคนหนึ่งที่อยู่ในทีมทำคลอดรับไปดูแลในช่วงแรกก่อนจะถูกส่งให้บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าเพราะพยาบาลคนนั้นเสียชีวิตกะทันหัน เขาถูกรถชนเสียชีวิตคาที่”

ธราพูดแทบไม่ออก เขาเผลอสูดน้ำมูกและป้ายหลังมือบนแก้มเพื่อเช็ดน้ำตาออกลวกๆ “ผมอยากเจอคุณแม่กับคุณพยาบาลคนนั้นจังเลยครับลุง”

“ไว้ลุงจะตามหาให้นะครับ ที่ลุงรู้ก็เพราะตามสืบประวัติของคุณชายตามคำสั่งของท่านเจ้าเท่านั้น คุณพยาบาลอาจจะพอมีหวังแต่สำหรับคุณแม่คงจะช้าไปเพราะกระดูกคงถูกเผาในวันล้างป่าช้านานแล้ว มันผ่านมานานหลายปีอย่างนี้คงยากแล้วครับ” ลุงชันปลอบประโลม มือหนายกขึ้นลูบหลังเด็กหนุ่มด้วยความสงสาร

“ผมคิดมาตลอดว่าถูกทิ้ง แม้แต่หน้าพ่อกับแม่แท้ๆ ก็ไม่เคยได้เจอ พอมารู้อย่างนี้แล้วผมรู้สึกผิดที่เคยกล่าวโทษแม่ ท่านคงไม่ได้ตั้งใจทิ้งผม” ธราพูดพลางสะอื้น ความอ้างว้างโอบล้อมรอบตัวเขาอีกครั้ง “แล้วพ่อของผมเขาอยู่ที่ไหนครับตอนนั้น”

“คุณท่านอยู่ต่างประเทศครับ ท่านบินกลับมาที่ประเทศไทยแค่ไม่กี่ครั้ง แต่ก็เป็นไม่กี่ครั้งที่ได้พบกับคุณแม่ของคุณชาย ในฐานะเพื่อนร่วมรุ่นที่เคยเรียนมหาวิทยาลัยมาด้วยกัน ผมคิดว่าคุณท่านคงไม่ทราบเรื่องที่คุณแม่ของคุณชายตั้งครรภ์ เพราะทั้งคู่ไม่ได้คบหากัน ความสัมพันธ์แค่ชั่วข้ามคืนคงไม่สามารถพูดบอกอะไรได้ คุณแม่คุณชายก็คงตัดสินใจที่จะเลี้ยงดูคุณชายตามลำพัง แต่โชคร้ายที่เสียชีวิตไปเสียก่อนแถมยังเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวที่ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน หลังจากนั้นอีกสองสามปีคุณท่านถึงได้รู้ครับว่ามีคุณชาย” คำบอกเล่าของลุงชันนั้นไม่มีตรงไหนที่ธราไม่เข้าใจ แต่เขากลับยอมรับได้ยากเย็นว่าตัวเขานั้นเกิดจากความพลั้งเผลอของชายหญิงคู่หนึ่งที่ไม่ได้มีความรักต่อกัน อีกทั้งฝ่ายชายก็ไม่ได้คิดแยแส ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองสร้างภาระให้กับผู้หญิงคนหนึ่งโดยไม่รู้ตัวหรือหากคิดในแง่ร้ายก็อาจจะรู้ตัวแต่ไม่ได้พร้อมที่จะรับผิดชอบในทันที ทว่าไม่ว่าจะเป็นเหตุผลใดก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นมาได้เลย

“งั้นตอนนั้น...คุณพ่อก็มีคุณแม่ของเจ้าอยู่แล้วใช่ไหมครับ” ธราตั้งคำถามด้วยความคลางแคลงใจ “ผมคิดจริงๆ นะว่าผู้ชายน่ะถ้าตั้งใจทำแล้วคงรู้ตัว นอกจากจะเมาจนไม่แน่ใจก็อีกเรื่อง ข้ออ้างที่บอกว่าไม่รู้สำหรับผมมันฟังไม่ขึ้นเท่าไรเลยครับลุง ทำให้ผมคิดว่าในตอนนั้นคุณพ่ออาจจะไม่ได้พร้อมที่จะยอมรับว่ามีผมก็ได้”

“เรื่องนี้...” ลุงชันอึกอักอยู่เพียงครู่ ในขณะที่ธราเฝ้ารอ ซึ่งเป็นเวลานานกว่าที่ลุงชันจะยอมพูดขึ้นมา “ไม่ใช่หรอกครับ ความสัมพันธ์ของนายหญิงกับคุณท่านไม่ได้ใกล้เคียงคำว่าสามีภรรยาเลยแม้แต่น้อย”

“ลุงครับ...” ธราร้องเรียก แววตาเต็มไปด้วยคำถาม “ผมไม่เข้าใจ”

“คุณชายเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของคุณท่านไม่ผิดแน่ครับเรื่องนี้และคุณแม่ของคุณชายก็ไม่ได้เข้าไปเป็นมือที่สามในความสัมพันธ์ของใคร ในตอนนั้นคุณพ่อของคุณชายท่านยังโสด แม้จะมีสาวน้อยสาวใหญ่มาติดพันแต่ก็ไม่ได้ตกลงปลงใจจะแต่งงานกับใคร” ตอนนี้สีหน้าของลุงชันราวกับกำลังเคี้ยวบอระเพ็ด ลุงหยุดพูดไปอีกครั้งแล้วสูดหายใจเข้าเต็มปอด “มันเป็นเรื่องที่ลุงไม่ควรบอกกับคุณชายเพราะนายหญิงสั่งห้าม แต่ลุงคิดว่าคุณชายก็ควรจะรู้ไว้ว่าท่านเจ้าน่ะไม่ใช่พี่ชายร่วมสายเลือดกับคุณชาย ท่านเจ้ากับคุณท่านมีความสัมพันธ์เพียงแค่คนที่ใช้นามสกุลร่วมกันเท่านั้น”

“ครับ?” ธราร้องขึ้นเสียงหลง เขามีสีหน้างงงวยพลางมองลุงชันด้วยความไม่่แน่ใจว่าวันนี้ลุงชันไปดื่มมาหรือไม่ “ที่ลุงพูดเป็นเรื่องจริงเหรอครับ”

“เรื่องจริงครับ” ลุงชันเผยรอยยิ้มตามเด็กหนุ่มที่กำลังยิ้มกว้างแม้จะมีสีหน้างงงวย “แต่นายหญิงและคุณท่านคงอยากให้คุณชายเข้าใจไปแบบนั้น”

“อ่า...ผมคิดว่าผมเข้าใจนะ” สีหน้าของธราแฝงความโล่งใจ ในยามที่พูดว่าเข้าใจก็คือเข้าใจอย่างแท้จริงถึงเหตุผลของผู้ใหญ่ทั้งสองท่าน “คุณแม่ท่านคงไม่อยากให้เจ้ามีความรักแบบนี้...ผมหมายถึงในแบบพวกผม ท่านบอกว่ามันวิปริต”

“ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่างคงทำให้นายหญิงพูดกับคุณชายแบบนั้น” ลุงชันเอ่ยเสียงขรึม “เพราะท่านเจ้าเป็นคนสำคัญ ท่านใช้ชีวิตตามแต่ใจไปมากกว่านี้ไม่ได้ นายหญิงตามใจท่านเจ้าได้ทุกเรื่องแต่ยกเว้นเรื่องนี้ครับ เพราะไม่ว่าจะยังไงในสักวันหนึ่งท่านเจ้าก็ต้องกลับไปอยู่ในที่ที่คู่ควรกับท่าน”

“หมายความว่าต่อให้จะใช่หรือไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือด ผมกับเจ้าก็ไม่มีทางรักกันได้ใช่มั้ยครับ”

ลุงชันไม่ให้คำตอบ แต่ธรารู้ว่าความเงียบนั่นคือคำตอบแล้ว เขาเผลอถอนหายใจ เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า คิดอย่างไร้สาระว่าอาจจะมีดาวจักรพรรดิอยู่บนนั้นจริงๆ “พ่อของเจ้าเป็นใครเหรอครับลุง เป็นคนที่ยิ่งใหญ่มากๆ เลยใช่ไหม”

“ครับ ยิ่งใหญ่และเป็นความลับ แม้แต่ท่านเจ้าก็ไม่เคยเจอหรอกครับ ท่านเจ้าคิดว่าคุณท่านเป็นพ่อแท้ๆ เสียด้วยซ้ำ”

ธราพยักหน้าเข้าใจ เขาไม่เซ้าซี้ถึงความลับนั้นต่อ แต่ชวนลุงชันคุยในเรื่องที่จับต้องได้แทน “แต่เจ้าไม่สนิทกับคุณพ่อเลยครับลุงชัน”

“ไม่แปลกหรอกครับ เพราะคุณท่านก็ไม่ได้เข้าหาท่านเจ้า”

“ลุงว่าถ้าเป็นอย่างนั้นเจ้าจะน้อยใจคุณพ่อมั้ย เจ้าอาจจะคิดว่าคุณพ่อไม่รัก”

ลุงชันหัวเราะอย่างอารมณ์ดี เสียงหัวเราะเบาๆ ของลุงทำให้ธราคลี่ยิ้มตาม “ลุงกำลังคิดภาพท่านเจ้าน้อยใจอยู่เลยครับ”

“เนอะ เจ้าน่ะเป็นคนแปลก ไม่สนใจใครเลย” ธราได้ทีก็เผาท่านเจ้าให้ลุงชันฟัง “บางทีผมก็คิดนะว่าเจ้าอาจจะตายด้านหรืออาจจะแค่แสดงความรู้สึกไม่เก่ง ในใจอาจจะกำลังคิดมากอยู่ก็ได้ แต่ผมไม่เคยเดาถูกเลย บางเรื่องที่คิดว่าเจ้าคงคิดมากแต่เจ้ากลับไม่คิด แต่บางเรื่องที่มันนิดๆ หน่อยๆ เจ้ากลับคิดไปไกล”

“แต่เรื่องนิดๆ หน่อยๆ นั้นส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องของคุณชายนะครับ”

“ก็...ใช่ครับ” ธรายิ้มเขิน แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าในสถานการณ์ตอนนี้ระหว่างเขากับท่านเจ้าเป็นอย่างไร รอยยิ้มเศร้าก็เข้าแทนที “แต่ตอนนี้คงไม่แล้ว เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วครับ”

“ถ้าคุณชายว่าดี ลุงก็ไม่คัดค้านหรอกครับ” ลุงชันคล้อยตามง่ายๆ พลางมองเสี้ยวหน้าของเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่เคียงข้าง “แต่ลุงคิดว่ามีอีกเรื่องที่คุณชายต้องรู้”

“เรื่องอะไรเหรอครับ”

“ในตอนนั้นคนที่คุณท่านหลับนอนด้วยน่ะไม่ได้มีแค่คุณแม่ของคุณชายนะครับ” ลุงชันพูดด้วยน้ำเสียงระมัดระวังแล้วมอบสบตากับธราที่หันมอง “คุณจันทร์แรมก็เป็นคู่ขาของคุณท่าน เธอไม่ได้คบกับใครอื่นในช่วงเวลานั้นเลยแต่กลับตั้งครรภ์ เพราะฉะนั้นหนูจันทร์ก็คงไม่ใช่ลูกของผู้ชายคนอื่นหรอกครับ แต่คงจะเป็นพี่น้องกับคุณชาย”

ธราหลุดหัวเราะออกมา เขาไม่รู้ว่าต้องตกใจกับเรื่องตลกร้ายที่ได้รับรู้อีกกี่เรื่อง “นี่คุณพ่อเจ้าชู้แค่ไหนกันนะครับ ไข่ทิ้งไปทั่วขนาดนี้”

“นั่นสิครับ แต่ท่านน่ะรักเดียวใจเดียวนะครับ เหมือนกับคุณชายไม่มีผิด”

ธราโคลงศีรษะพลางเผยรอยยิ้ม “คนที่คุณพ่อรักคงจะเป็นคุณแม่ของเจ้าสินะครับ”

“ครับ เป็นความรักที่ไม่เคยมีเงื่อนไขและไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน”

“แล้วคุณแม่ล่ะครับ รักคุณพ่อบ้างมั้ย”

“คุณท่านเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของนายหญิงครับ”

“ผมคิดว่าผมเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้วล่ะครับลุง ยังไงก็ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยให้ผมสบายใจขึ้นมาบ้าง”

ลุงชันค้อมศีรษะเล็กน้อยให้กับเด็กหนุ่มที่ยกมือขึ้นไหว้ด้วยใบหน้าที่สดใสมากขึ้น “คุณชายก็เหมือนลูกเหมือนหลานของลุง ลุงรักเหมือนที่รักน้องจี้ น้องวิน น้องบิน มีอะไรที่ลุงพอทำให้ได้ลุงก็อยากทำ”

“ผมก็รักลุงครับ” ธรากอดลุงชัน สัมผัสไออุ่นของลุงชันที่เปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่แล้วผละออกห่าง “ตอนนี้ผมคิดว่าผมเข้าใจเจ้าแล้วว่าที่บอกว่าคนที่เป็นความสบายใจน่ะเป็นแบบไหน เจ้าน่ะมีลุงกับจี้ที่เป็นความสบายใจ แล้วตอนนี้ลุงก็เป็นความสบายใจของผม”

“ดีใจที่ได้ยินอย่างนี้นะครับ แต่ลุงขอให้คุณชายรับปากได้มั้ยครับ”

“เรื่องอะไรครับลุง”

“เรื่องท่านเจ้า” ลุงชันเผยรอยยิ้มเศร้าเมื่อพูดต่อ “ให้ความเป็นไปไม่ได้มันดำเนินต่อไปเถอะนะครับ เพราะตราบใดที่ยังดำเนินต่อไปอย่างนี้ คุณชายก็จะปลอดภัย แต่ถ้าวันใดที่ฝืนต่อไม่ไหวก็อย่าแบกรับกันไว้เองนะครับ ให้ลุงที่เป็นความสบายใจคนนี้ช่วยแบกอีกคน”

“งั้นถ้าถึงวันนั้นก็รบกวนลุงชันด้วยนะครับ แต่ผมว่าคงไม่มีวันนั้นหรอก เพราะผมกับเจ้าคงเดินกันคนละทางแล้ว” ธราบอกแล้วลุกขึ้นยืน “ผมไปนอนก่อนนะครับลุงชัน ขอบคุณอีกครั้งครับ”

“ยินดีครับคุณชาย”

ธราแยกตัวกับลุงชัน ปล่อยทิ้งความสบายใจไว้ที่แห่งนั้นแล้วแบกรับความทุกข์ใจที่หนักอึ้งต่อ เขาตระหนักดีว่าตอนนี้เป็นอย่างไร เขายอมรับความเป็นไปไม่ได้และให้มันดำเนินต่ออย่างที่ควรจะเป็น เพราะเขาจะไม่ฝืนอีกแล้ว ในเมื่อคนที่จับมือเดินด้วยกันมาปล่อยเขาทิ้งไว้เมื่อเจอกับทางตันแล้วหันไปเดินบนเส้นทางใหม่กับคนอื่น ทั้งที่เขายังยืนอยู่ตรงหน้ากำแพงหนาที่ปิดกั้นเส้นทาง ไปต่อไม่ได้ จะหันกลับก็มาไกลเกินกว่าจะกลับไหว แล้วจะให้ฝืนต่อไปทำไม

“ดินไปไหนมา จันทร์รออยู่นานแล้ว” จันทร์เจ้าปรี่เข้ามาหาเขาแทบจะทันทีที่ขาของเขาก้าวพ้นธรณีประตู “กำลังคิดว่าจะออกไปตามหา กลัวว่าไอ้ลูกคนใช้สองคนนั่นจะพาดินไปนอกลู่นอกทาง”

“ผมคิดว่าการเรียกคนอื่นแบบจิกกัดแบบนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีนะจันทร์” ธราขมวดคิ้วมองจันทร์เจ้าด้วยความไม่ชอบใจ “วินกับบินเป็นเพื่อนของผม เป็นลูกของลุงชัน ซึ่งลุงชันไม่ใช่คนใช้ เขาเป็นคนสนิทของเจ้า”

“คนสนิทหรือคนใช้ก็ไม่ต่าง ยังไงก็ขี้ข้า” จันทร์เจ้าเถียงกลับ ปากเล็กนั้นยื่นยาวอย่างไม่น่ามอง “แล้วนี่ดินกินข้าวหรือยัง พวกแม่บ้านน่ะไม่ยอมตั้งโต๊ะให้จันทร์เพราะคุณชายของบ้านบอกว่ากินมาจากข้างนอกแล้ว”

“ครับ ผมกินมาจากข้างนอก กินก๋วยเตี๋ยวกับไอ้วินมา”

“อ้อ” จันทร์เจ้าลากเสียง กลอกตาไปมา “ก็ยังดีที่ไม่ได้โกหก จันทร์ก็คิดว่าเป็นเพราะพี่เจ้าสั่งไว้เสียอีก”

“เจ้ามาเกี่ยวอะไร” ธราข่มโทสะ เขาดึงแขนออกจากการเกาะกุมของจันทร์เจ้าแล้วเดินไปนั่งที่โซฟารับแขก “ต่างคนต่างอยู่กันได้แล้ว ไม่ว่าอะไรที่เกิดขึ้นกับจันทร์ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้า ผมว่าจันทร์ควรมองตัวเองนะว่าทำอะไรไว้บ้าง คนในบ้านนี้ถึงไม่ชอบ”

“แล้วเป็นคนใช้น่ะมีสิทธิ์ขัดคำสั่งเจ้านายเหรอ” จันทร์เจ้าแหวกลับ เดินกระแทกเท้ามานั่งข้างๆ ธรา

“จันทร์ไม่ใช่เจ้านายของที่นี่ ไม่ว่าจันทร์หรือผมก็เป็นแค่ผู้อาศัย” ธราเน้นย้ำเพื่อเตือนสถานะของคนที่มักจะลืมตัว “อีกอย่างคนที่เขาทำงานเขาทำเพื่อแลกเงิน ทุกอย่างมีการแลกเปลี่ยน เขาลงแรงเพราะเราให้เงินและให้ใจ อีกอย่างที่นี่น่ะเจ้าเป็นเจ้าของ ถ้าอยากจะจิกหัวใช้คนของเจ้าก็ไปขออนุญาตเจ้า อย่าไปทำตัวต่ำใส่พวกเขา พวกเขาไม่ได้ขอเงินจันทร์ใช้ พวกเขาก็มีสิทธิ์ที่จะไม่เกรงใจ”

“ดิน!” ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยโทสะ ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวด้วยความริษยา “จันทร์จะฟ้องคุณพ่อ!”

“ก็เอาสิครับ จะทำอะไรก็แล้วแต่เลย ผมคิดว่าไม่ต้องเกรงใจกันแล้วล่ะในเมื่อจันทร์ก็ไม่เคยเกรงใจผม”

“แค่เพราะไอ้ดอกกุหลาบห่วยๆ ดอกนั้น ดินถึงเป็นแบบนี้! จันทร์น่าจะเอาเท้าขยี้มันให้แหลกจนไม่เหลือซาก”

ธราคงประเมินตัวเองสูงเกินไป เขาคิดว่าเขาคงอดทนกับจันทร์เจ้าได้มากกว่านี้ แต่เปล่าเลย ความอดทนของเขาติดลบเสียยิ่งกว่าอุณหภูมิอากาศของขั้วโลกเหนือ ความร้อนระอุในอกก็แทบละลายภูเขาน้ำแข็งให้ละลายภายในพริบตา

“ถ้าจะบอกว่าจันทร์เป็นลูกเลี้ยงของคุณจันทร์แรมผมก็ไม่แปลกใจเลยนะ เพราะสันดานต่ำๆ แบบนี้คนใจดีอย่างคุณจันทร์แรมคงไม่ได้สอน!” ธราบอกอย่างเหยียดหยันก่อนจะจ้องมองจันทร์เจ้าที่เงื้อมือขึ้นสูง “เอาสิ จะตบผมเหรอ จันทร์ตบมาผมต่อยแน่ ไม่ใช่ผู้หญิงผมก็ไม่ต้องเกรงใจ แล้วอย่าคิดว่าผมจะต่อยทีเดียวนะ ผมจะซัดให้แหลกเหมือนดอกกุหลาบของผมเลย”

จันทร์เจ้าไม่กล้า แค่มองกล้ามแน่นๆ ของธราก็ถอยหนีแล้ว “ขอโทษ...จันทร์ก็แค่หงุดหงิดมากไปหน่อย”

“ทีหลังก็อย่าเอามาลงกับผม ผมไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์ของใคร”

“ครับ...จันทร์ขอโทษนะดิน จันทร์จะไม่ทำอีกแล้ว จะไม่พาลไปทั่ว ดีกันนะดิน อย่าใจร้ายกับจันทร์เลย ดีกันเหมือนเดิมนะ”

ธราไม่ให้คำตอบ เขาปล่อยให้นิ้วก้อยของจันทร์เจ้าที่ยื่นมาค้างเติ่งไว้อย่างนั้นแล้วลุกขึ้นเดินออกจากห้องรับแขก ก่อนจะก้าวเท้าพ้นออกจากห้องก็หันไปบอกกับจันทร์เจ้าว่า “ไม่ต้องตามมานะครับ ผมจะพักผ่อน มีอะไรไว้คุยกันพรุ่งนี้”

“ก็ได้!”

ธราส่ายหน้าระอากับเสียงหวานที่ตวาดกลับมา เขากำลังคิดว่าต้องใช้ความอดทนมากแค่ไหนกับการที่จะต้องมีจันทร์เจ้าต่อไปในฐานะคนในครอบครัวที่มีพ่อคนเดียวกัน เผลอภาวนาไปแล้วว่าขอให้ไม่เป็นความจริงเพราะเขาไม่อยากจะนับญาติด้วยเท่าไรนัก จากที่คิดว่าคนคนนี้ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด พอเวลาผ่านไปกลับรู้ซึ้งถึงแก่นว่าเลวร้ายมากกว่าที่คิดเลยทีเดียว

.

.


ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
«ตอบ #714 เมื่อ24-02-2019 17:22:56 »

“ไม่สบายเหรอ” ธราอดถามไม่ได้ คนที่ไม่ยอมกลับบ้านมานานนับเดือนนั้นกลับมานอนอยู่ที่โซฟาในห้องนั่งเล่นด้วยสภาพที่ดูไม่จืด ใบหน้าคมคายซีดเซียว ขอบตาดำคล้ำ ริมฝีปากแห้งแตกจนเห็นคราบเลือดที่ซึมออกมา

ไม่มีเสียงตอบกลับ ท่านเจ้ายังคงนอนหลับตาอยู่อย่างนั้นแม้สีหน้าจะดูทุรนทุรายและมีเหงื่อซึมออกตามไรผม ธราจึงตัดสินใจเดินเข้าไปดูใกล้ๆ เขาลดตัวลงนั่งให้อยู่ในระดับกับคนที่นอนราบแล้วใช้หลังมือทาบลงบนหน้าผากเนียนใต้ปอยผมหน้าม้าที่ยาวจนตกลู่ลงบดบังดวงตา ความร้อนที่สัมผัสได้นั้นทำให้คิ้วเข้มขมวดมุ่นอย่างเป็นกังวล

“เจ้า” เขาตัดสินใจเรียกอีกครั้ง แต่ครั้งนี้สะกิดร่างผอมเบาๆ ไปด้วย “ตื่นก่อน”

“หืม” ท่านเจ้าขานรับในลำคอพลางค่อยๆ ปรือตาขึ้นมอง ริมฝีปากยกยิ้มเมื่อเห็นว่าคนที่ปลุกคือคนที่เพิ่งฝันถึง “กลับมานานหรือยังครับ”

“เพิ่งถึงบ้านเมื่อกี้” ธราตอบแล้วรีบขยับตัวออกห่าง เขาตกใจอยู่เหมือนกันที่เข้าใกล้อีกฝ่ายในระยะประชิดขนาดนี้ ใบหน้าที่อยู่ในห้วงคิดก็ไม่ได้เห็นชัดๆ มานานนับเดือนแล้ว “ไม่สบายแล้วกินข้าวกินยาหรือยัง”

แววตาคมของท่านเจ้ามองธรา เปิดเผยความปวดร้าวให้เห็นเพียงครู่แล้วกลบเกลื่อนมิดชิดด้วยความเรียบเฉย “กินแล้วครับ ว่าแต่น้องดินสอบเป็นไงบ้าง”

“ทำได้” ธราตอบสั้น อยากรีบจบการสนทนาให้เร็วที่สุดเพราะเขารู้ว่าตัวเองนั้นไม่ได้เก่งพอที่จะทำใจแข็งต่อไปได้ การฝืนทนไม่เข้าใกล้ไม่สัมผัสก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาถนัด ในเมื่อเกือบทั้งชีวิตของเขาไม่เคยมีความคิดที่จะเมินเฉยคนที่เป็นดั่งเจ้าชีวิตเลยสักครั้ง “งั้นผมขอตัวขึ้นห้องก่อน...”

“เดี๋ยวครับ” เสียงแหบต่ำดังขัดขึ้น ในขณะที่เจ้าของเสียงยื่นมือมาจับที่แขนของธราไว้ คนถูกรั้งถึงกับขมวดคิ้วใส่ “ขอคุยด้วยหน่อย...ไม่นาน”

“จะคุยอะไรครับ” ธราถามพลางดึงแขนออกจากการเกาะกุม ทอดสายตามองเจ้าของฝ่ามือร้อนแล้วถอนหายใจออกมา “พูดมาเลย ผมฟังอยู่”

ธรารออยู่นานกว่าที่คำพูดจะเล็ดลอดออกจากริมฝีปากบาง “แค่อยากรู้” แววตาคมที่สบมองกับเขาก็เผยความอาวรณ์ให้เห็น “แค่อยากรู้ว่าสบายดีมั้ย”

ธราเกือบหลุดหัวเราะทั้งที่ไม่ได้รู้สึกตลกกับคำถามที่ได้ยิน แต่เขาอยากหัวเราะจริงๆ หัวเราะเพื่อเป็นการเย้ยหยันตัวเองที่ต้องมาตอบคำถามสิ้นคิดแบบนี้ “ก็ดีครับ ไม่มีพี่...ก็ไม่แย่นักหรอก”

ใช่...ไม่แย่ ผ่านมาแล้วเกือบเดือนธราก็ยังคงหายใจได้ ยังคงใช้ชีวิตได้ตามปกติ แม้จะมีบางวันที่รู้สึกว่าผ่านพ้นไปได้ยากเย็นแต่เขาก็ผ่านมาได้ อีกฝ่ายเถอะเป็นอย่างไร เขาอยากจะรู้นัก ชีวิตที่ไม่มีเขาดีหรือเปล่า ทางที่เลือกเดินไปนั้นดีกว่าทางที่มีเขาบ้างมั้ย

“อืม ดีแล้ว” ท่านเจ้าพูด เผยรอยยิ้มสำทับ แต่แววตานั้นไม่ได้คล้อยตาม

“ครับ ดีมากๆ” ทำไมถึงเชื่อคำโกหก ธราก็ไม่อยากถาม ท่านเจ้าของเขาไม่ใช่คนโง่ แต่กลับตั้งคำถามโง่ๆ ออกมาและยอมเชื่อคำตอบโง่ๆ ของเขา

คนที่ถูกทิ้ง มันจะไปสบายดีได้ยังไงวะ!

“มีอะไรอีกมั้ย” ธราเอ่ยถามอย่างเย็นชา เขาพบว่าตนเองนั้นไม่สามารถฝืนยืนตรงหน้าคนที่ทำให้เจ็บช้ำโดยไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกไปได้ หากยังอยู่ตรงนี้ต่อไปคงสารภาพว่าที่บอกออกไปนั้นมันเป็นคำโกหก เขาไม่ได้สบายดี ไม่แม้แต่จะเฉียดใกล้คำนั้น ยิ่งเห็นใบหน้าคมคายของท่านเจ้า ความเข้มแข็งก็เลือนหายไปจนแทบไม่เหลือร่องรอย

“มี” ท่านเจ้าตอบกลับ ขยับตัวเข้าประชิดธราที่นิ่งอึ้งไปกับร่างผอมที่กำลังบดเบียดเข้าหา รับรู้ถึงไอร้อนที่แผ่ออกมาจากผิวกายคนป่วย ลมหายใจร้อนเป่ารดยามที่ใบหน้าคมเคลื่อนเข้าใกล้ ก่อนเสียงกระซิบแผ่วจะดังขึ้นให้ได้ยิน “เจ้าคิดถึง”

ธราสบถในลำคอแทบไม่เป็นคำ เขายืนตัวแข็ง ไม่กล้าแม้แต่จะยกมือโอบรัดกายผอมหรือผลักออกห่าง เขายอมรับอย่างหมดท่าว่าพ่ายแพ้ต่อความคิดถึงที่ล้นอยู่ภายในอกแต่ก็ไม่กล้าพอที่จะตอบรับ ความเจ็บยังคงอยู่ แม้จะดีใจที่ได้รับรู้ว่าอีกฝ่ายก็ยังคงคิดถึงกัน แต่ก็เท่านั้น...ให้ความเป็นไปไม่ได้ดำเนินต่อไปก็คงดีกับทุกคนแล้ว

“ปล่อยเถอะครับ” สุ้มเสียงของธราเต็มไปด้วยความลังเล เขาอาวรณ์แต่กลับเลือกที่จะพูดตรงกันข้ามกับความต้องการ “เราทำอย่างนี้ไม่ได้แล้ว”

“ไม่ปล่อย” แววตาของท่านเจ้าดื้อรั้นเมื่อสบมองกับธรา ไม่บ่อยเลยที่จะได้เห็นแววตาอย่างนี้จากคนที่ตามใจเขามาโดยตลอด “เจ้าไม่ปล่อย ไม่อยากปล่อย”

“ป่วยแล้วงอแงเหรอ” ไม่รู้หรอก ธราก็แค่คาดเดาเพราะไม่เคยเห็นท่านเจ้าป่วยสักที ท่านเจ้าน่ะแข็งแรง เป็นฝ่ายที่คอยดูแล เฝ้าไข้มาโดยตลอด พอเห็นพฤติกรรมแปลกๆ แล้วเขาจึงได้แต่คิดเอนเอียงไปทางว่าอาจเกิดจากความผิดปกติของร่างกาย “ไปอ้อนแฟนของพี่ไป แต่ต้องยอมโดนจี้บ่นหน่อย เพราะพี่ไม่ดูแลตัวเองจนป่วยแบบนี้”

“อยากอ้อนน้องดิน” ท่านเจ้าดื้อดึง ซุกใบหน้าลงกับไหล่กว้างของธรา คลอเคลียเหมือนลูกแมวจนคนถูกอ้อนถึงกับใจอ่อนยอมให้ซุก “แล้วจี้ก็ไม่ใช่แฟนของเจ้า เจ้ามีแค่น้องดิน เพราะเจ้ารัก...”

“ไหนบอกไม่ให้พูด” ธราถามเสียงเข้ม เขารีบตัดบทไม่ให้ท่านเจ้าพูดจนจบประโยค เพราะแน่ใจว่าหากได้ฟังแล้วเขาคง... “ไหนบอกให้เกลียด ไหนบอกให้กลับไปเป็นพี่น้องกัน แล้วตัวเองกลับมาพูดแบบนี้ได้ยังไง”

“อย่าดุได้มั้ย” ท่านเจ้าอ้อนวอน ช้อนตาขึ้นมองคนที่กำลังขมวดคิ้วมุ่นคล้ายกำลังหงุดหงิด “เจ้ารู้ว่าเจ้าทำผิด ตอนนี้ดินคงเกลียดเจ้าแล้ว แต่เจ้าอยากขอโอกาส”

“พอ…” ธราไม่อยากฟัง แต่ท่านเจ้าของเขาไม่ให้ความร่วมมือ

“กลับมาเป็นคนรักของเจ้าอีกครั้งได้มั้ยดิน” กลีบปากบางเปล่งเสียง แววตาอ้อนวอนอย่างยอมจำนน “เจ้าทนไม่ไหวแล้ว”

“พอเถอะครับพี่” ธราใจแข็งตัดบท เขาเลือกที่จะไม่สบตากับท่านเจ้า “เราอย่าฝืนกันอีกเลย ผมเป็นน้องชายของพี่ ตำแหน่งนี้มันถูกต้องที่สุดแล้ว เพราะถ้าเรายังฝืนกันต่อ ผมอาจจะเกลียดพี่เข้าสักวัน”

ท่านเจ้านิ่งเงียบ ไม่โต้กลับคำพูดของธราแต่กลับกอดร่างหนาของเขาไว้แน่น คล้ายกับประกาศก้องว่าจะไม่มีวันปล่อยเขาไปแม้จะไม่ได้พูดคำใดออกมาแม้แต่คำเดียว

“ว้าว...” จู่ๆ เสียงที่ธราไม่อยากได้ยินที่สุดในเวลานี้ก็ดังขึ้น เขาหันมองแล้วก็พบว่าจันทร์เจ้ายืนอยู่ที่กรอบประตูห้อง โทรศัพท์มือถือที่ถูกยกขึ้นมาคล้ายกำลังถ่ายรูปก็ลดลงราวกับจงใจให้เห็นว่าตนเองกำลังทำอะไร “ได้ภาพดีๆ ให้คุณพ่อแล้ว”

ธรากับท่านเจ้าผละออกจากกัน เด็กหนุ่มทั้งสองมองไปที่จันทร์เจ้า คนหนึ่งทำหน้าเอือมระอา ส่วนอีกคนมีแววตาอันตราย

“ยังไงล่ะทีนี้พี่ชาย จะจับน้องชายตัวเองกินอีกแล้วเหรอครับ” เสียงหัวเราะเสแสร้งของจันทร์เจ้าดังขึ้นเมื่อพูดจบ ร่างเล็กเดินเข้ามาใกล้ธราแล้วสอดมือเข้าที่แขนแกร่ง “แต่ไม่ได้หรอกน้า ผมไม่ให้ดินกับพี่หรอกพี่เจ้า ดินเป็นของผมแล้ว”

ท่านเจ้ายกยิ้ม แววตาเย็นชาจ้องมองใบหน้าจันทร์เจ้าแล้วเคลื่อนลงมองมือบางที่ถือสิทธิ์ “ถ้าไม่ตายก็คงไม่หยุดสาระแนจริงๆ นะคนอย่างมึง”

“อู้...น่ากลัวจัง ขู่ฆ่ากันเลยเหรอ” ไม่มีความกลัวในสีหน้าเลยแม้แต่น้อย เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายก็เก่งแค่คำพูด ไม่เคยทำอะไรตนเองได้เลยสักที “แต่คุณพ่อจะว่ายังไงนะถ้าพี่ทำร้ายน้องๆ หรือไม่ว่ายังไงคุณพ่อก็ไม่สนใจคนอย่างพี่อยู่แล้ว ดูสิ คุณพ่อน่ะรักลูกเลี้ยงอย่างผมมากกว่าพี่อีกนะ”

“หยุดพูดเถอะจันทร์” ธราเตือน เขาไม่อยากให้จันทร์เจ้าพ่นความไม่รู้ออกมาไปมากกว่านี้ “แล้วมาที่นี่มีอะไร”

“จันทร์จะมาหาดินไม่ได้หรือไง จะให้อุดอู้อยู่ที่ห้องคนใช้เหรอ เหอะ จันทร์บอกเลยนะว่าถ้าคุณพ่อกับคุณแม่กลับมา ต้องมีใครบางคนโดนลงโทษแน่ที่ทำกับจันทร์อย่างนี้”

“หมายถึงกู?” ท่านเจ้าเลิกคิ้วถาม รอยยิ้มยังไม่จางจากสีหน้า “ที่จริงจะลงโทษก็ไม่ถูกนะ น่าจะให้รางวัลกูด้วยซ้ำที่ส่งคนอย่างมึงไปอยู่ในที่ที่ถูกที่ควร”

“พี่เจ้า!”

“อย่าขึ้นเสียงใส่เจ้า” ธราบอกเสียงเข้ม ไม่เคยชอบใจที่มีใครมาทำกิริยาแบบนี้ใส่คนที่เขารัก เขาอดทนกับจันทร์เจ้าได้ไม่ว่าอีกฝ่ายจะทำตัวแย่แค่ไหน แต่ต้องไม่ใช่กับท่านเจ้าของเขา “ถ้าจะเป็นคนในครอบครัวก็หัดมีความเคารพต่อพี่ชายตัวเองบ้าง”

“พี่ชายที่เป็นเมียดินน่ะเหรอ” จันทร์เจ้าโต้กลับ

ใบหน้าหล่อเหลาถมึงทึง ธราก้าวยาวๆ เพียงสองก้าวก็เข้าประชิดคนตัวเล็ก “อย่าหาว่าผมไม่เตือนนะจันทร์”

“แหม รับความจริงไม่ได้เหรอครับ หรือต้องให้จันทร์เปิดคลิปย้ำเตือน...”

โครม!

จันทร์เจ้าสะดุ้งเฮือกเมื่อโซฟาด้านหลังถูกธราถีบจนเคลื่อนไปชนกับโต๊ะวางของตกแต่งจำพวกคริสตัลที่บัดนี้ของพวกนั้นตกลงบนพื้นส่งเสียงดังลั่นห้อง เศษซากเกลื่อนกระจายอยู่บนพื้น

“ถ้ายังไม่หยุดพูด คราวหน้าที่โดนถีบจะไม่ใช่โซฟา” สุ้มเสียงแข็งกร้าวดังขึ้นตาม ธรามองตาขวางไปที่ใบหน้าหวานซีดเผือดของจันทร์เจ้า ร่างเล็กสั่นเล็กน้อยไปด้วยความหวั่นกลัว เขามองจนเมื่อเห็นว่าจันทร์เจ้าสงบลงแล้วจึงหันไปหาอีกคน “พี่ไปพักผ่อนเถอะครับ ไม่สบายก็พักเยอะๆ”

“แต่เรายังคุยกันไม่จบ” ท่านเจ้าแย้ง มองธราที่ยืนอยู่ข้างจันทร์เจ้าด้วยความไม่เข้าใจ

“จบแล้วครับ” ธราพูดเสียงเรียบ “หมายถึงเรื่องของเราน่ะ...จบแล้ว”

“เดี๋ยว…” พูดได้เท่านั้นก็ชะงักค้างเมื่อธราเลือกที่จะเดินไปหาจันทร์เจ้าแล้วดึงมือเล็กนั้นมากุมไว้

“หลังจากนี้พี่ไม่ต้องห่วง จะไม่มีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นอีก” เขาเผยรอยยิ้ม แทบกัดฟันกลั้นใจเมื่อต้องพูดประโยคถัดไปออกมา “ผมจะดูแลคนของผม ไม่ให้ไปยุ่งกับพี่ ในเมื่อเราเลี่ยงที่จะเป็นคนในครอบครัวเดียวกันไม่ได้ ก็ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างใช้ชีวิตดีกว่าครับ”

เมื่อได้ยินคำพูดของธรา จันทร์เจ้าก็เผยรอยยิ้มกว้างทันที สีหน้าท่านเจ้าที่เห็นก็ทำให้นึกสะใจจนไม่อาจปิดกั้นความสุขใจไว้ได้ “แหม...จันทร์ก็เผลอหงุดหงิดไปซะได้ พอเห็นพี่กับดินกอดกันกลมแล้วก็นึกว่าทั้งสองคนจะกลับไปคืนดี” จันทร์เจ้ายิ้มหวาน สอดแขนเข้าคล้องกับแขนของธราเอาไว้อีกครั้ง “ขอโทษนะครับพี่เจ้า ที่จันทร์เข้าใจผิดแล้วเผลอทำตัวไม่น่ารัก เพราะจันทร์เป็นคนขี้หึง จันทร์ไม่อยากให้แฟนของจันทร์ยังอะไรๆ กับของเก่าๆ”

“ผมบอกว่าไงจันทร์” ธราเสียงเข้มจัด “บอกให้หุบปากไม่ใช่เหรอ”

“อุ๊บ! ขอโทษครับ จันทร์ก็แค่อยากพูดขอโทษพี่เจ้าเท่านั้นเอง”

ในตอนนี้ไม่ว่าคำพูดเสแสร้งของจันทร์เจ้าจะน่าหงุดหงิดใจมากแค่ไหน ท่านเจ้าก็ไม่ได้สนใจเพราะเอาแต่มองธรา แววตาเจ็บปวดเต็มไปด้วยคำถามและความไม่เข้าใจ

“พี่ไปพักผ่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมกับจันทร์จะออกไปกินข้าวข้างนอก ไม่อยู่รบกวน” ธราเผยรอยยิ้มเศร้าเมื่อสบตามองกับคนที่ยืนนิ่งงัน ในขณะที่จันทร์เจ้าแทบร้องออกมาเป็นเพลงด้วยความดีใจ ปากเอาแต่พร่ำพูดว่าดินเนอร์ๆ “กินข้าวกินยานะครับพี่ แล้วก็ไม่ต้องห่วงหรอก ผมยังรู้สึกกับพี่เหมือนเดิม”

แต่แค่กลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้เท่านั้นเอง

ธราเลือกที่จะเดินออกมา เขาไม่ได้หันหลังกลับไปมอง เพราะรู้ว่าหากหันไปแล้วคงเข้มแข็งอีกได้ไม่นาน

“เราจะไปดินเนอร์ที่ไหนกันดี” จันทร์เจ้าถามด้วยความกระตือรือร้น “เอารถไปเองมั้ย จันทร์ไม่อยากไปแท็กซี่แล้วก็ไม่อยากให้ลุงคนนั้นขับรถให้ด้วย คนสนิทของพี่เจ้าน่ะไม่ชอบจันทร์”

ธราระบายลมหายใจออกมา ความรำคาญกัดกินใจจนยากจะขจัดออก แน่ใจว่าถ้าจันทร์เจ้าไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือดเดียวกันกับเขา เขาคงซัดเปรี้ยงให้กรามหักไปตั้งนานแล้ว ที่ยังฝืนทนอยู่ได้เพราะคิดว่าอย่างไรก็คนในครอบครัว คุณจันทร์แรมก็ดีกับเขา แค่ฝืนใจกับลูกชายที่มีนิสัยไม่น่าคบสักหน่อยก็คงไม่เป็นไร

“แล้วจะไปยังไง ผมขับรถไม่เป็น” ธราถามกลับ เบื่อหน่ายกับความเรื่องมากของจันทร์เจ้า เพราะเขาไม่เคยต้องตามใจใคร เขาเป็นฝ่ายที่ถูกตามใจ ถูกดูแล แม้แต่รถก็ขับไม่เป็น เขามักจะมีคนขับรถให้เสมอ หากลุงชันไม่ว่างก็จะเป็นเพื่อนในกลุ่มที่คอยขับให้ ตำแหน่งตุ๊กตาหน้ารถของท่านเจ้านั้นเขาก็ครองตำแหน่งมาตั้งแต่ที่ท่านเจ้าขับรถเป็น

ชีวิตที่มีท่านเจ้าคือชีวิตที่เขาเป็นฝ่ายได้รับอยู่ฝ่ายเดียว แต่ต่อจากนี้เขาต้องเป็นผู้ให้บ้างแล้ว

“ให้จันทร์ขับมั้ย จันทร์อยากลองขับบ้าง นะๆ ๆ ดิน รถในบ้านก็มีตั้งหลายคัน ให้จันทร์ขับคันหนึ่งคงไม่มีใครว่าหรอก ถ้าดินกลัวพี่เจ้าว่า จันทร์โทรไปขอคุณพ่อก็ได้” ในระหว่างที่จันทร์เจ้ากำลังออดอ้อนอยู่นั้น ธราก็เห็นจี้ วิน และบินเดินเกาะกลุ่มกันมา ทั้งสามคนมองมาที่เขา พยักหน้าทักทายแล้วเลื่อนสายตาไปที่จันทร์เจ้าก่อนจะมองเมิน

“พวกลูกคนใช้” จันทร์เจ้าแอบเบ้ปากเมื่อทั้งสามคนเดินผ่านโดยไม่ได้หยุดทักทาย แต่เมื่อได้ยินถ้อยคำแสลงหูคนที่หยุดเดินคนแรกคือวิน แต่จี้กลับรุนหลังให้เดินต่อ

“เข้าไปหาท่านกันก่อน อย่าลืมว่าท่านไม่สบาย เสียเวลากัดกับหมาคงไม่ใช่เรื่อง เดี๋ยวกูจัดการเอง” จี้ว่าแล้วก็ปล่อยให้วินกับบินที่มีทีท่าขัดใจเล็กน้อยเดินเข้าไปในตัวบ้าน ก่อนตัวเองจะหันมาเผชิญหน้ากับธราและจันทร์เจ้า “ไงไอ้ดิน จะพาหมาออกไปเดินเล่นที่ไหน”

จันทร์เจ้าเป็นแค่คนปากเก่งที่เมื่ออยู่ต่อหน้าจี้ก็ตัวสั่นหลบอยู่ข้างหลังธรา คงเพราะรู้ดีว่าจี้นั้นไม่ใช่คนที่สามารถตอแยได้ ไม่เหมือนท่านเจ้าที่ถึงแม้จะไม่ชอบใจหรือจงเกลียดจงชังจันทร์เจ้ามากแค่ไหนแต่ก็ไม่เคยลงไม้ลงมือตบตี อาจมีบ้างที่โต้กลับรุนแรงเหมือนอย่างคราวที่ราดแกงเขียวหวานใส่จันทร์เจ้า แต่หลายครั้งก็ปล่อยให้จันทร์เจ้ากระทำอยู่ฝ่ายเดียว ไม่สนใจที่จะตอบโต้ ทว่าคนร่างเล็กที่มีแววตาเย็นชาคนนี้แตกต่าง

“ไปกินข้าว” ธราตอบ ที่จริงก็ไม่ได้คิดจะชวน แต่เมื่อจันทร์เจ้าสร้างเรื่องไม่จบไม่สิ้น เขาก็คิดว่าคงต้องพูดคุยกันอย่างจริงจังสักที จะได้บอกเล่าความจริงและปรับความเข้าใจกันด้วย อย่างน้อยก็อาจจะทำให้จันทร์เจ้าคิดดีขึ้นมาได้บ้าง “มึงรีบเข้าไปดูเจ้าเถอะ เมื่อกี้เกิดเรื่องนิดหน่อย ฝากด้วยนะ”

“อืม แล้วจะไปยังไง พ่อชันไม่อยู่ ไปทำธุระให้ท่าน ให้กูไปส่งมั้ย” จี้ถามอย่างหวังดี แต่แววตาที่จับจ้องจันทร์เจ้านั้นเผยความอันตราย

“ไม่ต้องๆ มึงอยู่กับเจ้าไป จันทร์ขับรถเป็น ให้จันทร์ขับ”

“ก็ดี เอารถคันไหนไปล่ะ รถที่บ้านกูมั้ย เดี๋ยวไปเอามาให้ กุญแจรถที่บ้านหลังนี้ก็อยู่กับพ่อชันหมด” จี้เสนอ ขยับยิ้มจนธรานึกแปลกใจเพราะปกติคนตัวเล็กคนนี้ไม่ใช่คนยิ้มง่าย หากไม่ได้อยู่ต่อหน้าท่านเจ้าแล้วก็ไม่เคยเห็นยิ้มเลยด้วยซ้ำ “เว้นรถของท่าน หรือมึงจะเอารถของท่านไป”

“ไม่เอา” ธราตอบในทันที เขาจะไม่ยอมให้จันทร์เจ้าแตะต้องของที่เป็นของท่านเจ้าไปมากกว่านี้ “ยืมรถที่บ้านมึงหน่อย”

“ได้” จี้ตอบรับ “แต่เก่าหน่อยนะ ลูกผู้ดีนี่ขับรถเก่าๆ ได้มั้ยน้องจันทร์”

จันทร์เจ้าไม่ให้คำตอบ เชิดหน้าขึ้นอย่างไม่ต้องการที่จะสนทนากับคนตั้งคำถาม

“หึ” จี้หัวเราะในลำคอ “รอที่นี่ละกัน เดี๋ยวกูเอามาให้”

“เออๆ ขอบใจมาก”

จี้หันหลังเดินออกไป และเกือบยี่สิบนาทีก็ขับรถญี่ปุ่นกลางเก่ากลางใหม่มาจอดตรงหน้าธรา “โทษที” จี้พูดเมื่อลงจากรถ “รอแม่กลับจากตลาด”

“ไม่เป็นไร แล้วนี่น้ำอะไรวะจี้ หยดเป็นทาง” ธราตั้งคำถาม สังเกตเห็นรอยน้ำที่หยดมาตามทางขณะที่รถเคลื่อนผ่านช้าๆ “มีอะไรรั่วหรือเปล่า”

“กูเพิ่งเติมน้ำที่ปัดน้ำฝนเมื่อกี้ อาจจะลืมปิดฝา ขอเช็กดูก่อน” จี้ว่าแล้วเดินไปเปิดฝากระโปรงหน้ารถ ก่อนจะส่งเสียงบอกธรา “เออมึง จริงด้วยว่ะ ลืมปิด”

“อย่างนี้ต้องเติมเพิ่มมั้ย” ธราไม่แน่ใจว่ามันสำคัญมากแค่ไหน เพราะไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับรถเลย เขามีหน้าที่แค่นั่งข้างหรือด้านหลังคนขับเท่านั้น

“ไม่ต้อง ไม่ได้สำคัญหรอก แต่กูแค่เติมไว้เฉยๆ”

“โอเค” ธรารับกุญแจรถมาจากจี้แล้วหันไปที่จันทร์เจ้า “ไปเถอะจันทร์ รีบไปจะได้รีบกลับ”

จันทร์เจ้าพยักหน้าจำยอม แม้จะนึกเสียได้ที่ไม่ได้ขับรถหรูที่จอดเรียงรายอยู่ในโรงจอดรถ แต่แค่ได้ขับรถพาธราไปดินเนอร์เพื่อฉลองชัยชนะของตนเอง คนตัวเล็กก็พอใจมากแล้ว

“ขับรถดีๆ ล่ะ” จี้อวยพรพลางยกยิ้ม “อย่าซิ่ง”

“เออน่า แล้วเจอกัน”

“หวังว่าจะได้เจอ”

รอยยิ้มของจี้ในครั้งนั้นอาจเป็นครั้งเดียวที่ธราเห็นว่ามันเป็นรอยยิ้มที่ออกมาจากใจ

.

.

D. : จี้ ไม่อยากถามแบบนี้ แต่มึงทำใช่มั้ย

Gee : อืม แต่กูก็เตือนแล้วว่าอย่าซิ่ง ถ้ามันไม่ขับเร็วก็คงไม่เป็นอะไร เบรกย้ำๆ ยังไงก็อยู่

Gee : ไม่ได้แก้ตัวนะมึง แต่กูไม่ได้คาดหวังด้วยซ้ำว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง พวกมึงอาจจะกลับมาอย่างปลอดภัยก็ได้ เพราะการทำให้น้ำมันเบรกรั่วไม่ได้ทำให้พวกมึงเกิดอุบัติเหตุได้ในทันที มันต้องอาศัยปัจจัยอื่นด้วยเพราะเบรกมันก็ยังทำงานได้ คอนโซลรถก็น่าจะขึ้นแจ้งเตือนความผิดปกติอยู่แล้ว ถ้าเอะใจสักนิดคงไม่เป็นอะไรกันหรอก

D. : มาถึงตอนนี้แล้วไม่รู้จะโกรธหรือหัวเราะดีว่ะ

Gee : โกรธก็ได้ แต่กูไม่ขอโทษนะ เพราะกูตั้งใจ ต่อให้ลังเลแต่กูก็ปล่อยจันทร์เจ้าไปไม่ได้ คนที่ทำให้ท่านไม่มีความสุข กูไม่อยากปล่อยให้มันลอยหน้าลอยตา อยู่ไปก็รกโลก

D. : เข้าใจ แต่ถามจริงนะ มึงเกลียดกูด้วยใช่มั้ยจี้

Gee : อืม ยอมรับ แต่น้อยกว่าจันทร์เจ้านิดหนึ่งละกัน เทียบกับคนแบบนั้นแล้วกูรักมึงขึ้นมาเลย

D. : ขอบใจไอ้สัด

D. : แต่ว่านะจี้ มันไม่ใช่เพราะมึงซะทีเดียวหรอก

Gee :?

D. : เพราะพวกกูทะเลาะกันบนรถด้วย ตอนนั้นน่ะกูบอกเรื่องที่ควรบอกกับจันทร์ทั้งๆ ที่คิดว่าจะนั่งคุยกันระหว่างกินข้าว แต่ให้อยู่กับคนอย่างจันทร์นานเกินวินาทีกูก็ทนแทบไม่ไหว

.

.

“รถเก่าก็แบบนี้อะดิน เหยียบเบรกไม่ค่อยอยู่เลย ต้องเหยียบลึกขึ้นทุกที ไฟหน้าคอนโซลก็ขึ้นอะไรไม่รู้ รถของพวกคนใช้นี่ไม่ได้เรื่องอะ หาดีๆ มาให้หน่อยก็ไม่ได้ ไว้จันทร์จะขอคุณพ่อซื้อคันใหม่ ถ้าพี่เจ้าหวงไม่ให้ใช้นักก็ถอยคันใหม่เลยก็แล้วกัน” จันทร์เจ้าบ่นกระปอดกระแปดในขณะที่เพิ่มความเร็วรถแล้วหักเลี้ยงพวงมาลัยไปตามทางโค้งของถนน

ร้านอาหารที่จันทร์เจ้าเลือกนั้นอยู่ไกลไปสักหน่อย แต่ธราก็ไม่คัดค้าน เขาไม่ออกความเห็น จะไปร้านไหนก็คงเหมือนกันถ้าไปกับจันทร์เจ้า ความรู้สึกของเขาคงไม่ดีไปมากกว่านี้หรอก

“ทำไมถึงชอบพูดจิกกัดคนอื่นวะจันทร์” ธราถามขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ เขาเบือนหน้ามองออกนอกหน้าต่างรถที่เพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ ตามความหงุดหงิดของคนที่นั่งอยู่ด้านหลังพวงมาลัยรถ “เขาเอามาให้ก็ดีแค่ไหนแล้ว ดีกว่านั่งแท็กซี่ไม่ใช่เหรอ”

“ดินหยุดเข้าข้างคนอื่นสักทีเถอะ เป็นอะไรนักถึงชอบว่าจันทร์” เสียงหวานตวาดกลับ ตบไฟเลี้ยวแล้วเร่งความเร็วขึ้นปาดหน้ารถคันข้างหน้าที่ขับช้าแต่แช่อยู่เลนขวา

“ทำไมไม่ย้อนดูตัวเองบ้าง นิสัยของจันทร์มันเหลือรับมากขึ้นทุกทีแล้ว ผมเบื่อที่ต้องฟังจันทร์พูดถึงคนอื่นด้วยคำต่ำๆ ทั้งที่ตัวจันทร์ก็ไม่ได้มีดีอะไรเลย” ธราโต้เสียงเฉียบ เขาหงุดหงิดจนแทบจะทุบกระจกรถให้แหลกเมื่อเห็นเงาของจันทร์เจ้าสะท้อนอยู่ในนั้น “จันทร์ไม่ได้สูงส่งกว่าคนอื่น ก่อนคุณจันทร์แรมจะแต่งงานกับคุณพ่อ จันทร์ก็อยู่บ้านเช่าหลังเล็ก ต้องตื่นเช้ามาช่วยคุณจันทร์แรมขายข้าวแกงไปวันๆ ไม่ใช่หรือไง แล้วทำไมถึงชอบดูถูกคนอื่นนัก ผมบอกเลยนะว่าต่อให้จันทร์คิดจะเทียบกับเจ้า จันทร์ก็เทียบไม่ติดหรอก ต่อให้จะเลียนแบบ ลงทุนไปทำศัลยกรรมให้คล้ายยังไง จันทร์ก็ไม่มีวันเหมือน”

“หยุดพูดนะดิน! จันทร์ไม่อยากฟัง! ทำไมต้องคอยเปรียบเทียบจันทร์กับคนอื่น”

“มีแต่ตัวจันทร์เองนั่นแหละที่คอยเปรียบเทียบอยู่ตลอดเวลา จันทร์ทำตัวเองทั้งนั้น”

คนทั้งคู่ต่างสาดอารมณ์ใส่กันจนหน้าแดงก่ำไปด้วยโทสะ ครั้งนี้ธราไม่ยอมความและจันทร์เจ้าก็ไม่เคยรามือ ความอิจฉาริษยาที่มีต่อเจ้า จักรพรรดิ แสดงออกมาอย่างเด่นชัดเมื่อถูกเปรียบเทียบจากคนที่เผลอตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น

“ผมพูดด้วยความหวังดีนะจันทร์ พูดเพราะเห็นว่าเรามีพ่อคนเดียวกัน” ธราตัดสินใจพูดออกมาในขณะที่เจ้าของดวงตากลมโตปิดปากเงียบ “ถ้าจันทร์คิดว่าผมกับเจ้าไม่ควรรักกันเพราะเรื่องสายเลือด งั้นจันทร์ก็ต้องเปลี่ยนความคิดแล้วล่ะ เพราะผมกับเจ้าไม่ใช่”

เสียงหัวเราะดังขึ้นในทันทีที่ธราพูดจบ “อะไรกันดิน เสียใจจนเป็นบ้าไปแล้วเหรอ”

“เปล่า ผมพูดความจริง” ธราบอกเสียงหนักแน่น “ผมเกลียดจันทร์จนอยากจะฆ่าให้ตายด้วยซ้ำ แต่ที่ไม่ทำเพราะยังไงจันทร์ก็ถือเป็นน้องชายของผม เป็นน้องชายแท้ๆ ที่เกิดจากพ่อคนเดียวกัน”

“ไม่จริง!” จันทร์เจ้าไม่ยอมรับ ริมฝีปากบางเม้มแน่นในขณะที่ดวงหน้าซีดเผือด “ดินกับพี่เจ้าต่างหากที่เป็นพี่น้องกัน ไม่ใช่จันทร์กับดิน! ไม่ใช่! ไม่มีทาง!”

“ถ้าไม่เชื่อ เราไปตรวจ DNA กันมั้ย พาพ่อไปตรวจด้วย เอาให้รู้ไปเลยว่ามันเป็นยังไง เพราะผมก็อยากแน่ใจเรื่องนี้เหมือนกัน เพราะตอนนี้ที่ผมแน่ใจโดยไม่ต้องไปตรวจ DNA เลยก็มีแค่เรื่องที่เจ้าไม่ใช่พี่ชายของผมเท่านั้น”

“บ้าไปแล้วแน่ๆ” จันทร์เจ้าพึมพำพลางเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วรถขึ้นอีกเท่าตัว ดวงตากลมกวาดมองกระจกมองหลังเพียงชั่วครู่แล้วแสยะยิ้ม “รถของพี่เจ้าหรือเปล่าที่ตามมาน่ะ”

ธราหันไปมองในทันที เห็นรถจาร์กัวสีดำ ป้ายทะเบียนคุ้นตาขับไล่หลังมา “ขับไปหาที่จอดก่อนจันทร์”

“ไม่” จันทร์เจ้ายืนกรานปฏิเสธแล้วเร่งความเร็วขึ้น แต่รถญี่ปุ่นกลางเก่ากลางใหม่คันนี้คงไม่สามารถเอาชนะความเร็วของรถนอกคันสวยได้ “พี่เจ้าน่ะเป็นคนพูดไม่รู้ฟัง ถ้าอยากได้ดินคืนนักก็ไปตามเอาที่นรกก็แล้วกัน”

“จันทร์! หยุดรถ!”

นั่นอาจเป็นเสียงตะโกนสุดท้ายของธราที่เรียกชื่อของจันทร์เจ้า เพราะหลังจากนั้นรถญี่ปุ่นที่แล่นด้วยความเร็วก็เสียการทรงตัวก่อนเข้าโค้ง เบรกรถไม่ทำงานทำให้ตัวรถพุ่งทะยานไปแฉลบกับเสาไฟจนเสียงดังกึกก้องหลังจากนั้นก็พลิกคว่ำไปอีกหลายตลบ รถทุกคันบนเส้นการจราจรหยุดชะงักแล้วมองภาพตรงหน้าด้วยความพรั่นพรึง ไม่เว้นแม้แต่เจ้าของรถจาร์กัวสีดำที่เหยียบเบรกอย่างกะทันหันเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนจะลนลานลงจากรถแล้วตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ทั้งเรียกหาคนรัก ทั้งร้องขอความช่วยเหลือ น้ำตาไหลนองหน้าอย่างคนที่พบเจอกับความเจ็บปวดทรมานอย่างถึงที่สุด

.

.

Gee : มันคิดจะตายจริงๆ หรือเปล่าไอ้ดิน

D. : ไม่หรอก กูคิดว่าจันทร์แค่ขู่ เพราะพอรู้ว่าเบรกไม่ทำงานก็เอาแต่ร้องไห้อย่างกับคนเสียสติ มันแค่ไม่กี่นาทีเองมั้งแต่กูกลับได้ยินคำขอโทษซ้ำๆ แล้วภาพก็ตัด ตอนนั้นก็คิดจริงๆ แหละว่าคงไม่รอด

Gee : อืม

D. : จี้ ที่กูยังสงสัยคือทำไมเจ้าถึงตามกูไป

Gee : เพราะกูสารภาพกับท่านถึงสิ่งที่กูทำ ท่านไม่เสียเวลาโกรธกูด้วยซ้ำ แต่รีบออกไปหามึง ท่านโทรหามึงก็ติดต่อไม่ได้

D. : เลยทำให้ต้องเห็นภาพจำแย่ๆ แบบนั้น ไม่ดีเลยว่ะ มันคงเป็นภาพติดตาที่เจ้าคงจำไปตลอดชีวิต ฝันร้ายของเจ้าคงเป็นเรื่องในวันนั้น

Gee : ก็จริง เพราะท่านโทษตัวเองว่าเป็นเพราะท่าน ท่านเอาแต่พูดขอโทษมึง ตอนนั้นคิดว่าถ้าเสียมึงไปก็คงเสียท่านไปด้วยแน่ๆ สุดท้ายคนที่อยากปกป้องอย่างกูก็มีแต่ทำเรื่องผิดพลาด

D. : มึงก็ทำเต็มที่ของมึงแล้วจี้ อีกอย่างกูก็รอดมาได้

Gee : ไม่หรอก มึงก็เหมือนตายไปแล้ว น้องดินของท่านตายไปตั้งแต่วันนั้น เพราะมึงไม่เหลือความทรงจำเกี่ยวกับท่านเลย

D. : แต่ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ เพราะถ้าเป็นธราคนก่อน ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีวันเลือกท่านเจ้าของมึงหรอกจี้

D. : ตอนนั้นต่อให้จะยังรักแต่กูก็คิดจะตัดใจแล้วจริงๆ กูยอมรับความเป็นไปไม่ได้จนคิดว่าอยู่ต่อไปอย่างนั้นก็คงไม่เป็นไร

Gee : แล้วจะทำยังไงต่อหลังจากนี้

D. : ทำอะไรได้ด้วยเหรอวะ มันสุดทางแล้ว

Gee : ดิน

D. : ว่า

Gee : ถ้ามีโอกาสอีกครั้งจะกลับไปหาท่านมั้ย มึงจะทำให้ท่านมีความสุขมั้ย

D. : แน่นอน กูจะไม่มีวันปล่อยมือเจ้า จะทำให้มีความสุขให้มากกว่าความเจ็บปวดที่เจ้าเคยเจอ

Gee : ก็ดี

D. : ถามทำไมวะจี้

Gee : แค่อยากรู้

D. : อืม แต่พรุ่งนี้วันสุดท้ายแล้วนะ

D. : กูจะจัดงานวันเกิดให้เจ้า เพราะหลังจากนี้คงไม่ได้อวยพรให้อีกแล้ว

Gee : เอาสิ

D. : ว่าแต่ทำไมตัวมึงถึงไม่อยู่ตรงนี้วะจี้ ทำไมจี้ที่กูเจอกับมึงที่กำลังคุยนี่ถึงรู้สึกว่าไม่เหมือนกัน

Gee : คำถามไร้สาระ ขอไม่ตอบ

D. : อยากด่า

Gee : เออน่า ไม่มีอะไรหรอก

D. : อืม งั้นกูนอนละ ฝันดีมึง

Gee : ฝันดีๆ



..............TBC.................



ขอบคุณทุกความคิดเห็นเลยค่าาาา อีกสองตอนเราจะเดินทางไปถึงตอนจบแล้วนะคะ มาอยู่ด้วยกันไปจนถึงตอนนั้นเน้อ

ออฟไลน์ zenesty

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
«ตอบ #715 เมื่อ24-02-2019 17:45:06 »

ฝันดีนะจี้ ลาก่อน~~~  :hao5:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
«ตอบ #716 เมื่อ24-02-2019 18:37:32 »

ตั้งสติอ่านแต่ก็ยังไม่ช่วยอะไรจ้าา

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
«ตอบ #717 เมื่อ24-02-2019 18:53:38 »

หน่วงนะ แต่ตอนนี้ความรู้สึกที่มากกว่าคือ เกลียดจันทร์เจ้า เกลียดมาก

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 710
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
«ตอบ #718 เมื่อ24-02-2019 18:59:15 »

ต่างก็เจ็บปวดด้วยกันทั้งหมด  :m15:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 23 Our pain ​P.24 24/02/2019
«ตอบ #719 เมื่อ24-02-2019 19:46:31 »

ให้นังเจ้าล่วงหน้าไปก่อนแล้วกัน  :hao3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด