'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End  (อ่าน 176923 ครั้ง)

ออฟไลน์ bowbeauty

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 299
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
หักมุมในหักมุม โว้ยยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ nonlapan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ตกลงคนที่ตายคู่กับท่านเจ้าคือใครรรรร งงไปหมดแล้ว  :z3:

ออฟไลน์ banazjj

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เหมือนเข้าใจ แต่ก็ไม่เข้าใจ มันไม่ชัดเจน มันอึมๆ ครึมๆ
อ่านแล้วเหมือนนั่งสูดกาวเป็นเพื่อนพี่เอ๋  :really2:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
พลิกในพลิกพลิกแล้วพลิกอีก  o13
อย่าบอกว่าดินฆ่าตัวตายตาม หรือใคร เอ๊ะะะะะ

ออฟไลน์ valenna yy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
ดินรู้ รู้ว่าถ้าเจ้ารีเซ็ตเวลาก้จะวนลูบเดิม กลับมาเจอกันอีก
เลยทำให้เจ้าต้องยอมรีเซ็ตเวลาไปเรื่อยๆ ไม่ยอมให้ถึงจุดจบ (แต่ไม่แน่ใจว่าดินจำได้แค่ไหนอ่ะ รู้รึป่าวว่าจันทร์เจ้าคือตัวทำให้ถึงจุดจบ)
เจ้าทรมานมากจริงๆอะ เวลาที่หมุนวนมาเรื่อยๆ การย้อนกลับไปแต่ละครั้ง คนๆนึงจะทนได้แค่ไหนกันเชียว
ความรักของเจ้าทรมานเกินไปอะ  แต่เจ้ายึดติดกับน้องดินมากๆ  นี่อาจเป็นการรีเซ็ตครั้งแรก ที่มองธราเป็นธรา ไม่ใช่ธราคนที่เป็นตัวแทนน้องดิน
จี้เป็นตัวละครที่เราอยากกอดปลอบสักครั้ง นายก้ทนมามากเหมือนกัน รักมากกว่าใครเหมือนกัน
สุดท้าย น้องเอ๋คะ พี่ขอกาวเพิ่มค่ะ แงงงง

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ตอนนี้ไม่อยากจะรู้อะไรแล้ว นอกจาก "gee" แกคือใครฟ่ะ  :hao4:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ยังงงๆ แต่ก็น้ำตาไหลอยู่ดี

ชอบเวลาเจ้าเรียกน้องดิน
ชอบในการเรียกด้วยความเอ็นดู

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ที่ผ่านมา จริงๆดินจำเจ้าได้ .........  o22 o22 o22
เพราะไม่อยากให้เจ้าหายไป แต่มันยิ่งทำให้เจ้าทรมาน
และสูญเสียตัวตนไปเรื่อยๆ....... OMG  เจ้า จักรพรรดิ   :mew2:
ตกลงดินมีแผนดึงรั้งให้เจ้าอยู่มาตลอด  :z3:
ดินอยากตายไปกับเจ้า  :really2:
เศร้า....กับเจ้า กับดิน  :mew2: :mew5:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Funnycoco

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
งงในงง เหมือนจะเข้าใจแต่ก้ไม่เข้าใจ
แต่ทำไมน้ำตามันไหลก็ไม่รู้ :m15:

ออฟไลน์ mareeyah

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 177
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โอยยย ซ้อนแล้วซ้อนอีก  o13 o13 :pig4:
ขอพักหายใจแปป :เฮ้อ:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kanj1005

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
สุดท้ายอาจจะมีคนตายแค่คนเดียวหรืออาจจะไม่มีใครตาย
เหตุจริงๆอยู่ที่คุณแม่  ถ้าระงับเหตุที่คุณแม่ได้ คุณแม่ยอมปล่อยวาง การย้อนเวลา100ครั้งก็จะไม่เกิด
คุณแม่คือบอส

ออฟไลน์ มนุษย์สาววาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เหมือนที่เราเดาไว้จริงด้วย....

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด บทสรุปจะเป็นเช่นไร เราก็เตรียมร้องไห้ไว้แล้วล่ะ เพราะเรื่องมันคงกลับมา Happy End ไม่ได้แล้ว

คนเขียนเก่งมาก เราเข้าใจนะ สู้ๆนะคะ

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ง่าาา..  :hao5:

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
คืออะไรอ่ะซ้อนในซ้อนไปอีก คนอ่านงงแต่ก็อยากอ่านอีกอ่ะ :katai1:

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ยังไหวค่ะ มาเล๊ยยย จะหนักกว่านี้ก็มาเล๊ยยย :z3:

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
สรุปคือตายแล้วทั้งคู่ นี่คือห้วงเวลาของทั้ง 2 คนสินะ

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
งงงงงงงงงงงงงงงง เมากาวน้องเอ๋หนักมาก

ออฟไลน์ i.am.wee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ไรท์เก่งมากๆอ่ะ อ่านตอนแรกก้อนึกว่าแนวใสๆ ตอนแรกเกลียดแต่ตื้อเท่านั้นที่ครองโลกสุดท้ายธราก้อหนีเจ้าไม่พ้น พอเดาได้ก้อเลยเลิกอ่านไปช่วงนึง หวังว่าพอกลับมาอ่านรอบนี้จะมีฟิล..ซิ้สสสสส.ๆ...กันบ้าง...แล้วไงล่ะ ปวดหัวจิ้ดเลย ซับซ้อนซ่อนเงื่อนลึกสุดไปเลย.....ขอตบมือให้ไรท์...เก่งมากจริงๆคะ

ออฟไลน์ i.am.wee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ปล.ถ้าไรท์จะกลับไปต่อเรื่องโซ่สีครามให้จบ จะถือว่าเป็นความเมตตากรุณาอย่างยิ่งยวดคะ

ออฟไลน์ Fon-NR

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
งงไปหมดแล้วจ่ะพี่จ๋า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
ตอนที่ 22 Their fault





ปัง!

เสียงสนั่นดังกึกก้องเมื่อกระสุนเคลื่อนที่ออกจากปลายปากกระบอกปืน แหวกผ่านอากาศด้วยความเร็วสูงแล้วผ่านทะลุกลางอกของใครคนหนึ่ง สร้างบาดแผลสาหัสที่ทำให้เลือดสีแดงฉานไหลทะลัก ก่อนที่ร่างนั้นจะล้มลงหายใจรวยริน

ปัง!

และอีกเสียงก็ดังขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันส่งผลให้ร่างของใครอีกคนล้มลงราวกับใบไม้ที่ถึงกาลร่วงโรย

ธราจำความฝันนี้ได้ดีแม้ในยามตื่น เพราะเป็นฝันร้ายที่พักหลังมานี้เขามักจะต้องเผชิญอยู่เสมอ เป็นความฝันที่เขาไม่กล้าเล่าให้ใครฟังและเป็นความฝันที่นำพาความทรงจำที่ขาดหายไปกลับคืนมา หากแต่เป็นเพียงความทรงจำที่เขามีหลังจากเกิดอุบัติิเหตุเท่านั้น

ความทรงจำที่กลับคืนมาเริ่มขึ้นเมื่อตอนที่ธราเป็นนักศึกษาชั้นปีที่สองของคณะทันตแพทยศาสตร์ เป็นตอนที่เจ้า จักรพรรดิ ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าในฐานะคนแปลกหน้าที่แสนคุ้นเคย ไม่แน่ใจระยะเวลาที่แน่ชัดนักว่าได้เจอเจ้า จักรพรรดิในวันเวลาใด อาจจะเป็นตอนต้นเทอมแรก หรืออาจจะเป็นตอนปลายเทอมสอง แต่ไม่ว่าจะวันใดก็ทำให้ธราเข้าใจได้ในทันทีว่ากล่องแพนโดร่าที่ไอ้เจ้ามีไม่ใช่ความทรงจำในอดีตที่เขาลืมเลือนไปหลังจากเกิดอุบัติเหตุ แต่เป็นความทรงจำในช่วงระยะเวลาสองปีที่ได้เริ่มทำความรู้จักกันใหม่อีกครั้งในฐานะนักศึกษาต่างคณะและต่างมหาวิทยาลัยที่ไม่มีทางจะโคจรมาเจอกันได้เลยต่างหาก

‘หลังจากที่คุณจำทุกอย่างได้ ผมจะกลายเป็นคนที่คุณเกลียดที่สุดในโลก’

นั่นน่ะเป็นคำพูดของไอ้เจ้าที่เคยพูดไว้ ธราเคยนึกสงสัยว่ามีความทรงจำใดที่จะทำให้เขาเกลียดคนที่ไม่เคยนึกเกลียดคนนี้ในเมื่อความรู้สึกของเขานั้นค้านกับคำพูดของมัน ต่อให้ในตอนที่มีความรู้สึกคลุมเครือ ไม่ชัดเจนว่ารู้สึกอย่างไรต่อคนที่ชื่อเจ้า จักรพรรดิ แต่ความรู้สึกที่เขามีก็ไม่ได้เอนเอียงไปทางเกลียดเลยสักนิด ถึงอย่างนั้นไอ้เจ้าก็ยังยืนกรานความคิด แววตาที่มองเขาในแต่ละครั้งก็เต็มไปด้วยความกลัวและเป็นกังวลจนสุดท้ายก็พยายามปิดกั้นไม่ให้เขาได้รู้เรื่องราวเพิ่มเติม แม้ปากพูดว่าจะเปิดเผยทั้งหมดที่เก็บซ่อนไว้ แต่ในท้ายที่สุดก็ทำครึ่งๆ กลางๆ แล้วปล่อยเวลาให้ล่วงผ่านไปโดยไม่ทำสิ่งใด

ห้วงเวลาของเจ้า จักรพรรดิน่ะ...คงเป็นแบบนี้มาหลายต่อหลายครั้ง จึงทำให้ความปรารถนาที่มีไม่เคยสำเร็จแม้สักครั้งเดียว

เพราะขาดความกล้า

“พี่น่ะไม่เคยมีความกล้าเลย” ธราพูดกับบานประตูที่กั้นกลางระหว่างเขากับคนอีกคนที่ปิดขังตัวเองอยู่ในห้อง “ต่อให้ผมจะพยายามมากแค่ไหน พี่ก็ไม่เคยตอบรับเลยสักครั้ง เพราะพี่ไม่กล้าที่จะยอมรับ ไม่กล้าที่จะตกนรกไปพร้อมกับผมจริงๆ”

เขาได้ยินเสียงสะอื้น แน่ใจว่าเจ้าชีวิตของเขาคงนั่งพิงหลังกับประตูห้อง อยู่ห่างแค่เพียงความหนาของบานประตูแต่กลับไม่สามารถสัมผัสได้ อยู่ห่างกันเพียงแค่นี้แต่กลับรู้สึกว่าไกลแสนไกล

“ผมจำได้แล้วนะ ผมจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง” เขายังคงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยแม้แววตาจะเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “แต่พี่รู้มั้ยว่าต่อให้ผมจำได้ ผมก็ไม่เกลียดพี่”

เมื่อห้วงเวลาของเจ้า จักรพรรดิหมดลง ความทรงจำของธราก็ค่อยๆ กลับมา มันกลับมาในรูปแบบของความฝัน พาเขากลับไปยังวันเวลาที่คาบเกี่ยวระหว่างความฝันกับความเป็นจริง ราวกับทั้งสองเหตุการณ์ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ดำเนินไปพร้อมกัน

ดิน ธราในความฝันที่เห็นนั้นถูกโซ่ตรวนจองจำ เขาถูกกักขังที่ห้องแห่งนี้ นั่งคุดคู้อยู่บนเตียงอย่างไร้ทางหนีในห้องนอนที่ใครอีกคนกำลังขังตัวเองไว้ ข้อเท้าของเขาเป็นรอยสีช้ำจากการดิ้นรนเพื่อจะหลุดจากพันธนาการ พันธนาการที่เกิดขึ้นจากคนที่ชื่อเจ้า จักรพรรดิ คนที่มีนัยตาโศกอยู่เป็นนิตย์เมื่อมองมาที่เขาแต่บางครั้งก็จ้องด้วยความเย็นชา เขาถูกกักขังนานเท่าไรก็ไม่อาจบอกระยะเวลาได้ อาจจะหนึ่งวัน หนึ่งสัปดาห์หรือนานนับเดือน ความทรงจำในจุดนี้ไม่แน่ชัดนัก แต่ที่จำได้อย่างชัดเจนก็มีเพียงแค่ธราในความฝันนั้นเอาแต่ตะโกนด่าทอ แววตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชังคนที่ถือสิทธิ์ยึดครองอิสระภาพของเขา ถ้อยคำเจ็บแสบเหล่านั้นย้ำเตือนแต่คำว่าเกลียดให้ฝังลึกลงในใจของคนฟัง

“ตอนนั้นน่ะ...ผมขอโทษที่จำพี่ไม่ได้ ขอโทษที่บอกว่าเกลียด” เขาเอ่ยขอโทษ ความรู้สึกเสียใจท่วมท้นอยู่ในอก “พี่คงเจ็บมากใช่มั้ย มันเป็นความผิดของผมเอง”

“ไม่...ไม่เลย น้องดินเกลียดก็ถูกแล้ว เพราะพี่ทำเรื่องไม่ดี” เสียงสั่นเครือของอีกคนตอบกลับ “ไม่ต้องขอโทษ”

“ผมอยากขอโทษ ถ้ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้พูด ก็ให้ผมได้พูดนะพี่” มีคำพูดมากมายที่ธราอยากบอก อยากพูดให้เจ้าชีวิตของเขาได้รับฟัง อยากบอกทุกสิ่งที่อยู่ในใจ “ผมขอโทษที่ทำให้พี่เจ็บ ขอโทษที่ทำให้พี่ทรมาน ขอโทษที่ผมทำให้เรื่องเป็นแบบนี้”

“ช่างมันเถอะครับ” เสียงทุ้มเอ่ยกลับ พลางประตูห้องก็ค่อยๆ เปิดออก เผยให้เห็นร่างผอมสูงของเจ้า จักรพรรดิที่ตอนนี้ใบหน้าคมคายเลอะไปด้วยคราบน้ำตา “อย่าขอโทษพี่อีกเลยนะน้องดิน เรื่องแค่นี้เอง”

ไม่ว่าเมื่อไหร่ ความผิดของดิน ธรา ที่ต่อให้จะใหญ่โตแค่ไหนก็เป็น ‘เรื่องแค่นี้’ สำหรับเจ้า จักรพรรดิ ไม่เคยมีสักครั้งที่จะถือสาเอาความ ไม่เคยมีสักครั้งที่จะโกรธเป็นจริงเป็นจัง คนเป็นพี่คนนี้ใจอ่อนทุกทีเมื่อได้ยินคำขอโทษ

“เจ็บมากมั้ย” คนเป็นน้องถามแล้วลุกขึ้นไปสวมกอดพี่ชาย “ทรมานมากหรือเปล่า”

ธราอยากรู้ แม้จะไม่สามารถเข้าใจได้ทั้งหมดหรือช่วยแบ่งเบาความเจ็บปวดทรมานได้แต่เขาก็อยากรับฟัง เพราะช่วงระยะเวลาสองปีที่เป็นห้วงเวลาของเจ้า จักรพรรดินั้นเขาไม่ได้รับอนุญาตให้จดจำ ไม่ว่าจะหมุนวนสักกี่ครั้งก็ไม่หลงเหลือความทรงจำอยู่เลย ที่จำได้ในตอนนี้มีเพียงแค่เหตุการณ์ก่อนเกิดห้วงเวลาและเหตุการณ์ในห้วงเวลาสุดท้ายนี้เท่านั้น

“ชินแล้ว” น้ำเสียงเรียบให้คำตอบ “ในจำนวนเก้าสิบเก้าครั้งที่ผ่านมาก็ไม่ได้แย่นักหรอก จะพูดยังไงดี มันคงเป็นบททดสอบก่อนที่จะมาถึงครั้งนี้ละมั้ง แต่คงเป็นทั้งบททดสอบและบทลงโทษที่พี่ทำให้น้องดินเสียใจ”

แววตาที่มองธราสะท้อนความรู้สึกผิดและคงเป็นความรู้สึกผิดที่มีให้กับธราคนที่มีความทรงจำก่อนเกิดอุบัติเหตุคนนั้น

“นี่คือครั้งที่หนึ่งร้อยใช่มั้ย” ธราถามต่อพลางมองลึกเข้าไปในดวงตาของคนตรงหน้า

“อืม” รอยยิ้มเศร้าปรากฏบนใบหน้าคมคายและเป็นรอยยิ้มที่ทำให้คนมองปวดแปลบที่อกข้างซ้าย “ครั้งนี้เป็นครั้งเดียวที่น้องดินเลือกพี่ เพราะในจำนวนเก้าสิบเก้าครั้งที่ผ่านมา น้องดินเลือกคนอื่น น้องหมั้นกับสาวสวยดาวเภสัชฯ คนนั้นและจะแต่งงานกันหลังเรียนจบ”

ธราอดแปลกใจไม่ได้ “ผมรักเขามากขนาดนั้นเลยเหรอ”

“ไม่รู้” ตอบอย่างจนปัญญาจะคาดเดาความรู้สึกของธราในแต่ละครั้ง “ที่รู้แน่ชัดคือน้องดินเกลียดพี่ ต่อให้ไม่เลือกน้องบี น้องดินก็เลือกรักคนอื่นที่ไม่ใช่พี่อยู่ดี แค่ในจำนวนครั้งทั้งหมด ทางเลือกนี้เกิดขึ้นมากที่สุด”

“ขอโทษ” เขาเอ่ยเสียงแผ่ว “จำไม่ได้แต่ก็อยากขอโทษ”

“บอกแล้วว่าไม่เป็นไร” น้ำเสียงสบายๆ ดังขึ้น ก่อนจะตั้งคำถาม “งั้นพี่ขอถามบ้างได้มั้ย”

“ถามอะไร” ธราถามกลับอย่างระแวดระวัง

“ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นครับน้องดิน” แววตาจริงจังนั้นจ้องมอง น้ำเสียงที่ใช้ก็ไม่ต่างจากแววตา “เกิดอะไรขึ้นกับพวกเรา” คนพูดหยุดพูดไปเพียงครู่ก่อนจะพูดต่ออย่างเน้นย้ำคำ “ทั้งสามคน”

ธรากลืนน้ำลายลงคอ หลบเลี่ยงสายตาที่มองมา เขาไม่แน่ใจนักว่าจะอธิบายเรื่องนี้ได้ในเมื่อตัวเขาก็ไม่ได้มีความเข้าใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากเท่าไรนัก

“ไม่รู้” เขาบ่ายเบี่ยงพลางปัดไปให้อีกคน “ทำไมไม่ถามกับจี้”

“น้องดิน” คนตั้งคำถามยังคงกดดันด้วยการเรียกชื่อเขาเสียงเข้ม

“ที่ผมรู้ก็แค่เรื่องที่เราอยู่ตรงนี้เพราะเรายังมีห่วง” เขาพูดขึ้นในที่สุดหลังจากที่เงียบอยู่นาน “ตัวผมเอาแต่นึกสงสัยว่าพี่เป็นใคร ทำไมถึงเอาตัวมาบังกระสุนให้ แผ่นหลังของพี่ก็คุ้น คุ้นจนผมเหมือนจะจำได้ ผมคิดว่าถ้าเกิดมีโอกาสอีกสักครั้ง ผมก็อยากจะจำพี่ให้ได้ แล้วถ้ามีความเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้พี่ต้องตายเลย ผมอยากมีเวลาทำความรู้จักกับพี่นานกว่านี้ อยากรู้ว่าทำไมคนที่ผมเกลียดถึงรักผม พี่...ผมเสียใจมากจริงๆ นะในตอนนั้น ผมไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้เลย”

“เดี๋ยว...แล้วทำไมเป็นแบบนี้ไปได้” เสียงเครียดถามต่อ ทั้งที่แน่ใจว่าคนที่รักต้องปลอดภัย แต่แล้วทำไมคนที่เป็นเจ้าของห้วงเวลากลับไม่ได้มีแค่คนเดียว ห้วงเวลาที่เกิดขึ้นจากความปรารถนาสำหรับคนที่ความตายกำลังคืบคลานมาถึงควรจะมีแต่เจ้า จักรพรรดิเท่านั้นที่เป็นเจ้าของ “น้องควรจะปลอดภัย”

ธราเผยรอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่แทบหยุดลมหายใจของคนมอง เพราะเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยคำขอโทษและความรู้สึกผิด “แย่เนอะ พี่อุตส่าห์ปกป้อง แต่ผมก็ไม่รอดอยู่ดี”

ถึงกับพูดไม่ออกไปชั่วขณะ อกข้างซ้ายของเจ้า จักรพรรดิปวดแปลบแข่งกับรอยแผลเป็นกลางอกที่ปวดขึ้นมาฉับพลัน

“เวลาของพี่คือสองปีแต่เวลาของผมนานกว่านั้น” โทรศัพท์มือถือของธราถูกยื่นไปตรงหน้า “วันเวลาของผมหยุดอยู่ที่วันที่ 18 กรกฎาคม เวลาเที่ยงคืนตรง แต่เหตุของผมต่างจากพี่ เหตุชักนำของผมเกิดขึ้นในวันที่ 17 กรกฎาคม พี่รู้ใช่มั้ยว่าถ้าเราไม่เจอกับเหตุ ผลก็จะไม่เกิด เราเปลี่ยนเหตุที่ทำให้เรามาอยู่ตรงนี้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าผมตายก่อนวันที่ 17 เราก็ยังจะได้อยู่ด้วยกันต่อ เวลาของผมจะเริ่มนับตั้งแต่คืนวันครบรอบสองปีของเรา”

“ธรา” น้ำเสียงเรียกนั้นเข้มจัด “มันหมายความว่ายังไง น้องทำอะไร” รอยยิ้มเศร้าของเขาทำให้คนถามเบิกตากว้างอย่างพรั่นพรึงด้วยความเข้าใจในเรื่องราวที่เกิด “นี่น้อง...”

“ผมขอโทษ มันเป็นความผิดของผมเอง”

“…”

“เพราะเราต่างที่มาและต่างเจตนา เงื่อนไขของเราก็เลยต่างกัน พี่ไม่ได้ตั้งใจมา” ธราหยุดพูด สบสายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของคนที่เป็นทั้งพี่ชายและคนรัก “แต่ผมกับจี้ เราตั้งใจ ขอโทษที่ความตั้งใจของเรากักขังพี่เอาไว้ ทำให้พี่ต้องทรมานอยู่แบบนี้”

ถ้อยคำของธราทำให้คนฟังรู้สึกทรมานจนแทบอยากอาเจียน รอยแผลเป็นนั้นปวดแสบปวดร้อนจนยากที่จะสะกดกลั้นเอาไว้ได้ ขาเรียวแข็งแรงถึงกับทรุดฮวบลง ทว่าอ้อมแขนแกร่งของเขาก็ประคองไว้อย่างทันท่วงที เขาโอบร่างผอมไว้ กอดรัดไว้แน่นด้วยความหวงแหน

“แต่อย่างที่ผมบอกว่าเราเสียพี่ไปไม่ได้” น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความจริงจัง แววตาก็มุ่งมั่นอย่างที่ไม่มีสิ่งใดมาสั่นคลอน “มีชีวิตต่อไปได้มั้ย ต่อให้ต้องทรมานก็อดทนอีกได้หรือเปล่า ผมน่ะ...ต่อให้ต้องตายอีกกี่ครั้งเพื่อยื้อพี่ไว้ ผมก็ยอมนะ” คำพูดนั้นดังก้องอยู่ในหัวราวกับกำลังขับกล่อมให้คนฟังคล้อยตาม “พี่อย่าเพิ่งยอมแพ้เลย ที่ตรงนี้มีคำว่าตลอดไปอยู่จริงๆ นะพี่ อยู่ด้วยกันต่อเถอะนะ อยู่ในโลกที่เราเริ่มต้นกันใหม่ได้ทุกครั้ง จะสิบครั้งร้อยครั้งก็ได้ หมื่นๆ ครั้งเลยก็ได้”

คนในอ้อมแขนของธราส่ายหน้าพลางพยายามขืนตัวออกห่าง ทว่าอ้อมกอดของเขากลับรัดไว้แน่น

“ผมไม่ปล่อย...ผมจะไม่มีวันปล่อยพี่อีกแล้ว ผมบอกพี่แล้วไงว่าผมจะไม่ไปไหน”

“ปล่อย...ขอร้อง...น้องดิน เจ้าขอ...” น้ำเสียงขาดห้วงเต็มไปด้วยความทรมาน ก่อนร่างผอมจะสลบไปเพราะทนความเจ็บปวดที่รอยแผลไม่ไหว ในขณะที่ธรากระชับอ้อมแขนของตัวเองแล้วอุ้มร่างของคนรักเข้าไปในห้องนอน จากนั้นจึงวางลงบนเตียงนอนด้วยความระมัดระวัง ไม่ลืมที่จะกดจูบที่หน้าผากลาดเนียนหนึ่งครั้งแล้วผละออกห่าง

“จะมีสักกี่คนกันนะพี่ที่โชคดีเหมือนพวกเรา” เสียงทุ้มเอื้อนเอ่ยกับคนที่ใบหน้าซีดเซียว ดวงตาปิดสนิทและนอนแน่นิ่งอย่างน่าเป็นห่วง แต่ลมหายใจยังคงสม่ำเสมอจึงทำให้คลายกังวลไปได้บ้าง “โชคดีที่ก่อนตายนั้นมีโอกาสได้เลือกว่าจะยอมรับหรือจะฝืนโชคชะตา โชคดีที่ได้กลับมาทำตามความปรารถนาในวินาทีสุดท้ายของชีวิต ผมน่ะสวดภาวนามาตั้งแต่เด็ก อธิษฐานให้ได้อยู่ด้วยกันแม้ความตายก็ไม่อาจพราก ทั้งผมทั้งจี้ต่างก็อธิษฐานต่อทุกอย่างที่เราเชื่อ เพราะพวกเราทำได้เพียงเท่านั้น ทำได้เพียงแค่ขอพรเพื่อจะได้อยู่กับพี่ ภาวนาขอให้พี่รักพวกเราและไม่ทิ้งพวกเราไปเหมือนอย่างที่พ่อแม่แท้ๆ เคยทำ แล้วในที่สุดคำภาวนาก็เป็นจริง โลกนี้น่ะเป็นของพวกเรา ห้วงเวลาที่ไม่สิ้นสุดนี้ก็มีแต่เราที่เป็นคนกำหนด แล้วทำไมถึงคิดจะละทิ้งโชคดีนี้ไปเพื่อต้อนรับโชคร้ายที่กำลังจะมาเยือนล่ะครับ”

ทั้งที่โชคร้ายนั้นจะทำให้เราไม่ได้อยู่ด้วยกันต่อ แต่ทำไมกลับเอาแต่ร้องขอ...

.

.

D. : จี้ กูปล่อยไม่ได้จริงๆ

Gee : ท่านทรมานมาก มึงก็เห็น

D. : แล้วจะทำยังไง มึงก็รู้ว่าไม่มีทางอื่นแล้ว

Gee : รู้ กูก็ปล่อยไม่ได้ แต่ท่านไม่ไหวแล้ว กูมองท่านอยู่ตลอด ทุกครั้งที่เกิดการรีเซ็ต มันแย่มากขึ้นเรื่อยๆ

D. : จี้

Gee : อะไร

D. : ถ้าปล่อยเวลาไปจนถึงวันนั้น แล้วมันจะเป็นยังไงถ้าเราเปลี่ยนเหตุ

Gee : ไม่ว่าจะเปลี่ยนยังไงผลลัพธ์ก็เท่าเดิม

Gee : คนที่ตายในวันนั้นมีสองคน

Gee : มันไม่คุ้มที่จะไปยุ่ง ทุกสิ่งต้องเป็นไปนะไอ้ดิน

D. : งั้นก็เปลี่ยนเป็นกูกับมึงแทน เพราะไม่ว่ายังไงกูก็ต้องตายอยู่ดี แค่ผลลัพธ์เท่าเดิมก็ไม่มีปัญหาใช่มั้ย

Gee : บทลงโทษของการทำผิดกฎคือการที่มึงต้องติดอยู่กับความทรมานชั่วกัปชั่วกัลป์

Gee : มึงจะกลายเป็นคนที่ถูกลืม จะกลายเป็นเพียงความว่างเปล่าที่ไม่เคยมีตัวตนอยู่บนโลก

D. : ก็ไม่เป็นไร

Gee : มึงน่ะดื้ออย่างที่ท่านบ่น

D. : :)

Gee : ดิน ถามอะไรหน่อย

D. : ว่ามา

Gee : ทำไมตอนนั้นมึงถึงเลือกไปกับจันทร์เจ้าวะ

D. : ตอนนั้น?

Gee : อืม ก่อนที่พวกมึงจะรถคว่ำ

D. : ทำไมถึงคิดว่ากูจำได้

Gee : ต่อให้จะจำเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่ได้ แต่เหตุการณ์นั้นกูคิดว่ามึงจำได้ทันทีที่เห็นท่านเอาตัวบังกระสุนให้ เพราะสีหน้าของมึงในตอนนั้นกูยังจำได้ติดตา และถ้ามึงจำไม่ได้มึงก็คงไม่มาอยู่ตรงนี้

D. : อืม ที่จริง ต่อให้ความทรงจำที่กูมีจะไม่ปะติดปะต่อเป็นเรื่องเป็นราว แต่เหตุผลของกูก็ไม่ได้ซับซ้อนจนยากที่ตัวกูในตอนนี้จะเข้าใจ

.

.


ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
ดิน ธรา ในวัย 16 ปีคือเด็กหนุ่มที่เคยมีรอยยิ้มสดใสราวกับคนที่ไม่เคยพานพบกับเรื่องทุกข์ร้อนใดๆ แต่คำว่าเคยก็เป็นเพียงอดีตเพราะหลังจากผ่านพ้นอายุ 15 ปี เขาก็พบว่าเป็นเรื่องยากเหลือเกินที่จะยิ้มด้วยใจที่เป็นสุข ในตอนนั้นเขาเหมือนย้อนเวลากลับไปตอนที่ยังอยู่ในบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า มีความรู้สึกอ้างว้างและโดดเดี่ยวเต็มแน่นอยู่ในหัวใจ เขารู้ดีว่าไม่มีใครต้องการ ตัวเขาจึงถูกทิ้ง แต่หลังจากที่โชคชะตาลิขิตให้เจอกับท่านเจ้า พี่ชายที่แสนใจดีที่ยื่นมือมาตรงหน้าเพียงเพราะชอบรอยยิ้มของเขา เขาคิดว่านั่นคือความโชคดีเพียงอย่างเดียวในชีวิต เจ้า จักรพรรดิคือคนที่มอบโชคดีนั้นให้โดยที่เขาก็ไม่เคยคิดว่าคนคนนี้จะมอบโชคร้ายให้ได้เช่นกัน

“ท่านไม่กลับอีกแล้วเหรอวะ” เสียงของวินเพื่อนสนิทที่พักหลังมานี้อยู่ด้วยกันบ่อยยิ่งกว่าท่านเจ้าดังมาตามสาย

“อืม” ธราขานรับในลำคอ น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปตามช่วงอายุ ตอนนี้มันทั้งแหบทั้งต่ำเหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆ ในรุ่นเดียวกัน “คงอยู่กับจี้เหมือนเดิม”

“อย่าคิดมาก” วินปลอบใจ “ตั้งใจเรื่องสอบเทียบจบดีกว่า ตอนนี้เรื่องที่มึงควรโฟกัสคือการเตรียมตัวให้พร้อมเร็วที่สุดนะ ท่านรอมึงอยู่ สถานการณ์ที่บ้านตอนนี้ก็ไม่สู้ดี ลูกเลี้ยงของพ่อมึงน่ะใช่ย่อยเลย ที่ท่านไม่กลับก็คงเพราะแบบนี้ด้วย คือถ้ามึงเรียนจบอะไรๆ คงดีขึ้น ถึงเวลาย้ายไปอยู่ที่ใหม่ก็จะได้เริ่มต้นง่าย กูคิดว่าท่านคงเลือกมหาวิทยาลัยไว้ให้มึงแล้ว มึงก็รู้ว่าท่านจัดการให้ได้ทุกอย่าง พามึงไปได้ทุกที่ ท่านไม่ทิ้งมึงหรอก ตอนนี้แค่ใจเย็นๆ ก่อน”

“รู้ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่ะ พอมีเรื่องไม่สบายใจทีไรก็ไปหาจี้ทุกที กูแม่งโคตรไม่มีประโยชน์อะไรต่อเจ้าเลย” น้ำเสียงของธราเต็มไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ กี่ครั้งแล้วที่เป็นแบบนี้ เขาก็นับจำนวนไม่ได้เพราะมากเกินกว่าจะจำได้หมด “ทำไมต้องเป็นจี้วะวิน ทำไมไม่ใช่กู ทำไมคนที่เป็นความสบายใจของเจ้าถึงไม่ใช่คนรักอย่างกู”

วินถอนหายใจมาตามสาย “กูก็ไม่รู้ คำถามนี้คงมีแค่ท่านที่ตอบมึงได้”

ถึงจะเป็นอย่างนั้นแต่ธราก็ไม่กล้าถาม เพราะเขาขลาดเกินกว่าจะได้ยินคำตอบ แววตาที่จี้มองท่านเจ้านั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกแบบไหน ทำไมเขาจะไม่รู้ แต่สำหรับท่านเจ้าแล้วมองอีกฝ่ายอย่างไร เขากลับไม่แน่ใจเลย จี้เป็นความสบายใจที่เขาเป็นไม่ได้ สถานะคนรักที่เขาได้รับอาจเป็นแค่การได้ถูกรักแต่อาจไม่ได้เป็นทุกความรู้สึก

“วิน” เสียงเรียกชื่อนั้นแฝงไปด้วยความหวั่นใจ “ถ้าเกิดวันหนึ่งพวกเขารักกันขึ้นมาจริงๆ กูควรทำยังไง ตัวกูควรอยู่ตรงไหนในความสัมพันธ์ของพวกเขาเหรอ”

จินตนาการนั้นสร้างความเจ็บปวด ภาพบาดตาที่เห็นอยู่ทุกวันทำให้เขาเผลอคิดไปไกล เพราะท่านเจ้ามักจะยิ้มแย้มและหัวเราะเสมอเมื่อมีจี้อยู่ข้างๆ ในขณะที่เวลาอยู่กับเขากลับเงียบงัน ราวกับมีเรื่องกังวลใจแทบตลอดเวลา

“ความรักเป็นเรื่องของคนสองคนนะไอ้ดิน” วินบอกด้วยน้ำเสียงระมัดระวังเพราะรู้ดีว่าตอนนี้คนฟังกำลังอ่อนไหว “มันไม่ควรมีคนอื่นอยู่ในความสัมพันธ์ แต่ไม่มีวันที่สิ่งที่มึงคิดจะเป็นจริงหรอกไอ้ดิน ตอนนี้ที่มึงควรทำคือการเชื่อใจท่าน”

จะให้เชื่อใจยังไงไหว ธราแย้งอยู่ในใจ เขาเลือกที่จะไม่พูดออกมา เพราะสำหรับวินแล้วคงเป็นเรื่องง่ายที่จะมองว่าความสัมพันธ์ของท่านเจ้ากับจี้ไม่มีการลึกซึ้งกันเกินกว่าเพื่อนที่รู้ใจ แต่สำหรับเขาแล้วมันเป็นเรื่องยากเย็นเหลือเกิน “โอเค กูจะเชื่อ แต่กูก็อยากตัดไฟตั้งแต่ต้นลม มึงคิดว่าไงถ้ากูให้เจ้าเลือก...”

“อย่าเลย” วินห้ามปรามแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เพราะคำตอบของท่านยังไงก็เป็นมึง จี้ไม่ใช่คู่แข่งของมึงตั้งแต่แรกแล้ว มันไม่ดีหรอกที่จะให้ท่านเลือกตัดใครหรือเก็บใครไว้ ในเมื่อมึงกับจี้อยู่คนละสถานะกัน เข้าใจที่กูพูดไหม”

“กูพยายามเข้าใจที่สุดแล้ว” ธราบอกอย่างจนใจ “แต่กูก็ยังรู้สึกว่าจี้สำคัญกับเจ้ามากกว่ากูอยู่ดี กูเชื่อใจนะแต่ไม่รู้จะเชื่อได้อีกนานแค่ไหน เพราะทุกวันนี้มันก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่าเจ้าอาจจะวางสถานะให้กูผิด ตัวกูน่ะอาจเป็นได้แค่น้องชายของเจ้าเหมือนที่เคยเป็นมาตลอดก็เท่านั้น”

ความคิดนี้คงฝังรากลงไปในหัวใจของธราเสียแล้ว เพราะไม่ว่าจะมีใครพูดปลอบเขาอย่างไรก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นเลย เขายอมรับอย่างหน้าไม่อายเลยว่าอิจฉาจี้ อิจฉามากขึ้นทุกวัน ยิ่งเวลาเห็นคนรักของเขากับอีกฝ่ายอยู่ด้วยกัน หัวใจของเขาก็ราวกับถูกไฟแผดเผา มันร้อนจนพานหงุดหงิดไปทั่ว หลายครั้งที่ทะเลาะกัน หลายครั้งที่มึนตึงกันด้วยเรื่องเดิมๆ และหลายครั้งก็จบลงด้วยการที่เขากลายเป็นคนที่งี่เง่าไปเอง

ก๊อกๆ ๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้น นั่นทำให้ธราหยุดชะงักมือที่กำลังทึ้งศีรษะของตัวเอง เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อเสียงเคาะยังคงดังต่อเนื่อง

“เสียงเคาะประตูจากฝั่งมึงปะวะ” วินเอ่ยถามเมื่อเสียงเคาะดังเล็ดลอดไปตามสาย “ใครมาตอนนี้ เที่ยงคืนกว่าแล้วนะเว้ย”

“ไม่รู้ว่ะ” ธราตอบ ขมวดคิ้วมองไปทางประตูด้วยความสงสัย “เดี๋ยวกูไปดู”

“ไม่ต้องหรอกมึง” วินร้องห้ามอย่างไม่เห็นด้วย “ดึกขนาดนี้แล้ว พ่อกับแม่เลี้ยงของมึงก็ไปธุระที่ต่างประเทศไม่ใช่เหรอ”

“ใช่ แต่อาจจะเป็นเจ้า”

“ท่านยังไม่กลับ กูยังได้ยินเสียงคุยกันจากห้องของจี้”

“เหรอ” ธราทวนถามเสียงแปร่ง เขาเผลอกำหมัดแน่น จิกเล็บลงบนฝ่ามือจนรู้สึกเจ็บแปลบ “งั้นอาจจะเป็นใครสักคนในบ้าน”

“เออ เป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่ลูกเลี้ยงของพ่อมึงละกัน โผล่หัวมาทีไรมึงมีเรื่องกับท่านทุกที แล้วก็ลำบากกูเนี่ยคอยฟังมึงระบาย”

ถ้อยคำของวินเรียกเสียงหัวเราะจากธรา “จันทร์ก็ไม่ใช่คนไม่ดีหรอก เขาแค่เหงา”

“เหงาหรือเงี่ยนเอาดีๆ แม่งชอบบุกมาหามึงดึกๆ ตลอด”

“เขาบอกว่าเขาอยู่คนเดียวไม่ได้ กลัวความมืด”

“เปิดไฟสิ โง่เหรอวะ”

“เออน่า เดี๋ยวกูไปดูก่อน มึงก็นอนได้แล้วนะ ขอบใจมากที่รับฟังกู”

“เออ มีไรก็โทรมา จะโดนมันปล้ำก็เรียกตำรวจ อย่าให้มันได้แตะต้องตัวมึงนะ ไม่งั้นท่านได้ฆ่าคนตายแน่”

ธรารับปากแม้จะรู้สึกขบขันกับคำพูดของวินก่อนจะรีบวางสายแล้วเดินไปที่ประตูเมื่อเสียงเคาะดังขึ้นอีกครั้ง เขาจับลูกบิดแล้วดึงประตูให้เปิดออก

“เปิดช้าจัง” ใบหน้าหวานของเจ้าของเสียงระบายรอยยิ้ม เป็นจันทร์เจ้าอย่างที่คาดเดาไว้ไม่ผิด คนตัวเล็กยืนอยู่ตรงหน้าธราในชุดนอนที่สวมเพียงเสื้อยืดตัวโคร่ง ไม่แน่ใจว่ามีกางเกงซ้อนอยู่ด้านในหรือไม่เพราะชายเสื้อปิดคลุมลงมาจนถึงขาอ่อนเนียนขาว “จันทร์เห็นว่าห้องของดินยังไม่ปิดไฟก็เลยคิดว่าคงยังไม่นอน ดินทำอะไรอยู่เหรอ”

“คุยกับเพื่อนน่ะ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบพลางเผยรอยยิ้มเป็นมิตร อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองหัวไหล่เนียนที่โผล่พ้นคอเสื้อซึ่งย้วยจนมีขนาดกว้างกว่าปกติ มันตกลู่อย่างไม่พอดีกับไหล่แคบของจันทร์เจ้า “จันทร์มีอะไรหรือเปล่า”

“จันทร์นอนไม่หลับ ที่ห้องคนใช้น่ะร้อนแล้วก็แมลงเยอะ” ริมฝีปากบางเปล่งเสียงบ่น ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองธราอย่างออดอ้อน “ดินจะว่าอะไรมั้ยถ้าจันทร์จะขอนอนด้วย”

“เอ่อ...”

“ยังไงพี่เจ้าก็คงไม่กลับมาอยู่แล้ว เขาคงนอนกับแฟนของเขา ดินให้จันทร์นอนด้วยได้มั้ย เราเป็นพี่น้องกันแล้ว ดินนอนกับพี่เจ้าได้ก็คงนอนกับจันทร์ได้ใช่มั้ย ขอร้องนะดิน จันทร์นอนที่ห้องนั้นไม่ได้จริงๆ พี่เจ้าน่ะใจร้าย เกลียดแม่ของจันทร์แต่กลับชอบมาลงที่จันทร์ ไม่ยุติธรรมเลย จันทร์น่ะไม่รู้เรื่องอะไรด้วย แต่กลับต้องมาโดนแกล้งอย่างนี้” จันทร์เจ้าสอดมือเข้ามากอดแขนของธราแล้วเขย่าเบาๆ คนตัวเล็กออเซาะเสียจนเขาทำสีหน้าไม่ถูก อยากพูดปฏิเสธไปตามตรงแต่เขาไม่อยากมีปัญหาอีกทั้งยังไม่อยากรับรู้เรื่องความบาดหมางระหว่างคนรักของเขากับอีกฝ่ายด้วย

แต่เกรงใจเพราะยังไงก็เป็นคนในครอบครัว

จันทร์เจ้าน่ะเป็นลูกติดของคุณจันทร์แรม ผู้หญิงที่แต่งงานใหม่กับพ่อเลี้ยงของเขาเมื่อครึ่งปีก่อน คุณจันทร์แรมเป็นผู้หญิงเรียบร้อย พูดน้อยแต่ก็ใจดี เขาจึงไม่แปลกใจนักที่พ่อเลี้ยงจะตกหลุมรักเธอจนตกลงใจแต่งงานกัน ซึ่งท่านเจ้าก็ไม่ได้คัดค้าน พี่ชายของเขาไม่มีความเห็นในเรื่องนี้เสียด้วยซ้ำและก็ไม่ได้จงเกลียดจงชังคุณจันทร์แรมอย่างที่จันทร์เจ้าเข้าใจ เขารู้ดีว่าท่านเจ้าเป็นคนแบบไหน จึงรู้สึกไม่ชอบใจทุกครั้งที่ได้ยินจันทร์เจ้าพูดความคิดแง่ลบให้เขาฟัง ตรงข้ามกับตัวเขาที่ส่วนลึกในใจแล้วรู้สึกคัดค้านแต่ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะออกเสียงอะไรได้ในเมื่อเขาก็เป็นแค่ลูกชายบุญธรรม

ธราชอบครอบครัวที่มีแค่เพียงเขา ท่านเจ้า คุณพ่อและคุณแม่เท่านั้น เป็นครอบครัวในฝันที่สมบูรณ์แบบ แต่ความสมบูรณ์แบบนั้นกลับพังลงไม่เป็นท่า คุณพ่อแต่งงานใหม่ คุณแม่ก็ไม่รู้เป็นอย่างไร ท่านไม่กลับมาอีกเลยตั้งแต่ไปในครั้งนั้น ถามกับท่านเจ้าที่กลับมาเพียงลำพังก็ถูกบ่ายเบี่ยงเปลี่ยนเรื่องพูดเสียทุกครั้งไป แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็มีความสุขที่ได้อยู่กับท่านเจ้า อยู่กันเพียงลำพังสองคนในฐานะคนรักที่มีแค่กันและกันเท่านั้น จนกระทั่งสองแม่ลูกย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านร่วมกันกับพวกเขา...ความสุขที่มีก็เลือนหายไป ท่านเจ้าไม่ได้คัดค้านในเรื่องนี้ บอกแค่เพียงว่าใครอยากจะอยู่ก็อยู่ไปแต่ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกัน แต่ลูกติดของคุณจันทร์แรมคงไม่ได้คิดแบบนั้น คนตัวเล็กพยายามที่จะสานสัมพันธ์เพื่อจะเป็นครอบครัวเดียวกันกับพวกเขา ทว่าตลอดครึ่งปีมานี้กลับมีแต่เรื่องที่ทำให้ความสัมพันธ์แย่ลง

“นะดิน ขอจันทร์นอนด้วย เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ” เสียงของจันทร์เจ้าปลุกธราให้ตื่นจากภวังค์ความคิด เขาเผลอยืนนิ่งค้างแล้วปล่อยให้ร่างเล็กบดเบียด “หรือดินไม่คิดว่าจันทร์เป็นคนในครอบครัว ดินก็เป็นอีกคนที่ไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานของพ่อกับแม่เราใช่มั้ย”

“ไม่ใช่อย่างนั้น” เขาปฏิเสธและพยายามขืนตัวออกโดยไม่ให้เป็นการหักหน้าอีกฝ่าย อย่างไรก็ต้องถนอมน้ำใจเพื่อไม่ให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวย่ำแย่ไปมากกว่านี้ ลำพังแค่ท่านเจ้าบาดหมางกับลูกติดของแม่เลี้ยงก็ทำให้เกิดความตึงเครียดมากอยู่แล้ว “จันทร์อยากนอนก็นอนได้ เดี๋ยวผมไปใช้ห้องรับรองแขกเอง”

“ดินรังเกียจจันทร์เหรอ” เสียงหวานสั่นเครือ ดวงตากลมโตก็เผยความอ่อนไหว “จันทร์น่ารังเกียจมากเหรอดิน ทำไมทั้งพี่เจ้าทั้งดินถึงไม่ชอบ...”

“ไม่ใช่หรอก” เขารีบปฏิเสธ รู้สึกสงสารคนตัวเล็กขึ้นมาจับใจ “อย่าคิดมากเลย ไม่มีใครรังเกียจจันทร์ทั้งนั้น”

“แต่พี่เจ้า...”

“เจ้าไม่ได้รังเกียจจันทร์หรอกนะ ที่จริงแล้วเป็นคนใจดีมากๆ แต่แค่เข้าหาคนอื่นไม่เก่ง จันทร์ต้องให้เวลาเจ้าหน่อยนะ เดี๋ยวก็ดีขึ้น”

“อืม จันทร์จะพยายามนะดิน”

“ครับ สู้ๆ นะ มีอะไรไม่สบายใจก็คุยกับผมก็ได้ รู้ว่าอยู่คนเดียวคงเหงา เพราะผมก็เคยอยู่คนเดียวเหมือนกัน แต่โชคดีที่ได้เจอกับเจ้า”

“พี่เจ้ามากกว่าที่โชคดีที่ได้เจอดิน”

รอยยิ้มของจันทร์เจ้าในตอนนั้นน่ามอง มันอาจเป็นรอยยิ้มแรกที่ได้เห็นคนตัวเล็กยิ้มออกมาจากใจ แม้เขาจะไม่ได้รู้สึกชอบใจครอบครัวใหม่นี้แต่ก็ไม่ใจร้ายมากพอที่จะเกลียดจันทร์เจ้า คิดแค่เพียงว่าคนตัวเล็กคนนี้ไม่ได้มีความผิดอะไรเลยและคงไม่ยุติธรรมด้วยที่จะตั้งแง่รังเกียจ

.

.

D. : จะพูดยังไงดีวะจี้ ในตอนนั้นสำหรับกูแล้วจันทร์เจ้าก็ไม่ได้เลวร้าย

Gee : แต่มันก็ทำให้มึงผิดใจกับท่านบ่อยๆ

D. : ก็ไม่ใช่แค่จันทร์หรอก

D. : มึงก็ด้วย

Gee : ก็นะ…

.

.

“คือยังไงวะ ติดมึงเหมือนปลิงเลย” วินเบ้ปากในขณะที่กำลังกระซิบอยู่ข้างหูธรา ดวงตาก็กำลังจับจ้องมองคนตัวเล็กหน้าหวานที่จงใจนั่งคั่นกลางธรากับท่านเจ้า “ยังไงก็เป็นรุ่นน้องมั้ย ไม่นั่งแดกข้าวกลางวันกับเพื่อนวะ เสนอหน้ามานั่งโต๊ะเดียวกับพวกเราทำไม”

“มึงก็พูดแรงไปไอ้วิน” ธรากระซิบกลับ “จันทร์เพิ่งย้ายโรงเรียนมาไม่นาน ยังไม่มีเพื่อน”

“นิสัยส้นตีนขนาดนี้คงมีหรอกเพื่อนน่ะ ตอแหล”

“เอ๊...มึงนี่ อย่าคิดแง่ลบขนาดนั้นสิวะ”

“มึงก็คิดบ้างเถอะ อย่าโลกสวยให้มาก ท่านแม่งแดกข้าวไม่ลงแล้ว”

“เหอะ” น้ำเสียงของธราเต็มไปด้วยความประชดประชัน “แดกไม่ลงเดี๋ยวจี้ก็ป้อนเองนั่นแหละ”

“มึงยังไม่เลิกคิดเรื่องไร้สาระอีกเรอะ”

“ให้เลิกได้ยังไง ตัวติดกันยิ่งกว่าแฝด กลับบ้านก็ดึกดื่นบางวันก็ไม่กลับ กูต้องบวชแล้วล่ะถ้าเลิกคิดได้”

“ก็ไปบวช”

ธราสบถในลำคอไม่เต็มเสียงนัก ก่อนจะหันมองจันทร์เจ้าที่วอแวกับท่านเจ้าของเขาไม่หยุด “พี่เจ้ากับแฟนนี่ตัวติดกันจังเลยนะครับ อยู่ด้วยกันตลอดเลย ดีจังที่มีแฟนรุ่นเดียวกัน เป็นได้ทั้งเพื่อนทั้งแฟน เอ๊..น้องชายอย่างดินคงตกกระป๋องแล้วแน่ๆ เพราะพี่เจ้าไม่ค่อยกลับบ้านเลย แต่ไม่เป็นไรน้า ผมจะดูแลดินให้เอง ดินน่ะหลับง่าย แค่ลูบหัวก่อนนอนก็หลับปุ๋ยแล้ว”

“สาระแน” เสียงของจี้ดังขึ้นอย่างเหยียดหยัน “สาระแนไปซะทุกเรื่อง”

“พี่จี้ว่าผมหรือเปล่าครับ” รอยยิ้มยังคงประดับบนใบหน้าเล็กยามตั้งคำถาม “หรือว่าตัวเอง คือผมกำลังคุยกับพี่เจ้าแล้วพี่ก็สอดขึ้นมา เอ...ยังไงกันนะ”

“อ้อ โทษทีนะที่สอด แต่พี่ไม่ได้ว่าจันทร์หรอก” จี้ปฏิเสธพลางยิ้มไม่ต่างกัน “แค่ว่าพวกปลิงขึ้นวอแถวนี้น่ะ มันชอบสาระแนเรื่องของชาวบ้าน สักวันคงไม่ได้ตายดี”

“งั้นก็แล้วไปครับ...ผมก็นึกว่า...”

“จี้ ไปกัน กูอิ่มละ” ท่านเจ้าพูดแล้วก็ลุกขึ้นก่อนปรายตามองจันทร์เจ้าที่หลบข้อศอกของคนที่อยู่ๆ ก็ผุดลุกขึ้นแทบไม่ทัน “ไหนๆ ก็ชอบสาระแนแล้ว เอากระดูกในจานไปเคี้ยวให้ด้วยสิ แค่ที่กินอยู่คงไม่อิ่ม” ว่าแล้วข้าวในจานพร้อมเมนูแกงเขียวหวานก็ราดลงบนศีรษะของจันทร์เจ้า ธราถูกวินดึงตัวออกห่างเพราะกลัวน้ำแกงจะกระเด็นใส่ในขณะที่เสียงโวยวายของจันทร์เจ้าดังก้องโรงอาหาร

“โอ๊ะ โทษทีว่ะ กูลืมแยกน้ำแกงให้” ท่านเจ้ายิ้มร้าย มองคนที่เลอะเมล็ดข้าวและน้ำแกงด้วยความสะใจ “แต่หายคันบ้างไหมหรือคันยิ่งกว่าเดิม”

“นี่!” จันทร์เจ้าตอบโต้ได้แค่นั้น ปากร้องตะโกนในขณะที่ดวงตากลมโตปิดสนิท “แก...คนอย่างแกมัน!”

ซ่า!

คราวนี้เป็นน้ำแดงจากจี้ที่สาดใส่ใบหน้าหวาน ช่วยล้างคราบสีเขียวจากแกงออกไปได้แต่ก็สร้างรอยแดงขึ้นตามโหนกแก้มเพราะน้ำแข็งในแก้วที่ถูกสาดไปพร้อมกับน้ำ

“โอ๊ย! ดิน...ดินช่วยจันทร์ด้วย ดิน! จันทร์เจ็บ ฮึก...ช่วยด้วยดิน ช่วยด้วย” เสียงร้องขอความช่วยเหลือของจันทร์เจ้าดังก้อง แต่ธราไม่ขยับ เขาทำได้แค่เพียงมองด้วยความสงสารแต่อีกใจก็คิดว่าสมควรแล้วที่จันทร์เจ้าจะถูกสั่งสอนเสียบ้าง คนที่ชอบพ่นแต่คำโกหกน่ะควรได้รับบทลงโทษเสียที เพราะเขากับจันทร์เจ้านั้นไม่เคยหลับนอนด้วยกันเลย แล้วทำไมต้องพูดให้คนรักของเขาเข้าใจผิด

“มึงคิดว่าตัวเองเป็นใคร” ใบหน้าของจี้เย็นชาไม่ต่างจากน้ำเสียงที่ใช้พูดกับจันทร์เจ้า “คิดว่าตัวเองเป็นเพื่อนเล่นกับท่านหรือไง หรือสำคัญว่าเป็นคนในครอบครัวของท่าน หึ” คำพูดเย้ยหยันดังขึ้นพร้อมกับนิ้วชี้ที่จิ้มลงบนหน้าผากลาดเนียนของคนที่กำลังสะอึกสะอื้น “อย่าให้มันมากไปนัก ระวังคำพูด ระวังการกระทำ ถ้าไม่ต่างคนต่างอยู่ อย่าหาว่ากูไม่เตือน”

“ฮึก...ดิน...ดินช่วยจันทร์ด้วย”

น้ำเสียงของจันทร์เจ้านั้นน่าเวทนา แต่ธรากลับมองเมิน เขามีบทเรียนมาครั้งหนึ่งแล้วจากการเข้าข้างคนอื่นจนเกือบจะเสียท่านเจ้าไป แล้วครั้งนี้ก็เห็นได้ชัดว่าหากเขาเลือกช่วยจันทร์เจ้า ท่านเจ้าคงทิ้งเขาไปโดยไม่ลังเล

.

.

D. : บอกตามตรงว่ากูนึกย้อนไปแล้วก็รู้สึกผิด พอจำเรื่องในตอนนั้นขึ้นมาได้บ้างก็รู้สึกว่าในวันนั้นควรเข้าไปช่วย

Gee : มันสมควรโดน

D. : ก็จริง แต่ไม่รู้ว่ะ กูแค่สงสัยว่าถ้ากูเข้าไปช่วยเขาวันนั้น มันจะดีกว่ามั้ย

Gee : ไม่หรอกไอ้ดิน อย่างจันทร์เจ้าน่ะมันแค่อยากเอาชนะท่าน ต่อให้มึงทำดีกับมันยังไงก็ไม่ได้เปลี่ยน

Gee : เพราะมันรักมึง มันอยากได้มึงจนตัวสั่น

D. : อืม ไม่เถียงละกันเรื่องนี้ เพราะหลังจากนั้นมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ จนทำให้เรื่องมันแย่ยิ่งกว่าเดิมนั่นแหละ

.

.

เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้จันทร์เจ้าสงบลงไปมาก คนตัวเล็กไม่ได้เข้าไปยุ่งวุ่นวายกับท่านเจ้าหรือเข้ามาวอแวกับธราทั้งที่ปกติจะตามติดจนบางทีก็รู้สึกรำคาญ ซึ่งนั่นทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคนรักดีขึ้นมาได้บ้าง แม้จะยังมีจี้คอยรบกวนจิตใจแต่เขาก็ไม่ได้หาเรื่องทะเลาะ กลับตั้งใจที่จะใช้เวลาที่ได้อยู่ด้วยกันให้มีความสุขอย่างเต็มที่ แต่แล้วเขากลับคิดผิด เขาเกือบเชื่อแล้วว่าจันทร์เจ้าเลิกยุ่งกับพวกเขา

“ดิน ขอจันทร์คุยด้วยหน่อยได้มั้ย” จันทร์เจ้ามาพบเขาที่ห้องในกลางดึกของคืนวันเสาร์ ซึ่งท่านเจ้าออกไปทำธุระกับลุงชันยังไม่กลับ

“หืม” เขารู้สึกแปลกใจกับคนที่ไม่คิดว่าจะสามารถพูดคุยกันได้ต่อในเมื่อเขาเคยใจร้ายไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือในยามที่อีกฝ่ายนั้นกำลังเดือดร้อน “มีเรื่องอะไรเหรอจันทร์”

“เรื่องสำคัญน่ะ” รอยยิ้มหวานของจันทร์เจ้าที่ส่งมาให้นั้นไม่น่าไว้ใจ “ไปคุยกันที่อื่นก็ได้ ถ้าดินกลัวว่าการอยู่ในห้องนอนกับจันทร์สองต่อสองจะทำให้พี่เจ้าเข้าใจผิด”

“ไม่เป็นไร ยืนคุยกันตรงนี้ก็ได้ ไม่นานหรอกใช่มั้ย”

“อื้ม ไม่นาน” จันทร์เจ้ายังคงส่งยิ้มหวาน แต่รอยยิ้มนี้ไม่ได้น่ามองเพราะมันแฝงไปด้วยเจตนาบางอย่างจนเขารู้สึกไม่สบายใจ “ดินกับพี่เจ้าน่ะ เป็นมากกว่าพี่น้องเหรอ”

ธรานิ่งอึ้งไปเพียงครู่กับคำถามของจันทร์เจ้า เขารีบกลบเกลื่อนสีหน้าแทบทันที “หมายความว่ายังไงเหรอจันทร์”

“เอ...ยังไงนะ” ลิ้นเล็กดุนดันกระพุ้งแก้มอย่างยียวน “เอาเป็นว่าจันทร์เห็นดินกับพี่เจ้าจูบกัน”

“แปลกเหรอ” ย้อนถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบแม้จะเริ่มตรวจจับสัญญาณอันตรายได้จากคนตรงหน้า

“ก็ถ้าเป็นจุ๊บริมฝีปากแบบปกติที่พี่น้องทำกันคงไม่แปลก ต่อให้จะโตกันขนาดนี้แล้วก็เถอะนะ แต่ที่ดูดลิ้น ไซ้คอกันน่ะแปลก” คราวนี้เจตนาของจันทร์เจ้าเผยออกมาอย่างชัดเจน ดวงตากลมโตนั้นมุ่งร้าย “ไม่มีพี่น้องที่ไหนทำกันหรอก ยิ่งเอากันน่ะ...ยิ่งไม่มี คุณพ่อรู้เรื่องนี้หรือเปล่านะดิน”

หัวใจของธราเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง มันเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ยิ่งเมื่อเห็นรอยยิ้มหวานของจันทร์เจ้าก็ยิ่งแน่ใจว่าความลับของความสัมพันธ์ระหว่างเขากับท่านเจ้านั้นมีคนล่วงรู้เข้าให้แล้ว

“หรือจันทร์ควรส่งคลิปกับรูปให้คุณพ่อดีนะ โอ๊ย!”

“ลบ!” ธราตะคอกเสียงดังลั่น ใบหน้าหล่อเหลาถมึงทึงจนจันทร์เจ้านึกหวั่นใจ มือแกร่งบีบที่ไหล่แคบทั้งสองข้าง บีบแน่นราวกับคีมเหล็กที่ต้องการให้แหลกละเอียด “กล้าดียังไงถึงทำเรื่องทุเรศแบบนี้!”

“อย่าทำกับจันทร์แบบนี้นะดิน!” จันทร์เจ้าแหวเสียงลั่น “ตัวเองทำเรื่องน่ารังเกียจแล้วยังมาว่าคนอื่นได้เหรอ!”

“น่ารังเกียจยังไงจันทร์ ผมกับเจ้าไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ” ธราเพิ่มแรงบีบ โทสะของเขาในตอนนี้ปะทุจนอยากจะฉีกร่างของจันทร์เจ้าออกเป็นชิ้นๆ “แต่ต่อให้ผมทำแล้วคุณเสือกอะไร!”

“โอ๊ยยย! จันทร์เจ็บนะดิน! ปล่อยแขนจันทร์เดี๋ยวนี้!”

“อย่ามายุ่งกับเรื่องของผมกับเจ้า!” เสียงตะคอกยังคงดังต่อเนื่อง มือแกร่งก็เพิ่มแรงบีบจนจันทร์เจ้าร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด “ถ้าอยู่กันดีๆ ไม่ได้คุณก็ไสหัวออกไปไกลๆ เป็นบ้าอะไรถึงได้ระรานกันแบบนี้วะ!”

“แต่นี่มันผิดนะดิน! จันทร์บอกคุณพ่อแล้วและคุณพ่อไม่ยอมแน่” เสียงหวานแย้งด้วยความสั่นเครือ ก่อนริมฝีปากจะพยายามคลี่ยิ้ม แววตาเผยความเย้ยหยัน “คิดว่าตัวเองดีเลิศแค่ไหนกันเชียว ท่านเจ้าเหรอ ยกตนกันมากขนาดนั้นทั้งที่ก็เป็นแค่คนวิปริตที่เอากับน้องชายตัวเอง ดินกำลังหลงผิดนะ ดินกำลังถูกหลอก คุณพ่อท่านรักดินมาก นั่นเพราะดินเป็นลูกแท้ๆ ของท่าน ดินอาจจะไม่รู้เรื่องนี้แต่จันทร์รู้ เพราะฉะนั้น...เลิกยุ่งกับเขาได้แล้ว เขาน่ะรู้ดีเลยว่าดินเป็นลูกแท้ๆ แต่กลับโกหกและไม่บอกอะไรดินเลย มีแต่จันทร์ที่พูดความจริงกับดิน”

จันทร์เจ้าน่ะเกินเยียวยาแล้ว ธราไม่รู้จะสรรหาคำใดมาต่อว่าเพราะคำพูดทุกคำล้วนแต่จุกแน่นอยู่ในอก คิดจะพูดคำไหนก็รู้สึกว่าไม่รุนแรงพอที่จะทำให้คนตรงหน้าเขาสะทกสะท้านได้ เขาจึงผลักร่างเล็กให้ออกห่างแล้วหมุนตัวเดินกลับเข้าห้อง ก่อนจะปิดประตูดังโครมตามหลัง

ธราเดินไปนั่งลงที่ปลายเตียง เขาสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วผ่อนออกช้าๆ อย่างพยายามควบคุมโทสะพลางกล่อมตัวเองให้เชื่อว่าถ้อยคำของจันทร์เจ้านั้นเป็นเพียงเรื่องไร้สาระที่อีกฝ่ายสร้างขึ้นมาเพื่อแก้แค้นที่เขาไม่เข้าไปช่วยเหลือในเหตุการณ์ครั้งนั้นและนี่คงเป็นการเอาคืนที่ทำได้ดีทีเดียว เพราะหลังจากที่ได้คุยกับจันทร์เจ้าแค่เพียงไม่กี่วัน เขาก็ได้รับสายตรงจากคุณพ่อที่โทรทางไกลมาจากต่างประเทศ

“น้องดิน พ่อขอได้มั้ยลูก” คุณพ่อพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่ไม่มีแววตำหนิเลยแม้แต่น้อย “พ่อไม่เคยคิดอยากบังคับหรือกะเกณฑ์ ไม่ว่าลูกจะรักใครพ่อก็ยินดีที่จะรักด้วย จะเพศไหนก็ไม่ใช่ปัญหา แต่กับท่านเจ้า กับคนคนนี้ไม่ได้จริงๆ”

คุณพ่อน่ะมักจะเรียกพี่ชายของธราด้วยสรรพนามที่ห่างเหินเสมอจนบางครั้งธราก็นึกแปลกใจในความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ ในความทรงจำของเขานั้นไม่ค่อยได้เห็นทั้งสองคนพูดคุยกัน หากมาคิดๆ ดูแล้วลุงชันคนสนิทก็พูดคุยกับท่านเจ้ามากกว่าคุณพ่อเสียด้วยซ้ำ ท่านเจ้ากับคุณพ่อไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกัน หากไม่มีเขาเป็นตัวเชื่อมก็อาจจะไม่เคยยิ้มและหัวเราะด้วยกันเลยก็ว่าได้

“คุณพ่อครับ น้องขอโทษ” เขาบอกด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด “น้องขอโทษที่เป็นคนไม่ดี แต่น้องรักเจ้า น้องก็ไม่รู้จะทำยังไง มันผิดมากใช่ไหมครับ”

“ครับ มันเป็นเรื่องที่ไม่ควร” คุณพ่อตอบกลับด้วยน้ำเสียงเครียดขรึมที่กรีดหัวใจของธรา “เพราะฉะนั้นพอเถอะนะน้องดิน พ่อรักน้องมากนะครับ ถ้าน้องรักพ่อก็ทำตามที่พ่อขอได้มั้ย”

แม้คุณพ่อที่แสนใจดีจะอ้อนวอนมากแค่ไหน แต่ธราก็ไม่ได้รับปาก เขาบอกขอโทษแล้ววางสาย คิดอย่างดื้อรั้นว่าต่อให้ไม่มีใครเห็นด้วยก็คงไม่เป็นไร ซ้ำยังไม่ยอมรับว่าตนเองกับคนรักมีสายเลือดเดียวกัน ต่อให้คุณพ่อยืนยันว่าตัวเขานั้นคือลูกชายแท้ๆ เขาก็ไม่ยอมเชื่อ เขาพอใจกับสถานะที่เป็นได้เพียงลูกชายบุญธรรม พอใจที่ตัวเขานั้นคือเด็กที่ถูกท่านเจ้าเลือกมาจากบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า ไม่ใช่คนที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของนายเหนือหัวของตระกูลเวชธาดาซึ่งมีเจ้า จักรพรรดิเป็นพี่ชายสายเลือดเดียวกัน

ทว่าธราก็ดิ้นรนอยู่ได้ไม่นาน ความพยายามที่จะยื้อความสัมพันธ์ต่อนั้นไร้ความหมายเมื่อท่านเจ้าของเขายอมจำนนอย่างง่ายดาย

“พี่ขอโทษครับ น้องดินเกลียดพี่เลยก็ได้ แต่เรา...กลับไปเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมเถอะนะ พี่คิดว่าพี่กับจี้คงเป็นไปได้มากกว่า พี่รู้ใจตัวเองช้าไป พี่คิดว่าความรู้สึกของพี่ที่มีต่อน้องดินมันคือความรัก แต่กลับไม่ใช่ พี่รักน้องดินเหมือนที่พี่ชายรักน้องชายเท่านั้น แต่กับจี้...พี่คิดว่ามันพิเศษ”

ตั้งแต่ที่ได้ยินถ้อยคำเหล่านั้นดังออกจากปากเจ้า จักรพรรดิ วังวนความเจ็บปวดของธราก็เริ่มต้นขึ้น

หลังจากนั้นความกลัวที่อยู่ในใจของธราก็กลายเป็นจริง แม้แต่วินก็ไม่สามารถพูดปลอบใจเขาได้ อนาคตที่เคยวาดฝันไว้ด้วยกันก็พังครืนลงในพริบตาเมื่อท่านเจ้าเลือกให้เขากลับไปเป็นแค่น้องชาย

.

.


ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
D. : นึกย้อนไปแล้วก็ตลก เลยเถิดกันขนาดนั้นแล้วยังขอให้กลับไปเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม

D. : ว่าแต่ตอนที่มึงกับเจ้าคบกัน มันดีหรือเปล่าวะ

Gee : ไม่ได้คบ กูน่ะเป็นแค่ความสบายใจของท่าน

Gee : ไม่ใช่คนรัก

D. : แต่ก็เป็นความสบายใจที่เจ้าขาดไปไม่ได้

Gee : ไม่หรอก ท่านก็แค่อยากให้มึงเกลียดท่าน

D. : แต่ก็ทำไม่สำเร็จ เพราะกูมันคนโง่

Gee : อืม มึงน่ะโง่จริงๆ

.

.

ทว่าต่อให้คำพูดและการกระทำของท่านเจ้าจะย้ำเตือนสถานะให้กับธรา ยัดเยียดตำแหน่งน้องชายคืนกลับให้ แต่คนเป็นน้องกลับไม่ให้ความร่วมมือ ดิน ธรานั้นดื้อรั้นเพราะการเลี้ยงดูของท่านเจ้า หากจะโทษก็ต้องโทษท่านเจ้าที่หล่อหลอมให้เขาเป็นแบบนั้น

“ไปสิ ถ้าออกไปหาจี้คืนนี้ ผมจะตายให้พี่ดู” ธราตะคอกเสียงดังลั่นหลังจากที่ยื้อแย่งกุญแจรถออกจากมือของพี่ชายที่พักหลังมานี้ไม่เคยอยู่ติดบ้านได้สำเร็จ

“น้องดิน” เสียงของท่านเจ้าเข้มจัด “พี่คิดว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ แล้วก็อย่าพูดเรื่องไม่น่าฟังขึ้นมาอีก ความตายไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาพูดเล่น”

“โอเค ผมขอโทษ แต่เราคุยกันรู้เรื่องแล้ว พี่อยากให้ผมเป็นน้องผมก็เป็นให้แล้วไงครับ” ธราลดเสียงลงแล้วจ้องมองใบหน้าคมคายของผู้เป็นพี่ “นี่ผมก็กำลังทำหน้าที่น้องชายที่เป็นห่วงพี่ชายอยู่นะ ผมจะให้พี่ชายขับรถออกไปดึกๆ ดื่นๆ ได้ยังไง อันตราย”

“พี่ไปได้ครับ น้องดินไม่ต้องห่วง”

“ไม่เอา” คนเป็นน้องส่งเสียงกระเง้ากระงอดพร้อมกับที่เข้าไปกอดร่างผอมเอาไว้ “พี่เป็นพี่ชายประสาอะไรถึงชอบทิ้งน้องให้นอนคนเดียว ผมนอนคนเดียวมาเกือบเดือนแล้ว พี่จำได้มั้ย”

“น้องดินโตแล้ว ดูแลตัวเองได้”

“ไม่ได้” ส่งเสียงอ้อนพลางซุกไซ้ใบหน้าลงกับซอกคอหอมกรุ่น ประทับริมฝีปากลงบนผิวเนื้ออ่อนพลางกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นแม้ว่าอีกฝ่ายจะพยายามขืนตัวออกห่าง “ผมคิดถึงพี่” เขากระซิบ “คิดถึงคนรักของผม คิดถึงตอนที่อยู่ในตัวของคุณ ได้ปลดปล่อยในตัวของคุณ แล้วอย่างนี้จะให้กลับไปเป็นพี่น้องกันเหรอครับ คุณพูดมาได้ยังไง”

“ดิน…”

“ผมบอกเลยว่าผมทำไม่ได้ ต่อให้จะอ้างเรื่องสายเลือด อ้างเรื่องที่ผมไม่ใช่คนที่พี่รักแต่ผมก็กลับไปเป็นพี่น้องกับพี่ไม่ได้แล้ว” น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยนั้นเต็มไปด้วยความรวดร้าว “พี่อย่าทิ้งผมได้มั้ย ผมยอมแล้ว ในความสัมพันธ์ของพี่กับคนที่พี่รัก ให้ผมอยู่ตรงไหนก็ได้ เป็นตัวอะไรก็ได้ ผมเป็นให้พี่ได้ทั้งนั้น แค่อยู่กับผมนะครับพี่ ผมขอร้อง...”

เสียงถอนหายใจของท่านเจ้าดังแผ่วเบาเมื่อธราพูดจบ ก่อนแขนเรียวจะยกขึ้นโอบรั้งลำตัวหนาเอาไว้ “พอแล้วครับที่รัก เจ้าก็ยอมแล้วเหมือนกัน” พูดจบก็บดจูบริมฝีปากหนาอย่างหนักหน่วง ลิ้นร้อนเข้าสำรวจรุกล้ำโพรงปากจนเรียกเสียงครางต่ำในลำคอ ธราหลับตาลงพลางตอบรับสัมผัสจากท่านเจ้าด้วยความเต็มใจ

.

.

D. : โง่ที่ยอมเป็นตัวอะไรก็ได้ในความสัมพันธ์ของมึงกับเจ้าใช่มั้ย

Gee : เปล่า โง่ที่ไม่รู้ว่าท่านกำลังปกป้องมึงต่างหาก

D. : ปกป้องกูเหรอวะ จากใคร?

Gee : นายหญิง

D. : อ่า...นั่นสินะ ถ้ามึงไม่พูดขึ้นมากูก็จำไม่ได้จริงๆ เพราะไม่ใช่เรื่องน่าจำ

.

.

ไม่ว่าใครก็คงมีช่วงเวลาที่ไม่น่าจดจำกันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่ธราที่หน้าชื่นอกตรมอยู่นานหลายเดือน ถึงจะปรับความเข้าใจกับท่านเจ้าของเขาแล้ว ถึงจะรั้งให้อยู่ข้างๆ กันต่อได้สำเร็จแต่ก็ไม่ได้มีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นเลย เพราะหลังจากนั้นกลับยิ่งแย่ลงจนไปต่อไม่ไหวและคราวนี้เป็นธราเองที่เป็นฝ่ายถอยออกมา

ในช่วงเวลานั้นคงเป็นช่วงเวลาเดียวที่ธราไม่นึกจำเพราะสาหัสสากันสำหรับเด็กผู้ชายในวัย 17 ปีที่ใช้ชีวิตอยู่ในรั้วโรงเรียนเสียเป็นส่วนใหญ่ เขาเครียดจนนอนไม่หลับ บางครั้งก็อาเจียนออกมา ข้าวปลาก็กินไม่ลง เพราะถูกเพื่อนที่โรงเรียนมองเหมือนตัวประหลาด ข่าวลือที่เขาเป็นคนรักกับพี่ชายร่วมสายเลือดนั้นแพร่กระจายไปทั่วโรงเรียน บางคนกล้าเดินเข้ามาถามเขาว่าร่วมรักกับพี่ชายตัวเองเป็นยังไง รู้สึกเหมือนอยู่ในนรกไหมหรือไม่รู้สึกอะไรเลยเพราะไม่มีสามัญสำนึก และบางคนก็ตะโกนใส่เขาว่าเป็นพวกวิปริตผิดเพศ แค่คบกับผู้ชายด้วยกันก็แย่พออยู่แล้วอีกทั้งยังมีเรื่องที่ผิดศีลธรรมเกิดขึ้น ธราทำได้เพียงรับฟังโดยไม่โต้แย้งเพราะข้อเท็จจริงก็เป็นไปตามนั้น

“อย่าไปสนใจ” บินบอก แม้ตอนนี้มันจะกำหมัดแน่นอยู่ข้างๆ ธราก็ตาม “พวกปากเก่งมันก็กล้าแค่ตอนที่ท่านไม่อยู่ มึงโอเคนะ ถ้าไม่โอเคยังไงก็กลับบ้านไปก่อน ให้ไอ้วินไปส่ง เดี๋ยวกูบอกไอ้จี้ให้ ตอนนี้มันอยู่กับท่าน”

“กูโอเค” ธรายืนกราน “ไม่เป็นไรหรอก พวกมันพูดก็ไม่ผิด”

“กูสงสัยนักว่าไอ้เหี้ยตัวไหนมันปล่อยข่าว” หากเป็นภาพในการ์ตูน ตอนนี้บินคงมีควันพวยพุ่งออกจากหูแล้ว ตาตี่ของบินมองขวางไปที่กลุ่มนักเลงประจำห้องที่กำลังตะโกนล้อธราอยู่ในขณะนี้

“จันทร์เจ้าปล่อยข่าว” วินพูดขึ้นพลางนั่งลงข้างๆ “กูเดินผ่านห้องน้ำหญิง ได้ยินพวกผู้หญิงมันจับกลุ่มพูดกันอยู่แถวนั้น”

“เล่นแม่งเลยมั้ย” บินถามอย่างหัวเสีย “เมื่อไหร่มันจะเลิกสาระแนสักทีวะ”

“จนกว่าจะได้กูเป็นผัวละมั้ง” ธราว่าติดตลก แต่แววตาของเขาไม่ได้ตลกไปด้วย “หรือกูควรสนองให้สักที”

“อย่าไอ้สัด” วินร้องห้ามพร้อมเตือน “ท่านได้ฆ่ามึงตายพอดี อยากให้ท่านติดคุกเรอะ”

“คงไม่หรอก” รอยยิ้มเยาะปรากฏบนดวงหน้าหล่อเหลา “เจ้าไม่ได้สนใจอะไรกูอยู่แล้ว”

“เฮ้...ไม่เอาน่า” บินบีบไหล่หนาเบาๆ “อย่าคิดมากมึง”

“อืม ไม่คิดมาก” ธราตอบกลับเบาๆ “ต่อให้จะเห็นใครจูบกัน กูก็ไม่คิดมากอยู่แล้วเพราะกูไม่มีสิทธิ์คิด ตอนนี้ตัวกูเป็นใครในความสัมพันธ์ของพวกเขากูยังไม่รู้เลย”

ไม่มีใครตอบกลับคำพูดของธรา ทั้งบินและวินพร้อมใจกันปิดปากเงียบ แต่ธรารู้ดีว่าทั้งสองคนนั้นลำบากใจและเขาก็ไม่ได้ต้องการให้ใครมาเห็นใจหรือทุกข์ใจไปกับเขาด้วย เพราะเขาเลือกเอง เขาเลือกที่จะตกนรกเองและไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้เขาก็พร้อมยอมรับแต่โดยดี ด้วยรู้แน่แก่ใจว่าความรักในครั้งนี้มันเป็นไปไม่ได้ตั้งแต่แรก ไม่มีใครเห็นด้วย ไม่มีใครยินดี มีแต่คนคิดจะกีดกันและแยกพวกเขาไปคนละทิศละทาง เขายิ่งแน่ใจในความคิดก็หลังจากได้พูดคุยกับคุณแม่ที่บินกลับมาอย่างกะทันหัน คุณแม่ที่ไม่เจอกันนานนับปีกลับมาพร้อมพายุลูกใหญ่ที่สามารถพัดพาพวกเขาให้ไกลห่างกัน ท่านเรียกหาพวกเขาพร้อมกันอีกทั้งยังพูดเรื่องความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง ท่านบอกว่าเป็นเรื่องไม่ควร บอกว่าเขากับท่านเจ้าเป็นพี่น้องกันแล้วจะรักกันได้อย่างไร แค่รักเพศเดียวกันก็ผิดมากแล้ว คุณแม่รับไม่ได้กับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แววตาที่เคยมีแต่ความอ่อนโยนให้กับธราก็แปรเปลี่ยนเป็นความเย็นชา

“จากนี้ไป...เราจะบอกรักกันไม่ได้อีกแล้วใช่ไหม” ธราถามขึ้นหลังจากที่อยู่กันตามลำพัง ท่านเจ้านั่งเงียบอยู่ที่ปลายเตียงอีกด้าน มือผอมประสานกันแน่นพลางก้มหน้าลง ซ่อนใบหน้าไม่ให้ธราได้เห็น

“อืม อย่าพูดอีกเลยครับ” เสียงตอบกลับนั้นสร้างความเจ็บปวดให้กับคนฟัง

“แล้วเราต้องทำเหมือนเกลียดกันจริงๆ เหรอ” เขารับรู้ว่าอาจจะเดินกันมาจนสุดทางแล้ว “ถ้าผมทำได้คุณแม่จะให้เจ้าอยู่กับผมหรือเปล่า”

“ดิน...พอเถอะครับ”

“แล้วถ้าผมทำไม่ได้เราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกแล้วใช่ไหม”

“ครับ เพราะงั้น...น้องดินต้องทำให้ได้นะ”

ธราปล่อยให้น้ำตารินไหลอาบแก้ม ปล่อยให้มันไหลลงมาอย่างเงียบเชียบโดยไม่หลุดรอดเสียงสะอื้น “แต่ผมไม่ใช่คนเก่งเลย ให้เกลียดเจ้าใครจะทำได้”

“เกลียดได้แล้วนะ ต้องเกลียดพี่แล้วน้องดิน”

“ใครจะเกลียดคนที่เป็นเจ้าชีวิตของตัวเองลง”

“พี่ขอโทษ”

“ตัวผมที่เกลียดเจ้าไม่มีอยู่บนโลกนี้หรอก”

“น้องดิน"

“เพราะผมรัก รักมากๆ”

“พี่ขอโทษนะครับ ขอโทษที่ทำให้เรากลายเป็นแบบนี้ ขอโทษจริงๆ เกลียดพี่เถอะนะ เกลียดพี่แล้วไปมีความสุขได้แล้วนะครับน้องดิน อย่าทรมานเพราะพี่อีกเลย”

ถ้ารู้ว่าจะรักกันไม่ได้ แล้วมาทำให้ผมรักทำไมตั้งแต่แรก ถ้ารู้ว่าสุดท้ายจะเจอกับทางตัน ถ้ารู้จะไม่ทลายทางนั้นแล้วไปด้วยกันต่อ แล้วทำไม...แล้วทำไมถึงพาผมเดินมาไกลจนเดินกลับทางเดิมไม่ไหว

.

.

Gee : ตอนนั้นไม่ได้มีแค่มึงที่แย่ ท่านก็เหมือนคนที่ตายไปแล้ว

D. : แต่ท่านของมึงเลือกที่จะปล่อยมือกูเอง

Gee : ไม่มีทางเลือกมากนัก มึงก็รู้

D. : ตอนนั้นไม่รู้ แต่ต่อให้รู้ก็คงเจ็บอยู่ดี

Gee : ขอโทษ

D. : ไม่หรอก มึงไม่ผิด ตอนนั้นดีแล้วที่มึงอยู่กับเจ้า

D. : ดีแล้วที่คนคนนั้นเป็นมึง เพราะมันทำให้กูยิ่งแน่ใจว่าต่อให้จะเกิดเรื่องแย่ๆ ขึ้นแค่ไหนหรือต่อให้เจ้าจะมีคนที่ดีพอจะยืนเคียงข้าง กูก็ยังรัก

D. : กูบอกตัวเองอยู่ทุกวันว่าให้เกลียด ฝืนมองภาพบาดตาของมึงกับเจ้าเพื่อให้เจ็บจนรักต่อไม่ได้ พยายามแทบตาย พยายามรักคนอื่น มองคนที่รักกูและให้ความเป็นไปได้กับกูมากที่สุด แต่สุดท้ายมันไม่เคยได้ผล

Gee : แล้วทำไมถึงไม่กลับมาคืนดีกับท่านในวันที่ท่านขอให้มึงกลับมา ทำไมถึงเลือกจันทร์เจ้า คนที่ทำลายความสุขของมึงแทนที่ท่านเจ้าที่สร้างความสุขให้มึงได้ ตอนนั้นน่ะท่านยอมมึงทุกอย่างแล้ว กูเข้าใจว่าท่านผิด ผิดที่เลือกจะปล่อยมือมึงตั้งแต่แรก แต่ทำไมวะดิน ทำไมถึงไม่กลับมา

D. : เพราะในตอนนั้นเจ้าสร้างความเจ็บปวดมากกว่าความสุขละมั้ง ถ้าเทียบความไม่ชอบใจที่มีต่อจันทร์กับความเจ็บที่ได้รับจากเจ้าแล้ว กูอยู่กับจันทร์ได้สบายเลยจี้ เพราะอยู่กับจันทร์กูไม่ต้องแคร์ความรู้สึก ไม่ต้องมานั่งคิดหน้าคิดหลัง ไม่ต้องคอยกังวลว่าเมื่อไหร่เขาจะทำให้กูเสียใจ ไม่ต้องคอยระแวงว่าจะมีใครเข้ามาในความสัมพันธ์อีก เพราะจันทร์ไม่เคยมีผลต่อความรู้สึกของกู เป็นได้แค่ความรำคาญใจและความไม่ชอบใจแต่ไม่ได้มีมากกว่านั้น กูก็เลยเลือกจะอยู่ตรงนั้นต่อ

Gee : งั้นกูคงได้คำตอบแล้วว่าตอนนั้นทำไมมึงถึงเลือกไปกับจันทร์เจ้า

D. : อืม แต่ก็ไม่ทั้งหมดหรอก

Gee : ยังไง

D. : เพราะตอนนั้นกูมีบางเรื่องที่จะพูดกับจันทร์ ถึงได้ตัดสินใจขึ้นรถไปด้วยกัน คิดเอาไว้ว่าถ้าเคลียร์เสร็จก็คงกลับไปหาเจ้า

Gee : เรื่องอะไร?

D. : จำไม่ได้เหมือนกัน

Gee : มึงจำได้ไอ้ดิน

D. : งั้นถ้ากูเล่าให้ฟัง มึงจะยอมให้กูเปลี่ยนเหตุมั้ย

D. : ถ้ารู้ว่าความรักของกูมันไม่ใช่เรื่องผิดอย่างที่มึงหรือใครๆ เคยเข้าใจ มึงจะช่วยฆ่ากูก่อนที่เจ้าจะมาถึงได้หรือเปล่าจี้

D. : ช่วยทำให้คนที่มึงคิดว่าเป็นเหมือนนรกสำหรับท่านเจ้าของมึงหายไปที

Gee : ได้

Gee : กูรับปาก

D. : โอเค งั้นกูจะเล่าให้ฟัง เรื่องในวันนั้นที่เหมือนฝันดีและฝันร้ายสำหรับกู



..............TBC.................



ขอบคุณทุกๆ กำลังใจและความคิดเห็นเลยค่ะ เราอ่านตลอดเลยนะคะ แม้จะไม่ได้ตอบก็ตาม สนใจไปคุยกันในแท็ก #เจ้าชีวิต ได้ค่า ฮี่ๆ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เกลียดจันทร์เจ้ามากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :fire: :angry2: :serius2:

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :pig4:

ออฟไลน์ angelninae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ยังมีเรื่องที่แย่กว่าตอนนี้อีกเหรอคะ  :katai1: :katai1: โอ้ยเศร้าาาาา

ออฟไลน์ Justccwpo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :z3: :z3: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
 :a5: :a5: :a5:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
อ่านตอนนี้ เหมือนต้องกลั้นหายใจตลอดเลย ลุ้นมาก 555

ออฟไลน์ i.am.wee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
มันจะมีอะไรที่พีคสุดกว่านี้อีกรึ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด